ความคิดเห็นที่ 1 ผมเองมีความผูกพันกับกับคนเกาะหลีเป๊ะ  จนกลายเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน จากเมื่อ 6 ปีที่แล้ว ผมไปเที่ยวที่เกาะสวรรค์แห่งนี้คนเดียว ตามสไตล์ของผม โดยไม่มีข้อมูลอะไร และได้รู้จัก พูดคุย สัมผัสกับการดำรงชีวิต ตามวิถีที่คนเหล่านี้ดำรงอยู่ ทำให้ผมเข้าใจได้ว่า “ความรู้” คือปัจจัยหลักที่จะอนุรักษ์ธรรมชาติ และทรัพยากรที่มีคุณค่าให้คงอยู่ต่อไป แก้ไขเมื่อ 26 มี.ค. 52 11:21:33 จากคุณ : infonoom - [ 26 มี.ค. 52 11:21:06 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ในความเป็นจริงคนเกาะเหล่านี้มีวิถีชีวิต ที่อยู่กับท้องทะเล การจับปลา เลี้ยงปากท้องเป็นหลัก ความสวยงามจากปะการัง ปลาสีสันต่างๆ ก็ไม่ต่างอะไรที่พวกเราจะเห็นตึกรางบ้านช่อง ท้องถนนในเมืองใหญ่ เสมือนนั่นคือบ้านของเค้า ความเจริญ ของการท่องเที่ยวต่างหากที่พวกเราคนเมือง เอาไปยัดเยียดให้เค้า การดำรงชีวิตของคนเหล่านี้จึงต้องเปลี่ยนไป เพื่อให้สอดคล้องกัน ทำทุกอย่างเพื่อให้นักท่องเที่ยวที่มาเกิดความประทับใจ จากคุณ : infonoom - [ 26 มี.ค. 52 11:22:40 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ผมเชื่อว่าการจับลูกกุ้ง ปลาการ์ตูน ขึ้นมาให้นักท่องเที่ยวดูนั้น เจตนาก็แค่อยากจะทำให้นักท่องเที่ยวอย่างเราๆ ประทับใจ และกลับมาหาพวกเค้าอีกครั้ง จากคุณ : infonoom - [ 26 มี.ค. 52 11:23:08 ]

ความคิดเห็นที่ 4 บนเกาะหลีเป๊ะมีวัดครับ หลวงพ่อที่จำวัดอยู่ที่นี่ มาจาก ยานนาวา กรุงเทพแถวบ้านผมเลยครับ ตอนผมไปสนทนาธรรมกับท่าน เราก็พูดคุยเรื่องแถวบ้านเราซะเยอะ ท่านเล่าว่า ธุดงมาถึงเกาะนี้ประมาณ 20 กว่าปีแล้ว และก็อยากนำศาสนามาเผยแพร่ และให้ความรู้ในการบริหารทรัพยากรธรรมชาติอย่างมีประสิทธิภาพ ว่าทำยังไงให้มันอยู่กับเรานานที่สุด จากคุณ : infonoom - [ 26 มี.ค. 52 11:23:58 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ผมเองก็เพิ่งกลับมาจากหลีเป๊ะ เมื่อ 3 สัปดาห์ก่อน และได้มีโอกาสไปกินข้าวเย็นบ้านเจ้า “ด่อง” จากการเชื้อเชิญว่าวันนี้มีเมนูเด็ดที่จะปรุงให้ผมได้ลองกิน มันคือเต่ากระ ผัดพริงแกงครับ ผมจึงต้องเสียมารยาทที่จะกินแต่ปลา ปลาหมึก แต่ของดเมนูหากินยากจานนี้ครับ ทานไม่ลงจริงๆ ระหว่างกินข้าว ผมสอบด่องและครอบครัวว่า เต่าเนี้ยะ หายากมั้ย เพราะเวลาผมออกไปหาปลากับเค้า แทบจะไม่เจอเต่าเลย คำตอบคือ ยากมาก แต่อย่าให้เห็นนะ เพราะมันอร่อยมากที่สุด   ผมจึงเล่าให้เค้าฟังว่า มันใกล้จะสูญพันธ์แล้วนะ  และให้ความรู้ ในเชิงการพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน ถึงมันจะเปลี่ยนความคิดวิถีชีวิตคนเหล่านี้ไม่ได้ แต่อย่างน้อย ทุกครั้งที่เค้าจะยิงเต่าแต่ละตัวก็จะตระหนักว่า โอกาสที่ลูกหลานจะไม่ได้เห็นเต่าเหล่านี้ลดน้อยลงไปอีก จากคุณ : infonoom - [ 26 มี.