ความคิดเห็นที่ 1 จากคนที่เคยไปมาเมื่อวันที่ 7-9 ที่ผ่านมานะคะ สามวัน สองคืน ก็น่าจะเพียงพอแล้วค่ะ อันดับแรกเลยนะคะ ต้องเข้าเว็บของอุทยานภูกระดึงเพื่อจองเต๊นท์ หรือบ้านพักค่ะ จากนั้นปรินท์แล้วไปจ่ายตังค์ เก็บหลักฐานไว้ให้เจ้าหน้าที่ดูในวันขึ้นด้วยนะคะ ห้ามหายนะคะเด๋วไม่ได้ขึ้น ส่วนการเดินทางนั้นให้นั่งรถที่เข้าจังหวัดเลยนะคะ เพราะว่าจะต้องลงป้าย "ผานกเค้า" ค่ะ จากนั้นเดินข้ามถนนมาฝั่งตรงข้าม จะมีที่ขายตั๋วกลับ กทม. แต่น่าจะมีจอดโคราชด้วยแหละ และมีร้านขายข้าว ควรกินก่อนขึ้นภู แต่ขอบอกว่าราคาแพงมาก ข้าวราดแกง สองอย่าง 35 แน่ะ แพงมหาโหด ทั้งที่ไม่ได้แบกของขึ้นเขานะเนี่ย ต่อๆๆๆ และไกล้ๆกะร้านขายข้าวจะมีรถสองแถวสีแดงวิ่งไปส่งที่อุทยานโดยเฉพาะ ค่ารถไม่ทราบเพราะไปรถส่วนตัวค่ะ พอเรามาถึงอุทยานตีนภูแล้วก็ เดินเรื่องจาก จุด 1-4 เลยค่ะ คือเอาใบจ่ายตังค์ของเราไปยื่นกะเจ้าหน้าที่ที่จุด 1 แล้วไปลงชื่อรับบัตรผ่าน พร้อมกับระบุว่าจะเอาใบประกาศพิชิตภูกระดึงที่จุด 2 อ้อ จุดนี้ต้องแจ้งว่าเรานำขยะขึ้นไปกี่ชิ้นด้วยเน้อ พร้อมค่ามัดจำขยะ น่าจะ100 บาท จากนั้นไปจุดต่อไป คือชั่งของที่จะจ้างลูกจ้างหาบ ราคากิโลกรัมละ 15 บาท จุดสุดท้ายคือให้บัตรผ่านและเก็บหางบัตรไว้เป็นที่ระลึก อ้อ จุดนี้มีป้าย "ครั้งหนึ่งในชีวิต ขอพิชิตภูกระดึง" ด้วยจ๊ะ ถ่ายรูปไว้ด้วยก็ดีจ๊า จากนั้นก็เดินขึ้นภูไปโลด สิ่งของติดตัวควรมีแต่น้ำขวดเล็ก ยาดม กะลูกอม เสื้อผ้าเบาๆ เสื้อยืด กางเกงขาสั้น รองเท้าหุ้มส้น ห้ามผ้าใบเด็ดขาด!! ทางผ่านก็จะมีที่แวะพักและของกินเพียบไม่ต้องกลัวอดตาย อิอิ ระยะทางขึ้นเขาทั้งสิ้น 5.5 กิโล ก็จะถึงหลังแปแล้วเดินต่อไปตามทางราบประมาณ 3 กิโลเมตรตรงนี้จะร้อนมาก เราเอาร่มไปกางด้วยแหละ มีแต่คนอิจฉาเป็นแถวเพราะร้อนจัด พอถึงที่พักปุ๊บ ก็ไปทำเรื่องเช่าถุงนอน ผ้าห่ม หมอน อย่าลืมเบาะรองนอนด้วยนะจ๊ะ เพราะพื่นมันเย็น จากนั้นก็ไปเลือกเต็นท์ตามราคาที่เช่าไปได้ตามโลเกชั่นที่ชอบ ทางที่ดีเอาไกล้ห้องน้ำด้วยก็ดี เพราะเผื่อปวดกลางค่ำกลางคืน มันมืดมากนะเออ พอจัดการเรื่องที่พักได้แล้วก็ไปรอรับของจากลูกหาบ ระหว่างรอก็ไปนอนหลับ พักผ่อนก่อนก็ได้เพราะรอนานมาก ตื่นมาปุ๊บประมาณเกือบห้าโมงเย็นให้ไปดูพระอาทิตย์ตกดินที่ผาหมากดูก มีแผนที่ขายสิบบาทจ๊ะ หรือดูป้ายเอาก็ได้ ไม่หลงแน่นอน เคลิบเคลิ้มกับพระอาทิตย์ตกดินกันเต็มที่ อากาศก็จะเริ่มหนาวเย็นขึ้นมาทันที ควรเตรียมเสื้อหนาว กะหมวกไปด้วย ขากลับจะมืดมาก อย่าลืมไฟฉาย ช่วงนี้จะน่าเบื่อมากควรหากิจกรรมทำระหว่างทาง เราเดินไปต่อเพลงไปกะแฟน แป๊บ เดียวถึงที่พัก อิอิ ถึงที่พักก็ควรรีบอาบน้ำทันที เพราะไม่งั้นจะอาบไม่ได้ มันจะหนาวววววว และรีบไปทานข้าวก่อนสามทุ่มเพราะจะปิดไฟ อ้อ ที่ร้านข้าวมีกีตาร์ให้เช่าด้วยนะ หนังสือเพลงด้วย เป็นอันจบทริปวันแรก แก้ไขเมื่อ 18 ก.พ. 52 15:15:58 จากคุณ : Piky_Za - [ 18 ก.พ. 52 14:46:19 ]

ความคิดเห็นที่ 2 วันต่อมา ตื่นแปดโมง จัดการอาบน้ำ ทานข้าวให้เรียบร้อย และเริ่มเดินค่ะ วันนี้จะเดินระยะทางประมาณ 20 กิโลเมตร เริ่มจากน้ำตกวังกวางเป็นที่แรก และเดินตามแผนที่โลด จำชื่อน้ำตกไม่ได้ ช่วงนี้จะเป็นช่วงทัวร์น้ำตกค่ะ อันที่จริงหน้านี้ไม่มีน้ำแล้ว จะมีแต่กองหิน กะเมเปิลเขียวค่ะ แต่ระหว่างทางก็จะมีดอกไม้ ต้นไม้ที่เราไม่เคยเห็น คุ้มที่จะเดินค่ะ บางทีอาจจะเจอกวางมาเดินเล่นก็ได้ กวางที่นี่น่ารักค่ะ ออกจากน้ำตกแต่ละแห่งมาได้ก็เหนื่อยแล้วค่ะ ควรห่อข้าวเที่ยงมาด้วยไม่งั้นหิวตายแน่ๆ  แล้วไปกันต่อเลยที่สระอโนดาต ตามแผนที่เลยนะคะ ควรเดินช้าๆ ชมวิวให้อิ่มๆนะคะ เพราะเราจะเดินไปผาหล่มสักเพื่อดูพระอาทิตย์ตกดินที่ผาหล่มสัก เพราะที่นี่เป็นไฮไลท์ของภูกระดึงเลยค่ะ ไปไม่ถึงผาหล่มสักเท่ากับไปไม่ถึงภูกระดึง พอไปถึงผาหล่มสักก็ไปต่อคิว ถ่ายรูปกะหินที่งอกออกมาจากผาค่ะ วิวสวยมากๆๆ จากนั้นรอดูพระอาทิตย์ตกดิน หรือว่าจะเดินเลาะผากลับมาทางที่พัก และดูพระอาทิตย์ตกดินระหว่างทางก็ได้ค่ะ เพราะว่าขากลับจะเดินเลียบผา ขากลับก็จะมีผาต่างๆให้แวะถ่ายรูป และมีร้านขายของด้วยค่ะ เป็นอันว่า วันที่สองจบลงที่ทัวร์น้ำตก กับผาทั้งหมดค่ะ จากคุณ : Piky_Za - [ 18 ก.พ. 52 14:53:45 ]

