ความคิดเห็นที่ 1 เริ่มจากตัวต้นเหตุก่อนแล้วกัน  เจ้ากระเป๋าลายสวยที่เดินทางถึงก็ช่างไม่ถึงก็ช่างมากับเรา ผ่านปาดังเบซาร์ ปีนัง มะละกา เข้ากัวลาลัมเปอร์ พจจะได้หรูเที่ยวเมืองหลวง เจ้ากระเป๋าใบสวยก็เกิดกลัวอะไรไปไม่รู้ อันตธานหายไป จากคุณ : สายลมชุนชิวแห่งทุ่งบางเขน - [ 2 มี.ค. 52 23:54:46 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ไม่รู้หายไปตอนไหน มารู้ตัวก็ตอนจะซื้อเสื้อ ปรากฏว่ากระเป๋าไม่มี  กระเป๋าที่เก็บสมบัติทุกอย่างของเรา เงินบาท เงิน RM passport โทรศัพท์ บัตรประชาชน บัตร .บลาๆ   (รูปเป็น National Mosque หรือ Masjid Negara ที่เราแวะซื้อเสื้อ  ระหว่างรอจะเข้าชมมัสยิด แล้วไม่ได้เข้า เพราะเพิ่งรู้ตัวว่าลืมกระเป๋า ค่ะ ลืมกระเป๋า ความรู้สึกช้ามาก ที่นี่เป็นก่อสร้างแบบสมัยใหม่ ที่เห็นหอคอยสูงปี๊ดนั้นก็มีความหมายนะคะ เขาว่าเป็นตัวแทนแห่งความมุ่งมั่นที่จะถึงจุดหมายค่ะ) จากคุณ : สายลมชุนชิวแห่งทุ่งบางเขน - [ 2 มี.ค. 52 23:57:04 ]

ความคิดเห็นที่ 3 กระเป๋าทั้งใบไม่มี ก็ได้แต่เปิดกล้องดูรูปที่ถ่ายตัวเองว่า มันหายไปตอนไหน ก็ได้จำเลยว่ารูปที่ถ่ายที่สถานีรถไฟ The old KL Railway Station ภายในชานชลา กระเป๋ายังอยู่ แต่ถ่ายด้านหน้าอาคารไม่มีกระเป๋าแล้ว คาดว่าคงเป๋อ ลืมไว้ตอนรอเพื่อนเข้าห้องน้ำ ก็ได้แต่วิ่งหน้าตั้งกลับไปละค่ะ  แต่ก็นั่นแหละค่ะ เวลาเกือบครึ่งชม. กระเป๋าก็สีสะดุดตา  ก็ไม่อยู่แล้วล่ะ  ได้แต่แจ้งเจ้าหน้าที่ภายในอาคาร  ซึ่งก็ได้แต่แนะนำให้ไปแจ้งความ รูปเป็น The old KL Railway Station สถานที่เกิดเหตุค่ะ  ที่นี่ข้างในมีพิพิธภัณฑ์รถไฟเล็กๆให้ชม และบางส่วน (ด้านซ้าย)เดี๋ยวนี้เป็นโรงแรมค่ะ ชื่อ เฮอริเทล โฮเต็ล จากคุณ : สายลมชุนชิวแห่งทุ่งบางเขน - [ 2 มี.ค. 52 23:58:04 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ถามทางไปโรงพักก็ว่า   ก็บอกว่าอยู่ไปเลยไปทางมัสยิด พอไปถึง ทางนั้นบอกอยู่เลยทางสถานีรถไฟ พอไปแถวนั้นอีกคนบอกต้องข้ามไปอีกฝั่งของด้านแม่น้ำ โอย ขี้เกียจหาแล้ว เรียกแทกซี่ดีกว่า บังเอิญมาเรียกที่สถานีตรงส่วนที่เป็นโรงแรม ที่แทกซี่จอดรออยู่ เลยบอกว่า 12 RM ความงกยังมีในสายเลือด บวกกับที่คนอื่นบอก ถึงจะพูดบอกทางไม่รู้เรื่องแต่ก็จับประเด็นได้ว่าไม่น่าไกล ก็ยังมีใจต่อราคาไปได้ 8 RM แต่ที่มาบ่นเนี่ย ไม่ใช่มาชื่นชมตัวเองที่ยังอุตส่าห์ต่อราคานะค่ะ แต่เพราะคุณแทกซี่แกไร้น้ำใจสิ้นดี ทั้งที่รู้ว่าเราทำกระเป๋าหาย รูปเป็น KTM railway Headquarters จากคุณ : สายลมชุนชิวแห่งทุ่งบางเขน - [ 2 มี.ค. 52 23:58:51 ]

ความคิดเห็นที่ 5 แกขับรถข้ามมาอีกด้านของแม่น้ำ ก็เลี้ยวมาจอดด้านหลังอาคารหนึ่ง แล้วบอกว่ารถติด เขามาจอดด้านหลังโรงพักแล้ว ให้เราอ้อมไปด้านหน้าเอง ตอนนั้นเราก็ทักแล้วว่าเนี่ยโรงพักหรือ แต่คุณแทกซี่เจ้าเล่ห์บอกเป็นด้านหลัง พอจ่ายเงินเป็นแบงค์ 10 RM ก็จะไม่ทอน จนเราต้องยืนยันว่าให้ทอน เพราะใกล้แค่นี้เองแถมเราทำกระเป๋าเงินหาย(หมดตัวไม่มีเงินแล้ว)  เงินที่เหลืออยู่(ของเพื่อน)ต้องใช้อย่างประหยัด จึงทอนให้แบบทอนไปบ่นไปเอาบุญคุณไป รูปก็แถวๆเดิมค่ะ แต่ถ่ายอีกด้าน จากคุณ : สายลมชุนชิวแห่งทุ่งบางเขน - [ 3 มี.ค. 52 00:02:28 ]

ความคิดเห็นที่ 6 แล้วผลที่ทำให้เราเคือง คือ เจ้าด้านหลังที่แกจอดให้เราลงและต้องเสียเวลาเดินอ้อมมา มันเป็นบ้านพักตำรวจเจ้าค่ะ  ไม่ใช่โรงพัก แผนที่บริเวณที่เกิดเหตุ ดูจากแผนที่สงสัยจริงว่าที่มีคนบอกทางตอนแรกคงเข้าใจเป็นพิพิธภัณฑ์ตำรวจ จากคุณ : สายลมชุนชิวแห่งทุ่งบางเขน - [ 3 มี.ค. 52 00:03:26 ]

ความคิดเห็นที่ 7 มองโลกให้สดใส ก็ยังดีที่เป็นบ้านพักตำรวจ ทำให้มีคนชี้ทางไปโรงพักได้ คราวนี้ก็เดินไปคะ ตอนแรกแอบหวังว่าคุณตำรวจที่บอกทางเราจะให้ซ้อนมอเตอร์ไซด์ไปส่งโรงพัก แต่แป๋วคะ เลยได้แต่ก้มหน้าก้มตาเดินพร้อมแช่งชักหักกระดูกเจ้าแทกซี่ไปคะ ความจริงก็ไม่ไกลนะคะ  แต่อากาศร้อน และโรงพักอยู่บนเนินเขา และขากลับก็ได้รู้ว่ามันอยู่ใกล้สถานี Monorail Maharajalela  มากค่ะ อยู่หลังวัดจีนนี้ขึ้นเนินไปเลยค่ะ จากคุณ : สายลมชุนชิวแห่งทุ่งบางเขน - [ 3 มี.ค. 52 00:04:41 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เข้ามาตกใจด้วยคนครับ กระเป๋าหาย เงินหาย หนังสือเดินทางหายนี่ เวลาเกิดขึ้นในต่างแดน ถ้าไม่มีเพื่อนอยู่ด้วย คงรู้สึกแย่มากมาก ดีใจด้วยที่คุณยังมีเพื่อนอยู่ใกล้และอยู่ด้วยกัน ตามอ่านต่อนะครับ หวังว่า คงโชคดีหลังจากแจ้งความแล้วครับ จากคุณ : xebec - [ 3 มี.ค. 52 00:05:27 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เจ้าหน้าที่ตำรวจที่นี่ดูอารมณ์ดี เธอให้เรา key บันทึกแจ้งความเหตุการณ์ของหายเอง และเมื่อเห็นเราบรรยายด้วยภาษา snake ๆ fishๆ ก็อ่อนใจ เลยหาตัวอย่างมาให้เรา key   ใช้เวลาไม่นาน เธอก็ print ใบแจ้งความมาให้เรา 3 ชุดค่ะ เป็นอันเสร็จพิธี พร้อมบอกเราว่าพรุ่งนี้ให้ไปกงสุลไทย ซึ่งอยู่ที่ไหน เธอก็ถามกับคนที่มาแจ้งความอีกคนให้ สถานีตำรวจจะเป็นอาคารสีฟ้าค่ะ  เสียดายไม่มีรูปด้านหน้าโรงพัก จากคุณ : สายลมชุนชิวแห่งทุ่งบางเขน - [ 3 มี.ค. 52 00:06:06 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ขอบคุณอาหมูมากค่ะ ที่เข้าแวะมานะคะ เอาล่ะค่ะ ต่อนะค่ะ ถ้าใครทำ passport หายในต่างประเทศแบบเรา สิ่งแรกที่ต้องทำ 1 ไปแจ้งความเจ้าหน้าที่ตำรวจค่ะ 2  ไปสถานฑูตไทย พร้อม ใบแจ้งความตามข้อ 1 คะ และควรมีสำเนา passport หน้าที่มีรูปเรา และถ้าเป็นประเทศที่ต้องมี Visa ก็ให้ถ่ายหน้าที่มี Visa ด้วยคะ   อาจมีสำเนาบัตรประชาชนด้วยก็ได้นะคะ ทั้งนี้ควรมี รูปถ่าย  2 ใบ ด้วยคะ โชคดี เรามีสำเนา passport และรูปถ่าย แต่โชคร้าย รูปถ่าย 2 ใบเราหน็บไว้กับ passport ก็ได้แต่วิ่งหาร้านถ่ายรูปล่ะค่ะ 3 เราไม่รู้ว่าประเทศอื่นต้องมีขั้นตอนนี้หรือเปล่า แต่มาเลเซียมีค่ะ  คือ ต้องไปอินนิเกรชั่น ของมาเลเซียด้วยคะ เพื่อให้เขาออกหนังสือรับรองอะไรสักอย่างให้เราไปใช้ตอนยื่นตม ที่สนามบิน   เจ้าหนังสือรับรองนี้มูลค่า 100 RM เชียวนะคะ  ทำให้ต้องขอบคุณโชคชะตา ที่มีเพื่อนมาด้วย เพราะเราหมดตัวไม่มีเงินสักแดง ถ้าไม่มีเพื่อน ก็ยังนึกชะตากรรมตัวเองไม่ออกเลย  ขอบคุณเพื่อนมากเลย รูปที่มะละกา จากคุณ : สายลมชุนชิวแห่งทุ่งบางเขน - [ 3 มี.ค. 52 00:09:45 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เสร็จพิธีก็ กลับโรงแรมกันค่ะ กะไป search net  หาข้อมูล สถานฑูตไทย แต่พอเจ้าหน้าที่รร. บอกชมละ 10 RM เราไม่มีเงินเลยบ่นแบบพร่ำพรรณาให้ฟัง เจ้าหน้าที่ก็ใจดี ไปหาข้อมูลเบอร์โทร สถานที่ให้เรา พร้อมแถมหนังสือท่องเที่ยวมาให้ รูปก็แถวที่เกิดเหตุค่ะ จากคุณ : สายลมชุนชิวแห่งทุ่งบางเขน - [ 3 มี.ค. 52 00:12:35 ]

