ความคิดเห็นที่ 1 สภาพห้องพักค่ะ ดีมากๆๆๆๆ ทั้งคนทั้งกล้องเลยได้ชาร์จแบตกันเต็มที่เลย เราได้ดูทีวีไทยกันที่นี่ด้วย จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 11:41:22 ]

ความคิดเห็นที่ 2 วันนี้เราจะเดินทางไปเมืองสิเรียมกันค่ะ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง ซึ่งใกล้นิดเดียวเองเพราะรถบัสถูกจำกัดความเร็วไว้ที่ไม่เกิน 60 กม./ชั่วโมง จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 11:42:52 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เราต้องข้ามแม่น้ำอิระวดีออกไปด้วยค่ะ จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 11:45:06 ]

ความคิดเห็นที่ 4 แม่น้ำอิระวดีกว้างมากๆๆ เหมือนเอาแม่น้ำเจ้าพระยาของเรามาต่อกันอีก 3 แม่น้ำอ่ะ (ความกว้างนะคะ) จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 11:46:23 ]

ความคิดเห็นที่ 5 จ่ายค่าผ่านทางอีกแล้ว จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 11:47:51 ]

ความคิดเห็นที่ 6 แป๊บเดียวเท่านั้นเราก็ได้มาเข้าเขตเมืองสิเรียมแล้วค่ะ สิเรียม ในภาษาพม่า แปลว่า "อยู่ติดกับน้ำ" จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 11:49:11 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เจดีย์ที่เห็นนี้อยู่ที่เมืองสิเรียมค่ะ เป็นองค์จำลองของพระมหาเจดีย์ชเวดากอง ในกรุงย่างกุ้ง ที่ต้องจำลองมาไว้ที่เมืองสิเรียมก็เป็นเพราะชาวบ้านทั่ว ๆ ไป หากอยากจะไปสักการะองค์พระมหาเจดีย์ที่ย่างกุ้ง จะต้องเก็บเงินสำหรับการ เดินทางและต้องใช้เวลาในการเดินทางเพราะส่วนมากมีฐานะยากจน และต้อง รอใช้บริการรถโดยสารซึ่งอาจจะมีเพียง 1 หรือ 2 เที่ยว ต่อวัน การจำลององค์ พระเจดีย์ชเวดากองมาไว้ที่เมืองสิเรียมจึงทำให้ชาวบ้านเมืองนี้สามารถมาสักการะ พระเจดีย์ได้บ่อยตามที่ต้องการ จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 11:54:23 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ใกล้ถึงที่หมายของเราในการมาเมืองสิเรียมในครั้งนี้แล้วค่ะ ชาวบ้านแถบนี้มีสวนกล้วยกันเยอะค่ะ ร้านขายกล้วยอย่างนี้ จึงมึอยู่มากทั้งสองฝั่งถนน จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 11:56:36 ]

ความคิดเห็นที่ 9 มาถึงแล้วค่ะ พระเจดีย์เยเลพญา หรือ เจดีย์กลางน้ำ ตามตำนานเล่าว่า เจดีย์แห่งนี้สร้างในสมัยมอญเรืองอำนาจ เมื่อราวพันกว่าปีก่อน โดยพระสงฆ์ รูปหนึ่งฝันว่าที่แห่งนี้มีเจดีย์สวยงาม แล้วได้ไปทูลกษัตริย์ในสมัยนั้นเพื่อขอ ให้สร้างเจดีย์กลางน้ำแห่งนี้ และยังได้ตั้งจิตอธิษฐานว่า ถ้าหากมีน้ำท่วมก็ ขออย่าให้ท่วมองค์พระเจดีย์ ถ้ามีผู้คนมากราบไหว้จำนวนมากเท่าไหร่ก็ขอ ให้ไม่มีวันเต็มล้นพื้นที่  เพราะเจดีย์แห่งนี้สร้างบนเกาะมีสภาพเป็นเพียงเกาะ เล็กๆกลางแม่น้ำกว้างใหญ่เท่านั้น (ว่ากันว่าหากมีงานพิธีจัดขึ้นที่นี่ สามารถจุ คนได้ถึง 2 หมื่นคน) จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 13:19:55 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ก่อนลงเรือก็มีพ่อค้าแม่ค้ามารุมขายดอกไม้ ธูป เทียน ธง-ฉัตร กับนักท่องเที่ยวค่ะ จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 13:21:41 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ลงเรือข้ามไปไหว้พระกันดีกว่าค่ะ จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 13:22:22 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ใช้เวลาไม่เกิน 3 นาทีในการนั่งเรือข้ามมายังพระเจดีย์เยเลพญาค่ะ จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 13:23:35 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ยอดพระเจดีย์ค่ะ ภาพนี้ถ่ายเมื่อตอนลอยเรือข้ามมา จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 13:24:37 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ประตูทางเข้าค่ะ ไม้ฉลุปิดทอง หรือทาสีทองไม่แน่ใจ แต่สวยมากเลย จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 13:25:37 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ที่ประตูทางเข้านี้จะมียักษ์ 2 ตน นั่งขนาบอยู่ซ้าย-ขวา คนพม่าเชื่อกันว่าหากนำมือไปลูบตามตัวยักษ์เช่น ลูบหลัง แล้วจึงมาลูบหลังของตัวเอง อาการปวดหลังก็จะหายไป หากปวดที่จุดอื่นก็ให้ลูบตัวยักษ์ที่จุดนั้นแล้วมาลูบร่างกาย ตัวเองจะทำให้ความเจ็บปวดหายไปได้ค่ะ จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 13:28:05 ]

