ความคิดเห็นที่ 1 มาสนับสนุนครับ ข้อ1ครับ จากคุณ : kamala744 - [ 11 มี.ค. 52 23:23:17 ]

ความคิดเห็นที่ 2 สุวรรณภูมิ เตรียมขยายไว้อยู่แล้วครับ ส่วนสองสนามบิน ค่าใช้จ่ายค่าสร้างไม่ได้แพงมากหรอกครับ หากเทียบกับค่าดูแลรักษา และค่าดำเนินงาน จากคุณ : KhunGong - [ 11 มี.ค. 52 23:27:10 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ผมว่า Airport Link เป็นความคิดที่ดีครับ ทั้งผู้คนในเส้นทางได้ประโยชน์ไปด้วย แล้วก็ประเทศใหญ่ๆที่เจริญแล้วก็มีมากกว่าสองสนามบินทั้งนั้น การตัดตอนแบบนี้น่าจะช่วยให้ธุรกิจการบินและการท่องเที่ยวไปได้ดีขึ้น เช่น LowCost อาจจะย้ายกลับมา หรือในประเทศอาจจะต้องย้ายมาหมด ประมาณนั้นครับ จากคุณ : Though - [ 11 มี.ค. 52 23:27:16 ]

ความคิดเห็นที่ 4 phase 2 ของสุวรรณภูมิคือ runway ที่ 3 และ terminal ที่ 2 หากจะลงทุนสร้าง airport link ระหว่าง 2 สนามบิน ผมว่าอาจจะแพงกว่า (ตีคร่าวๆ กิโลเมตรละ 1800-2000 ล้าน นับจากมักกะสันไปดอนเมืองอาจจะประมาณเกือบ 30 กิโล ก็ร่วมๆหกหมื่นล้านละ นี่แบบไม่มีค่าเวนคืนที่ดิน หากจะคิดตัดเส้นทางใหม่ เจอค่าเวนคืนที่ดินเข้าไปอีกเด้ง เจ๊งไม่จอด) และที่สำคัญ ไม่ได้ทำให้สะดวกกว่าการใช้สนามบินเดียว หากจะมองว่าประชาชนตามเส้นทาง Airport Link ก็ได้ใช้ด้วย ก็อย่าลืมว่าเรามีโครงการขนส่งมวลชนระบบรางทั้ง รฟม. ใน phase ต่อไป และยังมีส่วนต่อขยายของ BTS ในความรับผิดชอบของ กทม อีกด้วย รวมๆแล้วก็จะมีอีกหลายเส้นทางซึ่งครอบคลุมการให้บริการพื้นที่แถบตอนเหนือของกรุงเทพเยอะเหมือนกัน airport link ในแง่นี้ก็เท่ากับว่าซ้ำซ้อนละ จากคุณ : ก็แล้วแต่จะคิด - [ 11 มี.ค. 52 23:29:06 A:58.8.171.185 X: TicketID:106200 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เชื่อม "ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ" สนข.ระบุงบฯลงทุน1.5หมื่นล. มติชนรายวัน ปีที่ 32 ฉบับที่ 11269 วันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2552 นายประณต สุริยะ รองผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานประชุมการมีส่วนร่วมของประชาชน ครั้งที่ 1 งานออกแบบรายละเอียดโครงการระบบขนส่งทางรถไฟเชื่อมท่าอากาศยานดอนเมือง-ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ว่า โครงการนี้จะเชื่อมต่อจากโครงการระบบขนส่งทางรถไฟเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (แอร์พอร์ต เรลลิงก์) และสถานีรับส่งผู้โดยสารอากาศยานดอนเมือง เพื่อให้การเดินทางระหว่างท่าอากาศยานทั้ง 2 แห่ง มีความสะดวกรวดเร็ว โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที ผลการศึกษาเบื้องต้นพบว่า โครงการดังกล่าวจะมีระยะทาง 21 กิโลเมตร โดยเริ่มจากพญาไทเลียบไปกับรถไฟสายสีแดง ผ่านสถานีรถไฟจิตรดา สถานีบางซื่อ บางเขน หลักสี่ และท่าอากาศยานดอนเมือง คาดว่าจะใช้เงินก่อสร้างเฉพาะงานโยธา 1.5 หมื่นล้านบาท ใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 4 ปี นายประณตกล่าวว่า การดำเนินโครงการจะมีการเวนคืนที่ดินบริเวณแนวเส้นทางบางส่วน โดยบริเวณที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดมี 2 ช่วง คือ 1.บริเวณยมราช ด้านหลังกรมทางหลวง และ 2.บริเวณราชวิถี-สามเสน ซึ่งจะพยายามใช้พื้นที่ให้น้อยที่สุด เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบกับประชาชน //---------------------------------------------------------------------------- สนข.ยันต้องทำรถไฟฟ้าเชื่อม 2 สนามบิน Dailynews 16/01/2009 เมื่อวันที่ 15 ม.ค. ที่โรงแรมเซ็นจูรี่ ปาร์ค ถนนราชปรารภ สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) จัดสัมมนารับฟังความเห็นการมีส่วนร่วมของประชาชน ครั้งที่ 1 งานออกแบบรายละเอียดโครงการระบบขนส่งทางรถไฟ เชื่อมท่าอากาศยานกรุงเทพ-ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เริ่มต้นโครงการที่สถานีพญาไท ก่อสร้างเป็นทางยกระดับไปตามแนวเขตทางรถไฟ ไปลงต่ำกว่าระดับดินตั้งแต่ถนนพระราม 6 ผ่านสถานีจิตรลดา คลองสามเสน แล้วยกระดับผ่านสถานีบางซื่อไปดอนเมือง ระยะทาง 21 กม. มี 5 สถานี ได้แก่ สถานีจิตรลดา สถานีกลางบางซื่อ สถานีบางเขน สถานีหลักสี่ และสถานีดอนเมือง มีการเดินรถ 2 รูปแบบ คือ 1.รถไฟด่วนเชื่อมท่าอากาศยาน (Airport Express) จอด 4 สถานี ได้แก่ สุวรรณภูมิ มักกะสัน บางซื่อ ดอนเมือง ใช้เวลาเดินทางตลอดเส้นทางเพียง 30 นาที 2.รถไฟเชื่อมท่าอากาศยาน (Airport City Line) จอดทุกสถานีใช้เวลาเดินทางตลอดเส้นทาง 50 นาที ทั้งนี้มีผู้เข้าร่วมประชุมกว่า 200 คน ส่วนใหญ่กังวลในเรื่องการรื้อย้ายที่อยู่ ไม่สามารถประกอบได้เหมือนเดิม ส่วนการเวนคืนจะโดนบริเวณโค้งทางรถไฟยมราชที่เป็นชุมชน จุดตัดแถวถนนราชวิถีและถนนสามเสน งบโครงการนี้ 15,000 ล้านบาท คาดว่าอีก 4 ปี จะเปิดให้บริการได้ และยืนยันว่าโครงการนี้ยังมีความสำคัญที่ต้องก่อสร้าง เพราะช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทางระหว่างสนามบิน ถึงแม้ว่ารัฐบาลจะมีโครงการใช้สนามบินสุวรรณภูมิเป็นสนามบินหลัก. ร.ฟ.ท.รอความชัดเจนรัฐบาล เปิดใช้สนามบินเดียว-2สนามบิน โดย ผู้จัดการ 360 องศา รายสัปดาห์ 23 มกราคม 2552 20:40 น. ร.ฟ.ท.