ความคิดเห็นที่ 1 ก่อนอื่น ตามสไตล์ผม ก็ต้องกางแผนที่ ให้ดูกันก่อนว่า ตลาดบางหลวงที่ว่านี้ อยู่ตรงไหนของโลก เอ๊ย...ของกรุงเทพฯ  ซึ่ง จากแผนที่ที่ผมลากให้ดูเฉพาะส่วนฝั่งธนบุรี เน้น ถ.วงแหวนตะวันตก(กาญจนาภิเษก)  เลย จะเห็นว่าอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ โดยอยู่ติดกับ แม่น้ำนครชัยศรี หรือแม่น้ำท่าจีน  (ซึ่งในแผนที่นี้ ผมจะแสดงให้เห็นเส้นทาง แม่น้ำสายนี้ จนออกอ่าวไทยไปเลยว่า ผ่านสถานที่แห่งใดบ้าง) เพื่อนๆ จะเห็นถึงความสัมพันธ์ของสถานที่เที่ยวในละแวกนี้ด้วย ถ้ามีเวลาก็สามารถขับรถเลยไปออก ทางอื่นก็ได้เช่นกันครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 26 ก.พ. 52 16:32:48 ]

ความคิดเห็นที่ 2 กลับมาดูข้อมูลเพิ่มเติม พบว่า แม่น้ำท่าจีนนี้มีหลายชื่อ  ตั้งแต่ปากน้ำไปจนถึง อ.กระทุ่มแบน จะเรียกว่า แม่น้ำท่าจีน เลยไปจากนั้น จะเปลี่ยนเป็นชื่อ แม่น้ำนครชัยศรี  ไปจนเข้าเขต จ.สุพรรณบุรี ก็จะเปลี่ยนชื่อเป็น แม่น้ำสุพรรณบุรี อีก  แต่พอพ้นเขตจังหวัด สุพรรณบุรีก็จะเปลี่ยนชื่อกลับมาเป็น แม่น้ำท่าจีนอีก...?   จนมาถึงแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณจังหวัดชัยนาท โน้น  นับว่าเป็นแม่น้ำที่ยาว คดเคี้ยวมากเส้นหนึ่ง ครับ วันที่ไป คือ วันที่ 22 กพ. 52 คือวันอาทิตย์ ที่แล้วนี้เอง กว่าจะออกจากบ้านได้ก็บ่ายแก่ๆ แล้ว แถมหิวอีกเลยต้องแวะ คาร์ฟูร์บางใหญ่ เสียเวลาไปกับ ผู้คนมากมาย หาที่จอดรถก็ยาก ว่าจะออกจากห้างก็ 4 โมงเย็นกว่าแล้ว ไปถึง ที่ตลาดบางหลวงก็ 5 โมงเย็นครึ่ง ตลาดวายไปนานแล้ว (เท่าที่ตรวจสอบ ตลาดจะเลิกประมาณบ่ายสองโมง)  เอาล่ะ ไปดูลาดเลา เซอร์เวย์ก่อนก็ได้ ตอนไปถึง ก็มีอันต้องงงในการหาทางเข้าตลาดเช่นเดียวกับ ตลาดร้อยปี ที่สามชุก เมื่อคราวแล้วอีก  เพราะไม่มีป้ายบอกทางเข้า    ผมมาจาก อ.บางเลน ต้องวิ่งเลย ทางแยกไป อ.กำแพงแสน แล้วกลับรถมาอีกครั้ง ก็เลยพบป้ายบอกทางเข้าเล็กๆ เลี้ยวเข้าไป ตามแผนที่ข้างล่าง นี้ ซึ่งผมก็ได้นำเอา GPS Pocket PC ไปเดินทำแผนที่ และบันทึกตำแหน่งสถานที่สำคัญๆ มาให้ดูกัน ขออภัย ต้องขอแก้ไขข้อความในแผนที่เล็กน้อย ศาลเจ้าแม่กวนอิม เป็นศาลเจ้าแม่ทับทิม นะครับ (พอดี เว็บนี้ไม่สามารถเปลี่ยนภาพที่แนบได้) แก้ไขเมื่อ 26 ก.พ. 52 19:31:25 จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 26 ก.พ. 52 16:54:06 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ตามไปตลาดด้วยคนนะค๊า ^^ จากคุณ : น้ำตาลสีทอง - [ 26 ก.พ. 52 16:55:35 ]

ความคิดเห็นที่ 4 สวัสดีครับ คุณ น้ำตาลสีทอง ตามมาได้เลยครับ ผมเข้ามาจอดรถที่หน้าศาลเจ้าเจี้ยนหัว ตามแผนที่ข้างบนครับ ตรงนี้จะเป็นลานกว้าง 4 แยกแบบเฉียงๆ  ตีช่องให้จอดรถได้  เท่าที่สังเกตุจะเป็น ที่จอดรถเทศบาล ด้วย จอดฟรีครับ (ไม่รู้ว่า ถ้ามาตอนกลางวัน ตลาดเปิด อาจมีคนมาเก็บเงินก็ได้ แต่ตอนนี้ เย็นแล้ว เลยไม่มี...ครับ) จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 26 ก.พ. 52 17:10:10 ]