ความคิดเห็นที่ 16 มุมหนึ่งในวัดมองเห็นพระพักตร์ของพระบนยอดเจดีย์ จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 13:28:58 ]

ความคิดเห็นที่ 17 องค์พระประธานในวัดค่ะ  วัดส่วนมากจะทำกระจกกั้นองค์พระเอาไว้ จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 13:30:51 ]

ความคิดเห็นที่ 18 สิ่งของที่นำมาบูชาพระจะเหมือน ๆ กันแทบทุกวัดคือ มะพร้าว กล้วย ดอกไม้ และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือใบชัยชนะคะ จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 13:32:16 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เพิ่งรู้วาส สิเรียม แปลว่าอยู่ใกล้น้ำ ต้องเอาไปบอกคุณสิเรียมซะหน่อย อิอิอิ จากคุณ : ทนายอ้วน - [ 8 เม.ย. 52 13:41:36 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ส่วน Hi-light ของพระเจดีย์เยเลพญาจะอยู่ที่มุขที่ยื่นไปในน้ำด้านหลัง พระเจดีย์ค่ะ เป็นที่ประดิษฐานของพระอุปคุตค่ะ ตำนาน(ย่อ)กล่าวไว้ว่าเมื่อพระเจ้าอโศกมหาราชเห็นพระอุปคุตที่ได้รับนิมนต์ ขึ้นมาจากใต้สมุทรเพื่อป้องกันพระยามารทำลายการฉลองเจดีย์ พอเห็นท่าน ผอมแห้งจึงไม่ศรัทธาไม่น่าจะปราบมารได้จึงปล่อยช้างตกมันมาทำร้ายเป็น การทดสอบ พระอุปคุตสแสดงฤทธิ์ปราบช้างได้ พระเจ้าอโศกจึงถวาย ภัตตาหารแต่ใกล้จะเลยเวลาฉันแล้ว และท่านได้กล่าวกับพระอาทิตย์ว่า หยุดก่อนเถิดท่านพระอาทิตย์ เราเพิ่งปฎิบัติกิจเสร็จและยังไม่ได้ฉันอาหารเลย ว่ากันว่าพระอาทิตย์ก็หยุดเพื่อรอพระอุปคุตฉันอาหารจนเสร็จ พระอุปคุตจึงมอง พระอาทิตย์ไปด้วยฉันอาหารไปด้วย นัยว่าห้ามพระอาทิตย์ไม่ให้เคลื่อนเกินศีรษะ ไม่ให้เลยเวลาฉันเพล ดังนั้นจึงนิยมสร้างเป็นรูปพระสงฆ์ล้วงบาตรเงยหน้ามอง พระอาทิตย์ ชาวพม่าเชื่อกันวันพระอุปคุตจะบันดาลให้มีกินมีใช้ไม่ขาด และมีโชคลาภ แก้ไขเมื่อ 08 เม.ย. 52 13:54:57 จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 13:50:31 ]

ความคิดเห็นที่ 21 อธิษฐานขอพรท่านเรียบร้อยแล้วก็ให้ยกก้อนหินที่วางอยู่ด้านหน้าท่าน 2 ครั้ง หากท่านรับคำอธิษฐานของเรา ผู้ยกหินเองจะรู้สึกได้ว่าการยกก้อนหินทั้ง 2 ครั้ง จะมีน้ำหนักไม่เท่ากัน  แต่หากไม่พบความแตกต่างก็ถือว่าจะไม่ได้ตามคำขอ ต้องขอโทษนะคะที่ภาพมืดไป ไม่อยากเปิดแฟลชเพราะจะสะท้อนกระจกและ ส่วนตัวรู้สึกว่าหากเปิดแฟลชจะเป็นการไม่เคารพต่อองค์พระน่ะค่ะ จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 13:54:02 ]

