ความคิดเห็นที่ 1 วันแรก ค่อนข้างแน่นนะคะ กว่าจะออกจาก ตม. ส่งกระเป๋าไปโรงแรม และเดินทางเข้าเมือง อย่างเร็วน่าจะถึงอุเอโนะราวๆ ๑๐ โมงกว่าๆ แค่เดินที่สวนสาธารณอุเอโนะและรอบๆ ก็ใช้เวลาพอสมควร กว้างมากๆ มีพิพิธภัณฑ์และสวนสัตว์ สวนสัตว์น่าพาลูกไปนะคะ พอ ๔ โมงเย็นค่อยกลับไปเช็คอินที่โรงแรม หรือไม่ก็เปลี่ยนเวลาเช็คอินเป็นค่ำๆ เลย ถ้ามีแรงค่อยไปวัดเซนโซจิ จากสถานีทซึคุบะ อาซากุสะ เดินไปราวๆ ๑๐-๑๕ นาที ( แต่น่าจะพักผ่อนเอาแรง เพราะวันถัดไปเห็นว่าจะไปดิสนีย์แลนด์ ) อาคิฮาบาระ น่าจะเก็บไว้วันหลัง ส่วน hakone กับ kamakura เรายังไม่เคยไป เลยแนะนำไม่ถูก แต่เห็นมีลูกสาวไปด้วย น่าพาไป sanrio puroland จัง ลูกสาวน่าจะชอบ จากคุณ : NoNoTan - [ 10 ก.พ. 52 11:54:31 ]

ความคิดเห็นที่ 2 นี่ไปกันเองใช่มั้ยครับ ตารางแน่นเอี๊ยดมากๆ เลยนะแต่ละวัน ผมว่า ขนาดคนที่คุ้นเคยกับโตเกียวยังคิดว่าแน่นไปเลยครับ เพราะบางที่นี่มันต้องเดินทางไกลกันมาก เริ่มจากวันแรกก่อนเลย ผมว่าถ้าดอกซากุระบาน คนจะเยอะมากๆๆๆๆๆๆ เดินเที่ยว หรือนั่งดูดอกซากุระ ถ้าไม่เซ็ง ก็สนุกไปเลยครับ แต่สำหรับคนที่ตั้งใจไปเที่ยวๆๆๆๆๆ ไม่รู้ว่าจะสนุกกับการชมซากุระอยู่เฉยๆ หรือเปล่า อู เอะ โนะ ซู นี่ดีนะครับ ถ้าคิดว่าคุณชอบการเที่ยวแบบเขาดิน ถ้าคิดว่ามันเป็นแบบซาฟารีเวิร์ล(หมายถึง สวนสนุกแนวการค้า มีสีสัน) ก็อย่าไปเลยครับ แล้ว อู เอะ โนะ มิวเซี่ยม นี่ ถ้าคนไม่ชอบศิลปะอาจดูเบื่อได้ แนะนำนะครับ...ถ้าเป็นคนไทยชอบเดินซื้อของ ช้อปปิ้ง นี่ให้เดินรอบสถานนี้รถไฟ JR ที่ อู เอะ โนะ ร้านรวงตรงข้ามสถานีรถไฟตลอดซอยมีของให้ช้อปเยอะมาก มีร้านของกินอร่อยๆ (ที่ไม่แพงนัก) ที่คนญี่ปุ่นชอบมากิน ก็เยอะมากเหมือนกัน (โดยเฉพาะตอนเย็นๆ ค่ำๆ) ที่สำคัญมีแตงโมญี่ปุ่น ที่ไม่ต้องลงทุนไปซื้อลูกโตๆ เพราะที่นี่เค้าตัดชิ้นขายเล็กๆ 100 เยน อร่อยมากครับ ลองกินดู แถวๆ นั้นจะเหมือนกับสยามผสมจตุจักรบ้านเรา มีห้างดังปนเปอยู่ด้วย เดินไม่ไกลกันครับ ติดๆ กันเลย แต่ก็สนุกทีเดียว แต่ผมว่า ที่ อู เอะ โนะ อาจจะไม่มีอะไรน่าเที่ยวสำหรับคุณมากนะ เด็กอาจไม่สนุกด้วยนัก