ความคิดเห็นที่ 1 แน่นอนว่าที่ผมเลือก Bangkok Airways ก็เพราะที่นี่ล่ะครับ Passenger Lounge สำหรับนั่งเล่นและทานของว่างก่อนขึ้นเครื่อง ถ้าบินออกจากสุวรรณภูมินี่ถือว่าคุ้มค่าที่สุดแล้วครับ...เช้าวันนี้ผู้โดยสารไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่นัก อ๊าคคคค รูปซ้ำเพราะเบลอครับ แหะๆๆๆ แก้ไขเมื่อ 25 ม.ค. 52 21:15:12 จากคุณ : หนุ่มเมืองกรุง (NMkrung) - [ 25 ม.ค. 52 21:13:22 ]

ความคิดเห็นที่ 2 รับของว่างมาเป็น Breakfast แบบเบาๆครับ...รักบางกอกแอร์ก็ตรงนี้แหละครับ อิอิ จากคุณ : หนุ่มเมืองกรุง (NMkrung) - [ 25 ม.ค. 52 21:14:34 ]

ความคิดเห็นที่ 3 Lounge ของบางกอกแอร์เวย์ น่านั่งน่านอนนักหนา... จากคุณ : หนุ่มเมืองกรุง (NMkrung) - [ 25 ม.ค. 52 21:16:08 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ได้เวลาแล้ว ไปกันเถอะครับพี่น้อง... จากคุณ : หนุ่มเมืองกรุง (NMkrung) - [ 25 ม.ค. 52 21:16:58 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ตัดฉับอย่างว่องไวมาบนเครื่องกัน...^^ นางฟ้ากำลังปฏิบัติหน้าที่ครับ ...คุณแอร์บางกอกทำงานได้ดีเรียบร้อยทุกประการ... จากคุณ : หนุ่มเมืองกรุง (NMkrung) - [ 25 ม.ค. 52 21:17:55 ]

ความคิดเห็นที่ 6 มีคนแถวนี้บอกว่าบางกอกแอร์เวย์ก้าวเข้าสู่ยุค “อาหารถุง” ไม่ใช่เสิร์ฟถาดเหมือนปีก่อน แต่ถึงยังไงก็ต้องยอมรับว่าอาหารว่างเขาก็ดูดีไม่น้อยนะครับ ไม่ได้มีแค่เค้กลายหินอ่อนชิ้นกระจึ๋งเดียวแบบแม่จำปีที่รัก เหอๆๆ...มื้อเช้าบนไฟลท์ยังคงมีโยเกิร์ตเสิร์ฟครับ มากับขนมปังเดนนิสโรล ช่วยให้อิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย อิอิ จากคุณ : หนุ่มเมืองกรุง (NMkrung) - [ 25 ม.ค. 52 21:18:41 ]

ความคิดเห็นที่ 7 การเดินทางราบรื่นดีมีตกหลุมอากาศเล็กน้อย แหะๆๆ เผลอแป๊บเดียวคุณสุโขทัยก็ร่อนลงที่ภูเก็ตแล้วครับ เห็นหาดไม้ขาวชัดแจ๋วกับเกลียวคลื่นเล็กๆของทะเลอันดามันด้วย วิวนี้มีเฉพาะสนามบินภูเก็ตเท่านั้นนะครับ จากคุณ : หนุ่มเมืองกรุง (NMkrung) - [ 25 ม.ค. 52 21:19:19 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ภูเก็ตแดดแรงได้อีกครับ สงสัยงวดนี้คงได้ตัวดำขึ้นเล็กน้อยถึงปานกลาง หุหุ จากคุณ : หนุ่มเมืองกรุง (NMkrung) - [ 25 ม.ค. 52 21:19:54 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ออกจากสนามบินก็ขึ้น Airport Bus ซึ่งจอดอยู่นอกตัวอาคาร นั่งมาลงที่แยกวงเวียนอนุสาวรีย์ครับ ค่ารถคนละ 50 บาท...ว่าแล้วก็เดินแบกกระเป๋ากะขาตั้งกล้องฝ่าเปลวแดดมาที่นี่ก่อนเลยครับ “พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติถลาง” จากคุณ : หนุ่มเมืองกรุง (NMkrung) - [ 25 ม.ค. 52 21:20:35 ]

ความคิดเห็นที่ 10 อาจารย์ที่มาก็ไปติดต่อเรื่องหนังสือขออนุญาตกับเจ้าหน้าที่แล้วก็ลงมือถ่ายรูปกันครับ วัตถุประสงค์ก็เพราะจะนำไปทำ Powerpoint ประกอบสื่อการสอนครับ ความจริงแล้วข้าวของอะไรที่พิพิธภัณฑ์เล็กๆแห่งนี้มีน้อยอยู่แล้วคงใช้เวลาไม่นานนัก แต่ที่นี่ก็มี Masterpiece ชิ้นเอกหนึ่งเดียวในสยามประเทศอยู่อย่างนึง นั่นคือ “เทวรูปพระนารยณ์” องค์นี้ล่ะครับ จากคุณ : หนุ่มเมืองกรุง (NMkrung) - [ 25 ม.ค. 52 21:21:28 ]

ความคิดเห็นที่ 11 พระนารายณ์องค์นี้แปลกประหลาดไม่เหมือนเทวรูปใดๆในสยามประเทศ เพราะเป็นงานฝีมือของช่างชาวทมิฬ จากอาณาจักรปัลลวะ (Pallava) ในภาคใต้ของอินเดีย อายุอานามก็ร่วมพันปีเชียวนะครับ ที่ว่าไม่เหมือนใครก็เพราะช่างได้แกะสลักเป็นชุดเทวรูป 3 องค์ คือมีพระนารายณ์องค์ประทับยืน 1 มีพระนางภูมิเทวี (แม่พระธรณี) 1 และมีรูปพระฤๅษีมารกัณเฑยะอีก 1 รวมเป็น 3 องค์ครับ แต่เดิมค้นพบเทวรูปกลุ่มนี้ที่พังงาอยู่บนเขามีต้นไทรย้อยขึ้นคลุมทั้งองค์ ชาวบ้านนับถือกันว่าศักดิ์สิทธิ์นัก ต่อมาก็เลยถอนต้นไทรออกแล้วอัญเชิญมาเข้าพิพิธภัณฑ์ที่ภูเก็ตนี่ล่ะครับ จะเห็นว่ามีครบสมบูรณ์ก็แต่องค์พระนารายณ์เป็นเจ้า ที่เห็นเป็นรูปนั่งคือพระฤๅษีมารกัณเฑยะก็หน้าหายชำรุดไป ส่วนรูปพระนางภูมิเทวีเหลือแต่พระเศียรครับ องค์ท่านเพิ่งจะมาค้นพบทีหลังยังอยู่ที่วัดที่พังงาจนเดี๋ยวนี้ครับ... จากคุณ : หนุ่มเมืองกรุง (NMkrung) - [ 25 ม.ค. 52 21:22:16 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกท่านที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติถลางนะครับ ที่อำนวยความสะดวกได้ดี ตอนที่ผมไปลากลับก็ชวนทานข้าวเที่ยงด้วย กลิ่นแกงเหลืองหอมมากกกก แต่เกรงใจครับ อิอิ เสร็จธุระแล้วก็นั่งรถสองแถวต่อเข้าเมืองภูเก็ตดีกว่าครับ ค่ารถคนละ 20 บาทเป็นสองแถวไม้ๆเหมือนเมื่อ 20 ปีก่อนเลยครับ จากคุณ : หนุ่มเมืองกรุง (NMkrung) - [ 25 ม.ค. 52 21:23:31 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ถึงในเมืองก็เข้าไปเช็คอินที่พักก่อนเลยครับ งานนี้ต้องขอบคุณลุง WONDERFUL-DAY มากๆที่มาแนะนำเรื่องโปรโมชั่น Hotelclub มาภูเก็ตเที่ยวนี้เลยได้ห้องพักฟรีพร้อมอาหารเช้าที่โรงแรมเพิร์ล อยู่กลางเมืองภูเก็ตเลยครับ โรงแรมเพิร์ลนี่จัดว่าเป็นโรงแรมรุ่นเก่าคู่บ้านคู่เมืองภูเก็ตเชียวล่ะครับ ตัวตึกยังเหมือนเดิมเมื่อ 20 ปีก่อน ห้องพักก็ตกแต่งแบบอนุรักษ์นิยมออกแนวจะเชยๆหน่อย แต่ยอมรับว่าห้องสะอาดสอ้านดีและทาสีใหม่เรียบร้อยแล้ว อยู่ได้สบายๆครับ...ชอบที่สุดก็ตรงที่ได้เข้าพักไม่ต้องเสียเงินเลยนี่ล่ะครับ หุหุ จากคุณ : หนุ่มเมืองกรุง (NMkrung) - [ 25 ม.ค. 52 21:24:13 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ล่วงเข้าบ่ายกว่าแล้ว ท้องชักจะร้องเพราะถึงเวลาทานมื้อเที่ยง ผมเลยเดินจากโรงแรมตรงมาที่วงเวียนหอนาฬิกา เพราะเชื่อสโลแกนที่ว่า “มาภูเก็ต ไม่กินหมี่ต้นโพธิ์ได้ไง” เหอๆๆ “ร้านหมี่ต้นโพธิ์” เป็นร้านที่ขึ้นชื่อเรื่องหมี่ผัดฮกเกี้ยนของภูเก็ตครับ ลูกค้าเยอะตลอดแม้จะบ่ายกว่าแล้ว จะว่าไปหมี่ผัดเขาก็อร่อยแปลกดีครับ ใส่ใข่มาทั้งฟอง โรยแคบหมูกะหอมแดง ใส่พริกไทยเยอะๆ...อ่าฮ้า ผมมาถึงภูเก็ตแล้วนะครับ อิอิอิ จากคุณ : หนุ่มเมืองกรุง (NMkrung) - [ 25 ม.ค. 52 21:25:09 ]

