ความคิดเห็นที่ 1 จะกลับบ้านมั๊ยล่ะเนี่ย !!! ทริปนี้ทะลุพม่าเลยรึปล่าวจ๊า ปล.  ทำตัวเป็นลูกช้างแบตหมดอีกแระ   ตั้งทู้แล้วหนีไปเฉย ZZZZZZZ แก้ไขเมื่อ 19 ม.ค. 52 16:21:27 จากคุณ : แม่ซากานะ - [ 19 ม.ค. 52 16:20:08 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ความต่อจากตอนที่แล้ว ที่ผมและคณะได้ออกจากบ้านอีต่องด้วยความอาลัยอาวรณ์ (ว่าเข้านั่น.....อารมณ์กวีพาไปอีกแล้ว....)   ขอนำแผนผังการท่องเที่ยวปิล๊อก (จากตอนที่แล้ว) มาให้ดูกันอีก จะได้ง่ายต่อการค้นหา ว่าอยู่ที่ไหน และผมได้นำท่านไปถึงไหนแล้วครับ จากบ้านอีต่องมาถึงโค้งหักศอก ที่ผมจอดชมวิว  เลี้ยวโค้งมาไม่ถึงกิโลก็จะมีทางแยกเข้าฐานช้างศึก เป็นฐานที่มั่นของตชด. ที่ถือว่าอยู่สูงที่สุด จนบางคนเรียกว่าฐานลอยฟ้าเลย  ซึ่งทางแยกนี้จะสามารถไปดูอุโมงแร่ได้ด้วย ตามเส้นการเดินทางของผมที่แทนด้วยลูกศรสีน้ำเงินครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 19 ม.ค. 52 16:28:34 ]

ความคิดเห็นที่ 3 หวัดดีจ้า..เจ๊อิ๋ม ครับ  ถึงว่าซี เห็นพี่เงียบไปหลายวันเลย ตั้งแต่ ดึกๆคืนวันที่ 15 โน้น... ผมกลับบ้านไปก่อนนานแล้ว...แต่ก็มาต่อในวันรุ่งขึ้น และอีกวันถัดมาโน้น ครั้งนี้ ทำให้ผมได้ทักทายกับ คุณฉิน ที่คิดถึงมากว่า 1 ปี สมัยคราวไปขึ้นเขาช้างเผือกโน้นครับ แต่จนวันนี้ ก็ไม่ได้พบเธออีกเลย..... ในตอนที่แล้ว เจ๊ลองคลิ๊กกลับไปดูนะครับ ยาว....แสนยาวเลย จนทำเอาผมกลับบ้านไปนอนฝันถึง ปิล๊อก มาหลายคืนแล้ว ครับ http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E7423534/E7423534.html#23 ผมลืมถ่ายภาพตรงทางเข้าฐานช้างศึก (จำได้ว่าเป็นทางโค้งพอดี เลยไม่สะดวกถ่ายภาพ)  เมื่อเข้าไปตอนแรกๆ จะเป็นทางคอนกรีตเสริมเหล็กเรียบๆ แต่ลับตาหน่อยเดียวก็เจอทางลูกรังเจ้าเก่า ครับ  เข้าไปไม่ถึงกิโลก็ถึงลานกว้างๆ มีรั้วเตี้ยๆ คล้ายจุดชมวิวบนเขา เห็นมีรถเก๋งจอดอยู่  ก็รู้สึกงงๆ ครับ ว่าตอนนี้อยู่ที่ไหนหว๋า จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 19 ม.ค. 52 16:50:25 ]

ความคิดเห็นที่ 4 หันมองไปทางขวา จะสังเกตุเห็นป้ายบอกทางไปอุโมงแร่  แต่ก็ยังรีรออยู่พักหนึ่งว่า จะขึ้นไปดีไหม กลัวจะเสียเวลา เพราะต้องกลับกรุงเทพฯ วันนี้ด้วย สักครู่ก็มีกลุ่มนักท่องเที่ยวที่จอดรถเก๋งไว้ข้างล่าง เดินมา ผมเลยสอบถามว่าไกลไหม เขาบอกว่า ไม่ไกลแค่ สัก 100 เมตรเอง เป็นหลุม ลงไปดูอุโมงค์ซึ่งผมตอนนั้นก็งงๆ ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเป็นอย่างไร จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 19 ม.ค. 52 17:03:53 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ขับรถขึ้นมาได้เล็กน้อยก็ถึงจุดจอดรถ แต่ไม่เห็นป้ายใดๆ บอกว่า อุโมงค์เหมืองแร่นั้นไปที่ไหน  แต่สังเกตุเห็นเด็กๆ ชาวบ้านสองสามคน เดินเล่นอยู่บนเขา (วงกลมสีม่วง)  ก็คิดว่าพวกเขาเดินกันเล่นเท่านั้น เลยไม่ได้ไปสอบถาม จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 19 ม.ค. 52 17:15:02 ]

ความคิดเห็นที่ 6 หันไปมองด้านขวามือ ก็เจอเนินเขาสีดำทะมึน  บังเอิญผมได้เคยเห็นแร่วุลแฟรมสีดำในศูนย์อำนวยการท่องเที่ยวแล้ว เลยคิดว่า อุโมงค์แร่ น่าจะอยู่ในเขาลูกนี้แน่นอน เลยชวนเด็กๆ จะขึ้นไปหาอุโมงค์แร่กันดู จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 19 ม.ค. 52 17:38:12 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เดินไปขึ้นเนินเขาสีดำไม่นานนัก ก็ต้องถอยลงมา เพราะไม่เห็นมีอุโมงค์อะไรเลย  พอดีเห็นคนเดินลงมาจากเขาฝั่งรถจอด (คห.5) จึงไปสอบถาม เขาบอกว่า อุโมงค์อยู่ฝั่งนี้ ตรงเพิงโน้น  ทางขึ้นก็มีสองทางคือ ขึ้นไปตรงๆ ต้องปีน 4 ขากันเลย กับ เดินอ้อมไปขึ้นทางโน้น แล้วเลี้ยวกลับมา ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะใช้ทางนี้ครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 19 ม.ค. 52 18:39:49 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ผมเลือกเดินอ้อมขึ้นทางลาดดีกว่า เดินไปจนถึงทางหักศอกขึ้น ก็ได้เห็นเครื่องมือในการทำเหมืองแร่ตกค้างอยู่ ก็คือ หัวฉีดน้ำแรงดันสูงครับ ซึ่งเหมืองที่นี่ นิยมใช้แบบนี้กันเป็นส่วนใหญ่  น่าแปลกที่เขาปล่อยทิ้งไว้ ไม่มีการเก็บรักษา หรือทำป้ายบอกเชิงการศึกษา นะครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 19 ม.ค. 52 18:47:20 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ทางขึ้นไปขรุขระไม่เบา ผู้ที่ขึ้นมาโปรดเตรียมรองเท้าที่เหมาะสมนะครับ  อย่างส้นสูงนี้ ต้องคิดหนัก เพราะมีแต่พลิกกับพลิกครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 19 ม.ค. 52 18:50:07 ]

