ความคิดเห็นที่ 1 "พัทลุง" เมืองทางภาคใต้ของประเทศไทย ที่โอบล้อมไปด้วยขุนเขา ทะเลสาบ วัฒนธรรม และศิลปะ ฯลฯ เป็นเมืองแห่งหนังตะลุงและมโนราห์ ทั้งยังพรั่งพร้อมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติ มีประวัติศาสตร์และสถานที่อันทรงคุณค่า             ด้วยความหลากหลายเหล่านี้ ทริปนี้ "ตะลอนเที่ยว" จึงล่องใต้ไปตามมนต์เสน่ห์แห่งพัทลุงหรือเมืองลุงเพื่อยลแง่งามความน่าสนใจของเมืองนี้ ฝูงนกเป็ดน้ำโผบิน รับแสงอาทิตย์ยามเช้า จากคุณ : a dear - [ 19 มี.ค. 52 10:07:01 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ทิวทัศน์ที่แห่งนี้ช่างกระตุ้นประสาทตาให้เบิกกว้างขึ้น ด้วยความอุดมสมบูรณ์ที่ธรรมชาติรังสรรค์ไว้ ทั้งทะเสสาบ ดอกบัวสาย สาหร่ายข้าว นกนานาชนิด ฯลฯ ที่มีให้พบเห็นทั่วบริเวณชายฝั่ง พร้อมแสงแรกของดวงอาทิตย์ที่กำลังเคลื่อนตัวจากปลายฟ้ามาหยอกล้อกับผืนน้ำ โดยทะเลน้อยแห่งนี้มีความลึกประมาณ 1.5 เมตร ตั้งอยู่ในตำบลนางตุง และตำบลทะเลน้อย อำเภอควนขนุน มีนกน้ำประจำถิ่นและนกอพยพมาอยู่มากกว่า 187 ชนิด ซึ่งระหว่างเดือนตุลาคม-เมษายนเป็นช่วงที่เหมาะสมสำหรับสัมผัสธรรมชาติเป็นที่สุด เพราะเป็นช่วงที่ดอกบัวสายสีชมพูบานสะพรั่งเต็มผืนน้ำ ประกอบกับนกน้ำจำนวนมากที่พบได้อย่างหนาตา ล่องเรือชมบัว แลนก ในทะเลน้อย จากคุณ : a dear - [ 19 มี.ค. 52 10:09:22 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ทิวทัศน์ที่แห่งนี้ช่างกระตุ้นประสาทตาให้เบิกกว้างขึ้น ด้วยความอุดมสมบูรณ์ที่ธรรมชาติรังสรรค์ไว้ ทั้งทะเสสาบ ดอกบัวสาย สาหร่ายข้าว นกนานาชนิด ฯลฯ ที่มีให้พบเห็นทั่วบริเวณชายฝั่ง พร้อมแสงแรกของดวงอาทิตย์ที่กำลังเคลื่อนตัวจากปลายฟ้ามาหยอกล้อกับผืนน้ำ โดยทะเลน้อยแห่งนี้มีความลึกประมาณ 1.5 เมตร ตั้งอยู่ในตำบลนางตุง และตำบลทะเลน้อย อำเภอควนขนุน มีนกน้ำประจำถิ่นและนกอพยพมาอยู่มากกว่า 187 ชนิด ซึ่งระหว่างเดือนตุลาคม-เมษายนเป็นช่วงที่เหมาะสมสำหรับสัมผัสธรรมชาติเป็นที่สุด เพราะเป็นช่วงที่ดอกบัวสายสีชมพูบานสะพรั่งเต็มผืนน้ำ ประกอบกับนกน้ำจำนวนมากที่พบได้อย่างหนาตา ทุ่งบัวสาย ที่มีกระจายให้เห็นทั่วไปทะเลน้อย จากคุณ : จากเวป manager ทั้งนั้นแหละ (a dear) - [ 19 มี.