ความคิดเห็นที่ 15 หมดธุระแล้วช่วงบ่ายก็หนีเที่ยวล่ะครับ บ่ายนี้ก็เลยไปนั่งสองแถวไปเที่ยวทะเลกัน คิวรถสองแถวของภูเก็ตจะอยู่ตรงตลาดดาวน์ทาวน์ใกล้ๆสำนักงานการบินไทยครับ ค่ารถอยู่ที่ประมาณ 25-30 บาทครับ จะไปหาดไหนก็ดูป้ายหน้ารถข้างรถเอา บ่ายนี้ผมเลยเลือกไปหาดกะรนครับ "หาดกะรน" เป็นชายหาดขาวสะอาดที่ยาวตรงมากๆ อยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองภูเก็ตมากนัก หาดนี้ตามปรกติแล้วคลื่นแรงมากถึงมากที่สุด จึงไม่ค่อยมีคนนิยมลงเล่นน้ำมากนัก ตัวหาดจะเป็นที่ตั้งของโรงแรมใหญ่ๆหรูๆมากมายอย่าง Hilton Phuket Alcadia นักท่องเที่ยวฝรั่งจึงมีมากเป็นพิเศษ...เก้าอี้ผ้าใบแบบบางแสนไม่มีนะครับ จะเป็นเตียงอาบแดดหมดทั้งหาด สนนราคาเตียงละ 100 บาทครับนั่งยาวไปถึงพระอาทิตย์ตกเลย ดูเหมือนจะแพงแต่ก็พอรับได้ครับ ผมชอบตรงที่ไม่มีใครมาตอแยยุ่งย่ามด้วยพ่อค้าแม่ขายริมหาดจะไปใส่ใจลูกค้าฝรั่งมากกว่า เลยนอนเล่นฟังเสียงลมสูดไอทะเลได้สงบเชียว เสียอย่างเดียวแดดแรงมากจนผมอยู่ในร่มยังรู้สึกดำเมี่ยมเลย แต่ดูฝรั่งชอบกันมากถึงขนาดลากเตียงออกมารับแดดกันเป็นแถว มีแต่ผมที่ลากเตียงเข้าหาร่มอย่างขะมักเขม้นเช่นกัน โชคดีวันนั้นคลื่นลมหาดกะรนดูสงบเป็นพิเศษ ที่เคยมีคลื่นลูกโตๆก็กลายเป็นทะเลเรียบนิ่งยังกะน้ำสระ ทรายก็ยังขาวเนียนแน่นชนิดที่เวลาวิ่งบนหาดยังได้ยินเสียงเอียดๆเลยล่ะ ผมก็เลยได้ว่ายน้ำซะเต็มอิ่มเชียวครับ คิดในแง่ดีว่าเราอาจจะเสียตังค์แพงกว่าเที่ยวบางแสนพัทยา แต่เราได้มาเที่ยวมาเล่นน้ำที่ทะเลอันดามันแสนสวยที่ชายหาดซึ่งคนทั่วโลกไฝ่ฝันอยากจะมา โหวตทีไรภูเก็ตเป็นที่เที่ยวอันดับหนึ่งทุกที คุ้มแล้วล่ะครับที่มาที่นี่... ลองไปโม้ให้เพื่อนฝรั่งฟังสิครับว่า “สุดสัปดาห์เราไปว่ายน้ำที่ภูเก็ตมา” รับรองเพื่อนตะลึงอ้าปากค้างด้วยอยากมาภูเก็ตกันทุกคนทุกเชื้อชาติล่ะครับ อิอิ จากคุณ : หนุ่มเมืองกรุง (NMkrung) - [ 25 ม.ค. 52 21:26:37 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ตอนบ่ายแดดแรงจัดเกินเลยไม่ได้ถ่ายรูปครับ รูปวิวทะเลริมหาดกะรนนี่มาถ่ายเอาตอนเย็นย่ำแล้ว...ทะเลอันดามันของภูเก็ตยังมีเสน่ห์เสมอนะครับ จากคุณ : หนุ่มเมืองกรุง (NMkrung) - [ 25 ม.ค. 52 21:27:20 ]

