ความคิดเห็นที่ 1 ไม่เป็นไรค่ะ เริ่มใหม่ได้   อย่าถือว่าเป็นความผิดพลาดเลย ที่ผ่านมาให้คิดซะว่าเป็นประสบการณ์ที่ดี พี่เรียนจบ ก็หางาน ทำงานอย่างเดียวเลย กลัวไม่มีตังค์ใช้    ไว้มีตังค์แล้วค่อยเที่ยว จากคุณ : ladymoonenjoy - [ 15 มี.ค. 52 09:43:56 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ไม่เคยทำแบบนั้นนะ... เคยแค่คิดว่า ทำงานในเมืองนี่ มันช่างต้องแก่งแย่ง แข่งขันกันตลอดเวลารู้สึกเหนื่อย อยากไปทำอะไรที่ไกลๆ เปิดร้านเล็กๆ พออยู่ได้...ก็แค่นั้น แต่ก็ยังไม่เคยกล้าที่จะออกไปเลยโดยเที่ยวอย่างเดียว เพราะคิดว่า ทำงาน มีเงินแล้วค่อยเที่ยว เหมือน คห.1 เพราะมันได้ทั้งประสบการณ์ ได้ทั้งมุมมองการท่องเที่ยว ก็แปลกดีเนอะ...คิดได้ไง...ทำอย่างนี้ได้ แปลว่า มีอันจะกิน...แล้ว ถ้าเป็นอย่างนั้น ก็ไม่เป็นไรทำไปเถอะ....เพราะไม่เดือดร้อนใครอยู่แล้ว เดี๋ยวจะรออ่านของคนอื่นเผื่อเค้ามีประสบการณ์ แปลก จากคุณ : joke (luk_kul) - [ 15 มี.ค. 52 10:05:40 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ผมมองว่าไม่ได้เป็นการก้าวพลาดหรอก แต่เป็นการก้าวเดินของคนอารมณ์ศิลปิน แนวติสแตก ผมเองก็อารมณ์คล้ายๆ กับคุณแหละครับ เพื่อนผมตอนนี้เป็นเศรษฐีร้อยล้านกันไปแล้ว แต่เราด้วยอารมณ์ติสแตก อยากทำไรสนอง need ตัวเองมากกว่า เลยทำให้เป็นยาจกอยู่ทุกวันนี้ แต่มันก็เป็นความสุขที่ได้ทำอะไรในสิ่งที่ตัวเองอยากทำ และได้ทำ อย่างคุณคงต้องหางานที่สามารถมีเวลาเป็นของตัวเองได้เยอะ หรือ ฟรีแลนซ์ไปเลย จะได้มีความสุขจากการเที่ยวและจากการทำงาน ลองนึกสิ ว่ามีอาชีพไหนบ้าง ผมเองก็คล้ายๆ กันครับ หลังจากที่ทำงานมา 3 ปีแรก เซ็งเบื่อ ลาออกจากงานทั้งๆ ที่ยังไม่มีงานรองรับ ไปเที่ยวนั่งนอนเดือนกว่าๆ มีคนตามมาให้ไปทำงาน (ก็คนมันมีคุณภาพอ่ะนะ คิคิ) ก็เลยไปมีงานทำอีกรอบ แต่ตอนนี้เริ่มเซ็งอีกแล้ว อยากจะลาออกอยู่ แต่กำลังมองหาลู่ทางก่อนไป เพราะตอนนี้อายุเยอะ กลัวเดี๋ยวไม่มีคนเลี้ยงและไม่คงไม่มีใครอยากจะเชิญไปทำงานแล้ว เพราะเริ่มแก่ อย่าไปคิดมากน่า เคยมีบางคนบอกผมว่า เที่ยวซะตอนที่ยังมีแรง แก่แล้วเดินไม่ไหว จะเที่ยวไม่สนุก คิดว่าจริงไหม จากคุณ : ทองเอก - [ 15 มี.ค. 52 10:18:57 A:58.64.82.161 X: TicketID:204125 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ผมว่าใครๆ ก็อยากมี อยากทำแบบคุณนะ ชีวิตที่ต้องทำงาน เช้ารีบตอกบัตรเข้างาน กลางวันพัก เย็นตอกบัตรกลับบ้าน ถ้ามาแนวๆน้องแบบนี้อยากเที่ยวก็เอาให้สุดๆ ไปเลยครับ อยากทำตามความฝัน  ความอยากเที่ยว ครั้งหนึ่งในชีวิต ค้นหาให้เจอ มันๆ สนุกๆ ไม่เดือดร้อนใคร แล้วก็เข้าสู่โลกความจริง ทำมาหาเลี้ยงชีพ พักผ่อนเที่ยวบ้าง ชีวิตมันก็ต้องเดินไป  ชีวิตตอนทำงานก็ได้เที่ยวอีกแบบนะครับ อีกแนว อีกอารมณ์ วันหยุดจากงานก็วางแผนหาที่เที่ยวได้ หาที่อยากไป อยากเห็น  ลองประสบการณ์ใหม่ๆ   แบ่งเวลาให้เหมาะๆ จากการทำงาน   ผมว่าก็น่าไปด้วยกันได้นะ *** สมัยเรียนผมเคยไปเป็นผู้ช่วยไกต์ทัวย์ ได้เที่ยวทั่วประเทศเลย + กินฟรี + เที่ยวฟรี + ได้เงินใช้ด้วย +ได้ประสบการณ์ เพื่อนๆ เพียบครับ *** ขอบอก ลองไปเป็นไกต์หรือเจ้าหน้าที่แนวๆท่องเที่ยวดูครับ ได้ไปเที่ยว ได้เงินด้วย ผมยังอยากกลับไปทำเลยครับ *** ใครๆ ก็ฝันได้ครับ ลองตั้งใจพยามทำความฝันให้เป็นความจริงซิครับ ลองดู .... แล้วจะรู้ว่าเราทำได้ จากคุณ : woodtate - [ 15 มี.ค. 52 10:19:20 ]