ค. 52 10:10:41 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ที่นี่มีเรือหางยาวของชาวบ้านในพื้นที่ ซึ่งถูกปรับเปลี่ยนเป็นเรือสำหรับท่องเที่ยวขนาดกะทัดรัด 6-8 ที่นั่ง ในราคา 400 บาท/ชั่วโมง พร้อมกัปตันใจดีผู้ที่พร้อมจะพานักท่องเที่ยวล่องเลียบไปตามลำน้ำสายนี้ ซึ่งในเรือมีหมวกสำหรับกันแดดไว้บริการนักท่องเที่ยวด้วย             เห็นโอกาสมาเยือนเช่นนี้ "ตะลอนเที่ยว" และเพื่อนๆก็ไม่รอช้า รีบก้าวขึ้นเรืออย่างสมัครพรักพร้อม เรือหางยาวเริ่มเคลื่อนตัวออกจากชายฝั่งโดยไม้ถ่อเพื่อกลับลำ และไม่นานเสียงของเครื่องยนต์ที่ติดตั้งไว้กับเรือก็ดังขึ้น โดยมีเจ้าหางเรือยาวๆ เป็นตัวกำหนดทิศทาง พวกเรานั่งกินลมพลางเหลียวซ้ายแลขวาไปพลางซักครู่ก็ได้พบกับฝูงนกนานาชนิด อาทิ นกนางนวล นกเป็ดน้ำ ฯลฯ ที่กำลังหาอาหารมื้อเช้า และบินว่อนกันเต็มท้องฟ้า ขณะที่ชาวบ้านในพื้นที่ก็กำลังหาปลาเพื่อไปเป็นอาหารเช่นกัน ลุงคนขับเรือบอกว่าที่นี่เป็นแหล่งชุมชุนของปลาน้ำจืดหลายชนิด ชาวบ้านสามารถหาปลาได้อย่างอิสระ ดังนั้นจึงไม่แปลกใจเลยที่พบที่ดักปลาของชาวบ้านติดตั้งอยู่ทั่วบริเวณ วิถีประมงพื้นบ้าน จากคุณ : จากเวป manager ทั้งนั้นแหละ (a dear) - [ 19 มี.ค. 52 10:12:06 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ไปเมื่อไหร่ดีอ่ะ จากคุณ : น้องหนูพันธุ์ดุ - [ 19 มี.ค. 52 10:12:38 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ไม่นานเจ้าเรือหางยาวก็พาเข้ามาอยู่ใน "ดงบัวสาย" ดอกบัวสีชมพูที่แข่งกันบานสะพรั่งเต็มผืนน้ำ และในช่วงสายๆ บัวสายพันธ์นี้ก็จะเริ่มหุบลง และจะบานเต็มที่ในเช้าวันรุ่งขึ้นเป็นวัฏจักรของมัน ซึ่งก็ดูแล้วสมชื่อบัวสายจริงๆ ยิ่งไปกว่าความสวยงาม บัวสายยังสามารถนำมาประกอบอาหารได้อีกด้วย หรือหากอดใจรอไม่ไหวจะกินสดๆ กันตรงนั้นเลยก็ได้ เพราะกัปตันใจดีชิมให้ "ตะลอนเที่ยว" ดูเป็นตัวอย่างแล้ว รับรองไม่มีเสียชีวิต ชัวร์             สายน้ำพลิ้วเป็นคลื่นเล็กๆ หลังจากพาหนะลำน้อยแล่นผ่าน ไม่ไกลตานัก ลุงกัปตันชี้ให้พวกเราดูต้นกกที่ชาวบ้านนำมาปลูกไว้เมื่อหลายปีก่อนขึ้นกระจายเป็นหย่อมๆ หากมองลงไปในน้ำก็จะพบสาหร่ายข้าวซึ่งมีดอกเป็นสีเหลืองโผล่พ้นขึ้นมาปริ่มน้ำ เรือหางยาวขับผ่าดงกระจูดหนู พืชน้ำที่ขึ้นหนาแน่นเป็นกลุ่มใหญ่ ไปจนถึงบริเวณแหลมดิน จุดดูนกน้ำและนกชายเลน เข้าไปในคลองนางเรียมที่ชาวบ้านใช้สัญจรไปมาระหว่างทะเลน้อยกับหมู่บ้านที่ตั้งริมทะเล นกน้ำโบกบินตามใจตน จากคุณ : จากเวป manager ทั้งนั้นแหละ (a dear) - [ 19 มี.ค. 52 10:13:30 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ต้องหาเจ้าบ้านพาเที่ยว อิอิ จากคุณ : น้องหนูพันธุ์ดุ - [ 19 มี.ค. 52 10:14:45 ]