ความคิดเห็นที่ 17 มื้อค่ำนี่กลับมากินในเมืองภูเก็ตครับ กินไปหลายอย่างเลยแต่ก็อยู่ในราคาที่รับได้ เพราะค่าครองชีพในตัวเมืองภูเก็ตยังถูกเหมือนต่างจังหวัดทั่วไป ที่บ่นๆว่าแพงนี่ตามริมหาดตามแหล่งท่องเที่ยวทั้งนั้นครับ โชคดีที่ผมเลือกพักในเมืองอ่ะครับ ................................................................................................... +++ วันอาทิตย์ที่ 18 มกราคม 2552 +++ รุ่งเช้าวันอาทิตย์ตื่นสายๆก็ลงมาทาน Breakfast ของโรงแรมกันเพราะฟรีเหมือนห้องพัก แหะๆๆ...เนื่องจากเป็นโรงแรมเก่าแก่ อาหารเช้าจึงไม่มีอลังการมากมายอย่างโรงแรมหรูสมัยใหม่ แต่อย่างไรบุฟเฟ่เช้าที่นี่เขาก็มีครบนะครับทั้ง ABF และข้าวต้มกับแบบไทยๆ ไอ้ไข่ดาวหมูแฮม ขนมปังนี่กินที่ไหนก็ได้ครับ แต่ที่ผมชอบที่สุดก็คือ Original Phuket Breakfast อย่าง “ขนมจีนน้ำยาปักษ์ใต้” นี่ล่ะครับ เห็นเป็นของพื้นๆหน้าตางั้นๆแต่ตักมาแล้วนี่ถึงกับมีเบิ้ลครับเพราะถูกปากผมมากๆ น้ำยาข้นกำลังดีและไม่เผ็ดนรกแตกจนเกินไป ถ้าจะให้อร่อยต้องราดแกงไตปลานิดนึงตามที่พนักงานโรงแรมแนะนำ...ผมถึงกับยกเลิกแผนการออกไปกินติ่มซำมื้อเช้าข้างนอก ก็เพราะขนมจีนมื้อเช้าที่โรงแรมเพิร์ลนี่ล่ะครับ แฮ่ๆๆๆ จากคุณ : หนุ่มเมืองกรุง (NMkrung) - [ 25 ม.ค. 52 21:28:54 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ตามจารย์หนุ่มมาเที่ยวจ้า จะตามไปเร็ว ๆ นี้แล้ว   ต้องมาเก็บข้อมูลจั๊กหน่อย ขอบคุณนะคะ จากคุณ : แม่ซากานะ - [ 25 ม.ค. 52 21:29:30 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เสร็จจากมื้อเช้าก็เช็คเอาท์ครับ ขนสัมภาระมาฝากเขาไว้ก่อน สรุปว่า Hotelclub Bonus 49 US นี่ได้นอนฟรีจริงๆนะครับไม่ได้โม้ โชคดีจริงๆครับ... ภารกิจในวันนี้ก็พาเพื่อนอาจารย์ชมเมืองเก่าภูเก็ตครับ ผมน่ะมาเดินเล่นเมื่อปีที่แล้วครั้งนึง รอบนี้จึงเดินได้สบายครับ...สังเกตเวลาตรงหอนาฬิกาแยกชาเตอร์นี่ก็สายโด่งแล้ว เพราะมัวแต่กินขนมจีนนี่ล่ะครับ หุหุ จากคุณ : หนุ่มเมืองกรุง (NMkrung) - [ 25 ม.ค. 52 21:29:52 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ว้าววววมีสาวมาปาด สวัสดีครับคุณแม่น้องมีน ย่านเก่าเมืองภูเก็ตขึ้นชื่อเรื่องตึกเก่าสไตล์ “Sino - Portuguese” อายุเป็นร้อยปีซึ่งยังคงสภาพดีและสวยงามน่าชมอยู่มาก ใครที่ชอบสถาปัตยกรรมหรือบรรยากาศเมืองเก่า ล้วนพลาดไม่ได้ที่จะมาชมซักครั้งนึงในชีวิตครับ เหตุที่ภูเก็ตมีตึกเก่าเยอะเพราะในอดีตราวสมัยรัชกาลที่ 4 – 5 เมืองนี้เป็นเมืองศูนย์กลางการค้าดีบุก ทั้งคนจีนคนฝรั่งคนไทยมาลงทุนค้าขายกันมากจนเจริญรุ่งเรืองเป็นเถ้าแก่เศรษฐีมากมาย ส่งผลให้มีการสร้างบ้านแปงเมืองอย่างทันสมัย รูปแบบอาคารสถานที่ในภูเก็ตก็เอาแบบอย่างมาจากเมือง Georgetown ที่เกาะปีนังซึ่งถือว่าเป็นเมือง “ไฮโซ” สุดๆในยุคนั้น แม้ว่าทุกวันนี้จะสิ้นสุดยุคเถ้าแก่เหมืองแร่ไปแล้ว แต่ร่องรอยความเจริญในอดีตของเมืองเก่าภูเก็ตยังคงปรากฏเป็นที่เชิดหน้าชูตาของจังหวัดอยู่นะครับ จากคุณ : หนุ่มเมืองกรุง (NMkrung) - [ 25 ม.ค. 52 21:31:27 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ตึกเก่าที่ภูเก็ตจะกระจุกตัวอยู่ในย่านถนนพังงา ถนนถลาง ถนนกระบี่ ถนนดีบุก และถนนเยาวราชครับ นักท่องเที่ยวสามารถหยิบแผนที่ Phuket Town Treasure Map เป็นคู่มือในการเดินชมได้ครับ แผนที่ที่ว่านี้ผมก็หยิบมาจากสนามบินเมื่อวันก่อนแล้ว ข้อเสียอย่างเดียวที่เห็นในการเดินชมเมืองเก่าภูเก็ตก็คือ สายไฟเยอะมากกกกกก เมื่อไหร่เทศบาลจะเอาลงดินซะที่ ตึกก็สวยแต่ถ่ายรูปที่ไรขัดใจวัยรุ่นนักเชียว หุหุ จากคุณ : หนุ่มเมืองกรุง (NMkrung) - [ 25 ม.ค. 52 21:32:13 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ในย่านเมืองเก่ามี “อ๊าม” หรือศาลเจ้าโบราณอยู่แห่งนึงครับ ถ้ามาเดินชมเมืองนี้ห้ามพลาดเข้ามาชมที่นี่เชียว นั่นคือ “ศาลเจ้าแสงธรรม” ครับ ทางเข้าจะเป็นตรอกเล็กๆอยู่ตรงถนนพังงาครับ... ศาลเจ้าแสงธรรมซึ่งอายุร่วมร้อยกว่าปีแล้วเป็นของตระกูลแซ่ตันนะครับ แม้จะเป็นเพีงศาลเจ้าเล็กๆ แต่ก็มีความน่าสนใจอยู่ตรงที่ศาลเจ้านี้ได้รับการบูรณะอย่างดีเยี่ยมจากช่างฝีมือโดยอนุรักษ์ของเก่าแบบเดิมไว้ครบถ้วน ซึ่งต่างจากศาลเจ้าอื่นๆที่นิยมรื้อแล้วสร้างใหม่ให้ใหญ่โตจนเสียของโบราณหมดนะครับ จากคุณ : หนุ่มเมืองกรุง (NMkrung) - [ 25 ม.ค. 52 21:33:14 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ทีเห็นเด่นสุดก็คงจะเป็น “หลังคาเก๋งจีน” นี่ล่ะครับ ถ้าดูดีๆจะเห็นว่านี่เป็นหลังคาเก๋งจีนสไตล์ฮกเกี้ยนนะครับ เน้นการประดับชิ้นกระเบื้องอย่างแพรวพราว แถวยังทำลวดลายปูนปั้นเป็นฉากเรื่องในวรรณคดีจีนประดับเพิ่มเข้าไปอีก อันนี้จะไม่เหมือนศาลเจ้าอื่นๆในเมืองไทยทั่วไปครับ แต่จะไปเหมือนศาลเจ้าในปีนังและสิงคโปร์เพราะสร้างตามแบบฮกเกี้ยนเช่นนี้ล่ะครับ จากคุณ : หนุ่มเมืองกรุง (NMkrung) - [ 25 ม.ค. 52 21:33:58 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เพ่งอยู่ตั้งนานก็ไม่รู้ว่าเป็นวรรณคดีจีนเรื่องอะไร ด้วยความที่ปัญญาเบาในเรื่องจีนๆค่อนข้างมาก ผมเองก็ได้แต่ชมว่า “สวยดีนะ” แหะๆๆ จากคุณ : หนุ่มเมืองกรุง (NMkrung) - [ 25 ม.ค. 52 21:34:41 ]

ความคิดเห็นที่ 25 อันนี่อะไรหว่า ดูคล้ายๆอาวุธ เหมือนกับที่เห็นในวัดญวนที่เวียดนามเลยครับ... จากคุณ : หนุ่มเมืองกรุง (NMkrung) - [ 25 ม.ค. 52 21:35:25 ]

ความคิดเห็นที่ 26 “ทวารบาล” แต่งตัวอย่างแม่ทัพจีนโบราณหน้าตาขึงขัง คอยทำหน้าที่เฝ้าประตูศาสนสถานตามประเพณีจีนครับ... ผมจำได้ลางๆจากปากคำเพื่อนที่รู้เรื่องจีนว่า ทวารบาลของจีนนี้มีที่มาจากสมัยราชวงศ์ถัง จักรพรรดิองค์แรกเป็นคนสกุลหลี่ได้ปราบปรามฆ่าฟันฝ่ายตรงข้ามมากมายจนได้ขึ้นปราบดาภิเษกเป็นฮ่องเต้ พวกนั้นตายไปก็เป็นวิญญาณร้ายมาคอยหลอกหลอนองค์จักรพรรดิ ทรงหวาดหวั่นเป็นอันมากจนมีทหารรักษาพระองค์สองนายรับอาสาเฝ้าพระตำหนัก แต่งเครื่องเต็มยศถืออาวุธข่มขู่ไม่ให้วิญญาณร้ายมากล้ำกรายพระองค์ ว่ากันว่าวิญญาณก็กลัวนายทหารทั้งสองคนนี้มากด้วย ถึงขนาดตายไปแล้วคนจีนก็ยังเขียนรูปท่านทั้งสองแปะไว้หน้าประตูบ้านเรือนวัดวาอาราม นัยว่าขู่วิญญาณชั่วร้ายไม่ให้เข้ามาได้ ก็เลยเป็นธรรมเนียมเขียนรูปทวารบาลศาลเจ้าเช่นนี้ล่ะครับ อันนี้ตามที่จำได้นะครับ รายละเอียดผิดถูกยังไง ผมรับไว้แต่เพียงผู้เดียวล่ะครับ...ตัวผมนี่หน้าตี๋ซะเปล่าความรู้จีนเท่าหางอึ่งแท้ๆเลย เหอๆๆ จากคุณ : หนุ่มเมืองกรุง (NMkrung) - [ 25 ม.ค. 52 21:36:54 ]

ความคิดเห็นที่ 27 คิดถึงภูเก็ต มีนาคม เจอกานนนนน จากคุณ : a dear - [ 25 ม.ค. 52 21:36:55 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ว้ากกก ลืมรูป "ทวารบาล" ครับ สวัสดีคุณ a dear นะครับ จากคุณ : หนุ่มเมืองกรุง (NMkrung) - [ 25 ม.ค. 52 21:37:46 ]

ความคิดเห็นที่ 29 เดินไปเดินมาก็ผ่านมาที่จุดสำคัญอีกที่นึงล่ะครับ นั่นคืออดีตโรงเรียนจีนแห่งแรกของภูเก็ต ที่กลายมาเป็น “พิพิธภัณฑ์ภูเก็ตไทยหัว” ให้ได้ชมในวันนี้ล่ะครับ พิกัดหาไม่ยากเพราะอยู่ตรงถนนกระบี่ เดินมาแลเห็นเด่นชัดเลยครับ จากคุณ : หนุ่มเมืองกรุง (NMkrung) - [ 25 ม.ค. 52 21:38:29 ]

