ความคิดเห็นที่ 1 Did you know? การที่รถไฟชินคันเซนวิ่งได้เร็วมากๆนั้น มีสามปัจจัยที่สำคัญ 1.ตัวรถไฟต้องมีลักษณะที่ต้านลมน้อย และรางรถไฟต้องเสถียร(ถึงต้องมีรางกว้างกว่าปกติ) 2.ต้องมีระบบกันสะเทือนที่ดีเยี่ยม เพื่อลดการสะเทือนของตัวรถขณะที่วิ่งด้วยความเร็วสูง ไม่งั้นจะเสี่ยงต่อการตกราง(รถไฟบ้านเราตกรางบ่อยๆ ด้วยเรื่องนี้หรือเปล่านะ??) 3.ต้องมีระบบอัตโนมัติตรวจสอบ ควบคุม และหยุดรถ เพราะขณะที่วิ่งด้วยความเร็วสูง มนุษย์ไม่สามารถตรวจสอบการเดินรถได้ด้วยความสามารถตนเอง จากคุณ : MedicinePath - [ 24 ก.พ. 52 19:51:32 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เรื่องนี้ต้องมาจองนั่งแถวหน้า.... จากคุณ : NumAromDee - [ 24 ก.พ. 52 19:54:06 ]

ความคิดเห็นที่ 3 Did you know? หลังญี่ปุ่นพ่ายแพ้สงครามโลกครั้งที่สองนั้น ประเทศแทบจะไม่เหลืออะไร ในฐานะผู้แพ้สงคราม ญี่ปุ่นถูกบังคับให้ต้องเซ็นสัญญายอมแพ้ ห้ามมีการสะสมกำลังคนและอาวุธ และต้องยอมให้พันธมิตร(อันนี้ไม่เกี่ยวกับบ้านเรานะครับ)ซึ่งก็คือ อเมริกา เข้ามาควบคุมประเทศในช่วงแรก เหล่านักวิจัยระดับแนวหน้าของกองทัพที่เคยสร้างผลงานอันโดดเด่นในช่วงสงคราม ตกงานและถูกเรียกตัวให้มาช่วยงานที่ศูนย์วิจัยเทคโนโลยีรถไฟของประเทศ และรถไฟชินคันเซนจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้เลยถ้าปราศจากบุคคลเหล่านี้ Tadanao Miki ผู้ซึ่งจบวิศวกรรม การต่อเรือ จากTokyo imperial university ปี1933 และเคยทำงานในกองทัพเรือ เค้าเคยสร้างผลงานที่โด่งดังให้กองทัพ คือการออกแบบเครื่องบินทิ้งระเบิดให้มีความเร็วสูงจนติดอันดับโลก และถูกใช้ในการจู่โจมแบบพลีชีพ (Kamikazes) ซึ่งทำให้เค้าสะเทือนใจมาจนถึงทุกวันนี้ เมื่อเค้าถูกเรียกตัวให้มาช่วยที่ศูนย์วิจัยฯ เค้ามีความคิดว่า รางรถไฟมาตราฐานที่ใช้กันอยู่ในญี่ปุ่นนั้น เป็นแบบรางแคบ เมือรถไฟวิ่งด้วยความเร็วมากๆ จะเกิดการสั่นและหลุดจากรางได้ วิศวกรรุ่นเก่าๆเลยแก้ปัญหาด้วยการออกแบบรถไฟให้หนักๆเพื่อจะได้ใช้น้ำหนักของตัวรถกดให้รถยึดติดกับราง เค้าได้ใช้ทฤษฏีของเค้าเอง ซึ่งคิดแบบตรงข้ามกับวิศวกรรุ่นเก่าคือ เค้าจะออกแบบรถที่เพรียวลม น้ำหนักเบา และจุดศูนย์ถ่วงต่ำ จนทำให้ได้รถไฟรุ่น Super Express ขบวนแรกของญี่ปุ่นในปี 1957 ซึ่งวิ่งด้วยความเร็ว 145km/hr ซึ่งเร็วที่สุดในโลกตอนนั้น รูปนี้เป็นรูปรถไฟญี่ปุ่นที่เก่าที่สุดเท่าที่หาได้ จากคุณ : MedicinePath - [ 24 ก.พ. 52 19:54:52 ]

ความคิดเห็นที่ 4 สวัสดีค่ะคุณหมอ.. give หมดแล้ว .. มาป่วนประทู้เฉยๆ ละกันนะค๊า.. ปล. เมื่อไหร่จะมาเที่ยวสแกนดิเนเวียค๊า.. จากคุณ : แพนด้า ณ เชียงใหม่ - [ 24 ก.พ. 52 19:55:10 ]

ความคิดเห็นที่ 5 มาลงชื่อเซฟกระทู้ไว้อ่านก่อน ขอบคุณนะคะ ที่หาเรื่องดีดี มาแบ่งปัน จากคุณ : sweettea - [ 24 ก.พ. 52 20:16:39 ]