ความคิดเห็นที่ 22 จากมุขด้านหลังที่ประดิษฐานพระอุปคุต มองย้อนกลับไปยังฝั่งที่เราข้ามเรือมา ระยะห่างระหว่างฝั่งกับพระเจดีย์ก็ประมาณเดียวกันกับเราข้ามเรือไปเกาะเกร็ดน่ะค่ะ จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 13:58:30 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ใกล้ ๆ กันนั้นก็จะพบครอบครัวชาวพม่าที่มาไหว้พระและล้อมวงนั่งกินข้าวกัน ดูน่ารักอบอุ่นดีค่ะ  ชาวพม่ามักจะติดปิ่นโตไปที่วัดและเมื่อไหว้พระเสร็จแล้ว ก็จะล้อมวงนั่งกินข้าวกันอย่างนี้แหล่ะค่ะ ไกด์บอกมาว่า ปิ่นโตที่ชาวพม่านิยมกันที่สุด แบบว่าหากถือมาแล้วเป็นอันนี้ จะอินเทรนด์ ไฮโซ สุด ๆ ก็คือ ปิ่นโตสเตนเลสตราหัวม้าลาย  ยี่ห้ออื่นไม่ได้ นะคะ ต้องเป็นหัวม้าลายเท่านั้น จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 14:02:16 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ภาพผู้คนนั่งสวดมนต์ ไหว้พระ ต่อหน้าองค์พระประธานค่ะ แม่ชีห่มสีชมพู ดูน่ารักดีนะคะ จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 14:03:45 ]

ความคิดเห็นที่ 25 สิงห์ที่ปกปักรักษาพระเจดีย์เยเลพญาค่ะ สิงห์ที่นี่เองทำให้เรารู้ว่าสิงห์ที่เฝ้าอยู่หน้าวัดต่าง ๆ ในพม่าเป็นเพศผู้ค่ะ จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 14:05:10 ]

ความคิดเห็นที่ 26 เมื่อนั่งเรือข้ามกลับมาจากเจดีย์เยเลพญา เราก็มุ่งหน้ากลับเข้าสู่กรุงย่างกุ้ง เพื่อจะไปพระเจดีย์โบตะทาวน์กันค่ะ ระหว่างทางก็พบวัดที่กำลังสร้างอยู่ ชาวพม่านิยมสร้างองค์พระก่อน แล้วจึง สร้างโบสถ์ครอบองค์พระค่ะ จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 14:07:34 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ข้ามสะพานย่างกุ้งเพื่อกลับเข้าสู่ตัวเมืองย่างกุ้งค่ะ เมื่อครั้งมีการประท้วงของพระสงฆ์เมื่อปีก่อน รัฐบาลต้องปิดสะพานนี้ เพื่อสกัดกั้นไม่ให้ผู้ประท้วงจากเมืองอื่นเข้ามาตัวเมืองย่างกุ้งได้ จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 14:10:02 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ตอนนี้เรามาอยู่ใจกลางกรุงย่างกุ้งแล้ว  และภาพนี้คือห้างสรรพสินค้าค่ะ จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 14:11:00 ]

ความคิดเห็นที่ 29 มาถึงแล้วค่ะ เจดีย์โบตะทาวน์ ที่ซึ่งเป็นที่แรกที่ประดิษฐานพระเกศาธาตุ จำนวน 8 เส้น ที่สองพี่น้องพ่อค้าได้รับมาจากพระพุทธเจ้า จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 14:13:11 ]

ความคิดเห็นที่ 30 เจดีย์โบตะทาวน์ หรือวัดเทพทันใจที่คนไทยเรารู้จักคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี โบตะทาวน์ ในภาษาพม่า หมายถึง นายทหาร 1000 นาย ตามตำนานเล่าว่า พระเจ้าโอกะลาปะ กษัตริย์มอญ ทรงบัญชาให้นานทหารระดับแม่ทัพตั้งแถว ถวายสักการะแด่พระเกศาธาตุที่สองพี่น้องพ่อค้าวาณิชได้อัญเชิญมาทางเรือ และมาขึ้นฝั่งที่เมืองตะเกิงหรือดากองก่อนที่จะสร้างพระมหาเจดีย์ชเวดากอง จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 14:18:30 ]

ความคิดเห็นที่ 31 มีรูปภาพและคำบรรยายตามตำนานวาดไว้ด้านบนผนังทางเข้าค่ะ ภาพนี้แสดงตอนที่พระพุทธเจ้าได้ประทานพระเกศาของพระองค์ ให้แก่สองพี่น้องพ่อค้าวาณิชค่ะ จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 14:20:42 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ภาพนี้แสดงการตั้งแถวของนายทหาร 1000 นายที่รอต้อนรับและอัญเชิญ พระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้าเข้าประดิษฐานที่เจดีย์โบตะทาวน์ จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 14:21:57 ]

