ความคิดเห็นที่ 1 หลายคน รวมถึงคุณถุงกาแฟด้วย อาจจะสงสัยกันว่า.. ญี่ปุ่นยังมีรถดีเซลรางใช้อยู่อีกหรือ? เพราะภาพที่คุ้นตาของเหล่านักท่องเที่ยว กับรถไฟญี่ปุ่น คือ เห็นแต่รถไฟฟ้า หรือที่เรียกย่อ ๆ ว่า EMU (Electric Multiple Unit) ซึ่งจะมี Pantograph หรือ อุปกรณ์รับกระแสไฟ หรือชื่อในวงการรถไฟไทย เค้าเรียกว่า สาลี่ (ไม่ใช่ผลไม้นะ) ทำหน้าที่รับไฟฟ้าจากสายไฟเหนือขบวนรถ มาใช้เป็นพลังงานขับเคลื่อนมอเตอร์ขับเคลื่อนล้อรถ หมายเหตุ: รถไฟฟ้า BTS กับ MRT บ้านเรา ใช้รถไฟฟ้าเหมือนกัน แต่วางระบบรับกระแสไฟฟ้า อยู่ที่รางโลหะด้านล่างขบวนรถ ที่เรียกว่า Third Rail ขอรับ ขบวนนี้ คือ Chou-Sobu Line ใช้ขบวนรถรุ่น EMU E233 Series ของ JR East วิ่งจากจังหวัดจิบะ ผ่ากลางโตเกียวที่อาคิฮาบาระ และ ชินจุกุ ไปสุดสายที่ เมืองมิทากะ ทางตะวันตกของมหานครโตเกียว เอารูปมาให้ดู เสาสาลี่ กันเฉย ๆ ไม่ได้เกี่ยวกับหัวข้อกระทู้เลย จากคุณ : NumAromDee - [ 31 มี.ค. 52 18:35:20 ]

ความคิดเห็นที่ 2 อันดับแรก ขอตอบให้ชี้ชัดกับคำถามของคุณน้องถุงกาแฟกันไปก่อนเลยว่า.. ยังมีรถไฟที่ใช้น้ำมันดีเซล ใช้งานอยู่ญี่ปุ่นนะครับ เยอะด้วย มีหลายเส้นทางทีเดียว ส่วนมากมักจะเป็นเส้นทางรถไฟสายต่างจังหวัดที่ไม่ใช่เส้นทางหลัก ซึ่งมีผู้โดยสารไม่หนาแน่นมาก หรือ เป็นเส้นทางที่ไต่ขึ้นเทือกเขาสูง ๆ ไม่สะดวก หรือยังไม่คุ้มทุน ในการวางระบบส่งกระแสไฟฟ้าควบคู่ไปตามรางรถไฟ เค้าจะใช้รถไฟแบบ ดีเซลราง หรือ เรียกย่อๆว่า DMU (Diesel Multiple Unit) ที่ผมจะพอไปชมกันในตอนนี้นี่เอง ส่วนพวก หัวรถจักร (Locomotive) ที่ใช้พ่วงกับรถโดยสาร (Passanger Car) แบบที่เห็นคุ้นตากับ รฟท. บ้านเรา ที่เป็นหัวรถจักรดีเซล แต่ในญี่ปุ่นส่วนมากจะใช้ หัวรถจักรไฟฟ้า เพราะตัวรถจะน้ำหนักเบากว่า ให้กำลังฉุดลากสูง บำรุงรักษาง่าย และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แต่ก็ยังพอมีหัวรถจักรดีเซลอยู่บ้าง หัวรถจักรในญี่ปุ่นทั้งดีเซล และ ไฟฟ้า เดี๋ยวนี้จะใช้เฉพาะ การลากจูงรถสินค้า (Wagon Car) และ รถนอน (Sleeping Car) เท่านั้น ขบวนนี้ คือ รถนอน Nihankai (นิฮังไค) วิ่งวันละเที่ยว จากสถานีโอซาก้า ผ่านเกียวโต ลัดเลาะไปตามชายฝั่งตะวันตก แถบเมืองคานาซาว่า อะคิตะ สุดสายที่ จังหวัดอาโอโมริ เหนือสุดของเกาะฮอนชู ในเวลาประมาณ 15 ชั่วโมงถึง ก็ 1 ตื่นกว่า ๆ พอดี จากคุณ : NumAromDee - [ 31 มี.ค. 52 18:39:50 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ก่อนจะเข้าเรื่อง.. ขอแนะนำศัพท์เทคนิคเกี่ยวกับการแบ่งชนชั้นขบวนรถไฟญี่ปุ่นก่อนนะ จะได้ไม่มึนเวลาผมเขียนถึงตัวย่อ LEX , Exp. หรือ Lacal รถไฟขนส่งผู้โดยสารโดยสารใหญ่ของญี่ปุ่น แบ่งชั้นออกเป็น 6 ระดับ ตามระดับความเร็ว และ จำนวนสถานีที่จอดรับผู้โดยสาร ดังนี้ 1. Super Express หรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อ Shinkansen นั่นเอง คือ รถไฟความเร็วสูง ที่มีรางของตัวเองโดยเฉพาะ ไม่ปนกับรถไฟแบบธรรมดา วิ่งด้วยความเร็วระดับ 200 กม./ชม. ขึ้นไป 2. Limitetd Express (Tokkyu) หรือ LEX คือ รถด่วนพิเศษ เป็นรถไฟที่วิ่งทางไกลข้ามจังหวัดหรือภาค ด้วยความเร็วค่อนข้างสูงระดับ 100 กม./ชม. ขึ้นไป และจะจอดเฉพาะสถานีสำคัญ ๆ เท่านั้น 3. Express (Kyuko) หรือ Exp. คือ รถด่วน เป็นรถไฟที่วิ่งทางไกล ๆ เหมือนกับ LEX ส่วนมากที่เห็นของ JR จะเป็นรถนอน ที่ใช้วิ่งตอนกลางคืน ส่วนของบริษัทอื่น Exp. จะเป็นรถที่แวะจอดมากสถานีกว่า LEX 4. Rapid (Kaisoku) คือ รถเร็ว เป็นรถวิ่งระยะกลาง ไปจังหวัดใกล้ ๆ หรือ วิ่งจากในเมืองออกไปชานเมือง จอดเกือบตลอดทางในสถานีสำคัญ เว้นสถานีเล็ก ๆ พวกเพิงหมาแหงนไม่จอด 5. Local (Futsu) คือ รถธรรมดา เป็นรถวิ่งระยะกลาง หรือรถชานเมืองเหมือนกับ Rapid แต่จอดมันดะทุกสถานี แบบที่บ้านเราเรียกรถหวานเย็นนั่นแหละ 6. Rapid Transit คือพวก Subway (Chikatetsu) หรือ รถไฟ Loop Line (Kanjo-sen) ที่วิ่งวนรอบเมือง อย่าง Yamanote Line ที่โตเกียว หรือ Osaka Loop Line คือ รถขนส่งมวลชนที่ใช้ขนส่งผู้คนในเมืองใหญ่ วิ่งวนเวียนกันทั้งวันในระยะทางสั้น ๆ ภายในเขตเมือง ซึ่งรถไฟตั้งแต่ระดับ Express ขึ้นไป จะมีการตั้งชื่อให้ขบวนรถให้ไพเราะแตกต่างกันไปตามเส้นทางวิ่ง เช่น Hokutosei, Komachi, Hikari, Haruka, Tsubame และอีกมากหมายหลายเพราะ เหมือนที่ รฟท. ตั้งชื่อ รถไฟด่วนพิเศษ ระหว่างกรุงเทพ-เชียงใหม่ ว่า ด่วนนครพิงค์ ประมาณนั้น ส่วนรถไฟระดับ Rapid และ Local ก็จะเรียกชื่อขบวนตามชื่อเส้นทางไป เช่น Chuo Line, Takayama Line, Hakodate Line, Kansai Line, Kumamoto Line และอีกหลายไลน์ จนขี้เกียจจาระไนแล้ว เด๋วจะกลายเป็นตำราเรียน รถไฟญี่ปุ่น 101 ไปซ่ะก่อน ข้อมูลรถไฟพวกนี้ หาได้จากจากลุงวิ เจ้าเดิมนะครับ Search หาเอาตามชื่อบริษัทรถไฟ แล้วลองดูที่ Link ที่เกี่ยวข้อง จะมีชื่อสายรถไฟออกมา ตามตัวอย่าง Link นี้ของ JR Shikoku http://en.wikipedia.org/wiki/JR_Shikoku ชอบรูปนี้จัง.. ไม่เกี่ยวกับญี่ปุ่น แต่เลือกมุมถ่าย และจังหวะเวลาได้เทพมาก แก้ไขเมื่อ 31 มี.ค. 52 18:45:05 จากคุณ : NumAromDee - [ 31 มี.ค. 52 18:44:01 ]

ความคิดเห็นที่ 4 และแถมด้วย ศัพท์เทคนิคกันอีกนิด เด๋วคนที่ไม่มีพื้นฐานเรื่องรถไฟ หรือ เครื่องยนต์กลไก จะเลิกอ่านกันซ่ะก่อน คำว่ารถไฟแบบ MU หรือ Multiple unit นั้น ถ้าให้อธิบายง่าย ๆ ก็คงประมาณว่า เป็นรถไฟที่มีระบบขับเคลื่อนแยกอิสระอยู่ในแต่ละโบกี้ สามารถแยกขับเคลื่อนได้โดยลำพังตู้เดียว หรือเอามาต่อกันเป็นขบวนยาว ๆ แล้วใช้คนขับคนเดียว ควบคุมทั้งขบวน ก็ได้ ในญี่ปุ่น มีผลิตใช้งานกัน 2 แบบ คือ แบบใช้ไฟฟ้า EMU และ แบบใช้น้ำมันดีเซล DMU จริง ๆ ยังมี MU แบบที่ 3 ด้วยนะ คือ Diesel electric multiple unit หรือ DEMU คือใช้เครื่องดีเซลไปปั่นไฟขับมอเตอร์ลากจูง แต่ในญี่ปุ่น(เท่าที่มีข้อมูล)ไม่มีการสร้าง MU ชนิดนี้ ขอไม่เล่าละกัน เด๋วจะกลายเป็นตำราเรียนวิศวกรรม เอารูปมาเปรียบเทียบกันชัด ๆ Locomotive คือ หัวรถจักร ไว้ลากตู้สินค้า หรือ ตู้โดยสาร DMU คือ รถดีเซลราง ส่วน EMU คือ รถไฟฟ้า จากคุณ : NumAromDee - [ 31 มี.ค. 52 18:49:14 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ส่วนพวก หัวรถจักรแบบใช้เครื่องดีเซล เหมือนรถไฟไทยบ้านเรา ที่ญี่ปุ่นเหลือใช้อยู่ไม่มากแล้ว ที่มีข้อมูลก็มีแต่รุ่นเก่า ๆ ส่วนมากจะเอาไปใช้ลากตู้สินค้า ตามเส้นทางรถไฟที่ไม่มีระบบจ่ายไฟฟ้าซ่ะมากกว่า ที่ยังมีพัฒนาและสร้างใช้งานอยู่ตอนนี้ จะเป็นพวกรถซ่อมบำรุง รถปั่นจั่น หรือไม่ก็รถกวาดหิมะไปซ่ะมากกว่า อย่างคันนี้ เป็นรถเบิกทางกวาดหิมะ รุ่น DE150 จากคุณ : NumAromDee - [ 31 มี.ค. 52 18:51:41 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เล่าประวัติศาสตร์กันอีกหน่อย.. เพราะอดูด เอ๊ย! อดีต จะทำให้เราืมีเหตุผลและสร้างบทเรียนให้จำไม่ทำอีก ญี่ปุ่นเริ่มคิดเปลี่ยนแนวการออกแบบและผลิตรถไฟ จากการใช้หัวรถจักรลากจูง มาเป็น MU ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2493 หลังสงครามโลกครั้งที่สอง สงบใหม่ ๆ นู่นนนนนนนนนแล้ว (สงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดเมื่อ พ.ศ. 2488) 90% ของขบวนรถไฟในญี่ปุ่น เป็น MU ซึ่งปัจจุบันนี้ใน 90% ที่ว่า ก็เป็น EMU ไปซ่ะมากกว่าค่อน ชินคันเซน ก็เป็น EMU แบบหนึ่งนะครับ แต่เป็น EMU ที่มีห้องคนขับ (Driving Car) แค่ 2 ชุด อยู่ตรงหัวกับท้ายขบวน ส่วนตรงกลางเป็นตู้โดยสารที่ทำหน้าที่เป็น Power Car, Motor Car และ Trailer Car ไปพร้อม ๆ กัน เหตุที่ญี่ปุ่นต้องเปลี่ยนแนวจากการใช้หัวรถจักร มาเป็น MU เกือบทั้งหมด ก็เพราะ.. ผู้มีอำนาจในการวางแผนพัฒนาประเทศในสมัยนั้นมีวิสัยทัศน์โอดโลด พิจารณาแล้วเห็นว่า บ้านเค้าเป็นประเทศที่มีประชากรหนาแน่นติดอันดับต้น ๆ ของโลก เนื้อที่ประเทศไม่กว้างใหญ่ ผู้คนกระจุกตัวอยู่ตามที่ราบชายฝั่งทะเล ระบบการขนส่งที่เหมาะสมก็น่าจะเป็นระบบราง ที่ต้องมีความยืดหยุ่นการเดินรถมาก ๆ รถไฟแบบ MU จึงเข้ามาตอบโจทย์ข้อนี้ได้เกือบครบ โดยมันมีข้อดีสำหรับการขนส่งผู้คนญี่ปุ่น ดังฉะนี้ 1. ใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า เพราะ MU มีระบบขับเคลื่อนติดตั้งอยู่ทุกตู้ น้ำหนักก็เบา จึงมีอัตราการกระจายและแบกน้ำหนักผู้โดยสารต่อกำลังเครื่องต่ำกว่า Locomotive อัตราเร่งเลยดีกว่า สามารถวิ่ง ๆ จอด ๆ ได้บ่อย โดยไม่สิ้นเปลืองพลังงานมากนัก เหมาะกับการเอามาใช้เป็นรถขนส่งผู้คนตามในเมือง หรือ ชานเมือง ได้ดี จะได้สามารถกำหนดจุดจอดได้ถี่ยิบ รองรับชุมชนที่ขยายตัวเพิ่มได้เรื่อย ๆ 2. เวลาวิ่งสุดสาย ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาถอดหัวรถจักร แล้วขับวนมาเชื่อมต่อกับท้ายขบวน พนักงานขับรถแค่เดินกลับมาที่ห้องขับอีกด้านนึง ก็สามารถขับรถย้อนกลับเส้นทางเดิมได้ในเวลาไม่กี่นาที เมื่อประหยัดเวลาตรงนี้ได้ ก็สามารถจัดวิ่งรถได้จำนวนเที่ยวมากขึ้น และไม่จำเป็นต้องสร้างสถานีปลายทางให้มีพื้นที่ใหญ่โต สำหรับทำรางกลับรถให้หัวรถจักร 3. ยืดหยุ่นในการจัดการการเดินรถ เพราะแต่ละตู้มีระบบขับเคลื่อนเป็นของตัวเอง ทำให้สามารถแยกขบวนรถเป็นชุดเล็ก ชุดใหญ่ หรือจะให้วิ่งโบกี้เดียวก็ยังได้ ไม่ต้องมานั่งเครียดจนปวดตับ ว่าจะมีหัวรถจักรพอลากตู้โดยสารตอนช่วงสงกรานต์ เอ๊ย! โอบง หรือไม่ 4. ถ้าเครื่องยนต์เสียที่โบกี้ใดโบกี้หนึ่ง ขบวนรถก็สามารถวิ่งไปต่อได้ เพราะยังมีเครื่องยนต์ของโบกี้อื่นให้ใช้ขับเคลื่อนได้อยู่ และไม่ส่งผลกระทบต่อสมรรถนะของรถมากนัก ประสิทธิภาพของเครื่องยนต์และระบบเบรคจะเชื่อมโยง และเกื้อหนุนกันทั้งขบวน อีกอย่างยังปลอดภัยมากกว่า เพราะแต่ละตู้มีระบบเบรคแยกอิสระเป็นของตัวเอง ถ้าตู้ใดตู้หนึ่งเบรคเสีย ก็ยังใช้ระบบเบรคของตู้อื่น ช่วยประครองได้ 5. MU สามารถเพิ่มจำนวนโบกี้ได้เรื่อย ๆ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการคำนวณน้ำหนักลากจูง อัตราเร่ง หรือ ระยะเบรค ให้พนักงานจัดขบวนรถต้องซัดพาราฯ หลังอาหาร เหมือนกับการเพิ่มตู้โบกี้โดยสารให้กับหัวรถจักร เขียนไป ก็นึกเปรียบเทียบกับรถไฟไทยไป.. แล้วก็เศร้า เมื่อไหร่มันจะพัฒนาซ่ะทีเวร้ยยยยย!! ผมก็รักรถไฟไทยนะ แต่ถ้ามันไม่พัฒนา แถมยังถอยหลังลงพิงคลองหลอดแบบนี้ สงสัยคงต้องเลิกรักกันซักวันแน่ แต่คันนี้ไม่เกี่ยวกับเรื่อง เป็นหัวรถจักรดีเซล รุ่น DF200 คุ้น ๆ ว่าจะใช้ลากตู้สินค้าอยู่ที่ฮอกไคโดนะ เอามาให้ดูแก้ คห. โล่ง เฉย ๆ ถ้าจำผิดรุ่นขออภัยเหล่าเท็ทจังเท็ทสึโกะด้วย.. รูปมันเย้อะ++ แก้ไขเมื่อ 01 เม.ย. 52 11:57:50 จากคุณ : NumAromDee - [ 31 มี.ค. 52 19:00:54 ]