ความคิดเห็นที่ 6 สงสัยหมอจะงานเข้า เข้ามานั่งรอครับ จากคุณ : Coffee Blended - [ 24 ก.พ. 52 20:28:42 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ความคิดเห็นที่ 2   เรื่องนี้ต้องมาจองนั่งแถวหน้า.... จากคุณ : NumAromDee แว๊ก เจ้าที่แรงจริงๆ เซียนรถไฟญี่ปุ่นมาเยือนกระทู้คนแรกเลย (ล้อเล่นนะครับ อย่าพึ่งเคือง) เขียนกระทู้สนองตัณหา และราคะของตัวเอง ผิดพลาดประการใดขอคำชี้แนะด้วยนะครับ เริ่มเขียนปุ๊บ งานเข้าทันที คนไข้มา................ ---------------------------------------------------------------------- ความคิดเห็นที่ 4   สวัสดีค่ะคุณหมอ.. give หมดแล้ว .. มาป่วนประทู้เฉยๆ ละกันนะค๊า.. ปล. เมื่อไหร่จะมาเที่ยวสแกนดิเนเวียค๊า.. จากคุณ : แพนด้า ณ เชียงใหม่ ผมกำลังสับสนว่าจะไปช่วงไหนดี อยากไปช่วงพค. แต่คงได้ไปแค่ แถบยุโรปตะวันออก เพราะตอนนั้น แถบสแกนฯคงหนาวอยู่ ไม่ก็อาจจะไปอีกรอบตอน July ตอนนั้นคงเที่ยวแถวสแกนฯสนุกกว่า  แต่เรื่องทุนทรัพย์นี่สิ เฮ้อ หนักใจ --------------------------------------------------------------------- ความคิดเห็นที่ 5   มาลงชื่อเซฟกระทู้ไว้อ่านก่อน ขอบคุณนะคะ ที่หาเรื่องดีดี มาแบ่งปัน จากคุณ : sweettea ยินดีครับ แต่ว่า หากมีข้อผิดพลาดขออภัยไว้ก่อนนะครับ ---------------------------------------------------------------------- Tadashi(Kiyushi) Matsudaira บุคคลผู้นี้เคยทำงานให้กับกองทัพเรือของญี่ปุ่นและเค้าคือผู้ที่คิดค้นการแก้ปัญหาการสั่นของเครื่องบินรบเมื่อบินด้วยคามเร็วสูง เมื่อได้เข้ามาทำงานในศูนย์วิจัยฯ เค้าสนใจเรื่องการสั่นสะเทือนของรถไฟเมื่อวิ่งด้วยความเร็วสูง แนวความคิดของเค้าที่ว่า “ข้อจำกัดของรถไฟเมื่อวิ่งด้วยความเร็วสูงคือ  การสั่น และเมื่อรถไฟสั่นมากๆ ก็มีโอกาสที่จะหลุดออกจากรางได้ ถ้าสามารถควบคุมการสั่นนี้ได้ รถไฟจะข้ามขีดจำกัดของความเร็วไปได้” ต่อมาเค้าพัฒณาแนวความคิดนี้จนกลายเป็น Air Spring System ลดการสั่นของรถเมื่อวิ่งด้วยความเร็วสูงได้ จากคุณ : MedicinePath - [ 24 ก.พ. 52 20:32:53 ]

ความคิดเห็นที่ 8 Hajime Kawanabe (Kawabe) บุคคลผู้นี้ เคยทำงานให้กับกองทัพเรือ เกี่ยวกับการสื่อสาร เมื่อเค้าตกงานหลังสงคราม จึงได้ตัดสินใจเข้าร่วมกับศูนย์วิจัยฯ แนวความคิดที่สำคัญของเค้าคือ “ระบบควบคุมรถไฟอัตโนมัตินั้น มีความสำคัญยิ่งในความปลอดภัยของรถไฟเมื่อวิ่งด้วยความเร็วสูง” ต่อมาเค้าได้พัฒณาระบบที่เรียกว่า Automatic train control(ATC)  ซึ่งระบบนี้ จะปล่อยคลื่นความถืต่ำลงสู่รางรถไฟ และคอยส่งข้อมูลให้รถไฟทราบสถานะต่างๆอยู่ตลอดเวลา หากมีความผิดปกติใดๆ รถไฟจะชะลอความเร็วและหยุดโดยอัตโนมัติ แก้ไขเมื่อ 24 ก.พ. 52 20:35:54 จากคุณ : MedicinePath - [ 24 ก.พ. 52 20:35:09 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ว๊า...ถ้าคุณหมอมาช่วง ก.ค. ก็ไม่ได้พาคุณหมอเที่ยวสิคะ (เอ๊ะ..หรือว่าพาหลง) จะกลับสิ้นเดือน พ.ค. นี้แล้ว เย้ เย้.... แต่ค่าเที่ยวสแกนมันแพงจริงๆ ซะด้วยสิ จากคุณ : แพนด้า ณ เชียงใหม่ - [ 24 ก.พ. 52 20:41:24 ]

ความคิดเห็นที่ 10 Did you know? บุคคลทั้งสามคน ทำงานที่เดียวกันเป็นเวลาหลายปี แต่กลับมาเจอกันในวันหนึ่งของปี 1957 เพียงเพราะว่า Takeshi Shinohara ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยฯขณะนั้น ต้องการปรึกษาพวกเค้าเรื่อง หัวข้อการจัดบรรยายเกี่ยวกับวิสัยทัศน์ของศูนย์วิจัยฯ พวกเค้าทั้งสามได้เล่าถึงความฝันของตนเอง ที่อยากจะพัฒณารถไฟความเร็วสูงเพื่อให้การเดินทางจากโตเกียวสู่โอซาก้าให้เหลือเวลาเพียง 3ชั่วโมง (ตอนนั้นต้องใช้เวลาเดินทางเกือบ8ชม.) ไม่น่าเชื่อว่าแนวความคิดของทั้งสามคน ทำให้ Takeshi Shinohara ประกาศความฝันนี้ให้กับคนญี่ปุ่นทั่วประเทศได้ทราบในงานครบรอบ 50ปีแห่งการก่อตั้งศูนย์วิจัย หลังภาวะแพ้สงคราม คนญี่ปุ่นอยู่ในภาวะสิ้นหวังกับเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ ข่าวดีอันนี้ได้ทำให้เกิดความหวังกับการฟื้นตัวของประเทศและกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง ชาวญี่ปุ่นต่างเฝ้ารอวันที่จะได้เห็นรถไฟความเร็วสูงขบวนแรกวิ่ง นอกจากภาระที่หนักอึ้งจากการแบกรับความฝันของคนทั้งประเทศไว้แล้ว พวกเค้าทั้งสาม ยังถูกเพ่งเล็งจากผู้บังคับบัญชาคือ ผู้ว่าการรถไฟ และรัฐมนตรีทั้งหลายด้วยว่า ความฝันอันนี้จะเป็นรูปเป็นร่างได้หรือไม่??? จากคุณ : MedicinePath - [ 24 ก.พ. 52 20:56:27 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ขอย้ำอีกครั้งด้วยสัมผัสที่ 69 ว่า... ถ้าเอา Series นี้ไปโพสในห้องหว้ากอ มีแววขึ้นกระทู้แนะนำแน่นอน ฟันธง คอนเฟิร์ม!! ไปล่ะ ขอตัวกลับบ้านไปเตรียมร่างกระทู้ตัวเองก่อน อาทิตย์นี้มัวแ่ต่โม่กระทู้แนะนำมือใหม่ กระทู้คิวชูเลยยังไม่ได้เตรียมข้อมูลเลย ดีนะที่เกริ่นกับชาวบ้านไว้แล้วว่าขอเลื่อนกระทู้เป็นวันพุธ อยู่เวรอย่างราบเรียบนะครับคุณหมอ จะบอกว่าให้ฝันดี ก็กลัวคนไข้จะสะดุ้ง พยาบาลผวา แล้วพรุ่งนี้เช้าจะมาเยี่ยมกระทู้ใหม่ครับ จากคุณ : NumAromDee - [ 24 ก.พ. 52 20:58:54 ]

