ความคิดเห็นที่ 1 วัดต่อไปคือวัดมงคลบพิตร วิหารพระมงคลบพิตร ถ้าตามพระราพงศาวดารฯบริเวณที่ตั้งวิหารนี้เคยเป็นวัด ในแผ่นดินสมเด็จพระเจ้าทรงธรรมเพราะระบุว่าโปรดอัญเชิญพระพุทธรูปขนาดใหญ่ นามว่า “มงคลบพิตร” มาจากพื้นที่ทางตะวันออกต่อจากนั้นก็ทรงก่อมณฑปครอบ ครั้นถึงรัชกาลสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ โปรดเกล้าให้มีการบูรณะปฏิสังขรณ์ พระมงคลบพิตรขึ้นอีกครั้งหนึ่ง โดยโปรดให้ทำบัวหงายคั่นระหว่างพระเกตุมาลากับพระรัศมี ส่วนพระวิหารนั้นก็โปรดให้รื้อเครื่องบนออก แล้วก่อหลังคาให้เหมือนดังพระวิหารทั่วไป ต่อมาเมื่อกรุงศรีอยุธยาเสียแก่พม่าครั้งที่ ฃ2๒ พ.ศ. 2310 นั้น พม่าเข้าใจว่าพระมงคลบพิตรเป็นพระพุทธรูปทองคำ จึงได้ใช้ไฟสุมลอกทองจนกระทั่งองค์พระ ตลอดจนพระวิหารได้รับความเสียหายมาก โดยเฉพาะเครื่องบนพระวิหารที่หักลงมา ต้องพระเมาฬีและพระกรข้างขวาจนแตกหัก ตกลงมากลายเป็นซากปรักหักพัง จากคุณ : scuba734 - [ 4 มี.ค. 52 21:46:29 ]

ความคิดเห็นที่ 2 พระมงคลบพิตร เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ครองจีวรห่มเฉียง เปิดพระอังสาขวา มีสังฆาฏิพาดเหนือพระอังสาซ้าย ชายยาวลงมาจรดพระนาภี ภายในองค์ก่ออิฐเป็นแกนแล้วบุ ด้วยทองสัมฤทธิ์ มีขนาดหน้าตักกว้าง 9.55 เมตร ส่วนสูงเฉพาะองค์พระไม่รวมฐานบัว 12.45 เมตร ส่วนฐานบัวสูง 4.50 เมตร พระเศียรวัดโดยรอบตรงบริเวณเหนือพระกรรณ 7.25 เมตร พระพักตร์กว้าง 2.32 เมตร บัวหงายระหว่างพระรัศมีกับพระเกศาเมาลีสูง 43 เซ็นติเมตร พระรัศมีเหนือบัวหงายสูง 1.30 เมตร พระกรรณยาวข้างละ 1.81 เมตร พระเนตรยาวข้างละ 1.05 เมตร พระนาสิกยาว 1.20 เมตร พระโอษฐ์ยาว 1.16 เมตร และเป็นพระพุทธรูปหล่อขนาดใหญ่องค์เดียวในประเทศไทย สันนิษฐานกันว่า สร้างในสมัย กรุงศรีอยุธยาตอนต้นราวแผ่นดินสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ ที่มา http://watboran.wordpress.com/category/วัดมงคลบพิตร จากคุณ : scuba734 - [ 4 มี.ค. 52 21:48:08 ]

ความคิดเห็นที่ 3 คนรุ่นเก่า ๆ คงยังจำภาพนี้ได้ จากคุณ : scuba734 - [ 4 มี.ค. 52 21:48:53 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ทางเดินรอบ ๆ พระวิหาร มีพระพุทธรูปโบราณ ที่ไม่สมบูรณ์เรียงรายโดยรอบ จากคุณ : scuba734 - [ 4 มี.ค. 52 21:49:32 ]