ความคิดเห็นที่ 30 โรงเรียนภูเก็ตไทยหัวเป็นโรงแรมจีนแห่งแรกของภูเก็ตครับ เปิดสอนมายาวนานมากจนทุกวันนี้ขยายไปเป็นโรงเรียนใหญ่นอกเมืองแล้ว ก็เลยยกที่ตรงตึกเก่าดั้งเดิมของโรงเรียนในเมืองนี้ทำเป็น “พิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมเมืองภูเก็ต” ครับ เป็นวิธีการอนุรักษ์ตึกเก่าที่ได้ประโยชน์มากๆ พิพิธภัณฑ์ภูเก็ตไทยหัวนี่ไม่เก็บค่าเข้าชมนะครับ ชมฟรีถ่ายรูปฟรีข้างในได้หมดเลย แต่ผมก็ขอเชิญชวนให้ร่วมบริจาคบำรุงพิพิธภัณฑ์นะครับคนละนิดหน่อยก็ยังดี เราจะได้มีที่สวยๆทรงคุณค่าน่าศึกษาเช่นนี้อยู่กับเราไปนานๆครับ จากคุณ : หนุ่มเมืองกรุง (NMkrung) - [ 25 ม.ค. 52 21:39:15 ]

ความคิดเห็นที่ 31 เข้ามานี่ก็เจอบรรยากาศห้องเรียนโบราณเลยครับ ศิษย์เก่าภูเก็ตไทยหัวจบไปเป็นเถ้าแก่นายหัวคนดังของภูเก็ตก็ตั้งหลายท่านเชียวนะครับ ได้ดีมาเพราะใช้โต๊ะเก้าอี้นักเรียนพวกนี้ล่ะครับ หุหุ จากคุณ : หนุ่มเมืองกรุง (NMkrung) - [ 25 ม.ค. 52 21:40:07 ]

ความคิดเห็นที่ 32 สวัสดีครับ คุณหนุ่มเมืองกรุง ผมเองก็พึ่งได้ไปภูเก็ตมาเมื่อวันที่ 13-15 ที่ผ่นมานะครับ ได้ไปหลายที่เลย แต่ก็คงเป็นที่ยอดฮิตของคนทั่วๆไปครับ ไม่ได้ไปพิพิธภัณฑ์เลย ตอนนั้นผมพักที่ Crystal Inn ก็อยู่ใกล้ๆหอนาฬิกาครับ ได้ไปชิมหมี่ต้นโพธิ์เช่นกัน แต่เห็นรูปของคุณหนุ่มเมืองกรุงแล้วก็อดสงสัยครับ ว่า ทำไมตอนผมไปกินเขาแยกหอมแดงใส่จานมา แยกแคปหมูใส่มาเป็นซอง(แบบร้านก๋วยเตี๋ยวเรือ) ไม่ได้ใส่มาให้เลย ตามรูปที่คุณหนุ่มเมืองกรุงลงไว้ (สงสัยเฉยๆ) รสชาติก็ทานได้ครับ (เพราะไม่รู้ว่ารสชาติที่อร่อยของหมี่ฮกเกี้ยนเป็นยังไงน่ะสิ) แต่วันนั้นได้ชิม ทอดมัน และ ห่อหมก ของทางร้านเขา อร่อยมากกกกกกกกกกกก ไม่รูว่าคุณหนุ่มเมืองกรุงได้ลองชิมไหม ผมว่าจะกลับไปทานอีก ในวันที่ 1-3 กุมภาที่จะถึงนี้ครับ ยังไงผมขอตามคุณหนุ่มเมืองกรุง ไปเที่ยว ศึกษา รอบนี้ก่อนนะครับ จะได้ข้อมูลไปเที่ยวเพิ่มบ้าง คราวนี้จะไปแบบ สถานที่ที่คนเขาไม่ค่อยฮิตกันครับ แล้วยังไงผมจะทำ Review รวบยอดให้ดูเลยแล้วกัน จากคุณ : เขาหาว่าผมเป็นเด็กแนว - [ 25 ม.ค. 52 21:40:15 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ห้องหับต่างๆในตึกเก่านี้จะติดรูปภาพเพื่อถ่ายทอดเรื่องราววิถีชีวิตของคนภูเก็ตในอดีต โดยเฉพาะชาวจีนฮกเกี้ยนที่มาตั้งรกรากจนนำความเจริญมายังเมืองนี้ครับ มีทั้งเรื่องเหมืองแร่ เรื่องธรรมเนียมประเพณี เรื่องการศึกษา เดินดูได้เพลินครับแต่บางห้องอาจจะหลอนๆนิดนึง แฮ่ๆๆ... ตรงนี้เป็นเรื่อง “เครื่องแต่งกายแบบภูเก็ต” ครับ สาวชาวเมืองภูเก็ตนี้เมื่อร้อยปีก่อนนิยมใส่ชุด “ยะหยา” หรือที่ทางสิงคโปร์และปีนังเรียกว่า “เคบาย่า” (Kebaya) ชุดนี้เป็นเอกลักษณ์ของหญิงชาวจีนโพ้นทะเลแถบช่องแคบมะละกานี้เลยครับ เพราะผสมกันระหว่างวัฒนธรรมจีนและมลายู เสื้อจะเป็นลูกไม้ปักด้วยมือ นุ่งเข้ากับผ้าโสร่งปาเต๊ะหลากสีแบบมลายู ดูงามเข้าทีดีไม่เหมือนใครเลยนะครับ สาวภูเก็ตเนี่ย หุหุ แก้ไขเมื่อ 25 ม.ค. 52 23:06:00 จากคุณ : หนุ่มเมืองกรุง (NMkrung) - [ 25 ม.ค. 52 21:41:25 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ตามป้าข้างบนโน้น มาเก้บข้อมูลด้วยคนครับพี่หนุ่ม อิอิ จะไปเหมือนป้าข้างบนอีกแหระ จากคุณ : หลานยายจุล - [ 25 ม.ค. 52 21:42:47 ]

ความคิดเห็นที่ 35 สวัสดีคุณเด็กแนวครับ...หอมแดงกะแคบหมูน่ะเขาแยกใส่จานมาอยู่แล้ว ผมเป็นคนโรยแล้วคลุกเองล่ะครับ ถ่ายรูปเสร็จจะได้หม่ำเลย...อืมมม ห่อหมกอร่อยที่สุดจริงๆครับ เพราะกินหมดคนล่ะห่อสองห่อจนลืมถ่ายรูปซะงั้นครับ เหอๆๆๆ พูดถึงของกินของกินก็โผล่มาในพิพิธภัณฑ์ครับ ห้องนี้ชีวีเกือบถึงฆาตครับเพราะเป็นเรื่อง “อาหารพื้นเมืองของภูเก็ต” แต่ละรูปนี้ซูมกันชัดๆจะๆยังกะกระทู้ห้องก้นครัว น่ากินไปหมดเชียวล่ะครับ...เล่นเอาท้องร้องเลยอ่ะ เหอๆๆ จากคุณ : หนุ่มเมืองกรุง (NMkrung) - [ 25 ม.ค. 52 21:44:30 ]

ความคิดเห็นที่ 36 สวัสดีค่ะอาจารย์หนุ่ม สงสัยต้องหาโอกาสไปภูเก็ตอีกซักรอบ คริ คริ จากคุณ : prettyguide - [ 25 ม.ค. 52 21:45:08 ]

ความคิดเห็นที่ 37 สวัสดีครับคุณหลานยายจุล...ข้อมูลจะได้เรื่องรึเปล่านี่คงต้องดูไปก่อนนะครับ แหะๆๆ ออกจากพิพิธภัณฑ์ภูเก็ตไทยหัว เราก็เดินชมเมืองกันต่อครับ คราวนี้มาซูมดูรายละเอียดของ “เตี้ยมฉู่” หรือตึกแถวโบราณของภูเก็ตกันนะครับ จากคุณ : หนุ่มเมืองกรุง (NMkrung) - [ 25 ม.ค. 52 21:45:41 ]

ความคิดเห็นที่ 38 .. พี่ทิดหนุ่ม .. ทริปนี้ไปกี่วันครับ  แล้วได้ไปเที่ยวทะเลมั่งป่ะครับ . จากคุณ : แมงเม่าติดลมบน - [ 25 ม.ค. 52 21:47:11 ]