ความคิดเห็นที่ 12 มารออ่านครับ จากคุณ : Napsterio - [ 24 ก.พ. 52 21:26:54 ]

ความคิดเห็นที่ 13 แถวหน้าที่เต็มรึยังครับ จากคุณ : ลาบราดอร์สีดำ - [ 24 ก.พ. 52 21:28:25 ]

ความคิดเห็นที่ 14 การรถไฟญี่ปุ่นกับการรถไฟไทย เริ่มขึ้นพร้อม ๆ กันในช่วงรัชกาลที่ 5 หรือตรงกับสมัยเมจิของญี่ปุ่น (ใช่ไหมครับ) แต่ทำไมของเขาพัฒนามาตลอด และยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดพัฒนา เมื่อเทียบกับของเรา......... ตกลงแล้วญี่ปุ่นเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว หรือประเทศกำลังพัฒนาครับ และเมื่อหวนกลับมาคิดถึงบ้านเรา เราเป็นประเทศกำลังพัฒนาจริงหรือครับ อืมมมม........ จากคุณ : J - [ 24 ก.พ. 52 21:50:11 A:58.9.131.146 X: TicketID:001257 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ถ้าแถวหน้าเต็มแล้ว ขอแถวสองก็ได้ค่า^^ จากคุณ : yuki_shimi - [ 24 ก.พ. 52 22:07:21 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เห็นเป็นเรื่องรถไฟเลยต้องแอบแว๊บเข้ามา แม่จะได้มีข้อมูลไปตอบลูกถูก เพราะตั้งแต่กลับจากญี่ปุ่น พี่ทิมชอบรถไฟมากๆๆๆ อันนี้เป็นคลิปรายการทีวีของญี่ปุ่น ท่องเที่ยวไปกับชินกันเซ็น ลูกดูทุกวันเลย ไม่รู้จะชอบอะไรปานนั้น เผื่อใครสนใจ มีทั้งหมด ๑๐ ตอน (หวังว่าคงไม่เสียมารยาทใช่มั้ยคะ แปะในกระทู้นี้) http://www.youtube.com/watch?v=z5ma2pzhxfg จากคุณ : NoNoTan - [ 24 ก.พ. 52 22:16:54 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ความคิดเห็นที่ 6   สงสัยหมอจะงานเข้า เข้ามานั่งรอครับ จากคุณ : Coffee Blended งานเข้าจริงๆครับ มีแต่อุบัติเหตุรถล้ม เฮ้อ อยากให้มีรถไฟไปทุกที่ทั่วไทย เกี่ยวไหมเนี๊ย????? ------------------------------------------------------------------------ Did you know? มีนาคม 1959 คือวันที่เริ่มมีการก่อสร้างรถไฟชินคันเซนครั้งแรก ในขณะนั้นแนวความคิดของทั้งสามคน ถูกพัฒณาให้เป็นความจริง พร้อมกับความร่วมมือของวิศวกร ระดับหัวกะทิของประเทศจำนวนเกือบ 1,000 คน มิถุนายน 1962 สามปีแห่งความพยายาม การวิ่งทดสอบรถไฟชินคันเซนขบวนแรกก็เริ่มขึ้น บนรางทดสอบความยาว 32 กิโลเมตร พนักงานขับรถไฟ 8 คนที่ดีที่สุดของประเทศได้ผ่านการทดสอบสมถะภาพทางร่างกายและจิตใจอย่างเข้มงวด เหมือนกับการคัดเลือกนักบินอวกาศเลยทีเดียว เพราะในช่วงเวลานั้น พวกเค้าคือบุคคลกลุ่มแรกๆของโลกที่จะต้องเผชิญกับความเร็ว ที่ไม่เคยมีใครได้สัมผัสมาก่อน (ยกเว้น นักบินอวกาศ อลัน เชฟเฟิร์ด ของอเมริกาที่ขึ้นไปบนอวกาศครั้งแรกเมื่อ 5 พค. 1961) 6 เดือนแรก ของการทดสอบความเร็ว รถไฟซินคันเซนได้ไปถึงความเร็วที่ 210 km/hr ซึ่งถือเป็นสถิติโลก แต่ทั้งสาม ไม่หยุดอยู่แค่นั้น เพราะเป้าหมายของเค้า ไม่ใช่สถิติโลก แต่คือการที่จะทำให้คนญี่ปุ่น ได้เดินทางจากโตเกียว ไปโอซาก้า ด้วยระยะเวลาเพียง 3 ชั่วโมง และเพื่อให้ถึงจุดหมายดังกล่าว รถไฟต้องวิ่งได้เร็วกว่านี้ ตอนนั้น พวกเค้าตั้งความหวังไว้ที่ 250 km/hr จากคุณ : MedicinePath - [ 24 ก.พ. 52 22:21:17 ]