ความคิดเห็นที่ 7 มีคนวิ๊ง.. วิ๊ง.. มาขอ Link ย้อนหลังของรีวิวชุด รถไฟญี่ปุ่น จัดให้ครับ.. เริ่มโพสซีรีส์นี้ไว้ตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ตอนนี้ไปสถิตอยู่ในคลังกระทู้เก่าหมดแล้ว ขอบคุณทุกท่านมากนะครับ ที่ช่วยกันกดโหวตเก็บเข้าคลังกระทู้เก่า แนะนำรถไฟจากสนามบินนาริตะ เข้าเมืองโตเกียว (แถมรถบัส) http://topicstock.pantip.com/blueplanet/topicstock/2008/09/E7027040/E7027040.html   เล่าเรื่องรถไฟในโตเกียว ตอนที่ 1: รถไฟ JR กับ Tokyo Metro http://topicstock.pantip.com/blueplanet/topicstock/2008/09/E7049329/E7049329.html   เล่าเรื่องรถไฟในโตเกียว ตอนที่ 2: Toei Subway กับ รถไฟริมน้ำ http://topicstock.pantip.com/blueplanet/topicstock/2008/10/E7052803/E7052803.html แนะนำสารพัดตั๋วรถไฟ http://topicstock.pantip.com/blueplanet/topicstock/2008/10/E7073951/E7073951.html   รีวิวชินคันเซนตอนที่ 1: แนะนำ 000 จนถึง 800 Series http://topicstock.pantip.com/blueplanet/topicstock/2008/10/E7101392/E7101392.html   รีวิวชินคันเซน ตอนที่ 2: E Series และ ชินคันเซนในอนาคต http://topicstock.pantip.com/blueplanet/topicstock/2008/10/E7121635/E7121635.html   ตอบปัญหาเรื่องการใช้รถไฟญี่ปุ่น ตอนที่ 1 http://topicstock.pantip.com/blueplanet/topicstock/2008/11/E7182969/E7182969.html   ตอบปัญหาเรื่องการใช้รถไฟญี่ปุ่น ตอนที่ 2 http://topicstock.pantip.com/blueplanet/topicstock/2008/11/E7204227/E7204227.html ตอนล่าสุดครับ ยังอยู่ในบอร์ด เป็นมินิรีวิว ตอบคำถามเรื่องการเดินทางไป Huis Ten Bosch http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E7621671/E7621671.html แล้วแถมรูปหัวรถจักรดีเซลรุ่นแรก ๆ ของญี่ปุ่น มาให้ดู สำหรับคนชอบความคลาสสิค และเรโทร เป็นหัวรถจักรรุ่น DE10 ผลิตมาตั้งแต่ พ.ศ. 2509 แต่ตอนนี้ยังมีการซ่อมบำรุง และปรับปรุงให้ใช้วิ่งได้อยู่เลยนะ คุ้น ๆ ว่า มีอยู่คันนึง JR Hokkaido เอามาทาสีเขียว แล้วใช้ลากรถไฟขบวนท่องเที่ยวชมทุ่งดอกลาเวนเอกร์ที่ฮอคไกโด อยู่เลยนะ เด๋วถ้าหารูปเจอ จะเอามาให้ดูอีกที แก้ไขเมื่อ 31 มี.ค. 52 19:04:37 จากคุณ : NumAromDee - [ 31 มี.ค. 52 19:04:09 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เพื่อความสะดวกและคล่องตัวในการพัฒนารถไฟญี่ปุ่น รัฐบาลเลยตัดสินใจแปลงสภาพหน่วยงาน Japanese Government Railways ในสังกัดกระทรวงคมนาคม ให้กลายเป็นองค์กรมหาชน Japanese National Railways (JNR) ดูแลการเดินรถ และการพัฒนาหัวรถจักร ให้ทั้งประเทศ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2492 หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 จบแค่ 5 ปีเอง โอ้วววว!! ขนาดแพ้สงคราม ประเทศพึ่งฟื้นนะเนี่ยะ.. ฟิตมากกกกก JNR เริ่มภารกิจพัฒนารถไฟโดยสารทั้งแบบ DMU และ EMU อย่างจริงจัง พร้อม ๆ กันมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2493 หัวรถจักรไอน้ำทั้งหมดที่วิ่งมาตั้งแต่สมัยเมจิ ก็ถูกปลอดระวางจนเหี่ยนในปี พ.ศ. 2519 แล้วหันไปพัฒนาหัวรถจักรไฟฟ้า เอาไว้ใช้ลากตู้สินค้าแทน สมัยแรก ๆ ก็ไปเน้นที่ DMU ก่อน ส่วน EMU ต้องรอให้การติดตั้งสายส่งไฟฟ้าให้เสร็จเป็นสาย ๆ ไป ถึงค่อยมาเร่งพัฒนาทีหลัง DMU จะใช้รหัสนำหน้ารุ่นรถไฟว่า KiHa (คิฮะ) เริ่มจาก KiHa 01 จนเดี๋ยวนี้ปาเข้าไปเกือบ 300 แล้ว ซึ้งคำนี้ได้ยินเท็ทจังรุ่นพี่แห่งบอร์ดรถไฟไทยบอกว่า.. Kiha ย่อมาจาก Kitosha ที่แปลว่า ดีเซลราง ส่วน Ha จำคำเต็มไม่ได้ แต่แปลว่า รถโดยสารชั้นปกติ (Ordinary Car) ส่วน EMU จะใช้รหัสนำหน้ารุ่นรถไฟว่า E Series ขบวนนี้เป็นรูปดีเซลรางรุ่นเก่าที่สุด ที่ผมพอจะหามาได้ KiHa 07 ตอนแรกก็ต้องเป็นนักลอก ทีมพัฒนายุคนั้นเลย ลอกแบบ และ ก๊อปเทคโนโลยีจากรถไฟยุโรปทั้งดุ้น (น่าจะเป็นเยอรมัน) ยังไม่มีแนวทางเป็นของตัวเอง จากคุณ : NumAromDee - [ 31 มี.ค. 52 19:08:49 ]

ความคิดเห็นที่ 9 พอพัฒนามาถึง KiHa 10 หน้าตาก็ไปละม้ายคล้ายกับรถเมล์ ขสมก. รถร้อนครีมแดง ซ่ะงั้น สงสัยคนออกแบบจะโหนรถเมล์มาทำงาน คันนี้ตามข้อมูล ถูกโอนจาก JNR (ชื่อเดิมของ JR) มาอยู่กับรถไฟ Meitetsu (อดีต คือ การรถไฟนาโงย่า) เห็นว่าเคยใช้วิ่งอยู่แถวเขตจุบุ (ภาคกลาง) และน่าจะวิ่งในเขตภูเขานะ เพราะเห็นมีติดพานกวาดหิมะไว้ด้านล่างด้วย   ตอนนี้น่าจะปลดจากรางไปตัั้้งปลูกสะระแหน่ หรือ เข้ามิวเซี่ยมไปหมดแล้ว(มั้ง) จากคุณ : NumAromDee - [ 31 มี.ค. 52 19:11:33 ]

ความคิดเห็นที่ 10 พอมาถึง KiHa 20 หน้าตาค่อยเริ่มเป็นผู้เป็นรถไฟ.. แต่ก็ยังมีกลิ่นอายของรถเมล์ติดมาอยู่ดี โดยเฉพาะตรงหน้าต่าง จุดเด่นของซีรีย์นี้ คือ ไฟหน้ารูปวงกลม 2 ดวง ที่ติดรวมอยู่ในฐานวงกลม ตรงด้านบนสุดของหน้ารถ รูปเก่าแล้ว เอามาจากเน็ตเลยไม่มีข้อมูลว่ายังใช้วิ่งอยู่รึเปล่า จากคุณ : NumAromDee - [ 31 มี.ค. 52 19:14:22 ]

ความคิดเห็นที่ 11 พี่แวะมาทัก ..... ไม่ถนัดเรื่องรถไฟ ..... กระโจนชึ้นลงอย่างเดียวแหละ .. ขอให้ไปส่งให้ถึงที่ .... แต่แอบอาข้อมูลคุณหนุ่มไปใช้หลายครั้งละ หลังสงกรานต์เจอกันครับคุณหนุ่มแล้วจะเอาซากุระมาฝาก จากคุณ : ติวเตอร์ตู่ (CEOTHAI42) - [ 31 มี.ค. 52 19:17:49 ]

ความคิดเห็นที่ 12 KiHa 30  หน้าตาและสมรรถนะทันสมัยขึ้น แต่ก็ยังคงใช้ไฟหน้ารูปวงกลม ติดด้านบนสุดของหน้ารถเหมือนกับ KiHa 20 แทบไม่เหลือเค้ารถเมล์แล้ว.. ตามข้อมูล คันนี้ JR East ปะผุทำสีใหม่ แล้วเอามาวิ่งเป็นรถ Local รับส่งคนตามชานเมืองของจังหวัดจิบะ ในเส้นทางสั้น ๆ แค่ 32 กิโลเมตร ชื่อ Kururi Line จากคุณ : NumAromDee - [ 31 มี.ค. 52 19:18:57 ]

ความคิดเห็นที่ 13 สวัสดีครับพี่ตู่.. ขอบคุณครับที่แวะมาทักทาย เรื่องถ่ายรูปผมก็ไม่ถนัดครับ ถนัดแต่โม้ กิน แล้วก็หลงไหลการดูรถไฟ รอดูรูปสวย ๆ ฝีมือพี่ตู่อยู่อย่างใจจดใจจ่อเลยนะเนี่ยะ เดินทางวันไหนครับ? ขอให้สนุกสนานเบิกบาน ได้รูปซากุระสวย ๆ มาฝากกันเยอะ ๆ นะครับ ========================== รุ่นต่อไป Kiha 40 ค่อยดูเป็น DMU ที่คุ้นตาเต็มคันซ่ะที ตั้งแต่ KiHa 40 Series ไปจนถึง 60 Series น่าตาจะออกมาในแนวเดียวกันเกือบทั้งหมดนะครับ ต่างกันแค่เครื่องยนต์ และการจัดวางพวกสายไฟ ท่ออากาศ ท่อเชื่อมนิด ๆ หน่อย ๆ เพราะช่วงนั้น (ประมาณปี 2500) แสงทองแห่งยุครุ่งโรจน์ของรถไฟญี่ปุ่นกำลังมาถึง เำพราะทีมพัฒนารถไฟญี่ปุ่นกำลังคิดการใหญ่ สร้างรถไฟชินคันเซนขึ้นมาพอดี (เปิดตัวเมื่อปี 2507) หน้าตารถไฟแบบอื่นของญี่ปุ่นหลังจากปีนั้นเลยออกมาเหมือน ๆ กันหมด คงเพราะยกทีมพัฒนาไปทำชินคันเซนหมดทั้งบริษัทเลยมั้ง.. KiHa 40 คันนี้ ตอนนี้ยังอยู่ในสภาพดี อยู่ในการดูแลของ JR West ใช้วิ่งอยู่แถว ๆ คันไซในเส้นทาง Tsuyama Line ในจังหวัดโอคายาม่า จากคุณ : NumAromDee - [ 31 มี.ค. 52 19:29:51 ]

ความคิดเห็นที่ 14 แวะเลคเชอร์นอกเรื่องอีกนิดนึง.. คือ ถ้าพูดถึงคันไซ คันโต สำหรับมือใหม่ที่ยังไม่รู้ภูมิศาสตร์ญี่ปุ่นอาจจะตามไม่ทัน เอาแผนที่การแบ่งภูมิภาคญี่ปุ่นมาให้ดู เวลาพูดถึงเขตภูมิภาคต่าง ๆ ในญี่ปุ่นจะได้ไม่มึน ญี่ปุ่น ประกอบด้วยเกาะใหญ่ 4 เกาะ คือ ฮอนชู ฮอคไกโด ชิโคะคุ และ คิวชู เกาะใหญ่ที่สุด คือ เกาะฮอนชู ก็แบ่งออกเป็น 5 ภูมิภาค คือ - โทโฮะคุ หรือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พื้นที่ทางเหนือของเกาะฮอนชู - คันโต คือ บริเวณมหานครโตเกียว และจังหวัดรอบ ๆ - จูบุ คือ ภาคกลาง ซึ่งมีพื้นที่รวมถึงเขตเทือกเขาเจเปนแอลป์ แถว  ๆ  จังหวัดอิชิคาว่า ที่เรียกว่า โฮะคุริคุ ด้วย - คันไซ หรือ คินคิ คือ เขตภาคตะวันตกส่วนบน โซน โอซาก้า เกียวโต และจังหวัดใกล้เคียง - จูโงะคุ คือเขตภาคตะวันตกส่วนล่าง แถวนั้นมี 2 ด้าน ทางฝั่งตะวันออก เรียก ซันโย (ฝั่งหน้าเขา) ส่วนทางตะวันตก เรียก ซันอิน (ฝั่งหลังเขา) คงพอช่วยแก้งง เวลาอ่านเจอศัพท์พวกนี้ในไกด์บุค หรือ เว็ปท่องเที่ยวญี่ปุ่น ได้บ้างนะครับ จากคุณ : NumAromDee - [ 31 มี.ค. 52 19:32:24 ]