ความคิดเห็นที่ 10 มองเห็นเพิงแล้ว  อ้อ..งานนี้ผมขึ้นคนเดียวอีก เพราะคณะของผมเขาไม่ยอมขึ้นกัน คงกลัวเรื่องอุโมงค์ และยังห้ามเด็กๆ ตามมาอีกครับ ต้องปล่อยให้ผู้สื่อข่าวอย่างผมได้ขึ้นมา ผจญภัยตามลำพังเพียงคนเดียว   ก่อนออกจากรถ ผมไม่ลืมที่จะหยิบไฟฉายอันโตมาด้วย เพราะเข็ดแล้วเมื่อตอนไปถ้ำพระธาตุ(ตอน 1) จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 19 ม.ค. 52 18:54:34 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เดินไปยังไม่ถึงเพิงข้างหน้า พบอุโมงค์เล็กๆ ด้านซ้ายมือ  ดูไม่น่าเข้าเท่าใดนัก เพราะดูรกๆ อย่างไรชอบกล ไม่น่าใช่ อุโมงค์แร่ ที่เขาบอก เนื่องจาก คนแรกๆ เขาบอกว่าอยู่ลงไปในหลุมก่อน แต่ก็ลองเดินเข้าไปสัก 2 - 3 ก้าว เพื่อถ่ายภาพมาให้ดูครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 19 ม.ค. 52 19:00:13 ]

ความคิดเห็นที่ 12 กลับออกมา เดินต่อไปยังเพิง ไม่เห็นมีอุโมงค์อะไร เห็นแต่ หุบเขาข้างหน้า มีบ้านอีต่อง และ เขาช้างเผือกเท่านั้น จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 19 ม.ค. 52 19:28:12 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เดินเข้าไปที่ริมหน้าผา เพื่อจะได้เห็นบ้านอีต่องเต็มๆ และเทือกเขาช้างเผือก  ตรงนี้เป็นมุมที่ คนงานเหมืองที่นี่ได้เห็นมาก่อนครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 19 ม.ค. 52 19:47:51 ]

ความคิดเห็นที่ 14 แต่...หาอุโมงค์แร่ไม่เจอ เลยต้องเดินกลับมาหน่อย พยายามมองหาในทุกทิศทาง สังเกตุเห็นร่องหินด้านข้างเพิง ก็เลยสงสัย ลองเดินลงไปดู จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 19 ม.ค. 52 19:55:29 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เอ๊ะ..ตรงนี้ท่าทางจะมีรู...เอ๊ย..อุโมงค์ซ่อนอยู่นะนี่....... ต้องค่อยๆก้าวลงไป ขั้นบันไดเป็นดินไม่แข็งแรง  นี่ถ้าหากเป็นหน้าฝนละก็ สงสัยจะลื่นและพังทลายง่ายกว่านี้นะครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 19 ม.ค. 52 19:59:45 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ภาพและข้อมูลเยี่ยมมากครับ ผมเคยไป น้ำตกจ๊อกกระดิ่น เหมืองอีต่อง ปิล๊อค ฐานช้างเผือก หลายครามาแล้ว ยังไม่รู้จักอุโมงค์แร่เลยครับ.....มีประโยชน์มาก ๆ ...ขอบคุณมากครับ ว่าง ๆ พาเด็กไปดูปูราชินี กับสระมรกต ทางเจ้าหอดูไฟ ก่อนถึงนิคมสหกรณ์ห้วยเขย่งบ้างครับ จากคุณ : Supermop - [ 19 ม.ค. 52 20:00:48 ]

ความคิดเห็นที่ 17 พบแล้วครับ อุโมงค์แร่  อยู่ใต้ทางเดินนี่เอง  แหม..ไม่มีป้ายบอกเลย นี่ถ้ามาคนเดียวก็มีอันต้องชวด อดดูแน่นอนครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 19 ม.ค. 52 20:03:52 ]

ความคิดเห็นที่ 18 สวัสดีคุณ Supermop ครับ ขอบคุณที่ชมครับ สระมรกตใช่ที่เดียวกับ บึงน้ำทิพย์(ตามเอกสารแนะนำของ อุทยานฯทองผาภูมิ) หรือเปล่าครับ  และนิคมสหกรณ์ห้วยเขย่ง ผมไม่รู้จักครับ  ช่วยแนะนำหน่อยก็เป็นการดีครับ วันหลังจะได้แวะไปเที่ยว มาทำรีวิวให้ดูกันครับ ตอนนี้ ผมจะเข้าไปในอุโมงแร่แล้วนะครับ.....บรื้อย์....เข้าไปคนเดียวด้วย กลัวไฟฉายถ่านหมดจังเลย... จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 19 ม.ค. 52 20:16:13 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ตอนนี้ยังเข้าไปไม่ลึก หันกล้องมาถ่ายภาพปากอุโมงค์ดูบ้าง   ถ้าไฟฉายในมือเกิดดับ ผมยังพอเห็นทางออกไปได้  ผมเข้าได้แค่นี้ ก็จะกลับออกไปแล้ว  พอดีมีคู่หนุ่มสาวนักท่องเที่ยว เข้ามาพอดี ผมเลยเดินกลับเข้าไปได้ เพราะมีเพื่อนเข้าไปแล้วครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 19 ม.ค. 52 20:23:08 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เดินเข้าไปจนไม่เห็นปากอุโมงค์ ก็พบโครงไม้กั้นทาง และไม้ข้างในถูกตั้งในลักษณะค้ำเพดานไม่ให้ถล่มลงมา...อูย..ความกลัวอุโมงค์ถล่มก็เข้ามาอยู่ในหัวอีก เลยหยุดแค่นั้นครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 19 ม.ค. 52 20:34:23 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ผิวเพดานอุโมงค์ มีลักษณะเป็นหินสีแดงแข็งครับ พอไว้ใจได้ว่าไม่ถล่มง่ายๆ ครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 19 ม.ค. 52 20:36:23 ]

ความคิดเห็นที่ 22 หันกลับมามองทางเข้า ตรงจุดนี้ไม่เห็นปากอุโมงค์นะครับ  ที่จริงจะเห็นแสงเป็นจุดเล็กๆ เลี้ยวเบนมาตามแนวโค้งของอุโมงค์ แต่กล้องไม่สามารถถ่ายแสงนั้นได้  พอใช้แฟลชก็มองไม่เห็นอะไรเลย...  งานนี้ คนที่กลัวความมืด และความแคบในที่จำกัด ไม่สามารถเข้ามาได้นะครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 19 ม.ค. 52 20:40:00 ]