ความคิดเห็นที่ 18 Did you know? 9.40 น. ของวันที่ 30 มีนาคม 1963 ทุกคนพร้อมอยู่บนขบวนรถไฟทดสอบ และรถได้เคลื่อนออกจากชานชลาอย่างช้าๆ จากนั้นมันได้ไต่ความเร็วขึ้นไปเรื่อย จนผ่านจุด 210km/hr ที่มันเคยทำได้  Matsudaira ได้สั่งให้พนักงานขับรถเพิ่มความเร็วขึ้นเรื่อยๆ  ในขณะนั้น ถ้ารถไฟตกรางด้วยความเร็วระดับนั้น คงยากที่ใครจะรอดได้ 9.46 น. เพียงแค่ 6 นาทีให้หลัง ความเร็วของรถได้ไปถึง 256 km/hr มันทำลายสถิติโลกของตัวเอง นี่คือสถิติโลกใหม่ มันคือรถไฟที่วิ่งเร็วทีสุดในโลก หลังจากการทดสอบครั้งนั้น นี่เป็นครั้งแรกที่สายตาของวงการวิศวกรรมทั่วโลกได้หันมามองญี่ปุ่น และแน่นอน มันไม่ใช่ครั้งสุดท้าย ที่ญี่ปุ่นทำให้ทั้งโลกต้องตะลึง เกือบ 20 ปีแห่งประเทศผู้แพ้สงคราม วันนี้ สายตาของนานาประเทศต่างจับจ้องมาที่ญี่ปุ่น Japanese Miracle ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว ถึงตรงนี้ เพื่อนๆคงจะเข้าใจแล้วว่า ทำไม Shinkansen ถึงได้ถูกยกย่องให้เป็น สัญลักษณ์ของก้าวกระโดดของชาติ(หนังสือบางเล่มถึงกับให้มันเป็นเส้นแบ่งยุคของเศรษฐกิจและสังคมของญี่ปุ่นเลยทีเดียว) 1 ตุลาคม 1964 หนี่งปีให้หลังการทดสอบที่สั่นสะเทือนวงการวิศวกรรมครั้งนั้น แค่ 5 ปีหลังจากที่พวกเค้าได้ให้คำมั่นสัญญากับผู้บังคับบัญชา และคนทั้งชาติ รถไฟชินคันเซนขบวนแรกก็ได้เปิดให้บริการประชาชน และแม้ว่าในปีแรกที่วิ่ง จะใช้เวลา4ชม ในการวิ่งจากโตเกียวไปโอซาก้าเพราะการปรับปรุงระบบ หนึ่งปีให้หลัง คนญี่ปุ่น ก็สามารถเดินทางไปโอซาก้าได้ในระยะเวลาเพียง 3 ชม. ขอย้ำอีกทีว่า สิ่งที่ผมเล่าไปทั้งหมดนี้ เกิดขึ้นในประเทศเกาะแห่งนี้ เมื่อเกือบ ห้าสิบปีที่แล้วครับ จากคุณ : MedicinePath - [ 24 ก.พ. 52 22:32:10 ]

ความคิดเห็นที่ 19 Did you know? ถึงแม้ว่า เจ้าของสถิติโลกปัจจุบันในเรื่องความเร็วของรถไฟ ที่ให้บริการแบบสาธารณะ(ไม่ใช่การทดสอบ) จะตกเป็นของ TGV ของฝรั่งเศส คือ 320km/hr และชินคันเซนตามมาที่สองด้วยความเร็ว 300km/hr แต่เมื่อเทียบกับการใช้งาน (จำนวนคน)และความคุ้มค่าในการใช้งานแล้ว TGV ยังตามหลังชินคันเซนอยู่มาก และอาจจะไม่มีทางไล่ทันเลยก็ได้ มันคงจะได้รับการกล่าวขานว่า เป็นระบบขนส่งมวลชนความเร็วสูงที่ปลอดภัย คุ้มค่า และมีประสิทธิภาพที่สุดในโลก ไปอีกนานแสนนาน(มีผู้ใช้บริการครบ 100 ล้านคนในสามปีแรก และครบ 1,000ล้านคน ใน 8 ปีแรก) มีผู้ศึกษาและคำนวน หลังรถไฟชินคันเซนเปิดให้บริการมา สถิติปีล่าสุดเชื่อว่า มันช่วยลดการสูญเสียชีวิต จากอุบัติเหตุบนท้องถนนถึง 12,000 คนต่อปี ปล.ใครสนใจสถานการณ์รถไฟญี่ปุ่นในปัจจุบัน และในอนาคต หาอ่านได้ในคลังกระทู้เก่า ที่คุณหนุ่มฯเขียนไว้ได้ดีมากๆ รวมไปถึงความเห็นและกระทู้ของแฟนๆรถไฟญี่ปุ่นทุกท่าน จากคุณ : MedicinePath - [ 24 ก.พ. 52 22:35:47 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ในขณะนี้ บุคคลทั้งสาม ล่วงเข้าสู่วัย 90 ปีแล้ว(อายุยืนจริงๆ) และทุกวันนี้พวกเค้ายังได้เฝ้าดู การเติบโตของชินคันเซนที่แตกหน่อจากความคิดพื้นฐาน สามประการข้างต้นของพวกเค้า และรู้ว่า มันจะยังไม่หยุดอยู่แค่นี้แน่นอน คนในรูป มิกิ มัตสีไดระ และ คาวานาเบะ แก้ไขเมื่อ 24 ก.พ. 52 22:37:48 จากคุณ : MedicinePath - [ 24 ก.พ. 52 22:37:24 ]

ความคิดเห็นที่ 21 Did you know? รางของชินคันเซนนั้น มีสามสิ่งสำคัญที่แตกต่างจากรางทั่วๆไปคือ 1.รางของชินคันเซนมีความกว้างมากกว่ารางรถไฟทั่วๆไป 2.รางของชินคันเซนต้องไม่มี Sharp curves เลย 3.รางของชินคันเซนแต่ละสายต้องไม่ถูกข้ามด้วยรางของซินคันเซนสายอื่น ยกเว้น ก่อนเข้าหรือออกสถานีเท่านั้น จากคุณ : MedicinePath - [ 24 ก.พ. 52 22:48:19 ]

ความคิดเห็นที่ 22 เพื่อนผมคนหนึ่ง ตอนได้ไปเที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรกเค้าพูดว่า "คนญี่ปุ่นนี่เหมาะกับงานบริการมากๆ ดูเค้าทุ่มเทกับงานมากๆเลย" คุณเห็นด้วยกับเค้าไหมครับ????? ถ้าคุณยังไม่มีความเห็นตอนนี้ ผมแนะนำให้ไปดูคนเหล่านี้ทำงานครับ มันอธิบายคำตอบได้ จากคุณ : MedicinePath - [ 24 ก.พ. 52 22:52:06 ]