ความคิดเห็นที่ 15 #7 คุ้น ๆ ว่า มีอยู่คันนึง JR Hokkaido เอามาทาสีเขียว แล้วใช้ลากรถไฟขบวนท่องเที่ยวชมทุ่งดอกลาเวนเอกร์ที่ฮอคไกโด ใช่ Norokko ko รึป่าวคะ มีรูปแต่ไม่รู้จะส่งให้ยังไงดี ชอบมากๆ นั่งไปทุ่งลาเวนเดอร์มาซะ  2 ปีซ้อนๆ จากคุณ : sweettea - [ 31 มี.ค. 52 19:33:00 ]

ความคิดเห็นที่ 16 กลับมาที่ดีเซลรางกันต่อ ไปขุดรูปเก่า ๆ จากเน็ทมาได้อีกรูป ให้ดูกัน 2 รุ่นซ้อน คือ KiHa 55 (ขบวนซ้ายมือ) และ Kiro 25 (คันขวามือ) Kiro เป็นชื่อรุ่น รถดีเซลรางอีกแบบนึง แต่เห็นมีรถที่ใช้ชื่อรหัสแบบนี้ไม่มากนัก หลัง ๆ มาก็เห็นมีแต่ KiHa อย่างเดียว หน้าตาแปลกดี เหมือนเอากล่องเหล็กมาเจาะรู ติดล้อ จากคุณ : NumAromDee - [ 31 มี.ค. 52 19:34:26 ]

ความคิดเห็นที่ 17 สวัสดีครับคุณ sweettea ใช้แล้ว.. เป็นรถ Norokko จริง ๆ ขออภัยตอนแรกผมลืมชื่อ เจอรูปแล้ว!! ที่เกริ่นไว้ใน คห. 7 และที่คุณ sweettea ติดอกติดใจไปนั่งมา 2 ปีซ้อน ว่า JR Hokkaido เอาหัวรถจักรรุ่น DE10 ลากตู้โดยสาร ทำเป็นรถไฟท่องเที่ยวขบวนพิเศษ วิ่งเฉพาะช่วงหน้าร้อนที่ดอกลาเวนเดอร์บาน นั่งกันหวานเย็น วิ่งเอื่อย ๆ จาก Biei ไป Furano ผ่านฟาร์มโทมิตะ ( http://www.furano-kankou.com/english/home.htm ) ชื่อขบวน Norokko แน่นอนครับ!! ซักวันฉันจะไปนั่งเธอให้ได้!! จากคุณ : NumAromDee - [ 31 มี.ค. 52 19:38:41 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เอารูปใหม่ ๆ ของรถไฟโบราณที่ยังมีวิ่งอยู่มาให้ดูกันบ้าง ยังมาเป็นคู่ รูปนี้เพื่อนส่งมาให้ ถ่ายที่สถานีโมริโอกะ จังหวัดอิวาเทะ ทางเหนือเกือบสุดของเกาะฮอนชู ดูที่ขบวนซ้ายมือนะ คือ Kiha 52 เป็นรุ้นที่คุ้น ๆ เหมือนบ้านเราเคยมี เห็นว่าเอามาถอดเครื่องออก แล้วทำเป็นตู้โดยสารแบบใช้หัวรถจักรลากไปแล้ว.. นะ ใครเป็นแฟนพันธ์แท้รถไฟไทยช่วยฟันธง หรือ คอนเฟิร์มให้ผมด้วยเน้อ เรื่องรถไฟไทย ผมแค่ระดับเด็กน้อย ส่วนขบวนทางขวาเป็นหัวรถจักรไฟฟ้ารุ่น EH500 สำหรับลากขบวนรถสินค้า จากคุณ : NumAromDee - [ 31 มี.ค. 52 19:42:01 ]

ความคิดเห็นที่ 19 รุ่นนี้ยอดนิยม KiHa 58 เป็นรุ่นที่อึด สมรรถนะเยี่ยม ประจำยุคนั้น แอร์เย็น(มากกกกก) ทนทาน บำรุงรักษาไม่ยาก (สำหรับช่างญี่ปุ่น) ผลิตมาตั้งแต่ พ.ศ. 2504 นู่น แต่จน ณ บัดเดี่ยวนี้ ก็ยังมีใช้เป็นรถ Local วิ่งหวานเย็นอยู่ในหลายเมืองทั่วประเทศอยู่เลย มีวิ่งตั้งแต่เขตหิมะท่วมอย่างฮอคไกโด ไปยันถึงเขตชายฝั่งทะเลเกาะคิวชูกันเลยทีเดียว จากคุณ : NumAromDee - [ 31 มี.ค. 52 19:44:11 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ตอนที่เมืองไทยจัดเอเชี่ยนเกมส์ครั้งที่ 13 เมื่อปี 2541 รัฐบาลญี่ปุ่นให้ JR West ส่ง KiHa 58 ที่ยังสภาพดีให้รัฐบาลไทยแบบ Free Transfer เอาไปใช้วิ่งเป็นรถขบวนพิเศษ รับส่งนักท่องเที่ยวที่มาชมเอเชี่ยนเกมส์ ในในเขตกรุงเทพ และชานเมือง แบบว่าเป็นแซมเปิ้ลเผื่อว่า รฟท. สนใจรับเซ้งต่อ เนื่องจากรุ่นนี้ทางญี่ปุ่นผลิตออกมาเยอะร่วมพันกว่าตู้ ทิ้งไว้ที่นู่นก็เปลืองที่เก็บ และไม่มีสะระแหน่ให้ปลูก มาถึงเมืองไทย รฟท. ก็ทาสีซ่ะใหม่ เป็น ด้านหน้าเหลือง-แดง ข้างฟ้า-ขาว ตามสีมาตรฐานรถไฟไทย แล้วเรียกชื่อว่า ดีเซลราง JR West ให้เกียรติต้นสังกัดเดิม  (คนละแบบกับตู้นอน JR West ที่พี่อิ๋ม-แม่ซากานะ เคยรีวิวไว้นะครับ) แค่ปีเดียวหลังเอเชี่ยนเกมส์จบ ก็ตามเคย.. มีปัญหาเรื่องการซ่อมบำรุง และการจัดหา(กิน)อะไหล่ โดนโละไปซ่ะเหล้ว.. (เศร้า) อีกอย่าง ได้ยินมาว่า เครื่องยนต์ดีเซลของ คิฮะ 58 เป็นเครื่องเมืองหนาว ที่ออกแบบมาให้ต้องมีการเผาหัวอุ่นเครื่องก่อนรถออกทุกครั้ง แต่พอมาถึงเมืองไทย ช่างไทยไปคิดเอาเองว่า บ้านเรามันร้อนโครต จะเผาหัวไปทำไมให้เสียเวลา สตาร์ททีไร ก็เห็นติดทุ้กที เลยไม่ได้ทำ ก็เจ๊งหน่ะซิครับ.. พี่น้อง และอีกเหตุผลหนึ่ง จากข้อมูลของเท็จจังญี่ปุ่นที่บ้ารถไฟจนตามมาดูถึงเมืองไทย วิเคราะห์เอาไว้เหมือนทำงานที่ รฟท. ว่าถึงจะซื้อมาใช้ในเมืองไทยก็คงลำบากอยู่ดี.. ? เนื่องจากรถไฟญี่ปุ่นมีขนาดขนาดฐานล้อ 1.067 เมตร กว้างกว่าของรถไฟไทย เอามาแล้วต้องส่งไปบีบฐานล้อให้เหลือแค่ 1 เมตร แต่เจ้าตัวโบกี้ที่กว้างขวางกว่ารถไฟไทยเช่นกันนั้น มันบีบขนาดไม่ได้เหมือนฐานล้อ ทำให้ไม่สามารถขับ KiHa 58 ไปไกล ๆ ได้ เพราะวิ่งลอดอุโมงค์รถไฟไทย บ่ได้ เลยอดซื้อของดีราคาถูกมาใช้กันไป.. (เศร้าครั้งที่ 2) จากคุณ : NumAromDee - [ 31 มี.ค. 52 19:48:25 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เข้ามาให้กำลังใจ พรุ่งนี้จะตามอ่านต่อนะคะ จากคุณ : sweettea - [ 31 มี.ค. 52 19:48:38 ]

ความคิดเห็นที่ 22 จนแล้วจนรอด แม้จะผลิตมาถึง KiHa 66 หน้าตาก็ยังแทบจะเป็นฝาแฝดกับตัว 50 Series อยู่ดี ถ้าไม่ใช่แฟนพันธ์แท้จริง ๆ คงสังเกตไม่ออก มันต่างกันแค่เครื่องยนต์ กับการจัดวางท่อทาง สายอากาศ ตรงหน้ารถแค่เล็กน้อยเท่านั้น เท็ทจัง เท็ทซึโกะ เมืองไทย สังเกตความแตกต่างออกมั้ยครับ? คันนี้ผมไปเจอวิ่งอยู่ที่นางาซากิในเส้นทาง Omura Line จากสถานีนางาซากิ ไป Huis Ten Bosch ขนาดสร้างและใช้งานมานานกว่า 30 ปีแล้ว และด้านนอกอาจจะดูมอมแมมไปนิด แต่ด้านในยังใหม่ สะอาด มันวับ วิ้ง.. วิ้ง.. เลยนะ เข้าไปนั่งแล้วยังอึ้ง และทึ่งมากเลยว่า JR ทำยังไงถึงได้รักษาสภาพรถได้ดีขนาดนี้ ยังใช้ได้ดี เสียงไม่ดังโครมคราม ช่วงล่างไม่ส่ายหัวสั่นหัวคลอน และยังวิ่งฉิวอยู่เลย จากคุณ : NumAromDee - [ 31 มี.ค. 52 19:52:26 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ผมเคยเจอ ร.ฟ.ท. ขอย้ำว่า ที่หัวรถจักรเขียนว่า "ร.ฟ.ท" จริงๆ น่าจะเป็นรถไอน้ำ คล้ายๆรูปใน คห.3 วิ่งไป คาวาเน่ (Kawane) ผมถ่ายรูปไว้ไม่ทัน จากคุณ : Lennon50 - [ 31 มี.ค. 52 19:55:51 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ขอบคุณมากครับคุณ Sweettea งานนี้ทำด้วยความรักรถไฟ(ญี่ปุ่น) ล้วน ๆ เลยครับ ============================= ข้ามไปดู DMU รุ่นคลาสสิค ที่ JNR เอามาวิ่งเป็น LEX กันมั่ง ขบวนแรก KiHa 80 ผลิตมาหลายสิบปี จนปลดระวางไปตั้งโชว์ใน Modern Transportation Museum ( http://www.mtm.or.jp/eng/visitor/index.html )ที่โอซาก้า เรียบร้อยโรงเรียนญี่ปุ่นซ่ะแล้ว เห็นแล้วนึกถึงน้องหมาเกรทเดนท์ จากคุณ : NumAromDee - [ 31 มี.ค. 52 19:56:24 ]

ความคิดเห็นที่ 25 สวัสดีครับคุณ Lennon50 รถไฟที่คุณเลนนอนเจอ.. ผมเคยเห็นข้อมูลมาแว้บ ๆ ว่า จริง ๆ แล้วก็เป็นรถไฟญี่ปุ่นนั่นแหละครับ ขายให้ รฟท. แล้วเอามาตีตรา รฟท. จน รฟท. ปลดระวาง ญี่ปุ่นมาเห็น เลยขอซื้อเอากลับไปอนุรักษ์ใหม่ ขออภัยจำรุ่นไม่ได้ ผมไม่ได้เซฟรูปเก็บไว้ด้วย ถ้าหาข้อมูลเจอ จะเอามาบอกอีกทีนะครับ ขอบคุณครับ ที่มาจุดประกายให้ผมอยากค้นข้อมูลรถจักรไอน้ำไทยในญี่ปุ่นอีกครั้ง ============================= ขบวนนี้ได้รูปจาก Wiki ไม่รู้วิ่งอยู่แถวไหน หรือปลดระวางไปรึยัง? แต่สวยดี ชอบ.. DMU รหัสเบอร์ฉุกเฉินไทย KiHa191 แต่เบอร์ฉุกเฉินญี่ปุ่น ต้องกด 119 นะจ๊ะ จากคุณ : NumAromDee - [ 31 มี.ค. 52 20:03:45 ]

ความคิดเห็นที่ 26 เอาหิมาลัยมาฝาก.......รับไปเร๊ว จากคุณ : patim - [ 31 มี.ค. 52 20:08:39 A:203.153.172.47 X: TicketID:187612 ]

ความคิดเห็นที่ 27 เล่าแบบเรียงประวัติแบบนี้ มันเหมือนตำราเรียนเกินไป นี่คือห้องบลูฯ ห้องท่องเที่ยว.. ดังนั้น ขอเปลี่ยนแนว พาไปดูรถไฟที่ยังใช้วิ่งอยู่ตามแต่ละภูมิภาคของญี่ปุ่นกันดีกว่า เผื่อใครไปเที่ยวแถวย่านนั้นแล้วเจอเข้า ก็รบกวนถ่ายรูปมาฝากกันบ้างน้า.. เพื่อให้ง่ายต่อการอธิบาย และ ช่วยแบ่งเบาภาวะการงงเรื่องการแบ่งเขตรถไฟญี่ปุ่น สำหรับเท็ทจังเท็ทซึโกะมือใหม่ป้ายแดง เอาแผนที่นี้ไปดูก่อน สมัยหลังสรามโลกครั้งที่ 2 นู้น รถไฟญี่ปุ่นทั้งหมด ดูแลโดยองค์การมหาชน แนวรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงคมนาคม ชื่อ Japanese National Railways หรือ JNR พอถึงปี 2530 จากปัญหาความล่าช้า อุ้ยอ้ายในการบริหารงาน หนี้สินที่เริ่มพอกพูนจากการลงทุนทำชินคันเซน บวกกับแรงกดดันจากการประท้วงของสหภาพแรงงานรถไฟญี่ปุ่นหลายครั้ง รัฐบาลญี่ปุ่นจึงให้ JRN แปลรูปเป็นบริษัทเอกชนไปซ่ะ เพื่อความสะดวก คล่องตัว และสามารถหารายได้เสริมได้เองอย่างอิสระ JRN จึงแปลงร่างเป็น Japan Railways Group หรือ JR Group ตั้งแต่บัดเดี่ยวนั้น JR Group แบ่งเป็นบริษัทย่อยหลายบริษัทฯ แต่บริษัทฯ ที่ควบคุมการเดินรถในแต่ละภูมิภาค แบ่งเป็น 6 บริษัทใหญ่ คือ JR Hokkaido, JR East, JR Central, JR West, JR Shikoku และ JR Kyushu จากคุณ : NumAromDee - [ 31 มี.ค. 52 20:08:42 ]

