ความคิดเห็นที่ 1 เพื่อไม่เป็นการเสียเวลา ถึงที่โรมก็เริ่มเที่ยวกันเลย ไปที่ The Colosseum หนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกกันก่อน Colosseum เริ่มสร้างเมื่อประมาณ ค.ศ. 70-72 สร้างเสร็จเมื่อ ค.ศ. 80 จากคุณ : ฐ. ฐาน - [ 13 มี.ค. 52 21:58:29 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ยิ่งใหญ่มาก เข้าไปข้างในสามารถเดินดูได้รอบ Colosseum สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นสนามต่อสู้ระหว่างคนกับสัตว์ดุร้าย มีโครงสร้างเป็นรูปไข่ ความยาว 189 ม. ความกว้าง 156 ม. ผนังภายนอกสูง 48 ม. จุผู้เข้ามาชมได้ถึง 50,000 คน จากคุณ : ฐ. ฐาน - [ 13 มี.ค. 52 21:59:43 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ชั้นใต้ดินแบ่งออกเป็นห้องๆ ใช้เป็นห้องขังนักโทษและสัตว์ ก่อนที่จะขึ้นไปสู้กันบนสนาม พื้นสนามทำด้วยไม้และโรยทับด้วยทราย ปัจจุบันมีพื้นไม้เหลืออยู่นิดเดียว จากคุณ : ฐ. ฐาน - [ 13 มี.ค. 52 22:02:16 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ออกจาก Colosseum ก็เดินทางไปนครวาติกัน (State of the Vatican City) ศูนย์กลางของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก เป็นรัฐอิสระที่อยู่ในกรุงโรม มีพื้นที่ประมาณ 110 เอเคอร์ เป็นประเทศที่มีพื้นที่เล็กที่สุดในโลก รูปด้านหน้ามหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ (Saint Peter’s Basilica) เดี๋ยวเราเข้าไปข้างในกัน จากคุณ : ฐ. ฐาน - [ 13 มี.ค. 52 22:02:56 ]

ความคิดเห็นที่ 5 บริเวณ St. Peter’s Square ด้านหน้ามหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ มีเสา obelisk ทำจากหินแกรนิตอยู่ตรงกลางและน้ำพุอยู่สองข้าง จากคุณ : ฐ. ฐาน - [ 13 มี.ค. 52 22:03:44 ]

ความคิดเห็นที่ 6 The Swiss Guard ทหารอารักขาชาวสวิส จากคุณ : ฐ. ฐาน - [ 13 มี.ค. 52 22:04:26 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ข้างในอลังการมาก จากคุณ : ฐ. ฐาน - [ 13 มี.ค. 52 22:05:01 ]

ความคิดเห็นที่ 8 รูปแกะสลักเปียตต้า (The Pieta) เป็นรูปแกะสลักหินอ่อนทั้งหลัง รูปพระแม่มารีกำลังอุ้มพระศพของพระเยซูคริสต์ฝีมือไมเคิล แองแจลโล จากคุณ : ฐ. ฐาน - [ 13 มี.ค. 52 22:05:33 ]

ความคิดเห็นที่ 9 โดมตรงกลาง โดมของมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์นี้สูงประมาณ 137 ม. วัดจากพื้นถึงยอดเป็นโดมที่สูงที่สุดในโลก ความกว้างมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 41 ม. ซึ่งกว้างเป็นอันดับที่ 3 รองจาก The Pantheon และ The Florence Cathedral จากคุณ : ฐ. ฐาน - [ 13 มี.ค. 52 22:06:15 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ออกจากนครวาติกัน ก็ไปที่น้ำพุเทรวี่ (The Trevi Fountain / Fontana di Trevi) ไปถึงมืดแล้วเลยได้บรรยากาศตอนค่ำ นักท่องเที่ยวค่อนข้างเยอะเหมือนกัน มีความเชื่อว่าถ้าได้โยนเหรียญลงในสระแล้วจะได้กลับมาเยือนกรุงโรมอีกครั้ง (วิธีโยนก็ให้หันหลังให้สระแล้วโยนข้ามไหล่) เราก็โยนไป 1 ยูโร จะได้กลับมาอีกไม๊นะ จากคุณ : ฐ. ฐาน - [ 13 มี.ค. 52 22:06:55 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ลองแวะชิมไอศครีม ร้านนี้อยู่ข้างน้ำพุเทรวี่ อร่อยดีเหมือนกันตักไอติมกินตอนอากาศหนาวๆ แถวนั้นมีร้านขายของที่ระลึกหลายร้าน จากคุณ : ฐ. ฐาน - [ 13 มี.ค. 52 22:07:35 ]