ความคิดเห็นที่ 33 นับตั้งแต่เมื่อสร้างพระมหาเจดีย์ชเวดากองเสร็จแล้ว ก็ได้มีการอัญเชิญ พระเกศา 7 เส้นของพระพุทธเจ้าไปประดิษฐานที่เจดีย์ชะเวดากอง เหลือไว 1 เส้นที่เจดีย์โบตะทาวน์ค่ะ   ในภาพเป็นทางเข้าเพื่อไปชมพระเกศาธาตุค่ะ จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 17:12:05 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ผนังด้านในโบสถ์จะเป็นสีทองอร่ามทั้งหมดค่ะ ลักษณะการทำลวดลาย บนผนังจะคล้าย ๆ การทำลายบนดีบุกนูนต่ำ ลวดลายวิจิตรสวยงามค่ะ จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 17:17:47 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ด้านบนช่องกระจกที่สามารถมองเข้าไปเห็นพระเกศาธาตุได้จะมีรูป พระเกศาธาตุ พร้อมทั้งคำบรรยายเป็นภาษาพม่าและภาษาอังกฤษ ไว้ค่ะ แก้ไขเมื่อ 08 เม.ย. 52 17:20:40 จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 17:19:29 ]

ความคิดเห็นที่ 36 พระเกศาธาตุ 1 เส้นที่ไม่ได้นำไปประดิษฐานไว้ที่เจดีย์ชเวดากองค่ะ จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 17:24:09 ]

ความคิดเห็นที่ 37 การก่อสร้างพระเจดีย์โบตะทาวน์นี้ ด้านล่างจะเป็นทางเดินวนรอบ ๆ พระเกศาธาตุที่ประดิษฐานอยู่ตรงกลาง แต่มีเพียงด้านเดียวที่จัดทำ เป็นกระจกเพื่อให้สามารถมองเห็นพระเกศาธาตุได้ มีพระสงฆ์นั่งสวดมนต์อยู่ในมุมหนึ่งภายในพระเจดีย์ด้วยค่ะ จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 17:29:40 ]

ความคิดเห็นที่ 38 เดินมาอีกมุมหนึ่งก็เห็นคุณลุงท่านหนึ่งนำมะพร้าว กล้วย ดอกไม้ และ ใบชัยชนะมาถวายองค์พระเกศาธาตุค่ะ จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 17:31:01 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ส่วนผนังโบสถ์อีกด้านหนึ่ง ทำเป็นตู้จัดแสดงพระพุทธรูปและเครื่อง เงินประดับอัญมณีซึ่งน่าจะเป็นของโบราณไว้ให้ชม จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 17:32:54 ]

ความคิดเห็นที่ 40 พระพุทธรูปค่ะ จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 17:45:31 ]

ความคิดเห็นที่ 41 เจดีย์องค์จำลอง ฉัตรประดับด้วยอัญมณี ฯลฯ ส่วนมากทำด้วยเงินค่ะ จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 17:46:34 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ภาพองค์เจดีย์โบตะทาวน์เต็ม ๆ องค์ค่ะ จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 17:48:29 ]

ความคิดเห็นที่ 43 จากนั้นเราเดินต่อมาที่โบสถ์อีกหลังที่สร้างยื่นไปบนน้ำเพื่อสักการะ เทพทันใจกันค่ะ เทพทันใจ หรือ นัตโบโบยี ในภาษาพม่า คือเทพหรือผีตามความเชื่อ ของชาวพม่าว่า นัตโบโบยี เป็นเทพที่บำเพ็ญเพียรจนมีบุญบารมี จึง มีการสร้าง นัตโบโบยี เอาไว้ในศาสนสถานสำคัญ ๆ เพื่อให้ท่านเป็น ผู้คุ้มครองสถานที่สำคัญ ๆ นั้นไว้ จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 17:52:05 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ทางเดินเข้าไปค่ะ จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 17:52:52 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ด้านซ้ายมือจะเป็นบริการขายสิ่งของถวายแด่องค์เทพทันใจ ก็จะเป็นมะพร้าว กล้วย ดอกไม้ และใบชัยชนะเช่นเคยค่ะ จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 18:00:55 ]

ความคิดเห็นที่ 46 จะมีเจ้าหน้าที่แต่งชุดขาวยืนอยู่ด้านข้างเทพทันใจ เค้าจะคอยสวดมนต์ ให้เราขณะที่เราถวายของแต่องค์เทพทันใจ บทสวดจะเป็นบทสวดตาม วันเกิดของเรา เช่น เกิดวันจันทร์ ก็เป็นบทสวดของวันนั้น ๆ ไป เมื่อสวดมนต์เสร็จแล้วก็ถวายของ และเตรียมแบงค์ 2 ใบ อธิษฐานต่อ หน้าองค์ท่าน จ่ากนั้นม้วนแบงค์เป็นวงกลมเล็กเพื่อสอดเข้าไปที่มือของ ท่านที่ชี้อยู่ แล้วดึงออก 1 ใบมาเก็บไว้เป็นเงินขวัญถุง จากนั้นก็คล้องผ้า ที่มือหรือที่คอของท่าน เดินอ้อมด้านหลังท่านแล้วมาลูบคฑาที่ท่านถือไว้ อีกด้านหนึ่ง เป็นอันเสร็จพิธีค่ะ จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 18:06:12 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ไกด์เล่าว่า องค์เทพทันใจที่วัดโบตะทาวน์นี้มีกิริยาท่าทางต่างจากองค์ เทพทันใจบนพระธาตุอินทร์แขวน นั่นก็เพราะองค์เทพทันใจที่วัดนี้ทำท่า ชี้นิ้วออกไป เพื่อบอกทิศทางในการให้ไปเป็นที่สร้างมหาเจดีย์ชเวดากอง นั่นเองค่ะ จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 18:08:19 ]