ความคิดเห็นที่ 8 แสงแดดยามสายทำให้นักท่องเที่ยวหลายคนได้ใช้บริการหมวกที่ถูกเตรียมไว้ เรือหางยาวขับเคลื่อนไปถึงจุดที่อาศัย ของ "ควายน้ำ" สิ่งที่แปลกไปจากควายที่อื่นก็คือ ที่นี่ชาวบ้านจะเลี้ยงความกันบนพื้นดินขนาดย่อมที่มีน้ำล้อมรอบ มีหญ้าปลูกไว้สำหรับกินอย่างเพียงพอ ซึ่งชาวบ้านจะเปิดคอกปล่อยเจ้าทุยออกลุยน้ำไปหาอาหารในช่วงเช้าและเย็น โดยเจ้าของจะคอยดูแลพวกเขาอยู่บนเรือ พร้อมใช้ไม้ถ่อบังคับทิศทางเรือ ต้อนให้บรรดาเจ้าทุยลุยน้ำไปหากินอย่างเป็นระเบียบจนหลายคนเรียกขานเจ้าทุยเหล่านี้ว่าเป็น "ควายน้ำ" ไปโดยปริยาย นกน้ำ พักเพื่อเตรียมตัวหาอาหาร จากคุณ : จากเวป manager ทั้งนั้นแหละ (a dear) - [ 19 มี.ค. 52 10:14:55 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ยังไม่เคยไปพัทลุงเลยอ่ะ .. อยากไปจัง  @ ^_^ @ จากคุณ : Chanyanath P. - [ 19 มี.ค. 52 10:15:07 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ผ่านไปประมาณ 2 ชั่วโมงกว่า เรือหางยาวก็แล่นกลับสู่ฝั่ง ภาพฝูงนกนานาพันธุ์ยังมีให้เห็นทั่วบริเวณ ซึ่งรอบอุทยานนกน้ำทะเลน้อยยังมีสะพานให้เดินชมวิว และมีของที่ระลึกจำหน่าย อาทิผลิตภัณฑ์จากต้นกระจูด เป็นต้น             หลังจากความคึกคักที่ได้จากคลื่นทะเลสาบน้ำจืด “ตะลอนเที่ยว” ก็ไปต่อกันที่ “วังเจ้าเมืองพัทลุง” หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “วังเก่า–วังใหม่” แหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ ที่ตั้งอยู่ในอำเภอลำปำ เดิมวังแห่งนี้เป็นที่ว่าราชการและเป็นที่พักอาศัยของเจ้าเมืองพัทลุง เป็นอาคารทรงไทย แบ่งเป็น 2 กลุ่มอาคาร ตั้งอยู่ในบริเวณพื้นที่เดียวกันคือวังเก่าและวังใหม่ ฝูงควายเดินแหวกทะเลน้อย เพื่อทานอาหารมื้อเช้า โดยมีผู้ดูแลอย่างใกล้ชิด จากคุณ : จากเวป manager ทั้งนั้นแหละ (a dear) - [ 19 มี.ค. 52 10:16:24 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ผ่านไปประมาณ 2 ชั่วโมงกว่า เรือหางยาวก็แล่นกลับสู่ฝั่ง ภาพฝูงนกนานาพันธุ์ยังมีให้เห็นทั่วบริเวณ ซึ่งรอบอุทยานนกน้ำทะเลน้อยยังมีสะพานให้เดินชมวิว และมีของที่ระลึกจำหน่าย อาทิผลิตภัณฑ์จากต้นกระจูด เป็นต้น             หลังจากความคึกคักที่ได้จากคลื่นทะเลสาบน้ำจืด “ตะลอนเที่ยว” ก็ไปต่อกันที่ “วังเจ้าเมืองพัทลุง” หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “วังเก่า–วังใหม่” แหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ ที่ตั้งอยู่ในอำเภอลำปำ เดิมวังแห่งนี้เป็นที่ว่าราชการและเป็นที่พักอาศัยของเจ้าเมืองพัทลุง เป็นอาคารทรงไทย แบ่งเป็น 2 กลุ่มอาคาร ตั้งอยู่ในบริเวณพื้นที่เดียวกันคือวังเก่าและวังใหม่ ฝูงควายเดินแหวกทะเลน้อย เพื่อทานอาหารมื้อเช้า โดยมีผู้ดูแลอย่างใกล้ชิด จากคุณ : จากเวป manager ทั้งนั้นแหละ (a dear) - [ 19 มี.ค. 52 10:23:01 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ในส่วนของ “วังเก่า” มีลักษณะเป็นเรือนไทยแฝดสามหลังติดกัน ยกใต้ถุนสูง ตั้งอยู่ติดกับถนนราเมศวร์อภัยบริรักษ์ ก่อสร้างในสมัยพระยาพัทลุง (น้อย จันทโรจนวงษ์) เป็นผู้ว่าราชการ ระหว่างปี พ.ศ.2409-2431 ต่อมาวังนี้ได้ตกทอดมาจนถึงนางประไพ มุตามะระ บุตรีของหลวงศรีวรฉัตร และในปี พ.ศ.2535 กรมศิลปากรก็ได้ขึ้นทะเบียนวังเก่านี้เป็นโบราณสถานของชาติไปเรียบร้อยแล้ว             ส่วนอาคารที่ตั้งอยู่ริมคลองลำห่า เรียกว่า “วังใหม่” หรือชาวบ้านเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า วังใหม่ชายคลอง มีลักษณะเป็นกลุ่มเรือนไทย 5 หลัง ยกพื้นสูง สร้างเมื่อ พ.ศ.2432 โดยพระยาอภัยบริรักษ์จักราวิชิตพิพิธภักดี (เนตร จันทโรจนวงษ์) บุตรชายของพระยาอภัยบริรักษ์ (น้อย จันทโรจนวงษ์) ตอนดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าเมืองพัทลุง ชาวบ้าน เตรียมปล่อยควายสู่ผืนน้ำ จากคุณ : จากเวป manager ทั้งนั้นแหละ (a dear) - [ 19 มี.ค. 52 10:28:07 ]