ความคิดเห็นที่ 3 วันที่สามวันนี้จะไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ผานกแอ่นจ้า ให้ตื่นแต่ตีห้า ล้างหน้าแปรงฟัน แล้วไปรอเจ้าหน้าที่นำทางที่สาธง จากนั้นเดินไปกันเลย ระยะทางเกือบสองโลจ้า ถึงปุ๊บก็จับจองที่นั่งเฝ้าพระอาทิตย์ขึ้น อ้อ ที่นี่จะมีโอวัลติน กาแฟ ขนม ขายด้วยน้า แก้วละ 20 จ๊ะ พระอาทิตย์จะขึ้นประมาณ 6.45 น. ต้องรีบถ่ายรูปก่อนที่ดวงอาทิตย์จะแสงจ้า เดี๋ยวไม่สวยจ้า จากนั้นเดินกลับที่พัก ระหว่างทางจะมีทางแยกไปลานพระพุทธรูปด้วย เป็นลานหินกว้างๆและมีพระพุทธรูป น่าศรัทธามากๆ แล้วก็กลับที่พัก เก็บของ คืนของ อ้อ ถ้าขากลับต้องการจะใช้บริการลูกหาบก็ต้องแจ้งที่ศูนย์ก่อนวังลงภูหนึ่งวันนะจ๊ะ ขากลับอย่าลืมถ่ายรูปกะป้าย "ครั้งหนึ่งในชีวิตเราคือผู้พิชิตภูกระดึง" นะจ๊ะ เพื่อประกาศศักดาว่าเคยมาแว้ววว จากคุณ : Piky_Za - [ 18 ก.พ. 52 15:00:43 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ที่พูดมาทั้งหมดเป็นทริปสามวันสองคืนจ้า เดินทั้งหมด 44 กิโลเมตร ส่วนถ้า จขกท. ต้องการไปสี่วัน เราคิดว่าที่เที่ยวมันหมดแล้ว นอกจากจะเป็นป่าปิด ซึ่งเค้าไม่ให้เข้าไป ต้องติดต่อเจ้าหน้าที่ แต่ต้องเป็นหมู่คณะ สองคนไม่แนะนำจ้า เพราะว่าระยะทางมันไกลและโหดมาก ควรไปช่วงวันหยุด เพราะจะมีเพื่อนเดินเยอะ ปลอดภัยด้วย เนื่องจากเวลาเดินตอนกลางคืนมันวังเวงถ้าคนน้อย คราวหน้าเราจะไปทัวร์ป่าปิดค่ะ หลงเสน่ห์ภูกระดึงสะแว้ว ขอให้สนุกนะคะ จากคุณ : Piky_Za - [ 18 ก.พ. 52 15:04:04 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ลองดูใน blog ของผมดูนะครับ เขียนไว้นานแล้ว ***** tex ***** จากคุณ : [[[tes]]] - [ 18 ก.พ. 52 15:05:32 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เราก็ไปวันเดียวกับคุณ Piky_Za เหมือนกันค่ะ แต่ขอตอบไม่เหมือนกันบ้างแล้วกันนะคะ เอาไว้เป็นทางเลือก เราว่า ถ้าเป็นช่วงก่อนหน้านี้ 3 วัน 2 คืนเที่ยวไม่หมดค่ะ (ช่วงหน้าหนาว) แต่ถ้าเป็นตอนนี้ 3 วัน 2 คืน ก็พอ เพราะบางที่ เราก็ไม่ไป อย่างเช่นพวกน้ำตก เดินเข้าไปแล้วก็แบบ งอนค่ะ ไม่มีน้ำ เดินเหนื่อยแทบตาย น้ำหยดติ๋งๆ 555+++ เอาตั้งแต่ที่ร้านเจ๊กิมเลยนะคะ เราแปลกใจว่าทำไมค่ารถแพงกว่าขากลับ ขาไปเราซื้อตั๋วที่หมอชิต ไม่ได้จอง รถแอร์เมืองเลย ป.1 ราคา 358 บาท ไปถึงร้านเจ๊กิม จองตั๋วกลับ ราคา 412 บาท ( แถมมารู้ตอนกลับว่าเป็นรถ 2 ชั้น เบาะแคบมาก นั่งไม่สบายเลย ) แนะนำให้จองตั๋วทั้งขาไปและกลับดีกว่าค่ะ กาแฟสดร้านข้างๆ อย่าไปกิน เสียดายตัง (ไม่อยากจะบอกว่าแย่แค่ไหน ) ข้าวร้านเจ๊กิม แพงมากกกกกกกกกกกกก....