ความคิดเห็นที่ 23 Did you know? สถานีที่มีผู้ใช้บริการมากที่สุดในโลกคือ สถานีรถไฟชินจูกุ มีผู้ใช้เฉลี่ยวันละประมาณ 3.64 ล้านคน Ikebukuro station คือสถานีรถไฟที่มีผู้ใช้มากที่สุดเป็นอันดับสองของโลกคือ วันละประมาณ 2.71ล้านคน ถ้าพูดถึงความใหญ่ของสถานีรถไฟ เมื่อคำนึงถึงพื้นที่รวมทั้งหมดของสถานีแล้ว อันดับหนึ่งคือ สถานีรถไฟ นาโงย่า มีพื้นที่ที่ถูกบันทึกไว้ถึง 446,000 ตารางเมตร แต่ความเป็นจริงแล้วพื้นที่ส่วนใหญ่มิได้ถูกใช้โดยผู้โดยสาร แต่ว่าเป็นพื้นที่ของสำนักงานรถไฟ และโรงแรม ฯลฯ ถ้าพูดถึงความใหญ่ของสถานีรถไฟ เมื่อนับตามจำนวน platforms  แล้ว สถานีที่มีแพลตฟอร์ม มากที่สุดในโลกคือ สถานี Grand central Terminal in New York มีถึง 67 platforms และมีแผนจะขยายอีก 4 platforms เพื่อรองรับรถไฟสายใหม่อีก 6 สาย(เดี๋ยวผมจะเล่าความอะลังการของอภิมหาโครงการนี้ทีหลังครับ) Gare du Nord station in Paris เป็นสถานีที่มี platforms มากเป็นอันดับสองของโลกคือ 42 platforms จากคุณ : MedicinePath - [ 24 ก.พ. 52 22:56:16 ]

ความคิดเห็นที่ 24 Did you know? ทุกวันนี้เส้นทางรถไฟในญี่ปุ่นรวมกัน มียาวกว่า 20,000 km. 71% ของรถไฟญี่ปุ่น ขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้า ญี่ปุ่นเคยเป็นผู้นำเข้าปิโตเลียมเป็นอับดับต้นๆของโลก แต่หลังจากประสบปัญหา Oil shock 1970 ญี่ปุ่นได้ทดแทนพลังงานของตน จาก 75% ในปี 1973 เหลือแค่ 57% ในปี 1990 และ จะพึ่งพาปิโตรเลียมน้อยกว่า 30% ในปี2050 ในปี 1990 มีการสำรวจทั้งของญี่ปุ่นและอเมริกา พบว่า โดยเฉลี่ยแล้ว คนญี่ปุ่น 1 คนใช้พลังงานทุกชนิด น้อยกว่าการครึ่งหนึ่ง ของที่คนอเมริกันใช้ แก้ไขเมื่อ 24 ก.พ. 52 23:02:31 จากคุณ : MedicinePath - [ 24 ก.พ. 52 23:01:48 ]

ความคิดเห็นที่ 25 Did you know? Subway The tube ของ ลอนดอน มีผู้ใช้เฉลี่ยวันละ 3,000,000 คน Metro ของปารีส มีผู้ใช้เฉลี่ยวันละ 5,000,000 คน Subway ของนิวยอร์ก มีผู้ใช้เฉลี่ยวันละ 5,000,000 คน Subway ของโตเกียว มีผู้ใช้วันละ 7,000,000 คน ดังนั้นเห็นเหตุผลที่คุณควรจะหลีกเลี่ยงการใช้ รถไฟใต้ดินของโตเกียวในช่วงเวลารีบเร่งหรือยัง?? แก้ไขเมื่อ 24 ก.พ. 52 23:06:53 จากคุณ : MedicinePath - [ 24 ก.พ. 52 23:06:22 ]

ความคิดเห็นที่ 26 Did you know? ถ้าคุณไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆแล้วเห็นนักเรียนและครู ไปทัศนศึกษากัน จงรู้ไว้ว่า อาชีพครูในญี่ปุ่น เป็นอาชีพที่เด็กสาว(อาจจะหนุ่มๆด้วย)หลายคน ฝันอยากจะเป็น ดังนั้นอย่าแปลกใจที่สัดส่วนของ ครูต่อนักเรียนในประเทศนี้ สูงเป็นอันดับต้นของโลกคือ ครู 1 คน ต่อนักเรียนเพียง 20 คน จากการวัดประสิทธิภาพ ความทั่วถึง และการใช้งานของ Internet ญี่ปุ่นรั้งอยู่อันดับที่ 2 ของโลก รองอยู่แค่พี่เบิ้ม อเมริกา และหายใจรดต้นคอพี่เบิ้มแล้ว มีบางสำนักให้ญี่ปุ่นอยู่อันดับ 1 ไปแล้วด้วย (^_^) จากคุณ : MedicinePath - [ 24 ก.พ. 52 23:09:12 ]

ความคิดเห็นที่ 27 Did you know? JAL เป็นสายการบินที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย(รูทที่ให้บริการ จำนวนผู้ใช้ และรายได้) มีผู้โดยสารใช้บริการปีที่แล้วกว่า 50 ล้านคน มีพนักงานและเจ้าหน้าที่เกือบ 18,000 คน ANA เริ่มต้นจากการให้บริการแค่ภายในประเทศ แต่เนื่องจากประสบความสำเร็จอย่างดี และเป็นที่รู้จัก จึงได้ตัดสินใจขยายการให้บริการ สู่ต่างประเทศเมื่อไม่นานมานี้ ถ้ายกให้ JAL ใหญ่นอกประเทศ ในประเทศต้องยกให้ ANA เพราะมีรูทบินในประเทศมากถึง 49 รูท มีพนักงานกว่า 22,000 คน(สังเกตว่ามากกว่า JAL) จากคุณ : MedicinePath - [ 24 ก.พ. 52 23:11:25 ]