ความคิดเห็นที่ 12 วันที่ทำกระเป๋าหายเป็นวันพระใหญ่มาฆะบูชา สถานฑูตไทยเลยปิด ไม่รู้จะทำไง จะให้เพื่อนมาเศร้าด้วยก็กะไรอยู่ เลยต้องพาเพื่อนไปเที่ยวชอปปิ้งแถว  BUKIT BINTANG  คะ นั่งรถไฟ Monorail ไป ลงสถานี  BUKIT BINTANG ซิค่ะ   ก็เที่ยวห้างแถวๆนั้นแบบไร้อารมณ์  ได้สักพัก ฟ้าก็ร้องไห้โฮใหญ่ จนเราเซ็งเพิ่มขึ้นแบบอยากไปเล่นมิวสิคคนอกหัก   เอ็อ ไปไหนก็ลำบาก ฝนตก เงินก็ไม่มี ก็กลับโรงแรม รูปหน้าห้าง Pavilion ยังอยู่ในช่วงตรุษจีนปีวัว(สี)ทองอยู่ จากคุณ : สายลมชุนชิวแห่งทุ่งบางเขน - [ 3 มี.ค. 52 00:15:40 ]

ความคิดเห็นที่ 13 พอดึกๆ ฝนหยุด ไม่อยากคิดเครียด ก็มาเดินตรงถนน Jalan Raja alang อยู่ข้างๆ โรงแรมที่พัก Cititel Express Hotel ค่ะ   ถนนนี้เป็นตลาดกลางคืนคะ ช่วงแรกเป็นตลาดผลไม้ ราคาผลไม้แพงกว่าบ้านเรานิดหน่อย อย่างส้มจีน 6 RM ลำไย ก็ 6 RM   ถัดมาเป็นตลาดเนื้อสตว์ แล้วก็ตลาดผัก แก้ไขเมื่อ 03 มี.ค. 52 00:23:20 จากคุณ : สายลมชุนชิวแห่งทุ่งบางเขน - [ 3 มี.ค. 52 00:17:59 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เราเดินจนสุดถนนอีกด้าน  ซึ่งจะเป็นร้านอาหาร ตรงตัดสี่แยก มีมัสยิด Jamek KG.Baru สวยดี แต่มืดแล้ว เขาไม่ให้เข้า จากคุณ : สายลมชุนชิวแห่งทุ่งบางเขน - [ 3 มี.ค. 52 00:24:08 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เช้ามาก็รีบไปสถานฑูตไทยเลย  ไปถึงยังไม่ 9 โมง ก็ไปเข้าคิวรอคะ เขาบอกเปิดทำการ 9 โมง แต่ เปิดบริการ visa  9.30 น เปิดประตูใหญ่ตอน 9 ก็แค่เข้าไปในบริเวณด้านนอก แต่ภายในสถานกงสุลยังเข้าไม่ได้  เราร้อนใจมองนาฬิกาตลอด สรุปวันนี้ดันเปิดทำการสายอีก ตั้ง 9.42 น เราได้เบอร์แรก แต่ก้เท่านั้น เพราะฟอร์มที่เราได้รับจากเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นตรงประตูทางเข้า ไม่ถูกต้อง (ใครจะไปรู้ ก็เราแจ้งแล้วว่า my passport lost) จากคุณ : สายลมชุนชิวแห่งทุ่งบางเขน - [ 3 มี.ค. 52 00:25:31 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เราต้องกรอก แบบฟอร์มขอทำหนังสืกเดินทาง  และต้องมีรูปถ่าย 2 ใบ เฮ้อ กว่าจะไปถ่ายรูปกรอกแบบฟอร์มและยื่นฟอร์มใหม่ ก็จะ 10 โมงครึ่งแล้ว และที่ทำให้ขวัญเราบินคือ คุณเจ้าหน้าที่ไทยบอกเราว่า เดี๋ยวเขาทำ ใบ CI ให้แล้วเราต้องไป Imigresen  ซึ่งอยู่ที่ ปุตราจายา โอย มันไกลนะ เอาน่ะ ไงมันก็เคยอยู่ในแผนว่าจะไปเที่ยวปุตราจายา ก็อยากท่องเมืองราชการมาเลเซียเนี่ย ได้ท่องจริงเลย (กัดฟันเขียน) คุณเจ้าหน้าที่ไทยรูปหล่อ พูดเพราะบอกเราว่า เจ้าใบ CI เนี่ย ใช้เวลา 30 นาที เท่านั้น เรารอจน 11 โมง ก็เดินไปถาม เขาบอกกำลังทำให้รอเดี๋ยว พี่ใจเย็นๆ แล้ว he ก็พูดเป็นแผ่นเสียงตกร่องพอๆกับเราที่เดินไปถามด้วยประโยคเดิมๆว่าเสร็จหรือยัง พี่ต้องไปปุตราจายาด้วยนะ แล้วตั๋วพี่บินไฟล์ท 6 โมงเย็นนะจ้ะ จนเที่ยงสิบ เราก็ได้เจ้า CI มา   ซึ่งถ้าช้ากว่านี้ จะได้เห็นสาวไทยนั่งร้องไห้ในกงสุลไทยกันบ้างล่ะ จากคุณ : สายลมชุนชิวแห่งทุ่งบางเขน - [ 3 มี.ค. 52 00:29:02 ]

ความคิดเห็นที่ 17 แผนที่ทางไปสถานฑูตไทย ไปทางรถไฟใต้ดินสาย PUTRA LRT ออกที่สถานี AMPANG PARK ออกมา เป็นสี่แยกใหญ่ให้ข้ามถนนตรงสี่แยกนั้นไปด้านที่เป็นAMPANG Plaza  (คนละด้านกับ KLCC)   ด้านนี้มีสถานีตำรวจด้วย งั้นใครทำ passport หายบ้าง (ปากไม่ค่อยเป็นมงคล ) ก็มาที่นี้ที่เดียว  แจ้งความเสร็จก้เดินต่อไปสถานฑูตไทย  จากสี่แยกเดินก็ค่อนข้างไกลนะ  เส้นนี้มีสถานฑูตเยอะ กับโชว์รูม ที่ต้องผ่านก่อนคือ สถานฑูตสเปน และก่อนถึง มีป้อมตำรวจริมถนนด้วย ส่วนที่ถ่ายรูปจะอยู่ชั้นสองของห้างเล็กๆ  ตอนนี้จำชื่อไม่ได้แล้ว แต่ที่สถานฑูตมีบอก โดยต้องเดินเลยจากสถานฑูตไทยออกไป   อยู่คนละฝั่งกับสถานฑูต  ตรงนั้นมีสะพานลอยคนข้ามด้วย  หาไม่ยาก จากคุณ : สายลมชุนชิวแห่งทุ่งบางเขน - [ 3 มี.ค. 52 00:30:23 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เรารีบกลับโรงแรม  เพื่อไปหาเพื่อนที่รออยู่ที่โรงแรม ชวนกันไปปุตราจายามา   คุณเจ้าหน้าที่โรงแรมแนะนำให้เรานั่งแทกซี่ไป แต่เราหาข้อมูลการเที่ยวปุตราจายามาว่านั่งรถไฟ KLIA Transit ได้ ก็ไม่รอช้าเก็บกระเป๋านั่งรถไฟ Monorail ไปลงสถานี KL Sentral ของ monorail ลงจากสถานีเดินข้ามถนนไปเข้า KL Sentral ของรถไฟ เห็นรถ Sky Bus จองเต็มไปหมดแต่ไม่สนใจค่ะ เดินขึ้นบันไดเลื่อนเพื่อเข้าตัวอาคารแล้วไปซื้อตั๋ว รถไฟ KLIA Transit ไปลง ปุตราจายามา   2คน 19 RM จากคุณ : สายลมชุนชิวแห่งทุ่งบางเขน - [ 3 มี.ค. 52 00:32:21 ]

