สวัสดีครับ พี่ๆน้องๆ เพื่อนๆ ชาว BP
หลังจากกลับมาจากญี่ปุ่นก็มัวแต่ยุ่งเรื่องนุ้นเรื่องนี้ ทั้งเรื่องของตัวเองและคนอื่น พึ่งจะมาว่างก็สองสามวันนี่เอง
กระทู้ในพันทิป ยังไม่ได้เข้ามาอ่านเลย เข้ามาดูอีกที่ กระทู้คุณหนุ่ม ปล่อยออกมาหลายกระทู้ละ เดี่ยวตามไปแจกกิฟ แล้วตามไปอ่านทีหลัง ไม่ว่ากันนะครับ (^_^)
ต้องขอโทษเพื่อนๆที่ถามมาทางหลังบ้านด้วย ผมตอบกลับไปให้แล้วนะครับ
ส่วนคนที่อยากรู้ว่า ผมไปญี่ปุ่น ครั้งนี้ 17 วันหมดไปเท่าไหร่ ขอตอบอย่างเศร้าๆว่า ประมาณ แสนกว่าๆครับ ขนาดตัดค่าความไร้สาระ และการช๊อปปิ้งออกไปแล้น ก็ยังเกินแสน
งานนี้เศร้า เกินงบที่คาดไว้ ตอนนี้เลยพยายามซื้อโอนามิ มารัดเอวตัวเอง ให้กินน้อยๆ จะได้ไม่เปลือง ข้าวฟรีที่ไหนมี ก็ไปแจมกินกับเค้า
ไม่งั้นทริปยุโรปที่วางเอาไว้มีอันเป็นต้องล่มแน่นอนหละที่นี้
เอาหละครับ ในเมื่อผมจะพยายามรวบรัดตัดความ ให้การเที่ยวครั้งนี้จบในกระทู้นี้ ก็จะพยายามไม่นอกเรื่อง ความจริงอยากเล่าแบบละเอียดๆ ลงรูปเยอะๆ แต่ ผมคิดว่า ญี่ปุ่นมีคนรีวิวเยอะ เที่ยวง่าย ไม่น่ามีปัญหา ยิ่งทริปหน้าหนาวนี้ มีคนไทย ไปเที่ยวพอควร น่าจะมีคนมารีวิวไว้อีก ผมแค่เอารูปแล้วก็ประสบการณ์ของผมมาแชร์
เพื่อนๆคนไหน ได้ไปเที่ยวที่เดียวกับผม (หรือคนละที่) เอารูปมาแบ่งปันก็ได้นะครับ โพสให้เพิ่อนๆคนอื่นได้ดูด้วย
อีกเรื่องหนึ่งคือ ผมจะเริ่มเข้าสู่ความเครียด เนื่องจากว่า ต้องเริ่มจริงจังกับการอ่านหนังสือแล้น เพราะว่าผมมีแพลนจะไปเรียนต่อที่อเมริกาเร็วๆนี้ หลังจากอ่านๆหยุดๆมานาน จนโปรเพสเซอร์ที่เคยไปเรียนด้วยครั้งก่อนแกเริ่ม ท้วงๆมาบ้างแล้ว ว่าตอนนี้ ยูทำอะไรอยู่ไปถึงไหนแล้ว (ผมส่งรูปที่ผมไปเที่ยว แล้วทำเป็นการ์ดไปให้แก แกคงรู้ว่าผมเที่ยวเยอะ เลยเตือนๆมา) งานนี้เลยคิดว่า ช่วงหลังๆ อาจจะไม่ค่อยได้เข้ามาโพสกระทู้เป็นซีรีย์แบบที่ โพสในกระทู้เที่ยวยุโรป เลยคิดว่าจะรวบรัดทริปญี่ปุ่นไปเลย
ทริปนี้ ผมแพลนไว้ 17 วันอย่างที่หัวข้อกระทู้บอก
เพื่อนๆที่ไม่เคยอ่านกระทู้ของผมมาก่อนอาจจะงง ว่าทำไมผมไปเที่ยวนานๆได้ ทั้งๆที่เป็นหมอ งานน่าจะยุ่ง
ก็บอกกันอีกทีว่า ผมโชคดี ที่งานของผม ทำแค่ 20 วันต่อเดือน ผมมีวันหยุด 10 วันทุกเดือน 120 วันต่อปี (อิจฉามะ) แล้วก็เลือกได้ว่าจะหยุดช่วงไหน
ผมจบเฉพาะทางแล้ว แต่ตอนนี้ทำงานเป็นหมอทั่วไป เพราะว่าคิดว่าทำได้ง่ายกว่า ความรับผิดชอบน้อยกว่าแพทย์เฉพาะทาง แล้วที่สำคัญวันหยุดเยอะกว่า(แม้ว่าเงินอาจจะน้อยกว่าทำงานเฉพาะทาง) เพราะตอนนี้บอกตรงๆว่า ปลื้มกับการท่องเที่ยว การได้เห็นโลกกว้าง มากกว่าการมองดูตัวเลขในธนาคารวิ่งปรู๊ดๆ (วันก่อนมีคนไข้มาจากชิลี เล่าให้ฟังว่าหยุดงานแล้วก็เที่ยวมาเรื่อยๆ ตั้งแต่มีนาคม ปีที่แล้วกำลังจะหมดทริป เดือนมีนาคมนี้ ผมก็ตื่นเต้นถามเค้าเรื่องการท่องเที่ยว แกบอกผมว่าสถานที่ที่เค้าชอบมากที่สุดคือ มาชูปิชู ที่เปรู ผมตาลุกวาวเลยครับ เอาหนะ ถ้าได้ไปเรียนอเมริกา การไปเปรู คงง่ายกว่านี้ เอาเก็บไว้ก่อน)
ผมทำงานในโรงพยาบาลมีชื่อแห่งหนึ่ง(แน่นอนทุกรพ.ต้องมีชื่อ) เป็นรพ.เอกชน (ผมอาจจะไม่ใช่หมอที่อยู่ในอุดมคติของใครหลายๆคน ไม่สามารถทำงานหนักๆ เพื่อปวงชน ในรพ.รัฐบาลได้)