ส่วนวัดเซนโซจิ ไม่มี comment นะครับ เพราะไม่เคยไป ;) ที่ อะกิฮาบาระ นี่ ถ้าไม่ใช่คนรักคอมฯ รักการ์ตูน รักอนิเมะ นี่อาจเดินไม่สนุก เพราะมันเหมือนเดินพันธุ์ทิพย์บ้าน หรือสะพานเหล็ก คลองถม นะ ร้านจะมีแต่ของพวกนี้ แต่ร้านมันจะเยอะมากเท่านั้นเอง แต่ถ้าอยากซื้อพวกเกม เครื่องใช้ไฟฟ้า กล้องดิจิฯ ฯลฯ นี่ก็ไปได้ครับ แต่แนะนำว่าเทียบราคาหลายๆ ร้านก็จะดี เพราะโปโมชั่นไม่เหมือนกัน ที่สำคัญถามร้านด้วยว่าใช้ที่เมืองไทยได้มั้ย แล้ว passport เนี้ยะ ลดภาษีได้ด้วยหรือเปล่า (passport ลดภาษีได้ถ้าซื้อ 10,000 เยน ขึ้นไป อันนี้ผมไม่ค่อยแน่ใจนะครับ จำไม่ได้) แล้วถ้าจะไปดิสนีย์แลนด์ในตอนเช้า ผมแนะนำว่าให้พักผ่อนเก็บเอาแรงไว้เยอะๆ นั่นแหละครับดีแล้ว เพราะขนาดเด็กๆ หรือหนุ่มๆ สาวๆ ที่คิดว่าแรงดีแล้ว ก็ยังอ่วมเอาการเลย เหอเหอ วันจันทร์ที่ดิสนี่ย์ฯ (ผมไม่แน่ใจว่าทราบการเดินทางหรือยัง แต่กรณีนี้ผมขอข้ามไปก่อน) ควรเดินทางไปแต่เช้ามากๆ ครับ ย้ำว่าไปแต่เช้ามากๆ เพราะดิสนี่ย์ไม่เคยมีวันที่คนไม่เยอะครับ (ควรไปวันธรรมดาดีแล้วครับ) โดยปกติแม้แต่คนญี่ปุ่นเองจะไปต่อแถวตั้งแต่ช่วง 7-8 โมงเช้า ครับ ก็ใช้เวลานั่งรถไฟประมาณ 30-45 นาที แต่ตอนเดินไปขึ้นรถไฟที่สถานีโตเกียวนี่ก็นานพอดูเหมือนกัน เพราะสถานีไกลมาก เผื่อเวลาไว้สัก 20 นาที ในการเดินเป็นอย่างต่ำ ตอนนี้มี ดิสนี่ย์ซี กับ ดิสนี่ย์แลนด์ ครับ ถ้าชอบอะไรที่คลาสสิค/ต้นตำหรับ/หรือไม่ชอบของหวาดเสียวหวือหวานัก - ให้เลือกดิสนี่ย์แลนด์ (คือมีของหวือหวาเหมือนกันนะครับ แต่ไม่มากเท่าดีสนี่ย์ซี ถ้าชอบอะไรสมัยใหม่หน่อย/แฟนตาซี/โลกแห่งจินตนาการ/ของเล่นหวาดเสียวขึ้นมานิด - ให้เลือกดิสนีย์ซีครับ เลือกทั้งสองอันในวันเดียวกันไม่ได้ เพราะมันเยอะมาก แล้วจะเที่ยวไม่คุ้ม อีกอย่างต่อแถวนานและยาวมาก เลือกสองอันคนละวันได้ แต่ถ้ามีเวลาวันเดียวให้เลือกอย่างเดียว ถ้ามีเด็กเล็กๆ  ขวบ นี่ แนะนำ ดิสนี่ย์แลนด์ก็จะดีนะครับ แต่สนุกทั้งสองฝั่งเลยครับ ไม่ต้องกลัวว่าฝั่งไหนจะไม่สนุก ถ้าอยากเห็นปราสาทดิสย์นี่ก็ให้ไปดิสนี่ย์แลนด์ครับ ;) แต่สิ่งสำคัญมากๆ ในการเที่ยวดิสนี่ย์ ให้ถูกหลักการใช้บัตร fastpass ครับ เอาบัตร passport ที่คุณซื้อมาตั้งแต่แรกนั่นแหละครับ บัตรนี้ไปสอดที่ตู้ fastpass หน้าเครื่องเล่นใหญ่ๆ ฮิตๆ ที่เค้าจะมีบอกไว้ สังเกตุง่ายครับ พอสอดเสร็จ มันจะได้เวลาที่จะนัดคุณมาเล่นเครื่องเล่นนี้ครั้งต่อไป คราวนี้คุณก็ไปต่อแถวเครื่องเล่นอื่นๆ ก่อนได้สบายเลย แล้วค่อยกลับมาตอนเวลาที่นัดหมาย (มาแล้วให้เข้าช่อง fasspass ได้เลย คุณก็จะโด่งลิ่วไปก่อนหน้าใครได้สบายเลย แต่ถ้ามีคนใช้เยอะ คุณก็ต้องไปต่อแถวกับพวกใช้ fasspass ด้านในอีกที แต่ไม่นานหรอกครับ) หมายเหตุ : fasspass ไม่ได้ใช้ได้กันตลอดเวลานะครับ ให้สังเกตุด้านล่าง fasspass ที่ออกมา มันจะบอกว่า fasspass ครั้งต่อไป คุณจะใช้ได้ตอนกี่โมง ซึ่งถึงคุณจะเอาไปเสียบก่อนเวลาไม่ว่าที่ไหน คุณก็จะไม่ได้ fasspass ครับ แนะนำ : เลือกเครื่องเล่นที่อยากเล่นใน fasspass ก่อน ในแผนที่จะมีบอกว่าเครื่องเล่นไหนมีบริการ fasspass ครับ แล้วไปเสียบ fasspass แล้วค่อยไปเล่นอันอื่น (ตอนเช้าๆ เล่นของที่เค้าฮิตกันก่อน เพราะคุณมีเวลาต่อแถว) แล้วก็ทำอย่างนี้สลับกันไปเรื่อยๆ ถ้าเล่นจนเหนื่อยอยากพักสบายๆ ให้เลือกพักที่มีการแสดงครับ เย็นๆ ได้นั่งดูการแสดง เป็นการพักที่ได้เล่นเครื่องเล่นอีกแบบ ปล.ถ้าอยากถามอะไรเพิ่มจะอธิบายเพิ่มอีกทีครับ (กลัวเยอะเกินไปอ่ะครับเพราะแค่นี้ก็เยอะแล้ว) วันอังคาร... ไปเที่ยว ฮาโกเน่ นี่มันอีกจังหวัดนึงเลยนะครับ เดินทางค่อนข้างไกล ถ้าไม่ได้ไปกับทัวร์นี่ลำบากพอตัว ยิ่งมีเด็ก และไปกันเยอะด้วย แล้วไม่ได้ค้างอีกต่างหาก อันนี้ส่วนตัวผมไม่แนะนำนะครับ เพราะต้องเดินทางหลายต่อพอควร ที่ฮาโกเน่ก็ตรงบริเวณภูเขาไฟฟูจินั่นแหละครับ ถ้าไม่มีเวลาก็ไม่แนะนำให้ไปนะครับ และถ้าไม่ค้างคืนก็ไม่แนะนำให้ไปเช่นกัน แล้วยิ่งกลับมาที่ ไดบุสซึ คามากูระอีก นี่มันคนละทางกันเลยครับ คนละฝั่งฟากของโตเกียวเลย ฮาโกเนะ - ภูเขา(ภูเขาไฟฟูจิ) คามากูระ - ทะเล ?