ความคิดเห็นที่ 48 เดินออกมาจากโบสถ์องค์เทพทันใจ เราก็เจออีกโบสถ์เล็ก ๆ เห็นป้ายว่าประดิษฐานพระทันตธาตุค่ะ จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 18:11:08 ]

ความคิดเห็นที่ 49 เข้าไปชมด้านในกันค่ะ ในครอบแก้วคือพระทันตธาตุของพระพุทธเจ้าค่ะ จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 18:14:25 ]

ความคิดเห็นที่ 50 เดินออกมาก็พบโบสถ์อีกหลัง ประดิษฐานพระพุทธรูปทองเหลืองค่ะ จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 18:15:20 ]

ความคิดเห็นที่ 51 จากนั้นเราก็ออกเดินทางต่อไปเพื่อไปทานอาหารกันค่ะ ระหว่างทางพบตึกเก่า ไกด์บอกว่าเป็นตึกเก่าสมัยที่ยังเป็น เมืองขึ้นของอังกฤษค่ะ  เป็นตึกไม่กี่แห่งที่ยังไม่ได้ทำลาย จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 18:17:53 ]

ความคิดเห็นที่ 52 มื้อนี้เป็นอาหารจีนค่ะ  แต่ไม่รู้ทำไมตั้งชื่อว่า Western Park จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 18:18:55 ]

ความคิดเห็นที่ 53 บรรยากาศภายในร้านค่ะ  ที่เห็นลูกค้าทั้งหมดนั้นเป็นคนไทยหมดเลยนะคะ จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 18:21:04 ]

ความคิดเห็นที่ 54 อุปกรณ์และเครื่องเคียงมาเสิร์ฟก่อนเพื่อนเลยค่ะ จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 18:22:12 ]

ความคิดเห็นที่ 55 นางเอกถูกเสริฟ์มาเป็นจานแรก สลัดกุ้งมังกรค่ะ  จานนี้อร่อยดี จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 18:23:46 ]

ความคิดเห็นที่ 56 และอาหารจานอื่น ๆ ก็ตามมา มีผักราดน้ำมันหอย เต้าหู้ทรงเครื่องแบบเซี่ยงไฮ้ จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 18:26:48 ]

ความคิดเห็นที่ 57 ตามมาด้วย ขาหมู จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 18:27:59 ]

ความคิดเห็นที่ 58 และพระเอกก็ถูกเสิร์ฟ เป็ดปักกิ่งค่ะ แต่เป็ดเค้าไม่ได้แล่เพียงแต่หนังมาให้ เค้ามีเนื้อมาให้ด้วย จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 18:29:26 ]

ความคิดเห็นที่ 59 เมื่ออิ่มหนำกันแล้ว เราก็รีบเดินทางกันต่อค่ะ ไปเที่ยววัดแห่งสุดท้ายของ ทริปนี้ คือวัดพระตาหวานค่ะ ระหว่างทางก็ผ่านสถานที่มากมาย เช่นในภาพนี้คือโรงพยาบาลแม่และเด็ก จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 18:31:10 ]

ความคิดเห็นที่ 60 และเราก็ได้ผ่านสถานทูตไทยประจำประเทศพม่าด้วยค่ะ จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 18:31:58 ]

ความคิดเห็นที่ 61 มาถึงแล้วค่ะ วัดพระตาหวาน หรือ พระพุทธไสยาสน์เจาทัตยี ซึ่งเป็นพระนอน ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศพม่า และมีความงดงามที่สุด ทั้งพระพักตร์และขนตาที่ งดงาม รวมไปถึงพระจีวรที่มีความพริวไหวสมจริง และพระบาทมีภาพมงคล 108 ประการ และพระบาทซ้อนกันซึ่งแตกต่างกับศิลปะของไทย จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 18:35:31 ]

ความคิดเห็นที่ 62 ซูมใกล้สุดได้เท่านี้แหล่ะค่ะ พยายามจะให้เห็นว่าท่านทรงมีขนตาด้วย ดวงตาของท่านเป็นแก้วค่ะ สั่งผลิตมาจากประเทศญี่ปุ่นโดยเฉพาะเลย จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 18:37:33 ]