ความคิดเห็นที่ 5 อยากทำเหมือนกันครับ แต่ไม่กล้าเท่าคุณ ยินดีด้วยกับความกล้าครั้งนี้ครับ แต่....ถ้ารู้สึกว่าพอแล้ว  ก็กลับมาต้งหน้าตั้งตาหางาน ทำงานต่อนะครับ ยังมีคนที่เค้าหวังกับตัวเราอยู่อีกเยอะ ไว้ตั้งหลักได้เต็มที่ ค่อยมากล้าใหม่ นานๆๆๆๆที อีกครั้งก็ได้ครับ ส่วนตัวผมเอง สักวันหนึ่งเก็บเงินได้พอ สะสมความกล้าได้เต็มที่ และยังไม่แก่เกินไปนัก จะออกไปลุยดูบ้างครับ แก้ไขเมื่อ 15 มี.ค. 52 10:42:33 จากคุณ : ไซดักปลา - [ 15 มี.ค. 52 10:41:54 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ยังไม่สายน้อง...ยังไม่สาย...ดีแร้ะ รู้ตัวรีบกลับตัวซะให้ทัน... วัยรุ่น: พี่ก้ะแสบระดับ4ดาวครึ่งเชียว ทั้งที่เป็นหญิง ไม่เน้นเรียนแค่เฉียด50%ก็พอแร้ะ ทั้งๆที่หัวดี เน้น!!เที่ยวๆๆๆๆ  ในไทยแทบไม่มีที่ไหนที่ไม่เคยไปเลย โบกรถเที่ยวกันเป็นกลุ่มใหญ่ กางเต็นท์ ปิ้งปลากัน หนุกหนาน ก่ะเราเป็นเด็กกิจกรรม ไม่ใช่เด็กเนิร์ดนิ...เป็นนิสัยเฉพาะตน แต่พ่อ แม่ก็หนักใจมาก มากที่สุดในบรรดาพี่ๆ น้องๆ อยากให้ตั้งใจเรียน เป็นหน้าตาของตระกูล และจะมีการงานดี ท่านรักและห่วง ก็รอดตัวมาได้ในระดับ หนึ่ง...เฮ้อ!!!! วัยทำงาน:ก็อีกแร้ะ งานดี เงินสูง แต่เหมือนไม่อยากก้าวหน้าในตำแหน่งของงาน อยากเป็นอิสสระ เป็นตัวของตัวเอง พ่อแม่ก็บอกว่างานก็มั่นคงดีคิดให้ถี่ถ้วน เฮ้อ!!!ก็เป็นนิสัยเฉพาะตนอย่างที่บอก.. แต่เป็นคนมีวิสัยทัศน์กว้างไกล รู้จักอดทนเพื่อรอคอยจังหวะงามๆ ของชีวิต ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญเพราะโตขึ้นมั้ง  ทำงานให้ดีที่สุดขณะนั้น เก็บเงินก้อนนึง ลาออกโดยไม่บอกใคร แล้วทำกิจการที่เรา *รักและมีความสุข* (ที่บ้านก็หนักใจอีก)ทุกวันนี้มีความสุขมากๆ กับสิ่งที่ตัวเองมีสิทธิ์ เลือกที่จะเป็น>>>> ..มีกิจการเล็กที่เรารัก ..ซื้อบ้านริมทะเลให้พ่อ แม่ พักผ่อน ..มีที่ดินไว้ทำสวน และพายเรือเล่น ..เที่ยวเมืองนอกบางครั้ง (ก็ตามกำลังของผู้หญิงคนนึง) ..ที่สำคัญ เป็นกำลังหนึ่ง ที่ใช้ความเป็นเด็กที่ทำนอกตำราตลอด จึงรู้มากเห็นมากทำงานเพื่อสังคม ช่วยเหลือเด็กๆที่ด้อยโอกาส ตามLink นี้ http://thaishaya.spaces.live.com  วันแรกที่พา พ่อแม่ไปบ้าน ริมทะเล ท่านน้ำตาคลอ เข้ามากอดแล้วพูดว่า"เก่งมาก ลูกสาวน้อยๆของพ่อ" เราร้องไห้โฮเลย ดีใจที่ท่านสบายใจ *ไม่เป็นไรหรอกที่จะก้าวช้ากว่าใคร แต่ขอให้มีสติ วางแผนให้ดีค่ะ* จากคุณ : เพลงดาว (รอยรัก) - [ 15 มี.ค. 52 10:42:50 ]

ความคิดเห็นที่ 7 น้องได้กำไรชีวิตมากกว่าคนอื่นที่ทำงานงกๆนะ ชีวิตจะประสบความสำเร็จหรือไม่ ไม่ได้อยู่ที่จำนวนเลขศูนย์ในบัญชีเงินฝาก ไม่ได้อยู่ที่หน้าที่การงานสูงๆ แต่ดันไม่ชอบงานตัวเอง แต่อยู่ที่ความสุขใจ ความสบายใจ ต่างหาก สมัยนี้คนเปลี่่ยนไปเยอะมากนะ เหมือนกับว่าอยากกลับคืนสู่ธรรมชาติ เคยอ่านเจอในแมกกาซีน ชาวนิวยอร์ค ทิ้งเงินเดือนปีละหลายแสนเหรียญ ออกไปจับ lobster ขายที่ Maine หรือ ย้ายครอบครัวจาก NYC ไปใช้ชีวิตอยู่บ้านนอก แบบไม่มีไฟฟ้า ปลูกผักกินเอง ใช้เป็นปีๆ อะไรแบบนี้ เหมือนกับได้ชำระล้างคราบเทคโนโลยีออกจากตัวเอง ไม่ดูหนัง ไม่ฟังวิทยุ ไม่ใช้อินเตอร์เน็ท เของพวกนี้มัน time consuming น่ะ พอไม่มีใช้ คนเรามีเวลาใกล้ชิดกับครอบครัวเยอะขึ้น   ยังนึกอิจฉาเลยว่าเขาทำได้แฮะ หวังว่าน้องคงกลับมาพร้อมกับพลังใจอันมหาศาลนะ จากคุณ : yinnerella - [ 15 มี.ค. 52 10:46:54 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ถือซะว่าไปลองหาประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้ตัวเองเอาน้อ เรียนจบแล้วก็ทำงานเลย ชีวิตเลยอาจจะตรึงเครียด ส่วนตัวเราแล้ว ตอนนี้ก็ยังเรียนอยู่ค่ะ และก็กลัวจะเป็นเหมือนที่คุณจขกท. ว่ามา เราก็เลยเก็บตังออกเที่ยวเองตั้งแต่เข้า ปี1. หาเงินเองยังไม่ได้ก็เที่ยวให้ประหยัด ๆ ไว้ก่อน ตอนนี้ก็ค่อนค่างพอใจกับชีวิตค่ะ แม้ว่าที่ทำไปอาจจะไปกระทบผลของการเรียนบ้างขาดการนำเสนอรายงานบ้าง ขาดเรียนบ้าง อย่างล่าสุดนีเกือบ 1 อาทิตย์  หุหุ สิ้นปีนี้ก็ไกล้จะจบแล้ว คิดว่าถ้าเรียนจบ หนูคงจะมีความสุขในการทำงานอ่ะค่ะ หวังว่าจะเป็นอย่างนั้นจริง ๆ ค่ะ แก้ไขเมื่อ 15 มี.ค. 52 10:57:54 แก้ไขเมื่อ 15 มี.ค. 52 10:56:04 จากคุณ : au-utcc - [ 15 มี.ค. 52 10:55:21 ]