ความคิดเห็นที่ 28 Did you know? ถ้าคุณเคยไป โตเกียว แล้วข้ามสะพานเรนโบว์ ไปยังโอไดบะ โปรดรู้ไว้ว่า คุณกำลังยืนอยู่บนเมืองแห่งอนาคต มันคือเมืองที่ทันสมัยไปอีก 25ปี เพราะเทคโนโลยีหลายอย่างบนเกาะเทียมนี้ ยังไม่มีที่ใดในโลกทำได้ และคุณกำลังยืนอยู่บนเงิน 25,000 ล้าน ดอลลาห์ ถ้าคุณไปที่อ่าวโตเกียวแล้วประทับใจกับความสวยงามของที่นั่น ควรรู้ไว้ว่า นั่นหนะของทำขึ้นทั้งนั้น ทุกวันนี้นักภูมิศาสตร์ยังไม่แน่ใจว่าที่ไหนคือ ชายฝั่งทะเลที่แท้จริงของญี่ปุ่น เพราะเชื่อว่า มีการเริ่มถมทะเลเพื่อสร้างแผ่นดินใหม่ ตั้งแต่ สมัย โชกุน โทกุคาว่า แพลอยน้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่ชื่อ Mega-Float เป็นฝีมือของวิศวกรญี่ปุ่น ปัจจุบันมันลอยอยู่ที่ Kanagawa มีขนาดใหญ่ถึง 1,000 เมตร อดใจไว้ครับ สามเรื่องข้างต้น เป็นเรื่องใหญ่และน่าตื่นตาตื่นใจเหลือเกิน ไว้ผมจะเอามาเล่าให้ฟังกันทีหลัง แก้ไขเมื่อ 24 ก.พ. 52 23:19:28 จากคุณ : MedicinePath - [ 24 ก.พ. 52 23:19:00 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ตอนนี้หลายๆคน อาจจะคิดว่า ผมเป็นสาวกญี่ปุ่นเต็มตัวแล้ว ไม่ว่าญี่ปุ่นทำอะไรก็ดูดีและทันสมัย นำหน้าพี่เบิ้มอย่าง สหรัฐอเมริกาไปหมด มีส่วนถูกครับ แต่ผมถูกสั่งถูกสอนถูกบังคับ ด้วยอาชีพการงาน ไม่ให้มี Bias หรือความลำเอียง เพราะฉะนั้น ผมได้ไปเสาะหาข้อมูลของอีกฝั่งมหาสมุทร์แปซิฟิกมาให้เพื่อนๆได้บริโภคกัน ขอยอมรับว่า ประเทศที่ผมมีความคิด จะกลับไปอีกครั้งก็แค่เรียนต่อเท่านั้น ไม่ธรรมดาเลย จากคุณ : MedicinePath - [ 25 ก.พ. 52 00:38:17 ]

ความคิดเห็นที่ 30 Did you know? Subway ของ New York นั้น มีทั้งหมด 26 สาย ครอบคลุมพื้นที่กว่า 625 ตารางกิโลเมตร ระยะทางยาวทั้งหมดประมาณ 1,300 กิโลเมตร ถ้าจะนั่งให้ครบทุกเส้นทาง ต้องใช้เวลาถึง 21 ชั่วโมง ซึ่งใช้เวลาเท่ากับการบินจาก ลอนดอน ไปซิดนีย์ ออสเตรเลีย รถไฟวิ่งพร้อมกันมากสุด ถึง 7,000 ขบวน ในชั่วโมงเร่งรีบ มันครองอันดับที่สี่ของโลกในสถิติของจำนวนผู้ใช้ต่อปี เป็นรองแค่ โตเกียว เมโทร(2,916,000,000คน) Moscow metro (2,529,000,000คน) Seoul subway (2,047,000,000คน) และ New York city subway(1,563,000,000คน) มันเป็น Subway สายเดียวในโลกที่ให้บริการ 24 ชม. ต่อวัน และไม่เคยหยุดเลยตลอดปี จากคุณ : MedicinePath - [ 25 ก.พ. 52 00:39:43 ]

ความคิดเห็นที่ 31 Did you know? New York City subway มีรถไฟ Mobile คอยใช้เลเซอร์ สี่ตัว และตัวจับความร้อน infrared วิ่งตรวจสอบทางรถไฟตลอด 24 ชม. สาเหตุที่มีการตรวจเข้มแบบนี้เพราะว่า วันศุกร์ที่ 28 ธันวาคม 1990 นั้น สายเคเบิลส่งไฟฟ้า ได้เกิดประกายไฟและลุกไหม้ รถไฟสายที่จะไปแมนฮัดตัน ทำให้ผู้โดยสาร 900 คน ตายไป 2 คน และบาดเจ็บ 80กว่าคน เนื่องจากว่า รถไฟของนิวยอร์กนั้น ให้บริการตลอด ดังนั้น จึงต้องมีการบำรุงตลอดด้วย ในศูนย์ซ่อมบำรุงนั้น คนงาน  750 คนพลัดกันทำงานกับรถ พร้อมกันครั้งละ 24ขบวน ทุกวัน 24ชม. แต่ละขบวนใช้เวลาซ่อมบำรุง สองสัปดาห์ รถไฟของนิวยอร์กนั้น กำลังถูกทดแทนด้วยรถไฟรุ่นใหม่ ที่มีมูลค่าถึง ขบวนละ 2ล้าน USD รถไฟรุ่นใหม่นี้  คาดว่าจะมีอายุการใช้งานประมาณ 40 ปี ตลอดอายุการใช้งาน มันจะถูกเปลี่ยน มอเตอร์ 4ชุด จำนวน 24 ครั้ง ล้อ 8ชุด จำนวน 48 ครั้ง แก้ไขเมื่อ 25 ก.พ. 52 01:26:48 จากคุณ : MedicinePath - [ 25 ก.พ. 52 00:40:50 ]

ความคิดเห็นที่ 32 Did you know? New York City subway รถไฟถูกกำหนดให้วิ่งห่างกัน เป็นระยะทาง สองช่วงตึกเป็นอย่างน้อย ในเวลาธรรมดา แต่ต้องห่างกัน สี่ช่วงตึกในเวลาเร่งรีบ(รถไฟวิ่งเร็วขึ้น) วันที่ 5 มิถุนายน 1995 รถไฟสายแมนฮัดตัน ได้วิ่งฝ่าไฟแดงและชนเข้ากับ รถไฟอีกขบวนหนึ่งที่สถานี สะพานวิลเลียมเบิร์ก คนขับเสียชีวิต และผู้โดยสารบาดเจ็ด 50 คน ระบบรถไฟใหม่ของนิวยอร์กนั้น จะใช้คอมพิวเตอร์ 136 เครื่อง คอยตรวจสอบรถทุกขบวน ทุก 15วินาที ที่ตัวรถไฟนั้น จะมีเลเซอร์นำทาง และทำงานร่วมกับเซนเซอร์ที่รางรถไฟ ซึ่งจะทำให้มันกลายเป็นรถไฟนำทางด้วยเลเซอร์สายแรกของโลก ทำให้รถไฟสามารถวิ่งได้ระยะชิดกันมากขึ้น จึงสามารถเพิ่มขบวนรถได้อีก 1,000ขบวน และขนส่งผู้โดยสารได้เพิ่มอีก 140,000 คน ประหยัดเงินไปได้อีก 132,000ล้านเหรียญ จากคุณ : MedicinePath - [ 25 ก.พ. 52 00:42:02 ]