ความคิดเห็นที่ 5 วัดต่อไปที่ไปคือวัดหน้าพระเมรุ ราชิการาม วัดหน้าพระเมรุ  ตั้งอยู่ริมคลองสระบัวด้านทิศเหนือของคูเมือง (เดิมเป็นแม่น้ำลพบุรี)  ตรงข้ามกับพระราชวังหลวง สร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น พุทธศักราช 2046 มีชื่อเดิมว่า “วัดพระเมรุราชิการาม” ที่ตั้งของวัดนี้เดิมคงเป็นสถานที่สำหรับสร้างพระเมรุถวายพระเพลิงพระบรมศพ ของพระมหากษัตริย์พระองค์ใดพระองค์หนึ่งสมัยอยุธยาตอนต้นต่อมาจึงได้สร้าง วัดขึ้น มีตำนานเล่าว่าพระองค์อินทร์ในรัชกาลสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 ทรงสร้างวัดนี้เมื่อ พ.ศ. 2046  วัดนี้มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ สมเด็จพระมหาจักรพรรดิเมื่อครั้งทำศึกกับพระเจ้าบุเรงนองได้มีการทำสัญญาสงบ ศึกเมื่อ พ.ศ. 2106 ได้สร้างพลับพลาที่ประทับขึ้นระหว่างวัดหน้าพระเมรุกับวัดหัสดาวาส จากคุณ : scuba734 - [ 4 มี.ค. 52 21:50:28 ]

ความคิดเห็นที่ 6 วัดนี้เป็นวัดเดียวในกรุงศรีอยุธยาที่ไม่ได้ถูกพม่าทำลายและยังคงปรากฏ สถาปัตยกรรมแบบอยุธยาอยู่ในสภาพสมบูรณ์มากที่สุดในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พระอุโบสถมีขนาดยาว 50 เมตร กว้าง 16 เมตรเป็นแบบอยุธยาตอนต้นซึ่งมีเสาอยู่ภายใน ต่อมาสร้างขยายออกโดยเพิ่มเสารับชายคาภายนอกในรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว บรมโกศ หน้าบันเป็นไม้สักแกะสลักเป็นรูปพระนารายณ์ทรงครุฑเหยียบเศียรนาคและมีรูป ราหูสองข้างติดกับเศียรนาค หน้าต่างเจาะเป็นช่องยาวตามแนวตั้ง เสาเหลี่ยมสองแถวๆ ละแปดต้น มีบัวหัวเสาเป็นบัวโถแบบอยุธยา ด้านบนประดับด้วยดาวเพดานเป็นงานจำหลักไม้ลงรักปิดทอง ที่มา http://thai.tourismthailand.org/attraction/content-2531-1.html จากคุณ : scuba734 - [ 4 มี.ค. 52 21:51:08 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ภายในวัดประกอบด้วย พระอุโบสถขนาดใหญ่เป็นประธานของวัด ลักษณะเป็นอาคารที่สร้างขึ้นราวสมัยอยุธยาตอนกลาง จากคุณ : scuba734 - [ 4 มี.ค. 52 21:51:48 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ตามมาเที่ยวค่ะ  ฉินก็ไปอยุธยาบ่อยเหมือนกันค่ะ แต่มักจะเป็นการไปทำบาปซะเป็นส่วนใหญ่ค่ะ สิ้นเดือนนี้ก็จะไปกันอีกรอบนึง สบายดีนะคะพี่   จากคุณ : ฉินเมิ่งเหยา - [ 4 มี.ค. 52 21:52:12 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ภายในประดิษฐานพระประธานซึ่งเป็นพระพุทธรูปทรงเครื่องใหญ่ มีพุทธลักษณะงดงามมาก พระนามว่า ‘พระพุทธนิมิตรวิชิตมารโมลีศรีสรรเพชญ์บรมไตรโลกนาถ’ สันนิษฐานว่าได้รับการปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่ ในรัชกาลสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง เนื่องจากมีพุทธลักษณะคล้ายคลึงกับพระพุทธรูปปูนปั้น ที่ประดิษฐานอยู่ภายในเมรุทิศเมรุมุมของระเบียงคด วัดไชยวัฒนาราม ที่สร้างขึ้นในรัชกาลของพระองค์ จากคุณ : scuba734 - [ 4 มี.ค. 52 21:52:34 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ด้านล่างของพระพุทธรูป จากคุณ : scuba734 - [ 4 มี.ค. 52 21:53:13 ]