ความคิดเห็นที่ 12 วันรุ่งขึ้น ออกจาก Rome ไปที่เมือง Pisa หอเอน Pisa (The Leaning Tower of Pisa) เป็นอีกหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลก สร้างเพื่อเป็นหอระฆังของมหาวิหารเมืองปิซ่า เริ่มสร้างตั้งแต่ปี 1175 ผู้สร้างไม่ได้ตั้งใจจะให้มันเอนแต่เกิดการผิดพลาดในการทำฐานราก ทำให้ตัวหอเริ่มเอียงเมื่อก่อสร้างได้ 3 ชั้น แต่ก็ยังสร้างต่อจนเสร็จใช้เวลาสร้างทั้งหมด 177 ปี จากคุณ : ฐ. ฐาน - [ 13 มี.ค. 52 22:08:11 ]

ความคิดเห็นที่ 13 หอเอน Pisa ทำจากหินอ่อนสีขาวมี 8 ชั้น ความสูงทั้งหมดประมาณ 56 ม. ยอดบนเอียงออกจากแนวศูนย์กลางประมาณ 4 ม. ชั้นบนมีระฆัง 7 ใบเสียงตามโน๊ตดนตรี ปัจจุบันวิศวกรได้ทำการเสริมความแข็งแรงของฐานรากเรียบร้อย คาดว่าก็คงจะเอียงอยู่อย่างนี้ต่อไป จากคุณ : ฐ. ฐาน - [ 13 มี.ค. 52 22:08:49 ]

ความคิดเห็นที่ 14 มาแอบดูค่ะ จากคุณ : Panino - [ 13 มี.ค. 52 22:09:14 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ออกจาก Pisa ก็ไปเมือง Florence จะไปดูรูปแกะสลักหินอ่อน David ของไมเคิล แองแจลโลที่ Signoria Square ปรากฏว่าเดวิดถูกนั่งร้านคลุมกำลังบูรณะอยู่ ก็เลยเดินดูรูปแกะสลักของศิลปินท่านอื่นแทน อันนี้รูปแกะสลักจากเทพนิยายกรีก “Perseus with the Head of Medusa” จากคุณ : ฐ. ฐาน - [ 13 มี.ค. 52 22:09:34 ]

ความคิดเห็นที่ 16 The Fountain of Neptune ที่บริเวณ Signoria Square จากคุณ : ฐ. ฐาน - [ 13 มี.ค. 52 22:10:35 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เดินต่อไปอีกหน่อยก็ถึงโบสถ์เมืองฟลอเรนซ์ (The Florence Cathedral / The Duomo of Florence) ใกล้มืดแล้วแสงไม่ค่อยมี จากคุณ : ฐ. ฐาน - [ 13 มี.ค. 52 22:11:10 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ผนังด้านหน้าโบสถ์ (Façade) ทำจากหินอ่อนหลากสีและมีรูปแกะสลักตกแต่งอย่างสวยงาม เสียดายที่มีเวลาที่ Florence แค่นิดเดียว ไม่มีเวลาชมความงามของเมืองนี้ จากคุณ : ฐ. ฐาน - [ 13 มี.ค. 52 22:11:49 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เช้าวันรุ่งขึ้นก็เดินทางจาก Florence ไป Venice เมืองที่ได้ชื่อว่ามีความโรแมนติกที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และเป็นเมืองการค้าที่เคยรุ่งเรืองมากในอดีต เวนิสประกอบไปด้วยเกาะเล็กๆจำนวน 118 เกาะเชื่อมต่อกันด้วยสะพานประมาณ 400 สะพาน การเดินทางไปมาหาสู่กันได้โดยทางเท้าและเรือ ทำให้เวนิสเป็น Car Free Zone ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป รถบัสมาส่งที่ท่าเรือทรองเกตโต (Tronchetto) เราก็ลงเรือจากที่นี่ไปขึ้นแถวจตุรัสเซนต์มาร์ค (St. Mark’s Square) จากคุณ : ฐ. ฐาน - [ 13 มี.ค. 52 22:13:01 ]