นึกว่ากินในห้าง 555+++ นี่ขนาดไม่ต้องจ้างลูกหาบนะเนี่ย นั่งสองแถวไปลงที่อุทยาน ของเราไม่ค่อยสนใจเรื่องใบประกาศน่ะคะ เลยเดินไปติดต่อลูกหาบเลย เรามีสัมภาระ 2 ชิ้น คือเต๊นท์กับเป้ใบใหญ่ใส่เสื้อผ้า 2 คนกับแฟน ต้องซื้อบัตรห้อยสัมภาระ 2 ใบ ใบล่ะ 2 บาท เสร็จแล้วไปชั่งของ เต๊นท์หนัก 3 โล กระเป๋า 7 โล รวมแล้ว 10 โลพอดี ยังไม่ต้องจ่ายเงิน ไปจ่ายข้างบนตอนได้กระเป๋าแล้ว เรื่องถ่ายรูป ก็ตามสะดวก จะเอามุมไหน หลืบไหน ตามใจเลย อ่อ....แวะไว้ เอ่อ...น่าจะเป็นศาลพ่อปู่ภูกระดึง หรือศาลเจ้าอะไรซักอย่างด้วยก็ดีนะคะ เพื่อความเป็นศิริมงคล จากนั้นก็เดินๆๆๆๆ ก้มหน้าก้มตาเดินอย่างเดียวเลยค่ะ ของสำคัญที่ขาดไม่ได้ ในตอนเดิน สำหรับเรานะคะ 1. เคาน์เตอร์เพน 2. น้ำขวดใหญ่ ขวดลิตรไปเลย คนล่ะขวดกับแฟน 3. ผ้าขนหนูผืนเล็ก (ไว้ซับเหงื่อ) 4. กระเป๋าใบเล็กๆ เอาไว้ใส่กระเป๋าตัง,มือถือ ของกินมีตลอด เหมือนที่คุณ Piky_Za บอกไว้ อะไรที่เหมือนกับของคุณPiky_Za ขอไม่พิมแล้วกันนะคะ เดี๋ยวจะยาวเกิน เอาเฉพาะที่แตกต่างแล้วกัน จากคุณ : เบื้องหลัง นางมารร้าย - [ 18 ก.พ. 52 16:08:41 A:125.25.52.180 X: TicketID:187905 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เราว่าเอาเต๊นท์ไปเอง จะดีกว่า เราคิดๆดูแล้ว จ่ายน้อยกว่า ลองเปรียบเทียบ เช่าเต๊นท์อุทยาน 225 บาท/คืน นอน 2 คืน = 450 บาท เอาเต๊นท์ไปเอง ค่าลูกหาบ 3 โล 45บาท ทั้งขาไปและกลับ ค่าหาบ 90 บาท ค่ากางเต๊นท์ 30บาท/คน/คืน นอนกัน 2 คน 2 คืน 120 บาท รวมแล้ว 210 บาท 450-210 บาท เหลือไว้กินนมบนภูได้อีก 240 บาทแน่ะ อีกอย่างเต๊นท์อุทยาน แจ้งว่านอนได้ 3 คน แต่เราว่า นอน 2 คน + สัมภาระก็แน่นแล้ว เราเอาเต๊นท์ไปเอง เต๊นท์ใหญ่สำหรับ 6 คน เรานอนกัน 2 คน กลิ้งไปกลิ้งมา สบายยยยยยย อาหารข้างบนอุดมสมบูรณ์ คิดดู อยู่บนภูยังมีหมูกระทะ จิ้มจุ่มกิน 5555++++ ค่าอาหาร หลายคนบอกแพง....แมร่งบ้า ไม่เห็นตอนเขาหาบขึ้นไปรึไง ลำพังตัวเราเอง จะแบสังขารขึ้นไปได้นี่ก็ปางตายแล้ว ถ้าคิดว่าแพง ก็หาบกันขึ้นไปเองสิฟะ...(โมโหอะไรเนี่ย...) ก่อนนอน อย่าลืมกินยาคลายกล้ามเนื้อ อันนี้สำคัญมาก ช่วยได้เย๊อะเลย สำหรับการเดินทางวันพรุ่งนี้ จากคุณ : เบื้องหลัง นางมารร้าย - [ 18 ก.พ. 52 16:15:50 A:125.25.52.180 X: TicketID:187905 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เคาน์เตอร์เพน อย่าเอาแบบ cool ไปเชียวนะ ตอนเราไปแฟนเราเอาแบบ cool มา ไอ้บร๊าเอ๊ยยยย...กลางคืน 8 องศา.....ทาเค๊าน์เตอร์เพนคูล....นอนสั่น กักๆๆๆๆๆ.....กว่าจะหลับ เวนๆๆๆๆๆ ตอนเช้า ว่าจะไปดูพระอาทิตย์ขึ้น แต่ตื่นไม่ไหว5555++++ ก็คนมันเหนื่อยนิ กว่าจะตื่น 9 โมง กินอาหารเช้าเสร็จเดินไปซื้อแผนที่ ใบล่ะ 10 บาท ดูแผนที่ไม่เป็น โง่ได้อีก...ฟราย 2 ตัว เดินวนอยู่บนวังกวาง ทางออกมันอยู่ตรงไหนฟระเนี่ย....11 โมง หาทางออกเจอ 555+++ นึกว่าจะไม่ได้เที่ยวซะแล้ว มีจักรยานให้เช่าด้วยนะ แต่เราเดิน ระหว่างเดิน แอบสมน้ำหน้าคนเช่าจักรยาน ปั่นไปเข็นไป หอบแหกๆ.....5555+++ สมน้ำหน้ามัน ทางเดินมันเป็นทราย ขาเดินกลับ ทางไม่ค่อยมีทราย พวกที่ปั่นจักรยาน ก็คงจะหัวเราะเราเหมือนกัน สมน้ำหน้า เดินไปเหอะเมิง....กรูไปล่ะ ฟิ้ววววววว 5555+++ ตามความเห็นเรานะ เราว่าพวกน้ำตกเนี่ย ไม่ค่อยน่าเดินเข้าไปดูแล้ว มันไม่มีน้ำเลย เสียเวลาและพลังงานเดินเข้าไปเปล่า ส่วนที่เที่ยวอื่นๆ ก็เหมือนข้อมูลที่คนอื่นๆบอกๆกันนั่นแหละค่ะ สุดท้าย....ขอให้เที่ยวให้สนุกนะคะ เราเห็นคู่รักไปกัน 2 คน หลายคู่ รวมถึงคู่เรา เดินจูงมือกัน น่ารักเชียว แต่คู่เรากับแฟน เอ่อ...ประมาณว่า " เฮ้ย...เดินขายหวานเย็นรึไง ไอ้อ่อนนนนนน " 5555+++ แฟนเรา เป็นนักกีฬาซะเปล่า พักมันทุกซำเลย จากซำแคร่ขึ้นไป ขอให้โชคดี เดินตามทางลูกหาบ แล้วจะไม่ค่อยเหนื่อย(มั้ง) แต่เราไปทางลัด ขี้เกียจเดินอ้อม ปีนป่ายกันสุดฤทธิ์ มีกลิ้งตกลงมาด้วย 555+++ กว่าจะถึงหลังแปสภาพมอมแมม ไม่ต่างจากลูกหมาคลุกฝุ่นกันทั้งคู่เลย 555+++ จากคุณ : เบื้องหลัง นางมารร้าย - [ 18 ก.