_? ผมแนะนำว่าไปคามากูระน่าจะง่ายกว่าครับ เพราะเหมาะสำหรับทริปวันเดียว เค้าจะมีแนะนำเส้นทางให้ รู้สึกจะรถไฟสายโอดาคิวไลน์ http://www.odakyu.jp/english/ ตรง Enoshima-Kamakura มันเป็นโปรโมชั่นนะครับ ซื้อตั๋วรถไฟไป FUJISAWA หรือ KATASE ENOSHIMA ไปกลับได้ 1 เที่ยว เสร็จแล้วต่อรถไฟ Enoden line (Enoshima Electric Railway (Enoden)) นั่นไปนั่งมากี่เที่ยวก็ได้ครับ รถไฟสายนี้เป็นรถไฟรางแบบเก่าครับ วิ่งเลียบทะเล คลาสสิคและสวยมากๆ ครับ เป็นเส้นทางยอดฮิตของญี่ปุ่น วิ่งไปวิ่งมาช้าๆ ใช้เวลาไปกลับต้นสายปลายสายสักประมาณ 45 นาที เห็นจะได้ ที่ ENOSHIMA จะเป็นชายหาด + เมืองริมชายหาดครับ ชายหาดไม่ได้สวยเหมือนบ้านเรา แต่ก็เล่นน้ำได้สนุกครับ (ไม่รู้หน้าที่ไปเขาให้เล่นน้ำหรือเปล่า) ตลอด Enoden line จะมีเมืองริมชายทะเลสวยๆ เยอะ แต่สถานที่ที่นักท่องเที่ยวลงมากที่สุดก็คือ HASE ที่จะมีพระไดบุซซึองค์ใหญ่ๆ นั่นแหละครับ เดินจากสถานนีไปไม่ไกลนัก อ้อ! โชว์บัตร Enoden line รู้สึกจะมีส่วนลดค่าเข้าด้วยนะครับ ไม่แพง ส่วน KAMAKURA สถานนีปลายทาง ก็จะมีเมืองตรงสถานีที่มีร้านรวงเก๋ๆ น่าสนใจอยู่เยอะทีเดียวครับ เดินสนุก แถบนี้ตรงสถานี HASE มีร้านราเม็งอร่อยๆ ชั้น 2 อยู่ร้านนึงครับ จำชื่อร้านไม่ได้แล้ว เหอเหอ แค่ที่ KAMAKURA ที่เดียว นี่ก็กระอักเลือดแล้วครับ เหอเหอเหอ แต่สามารถไปกลับวันนึงได้สบายๆ ครับ สนุกดีด้วยครับ การเดินทางจากโตเกียวถึง KAMAKURA ถ้าเป็นรถด่วน (ซึ่งต้องสังเกตสีอีกที น่าจะเป็นสีส้ม) ก็จะใช้เวลาประมาณ 1 ชม. กว่าๆ แต่ถ้าเป็นรถธรรมดาก็ราวๆ 2 ชั่วโมงกว่าๆ เห็นจะได้มั้งครับ แต่อย่าไปซื้อตั๋วรถด่วนพิเศษนะครับ อันนั้นดีเกินไป ไม่คุ้มกับการเดินทางใกล้ๆ แค่นี้ ใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมงก็จริง แต่จะเปลืองโดยใช่เหตุเอาน่ะครับ อีกอย่างตั๋วพิเศษนี้ก็ขึ้นได้เฉพาะรถพิเศษ แต่ตั๋วธรรมดาขึ้นรถได้ทุกคันทุกประเภทครับ ต้องดูสีและเวลาที่ออกให้ดี ดูรายละเอียดการเดินทางและราคาใน web ที่ให้ไปได้นะครับ กลับมาแล้วขอแนะนำให้พักผ่อนครับ เพราะมันเหนื่อยมากๆ วันพุธ... ไปโยโกฮาม่า ถึงไม่ไกลนัก ถ้าคนไม่เคยไปเที่ยวเลยนี่ก็ใช้เวลาวันนึงเต็มๆ เหมือนกันนะครับ เพราะโยโกฮาม่า มีอะไรเที่ยวเยอะเหมือนกัน เห็นขึ้นแค่โยโกฮาม่า ไม่รู้เหมือนกันว่าคุณอยากไปเที่ยวอะไรบ้าง หรือยังไม่รู้อะไรเลย คร่าวๆ ก่อนนะครับ โยโกฮาม่า ที่น่าสนใจและไปเที่ยวกัน -1.