ความคิดเห็นที่ 20 พอดีที่ Venice อยู่ในช่วงจัดงานคาร์นิวัล ตามข้างทางมีซุ้มขายหน้ากากใส่ให้เข้ากับบรรยากาศงานคาร์นิวัล จากคุณ : ฐ. ฐาน - [ 13 มี.ค. 52 22:13:56 ]

ความคิดเห็นที่ 21 St. Mark’s Square หรือ Piazza San Marco จากคุณ : ฐ. ฐาน - [ 13 มี.ค. 52 22:14:36 ]

ความคิดเห็นที่ 22 Ponte dei Sospiri / Bridge of Sighs / สะพานแห่งการถอดใจ สะพานนี้เชื่อมระหว่าง ห้องพิจารณาคดีในวังเก่าทางด้านซ้าย กับ คุกทางด้านขวา เมื่อตัดสินคดีแล้ว นักโทษจะเดินข้ามสะพานนี้ไปรับโทษในคุก ตอนข้ามสะพานนี้พวกเขาจะได้เห็นวิวของเมืองเวนิสเป็นครั้งสุดท้าย นักโทษเมื่อมองออกมาทางหน้าต่างแล้วก็พากันถอนใจเดินคอตกเข้าคุก เลยเป็นที่มาของชื่อสะพาน พอดีสองข้างกำลังถูกปรับปรุงอยู่เลยเห็นเป็นภาพท้องฟ้าแทน จากคุณ : ฐ. ฐาน - [ 13 มี.ค. 52 22:15:17 ]

ความคิดเห็นที่ 23 บรรยากาศตามคลองในเวนิส เดินจากจตุรัส St. Mark เข้าไปตามซอยเล็กซอยน้อยก็จะเป็นร้านค้าไปตลอดทาง เดินไปก็ต้องจำว่าเลี้ยวทางไหนไปบ้าง เพราะตอนกลับกลัวกลับไม่ถูก จากคุณ : ฐ. ฐาน - [ 13 มี.ค. 52 22:16:05 ]

ความคิดเห็นที่ 24 จตุรัส St. Mark หรือ San Marco เต็มไปด้วยคนมากมาย ตอนแรกกะว่าจะมานั่งจิบกาแฟดูคนเดินไปเดินมาที่จตุรัสนี้ พอมาที่นี่ถึงพึ่งรู้ว่าอยู่ในระหว่างเทศกาลคาร์นิวัล ผู้คนเต็มลานไปหมด เลยอดนั่งจิบกาแฟตามที่หวัง แต่ก็ได้อีกบรรยากาศนึง จากคุณ : ฐ. ฐาน - [ 13 มี.ค. 52 22:16:38 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ผู้ที่มาร่วมงานคาร์นิวัล จากคุณ : ฐ. ฐาน - [ 13 มี.ค. 52 22:17:18 ]

ความคิดเห็นที่ 26 อีกรูปนึงละกัน จากคุณ : ฐ. ฐาน - [ 13 มี.ค. 52 22:17:48 ]