ความคิดเห็นที่ 19 รถไฟด่วนแอร์เย็น คนไม่ค่อยมี  นั่งสบายดีมากค่ะ แต่ใจเราไม่เป็นสุขเลย นั่งไม่นานก็มาถึงสถานี Putrajaya  มีป้ายบอกทางไปรถเมล์ เพื่อนั่งเข้าไปเที่ยวในเมือง แต่เราไม่สนใจแล้วนาทีนี้ เดินตามป้ายไปหารถแทกซี่คะ ไปถึงก็เป็นป้อมเหมือนศูนย์คะ เรายื่นกระดาษที่ระบุสถานที่ต้องไปให้เจ้าหน้าที่ เขาแจ้งราคา 7 RM เอง ก็จ่ายเงินได้กระดาษมายื่นให้แทกซี่คะ รูปคือ เจ้า CI ค่ะ ส่วนกระดาษที่ติดอยู่ด้านบนคือสถานกงสุลมาเล Imigresen ที่เราต้องไปติดต่อค่ะ  อยู่ในปุตราจายา จากคุณ : สายลมชุนชิวแห่งทุ่งบางเขน - [ 3 มี.ค. 52 00:34:13 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ตามไปเที่ยวด้วยค่ะ   ขอบคุณที่มาแบ่งปันประสบการณ์  จะได้เตรียมพร้อม ไว้เสมอค่ะ จากคุณ : fatcoco - [ 3 มี.ค. 52 00:34:18 ]

ความคิดเห็นที่ 21 แทกซี่คนนี้น่ารักมาก เพราะระหว่างขับเข้าไปหาตึกกงสุลมาเลเซีย จะผ่านพวกตึกทำเนียบ สถานที่ราชการอื่นๆ แกก็ชี้ชวนให้ดู เรียกว่าเป็นไกด์กลายๆ มาจอดตรงตึกแล้ว ก็ชี้ทางให้เราด้วยว่าให้เดินไปทางไหน เสร็จแล้วให้ลงมาเรียกแทกซี่ศูนย์ที่ตรงไหน   รูปเป็นภายในรถ KLIA Transit ดูซิโล่งขนาดไหน จากคุณ : สายลมชุนชิวแห่งทุ่งบางเขน - [ 3 มี.ค. 52 00:36:14 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ขอบคุณค่ะ คุณfatcoco ที่มานั่งเป็นเพื่อน ขึ้นไปชั้น 4 ค่ะ ที่นี่ก็คุยกับเจ้าหน้าที่ว่า my passport lost  เขาก็ให้ไปถ่ายเอกสารค่ะ เอกสารที่ใช้ ก็ใบแจ้งความ สำเนาตั๋วเครื่องบิน สำเนาใบ CI ที่ได้มาชั่วคราวแทน passport  สำเนา passport เดิม อันนี้ไม่มีแกก็ไม่ว่าอะไร ที่ถ่ายสำเนาอยู่ชั้นสองของอาคารนั้นล่ะค่ะ ให้เดินไปที่เป็นห้องอาหารแบบ fast food เดินไปจนสุด จะมีที่ถ่ายสำเนาค่ะ   แล้วเอามายื่นใหม่ คุณเจ้าหน้าที่ก็ให้ไปคุยกับเคาน์เตอร์หนึ่ง สรุป โดนเรียกไปมาและสัมภาษณ์ไปมาอีก  3 ครั้ง ก็ไปจ่ายเงินค่าธรรมเนียม 100 RM ค่ะ แล้วก็รอค่ะ โดยเราย้ำกับเจ้าหน้าที่ทุกคนที่คุยด้วยว่าจะกลับไฟล์ท 6 โมง กับสายบินแห่งชาติของคุณด้วยนะคะ  (อิอิ บอกเผื่อเป็นเครดิตน่ะ  จะได้รีบทำให้เรา ตอนนั้นนั่งลุ้นตลอด เพราะตอนไปถึงนะบ่ายสองครึ่งไปแล้ว กลัวตกเครื่องบินมากตอนนั้น) จากคุณ : สายลมชุนชิวแห่งทุ่งบางเขน - [ 3 มี.ค. 52 00:39:13 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ช่วงคุยกับเจ้าหน้าที่คนที่สอง เราก็ให้เพื่อนลงไปเที่ยวปุตราจายา นัดเจอกันชั้น 1  เธอไปได้สักพักก็ขึ้นมา บอกไม่ได้เดินไปชมเมืองเพราะอากาศร้อน และเจ้าทำเนียบกับที่เที่ยวเนี่ยไกลโขอยู่ เลยเดินรอบๆอาคารแล้วก็ต้องขึ้นมาเอาแอร์ ก็ดีค่ะ มีเพื่อนจะได้ช่วยกันปรับทุกข์ เพราะเราเริ่มกังวลว่ามันจะนานแบบสถานฑูตไทยอีกหรือเปล่า   แต่สักพัก คิดว่ารอครึ่งชม. ก็เสร็จค่ะ ได้ซองจดหมายมาซอง รูปต่างๆในปุตราจายา และซองจดหมาย เราไม่ได้ถ่ายไว้เลย ดูรูปแทนแล้วกันค่ะ เป็นรูปมัสยิคจาเมก จากคุณ : สายลมชุนชิวแห่งทุ่งบางเขน - [ 3 มี.ค. 52 00:41:15 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เสร็จก็ไม่ได้เที่ยวแล้วล่ะ เพราะมันจะบ่ายสี่แล้ว ข้อมูลที่เราหามาบอกว่าเจ้ารถไฟ KLIA Transit มันออกชมละเที่ยว แต่จากการรอคิดว่าน่าจะทุก 30 นาทีมากกว่า เราเรียกแทกซี่ศูนย์กลับสถานี ก็ 7 RM เท่าเดิมคะ แทกซี่คันนี้พยายามชวนเราให้นั่งรถเขาไปสนามบินเลย ถ้าเราไม่มีประสบการณ์การปล่อยทิ้งที่อิ่นมา ก็คงไปแล้วล่ะ แต่กลัวใจพ่อคุณ ไปปล่อยที่ไหนไม่รู้ เพราะพ่อคุณบอกราคาตอนแรกแพงมาก(จำไม่ได้) พอเราบอกไม่มีเงิน กระเป๋าหาย HE ก็ลงราคามารู้สึกจะหยุดที่ 35 หรือ 45 ไงเนี่ย จำไม่ได้ จากคุณ : สายลมชุนชิวแห่งทุ่งบางเขน - [ 3 มี.ค. 52 00:43:04 ]

ความคิดเห็นที่ 25 เราก็ไม่ใจอ่อนแม้จะกลัวไปไม่ทันก็ตาม ใจคิดว่ารอบนี้ไม่ได้นั่ง AA ซะหน่อย มาเลเซียแอร์ไลท์เชียว(แต่เป็นตั๋วโปร) เขาน่าจะรอผู้โดยสารหน่อย ไม่มีการปิดเคาน์เตอร์ 45 นาทีอะไรเทือกนั้น ก็โชคดีไปที่ไม่ใจอ่อน เพราะนั่งรถไฟแอร์เย็นกว่ากันมากและใช้เวลานั่งรถไฟรถไฟ KLIA Transit อีกแค่สัก 10 นาทีเท่านั้น (แต่นั่งรอรถเกือบ 20 นาที ) ค่ารถไฟคนละ 6 RM เอง เดินขึ้นบันไดเลื่อนก็สนามบินเลย  เช็คเอาท์ก็ใช้เวลาแป็บเดียว จากคุณ : สายลมชุนชิวแห่งทุ่งบางเขน - [ 3 มี.ค. 52 00:44:27 ]

ความคิดเห็นที่ 26 สรุปเหลือเวลาเยอะแยะ  เลยไปลองนั่ง AERO TRAIN  เป็นรถไฟเชื่อมระหว่าง terminal ของแต่ละ gate  ใครไปลองนั่งดูนะคะ ให้นั่งตู้แรก มันให้ความรู้สึกเหมือนนั่งรถไฟเหาะดีค่ะ เสร็จก็มานั่งรอที่เนี่ยคะก่อนขึ้นเครื่อง จากคุณ : สายลมชุนชิวแห่งทุ่งบางเขน - [ 3 มี.ค. 52 00:45:45 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ขอบคุณเจ้ามาเลแอร์ไลน์คะ เพราะเราวิ่งวุ่นทั้งวัน จนไม่ได้กินข้าวเที่ยง อาหารมื้อเย็นมื้อนั้นเลยอร่อยเป็นพิเศษค่ะ รูปเป็นข้างในเครื่องบินค่ะ เบาะสีสันหลากสีสวยมาก จากคุณ : สายลมชุนชิวแห่งทุ่งบางเขน - [ 3 มี.ค. 52 00:46:49 ]