ความคิดเห็นที่ 13 พัทลุงเคยไปแต่เขาปู่-เขาย่า ง่ะ จัดทริปเลยพี่เดียร์ คริ คริ จากคุณ : asp_ash - [ 19 มี.ค. 52 10:56:20 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ปัจจุบันทายาทตระกูล "จันทโรจนวงษ์" ได้มอบวังใหม่นี้ให้เป็นโบราณสถานของชาติ ในความดูแลของกรมศิลปากร และขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานแห่งชาติเมื่อ พ.ศ. 2526             และจุดหมายท้ายสุดของการตะลุยเมืองพัทลุงครั้งนี้คือ การไปนมัสการน้อมเคารพ “พระพุทธนิรโรคันตรายชัยวัฒน์จตุรทิศ” หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า “พระสี่มุมเมือง” เป็นพระพุทธรูปสำริดปางสมาธิ ที่กรมรักษาดินแดน กองทัพบก กระทรวงกลาโหม จัดสร้างขึ้นโดยพระราชดำริของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จำนวน 4 องค์ และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอและสมเด็จพระเจ้าลูกเธอทุกพระองค์ ได้เสด็จพระราชดำเนินเททองด้วยพระองค์เอง วังเจ้าเมืองหลังเก่า จากคุณ : จากเวป manager ทั้งนั้นแหละ (a dear) - [ 19 มี.ค. 52 10:58:04 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เมื่อสร้างเสร็จแล้ว ได้ประกอบพิธีพุทธาภิเษกโดยพระมหาเถระผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งนับว่าเป็นพิธีที่ใหญ่ที่สุดในประเทศครั้งหนึ่ง และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานนามพระพุทธปฏิมาทั้ง 4 องค์ ว่า "พระพุทธนิรโรคันตรายชัยวัฒน์จตุรทิศ" พร้อมทั้งโปรดให้ประดิษฐานไว้ ณ สี่มุมเมืองของประเทศ จึงเป็นที่มาของชื่อ “พระสี่มุมเมือง” นั่นเอง             โดยในทิศตะวันตก ประดิษฐานไว้บนยอดเขาแก่นจันทร์ จ.ราชบุรี ทิศเหนือ ประดิษฐานไว้ข้างศาลเจ้าพ่อหลักเมือง จ.ลำปาง ทิศตะวันออก ประดิษฐานไว้หน้าศาลากลางจังหวัด จ.สระบุรี และทิศใต้ ประดิษฐานไว้ที่ จ.พัทลุง ภายในศาลาจัตุรมุข บริเวณด้านหน้าระหว่างศาลากลางจังหวัดกับศาลจังหวัดพัทลุง เพื่อเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจของพุทธศาสนิกชน วังเจ้าเมืองหลังใหม่ จากคุณ : จากเวป manager ทั้งนั้นแหละ (a dear) - [ 19 มี.ค. 52 11:00:42 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ซึ่งพระพุทธนิรโรคันตรายชัยวัฒน์จตุรทิศนี้ นอกจากเป็นพระพุทธรูปประจำภาคใต้แล้ว ยังถือเป็นพระคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดพัทลุง โดยมีความเชื่อกันว่าผู้ที่ได้กราบไหว้บูชาจะมีความเป็นสิริมงคลคลาดแคล้วจากภัยอันตรายทั้งปวง ได้ฟังดังนั้นพวกเราก็พากันกราบไหว้พร้อมอธิฐานขอพรกันอยู่นานสองนานจนอิ่มอกอิ่มใจอิ่มบุญกันยกคณะ ก็ถือเป็นการปิดท้ายทริปตะลอนเมืองลุงฯที่เบิกบานใจและก็สร้างความอิ่มเอมให้กับชีวิตได้ไม่น้อยทีเดียว “พระพุทธนิรโรคันตรายชัยวัฒน์จตุรทิศ” (องค์ซ้าย) จากคุณ : จากเวป manager ทั้งนั้นแหละ (a dear) - [ 19 มี.ค. 52 11:02:35 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ศาลาจัตุรมุข ที่ประดิษฐานของ พระพุทธนิรโรคันตรายชัยวัฒน์จตุรทิศ จากคุณ : a dear - [ 19 มี.ค. 52 11:03:19 ]