ที่ไม่อยากบอกรพ. ไม่ได้กลัวว่าเพื่อนๆจะแห่มาใช้บริการ แต่ว่ากลัวว่าถ้าผอ.ผมเป็นแฟน ห้องบลูฯ เหมือนกัน แกอาจจะตัดวันหยุดผมได้ (^_^)
ทริปนี้ ความจริงผมตั้งงบไว้ประมาณ 80,000 บาทคร้บ คิดว่าคงไม่เกินนี้ เพราะว่าจะไปสิงอยู่กับเพื่อนหลายวัน คงไม่เปลือง แต่เอาเข้าจริงๆ ก็รู้ว่าทำไม่ได้ เพราะว่า เรื่องกินหนะเรื่องใหญ่ แล้วไปแต่ละทีก็ไม่เคยอดกลั้นได้เลย
คร่าวๆนะครับ
บินจากกรุงเทพ ไปลง คันไซ เพราะอยากไปหาเพื่อนที่ โอซาก้า แล้วก็ไปซื้อของเตรียมตัวไป ชิราคาวาโกะ แล้วยิ่งได้ดู สารคดี ของ NG เรืองการสร้างสนามบินคันไซ ก็สนใจมาก อยากไปเยือนสักครั้ง
หลังจากวันแรก ใช้เงินใช้ทองกับการช๊อปปิ้งเพื่อเตรียมร่างกายให้พร้อมแล้ว
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E7457683/E7457683.html
ก็ได้เวลาบุก ชิราคาวาโกะ(ครั้งที่สอง ครั้งแรกไปตอนเมษา ไม่ค่อยมีหิมะแล้น) เดินทางด้วย โนบิบัส ที่เพื่อนเลิฟ โทรไปจองให้
ตื่นเต้นประทับใจ และหนาวเหลือเกิน
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E7469050/E7469050.html
ทำให้นึกได้ว่า เคยมาเยือนที่นี่แล้ว แต่บรรยากาศต่างกัน
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E7472733/E7472733.html
หลังจากนั้นไปตะลุยเที่ยว สวนสวยทั้งหลายในญี่ปุ่น
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E7481317/E7481317.html
ก่อนไปซับโปโร่ด้วยเจ้า โนบิโนบิ ผมก็ยังไปทดสอบความทนหนาวของตัวเองที่ ซาโอะ
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E7493006/E7493006.html
แล้วก็มาจบกระทู้ล่าสุดด้วยการ เดิน ดื่ม กิน เที่ยว ที่ซับโปโร่กับเพื่อนเลิฟ แถมด้วยการไปเยือนสวนสัตว์ที่เค้าว่ากันว่า ดีที่สุดในญี่ปุ่น
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E7493338/E7493338.html
เอาหละครับ ต่อจากนี้ ผมเล่าคร่าวๆเลยว่า ผมก็เดินทางด้วยรถไฟ ไปที่ Abashiri ตั้งใจไปล่องเรือตัดน้ำแข็ง ทั้งๆที่ตอนนั้นเช็คจากเวปไซส์ที่คุณพี่ SkyBox แนะนำมาแล้นว่าอาจจะไม่มีน้ำแข็ง แต่ก็อยากไปอยู่ดี
เพื่อนแนะนำให้นั่งรถไฟ(เจ้ารูปข้างล่างนี่แหละครับ) ไปเที่ยวต่อ ที่ ชิเรโตโกะ งานนี้ได้นั่งกินลมชมวิวสวยๆ สบายใจมากๆเลยครับ
กลับมาเที่ยวงานเทศกาลหิมะที่ซับโปโร่ แล้วไปต่อที่ โอตารุ
ได้เวลาจากเพื่อนแล้น เดินทางมุ่งหน้าสู่โตเกียว ด้วยฮามานัทสุ แต่คราวนี้ได้นั่งครับ ที่นอนเต็มแล้น
แวะเที่ยวเซนได ไปมัตซูชิม่า โชคดีที่อากาศสดใส ไปเจองานเทศกาล หอยนางรมพอดี อร่อยมากกกกกกกกกกกกกก
เวลายังเหลือ โลภมาก เลยแวะไปเที่ยวที่ Yamadera รู้จักกันไหมเอ่ย???
กะจับชินคันเซนเข้าไปกินข้าวเย็นกับเพื่อนที่โตเกียว แต่งานนี้ ความหนาว และลมแรงทำพิษ ทำผมติดอยู่ที่สถานีเซนไดตั้งนาน
เอาหนะมาญี่ปุ่นตั้งหลายครั้ง โชคดีเจอชินคันเซนดีเลย์บ้าง ไม่ใช่ปัญหา
วันสุดท้าย นัดเจอเพือนคนไทย ที่โตเกียว ช๊อปส่งท้ายไม่ลืมหูลืมตา
เกือบหน้ามืดสอย กระเป๋าหลุยมาแล้ว หนึ่งใบ โชคดี ที่ยังยับยั้งตัวเองไว้ได้(เพื่อนหนะยุสุดๆ เลย)
แก้ไขเมื่อ 19 ก.พ. 52 09:38:35