ความคิดเห็นที่ 5 หันหลังให้ศาลเจ้า ก็จะเห็นซุ้มป้ายเข้าตลาด (ซึ่งที่จริงจะมีอีกซุ้มหนึ่ง ด้านถนนด้านหน้า ที่แสดงในรูปเปิดกระทู้)  และซอยทางเข้าตลาด ใกล้ๆ กัน ทำให้ตรงนั้นกลายเป็น 4 แยก แบบเฉียงๆ ครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 26 ก.พ. 52 17:19:55 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เข้ามาดูค่ะ อยู่อำเภอบางเลน แต่ไม่เคยไปเลย ว่างๆ เดี๋ยวลองไปเดินมั่งดีก่า จากคุณ : harumi - [ 26 ก.พ. 52 17:24:08 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ผมเลือกเส้นทางเข้าตลาดไปมุ่งไปยัง ริมน้ำก่อน เพราะมีซุ้มป้ายคร่อมถนนบนหัว ครับ ลักษณะห้องแถว(บ้าน) ที่เห็นสองด้านจะเป็นสองชั้น ที่คนจีนนิยมเรียกว่า บ้านมีเหล่าเต๊ง  ที่จริงตลาดแบบนี้ บ้านเกิดผมเดิมที่ต่างจังหวัดก็เป็นเหมือนกัน แต่ได้เกิดเพลิงไหม้อย่างต่อเนื่องถึง 7 ครั้ง จึงทำให้ คงเหลืออยู่แถวเดียว ก็คือแถวบ้านที่ผมเคยอยู่ ที่ยังรอดได้จนทุกวันนี้ วันนี้ก็เลยดูเหมือนกำลังเดินย้อนอดีตเข้าไปในโลกสมัยยามเด็กๆ ครับ  อ้อ..พอดี ขณะที่กำลังจะกดชัตเตอร์ ก็บังเอิญมีรถไสเข็นน้ำผ่านมา ช่างเป็นสังคมในอดีตจริงๆ ครับ ที่สมัยก่อนจะใช้น้ำบ่อ ตักขึ้นมาใส่รถไส เดินขายตามบ้าน ก่อนจะมีน้ำบาดาล และ น้ำประปา ดังในปัจจุบัน จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 26 ก.พ. 52 17:27:53 ]

ความคิดเห็นที่ 8 สวัสดีคุณ harumi ครับ ถ้าจะไป แนะนำให้ไปก่อนเที่ยง จะมีของขายเยอะครับ  แต่ผมคนตื่นสาย ออกเดินทางแบบสบายๆ ไม่เร่งรีบ เลยมาถึงเย็นขนาดนี้ บนเส้นทางสายนี้ จะมีโรงฝิ่นอยู่ด้วย แต่ปิดแล้ว เลยเดินผ่านมาเฉยๆ ครับ  สมัยก่อนยังไม่ผิดกฏหมาย เป็นเสมือนร้านกาแฟสมัยนี้ มีคนเข้าไปสูบหาความสุขแบบง่ายๆ (ตายเร็วๆ) กันเยอะ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 26 ก.พ. 52 17:33:41 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เดินมาจนสุดถนนแล้ว ก็จะเป็นแพริมน้ำ บริการอาหาร  มีป้ายบอกว่า "แพสาธารณะ" คงกลัวว่า คนไม่กล้าลงไปเดิน เพราะไม่ได้สั่งอาหารกิน (ผมเองก็เพิ่งสังเกตุเห็นขณะที่ โพสนี้เช่นกัน เลยไม่กล้าลงไปบนแพ) แก้ไขเมื่อ 26 ก.พ. 52 17:41:57 จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 26 ก.พ. 52 17:40:30 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ตรงหัวมุมถนน ตรงข้ามกับทางลงแพ นี้จะเป็นร้านถ่ายรูป "เงาศิลป์" ที่บังเอิญผมถ่ายมาเบลอไปหน่อย เพราะแสงน้อย เวลาดูจากหน้าจอไม่ทันสังเกตุว่าไม่ชัด เลยไม่ได้ถ่ายซ้ำครับ  ผมจึงขอนำรูปชัดๆ จากของคุณ ตะวันชาย ที่ไปถ่ายมาเมื่อวันที่ 15 มค.52 ในลิ้งค์ข้างล่างนี้ http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E7423489/E7423489.html จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 26 ก.พ. 52 18:01:33 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ตรงหัวมุมนี้ มองย้อนกลับไปที่ซุ้มป้ายทางเข้า ที่ผมเพิ่งเข้ามาดู จะเห็นตะเกียงสีแดง (คนจีนเรียกว่า เต็งลั้ง) เรียงรายไป  ดูคลาสสิคดี แต่......ดันมีรถปิ๊คอัพในโลกปัจจุบัน มาจอดอยู่...แหม... จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 26 ก.พ. 52 18:08:56 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เดินเลียบแม่น้ำมาจนถึงหัวโค้ง มีนอกชานบ้านยื่นออกไป ลงไปยืนถ่ายภาพจะเห็น บ้านหลังเก่าๆ อยู่ฝั่งตรงข้าม  ชาวบ้านแถวนั้นบอกว่า เป็นบ้านท่านนายกฯ  คือ นายกเทศมนตรีเก่า ที่ท่านเคยอยู่ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 26 ก.พ. 52 18:26:20 ]

ความคิดเห็นที่ 13 มองไปทางขวามือ จะเห็นสะพานรถข้าม อยู่ไม่ไกลนัก เป็นสะพานข้ามไปยัง วัดไผ่โรงวัว  ที่จริงผมก็ข้ามแม่น้ำเส้นนี้ ตรงช่วง อ.บางเลนแล้ว (จากรูปแผนที่ ให้คห.1)  ด้านขวามือของแม่น้ำใกล้ๆ นี้เป็นปากคลองบางหลวง ครับ (เป็นคนละคลองกับ คลองบางหลวงในกรุงเทพฯ ซึ่งมีชื่อทางการว่า คลองบางกอกใหญ่ นะครับ) จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 26 ก.พ. 52 18:36:33 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เดินเลียบคลองบางหลวงเข้ามาตามถนน จะเห็นศาลาริมน้ำเรียงรายกันเลย ตรงทางที่เห็นสุดสายตา นั่นคือวิกหนังเก่า หรือ โรงภาพยนต์ที่เลิกฉายนานแล้วครับ สักครู่เราจะไปชมกันใกล้ๆ ตอนนี้ให้ชมคลองบางหลวงไปก่อนครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 26 ก.พ. 52 18:44:33 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ศาลานี้แปลก น่าจะเรียกว่า นอกชานมากว่า ที่ยื่นออกไป ชมวิว โดยไม่มีหลังคา เหมือนที่เรามักเห็นตาม บนริมเขา เช่น อช.ทองผาภูมิ เป็นต้น ตรงจุดนี้ จะมองเห็นศาลเจ้าแม่ทับทิม(ขอแก้คำในภาพที่แนบด้วย) อยู่ฝั่งตรงข้ามคลองบางหลวง และเห็นสะพานรถข้ามไกลๆ  ตอนเย็นๆ มานั่งทานข้าวตรงนี้ นับว่าเพลินมากๆ (สังเกตุให้ดี มีโคมไฟสวยๆ มาประดับอีกด้วย ก็นับว่าเป็นชัยภูมิสุดยอดเลยครับ) แก้ไขเมื่อ 26 ก.พ. 52 19:32:31 แก้ไขเมื่อ 26 ก.พ. 52 18:53:55 จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 26 ก.พ. 52 18:52:12 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ถัดไปเป็นศาลาที่ผมขอผ่านไปที่ริมน้ำเพื่อถ่ายภาพ พานอรามาครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 26 ก.พ. 52 18:54:49 ]