ความคิดเห็นที่ 28 อ่านแล้วตกใจ  เสียใจด้วยค่ะที่เกิดเหตุการณ์ไม่ดีขึ้น ถือเป็นประสบการณ์ที่ยากจะลืม (และไม่อยากพบเจอ) จากคุณ : ไก่แก่แม่ปลาช่อน - [ 3 มี.ค. 52 00:49:41 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ตอนนี้มานั่งคิดว่านอกจากเตรียมสำเนา passport และรูปถ่าย 2 ใบ แล้ว ต้องเก็บแยกต่างหากจาก passport จริงด้วย จะได้ไม่เหมือนเรา ที่มีรูป ก็ดันแนบไว้ใน passport พอหายก็หายไปด้วยกัน  และน่าจะเก็บเงินนิดหน่อยแยกไว้เผื่อฉุกเฉิน เนี่ยโชคดีมากที่เที่ยวกับเพื่อน ไม่งั้น ยังนึกไม่ออกว่าจะทำอย่างไร  เกลี้ยงตัวเลย เคยอ่านเจอแนวคิดของคนอื่นอื่นแนะนำไว้ว่าให้เราแสกนพวกสำเนา passport บัตรประชาชน และเอกสารสำคัญทิ้งไว้ในเมล์ เวลาต้องใช้แล้วไม่มี ก็เข้า net มา print เป็นความคิดที่ดีมากค่ะ เราก็ทำ แต่อาจมีปัญหานิดหน่อย คือ net ที่ใช้ตามโรงแรม ไม่มีต่อ printer ค่ะ แต่นั่นแหละ ตอนนั้นอาจจะคุยกับ รร. ให้เขาหาที่พิมพ์ให้   เก็บมาฝากค่ะเผื่อมีประโยชน์ จากคุณ : สายลมชุนชิวแห่งทุ่งบางเขน - [ 3 มี.ค. 52 00:50:35 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ขอบคุณที่เป็นห่วงนะคะ คุณไก่แก่แม่ปลาช่อน  ยังขอบคุณในคำแนะนำที่กรุณาหลังไมค์มาบอกด้วยค่ะ เรื่องลืมของ เราลืมเป็นประจำค่ะ แต่คราวนี้หนักข้อไปหน่อย ขนาดกระเป่าใบเบ่อเร่อหาย ยังไม่รู้ตัว มารู้ตัวตอนจะซื้อของ ซึ่งถือเป้นความสะเพร่าของเราเองค่ะ  แต่ก็กลับเมืองไทยโดยสวัสดิภาพค่ะ เสียแต่ต้องมาทำอะไรต่อมิอะไรใหม่อีกหลายอย่าง ถ้าหายแต่เงินคงดีกว่านี้ จากคุณ : สายลมชุนชิวแห่งทุ่งบางเขน - [ 3 มี.ค. 52 00:56:03 ]

ความคิดเห็นที่ 31 เกือบลืมบอก เจ้าซองจดหมายมูลค่า 100 RM นั่น ใช้ตอนผ่านตม.มาเล โดยไม่ต้องใช้ใบกรอกขาออกของมาเลค่ะ  ยื่นซองนั่นแทน เขาจะเปิดอ่าน คุยกับเรานิดหน่อย แล้วยึดซองจม.ไป ประทับตราขาออกให้เราที่ใบ CI แล้วคืนเรามา เจ้าใบ CI เนี่ยสำคัญนะค่ะ ต้องไปยื่น แทน passport ที่หายของเรา พร้อมใบกรอกขาเข้าที่ตม ไทย และยังต้องใช้ เวลาไปทำ passport ใหม่ กับตอนไปรับสมุด passport  ก็ต้องพกไปด้วย จากคุณ : สายลมชุนชิวแห่งทุ่งบางเขน - [ 3 มี.ค. 52 00:57:18 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ความจริงทริปนี้มันมีเหตุติดๆขัดๆตั้งแต่แรกๆแล้ว เริ่มจากขาไป เราออกจากที่ทำงานสาย กว่าจะไปถึงสถานีรถไฟบางซื่อก็เหลือเวลานิดเดียว เรียกว่ารีบจนรนเลย เรานั่งรถไฟสายบัตเตอร์เวอร์ธไปค่ะ  ช่วงนี้งานหลวงงานราษฎร์ยุ่งมาก ไม่ค่อยได้พัก ใจก็มีเรื่องทุกข์ จิตก็ตก  การนั่งๆนอนๆบนรถไฟ   วิวข้างทางทางใต้ ก็ช่วยให้ใจเราสงบลงได้พอควร จากคุณ : สายลมชุนชิวแห่งทุ่งบางเขน - [ 3 มี.ค. 52 00:58:23 ]

ความคิดเห็นที่ 33 รถไฟถึงหาดใหญ่แต่มืด เราลุกขึ้นมาไม่ไหว ที่ตั้งใจจะซื้อของที่ 7-11 ของหาดใหญ่เลยฟาวล์ไป ต้องไปซื้อที่ปาดังเบซาร์ แต่พอถึงจริง ที่นี่ไม่มี 7-11 แต่มีเด็กมาตั้งโต๊ะขายของ   เราได้ข้าวห่อ(จากการจิ้มเสี่ยงดวง) ราคา 1 RM นี้มา ตอนหลังระหว่างรอรถไฟจอดแช่ เลยเดินสำรวจถึงรู้ว่าชั้นสองมีห้องอาหาร จากคุณ : สายลมชุนชิวแห่งทุ่งบางเขน - [ 3 มี.ค. 52 00:59:54 ]

ความคิดเห็นที่ 34 เราต้องผ่านด่าน ตมที่ปาดัง ฯ ผ่านประตูนี้ เดินวนไปทางขวาก่อน เป็นด่านของไทย เสร็จแล้ววนไปทางซ้ายเดินเป็นวงสี่เหลี่ยม ก็เป็นด่านมาเล เสร็จก็ออกประตูเดิม เรียกว่าเดินวนในอาคารเดียวผ่านตม สองประเทศเลย จากคุณ : สายลมชุนชิวแห่งทุ่งบางเขน - [ 3 มี.ค. 52 01:00:40 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ใครมาเที่ยวมาเล ทางรถไฟ แนะให้เอาเงินบาทมาแลกที่นี่ค่ะ ที่สถานีรถไฟปาดังเบซาร์ เขาให้ rate ดีมาก ตอนเรามา เราแลกแถวประตูน้ำ 9.75 แต่ที่นี่ 9.66  ค่ะ จากคุณ : สายลมชุนชิวแห่งทุ่งบางเขน - [ 3 มี.ค. 52 01:01:13 ]

ความคิดเห็นที่ 36 รถไฟจอดที่เนี่ยนานมาก และพอรถไฟเริ่มเคลื่อนออกจากสถานี เพื่อนเราก็บอกเราว่าทั้งขบวนรถไฟมีเรากับเพื่อนเท่านั้นที่เป็นคนไทย เจ้าหน้าที่คนไทยหายไป เป็นเจ้าหน้าที่มาเลเซียหมด คนไทยที่เห็นๆกันหลายคนหายไป มีแต่คนมาเลขึ้นมานั่งแทน และที่สำคัญจากรถไฟที่ fix ที่นั่งกลายเป็นรถไฟชั้นสามเลย คือ ใครใคร่นั่งตรงไหนก็ได้  ตั๋วยืนยังมี เก้าอี้เพื่อนเรายังมีเด็กสาวมาขอนั่งด้วยเลย แหม น่าจะทำเป็นแนวหนังลึกลับ เสียแต่มันกลางวันโร่ แล้วก็เอะอะจนไร้บรรยากาศสยองขวัญ จากคุณ : สายลมชุนชิวแห่งทุ่งบางเขน - [ 3 มี.ค. 52 01:02:27 ]

ความคิดเห็นที่ 37 จากรถด่วน กลายเป็นหวานเย็นเลย จอดแช่เป็นระยะๆ และมาจอดพักกินข้าวกลางวันกันที่ สถานีสุไหงปัตตานี (SUNGAI PETANI)  เจ้าหน้าที่มาเลเซียก็ยังลงมากิน ตรงนี้มีร้านอาหาร  แบบข้าวราดแกง แต่ให้ตักกับกันเอง อาหารก้แบบทางใต้เรา จากคุณ : สายลมชุนชิวแห่งทุ่งบางเขน - [ 3 มี.ค. 52 01:10:42 ]

ความคิดเห็นที่ 38 หนูไม่รู้  หนูกินอิ่มแล้ว ก็เลยลองเดินออกจากสถานีมา  บ้านเมืองเขาสะอาดดี ถนนก็เป็นตัวหนอน ดูเรียบร้อย ไม่เป็นหลุมเป็นบ่อ ไม่ขุดแล้วปะแบบฟุตบาทบ้านเรา  แต่มีหอนาฬิกาที่คล้ายบ้านเราตรงไม่เคยเดินตรงเลยสักที จากคุณ : สายลมชุนชิวแห่งทุ่งบางเขน - [ 3 มี.ค. 52 01:11:15 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ไม่กล้าสำรวจมาก เพราะไม่รู้รถไฟจะจอดกินข้าวนานขนาดไหน  และอากาศร้อนมากขนาดเวอร์ว่าได้กลิ่นเนื้อตัวเองไหม้ เลยกลับมานั่งถกกับเพื่อนว่าจะกินข้าวกันเลยไหม แต่คิดนานไปหน่อย รถไฟก็เริ่มตีระฆังเรียกผู้ดดยสาร รวมสิริเวลาจอดคิดว่าไม่ต่ำกว่า 30 นาที จากคุณ : สายลมชุนชิวแห่งทุ่งบางเขน - [ 3 มี.ค. 52 01:11:46 ]