ความคิดเห็นที่ 9 น้ำตาจะไหล..ขอบคุณมากๆครับ คงต้องกลับสู่โลกความจริงแล้วล่ะครับ ใครมีประสบการณ์บวมๆ มาเล่าให้ผมฟังได้นะครับ รอยู่ . . . จากคุณ : รักอาม่า - [ 15 มี.ค. 52 11:04:22 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ไม่เห็นจะผิดพลาดตรงไหนเลยครับ คุณมีประสบการณ์ชีวิตที่ดีกว่าคนอื่นด้วยซ้ำไป ในขณะที่คนที่ทำงานงกๆ กว่าจะเก็บเงินได้ก็แก่เกินกว่าจะไปผจญภัยในโลกกว้าง เงินที่เก็บมาทั้งหมดในชีวิต ก็แค่เอาไว้ใช้รักษาโรคภัยตอนแก่เท่านั้นเอง จำไว้อย่างว่า ช่วงที่เที่ยวสนุกที่สุด คือช่วงที่ยังหนุ่มแน่น ยังมีกำลังวังชาครับ หรือจะเก็บเงินเที่ยวตอนแก่ก็ได้ แต่ก็เที่ยวแบบคนแก่ งกๆเงิ่นๆ ไปไหนก็ไม่มีแรง หรือบางคนเอาแต่ทำงานเก็บเงิน รู้ตัวอีกทีก็เป็นโรคร้าย นอนรอความตายไม่ได้ใช้เงินของตัวเอง ชีวิตของเราไม่ต้องเหมือนคนอื่นครับ จากคุณ : mie-mien - [ 15 มี.ค. 52 11:26:08 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ไม่พลาดหรอก เพราะพี่ทำมาแล้วน้องเอ๋ย แล้วพอมาถึงจุดๆ หนึ่ง สมองมันจะบอกเราเองว่า พอแล้ว ทำงานเถอะ เพราะเที่ยวมากมันเหนื่อย แล้วพอเรามองย้อนกลับไป จะรู้ว่ามันคุ้มสุดๆ เลย พอเราอายุมากขึ้นเดี๋ยวความคิดเราก็เปลี่ยน จากที่เที่ยวเป็นบ้าเป็นหลัง ทำงาน 6 เดือน เที่ยว 3 เดือน กลับมาหางานทำใหม่ ตอนนี้รึ ก็ยังเที่ยวอยู่ แต่จะเป็นแบบ พักร้อน เที่ยวสักครั้ง และจะเป็นการเที่ยวแบบคนวัยกลางคนเที่ยวน่ะ ไม่หวือหวามาก รูดปี๊ด ๆ คิดแล้วคิดอีก ที่สำคัญต้องแบบสบายๆ มีบริการดีๆ จะให้แบกเป้ลุยเหมือนสมัยสาวๆ แล้วคงไม่แล้วละ แก่แล้ว จากคุณ : SEAPATCHA - [ 15 มี.ค. 52 11:36:21 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ชีวิตคนเรา กดปุ่ม รีสตาร์ท ได้ใหม่เรื่อยๆ จนกว่าชีวิตจะหาไม่ นั่นหล่ะครับ ดีใจด้วยครับ คุณได้สิทธิ์นั้นเดี๋ยวนี้ เอิ๊กๆๆๆๆ จากคุณ : 16เมษา - [ 15 มี.ค. 52 11:59:29 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ไม่เคยทำค่ะ..  แต่โดดงานไปเที่ยวบ่อยมาก จนเงินเดือนไม่ขึ้นก็มี.. จะบอกว่าสิ่งที่น้องทำมันเป็นอารมณ์ติสท์  ฟุ้งซ่านชั่วขณะ.. ถามว่า...  เคยคิดแบบนี้เหมือนกัน  แต่บังเอิญเป็นคนไม่ชอบเที่ยวคนเดียว (อารมณ์มันจะมาเวลาคิดถึงเพื่อน ๆ เพราะสมัยเรียนเที่ยวกันกระจาย มีความสุขไม่ต้องคิดมาก) .. ยังมีเวลาค่ะ ลองหางานที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ตัวเองดูนะคะ เช่น  .. ที่ทำงานไม่ฟิกซ์เรื่อง ขาด-ลา-มา-สาย มากเกินไป  พร้อมจะแลกถ้าโดนหักเงิน ทุกวันนี้ก็ยังเที่ยวอยู่  แต่ลดจำนวนวันลง  ไปใกล้ ๆ บ่อยหน่อย  ทริปใหญ่ ๆ ต้องวางแผนนิดนึง แต่ล่าสุดเพิ่งไปเกาะกูดมา   ก็โรคจิตเนาะไม่ชอบเสาร์-อาทิตย์ คนเยอะ  เลยต้องลางานอีกอยู่ดี.. 5555555     จากคุณ : Hutchama - [ 15 มี.ค. 52 12:00:31 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ขี้เกียจพูด ขี้เกียจเล่า เดี๋ยวจะถูกหาว่า คนแก่ชอบเล่าความหลัง แต่ผมก็ทำอย่างคุณนั่นแหละ เพียงแต่ทำงานยาวนานหน่อย และตอนลาออกแทบไม่เหลือเงินในธนาคารเลย แต่ก็ออกมาเที่ยวจนได้ ระหกระเหินไปเรื่อยเรื่อย ทำงาน ลาออก เที่ยว ทำงาน สลับกันไป จนในที่สุด เห็นงานที่ทำแล้วได้เที่ยวไปด้วย ก็เลยลาออกจากงานประจำ มาทำ Freelance เกือบตายห่าตอนแรกแรก สามสี่ปีแรกนั่นแหละ เพียงแต่ได้เที่ยวไปเกือบรอบโลกเท่านั้น แต่ก็ไปแบบกระเบียดกระเสียนนะ พอถึงเวลา ทุกอย่างมันก็มาเอง รายได้สูงขึ้น เวลาเหลือมากขึ้น ปัจจุบัน ไม่มีหนี้สินเลย นอกจากบัตรเครดิตที่ชำระหมดทุกเดือน อยากไปไหน ก็ไปได้ ไปอย่างสบายด้วย กินนอนสบายสบาย ทุกระดับที่ต้องการ แต่กว่าจะถึงขั้นนี้ เฮ้อออออ!!! เหนื่อยเหมือนกันแฮะ ถ้าเป็นคนคิดมาก อาจจะฆ่าตัวตายไปแล้ว แต่เผอิญผมไม่ใช่คนเครียด หรือคิดมาก เลยรอดมาได้ และอยู่มาได้จนถึงวันนี้ อยากทำอะไร ไม่มีใครเดือดร้อน ก็ทำไปเถิดครับ ชีวิตของเราก็สั้นนิดเดียวเอง จากคุณ : xebec - [ 15 มี.ค. 52 12:01:06 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ไม่อยากจะเล่า มันออกแนวเรตเกินไป(เรื่องจริง ไม่ได้โม้) เป็นกำลังใจให้นะ จากคุณ : ไอ้แล่ด - [ 15 มี.ค. 52 12:03:22 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เคยไหมครับ เจ้านายจะเลื่ิอนตำแหน่งให้  พร้อมไปเทรนงานเมืองนอก แต่ดันโง่ลาออก ผมนี่แหละ ตอนนี้หวนนึกถึงแล้วก็ตลกดี จากคุณ : นักฆ่าดาบเดียว - [ 15 มี.ค. 52 12:03:36 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ไม่เคยถึงขั้นนั้น แต่ในสายตาหลายคน เห็นตรงกันว่าบ้ากว่าคุณเยอะ บ้าไม่บ้า?? อยู่ๆ เรียนจบ ปวช. ก็ไม่ยอมเรียนต่อเพราะอยากทำงาน ก็ไม่สนใคร ตูจะทำงานหาเงินเฟ้ย บ้าไม่บ้า?? ทำงานเงินเดือนเงินเดือนซื้อทองได้ 3 บาท อยู่ๆ ก็กลับมาเอ็นท์สะท้านฟ้าตอนวัยเฉียด 20 ก็ตูอยากเรียนหนังสือนิ แล้วก็ลาออกจากงาน จบมาได้เงินเดือนซื้อทองยังไม่ได้สักบาท บ้าไม่บ้า?? ทำงานราชการมั่นคงมั๊ง ก็ลาออกมาเรียนปริญญาโท จบมาได้งานเงินเดือนก็ยังซื้อทองไม่ได้สักบาทอยู่ดี ขณะที่เพื่อนเก่าๆ สมัยปวช. กลายเป็นผู้บริหารแล้ว เพื่อนสมัยมหาวิทยาลัยเป็นระดับผู้ช่วยผู้จัดการกันหลายคนแล้ว บ้าไม่บ้าไม่รู้ แต่ชีวิตมีความสุขเพิ่มขึ้นทุกวัน เพื่อนเก่าๆ มาเจอทุกคนทักว่า ดูสดใสร่าเริงกว่าเมื่อก่อนมาก หลายคนคิดว่า inlove ทั้งๆ ที่ก็อยู่ตัวคนเดียวกับ 2 หาง ดีใจที่ตัวเองรู้ตัวได้เร็วกว่าคนอื่นว่า "เงินทำให้ชีวิตมีความสุขที่แท้จริงไม่ได้" แม้จะอยู่ในภาวะที่มีหนี้สินท่วมตัวก็ตาม ฉะนั้นสิ่งที่สำคัญคือไอ้ที่คุณทำมา "คุณมีความสุข?" และคุณก็ยังไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน? ถ้าใช่ก็ไม่เห็นต้องรู้สึกแย่ ความสุขแต่ละคนและแต่ละช่วงวัยมันไม่เหมือนกันนิ แก้ไขเมื่อ 15 มี.ค. 52 12:08:19 จากคุณ : เสียงลมหนาว - [ 15 มี.ค. 52 12:03:56 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เคยแต่ไม่ถึงขั้นคุณน่ะครับ... ยังไงก็ขอให้ได้งานใหม่เร็วๆน่ะครับ... ผมว่าไม่ผิดหรอกครับ ผมก็อยากทำให้ได้เท่าคุณ ฮ่าๆๆๆ จากคุณ : Foo!-jung - [ 15 มี.ค. 52 12:14:19 ]