ความคิดเห็นที่ 17 และนี่ก็เป็นภาพพานอรามา ที่ผมถ่ายมา โดยใช้กล้องโกดัก รุ่น M1093IS ที่สามารถถ่ายภาพแบบพานอรามาได้ในตัว โดยที่ผมไม่ต้องมาต่อภาพเองโดยโปรแกรมโฟโต้ช็อป เหมือนที่เคยทำครับ แก้ไขเมื่อ 26 ก.พ. 52 19:02:53 จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 26 ก.พ. 52 19:00:57 ]

ความคิดเห็นที่ 18 จากภาพมุมนี้ ก็เลยได้เห็นสะพานแขวน อันอลังการณ์ ที่สร้างให้ข้ามไปสักการะเจ้าแม่ทับทิม ที่ฝั่งตรงข้ามได้สะดวก มิฉะนั้นต้องพายเรือข้ามไปครับ แก้ไขเมื่อ 26 ก.พ. 52 19:29:58 จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 26 ก.พ. 52 19:06:23 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ลองเดินไปชมสะพานกันใกล้ๆ หน่อยครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 26 ก.พ. 52 19:09:06 ]

ความคิดเห็นที่ 20 บรรยากาศบนสะพานก็ดูเสียวๆเล็กน้อย สะพานนิ่งดีไม่โคลงครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 26 ก.พ. 52 19:11:18 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เด็กๆ ก็เลยเล่นกันใหญ่ อย่างไม่กลัวตกสะพาน.. จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 26 ก.พ. 52 19:12:35 ]

ความคิดเห็นที่ 22 บนสะพานนี้ลองถ่ายภาพพานอรามาดูอีกสักรูป เป็นรูปแม่น้ำนครชัยศรี ตรงปากคลองบางหลวงพอดีครับ  เท่าที่สังเกตุ ดินตรงริมฝั่งศาลเจ้าจะแตกร้าว เหมือนกับดินใหม่ที่เพิ่งขุดลอกมาโปะไว้ คงไม่ใช้พื้นฐานของศาล  ไม่งั้นคงทรุดได้ง่ายๆ  แต่นับเป็นชัยภูมิที่ดีของศาล นะครับ ที่อยู่หัวมุมคุ้งน้ำพอดี เพื่อที่คนใช้เรือผ่านไปมา จะได้ยกมือไหว้อย่างสะดวกครับ (อากาศก็ดีด้วย) จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 26 ก.พ. 52 19:17:59 ]

ความคิดเห็นที่ 23 มองอีกด้าน (ด้วยพานอรามา) จะเห็น บ้านริมคลอง และวิกหนังอยู่ไกลๆ โน้น ครับ คลองนี้ ตามที่เพื่อนๆ มาโพส บอกว่า มีเรือถีบให้ด้วย แต่ตอนที่ผมไป ไม่เห็นมีครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 26 ก.พ. 52 19:22:52 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ตอนนี้จะลงสะพาน กลับเข้าไปเดินเล่นในตลาดบางหลวง ตอนนั้น เกือบ 6 โมงเย็นแล้ว ต้องรีบๆ หน่อยไปดูวิกหนังเก่า และค้นหาบ้านเก่าเล่าเรื่อง อีกครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 26 ก.พ. 52 19:26:03 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ลงสะพานไป ตรงหน้าจะเป็นตรอกเล็กๆ ทะลุไปยังซอยกลางได้ ครับ  (ป้ายเล็กๆ ข้างบน พิมพ์คำว่า "โปรดช่วยกันรักษาความสะอาด" จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 26 ก.พ. 52 19:28:49 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ก่อนจะเดินออกไปจากตรงนี้ ขอแวะถ่ายภาพเจ้าตัวเล็กที่นำมาหน่อยครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 26 ก.พ. 52 19:35:26 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ดูเขามีความสุขมากนะครับ กับการโพสท่าสวยๆ แบบนี้ (ที่จริง ผมแนะนำเอง และเขาก็ยินยอมทำอย่างง่ายๆ แถมยิ้มให้ด้วย อีกหน่อยอาจได้เป็นดารา หรือไม่ก็นางแบบ....) จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 26 ก.พ. 52 19:38:00 ]

ความคิดเห็นที่ 28 มาถึงแล้วครับ วิกหนังเก่า ซึ่งปัจจุบันเลิกฉายภาพยนต์แล้ว และถูกใช้เป็นโกดังเก็บของ ตอนนี้ปิดประตูอยู่ ถ้าอยากชมข้างใน คลิ๊กเข้าไปที่กระทู้ของคุณ mp_nat ครับ http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E7466320/E7466320.html#15 จากรูปจะสังเกตุเห็นว่า พื้นที่ตรงด้านหน้าวิกหนังจะเป็นลานโล่ง ที่ใช้จอดรถได้อีกจุดหนึ่ง (จากเดิมตรงจุดหน้าซุ้มป้าย ที่ผมจอดอยู่ครับ) จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 26 ก.พ. 52 19:45:03 ]

