ตอนแรกเราก็ใจเย็น กะว่าจะไม่มาโพสต์ประจานแล้ว
แต่ว่าเจอเหตุการณ์ชวนหงุดหงิดบนรถของบริษัทเดิมอีกรอบ เลยขอมาบ่นตามประสาคนขี้บ่นนะคะ
เรื่องแรก เกิดขึ้นช่วงปลายเดือนที่แล้ว
ปกติเราจะนั่งรถนครชัยแอร์กรุงเทพ-ขอนแก่นบ่อยมาก เพราะเราประทับใจรถและบริการของบริษัทนี้จริงๆ
ถ้ารถนครชัยแอร์ไม่ว่าง เราไม่เดินทางวันนั้นเลยค่ะ
วันที่เกิดเรื่อง เรากับเพื่อนชาวต่างชาติเดินทางโดยรถนครชัย First class 18 ที่นั่ง จาก ขอนแก่น - กรุงเทพ
เราสองคนนั่งที่ 8A 8B คือที่นั่งหลังสุด
ระหว่างรอรถออก สังเกตว่ามีคุณอาอายุราว 40-50 ปีได้ ท่าทางภูมิฐานทีเดียวนั่งที่ 8D (คือติดกับเพื่อนเราที่นั่ง 8B เพราะว่าไม่มีที่ 8C ค่ะ จะเป็นพนักเก้าอี้สำหรับวางแก้วน้ำได้ กว้างประมาณ 1 ฟุตคั่นอยู่)
รถยังไม่ทันจะออก โทรศัพท์แกก็ดัง แกก็คุยๆๆๆๆ เรื่องงาน อยู่สักพักก็วาง
รถยังไม่ทันจะออก ก็มีมาอีกสาย
จนกระทั่งรถออก แกก็ยังคุยอยู่
แกจะคุยๆวางๆ วางไม่ถึงนาทีก็กดโทรออกอีก
คุยไปเกือบสิบทีได้
แถมยังคุยเสียงดังจนทั้งรถเค้ารู้แล้วว่าแกทำงานรับเหมาก่อสร้าง
ไม่ได้มีท่าทีเกรงอกเกรงใจคนอื่นเลย
เราก็ไม่ค่อยจะพอใจเท่าไร หันไปมองหลายทีแล้ว แกก็คงไม่รู้สึกตัว
ขนาดเราเสียบหูฟังเข้ากับจอทีวีแล้วยังได้ยินเสียงแกแทรกเข้ามาเลยค่ะ
จนกระทั่งรถวิ่งไปถึงราวๆบ้านไผ่ (ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงค่ะ) เพื่อนเราทนไม่ไหว เลยถามว่า เราทำอะไรได้บ้างหรือเปล่า
พอพนักงานต้อนรับบนรถมาแจกขนม เราเลยบอกเค้าว่า
"พี่คะ คนข้างๆคุยโทรศัพท์ตลอดเลยตั้งแต่ออกมาแล้ว ช่วยบอกให้เค้าลดลงได้หรือเปล่าคะ"
พนักงานมองหน้าเรานิดหนึ่ง แต่ไม่ได้ตอบอะไร พอแจกขนมเสร็จก็เดินไป
เพื่อนเราถามว่าเค้าได้ยินหรือเปล่าน่ะ?