ราเม็งมิวเซี่ยม / แหล่งรวบรวมสุดยอดราเม็งอร่อยๆ จากทั่วญี่ปุ่น และตกแต่งร้านแบบโบราณเก๋ๆ -2.คอสโม่เวิร์ด+ห้างโดยรอบ / สวนสนุก(แนวเครื่องเล่นหวาดเสียว แต่ก็มีเครื่องเล่นธรรมดาด้วย+ชิงช้าสวรรค์สูงๆวิวสวยๆ+เดินห้างโดยรอบ เหมาะสำหรับคนชอบช้อป -3.china town / ของกิน+ของขายแนวจีนๆ แต่ไม่ค่อยเป็น street food แบบเยาวราชบ้านเรานะครับ -4.ไกลไปอีกนิดก็ พาราไดซ์ ซีเวิร์ด สวนสนุก+โชว์ปาโลมา ไปยากหน่อย อยากไปอะไรครับ ถ้าอยากไป 1-2-3 นี่ก็ใช้เวลาประมาณเกือบเต็มวันนะถึงจะคุ้มอ่ะครับ 2-3 นี่ไม่ไกลกัน รอบๆ แถวๆ นั้น รอบๆ สถานีโยโกฮาม่า เที่ยวสะดวกครับ 1 นี่ใกล้สถานี shin yokohama ซึ่งต้องนั่งรถต่อไปอีกหน่อย ใช้เวลาเกือบค่อนวันแล้วกลับมาต่อที่ Tokyo Tower ก็ได้ครับ ช่วงเย็นๆ ก็สวยมากเหมือนกัน ขึ้นไปด้านบนเสียคนละประมาณ 8 พันเย็น มั้งครับ (เด็กไม่แน่ใจ) ก็คุ้ม สมควรขึ้นไปอย่างยิ่ง แต่คนจะเยอะหน่อยครับ ส่วนชินจูกุเนี้ยะ มันเยอะ แล้วมันต้องเดินเยอะมันถึงจะสนุก ไม่แนะนำให้ไปวันนั้นหรอกครับ เพราะคุณจะเหนื่อยและขี้เกียจเดินเปล่าๆ เพราะมันมีหลายด้านมากที่ให้เดินรอบๆ สถานีรถไฟชินจูกุ ซึ่งเป็นสถานีที่ใหญ่มากๆ ในโตเกียว ส่วนพระราชวังอิมพีเรียลไม่เคยไปครับ ส่วนวันสุดท้าย ฮาราจูกุ กินซ่า ชิบูย่า รอปปุหงิ นี่แน่นเอี้ยดเลยครับ ไม่ใช่ว่าไม่ได้นะครับ แต่คุณจะไม่ไหวมากกว่า ขนาดผมไปตัวคนเดียวยังเดินเหล่านั้นให้หมดในวันเดียวไม่ไหวเลย อีกอย่างมันคนละที่กันเลยครับ คุณต้องนั่งรถไฟไปในแต่ละที่ด้วย บอกก่อน ฮาราจูกุ - เหมือนสยามบ้านเรา (บ้านเราเยอะกว่าด้วยซ้ำ) ของแนววัยรุ่นครับ ไปเดินเอาบรรยากาศหนุกๆ เนี้ยะได้ แต่เดินออกจากฮาราจูกุแล้วควรต่อไปด้วย โอโมเตะซานโด ใกล้ๆ กันน่ะครับ เป็นถนนของแบรนด์แนม ตึกสวยๆ คนเก๋ๆ เยอะ ของก็ผู้ใหญ่ขึ้นมาหน่อย เดินต่อกันได้เลย กินซ่า - ออกแนวไฮโซ มีร้านแบรนด์เนม แต่หรูมักๆ หรูจนเราไม่กล้าเข้าไปเองเลยครับ แต่เดินชมตึกสวยๆ งามๆ นี่ก็ได้ ไปเดินในห้างหรูๆ ก็ประมาณ พาราก้อน