ความคิดเห็นที่ 23 เอ้า...ลองเอาภาพที่ไม่ใช่แฟลชให้ดูบ้าง จะได้เห็นของจริงกันหน่อยว่าเป็นอย่างไรเวลาไฟดับ!  (ที่ยังพอเห็นพื้นอุโมงค์บ้าง นั่นเป็นเพราะไฟฉายส่องในทิศทางตรงกันข้ามครับ) จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 19 ม.ค. 52 20:44:39 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ผมขอให้นักท่องเที่ยวคู่นั้นถ่ายภาพให้ผมบ้าง จะได้มีรูปในนี้เป็นหลักฐานว่าเคยมาแล้ว....และเขาก็ได้รูปคู่กลับไปด้วยครับ นับเป็นโชคดีของเขาด้วย ที่เขามีเพียงไฟฉายอันจิ๋ว แต่ผมมีโคมไฟนีออนอันโตครับ  เพราะว่าเข็ดมาจากถ้ำพระธาตุแล้วที่ดันเอาไฟฉายอันเล็กไป เลยถ่ายภาพไม่ได้ดี ครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 19 ม.ค. 52 20:47:50 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ตอนนี้ออกมาจากอุโมงค์แล้วนะครับ...โล่งอก....เฮ้อ   ทางเดินลงไป จะเห็นลานจอดรถตอนแรก ที่ผมเข้ามาในคห. 3, 4 ด้วยครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 19 ม.ค. 52 20:54:37 ]

ความคิดเห็นที่ 26 นี่แหละครับ ลานจอดรถข้างบน ที่รถเก๋งโหลดเตี้ยไม่ควรขึ้นมา ครับ  ผมรู้สึกชอบใจเนินเขาด้านขวามือสีดำ  ถ้ามีเวลา น่าจะลองเดินขึ้นไปถ่ายภาพลงมาเล่นบ้างครับ คล้ายกับแกรนแคนย่อนขนาดจิ๋วเลยครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 19 ม.ค. 52 20:59:01 ]

ความคิดเห็นที่ 27 จะเห็นได้ว่า แร่ยังมีเหลืออยู่บริเวณนี้อีกมาก (เป็นภูเขาเลากาเลย..) แต่ไม่คุ้มค่าที่จะทำเหมืองต่อไป เพราะราคาตกมาก (มีข้อมูลมาว่า ในปี พ.ศ.2527 ประเทศจีนกับรัสเซียได้เทขายแร่ดีบุกของตน อย่างมากจนทำให้ราคาในโลกตกต่ำ) กิจการเหมืองแร่ทั้งหมดในแถบนี้เลยหยุดดำเนินการในปี 2529 ครับ   น่ารันทดใจนะครับ เอาล่ะ ตอนนี้เราจะมุ่งหน้าไปสู่ฐานช้างศึก ฐานลอยฟ้า ของตชด. ครับ จากรูปจะเห็นเส้นทางคดเคี้ยวเบื้องหน้าโน้น ครับ เราจะเดินทางกันต่อละครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 19 ม.ค. 52 21:16:52 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ตอนนี้ผมขับขึ้นมาสูงพอควร เกือบจะถึงฐานช้างศึกแล้ว จึงมองเห็นลานจอดรถข้างล่างตรงแยกไปอุโมงค์แร่ ได้ชัดเจนครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 19 ม.ค. 52 21:24:40 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ด้านซ้ายมือของรูปข้างบนก็คือ เบื้องหน้า...ฐานช้างศึก ที่นับว่าเป็นเนินสูงที่สุดในแถบนี้ครับ (เป็นรองแค่ เขาช้างเผือกเท่านั้น) แก้ไขเมื่อ 19 ม.ค. 52 21:31:02 จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 19 ม.ค. 52 21:29:17 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ทางตรงนี้ใกล้จะถึงแล้ว ซ้าวเหวขวาเหว ทางเล็กรถสวนไม่ได้ด้วย ยังเสียวๆ ว่าถ้ามีรถวิ่งลงมาจะทำอย่างไรกัน? จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 19 ม.ค. 52 21:34:48 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ถึงแล้ว ฐานช้างศึก.....  นี่ถ้ามากลางคืนจะเห็นทางหรือไม่น๊า... จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 19 ม.ค. 52 21:36:55 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ผมขอนำภาพมาต่อกัน จะได้เห็นความกว้างของลานจอดรถบนโน้นครับ  ที่จริงไม่ได้มากนะครับ เพราะที่เห็นโล่งๆ ตรงหน้านั้นเป็นทางลาดลงไปครับ ปล่อยว่างไว้กลับรถครับ  แค่ที่เห็นก็ถือว่าเต็มแล้วนะครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 19 ม.ค. 52 21:42:25 ]

ความคิดเห็นที่ 33 โอ..น่าเสียดายกำลังชมวิวเพลินๆ เลย ดึกแล้วขอกลับบ้านก่อนนะครับ (เอาไว้พรุ่งนี้มาต่อกันที่กระทู้นี้แหละ) ณ. ตรงจุดนี้ เราจะมองเห็นบ้านอีต่อง และทุกอย่างครบเลย ถือเป็นชัยภูมิดีที่สุดเหมือนหอคอยประจำหมู่บ้านเลย มีเหตุการณ์อะไรก็เห็นหมด จะว่าไปแล้วก็เหมือนกับการเล่นเกมส์วางแผนบนคอมพิวเตอร์เลยครับ เป็นมุมมองของนก (Bird Eye View) ครับ แก้ไขเมื่อ 19 ม.ค. 52 22:13:56 จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 19 ม.ค. 52 22:13:09 ]

ความคิดเห็นที่ 34 วันนี้มาต่อกันนะครับ ทีแรกผมมานั่งโพสตั้งแต่เช้าแล้ว แต่กว่าจะทำรูปภาพบ้านอีต่องที่สมบูรณ์ได้ก็นาน  ซึ่งภาพนี้เป็นภาพที่เห็นเมื่อขึ้นไปมองบนฐานช้างศึกลอยฟ้าครับ  เพียงแต่ ไม่มีตัวอักษรชี้บอกว่า ที่นั่นคืออะไร ที่นี่คืออะไรครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 20 ม.ค. 52 11:03:23 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ลองซูมเข้าไปดูบริเวณเนินเสาธงไทย-พม่า ที่ผมไปเมื่อวานนี้ดู จะเห็นเสาธงชัดเจน  ตอนขึ้นไปบนนั้นยังคิดว่า อยู่สูงมากแล้ว แต่ตอนนี้เป็นเนินเตี้ยนิดเดียวเอง....   บังเอิญผมไม่ได้ไปถึงด่านชายแดนสุดถนน ซึ่งเหลืออีกนิดเดียว เลยไม่กล้วแสดงตำแหน่งด่านมาให้ดูครับ  กลัวผิด จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 20 ม.ค. 52 11:16:30 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ซูมมาดูตรงวัดเหมืองปิล๊อกดู จะเห็นส่วนประกอบของวัดครบ   น่าสนุกครับ ขึ้นไปข้างบนแล้วส่องกล้องลงมามองข้างล่าง เห็นเหมือนเกมส์คอมพิวเตอร์ที่เคยเล่นครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 20 ม.ค. 52 11:30:19 ]