เราก็ว่า เดี๋ยวเค้าคงจัดการมั้ง อย่าคิดมาก
พอดีเพื่อนเราเป็นคนญี่ปุ่น แล้วก็ออกจะซีเรียสเรื่องพวกนี้สักหน่อย เราก็เลยปรามๆไว้
คุณอาคนนั้นยังคงคุยโทรศัพท์ต่อไปสักพัก
เพื่อนเราเริ่มแสดงท่าทางไม่พอใจ
ผ่านไปราวๆ 10 นาที พนักงานคนนั้นก็ไม่ได้ทำอะไร
เราเลยเดินไปหน้ารถ เพราะคิดว่าพนักงานอาจจะไม่ได้ยิน
เพราะตอนแรกเราพูดเบา ไม่อยากให้คุณอาแกเสียหน้า
เราเดินไปหน้ารถ ก็เจอพนักคนนี้กำลังเอาขนมจะแจกผู้โดยสารอีกรอบ
เราเลยบอกว่า
"พี่คะ ช่วยบอกผู้โดยสารตรงนั้นให้ลดการใช้โทรศัพท์ได้มั้ยคะ"
เราพูดยังไม่จบประโยค พนักงานคนนั้นชักสีหน้าแล้วตอบกลับเราว่า
"ได้ยินแล้วค่ะ ได้ยินแล้วค่ะ"
เราเลยตอบว่า "งั้นก็ช่วยบอกเค้าด้วยนะคะ คุยไม่หยุดเลย ตั้งแต่รถยังไม่ออกจนนี่เกือบชั่วโมงแล้ว"
(ในใจก็แอบคิดว่า "เออ ได้ยินแล้วก็ตอบอะไรมั่งสิคะตอนนั้นน่ะ ชั้นก็นึกว่าชั้นพูดกับอมนุษย์รึไง ฟังไม่ออกรึเปล่า ทำไมไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลย")
คุณพี่พนักงานก็สวนขึ้นมาทันทีว่า
"เข้าใจค่ะ แต่ว่าเค้าเป็นผู้ใหญ่นะคะ จะไปบอกเค้าแบบนั้นได้ยังไง"
อ๊าววววววววววว คุณพี่นี่ หาว่าหนูเป็นเด็กเมื่อวานซืนเหรอคะ เราก็โมโหนะ เป็นผู้ใหญ่แล้วไง
ถึงเราจะใส่กางเกงยีนเสื้อยืดกะโปโลหน้าตามอมแมม แต่เราก็จ่าย 524 บาท เท่ากับอิลุงนั่นนะเว้ย
เราเลยถามกลับว่า
"แล้วจะให้เค้าคุยโทรศัพท์รบกวนผู้โดยสารคนอื่นไปเรื่อยๆงั้นเหรอคะ"
คุณพี่ทำหน้าอารมณ์เสียแล้วตอบว่า
"ก็เค้ามีธุระอยู่ ถ้าไปครึ่งทางแล้วแกยังไม่หยุด จะไปบอกให้ค่ะ"
เราถึงกับอึ้ง!!!!!!!
รอให้คุยโทรศัพท์ไปครึ่งทาง
ขอนแก่น กรุงเทพมัน 6 ชั่วโมงนะคุณ
จะให้นั่งฟังไปขนาดนั้นเลยรึไง
นี่มันรถเฟิร์สคลาสที่โฆษณานักหนาว่าสะดวกสบายไม่ใช่เรอะ
เราก็เดินกลับมาที่นั่งด้วยความอารมณ์เสียว่า
ถ้าพนักงานบริษัทเห็นว่าผู้โดยสารมีธุระแล้วสามารถคุยโทรศัพท์เสียงดังรบกวนคนอื่นๆไปถึงครึ่งทางได้แล้วล่ะก็ เราก็ไม่อยากจะไปเถียงแล้วล่ะ
เราก็บอกเพื่อนเราไปตามนั้น
เพื่อนเราโมโห เลยถามว่า เค้าบอกลุงคนนั้นไปตรงๆเลยได้มั้ย
เราก็ห้ามไว้
สักพักพนักงานเดินมาแจกขนมแถวเราอีก
เพื่อนเราเลยพูดกับพนักงานคนนั้น (แต่เป็นภาษาอังกฤษนะคะ)
พนักงานคนนั้นก็ไม่ตอบ
เพื่อนเราโมโหเลยถามว่า "Is it because here's Thailand??"
จริงๆเราโกรธเพื่อนเรามากที่พูดแบบนั้น
แต่เราก็เข้าใจว่าเค้ามาจากญี่ป่น แล้วมาเจอพนักงานต้อนรับของโรงแรม เจอแท็กซี่ เจออะไรหลายๆอย่างที่ต่างจากบ้านเค้า เลยอารมณ์เสีย
เราก็เคยบอกเค้าว่า ที่นี่มันไทยแลนด์จะหวังอะไรให้เหมือนญี่ปุ่นไม่ได้หรอก
ตอนนั้นเพื่อนคงอารมณ์เสีย เลยหลุดปากไปอย่างนั้น ซึ่งเราก็วีนไปแล้วว่าอย่ามาพูดแบบนี้นะ