ความคิดเห็นที่ 29 จากรูปข้างบน สังเกตุให้ดี ที่หน้าวิกหนัง ตรงใกล้ๆ กับทางที่ออกไปถนนใหญ่ได้ จะมีรถลาก ที่นิยมเรียกว่า รถเจ๊ก ครับ เป็นเครื่องมือหากินของคนจีนที่มาอยู่ประเทศไทยใหม่ๆ โดยไม่ต้องใช้ความรู้ความสามารถอะไร และด้วยที่นิสัยคนไทย ที่มีสตางค์ ชอบสบาย เลยยอมจ่ายเงินเล็กๆ น้อยๆ ให้กับคนจีน ที่ยอมมาลากรถด้วยแรงกาย  จนต่อมาพวกเขาก็เก็บหอมรอมลิบ ซื้อสินค้ามาขาย จนตั้งตัวร่ำรวยได้ในปัจจุบันครับ  นับเป็นตัวอย่างที่ดี ว่าทางรอด หรือหนทางแห่งความร่ำรวยนั้นมีเสมอ หากแต่ คุณจะกล้าทำหรือไม่? จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 26 ก.พ. 52 19:50:09 ]

ความคิดเห็นที่ 30 เดินไปดูแผ่นป้ายโฆษณาหนัง (ที่คาดว่ามาทำกันใหม่เพื่อการอนุรักษ์และการท่องเที่ยว) แต่ภาพยนต์เก่าจริงๆ ที่ฉายกันเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2509 นับถึงวันที่ผมไปถ่ายภาพมา ก็ครบ 43 ปีเต็มแล้วครับ  (โอ..นั่นพอๆ กับอายุผมเลยนะนี่) ก่อนที่ คุณมิตร ชัยบัญชา จะโด่งดังในเรื่องมนต์รักลูกทุ่ง เสียอีก จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 26 ก.พ. 52 19:58:01 ]

ความคิดเห็นที่ 31 หันไปมองอีกด้านเป็นแผ่นป้ายหนังอีกสองเรื่องดังของคุณมิตร ชัยบัญชา ครับ แต่ไม่ได้ลงวันที่ฉายไว้  แต่คิดว่า คงจะหลังจากเรื่อง ธนูทอง ในคห.ก่อนหน้านี้ เพราะผมจำได้ว่า ตอนเด็กๆผมยังได้ดูภาพยนต์เรื่องมนต์รักลูกทุ่ง เลยครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 26 ก.พ. 52 20:03:18 ]

ความคิดเห็นที่ 32 จากแผนที่ ในคห.2 ผมเดินผ่านเวิ้งตลาดที่มีหลังคา (แสดงด้วยแท่งสีเขียวยาว) ลัดมายังซอยกลาง ที่จะตรงมายังร้านกาแฟชื่อดัง ที่นั่น ครับ จากรูปข้างล่าง ตลาดตอนนี้กลายเป็นที่จอดรถเฉยๆ ไม่รู้ว่าตอนเช้าๆ อาจมีของขายก็ได้  แต่ว่าไปแล้วแดดร้อนๆ นี่ จอดรถในนี้ก็นับว่ายอดครับ แต่ผมมาตอนเย็นเลยจอดที่ไหนก็ได้ครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 26 ก.พ. 52 20:07:36 ]

ความคิดเห็นที่ 33 นี่ไงครับ ร้านกาแฟชื่อดังของที่นี่ "เจียซุ่นกี่" ซึ่งเคยเข้าฉากภาพยนต์เรื่องคมแฝกมา โดยใช้ชื่อร้านว่า "กาแฟพ่อปาน" จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 26 ก.พ. 52 20:11:31 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ที่หน้าตู้และผนังจะมีรูปภาพ เมื่อครั้งที่ มีการถ่ายทำภาพยนต์เรื่องคมแฝกครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 26 ก.พ. 52 20:23:52 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ผมสั่งกาแฟ ชา โอวัลติน ไปหลายถุงเหมือนกัน  ทางร้านก็คงแปลกใจว่า จะค่ำแล้วยังมีนักท่องเที่ยวมาอีก ทีแรกก็คงคิดว่ามาหาญาติแถวๆ นี้กัน ออกจากร้านกาแฟแล้วก็เดินไปซอยกลาง ก็ไปพบเห็นร้านตัดผม ในภาพยนต์เรื่องคมแฝกอีก ชื่อว่า ร้านเมืองพลเกษา ราชสีห์  บังเอิญผมไม่ได้ติดตามดูหนังเรื่องคมแฝก เลยไม่รู้จัก ครับ  แต่ถ้าเป็นคนที่เคยดูมาแล้ว ก็คงสนุก เหมือนตัวเองกำลังเข้าไปอยู่ในหนังเลย จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 26 ก.พ. 52 20:28:37 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ผมเดินมาจนถึงสี่แยกกลางตลาดแล้วหันกลับไปมอง บ้านริมแม่น้ำไกลๆ โน่น จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 26 ก.พ. 52 20:33:58 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ละเอียดยิบเลย ชอบจัง ๆ ขอบคุณมาก ๆ นะคะ จากคุณ : Picike - [ 26 ก.พ. 52 20:45:05 ]

ความคิดเห็นที่ 38 เดินๆ ไป อ้าว...รถลากมาแล้ว... มีนักท่องเที่ยวชาวไทยเชื้อสายจีนหลายคน มาด้วย จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 26 ก.พ. 52 20:46:06 ]

ความคิดเห็นที่ 39 สวัสดีครับ คุณ Picike นี่แหละครับท่องเที่ยวตามสไตล์ นายมิราชช  ต้องเสียเวลาในการโพสมากครับ แต่ก็สนุกดี  เชิญติดตามต่อไปครับ มีคนลากรถมาใกล้แล้ว อ้าว...อาจารย์! นี่นา  ตามที่ทราบจากกระทู้ของคุณ mp_nat ท่านเป็น อาจารย์พิเศษ สอนภาษาจีน ที่ ม.ศิลปากร วิทยาเขต สนามจันทร์ ท่านพยายามบูรณาการ ตลาดแห่งนี้ให้เป็นที่รู้จักของคนทั่วไป อันเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว และนำมาซึ่งรายได้ของชุมชนท้องถิ่นเอง จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 26 ก.พ. 52 20:56:44 ]