ความคิดเห็นที่ 33 Did you know? ตอนนี้ในนิวยอร์ก มีการขุดสถานีรถไฟใต้ดินใหม่ ใต้สถานี Grand Central ลึกไป 43เมตร เพื่อสร้างรางรถไฟ 8 ราง 4ชานชลา รองรับรถไฟได้อีก 2,000ขบวน และขนส่งคนได้เพิ่มอีก 80,000คน มีการขุดอุโมงค์ เพื่อเชื่อม ลองไอแลนด์ กับแมนฮัดตัน ลดระยะเวลาการเดินทางได้อีก 40 นาที แต่การขุดใต้ดินของนิวยอร์กนั้น นับว่าเป็นเรื่องที่ยากและท้าทายมาก เพราะ หินใต้นิวยอร์กนั้นเป็นหินแกรนิตที่มีความแข็งมากที่สุด ไม่เคยมีใครขุดหินที่แข็งแบบนี้มาก่อน เป็นบริเวณใต้ดินที่แออัดที่สุดในโลกคือ มีท่อน้ำยาวรวม 10,000กิโลเมตร เท่ากับระยะทางไปกลับ นิวยอร์ก ลอนดอน และสายไฟฟ้าใต้ดินยาวรวม 51 ล้าน กิโลเมตร ต้องขุดให้ลึกว่า ชั้นใต้ดินของตึกระฟ้ากว่า สามชั้น ต้องใช้เครื่องเจาะที่ทรงประสิทธิภาพ ด้วยใบมีดคมกริบ สามสิบใบ บดหินวันละ 12เมตร ถ้าขุดสำเร็จ มันจะเอาหินใต้นิวยอร์กออกมาได้ 1.5 ล้านตัน เพียงพอที่จะเอาไปใส่ในโคลอสเซียมที่โรม ได้เต็มพอดี จากคุณ : MedicinePath - [ 25 ก.พ. 52 00:51:06 ]

ความคิดเห็นที่ 34 อ่านดูแล้วทึ่งมากๆ พอลองย้อนมาดู การรถไฟแห่งประเทศไทย ก็นะ พูดไม่ออกเลยทีเดียว จากคุณ : neau - [ 25 ก.พ. 52 00:58:03 ]

ความคิดเห็นที่ 35 Did you know? ทุกวันนี้ ย่านธุรกิจของแมนฮัดตัน มีรถไฟ 14สาย 7สถานี ในบริเวรแค่ 4ช่วงตึกเท่านั้น และมีคนใช้ถึง 700,000 คนต่อวัน สถานีรถไฟใต้ดินที่กำลังจะสร้างใหม่ ชื่อ แมนฮัดตัน ทรานสิส เซนเตอร์ จะเชื่อมรถไฟทั้ง 14สายเข้าด้วยกัน มีพื้นที่รวมทั้งหมด 16,000ตารางเมตร กว้างพอๆกับเรือบรรทุกเครื่องบิน สามารถเอาตึก ไคลเลอร์ลงไปใส่ได้ ต้องการ โรงไฟฟ้าย่อย 9 โรงเพื่อจ่ายไฟ ซึ่งเท่ากับบ้าน 15,000หลังใช้ในแต่ละวัน ซึ่งใช้เงินลงทุนไปถึง 3,000 ล้านเหรียญ สามารถรองรับ ผู้โดยสารได้อีกอย่างน้อย 25-100 ปีเลยทีเดียว วัสดุที่ใช้ทำรถไฟรุ่นใหม่ จะเป็นวัสดุไม่ติดไฟ หากมีไฟไหม้เกิดขึ้น ผู้โดยสารจะถูกอพยพไปยังโบกี้อื่น แล้วรถไฟจะถูกสั่งให้เข้าไปในสถานี เมื่อระบายคนออกจากรถไฟได้แล้ว พัดลมยักษ์ ขนาดใบพัดสามเมตร จะดูดเอาควันออก และไม่เติม ออกซิเจนให้กับไฟ  เจ้าหน้าที่จะสามารถ ดับไฟได้ใน 10 นาที จากคุณ : MedicinePath - [ 25 ก.พ. 52 01:01:31 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ยิ่งอ่านยิ่งคิดถึง...ยิ่งอยากไป(อีก)ไวไว ที่โดนใจจังๆ ที่สุดเห็นจะเป็นภาพคนแน่นรถไฟแบบปลากระป๋อง(อย่างที่เค้าว่า)ที่เคยเจอกับตัวเอง 2 ครับ ครั้งแรก 8.00 น. ชม.แร่งด่วน วันนั้นจะบินกลับ ขนกระเป๋าเดินทางไปด้วย 3-4 ใบใหญ่(คนเดียว) คนกรูเข้ามาเลยครับ ปลากระป๋องวันนั้นเลยทำให้ผมตกเครื่องบิน(จนได้) ครั้งที่สอง 19.00 น. ไม่ใช่เวลาที่รถไฟจะแน่นขนาดนี้ แต่วันนั้นเป็นวันที่ JR Yamanote line เสีย ตอนแรกก็รออยู่บนรถเพื่อรอดูสถานนการณ์ รอ 1 ชั่วโมงไม่ขยับ เลยตัดสินใจลงไปขึ้น Tokyo Metro ดีกว่า เชื่อมั้ยว่าทุกคนที่ JR Yamanote ลงมาผสมกับคนที่ Tokyo Metro ที่เยอะอยู่แล้ว การอัดกันครั้งนี้ก็เลยเป็นทูน่าเสต็กอัดกระป๋อง ที่แน่นเอี้ยด แบบไม่สามารถทรงตัวได้ด้วยตัวเอง ต้องปล่อยไปตามกระแสคน คิดถึงญี่ปุ่น คิดถึงเรื่องเล่าของคุณหมอ (เข้ามาดูทุกวัน วันละ 3 รอบ 55555) ขอบคุณครับที่ทำให้หายคิดถึง จากคุณ : fastfolk - [ 25 ก.พ. 52 01:27:36 ]