ค. 52 11:24:59 ]

ความคิดเห็นที่ 6 มีอีกหลายตัวอย่างครับ แต่คุยไม่หมด เอาเป็นว่า ในความคิดผม หากพบเห็นการกระทำที่ทำลายธรรมชาติ ไม่ว่าจะที่ไหน การพูดคุยให้ความรู้กับเค้าจะเป็นเรื่องที่ดี และมีประโยชน์กว่าการนำเรื่องราวมาประณามการกระทำครับ พี่เค้าไม่โกรธหรอกครับ พูดกับเค้าดีดี “เพราะผมเชื่อว่า ที่เค้าจับขึ้นมา ไม่ได้ทำเพื่อความสนุกส่วนตัว แต่ต้องการเอาใจนักท่องเที่ยวอย่างพวกคุณต่างหาก” แก้ไขเมื่อ 26 มี.ค. 52 11:28:48 จากคุณ : infonoom - [ 26 มี.ค. 52 11:26:34 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ผมเห็นด้วยอะ ถ้ามีอาไรที่เราควรช่วยได้ก้อควรช่วย จขกท มีอาไรให้ผมช่วยก้อบอกได้นะคับ จากคุณ : jjojookg - [ 26 มี.ค. 52 12:03:53 ]

ความคิดเห็นที่ 8 อีกมุมมองหนึ่ง โหวตให้ครับ จากคุณ : [Cha] - [ 26 มี.ค. 52 12:11:47 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เป็นข้อคิดที่ดีค่ะ จากคุณ : zelberg (zelberg) - [ 26 มี.ค. 52 12:22:10 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ที่คุณเจ้าของกระทู้พูดนั้น ถูกต้องครับ... เริ่มจากตัวนักท่องเที่ยวก่อน ช่วยกันสร้างจิตสำนึกเวลาเที่ยว ... หากเห็น ชาวเกาะ คนเรือ.. บริษัททัวร์ ทำอะไรที่ไม่ควรทำ เช่น จับกุ้ง จับปลา มาให้ลูกทัวร์ เพื่อหวังว่าจะให้ประทับใจ นักท่องเที่ยว ก็ต้องเตือนเขา ไม่ใช่วัน ยืนปรบมือ บราวโว่ กันยกใหญ่.... ในตอนนี้ ชาวเกาะ คนเรือ บริษัททัวร์ ฯลฯ เขาไม่รู้หลอกครับว่าการกระทำสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ไม่ดี เขาจึงยังทำกันอยู่... อยากจะบอกว่าเจ้าของกระทู้ได้ทำในสิ่งที่ควรจะทำไปแล้ว ก็คือ ให้ความรู้กับเขาครับ..... ถ้าหน่วยงานรัฐไม่รู้จัก อบรม บอกกล่าว ... นักท่องเที่ยวอย่างพวกเรานี่แหละจะเป็นคนเตือนเขาเอง....