ความคิดเห็นที่ 19 อ่านแล้ว ก้อบอกเลยว่า บ้าดีนะ แต่ บ้าผิดเวลา เพราะว่า ศก. ยามนี้ น่ากลัว lay off กันเป็นว่าเล่น  ช่วงงานหายากเนี่ย ไม่ควรทำไรบ้าๆแบบนี้เลย มันอาจจะกระทบชีวิตเราได้ ถ้าเป็นช่วงศก. ดีๆรับโบนัสปลายปี แล้วหางานใหม่รอไว้ หาช่วงว่างหลังจากลาออก ซัก 1 เดือน เที่ยวให้พอใจ แล้วก้อเริ่มงานใหม่ หลังจากเที่ยวเสร็จ แบบนี้ perfect กว่า จำไว้ว่า ทำไรไม่คิดหน้าคิดหลัง ครอบครัวเราจะเดือดร้อน ช่วงนี้ ให้ไปลงทะเบียนรับเงินจาก ประกันสังคมด้วยนะครับ อย่างน้อยได้เงิน 6500 ต่อเดือน ไปครึ่งปี แล้วก้อหางานใหม่ให้ได้หล่ะ   ******* มุมเล่าเรื่อง  ผมก้อมีเพื่อนคนนึง เค้าเป็นเหมือน จขกท. นี่แหละ อารมณ์ศิลปินสุดๆ แบบว่า ทำงานๆไป week ไหนอยากไปเที่ยวก้อไปเลย / วันไหนเดินๆห้าง เห็น furniture ชอบปุ๊บ ซื้อเลย บางวันเห็น TV LCD ก้อซื้อเลย / มีอยู่วันนึง มันไปดู คอนโดแล้วชอบ ซื้อเลยเหมือนกัน หลังจากไหน อีกไม่กี่เดือน ไปดูรถ mazda เห็นปุ๊บชอบ เลยซื้อเลย ทั้งที่รถคันเดิมใช้แค่ 4 ปี หลังจากนั้น 1 ปี ก้อเบื่อๆ ลาออกจากงาน ไปเรียน ที่ NZ ก้อตัดสินใจขายรถคันนั้นไปเลย แล้วก้อไปเรียนต่อ เรียนมาได้ซักพัก บอกว่า เบื่อ...  ไม่เอาแล้ว ตอนนี้กลับมาเมืองไทยละ กำลังหางานอยู่เหมือน จขกท. นี่แหละ จากคุณ : muangsombut - [ 15 มี.ค. 52 12:18:01 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เคย"คิด"อยากจะทำ แต่เปอร์เซ็นต์ความเป็นไปได้ที่จะทำไม่ถึง 10% พูดตรงๆนะคะ สำหรับเรา งานคือเงินและอนาคต จริงอยู่ว่ามันอาจจะดูดพลังชีวิตและเวลาเราไปมากกว่า 80% ที่เหลือแค่กินกับนอนก็หมดแล้ว ชีวิต... แต่เราคิดในแง่กลับกัน ถ้าเราลาออกมา ไปเดินทาง ท่องเที่ยว ตอนเที่ยวๆอยู่เนี่ย แทนที่จะผ่อนคลาย เราคงจะกังวลซะมากกว่า ไหนจะเรื่องเงิน เรื่องความรู้สึกพ่อแม่ อนาคต ฯลฯ สู้ทำงาน อดทนเหนื่อยหน่อย พยายามปรับตัวปรับใจให้มีความสุขกับมัน ถึงจะยาก .. แต่สิ้นเดือนมีเงินเดือน สิ้นปีปีมีโบนัส มีพักร้อนให้เลือกใช้ได้ตามต้องการ มันก็น่าจะดีกว่านะคะ คิดเอาเองว่าจขกท.ก็น่าจะยังอายุไม่มาก หางานใหม่ตอนนี้ก็ยังทัน เศรษฐกิจแย่ก็จริง แต่อัตราหมุนวียนในบริษัทมันก็ยังมีอยู่ เพื่อนๆเราลาออกไปเรียนกันให้ควั่ก เพราะงานเยอะขึ้นหนักขึ้น แต่ดันไม่รับเด็กใหม่ๆมาช่วยแบ่งเบานี่สิ ไม่มีอะไรเกินความพยายามของคนเราหรอกค่ะ ยิ่งถ้ามีประสบการณ์ด้วยแล้ว ยิ่งได้เปรียบนะคะ จากคุณ : ฟรุตตี้ชอคโกแลต - [ 15 มี.ค. 52 12:34:06 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เคยเรียนไปด้วยทำงานไปด้วย ไม่เคยไปเที่ยวไหนเลย เคยทำงานออฟฟิศมา 6 ปี ไม่เคยไปเที่ยวไหนเลย ตอนนี้ลาออกแล้ว มาทำกิจการส่วนตัว ทำมั้ง หยุดมั้ง หยุดยาวๆ ไปเที่ยวได้บ่อยๆ ชีวิตก็แค่นั้น อย่าไปคิดถึงอดีต อนาคตให้มากๆ ใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบันให้มีความสุขก็พอครับ อายุคุณยังน้อย โอกาสก็ยังเยอะอยู่ เรียนก็จบแล้ว ดีซะอีก ช่วงนี้ก็เอาเวลาว่างที่มี ไปหาประสบการณ์ ความรู้เพิ่มเติม เห็นมีอบรมโน้น อบรมนี้ อยู่บ่อยๆ เผลอๆ อาจจะให้อะไรๆ กับชีวิตเรา มากกว่าการทำงานออฟฟิศซะอีก ไม่ลองไม่รู้นะครับ "ชีวิตมันสั้น แค่เพียงกะพริบตา ถ้าเราทำอะไรแล้วมีความสุข และคนอื่นไม่เดือนร้อนกับการกระทำของเรา ก็ทำไปเถอะครับ" ที่เหลือก็ช่างมัน!!!! ^________________^ จากคุณ : โยไก (โยไก ชไนเดอร์) - [ 15 มี.ค. 52 12:59:55 ]