ความคิดเห็นที่ 37 หันมาดูทางตลาดบ้านอีต่องบ้าง จะสังเกตุเห็นหลังคาสังกะสีเป็นแนวยาวตามถนน ทำให้ง่ายต่อการสังเกตุ  ดูๆ ไปก็จะเห็นบ้านต้นไม้ในตลาดชัดเจน แต่น่าเสียดายที่มองไม่เห็นถนนรถวิ่งเลย เพราะหน้าผาบังอยู่ด้านล่างครับ  แค่นี้ ก็สามารถมาเที่ยวบ้านอีต่องได้อย่างไม่หลงแล้ว... จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 20 ม.ค. 52 11:44:39 ]

ความคิดเห็นที่ 38 นี่แหละครับ  ความหมายของคำว่า ครบถ้วนกระบวนความ.....ฮิฮิ  คงสงสัยว่ามีแป๊ะยิ้มไปยืนทำอะไรตรงหน้าผา.....   ลมมันแรง แดดมันจ้า เลยออกมาเป็นแบบนี้  ยิ่งจากตรงนี้แล้วไป น้ำตกจ๊อกกระดิ่น เลยทำให้หน้าไหม้ ลอกมาหลายวัน จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 20 ม.ค. 52 11:49:27 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ที่เราไปยืนๆ แอ๊คท่าถ่ายภาพกันน่ะ ไม่ใช่อะไรเลยนะ คือหลังคาบ้านพักของจนท.เขา......  แต่บังเอิญไม่มีใครพักอยู่เท่านั้นแหละ  สำหรับหลังที่พัก จนท.เขาจะหาอะไรมากั้น มิให้เราไปยืนบนหัวเขา  เขาอาจถือกรณีมีผู้หญิงไปยืน แล้วเกิดเขามีพระเก็บไว้ในห้อง ครับ อ้อ..แล้วโครงเหล็กบนหลังคานั้น คืออะไร?  ผมสอบถามจนท. เขาบอกว่า คือป้ายประชาสัมพันธ์ แต่โดนลมพัดพัง เลยต้องเอาออกครับเพราะบนนั้นลมแรงมาก  ยิ่งเป็นลมหนาวด้วย รู้สึกเห็นใจจนท.ครับ เพราะขนาดผมพักคืนนั้นอยู่ข้างล่าง ที่ สภต.ปิล๊อก ยังนอนหนาวทั้งคืนเลย จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 20 ม.ค. 52 12:00:45 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ด้านหลังของฐาน จะมีห้องสุขาไว้คอยบริการนักท่องเที่ยวฟรีครับ  ใครได้มาเข้าห้องน้ำที่นี่ ถือว่าได้เปรียบ เพราะอยู่สูงที่สุด ย่อมปลดปล่อยได้ดีที่สุด อากาศก็ปลอดโปร่งโล่งสบาย   สะอาดด้วยครับ  (ใครอย่าไปนึกว่า ขึ้นมาบนเขาสูงๆ แถมเป็นที่ราชการแบบนี้ จะมีแต่ห้องน้ำแบบในป่า เดี๋ยวนี้เขาพัฒนาแล้วครับ  ง่ายๆ ขนาดถนนยังเป็นคอนกรีตเรียบแปร้แล้ว ขนาดกรุงเทพฯเรา ยังมีถนนหลุมๆ บ่อๆ อุดมไปด้วยฝาท่อระบายน้ำ เสียก็เยอะ  ถ้านึกไม่ออกว่าจะหาได้ที่ไหน ง่ายๆ ถนนเอกชัย ตั้งแต่ โค้งคอกม้าเขาไปละ  นับฝาท่อสูงๆ ต่ำๆ ได้หลายสิบเลย ที่อยู่กลางถนน..น่าอายนะครับ) จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 20 ม.ค. 52 12:09:11 ]

ความคิดเห็นที่ 41 เดินมาสุขานี้ ก็เลยได้ของแถมคือ ได้เห็นวิวด้านหลัง ที่มองลงไปข้างล่างจะเป็นลานจอดรถ ตรงอุโมงค์แร่ ที่ผมเพิ่งผ่านมานั่นเอง และก็ได้เห็นเด็กๆ กลุ่มเมื่อสักครู่ตรงอุโมงแร่ เขาเดินขึ้นมาข้างบนนี้ ด้วยบันไดปูนเลาะริมผา ก้มมองลงไปข้างล่างจะเห็นรถยนต์จอดอยู่ 2 คันครับ   สูงชันยังกับบันไดในภาพยนต์เรื่องลอร์ดออฟเดอะริงภาค 3 (ที่โฟรโด้และแซมต้องเดินขึ้นไปในดินแดนมรณะด้านหลัง) และรอยเส้นทางเดินบนเขาสีดำ ก็ดูเหมือนแผนที่ย่อของการขึ้นภูเขาใหญ่ๆ ด้วย จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 20 ม.ค. 52 13:39:50 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ตอนนี้ผมลงมาแล้วครับ  ถนนเลาะริมเขา แคบ ชนิดว่าถ้ามีรถสวนก็ต้องเสียวกัน โดยเฉพาะรถที่อยู่ฝั่งเหวครับ โปรดสังเกตุที่กระจกหน้ารถ ทั้งฝุ่นและแดดเลยครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 20 ม.ค. 52 13:52:24 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ออกมาถึงถนนใหญ่ก็เลี้ยวขวามาทาง อช.ทองผาภูมิ ซึ่งไม่ไกลนัก ก็ผ่าน สภต.ปิล๊อก ที่ผมไปพักเมื่อคืนนี้  และใกล้กันก็คือทางเข้าเหมืองสมศักดิ์ ที่ปัจจุบันเปิดให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว โฮมเสตย์ อันมี คุณป้าเกล็น ดูแลอยู่ ป้ายติดกันก็คือ ปิล๊อกฮิลล์ และอื่นๆ   บังเอิญภาพนี้ผมถ่ายตอนขาเข้ามาเมื่อวาน  เส้นทางข้างหน้าจึงคือ บ.ปิล๊อก   ถ้าหากกำลังเดินทางเข้ามาที่ ปิล๊อกถึง ทางแยกนี้จะอยู่ด้านซ้ายมือพอดีครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 20 ม.ค. 52 14:05:27 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ผมไม่ได้แวะเหมืองสมศักดิ์ เพราะไม่เคยรู้จักมาก่อน และไม่มีเวลาด้วย จึงผ่านไป เขาว่าทางเข้าก็ลำบากไม่แพ้น้ำตกจ๊อกกระดิ่น เลย     เอาล่ะ ตอนนี้ ผมก็มาถึง ปากทางเข้าน้ำตกจ๊อกกระดิ่น  พบรถเก๋งจอดอยู่ ตรงลานจอดด้วย นั่นเป็นเพราะเขามีป้ายบอกไว้ว่า รถเก๋งโหลดเตี้ยไม่ให้เข้าไป เกรงจะได้รับความเสียหาย เนื่องจากเส้นทางขรุขระ ไม่น้อย  ซึ่งพวกเขาก็คงโบกรถกระบะเข้าไป ครับ ภาพนี้ก็เช่นกัน ผมถ่ายไว้เมื่อเย็นวาน ครับ ทางแยกเข้าเลยอยู่ด้านขวา เพราะกำลังมุ่งหน้าไปยัง บ.ปิล๊อก ครับ แก้ไขเมื่อ 20 ม.ค. 52 14:22:19 จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 20 ม.ค. 52 14:13:40 ]