ความคิดเห็นที่ 40 เหมือนคนเติมพลังมาแล้ว คราวนี้รถก็วิ่งฉิวไม่มีการจอดแช่อีก นอกจากจอดรอสับหลีก แต่ไง ก็ไม่เสียชื่อรถไฟเลย เพราะมาถึง BUTTERWORTH ช้าไป 45 นาทีอ่ะ จากคุณ : สายลมชุนชิวแห่งทุ่งบางเขน - [ 3 มี.ค. 52 01:12:36 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ปกติรถไฟไปบัตเตอร์เวอร์ธจะใช้รถนอนอีกรุ่นหนึ่งที่ที่นั่งกว้างกว่าที่ จขกท.ไป ซึ่งเมื่อปรับเป็นที่นั่ง จะนั่งสองคนสบายไม่อึดอัดหนะครับ อีกประการหนึ่งคือ เจ้าของกระทู้สามารถขอให้พนักงานรักษารถ ลงชื่อสลักหลังตั๋ว เพื่อไปขอคืนเงิน 40 บาท เป็นค่าส่วนต่างของรถนอนหนะครับ แก้ไขเมื่อ 03 มี.ค. 52 08:02:43 จากคุณ : สัญญาณหางปลา - [ 3 มี.ค. 52 08:00:30 ]

ความคิดเห็นที่ 42 เสียใจด้วยนะค่ะ แต่ก็ยินดีด้วยนะค่ะที่เรื่องวุ่นวายจบลงด้วยดี จากคุณ : moomamviolet - [ 3 มี.ค. 52 08:54:31 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ขวัญเอ๋ย ขวัญมา ^___^ เลยได้รีวิว ไม่เหมือนใครเลย จากคุณ : Find_Story - [ 3 มี.ค. 52 09:41:37 ]

ความคิดเห็นที่ 44 คุณสายลมชุนชิวแห่งทุ่งบางเขน ได้ไปเผชิญภัยในเมืองใกล้บ้าน และมาถ่ายทอดประสบการณ์ให้ฟังกัน เผื่อใครไปแล้วเกิดหนังสือเดินทางหายขึ้นมา แต่กับเรื่องเงินหายหมดนี่ น่ากลัวมากทีเดียว เพราะทำอะไรก็ต้องใช้เงินค่าธรรมเนียม ที่หากไม่มีเงิน แล้วจะขอใบอะไรจากอิมมิเกรชั่นของมาเลเซียอย่างไรกัน ทางสถานฑูตไทยน่าจะมีหนทางช่วยเหลือ และทางมาเลเซียเองก็ควรจะต้องมีมาตรการพิเศษ เพราะไม่อย่างนั้น คนไทยคนต่่างชาติก็อาจจะต้องไปติดค้างอยู่ในมาเลเซียกันอีกมาก ค่าธรรมเนียมบ้าบอคอแตกอะไรกัน ตั้ง 100RM รีดเลือดกับปูชัดชัดครับ จากคุณ : xebec - [ 3 มี.ค. 52 10:11:59 ]

ความคิดเห็นที่ 45 เห็นด้วยกะอาหมูครับ ค่าธรรมเนียมบ้าไรตั้ง 100RM passport หายกระเป๋าตังค์หายจะให้ทำงัยฟร่ะ.... จากคุณ : เอ๋อ้อย - [ 3 มี.ค. 52 11:50:43 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ประสบการณ์นี้เคยเจอกับตัวเองและเพื่อนตอนไปเที่ยวเขมรค่ะ เพราะ passport ของเพื่อนหายเหมือนกัน ขั้นตอนการดำเนินการคล้ายๆ กัน แถมช่วงที่หายเป็นช่วงวันหยุดยาวเหมือนกัน และค่าใช้จ่ายดูเหมือนเขมรจะเยอะกว่านี้ เพราะต้องบริจาคเป็นค่าน้ำค่าไฟให้สถานีตำรวจเป็นค่าดำเนินการให้เสร็จตามเวลาที่เราต้องการ หมูในอวยแล้วค่ะ ต้องยอมจ่ายไป แถมเงินรวมกันกับเพื่อนเหลือไม่พอ ต้องให้ที่บ้านโอน western union มาให้อีกต่างหาก แต่ก็ผ่านพ้นไปด้วยดี เพราะไปกันสองคน เลยไม่สติแตกเท่าไหร่.... จากคุณ : ZAZA501 - [ 3 มี.ค. 52 12:22:05 ]

ความคิดเห็นที่ 47 น่าเห็นใจ จขกท. ครับ แต่เท่าที่อ่านรีวิว ก็บ่นเก่งจริงๆนะเนี่ย คริ คริ จากคุณ : F430spider - [ 3 มี.ค. 52 13:09:34 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ขอบคุณทุกท่าน ที่ห่วงใย สายลมก็ถึงบ้านด้วยดีค่ะ แม้กลับมาต้องไปทำบัตรปชช ใหม่ passport ใหม่ แจ้งอายัด ซื้อโทรศัพท์ บลาๆ เรียกว่าสัปดาห์แรกเนี่ยวุ่นมาก ตามอาหมูเลยค่ะ เพราะตอนนั้นก็อดคิดไม่ได้ว่า ถ้าฉันไม่มีเงินจ่ายค่าธรรมเนียม จะไม่ปล่อยกลับประเทศฉันจริงๆหรือ   แต่ก็นั่นแหละ พอดีมีเพื่อนให้ยืมและลุ้นกลัวตกเครื่องบิน ก็เลยไม่คิดไรมาก จ่ายเขาไปดีๆ และจริงๆ ก็ไม่ได้ถูกชิงวิ่งราวอะไร ไปวางลืมทิ้งไว้เอง เพียงแต่ตอนนี้มาคิดเล่นๆว่า ถ้าเป็นคนมาเลด้วยกัน เขาจะส่งของคืนไหม ประมาณเอาแต่เงินนะค่ะ  เพราะของที่หายเนี่ยมาทำใหม่ก็เสียทั้งเงินทั้งเวลาเอาการเหมือนกัน จากคุณ : สายลมชุนชิวแห่งทุ่งบางเขน - [ 4 มี.ค. 52 00:24:29 ]

ความคิดเห็นที่ 49 คุณสัญญาณหางปลามาทัก ทำให้นึกได้ว่า ตอนนั่งรถไฟ มีเจ้าหน้าที่รถไฟเอาเงินมาให้ค่ะ เตียงบน 20 เตียงล่าง 40  แล้วก็ให้เซ็นชื่อรับค่ะ  แล้วบอกประมาณคนจองล่วงหน้าจะคืนเงินให้ เราเห็นว่าไม่ใช่ช่วงเลือกตั้ง คงไม่เป็นไร ก็รับมาแบบไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไร   ^___^ ราคารถไฟกรุงเทพขบัตเตอร์เวิธ เตียงบน 1120 เตียงล่าง 1210 รูป ตึกสุลต่านอับดุล ซามัดในกัวลาลัมเปอร์ จากคุณ : สายลมชุนชิวแห่งทุ่งบางเขน - [ 4 มี.ค. 52 00:30:04 ]

ความคิดเห็นที่ 50 เอาล่ะ ขอเล่าต่อเกี่ยวกับการเที่ยวในปีนังค่ะ มาถึงก็จองตั๋วรถไฟมาเล KTM ไปกัวลาลัมเปอร์ค่ะ ผลักประตูนี้เข้าไปเลย  เราจองรอบสามทุ่มค่ะ  ราคาเตียงบน 38 RM  เตียงล่าง 43 RM จากคุณ : สายลมชุนชิวแห่งทุ่งบางเขน - [ 4 มี.ค. 52 00:39:45 ]

ความคิดเห็นที่ 51 แล้วก็หาที่ฝากกระเป๋า ข้อมูลบอกมี แต่เดินวนไปมาแล้วไม่เห็น เลยไปถามเจ้าหน้าที่รถไฟ เขาก็ว่าฝากกับเขาเลย คนละ 3 RM ค่ะ  จ่ายเงินไป เขาเอาไปเก็บที่ห้องข้างๆให้ โดยไม่มีหลักฐานอะไรเลย เราให้เพื่อนถามหาใบเสร็จ เฮียบอกไม่เป็นไร เดี๋ยวมาถึงก็มาตามหาเขาได้ แล้วเดินจากไป เราสองคนได้แต่หันหน้ามามองกัน แล้วตัดใจเที่ยวกันเถอะ รูป:- มุมโชว์เล็กๆ ภายในห้องขายตั๋วคะ จากคุณ : สายลมชุนชิวแห่งทุ่งบางเขน - [ 4 มี.ค. 52 00:42:50 ]

ความคิดเห็นที่ 52 เดินไปตามทางชี้เลยค่ะ เราจะนั่งเฟอร์รี่ข้ามฝากไปปีนั่ง ทางเดินเรียบค่ะ แต่สกปรกนิดหน่อย เดินขึ้นทางข้ามเลย ถ้ามีการเป๋าลากก็ลากได้ แต่เราเดินตัวเปล่าค่ะ ข้างๆทางข้ามไปท่าเรือ เป็นอู่จอดรถ ไม่ได้เดินไปดูแต่น่าจะเป็นชุมรถวิ่งทางไกลฝั่งบัตเตอร์เวิร์ธ อ่านเจอจากที่ไหนไม่รู้เขาว่าปีนังเป็นชุมทางการคมนาคม เพราะเป็นย่านเศรษฐกิจ เดิมเจริญกว่าเมืองกัวลาอีก ขนาดด้านบัตเตอร์เวิร์ธ ยังเป็นชุมทางรถไฟสายเหนือและใต้เลย จากคุณ : สายลมชุนชิวแห่งทุ่งบางเขน - [ 4 มี.ค. 52 00:46:28 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ที่จ่ายเงินค่ะ ตู้สีน้ำตาลเป็นที่แลกเหรียญค่ะ ตอนแรกเรานึกว่าเป็นที่จ่ายเงิน ตอนนั้นงงๆที่เขาถอนเงินมาให้ครบ  เอาเหรียญที่แลกมา 1.2 RM หยอดผ่านช่องแล้วผลักเหล็กเข้ามา ลักษณะคล้ายๆที่ท่าเรือข้ามฝากฮ่องกงเกาลูน แต่ที่นั่นไม่มีที่แลกเหรียญ และส่วนใหญ่เขาจะใช้บัตรปลาหมึกแปะกัน ที่นี่เก็บเงินเฉพาะขาไปปีนัง ขากลับไม่เก็บ รูป ถ่ายตรงเก็บเงิน แต่เป็นการถ่ายรูปหลังจากเดินผ่านมาแล้วอ่ะ จากคุณ : สายลมชุนชิวแห่งทุ่งบางเขน - [ 4 มี.ค. 52 00:47:02 ]