ขานรับนโยบายรัฐบาล พร้อมเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสนามบินดอนเมือง-สุวรรณภูมิ หากมีความชัดเจนในการเปิดใช้สนามบิน ส่วนแผนขยายสนามบินสุวรรรณภูมิ เฟส 2 ด้วยงบกว่าแสนล้านบาทไม่คุ้มค่า แถมยังต้องเวนคืนที่ดินสร้างความเดือดร้อนประชาชนทั่วหน้า ชี้ผันเงินลงทุนส่วนต่อขยายแอร์พอร์ต ลิ้งค์ดีกว่า ใช้เงินแค่ 30,000 ล้านบาท แผนเร่งก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าถือเป็นนิมิตรหมายที่ดี เพราะจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรวมอย่างแท้จริง เกิดการหมุนเวียนของเม็ดเงิน โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา กรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ประกาศชัดเจนว่า รัฐบาลพร้อมเดินหน้าก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้า เพราะเป็นสิ่งสำคัญและเป็นเรื่องเร่งด่วนในแก้ปัญหาจราจร โดยเฉพาะโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวและและการก่อสร้างรถไฟฟ้าเชื่อมต่อระหว่าง 2 สนามบิน ทั้งดอนเมืองและสุวรรณภูมิ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสาร แต่อย่างไรก็ตามรัฐบาลก็ต้องคำนึงถึงความจำเป็นและจุดคุ้มทุนด้วย เพราะที่ผ่านมามีกระแสข่าวออกมาว่าจะมีการปิดสนามบินดอนเมือง เพื่อใช้สนามบินเดียว รวมถึง เส้นทางวิ่งอาจไปทับซ้อนกับเส้นทางอื่นหรือไม่ อารักษ์ ราษฎร์บริหาร หัวหน้าผู้บริหารด้านการเงินการรถไฟแห่งประเทศไทย( ร.ฟ.ท.) กล่าวกรณีที่รัฐบาลพร้อมจะเดินหน้าก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้า โดยเฉพาะแผนการก่อสร้างรถไฟฟ้าเชื่อมระหว่างดอนเมืองและสุวรรณภูมิ มูลค่า 15,000 ล้านบาทว่า เรื่องดังกล่าวรัฐบาลต้องมีความชัดเจนว่าจะเปิดใช้สนามบิน 2 แห่ง หรือสนามบินเดียว(ซิงเกิล แอร์พอร์ต) เพื่อนำวิเคราะห์ว่ามีความจำเป็นแค่ไหนในการลงทุนรถไฟฟ้าเชื่อมต่อระหว่างดอนเมืองและสุวรรณภูมิ “ การปิดสนามดอนเมือง เพื่อก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิเฟส 2 สำหรับรองรับผู้โดยสารที่จะเพิ่มขึ้นอีก 35 ล้านคนนั้นไม่มีประโยชน์ เพราะต้องใช้เงินลงทุนมากถึงแสนล้านบาท แต่หากรัฐบาลใช้สนามบินดอนเมืองด้วยน่าจะมีประโยชน์กว่า เพราะจะช่วยรัฐประหยัดเงินได้มาก รวมถึงไม่ต้องเวนคืนที่ดินของประชาชน แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นลงทุนก่อสร้างส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์ มูลค่า 30,000 ล้านบาท จะเกิดประโยชน์มากกว่า” อารักษ์กล่าว ส่วนข้อกังวลว่าเส้นทางจะไปวิ่งทับซ้อนกับสายสีแดงช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชันและบางซื่อ-รังสิตนั้นไม่มีปัญหา เพราะ โครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง มีวัตถุประสงค์ในการขนส่งคนจากชานเมืองเข้ามาในเมืองเพื่อที่จะให้รถไฟฟ้าเส้นทางต่างๆ เช่น สายสีม่วง (บางใหญ่-บางซื่อ) สายสีเขียว (หมอชิต-สะพานใหม่) เป็นตัวกระจายผู้โดยสารไปตามจุดต่างๆในเมือง ดังนั้น การก่อสร้างรถไฟเชื่อมดอนเมือง-สุวรรณภูมิจะไม่ไปวิ่งทับซ้อนกับสายสีแดง เพราะมีการออกแบบสถานีไม่ให้ไปซ้อนกัน นอกจากนี้ สายสีแดงไม่ใช้ระบบรถไฟฟ้าแบบขนส่งมวลชนแต่จะเป็นรถไฟแบบชานเมืองมากกว่า คือจะมีสถานีที่อยู่ในเมืองน้อยกว่าชานเมือง ขณะที่สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ โฆษก บอร์ดร.ฟ.ท. กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวทางรัฐบาลยังไม่มีการหารือกับร.ฟ.ท.อย่างเป็นทางการ แต่ร.ฟ.ท.เองก็ได้เตรียมความพร้อมของรายละเอียดโครงการไว้หมดแล้ว และทางสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ก็รับนโยบายมาตั้งแต่แรกในการว่าแผนรายละเอียดโครงการ ซึ่งโครงการดังกล่าวเป็นนโยบายตั้งแต่รัฐบาลขิงแก่ที่ต้องการให้เชื่อมต่อกับ 2 สนามบินคือ สนามบินดอนเมืองกับสนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิของสนามบินในการเป็นหนึ่งในภูมภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่ทั้งนี้คงต้องรอให้รัฐบาลมีความชัดเจนในเรื่องการใช้สนามบินดอนเมืองก่อนว่าจะปิดหรือยังเปิดให้บริการ แต่อย่างไรก็ตาม ร.ฟ.ท.ต้องดำเนินการก่อสร้างเส้นทางดังกล่าว เพราะจะต้องไปเชื่อมกับสถานีบางซื่อที่จะเป็นศูนย์กลางในการขนส่ง เครดิต : http://portal.rotfaithai.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=42&postdays=0&postorder=asc&start=290 ถ้าเป็นได้ ก็คงดี เนอะ ^^ จากคุณ : ben_benz - [ 11 มี.ค. 52 23:35:36 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ดอนเมือง จะทำเป็น ศูนย์ ซ่อมอากาศยาน ที่รับเครื่อง จากทั่วเอเซีย ทุกวันนี้เครื่องลูกค้าอย่างญี่ปุ่นก็จองคิวมาตลอด เพราะ การ ลด แลก แจกแถม ไม่ต้องเอาเครื่องไปถึง พระยาเลบาร์ ที่สิงโปค์โตก จากคุณ : ขวัญใจสิบล้อ - [ 11 มี.ค. 52 23:46:08 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ควรขยายสุวรรณภูมิให้ครบสามเฟสก่อนครับ ถ้าจำนวนผู้โดยสารยังเพิ่มขึ้นอีกค่อยมาปรับปรุงดอนเมืองเพื่อเปิดใช้งานใหม่ก็ได้ เฟสสองของสุวรรณภูมิมีรันเวย์ที่3กับ satellite terminal ครับ เฟสสามจะมีรันย์ที่ 4 แล้วก็ termilnal 2  ฝั่งด้านถนนบางนาตราด จากคุณ : ลาบราดอร์สีดำ - [ 11 มี.ค. 52 23:50:39 ]