ความคิดเห็นที่ 37 คุณหมอยังไม่นอนเหรอคะ..แสดงว่าอยู่เวรแหง๋เลย เห็น subway ต่างประเทศแล้ว นึกถึงเมืองหลวงของไทยจริงๆ ขอเล่าเรื่อง subway ที่ Stockholm หน่อยละกันนะคะ เมืองหลวงของสวีเดน กรุง Stockholm มีประชากร 2 ล้านคน (ทั้งประเทศไม่เกิน 10 ล้านคน) มีรถไฟใต้ดินใช้มานานมาก.. แล้วกำลังจะขยายให้ครอบคลุมพื้นที่มากยิ่งขึ้น ไม่รวมรถไฟท้องถิ่น และรถเมล์ที่ให้บริการอย่างทั่วถึง และครอบคลุม ชอบต่างประเทศก็ตรงที่การคมนาคมเค้าดีแบบนี้แหละ.. มาดูเมืองหลวงเรา กทม. ประชากรมากกว่า 10 ล้านคน รถไฟลอยฟ้า 1 สาย ใตดิน 1 สาย.. กว่าจะสร้างได้ รอจนเหงือกแห้ง...เฮ้อ...ไม่อยากกลับไปอยู่ กทม.เลยให้ตายสิ แก้ไขเมื่อ 25 ก.พ. 52 02:51:11 จากคุณ : แพนด้า ณ เชียงใหม่ - [ 25 ก.พ. 52 01:35:16 ]

ความคิดเห็นที่ 38 รูปหายไปไหน.. จากคุณ : แพนด้า ณ เชียงใหม่ - [ 25 ก.พ. 52 01:54:39 ]

ความคิดเห็นที่ 39 1962...พบสถิติรถไฟที่วิ่งด้วยความเร็วสูงสุดขบวนแรกของโลก...ในประเทศญี่ปุ่น 2008...พบตัวเรือดฝังอยู่ตามเบาะที่นั่ง บ้างก็ไต่เข้ารูหูของผู้โดยสารรถไฟ...ในประเทศไทย แฮ่ะๆๆๆ ข้อมูลแบบนี้พอจะจัดเข้าทำเนียบ Did You Know ได้หรือเปล่าคะ อิอิอิ จากคุณ : pam_ (pam_) - [ 25 ก.พ. 52 01:56:26 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ของเค้าดีจริงๆ ทั้งญี่ปุ่นและอเมริกา ประเทศเค้าถึงก้าวๆๆๆ ไม่ได้เดินถอยหลังลงคลองอย่าง... แค่นึกว่าประเทศนึงมีรถไฟใต้ดินมาเป็นร้อยปีแล้ว อีกประเทศสร้างตัวจากสภาพแย่สุดจนพัฒนาสุดในช่วงอายุคนเดียว แค่นี้ก็น่าทึ่งมากๆ ขอบคุณครับ จากคุณ : ainboston - [ 25 ก.พ. 52 02:01:22 ]

ความคิดเห็นที่ 41 เห็นรูปแล้วคิดถึงญี่ปุ่นจริง ๆ ด้วยค่ะคุณหมอ ;-) คราวนี้ได้ฟื้นความจำ และเพิ่มความรู้อีกด้วย ว่าแต่...เมื่อไหร่น้า เราจะมีเหมือนเค้าบ้าง? ;-) จากคุณ : Chocolate_Almond - [ 25 ก.พ. 52 03:41:54 ]

ความคิดเห็นที่ 42 แวะมาอ่าน  (คร่าวๆ) จากคุณ : ป้อม (ppomp2003) - [ 25 ก.พ. 52 10:08:54 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ชอบ 000 Series ที่ #19 คุ้น ๆ เหมือนว่าจะเป็นรูปวันอำลา 000 Series ที่สถานีฮาคาตะ เมื่อ พ.ย. ปีที่แล้ว คุณหมอเอารูปมาจากที่ไหนเอ่ย ช่วยเฟิร์มด้วยครับ จะได้เข้าไปดูข้อมูล เพราะผมพลาดวันอำลา 000 Series อย่างน่าเสียดายสุด ๆ จริง ๆ เดือนนั้นต้องได้ไปญี่ปุ่น กะจะแว่บไปร่วมงานซ่ะ แต่ด้วยพิษแฮมเบอร์เกอร์บูด เลยอด เศร้าเลย.. จากคุณ : NumAromDee - [ 25 ก.พ. 52 10:11:43 ]

ความคิดเห็นที่ 44 อยากให้เมืองไทย  เดินทางได้สะดวกตรงเวลาด้วยรถไฟห้องน้ำสะอาดเบาะไม่มีเรือดเร็วๆจังค่ะ จากคุณ : ก่วยก๊วยตาลสด - [ 25 ก.พ. 52 14:09:22 ]

ความคิดเห็นที่ 45 รอตอนต่อไปค่ะ ยิ่งอ่านยิ่งเพลิน ^-^ จากคุณ : ^RyOkO^ - [ 25 ก.พ. 52 15:42:22 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ตามมาดูครับ จากคุณ : Alderwood - [ 25 ก.พ. 52 16:59:47 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ติดตามชมค่ะ ขอบคุณมาก จากคุณ : มณีสยาม - [ 26 ก.พ. 52 20:02:53 ]

ความคิดเห็นที่ 48 Did you know ว่าคุณหมอ เยี่ยมมากครับ ??? :o) จากคุณ : DEKCGN - [ 26 ก.พ. 52 23:14:20 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ขอบคุณมากค่ะ นู๋ตามไปดูกระทู้นู้น แล้วก็ตามมาให้กิฟท์ที่กระทู้นี้ด้วย   จากคุณ : สาวหน้าใส - [ 28 ก.พ. 52 22:00:14 ]

ความคิดเห็นที่ 50 มาขอยื่นใบสมัครสมาชิกชมรมคนรักรถไฟด้วยคนนะครับ แต่คงต้องกลับไปตามอ่านข้อกระทู้ก่อนหน้านี้อีกเยอะ ไม่รู้จะทำการบ้านเสร็จเมื่อไร ขอบคุณทุกท่านครับ จากคุณ : BOMPS - [ 11 มี.ค. 52 13:32:58 ]