ความคิดเห็นที่ 1 หลังจากทำธุระกันเสร็จ เดินไปชมอุโบสถของวัดวังก์วิเวการามคับ โบสถ์หลังนีล้อมรอบด้วยน้ำ หลังคาทรงที่ไม่ค่อยคุ้นตากัน จากคุณ : เมะจิโอะ - [ 22 ม.ค. 52 21:02:12 ]

ความคิดเห็นที่ 2 มาดูใกล้ๆจะเห็นถึงความสวยงานของประตู แกะไม้ได้สวยจริงๆคับ น่าเสียดายที่ไม่สามารถเข้าไปชมข้างในได้ เพราะข้างนอกสวยขนาดนี้ข้างในจะเป็นอย่างไร จากคุณ : เมะจิโอะ - [ 22 ม.ค. 52 21:03:30 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ใบเสมาของวัดคับ ยังสวยเลย เแม้ว่าลายจะจางหายไปบ้าง จากคุณ : เมะจิโอะ - [ 22 ม.ค. 52 21:04:18 ]

ความคิดเห็นที่ 4 จากนั้นเราจะเดินไปชมวัดในสวยอื่นๆกันต่อ ทางเดินโค้ง เดินหลบแดดไปเรื่อยๆ เพื่อไปวิหารต่อไป จากคุณ : เมะจิโอะ - [ 22 ม.ค. 52 21:05:41 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เดินมาเรื่อยๆ ก็เจอสิ่งนี้ ใครเอาเสื่อไปทำเป็นฝ้าเพดานอ่ะ ดูแปลกมากๆ สีสันได้ใจจริงๆ แดง เหลืองเข้ากันได้ดี ขอให้ประเทศเราเป็นแบบนี้เร็วๆจัง สีทั้ง2 อยู่ด้วยกัน เกื้อกูลและพึ่งพากัน จากคุณ : เมะจิโอะ - [ 22 ม.ค. 52 21:06:26 ]

ความคิดเห็นที่ 6 อยากไปจังเลย.. ช่วงนี้มีคนไปเที่ยวสังขละเยอะจัง... รอดูภาพต่อไปค่ะ จากคุณ : เต่าตัวลาย - [ 22 ม.ค. 52 21:06:56 ]

ความคิดเห็นที่ 7 แล้วเราก็มาถึงที่นี้คับ พระประธานในวิหาร ข้อมูลของพระองค์นี้ เป็นพระพุทธรูปหินอ่อนขนาดใหญ่ ปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง 5 ศอก หนัก 9ตัน หลวงพ่ออุตตมะสั่งใช้ช่างจากมัณฑะเลย์ เมืองที่เป็นแหล่งอินอ่อนสีขาว แกะสลักตั้งแต่ปี 2514 ใช้เวลา 1 ปี โดยมีพระพุทธชินราชเป็นตัวอย่าง คิดค่าจ้างเป็นทองคำหนัก 25 บาท และใช้เวลากว่า 2 ปีครึ่ง เดินทางมาซึ่งผ่านทั้งทางทุรกันดารและด่านทหารพม่าและกะเหรี่ยงมาประดิษฐานที่(เก่า) ก่อนที่จะย้ยมาอยู่ในวิหารหลังนี้ จากคุณ : เมะจิโอะ - [ 22 ม.ค. 52 21:07:38 ]

ความคิดเห็นที่ 8 คุณเต่าตัวลาย ตามต่อได้เลยคับยังมีอีกเพียบ ลองกลับไปอ่านกระทู้ที่แล้วด้วยน่ะคับ ในวิหารมีสิ่งนี้อยู่ด้วยนั้นคือ งานช้างแมนมอธ คับ ไม่ใหญ่มาเท่าไร แต่ก็เป็นสัตว์ที่สูญพันธ์จากโลกไปนานแล้วให้ดูพร้อมรายละเอียดของสัตว์ชนิดนี้ จากคุณ : เมะจิโอะ - [ 22 ม.ค. 52 21:09:33 ]