ถ้าบอกแล้วยังทำกันอีก การประจาน เป็นสิ่งที่สมควรครับ ... หน่วยงานใดๆที่เกี่ยวข้อง คนที่รู้จัก จะได้ เอาข่าวนี้ไปบอกให้พวกเขาแก้ไข..... การเห็นแล้วนิ่งเงียบ มันก็เหมือนกับ คุณกำลังโจร หรือ คนทำผิด ปล้นทรัพย์สิน แล้วปล่อยมันไป โดยไม่แจ้งตำรวจ... เพราะถือว่าไม่ใช่เรื่องของคุณ...... อีกหน่อย โจรมันมาปล้นบ้านคุณ เพื่อนบ้านเห็นอยู่ตำตา แต่ก็เฉยๆ เพราะไม่ใช่เรื่องของเขาเช่นกัน..... เจ้าของกระทู้คุณ เยี่ยมมากครับ ที่คุณกล้าที่จะเตือนและชี้แนะ ..... จากคุณ : TonTon1977 - [ 26 มี.ค. 52 12:43:47 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เข้ามาชมครับ อ่านและดูภาพประกอบแบบเข้าใจชีวิตครับ คำว่าพอดีมันเข้าใจยากเหมือนกันนะครับ ชีวิตคือการอยู่รอด ขอบคุณสำหลับมุมมองที่แตกต่างจากเกาะที่ผมหลงรักเหมือนกับหลาย ๆท่านในห้องนี้ครับ จากคุณ : เส้นเหลืองขาว - [ 26 มี.ค. 52 12:45:37 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ช่วยโหวตด้วยอีกเสียงค่ะ อยากให้คนพื้นที่เข้าใจเหมือนกันว่า สิ่งที่ทำให้นักท่องเที่ยวประทับใจมากที่สุด คือสภาพภูมิทัศน์ที่สวยงาม ความเป็นอยู่เรียบง่าย และความมีน้ำใจ ต่างหากค่ะ จากคุณ : อะตอม (atom magazine) - [ 26 มี.ค. 52 12:52:38 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ตอนไปครั้งก่อน เจอคนขับเรือ ดำลงไป ไปเอาหอย ขึ้นมา เราถามไกด์ว่า ทำไมปล่อยให้เขาเอาขึ้นมา ไกด์บอกว่า ที่นี่ ชาวบ้านส่วนใหญ่ก็หากินกับทะเล การที่เขาเอามันขึ้นมากินตัวสองตัว ก็ถือว่า เป็นการดำรงชีวิต ของชาวบ้านที่นี่ เหมือน ๆ กับการที่ คนไปหาปลาในบึง นั่นแหละ ซึ่งส่วนใหญ่ ชาวบ้านเขาก็จะหากินแบบนี้ปกติ แต่หากชาวบ้านเจอคนแปลกหน้า มาอาศัยพื้นที่นี้ มาหากิน เช่นมาจับปลาการ์ตูน ชาวบ้านเขาก็เป็นหูเป็นตาให้เหมือนกัน  เพราะคราวที่แล้ว ที่เราไป ชาวบ้านช่วยกันแจ้งเจ้าหน้าที่ จับเรือ ที่มาขโมยปลาการ์ตูน ไปตั้งพันกว่าตัว ซึ่งว่าจ้างมาโดย บริษัทดัง ๆ ในกรุงเทพ ( ไกด์เล่าให้ฟัง ) ก็ยังแสดงให้เห็นว่า ชาวบ้านยังรู้จักที่ จะรักษาทรัพยากรทางทะเลผืนนี้ไว้เหมือนกัน ที่สำคัญ เราคิดว่า พวกสัตว์ทะเลเหล่านี้ จะหายไป เพราะนักท่องเที่ยว อย่างเรา ๆ เนี่ยแหละ ที่ไปทำให้ชาวบ้านมีวิถีชีวิตที่ต่างออกไป จากคุณ : ajh - [ 26 มี.ค. 52 14:41:49 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เห็นด้วยอีกเสียงค่ะ เพื่ออนาคตที่สวยงามของทะเลไทย จากคุณ : kaonung44 - [ 26 มี.