ความคิดเห็นที่ 39 สวัสดีครับคุณ prettyguide ว้าววว สาวๆดาหน้ากันเข้าชมกระทู้ผม ทำเอาหนุ่มโสดอย่างผมชื่นใจจริงๆ บ้านนี้เปิดหน้าต่างโชว์เลยครับ เขาจัดเครื่องเรือนแบบดั้งเดิมไว้อวดแขกไปใครมาด้วย ดีนะที่ไม่ให้อากงอาม่าท่านออกมานั่งโชว์ตัวด้วยอ่ะครับ ^^ แก้ไขเมื่อ 26 ม.ค. 52 09:47:52 จากคุณ : หนุ่มเมืองกรุง (NMkrung) - [ 25 ม.ค. 52 21:47:17 ]

ความคิดเห็นที่ 40 โอ้ววว พี่เม่าก็มา สวัสดีครับ.....ได้เที่ยวทะเลที่หาดกะรนวันแรกไงครับ ผมมัวแต่ว่ายน้ำเลยไม่ค่อยถ่ายรูปทะเลมาอ่ะครับ แฮ่ๆๆ ตึกนี้กำลังซ่อมใหม่ครับแต่ใช้สไตล์โบราณดั้งเดิมทั้งหมด เห็นป้ายเล็กๆแปะว่า “สถานกงสุลสเปน” โอ้โห ท่านกงสุลสเปน ณ ภูเก็ตนี่อินเทรนด์จริงๆครับ แหะๆๆ จากคุณ : หนุ่มเมืองกรุง (NMkrung) - [ 25 ม.ค. 52 21:48:45 ]

ความคิดเห็นที่ 41 นอกจากตึกแถวโบราณที่มีอยู่มากมายแล้ว เมืองเก่าภูเก็ตยังได้ชื่อว่ามี “อั่งม้อหลาว” (ตึกฝรั่ง) ซึ่งมักจะเป็นคฤหาสน์ทรงโบราณของเศรษฐีเก่า "นายหัว" ที่ยังคงความงามตามยุคสมัยอยู่หลายแห่ง อย่างบ้านหลังโตนี้ก็คืออั่งม้อหลาวของพระพิทักษ์ชินประชา อยู่ตรงปลายถนนกระบี่ครับ...บ้านนี้ถือว่าเป็นบ้านโบราณหลังใหญ่ที่สุดของเมืองก็ว่าได้ สร้างมาร้อยกว่าปีแล้วตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 คุณพระเจ้าของบ้านท่านรวยมากเพราะทำธุรกิจหลายอย่างในเมืองนี้ ว่ากันว่าสนามหน้าบ้านกว้างๆนี้สมัยสงครามโลกมีทหารญี่ปุ่นยกกองเข้ามาหัดสวนสนามประจำ จนเจ้าของบ้านต้องปลูกมะพร้าวให้ไม่มีที่เดินเพราะไม่อยากให้ทหารญี่ปุ่นเข้ามา... ทุกวันนี้ผมไม่แน่ใจว่ายังมีทายาทท่านอยู่ที่นี่รึเปล่าเพราะเห็นประตูรั้วเปิดอ้าอยู่เสมอ แต่ก็มีป้ายเล็กๆบอกว่า "ห้ามบุกรุก" งานนี้ก็ได้แต่ซูมเอาล่ะครับ อุอุ ว่าแต่ถ้าเป็นช่วงกลางคืน ผมก็คงไม่กล้าเดินผ่านนะครับ ออกจะหลอนๆพอใช้เชียวล่ะ จากคุณ : หนุ่มเมืองกรุง (NMkrung) - [ 25 ม.ค. 52 21:50:06 ]

ความคิดเห็นที่ 42 รูปสวยมากครับ จากคุณ : เขาหาว่าผมเป็นเด็กแนว - [ 25 ม.ค. 52 21:50:13 ]

ความคิดเห็นที่ 43 กลับมาเดินเล่นดูตึกเเถวกันต่อดีกว่าครับ...นี่คือย่านถนนดีบุกที่ยังมีตึกแถวโบราณเรียงเป็นตับอย่างสวยงาม ตึกแถวเหล่านี้ว่ากันว่าพวกนายเหมืองรวยๆจะซื้อไว้ให้บรรดาคุณนายเล็กๆของท่าน เป็นเรื่องปรกติของยุคนั้นที่เศรษฐีจะมีคุณนายเล็กๆหลายคน เลยต้องมีตึกสวยๆไว้ให้อยู่เชิดหน้าชูตา โชคดีที่ลูกหลานเจ้าของตึกเล็งเห็นคุณค่าเลยไม่มีการรื้อทุบแต่อย่างใด ทุกอย่างยังดูงามเหมือนเมื่อร้อยปีก่อนไม่ผิดเลยครับ จากคุณ : หนุ่มเมืองกรุง (NMkrung) - [ 25 ม.ค. 52 21:50:48 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ขอบคุณคุณเด็กแนวนะครับสำหรับคำชม... มาดูใกล้ๆก็จะเห็นประตูห้องแถวชั้นดีแต่ละหลัง ต่างก็ประกวดประขันฝีมือการตกแต่งซะเต็มที่เชียวล่ะครับ ประตูพวกนี้มักจะแกะสลักลวดลายระบายสีทองอย่างงดงาม ประดับเข้ากรอบที่ติดกระเบื้องเคลือบหลากสีส่งตรงจากปีนัง บ่งบอกถึงฐานะของเจ้าของห้องในอดีตว่าล่ำซำอยู่มิน้อยทีเดียวอ่ะครับ จากคุณ : หนุ่มเมืองกรุง (NMkrung) - [ 25 ม.ค. 52 21:51:42 ]

ความคิดเห็นที่ 45 อ๊าคคคค อยากได้ไปติดที่บ้านซักบานสองบานจังครับ เหอๆๆๆ จากคุณ : หนุ่มเมืองกรุง (NMkrung) - [ 25 ม.ค. 52 21:52:25 ]

ความคิดเห็นที่ 46 เดินชมตึกชมบ้านจนล่วงเข้ายามบ่าย ท้องเริ่มร้องอีกแล้วเพราะได้เวลามื้อกลางวันพอดี หิวเก่งจริงๆเลยผมเนี่ย แฮ่ๆๆ จากคุณ : หนุ่มเมืองกรุง (NMkrung) - [ 25 ม.ค. 52 21:53:02 ]

ความคิดเห็นที่ 47 มื้อนี้เลยฝากท้องที่ร้านเก่าแก่ตรงสี่แยกถนนดีบุกตัดกับถนนเยาวราชครับ ร้านนี้มีสารพัดอาหารง่ายๆสไตล์ฮกเกี้ยนให้ชิมกัน แน่นอนว่ามื้อนี้ผมลองเปลี่ยนรสชาติจากหมี่ผัดมาเป็น "หมี่หุ้นบะกู๊ด" หรือบ้างก็เรียกว่า "หมี่หุ้นปาฉ่าง" อ่ะครับ หมี่ที่ว่านี้จะเป็นเส้นหมี่ผัดคลุกซีอิ๊วโรยหอมเจียวมาหนาๆ ทานกับซุปกระดูกหมูร้อนๆ โอ้ววว อยากกินอีกจังอ่ะครับ อ้อ ร้านนี้มีปอเปี๊ยะสดฮกเกี้ยนด้วยนะครับ เด็ดสุดตรงที่น้ำราดปอเปี๊ยะไม่เหมือนที่ใดในสยามประเทศ อร่อยแปลกจนเผลอกินหมดอดถ่ายรูปซะงั้น ใครมีโอกาสไปภูเก็ตก็ลองไปชิมดูละกันนะครับ เหอๆๆ จากคุณ : หนุ่มเมืองกรุง (NMkrung) - [ 25 ม.ค. 52 21:53:38 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ผ่านของคาวไปปุ๊บก็ต่อด้วยของหวานคลายร้อนกันครับ ร้านก็อยู่ถัดมานิดเดียวเอง ของหวานเอกลักษณ์ของภูเก็ตย่อมต้องเป็น "โอ้ะเอ๋ว" เป็นวุ้นที่ทำมาจากกล้วยน้ำว้าผสมเมล็ดโอ้ะเอ๋วที่สั่งมาจากเมืองจีน ทานแบบน้ำแข็งใสใส่ถั่วแดงราดน้ำแดง ช่วยให้สดชื่นท่ามกลางอากาศยามบ่ายที่ร้อนระอุได้ดีเลยล่ะครับ จากคุณ : หนุ่มเมืองกรุง (NMkrung) - [ 25 ม.ค. 52 21:54:38 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ตามเที่ยวด้วยคนค่ะ จากคุณ : ทะเลดาวอาบแสงจันทร์ - [ 25 ม.ค. 52 21:54:38 ]