ความคิดเห็นที่ 45 เข้ามาแล้วครับ ช่วงต้นๆ ก็เป็นลูกรังฝุ่นเลยครับ ทางแคบมาก รถสวนกันยาก ผมเองยังเกือบแย่ ดันไปเจอรถสวนกันตรงหน้าผาพอดี ต้องถอยหนีกันอย่างทุลักทุเลครับ ปกติจะมีรถเข้ามาน้อย แต่วันนั้นเป็นช่วงหยุดปีใหม่ รถเลยเยอะ สวนกับผมไปมากกว่า 10 คันครับ มีลุ้นกันตลอดว่าจะเจอไหม โค้งนี้.... จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 20 ม.ค. 52 14:25:03 ]

ความคิดเห็นที่ 46 บางโค้งแถมด้วยถนนขาดหายไปครึ่ง  ทำให้รถไม่ค่อยกล้าวิ่งใกล้กับริมผานัก กลัวจะหล่นลงไปพร้อมถนนครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 20 ม.ค. 52 14:32:03 ]

ความคิดเห็นที่ 47 โค้งหน้าแคบมาก ถ้าหากมีรถสวนมา ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร บางทีต้องกดแตรให้สัญญาณไว้ล่วงหน้าครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 20 ม.ค. 52 14:34:26 ]

ความคิดเห็นที่ 48 เนื่องจากตอนเข้าไป มีรถสวนทางมาก และรถตามมาใกล้ๆ เลยทำให้ผมไม่สามารถถ่ายภาพได้  แต่ตอนขากลับออกมา ผมเกือบจะเป็นคันสุดท้าย เลยทำให้ ผมจอดถ่ายภาพได้ตลอด  ดังนั้นมุมมองของภาพ ถ้าหากขับเข้าไป อาจกลับด้านบ้าง แต่สภาพทาง และลำดับภาพผมได้ เรียงไว้ตามการเข้าไปในน้ำตกครับ ว่าต้องเจอสภาพดังนี้ตามลำดับครับ จากรูป เริ่มพ้นเนินเขา เป็นที่ราบลุ่มแล้วครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 20 ม.ค. 52 14:38:38 ]

ความคิดเห็นที่ 49 มีแอ่งน้ำให้ชื่นใจด้วย นานแล้วครับที่ไม่ได้เจอ ตั้งแต่มาบ้านปิล๊อกนี้ เจอแต่ความหนาวเย็น แห้งแล้ง ไม่ได้เจออะไรที่ชุ่มชื้น เดี๋ยวพวกเราจะเจอกันแล้ว น้ำตกจ๊อกกระดิ่น กำลังรออยู่ข้างหน้าครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 20 ม.ค. 52 14:52:06 ]

ความคิดเห็นที่ 50 เลยจากแอ่งน้ำนี้ไป ยังต้องเจอกับเส้นทางทุรกันดารกันอีก หลายขยัก รวมใช้เวลาประมาณ ครึ่งชั่วโมงครับ ส่วนระยะทางก็ประมาณ 3 กม. เท่านั้น จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 20 ม.ค. 52 14:59:30 ]

ความคิดเห็นที่ 51 มาถึงแล้ว เป็นลานกว้าง มีห้องสุขา-อาบน้ำอยู่ด้านซ้ายมือ ตรงไปก็เป็นบันไดทางเข้าน้ำตกครับ  มีจนท.คอยดูแลด้วยครับ  แต่ไม่มี ร้านค้าใดๆ เลย ทำให้ก่อนเข้าไป ต้องเตรียมเข้าไป แต่ก็มิให้นำอาหารเข้าไปบริเวณน้ำตกนะครับ   ส่วนน้ำตกอยู่ข้างในครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 20 ม.ค. 52 15:17:19 ]

ความคิดเห็นที่ 52 นี่เป็นห้องน้ำ ครับ รูปบนเป็นสุขาที่อยู่ตรงทางเข้าน้ำตก ครับ  และรูปล่างเป็นสุขาและห้องอาบน้ำตรงลานจอดรถ  ครับ มีน้ำพร้อมสะดวกในการมากางเต้นท์ ครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 20 ม.ค. 52 15:29:33 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ส่วนลานกางเต้นท์ ก็กางได้ตรงลานจอดรถเลย  ผมเข้าไปอ่านกระทู้สมัยก่อน เขาบอกว่า  เมื่อ 2 - 3 ปีที่แล้ว นักท่องเที่ยวสามารถขับรถเข้าไปใกล้น้ำตกได้มากกว่านี้ เรียกว่า ต้องมีการลุยน้ำเข้าไปกางเต้นท์กันเลย  แต่ในปัจจุบัน การเอารถเข้าไปจะทำให้ เส้นทางน้ำตกเสียหายได้  อุทยานจึงปรับพื้นที่ ทำลานกางเต้นท์ และลานจอดรถไว้ข้างนอก ให้เดินเท้าเข้าไปชมน้ำตกแทนครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 20 ม.ค. 52 15:36:00 ]

ความคิดเห็นที่ 54 หันกลับไปดูทางเข้ามา จะเห็นว่า มีช่องอยู่เล็กนิดเดียว ถ้ามืดค่ำไปแล้ว ก็อาจหาทางออกไม่เจอเหมือนกัน จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 20 ม.ค. 52 15:40:07 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ตอนนี้ ด้านหน้าของผมก็คือบันได ที่จะต้องก้าวขึ้นไปยังน้ำตกจ๊อกกระดิ่นครับ  มีการตกแต่งต้นไม้สวยๆ ตรงนี้ เหมือนดึงดูดให้คนเข้ามาทางนี้ มาถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกด้วยครับ ลักษณะทางเดินเข้าไปจะโค้งๆ ตีวง แล้วเลียบเนินเขา คู่ขนานไปกับธารน้ำไหลของน้ำตกครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 20 ม.ค. 52 16:00:28 ]

ความคิดเห็นที่ 56 เดินเข้าไปแล้วนะครับ เงี๊ยบ..เงียบ ไม่มีเสียงน้ำตกแต่อย่างใด เหมือนบอกเป็นในๆ ว่า ต้องอยู่ไกลแน่นอน..... เส้นทางเดินช่วงต้นๆ เป็นดังในรูปนะครับ  ไปแบบไม่มีป้ายบอก อาศัยเดินตามทางอย่างเดียว จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 20 ม.ค. 52 17:44:11 ]

ความคิดเห็นที่ 57 พ้นพงหญ้ารกๆ ก็เริ่มเห็นธารน้ำไหลแล้วครับ  น้ำใสแต่ดินแดง ไม่น่าเล่นเลย   ตรงนี้เส้นทางเป็นร่องกว้างๆ  เขาว่าแต่ก่อนรถพวกขับสี่ล้อ เคยลุยเข้ามาถึงตรงนี้ แต่ตอนนี้ ใครจะลงไปเดินข้างล่างเพื่อเก็บบรรยากาศก็ได้ แต่ทางเดินแห้งๆ อยู่ข้างบนตลิ่งครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 20 ม.ค. 52 17:50:01 ]