ความคิดเห็นที่ 8 คห. 4 ครับ ถูกต้องครับ เส้นทางเดินรถทับซ้อนกัน แต่สถานีต่างกันครับ ARL นั้นมีแค่ 5 สถานี คือ สถานีจิตรลดา สถานีกลางบางซื่อ สถานีบางเขน สถานีหลักสี่ และสถานีดอนเมือง แต่เส้นทางชานเมืองนั้นจะมีสถานีที่ถี่กว่าน่ะครับ และเดินรถด้วยความเร็วที่ช้ากว่า จึงเป็นคนละจุดประสงค์น่ะครับ และในอนาคต บางซื่อ จะเป็นศูนย์กลางของการขนส่งระบบรางครับ ลงทุนครั้งเดียว อาจจะหลายตังค์ แต่มันอยู่ไปอีกหลายรุ่นนะครับ ส่วน คห.7 คุณลาบราดอร์สีดำ ครับ ดอนเมืองตอนนี้ใช้ได้เลย แล้วจะรออีก 10-20ปี ค่อยมาเสียตังค์ปรับปรุงทำไมล่ะครับ เงินสร้าง ARL ทั้งระบบไม่น่าเกิน 5 หมื่นล้าน (งานโยธา+งานอาณัติสัญญาณ) คนที่ได้ใช้ ARL คือ คนใช้เพื่อเดินทางเชื่อม 2 สนามบิน ไม่ว่าจะผู้โดยสาร พนักงานที่ทำงานสุวรรณภูมิ (ทุกวันนี้การบินไทยต้องมีรถรับส่งพนักงานที่สุวรรณภูมิกลับมาส่งที่ดอนเมืองนะครับ) และที่สำคัญ คือ ประชาชนรอบเส้นทาง ได้ใช้น่ะสิครับ แต่การลงทุนในเฟส 2 เฟส 3 ต้องใช้เงินเท่าไหร่ครับ และใครได้ใช้มั้งหรอครับ ? เงินเท่ากัน แต่ผลลัพธ์ต่างกันเยอะเหมือนกันนะครับ และอีกอย่างคือ เฟส 2 หรือจะลองรับได้เท่ากับดอนเมือง จากคุณ : ben_benz - [ 12 มี.ค. 52 00:28:37 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เพื่อความสะดวกของผู้โดยสารไงครับ อยู่ที่สุวรรณภูมิที่เดียวก็แค่เดินจากฝั่ง inter ไป domestic กระเป็าถ้าเป็นสายการบินเดียวกันหรือกลุ่มเดียวกันก็เช็คทรูมาจากต้นทางได้เลย หรือต้องเช็คอินใหม่ก็แค่เดินจากชั้นขาเข้าขึ้นไปชั้นขาออก แต่ถ้าต้องไปต่อเครื่องที่ดอนเมืองก็ต้องลากระเป๋าลงไปขึ้นรถไฟ ไปถึงดอนเมืองก็ต้องลากกระเป๋าจากสถานีรถไฟข้ามไปเข้าเทอร์มินอลอีก จะเช็คอินใหม่ก็ต้องมาให้ถึงก่อนเวลาเครื่องออกอย่างน้อยชั่วโมงนึง จากคุณ : ลาบราดอร์สีดำ - [ 12 มี.ค. 52 00:50:57 ]