ความคิดเห็นที่ 40 และท่านก็ได้เดินนำมาที่บ้านไม้เก่าเล่าเรื่อง ที่ท่านดูแลอยู่ โดยระหว่างที่เดินก็ได้คุยกับท่าน ขณะที่ท่านปฏิบัติการลากรถอยู่ อย่างภูมิใจ ที่ได้สืบทอดวิถีชีวิตของคนจีนในสมัยก่อน อย่างไม่อายใคร  ต้องปรบมือให้ครับ ท่านบอกว่าไม่คิดเงิน แล้วแต่จะบริจาคให้ ซึ่งท่านก็นำเงินนั้นมาเป็นค่าเช่าบ้านเก่าเล่าเรื่อง ได้ครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 26 ก.พ. 52 21:05:06 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ผมขอถอยหลังมาเก็บภาพบ้านเก่าเล่าเรื่องให้เต็มๆหลังหน่อย เพราะเป็นบ้านสองชั้น มีเหล่าเต๊งด้วย  จากมุมถ่ายภาพในรูป ดูแล้วอย่างง นะครับ เพราะผมเดินออกมาทางปากซอยกลาง แล้วหันกล้องถ่ายเข้าไป เพื่อที่ เวลาเพื่อนๆ เดินเข้าไปจากถนนใหญ่ จะได้เห็นว่าบ้านเก่าเล่าเรื่องอยู่ด้านซ้ายมือ และไม่ไกลจาก ซุ้มป้าย ริมถนนใหญ่ ครับ  (ถ้างง ก็ให้กลับไปดู แผนที่ ในคห.2 ได้ครับ) จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 26 ก.พ. 52 21:12:22 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ถ่ายป้ายชื่อบ้าน "บ้านเก่าเล่าเรื่อง" ให้ชัดๆ หน่อย  แต่แสงเวลานั้นก็น้อยเต็มที 6 โมงเย็นเกือบครึ่งแล้ว  แต่ก็พอเห็นซุ้มป้ายที่ถนนใหญ่ (ซอยกลาง) อยู่ไม่ไกลนัก จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 26 ก.พ. 52 21:16:08 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ตามมาชมครับผม ตลาดบางหลวงผมคิดว่าเหมือนกับตลาดเก้าห้องตรงที่มีเสน่ห์และเก่าแก่ แต่ยัง่ไม่โดนอิทธิพลจากการท่องเที่ยวเจือปนมากแบบดอนหวายหรือสามชุก ก็หวังว่าจะเป็นตลาดที่มีคนไปเที่ยวกันเยอะๆ แต่รักษาสิ่งดั้งเดิมเอาไว้ได้ครับ จากคุณ : อุ้ย (digimontamer) - [ 26 ก.พ. 52 21:17:05 ]

ความคิดเห็นที่ 44 สวัสดีคุณ อุ้ย (digimontamer) ติดตามมาตลอด เริ่มจะเป็นแฟนพันธุ์แท้ แล้วนะครับ... วันนี้คงพักไว้ก่อน เพราะดึกแล้ว ต้องกลับบ้าน เอาไว้พรุ่งนี้จะพาเข้าไปชมของเก่า ในบ้านเก่าเล่าเรื่องครับ ขอฝากรูปข้างล่างไว้ นะครับ เป็นของอาจารย์ ที่ดูแลบ้านเก่าเล่าเรื่องครับ สนใจก็โทรเข้าไปสอบถาม ได้นะครับ (บังเอิญผมได้จาก ตัวอาจารย์เอง ตอนเดินคุยขณะที่ท่านลากรถอยู่  แม้แต่ชื่อผมยังไม่รู้จักเลยครับ) จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 26 ก.พ. 52 21:25:16 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ชอบบรรยากาศตลาดเก่ามากค่ะ เก็บเที่ยวมากเรื่อย ๆ ตลาดบางหลวงนี่ คงเป็นช่วงปิดเทอมนี้คงได้พาเด็ก ๆ ไปสนุกกันค่ะ จากคุณ : yabela - [ 27 ก.พ. 52 07:57:12 ]

ความคิดเห็นที่ 46 พรุ่งนี้จะพาคนที่บ้านไปล่ะ ใกล้บ้านมากๆแต่ไม่เคยเข้าไปสักที ขอบคุณนะคะสำหรับ รีวิว จากคุณ : pitpiya_g - [ 27 ก.พ. 52 10:36:48 ]

ความคิดเห็นที่ 47 สวัสดีครับคุณ มิราชช (vilaithong) ผมก็ชอบเที่ยวตลาดเก่า+ตลาดน้ำเช่นกันครับ ชอบเพราะของกินเยอะดี หุหุ จากคุณ : อุ้ย (digimontamer) - [ 27 ก.พ. 52 10:46:40 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ต้องไปอุดหนุนการท่องเที่ยวไทยบ้าง จากคุณ : แม่ดอกทองหลาง....คนชั้นฟ้า - [ 27 ก.พ. 52 17:25:06 ]