ค. 52 19:46:58 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เห็นด้วยค่ะ   เห็นด้วยกับประโยคที่ว่า “เพราะผมเชื่อว่า ที่เค้าจับขึ้นมา ไม่ได้ทำเพื่อความสนุกส่วนตัว แต่ต้องการเอาใจนักท่องเที่ยวอย่างพวกคุณต่างหาก” ตัวชาวบ้านเอง ของพวกนี้ เค้าเห็นกันมาตั้งแต่เล็กแล้วล่ะ ถ้าลองเริ่มต้น จากพวกเราทุกคน ที่เป็นนักท่องเที่ยวรู้จักดูแลใส่ใจธรรมชาติ ถ้าไปเจอไกด์ที่บอกว่า จะไปจับขึ้นมาให้ดู ก็คัดค้านเค้า อธิบายให้เค้าฟัง   เจอหลายๆครั้ง หลายๆคนพูดเข้า เค้าก็คงจะเข้าใจและหยุดทำไปเอง ทะเลจะได้อยู่กับเราไปนานๆ ไปหลีเป๊ะคราวนี้เจอขยะลอยอยู่กลางทะเลเยอะมาก ทั้งขวด ถุงพลาสติก แก้ไขเมื่อ 26 มี.ค. 52 20:06:08 จากคุณ : kkl - [ 26 มี.ค. 52 20:04:49 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เห็นด้วยและโหวตให้ค่ะ จากคุณ : เจ้าฟินตัวอ้วน (Finyah) - [ 26 มี.ค. 52 22:48:38 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ดีครับ ช่วยกันคนละนิด ก็ดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลย จากคุณ : blueboyhub - [ 26 มี.ค. 52 23:06:39 ]

ความคิดเห็นที่ 18 อืม..เป็นอีกมุมนึง เห็นด้วยว่าเขาคงไม่ได้ทำเพราะความสนุกและความคึกคะนอง เพราะมันไม่ใช่สิ่งแปลกใหม่สำหรับพวกเขา ถ้าเห็นว่าเขาทำไปเพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ควรจะให้ความรู้ เข้ามาช่วยโหวตค่ะ จากคุณ : bombik - [ 26 มี.ค. 52 23:29:44 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ไปกินเต่ามันทำไม จากคุณ : tanbali - [ 27 มี.ค. 52 08:08:30 ]

ความคิดเห็นที่ 20 มันพูดยากจริงๆ นะคะ นี่แหละที่บ้างครั้ง เจ้าหน้าที่ราชการ(ที่ไม่ค่อยจะเข้าใจประวัติศาสตร์พื้นที่ / วิถีชาวบ้าน) กับชาวบ้าน ถึงได้ทะเลาะกัน เราเข้าใจจขกท. และเข้าใจชาวบ้านคะ เค้าอยู่ตรงนั้น มันเป็นแหล่งทำกิน เป็นทรัพยากรที่เค้าสามารถเข้าถึงได้โดยไม่ต้องเสียเงิน (แค่ลงแรง) ปัญหานี้ ก็คงเหมือนกันปัญหาชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในเขตป่าสงวน / ชายขอบป่าสงวนแหละคะ การเข้าไปเก็บเกี่ยวทรัพยากรในเขตป่า ก็สร้างปัญหา ทะเลาะกันมามากต่อมากแล้ว (แต่บางพื้นที่ปัญหานี้ เค้าก็มีการแก้ไขกันนะคะ เช่น กำหนดพื้นที่ป่าชุมชน หรือใช้เรื่องพิธีกรรม พวกบวชป่า ซึ่งแก้ปัญหาได้โอเคระดับหนึ่ง) เราว่าพูดยากนะคะเรื่องวิถีชีวิตของคนท้องที่กับการอนุรักษ์ เพราะถ้าพูดกันตามตรง คนเมืองอย่างพวกเรานี่แหละ ที่เป็นกลุ่มที่ใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ในโลกอย่างมหาศาล จริงมั้ยคะ.... พิมพ์ไปพิมพ์มาก็นึกถึงเรื่องการตัดต้นไม้ คนเมืองจะมองว่า เราต้องปลูกต้นไม้ เพื่อช่วยเรื่องโลกร้อน เพิ่มพื้นที่สีเขียว บลาๆๆๆ (อันนี้เราก็เห็นด้วยนะคะ) แต่มุมมองของคนต่างจังหวัด โดยเฉพาะคนรุ่นปู่ ย่า ตา ยาย หรือ รุ่นพ่อ-แม่ เค้ามีมุมมองที่ต่างออกไป การปลูกต้นไม้สำหรับเค้า มันคือเรื่องของการใช้ประโยชน์คะ คือ ถ้าต้นไม้ต้นนั้น หมดประโยชน์แล้ว เช่น ไม่ออกดอกออกผล ไม่สามารถให้ร่มเงา ฯลฯ เค้าก็จะตัดทิ้งซะ ไม่ต้องเก็บให้เปลืองที่ ซึ่งปัญหานี้นี่เราเจอกะตัวเลยคะ แหะๆ พูดมากจัง และมันเกี่ยวกะเรื่องนี้มั้ยเนี้ยะ   เอาเป็นว่าเริ่มที่ตัวเราก่อนแหละคะ การอนุรักษ์นั้นดี แต่ก็ต้องเข้าใจวิถีชาวบ้านด้วย และที่สำคัญ เราว่าตามที่จขกท.บอกนั่นแหละคะ ต้องสื่อสารกันมากๆ เราไม่เข้าใจ เราคิดว่าไม่ถูก เราก็ถาม / บอกเค้าไปเลย ถือเป็นการแชร์ความรู้ / ประสบการณ์กัน ถึงเวลาแล้ว เราอาจจะได้เห็นเหตุผลบางอย่างที่เราเคยไม่คาดคิดมาก่อนก็ได้นะคะ เฮ้อออ... แต่จริงๆ ปัญหาต่างๆ ในสังคมเนี้ยะ ประเด็นสำคัญ มันก็คือ เรื่องการจัดสรร / การเข้าถึงทรัพยากร ที่ไม่เท่าเทียมกันของคนจริงๆ นะคะ ไม่รู้ว่า ชั่วชีวิตของเรา จะมีโอกาสได้เห็นความเท่าเทียมกันนี่หรือเปล่าน้า..  -_-“ จากคุณ : Daijobudai - [ 27 มี.ค. 52 08:52:44 ]

ความคิดเห็นที่ 21 แล้วอย่างนี้ สงบ สร้างสรร หรือทำลาย http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E7671471/E7671471.html แก้ไขเมื่อ 27 มี.ค. 52 11:01:09 จากคุณ : แดง สุขุมวิท - [ 27 มี.ค. 52 11:00:43 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ถ้าเขาไม่รู้จะไปโทษเขาอย่างเดียวก็ไม่ได้จริงๆแหละเนอะ ขอชื่นชม จขกท.ที่ให้แง่คิดดีๆค่ะ แต่ส่วนตัวคิดว่าความไม่รู้ของชาวบ้านเนี่ย อาจทำลายท้องทะเลไทยก็จริง แต่ก็คงไม่มากเท่าคนที่รู้ทั้งรู้ แต่ยังทำเพราะผลประโยชน์ส่วนตัวอย่างพวกนายทุน ผู้มีอิทธิพลทั้งหลาย สังเกตว่าชาวบ้านเขาอยู่มาแบบนี้ตั้งนาน ธรรมชาติก็ยังสมบูรณ์อยู่ แต่เมื่อไหร่มีคนรวยไปลงทุนทำธุรกิจ ที่นั่นธรรมชาติเละ จากคุณ : ranmachan - [ 27 มี.ค. 52 11:46:41 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 27 มี.ค. 52 13:47:14 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เยี่ยมครับ ขอบคุณมากที่นำเอามุมนี้มาเสนอ นักท่องเที่ยวจากต่างถิ่นจะได้รู้เรื่องราวบ้างซะทีก็ดี จะได้เดินทางสายกลาง บางคนไปเที่ยวเกาะแก่งต่างๆ ยังถามหาแอร์ ถามหาทีวี ถามหาอินเตอร์เน็ต บางคนไปซื้อของแล้วรอนาน รสชาดไม่ถูกปาก บางคนไม่พอใจชาวบ้านซะงั้นก็มี แล้วก็มาโพสต์ว่าเค้า ...ผมหละไม่เข้าใจ จากคุณ : อ๋ำ เดลี่ - [ 27 มี.ค. 52 14:29:54 ]