ความคิดเห็นที่ 11 อีกด้านค่ะ จากคุณ : scuba734 - [ 4 มี.ค. 52 21:53:41 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ที่วัดนี้มี ‘หลวงพ่อขาว’ ประดิษฐานอยู่ แต่ไม่ได้เข้าไป เสียดายเหมือนกันค่ะ ยังดีที่ได้ไปที่พระวิหาน้อย พระวิหารน้อยนั้น สร้างขึ้นสมัยรัชกาลที่ 3 ลวดลายปูนปั้นปิดทองทั้งที่ประตูและหน้าต่างเป็นลายพรรณพฤกษาฝรั่งปนจีนตาม ที่นิยมกันในสมัยรัชกาลที่ 3 เป็นต้นมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งลวดลายแจกันดอกไม้และโต๊ะหมู่บูชาแบบจีนขนาดเล็ก   ภายในมีพระพุทธรูปแบบทวารวดีหินสีเขียวดำขนาดใหญ่เต็มวิหาร ประทับนั่งวางพระบาทอยู่บนดอกบัวบาน กล่าวกันว่าพระพุทธรูปองค์นี้ย้ายมาจากวัดหน้าพระเมรุ จังหวัดนครปฐม ซึ่งเป็นสถานที่ที่พบพระพุทธรูปทวารวดีขนาดใหญ่หลายองค์ และได้ถูกเคลื่อนย้ายมาอยุธยาถึง 2 องค์ด้วยกัน (อีกองค์หนึ่งอยู่ในพิพิธภัณฑ์ เจ้าสามพระยา) องค์พระพุทธรูปมีลักษณะที่น่าสังเกตหลายประการ คือ        1. พระรัศมีรอบพระเศียร ซึ่งมีเปลวฉายออกมาโดยรอบนั้น ชี้ให้เห็นอิทธิพลของจีน        2. ชายจีวรถูกถลกสูง เผยให้เห็นถึงพระชานุซ้ายของพระพุทธเจ้า ดูแปลกไปจากพระพุทธรูปที่พบทั่วไปในประเทศไทย เป็นเช่นเดียวกับที่นิยมทำพระศรีอาริยเมตไตรยในประเทศจีน สมัยราชวงศ์ถัง        3. พระหัตถ์ทั้งคู่วางราบอยู่บนเข่าทั้งสอง ซึ่งแปลกไปจากปางต่าง ๆ ที่รู้จักกันในประเทศไทย ที่มา  http://ayutthayastudies.aru.ac.th/content/view/363/56/ จากคุณ : scuba734 - [ 4 มี.ค. 52 21:54:19 ]