ความคิดเห็นที่ 50 เอาล่ะครับ เติมพลังกันเรียบร้อยมีแรงเดินชมเมืองเก่าต่อแล้วล่ะครับ...^^ ผ่านมาตรงตึกนึงก็เห็นหัวเสาอันนี้ นี่เป็นตัวอย่างชัดเจนถึงการแทรกวัฒนธรรมจีนลงในศิลปะตะวันตกอ่ะครับ หัวเสาแบบยุโรปแท้ๆแต่มีรูปค้างคาวแทรกลายลงไปด้วย ตามปรกติวัฒนธรรมตะวันตกไม่ค่อยชอบค้างคาวอยู่แล้ว แต่ตามธรรมเนียมจีนค้างคาวคือสัญลักษณ์ของโชคลาภสิริมงคลครับ ทุกอย่างก็เลยมาลงเอยที่หัวเสาต้นนี้ อิอิ ป.ล. สวัสดีนะครับคุณทะเลดาว ฯ จากคุณ : หนุ่มเมืองกรุง (NMkrung) - [ 25 ม.ค. 52 21:55:53 ]

ความคิดเห็นที่ 51 เดินมาเรื่อยๆก็เจอะวัดไทยเข้าแห่งนึง วัดนี้ชื่อว่า "วัดพุทธมงคลนิมิตร" คราวก่อนผมเคยเข้าไปกราบพระประธานในโบสถ์ ซึ่งเป็นฝีมือช่างพื้นบ้านจริงๆ แต่มาคราวนี้โบสถ์ปิดครับก็เลยไม่ได้เข้าไปกราบ เลยได้แต่มายืนชมพระเจดีย์หน้าโบสถ์นี่ล่ะครับ ทางปักษ์ใต้นิยมที่จะสร้างเจดีย์เลียนแบบ "พระบรมธาตุนครศรีธรรมราช" กันเป็นส่วนใหญ่ ด้วยนับถือว่าศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในคาบสมุทรภาคใต้ เจดีย์วัดนี้ดูปราดเดียวก็พอเดาออกว่าเข้าทำนองเดียวกันนี่ล่ะครับ แต่ที่น่าสนใจก็ตรงที่ยอดเจดีย์เขาเอาลูกแก้วโบราณลูกโตๆไปประดับไว้ ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนนะครับแบบนี้ จากคุณ : หนุ่มเมืองกรุง (NMkrung) - [ 25 ม.ค. 52 21:56:30 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ใกล้ๆหน้าวัดพุทธมงคลจะมีซอยเล็กๆอยู่ซอยนึงที่ทะลุไปออกถนนถลางได้ครับ ชื่อก็น่ารื่นรมย์เชียวนะครับเพราะชื่อว่า "ซอยรมณีย์" จากคุณ : หนุ่มเมืองกรุง (NMkrung) - [ 25 ม.ค. 52 21:57:06 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ซอยนี้ตัดขึ้นในสมัยที่ท่านเจ้าคุณพระยารัษฎานุประดิษฐ์ (คอซิมบี้ ณ ระนอง) ปกครองเมืองภูเก็ต ท่านกำหนด "โซนนิ่ง" ให้ซอยรมณีย์นี้เป็นแหล่งบันเทิงเริงใจของชายหนุ่มในยุคนั้น ก็ทำนองเรื่องอย่างว่าไงล่ะครับ หุหุ ในยุคอดีตเจริญรุ่งเรืองที่นายหัวภูเก็ตเดินเข้าออกซอยนี้เป็นว่าเล่น ย่านนี้จะมีหญิงคณิกาล้วนขาวสวยหมวยจิ้มลิ้มมาจากมาเก๊า มาอยู่ประจำรับแขกที่นี่จนขึ้นชื่อลือชาเชียวล่ะครับ... แก้ไขเมื่อ 25 ม.ค. 52 23:08:33 จากคุณ : หนุ่มเมืองกรุง (NMkrung) - [ 25 ม.ค. 52 21:57:42 ]

ความคิดเห็นที่ 54 แต่นั่นก็เป็นเพียงอดีตของซอยรมณีย์นะครับ ทุกวันนี้ซอยนี้เป็นส่วนที่สวยสุดส่วนนึงของเมืองเก่าภูเก็ตเลยล่ะครับ เพราะตึกเก่าๆสวยๆได้รับการบูรณะเป็นอย่างดีทาสีสันสดใส บางตึกดัดแปลงเป็นร้านอาหารหรือแกลอรีเท่ๆคลาสสิคไปซะแล้ว ไม่มีหมวยขาวๆรับแขกแบบสมัยก่อนนะครับหนุ่มๆ หุหุ จากคุณ : หนุ่มเมืองกรุง (NMkrung) - [ 25 ม.ค. 52 21:58:26 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ถ่ายรูปสนุกดีครับในซอยนี้... จากคุณ : หนุ่มเมืองกรุง (NMkrung) - [ 25 ม.ค. 52 21:59:14 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ถ้าใครอยากถ่ายรูปตึกโบราณสวยๆ อย่าพลาดที่จะมาเดินเล่นตรงซอยรมณีย์นะครับ... จากคุณ : หนุ่มเมืองกรุง (NMkrung) - [ 25 ม.ค. 52 21:59:53 ]

ความคิดเห็นที่ 57 พอเดินทะลุมาถึงถนนถลางก็จะเจอะย่านร้านผ้าแบบพาหุรัดอ่ะครับ ย่านนี้นิยมขายผ้าบาติกปาเต๊ะสีสวยๆ ใส่ได้ทั้งไทยจีนหรือมุสลิม ที่เห็นเด่นๆก็น่าจะเป็น "ชุดยะหยา" ตามประเพณีดั้งเดิมของภูเก็ตนี่ล่ะครับ... ผมว่าถ้าผู้หญิงสวยใส่อะไรก็สวยล่ะครับ ยิ่งถ้าเป็นชุดแนวๆแบบนี้ยิ่งสวยเข้าไปเป็นทวีคูณ สาวๆ BP สนมั้ยล่ะครับ อิอิ จากคุณ : หนุ่มเมืองกรุง (NMkrung) - [ 25 ม.ค. 52 22:00:44 ]

ความคิดเห็นที่ 58 ป้ายอย่างเท่ครับร้านนี้...คลาสสิกสุดๆ ว่ามั้ยล่ะครับ จากคุณ : หนุ่มเมืองกรุง (NMkrung) - [ 25 ม.ค. 52 22:01:24 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ตรงร้านปลายถนนถลางจะมีอยู่ห้องแถวนึงที่ตกแต่งเป็นพิเศษ เพราะตรงขอบชายคาจะมีลวดลายปูนปั้นแบบจีนทำเป็นตุ๊กตุ่นตุ๊กตาตามท้องเรื่องวรรณคดีจีน เหลืออยู่แห่งเดียวแล้วนะครับในเมืองภูเก็ต... แต่ก็เสียอย่างเดียวตรงที่สายไฟช่างมากมายเกะกะเหลือเกิน เทศบาลที่เคารพครับ เอาลงดินเถอะครับ อยากชมเมืองภูเก็ตที่สวยสง่าเต็มตาซะทีนึง นะๆๆๆ หุหุ จากคุณ : หนุ่มเมืองกรุง (NMkrung) - [ 25 ม.ค. 52 22:02:12 ]

ความคิดเห็นที่ 60 เดินจนจะรอบเขตย่านเก่าแล้ว เห็นยังมีเวลาอยู่พอสมควร ผมเลยไปขึ้นรถสองแถวตรงคิวรถตลาดดาวน์ทาวน์ไปเที่ยวเล่นที่หาดป่าตองดีกว่าครับ ใกล้คิวรถนั้นเป็นสำนักงานการบินไทยครับ มีอั่งม้อหลาวอย่างงามอยู่ที่นั่นหลังนึงด้วย จากคุณ : หนุ่มเมืองกรุง (NMkrung) - [ 25 ม.ค. 52 22:02:52 ]

ความคิดเห็นที่ 61 แต่ยามการบินไทยนี่ก็ดุเว่อร์ครับ ไม่ค่อยจะยอมให้ใครเข้าไปเดินเล่นถ่ายรูป กลัวคนไปวางระเบิดมั้งเนี่ย...อยากถามจังว่าถ้าเป็น ROP Gold จะให้เข้าไปเดินเล่นชมตึกนี่รึเปล่าอ่ะครับ เหอๆๆ จากคุณ : หนุ่มเมืองกรุง (NMkrung) - [ 25 ม.ค. 52 22:03:32 ]