ความคิดเห็นที่ 22 มาถามห้องบลูก็จะได้คำตอบดีดีสัก 90 % ลองไปถามห้องสินธรหรือสีลมซิ....หนีกลับมาบลูแทบไม่ทัน ผมเองก็..เที่ยวเป็ยงานหลัก ... หากินเป็นงานอดิเรกครับ ส่วนตัว.... ตอนอายุ 28 เงินเดือน 3 หมื่นกว่า ทำงานทีวีช่องหนึ่ง อนาคตสดใส ใครๆอิจฉา ลาออก....เที่ยว ตอนนี้ผ่านมา 3 ปีกว่าๆ มีความสุขกับการเดินทาง เขียนหนังสือ ถ่ายรูป...หาเงินด้วยวิธีอื่น เป็นเจ้านายตัวเอง อยากหยุดก็หยุด อยากทำก็ทำ ปัจจุบันมีเงินต่อเดือนมากกว่าตอนทำงานอยู่ แถมเที่ยวได้ทุกเวลาที่ต้องการ จากคุณ : kadeng - [ 15 มี.ค. 52 13:03:03 ]

ความคิดเห็นที่ 23 แบบเราไง จบมาไม่ทำงาน พ่อแม่ด่า เอาแต่เที่ยว ขับรถเล่น ถ่ายรุปเล่นกับกล้องคอมแพคตัวเล็กๆ โดดเรียนอีก แต่โดดไปห้องสมุด เกือบจะจบไม่ทันรุ่น แต่เงินเที่ยวไม่ได้ขอ เก็บเองตั้งแต่ปี1ทำงานฝึกงาน เก็บๆๆ ใช้ประหยัดๆ จบมาอยากทำไรทำ ไปกางเต็นทนอนคนเดียวบ่อยๆตามป่าเขา ไปถ่ายรูปคนเดียว ตอนรู้ว่าจบแล้วนะ อิสระลอยมาเลย ยัดของใส่รถ ไปเขาใหญ่คนเดียวเลย ไม่ไปหรอกฉลองกะเพื่อนๆน่ะ เป็นอะไรที่สุขล้นหัวใจมาก  ที่ไม่ต้องทำอะไรตามวิถีของสังคมกำหนด ว่าเรียนจบต้องทำงานประจำ แต่ใช้เวลาปีนึง ทำอะไรที่อยากทำ จนตอนนี้ค้นหาเจอตัวเองว่าอยากทำอะไร คือถ่ายรูป แล้วสิ่งที่เราชอบ ก็กลายเป็นงานที่ทำแล้วมีความสุข คนเห็นงานเราก็มีความสุข ตอนนี้เลยเป็นว่า ชีวิตเราเราเป็นคนกำหนดเองทุกอย่าง เที่ยวเมื่อไหร่ก็ได้ แตต้องใช้ชีวิตบนพื้นฐาน ความพอเพียง เราเชื่อว่า สิ่งที่บ้าๆที่นายทำ เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีให้กับชีวิตเลยนะ จากคุณ : คนหัวฟู - [ 15 มี.ค. 52 13:04:19 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ชีวิตวัยรุ่นน่ะดี... แล้วชีวิตคนรอบตัววัยรุ่นน่ะ... ถ้าเค้าไม่ต้องพึ่งเรามันก็ดีครับ จากคุณ : กังป๋วย - [ 15 มี.ค. 52 13:23:37 ]

ความคิดเห็นที่ 25 เที่ยวอย่างเดียว...ไม่ทำงาน สักวันก็เบื่อ ทำงานอย่างเดียว...ไม่เที่ยวเลย..แก่ก่อนวัย แน่ ๆ อยู่อย่างสมดุล....ชีวิตมีความสุข... อยากมีความสุข...ต้องรู้ว่าสุขอยู่ที่ไหน... สุขของใคร...สุขของมัน...สุขของฉันอยู่ที่....(ไม่บอกหรอก) จากคุณ : G-center - [ 15 มี.ค. 52 13:51:13 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ไม่เป็นไรนะคะ เอาใจช่วยคะ เราก็เที่ยวบ่อยๆเหมือนกันแต่ก็ทำงานด้วย ความฝันก็มีแต่ก็ต้องอยู่กับความเป็นจิงด้วยนะคะ สู้ๆๆๆ  ^^ จากคุณ : belong to me - [ 15 มี.ค. 52 14:04:56 ]

ความคิดเห็นที่ 27 จริงๆความสุขมันก็อยู่ที่ตัวเราอ่ะ ไม่ต้องออกไปไขว่คว้าที่อื่นก็ได้ หน้าที่ของเราต่างหากที่เราต้องรับผิดชอบให้ดี อย่าให้คนที่รักเราต้องผิดหวังในตัวเรา ที่สำคัญไม่ต้องเปรียบเทียบกับคนอื่นหรอก ว่าเค้าได้เป็นนั่นเป็นนี่ เรายังเป็นอยู่อย่างนี้ ถ้าเราเทียบกะคนอื่นเค้า เราก็ต้องเทียบไปเรื่อยไม่มีวันจบสิ้นอ่ะ บอกแล้วว่าความสุขมันอยู่ที่เรานี่แหละ ขอแก้ไขหน่อยหลังจากเขียนไปแล้วรู้สึกว่าไม่ได้อยากเขียนแบบนั้น & แก้คำผิด แก้ไขเมื่อ 15 มี.ค. 52 14:46:52 แก้ไขเมื่อ 15 มี.ค. 52 14:46:02 แก้ไขเมื่อ 15 มี.ค. 52 14:18:40 จากคุณ : nancifer - [ 15 มี.ค. 52 14:17:20 ]

ความคิดเห็นที่ 28 คนเราไม่ได้โชคดีอย่างคนที่มาตอบกระทู้นี้เสมอไปค่ะ.. หลายท่าน..สามารถเปลี่ยนชีวิตตนเองได้ หลายท่าน..ค้นพบความสุขของตนเอง หลายท่าน..ลาออกแล้วยังมีความสามารถในการเปิดกิจการของตนเอง หลายท่าน..ก้าวช้ากว่าคนอื่น แต่สามารถเดินแซงหน้าคนอื่นได้ แต่อีกหลายๆคนที่ไม่โชคดีเช่นนี้ค่ะ บางครั้งความคิดชั่ววูบก็ดับอนาคตของตนเองได้เช่นกันนะคะ หลายท่านอาจโชคดีที่ลาออกแล้วตั้งตัวได้ ไม่ว่าจะเพราะโชค ดวง หรือฝีมือ แต่ยังมีอีกหลายคนที่ไม่สามารถกลับมายืนหยัดได้เช่นเดิม แมงฯว่าทางที่ดีที่สุดก่อนจะทำอะไรก็คิดไตร่ตรองกันสักนิดก่อนว่า ถ้าลาออกมาแล้ว ด้วยความสามารถของคุณนั้น.. คุณจะเริ่มต้นใหม่ได้หรือไม่? คุณมีคนช่วยเหลือหรือไม่? คุณมั่นใจมากแค่ไหนว่าความสามารถที่คุณมีจะช่วยให้คุณตั้งต้นใหม่ได้อย่างไม่ลำบาก? และสิ่งที่ควรตระหนักมากที่สุดคือ "ครอบครัว" ค่ะ หากพ่อแม่คุณอยู่ได้โดยไม่ต้องพึ่งพาคุณ ท่านสามารถดำรงชีวิตได้อย่างไม่เดือดร้อน ก็ทำตามใจตนเองไปเถอะค่ะ  แต่หากพ่อแม่คุณยังต้องอาศัยพึ่งพาคุณอยู่ แมงฯก็ไม่เห็นด้วยกับการทำตามใจตนเองแบบนี้ค่ะ อย่าลืมนะคะ หากคุณท่องเที่ยวได้จนหนำใจแล้ว กลับมาเจอสภาวะตกงาน หางานใหม่ไม่ได้ เงินได้ไม่มี ..คุณจะไม่ใช่คนเดียวที่เดือดร้อนค่ะ เงินได้ไม่มี คุณจะเอาเงินที่ไหนประทังชีวิตคะ? พ่อแม่ก็คงไม่ทอดทิ้งคุณอยู่แล้ว แต่การต้องมาให้ท่านเลี้ยงดูคุณต่ออีก (ทั้งที่คุณเคยมีงาน มีเงินอยู่ดีๆก็ลาออกไปเที่ยว) มันดูไม่ดีเลยค่ะ  แต่หากพ่อแม่มีเงินถุงเงินถังก็อีกเรื่องนึงค่ะ อารมณ์ติสต์มันก็ดีค่ะ ได้เที่ยวมันก็ดีค่ะ แต่ก่อนจะทำอยากให้คิดเยอะๆก่อนน่ะค่ะ (^^) ** จากคุณ : แมงป่องหางด้วน - [ 15 มี.ค. 52 14:54:01 ]