ความคิดเห็นที่ 63 ทางวัดได้จัดทำนั่งร้านเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ขึ้นไปเก็บภาพองค์ท่านทั้งองค์ได้ค่ะ จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 18:39:05 ]

ความคิดเห็นที่ 64 ภาพมงคล 108 ประการ ที่ฝ่าพระบาทค่ะ จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 18:40:07 ]

ความคิดเห็นที่ 65 บริเวณหน้าองค์พระที่ให้ประชาชนได้นั่งกราบไหว้ สวดมนต์ และทำสมาธิ จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 18:41:16 ]

ความคิดเห็นที่ 66 รายนามผู้บริจาคเงินเพื่อบำรุงวัดค่ะ  มีชื่อคนไทยด้วย จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 18:42:08 ]

ความคิดเห็นที่ 67 เมื่อไหว้พระเรียบร้อยแล้ว เราก็พากันไปเดินชมร้านค้าที่อยู่ภายใน บริเวณวัดค่ะ  สินค้าส่วนมากก็จะเป็นสินค้าที่ทำมาจากไม้ เช่นไม้ฉลุ จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 18:44:00 ]

ความคิดเห็นที่ 68 หุ่นกระบอกอย่างนี้ ถ้าอยู่รวมกันหลาย ๆ ตัวในมุมมืด ๆ ก็ดูน่ากลัวเหมือนกันนะคะ จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 18:44:57 ]

ความคิดเห็นที่ 69 สิงห์ไม้ทาสีทองและมีสีสรรประดับค่ะ จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 18:46:33 ]

ความคิดเห็นที่ 70 Happy Budda ค่ะ จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 18:47:06 ]

ความคิดเห็นที่ 71 จากนั้นเราเดินทางไปตลาดสก๊อตเพื่อซื้อของที่ระลึกกันค่ะ จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 18:48:03 ]

ความคิดเห็นที่ 72 สะพานลอยหน้าตลาดสก๊อตค่ะ ป้ายโฆษณาเต็มไปหมด นี่เป็นสะพานลอยไม่กี่แห่งที่เราได้เห็นในพม่าค่ะ จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 18:49:17 ]

ความคิดเห็นที่ 73 แผงขายทานาคาค่ะ เป็นแท่ง ๆ เลย จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 18:50:06 ]

ความคิดเห็นที่ 74 คนพม่าก็ฮิตดูหนังเกาหลีเหมือนกันค่ะ จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 18:51:08 ]

ความคิดเห็นที่ 75 ตอนนี้เราอยู่ในตลาดสก๊อตแล้วค่ะ สองข้างทางก็จะมีร้านขายของ เยอะไปหมด ซอยเป็นล็อค ๆ เหมือนไปเดินจตุจักรเลย อากาศก็ ร้อนด้วย เหมือนว่าไม่มีทางลมระบายอากาศเลย จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 18:52:40 ]

ความคิดเห็นที่ 76 สินค้าที่ขายที่นี่มีอยู่ไม่กี่อย่างคือ ร้านขายพลอย/ทับทิม ร้านขายผ้า ร้านขายไม้สัก/ไม้หอม(ไม้กฤษณา) แกะสลัก ร้านขายหยก ไม้หอมที่เค้าแกะสลักแกะได้สวยมากเลยค่ะ จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 18:54:55 ]

ความคิดเห็นที่ 77 องค์นี้เค้าขาย 5000 บาท จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 18:55:38 ]

ความคิดเห็นที่ 78 Happy Budda อีกองค์ค่ะ จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 18:56:24 ]

ความคิดเห็นที่ 79 เดินออกจากตลาดกันดีกว่าเพราะร้อนมากและไม่มีอะไรน่าซื้อเลย (สำหรับเรา) เดินมาก็มาเจอร้านขายทองค่ะ  แต่ไกด์บอกว่าทองที่ พม่าราคาแพงกว่าที่เมืองไทย และคุณภาพสู้ของบ้านเราไม่ได้ค่ะ จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 18:58:04 ]

ความคิดเห็นที่ 80 ร้านนี้เป็นร้านขายผ้าสำหรับไปตัดเสื้อหรือผ้านุ่งค่ะ จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 18:58:54 ]

ความคิดเห็นที่ 81 ส่วนร้านนี้ขายอุปกรณ์เกี่ยวกับร้านเสริมสวยค่ะ จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 18:59:56 ]

ความคิดเห็นที่ 82 เดินออกมาด้านนอกริมถนน ที่ร้านขายผลไม้ เค้าไม่ใช้กิโลชั่งน้ำหนัก เหมือนบ้านเรานะคะ ยังใช้ตาชั่งทดน้ำหนักเหมือนสมัยก่อนอยู่เลย จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 19:01:39 ]