เอ็มโพเรี่ยม อ่ะครับ ถ้าชอบแบบนั้นก็โอเค ชิบูย่า - ออกแนวผสม มีร้านทั้งหรู ธรรมดา + แบบสยามสแควร์ ตามซอกซอย อันนี้สนุกถ้าคนชอบช้อป แนะนำให้ไปเย็นๆ เพราะคนจะเยอะและสนุกมากๆ โดยเฉพาะตรงแยกที่วุ่นวายที่สุดในโลก และร้านสตาร์บั๊คที่มีชื่อก้องโลก รอปปุหงิ - จริงๆ แล้วโซนนี้มีหลายอย่างน่าสนใจมากกว่าการช้อปนะครับ แต่ถ้าเรื่องช้อปนี่ก็จะมี 2 ตึก คือ รอปปุหงิ ฮิลล์ (roppongi hills) และ Tokyo Midtown แต่ 2 ที่นี่ประหนึ่งว่าเป็นห้างหรู แบรนด์ดัง คนจะออกแนวรวยผู้ดีนิดๆ แต่ทั้งสองที่ก็มี พิพิธภัณฑ์ gallery ที่น่าสนใจอยู่ด้วย แต่ถ้าชอบช้อปก็จะเป็นร้านแบรนด์แบบหรูๆ คนไทยอาจจะเดินไม่สนุก - กินซ่า > ฮาราจูกุ > ชิบูย่า อันนี้พอได้ - รอปปุหงิ > ฮาราจูกุ > ชิบูย่า อันนี้ก็พอได้ แนะนำ : กินซ่า (ไปเดินเอาวิวหนุกๆ) > ฮาราจูกุ-โอโมเตะซานโด > ชิบูย่า อันนี้ก็น่าจะสนุกนะผมว่า หรือ เช้า-บ่ายนิดๆ ชินจูกุ > บ่ายแก่ๆ-ฮาราจูกุ-โอโมเตะซานโด > เย็นๆ ค่ำๆ-ชิบูย่า อันนี้ก็น่าจะได้นะครับ อืมมมมมม ผมว่าข้อมูลอาจเยอะจนปวดหัวไปแล้วมั้ง โทดทีนะครับที่เยอะไปหน่อย แต่ถ้าอยากจะปรึกษาก็ถามได้นะครับ การแนะนำเส้นทางอาจจะต้องจากความต้องการก่อนถึงจะช่วยจัดเส้นทางได้ อันนี้ก็คร่าวๆ และคอมมเม้นส่วนที่คุณพูดมาอ่ะครับ ขอบคุณมากครับ จากคุณ : fastfolk - [ 10 ก.พ. 52 14:27:20 ]

ความคิดเห็นที่ 3 สวนอุเอโนะช่วงซากุระบานถ้าวันหยุดคนเยอะมากครับ เอารถเข็นไปพร้อมเด็กเล็กไม่น่าจะสะดวกเท่าไหร่ อีกอย่างผมว่าวันที่ 22 น่าจะยังบานไม่เต็มที่นะครับ น่าจะเลื่อนมาซักวันพุธหรือพฤหัสจะดีกว่า วันอาทิตย์ไปเดินฮาราจูกุจะมีสีสันกว่าด้วย แต่ก็คนเยอะเหมือนกัน ส่วนโยโกฮาม่าแวะวันในที่ไปคามคุระดีกว่า เป็นทางผ่านอยู่แล้ว จากคุณ : ลาบราดอร์สีดำ - [ 10 ก.พ. 52 15:44:16 ]

ความคิดเห็นที่ 4 คุณfastfolk  ข้อมูลเยอะมาก ๆ เลยค่ะ ^^ อยากฝากเจ้าของกระทู้ค่ะ ตอนอยู่บนเครื่องพยายามนอนให้มากที่สุด โดยเฉพาะน้องตัวเล็ก ถ้าอยู่บนเครื่องแล้วไม่ได้นอน พอมาถึง ห้องก็เช็คอินไม่ได้ ต้องออกไปเที่ยวทั้งที่ง่วง ๆ จะไม่สนุกนะคะ จากคุณ : Ssachiy - [ 10 ก.พ. 52 15:44:27 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ลองเทียบดู นี่ตอนวันเสาร์นะครับ จากคุณ : ลาบราดอร์สีดำ - [ 10 ก.พ. 52 15:53:01 ]