ความคิดเห็นที่ 58 ยิ่งเดินทางเดินก็ยิ่งเล็กลง สงสัยต้องลงไปเดินข้างล่างกันแล้วกระมัง นี่ถ้าหากเป็นหน้าน้ำ (ฤดูฝน) ละก็ สงสัยน้ำจะไหลข้างล่างเต็มเลยนะนี่ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 20 ม.ค. 52 17:54:26 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ลงมาย่ำหินข้างล่างกันแล้ว หินกลิ้งไปกลิ้งมา เดินลำบาก โดยเฉพาะกับรองเท้าแตะของผม นึกแล้วโมโห น่าจะเอารองเท้าวิ่งมานะนี่ จะได้เดินสบายๆ  ตรงนี้ได้ยินเสียงน้ำตกแล้ว...ใกล้เข้ามาแล้ว จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 20 ม.ค. 52 18:01:37 ]

ความคิดเห็นที่ 60 พบแล้ว น้ำตกจ๊อกกระดิ่น โอย..ดั้นด้นกันเข้ามา กว่าจะถึง..... รูปล่างนี้เป็นภาพระยะไกล จะเห็นน้ำตกอยู่ในหุบเขาชัดเจนครับ ดูๆ ไปแล้วรู้สึกว่าน้ำตก คล้ายกับเกสรดอกไม้ที่อยู่ในการห่อหุ้มของกลีบดอกด้วยนะนี่  คือตั้งแต่ป้ายชื่อน้ำตกเข้าไป ต้นไม้ทั้งสองด้านมีลักษณะเป็นเสมือนกรอบประตูมาบังน้ำตกไว้ ถ้าหากไม่เดินมาให้ตรงกลาง ก็จะไม่เห็นน้ำตก จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 20 ม.ค. 52 18:12:21 ]

ความคิดเห็นที่ 61 ถ่ายกับป้าย ที่มุมยอดนิยมหน่อย  แหม...บังเอิญแสงแดดส่องเข้ามาทางกล้องพอดีเลย เรียกว่าย้อนแสง.... ก็ให้ความรู้สึกอีกแบบหนึ่งนะ  (ถ้าจะให้ดีต้องเข้ามาช่วงเช้า เพราะแดดจะส่องเข้าน้ำตกแทน) จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 20 ม.ค. 52 18:21:34 ]

ความคิดเห็นที่ 62 ตอนนี้ คุณพ่อและแม่แฟนผม ท่านกำลังง่วนอยู่กับการเดินข้ามลำธาร คุณพ่อไม่ยอมข้ามไป กลัวรองเท้าเปียกบ้าง ถอดรองเท้าเดินก็เจ็บเท้า (หินจะแทงเท้าทำให้เจ็บมากๆ ผมโดนมาแล้วแทบร้องไห้เลย) น้ำก็เย็นมาก  แต่ในที่สุดท่านก็เดินข้ามไปที่หน้าน้ำตกครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 20 ม.ค. 52 18:26:57 ]

ความคิดเห็นที่ 63 คุณแม่ท่านก้าวอาดๆ ได้รวดเร็วมาก ในสภาพเท้าเปล่า แต่ปัญหาของผมคือ ผมต้องถือรองเท้าไปพร้อมๆ กับกล้องถ่ายรูป ทำให้ลำบากมาก เพราะกลัวรองเท้าเปียกแล้วขาด ครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 20 ม.ค. 52 18:30:09 ]

ความคิดเห็นที่ 64 แต่อุเหม่...น้ำช่างใสเหลือเกิน จนดูเหมือนทะเลอันดามันเลย ขาดแต่สีฟ้าเท่านั้น แต่ถึงอย่างไรผมก็ชอบน้ำแบบนี้มากกว่า เพราะไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำเค็มที่ต้องคอยหาที่ล้างตลอดเวลา จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 20 ม.ค. 52 18:34:10 ]

ความคิดเห็นที่ 65 แหงนหน้าขึ้นไปหน่อย จะได้เห็นน้ำตกด้วย แต่แสงแดดซี ช่างส่องตาจริงๆ เป็นวงสีขาวเลย (เสียวกล้องพังเหมือนกันนะ) จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 20 ม.ค. 52 18:38:30 ]

ความคิดเห็นที่ 66 ตรงนี้เป็นรูปแรกที่ผมเห็นน้ำตกชัดๆ โดยไหลผ่านซอกหินออกมา ดูเหมือนว่ามียักษ์สองตนยื่นหน้าเข้าหากัน แล้วมีน้ำไหลออกมาจากอกครับ เอ้า..ช่วยจินตนาการกันหน่อย... จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 20 ม.ค. 52 18:48:29 ]

ความคิดเห็นที่ 67 รูปนี้ลูกผมได้ขึ้นไปแอ๊คท่าตกใจให้ดูกันโดยมีน้ำตกเป็นฉากหลัง  สงสัยโตขึ้นคงจะต้องให้เป็นนักแสดงหรือนายแบบ เพราะชอบทำหน้าตาแปลกๆ เวลาถ่ายภาพ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 20 ม.ค. 52 18:52:25 ]

ความคิดเห็นที่ 68 พ้นจากแนวหินแล้ว ก็เจอหาดทราย โอ..นี่มันน้ำตกอะไรกันนี่ ทำไมมีทรายด้วยนะ ใครเอามาเทให้เล่นหรือเปล่า  หาดทรายบนหุบเขา  แปลกดีเหมือนกัน ข้อดีคือเล่นน้ำได้อย่างไม่ต้องเจ็บตัวจากการไปกระแทกกับหินครับ ปลอดภัยดี จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 20 ม.ค. 52 18:56:21 ]

ความคิดเห็นที่ 69 เด็กๆ ก็เริ่มลงเล่นน้ำกันแล้ว น้ำเย็นเจี๊ยบสะใจ เลยค่อยๆ ลงตื้นๆ ก่อน เพื่อรอปรับตัวให้คุ้นเคยกับความเย็นครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 20 ม.ค. 52 18:58:10 ]

ความคิดเห็นที่ 70 ถึงน้ำจะแรง แต่ก็ใส ไม่ขุ่นเลยครับ  อาบน้ำเย็นเขาว่าดี กระตุ้นเลือดลมในร่างกายด้วยนะครับ แต่ผมขอบายครับ เพราะมีภาระต้องถ่ายภาพในมุมต่างๆ กลับมาดูครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 20 ม.ค. 52 19:05:16 ]