ความคิดเห็นที่ 28 สวัสดีป้าติ๋ม ฝากหิมาลัยไว้เด๋วนึงนะครับ มันเอาขึ้นรถไฟไม่ได้ ป้าขาลุยจริง ๆ เที่ยวแต่ที่หนาว ๆ เขา ๆ ทั้งนั้น มีรูปมาฝากรึเปล่าครับ ถ้าบัตรผ่านโพสรูปไม่ได้ ส่งให้ผมทางอีเมล์ก็ได้นะ อยากเห็น ============================== มาไล่กันดูตั้งแต่เกาะใหญ่ทางเหนือ เกาะฮอคไกโด เขตการดูแลของ JR Hokkaido กันเป็นที่แรก พื้นที่เกาะฮอกไกโด ส่วนมากเป็นภูเขาสูงชัน แถมยังเป็นป่าเขาซ่ะมาก หน้าหนาวหิมะก็ท่วมถนนหนทางกันหลายเดือน รถไฟแบบ DMU จึงมีความเหมาะสม และมีการพัฒนารุ่นใหม่ ๆ ใช้วิ่งกันในฮอคไกโด เป็นจำนวนมาก เพราะมีกำลังแรงฉุดเวลาไต่เขาดีกว่า และไม่ต้องมากังวลเรื่องการวางระบบ และดูแลสายส่งไฟฟ้าไม่ให้ถูกหมีมาแทะเล่นซ่ะ แทบจะไม่ค่อยเห็น EMU ของ JR Hokkaido เท่าไหร่เลยนะ ที่มีก็จะเป็นรถไฟของ JR East ที่วิ่งข้ามมาจากเกาะฮอนชู EMU สายหลัก ดัง ๆ ที่คุ้นหน่อย ของ JR Hokkaido แท้ ๆ ก็เห็นมีแค่ LEX Super Kamui กับ LEX Super White Arrow ที่วิ่งระหว่าง Sapporo กับ Asahikawa และ LEX Suzuran ที่วิ่งระหว่าง Sapporo กับ Muroran จากคุณ : NumAromDee - [ 31 มี.ค. 52 20:18:34 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ขบวนแรก วิ่งฝ่าหิมะมาแก้ร้อนกัน ถึงจะเก่ามากกว่าสามสี่สิบปี แต่ก็ยังถูกบำรุงรักษาได้ดี ใช้วิ่งช่วงสั้น ๆ ได้อยู่ KiHa 40 ยังใช้วิ่งเป็นรถ Local กะ Rapid ในเส้นทาง Hakodate Main Line ระหว่างเมืองฮาโกดาเทะ โอตารุ และ ซัปโปโระ อยู่เลย.. จากคุณ : NumAromDee - [ 31 มี.ค. 52 20:21:19 ]

ความคิดเห็นที่ 30 รถหน้าใหญ่ลุยหิมะเหมือนพม่าปะแป้ง คันนี้คือ KiHa 183 ถึงจะเก่า แต่ก็ยังแรงดี ใช้วิ่งจาก ซัปโปะโระ ไปเมืองชายแดนริมฝั่งทะเลหนาวโค-รต Abashiri ( http://www.abashiri.jp/tabinavi_en/index.html ) อาบาชิริ เมืองที่เคยเป็นที่ตั้งคุกสุดโหด สำหรับขังนักโทษการเมืองสมัยเมจินั่นแหละ อารมณ์เดียวกับตะรุเตาเลยมั้ง แต่หนาวกว่าเย้อะ ชื่อขบวน LEX Okhotsk ตั้งชื่อตามชื่อทะเลรัสเซีย โอค็อตสค์ แบเร็นตส์ (Okhotsk Barents) ที่อยู่ทางเหนือของเกาะฮอคไกโด แต่ถ้าจะจองขบวนนี้ ไปเรียกโอค็อตสค์ พนักงานที่รับจองอาจทำหน้ามึน เพราะฟังไม่รู้เรื่อง ต้องบอกว่า ขอจองตั๋ว โอโฮซึคุ ต็อคคิว นะ ด้วยภูมิประเทศกว้างใหญ่และทุรกันดารของฮอคไกโด โอโฮซึคุเลยต้องใช้เวลาวิ่งฝ่าหิมะกันจนหลับแล้วหลับอีกกว่า 5 ชั่วโมงครึ่ง กว่าจะถึง กับค่าโดยสารถ้าไม่มี JR Pass 9,640 เยน วิ่งกันนานเยี่ยงนี้ เลยมีออกจากซับโปโระแค่วันละ 4 ขบวนเท่านั้น ขบวนแรก 7.21 น. ขบวนสุดท้าย บ่าย 5 โมงครึ่ง จากคุณ : NumAromDee - [ 31 มี.ค. 52 20:24:02 ]

ความคิดเห็นที่ 31 กลางเก่ากลางใหม่ขึ้นมาอีกนิด เป็น DMU รุ่นยอดนิยม ที่มีใช้อยู่ทุกภาค KiHa 183 Series เอกลักษณ์ คือ ไฟหน้า 4 ดวง ที่เหนือและใต้กระจกหน้า ดูแล้วเหมือนรถไฟมีคิ้วชินจัง ขบวนนี้เป็น Limited Express เลยมีชื่อ ว่า LEX Hokuto วิ่งระหว่างเมือง ฮาโคดาเทะ กับ ซัปโปโระ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่ง ปล. โฮคุโต แปลว่า ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ถ้าเติม Sei เข้าไปเป็น Hokutosei ก็จะแปลว่า ดาวไถ โฮคุโตเซ เป็นชื่อรถนอนขบวนนึงของ JR East วิ่งคืนละขบวน จาก อูเอโนะ ไป ซัปโปโระ ครับ จากคุณ : NumAromDee - [ 31 มี.ค. 52 20:27:11 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ลงชื่อก่อนเด๋วกลับมาอ่านเน้อ จากคุณ : หวานใจPsycho - [ 31 มี.ค. 52 20:27:21 ]

ความคิดเห็นที่ 33 แต่ถ้าอยากนั่ง DMU รุ่นใหม่และทันสมัยกิ๊กกิ๊กมากกว่า วิ่งถึงเร็วกว่า Hokuto ด้วย (ถึงที่หมายเร็วกว่าประมาณ 15 นาที) ก็ต้องเลือกนั่ง LEX Super Hokuto ในราคา 8,590 เยน เท่ากันเด๊ะ ใช้ KiHa 281 Series หน้าตาเหมือนปลาบู่ยักษ์ กำลังอ้าปาก Hokuto มีวิ่งจาก ฮาโคดาเทะ วันละ 4 เที่ยว ส่วน Super Hokuto มีวันละ 7 เที่ยว วิ่งสลับกันทั้งวัน ตั้งแต่เช้าเที่ยวแรก 7 โมง ไปจนถึงเที่ยวสุดท้าย 1 ทุ่ม 42 จากคุณ : NumAromDee - [ 31 มี.ค. 52 20:31:40 ]

ความคิดเห็นที่ 34 สวัสดี ด.ญ. น้ำหวาน รับไปอาบน้ำอาบท่า ปะแป้งแต่งตัว ถือนมมาแก้ว โอลิโอ้ 1 อัน ชิมครีม แล้วดูดนม จากนั้น มานั่งรายงานตัวซ่ะดี ๆ ================================== ขบวนนี้ก็ยังเป็น DMU รุ่นยอดนิยม KiHa 183 Series เหมือนกับ Hokuto แต่ตู้สุดท้ายทาสีแดงซ่ะงั้น สงสัยตอนสร้างสีน้ำเงินหมดสต็อคพอดี ชื่อขบวน LEX Sarobetsu วิ่งจาก ซัปโปโระ ไป เมืองเหนือสุดของญี่ปุ่น และของเกาะ ชื่อเมือง Wakkanai (http://www.jnto.go.jp/eng/location/regional/hokkaido/wakkanai.html ) ใช้เวลาเดินทางยาวนานพอ ๆ กับ LEX Okhotsk คือ 5 ชั่วโมงครึ่ง กับค่าโดยสาร 10,170 เยน มีวิ่งวันละขบวนเท่านั้น!! ซาโรเบะซึ แปลว่าอะไร? ใครรู้ช่วยบอกที.. จากคุณ : NumAromDee - [ 31 มี.ค. 52 20:35:56 ]

ความคิดเห็นที่ 35 แต่ถ้าเป็นวัยรุ่นใจร้อน อยากไปเมืองวะคะไน แบบเร็วนิดนึง ก็ต้องนั่ง LEX Super Soya (มะใช่ซุปเปอร์ไซย่านะ) เป็น DMU รุ่น KiHa 261 วิ่งจากซัปโปโระ ผ่านอาซาฮีคาวะ สุดทางที่ วะคะไน เหมือนกับ รถด่วนซาโรเบะซึ แต่จอดน้อยสถานีกว่า เลยใช้เวลาวิ่งแค่ 5 ชั่วโมง (เท่านั้น!!) zzZZZ ด้วยราคาที่จ่ายเท่ากันกับ ซาโรเบะซึ ดังนั้น ถ้าไม่ได้กะแวะลงกลางทาง จะนั่งรถรุ่นเก่าไปไย แต่วันนึงมีออกแค่ 2 ขบวนเท่านั้นนะ ถ้าพลาด ก็รอกันแหง่กเลยพะยะค่ะ Soya เปิดดิคฯ ดู มันแปลว่า หยาบคาย หง่ะ! คงไม่ใช่ชื่อรถไฟขบวนนี้มั้ง มีคำแปลอื่นที่เข้าท่ากว่านี้มั้ยครับ? จากคุณ : NumAromDee - [ 31 มี.ค. 52 20:39:25 ]

ความคิดเห็นที่ 36 DMU หน้าปลาบู่รุ่นสุดท้ายที่จะเอามาโชว์ คือ KiHa 283 Series ในชื่อขบวนสุดหรูว่า LEX Super Ozora ที่แปลว่า สุดยอด.. สวรรค์ วิ่งกันสวรรคโลกแต่พอหอมปากหอมคอจาก ซัปโปโระ ไป เมือง Kushiro ( http://www.kushiro-kankou.or.jp/english/ ) ทางฝั่งตะวันออกของเกาะ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง มีออกวันละ 7 ขบวน ค่าโดยสาร 9,120 เยน จากคุณ : NumAromDee - [ 31 มี.ค. 52 20:41:51 ]

ความคิดเห็นที่ 37 DMU ของฮอกไกโดมีเยอะ ต้องเล่าซ่ะยาวเลย.. มาต่อกันที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะฮอนชู หรือที่เรียกว่า โทโฮคุ ภายใต้การดูแลการเดินรถไฟของ JR East แถวนี้ส่วนมากจะใช้รถไฟฟ้าแบบ EMU แทบทั้งนั้น หา DMU ไม่ค่อยเจอ เพราะ JR East ขยายระบบสายไฟไปซ่ะทั่ว จะเหลือดีเซลรางวิ่งก็เฉพาะตามเส้นทางแถวบ้านนอกไกล ๆ ไม่ใช่รถ JR ก็มี หลายคันก็เอา DMU รุ่นเก่าของ JR นี่แหละ ไปแปลงสภาพ เอามาวิ่งใหม่ ในรูปนี้เป็นแผนที่เส้นทางหลักในเขตโทโฮคุ พร้อมรูป EMU แบบ Limited Express ทั้งนั้นเลยนะ เยอะมาก ไม่มีแบบที่มี DMU ยังไม่นับรวมชินคันเซน กับพวกรถไฟ Local นะเนี่ยะ.. จากคุณ : NumAromDee - [ 31 มี.ค. 52 20:48:33 ]

ความคิดเห็นที่ 38 คันนี้เป็นคุณลุงในตระกูล KiHa20 Series ที่ถูกนำมาปรับโฉมเปลี่ยนเครื่อง ทาสีใหม่ กลายร่างเป็นเป็น KiHa 2000 ใช้เป็นรถ Local วิ่งอยู่แถวจังหวัดอิบาระกิ (ถ้าจำไม่ผิดนะ) จากคุณ : NumAromDee - [ 31 มี.ค. 52 20:56:17 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ส่วนคันนี้เป็น KiHa 125 วิ่งอยู่แถวไหนไม่รู้ จำไม่ได้ละ รูปเยอะเกิน แต่คุ้น ๆ ว่าอยู่แถว ๆ ไซตามะ หรือ อิบาระกิ นั่นแหละ(มั้ง?) ใครอ่านภาษาญี่ปุ่นออก ช่วยอ่านชื่อสถานีที่ป้ายหน้ารถให้ด้วย ก็จะขอบคุณมากครับ จะได้พอเดาออกได้บ้างว่า คันนี้มันวิ่งอยู่แถวไหน จากคุณ : NumAromDee - [ 31 มี.ค. 52 20:57:40 ]

ความคิดเห็นที่ 40 แต่ก็ไม่ใช่ว่า JR East จะมีแต่ DMU รุ่นเก่า ๆ รุ่นใหม่ล่าสุดก็มี เด๋วจะหาว่า JR East ล้าหลัง ไม่ได้ใหม่ธรรมดา ยังเป็น Hybrid DMU ซ่ะด้วยนะ พึ่งออกวิ่งครั้งแรกเมื่อ 31 ก.ค. ปี 2550 นี่เอง Kiha E200 เป็น ดีเซลราง ระบบ 2 พลังงานเหมือนกับ Hybrid Car คือ จะใช้เครื่องยนต์ดีเซลตอนที่รถกำลังออกตัว ไต่ทางชัน หรือต้องการอัตราเร่ง พอวิ่งความเร็วคงที หรือตอนวิ่งลงเนินปั๊ป ก็จะเปลี่ยนไปใช้พนักงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ Lithium-ion ซึ่งตอนรถวิ่งลงเนิน ล้อรถจะหมุนส่งกำลังไปหมุนเครื่องปั่นไฟ ชาร์ตแบตเตอรี่เอาไว้ให้มีไฟใช้ต่อเนื่อง ตอนเบรครถก็ใช้กำลังจากเครื่องยนต์ดีเซล เห็นกล่องสี่เหลี่ยมยาว ๆ ที่งอกเพิ่มมาบนหลังคารถรึเปล่าครับ นั่นแหละครับ กล่องใส่แบตเตอรี่ ประหยัดพลังงานเข้ายุคน้ำมันแพงและโลกร้อนทีเดียวหล่ะ ขบวนนี้วิ่งอยู่ในเส้นทาง Koumi Line จากสถานี Kobuchizawa ในจังหวัดยามานาชิ ไปสุดทางที่สถานี Komoro จังหวัด นางาโนะ ระยะทางทั้งหมด 79 กิโลเมตร.. ขอบคุณข้อมูลจากลุงวิ มา ณ ที่นี้ด้วย.. จากคุณ : NumAromDee - [ 31 มี.ค. 52 20:59:39 ]