ความคิดเห็นที่ 49 สวัสดีคุณ yabela ครับ ยังมีตลาดเก่า ที่ผมยังไม่ได้ไป เช่น ตลาดเก้าห้อง ตลาดบางซอ ตามกระทู้ของคุณตะวันชาย http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E7423489/E7423489.html#24 ครับ  เอาไว้วันหน้าจะพาไปชมอีก สวัสดีคุณ pitpiya_g ที่มาแวะชม ว่างๆ ก็ไปเที่ยวชมดูได้ครับ สวัสดีคุณ อุ้ย อีกครั้ง ที่จริงผมก็ไม่ค่อยชอบเที่ยวตลาดเท่าใดนัก เพราะไม่ชอบแออัด ซื้อของ แต่บังเอิญคนที่บ้านเขาชอบ และ ตัวผมชอบ ตอนตลาดเงียบๆ หวังไปดูบรรยากาศ ธรรมชาติ มากกว่า ครับ มาต่อกันที่บ้านเก่าเล่าเรื่อง นะครับ  ตรงหน้าบ้านจะมี กระดานดำแบบเขียนด้วยชอล์คสี เขียนกลอนให้อ่าน กันเพลินๆ ครับ  เดี๋ยวนี้ กระดานดำแบบนี้ ไม่มีใครใช้แล้ว เพราะไปใช้กระดานขาว (White Board) กันหมด จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 27 ก.พ. 52 17:26:33 ]

ความคิดเห็นที่ 50 สวัสดีคุณ แม่ดอกทองหลาง....คนชั้นฟ้า  ครับ โพสมาเกือบพร้อมๆผมเลย ดีครับ อุดหนุนคนไทยด้วยกัน โดยเฉพาะคนท้องที่ ที่ทุนน้อย และนับวันจะมีรายได้น้อยกว่า คนในเมืองหลวงครับ ตรงหน้าบ้านนี้ก็ยังมีรถจักรยานเก่า ที่รูปร่างแข็งแรง ใหญ่โต เก้งก้าง ขึ้นขี่ไม่สะดวกเหมือนรถจักรยานในปัจจุบัน เพราะมีแท่งเหล็กแกนกลาง ระหว่าง เบาะนั่งกับแฮนด์รถ ทำให้ ยกขาขึ้นลงไม่สะดวก ต่างจากในปัจจุบันจะเว้าลงไปต่ำ ทำให้ก้าวขาขึ้นลงได้สะดวก  สมัยก่อนเขาเรียกว่า รถผู้ชาย  ส่วนรถที่เว้าแกนกลางลง จะเรียกว่า รถผู้หญิง คือสวมกระโปรงก็ขี่ได้  เหมือนกับรถมอเตอร์ไซด์ นั่นแหละครับ ที่จริงแล้ว ที่บ้านเดิมผมในต่างจังหวัด นั้น ก็ยังเคยมีโครงจักรยานแบบนี้ แขวนอยู่ที่ข้างฝาบ้านเหมือนกัน เพราะคุณพ่อผมเคยเปิดร้านซ่อมจักรยาน แต่เลิกไปก่อนที่ผมเกิดอีก จนมีการปรับปรุงบ้าน โครงเหล็กก็ถูกนำไปขายชั่งกิโล หมดครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 27 ก.พ. 52 17:36:02 ]

ความคิดเห็นที่ 51 เดินเข้ามาในบ้าน ตรงกลางบ้านจะมี ของเก่าวางอยู่ บ้าง แต่ลืมถ่ายมา  ไปถ่ายผนังบ้านด้านซ้ายมือก่อน จะมีของเก่าแขวนไว้หลายชิ้นเหมือนกัน ที่ผมเองในปัจจุบันยังคงมี กระจกเงาแบบนี้ และตะเกียงเจ้าพายุ ด้วยครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 27 ก.พ. 52 17:44:39 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ลองถ่ายตัวเองในกระจกเงาใบนี้กันหน่อย จะเห็นเอฟเฟ็คเต็มกระจกเลย  เอฟเฟ็คที่ว่านี้ไม่ได้สร้างจาก โปรแกรมคอมพิวเตอร์ใดๆ นะครับ เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ที่เมื่อกระจกเงาเก่ามากๆ แล้ว ปรอทที่ถูกฉาบไว้หลังกระจกใส ก็จะหลุดร่อนไป คงเหลือแต่บางส่วนที่พอมองเห็นตัวเองได้ แต่ให้ระวัง มองๆ ไปอาจเห็นใครสักคนที่ไม่คาดฝัน  ทำนองว่า หันหลังไปดูก็ไม่เห็น บรื๊อย์.................. เออ....ว่าแต่ ตัวข้าพเจ้าทำไมถึงหล่อจังเลย ในกระจกบานนี้  อย่างนี้เขาต้องเรียกว่า กระจกหลอก หรือว่า......ไม่ใช่หน้าของข้าพเจ้าเองนะนี่..... จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 27 ก.พ. 52 17:51:38 ]

ความคิดเห็นที่ 53 มองลึกเข้าไปอีก จะเห็นข้าวของเก่าๆ วางไว้บนชั้นอย่างมีระเบียบ  น่าเสียดายที่ภาพเบลอไปหน่อย เพราะแสงน้อย ใช้มือเปล่าจับกล้อง  เวลาตรวจดูจากจอภาพ LCD หลังกล้อง ก็ดูเหมือนชัด แต่พอมาดูจากคอมพิวเตอร์ กลับมัวมากๆ ต้องขออภัยครับ อยากดูชัดๆ ก็คงต้องไปดูเองที่นั่นครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 27 ก.พ. 52 17:55:07 ]

ความคิดเห็นที่ 54 อ๊าค....ตรงกลางห้อง นี้มีตู้โชว์ใส่ของเก่าที่น่าดูไม่น้อย ชามสังคโลก กับ ตาชั่ง ครับ จัดวางได้คล้ายกับ พิพิธภัณฑ์เลย ถ้าหาก ท่านอาจารย์ผู้ดูแล มีทุนมากกว่านี้ อาจทำตู้จัดวางของเก่า พร้อมชื่อที่มา ให้ครบทุกชิ้นเลยก็ได้ครับ เท่าที่ทราบมา ของเหล่านี้ ชาวบ้านแถวนั้นเขารวบรวมเอามาให้จัดแสดงที่นี่ครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 27 ก.พ. 52 17:58:43 ]

ความคิดเห็นที่ 55 มองผ่านมายัง ด้านขวามือของบ้าน (เป็นบ้านสองคูหาเชื่อมติดกัน เริ่มดูจากคูหาด้านซ้ายมือ เมื่อหันหน้าเข้าบ้านก่อน แล้วหันมาดูคูหาขวามือ) จะเห็นตู้โชว์ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 27 ก.พ. 52 19:25:16 ]