ความคิดเห็นที่ 29 เห็นด้วยกับคุณแมงป่องหางด้วนค่ะ มันต้องหาจุดพอดีระหว่าง "ความเหมาะสม" กับ "ความพึงใจ" สำหรับตัวเราเอง จะใช้ชีวิตโดยมีคติที่ว่า "ชีวิตทุกๆ วันต้องมีความสุข แต่ก็ต้องอยู่ในความไม่ประมาท" คือไม่ทรมานตัวเอง ขับตัวเอง ทำงานจนเป็นบ้า เพื่อคิดว่าอีกหน่อยจะดีเอง จะมีความสุข วันนี้ทนไปก่อน เพราะเราคิดว่า เกิดตายก่อนได้หาความสุข ก็ไม่คุ้ม แต่ขณะเดียวกัน ในการหาความสุข ออกไปเที่ยว หาประสบการณ์ เราก็ต้องคิดเผื่อเหตุการณ์ไม่คิดฝันหลายๆ อย่างด้วยว่า ถ้ามันเกิดขึ้น จะเป็นไง หาความพอดีให้ตัวเองค่ะ สำหรับ จขกท ตอนนี้ก็ลองมองหาจุดสมดุลของตัวเอง ทบทวนชีวิตที่ผ่านมา และลองคิดคำนึงถึงอนาคตต่อไป ว่าจะยังไงดี อะไรที่เคยทำมา ดีไม่ดี เราบอกไม่ได้เหมือนกัน มันอาจจะเป็นสิ่งดีสำหรับคุณก็ได้ ขอให้โชคดีสำหรับก้าวต่อไปนะคะ เพราะเราก็ยังคิดว่า ไม่มีใครสามารถรู้ผลการกระทำในวันนี้ได้ถ่องแท้เต็มร้อยแน่นอนค่ะ อนาคตคือการผจญภัยที่เราต้องค้นหาอีกนาน.. จากคุณ : MaNgKoOd - [ 15 มี.ค. 52 15:33:01 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ขออนุญาต นำเรื่องจาก หนังสือ อสท.มาเล่าต่อน่ะครับ นักธุรกิจหนุ่มเพิ่งจะมีโอกาสได้ไปเที่ยวพักผ่อนในหมู่บ้านชายทะเลอันเงียบสงบหลังจากธุรกิจทรุดเพราะภาวะเศรษฐกิจโลก  ทำให้เค้ามีเวลาว่างสำหรับการพักผ่อนสบายๆเช่นนี้ หลังจากเครียดอยู่กับความวุ่นวายในประเทศ  เขาเดินสัมผัสความนุ่มละมุนของผืนทราย สูดรับเอาสายลมอันชื่นเย็นของท้องทะเลอย่างมีความสุข "มาพักผ่อนหรอพ่อหนุ่ม" ชายชราผิวคล้ำใบหน้ากรำทะเลที่นอนบนเปลยวนใต้ต้นมะพร้าวเอ่ยทักเค้า "ครับ  แล้วลุงไม่ออกหาปลาหรอวันนี้" "เมื่อเช้าออกไปกู้ลอบได้ปลามาพอกินแล้ว พ่อหนุ่มแบ่งไปกินบ้างก็ได้น่ะ" "แล้วตอนบ่ายลุงไม่ออกหาปลาแล้วหรอ" "พอแล้ว  แค่นี้ก็พอกิน พอแบ่งปัน หาได้มากกว่านี้ก็ไม่รู้จะเอาไปไหน" "อ้าว...ลุงก็เอาไปขายในตลาดไง จะได้เงินมาเยอะๆไงล่ะ" "ได้เงินมาเยอะๆ ลุงก็ไม่รู้จะเอาไปทำอะไร" "ลุงก็เอาไปซื้อเรือใหญ่ อวนดีๆ จับปลาได้เยอะๆ แล้วก็เอาปลาที่จับมาไปขาย ได้เงินมามากขึ้นไปอีก ยิ่งมีมากขึ้นก็ซื้อเรือใหญ่ขึ้น ลุงก็จะได้จับปลามากขึ้นไปอีก" นักธุรกิจหนุ่มคุยอย่างออกรสชาติ เขาพยายามเรียบเรียงเป็ฯคำพูดง่ายๆเพื่อแนะนำกับชายชราให้เข้าใจทั้งๆที่อยากจะยกทฤษฎี  บลูโอเชี่ยน เรด โอเชี่ยน  แต่ก็ยั้งไม่ได้พลั้งปากพูดไป ผู้เฒ่าแห่งท้องทะเล นิ่งฟังชายหนุ่มอธิบาย ก่อนที่จะถามว่า "แล้วจะหาเงินไปมากๆ เพื่ออะไรกันล่ะพ่อหนุ่ม" ชายหนุ่มสูดหายใจแล้วตอบกลับ "ถ้าลุงมีเงินเยอะๆลุงก็จะได้สบาย ไม่ต้องออกไปตรากตรำทำงานหนักในท้องทะเล ลุงจะได้นอนเล่นอยู่กับบ้านสบายๆ" ชายชราแห่งท้องทะเลอมยิ้ม   แล้วก็พูดขึ้นว่า "นอนสบายๆอย่างที่ลุงกำลังทำอยู่นี่ใช่หรือเปล่าพ่อหนุ่ม" ขอบคุณเรื่องดีๆจาก อสท.น่ะครับ ขอร้องเถอะครับ  อย่าให้เงินมาก่อนความสุขเลย จากคุณ : หุบเขากินคน - [ 15 มี.ค. 52 16:27:04 ]