ความคิดเห็นที่ 83 ร้านนี้ขายเหมือนขนมข้าวต้มมัดอ่ะคะ แต่ไม่ได้ซื้อชิมเพราะกลัวท้องเสีย จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 19:02:37 ]

ความคิดเห็นที่ 84 รถแท๊กซี่สาธารณะในพม่าค่ะ จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 19:03:23 ]

ความคิดเห็นที่ 85 ขณะเดินทางเพื่อจะไปสนามบิน ก็บังเอิญได้เห็นตำรวจจราจรพม่าค่ะ จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 19:09:07 ]

ความคิดเห็นที่ 86 รถเรากำลังมุ่งไปยังเจดีย์สุเลค่ะ  เจดีย์สุเลเป็นเหมือนวงเวียนที่ ถนนหลายสายมาบรรจบกันที่วงเวียนเจดีย์สุเลแห่งนี้ จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 19:11:42 ]

ความคิดเห็นที่ 87 ด้านฐานเจดีย์เค้าทำเป็นห้อง ๆ ให้เช่าเปิดเป็นร้านค้าค่ะ เก๋ดี จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 19:12:29 ]

ความคิดเห็นที่ 88 ภาพนี้คืออาคารสถานีดับเพลิงค่ะ จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 19:13:22 ]

ความคิดเห็นที่ 89 ส่วนภาพนี้คืออาคารศาลากลางกรุงย่างกุ้ง จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 19:14:20 ]

ความคิดเห็นที่ 90 เสาแหลมสีขาวกลางภาพคืออนุสาวรีย์ประกาศเอกราช สร้างหลังจาก พม่าหลุดพ้นการเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษค่ะ คงคล้าย ๆ กับอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิบ้านเราอ่ะ จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 19:16:11 ]

ความคิดเห็นที่ 91 นี่ก็เป็นตึกเก่าสมัยยังตกเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษค่ะ ตอนนี้เป็นอาคารของเอกชน จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 19:17:04 ]

ความคิดเห็นที่ 92 รถเมล์พม่าค่ะ  บนรถจะถูกถอดเบาะนั่งออกเกือบหมดเพื่อให้จุคนได้เยอะ ๆ จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 19:18:15 ]

ความคิดเห็นที่ 93 โรงพยาบาลบ้านเราไปเปิดสาขาที่พม่าด้วยค่ะ จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 19:19:13 ]

ความคิดเห็นที่ 94 ขำกับป้ายสัญญาณจราจรนี้ค่ะ SLOW ตอนนี้วิ่งรถในเมืองเค้าก็จำกัด ความเร็วไม่ให้เกิน 40 กม./ชม. อยู่แล้ว ถ้าวิ่งช้ากว่านี้คงกะให้เหลือ แค่ 20 จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 19:21:09 ]

ความคิดเห็นที่ 95 หม่องจำชื่อไม่ได้ เด็กรถที่บริการเราอย่างดีมาตลอด 3 วันค่ะ จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 19:22:38 ]

ความคิดเห็นที่ 96 ส่วนนี่คือคุณน้าคนขับรถ อัธยาศัยดีมาก บริการอย่างดี ขับรถดีค่ะ จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 19:23:38 ]

ความคิดเห็นที่ 97 สุดท้าย คนที่สำคัญที่สุดคือไกด์สุดสวยของเรา ชื่อน้องมะมินท์ ค่ะ พูดภาษาไทยเก่งมาก เข้าใจภาษาไทยลึกมาก ขนาดคำว่า ตีโป่ง ยังรู้จักเลยอ่ะ เค้าบอกว่าเค้าเรียนภาษาไทยที่มหาวิทยาลัยด้วย จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 19:25:44 ]

ความคิดเห็นที่ 98 กรรม..ยังดีที่ถ่ายภาพ Welcome to Myanmar the golden land ได้ก่อนกลับ จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 19:28:12 ]

ความคิดเห็นที่ 99 มาถึงแล้ว สนามบินมิงกลาดง จะได้กลับบ้านกันแล้ว จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 19:28:58 ]

ความคิดเห็นที่ 100 ขนสัมภาระลงจากรถ ต้องขอบคุณเจ้ารถบัสคันนี้มากเลยที่พาเราเที่ยว ตลอด 3 วันที่ผ่านมา จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 19:30:04 ]

ความคิดเห็นที่ 101 เข้าคิวรอ check in นานมาก  ตอนแรกนึกว่าไฟดับ ที่ไหนได้ printer เสีย... จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 19:31:49 ]

ความคิดเห็นที่ 102 555 สุดท้ายเราก็ได้ถ่ายภาพด้านหน้าของภัตตาคารเรือนกการะเวกแล้ว ถึงแม้จะเป็นภาพวาดก็เหอะ จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 19:33:26 ]