ความคิดเห็นที่ 18 “อุทยานนกน้ำทะเลน้อย” อยู่ที่ ต.ทะเลน้อย อ.ควนขนุน ช่วงที่เหมาะไปดูนกคือ ช่วงเดือนต.ค.-เม.ย. นักท่องเที่ยวสามารถเช่าเรือไปชมนกได้จากท่าเรือทะเลน้อย และใกล้ที่ทำการอุทยาน ฯ มีเรือนพักไว้บริการนักท่องเที่ยวด้วย โดยอยู่ในความดูแลของอุทยานฯ สามารถสอบถามข้อมูลได้ที่       สถานีพัฒนาและส่งเสริมอนุรักษ์สัตว์ป่าทะเลน้อย โทร.0-7468-5599             “วังเจ้าเมืองพัทลุง” เปิดให้เข้าชมได้ทุกวัน เว้นวันจันทร์-อังคาร และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 09.00-12.00 น. และ 13.00–16.00 น. คนไทยเสียค่าเข้าชม 5 บาท ส่วนชาวต่างประเทศ 30 บาท             สำหรับผู้สนใจท่องเที่ยวในจังหวัดพัทลุง สามารถสอบถามรายละเอียดสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดพัทลุง โทร.0-7462-0276 หรือที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) สำนักงาน พัทลุง โทร.0-7434-6514 จากคุณ : จากเวป manager ทั้งนั้นแหละ (a dear) - [ 19 มี.ค. 52 11:03:52 ]