ความคิดเห็นที่ 27 จาก Venice ทานมื้อเย็นเสร็จก็ไปที่สถานีรถไฟซานตาลูเซีย (Santa Lucia) ขึ้นตู้นอนขบวน Artesia Night Trainไป Paris คืนนี้นอนบนรถไฟ ที่ Paris ยกไปต่ออีกกระทู้นึงละกันนะ ที่นี่ครับ : http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E7626117/E7626117.html แก้ไขเมื่อ 14 มี.ค. 52 21:20:13 จากคุณ : ฐ. ฐาน - [ 13 มี.ค. 52 22:18:51 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ตามมาเที่ยวค่ะ อิตาลีนี่ไม่ว่าที่ไหนๆ ก็สวยงามจริงๆ  เสพศิลปะได้เต็มที่เลย รูปสวยดีนะคะ ขนาดกำลังหัดถ่ายนะนี่  ไว้ตามเที่ยวต่อค่ะ จากคุณ : Red-Rose-14Feb - [ 13 มี.ค. 52 22:43:45 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ขอบคุณครับ ภาพสวย ข้อมูล เยอะีครับ อยากทราบว่าเดินทาใน อิตาลี ด้วยรถไฟใช่มะครับ ราคาเท่าไหร่ จากคุณ : ART (pigart) - [ 13 มี.ค. 52 23:15:51 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ตามมาเที่ยวอิตาลีค่ะ ดูรูปแล้วคิดถึงโรมกับเวนิสจริง ๆ เฮ้อออ  อยากไปอีกกกกก จากคุณ : ป้าหยด - [ 13 มี.ค. 52 23:50:49 ]

ความคิดเห็นที่ 31 สวยงามยิ่งใหญ่มาก ๆ เลยค่ะ ขอแอบตามไปเที่ยวด้วยคนนะคะ เคยไปเยือนแค่เวนิสเท่านั้นเอง *-* จากคุณ : Picike - [ 14 มี.ค. 52 05:20:49 ]

ความคิดเห็นที่ 32 เห็นโคลอสเซี่ยมแล้วนึกถึงหนังเรื่องแกลดิเอเตอร์ค่ะ จากคุณ : บัวนลิน - [ 14 มี.ค. 52 09:54:30 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ..:D..ภาพความเห็นที่ 19:....สะพาน Calatrava เสร็จแล้ว!!!...ฮืออออออ....ให้คนข้ามได้แล้วอะ....ฮือออออออ....ตอนผมไปปีที่แล้วเขายังไม่ให้ข้ามครับ....เศร้าใจ...สงสัยต้องไปเก็บตกอีกสักรอบ...:D...ขอบคุณสำหรับภาพสวยๆนะครับ....จะรอติดตามฝรั่งเศสต่อนะครับ...:D จากคุณ : Death - [ 14 มี.ค. 52 11:05:46 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ตอบคุณ ART (pigart) ครับ : ผมไปกับกรุ๊ปทัวร์อะครับ เดินทางใช้รถบัส มีตอนจากเวนิสไปปารีส นอนตู้นอนรถไฟครับ แบบว่า Supplier ของผมเค้าพากลุ่ม Dealer ที่ทำยอดขายสินค้าของเขาทะลุเป้าไปเที่ยว ทั้งหมด 7 วันผมใช้เงินไปทั้งหมดไป 150 ยูโร เป็นค่ากาแฟกับของที่ระลึก อะครับ จากคุณ : ฐ. ฐาน - [ 14 มี.ค. 52 21:26:53 ]

ความคิดเห็นที่ 35 เสียดายตอนเราไปเวนิซน้ำท่วม อดนั่งเรือเลยอ่ะ จากคุณ : Tai-mOn - [ 14 มี.ค. 52 22:04:22 ]

ความคิดเห็นที่ 36 Beautiful photos krab (^_____^) จากคุณ : Rennis - [ 15 มี.ค. 52 09:21:11 ]

ความคิดเห็นที่ 37 อยากไปให้ได้สักครั้งในชีวิต... *ขอบคุณสำหรับรูปสวยๆค่ะ~ เราชอบPietaมากที่สุดในบรรดารูปปั้นของMICHELANGELO อยากไปยืนชมด้วยตาตัวเองจัง จากคุณ : เบนจัง - [ 15 มี.ค. 52 20:26:21 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ขอบคุณสำหรับภาพสวย ๆ ด้วยครับ จากคุณ : Civict2003 - [ 16 มี.ค. 52 14:35:56 ]