ความคิดเห็นที่ 41 หมดมุขกับ JR East ละ วิ่งมาต่อที่เขตจูบุ หรือ ภาคกลาง ภายในการดูแลของ JR Central ก็มีดีเซลรางใช้อยู่ไม่มากขบวน เหมือนกับเขตโทโฮะคุ ด้วยเหตุผลเดียวกันนั่นแหละ ส่วนมากที่เห็นจะเป็นรถรุ่นเก่า ที่ใช้วิ่งตามเส้นทางภูเขา หรือ ต่างจังหวัดในระยะสั้นมากกว่า มีอยู่เส้นทางเดียวที่มีรถดีเซลรางวิ่งระยะไกลแบบข้ามหลายจังหวัด ก็คือ Takayama Line ที่ทอดยาวระหว่างจังหวัดกิฟุ ยาวไปจนถึง โทยาม่า ผ่านเมืองท่องเที่ยวสำคัญที่ชักติดหูคนไทยมากขึ้นทุกวัน Little Kyoto-ทาคายาม่า จากคุณ : NumAromDee - [ 31 มี.ค. 52 21:02:15 ]

ความคิดเห็นที่ 42 เส้นทาง Takayama Line เห็นมีรถไฟวิ่งอยู่ 2 แบบ คือรถธรรมดาแบบหวานเย็น จอดทุกป้าย ที่ใช้ KiHa 11 คันนี้ ต้นทางอยู่ที่สถานี Gifu ปลายทางอยู่ที่เมืองทาคายาม่า มีออกค่อนข้างถี่ประมาณ 20 นาทีขบวน เหมือนเป็นรถไฟประจำทางประมาณนั้น KiHa 11 เป็นรถเก่า ที่ JR Central ดูแลรักษาสภาพได้ดี แต่ใช้รหัส 11 ทั้งที่เป็นรถรูปทรงค่อนข้างใหม่ เลยเดาว่าน่าจะเป็น DMU ที่ทาง JR Central เอารถเก่ามาปรับปรุงสภาพใหม่ เพราะหน้าตาเหมือนพวก KiHa Series 100 กว่า ๆ มาก จากคุณ : NumAromDee - [ 31 มี.ค. 52 21:03:57 ]

ความคิดเห็นที่ 43 อีกขบวนเป็น Tokkyu ที่ใช้ DMU รหัส KiHa 85[b/] มีชื่อขบวนตามชื่อเขตเมืองแถวทาคายาม่า ว่า [b]LEX Hida Wide View หรือ รถด่วนฮิดะ หน้าต่างกว้าง เอาไว้นั่งชมวิวริมทางรถไฟที่วิ่งเลียบหุบเขาและแม่น้ำ ซึ่งสวยสุดใจติดอับดับต้น ๆ ของวิวสองข้างทางรถไฟที่ดีที่สุดในญี่ปุ่น (ขออภัยจำลำดับไม่ได้แล้ว) ต้นทางอยู่ที่สถานีนาโงย่า จังหวัดไอจิ ปลายทางอยู่ที่เมืองทาคายาม่า จังหวัดกิฟุ แต่บางขบวนก็วิ่งต่อไปจนถึงเมืองฟุรุคาว่า ที่พี่ฟ้าเคยเอารูปมายั่วกันแล้ว ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง ค่าโดยสาร 6,070 เยน มีรถออกจากนาโงย่าวันละ 10 ขบวน และยังมี LEX Hida ขบวนพิเศษวิ่งออกจากสถานีโอซาก้า วันละ 1 ขบวนด้วย ออก 8 โมงเช้า ถึงทาคายาม่าเที่ยงครึ่ง แต่เส้นทางสวย โดยเฉพาะจากช่วงเลย อินุยาม่า มาจนถึง Gero Onsen สวยมั่กๆๆๆๆๆๆ จากคุณ : NumAromDee - [ 31 มี.ค. 52 21:07:29 ]

ความคิดเห็นที่ 44 คันนี้วิ่งอยู่ที่จังหวัดชิซึโอกะ (จำรายละเอียดไม่ได้อีกละ) ใช้รหัส Tha 2100 รูปร่างหน้าตา เหมือนเอาโครงสร้างมาจาก KiHa Series 100 กว่า ๆ เหมือนกับ KiHa 11 จากคุณ : NumAromDee - [ 31 มี.ค. 52 21:08:37 ]

ความคิดเห็นที่ 45 จริง ๆ DMU ของ JR East กับ Central ยังมีเยอะกว่านี้นะ แต่หาข้อมูลไม่ค่อยได้ มีแต่รูป ดูพอหอมปากหอมคอ ก็แล้วกัน ส่วนมากโอกาสที่นักท่องเที่ยวทั่วไปแบบไม่ใช่พวกฮาร์ดคอร์ จะได้นั่งก็น้อยมากอยู่แล้ว ปล่อยให้พวกบ้ารถไฟอย่างผม หาเรื่องตะเกียกตะกายไปนั่งกันเองเหอะ ข้ามมาดู DMU ของ JR West ต่อกันเลย มีหลายรุ่นให้ดูเยอะกว่า เพราะเขตพื้นที่เดินรถของ JR West นั้น กว้างใหญ่พอ ๆ กับ JR East เลยทีเดียว ครอบคลุมทั้งพื้นที่เขตคันไซ และ จูโงคุ รวมกัน โดยเฉพาะแถวฝั่งซันโยและซันอิน มีการใช้ DMU วิ่งรับส่งผู้โดยสารทั้งเป็นรถวิ่งส่งคนชานเมืองระยะสั้นแบบ Local หรือ Rapid ไปจนถึง เป็น limited express กันหลายขบวน หารูปแผนที่การเดินรถของ JR West ไม่เจอ ขอยืมแผนที่จากกระทู้ของพี่ฟ้ามาให้ดูแทนไปก่อนน้า.. จากคุณ : NumAromDee - [ 31 มี.ค. 52 21:12:03 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ขบวนแรก สาวกการ์ตูนผีน้อยคิทาโร่ ( http://en.wikipedia.org/wiki/Ge_Ge_Ge_no_Kitaro ) เห็นแล้วจะต้องกรีดร้อง JR West เอา KiHa 40 รุ่นคุณพ่อยังเอ๊าะ มาทาสีใหม่ แล้ววาดคาแร็คเตอร์จากมังหงะชื่อดัง ของ อ. ชิเงรุ ลงไป คันนี้มีชื่อเล่นว่า Nezumi ตามชื่อเจ้าผีหน้าหนู Nezumi Otoko ที่ลัลล้า อยู่รอบคัน ยังมีอีกคันที่วาดคาแร็คเตอร์ ตัวเอก Kitaro กับ ผีแมวน้อย Neko Musume ด้วย แต่ผมไม่ได้เก็บรูปไว้ ใช้วิ่งในเส้นทาง Sakai Line ระหว่างเมือง Yonago กับเมือง Sakaiminato เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัด Tottori ( http://kanko.pref.tottori.jp/english/ ) จังหวัดโทตโทหริ เป็นจังหวัดบ้านเกิดของ อ.ชิเงรุ มิซึกิ คนวาดการ์ตูนคิทาโร่ นักเขียนชื่อดังผู้ชำนาญการวาดการ์ตูนแนวโยไค (เรื่องผี ๆ สาง ๆ) ถ้าใครชอบคิทาโร่ และมีโอกาสไปเที่ยวที่โทตโทหริ อย่าลืมแวะไปเยี่ยมเมือง ซาไกมินาโตะ นะ ( http://www.sakaiminato.net/site2/page/foreign/eng/kitaro/ ) เมืองนี้เค้าทำถนน ชื่อ ชิเงรุ มิซึกิ ที่มีรูปปั้นของคาแร็คเตอร์ วางอยู่เป็นร้อยตัว แถมยังมีมิวเซี่ยมแสดงผลงานของ อ.ชิเงรุ ด้วย จากคุณ : NumAromDee - [ 31 มี.ค. 52 21:13:37 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ขบวนต่อไปเป็นรถด่วนปูสองตัว Hamakase Express ที่ใช้ KiHa 181 ซึ่งก็คือ ขบวนเดียวกันกับในรูปเปิดกระทู้นี้นั่นแหละ ออกจาก Osaka ผ่าน Himeji แล้วข้ามฟากจากฝั่งซันโย ไปฝั่งเส้นอิน ด้วยเส้นทาง Bantan Line ไปสุดทางที่เมืองแห่งปูและของทะเลสด Hamasaka จังหวัด Hyogo ( http://www.hyogo-tourism.jp/english/ ) มีออกจากโอซาก้าวันละ 3 ขบวน ค่าโดยสารจำไม่ได้ ขี้เกียจเปิดไฮเปอร์เดียหา แต่น่าจะประมาณ 3 พันกว่าเยน ทำโลโก้รถซ่ะน่ารักเชียว ทำให้รถขบวนนี้ มีชื่อเล่นอีกชื่อว่า Kanikani Express หรือ เจ้าด่วนปูน้อย จากคุณ : NumAromDee - [ 31 มี.ค. 52 21:15:21 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ขบวนสีม่วงนี้คือ KiHa 120 ใช้วิ่งในเส้นทาง Kansai Line จากสถานี Numba ในโอซาก้า ไปเมือง Nara แต่คุ้น ๆ เคยอ่านรีวิวพี่ฟ้าว่า ไปนารา หรือ เกียวโต นั่งรถไฟเอกชนของเจ้าอื่น ที่ไม่ใช่ JR อย่าง คินเท็ทซึ หรือ ฮังคิว จะสะดวก และเข้าถึงใจกลางเมืองมากกว่านะ เพราะเป็นรถไฟขาใหญ่เจ้าเก่าแก่ ของแถบคันไซ จากคุณ : NumAromDee - [ 31 มี.ค. 52 21:20:07 ]

ความคิดเห็นที่ 49 รูปเมื่อกี้ไกลไป เอาหน้าตาของ KiHa 120 มาให้ดูกันแบบแจ่ม ๆ แต่คันนี้วิ่งอยู่ในเส้นทาง Tsuyama Line ระหว่างสถานี Okayama กับ Tsuyama ในจังหวัดโอคายาม่า ( http://www.pref.okayama.jp/kikaku/kokusai/momo/e/index.html ) จากคุณ : NumAromDee - [ 31 มี.ค. 52 21:21:05 ]

ความคิดเห็นที่ 50 LEX หน้าตาเท่ห์อีกขบวน ที่วิ่งระหว่างจังหวัด Okayama กับ Tottori Super Inaba ที่ใช้ KiHa 187 สีดำคาดเหลือง ขบวนนี้ มีออกจากโอคายาม่า วันละ 6 เที่ยว ใช้เวลาวิ่งถึงโทตโทหริประมาณ 2 ชั่วโมง ค่าโดยสาร 5,080 เยนครับ จากคุณ : NumAromDee - [ 31 มี.ค. 52 21:22:19 ]

ความคิดเห็นที่ 51 2 รุ่นต่อไปนี้เป็น DMU รุ่นใหม่ล่าสุดของ JR West ที่พึ่งเริ่มเปิดใช้วิ่งให้บริการเมื่อวันที่ 14 มีนาคม ที่ผ่านมานี่เอง เด๋วจะหาว่า JR West เลิกพัฒนารถดีเซลรางไปแล้ว เป็นรุ่นใหม่ที่ใช้เครื่องยนต์แบบมลพิษต่ำ ทำมาเป็นรถระดับ Rapid & Local (แล้วแต่จะจัดขบวน) ที่วิ่งในเส้นทาง Kishin Line ระหว่างเมือง Himeji กับ Kozuki ในจังหวัด Hyogo คันแรก KiHa 122 รูปนี้ยังเป็นช่วงวิ่งทดสอบอยู่เลย จากคุณ : NumAromDee - [ 31 มี.ค. 52 21:25:17 ]

ความคิดเห็นที่ 52 คันที่สอง Kiha 127 หน้าตาคล้าย ๆ กัน เสปคก็ไม่ต่างกันมาก ไปต่างกันตรงที่จำนวนที่นั่ง เพราะ KiHa 127 จะจัดขบวนให้วิ่งพร้อมกัน 2 ตู้ ข้างในรถเห็นว่ามีห้องน้ำประตูกว้าง ที่ออกแบบมาสำหรับคนพิการด้วยนะ ข้อมูลเพิ่มเติมใครอยากรู้ อ่านตามนี้ได้เลย http://en.wikipedia.org/wiki/KiHa_122_series จากคุณ : NumAromDee - [ 31 มี.ค. 52 21:27:26 ]