ความคิดเห็นที่ 62 ที่หาดป่าตองนี่ผมไปเปลี่ยนบรรยากาศเฉยๆครับ ค่ารถสองแถวก็ 25 บาทเองครับ ที่นั่นก็ไปนั่งตากแอร์กินไอติมที่ Jungceylon แล้วเลยออกไปเดินดูทะเลอันดามันเป็นการสั่งลาอีกซักนิด แล้วจึงโดดขึ้นรถสองแถวกลับเข้าเมืองตอนเย็นครับ... กลับมาถึงในเมืองผมก็รีบไปร้านขนมเปี๊ยะเจ้าประจำ "เค่งติ้น" ซึ่งผมจะมาซื้อประจำเป็นของฝากจากภูเก็ต ขนาดไปตั้งกระทู้ถามที่ห้องก้นครัวมาแล้วนะครับจนแน่ใจว่าร้านเขายังอยู่ แต่คราวนี้บทผมจะชวดอดกินซะงั้นทำให้ร้านนี้ปิดวันอาทิตย์ครับ !!! อดเลยขนมเปี๊ยะฮกเกี้ยนแสนอร่อยของผม ฮือๆๆ เฮ้อ ว่าแล้วก็ไปเอาสัมภาระที่โรงแรมแล้วเดินดุ่มๆไปขึ้นรถ Airport Bus ที่ บขส.ภูเก็ตดีกว่าครับ...รถบัสนี้จะมีทุกชั่วโมงครับ ช่วงบ่ายนี่ดูเวลาง่ายๆก็คือจะออกจาก บขส.ในเมืองเวลา 15.30 16.30 17.30 และ 18.30 รอบสุดท้ายครับ วันนี้ผมขึ้นรอบห้าโมงครึ่งเพราะจะได้มีเวลาทานมื้อเย็นที่สนามบินครับ ค่ารถไปสนามบินก็คนละ 85 บาทใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมงนิดๆครับ จากคุณ : หนุ่มเมืองกรุง (NMkrung) - [ 25 ม.ค. 52 22:04:30 ]

ความคิดเห็นที่ 63 ไฟลท์กลับกลับกะหางแดงครับ เที่ยวบินตรงเวลาอย่างน่าอัศจรรย์ โอ้วววว My Itinerary :::::::::::: Sunday 18 JAN 2009 Thai Airasia Flight FD3028 Phuket 20.35 – Bangkok 21.50 Aircraft: A320 “ABF” ... รหัสเครื่องบิน ไม่ใช่อาหารเช้าแบบอเมริกันนะครับ ^^ แก้ไขเมื่อ 26 ม.ค. 52 09:39:22 จากคุณ : หนุ่มเมืองกรุง (NMkrung) - [ 25 ม.ค. 52 22:05:46 ]

ความคิดเห็นที่ 64 นี่คือการนั่งเครื่องบินราคาถูกที่สุดในชีวิตครับ ราคาตั๋ว 230 บาทถ้วน...ขอบคุณโปร 0 บาทนะครับ ไม่ได้ทำไฟลท์รีวิวหางแดงนะครับ ทุกท่านคงรู้จักทุกซอกมุมแล้วมั้ง...ผมชอบ A320 นะครับตรงที่ดูใหม่เนี้ยบดีจริงๆ แต่ที่นั่งจะกว้างน้อยไปนิดนึงสำหรับคนตัวทำยักษ์อย่างผม แหะๆๆ แก้ไขเมื่อ 25 ม.ค. 52 22:07:40 จากคุณ : หนุ่มเมืองกรุง (NMkrung) - [ 25 ม.ค. 52 22:07:07 ]

ความคิดเห็นที่ 65 ถึงสุวรรณภูมิก่อนเวลาซะด้วย...เป็นอันจบทริปสุดสัปดาห์สั้นๆ 2 วันที่ภูเก็ตในแบบของผมนะครับ...เดินเหนื่อยกันรึเปล่าเนี่ย แฮ่ๆๆ สุดท้ายก็ขออวยพรนะครับ "ซินเจียยู่อี้ ซินนี้ฮวกใช้" ขอให้เพื่อนๆพี่ๆน้องๆชาว BP ที่รักทุกท่าน ร่ำรวยมั่งมี เป็นเศรษฐีกันทุกท่านนะครับ...ขอบคุณและสวัสดีครับ จากคุณ : หนุ่มเมืองกรุง (NMkrung) - [ 25 ม.ค. 52 22:11:01 ]

ความคิดเห็นที่ 66 เฮ้ออออ  จัดโปรแกรมไม่มีตึกแถวเก่าเลย    มาทู้นี้คงต้องไปเพิ่มแระ สวยงามน่าเดินมากเลยค่ะ โดยเฉพาะต้องไปสอยชุดยะหยามาใส่สอนหนังสือจั๊กหน่อย ไม่รู้มีแบบเอวยางยืดมั๊ย เพราะตอนนี้ใช้แต่ซิ่นตีนจกแม่แจ่มกะสุโขทัย   แบบว่า....   มานไม่มีเอวง่า   ขยายได้เรื่อย ๆ จากคุณ : แม่ซากานะ - [ 25 ม.ค. 52 22:27:16 ]

ความคิดเห็นที่ 67 ตามมาเที่ยวด้วยค่ะ ดูเป็นวันพักผ่อนแบบสบายๆ ชิลๆ มากๆค่ะ จากคุณ : ด.ญ คณิตกร - [ 25 ม.ค. 52 22:49:06 ]

ความคิดเห็นที่ 68 กระทู้ความรู้แบบอ่านเพลินอย่างนี้ชอบมาก แต่ที่ชอบมากกว่า คือ ของกินท้องถิ่น ที่ไปคราวก่อนพลาดเรียบ เห็นทีจะต้องเก็บกระทู้นี้ไว้ซะแล้ว ^ ^ จากคุณ : ณ วันหนึ่งเราจะมาพบกัน - [ 25 ม.ค. 52 22:49:09 ]

ความคิดเห็นที่ 69 ขอบคุณอาจารย์หนุ่มมากๆค่ะ สงสัยต้องไปซ่อม เพราะตอนที่ไปถ่ายรูปด้วยกล้องฟิล์ม (เหมือนนานเลยอ่ะ ความจริงก็ไม่นานนะ ) ต้องไปเก็บภาพด้วยกล้องดิจิตอล อีกรอบ ปล.พี่อิ๋ม อาการเดียวกันเลยอ่ะ หนูก็นุ่งแต่ผ้าป้าย ทั้งไหม ทั้งฝ้าย แล้วก็กระโปรงชาวเขายางยืด ขยายได้ไม่สิ้นสุด จากคุณ : prettyguide - [ 25 ม.ค. 52 22:52:13 ]

ความคิดเห็นที่ 70 ขอบคุณครับคุณหนุ่ม เดี๋ยว 21-22 กพ  ผมจะไปภูเก็ตเหมือนกัน ของผมจอง FD 0 บาทได้ทั้งไปและกลับ เลยยังไม่มีวาสนาได้นั่ง PG ซักที เครื่องบินไม่เท่าไหร่หรอกครับ อยากเข้าเลาจน์มากกว่า เค้าว่าในนั้นขนมอร่อย จากคุณ : Coffee Blended - [ 25 ม.ค. 52 23:31:34 ]

ความคิดเห็นที่ 71 หวาดดี จาร์ยหนุ่ม คร้าบบ ไม่มีไร แค่แวะมาบอก ผมอยู่ป่าตอง 2 ปี ยังไม่เคยเปียกน้ำทะเลเลย หง่ะ แห่ะๆ จากคุณ : @สองล้อรอคนซ้อน@ - [ 26 ม.ค. 52 02:15:11 ]

ความคิดเห็นที่ 72 ไปเที่ยวภูเก็ตมาก็หลายครั้งนะคะ แต่ไม่เคยได้ภาพสวยๆแบบนี้เลยค่ะ จากคุณ : P-Plus - [ 26 ม.ค. 52 02:17:37 ]

ความคิดเห็นที่ 73 มาดูเต็มๆ ตอนเช้าอีกครั้ง ทำให้รู้เลยว่า เราพลาดอะไรไปเยอะ... ขอบคุณคุณหนุ่มครับ จากคุณ : Art999. - [ 26 ม.ค. 52 08:26:59 ]

ความคิดเห็นที่ 74 ขอบคุณรีวิวสวย ๆ ค่ะ จากคุณ : scuba734 - [ 26 ม.ค. 52 08:55:58 ]

ความคิดเห็นที่ 75 ไหนเต้าส้อเคงติ้นล่ะหึๆๆ จากคุณ : bicycle_trend - [ 26 ม.ค. 52 09:02:24 ]