พ. 52 16:30:19 A:125.25.52.180 X: TicketID:187905 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ปล. ลืมบอก...ทริบนั้น เรา 2 คน รวมกันหมดไป 4600 บาท (ไม่รวมค่าของฝาก) ค่าใช้จ่ายทุกอย่าง ตั้งแต่ค่าแท็กซี่ไปหมอชิต ค่ารถทัวร์ ค่ากิน ฯลฯ จนถึงกลับมาถึงบ้านเลย กินกันอย่างราชา ขอบอกๆ จากคุณ : เบื้องหลัง นางมารร้าย - [ 18 ก.พ. 52 16:33:43 A:125.25.52.180 X: TicketID:187905 ]

ความคิดเห็นที่ 10 มาตอบด้วยๆ เพราะเป็นทริปหนึ่งในชีวิตที่ประทับใจ ไปกับแฟนสองคนเหมือนกัน ตอนแรก หวั่นๆกลัวงอแงแล้วมันจะถีบตกเขา แต่ก็รอดมาได้ แหะๆ เราหมดไปเยอะพอควรเหมือนกัน 4 วัน 3 คืน กำลังดีค่ะ อยู่โคราชน่าจะนั่งรถไม่ไกลมากนะ เพราะตอนนั้นเรานั่งจากหมอชิต ไปธุระที่ขอนแก่นก่อน ค่ารถ สามร้อยกว่าบาท แล้วก็นั่งจากขอนแก่นไป รถทัวร์จอดที่ใกล้ๆนั่นแหละค่ะ แถวๆร้านค้า จากคุณ : kam_ko - [ 18 ก.พ. 52 16:50:21 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ก็นั่งรถสองแถวขึ้นไปต่อ ก็ถึง ก็เอากระเป๋าชั่งให้ลูกหาย ประมาณนั้น แนะนะนะคะ ว่าให้ซื้อรองเท้าสำหรับเดินแบบที่ลูกหาบใส่ รู้สึกว่าง่ายกว่าเยอะ มันจะจับดินอ่ะค่ะ แล้วก็ซื้อข้างล่างจะถูกกว่าระหว่างทาง เราขึ้นตอนประมาณ แปดโมง แวะกินไข่ปิ้งกะน้ำแข็งไส ทุกซำเลย 55 กินไป เดินไป กว่าจะถึงก็เกือบบ่ายสองแนะ พอถึงก็ กางเต้น + ตื่นตาตื่นใจ พักสักเดี๋ยว ก็ไปเล่นน้ำตกใกล้ๆ ก็กลับมา กินข้าว นอนเป็นตาย วันที่ 2 ไปน้ำตกทั้งหมด เดินไป แฮ่กๆ วันที่ 3 ไปหน้าผา อันนี้เช่าจักรยานไป วันที่ 4 กลับ ประทับใจมากๆๆ สวยดี เราใช้เงินเยอะไปหน่อย ค่าจักรยานก็แพง แถมตอนไปหน้าฝน เลยทุ่มทุนซื้อปูนขาวเยอะมาก เพราะกลัวทาก หมดไป สองคน เจ็ดพันกว่าบาท ขอให้โชคดีค่ะ ^^ จากคุณ : kam_ko - [ 18 ก.พ. 52 16:54:23 ]

ความคิดเห็นที่ 12 มาช่วยตอบด้วยครับ....ตอบในเรื่องการเตรียมตัวก็แล้วกันนะครับ...