ความคิดเห็นที่ 71 ขอบคุณ จขกท.ที่รีวิวการเที่ยวแถบอช.ทองผาภูมิได้อย่างละเอียดและชัดเจน ง่ายสำหรับผู้ที่กำลังจะตามไปเที่ยวแถบนี้ในโอกาสข้างหน้า และขอบคุณอีกครั้งที่กรุณาแปะกระทู้ของคุณฉินฯ หญิงงามและแกร่งของห้องบีพี ที่ไปพิชิตยอดเขาช้างเผือกและได้ถ่ายภาพงามๆมาฝากมากมาย ถือเป็นรีวิวที่สุดยอดอันหนึ่งของการท่องเที่ยวชีกตะวันตก จากคุณ : หนุ่มโรงสี - [ 20 ม.ค. 52 19:19:37 ]

ความคิดเห็นที่ 72 สวัสดีคุณหนุ่มโรงสีครับ ขอบคุณเช่นกันที่ชมครับ  สำหรับกระทู้ของคุณฉินนั้นเป็นที่ประทับใจของผมมิรู้ลืมอยู่แล้ว และที่สำคัญ แรงบันดาลใจให้มี ทริบนี้ ก็เกิดจากเธอ เช่นกันครับ กระทู้นี้ใกล้จะจบแล้ว คอยติดตามทริปต่อๆ ไปในอนาคต ด้วยนะครับ ตอนนี้เพื่อความใกล้ชิดน้ำตก อันอลังการณ์...(อย่าหัวเราะเด็ดขาดนะครับ) ขอถ่ายภาพแบบแยกส่วน แล้วนำมาปะติดปะต่อกันอย่าง กระท่อนกระแท่น แต่จะดูเป็นศิลป์ก็ได้นะครับ ผมว่าแปลกดี..... จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 20 ม.ค. 52 19:48:45 ]

ความคิดเห็นที่ 73 อันนี้เป็นมุมมองที่ ถ่ายออกไปจากน้ำตกครับ โชคไม่ดีที่แสงแดดด้านนอก หุบผาน้ำตก นั้นจ้ามาก เลยทำให้มองไม่เห็นอะไร  แต่ดูก้อนหินแล้วก็ให้รู้สึกเข้มแข็ง หนักแน่นอย่างไรก็ไม่ทราบ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 20 ม.ค. 52 19:53:34 ]

ความคิดเห็นที่ 74 สระมรกตใช่ที่เดียวกับ บึงน้ำทิพย์(ตามเอกสารแนะนำของ อุทยานฯทองผาภูมิ) ครับ ....ขับรถจาก อ.ทองผาภูมิ ประมาณน่าจะ 20 ก.ม. ทางเข้าอยู่ทางด้านซ้ายมือครับ มีป้ายบอกปากทางเข้าเยอะ ๆ ครับ เหมืองสมศักดิ์ ทางเข้าก็ลำบากกว่า น้ำตกจ๊อกกระดิ่น และใกลกว่าครับ...ข้างในมีน้ำตกเจ็ดมิตรให้เที่ยวด้วยครับ...แต่ควรจะเป็นรถ 4x4 ครับ เพราะเนินค่อนข้างชันพอสมควร เป็นทางดิน หินลอย ล้วน ๆ ครับ จากคุณ : Supermop - [ 20 ม.ค. 52 19:57:15 ]

ความคิดเห็นที่ 75 ต่อไปผมจะขอซนเหมือนเด็กๆ บ้างละ คือป่ายปีนไปตามหินผา เพื่อไปหามุมกล้องที่แปลกๆ แบบไม่มีใครถ่ายมาก่อน (หรืออาจมี แต่เขาไม่ได้เอามาโพสลงเน็ตก็ได้...) ผมเริ่มปีนป่ายไปทางขวามือ ด้วยเท้าเปล่า (เกือบเหยียบเศษแก้วที่แตกแล้ว แต่ยังโชคดีที่ เท้ายังยกค้างไว้ เพราะเหลือบเห็นเศษแก้วอีกอันอยู่ใกล้ๆ นึกแล้วยังขนลุกไม่หาย หลังจากนั้นผมก็เอารองเท้ามาใส่ทันที โดยไมสนใจว่าจะเปื่อยพังหรือไม่ น่ากลัวครับ ถ้าหากเท้าเป็นแผลขณะที่ยังอยู่บนเขา แล้วจะกลับอย่างไร......) จึงขอแนะนำว่า ให้สวมรองเท้าเป็นดี รองเท้าพังยังดีกว่าเท้าพังครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 20 ม.ค. 52 20:11:55 ]

ความคิดเห็นที่ 76 สวัสดี คุณ Supermop ครับ  ดูจากแผนที่อุทยานหยาบๆ นั้นจะไม่ทราบเลยว่าอยู่ตรงไหน พอดี ผมบังเอิญเห็นป้ายทางเข้านิคมจากในเว็บ รู้สึกคุ้นตาเหมือนกันตอนที่ผมไป แต่จำไม่ได้ เลยมาดูใน GPS Map ของผมพบว่าอยู่ก่อนจะถึง เฟื่องฟ้ารีสอร์ทที่ผมไปพักด้วยซ้ำไป  แต่ไม่รู้ว่าเข้าไปลึก เลยวัดห้วยเขย่งไปเท่าใดนะครับ เอาไว้โอกาสหน้าจะลองแวะเข้าไปดู เพราะอยู่ใกล้กับ อ.ทองผาภูมิมากครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 20 ม.ค. 52 20:41:29 ]

ความคิดเห็นที่ 77 จากจุดนี้ ทำให้เห็นระยะห่างระหว่าง ชายหาด กับน้ำตก ครับว่าคนเข้าไปเล่นกันใกล้น้ำตกขนาดไหนครับ  ไม่รู้ว่าลึกแค่ไหน เพราะไม่ได้ลงไปเล่น แต่เห็นน้ำไหลลงมาเรื่อยๆ ทำให้คิดไปว่า ใต้นั้นคงจะสึกกร่อน เป็นหลุมลึก น่ากลัวถ้าหากไปใกล้ๆน้ำตก อาจถูกดูด หรือจมลงไปอย่างไม่ทราบสาเหตุก็ได้  ถ้าต้องการไปหลังม่านน้ำตก จะต้องสวมชูชีพและห่วงยางไว้ด้วยเพื่อความปลอดภัยครับ แก้ไขเมื่อ 20 ม.ค. 52 20:58:22 จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 20 ม.ค. 52 20:48:08 ]

ความคิดเห็นที่ 78 มองไปทางชายหาดดูว่าจะกว้างแค่ไหน  ก้อนหินลูกเบ้อเริ่มข้างหน้า นั้นได้ท้าทายให้ผมขึ้นไปปีนดู (ตามอย่างลูกชายผม) ก็กระตุ้นความหนุ่มขึ้นมาไม่น้อยในการปีนโดยใช้การแก้ปัญหาแบบกลศาสตร์วิศวกรรม  มาช่วยเพิ่มความปลอดภัยครับ อ้อ...วันนี้ก็ยังอยู่ที่น้ำตกจ๊อกกระดิ่น ต้องกลับบ้านก่อนนะครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้จะมาต่อให้จบตอนนี้เลยครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 20 ม.ค. 52 21:47:57 ]