ความคิดเห็นที่ 54 เรือข้ามฝากที่นี่ใหญ่มาก แล่นนิ่มด้วย พนักเก้าอี้ที่นี่ผลักไปมาเพื่อเปลี่ยนด้านได้ เหมือนที่ฮ่องกงเลย บนเรือ มีขายขนมปัง และน้ำด้วย มาตั้งข้อสังเกตว่าอาหารที่มาเลจะแพงกว่าบ้านเรา แต่ขนมปังถูกกว่า ราคาประมาณ 1-2 RM เอง ไม่ค่อยเจอแพงกว่านี้ ในขณะที่ราคาอาหารประเภทข้าวมันไก่ ข้าวหน้าเป็ด ก๊วยเตี๋ยว ราคาตั้งแต่ 3 – 10 RM เลย จากคุณ : สายลมชุนชิวแห่งทุ่งบางเขน - [ 4 มี.ค. 52 00:47:39 ]

ความคิดเห็นที่ 55 พอเรือเทียบท่า ก็เห็นหอนาฬิกาแต่ไกล เราเข้าใจผิดว่าคือ นาฬิกา Victoria Memorial Clock Tower ค่ะ เลยใช้เป็น landmark เดินเลียบไปทางขวาเข้าไปหาค่ะ ก็เราหาข้อมูลมาได้ว่าแถวหอนาฬิกานั่นมี Tourist Information จากคุณ : สายลมชุนชิวแห่งทุ่งบางเขน - [ 4 มี.ค. 52 00:48:09 ]

ความคิดเห็นที่ 56 เดินลงจากท่าเรือมาเป็นร้านขายของ แล้วก็ข้างๆเป็นอู่รถเมล์  มีป้ายรถเมล์ด้วยนะค่ะ แต่เราเห็นหอนาฬิกาไม่ไกล ไปเอาแผนที่ ข้อมูลเที่ยวปีนังก่อนดีกว่า เพราะที่นี่เราไม่มีแผนที่ มีแต่ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวเท่านั้น จากคุณ : สายลมชุนชิวแห่งทุ่งบางเขน - [ 4 มี.ค. 52 00:48:49 ]

ความคิดเห็นที่ 57 แล้วก็เศร้าค่ะ เพราะหอนาฬิกาที่เห็นเป็นหอนาฬิกาบนตึกแถวธรรมดาๆเนี่ยเอง แล้วเราจะไปหา tourist information ได้ที่ไหนล่ะ จากคุณ : สายลมชุนชิวแห่งทุ่งบางเขน - [ 4 มี.ค. 52 00:49:20 ]

ความคิดเห็นที่ 58 ลืม รูปค่ะ จากคุณ : สายลมชุนชิวแห่งทุ่งบางเขน - [ 4 มี.ค. 52 00:49:59 ]

ความคิดเห็นที่ 59 พอดีคุณมาเลเซียนใจดีคู่หนึ่งที่เราเข้าไปถามทาง บอกว่าจะไปทางเดียวกับเรา (ไปหอนาฬิกาที่เราอยากไปอ่ะ) เลยอาสารับเรามาหย่อน  Victoria Memorial Clock Tower ตรงนี้คล้ายวงเวียนเลย หอนาฬิกานี้สร้างเพื่อรำลึกถึงชัยชนะอะไรสักอย่าง เราไม่ได้ข้ามไปอ่านที่ป้ายสลัก เพราะเพื่อนเราที่ข้ามไปก่อนตะโกนบอกว่ามันเป็นภาษาฝรั่งเศส เลยอ่านไม่รู้เรื่อง ตอนนี้งงน่ะเนี่ย ว่าเพื่อนมันรู้ได้ไง  เธออ่านฝรังเศสไม่ออกเหมือนกันนิ และปีนังมันของอังกฤษนินา เอ เพิ่งสังเกตว่าทำไมเราถ่ายรูปเอียงเกือบทุกรูปเลย จากคุณ : สายลมชุนชิวแห่งทุ่งบางเขน - [ 4 มี.ค. 52 00:50:48 ]

ความคิดเห็นที่ 60 เอาเถอะอ่านไม่ได้ก็มิได้นำพา เพราะเราจะหา tourist information เลียบไปขวาเหมือนเดิม แต่ต้องเซ็ง เพราะมันปิด พึ่งเจอนี่แหละ tourist information ปิดวันเสาร์ แล้วบรรดา tourist จะไปหา information ที่ไหนล่ะ จากคุณ : สายลมชุนชิวแห่งทุ่งบางเขน - [ 4 มี.ค. 52 00:51:40 ]

ความคิดเห็นที่ 61 แต่เวลายังไม่หมด ก็เดินหน้าต่อไป เพราะเหมือนเคยหาข้อมูลมาว่าเจ้าป้อมคอร์นวอลลิส มันอยู่ติดทะเล ด้านขวาของหอนาฬิการำลึกความหลังนั่น ก็เจอค่ะ เห็นปืนใหญ่ ตั้งเรียงกันเป็นระยะ เดิมก็ไว้ป้องกันข้าศึกที่รุกรานทางทะเล  แต่ตอนนี้ก็ไว้ present ล่ะว่าอยากเห็นฉันชัดๆ ก็เข้ามาจ่ายเงินชมฉันซิจ้ะ ค่าผ่านก็แค่ 3 RM เอง เขาว่าข้างในนอกจากมีปืนใหญ่ของฮอลแลนด์ อาวุธต่างๆ แล้วยังมีโรงละคร มีหอศิลป์ด้วย จากคุณ : สายลมชุนชิวแห่งทุ่งบางเขน - [ 4 มี.ค. 52 00:53:18 ]

ความคิดเห็นที่ 62 เราก็ปล่อยให้เขาว่าไปตามนั้นแหละ ไม่ได้ไปเห็นด้วยตาหรอก เพราะเพื่อนเราบอกบ่ายมากแล้ว ถ้าเข้าไปชมป้อม ก็ไม่มีเวลาไปชมอะไรแล้ว ก็ตามใจเพราะปืนผาหน้าไม้เราก้ไม่ชอบเท่าไร เลยข้ามมาเดินเลียบชมทะเลแทน แถวนี้มีรถขายพวกน้ำโหล ของขบเคี้ยว ไส้กรอก ลูกชิ้นด้วยนะ ยิ่งเย็นจะมีคนมานั่งพักกันตรึม จากคุณ : สายลมชุนชิวแห่งทุ่งบางเขน - [ 4 มี.ค. 52 00:55:42 ]

ความคิดเห็นที่ 63 เดินเข้าถนน Jalan Padang Kota Lama  เดินดูอาคาร Padang Kota Lama และ Esplanade Penang เหล่านี้ค่ะ จากคุณ : สายลมชุนชิวแห่งทุ่งบางเขน - [ 4 มี.ค. 52 00:57:50 ]

ความคิดเห็นที่ 64 เดินมาเจอถนนหลักอีกก็ใช้หลักเลี้ยวขวาค่ะ มาเจอรูปปั้นพระแม่มาเรีย ใช่หรือไม่ ไม่แน่ใจค่ะ เพราะไม่มีข้อมูลเลย ชมเพลินๆแล้วกัน ที่นี่เราเจอกลุ่มที่น่าจะสังกัดชมรมโฟโต้ ก็เนียนเดินตามเลยค่ะ ก็ไม่มีแผนที่ที่นี่นิค่ะ แก้ไขเมื่อ 04 มี.ค. 52 01:11:52 จากคุณ : สายลมชุนชิวแห่งทุ่งบางเขน - [ 4 มี.ค. 52 01:00:35 ]

ความคิดเห็นที่ 65 เข้ามาเสียใจกับเรื่องกระเป๋าด้วยค่ะ ที่น่ากลัวที่สุดคือ เรื่องพาสปอร์ต หายนี่แหละ เรากลัวมาก ๆ เลยเวลาไปต่างประเทศ ภาษาก็ไม่ค่อยจะรู้เรื่อง เวลาไปไหนต้องคอยดูตลอดทุก 10 นาทีเลย   ขอบคุณที่ยังมีอารมณ์ที่จะเอาข้อมูลมาบอก จากคุณ : คุณแม่ติดเน็ต - [ 4 มี.ค. 52 13:42:48 ]

ความคิดเห็นที่ 66 ขอบคุณค่ะ  คุณแม่ติดเน็ต ช่วงนี้เที่ยวไหนบ้างคะ ส่วนเขียนรีวิวเนี่ยเป็นงานอดิเรกที่ชอบค่ะ ทำแล้วหายเครียดดี ช่วงนี้ดวงตกจริงๆ ตั้งแต่ก่อนไปเที่ยวแล้ว ถึงตอนนี้ก็ยังไม่ดี พอมาขีดๆเขียนๆก็ทำให้ใจสบายค่ะ มาขอต่อรีวิวต่อค่ะ  ก็เดินตามกลุ่มโฟโต้คะ ประมาณเดินเลียบทางไปด้านขวาค่ะ ผ่านตึกอาคาร ไม่รู้เรียกสไตล์อะไร  แต่คุ้นๆแบบบ้านเราแถวนางเลิ้ง ผ่านฟ้า แถวๆนั้นค่ะ จากคุณ : สายลมชุนชิวแห่งทุ่งบางเขน - [ 5 มี.ค. 52 00:29:12 ]