แต่พนักงานคนนั้น หลังจากได้ยินประโยคนั้น เธอมองทำหน้าเรียบเฉย แล้วตอบว่า "YES" พร้อมกับยิ้มน้อยๆ
ทั้งเรากับเพื่อนก็อึ้ง เงียบกันไปเลย
อาคนนั้นแกคงเห็นต่อล้อต่อเถียงกัน แกเลยเอาหูโทรศัพท์ออกห่างจากหู แล้วถามว่า "คุณมีอะไรกันเหรอ"
(แหม ยังกับพวกเรารบกวนการคุยโทรศัพท์แกงั้นแหละ
แต่พนักงานคนนั้นกลับทำท่าโค้งศีรษะเหมือนจะขอโทษผู้ชายคนนั้น)
พอเค้าวางสาย ก็ถามว่า "มีอะไรกันคุณ"
พนักงานตอบว่า "ขอโทษนะคะ พอดีน้องเค้าบอกว่าคุยโทรศัพท์ ช่วยลดลงได้มั้ยคะ"
เราก็ไม่เข้าใจว่า ทำไมท่าทีต่างกับที่ทำกับเรามากเลย
หรือว่าเราเองที่เป็นคนเสียมารยาทกันแน่ ทั้งๆที่เราพูดดีๆตั้งแต่แรก
แต่ลุงคนนั้นยังไม่ทันจะตอบอะไรก็มีโทรศัพท์เข้ามาอีก
พนักงานเลยหันมาบอกเราว่า "แกรู้นะคะว่ามันรบกวน แต่แกมีธุระ แกก็พยายามอยู่"
เรานะจี๊ดดดดดดดดด เลย
ไม่ได้พยายามอะไรเลย ไม่ได้พยายามจะคุยเบาๆ
แล้วก็ไม่ใช่ว่ามีแต่สายโทรเข้า
พอมันเงียบๆแกก็กดๆโทรออกอยู่นั่น
เพื่อนเราเซ็งมาก
เราเลยบอกให้ทำใจนอนไป ไม่ต้องฟังเสียงนกกาหมาแมว
ผ่านไปสักพักใหญ่ๆได้ ลุงคนนั้นถึงได้เก็บโทรศัพท์
แต่ก็เอาโน้ตบุคมาเปิดทำอะไรก๊อกๆแก๊กๆไม่รู้ตั้งนาน
เราเห็นแล้วหมั่นไส้จริงๆ
ถ้าธุระมันรัดตัวนัก ก็นั่งเครื่องไปเลยสิ ไม่ต้องเสียเวลาคุยโทรศัพท์บนรถให้มันรบกวนคนอื่นแบบนี้
ท่าทางก็ดูรวยนี่
พอเริ่มเงียบ พนักงานคนนั้นก็เดินมายิ้มให้เราแล้วถามว่า "ดีขึ้นมั้ยคะ"
เราอะโมโหมาก แต่ก็พยายามเฉยๆไว้
ปกติมันก็มีทุกครั้งแหละ คนคุยโทรศัพท์บนรถทัวร์
เราก็หงุดหงิดบ้าง แต่ก็ไม่เคยบ่นอะไร
แต่ครั้งนี้ทีวีนก็เพราะมันเป็นรถ first class เราจ่ายแพงเพราะต้องการนั่งสบายๆ
แล้วลุงคนนี้ไม่ได้มีท่าทางเกรงใจกันเลย คุยเสียงดัง คุยไม่หยุด
เรานั่งบ่อยๆ แล้วปกติเราจะได้ยินตอนรถออก พนักงานจะบอกว่า
"สวัสดีค่ะ บริการนครชัยแอร์ ยินดีต้อนรับทุกท่านเข้าสู่..........."
แล้วก็จะจบด้วย
"ขอให้ลดการใช้โทรศัพท์ในช่วงเวลาพักผ่อนด้วยค่ะ"
เราก็ตะหงิดใจว่า เออเจ๊คนนี้ไม่เห็นพูดเลยแฮะ
แถมยังมาด่าเราว่า เค้าเป็นผู้ใหญ่ ให้เกรงใจเค้า ถ้าครึ่งทางแล้วเค้ายังคุยอยู่จะไปบอกให้
แหม..... ทนไม่ด๊ายยยยยยยยย!!!!!!!
จริงๆแล้วพอใกล้ถึงกรุงเทพ ลุงแกก็เริ่มปฏิบัติโทรศัพท์บอกลูกสาว ว่าจะถึงแล้ว แล้วก็โทรเรียกใครซักคนให้มารอรับ แล้วก็โทรย้ำๆว่าให้มารอนะๆ
แต่เราขี้เกียจจะไปยุ่งด้วยแล้ว เราก็เลยเฉยๆค่ะ
ไม่ได้จะอะไรหรอกนะ แต่ว่ามันอารมณ์เสียค่ะ
หรือว่าเราคิดมากไปเอง คุยโทรศัพท์(ไม่หยุด)บนรถทัวร์เนี่ย
ไม่ใช่การเสียมารยาทหรอกเหรอคะ??
แก้ไขเมื่อ 29 ม.ค. 52 22:48:22