ความคิดเห็นที่ 25 แต่ยัยเจ๊ร้านโรตี ก็ไม่ไหวเหมือนกันนะ   เอ้ะไม่เกี่ยวกันนี่หว่า จากคุณ : งุงิ (Juxta) - [ 27 มี.ค. 52 15:33:37 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ถูกต้องครับ การให้ความรู้เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ดังที่เขาว่าความรู้พื้นฐานต้องมาเป็นอันดับหนึ่ง ประเทศชาติจะเจริญ จากคุณ : จักรยานกับสายลม - [ 28 มี.ค. 52 00:52:54 ]

ความคิดเห็นที่ 27 แต่ส่วนตัวคิดว่าความไม่รู้ของชาวบ้านเนี่ย อาจทำลายท้องทะเลไทยก็จริง แต่ก็คงไม่มากเท่าคนที่รู้ทั้งรู้ แต่ยังทำเพราะผลประโยชน์ส่วนตัวอย่างพวกนายทุน ผู้มีอิทธิพลทั้งหลาย สังเกตว่าชาวบ้านเขาอยู่มาแบบนี้ตั้งนาน ธรรมชาติก็ยังสมบูรณ์อยู่ แต่เมื่อไหร่มีคนรวยไปลงทุนทำธุรกิจ ที่นั่นธรรมชาติเละ ^ ^ เห็นด้วยค่ะ   และเห็นด้วยเลยค่ะว่าการให้ความรู้เป็นเรื่องสำคัญมาก ๆ   อีกทั้งเป็นการมองในคนละมุมคนละด้าน ในมุมของการอนุรักษ์   เราคงต้องใช้เวลาพอสมควรในการสร้างความเข้าใจ และเราว่ามันต้องเป็นฉันทามติในแต่ละเรื่องด้วย    เหมือนกับที่ชาวบ้านเกาะยาวน้อยตกลงกันเรื่องการลากอวน ถ้าคนเรือ / ทัวร์ / ไกด์ ....ของ อช.ตะรุเตา (ทุกเกาะ) ตกลงกันได้ว่า   จะไม่มีการนำสัตว์ขึ้นมาให้ลูกทัวร์ชมโดยเด็ดขาด  และทุกคนทำจริง   ก็คงจะไม่มีเหตุการณ์พวกนี้เกิดขึ้น แต่ถ้าเค้าไม่ได้ตกลงกัน   แต่ละกลุ่มที่ออกกันไป....คนนำเที่ยวก็ย่อมที่อยากจะให้ลูกทัวร์ของตนมีความสุขเท่าที่ตนเองทำได้ ก็จะยังมีการจับขึ้นมาอยู่ดี อย่างกรณีของบ้านเรา   ทั้งที่บอกล่วงหน้าตั้งแต่จอดเรือแล้ว   ว่า....ลุงไม่ต้องเอาอะไรขึ้นมาให้ดูนะคะ   ให้ทุกคนดูกันเอง แต่หันไปอีกที   ปลิงทะเลก็มาอยู่ในมือเด็กแล้ว    ก็ได้แต่ขอให้ช่วยเอาลงไปคืนที่  และบอกว่าอย่าเอาอะไรขึ้นมาอีกเลย สิ่งที่ลุงบอกเราสรุปได้ประมาณว่า.....     ลุงรู้ว่าทำอะไรได้แค่ไหน    และลุงก็แค่อยากให้เด็กเมืองได้เล่นได้สัมผัสอะไรแบบเด็กเกาะบ้างเท่านั้นเอง เจอมุขนี้เราก็อึ้ง     แล้วก็คิดถึง touch pool  ตามพิพิธภัณฑ์     เรายอมรับบ่อสัมผัสของนักวิชาการ    แต่เราไม่ยอมรับบ่อสัมผัสของชาวบ้าน จากจุดดำน้ำตรงนั้น   ...เราก็เริ่มรู้สึกนะคะว่า  ถ้าจะไม่ให้มีการจับขึ้นมานี่คงต้องเป็นข้อตกลงกัน   ไม่อย่างนั้น  ด้วยภูมิปัญญาที่ชาวบ้านมีอยู่   เราก็ไม่รู้จะบอกยังไงว่า ...ที่ลุงงมเอาดาวทะเล / ปลิงทะเลขึ้นมานั้น  ....ไม่เหมาะสม ปล.  เมื่อ 40 ปีที่แล้ว   ....ทุกเช้าในกรุงเทพ ฯ จะเต็มไปด้วยขยะบนท้องถนน   ต้องมีคนคอยกวาด   มีถนนไม่กี่สายที่ไม่มีขยะ ....ทุกครั้งที่เข้าไปดูหนังในโรง  จะมีควันบุหรี่ลอยกรุ่นอยู่ในโรงเป็นปกติ แต่วันนี้ไม่ใช่แล้ว    บางเรื่องบางราวก็ต้องอาศัยเวลามิใช่น้อย จากคุณ : แม่ซากานะ - [ 28 มี.ค. 52 18:10:47 ]