ความคิดเห็นที่ 13 หมดครึ่งวันแรกแค่นี้ค่ะ หลังอาหารก็ไป สถาบันอยุธยาศึกษา ซึ่งเป็นอาคารที่ไม่มีหน้าต่างหรือมีน้อยมาก แล้วไม่เปิดแอร์ พวกเราเข้าไปร่วม 50 คน ไม่ใช่แค่ร้อนนะคะ แต่อึกอัดมาก ๆ แทบแย่เลย จากนั้นก็มาต่อที่พิพิธภัณฑ์เจ้าสามพระยา ที่นี่ไม่มีแอร์ แต่อาคารโปร่งค่ะ เลยไม่อึดอัด และของที่แสดง โดยเฉพาะพวกเครื่องทองและพระพิมพ์ที่ได้จากกรุวัดต่าง ๆ ในอยุธยา น่าชมมากเลยค่ะ ถ้าใครไปอยุธยา เสนอว่า น่าจะแวะไปที่นี่ด้วย ไม่แน่ใจว่ามีค่าผ่านประตูหรือเปล่า เพราะผู้จัดรายการนี้ จัดการให้หมดค่ะ จากนั้นก็ไปที่วัดราชบูรณะ  วัดนี้เชื่อกันว่าสร้างขึ้นในสมัยเจ้าสามพระยา ตรงตำแหน่งที่ได้ทรงจัดการถวายพระเพลิงศพให้กับพระเชษฐาทั้งสองพระองค์ คือ เจ้าอ้ายกับเจ้ายี่ ซึ่งสิ้นพระชนม์พร้อมกันในการทรงช้างกระทำยุทธหัตถีเพื่อช่วงชิงราชบัลลังก์ เมื่อพระราชบิดา (พระนครอินทร์) เสด็จสวรรคตในปี พ.ศ. 1967 องค์ปรางค์ของวัดซึ่งอยู่ในสภาพค่อนข้างดีนี้ จากคุณ : scuba734 - [ 4 มี.ค. 52 21:54:57 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ในปี พ.ศ. 2499 ขณะที่กรมศิลปากรดำเนินการขุดแต่งภายในวัดมหาธาตุคนร้ายได้ลักลอบขุดกรุใน องค์ปรางค์ประธานวัดราชบูรณะได้ของมีค่าจำนวนมาก กรมศิลปากรจึงดำเนินการขุดกรุในองค์ปรางค์ประธานอีกครั้งพบเครื่องราชูปโภค ซึ่งทำด้วยทองคำ พระพิมพ์แบบต่างๆ และของมีค่าอื่นๆ เป็นจำนวนมาก        กรุแรกซึ่งอยู่ในระดับบนนั้น เป็นห้องสี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาดประมาณ 3 เมตร บนฝาผนังมีภาพเขียนสีค่อนข้างเลือนราง แต่ยังพอจับเค้าได้ว่าเป็นชายชาวจีน 3 คน และมีอักษรภาษาจีนปรากฏอยู่        ส่วนกรุชั้นล่างนั้น เป็นห้องสี่เหลี่ยมขนาดเล็กพอดีตัวคน เพดานห้องเป็นทรงโค้งครึ่งวงกลม ภาพจิตรกรรมฝาผนังเลือนราง เห็นเป็นพระพุทธเจ้าหลายองค์ พระพุทธสาวก ต้นไม้และนก บางส่วนของภาพปิดทองด้วย จากคุณ : scuba734 - [ 4 มี.ค. 52 21:55:33 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ข้อมูลแน่นปึ๊ก ขนาดนี้ ไม่ทักทาย ก็ไม่โกรธหรอกค่ะพี่ตุ้ม ^^ จากคุณ : prettyguide - [ 4 มี.ค. 52 21:57:29 ]

ความคิดเห็นที่ 16 สวัสดีค่ะคุณ ฉินเมิ่งเหยา ไม่ทันเห็น สบายแต่ตัว ใจไม่สบาย อยากไปทะเลมากมายค่ะ ----------------------------------------------------------------------- ในกรุทั้งสองนี้บรรจุเครื่องทองจำนวนมากเอาไว้ มีทั้งที่เป็นพระแสงขรรค์ชัยศรีพร้อมปลอกทำจากทองประดับอัญมณีหลากชนิด ด้ามเป็นแก้วผลึกหุ้มทองประดับอัญมณีเช่นกัน พระแสงนี้มีความยาวถึง 115 เซนติเมตร มีเครื่องทองราชูปโภคต่าง ๆ ที่เป็นขนาดเล็กย่อส่วน ทำเป็นรูปเครื่องเบญจราชกกุธภัณฑ์ มีรูปเทวดายืนถือพระขรรค์ ซึ่งเปลี่ยนพระขรรค์ได้ ถาดล่วมหมาก ตัวแมลงทับ ผอบธรรมดา และผอบทำเป็นรูปตัวหงส์ มีฝาปิดเปิดได้ และที่เด่นมากที่สุดชิ้นหนึ่งก็คือ ช้างหมอบ โดยงวงชูช่อดอกไม้ทำด้วยทองคำ มีเครื่องประดับร่างกายทั้งทับทรวง กรองพระศอ สังวาล พาหุรัด และทองพระกร และที่น่าดูยิ่งก็คือ เครื่องทองประกอบอัญมณีประดับศีรษะชาย ส่วนของสตรีนั้นถักด้วยเส้นลวดทองขนาดเล็กบาง เป็นเครื่องคลุมเส้นผม มีแบบจำลองพระปรางค์ซึ่งถอดประกอบได้ มีพระสถูปทองคำ มีจารึกบนแผ่นทอง และแผ่นทองดุนนูนรูปบุคคลและสัตว์มงคลนานาชนิด จากคุณ : scuba734 - [ 4 มี.ค. 52 21:57:34 ]