ความคิดเห็นที่ 53 "เนื่องจากรถไฟญี่ปุ่นมีขนาดขนาดฐานล้อ 1.067 เมตร กว้างกว่าของรถไฟไทย เอามาแล้วต้องส่งไปบีบฐานล้อให้เหลือแค่ 1 เมตร แต่เจ้าตัวโบกี้ที่กว้างขวางกว่ารถไฟไทยเช่นกันนั้น มันบีบขนาดไม่ได้เหมือนฐานล้อ ทำให้ไม่สามารถขับ KiHa 58 ไปไกล ๆ ได้ เพราะวิ่งลอดอุโมงค์รถไฟไทย บ่ได้" - เรื่องความกว้างของรถนั้น ไม่ใช่ปัญหาครับ เพราะรถบลูเทรน รถดีเซลรางหรือแม้แต่รถโดยสาร JR-West นั้นต่างก็มีความกว้างไม่ต่างกันเท่าไรนัก แต่ด้วยอายุการใช้งาน และสภาพของตัวรถดีเซลรางนั้น ทำให้ไม่นำไปวิ่งในระยะทางไกลๆครับ ส่วนรถโดยสาร JR-West เคยไปทั่วไทยมาแล้ว สามารถลอดอุโมงค์ได้หมดครับ แต่หลังจากได้มีการปรับปรุงเพดานอุโมงค์ร่อนพิบูลย์ ทำให้รถตระกูล JR West ทั้งหมดไม่สามารถลอดผ่านอุโมงค์ได้ เนื่องจากความสูงของตัวรถที่จะสูงชนแผ่นเหล็กที่ปิดไว้บริเวณเพดาน - อุโมงค์ของรถไฟไทยในสายเหนือ ต่างก็ออกแบบและใช้งานกับรางขนาด 1.435 เมตร ซึ่งสายเหนือเป็นสายสุดท้ายที่ได้เปลี่ยนขนาดเป็น 1 เมตร แล้วเสร็จในปี 2473 ครับ มีแค่อุโมงค์ร่อนพิบูลย์ อุโมงค์เขาพังเหย และอุโมงค์พระพุทธฉาย เท่านั้น ที่สร้างบนทางที่มีความกว้างรางขนาด 1 เมตร - ส่วนรถดีเซลราง JR West นั้นสาเหตุที่ไม่ได้นำมาใช้อีก ส่วนนึงก็ตามที่คุณ NumAromDee บอกมา ทำให้ต้องแปลงสภาพรถกลายเป็นรถโดยสาร แต่ก็ประสบปัญหาหลายอย่าง อีกทั้งบางส่วนที่กำลังปรับปรุงนั้น ผู้รับเหมาก็หนีงาน ปล่อยซากไว้อยู่ที่สถานีบ้านพลูตาหลวง จ.ชลบุรี บางส่วนที่ยังเคยใช้ได้ ก็ประสบปัญหาเรื่องตัวโครงสร้างที่ล้าและใช้งานมานาน ตอนนี้ก็จอดทิ้งไว้ที่ย่านพหลโยธิน สำหรับรถโดยสาร JR-West นั้น ปัจจุบันมักจะอยู่กับขบวนรถชานเมือง กรุงเทพ-ลพบุรี-กรุงเทพ และ ขบวนที่ 367/368 กรุงเทพ-ฉะเชิงเทรา-กรุงเทพ ซึ่งชุดนี้จะไม่ได้ให้บริการเป็นรถโดยสารปรับอากาศแล้ว อะหลั่ยบางชิ้นถูกนำมาเก็บไว้เพื่อสำรองให้กับรถบลูเทรน แต่ก่อนเคยมีการทดลองติดตั้งเครื่องยนต์ Perkin เพื่อหาแนวทางเปลี่ยนเครื่องยนต์ให้เหมาะสมกับสภาพอากาศและการบำรุงรักษา แต่ก็เกิดปัญหาบริเวณเพลาขับไนนาโมนั้น มุมการวางเครื่องยนต์และตัวไดนาโมไม่ตรงกัน ทำให้ตัวรถมีการสั่นสะเทือน อาจจะมีปัญหาต่อระยางยึดเครื่องยนต์ได้ การทดลองนี้จึงได้มีการพับเข้ากรุไป บางคันที่ยังไม่ได้ถอดเครื่องยนต์ บางครั้งอาจจะถูกพ่วงไปกับขบวน 83/84 กรุงเทพ-ตรัง-กรุงเทพ เพื่อใช้เป็น Power Car ให้กับรถบลูเทรนที่พ่วงไปครับ อ้อ รถโดยสาร Jr-West ในบ้านเรายังเจอปัญหาอีก - ระบบห้ามล้อหรือเบรคครับ ซึ่งข้อมูลตรงนี้ผมจำไม่ค่อยได้ว่ารถเหล่านี้ใช้ระบบลมอัดของอะไร ซึ่งไม่เหมือนกับรถแบบอื่นๆที่รฟท.มี เวลาพ่วงกับชุดรถประเภทอื่นๆก็มักจะเจอปัญหาห้ามล้อจับเร็วกว่าคันอื่นๆ อาจจะทำให้เกิดการกระตุกเมื่อเวลาพขร.ลงห้ามล้อครับ - ขอพ่วง ส่วนใหญ่เป็นขอพ่วงที่ใช้กับรถดีเซลราง ขนาดจะค่อนข้างเล็ก มันจะมีเขี้ยวข้างๆที่เรียกว่า Tigh Lock ซึ่งเป็นตัวช่วยประคองขอพ่วงทั้ง 2 นั้นไม่ให้หลุดจากกันด้วยการกระเด้ง แต่เมื่อนำมาพ่วงในขบวนปกติซึ่งเป็นขอพ่วงแบบธรรมดานั้น ขนาดจะใหญ่กว่า แต่ไม่มีเขี้ยวข้างๆครับ ซึ่งปกติจะไม่นำมาพ่วงด้วยกันอยู่แล้ว แต่ถ้าหากต้องพ่วงกับรถที่เป็นขอพ่วงแบบธรรมดา ระเบียบได้มีการกำหนดความเร็วสูงสุดไว้ (ผมจำไม่ได้ว่าเท่าไร) เพื่อป้องกันไม่ให้รถกระเด้งมากเกินไปจนขอพ่วงหลุดออกจากกันครับ บางครั้งอาจจะเห็นว่ารถบางคันมีขอพ่วงทั้ง 2 แบบ ด้านนึงเป็นแบบดีเซลราง เพื่อต่อกับชุดขบวน อีกด้านเป็นขอพ่วงธรรมดาใช้ต่อกับรถโดยสารอื่นๆหรือรถจักรครับ แก้ไขเมื่อ 31 มี.ค. 52 21:33:26 จากคุณ : Alderwood - [ 31 มี.ค. 52 21:29:46 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ส่วนรถไฟบนเกาะชิโคะกุ ในการดูแลของ JR Shikoku แท้ ๆ ที่มีข้อมูลส่วนมากจะเป็น DMU แทบทั้งหมด มี EMU เฉพาะตามเส้นทางสายหลัก ๆ และเืมืองใหญ่ ๆ เท่านั้นนะ EMU หลัก ๆ ระดับ LEX และ Rapid ที่วิ่งในชิโคะกุ ก็เห็นมีแค่ 4-5 ขบวน 2 ขบวน ที่วิ่งข้ามสะพานเซโตะ มากจากโอคายาม่า คือ LEX Sunrise Seto กับ Rapid Marine Liner ก็ดูแลโดย JR West ไม่ใช่ของ JR Shikoku แท้ ๆ ที่เป็น EMU แท้ ๆ ใช้ 8000 Series ของ JR Shikoku ก็เห็นมีแค่  สาย คือ LEX Ishizuchi กับ LEX Shiokaze แก้ไขเมื่อ 01 เม.ย. 52 09:08:41 แก้ไขเมื่อ 31 มี.ค. 52 22:19:44 จากคุณ : NumAromDee - [ 31 มี.ค. 52 21:36:24 ]

ความคิดเห็นที่ 55 โห.. ได้รับเกียรติจาก คุณ Alderwood เข้ามาให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับผมมากกมาย ขอบคุณมากคร้าบบบบบบ รู้ลึกขนาดนี้น่าจะทำงาน รฟท. หรือ เป็นแฟนพันธ์แท้รถไฟไทย แน่นอน ข้อน้อยขอคารวะอย่างแรง.. จะได้นำข้อมูลไป Update ความรู้ในคลังข้อมูลของผมต่อไป กราบขอบพระคุณอีกครั้งนะครับ ================================= DMU หลัก ๆ ที่ยังใช้งานอยู่บนเกาะชิโคะกุ มีข้อมูลอยู่ 3 รุ่น ขบวนแรก เป็นรถ Local วิ่งตามบ้านนอก KiHa 32 จากคุณ : NumAromDee - [ 31 มี.ค. 52 21:54:48 ]

ความคิดเห็นที่ 56 อีกขบวนก็เป็น LEX ใช้ KiHa 185  ที่นิยมใช้อยู่ในแถบชิโคะคุ กับ คิวชู ขบวนนี้ชื่อ LEX Tsurugisan วิ่งจากสถานี Kaifu ไป Awa-Ikeda จังหวัด Tokushima ส่วน LEX สายอื่น ๆ บนเกาะชิโคะกุ ที่ใช้ KiHa 185 ก็มี LEX Muroto จากสถานีโทคุชิมะ ไป เคฟุ LEX Uzushio วิ่งข้ามสะพานเซโตะไปมา ระหว่างจังหวัดโอคายาม่า บนเกาะฮอนชู กับ จังหวัดโทคุชิม่า และจังหวัด คางาว่า บนเกาะชิโคะกุ จากคุณ : NumAromDee - [ 31 มี.ค. 52 22:03:53 ]

ความคิดเห็นที่ 57 LEX ที่เหลือ ก็จะใช้ DMU ที่ JR Shikoku พัฒนาเอง คือ DMU 2000 Series มีตามนี้ LEX Ashizuri วิ่งอยู่ในจังหวัดโคฉิ จากสถานีโคฉิ ไป นาคามุระ LEX Ishizuchi วิ่งระหว่างสถานี ทาคามัตซึ จังหวัดคางาว่า ผ่าน มัตซึยาม่า ไปสุดทางที่สถานี อุวาจิมะ จังหวัดเอะฮิเมะ LEX Nanpu วิ่งข้ามมาจากโอคายาม่า ผ่านจังหวัดโคฉิ ไปสุดทางที่สถานีซึคุโมะ LEX Uwakai ระหว่างสถานี มัตซึยาม่า กับ อุวาจิมะ LEX Shimanto ระหว่างสถานี ทาคามัตซึ โคฉิ ไปสุดสายที่ ซึคุโมะ LEX Shiokaze ข้ามมาจากโอคายาม่า ผ่านมัตซึยาม่า สุดสายที่ อุวาจิมะ ถ้างงชื่อเมือง ดูแผนที่ใน คห. 54 ประกอบนะ จากคุณ : NumAromDee - [ 31 มี.ค. 52 22:16:33 ]

ความคิดเห็นที่ 58 ยังเหลือ JR Kyushu จบไม่ทันจนได้ ขอลาไปอาบน้ำ กินนม นอนดีตีสิบ ก่อนนะครับ พรุ่งนี้เย็นจะมาต่อให้จบครบทุกภาคกันไปเลย คืนนี้ฝันดี ราตรีสวัสครับ แก้ไขเมื่อ 01 เม.ย. 52 09:01:35 จากคุณ : NumAromDee - [ 31 มี.ค. 52 22:21:44 ]

ความคิดเห็นที่ 59 แป่ว มัวแต่อ่านเลยจบซะก่อนจะได้ทักเลย คุณหนุ่มสุดยอดมากๆค่ะ รู้เรื่องรถไฟลึกซึ้งละเอียดยิบ ขอคารวะแรงๆหนึ่งที ป.ล. รายงานผล เป็ดโฟร์ซีซั่นแบบว่าธรรมดามากๆค่ะ ไม่ประทับใจเท่าไหร่เลย เห็นเค้าบอกว่าเชฟเดิมไปเปิดร้านใหม่ใกล้ๆกัน แต่ไม่ได้ตามไปกิน จากคุณ : yuki_shimi - [ 31 มี.ค. 52 22:34:34 ]

ความคิดเห็นที่ 60 ...:D...สวัสดีคุณหนุ่ม...ไม่ได้ติดตามกระทู้คุณหนุ่มหลายตอนเลย...แวะมาลาครับ...ศุกร์นี้จะออกเดินทางแล้ว..ไม่รู้จะได้แวะมาเข้า BP อีกบ่อยแค่ไหนช่วงสองสามวันนี้....คงกลับมาปลายๆเดือนเลย...แล้วจะกลับมาอ่านต่อนะครับ..:D ...:D...กระทู้นี้ให้ 3 Give เลยครับ สำหรับข้อมูลที่แน่นและได้ประโยชน์มากๆ...ถ้ามีโอกาสได้ไปคราวหน้าผมคงต้องไปนั่งส่องๆดูรถคันโน้นคันนี้ว่ารุ่นไหนแบบไหนบ้างแล้วครับ..:D...Give ยังมีเหลืออีกเพราะวันนี้สิ้นเดือนแล้ว...เลยแจกแหลกตอนนี้อยู่ครับ...ช่วงเดือนนี้งานยุ่งมากแทบไม่ได้เข้ามา BP เท่าไหร่เลยครับ...:D...ว่าจะเอา Give มาให้มากิจังซะหน่อย...ว้า..อดเลยกระทู้นี้..:D...:D จากคุณ : Death - [ 31 มี.ค. 52 22:50:59 ]

ความคิดเห็นที่ 61 มัวแต่ไปทำรีวิวตัวเอง กระทู้ติดกับคุณหนุ่ม เลยไม่ได้มาปาดเล่นซะงั้น ที่จริงไม่ได้ปาดเล่นมาหลายรีวิวละ ช่วงนี้งานยุ่งจริงๆ -*- จากคุณ : Coffee Blended - [ 31 มี.ค. 52 23:28:31 ]

ความคิดเห็นที่ 62 ขอบคุณพี่หนุ่มอารมณ์ดีมากมายค่ะ รายงานจะได้สมบูรณ์เสียที อิอิ จากคุณ : ถุงกาแฟ - [ 31 มี.ค. 52 23:41:48 ]

ความคิดเห็นที่ 63 สวัสดีค่ะคุณหนุ่ม... ตามมาดูรถไฟญี่ปุ่น..เผื่อซักวันจะได้ไปญี่ปุ่นกะเค้ามั่ง อิอิอิ ปล. คิดถึงรถไฟไทยจัง เฮ้ออออออออออออออออ จากคุณ : แพนด้า ณ เชียงใหม่ - [ 1 เม.ย. 52 01:47:36 ]

ความคิดเห็นที่ 64 แวะมาตบมือให้ เยี่ยมมากเลยคับ สาระคอดๆ จากคุณ : คุณชายธนกวี - [ 1 เม.ย. 52 02:23:07 ]

ความคิดเห็นที่ 65 .. แวะมาเรียนวิชารถไฟญี่ปุ่น อิอิ .. จากคุณ : POGGHI - [ 1 เม.ย. 52 03:17:48 ]

ความคิดเห็นที่ 66 ตามมาเช่นเคยจ๊า จากคุณ : ม่านสีม่วง - [ 1 เม.ย. 52 04:42:28 ]

ความคิดเห็นที่ 67 เอาเรื่องน่าสนใจอีกเรื่องมาแนะนำกัน เพราะมันอยู่คู่กับรถไฟทุกขบวนครับ ^_^  ป้ายหน้าขบวนรถไฟ ^_^ จากคุณ : SkyBox - [ 1 เม.ย. 52 08:12:50 ]

ความคิดเห็นที่ 68 ป้ายพวกนี้มีประวัติยาวนาน พอที่จะเรียกได้เต็มปากว่า เป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ของรถไฟญี่ปุ่น เพราะป้ายพวกนี้เกิดมาพร้อมรถไฟญี่ปุ่น และตัวป้ายเองก็มีวิวัฒนาการปรับปรุงเปลี่ยนแปลง ทั้งรูปลักษณ์และเทคโนโลยี่ ไปพร้อมๆ กับวิวัฒนาการรถไฟรุ่นต่างๆ ของญี่ปุ่น ^_^ จากคุณ : SkyBox - [ 1 เม.ย. 52 08:19:13 ]

ความคิดเห็นที่ 69 ผมก็เพิ่งรู้เรื่องพวกนี้เหมือนกันครับ พอดีไปเดินดูสถานี shimbashi หลังเก่า มี exibit เรื่องนี้อยู่พอดี ก็เพิ่งหมดไปเมื่อสองวันที่ผ่านมานี้เอง ตอนนี้คงเปลี่ยนเป็นเรื่องอื่นๆ แทน ^_^ จากคุณ : SkyBox - [ 1 เม.ย. 52 08:25:15 ]

ความคิดเห็นที่ 70 ^_^ จากคุณ : SkyBox - [ 1 เม.ย. 52 08:36:13 ]