ความคิดเห็นที่ 10 สำหรับผมผมว่าคนส่วนใหญ่ที่บินในประเทศก็อยากไปใช้ดอนเมืองครับ ผมก็คนหนึ่งล่ะ ค่ารถTAXIไปสุวรรณภูมิแพงมาก ไม่ใช่ถูกๆ เสียเวลาก็เยอะ ถ้าจะบอกว่าใช้สนามบินเดียวสะดวกกว่า ผมว่าถ้า ARL ใช้เวลาแค่ 30นาที นั่นก็คงจะไม่ใช่ปัญหาครับ และที่สำคัญคือ รายได้จาก ARL ที่นักท่องเที่ยว(ต้อง)มาใช้บริการ การจ้างงาน ฯลฯ สรุปแล้วผมว่าควรทำทั้งสองอย่าง เพราะ สุวรรณภูมิจะหยุดนิ่งอยู่กับที่ก็ไม่ถูก ดอนเมืองก็ยังใช้ได้ดี ก็สุดแล้วแต่คนจะคิดครับ จากคุณ : จักรยานกับสายลม - [ 12 มี.ค. 52 01:09:57 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ขอบคุณ คุณลาบราดอร์สีดำ ที่ช่วยขยายความ เรื่องความสะดวกสบาย ต้องยอมรับครับว่า สนามบินเดียวสะดวกสบายกว่า แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น มันขึ้นอยู่กับการบริหาร ถ้าสุวรรณภูมิในอนาคตเดินตามรอยทุกวันนี้ มีแต่จะเจริญลงครับ ไม่เชื่อลองดูการแก้ไขปัญหาบริเวณชั้น 2 สนามบินสุวรรณภูมิดูครับ เยี่ยมจริงๆ ขอบคุณ คุณจักรยานกับสายลม ต้องขอโทษด้วยครับ ที่ทำตัวเลือกไม่ครอบคลุม จากคุณ : ben_benz - [ 12 มี.ค. 52 01:27:38 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ปัญหาที่แท้จริงคือ บินมาจากต่างประเทศ ลงสุวรรณภูมิ แล้วทำใมต้องเสียเวลาอีกมากมายเพื่อไปต่อเครื่อง บินภายในที่ดอนเมือง ต้องเสียค่าเดินทางเพิ่มเข้ามาอีก เสียเวลาต่อเที่ยวบินอีก คือมันไม่สะดวกในการต่อเครื่องเอาซะเลย เพื่อนผมฝรั่งหลายคนบ่นเรื่องนี้ให้ฟังตลอด พวกเขาบอกสนามบินไหนก็ได้ แต่ขอมีเพียงสนามบินเดียวได้มั้ย... จากคุณ : closefriend - [ 12 มี.ค. 52 02:00:42 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ผม สงสัยอย่างนึง ว่าสร้างสุวรรณภูมิมาแล้ว ทำไม ไม่สร้างต่อให้ครบตามที่วางแผนไว้ แล้วมายึกยัก จะกลับไปดอนเมือง หรือ จะสร้างต่อ มันก็แค่ เรื่องการเมือง ไม่ใช่ อุปสงค์ อุปทานที่แท้จริง ผมว่า จะอยู่ดอนเมือง หรือไม่  ก็ไม่เกี่ยวกันกับ สร้างสุวรรณภูมิต่อให้จบ หากว่าตอนนี้ สุวรรณภูมิรองรับไม่พอ ก็ใช้สองสนามบินตามที่หลายคนเห็นว่าดี ก็ยังได้ แต่สุวรรณภูมิก็ต้องสร้างต่อไปให้จบ ให้มีครบทุกอย่างตามที่วางแผนไว้ มีสี่รันเวย์ มีสองอาคาร หากต้องมีสองสนามบิน แล้วต้องมี แอร์พอร์ทลิงค์ ก็ถือเป็นของแถม ประชาชนได้ประโยชน์ แต่สุวรรณภูมิก็ต้องสร้างควบคู่ไปด้วย ไม่ใช่ว่า ถ้ามีแอร์พอร์ทลิงค์แล้ว ก็ไม่ต้องสร้างสุึวรรณภูมิเฟสสอง เฟสสาม  ดองเค็ม หรือยกเลิกไปเลย    อันนี้ไม่เห็นด้วย แต่หาก มีสองสนามบิน แล้วมีแอร์พอร์ทลิงค์  แล้วสร้างสุวรรณภูมิเฟสสอง เฟสสามไปด้วย อันนี้ เห็นด้วยที่สุด  เพราะคนที่ได้ประโยชน์ คือประชาชน แต่จะทำได้ไหม มีเงินไหม ยาวนานแค่ไหน หรือ จะเป็นตำนาน 40 ปี อีก เมื่อสร้างสุวรรณิภูมิ จนครบสมบูรณ์ทุกเฟสตามที่วางแผนไว้แล้ว  แล้วจะปิดหรือจะเปิดดอนเมือง ค่อยมาว่ากัน ดีไหม จากคุณ : นายบราวน์ - [ 12 มี.ค. 52 03:22:20 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เชียร์ Airport Link ครับ เพราะคนทั่วๆ ไปได้ใช้ด้วย ส่วนเรื่องที่บอกว่าซ้ำซ้อนกับ BTS นั้นมันไม่ซ้ำหรอกครับ เพราะมันห่างกันตั้ง 2 กม. ถึงมันจะวิ่งขนานกัน อย่าลืมว่าของแบบนี้มันอยู่ไปตลอดกาลครับ เพราะฉะนั้น เส้นทางรถไฟ ยิ่งสร้างได้เยอะเท่าไหร่ยิ่งดีครับ พอมีระบบคมนาคมที่สะดวกแล้ว ผู้โดยสารก็ต้องวางแผนเอาเองครับ ว่าจะเดินทางยังไงให้ทัน ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้ Low Cost ทั้งหมดมาอยู่ดอนเมืองครับ แยกตลาดกันไปเลย สิ้นเรื่อง จากคุณ : mie-mien - [ 12 มี.ค. 52 03:37:39 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ยังไม่ได้อ่านความเห็นข้างบน ... แต่ผมหนับหนุน ใช้ 2 สนามบิน จริง ๆ อยากพัฒนาอู่ตะเภาให้ได้มาตรฐานอีกที่ แล้วทำรถไฟเชื่อม 3 สนามบินเลย แล้วให้แข่งบริหารแข่งกันไปเลย ... รัฐก็เอาค่าสัมปทาน ให้เอกชนประมูลบริหาร ใครจะเจ๊งก็เป็นเรื่องเอกชน ทั้งการบินไทย ทั้งการท่า ก็เป็นเอกชนไปแล้ว ปัญหาเยอะนะ ขายหุ้นให้หมดแล้วเอาเงินมาตั้งรัฐวิสาหกิจใหม่แข่งกันเลยดีกว่า ย้ายไปใช้สุวรรณภูมิแห่งเดียว ถ้ามันมีปัญหาอีกละ มันเคยมีแล้ว ไม่ได้หมายความมันจะไม่มีอีก แต่ก็แค่ความเห็นคยธรรมดา คนหนึ่งครับ จากคุณ : domaman (domaman) - [ 12 มี.ค. 52 08:00:53 ]

ความคิดเห็นที่ 16 อู่ตะเภาผมเห็นข่าวเทศบาลเมืองพัทยากับทหารเรือจะร่วมมือกันสร้างอาคารที่พักผู้โดยสารใหม่นะครับ แล้วก็จะเปลี่ยนชื่อเรียกจากสนามบินอู่ตะเภาระยอง มาเป็นสนามบินอู่ตะเภาพัทยา ถ้าผมจำไม่ผิดนะ แก้ไขเมื่อ 12 มี.ค. 52 08:35:48 จากคุณ : อ้วนกลม อารมณ์ดี (ny_toto) - [ 12 มี.ค. 52 08:28:14 ]