ความคิดเห็นที่ 9 หลังจากนั้นเราก็ออกมาที่ลานของวัดกันต่อและพบกับศาลานี้ เพื่อนคงเคยเห็นลูกปะคำขนาดปกติ แต่นี้ขนาดยักษ์เลย เอาแค่เม็ดเดียวก็ไม่ไหวแล้วคับ ในศาลามีรูปเหมือนหลวงพ่อแต่ดูเก่ามากเพราะอยู่กลางแจ้ง จากคุณ : เมะจิโอะ - [ 22 ม.ค. 52 21:10:21 ]

ความคิดเห็นที่ 10 หลังจากอยู่อยู่ในวัดมาเกือบชั่วโมง ผมก็ไปที่อื่น นั้นคือ เจดีย์พุทธคยาซึ่งห่างออกไปไม่ไกลเท่าไรผมปั่นจักรยานลงเขามาเรื่อยๆ แต่พอมาถึงตรงนี้เอง ผมเห็นเจดีย์อยู่ข้างหน้าแล้ว ปรากฏว่ามีเสียงดังแปลก แล้วลมยางล้อหลังก็แบบลง ผมก็จอดรถมาดูยางหลัง แล้วยางรถจักรยานมันแตกคับ ยางในเลยรั่ว สงสัยเพราะทางลงเขาเบรกแทบเอาไม่อยู่ ยางเลยสึกไปเลย ทำงัยดี ยังต้องกลับทางเกือบ 10 กิโล ปั่นจักรยานยังเหนื่อยถ้าจูงรถไปด้วยตายแน่ๆ แต่เมื่อเจดีย์อยู่ข้างหน้าแล้วผมก็จูงจักรยานไปให้ถึงจนได้ จากคุณ : เมะจิโอะ - [ 22 ม.ค. 52 21:11:36 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ตอนนี้อารมณ์ถ่ายรูปเกือบหมดแล้วจะมาอีกวันพรุ่งนี้ก็ยังงัยอยู่ ก็เลยถ่ายรูปไปแต่ก็ได้กลับมาเยอะคับ มาดูประวัติของเจดีย์พุทธคยาจำลองกันน่ะคับ สร้างขั้นเมื่อ 2525 องค์เจดีย์เป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ฐานสี่เหลี่ยมจัตุรัส ยาวด้านละ 42 เมตร สูง59เมตร ชาวบ้านได้ช่วยกันเผาอิฐเพื่อใช้ก่อสร้างเจดีย์ ส่วนกระเบื้องเคลือบสีที่ติดรอบเจดีย์สั่งมาจากราชบุรี ปี 2532 สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ไดเสด็จฯแทนพระองค์มาประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุที่หลวงพ่ออุตตมะอัญเชิญมาจากศรีลังกาไว้บนยอดเจดีย์ซึ่งประดับด้วยฉัตรทองคำหนัก 400บาท คับ จากคุณ : เมะจิโอะ - [ 22 ม.ค. 52 21:12:52 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ขึ้นบันไดมาจะพบกับรอยพระพุทธบาทจำลอง ซึ่งมีดอกสาละถวายไว้ ผมถ่ายมาแค่ตรงที่มีดอกสาละเพราะตอนนั้นแดดแรงจริงๆ ถ่ายทั้งมหดอาจจะดูไม่ออกด้วยคับ จากคุณ : เมะจิโอะ - [ 22 ม.ค. 52 21:13:38 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ขึ้นมาเรื่อยๆจะพบกับทางขึ้นไปองค์เจดีย์ได้น่ะคับ รอบฐานเจดีย์ จะมีพระไว้ให้สักการะได้รอบองค์เลยคับ ผมก็ถ่ายรูปมาแต่ไม่สวยเท่าไรไม่เอาลงดีกว่าไว้ให้เพื่อนๆ ไปสักการะกันนะคับ จากคุณ : เมะจิโอะ - [ 22 ม.ค. 52 21:15:16 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ขึ้นมาดูองค์เจดีย์ใกล้ๆ มุมสูง เห็นว่าเป็นสีเหลืองทองตัดกับฟ้าใสๆ และมีองค์พระอยู่รอยๆ ทั่วทั้งองค์เลยคับ จากคุณ : เมะจิโอะ - [ 22 ม.ค. 52 21:15:58 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ด้านล่างบ้างน่ะคับ จากคุณ : เมะจิโอะ - [ 22 ม.ค. 52 21:17:54 ]