ความคิดเห็นที่ 31 มีคนเคยตั้งกระทู้แนวๆ นี้บ่อยไป ในห้อง BP แล้วเสียงส่วนใหญ่ก็สนับสนุนให้ออกไปเที่ยว เพื่อเก็บเป็นกำไรชีวิต เพราะเข้าใจ๊ เข้าใจ หัวอกคนชอบเที่ยวด้วยกัน และเราก็เป็นหนึ่งในนั้น... แต่ไม่แน่ใจว่าคนทั่วๆไปที่เค้าไม่ได้เล่นห้องนี้ เค้าจะเห็นดีเห็นงามไปกับการลาออกจากงาน แล้วไปเที่ยวเรื่อยเปื่อยแบบไม่มีจุดหมาย ไม่นึกถึงอนาคตแบบนี้รึเปล่านะ เพราะจากประสบการณ์ที่ผ่านมา เราโดนคนรอบข้างถากถางเรื่องนี้มาเยอะ แต่ก็เลิกเอามาใส่ใจตั้งนานแล้ว ยังคงตั้งหน้าตั้งตาเที่ยวเป็นงานหลักอยู่เหมือนเดิมค่ะ.. อันนี้คือความเห็นจาก กระทู้นี้ http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E7448853/E7448853.html จากคุณ : tucktan - [ 15 มี.ค. 52 17:26:06 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ในชีวิตตอนนี้เราก็ยังคิดว่าตัวเองเป็นวัยรุ่นอยู่นะ แต่ไม่เคยทำแบบคุณหรอก เพราะเรายังไม่ได้ทำงาน จบป.ตรีมา ก็ต่อโททันที  ตอนนี้ก็ใกล้จะจบเต็มทีแล้ว แต่ยังไม่เคยได้ไปเที่ยวไหนเลย ไปแค่ใกล้ๆ เช่น เขาใหญ่ พัทยา จริงๆ ก็ไปได้  แต่ติดเวลาว่างของเพื่อน กว่าจะนัดรวมตัวกันได้แต่ละที  ยากมาก ถ้าจะไป  ก็อยากไปเฉพาะก๊วนเดียวกัน   เฮฮามีความสุข มีความฝันอยากไปเที่ยวหมดเลยทุกที่  แต่ตอนนี้อยากทำงานหาเงินก่อน อยากมีเงิน  แล้วถึงตอนนั้น  เพื่อนถึงไม่ว่าง ก็ไม่ว่าและ จะไปเองก็ได้ ไปมันที่ที่เพื่อนทำงานนั่นแหละ ต่างจังหวัดนู่นนี่  หรือประเทศลาวมั่งอะไรมั่ง แอบคิดนะว่าตอนเราเรียนมัธยม  เรายังได้ไปเที่ยวเยอะกว่าตอนเรียนมหาลัยอีก จะไปเสม็ด ก็เก็บเงินกันวันละ 10 บาทตั้งแต่ต้นเทอม มีเจ้าหน้าที่รับหน้าที่เก็บเงินเพื่อน (ก็คือเพื่อนเราเองนี่แหละ) พอปลายเทอมก็เช่ารถบัสไปกันหมดห้อง ขนของกันไปจากบ้าน  อาหารก็ซื้อที่ตลาดไปทำกินกัน คิดแล้วก็อยากกลับไปเห็นบรรยากาศแบบนั้นอีก แต่ตอนนี้ต่างคนต่างมีภาระหน้าที่การงานรับผิดชอบ  ว่าแล้วก็อยากจัดซักทริป จากคุณ : ม๊าว มาว - [ 15 มี.ค. 52 17:39:46 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ผมว่าดีออกที่คิดทำสิ่งที่ฝันซะแต่ตอนนี้ บางคน เรียนจบก็รีบทำงาน คิดว่ามีเงินแล้วค่อยเที่ยว ทำไปๆ พอเริ่มมีเงิน ก็คิดว่างานก้าวหน้ากว่านี้ก่อนแล้วค่อยเที่ยว พอเริ่มมียศมีตำแหน่งแล้ว คิดจะเที่ยวก็ไม่ได้ ต้องเก็บไว้แต่งงานสร้างครอบครัว พอแต่งงานแล้ว ก็ยังเที่ยวไม่ได้ ต้องเก็บเงินไว้เลี้ยงลูกอีก พอลูกโต ออกจากบ้านหมดแล้ว ก็เที่ยวไม่ได้ เพราะแข้งขาหูตาเริ่มเสื่อมซะแล้ว.... แล้วเราจะทำตามฝันเมื่อไหร่กันนี่ จากคุณ : Ethanol - [ 15 มี.ค. 52 18:27:59 ]

ความคิดเห็นที่ 34 มองหาแง่ดีซิ ไม่เจอก็ขุด ๆ ๆ มันขึ้นมา จากคุณ : Dr.boyze - [ 15 มี.ค. 52 18:39:52 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ตั้งแต่เรียนจบ เราก็ทำงานมาตลอดเลยค่ะ เคยมีความคิดแว้บๆ ว่า อยากทำแบบที่คุณ จขกท. ทำบ้างจัง แต่ความคิดแว้บๆ นี้ก็สลายไปพร้อมๆ กับคำพูดของพ่อที่ว่า "ถ้าทำแบบนี้ พ่อจะย้ายออกจากบ้านไปนอนในห้อง ICU ของโรงพยาบาล" แก้ไขเมื่อ 15 มี.ค. 52 20:52:24 แก้ไขเมื่อ 15 มี.ค. 52 20:43:53 จากคุณ : ThE BooK@HoLiC - [ 15 มี.ค. 52 20:42:39 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ก้อไม่ได้ถึงขั้นลาออกนะคะ  แต่ก้อบ้าบอเป็นประจำ เอาแต่ใจตัวเองเปนที่สุด  เวลาชวนเพื่อน เพื่อนก้อไปด้วยบ้าง ไม่ไปบ้าง แต่ถ้าเพื่อนชวนนะไม่เคยที่จะปฏิเสธ  จนเพื่อนบอกว่า " ปฏิเสธบ้างก้อได้นะ" อ่าว *_*  ก้อคนมันอยากไปอ่ะ ประมาณว่าเป็นคนขี้เหงาเอามาก มาย  ไปไหนได้ไปหมดเลยค่ะ จนบางทีเพื่อน ๆ มันก้อห่วงอ่ะ ไม่รู้ว่าช่วย จขกท ได้บ้างรึป่าว  แต่เราว่าคนเรามันเริ่มใหม่ได้ค่ะ   แก้ไขเมื่อ 15 มี.ค. 52 20:44:59 จากคุณ : JenNyExecutive - [ 15 มี.ค. 52 20:42:45 ]

ความคิดเห็นที่ 37 อายุพอกันเลย จบมาทำงานออฟฟิศอยู่ปีครึ่ง ตอนลาออกจากงานเงินเดือน 22k แม่แทบตัดออกจากความเป็นลูก แทบเข้าไปกราบเท้าแม่ในตอนแรกที่ธุรกิจขลุกขลักอยู่ 3 เดือน แต่เราไม่ได้ออกมาเที่ยวนะ เราแค่ออกมาทำธุรกิจที่ไม่อยู่ในสายงานเดิมเลยเท่านั้นแหละ ตอนนี้ทำธุรกิจมาได้ปีครึ่งแล้ว ซื้อรถ ผ่อนบ้าน เอาหนี้สินแม่มาชดใช้ให้เองได้ อยากไปเที่ยวยาวๆก็หยุดได้เพราะเป็นเจ้านายตัวเอง สบายใจมากๆ...  ทั้งนี้ อยากบอกเจ้าของกระทู้ว่า ทุกๆอย่าง ลำบากมาก่อนสบายทั้งนั้น ตอนนี้อยากให้เจ้าของกระทู้หวนคิดถึงความสบายของแม่และครอบครัว เริ่มต้นใหม่ พอถึงเวลาที่เหมาะสมแล้ว เราก็จะมีเวลาไปเที่ยวเองค่ะ สู้ๆนะ จากคุณ : BadbadGirl - [ 15 มี.ค. 52 20:58:58 ]