ความคิดเห็นที่ 17 สวัสดีค่ะ คุณ prettyguide เมื่อไปเที่ยวอีกคะ ตามติดทุกกระทู้เลย ไปไหนไม่ได้ ก็ได้กระทู้ใน BP ปลอบใจไปทุกวันค่ะ ----------------------------------------------------------------- นอกจากนั้นแล้ว พระพิมพ์ส่วนหนึ่งนั้น กรมศิลปากรได้เปิดให้ประชาชนเช่าไปบูชาเพื่อนำเงินส่วนหนึ่งมาสร้าง พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา และนำสิ่งของที่ได้จากกรุมาเก็บไว้ที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ปัจจุบันกรมศิลปากรได้ขุดแต่งทำบันไดให้ประชาชนสามารถลงไปชมภาพจิตรกรรมฝา ผนังสมัยอยุธยาตอนต้นภายในกรุได้ด้วย ข้อมูลทั้งหมดได้จาก  http://ayutthayastudies.aru.ac.th/content/view/361/56/ จากคุณ : scuba734 - [ 4 มี.ค. 52 22:00:17 ]

ความคิดเห็นที่ 18 พระปรางค์ประธาน เป็นสถาปัตยกรรมแบบขอมซึ่งยังคงสภาพสมบูรณ์ ช่องคูหาของพระปรางค๋มีพระพุทธรูปยืนปูนปั้นประดิษฐานช่องละ 1 องค์ ที่ยอดพระปรางค์ขั้นล่างประดับด้วยรูปครุฑ ยักษ์ เทวดา นาค ภายในพระปรางค์มีห้องกรุ 2 ชั้น ที่กรุชั้นบนมีภาพจิตรกรรมฝาผนังเลือนลาง  และภายในกรุชั้นล่างมีภาพจิตรกรรมฝาผนังที่ยังเหลืออยู่ และเคยเป็นที่เก็บเครื่องทอง เอารูปที่ลงผิดออกค่ะ ตามคำแนะนำของคุณหินสอ ขอบคุณมากเลยค่ะ แก้ไขเมื่อ 06 มี.ค. 52 04:15:07 จากคุณ : scuba734 - [ 4 มี.ค. 52 22:00:59 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ที่นี่สว. ลืมวัย ปีนกระไดที่พระปรางค์กันสนุกสนาน ขึ้นไปแล้วได้รูปสวยถูกใจ ขัดใจแต่วิวด้านหลัง ไม่น่ามีอาคารสีแสบมาทำให้ทัศนียภาพโดยรวมเสียไปเลย จากคุณ : scuba734 - [ 4 มี.ค. 52 22:02:50 ]

ความคิดเห็นที่ 20 หลังจากวัดราชบูรณะแล้ว ยังไปวัดเจดีย์ภูเขาทอง แต่หารูปไม่เจอค่ะ ไปเจอรูปอีกทีคือวัดไชยพัฒนาราม ซึ่งเป็นวัดสุดท้ายในทริปนี้ วัดไชยวัฒนาราม เป็นวัดสำคัญวัดหนึ่งของอยุธยา ตั้งอยู่นอกเกาะกรุงศรีอยุธยาฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าปราสาททอง พ.ศ. 2173 บริเวณที่ตั้งของวัดนี้เคยเป็นที่ตั้งบ้านเรือนของพระราชมารดาซึ่งได้สิ้นไป ก่อนที่พระเจ้าปราสาททองจะเสวยราชสมบัติเป็นกษัตริย์ การสิ้นพระชนม์ของพระราชมารดา มีความเกี่ยวเนื่องกับการขึ้นครองราชย์ของพระองค์ กล่าวคือ พระราชมารดาสิ้นขณะที่พระองค์มีตำแหน่งเป็นเจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์ เสนาบดีกลาโหมในรัชสมัยพระเชษฐาธิราช จากคุณ : scuba734 - [ 4 มี.ค. 52 22:03:27 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เจ้าพระยากลาโหมได้จัดงานศพให้กับมารดาของท่านที่บริเวณวัดกุฎธาราม โดยเชิญขุนนางทั้งทหารและพลเรือนจำนวนมากมาร่วมงานศพในครั้งนั้น และในที่ชุมนุมนี้เองที่เจ้าพระยากลาโหมได้ประกาศเจตจำนงในอันที่จะยึดอำนาจ จากกษัตริย์ ต่อมาเมื่อได้ขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์องค์ที่ 25 เป็นต้นราชวงศ์ของราชวงศ์ปราสาททองแล้ว พระองค์จึงได้สร้างวัดไชยวัฒนารามขึ้นเพื่ออุทิศผลบุญนี้ให้กับพระราชมารดา ของพระองค์ อนึ่ง วัดนี้อาจจะถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งชัยชนะเหนือเขมรด้วย ฉะนั้นรูปแบบในทางสถาปัตยกรรมจึงเหมือนหนึ่งจำลองมาจากนครวัด อย่างเดียวกับที่พระองค์ได้ทรงสร้างปราสาทวัดพระนครหลวง ริมแม่น้ำป่าสัก บนเส้นทางจากอยุธยาไปพระพุทธบาท สระบุรี จากคุณ : scuba734 - [ 4 มี.ค. 52 22:04:10 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ไปทริปนี้ ดูจะไม่ได้เรื่องเลยจนอย่างเดียว ไม่ได้ฟังไกด์กิติมศักดิ์อธิบาย เพราะห่วงถ่ายรูป แต่ถ่ายรูปก็ไม่ได้อย่างใจ เพราะเวลาน้อยมาก ๆ ถึงมากที่สุด ไม่ต้องคิดว่าจะเอามุมไหน  เพราะแค่ยกกล้องถ่ายรูป ก็ยังไม่ค่อยจะทัน จากคุณ : scuba734 - [ 4 มี.ค. 52 22:04:50 ]