ความคิดเห็นที่ 17 แล้วถ้าใช้ดอนเมืองเป็น International เเล้ว ใครจะจะอยู่ดอนเมือง ใครจะอยู่สุวรรณภูมิ? การบินไทยจะว่ายังไง? ผมว่าถ้าใช้สองสนามบินมันดีมีการเเข่งขันจริงรึเปล่า เพราะเจ้าของสนามบินมันก็เจ้าของเดียวกันคือ AOT ซึ่งการบริหารงานก็รู้ๆ กันอยู่ว่าห่วย ถ้า Air Asia ย้ายกลับมาดอนเมือง ผมว่าเดี๋ยวก็โดนอีเเจ่มออกมาถล่มอีก เดี๋ยวนี้ขี้ไม่ออก เยี่ยวไม่ออกก็ Air Asia การมีสองสนามบินเป็นเรื่องที่ดี ในหลายๆ ประเทศก็ทำกัน เเต่อย่าลืมว่าปัจจัยเเละปัญหามันไม่เหมือนกัน ในหลายๆ ประเทศที่มี 2-3 สนามบิน เพราะมันขยายไม่ออกเเล้ว มันไม่มีที่ไป ในประเทศที่ใช้หลายๆ สนามบินในเมืองเดียวกัน สายการบินก็จะให้บริการที่เบสเดียวเท่านั้น ยกตัวอย่าง ใน New York สนามบิน Newark ก็เป็นเบสของ Continental สายการบิน Continental ก็ไม่ได้ไปตั้งเบสในสนามบินรอบๆ New York อย่าง JFK หรือ LaGuardia ซึ่งต่างจากกรณีการบินไทยที่ดอนเมือง สนามบินเซปังที่ KL ทุกวันนี้ก็เป็น Single Airport ทั้งๆ ที่สนามบินซูบังเเทบจะอยู่กลางเมือง KL เลย ก็ไม่เห็นเค้าจะมีปัญหาอะไรกัน ระบบรถไฟฟ้าขนส่งไปสนามบินก็ดี เเถมยังเช็คอินได้จาก KL Sentral หรือหัวลำโพง KL ก็สะดสวกสบายดี ไม่เห็นต้องเปิดสองสนามบิน ทุกวันนี้ผมสนับสนุนให้ใช้ดอนเมืองบริการผู้โดยสารในประเทศต่อไป โดยให้สายการบินสมัครใจอยู่ให้บริการเเบบนี้ดีเเล้ว ไม่ใช่บีบบังคับให้การบินไทยมาดอนเมืองเเบบสมัยเผด็จการ คมช. ี้ผู้โดยสารจำนวนมากที่เดินทางภายในประเทศ ก็สะดวกสบายกับดอนเมือง เเต่ในขณะเดียวกันผู้โดยสารที่เดินทางมาจากต่างประเทศ ก็เดือดร้อนกับการต่อเครื่องบินระหว่างสองสนามบิน การบินไทยในฐานะสายการบินที่รับส่งผู้็้โดยสาร Transit มากมายควรจะให้บริการที่สุวรรณภูมิ ตราบใดที่การขนส่งระหว่างสองสนามบินยังไม่สะดวกเเบบนี้ ส่วนนกเเอร์ 12Go ก็ให้บริการผู้โดยสารภายในประเทศที่สะดวกใช้ดอนเมืองไป ถึงเเม้จะมีเที่ยวบินน้อย ่AOT ก็ควรหาทางบริหารจัดการดอนเมืองให้คุ้มค่าไปด้วย หลังจากการบินไทยย้ายกลับไป เที่ยวบินมันก็ลดลง AOT ควรจะย้ายการให้บริการผู้โดยสารขาออกที่ดอนเมือง มาที่ชั้นล่างชั้นเดียวกับขาเข้าดีมั้ย? เพราะบริเวณนั้นก็มีเค้าน์เตอร์เช็คอินเก่าของบางกอกเเอร์อยู่ น่าจะประหยัดไฟได้พอสมควร เเล้วใช้ Bus Gate 1-4 ตรงนั้นไปสำหรับ 12Go นกเเอร์ถ้าจะใช้งวงก็ให้ผู้โดบสารเดินขึ้นบันไดเลื่อนไปชั้นสองได้ (ผ่านตรงจุดชมวิว) สนามบินมีพื้นที่มากมาย โรงเรียนการบินก็ทำได้ ศูนย์ซ่อม พิพิธภัณฑ์ท่าอากาศยาน ฯลฯ เยอะเเยะ จากคุณ : MengFlowers - [ 12 มี.ค. 52 08:57:48 ]

ความคิดเห็นที่ 18 จริงๆจะเแปิดสองสนามบินก็ไม่เป็นไรครับ แตสายการบินหนึ่งๆ ควรจะ operate ที่สนามบินเดียวเพื่อความสะดวกของผู้โดยสารครับ จากคุณ : ลาบราดอร์สีดำ - [ 12 มี.ค. 52 09:07:36 ]

ความคิดเห็นที่ 19 คิดจะสร้าง Airport Link เพิ่ม แล้วขบวนรถ 9 ขบวนที่มีอยู่ในอู่ซ่อมตรงคอลงตันมันจะพอวิ่งหรอครับ นอกจากงานโยธา + Signaling แล้ว ยังต้องมีค่าขบวนรถเพิ่มอีกนะครับ จากคุณ : Can you MMS? - [ 12 มี.ค. 52 09:08:05 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ตอนนี้ที่มาเลเซีย แอร์เอเชียกำลังจะสร้างสนามบินส่วนตัวของแอร์เอเชีย ห่างจากสนามบินปัจจุบันไปประมาณหลายสิบกิโลเมตร ผมสงสัยอย่างหนึ่ง ในขณะที่สนามบินปัจจุบันของเขาพึ่งสร้างแค่เฟสเดียว และเขามีแผนรองรับหลายเฟสมาก แต่ทำไมแอร์เอเชียถึงต้องดิ้นรนไปสร้างสนามบินใหม่ อันนี้เป็นข้อมูลในการประกอบการพิจารณาครับ จากคุณ : newuno - [ 12 มี.ค. 52 09:44:41 ]

ความคิดเห็นที่ 21 คำถามเหมือนกับจะถามว่า ใช้ 2 สนามบินหรือ 1 สนามบินดี เลย ความของผมก็คือ ถ้าเปิด 2 สนามบิน สุวรรณภูมิก็ให้สายการบินใหญ่ๆ พวกที่มี Code Share หรือ Alliance ต่างๆมาลง เพื่อความสะดวก ส่วนดอนเมืองก็ให้พวก Low Cost Point-to-Point หรือ Reginal Airlines มาลงแทน จากคุณ : SLaYe|2 ArcA - [ 12 มี.ค. 52 09:56:58 ]

ความคิดเห็นที่ 22 เห็นด้วยกับ คคห. 17 ครับ การที่การบินไทยจะเปิดหรือปิดเบสที่ดอนเมือง มันเป็นการตัดสินใจเพื่อประโยชน์ของการบินไทยเอง มันเป็นคนละเรื่องกันกับนโยบายซิงเกิ้ลหรือ ดับเบิ้ลแอร์พอร์ทของรัฐบาล แต่ทำไมบางคนถึงพยายามเอามาโยงเป็นเรื่องเดียวกัน ไม่ว่าดอนเมืองจะเปิดอยู่หรือไม่ แต่การบินไทยก็ควรอยู่ที่สุวรรณภูมิที่เดียว   แล้วไม่ต้องไปขุดเอาอะไรไร้สาระมาอ้างเลยเช่น ถ้าการบินไทยไป กลัวแอร์เอเชียจะยึดดอนเมือง!!!   พูดอะไรสิ้นคิดเหมือนเด็กๆ ถ้าเค้าจะยึดเค้ายึดไปแล้ว ไม่มัวมากลัวการบินไทยหรอกครับ  ไม่ใช่คู่แข่งของเค้า จากคุณ : Ethanol - [ 12 มี.ค. 52 10:07:42 ]