ความคิดเห็นที่ 56 และที่น่าหวาดเสียก็คือ เคียว ที่ใช้เกี่ยวข้าวนี่แหละ มันโค้งๆ แหลมๆ ถือแล้วจะเกี่ยวกับอะไรก็ง่าย  ข้างบ้านเกิดผมเองเขาเป็นร้านรับตีมีด และขายเหล็กอุปกรณ์การเกษตร เจ้าเคียวนี่แหละน่ากลัว เวลาผมไปวิ่งเล่น เขาวางขายไว้ หันตะขอไปมา เกือบโดนก็หลายที ครับ แถมคมก็ถูกตะไบลักษณะคล้ายใบเลื่อยด้วย นึกไม่ออกว่า เวลาเกี่ยวข้าวถ้าพลาดจะเป็นอย่างไร.....อึ๋ย....... จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 27 ก.พ. 52 19:33:25 ]

ความคิดเห็นที่ 57 มองไปทางในบ้าน ก็จะเป็นตู้โชว์วางเรียงกันจนถึงฝาบ้านด้านในเลย มีอะไรน่าสนใจเยอะเหมือนกันครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 27 ก.พ. 52 19:36:13 ]

ความคิดเห็นที่ 58 ลองเดินไปชมใกล้ๆดูบ้าง ตู้แรกทางซ้ายมือจะเป็นธนบัตรเก่า ครับ พอดีผมกำลังสนใจเรื่องธนบัตรของไทย ว่า สมัยก่อนนั้นเรามีใช้กันเมื่อใด ในรัชกาลใดครับ เพราะในปัจจุบันเราจะคุ้นเคยกับ พระบรมฉายาลักษณ์ของ รัชกาลองค์ปัจจุบัน จนลืมไปว่า สมัยก่อน เราก็มีพระบรมฉายาลักษณ์ของ พระเจ้าอยู่หัว องค์ก่อนเหมือนกัน จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 27 ก.พ. 52 19:42:32 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ในตู้นี้ จะมีธนบัตรที่สะดุดตาผมก็คือ ธนบัตรที่ถูกประทับตราให้เปลี่ยนค่า คงจะเกี่ยวกับภาพยนต์ไทยเรื่อง "สตางค์" นะครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 27 ก.พ. 52 19:44:59 ]

ความคิดเห็นที่ 60 ตู้ถัดมาก็เป็น ธนบัตรไทย สมัยรัชกาลปัจจุบันที่หาดูไม่ได้แล้ว เช่น ใบละ 1 บาท    ส่วนใบละ 5 บาทนั้นผมทันใช้ ตอนเด็กๆ และ ใบละ 100 บาทนั้นเป็นแบบเก่าที่สีสรรแดงสดใส ไม่มีระบบป้องกันการปลอมมากเท่าสมัยนี้  และธนบัตรสองพระองค์ที่ออกให้ใช้เฉพาะเพื่อการสะสมครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 27 ก.พ. 52 19:52:43 ]

ความคิดเห็นที่ 61 อีกตู้หนึ่ง ก็จะเป็นธนบัตรเก่าๆ เช่นกันที่หาดูไม่ได้แล้วในปัจจุบัน จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 27 ก.พ. 52 19:56:28 ]

ความคิดเห็นที่ 62 และในตู้นี้ ก็มีธนบัตรเก่าที่มีพระบรมฉายาลักษณ์ของรัชกาลที่ 7 ซึ่งเป็นธนบัตรรุ่นแรกที่มีรูปพระบรมฉายาลักษณ์ อยู่ นับเป็นบุญตาเหมือนกันที่ได้เห็นของจริง พิมพ์ตั้งแต่ก่อนเปลี่ยนแปลงการปกครองเลยครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 27 ก.พ. 52 20:09:16 ]

ความคิดเห็นที่ 63 พอดีไปค้นใน google มา พบว่า ธนบัตรที่เก่าแก่กว่า ในคห.62 นี้อยู่ใน ตู้ที่สอง (คห.60) ซึ่งตอนนั้นยังไม่มีการพิมพ์พระบรมฉายาลักษณ์ลงไปในธนบัตร  ขอนำมาแสดงใหม่ให้เห็นจะๆ ว่า มีหน้าตาอย่างไร กับ ธนบัตรแบบแรกของประเทศไทย ที่ได้ชื่อว่าธนบัตรไทย  เพราะก่อนหน้านี้จะมีชื่อเรียกอย่างอื่น เริ่มจาก หมาย, อัฐกระดาษ, เงินกระดาษหลวง และบัตรธนาคาร ครับ จากรูป พิมพ์เมื่อปี พ.ศ.2445 ครับ  มีอายุ 107 ปี จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 27 ก.พ. 52 20:20:36 ]

ความคิดเห็นที่ 64 พอดีเวลานั้นพลบค่ำแล้ว มองเข้าไปหลังบ้านมืดสนิท เลยไม่คิดจะเดินเข้าไปหาทางขึ้นชั้นบน ที่เรียกว่า เล่าเต๊ง (และพอดี อาจารย์ผู้ดูแลท่านไม่ได้อยู่ในบ้าน ท่านมีธุระกับแขกในรูป คห.38 อยู่ครับ ถ้าหากผมขึ้นชั้นบนไปโดยพละการ ก็ดูไม่เหมาะ และแน่นอนก็จะรู้สึกวังเวง เพราะเป็นบ้านเก่า ตอนมืด และคนเดียวด้วย....) ผมเลยออกมาจากบ้าน  หันกลับไปถ่ายภาพอีกครั้ง ด้วยใจที่อาวรณ์....(ว่าเข้าไปนั่น..) จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 27 ก.พ. 52 20:29:18 ]