ความคิดเห็นที่ 23 รีบร้อนมากเลย (สำหรับคนถ่ายรูป) แต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้ไปไหนเลย จากคุณ : scuba734 - [ 4 มี.ค. 52 22:05:16 ]

ความคิดเห็นที่ 24 สุดท้ายแล้วค่ะ กลับถึงบ้านสลบไปเลย เพราะร้อนมาก ๆ  แถมยังต้องวิ่งขึ้นรถ เพราะกลุ่มนี้ ไม่มีคำว่าตรงเวลาค่ะ มีแต่คำว่าก่อนเวลา ขอบคุณทุกคนที่แวะมาทักทายและแวะมาดูค่ะ จากคุณ : scuba734 - [ 4 มี.ค. 52 22:06:15 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ข้อมูลเพียบเลย อ่านสนุก แถมยังได้ดูรูปประกอบสวย ๆ ด้วย ขอบคุณนะคะ จากคุณ : Picike - [ 4 มี.ค. 52 22:06:59 ]

ความคิดเห็นที่ 26 เด๋วฉินจะช่วยให้พี่ตุ้มสบายใจเองค่ะ เพราะกลางเดือนฉินจะไปเที่ยวทะเล แล้วจะเอาน้ำทะเลเค็ม ๆ มาฝากนะคะ จากคุณ : ฉินเมิ่งเหยา - [ 4 มี.ค. 52 22:09:25 ]

ความคิดเห็นที่ 27 โอ้โห พี่ตุ้ม ข้อมูลเนื้อแน่น หนาปึ้ก ยังกะกระเบื้องโอฬารเลยค่ะ (โฆษณาแฝง ) จากคุณ : cultureclub - [ 4 มี.ค. 52 22:47:32 ]

ความคิดเห็นที่ 28 .. ตามพี่ตุ้ม ไปไหว้พระ .. เสียดายภาพที่ผมไปไหว้พระ 9 วัด โดนไวรัสรับประทาน  ภาพหายหมดเลย  ไม่งั้นจะขอแจมในกระทู้พี่ตุ้มบ้าง ปล. พี่ตุ้มอย่าลืมเจอกันวันเสาร์นี้ Mini Meeting ที่ร้านโอยั๊วะน่ะครับ . จากคุณ : แมงเม่าติดลมบน - [ 4 มี.ค. 52 23:28:21 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ไม่ค่อยได้เที่ยวแบบนี้ ต้องลองบ้างแล้วล่ะ จากคุณ : Samurai1979 - [ 5 มี.ค. 52 03:25:21 ]