ความคิดเห็นที่ 28 เพิ่งกลับมาจากเกาะล้านค่ะ  ....  หาดทรายขาวๆ ... น้ำใสแจ๋ว ยิ่งกว่าสระว่ายน้ำ ... กับปะการังสวยๆ ที่เกาะสาก ... อีกนานไม๊น้อ ... จะอยู่ให้เราได้ชื่นชมความงามอีกกี่ปีน้อ ************************************************ รูปนี่แค่ ส่วนเล็กๆๆ ของหาดตาแหวนนะคะ ... ยังมีเปลือกไอติม ถุงพลาสติก ถ่านไฟฉาย AA ฯลฯ อยู่ในทะเลก็มีนะคะ ************************************************ ตอน 6 โมงเย็นแล้วขึ้นจากน้ำ เดินเห็นขยะ ก็ก้มเก็บกันไป 2 คนกะเพื่อน ... แม่ค้า เจ้าของผ้าใบ ก็มองกันเฉยๆ ... เอ๊ะ ... ตกลงบ้านใคร (แต่คิดว่า เค้าคงจะมีเวรเก็บขยะละ ... ไม่งั้นเสร็จแน่ๆ ตาหวานก็หวานเหอะ) จากคุณ : น้องกล้วยปิ้ง - [ 28 มี.ค. 52 22:03:19 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ตามลิ้งค์กระทู้เ่ก่าไป ถูกลบไปแล้ว ยังไม่ทันอ่านเลย เห็นด้วยครับว่าชาวบ้าน ก็มีวิถีทำกินของเขา ซึ่งไม่ได้ทำให้กระทบกระเทือนกับทรัพยากรมากมาย เพราะหาแค่ "พอกิน" แก้ไขเมื่อ 29 มี.ค. 52 23:26:59 แก้ไขเมื่อ 29 มี.ค. 52 11:19:53 จากคุณ : zoopod - [ 29 มี.ค. 52 11:12:12 ]

ความคิดเห็นที่ 30 แก้ไขเมื่อ 29 มี.ค. 52 23:26:25 แก้ไขเมื่อ 29 มี.ค. 52 11:23:35 แก้ไขเมื่อ 29 มี.ค. 52 11:21:56 จากคุณ : zoopod - [ 29 มี.ค. 52 11:14:58 ]

ความคิดเห็นที่ 31 เราเคยไปหลีเป๊ะและประทับใจชาวเรือมากเลยนะ ชาวบ้านก็น่ารัก (เพราะเค้ายังเดินมาส่งแฟนเราที่หลงอีกตามเคย.... ไปเที่ยวไม่เคยไม่หลง ฮ่า ฮ่า ฮ่า) แต่เราว่า ปัญหาของเกาะหลีเป๊ะ มันอยู่ที่พวกกลุ่มผู้มีอิทธิพลมากกว่า ที่ทำทั้งโรงแรม ทำทั้งโป๊ะ รับนักท่องเที่ยว แล้วกินหัวคิวชาวเรือ แถมยังมีพวกไปประมูลสร้างโรงแรมที่เกาะบางเกาะอีก เฮ้อ เรื่องนี้ดีแต่มีคนโทษคนเรือ ว่าเค้าไม่มีความรู้บ้างหละ เค้าเห็นแก่เงินบ้างหละ จริง ๆ นะไม่ใช่เลย ไอ้พวกเห็นแก่เงินก็พวกนายทุนที่ไปจากที่อื่น นั่นแหละ แล้วก็โยนความผิดให้ชาวบ้าน พูดแล้วเซ็ง แต่ชอบสิ่งที่เจ้าของกระทู้เอามาบอกเล่าจังเลย พร้อมรูปประกอบแบบเห็นภาพด้วย ขอบคุณค่ะ จากคุณ : Travel Animal - [ 29 มี.ค. 52 14:59:28 ]