ความคิดเห็นที่ 19 จบแระ...แค่อยากเอามาฝากทุกๆ คน ว่าเมืองเล็กๆ อย่าง "พัทลุง" ก็มีอะไรน่าสนใจเหมือนกัน ผึ้ง ---> ไปเมื่อไหร่ก็ได้ หากว่าง แล้วอยากไปก็บอก พี่หมูน้อย ---> หาโอกาสไปนะคะ ธิ ---> ไม่จัดทริปอ่ะ กลัวช้ำใจ 555+ แต่อยากไปก็บอก พาไปเที่ยวบ้านก็แล้วกัน จากคุณ : a dear - [ 19 มี.ค. 52 11:06:40 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ช่วยทำมาหากิน ..... ข้อมูลการเดินทางของ จ. พัทลุง รถยนต์ จากกรุงเทพฯ สามารถไปได้ 3 เส้นทาง คือ เส้นทางที่ 1 ตามทางหลวงหมายเลข 4 ถึงชุมพร (สี่แยกปฐมพร) แยกเข้าระนอง พังงา กระบี่ ตรัง จนถึงพัทลุง ระยะทางประมาณ 1,140 กิโลเมตร เส้นทางที่ 2 ตามทางหลวงหมายเลข 4 ถึงชุมพร ให้เข้าทางหลวงหมายเลข 41 จนถึงจังหวัดพัทลุง ระยะทาง 840 กิโลเมตร เส้นทางที่ 3 ตามทางหลวงหมายเลข 4 ผ่านชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช แล้วเข้าทางหลวงหมายเลข 403 จากนั้นจึงเข้าทางหลวงหมายเลข 41 ที่ชุมทางเขาชุมทอง จนถึงพัทลุง รถไฟ     การรถไฟแห่งประเทศไทย มีรถไฟผ่านอำเภอเมือง อำเภอควนขนุน อำเภอเขาชัยสน อำเภอปากพะยูน อำเภอป่าบอน อำเภอบางแก้ว จังหวัดพัทลุง รายละเอียดสอบถาม โทร. 1690, 0 2223 7010, 0 2223 7020 สถานีรถไฟพัทลุง โทร. 0 7461 3106 www.railway.co.th รถโดยสารประจำทาง     บริษัท ขนส่ง จำกัด มีบริการเดินรถกรุงเทพฯ – พัทลุง ทุกวัน มีรถออกที่สถานีขนส่งสายใต้ ถนนบรมราชชนนี สอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร. 02 894 6122 จองตั๋ว บขส. โทร. 02 422 4444  หรือ  www.transport.co.th เครื่องบิน     จังหวัดพัทลุงไม่มีสนามบิน นักท่องเที่ยวสามารถใช้บริการเที่ยวบินกรุงเทพฯ-ตรังหรือ กรุงเทพฯ-หาดใหญ่ จังหวัดสงขลาและ ต่อรถโดยสารไปพัทลุง **** เลือกเดินทางกันได้ตามสบาย อิอิ **** จากคุณ : asujikung - [ 19 มี.ค. 52 11:23:34 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ปล. ใครอยากไป ก็บอกเน้อ จะได้เปิดบ้านคุณยาย หลังอายุร้อยปีต้อนรับ จากคุณ : a dear - [ 19 มี.ค. 52 11:37:08 ]