ความคิดเห็นที่ 30 คุณ  Picike คะ เป็น fan club กระทู้นำเที่ยวของคุณค่ะ ส่ง link ไปให้ลูกสาวดูด้วย เค้าอยู่แถวนั้น คุณ ฉินเมิ่งเหยา อิจฉา อยากไปทะเลมากมายเลย อยากไปเกาะล้าน อยากไปหลีเป๊ะ กิเลสหนาจริง ๆ คุณนา ขอเป็นกระเบื้องตราช้างแทนได้เปล่าคะ  (โฆษณาแอบแฝงมั่ง) คุณแมง  ไม่ลืมค่ะ แล้วเวลาไปทะเล ชวนกันมั่งน้า คุณ Samurai1979 ไปเลยค่ะ แต่น้อย ๆ แห่งกว่านี้จะดีกว่า ทริปนี้มากเกินเหตุ จากคุณ : scuba734 - [ 5 มี.ค. 52 05:54:40 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ขอบคุณค่ะ ชำรุดไปเยอะ หวังว่าปีนี้น้ำจะไม่ท่วมอยุธยา ^^ จากคุณ : กาลครั้งหนึ่งความรัก - [ 5 มี.ค. 52 06:40:34 ]

ความคิดเห็นที่ 32 รีวิวแบบนี้  แบบมีสาระ  ข้อมูลแน่นยิ่งกว่ากระเบื้อง 2 ยี่ห้อรวมกัน  อยากทำเป็นมั่ง  แต่ก็ทั้งขี้เกียจจำ  ขี้เกียจหาข้อมูล   ...  ป้าเกษก็เลยได้แค่คิด    แค่อยาก  ... รูปสวยมากเลยค่ะ  เสียดายฝืมือถ่ายรูปคุณตุ้ม  น่าจะโพสรูปใหญ่กว่านี้   .... จากคุณ : ป้าเกษ (inhouse) - [ 5 มี.ค. 52 09:49:55 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ขอบคุณมากครับ แวะเข้ามาชมวัด ได้บุญไปเต็มๆเลย ^^ จากคุณ : Coffee Blended - [ 5 มี.ค. 52 10:02:59 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ห่มสไบ เดินตามพี่ตุ้มครับ ได้ความรู้เยอะดี จากคุณ : ทนายอ้วน - [ 5 มี.ค. 52 12:40:14 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ตามป้าตุ้มย่ำกรุงเก่าด้วยค่ะ จากคุณ : Draught Beer - [ 5 มี.ค. 52 13:19:09 ]

ความคิดเห็นที่ 36 มาเที่ยวอโยธยาด้วยครับ จากคุณ : Red Fox - [ 5 มี.ค. 52 15:36:59 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ตามมาไหว้พระทำบุญด้วยอีกคนครับบบบบ จากคุณ : ikhong - [ 5 มี.ค. 52 20:00:59 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ขอบคุณมากนะครับ ได้ความรู้มากๆเลย ข้อมูลแน่นดีครับ  รูปสวยด้วย ชอบมากๆเลย เชื้อสายคนกรุงเก่าอย่างผมยังเที่ยวไม่ทั่วเกาะเมืองเลย กระตุ้นต่อมเที่ยวผมอีกแล้ว ไปวันนี้เลยดีกว่า วันหยุดพอดี อ้างไปถึง คห. 20 ที่คุณ scuba734 บอกว่าไม่มีรูปของเจดีย์ภูเขาทอง  ผมว่ารูปของภูเขาทองไปอยู่ใน คห. 18 เรียบร้อยแล้วครับ ขอบคุณอีกครั้งสำหรับแหล่งข้อมูลครับ ผมสามารถอ่านเพิ่มเติมได้อีกหลายๆสถานที่ จากคุณ : หินสอ - [ 6 มี.ค. 52 00:49:22 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ก่อนทักทาย จะบอกว่าดีใจจังเลย ได้ไปทะเลแล้ว ตัดสินใจปุ๊บปับ ไประยองเย็นนี้ เย้ :-)ีใจจังเลย อย่างอนเลยนะ นะ คุณแมงเม่า ------------------------------------------------------------------- คุณ กาลครั้งหนึ่งความรัก หินปูนยังพังสลายตามกาลเวลา แล้วพวกเราจะเหลืออะไร คุณ ป้าเกษ คะ ขอบคุณค่ะ รูปดูดีเพราะอุปกรณ์นะค่ะ คุณ Coffee Blended สารภาพว่าอ่านกระทู้คุณทีไร หิวกาแฟทุกที หยุดมา 14 เดือนแล้วค่ะ คุณ ทนายอ้วน ดีใจที่เจอในพันทิปบ่อยขึ้น สุขภาพเป็นปกติเร็ว ๆ นะคะ สักวันเราไปเที่ยวเมลเบอร์นด้วยกันดีกว่า คุณ Draught Beer หลานแพรวาโตขึ้นมากเบย จากที่เจอกันครังก่อน ฝากหอมแก้ม 2 ทีด้วยค่ะ คุณ Red Fox ชอบคำนี้มากเลบ อโยธยา คุณไกด์กิติมศักดิ์ก็ใช้คำโบราณ พระนเรศวรเป็นเจ้า ฟังดูยิ่งใหญ่มากเลยค่ะ คุณ ikhong เป็นแฟนรูปสวยๆ ของคุณค่ะ คุณ หินสอ ขอบคุณอย่างแรงสำหรับข้อมูลค่ะ หน้าแตกเลย แต่ดี ดีค่ะ ไปแก้แล้วนะคะ จากคุณ : scuba734 - [ 6 มี.ค. 52 04:13:58 ]