ความคิดเห็นที่ 16 มาดูประวัติรายละเอียดกันอีกรอบคราวนี้ 3 ภาษาเลยคับ ทั้งไทย มอญ และ อังกฤษ จากคุณ : เมะจิโอะ - [ 22 ม.ค. 52 21:23:46 ]

ความคิดเห็นที่ 17 มาดูพระรอบฐานเจดีย์บางน่ะคับมีหลายองค์ องค์นี้แปลกนิดนึง แต่ก็ถือเป็นศิลปะอีกแบบของช่างปั้นน่ะคับ จากคุณ : เมะจิโอะ - [ 22 ม.ค. 52 21:24:52 ]

ความคิดเห็นที่ 18 อีกด้านนึงคับ จากตรงนี้จะมีผู้ให้บริการนั่งเรือนำชมวัดวังก์เก่าที่จมนำด้วยน่ะคับ แต่ผมตอนนี้ไม่มีอารมณ์แล้ว เพราะยางรถแตกทำงัยดีเลยถามเค้าว่ามีร้านปะยางรถไหมคับ เค้าบอกว่าประมาณ 500 เมตร ตรงโรงเรียนวัดวังก์ ผมก็เลยจูงรถขึ้นเนินไปเรื่อยๆ จากคุณ : เมะจิโอะ - [ 22 ม.ค. 52 21:26:22 ]

ความคิดเห็นที่ 19 แล้วก็เดินมาถึงร้าน รถผมจักรยานน่ะคับ อยู่ข้างหลัง Honda Click แล้วจะเห็นเด็กคนนึง เด็กคนนั้นปะยางให้รถผม คล่องแคล้วมาก ๆ ผมจะถ่ายแบบตรงๆก็เขินคับเลยแอบถ่ายรถจักรยานเอง แล้วเค้าก็ปะยางในให้แต่ยางนอกต้องเปลี่ยน แต่ที่ร้านไม่มีเคาเลยเอาแผ่นยางใน 2 แผ่นซ้อนติดกันเพื่อความแน่และไม่ทำให้ยางรั่วอีก คราวนี้ผมสบายใจแล้ว  เลยปั่นจักรยานกลับไปที่ พี  ผมเลยถามว่าจะกลับทางไหนดีระหว่างไปทางสะพานปูนหรือสะพานมอญย้อนกลับทางเดิม ร้านเค้าบอกว่าไปทางสะพานมอญดีที่สุด ไม่ไกล เพราะสะพานปูนไกลกว่ามากคับ 10 กิโลได้เลย แถมต้องขึ้นเขาลงเนินสารพัดอีก จากคุณ : เมะจิโอะ - [ 22 ม.ค. 52 21:28:31 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ขากลับผมก็ปั่นจักรยานและจูงลงสะพานมอญ และคิดว่าจะไปไหนต่อดีเลยสนใจที่จะไปที่จุดชมวิวของเทศบาลคับ ดูสวยเหมือนโรงแรมหรูๆเลยคับ จะได้เห็นสะพานมอญและวิวของอ่างเก็บน้ำ เขื่อนวชิราลงกรณ์กันคับ จากคุณ : เมะจิโอะ - [ 22 ม.ค. 52 21:30:00 ]

ความคิดเห็นที่ 21 และนี้คับสะพานปูนที่เราจะไปผจญภัยต่อ จากคุณ : เมะจิโอะ - [ 22 ม.ค. 52 21:31:30 ]

ความคิดเห็นที่ 22 เมื่อมาถึงสะพานมอญคราวนี้ต้องเลือกว่าจะไปทางไหนระหว่างกลับไปทางสามประสบ หรือไปทางสะพานใหม่ ผมเลยเลือกไปสะพานใหม่ดีกว่า ง่ายกว่าเยอะ จากคุณ : เมะจิโอะ - [ 22 ม.ค. 52 21:33:05 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ทางเข้าไปสู่สะพานใหม่คับ ถือว่าเป็นทางลัดอีกทางไป พี เกสต์เฮาส์น่ะคับ ใกล้กว่าเยอะถ้าไปทางสามประสบ รีสอร์ท จากคุณ : เมะจิโอะ - [ 22 ม.ค. 52 21:37:43 ]