ความคิดเห็นที่ 23 คห. ที่ 20 ที่มาเลเซีย แอร์ เอเชีย เขามีสนามบินของตัวเองมานานแล้ว ค้าบบบ ทุกไฟล์ของแอร์เอเชีย operate ที่นี่หมด จะบินมาจากไหน แลวจะต่อเครื่องไปใหน ถ้าใช้บริการแอร์เอเชีย ก็ต่อเครื่องจากที่นี่เลย ไม่ต้องเสียเวลาไปอีกสนามบินนึง ไม่เหมือนการบินไทย บินมาจากต่างประเทศลงสุวรรณภูมิ แต่พอจะต่อการบินไทยไปต่างจังหวัด ดันต้องหอบกระเป๋า หารถ เสียเวลา ไปต่อเครื่องที่ดอนเมือง อีก บางทีไฟล์เวลามันใกล้เคียงกัน ก็ไปไม่ทันเพราะเสียเวลากับการเดินทาง คือถึงมีหลายสนามบินแต่ 1 สายการบินควรต้อง operate ที่สนามบินเดียวเท่านั้น เพื่อความไม่สับสนและเสียเวลาในการต่อเครื่องของสายการบินนั้นๆ เหมือนกับที่แอร์เอเชีย operate ที่สุวรรณภูมิ อย่างเดียว ไม่ว่าจะบินภายในหรือต่างประเทศ จุดนี้ทำให้ได้ลูกค้าต่างประเทศเยอะ ที่จะต่อเครื่องไปเที่ยวไทยต่อ จากคุณ : closefriend - [ 12 มี.ค. 52 10:08:45 ]

ความคิดเห็นที่ 24 คห 23 สนามบินของแอร์เอเชีย ที่ว่า คือสนามบินอะไรครับ KLIA ?? จากคุณ : kraikl (kraikl) - [ 12 มี.ค. 52 10:16:26 ]

ความคิดเห็นที่ 25 คห 24 KLIA East @ Labu เงินลงทุนประมาณ 1,600 ล้าน RM ห่างจาก KLIA main terminal ประมาณ 8.6 km ยังมีทั้งเสียงสนับสนุนและต่อต้านค่ะ http://en.wikipedia.org/wiki/KLIA_East_@_Labu จากคุณ : winnie20f - [ 12 มี.ค. 52 10:27:38 ]

ความคิดเห็นที่ 26 กระทู้ดีมากครับ ทุกความคิดเห็นดีมากด้วย จากคุณ : สยามรามอรุณ (เด็กคน) - [ 12 มี.ค. 52 11:24:10 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ผมตอบได้แบบไม่ต้องคิดนานเลยว่า อยากให้สร้างสุวรรณภูมิเฟส2...ทันทีและด่วนที่สุด กว่าจะสร้างเสร็จก็ต้องใช้เวลา5ปีขึ้นอยู่แล้ว สร้างเสร็จปุ๊บพอดีๆกับความต้องการเลย แอร์พอร์ตลิงค์ขอแค่สุวรรณภูมิมาในเมืองก็พอ มี2สนามบินไม่สะดวกอย่างแรง จากคุณ : RoppongiHills - [ 12 มี.ค. 52 11:33:11 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ขอบคุณทุกความเห็นครับ แล้วต้องขอโทษด้วยที่ตั้งหัวข้อไม่เคลียร์ จริงๆแล้วอยากถามเกี่ยวกับ Single Airport VS Duo Airport น่ะครับ และกระทู้นี้ขอไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องสายการบินนะครับ ใครอยากอยู่ไหนก็ปล่อยให้เค้าอยู่ไป เพียงแค่อยากรู้ความคิดเห็นเกี่ยวกับตัวสนามบินอย่างเดียวน่ะครับ ซึ่งในสายตาของผมเอง กรุงเทพเราเป็นมหานคร การมีสนามบินเดียวอาจตอบโจทย์ความต้องการไม่ดีพอ เลยคิดว่าการมี 2 สนามบิน ประกบ 2 ด้านของเมือง น่าจะตอบโจทย์ได้ดีกว่า สุวรรณภูมิจะต่อเฟส 2 เมื่อไหร่ อันนี้คงไม่มีใครรู้ได้ แต่ก็อย่างที่หลายๆท่านว่าควรจะต่อให้ครบ มันก็จริง แล้วเม็ดเงินล่ะครับ การลงทุนไม่ใช่น้อยเลยนะครับ ผมเองก็อยากให้ครบทุกเฟส แต่ทุกท่านคงทราบดีว่าเมืองไทยเรา การจะสร้างอะไรแต่ละทีไม่ใช่เรื่องง่ายเลยใช่ไหมล่ะครับ และการสร้าง ARL เชื่อม 2 สนามบิน อาจเป็นการ"บรรเทา"ความหนาแน่นของสุวรรณภูมิได้บ้าง เพื่อ"รอ"การสร้างส่วนต่อขยายของสุวรรณภูมิ ในอนาคตที่จะใกล้หรือไกลก็สุดแท้แต่จะรู้ได้ จินตนาการของผมกับมหานครแห่งนี้ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้เป็นจริงเสียที มี 2 สนามบิน ประกบมหานคร มีระบบการขนส่งแบบราง เชื่อมต่อส่วนต่างๆในมหานคร และชานเมือง ฯลฯ ผมไม่ได้ฝันว่ากรุงเทพเราต้องเป็นเหมือนมหานครอื่นๆในโลกใบนี้ แต่กรุงเทพเราต้องเป็นมหานครของคนไทย... เรามาทำให้กรุงเทพเป็นมหานครที่ใครๆก็อยากมาเยือนดีกว่าไหมครับ ? จากคุณ : ben_benz - [ 12 มี.ค. 52 12:55:38 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ผมชอบดอนเมืองนะ แต่อยากให้มีแค่สนามบินเดียวมากกว่าอ่ะครับ ส่วนการขนส่งแบบรางผมก็อยากให้มันมีเหมือนกันนะ เมื่อไรมันจะ ทั่วถึงซ่ะที่ก็ไม่รู้ แต่การมีสองสนามบินมันไม่ได้หมายความว่า กรุงเทพจะเป็นเหมือนมหานครนี้ครับ จากคุณ : M@XZA (maxi_maxy) - [ 12 มี.ค. 52 14:09:41 ]

ความคิดเห็นที่ 30 คห 25 terminal นี้เปิดใช้แล้วหรือครับ (สืบเนื่องจาก คห 23 ว่ามีมานานแล้ว ) เพราะเห็นว่ายังเถียงกันอยู่ ??? จากคุณ : kraikl (kraikl) - [ 12 มี.ค. 52 16:48:46 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ^ ^ ยังเป็นแค่โครงการครับ ยังไม่ได้สร้าง คห.ที่ 23 คงจะหมายถึงอาคารผู้โดยสารเฉพาะของหางแดงที่อยู่ที่สนามบิน KLIA มากกว่า จากคุณ : newuno - [ 12 มี.ค. 52 17:50:56 ]