ความคิดเห็นที่ 40 รูปเจดีย์ภูเขาทอง         เจดีย์ภูเขาทอง เป็นมหาเจดีย์สำคัญ ตั้งอยู่นอกเกาะกรุงศรีอยุธยา ด้านตะวันตกเฉียงเหนือไปประมาณ 2 กิโลเมตร มีความสูงถึง 90 เมตร ส่วนเจดีย์วัดใหญ่ชัยมงคลเป็นมหาเจดีย์สำคัญที่อยู่นอกเกาะด้านตะวันออก เฉียงใต้ที่สูงกว่าเจดีย์ภูเขาทองเพียง 2 เมตร        พระราชพงศาวดารอยุธยากล่าวว่า วัดภูเขาทอง นั้น สถาปนาในรัชสมัยพระราเมศวร หรือสมัยต้นอยุธยา แต่ไม่มีรายละเอียดถึงสิ่งก่อสร้างสมัยนั้น ขณะเดียวกันก็ยังได้ระบุไว้ด้วยว่า ในคราวสงครามที่พระเจ้าบุเรงนองแห่งพม่ามีชัยเหนืออยุธยาในคราวเสียกรุง ครั้งที่ 1 พ.ศ.2112 นั้น พระเจ้าบุเรงนองทรงให้สร้างเจดีย์ก่อทับองค์เจดีย์เดิมของวัดแห่งนี้ แต่ก็ไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับรูปแบบของเจดีย์เช่นกัน         หลังการเสียกรุงศรีอยุธยา ครั้งที่ 2 วัดนี้เป็นวัดร้างเรื่อยมา แต่พระมหาเจดีย์ก็ยังเป็นสถานที่สำคัญทางพุทธศาสนาที่มีคนเดินทางมากราบไหว้ ดังเช่นที่ปรากฏเป็น นิราศภูเขาทอง ของ สุนทรภู่ ที่เดินทางมานมัสการในรัชสมัยรัชกาลที่ 3 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ วัดนี้มีพระมาจำพรรษาอีกครั้งนับแต่ปี พ.ศ.2500 และในปัจจุบัน บนกลางถนนของทางเข้ายังวัดแห่งนี้ ได้สร้างอนุสาวรีย์พระนเรศวรทรงม้าศึกไว้ด้วย ที่มา  http://ayutthayastudies.aru.ac.th/content/view/211/56/ จากคุณ : scuba734 - [ 6 มี.ค. 52 04:18:45 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ตกทัวร์เพราะไปนอนป่วยอยู่โรงบาลซะ 5 วัน ...  เพิ่งออกมาค่ะ  เราชอบรีวิวเมืองเก่าๆแบบนี้มาก   ไปเที่ยวทีไรหลงอยู่ในวังวนทุกที  มีรีวิวอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยจะมาอวดเหมือนกัน  แต่ต้อง   รอให้รีวิวทริปยุโรปจบก่อน รูปสวยและประวัติความเป็นมาละเอียดมาก  เป็นรีวิวที่ให้ความรู้ดีจริงๆค่ะ จากคุณ : แอมเบอร์ - [ 7 มี.ค. 52 21:34:12 ]