ความคิดเห็นที่ 6 นี่วันจันทร์ จากคุณ : ลาบราดอร์สีดำ - [ 10 ก.พ. 52 15:53:24 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เดินทางช่วงเดียวกันครับ Trip ผม 25 มีนาคม ถึง 1 เมษายน Tokyo - Nikko - Hakone เท่าที่ผมรู้ และเคยไปนะครับ..... วันแรก ถ้าจาก  Narita นั่งรถด่วน Keisei skyliner มาลงที่สถานี Keisei Ueno เร็ว และสะดวกครับ  ถึงโรงแรมน่าจะประมาณ เกือบๆ 10 โมง ถ้าเดินเล่น Ueno park และ Zoo แถมด้วย museum ผมว่าถ้าจะดูให้ทั่วใช้เวลาทั้งวันเลยครับ...แต่ก็พอจะทัน เสร็จทั้งหมดคงราว 16:00 แล้วเข้า check in ที่พักก่อนก็ได้ แล้วค่อยนั่งใต้ดินสาย Ginza ไปลง Asakusa ซึ่งก็จะเป็นช่วงเย็นๆแล้ว เข้าวัด เดินดูของ เสร็จก็คงจะเย็น 5-6 โมง ทานข้าวแถวนั้นเลยก็ได้........ส่วน Akihabara คงไม่ทันหละครับ แนะนำ สำหรับ Akihabara ให้นึกก่อนว่าจะซื้ออะไร เวลาไปก็เดินเช็คราคาเทียบแต่ละร้าน...ให้ถามเรื่อง tax refund ด้วย (ใช้ passport) จะใช้เวลาไม่นาน......ถ้าเดินแบบไม่มีจุดหมาย ดูไปเรื่อยๆนี่ นานแน่ครับ วันที่ 2 Disneyland แนะนำว่าออกจากโรงแรมแต่เช้าครับ....7 โมง จาก Ueno มีทางไปถึงสถานี Maihama (Disneyland) ที่เร็วสุด คือ นั่งรถใต้ดินสาย Hibiya (H17) ไปลงสถานี Hatchobori (H11) แ้ล้วเปลี่ยนรถเป็น สาย JR Keiyo ไปลง Maihama ถึง Disneyland ราวๆ 8 โมง ได้ไม่ยาก (รวมเวลาเดิน และเปลี่ยนรถด้วย) วันที่ 3 Hakone อันนี้ไม่เคยไปนะครับ....แต่ดูจากที่เที่ยวแล้ว คิดว่า Day trip แบบไม่ค้างคืนคงพอจะได้ แต่เหนื่อยมาก ต้องตื่นเช้า ออกจากโรงแรม 7 โมง เดินทางด้วยรถไฟสาย Odakyu (ซื้อเป็นตัวแบบ Hakone free pass จะคุ้ม) แนะนำว่าถ้าจะให้ดีควรจะค้างซัก 1 คืน แช่ Onsen ไปด้วย วันที่ 4 Kamakura - Kamakura มีวัดและศาลเจ้าเยอะอยู่ครับ....ถ้าจะดูให้ทั่วก็ทั้งวัน....