อย่างอื่นๆ เพื่อนๆเขาแนะนำกันหมดแล้ว.... เรื่องรถทัวร์ ผมว่า ลองโทร คุยกับรถทัวร์เลยครับว่า เขาจอดที่ไหน และ ขากลับกลับอย่างไรฯลฯ... ถ้ารถทัวร์จอดที่ ร้านเจ้กิม ผานกเค้า ก็ตามคคห. ข้างบนเลยครับ นั่ง 2 แถวไปภูกระดึง เลยครับ.... เจ้าของกระทู้ ไม่ได้บอกว่า จะไปช่วงไหน ถ้าจำไม่ผิด เขามีช่วงที่ปิดภูด้วยนะครับ รู้สึกว่าเป็นช่วงหน้าฝน จำเดือนไม่ได้แล้วครับ แล้ว เดือน เมษายน จะเปิดให้เข้าป่าปิดครับ...... การเตรียมตัวขึ้นภู ถ้าขึ้นช่วงหน้าหนาว ไม่ค่อยมีปัญหาครับ.... ชิวๆ แต่งตัวให้รัดกุม รองเท้าผ้าใบหุ้มส้น ไม่หลวม ไม่คับเกินไป.... ใส่รองเท้าผ้าใบ ดีตรงที่ เวลาเดินเต๊ะกิ่งไม้ หรือ หิน จะไม่เจ็บครับ ถ้ารองเท้าแตะ มี เลือดออกกันบ้าง...... ยาต่างๆ เคาร์เตอร์เพน แก้ปวด แก้ทองเสีย อีโน แอนตาซิน เอาไปเถอะครับ เผื่อไว้ก่อน...... ผมเคยขึ้นภู ช่วงหน้าหนาว ครั้งที่ 1. วันที่ 5 ธค. 2543 คนเยอะ โคด ครับ แบบว่า ต้องแย่งกันกิน แย่งกันใช้ ลำบากมาก ห้องน้ำยังมีไม่มากเหมือนปัจจุบันนี้ ปวด อึ๊ก ที แทบจะวิ่งเข้าป่า เพราะ คิวยาวมาก........ ปีนั้นยังให้ ก่อเตาได้ .... ตอนกลางคืนนี่ มีแต่ควันหายใจแทบไม่ออก..... อากาศกลางคืน หนาวมาก เตรียม เสื้อกันหนาวตัวใหญ่หน่อยนะครับ...พวกเครื่องนอน ก็ตาม ที่คคุห. ข้างบนแนะนำเลยครับ เช่ามาให้ หมด หมอน ผ้าห่ม เบาะรองนอน ฯลฯ... ครั้งที่ 2 โดนเพื่อนลากไปเพราะ มีแต่ผู้หญิง เป็นผู้หญิง ปกติ 1 เป็นดี้ 1 เป็นทอม 2 ก็เลยต้องยอมไปเป็นเพื่อนพวกมัน.... จำวันที่ และ เดือนไม่ได้ ขึ้นตอน ปลายฝนต้นหนาว น่าจะประมาณ เดือน กันยา - ตุลาคม 2544 ฝนยังตกอยู่ .... นักท่องเที่ยวน้อย ทากเยอะโคด มีทุกหนทุกแห่ง คิดดู เพื่อนผม เป็นทอม 2 คน ยังร้องกรี๊ดๆ เป็นสาวๆเลย..... เตนท์ กางไม่ได้ ต้องไปเช่า เตนท์ กึ่งถาวร เป็น แบบยกพื้นสูง ประมาณ 1 เมตร หลังคา สังกะสี นอนได้ 2 คน ... อีกคืน พวกผม ไปกางเตนท์(เตนท์ 3 เหลี่ยม) นอนใน ศาลา พื้นปูน ใช้เชือกฟาง ชึง....T^T สิ่งที่ต้องหาไป คือ พวก ถุงกันทาก ปูนขาว เอาแบบเจ๊งๆ เลยนะ... ตะไครหอม....... ฉีดถุงกันทากให้ชุ่มๆ รับรอง ทากไม่กล้าแหยม.... เดินเที่ยวหน้าฝน นี่ลำบากมาก ทางเดิน เละ น้ำเจิ่งนอง ทากเยอะ ฝนตก เสียเวลาเดินมาก .... ผมเดินทั้งวัน ไม่ครบรอบใหญ่ ต้องถอดใจซะก่อน..... แต่ดอกไม้ สวย ป่า สีสวยมากมายจริงๆครับ น้ำตกนี่ น้ำเยอะมากๆ.... รอบ 3 พาแฟนไปลุย.... ปี 2546..