ความคิดเห็นที่ 67 เดินมาถึงโรงเรียนอนุบาลที่ทาสีหวานสวย ก็ข้ามถนนเลี้ยวไปทางซ้าย แล้วกลุ่มชมรมโฟโต้ทั้งกลุ่มก็หายไปใน Museum จากคุณ : สายลมชุนชิวแห่งทุ่งบางเขน - [ 5 มี.ค. 52 00:30:06 ]

ความคิดเห็นที่ 68 พิพิธภัณฑ์นี้อยู่รวมกับหอศิลปะ Penang Museum & Art Gallery (BALAI SENI LUKIS)ค่ะ ตัวอาคารเป็นสไตล์ยุโรปสวยดี ขนาดตึกยังสวย ไม่รู้ข้างในสวยขนาดไหน เราชอบศิลปะนะ แต่เวลาไม่มีจริงๆ ก็เดินดูรถโบราณที่จอดโชว์อยู่ด้านนอกแทน ก็ธรรมดา  ดูรุ่นก็เก่าไม่เท่าไร เคยเห็นบ้านเรา เจ๋งกว่า ค่าเข้าชมแค่ 1 RM จากคุณ : สายลมชุนชิวแห่งทุ่งบางเขน - [ 5 มี.ค. 52 00:31:26 ]

ความคิดเห็นที่ 69 เดินต่ออีกนิด ก็เจอโบสถ์  St.georges เลย ผิดหวังอย่างแรง มันดูโทรมอ่ะ แถมเงียบกริบ ไม่มีคน ประตูก็ปิด ไม่สมกับเป็นโบสถ์ที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศเลย หรือสมหว่า เลยดูทั้งโทรม และเงียบ  ไม่เหมือนที่โบสถ์เซนต์ปอลที่มะละกาเลย ที่นั่นดูมีชีวิต วันเราไปยังมีแจกอาหาร น้ำด้วย(ไม่ใช่เห็นแก่กิน ถึงให้เครดิตมากกว่านะจ้ะ) จากคุณ : สายลมชุนชิวแห่งทุ่งบางเขน - [ 5 มี.ค. 52 00:32:46 ]

ความคิดเห็นที่ 70 ที่โบสถ์มีป้ายรถเมล์ค่ะ ใครจะมาทางรถเมล์ก็ได้ ถ้ารู้เบอร์รถนะ  ลืมถ่ายป้ายรถเมล์มา แต่จะบอกว่าจากการเที่ยวในปีนัง มะละกา และกัวลาลัมเปอร์ ที่ปีนังที่เดียวที่ป้ายรถเมล์มีบอกว่ารถเมล์สายอะไรผ่านบ้าง ที่อื่นคงต้องให้คนท้องถิ่นเท่านั้นที่รู้ เพราะป้ายรถเมล์ไม่มีอะไรบอกเลย นอกจากสัญลักษณ์ว่าเป็นป้ายรถเมล์ รูป สามล้อที่ปีนังที่ไม่ค่อยตกแต่งมาก กับคนชมรมโฟโต้ตัวพ่อ จากคุณ : สายลมชุนชิวแห่งทุ่งบางเขน - [ 5 มี.ค. 52 00:33:41 ]

ความคิดเห็นที่ 71 เลี้ยวขวา เข้าถนน Jin Masjid Kapitan Keling ค่ะ เป็นเส้นทางที่เริ่มเข้าเขต Georgetown  เขตแดนที่เป็นที่รวมของหลายชุมชน หลายเชื้อชาติค่ะ เพื่อนเราให้เป็นเส้นสหศาสนาเลย เริ่มจาก St.georges คริสต์ศาสนานิกายแองกลิตัน ก็มาเจอวัดจีน ลัทธิเต๋า+พุทธ จากคุณ : สายลมชุนชิวแห่งทุ่งบางเขน - [ 5 มี.ค. 52 00:36:25 ]

ความคิดเห็นที่ 72 วัด Tokong Kuan Yin Teng   ชื่อ Kuan Yin Teng เป็นชื่อเทพเจ้าแห่งความเมตตา และเป็นวัดจีนที่เก่าแก่ที่สุดของเกาะปีนังค่ะ   ชอบหลังคามากค่ะเป็นรูปปั้น สวย สวย  ^___^ จากคุณ : สายลมชุนชิวแห่งทุ่งบางเขน - [ 5 มี.ค. 52 00:37:44 ]

ความคิดเห็นที่ 73 เดินข้ามถนนซอย ก็เจอที่สักการะเทพทางอินดูค่ะ และคงเป็นที่เคารพมาก สังเกตว่าข้างๆเป็นร้านขายดอกไม้สองสามร้านเลย จากคุณ : สายลมชุนชิวแห่งทุ่งบางเขน - [ 5 มี.ค. 52 00:38:54 ]

ความคิดเห็นที่ 74 เดินต่อมาไม่ถึง 50 เมตร ก็เนี่ยเลย วัดแขก SRI MARIAMMAN ค่ะ หลังคาอาคารสวยได้ใจ ได้แต่ชมความงามห่างๆค่ะ เพราะประตูปิด ไม่เปิดให้ชม ข้อมูลบอกชมได้ แถมบอกมีเคารพที่สวยๆเพียบ เลยไม่รู้ว่าเป็นวันอะไร ทำไมปิด จากคุณ : สายลมชุนชิวแห่งทุ่งบางเขน - [ 5 มี.ค. 52 00:39:41 ]

ความคิดเห็นที่ 75 ถัดมาก็ Kapitan Keling Mosque  ค่ะ คราวนี้ก็อิสลามค่ะ เราใส่เสื้อแขนสั้นมา ก็ต้องไปใส่เสื้อคลุมยาวค่ะ เข้าไปข้างในเงียบสงบมากค่ะ  เห็นคนมาทำละหมาดด้วยล่ะ จากคุณ : สายลมชุนชิวแห่งทุ่งบางเขน - [ 5 มี.ค. 52 00:41:38 ]

ความคิดเห็นที่ 76 ออกมาก็เดินตรงเข้าไปย่านไชน่าทาวน์ค่ะ หิวข้าวตาลายเลย เจอร้านก๊วยเตี๋ยวร้านแรกก็ตรงเข้าไปชี้เลย   โชคดีร้านนี้เป็นร้านดังคะ ประเภทชวนชิม เพราะเห็นมีกรอบใส่หนังสือพิมพ์ที่พูดถึงร้านตัวเอง แล้วที่ทำให้แปลกใจก็คือ เขาสั่งกันว่าก๊วยเตี๋ยวเลยค่ะ จะได้เส้นที่ใหญ่กว่าเส้นเล็ก แต่เล็กกว่าเส้นใหญ่มา ก็อร่อยดีค่ะ น้ำส้มก็รสมากค่ะ รสเป็นส้มเช้ง กินชื่นใจมากค่ะ ค่าเสียหายก็ ก๊วยเตี๊ยวชามละ 3 RM น้ำส้มแก้วละ  3 RM เบิ้ล 2 ทั้งคู่เลยค่ะ จากคุณ : สายลมชุนชิวแห่งทุ่งบางเขน - [ 5 มี.ค. 52 00:45:10 ]

ความคิดเห็นที่ 77 กินอิ่มกันจนท้องอืดเลย ก็เดินเที่ยวต่อค่ะ หลังจากนี้ก็เดินตรงไป เลี้ยวอย่างไรก็จำไม่ได้ รู้แต่แถวนี้เขาตัดถนนเป็นแบบจัตุรัส เราก็พยายามเดินเป็นวงกลมสี่เหลี่ยมใหญ่ แล้วค่อยตัดไปมา แล้วก็พยายามมองหา หอนาฬิกาแถวท่าเรือไว้ว่าเป็นจุดที่เราต้องเดินกลับมา จากคุณ : สายลมชุนชิวแห่งทุ่งบางเขน - [ 5 มี.ค. 52 00:47:19 ]

ความคิดเห็นที่ 78 เราชอบสไตล์ตะวันออกแบบจีนๆอยู่แล้ว ถนนสายนี้เลยถูกใจเรามาก และเราว่าวัดจีนที่ปีนังสวย สะอาดดี คนน้อย ไม่ใช่วัดร้างที่ไว้โชว์   รูปวัด Hock Teik Cheng Sin แก้ไขเมื่อ 05 มี.ค. 52 01:39:09 จากคุณ : สายลมชุนชิวแห่งทุ่งบางเขน - [ 5 มี.ค. 52 00:48:13 ]

ความคิดเห็นที่ 79 เราชอบวัดจีนที่ปีนังเป็นพิเศษ เพราะมักมีหลังคาเป็นลายปูนปั้นที่เราชอบ จากคุณ : สายลมชุนชิวแห่งทุ่งบางเขน - [ 5 มี.ค. 52 00:49:05 ]

ความคิดเห็นที่ 80 และเพราะเย็นแล้ว หลายที่เลยปิดไม่ให้เราเข้า  ชมห่างๆก็สวย จากคุณ : สายลมชุนชิวแห่งทุ่งบางเขน - [ 5 มี.ค. 52 00:50:50 ]