ความคิดเห็นที่ 76 เข้ามาดูครับอาจารย์ ผมชอบลายประตูตึกแถวจังเลย สวยดีครับ   แบบนี้เรียกว่า เป็นสถาปัตยกรรมแบบ ชิโนโปรตุกิส ใช่ไหมครับ ตึกแถวเก่าเอามาทำให้ดูใหม่ ดูแล้วนึกถึงย่านไชน่าทาวน์ที่สิงคโปร์ ทำออกมาได้สวยดีครับ จากคุณ : ตงเหลงฉ่า - [ 26 ม.ค. 52 10:20:58 ]

ความคิดเห็นที่ 77 ขอบคุณสำหรับรีวิวค่ะ ^^ จากคุณ : ที่บ้านมีแมวตั้ง 7 ตัว - [ 26 ม.ค. 52 10:30:26 ]

ความคิดเห็นที่ 78 ตามมาเที่ยวภูเก็ตครับ คิดถึงเสมอไม่มีเปลี่ยนแปลง อิอิ ... อยากทานหมี่ฮกเกี้ยนจังเลยหมูสะเต๊ะก็อร่อย ... โอ้ยยย หิว 55 ขอบคุณสำหรับรีวิวนะครับ ... จากคุณ : P.S. i love you - [ 26 ม.ค. 52 10:36:58 ]

ความคิดเห็นที่ 79 เราก็ไปเดินถ่ายรูปในเมืองภูเก็ตเหมือนกัน แต่ไปวันที่ 20 จากคุณ : Yingwi - [ 26 ม.ค. 52 11:26:24 ]

ความคิดเห็นที่ 80 16-17-18 มกราคม ผมก็ไปภูเก็ตเหมือนกัน พักที่ใกล้เคียงกันด้วย ผมพักในเมืองเก่า พาวิเลียนภูเก็ต ตรงข้ามโรงแรมมีขนมจีนเจ้าอร่อย ขายตีสี่ ถึงราวสิบเอ็ดโมงเช้าก็หมด และมีก๋วยเตี๋ยวราดหน้า กับบ๊ะจ่างแม่ยก ชาวภูเก็ตด้วยละครับ รูปยังไม่ได้ย่อเลย มีมุมเดียวกับรูปข้างบนนี้พอดี แต่ผมใช้กล้องเล็กนะ ไม่ได้หิ้วกล้องตัวใหญ่ไป หนัก!! จากคุณ : xebec - [ 26 ม.ค. 52 11:43:12 ]

ความคิดเห็นที่ 81 ว๊าววว ภาพสวย ข้อมูลเเน่น ขอเก็บกระทู้นี้ไว้ใช้ประโยชน์ในอนาคตนะค่ะ จากคุณ : แบกกล้องท่องโลก - [ 26 ม.ค. 52 12:42:42 ]

ความคิดเห็นที่ 82 ตามอาจารย์หนุ่มไปเที่ยวด้วย... มีแพลนจะไปช่วงสิงหาคมครับ... ไปกลับ 460.1 บาท... โดย Air Asia.. อิอิ จากคุณ : เอ๋อ้อย - [ 26 ม.ค. 52 12:46:58 ]

ความคิดเห็นที่ 83 มาแอบจดยิกๆ คะ ไปภูเก็ตเดือนหน้าคะ อยากเดินเล่นในเมืองจัง แต่เวลาจำกัดคะ ปล. แอบถามจารย์หนุ่มว่า ในเมืองที่จารย์หนุ่มเดินไปเดินมานี่ไกลกันมั้ยคะ เผื่อจะเปลี่ยนแผนเที่ยวตามคะ ^^ จากคุณ : Daijobudai - [ 26 ม.ค. 52 12:47:51 ]

ความคิดเห็นที่ 84 ว้าว มาเที่ยวภูเก้ตบ้านผมด้วยอิอิ อยากจะฝากบอกเพื่อนที่จะเที่ยวภูเก็ตช่วงวันที่ 31 มค-2 กพ นี้ ทางจังหวัดจะจัดให้มีงาน ย้อนอดีตเมืองภูเก็ต แถวๆถนนถลางน่ะ ครับ อย่าลืมมาเที่ยวกันน่ะครับ http://yutphuket.wordpress.com/ จากคุณ : คนภูเก็จ (phuketport) - [ 26 ม.ค. 52 13:46:50 ]

ความคิดเห็นที่ 85 .. เพิ่งรู้นะครับเนี่ยว่า บ้านเรือนเก่าๆในภูเก็ตเนี่ย มีเสน่ห์จริงๆ .. จากคุณ : POGGHI - [ 26 ม.ค. 52 15:18:21 ]

ความคิดเห็นที่ 86 ตามมาดูด้วยความคิดถึงบ้านเลยค่ะ คิดถึงของกินที่คุณหนุ่มไปทานมาเลย เห็นแล้วอยากกลับไปกินซะตอนนี้เลย จากคุณ : bambina - [ 26 ม.ค. 52 18:34:06 ]

ความคิดเห็นที่ 87 ขอเก็บข้อมูลเผื่อเอาไปเที่ยวบ้างนะครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : tataweb - [ 26 ม.ค. 52 23:08:05 ]

ความคิดเห็นที่ 88 Daijo    ถ้าจากเซ็นทรัลภูเก็ตเดิน ก็ไกลอยู่  ถ้าขับรถไม่น่าเกิน 15 นาทีนะ มาจอดในเมืองแล้วเดินวนเอา   จุดที่ไปมาแถบตลาดภูเก็ตตึกเป็นแนวนั้นตลอด   ร้านอาหารน่ากินก็อยู่แถบนั้นนั่นแหละ ***   แถวๆ สำนักงานรักคุณเท่าฟ้าในเมือง เอารถไปจอดตรงนั้นได้แล้วก็ไปเดินตลาด กินติ๋มซำร้านเพชร แล้วก็ เดินวนๆ เอาแถวนั้นแหละ อิๆๆ ปล. แอบถามจารย์หนุ่มว่า ในเมืองที่จารย์หนุ่มเดินไปเดินมานี่ไกลกันมั้ยคะ เผื่อจะเปลี่ยนแผนเที่ยวตามคะ ^^ จากคุณ : bicycle_trend - [ 27 ม.ค. 52 10:01:07 ]

ความคิดเห็นที่ 89 ก็ดีไปอีกแบบ มาดูตึกบ้านตัวเอง เพราะเด็กภูเก็ตเอง ได้แค่ซิ่งมอไซค์ผ่านลูกเดียว จากคุณ : ดูก๊อง อันดามัน - [ 27 ม.ค. 52 13:12:09 ]

ความคิดเห็นที่ 90 ในเมืองภูเก็ตสวยจังเลยครับ เสียดายที่พ่อเป็นคนภูเก็ตแท้ๆ แต่ไม่เคยพาผมไปเที่ยวในเมืองแบบนี้บ้างเลย :) จากคุณ : The Armani - [ 27 ม.ค. 52 20:02:06 ]

ความคิดเห็นที่ 91 ตอนเด็กๆ อยู่ภูเก็ตมา 12 ปี เที่ยวแต่ หาด กับ ห้าง ครับ ไม่เคยสนใจ ตึกรามบ้านช่องเลยเพราะมันดูคุ้นตาไปหมด พอได้มาดูรีวิวนี้เลยได้คิดครับว่ามีสิ่งดีๆใกล้ๆตัวเราอีกมากทีเรามักมองข้ามไป จากคุณ : โทนิค (โทนิโอ้) - [ 28 ม.ค. 52 12:47:16 ]

ความคิดเห็นที่ 92 ตามมาปิดท้ายขบวน แหะๆ รูปสวยอ่านเพลินได้ความรู้อีกตะหาก ขอบคุณค้าบ สองปีก่อนไปสิมิลัน ไปแวะนอนในเมืองภูเก็ต ก็ได้เดินเที่ยวด้อมๆมองๆแอบดูเตี้ยมฉู่สวยๆในเมืองค่ะ ชอบจังเลย จากคุณ : ลาเต้แก้วหญ่ายๆ - [ 1 ก.พ. 52 14:31:42 ]

ความคิดเห็นที่ 93 ตามมาเที่ยวด้วยครับ ^^ จากคุณ : หนุ่มเฮสเซ่น (Hessenboy) - [ 17 ก.พ. 52 20:04:54 ]

ความคิดเห็นที่ 94 เรื่องสายไฟ ที่ระเกะระกะที่ย่านเมืองเก่า ความจริงเทศบาลได้จัดประชาพิจารณ์โครงการเอาสายไฟลงดินไปเมื่อปี51  แล้ว แต่งบประมาณและการดำเนินการ ก็ต้องมีขั้นมีตอน จากคุณ : TT_andaman - [ 9 พ.ค. 52 23:55:20 ]