ประมาณ เดือน มค.. ... ปีนั้น ผมเตรียมตัวดี เอาตังค์ไปเยอะหน่อย กะว่า กินเต็มที่ ไม่ต้องประหยัด.... ขนม เตรียมเฉพาะที่อยากกิน หาซื้อบนภูไม่ได้ ขาขึ้นเอาเป้ใบเล็กติดตัวไป ข้างในมี กล้อง โทรศัพท์ ขนมหวาน พวก ช๊อกโกแลต เอาไว้เผื่อตอนเป็นลม กินช๊อกโกแลต เพิ่มพลังได้นะครับ ยาดม ยาหม่อง และ ยาต่างๆ น้ำ คนละ ขวดเล็ก..... ไม่ต้องแบกอะไรมาก น้ำหมด ซื้อเอาข้างหน้า แพงหน่อยช่างมันขี้เกียจแบก..... จูงมือแฟนตลอด ตั้งแต่ ขึ้น ยัน ลงไม่มีปลอยทิ้งให้เดินคนเดียวครับ... ผมคอย ลาก กับ ดันก้น เวลาจะหมดแรง..... มีแต่คนแซว ซำหน้า ผมปล่อย แน่ๆ..... ^^ แต่โทษทีครับ ขึ้นมา 2 รอบแล้ว ไม่มีทิ้งครับ ฮี่ๆ.................. ขาขึ้น กินแหลก....... ไข่ต้ม ผมซื้อกินตลอดทาง ประมาณ 10 ลูกได้ คนเดียวนะครับ O_o ยิ่งกินยิ่งอร่อย..... ซื้อ มะปาง แก้ วิงเวียน จะเป็นลม จิ้มเกลือ เพิ่มเกลือแร่ให้ร่างกาย..... เวลา เหงื่อออกมากๆ กิน สปอนเซอร์ ช่วยได้เยอะ..... ถ้าหาไม่ได้.... ก็เล่นมะปางกับ เกลือ นี่แหละของดีครับ ช่วยได้เยอะ...... เกือบลืมแหนะ..... เตรียม เชือกฟาง และ กิ๊ปหนีบผ้า ...(ที่หนีบผ้า) ไปด้วยก็ดีนะครับ ..... เวลาตากผ้า จะได้ไม่โดนลมพัด ตกหล่น..... ผมเตรียมขึ้นไป เป็น 10 ตัว..... เวลาตากผ้าเช็ดตัว ไว้หลังเตนท์ ก็เอามาหนีบให้รอบ ลมพัดยังไงก็ไม่ตก .... ปล. เขาว่า กันว่า พิสูจน์ รักแท้ พิสูจน์ เพื่อนแท้ ให้พาขึ้นภูกระดึง ผมว่า จริงครับ เพราะ เพื่อน ก็ คบกันมาจนทุกวันนี้ ส่วนแฟน ผมกับแฟน ก็แต่งงานกันแล้ว..... ลองพาแฟนขึ้นไปดูนะครับ ไม่เลิก ก็ แต่งครับ ..... สู้ๆนะครับ ช่วงโปรโมชั่น ให้ขึ่หลังขึ้นภูเลยครับ ฮี่ๆ.... จากคุณ : TonTon - [ 18 ก.พ. 52 19:46:53 A:192.168.0.17 X:124.121.116.9 TicketID:173489 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ...ขอบคุณเพื่อนๆที่เข้ามาตอบนะครับ...และขอบคุณสำหรับคำแนะนำดีๆครับ... ...บางทีผมอาจจะกังวลมากไปจริงๆนั่นแหละครับ... ...เอาเป็นว่าจะเข้ามาศึกษาข้อมูลที่มีอย่างมากมายในกระทู้เก่าๆ....แล้วกันครับ... ...น่าจะได้ในสิ่งที่ต้องการ... ...ขอบคุณนะครับ.. จากคุณ : berserker - [ 19 ก.พ. 52 09:25:26 A:125.26.78.159 X: TicketID:205000 ]