ความคิดเห็นที่ 71 สาระอัดแน่นเต็มสมองเลยค่า..... ไม่รู้จะได้ไปนั่ง DMU ของฮอกไกโดหรือเปล่า กำลังรอเพื่อนลูกเคาะราคาอยู่ค่ะ แต่ไปแน่ๆ...ลาเวนเดอร์....แล้วเจอกัน!!!!! จากคุณ : ป้าหอมนาน (Sak_Suriyan) - [ 1 เม.ย. 52 09:51:45 ]

ความคิดเห็นที่ 72 เฮียหนุ่ม ขอร้องหละ ไปสมัครเป็นผู้ว่าการรถไฟสมัยหน้าเถอะ เดี๋ยวเจ๊จะใช้สิทธิเลือกตั้ง เป็นหัวคะแนนให้เอง จากคุณ : bangkok dream - [ 1 เม.ย. 52 11:40:16 ]

ความคิดเห็นที่ 73 JR Hokkaido นอกจากจะมี DMU แล้วยังมี DMV ด้วยนะ อิอิ DMV = Dual Mode Vehicle วิ่งได้ทั้งบนรางและบนถนน จากคุณ : ลาบราดอร์สีดำ - [ 1 เม.ย. 52 11:40:31 ]

ความคิดเห็นที่ 74 ดีเจ้า คุณหนุ่ม มองๆหาอยู่นะคะ ไม่เห็นในเวปคะ กลับมาก็มีอะไรให้เซอร์ไพร์นะคะ เก่งจริงๆๆๆๆ ค่ะ สมกับเป็นปรามาจารย์ญี่ปุ่นจริงๆค่ะ ขอบคุณเจ้า จากคุณ : ker yi (ker yi) - [ 1 เม.ย. 52 12:03:20 ]

ความคิดเห็นที่ 75 ขอบคุณความรู้ที่นำมาแบ่งปันนะคะ เก็บเข้าคลังกระทู้ให้แล้วนะคะ จากคุณ : Ms.Kyo - [ 1 เม.ย. 52 13:01:06 ]

ความคิดเห็นที่ 76 สวัสดีครับพี่น้องทุกท่าน ไ่ม่ได้สุดยอดเลยนะน้องยูกิ ยังมีคนเก่งกว่าผมอีกเย้อะ.. เพียงแต่ผมขี้โม้เก่งเท่านั้นแหละ ว่าแต่ลองโฟร์ซีซั่นมาแล้วไม่ประทับจิต มีร้านอื่นอร่อยมาแนะนำรึเปล่าครับ ได้ยินมาว่าที่นู่นหาของอร่อยกินยาก อิจฉาท่านเดทจังเลย ได้เที่ยวยาว ๆ อีกแล้ว.. ไปนิวซีแลนด์รึเปล่าครับ? ถ้ากลับมาตอบไม่ทัน ไม่ได้เข้าบอร์ด ตอบทิ้งไว้ทางหลังบ้านผมก็ได้นะ เด๋วต้องไปวิ่งเล่นในกระทู้คุณกาแฟบ้างซ่ะแล้ว.. ไม่เป็งไรครับน้องถุงกาแฟ ผมทำเพราะผมรักรถไฟญี่ปุ่นด้วยแหละ นั่งทำไปก็ได้รำลึกความหลังไปด้วย สนุกดี คุณแพนด้าชอบรถไฟไทยด้วยเหรอนี่.. เด๋วก็ได้กลับมานั่งแล้ว อดทนอีกนิดนึง ขอบคุณมากมายสำหรับเสียงตบมือของ คุณชายธนกวี ด้วยครับ เป็นกำลังใจให้ผมได้อย่างดีเลยทีเดียว แหม่.. คราวนี้คุณป็อกกี้เอารูปถูกใจมาให้ แนวนี้แหละครับ ผมชอบ แบบนู๊ด ๆ มะเอา ชอบแบบแบ๊ว ๆ Big Thanks หลาย ๆ และก็ต้องขอบคุณมากมายให้พี่ฟ้า ที่มาช่วยเสริมข้อมูล เสียดายจัง ที่นิทรรศการเรื่องนี้เลิกแสดงไปแล้ว อยากไปดูจัง พอจะรู้ข้อมูลมั้ยครับพี่ ว่าพอเลิกแล้ว เค้าเอาไปตั้งแสดงต่อที่ไหน ผมว่าน่าจะต้องเอาไปเก็บเข้า Musuem รถไฟที่ไหนซักที่แน่ ๆ เลย ผมก็กำลังวางแผนไปดูดอกลาเวนเดอร์เหมือนกันเลยครับป้าหอม แต่เศรษฐกิจแบบนี้ ไม่รู้ว่าจะได้ไปปีไหนกันละเนี่ยะ.. เฮ้ออออออ เจ๊ดรีม ผู้ว่า รฟท. ไม่สมัครนะ กลัว.. พี่ลาบราดอร์ แล้วตอนเอารถขึ้นราง มันทำยังไงกันล่ะครับ? มีรูปรึเปล่า อยากรู้จัง ขอบคุณทุกท่านนะครับ ที่เค้ามาเยี่ยมชม ทักทาย และให้ Give เด๋วเย็นนี้จะมาต่อ กับ DMU ที่เหลือของ JR Kyushu นะครับ ทำงานก่อนเน้อ.. แถมรูปสวย ๆ ให้ดูรูปนึง เป็นรถจักรไอน้ำของอเมริกานะ มะใช่ญี่ปุ่น ถ่ายได้เทพมากกกกกก จากคุณ : NumAromDee - [ 1 เม.ย. 52 13:13:54 ]

ความคิดเห็นที่ 77 ลืมทักทายคุณเค่อ-อี้ ไม่ใช่ปรมาจารย์ครับ อย่างว่ายิ่งงั้นเลย เขินนนนนน ขอบคุณคุณ Ms.Kyo มากครับทีมาทักทาย และช่วยกันกดเข้าคลัง แต่ัตอนนี้ยังไม่จบนะครับ เด๋วเย็น ๆ มาต่อ จากคุณ : NumAromDee - [ 1 เม.ย. 52 13:16:54 ]

ความคิดเห็นที่ 78 สวัสดีครับ  อิอิ...........รู้สึกเปรี้ยวๆ เลยตามมาดู.......... ปล. สำหรับใครที่เข้ามาดูรบกวนเก็บเข้าคลังกระทู้ด้วยนะครับ กระทู้ดีๆ แบบนี้ หาอ่านยากนะครับ..... จากคุณ : ถนนสายนี้เปรี้ยว - [ 1 เม.ย. 52 13:27:22 ]

ความคิดเห็นที่ 79 เมื่อเช้าลืมบอกข้อมูล รถไฟตามรูป #67 เป็นรุ่น EF66 เป็นขบวน Fuji / Hayabusa ซึ่งเป็น blue train ของ jr   รูปนี้ผมถ่ายพร้อมๆ กับฝูงเทดจังซึ่งมาตั้งกล้องรอถ่ายรูปรถไฟขบวนนี้ทั้งสองข้างชานชาลา (ตรงมุมที่ผมถ่ายนี่มุมไม่ค่อยสวยนัก เลยมีเทดจังไม่กี่คนมายืนรอดักถ่ายรูปตรงนี้) เมื่อเดือนกุมภาพันธ์นี่เองครับ ^_^ แก้ไขเมื่อ 01 เม.ย. 52 14:46:11 จากคุณ : SkyBox - [ 1 เม.ย. 52 14:17:17 ]

ความคิดเห็นที่ 80 ที่มารุมกินโต๊ะถ่ายรูปกันก็คือ ณ ตอนนี้ ขบวน Fuji / Hayabusa ไม่วิ่งให้บริการอีกแล้วครับ ถ้าจำไม่ผิดขบวนสุดท้ายจะวิ่งเมื่อประมาณวันที่ 13 หรือวันที่ 14 มีนาคมที่ผ่านมานี้เอง น่าเสียดายนะครับยังไม่นั่ง (นอน) เรยขบวนนี้  -_- จากคุณ : SkyBox - [ 1 เม.ย. 52 14:22:37 ]

ความคิดเห็นที่ 81 เฮ้อ ไว้อาลัยให้กับตัวเอง แต่ก็ยังดีได้มีโอกาสเห็นในช่วงท้ายๆ ของการวิ่งให้บริการ *_*' จากคุณ : SkyBox - [ 1 เม.ย. 52 14:29:28 ]

ความคิดเห็นที่ 82 เพิ่งหาข่าวเจอตะกี้นี้เอง จาก นสพ. ASAHI SHIMBUN ก็ขอฝากเอาไว้ที่กระทู้นี้ก็แล้วกันนะครับ จากคุณ : SkyBox - [ 1 เม.ย. 52 14:43:39 ]

ความคิดเห็นที่ 83 เผื่อจะมีประโยชน์บ้างนะครับ ขอฝากลิงค์ไว้เกะกะกระทู้ก็แร้วกันนะ ^_^ ปล. จากเวป flickr - japan rail group pool picture http://www.flickr.com/groups/japanrail/pool/ จากคุณ : SkyBox - [ 1 เม.ย. 52 20:22:26 ]

ความคิดเห็นที่ 84 แล้วคุณจขกท. จะเข้ามารีวิวต่อมั๊ยเนี่ย จากคุณ : หวานใจPsycho - [ 1 เม.ย. 52 20:47:01 ]

ความคิดเห็นที่ 85 มาต่อแล้วจ้า.. ขออภัยมาช้า ติดงานนิดหน่อย สวัสดีพี่เปรี้ยว ขอบคุณครับสำหรับคำชม ขอบคุณกำลังสองสำหรับพี่ฟ้า ที่เอา รูปและ Link เจ๋ง ๆ มาให้อีกแล้ว ช้อบ.. ชอบ.. =============================== มาถึงภูมิภาคสุดท้าย เกาะคิวชู ที่ผมพึ่งไปตะลอน ๆ แช่น้ำแร่ มาเมื่อหลังปีใหม่ เกาะนี้เป็นเกาะใหญ่ที่เจริญแล้ว ดูแล้วจะเจริญกว่า ฮอคไกโด อีกมั้ง เพราะเป็นเมืองที่มีท่าเรือติดต่อกับเกาหลี และจีน เคยเป็นเมืองท่าสำคัญในการค้าขายกับชาวต่างชาติในสมัยก่อนด้วย ทั้งเกาะเลยมีแต่ EMU โดยเฉพาะเส้นทางหลักรอบเกาะ อย่าง Nagasaki Line , Kagoshima Line และ Nippo Line ที่วิ่งรอบเกาะ ใช้รถไฟฟ้าทั้งนั้น จะมี DMU ก็เฉพาะรถ Local กับ Rapid ที่วิ่งตามบ้านนอก และเส้นทางที่ผ่านแนวเทือกเขากลางเกาะ ที่ผ่าน Aso กับ Yufuin จากคุณ : NumAromDee - [ 1 เม.ย. 52 20:52:46 ]

ความคิดเห็นที่ 86 เอ เราพลาดกระทู้นี้ ไปได้อย่างไรน้า ประวัติศาสตร์ของ DMU รถไฟญี่ปุ่นนั้น เกี่ยวกับเมืองไทยพอสมควรครับ อย่างที่ทราบว่า Kiha58 มาวิ่งอยู่บนระบบรถไฟไทยหลายคัน และพอจะทราบเลา ๆ ว่า ยังมีรถ DMU ของ JRwest อาจจะติดอยู่ที่ท่าเรือใด ท่าเรือหนึ่ง กำลังเดินทางมาเมืองไทยเพิ่มเติม แต่เงียบ ๆ ไปแล้ว จากคุณ : หมอดาริน - [ 1 เม.ย. 52 20:53:46 ]

ความคิดเห็นที่ 87 สวัสดี ด.ญ. น้ำหวานถ้วยเล็ก มาต่ออยู่แล้ว ยังไงก็มา ไ่ม่เคยทำรีวิวข้างคา แต่ชอบทำรีวิวภาคต่อ.. อยู่แล้ว =================================== รุ่นยอดนิยม ก็ไม่แคล้ว KiHa 66 ที่เอามาิวิ่งเลียบทะเลโอมุระ จากนางาซากิ ผ่าน เฮ้า เทน โบสึ สุดทางที่ ซาเซโบะ ในชื่อ Sea Side Liner ที่ผมเคยรีวิวไปแล้ว ตอนแนะนำรถไฟไป HTB เส้นทางนี้ช่วงกลางทาง จะวิ่งเลียบทะเลประมาณครึ่งชั่วโมง เส้นทางสวยและโรแม้นมาก ใครมาพักนางาซากิ แล้วจะไป HTB แนะนำให้ลองนั่งเป็นอย่างยิ่ง ใช้เวลาเดินทางแค่ชั่วโมงเดียวจากนางาซากิ ถึง เฮ้าฯ เอง จากคุณ : NumAromDee - [ 1 เม.ย. 52 20:59:34 ]

ความคิดเห็นที่ 88 สวัสดีครับ คุณหมอดาริน มาช้ายังดีกว่าไม่มานะครับ แค่มาทักทายกันผมก็ดีใจแล้ว เหมือนคุ้น ๆ จะอ่านผ่านตามาว่าบอร์ด รฟท. สั่งซื้อ และเริ่มรับมอบตู้รถไฟจาก JR West เมื่อปีที่แล้วนี่มาหลายสิบตู้แล้วนี่ครับ พอเปลี่ยนรัฐบาลใหม่ ไม่รู้โครงการโดนระงับไปรึเปล่า ต้องรอให้คนที่รู้เรื่อง รฟท. มาตอบกันอีกที ============================= แต่คันนี้จะเห็นบ่อยมาก เป็น DMU ที่ทาง JR Kyushu ใช้วิ่งรับส่งคนตามชานเมืองทีละตู้เดียว ให้อารมณ์เหมือนนั่งรถเมล์ เวลารถเข้าสถานีที คนขึ้นนั่งแน่นเหมือนปลากระป๋อง ชื่อรุ่น Kiha125 ที่มีการปรับปรุงโฉม และเครื่อง ให้กลายเป็น Y-DC125 สีเหลืองสะดุดตา คันนี้เจอที่สถานีโออิตะ ตอนต่อรถจะไป เบ็ปปุ จากคุณ : NumAromDee - [ 1 เม.ย. 52 21:09:35 ]

ความคิดเห็นที่ 89 ด้านข้าง.. Y-DC125 ๋JR คิวชู เค้าชอบสร้างเอกลักษณ์ โลโก้ หรือ มอตโต้ ให้กับรถไฟแต่ละขบวน ไม่ซ้ำแบบกัน แม้แต่รถธรรมดา ก็ยังอุตส่าห์มีคำโปรย ํYellow One Man Diesel Car นี่ตอนแรก ผมแปลว่า ดีเซลคาร์ชายผ้าเหลือง เลยนะนี่.. (บาปกรรมแท้) จากคุณ : NumAromDee - [ 1 เม.ย. 52 21:14:12 ]