ความคิดเห็นที่ 79 วันนี้มาต่อกันให้จบครับ  ภาพนี้เป็นจิ๊กซอว์แห่งหุบผาครับ ไม่เน้นน้ำตกครับ  มุมเดียวกับ รูปเปิดกระทู้ แต่ เน้นความอลังการณ์ของหน้าผาที่โอบล้อมน้ำตกเข้ามาครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 21 ม.ค. 52 10:25:20 ]

ความคิดเห็นที่ 80 ตอนนี้ผมโดดมาปีนอีกฝั่งแล้วครับ เผื่อจะเห็นมุมมองที่แตกต่างบ้างครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 21 ม.ค. 52 10:42:40 ]

ความคิดเห็นที่ 81 เอาชัดๆ ตรงบริเวณเล่นน้ำ อีกที ครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 21 ม.ค. 52 10:52:16 ]

ความคิดเห็นที่ 82 ตอนนี้ ไม่มีใครเล่นน้ำแล้ว น้ำตกแห่งนี้เป็นของผมคนเดียว..... เลยลงไปถ่ายภาพหาดทรายหน้าน้ำตกชัดๆ หน่อย จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 21 ม.ค. 52 10:54:49 ]

ความคิดเห็นที่ 83 หันมามองที่หาด หินแบบนี้แหละเจ็บเท้าดีแล... โดยเฉพาะบริเวณโขดหิน  ถ้ามีรองเท้าแตะที่มีสายรัดเท้าจะเหมาะมากครับ สงสัยทีหลังต้องหาสักคู่แล้วละครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 21 ม.ค. 52 10:58:26 ]

ความคิดเห็นที่ 84 เห็นป้ายนี้ตอนขากลับ ไม่น่าเชื่อว่า ตรงนี้เคยเป็นเหมืองแร่...... จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 21 ม.ค. 52 11:01:04 ]

ความคิดเห็นที่ 85 ก่อนกลับ ขอลากแผนที่ให้ดูหน่อย ตามที่ GPS Pocket PC ผมลากนะครับ  แต่ บังเอิญผมไม่ได้บันทึกว่า ถนนช่วงไหนเป็นเขา ช่วงไหนเป็นป่า และมีแหล่งน้ำตรงไหน เพราะมัวแต่ถ่ายภาพครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 21 ม.ค. 52 11:20:08 ]

ความคิดเห็นที่ 86 ตอนขาออก เหลือผมอยู่คนเดียว ไม่รู้จะหาใครมาถ่ายให้ผม ก็เลยต้องกดกล้องเอง ผิดๆ ถูกๆ เล็งตัวเองให้ติดป้ายก็แสนยาก แถมย้อนแสงด้วย จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 21 ม.ค. 52 11:29:59 ]

ความคิดเห็นที่ 87 ออกจากน้ำตกนี้ ผมก็ไปแวะ อุทยานฯ ทองผาภูมิ เพื่อถ่ายภาพบ้านทาร์ซาน ที่ผมได้โพสไปแล้วตอน 3 โน้นแล้ว  กว่าจะออกจาก อุทยานฯได้ก็ 5 โมงเย็นครึ่งไปแล้ว คราวนี้ต้องลุ้นกันเล็กน้อยว่าจะผ่านออกจากเขาไปถึง ทองผาภูมิได้ก่อนค่ำหรือไม่....... เพราะตั้งแต่ไปเปลี่ยนที่ ร้านซ่อมรถแถว ทองผาภูมิ นั้นได้ยินเสียงสายพานรถดังวี้ๆ ตลอดเวลา บางคนก็กังวลว่า รถจะมีปัญหาอีกหรือไม่ โดยเฉพาะในป่าเขาตอนค่ำนี้.... ในรูปข้างล่างนี้ ด้านหน้าคือโค้งที่ถนนพังถล่มหายไป 1 ช่อง ต้องใช้ความระมัดระวังหน่อย ยิ่งมืดค่ำไปแล้ว ก็จะมองเห็นได้ลำบากครับ แก้ไขเมื่อ 21 ม.ค. 52 11:36:02 จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 21 ม.ค. 52 11:33:58 ]

ความคิดเห็นที่ 88 ในที่สุดก็มาถึง อ.ทองผาภูมิเกือบทุ่ม นึกขึ้นได้ว่าร้านซ่อมรถ นั้นอยู่ตรงสี่แยก เชิงสะพานข้ามแม่น้ำแควน้อยพอดี เลยเลี้ยวขวาไปให้เขาตรวจ เขาบอกว่า ไม่เกี่ยวกับสายพาน น่าจะเป็นลูกปืนไดชาร์ท หรือคอมพ์แอร์ดัง เลยทนวิ่งไปถึงกรุงเทพฯ ไม่กล้าใช้ความเร็วมากนัก (เฉลี่ย 70 กม./ชม.) เลยไปถึง บ้านเกือบตีหนึ่งเช่นเคยครับ หลังจากนั้นมา 1 สัปดาห์ก็ได้นำรถไปให้ช่างดู เขาบอกว่า ต้นเหตุทั้งปวงอยู่ที่ สายพานไม่เข้ากับ มูเลย์(จานหมุน) ไดชาร์ทครับ เพราะเป็นไดชาร์ทดัดแปลงมา ไม่ใช่ของมาตรฐาน ผลคือ เปลี่ยนมูเลย์ ให้เหมาะสม ปัญหาก็จบ  นี่คงเป็นปัญหาประจำรถเลยละครับ เสียงจิ๊ด เสียงวี้ ก็หมดไปจนทุกวันนี้ ผมขอจบทริปมหากาพย์เสียที......สวัสดีครับ ในรูปข้างล่างเป็น ซุ้มประตูต้อนรับของ อ.ทองผาภูมิที่ผมเห็นตอนหลังจากออกจากร้านซ่อมรถ ก่อนเลี้ยวขวาขึ้นสะพาน ครับ แก้ไขเมื่อ 21 ม.ค. 52 11:45:21 จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 21 ม.ค. 52 11:42:47 ]

ความคิดเห็นที่ 89 เป็นทริปที่ประทับใจ และเที่ยวได้ละเอียดมาก ๆ เลยครับ จากคุณ : หมอดาริน - [ 26 ม.ค. 52 19:22:17 ]

ความคิดเห็นที่ 90 สวัสดีคุณหมอดาริน ครับ ขอบคุณครับที่ชอบ เดี๋ยวจะมี ทริปต่อๆ ไปตามมาอีกครับ คอยติดตามชมนะครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 27 ม.ค. 52 10:10:49 ]

ความคิดเห็นที่ 91 ขอทดสอบแนบคลิ๊ปวิดีโอของ เอ็มไทยหน่อยครับ จากคุณ : vilaithong - [ 19 ก.พ. 52 17:37:29 ]

ความคิดเห็นที่ 92 เอ ทำไมแนบไม่ได้นะ ลองใหม่อีกที จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 19 ก.พ. 52 17:45:25 ]

ความคิดเห็นที่ 93 ลองอีกที จากคุณ : vilaithong - [ 19 ก.พ. 52 17:50:09 ]