แต่ถ้าจะดูแค่ Daibutsu กับวัดอีก 2 แห่งผมว่าครึ่งวันก็ได้ (ออกจากที่พัก เช้าๆ) กลับมาถึง Tokyo ช่วงบ่ายๆ ก็อาจจะไปซื้อของที่ Akihabara แล้วก็กลับมาเดินตลาด Ameyoko ที่ใกล้ๆกับสถานี Ueno ก็ยังได้ หรืออีกทางเลือกนึง คือ อาจจะไป Tokyo tower ช่วงเย็นๆ ค่ำๆ วันที่ 5 Yokohama ผมไม่เคยไปครับ แต่ดูจากโปรแกรม ค่อนข้างแน่น...และเดินทางเยอะ....คิดว่า ถ้าจะไป Yokohama ก็จัดไปวันนึงเลยครับ กลับมาโตเกียวช่วงเย็นๆ ค่ำๆ ไปเดินย่าน Shinjuku ถ้าเน้นเดินเอาบรรยากาศ แนะนำว่าทางแถบ East shinjuku จะเดินง่ายครับ ออกจากสถานี เดินไปตาม Shinjuku dori จนถึงห้าง Isetan แล้วเลี้ยวซ้ายเดินไปจนถึงแยกที่ตัดกับ Yasukuni dori แล้วเลี้ยวขวา เดินตามถนนมาเรื่อยๆ เลี้ยวซ้ายก่อนถึงแยกทีมีรถไฟตัดข้ามหัว จะไปโผล่ตรง Studio alta และหน้าสถานี JR shinjuku ฝั่งตะวันออก วันที่ 6 แนะนำอย่างนี้ครับ เริ่มที่ Harajuku เดินมาตามถนน  Omotesando แล้วมาขึ้นรถใต้ดินสาย Ginza มาลง Shibuya หมดนี่ก็ช่วงเย็นๆแล้วครับ แล้วค่อยไปดูบรรยากาศ + dinner ที่ Roppongi Hills หรือ Tokyo midtown ------------- เท่าที่ดูจะเหลือ Imperial palace แก้ไขเมื่อ 10 ก.พ. 52 17:16:55 จากคุณ : CLK BRABUS - [ 10 ก.พ. 52 16:21:51 ]

ความคิดเห็นที่ 8 HARAJUKU ยังไงก็ต้องไปวันอาทิตย์ครับ  จะบ่ายหรือเย็นก็ได้  เพราะไฮไลท์ที่คนไปดู คือ วัยรุ่นญี่ปุ่น  ตรงสะพานจะมีวัยรุ่นแต่งตัวหลุดโลกมายืนโชว์กัน  พร้อมทั้งมีประเภทให้กอดฟรี  ข้างๆ มีสวนสาธารณะที่จะมีวัยรุ่นมาแสดงดนตรีเพรียบ  ถ้าคุณไปวันอื่นก็จะไม่ได้เห็นสิ่งที่เป็นเสน่ห์ของ HARAJUKU  เหมือนคุณเดินในย่านชอปปิ้งทั่วๆ ไป   เที่ยวสวนสัตว์อย่าลืมแวะชมช้างไทยนะครับ  น่ารักครับ  ดูว่าช้างจะมีชีวิตชีวากว่าช้างที่เลี้ยงในเมืองไทย  คนดูแลจะแสดงการทำความสะอาดตัวช้าง  บอกให้ช้างยกเท้าขึ้นมาแล้วกวาดเท้าช้างให้สะอาด  ดูว่าช้างไทยแสนเชื่องและน่ารักมาก จากคุณ : EMBOI - [ 10 ก.พ. 52 18:44:02 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ขอบคุณทุกข้อความที่ปรับแผนทริปให้จะไปลองจัดตารางใหม่แล้วเอามาให้ช่วยดูกันอีกรอบนะคะ ขอบคุณจริงๆค่ะ จากคุณ : ไส้สอด - [ 11 ก.พ. 52 07:54:06 ]