ความคิดเห็นที่ 38 บางครั้งก็อยากจะทำแบบ จขกท.บ้าง เบื่องานมากๆอยาก ที่จะทำอะไรที่ตัวเอง ต้องการไปเลยแต่คิดวิจารณาแล้วว่าจะเอาอะไรกิน ถึงจะตัวคนเดียวก็เถอ............. จากคุณ : PHUPAYA - [ 15 มี.ค. 52 20:59:45 ]

ความคิดเห็นที่ 39 เคยน๊อตหลุดเมื่อ 3 ปีก่อนค่ะ เบื่อคนแค่คนเดียวในออฟฟิศ เลยลาออก ปรากฎว่าช่วงนั้นเป็นช่วงใกล้ปลายปีพอดี เปิดเว็บพันทิพงานเนี่ยแหละค่ะ เจอประกาศรับสมัครพนักงาน Part time ของร้านอาหาร และรีสอร์ทที่ปายพอดี เลยสมัครไป เจ้าของไม่ค่อยกล้ารับ เพราะเงินเดือนตอนนั้นค่อนข้างสูงกว่างานประเภทนี้ เลยโทรไปบังคับให้เขารับค่ะ ไม่สนใจเท่าไหร่ค่ะ ว่าจะได้เงินเท่าไหร่ ไปใช้ชีวิตเป็น Barista, ไกด์เถื่อนของรีสอร์ทอยู่ประมาณ 3 เดือน และค่อยกลับมากรุงเทพฯ ค่ะ ช่วงนั้นก็แค่อยากรู้ว่าปายมีอะไร ได้ประสบการณ์ใหม่ ๆ ได้เพื่อนใหม่ ๆ ได้เที่ยว ได้เงินด้วย แต่ตอนนี้คงกลับไปทำแบบนั้นไม่ได้อีกแล้วค่ะ ชีวิตคนเราต้องดำเนินต่อไปค่ะ แต่อะไรก็ไม่แน่นอนค่ะ ถ้าเบื่อชีวิตออฟฟิศอาจลาออกมาทำอะไรแผลง ๆ อีกก็ได้ค่ะ จากคุณ : ~ Gloomy Bear ~ - [ 15 มี.ค. 52 21:21:00 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ถ้าอีกสิบปีผ่านไปคุณจะไม่เสียดายเลย ดีใจที่มีโอกาสได้ทำแบบนั้นซะอีก จากคุณ : jin-ka - [ 15 มี.ค. 52 21:37:45 ]

ความคิดเห็นที่ 41 น่าอิจฉาจัง กล้าออกจากกรอบ เราไม่กล้าทำแบบนั้นอ่ะ จะเที่ยวทีก็ต้องวางแผนเยอะแยะไปหมด อยากเที่ยวแบบไปเรื่อยๆ มั่งจัง จากคุณ : Tai-mOn - [ 15 มี.ค. 52 22:11:04 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ไม่ได้อ่านทุกคอมเม้น?นะ แต่อยากตอบ... ไม่มีคำว่าผิดถูกหรอก ..การเดินทางของชีวิต คนที่มีบัญชีเงินฝาก เหลือแต่ละเดือนไม่ถึงร้อย แต่ถ้าดัชนีความสุขของชีวิตมากมายนับไม่ถ้วน ก็ทำไปเถอะ ขอแต่เอาชีวิตรอดได้ การเป็นยาจกใช่จะจนเสมอไป... ชีวิตน้องเหมือนพี่เลย... จากคุณ : Sugarbean - [ 16 มี.ค. 52 10:15:11 ]

ความคิดเห็นที่ 43 อิจฉานะ อยากทำไรบ้าๆแบบนี้บ้าง เบื่ออยู่ในกรอบเต็มทน เมื่อไหร่จะได้เป็นนายตัวเองซะทีน้อ จากคุณ : snow_L - [ 16 มี.ค. 52 13:26:25 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ไม่รู้ว่าบ้ารึป่าวนะ พอดีเซ็งๆเครียตเรื่องงาน+คน อีกอย่างเจอโปรฯไปเมลเบิร์นของJetstar ไป-กลับหมื่นกว่าบาท + มีเพื่อนอยู่ที่นั่นก็คิดสั้นๆว่าอย่างเลวร้ายสุดก็น่าจะพอรอด เลยจองตั๋วไปแบบไม่ได้คิดรอบคอบอะไร  ตอนไปเนี่ยเงินก็ไม่ค่อยมี ตอนขอVisa เนี่ยลุ้นสุดๆประมาณเอาสมุดไปโชว์ตอนเช้า บ่ายถอนออกเกือยหมด  Backpackไปคนเดียว ไปก็ผจญภัยดีครับ ภาษาอังกฤษชั้นอนุบาลก็พอถูๆไถๆ อยู่กินก็เขียมสุดๆ แต่ก็ได้อีกรสชาด โชคดีพอดีเจอน้องคนนึงทำงานอยู่ที่โน่น บนเครื่องบินคุยกันถูกคอ พอไปถึงน้องเค๊ามีรถก็อาสาพาขับรถเที่ยว(ผมออกค่าน้ำมัน) ได้ไปเก็บเชอรี่ที่สวน ขับเข้าอุทธยานแห่งชาติ เจอจิงโจ้วิ่งตัดหน้า ฯลฯ ไปช่วยเพื่อนอีกคนที่อีกเมืองทำร้านอาหาร จากแรกๆก็อยู่บาร์น้ำ หลังๆไปช่วยผัดทำอาหารให้ฝรั่งกิน  ตอยอยู่บาร์น้ำน้องเพื่อนก็ผสมCocktail ให้ลองหลายๆสูตร เล่นเอาล้างแก้วไปกรึ่มๆไป55 เพื่อนเลยตอบแทนขับรถพาไปเที่ยวอีกหลายเมืองรอบๆ ที่จำได้มีจีลอง แถมยังโชคดีช่วงนั้นมีนิทรรศการโชว์ต้นฉบับของปรมาจารย์การ์ตูนญี่ปุ่น เทสึกะ โอซามุ (คนวาดเจ้าหนูอะตอม หมอแบล็คแจ๊ค ฯลฯ คอการ์ตูนน่าจะรู้จักน่ะครับ)นึกขึ้นมาแล้วก็สนุกดีครับ อยู่2อาทิตย์ มีความสุข+ทุกข์ไปอีกแบบ กลับมาเนี่ยรักเมืองไทย รักเชียงใหม่(บ้านผม)ขึ้นอีกบาน  แม้ว่าหลายๆอย่างที่โน่นจะดีกว่าบ้านเราก็ตาม เดี๋ยวจะผิดประเด็น55 ผมมองอย่างนี้นะว่าอดีตเราแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว ช่างมัน  อนาคตยังมาไม่ถึงจะกังวลไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร พาลจะทำให้เครียตเปล่าๆ  ทำปัจจุบันให้ดีก็พอครับ อย่างน้อยตอนนี้คุณเริ่มรู้สึกตัว เริ่มมีสติ ต่อไปก็คงทำอะไรรอบคอบมากขึ้น คนเราเริ่มได้ทุกวันครับอย่าไปกังวลมาก ลุยๆ แก้ไขเมื่อ 17 มี.ค. 52 01:52:54 จากคุณ : -zzz- - [ 17 มี.ค. 52 01:45:08 ]