ความคิดเห็นที่ 81 วัดจีน Cheah Kong si นี้ ก็คงได้เวลาปิดแล้ว เพราะขึ้นบนวัดไม่ได้ ได้แต่เดินวนๆรอบวัด เพื่อนเราชอบวัดจีน Cheah Kong si มาก เป็นวัดเก่าแก่วัดหนึ่งที่มีสไตล์เป็นแบบปีนัง เขาว่าเพราะมันผสมระหว่างศิลปะแบบจีนกับ โคโลเนียน  ดูเอาแล้วกันว่ามันสวยไหม จากคุณ : สายลมชุนชิวแห่งทุ่งบางเขน - [ 5 มี.ค. 52 00:52:05 ]

ความคิดเห็นที่ 82 นอกจากวัดจะสวยแล้ว ทาวน์เฮาส์ของเขาก็สวยดี จากคุณ : สายลมชุนชิวแห่งทุ่งบางเขน - [ 5 มี.ค. 52 00:53:53 ]

ความคิดเห็นที่ 83 เดินวนจนมาถึงจะบรรจบวงใหญ่ด้านที่เดินตรงไปเป็นท่าเรือ ก็มาเจอรถบัสทัวร์จีนลงมา เราก็ตามเลยคะ  ตรงข้ามกับตลาดอาหารโต้รุ่ง ก็เป็นชุมชนที่อพยพมาจากฟู่เจี้ยนค่ะ จากคุณ : สายลมชุนชิวแห่งทุ่งบางเขน - [ 5 มี.ค. 52 00:55:29 ]

ความคิดเห็นที่ 84 เดินเข้าไปก็ไม่มีอะไร คล้ายบ้านที่ปลูกริมน้ำบ้านเรา เพียงแต่ดูสะอาดและเงียบเท่านั้นเอง ไม่รู้เพราะเป็นช่วงตรุษจีนหรือเปล่า จากคุณ : สายลมชุนชิวแห่งทุ่งบางเขน - [ 5 มี.ค. 52 00:56:34 ]

ความคิดเห็นที่ 85 ออกมาก็เดินวกเข้าไปด้านในอีก (ไม่เดินตรงไปท่าเรือ) คราวนี้ผ่านย่านคนอินเดียค่ะ ไม่รู้เพราะถนนแถวนี้มันกว้างกว่าพาหุรัดหรือเปล่า ทำให้มันดูโล่งและสะอาดกว่าบ้านเราอีกแล้ว จากคุณ : สายลมชุนชิวแห่งทุ่งบางเขน - [ 5 มี.ค. 52 00:57:31 ]

ความคิดเห็นที่ 86 เดินวนกลับไปท่าเรือเพื่อนั่งเรือกลับไปขึ้นรถไฟไปกัวลาลัมเปอร์ ส่วนกระเป๋าที่ฝากไว้ หาเจ้าหน้าที่คนรับฝากไม่เจอแล้ว ก็ถามกับเจ้าหน้าที่คนอื่น ก็เหมือนรู้นะค่ะ เพราะเขาก็หากุญแจมาไขเอากระเป๋าให้เราค่ะ  เพราะงั้น ตอนมาเอากระเป๋าคืน ก้ติดต่อกับเจ้าหน้าที่คนไหนก็ได้   รถไฟมาเล ไม่มีการพับเป็นเก้าอี้นอนแหะ หรือเพราะสามทุ่มแล้ว เลยเป็นเตียงนอน แถมมีมาตรการประหยัดด้วยเพราะตอนจอดจะปิดแอร์ ทำให้อากาศในรถไฟค่อนข้างอบอ้าว แถมมีประกาศสถานีทุกป้าย ทำเอาเรานอนไม่หลับ รูปเป็นรถสามล้อที่มะละกาค่ะ เป็นไงสวยกว่าปีนังไหม แก้ไขเมื่อ 05 มี.ค. 52 01:04:31 จากคุณ : สายลมชุนชิวแห่งทุ่งบางเขน - [ 5 มี.ค. 52 01:04:07 ]

ความคิดเห็นที่ 87 ขอโทษค่ะ  ใส่รูปผิด จากคุณ : สายลมชุนชิวแห่งทุ่งบางเขน - [ 5 มี.ค. 52 01:05:54 ]

ความคิดเห็นที่ 88 มาถึงกัวลาตีห้ากว่า สุดสายของขบวนรถไฟเลยจ้ะ  ขึ้นบันไดเลื่อนมาก็สถานี KL Sentral เลย หลังจากนี้เที่ยวมะละกา อีกวันถัดมาก็เที่ยวมัสยิคจาเมค ตึกสุลต่าน อับดุลซามัค ไชน่าทาวน์ วัดจีนในไชนาทาวน์ ก่อนไป สถานีรถไฟ KTM Kualalumpur แล้วก็เจอเหตุการณ์กระเป๋าหายค่ะ ก็ไม่เล่าแล้วนะคะ เพราะมะละกา และในเมืองกัวลาลัมเปอร์คนอื่น เช่นคุณโอ๊ตครับผม คุณหนูจาไม  คุณ Find_Story รีวิวไว้ ละเอียดแล้ว เราก็ใช้เป็นโพยเที่ยวเหมือนกัน จากคุณ : สายลมชุนชิวแห่งทุ่งบางเขน - [ 5 มี.ค. 52 01:14:07 ]

ความคิดเห็นที่ 89 ก่อนจบก็แถมข้อมูลเล็กๆน้อยเผื่อจะเป็นประโยชน์ รถเมล์กลุ่มที่ใช้หย่อนเหรียญ ที่คนขับ  ได้ตั๋วมาแล้วเก็บไว้ในคะ หลังจากนั้น ถ้าขึ้นรถที่ขึ้นต้นด้วยตัวอักษรเดียวกัน เช่น สาย B111 กับสาย B100 ก็ไม่ต้องจ่ายเงินแล้ว แค่ชูตั๋วก็ได้ อ้อภายในวันนะคะ รถเมล์แบบที่มีกระเป๋า ก็จ่ายเป็นครั้งๆไปค่ะ  เก็บเงินตามระยะทางค่ะ จากคุณ : สายลมชุนชิวแห่งทุ่งบางเขน - [ 5 มี.ค. 52 01:15:58 ]

ความคิดเห็นที่ 90 จะไปมะละกา ไปขึ้นรถที่ สถานี Puduraya เที่ยวเช้าสุดมีรอบ 7.30 นะค่ะ แต่เป็นของบริษัท KKKL คะ เก้าอี้กว้างกว่าของ transnasional เสียแต่ไม่ fix ที่นั่ง เราขึ้นช้า เลยได้นั่งเก้าอี้ที่เอนหลังไม่ได้ นั่งเมื่อยเลย ขากลับถ้านั่งรถเมล์สาย 17 ก็ให้เผื่อเวลาเยอะๆนะคะ เพราะเขาวนเข้าไปในหมู่บ้านเลยคะ วกเวียนไปมา ใช้เวลาเกือบชม กว่าจะไปถึงท่ารถ รถเมล์ที่ผ่าน สถานี Puduraya มีหลายสายที่จำได้ มี สาย 32 (เก็บตามระยะทาง) ,B111 เก็บครั้งละ 2 RM จากคุณ : สายลมชุนชิวแห่งทุ่งบางเขน - [ 5 มี.ค. 52 01:18:05 ]

ความคิดเห็นที่ 91 ปิดท้าย ขอชื่นชมกับความเก่งของไปรษณีย์มาเลเซียค่ะ เพราะเราโก๊ะส่งโปสการ์ดถึงตัวเรากับเพื่อนโดยเขียนภาษาไทย ไม่มีภาษาอังกฤษสักตัว ไม่มีคำ THAILAND  ทั้งของเพื่อนเราก็จังหวัดนนทบุรี หย่อนช่องกัวลาลัมเปอร์อีกแน่ะ   แต่ถึงค่ะ เราได้รับโปสการ์ดหลังกลับบ้านมาสามวัน ^__^ จบค่ะ แล้วพบกันใหม่ . ในยามอ่อนแอท้อแท้และผิดหวัง ก็ยังมีเธอคอย เคียงข้าง อยู่เป็นพลัง เป็นกำลังใจปลอบใจฉันให้ยิ้มสู้ต่อไป .. __/|\__ แก้ไขเมื่อ 05 มี.ค. 52 01:28:17 จากคุณ : สายลมชุนชิวแห่งทุ่งบางเขน - [ 5 มี.ค. 52 01:27:38 ]

ความคิดเห็นที่ 92 ^ ^ เข้ามาตามอ่านต่อจนจบค่ะ ขอบคุณที่เอาข้อมูลมาเล่าสู่กันฟัง เผื่อไว้เป็นอุทาหรณ์ เพิ่งกลับจากมาเลเซียเหมือนกัน แต่ไปด้วยเครื่อง ตอนที่เขาโปร ๆ กันนะคะ คิวต่อไปก็น่าจะ ไต้หวัน ที่ผลัดมาตั้งแต่ปิดสนามบินอ่ะค่ะ เก่งนะคะ คุณ สายลมฯ กำลังใจดีจัง เป็นเราจะทำได้ยังงี้รึป่าว? เป็นกำลังใจให้อีกหนึ่งคนค่ะ จากคุณ : คุณแม่ติดเน็ต - [ 6 มี.ค. 52 21:54:06 ]

ความคิดเห็นที่ 93 ขอบคุณค่ะ ที่แวะมาอ่านต่อ แล้วจะรอติดตามผลงานนะค่ะ อยากไปไต้หวันสักครั้งเหมือนกัน จากคุณ : สายลมชุนชิวแห่งทุ่งบางเขน - [ 8 มี.ค. 52 00:51:18 ]