ความคิดเห็นที่ 32 น้องเบนซ์ ตั้งกระทู้ได้ดีมากครับ และหลายๆ ท่านก็ได้แสดงความคิดเห็นที่ยอดเยี่ยมครับ อดใจไม่ไหว จึงขอซักหน่อย เอางี้นะครับ เริ่มง่ายๆ จากประเด็นที่ว่า จะ สนามบินแบบเดี่ยวไมโครโฟนดี หรือ สองคู้ชู้ชื่นดีนั้น ผมอยากเพิ่มหลักการคิดเพิ่มอีกซักหนึ่งข้อที่ว่า "เราเคยถามคนที่เกี่ยวข้อง หรือ อย่างน้อยที่สุด "คนไทย" แล้วหรือยังว่าต้องการแบบไหน" ถ้าถาม ผมกล้าให้กระทืบคอขาดเลยว่า ส่วนใหญ่จะตอบว่า "ไม่เอาทั้งสองอย่าง" เพราะอะไร? เพราะเอาแค่ช่วง 5-6 วันที่ผมไปลอยทะเลแถวอันดามัน กระบี่-ภูเก็ตมานั้น ผมกลับพบเห็นถึงความ "รำคาญ" และ ความ "ขี้เกียจ" เข้ากรุงเทพฯ เพื่อ เข้า-ออก หรือไปไหนต่อไหน เพราะอะไร...... ค่าใช้จ่ายที่ไม่ได้ซัพพอร์ตด้วยความเหมาะสมของเงินในกระเป๋า ทั้งคนไทย คนต่างชาติ พูดเสียงเดียวกันหลายคน หลายๆ คนบอกว่า ถ้ามีเที่ยวบินตรงมาลงที่ภูเก็ต กระบี่ สมุย หรืออย่างน้อยสุราษฎร์ หรือ ตรัง หรือหาดใหญ่ โดยตรง จะดีกว่านี้ จะมีคนเดินทางท่องเที่ยวมากกว่านี้ ผมมิได้จำเพาะเฉพาะภาคใต้นะ เพราะผมได้เจอนักท่องเที่ยวคนไทยบางกลุ่มที่มาจากภาคเหนือ เค้าต้องเข้ากรุงเทพฯ ก่อนแล้วค่อยมาที่กระบี่ กลุ่มนี้บอกว่า ถ้ามีเที่ยวบินตรงเลย คนเหนือจะมาเที่ยวกระบี่มากกว่านี้ และขณะเดียวกัน คนใต้ก็จะได้มีโอกาสไปเที่ยวเหนือ อีสานได้มากขึ้น คนต่างชาติผมก็ได้พูดคุย หลายๆ คนมาเมืองไทยหลายครั้ง เบื่อกรุงเทพมากๆ รำคาญกรุงเทพ ไม่ชอบความอึดอัด เพราะเค้ามาเที่ยว ถ้าใครทำทัวร์ หรือทำโรงแรม หรือที่เกี่ยวข้อง คุณอาจสังเกตุได้ว่า ลักษระการพักอยู่ในกรุงเทพ สั้นมากๆ 1-2 วัน เพราะเค้าต้องการออกไปยังจุดหมายเร็วขึ้น พวกเค้าเล่าให้ผมฟังว่า ต่าชาติโดยส่วนใหญ่ ถ้าเขาจะมา จะมีเป้าหมายที่มาประเทศไทยอยู่ที่ "ต่างจังหวัด" ไม่ใช่กรุงเทพฯ เพราะอย่างน้อยที่สุดคือ เค้าไม่เหนื่อย และที่สำคัญ พวกเค้ามีเวลาเพิ่มมากขึ้น อาจจะเหลือเงินในกระเป๋าเพื่อเที่ยว และจับจ่ายมากขึ้น มันก็คือ ความต้องการภาคประชาชนมันไม่ได้ Match กับความคิดที่สุดแสนจะซากเน่าของคนที่มีอำนาจ การสันดาบทางความเข้าใจที่แท้จริงของประเทศไทย.....ไม่มี ผมไม่เห็นด้วยเลยที่เอาเรื่อง "กาาต่อเครื่อง" มาอ้าง เพราะ การใช้ประเด็นนี้ขึ้นมา นั่นเท่ากับกำลังพูดถึงผลประโยชน์ของสายการบิน ของสนามบิน ของทัวร์ ของโรงแรม ของที่พัก ของอะไรต่อมิอะไร ที่ไม่ได้เป็นประโยชน์ของประเทศโดยรวม ประเทศไทย ถูกจับตามองเรื่องการ "กระจายความสมดุลย์" มาตลอดเวลา นานาชาติมองว่า เมื่อไหร่ที่เรากระจายความสมดุลย์ออกไปได้ เมื่อนั้น ไทยจะแข็งแกร่งมาก และนี่คือวิธีเดียวที่จะทำให้ไทยเป็น "Hub" ได้ เพราะ เราสามารถ Meet Expectation คนได้หลากหลายมิติของประเทศ และของโลก อย่าลืมซิครับว่า ประเทศไทยมีความแตกต่างเยอะ คนที่เอะอะ อะไรก็ต้องกรุงเทพฯ ตรงนั้นไม่เหมาะ โอ๊ย เราทำไปก็เจ๊ง พวกนี้คือพวกที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย ปอดแหกแบบไม่รู้ตัว ตอนนี้การสร้าง Direct Flight...Final Destination คือแนวทางที่ดีที่สุดสำหรับกิจการการบิน ขอโทษน้องเบนซ์ด้วยครับ พี่ไม่เห็นด้วยในทั้งสองข้อที่น้องตั้งโหวต แต่พี่ชอบกระทู้นี้ครับ ยอดเยี่ยม ความฝันของน้องที่จะได้เห็น กรุงเทพฯ เป็นมหานครศูนย์กลางการขนส่ง ไม่มีวันเป็นจริง แต่ถ้าเพิ่มฝันเข้าไปว่า อยากเห็น ราชอาณาจักรไทย ทั้ง 5 แสนกว่าตารางกิโลเมตร เป็นศูนย์กลางการขนส่งของภูมิภาค น้องได้เห็น และเป็นจริงแน่นอนครับ พระคุ้มครอง จากคุณ : สยามรามอรุณ (เด็กคน) - [ 12 มี.ค. 52 23:41:28 ]