ความคิดเห็นที่ 65 เดินออกมาจนถึง ซุ้มป้าย ในรูปเปิดกระทู้ ก็หันกลับไปถ่ายภาพอีกครั้ง เวลาตอนนั้นก็ 6 โมงครึ่งพอดีเป๊ะ  ตรงนี้ถ้าไม่สังเกตุไว้จะจำไม่ได้ว่า บ้านเก่าเล่าเรื่องอยู่ตรงไหน   ผมสังเกตุ หลังคาที่เหลื่อมกันก่อน บ้านเก่าเล่าเรื่องจะเป็นหลังคาที่ต่ำกว่า ดังแสดงในรูปข้างล่างครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 27 ก.พ. 52 20:37:18 ]

ความคิดเห็นที่ 66 ผมเดินข้ามถนนไปนั่งเล่น (มีม้านั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามด้วย) แล้วถ่ายภาพเข้าไป ที่ซอยกลาง แบบมุมมองคนนั่งรถครับ ให้สังเกตุ โคมไฟสีแดง จะมี ข้างละ 1 โคม ต่างจาก ซุ้มป้ายอีกอันตรงที่ผมจอดรถ ซึ่งจะมี โคม ข้างละ 2 โคมครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 27 ก.พ. 52 20:42:29 ]

ความคิดเห็นที่ 67 เสร็จแล้วผมก็เดินกลับเข้าไปในซอยกลางนี้อีก ตอนนี้จะเห็นมีร้านขายของเล็กๆ อยู่ นี่แหละครับเป็นบรรยากาศใกล้ค่ำของที่นี่  เงียบสงบ ไม่พลุกพล่าน (แต่หาของกินยามนี้ยากหน่อย... ถ้าจะมีต้องข้ามถนนไปอีกฝั่ง หน้า ศูนย์บริการประชาชน นั่นแหละจะมีของขายรถไส แบบในกรุงเทพฯขายครับ) จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 27 ก.พ. 52 20:50:40 ]

ความคิดเห็นที่ 68 ที่จริงบรรยากาศมืดกว่านี้  พวกเราก็เตรียมตัวเดินกลับไปที่รถ เอ้า..รีบกันหน่อยค่ำแล้ว ยังมีธุระจะไปแวะที่ บางบัวทองอีกด้วย จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 27 ก.พ. 52 20:54:38 ]

ความคิดเห็นที่ 69 มัวแต่ปรับกล้องอยู่นั่น เผลอแป๊บเดียว พวกเดินไปโน้นแล้ว   เฮ้.....รอด้วย... จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 27 ก.พ. 52 20:57:52 ]

ความคิดเห็นที่ 70 ในภาพข้างบนนี้เป็นซอยแรก ที่พวกเราเดินเข้ามา (ให้ดูในรูป คห.2 จากซุ้มป้าย ถึง แพอาหาร)   ผมขอจบกระทู้ไว้ที่ รูปนี้นะครับ เป็นซุ้มป้ายแรกที่เราผ่านเข้าไป ในคห.ที่ 5   แต่ต่างบรรยากาศกัน ให้สังเกตุ โคมไฟที่มีข้างละ 2 โคมครับ (ต่อไปใครมาทายว่า เป็นซุ้มป้ายไหน ก็ตอบได้แล้วนะครับ ว่าอยู่ตรงไหนของตลาดบางหลวงแห่งนี้)  สวัสดีครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 27 ก.พ. 52 21:04:11 ]

ความคิดเห็นที่ 71 ขอบคุณสำหรับรีวิวครน่าสนใจมากเลย คงได้ตามไปเที่ยวบ้าง.. จากคุณ : Red Fox - [ 2 มี.ค. 52 11:24:17 ]

ความคิดเห็นที่ 72 เช่นนั้น ลองตลาดลาดชะโดที่ผักไห่ และแวะไปตลาดศาลเจ้าพ่อโรงทอง วิเศษชัยชาญดูครับ ได้บรรยากาศทั้งสองแบบคือ ของกินพอมี แต่คนไม่แออัด จากคุณ : อุ้ย (digimontamer) - [ 2 มี.ค. 52 16:57:19 ]

ความคิดเห็นที่ 73 สวัสดีคุณ Red Fox ครับ ลองมาเที่ยวดูก็ได้ ตอนก่อนเที่ยงจะมีของขายเยอะ  อ้อ..จำได้แล้ว คุณเคยแนะนำ ตลาดเก้าห้องไปเมื่อต้นเดือน กพ.นี้เอง วันอาทิตย์นี้ ถ้ามีเวลาผมจะลองไปเที่ยวดูบ้าง ครับ   แต่จะไปแวะตลาดบางซอด้วย เพราะอยู่ตามแนว แม่น้ำสุพรรณฯ เหมือนกันครับ สวัสดีคุณ อุ้ย (digimontamer) ขอบคุณที่แนะนำครับ ว่าแต่ ตลาดลาดชะโด นั่นบ้านเดิมของแม่ผมนะครับ และในปัจจุบันผมยังมีญาติที่นั่นด้วย (เพิ่งผ่านไป เมื่อเดือน ธค. 51 นี้เองครับ)  และสำหรับตลาดลาดชะโดนั่น ตอนเด็กๆ ผมยังเคยนั่งเรือจากบ้านญาติมาซื้อของตลาดด้วย  วัดลาดชะโด เองผมก็เคยทัน ไปทำบุญโดยเรือ คนเต็มศาลาเลย ยังจำภาพนั้นได้   ส่วนศาลเจ้าพ่อโรงทอง นั้นผมไม่เคยทราบ  ลองหยิบ GPS Pocket PC มาดู พบว่าอยู่ริมแม่น้ำแควน้อย ชื่อเต็มว่า บุญเท่ากงศาลเจ้าพ่อโรงทอง ใช่หรือเปล่าครับ ทางไปแยกจาก เส้นทาง 3195 ที่มาจากวัดม่วง ตอนจะผ่าน อ.วิเศษชัยชาญ ไปทางซ้ายมือ ประมาณ 1 กิโลเมตร ครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 6 มี.ค. 52 22:52:58 ]