ความคิดเห็นที่ 103 ภายในอาคารผู้โดยสารหน้า gate ค่ะ เก้าอีหลากสีดี แต่ช่างภาพ ชักจะหมดแรงแล้ว ภาพเลยสั่นอ่ะ จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 19:35:08 ]

ความคิดเห็นที่ 104 บรรยากาศลานจอดเครื่องบินตอนขามาเงียบเหงาอย่างไร ตอนขากลับก็ยิ่งดูเงียบเหงาเข้าไปใหญ่ จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 19:36:13 ]

ความคิดเห็นที่ 105 อาหารค่ำบนเครื่องการบินไทยของเราในวันนี้ ไม่ค่อยอร่อยอ่ะ มันชืด ๆ จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 19:37:05 ]

ความคิดเห็นที่ 106 เย้ๆๆ เครื่องบินจะลงจอดแล้ว ถึงบ้านเราแล้วค่ะ จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 19:37:56 ]

ความคิดเห็นที่ 107 เครื่องลงประมาณ 3 ทุ่มครึ่ง รับกระเป๋าแล้วก็รีบจับแท๊กซี่กลับบ้านเลย คิดถึงน้องหมาที่บ้านจะแย่อยู่แล้วววว จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 19:38:57 ]

ความคิดเห็นที่ 108 เก็บตกเล็กน้อยอีก 2 ภาพค่ะ ภาพแรกเป็นป้ายที่เสมือนใบเสร็จจ่ายค่ากล้องถ่ายภาพ เราจ่ายไป 2 ที่เองคือที่เจดีย์ไจก์ปุ่น กับ ที่พระธาตุมุเตา จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 19:40:45 ]

ความคิดเห็นที่ 109 ส่วนภาพสุดท้าย คือเงินขวัญถุงที่ได้รับคืนมาจากตอนที่เราหยดเงิน บริจาคที่องค์เทพทันใจบนพระธาตุอินทร์แขวนค่ะ จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 19:42:08 ]

ความคิดเห็นที่ 110 ต้องขอขอบคุณทุกท่านที่อดทนติดตามมาทั้ง 4 ตอน รีวิวนี้เป็นรีวิวแรก หากผิดพลาดประการใดต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ ทริปหน้าหากได้ไปเที่ยวที่ไหนจะมาทำรีวิวให้ชมกันอีกนะคะ ขอให้ผลบุญที่เจ้าของกระทู้ได้รับจากทริปไหว้พระที่พม่าในครั้งนี้ เผื่อแผ่ไปยังผู้ติดตามอ่านกระทู้ทุกคนนะคะ ขอบคุณและสวัสดีค่ะ จากคุณ : anapple - [ 8 เม.ย. 52 19:44:56 ]

ความคิดเห็นที่ 111 เยี่ยมมากเลยครับ เป็นการรีวิวที่ครบถ้วน มีรายละเอียดครบทั้ง สถานที่ และประวัติ แล้วเป็นทริปที่ดีมากในการไปกับทัวร์ ดูไม่เร่งรีบและครบครันดีจัง จนอยากถามถึงค่าใช้จ่ายต่อคนเลยครับ จากคุณ : Ole'-Yepp' - [ 9 เม.ย. 52 09:13:07 ]

ความคิดเห็นที่ 112 ขอบคุณค่ะ คุณOle'-Yepp' สำหรับคำชม เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้ อย่างมากเลยค่ะ กรุ๊ปเราไปทั้งหมด 17 คน ค่าใช้จ่ายตลอดทริป 15,000 บาทต่อคน สำหรับทริป 3 วัน 2 คืนค่ะ (ราคาทัวร์รวมค่าเดินทาง-ตั๋วเครื่องบิน การบินไทยชั้นประหยัด-ค่ารถบัสที่ใช้เดินทางในพม่าและค่าเสลี่ยง ขึ้นเขาไปพระธาตุอินทร์แขวน ค่าอาหาร ค่าที่พัก และค่าธรรมเนียม เข้าชมสถานที่ ค่ะ  ที่เราต้องออกเองคือค่าธรรมเนียมกล้องถ่ายภาพ ค่าดอกไม้ธูปเทียนตามวัดต่าง ๆ และก็ค่าช๊อปปิ้งส่วนตัวค่ะ) แก้ไขเมื่อ 09 เม.ย. 52 11:42:49 จากคุณ : anapple - [ 9 เม.ย. 52 11:39:12 ]

ความคิดเห็นที่ 113 รีวิวได้ละเอียดดีมากครับ ตามอ่านครบ ๔ ตอนรวด  สนุกดีรับ จากคุณ : คนไทยใจดี (คนไทยใจดีจริงๆ) - [ 11 เม.ย. 52 23:02:48 ]