ความคิดเห็นที่ 22 จัดเลยเดีย อิอิ อยากไป อยากไป ไปช่วงสงกรานต์ก็ได้ อิอิ จากคุณ : ตัวเรา - [ 19 มี.ค. 52 11:43:22 ]

ความคิดเห็นที่ 23 พี่ต๊อกต้อ --> ขอบคุณสำหรับข้อมูล พี่เอ --> สงกรานต์กลับบ้านพอดี ก็คิดอยู่ว่าจะไปนั่งเรือ ชมนก ดูบัวบาน อิอิ แต่ยังหาตั๋วกลับไม่ได้เลย เง้อ!!! จากคุณ : a dear - [ 19 มี.ค. 52 11:54:16 ]

ความคิดเห็นที่ 24 น่าสนใจมากๆ เลยพี่เดียร์ อยากไปที่ทุ่งบัวสาย *-* จากคุณ : Takaw - [ 19 มี.ค. 52 12:08:43 ]

ความคิดเห็นที่ 25 พี่เดียร์มีบ้านที่พัทลุงด้วยหรอ  ว้าวววว จากคุณ : khewbaa - [ 19 มี.ค. 52 12:18:11 ]

ความคิดเห็นที่ 26 มาเพิ่มเติมข้อมูลให้ด้วยจ้า ใกล้ๆวังเจ้าเมืองพัทลุงยังมี "วัดวัง" และฝั่งตรงข้ามคือ "วัดวิหารเบิก" ทั้งสองวัดมีภาพจิตรกรรมพระพุทธประวัติ และทศชาติชาดกแบบงามๆ ที่ควรค่าแก่การเยี่ยมชม ก่อนที่ภาพจะซีดจางลง ให้ได้ชมกันด้วยนะจ๊ะ ว่าแล้วก็อยากจะหาโอกาสกลับไปเยือนอีกครั้ง จากคุณ : anne_sa - [ 19 มี.ค. 52 12:37:35 ]

ความคิดเห็นที่ 27 น่าสนใจนะ จากคุณ : โอริสา อามิ** - [ 19 มี.ค. 52 12:57:50 ]

ความคิดเห็นที่ 28 มีป่า มีภูเขาสูงๆไม๊ จากคุณ : `SEPULTURA_`FROM_`HELL - [ 19 มี.ค. 52 13:16:37 ]

ความคิดเห็นที่ 29 น่าไป จากคุณ : ไข่มุกน้อย - [ 19 มี.ค. 52 13:40:32 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ไปมั๊ยนก อิอิ เดี๋ยวให้ท่านพี่ชายที่เกิดหลังพาเที่ยว จากคุณ : a dear - [ 19 มี.ค. 52 15:43:41 ]

ความคิดเห็นที่ 31 สนใจไปชัวร์ อิอิ จากคุณ : jungkochan - [ 19 มี.ค. 52 15:53:20 ]

ความคิดเห็นที่ 32 จัดเลยพี่เดียร์ จากคุณ : nupaew - [ 19 มี.ค. 52 15:56:42 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ไปๆ  ไปเมื่อไหร่ดี จากคุณ : ไข่มุกน้อย - [ 19 มี.ค. 52 16:14:14 ]

ความคิดเห็นที่ 34 น่าำไปเที่ยวจังเลยฮับ จากคุณ : fat_louie - [ 19 มี.ค. 52 17:05:57 ]

ความคิดเห็นที่ 35 อยากไป... แต่ เค้ากลัว อกทะลุ จากคุณ : คนเมืองลุง (gotland) - [ 19 มี.ค. 52 21:13:13 ]

ความคิดเห็นที่ 36 คนอยากไปล้นหลาม จัดเลยไหมเจ๊ จากคุณ : น้องหนูพันธุ์ดุ - [ 20 มี.ค. 52 08:32:55 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ไปกินที่หลานตาชูด้วยนะคะ จากคุณ : นู๋บัวไร - [ 20 มี.ค. 52 10:02:01 ]

ความคิดเห็นที่ 38 .. อยากไปจัง  สวยอ่ะ . จากคุณ : แมงเม่าติดลมบน - [ 20 มี.ค. 52 22:51:31 ]

ความคิดเห็นที่ 39 สวยจริงๆ บึงบัวทะเลน้อยเนี่ย !!! จากคุณ : baggage - [ 20 มี.ค. 52 23:25:47 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ไปกันสิครับ จะรอดูรูป   คริคริ จากคุณ : manatto - [ 1 เม.ย. 52 09:14:28 ]