ความคิดเห็นที่ 33 เห็นด้วยกับ คห.12 จากคุณ : ตามนั้น - [ 12 มี.ค. 52 23:48:28 A:117.47.226.137 X: TicketID:134610 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ที่คุณเด็กคนว่ามา ก็มีประเด็นน่าสนใจเรื่อง Direct Flight...Final Destination อ่ะครับ  แต่ทีนี้ demand เรื่องของจำนวนคนที่จะ direct นี่ มันมีมากพอที่เราจะทำขึ้นมาหรือเปล่า  อย่างคนเชียงใหม่ จะไปกระบี่ มีแค่ไม่กี่คนต่อสัปดาห์ กับการเปิดเส้นทางเชียงใหม่ - กระบี่ จะคุ้มทุนหรือไม่อ่ะครับ เทียบกับการกวาดต้อนทุกคนที่จะไปกระบี่จาก กทม. เลย ขนคนทีเดียวเยอะๆ มันคุ้มทุนกว่ากันอ่ะครับ จากคุณ : David_kop - [ 13 มี.ค. 52 01:16:44 ]

ความคิดเห็นที่ 35 เห้นด้วยเรื่อง direct flight ไปยังสนามบินนานชาติอื่นๆครับ อย่างภูเก็ตกระบี่ หรือเชียงใหม่นี่ควรจะมี direct flight จากต่างประเทศมากกว่านี้ และพวกเส้นทางบินระหว่างจังหวัดที่ไม่ต้องมาต่อเครื่องที่กรุงเทพด้วครับ จากคุณ : ลาบราดอร์สีดำ - [ 13 มี.ค. 52 10:07:37 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ขอนอกเรื่องนิดนึงนะครับ เเผนสร้างสนามบินใหม่ของ Air Asia ที่ KL โดนรัฐบาลมาเลเซียปฏิเสธไม่อนุมัติไปเเล้วหนิครับ จากคุณ : MengFlowers - [ 13 มี.ค. 52 13:42:41 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ^ ^ ใช่ครับ รัฐบาลเสือเหลืองไม่อนุมัติ และตาโทนี ก็ได้ย้ายฐานที่มั่นไปที่ ปีนัง เรียบร้อย ส่วนคุณ David_Kop กล่าวนั้น ก็ต้องไปสร้าง Community ก่อนไง ที่ผ่านมาเราไม่มีส่วนนี้เลย เพราะเราไม่เคยเอาคนต่างจังหวัดมาคิด สร้าง Community ให้เค้ามีช่องทาง เพื่อดำเนินชีวิต เดี๋ยว Community เหล่านั้น ก็จะกลับมาเอง แต่ก็ต้องดูว่า ผู้บริหาร ผู้หลักผู้ใหญ่ นั้น ในกะโหลก จะมีมันสมอง ครบหรือหรือเปล่า เพราะถ้ามีแต่ "ถุงน้ำคร่ำ" คงจะคิดอะไรไม่เป็น แก้ไขเมื่อ 13 มี.ค. 52 15:20:51 จากคุณ : สยามรามอรุณ (เด็กคน) - [ 13 มี.ค. 52 15:17:41 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ประเด็นมันอยู่ที่ว่าการมีสองสนามบินมันเป็นเรื่องที่ดีถ้าจะให้ สุวรรณภูมิ เป็น Main และดอนเมืองเป็น Secondary ไป แต่คนที่เกี่ยวข้องในการตัดสินใจกลับมองว่า อันนึงถูกจัดเป็น Inter อีกอันนึงให้เป็น Domestic พอโจทย์เป็นแบบนี้ มันก็ผิดไปหมด เพราะสนามบิน Main ก็ต้องเป็น Domestic ในตัวด้วย  เหมือนที่ลอนดอนก็มี แกทวิค ฮีทโทร์ว ซิตี้ สแตนสเตด ลูตัน ปาเข้าไปห้านู่น แต่เมนจริง ๆ ก็คือฮีทโทรว์ ซึ่งก็เป็นทั้งนานานชาติและในประเทศเช่นกัน สามารถเชื่อมเมืองใหญ่ทั่วโลกเข้ากับเมืองใหญ่ในอังกฤษด้วย British Airways ได้หมด ซึ่งนั่นคือโมเดลที่การบินไทยอยากทำอยู่แล้ว ถามหน่อยเถอะครับ จะปิดดอนเมือง แล้วจะเอาไว้ทำอะไร โครงสร้างแบบนั้นมันเอาไปทำอะไรได้ด้วยหรือ เปิดไปเถอะ แต่ให้การบินไทยไปอยู่สุวรรณภูมิให้หมดเพื่อความคล่องตัวของเค้า แต่พวกโลว์คอสต์ เช่าเหมาลำ ชาร์เตอร์ วีไอพี หรืออะไรที่ไม่ต้องการความวุ่นวายหรือต่อเครื่ีองมากมาย ก็ให้เค้าเลือกมาที่ดอนเมืองได้่ ไม่ว่าจะเป็นเส้นทางในประเทศหรือต่างประเทศ ค่าจอดก็เก็บเป็นสองเรท ให้ถุกกว่าก็ได้  แถมยังสามารถมีฝ่ายช่างของการบินไทยไว้บริการอีกด้วย ลึก ๆ ผมเองยังคิดว่าฝ่ายช่างที่อู่ตะเภาน่าจะถูกมาไว้ที่นี่ด้วยซ้ำ มีสามที่ผมว่ามันมากไป สิ่งที่ผมไม่เข้าใจอย่างนึงก็คือ คณะกรรมการในการศึกษาข้อสรุปในการเปิดหรือปิดดอนเมืองนั้น มีกรมการขนส่งทางอากาศ มหาวิทยาลัย กับกระทรวงคมนาคม แต่ไม่เห็นเชิญสายการบินต่างๆ นอกจากการบินไทย เข้าไปถามความเห็นกันบ้างเท่าไรเลย เฟสสองสนามบินสุวรรณภูมิอาจจะไม่ใช่สิ่งที่ทุกสายการบินต้องการก็ได้ และการที่มีสนามบินสำรองผมว่ามันเป็นเรื่องดี ไม่งั้นเอะอะๆ ไรก็ Divert กันไปอู่ตะเภา เชียงใหม่ ภูเก็ต กันท่าเดียว ผมมองว่า จริง ๆ แล้วปัญหาของการเปิดสองสนามบินที่ผ่านมา เนี่ยมันคือความวุ่นวายที่ไปจับการบินไทยแยกออกจากกันมากกว่าครับ เพราะรูปแบบของการบินไทยเหมาะกับ Single Airport Operation มากกว่า เพราะเค้าอยู่ได้ด้วยการ Rotate Fleet ที่ Mix กว้าง การสูญเสีย Fleet AB6 และ 737 บางส่วนไปดอนเมือง ทำให้เสียความคล่องตัวไปเยอะ เวลาหมุนไม่ทันก็ต้องตีเครื่องเปล่าข้ามสนามบิน ต้นทุนเลยบานเบอะ แก้ไขเมื่อ 14 มี.ค. 52 02:17:29 จากคุณ : shion - [ 14 มี.ค. 52 01:59:30 ]