ความคิดเห็นที่ 24 สะพานสวยดีคับ สีสดใส จากคุณ : เมะจิโอะ - [ 22 ม.ค. 52 21:39:45 ]

ความคิดเห็นที่ 25 แพกลางน้ำ ที่หลายคนอาจจะเคยมาพักที่นี้เล่นน้ำกัน จากคุณ : เมะจิโอะ - [ 22 ม.ค. 52 21:42:15 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ศาลากลางสะพาน วันนี้ฟ้าใสมากๆ แต่ทำไมที่นี้สร้างสะพานสูงมากๆ เดินไปเสียวไป ใครกลัวความสูงคงสั่นไม่น้อยเลย จากคุณ : เมะจิโอะ - [ 22 ม.ค. 52 21:44:17 ]

ความคิดเห็นที่ 27 มาดูวิวอีกฝั่งกันน่ะคับ ฝั่งนี้เป็นป่า ลักษณะคล้ายบึงน้ำเล็ก บรรยากาศเงียบสงบมากๆ จากคุณ : เมะจิโอะ - [ 22 ม.ค. 52 21:45:25 ]

ความคิดเห็นที่ 28 มาดูอีกทีฝั่งเรือนแพ อยากเห็นตอนน้ำลดจังว่าจุดที่เรียกว่า สามประสบอยู่ตรงไหน จากคุณ : เมะจิโอะ - [ 22 ม.ค. 52 21:46:22 ]

ความคิดเห็นที่ 29 .. คุณเมะจิโอะ เก็บภาพวัดได้ละเอียดดีจังเลยครับ ผมไปถึงเย็นมากล่ะ  เลยไม่ได้เห็นหลายจุดเลย อย่างหลวงพ่อขาว ที่ทำจากหินอ่อนก็พลาดไป รีบจนลืมเลยครับ  แง ๆ . จากคุณ : แมงเม่าติดลมบน - [ 22 ม.ค. 52 21:49:11 ]

ความคิดเห็นที่ 30 คุณแมงเม่าติดลมบน ผมก็เดินไปเรื่อยๆ ก็เดาไปไม่รีบเพราะไปถึงวัดประมาณบ่าย2กว่าๆเวลามีเยอะ เลยถ่ายรูปมาเพียบคับ แต่วันนี้ไปก่อนน่ะคับ จะมาต่อให้จบ แล้วจะพาไปเที่ยวจุดชมวิวให้ได้คับ แก้ไขเมื่อ 22 ม.ค. 52 21:55:26 จากคุณ : เมะจิโอะ (เมะจิโอะ) - [ 22 ม.ค. 52 21:52:04 ]

ความคิดเห็นที่ 31 อิอิ จขกท. พักที่เดียวกันเลยค่ะ แต่อ้อมพักส่วนบนตึกไม้ ห้องพัดลมแบบห้องน้ำรวม ราคา 200 บ. ค่ะ เพราะไปคนเดียว ตอนนั้นห้องแบบจขกท. เต็มหมดเลย แต่ก็ถือว่าโอเคนะคะ รู้สึกว่าจะพักห้องเบอร์ 12 มั้งคะ วิวสวยดี เลยเอามาโชว์บ้าง จากคุณ : sugoi me - [ 23 ม.ค. 52 11:38:37 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ส่วนที่ไปฝั่งมอญ อ้อมใช้บริการมอไซด์รับจ้างค่ะ ปั่นจักรยานไม่ไหว ไปทั้งเจดีย์และวัด รวมแล้วก็ 50 บ. เองค่ะ อิอิ สังขารไม่สู้จิงๆ จากคุณ : sugoi me - [ 23 ม.ค. 52 11:42:14 ]

ความคิดเห็นที่ 33 หลังจากพักเหนื่อยไปนานมาต่อให้จบวันนี้เลยน่ะคับ จากคุณ : เมะจิโอะ - [ 25 ม.ค. 52 19:23:42 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ไปเที่ยวมาแล้วเหมือนกันค่ะ ช่วงที่ไปร้อนมากค่ะ จากคุณ : งามแสนหลวง - [ 26 ม.ค. 52 17:15:22 ]