ความคิดเห็นที่ 32 เห็นกระดองเต่าแล้วใจหายจริง ๆ.... พึ่งกลับจากกระบี่ ไกด์เอาขนมปังให้ปลากิน แล้วก็จับปลาขึ้นมาโชว์ฝรั่ง เราได้แต่ยืนมองตาปริบ ๆ บ่นกับเพื่อนว่า จะจับปลามาทำไม ให้ขนมปังปลาทำไมเนี่ย สรุป ไกด์คนนั้นมองเรายังกะจะกินเลือดกินเนื้อ เฮ้อ..... แต่ไกด์เรือลำที่เราไป มีขนมปังที่เหลือจากอาหารเช้า บอกว่าให้เราเอาไปให้ปลา เรากับเพื่อนเสียงเขียวเลย บอกว่าไม่ได้น่ะ ห้ามให้อาหารปลา น้องไกด์เลยบอกว่า โอเคพี่ งั้นทิ้งใส่ถุงดำบนเรือเลย พร้อมกับบอกว่า พี่เหมือนฝรั่งอีกคนเลยอ่ะ เค้าเที่ยวแบบอนุรักษ์ ไม่ยอมให้อาหารปลาในทะเล.... บางครั้งไกด์ หรือ ชาวบ้าน เค้าทำอะไรไปเพื่อเอาใจนักท่องเที่ยวอย่างเรา ๆ ให้ประทับใจจริง ๆ แหละ.... เพราะฉะนั้น ถ้าเค้าจะทำอะไรแบบนี้ให้เรา เราก็ควรบอกเค้าว่า ไม่ต้องหรอก ให้ปลาอยู่ในน้ำดีแล้ว เราจะได้มองอย่างมีความสุข มากกว่าจับเค้าขึ้นมาโชว์.... แก้ไขเมื่อ 29 มี.ค. 52 16:40:19 จากคุณ : เต่าตัวลาย - [ 29 มี.ค. 52 16:37:48 ]

ความคิดเห็นที่ 33 เห็นด้วยคร้าบบบบบ จากคุณ : นั่งรอเธออยู่ - [ 29 มี.ค. 52 20:00:42 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ปัญหาไมไ่ด้อยู่ที่ชาวบ้านครับ เพราะชาวบ้านก็คงต้องใช้ของจากทะเล มาใช้ในการดำรงชีวิต เลี้ยงดูลูกเมีย และ อีกหลายชีวิต แต่ปัญหามันอยู่ที่นายทุนเลวๆ ตัวนึงมากกว่าที่เห็นอะไรเป็นเงินเป็นทอง ไม่สนใจว่าธรรมชาติมันจะเป็นยังไง ยังไงขอให้กรูได้เงินไว้ก่อน อย่างอืนช่างมัน จากคุณ : เด็กกรุง - [ 29 มี.ค. 52 20:13:16 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ไปมาสองปีติด และคิดว่าอีกไม่กี่ปี ก็คงจะเละแล้วหล่ะครับ บนเกาะขยะเยอะ สกปรก ปะการังก็เริ่มโดนทำลาย นักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากคุณ : boy next door - [ 29 มี.ค. 52 22:26:58 ]

ความคิดเห็นที่ 36 มันควรจะมีวิชา  การท่องเที่ยวอย่างถูกต้องไม่ทำลายธรรมชาติ   ลงในหลักสูตรการเรียนด้วยนะ มีเพื่อนรุ่นอิฉันนี่แหละไปเที่ยวทะเลมา .......แล้วมาอวดรุปปลาการ์ตูนในแก้วพลาสติก ที่มีชาวบ้านตักมาให้ดู        แก่ปูนนี้แล้วยังคิดกันไมได้เลยค่ะ  ดีนะที่มันไม่เอากลับบ้านมาด้วย อย่างแถวบ้านอิฉันจะเป็นปัญหาอีกแบบค่ะ "หาของป่า"   สัตว์ป่า ทั้งหลาย ผลหมากรากไม้ เห็นด้วยที่ว่าวิถีชีวิตมันควรเติบโตไปพร้อมกับการอนุรักษ์ด้วย จากคุณ : PaNok@WanDeRer - [ 29 มี.ค. 52 23:52:43 ]