ความคิดเห็นที่ 90 คันนี้เจอแค่ครั้งเดียว ที่สถานี คุมาโม้โตตตตตตตต (เสียงประกาศที่สถานีในเกาะคิวชู เค้าชอบลากเสียงท้ายให้ยาววววววว แบบนี้ ทุกทีเลยนะ ฟังแล้วน่ารัก และชวนอมยิ้มดี) Kiha 31 รหัสเก่า แต่ทรงใหม่ หาประวัติไม่เจอ เลยไม่แน่ใจว่าเอารถเก่ามาทำใหม่ หรือตั้งใจพัฒนาตามรูปทรงรถรุ่นเก่า จากคุณ : NumAromDee - [ 1 เม.ย. 52 21:17:37 ]

ความคิดเห็นที่ 91 แต่ถ้าอยากนั่งรถไฟเปิดประทุนสูดกลิ่นทุ่งหญ้า ในอารมณ์เหมือนนั่งขบวน Norokko ตาม คห. 17 ก็ต้องขบวนนี้ Toro-Q ใช้ Kiha 58 รุ่นยอดนิยม มาทาสีเขียว แล้วพ่วงด้วยตู้โดยสารแบบเปิดประทุน ใช้วิ่งเป็นรถ Local หวานเย็นไปเรื่อย ๆ ประมาณ ชั่วโมงก่า ๆ จากสถานี Oita ไป Yufuin วิ่งเฉพาะช่วงฤดูใบไม้ผลิ จนถึงหน้าร้อน ช่วงอื่นไม่มีข้อมูลว่ารถวิ่ง ใครบ้านั่งคงแข็งเป็นไอติม ถ้าสนใจ เด๋ววันหลังจะมารีวิวให้ หอมดินกลิ่นหญ้า เห็นภาพทุ่งนาโนะฮานะ กันให้ฟุ้งไปเลย จากคุณ : NumAromDee - [ 1 เม.ย. 52 21:24:00 ]

ความคิดเห็นที่ 92 เอารูปด้านข้างมาให้ดู จะได้เห็นตู้เปิดประทุนของ Toro-Q ชัด ๆ จากคุณ : NumAromDee - [ 1 เม.ย. 52 21:28:07 ]

ความคิดเห็นที่ 93 พอถึงปลายมีนา ถึง เมษา Toro-Q จะวิ่งผ่านทุ่งนาโนะฮานะ หวาน ๆ แบบนี้.. จากคุณ : NumAromDee - [ 1 เม.ย. 52 21:29:50 ]

ความคิดเห็นที่ 94 บางช่วงก็จะผ่านทุ่งนา และ วิวท้องทุ่งกลางหุบเขา สวย ๆ แบบนี้.. โอ้ววววว เห็นแล้วอยากละลาย จากคุณ : NumAromDee - [ 1 เม.ย. 52 21:32:38 ]

ความคิดเห็นที่ 95 สวัสดีค่าคุณหนุ่ม วันนี้มาโดดขึ้นรถไฟไปเที่ยวท้องทุ่งทันด้วย^^ ที่นู่นหาของกินอร่อยๆไม่ค่อยเจอจริงๆค่ะ หรือไม่รู้แหล่งเองรึป่าวก็ไม่รู้เหมือนกัน ส่วนใหญ่ก็ธรรมดาๆ ไม่เหมือนญี่ปุ่นที่กินอะไรเข้าไปก็อู้ววววไปหมด (แต่กระนั้นก็ยังน้ำหนักขึ้นได้อีก ) จากคุณ : yuki_shimi - [ 1 เม.ย. 52 21:38:22 ]

ความคิดเห็นที่ 96 ถ้ารุ่นใหม่หน่อย ที่ JR คิวชู พัฒนาเอง ก็ต้องคันนี้ 200DC ถ้าทาสีน้ำเงิน จะใช้ิวิ่งเป็นขบวน Rapid ชื่อ Sea Side liner อยู่ที่นางาซากิ แต่ถ้าทาสีเหลืองทั้งขบวน จะใช้วิ่งเป็นขบวน LEX ชื่อ Nanohana DX จากสถานี Kagoshima Chuo ไปเมืองอนเซนชื่อดังทางใต้ของเกาะคิวชู Ibusuki Onsen ในจังหวัด คาโงชิมะ http://www3.pref.kagoshima.jp/foreign/english/ (จังหวัดนี้ขึ้นชื่อเรื่องหมูดำพันธุ์คุโรบูตะ ที่นุ่มอร่อยมากกกกกกกก) จากคุณ : NumAromDee - [ 1 เม.ย. 52 21:41:00 ]

ความคิดเห็นที่ 97 สวัสดีครั้งที่สองครับน้องยูกิ โถ โถ โถ.. น้ำหนักจะไม่ขึ้นได้ไง ก็อาหารอังกฤษนะ นม เนย ไขมันทั้งน้านนนน ไปที่ไหนก็เจอแต่ฟิชแอนด์ชิพ เพื่อนที่อยู่ที่นู่น บอกว่าสาว ๆ อังกฤษมีแต่ Size XL up =============================== ใหม่น่าจะที่สุด ก็ต้อง DC220 หน้าตาคล้าย ๆ กัน แต่ปรับปรุงหลายจุดทั้งเครื่องยนต์ ช่วงล่าง และภายใน จากคุณ : NumAromDee - [ 1 เม.ย. 52 21:45:49 ]

ความคิดเห็นที่ 98 ให้ดูกันใกล้ ๆ กับ DC220 ส่วนมากรุ่นนี้จะเจอแต่สีแดง เรง.. แรงงงงงง เพราะสีแดงเป็นสีประจำบริษัทของ JR คิวชู คันนี้เจอที่สถานียุฟุอิน วิ่งรับส่งคนในเส้นทางสาย Kyudai Main Line จากเืมือง Kurume ฟุคุโอกะ ผ่านยุฟุอิน ไปสุดสายที่ Oita จากคุณ : NumAromDee - [ 1 เม.ย. 52 21:49:58 ]

ความคิดเห็นที่ 99 คุณหนุ่มคับ ขบวนEnoden ที่คามาคูระ เป็นรถประเภทไหนคับ เคยนั่งแต่รถขบวนนี้น่ารักดี จากคุณ : เมะจิโอะ - [ 1 เม.ย. 52 21:50:20 ]

ความคิดเห็นที่ 100 ข้างในอย่างหรูเลยน้า.. เรื่องออกแบบรถไฟให้ดูอาร์ต และดีมีสกุล JR คิวชูถนัดอยู่แ้ล้ว และ เป็นบริษัทรถไฟภูิมิภาคเดียว ที่เน้นงานออกแบบภายในรถไฟให้ดูทรงคุณค่ามากที่สุด ในบรรดา JR Group ทั้งหมด วันหลังจะรีวิวเฉพาะรถไฟคิวชูให้ดูทีละขบวน เด็ด ๆ หรู ๆ ทั้งนั้น เท็ทจังเท็ทสึโกะประจำประเทศไทย เห็นแล้วต้องซู๊ดดดดด ปากแน่นอน ก็ขนาดรถไฟตามบ้านนอก ยังทำซ่ะดูดีขนาดนี้ จากคุณ : NumAromDee - [ 1 เม.ย. 52 21:53:38 ]

ความคิดเห็นที่ 101 สวัสดีคุณเมจิโอะ.. Enoden เป็น EMU ที่เอามาวิ่งริมทะเล ย่านชุมชนครับ ขบวนนี้เป็นของ Odakyu Group (เจ้าที่นั่งไป Hagone) ไม่ใช่ของ JR ออกแนวจะเหมือนเป็นรถรางหน่อย ๆ ดูที่ สาลี่ รับกระแสไฟ เหนือขบวนรถเลยครับ จากคุณ : NumAromDee - [ 1 เม.ย. 52 22:03:36 ]

ความคิดเห็นที่ 102 อยากนั่งรถไฟเปิดประทุนนนนนนนนนนนนนนน เก็บตังค์ เก็บตังค์ จากคุณ : หวานใจPsycho - [ 1 เม.ย. 52 22:10:39 ]

ความคิดเห็นที่ 103 จาก Kumamoto หรือ Beppu-Oita จะไปภูเขาไฟ Aso อยากนั่งแบบสบาย ๆ บรรยากาศดี รถมีพนักงาน Train Hostess สวย ๆ คอยให้บริการเป็นไกด์นำเที่ยว ก็ต้องขบวนนี้ Kyushu Odan Tokkyu เป็น LEX ที่ใช้ KiHa 185 รุ่นยอดนิยม ตั้งแต่ ฮอกไกโด ชิโคะกุ มาถึงคิวชู วิ่งระหว่าง เบ็ปปุ อนเซน จังหวัด โออิตะ ผ่าน Aso ( http://www.welcomekyushu.com/area/aso.html ) ถึง คุมาโมโต้ ไปสุดสายที่ Hitoyoshi จากคุณ : NumAromDee - [ 1 เม.ย. 52 22:11:16 ]

ความคิดเห็นที่ 104 ด.ญ. น้ำหวานถ้วยเล็ก นึกว่าไปกินนม ห่มผ้านอนไปแล้ว   ตอบข้อข้องใจไปแล้วนะ ============================ หน้าต่างรถออกแบบให้กว้่างงงงง เป็นแผ่นใหญ่ เหมือน พวก Hida Wide View จะได้ดูวิวสองข้างทางแถวอะโสะ ได้เต็มตา.. แก้ไขเมื่อ 01 เม.ย. 52 22:33:56 จากคุณ : NumAromDee - [ 1 เม.ย. 52 22:17:37 ]

ความคิดเห็นที่ 105 ภายในก็เรียบหรู ดูดี นั่งสบาย เบาะนุ่ม เสียงเครื่องไม่ดัง ไม่ออดแอ๊ด โงกแงก งึก ๆ งัก ๆ มันเป็น ชึก ๆ ชัก ๆ นั่งถึงที่หมายแล้วไม่ต้องถอน.. สบายจนผิดวิสัยรถดีเซลรางทั่วไป จากคุณ : NumAromDee - [ 1 เม.ย. 52 22:20:44 ]

ความคิดเห็นที่ 106 ขยันจังค่ะ มาลงชื่อไว้ก่อนนะ อ่านไม่ไหว ใกล้สงกรานต์แล้ว ก็ถึงหน้านาอีกแล้ว ต้องเคลียร์งานก่อนไปแอ่ว 55 ปล. ออกตั๋วแล้วจ้า ราคารับได้ (ภาษี  jal นาโย่ 2900 บาทจ้า ตอนนี้) จากคุณ : salamanka - [ 1 เม.ย. 52 22:22:47 ]

ความคิดเห็นที่ 107 แถม Train Hostess ยังน่าร้ากกกกก  และยิ้มเก่งอีกตะหาก เก็บตั๋วไป ชงกาแฟไป นำเที่ยวไป แจกยิ้มไม่หยุด ตั้งแต่ เบ็ปปุ ยัน คุมาโมโต้ หลงเสน่ห์เธอเข้าเต็มกกหูเลยครับ.. จากคุณ : NumAromDee - [ 1 เม.ย. 52 22:23:53 ]

ความคิดเห็นที่ 108 สวัสดีน้องสาลี่.. นึกว่ายุ่งจนไม่มาเยี่ยมกันซ่ะแล้ว ยินดีด้วยครับที่ได้ตั๋วในราคาสมเหตุ และถูกใจ ถ่ายรูปสวย ๆ มาฝากเหมือนเดิมน้า.. ว่าแต่น้องสาลี่มาทีไร ไอ้กระผมก็ต้องได้เวลานอนทุ้กที.. จริง ๆ แล้วเหลือ DMU ของ JR คิชูอีกแค่ 2 รุ่น 6 รูป แต่ไม่ไหวแล้ว.. ง่วงมาก พรุ่งนี้ต้องขับรถเข้าประชุมที่กรุงเทพด้วย ขอลานอนก่อนนะครับ พรุ่งนี้เย็น ๆ จะเข้ามาต่อให้จบแน่นอน ฝันดีจงสถิตกับทุกท่านตลอดคืนนะครับ แล้วเจอกันใหม่ ค่ำ ๆ พรุ่งนี้ ราตรีสวัสครับ จากคุณ : NumAromDee - [ 1 เม.ย. 52 22:29:45 ]

ความคิดเห็นที่ 109 ....หวัดดีดึกๆ น้องหนุ่ม ว่างๆ เอารถไฟแถวๆ ฮาโกเน่ มารีวิิวหน่อยนะ สวยดี จากคุณ : sister - [ 1 เม.ย. 52 22:39:22 A:172.17.197.242 X:61.19.199.147 TicketID:172531 ]

ความคิดเห็นที่ 110 รถไฟญี่ปุ่นนี่น่ารักดีจริงๆเนอะ จากคุณ : bangkok dream - [ 2 เม.ย. 52 10:53:46 ]

ความคิดเห็นที่ 111 ติดตามชม รีวิวสร้างสรรค์ครับ   จากคุณ : Draught Beer - [ 2 เม.ย. 52 14:29:43 ]

ความคิดเห็นที่ 112 ...:D..ขอลืมมากิจังสักกระทู้...ให้ Give คุณ Train Hostess แทนหละกันนะครับ...:D...ถูกใจมากๆ...:D....<--- หน้าไม่อายเลยนะลุง ..:D...ผมจะไป New Zealand ครับ....ไปพรุ่งนี้ตอนทุ่มนึงครับ...วันนี้ทำงานวันสุดท้ายยุ่งมากๆ...มีแต่เพื่อนๆที่ต้องทำงานแทนช่วงสงกรานต์ประนาม...งานนี้ถ้าไม่มีของมาฝากนี่มีแววเพื่อนเลิกคบ...:D...แต่จริงๆแล้วพวกเราสลับกันครับ...เพื่อนผมหลายคนจะไปเที่ยวหยุดยาวต้นเดือนหน้า..บางคนก็ไปช่วงปีใหม่มาแล้ว...งานนี้ถึงคราวผมแล้วครับ...:D ...:D...ขอไปเก็บของต่อนะครับ...เดี๋ยวตอนเย็นต้องแวะเข้าไปที่ทำงานอีกรอบ..:D...แล้วจะมาตั้งกระทู้แข่งกับคุณหนุ่มอีกรอบ...ต่อให้คุณหนุ่มไปเป็นสิบๆกระทู้แล้วครับ..:D...:D จากคุณ : Death - [ 2 เม.ย. 52 14:30:16 ]

ความคิดเห็นที่ 113 ขอมาแจม ต่อเนื่องจากความเห็นของคุณ skybox ที่ คคห.68 พิพิธภัณฑ์รถไฟที่น่าสนใจอีกแห่งของญี่ปุ่น เกี่ยวกับรถไฟ คือ "Modern Transportation Museum" ที่ "Osaka" ซึ่งอยู่ในความดูแลของบริษัทรถไฟ JR west ที่นั่นก็มี ป้ายหน้ารถไฟยุคต่าง ๆ ให้ชมเช่นกันครับ จากคุณ : หมอดาริน - [ 2 เม.ย. 52 18:41:00 ]