Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com


    เกือบวางมวยกับตี่ที่ไต้หวัน..เมื่อซื้อของประเภท "น้ำ" กับ Duty Free Shop ที่..สุวรรณภูมิ..

    ขออนุญาตตั้งสองห้อง คือ ไกลบ้านดั้งเดิม และ Blueplanet เพื่อนนักเดินทาง..เป็นการแบ่งปันประสบการณ์ จะว่าแย่ก็ไม่ใช่ จะว่าดีก็ไม่ใช่อีก..ถือว่ามาแบ่งปันกันนะคะ กระพริบตา

    เมื่อวานนี้..บินกลับอเมริกากับสายการบิน EVA AIR ปลายทาง Newark New Jersey .. เดินผ่านร้านขายของปลอดภาษีที่สนามบินสุวรรณภูมิ เห็นน้ำหอมยี่ห้อที่เคยโปรดปราน และจำได้ตอนขากลับเมืองไทย เคยแวะถามที่สนามบินไต้หวันตอนเปลี่ยนเครื่อง..ปรากฏราคาสูงกว่าเมืองไทย..

    แวะถามไถ่ราคา อ๊ะ ถูกกว่าที่สนามบินไต้หวัน..อุดหนุนบ้านเราท่าจะดี..สามีบอกให้เลือกน้ำหอมของผู้ชายให้ขวดหนึ่ง ยี่ห้อเดียวกัน..ได้มาสองขวด หญิงหนึ่ง ชายหนึ่งให้balance เป็นหยิน-หยางฮ่าฮ่าฮ่า

    ตอนชำระเงินพนักงานขอดู Boarding Pass และถามว่าปลายทางไปที่ไหน..ดิฉันบอกไปว่าปลายทางคือ Newark America และต้องไปเปลี่ยนเครื่องที่ไต้หวัน..พนักงานท่านนั้นบอก โอเคค่ะ..ปิดการขาย เก็บเงิน เอาของใส่ถุง ซีลปากถุงสนิทเรียบร้อย..

    ตอนลงที่ไต้หวัน...ต้องไปเปลี่ยนเครื่อง และต้องผ่านขบวนการเอ็กซเรย์อีกครั้งหนึ่ง..ได้ทำการเอาของทั้งหมดขึ้นไปวางบนสายพานเพื่อเข้าเครื่องตรวจ พร้อมทั้งถุงน้ำหอมสองขวดก็ได้แยกใส่ตะกร้าและส่งขึ้นบนสายพานไปด้วย..

    เจ้าหน้าที่ท่านหนึ่ง..หยิบถุงน้ำหอมนั้นขึ้นมาโบกถามแบบไม่มีคำพูดเป็นนัยว่า"นี่ของใคร" ดิฉันยกมือขึ้นบอกว่าของดิฉันค่ะ..สามีเดินตามมาติดๆ

    เจ้าหน้าที่ : %@!$%*&+
    ดิฉัน : Say again please,I don't get it.
    เจ้าหน้าที่ท่านเดิม: ฮันเลท..องลี่ ดิสอิสทูมัช
    ดิฉัน : Oh I see, you mean a hundred ML only right?
    เจ้าหน้าที่ : เย เย เย ดิสอิสทูมัช (แล้วทำท่าโบกไม้โบกมือว่าไม่ให้)
    ดิฉัน : I bought from Duty Free Shop in Thailand, SO?
    เจ้าหน้าที่ : ~~@#$%&*)+!
    ดิฉัน : What is that? sorry I dont' get it.
    เจ้าหน้าที่คนเดิมเดินไปที่เจ้าหน้าที่หน้าจอ

    เจ้าหน้าที่หน้าจอเดินมาหยุดผู้หญิงหน้าฝรั่งคนหนึ่ง แล้วบอกผู้หญิงคนนั้นว่า Can you explain to her in English? ผู้หญิงหน้าฝรั่งคนนั้นบอก Sorry I can't speak English I speak Frenchฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า

    สามี..หลังจากยืนจับใจความ ตี๋สนามบินกับหมวยภรรเมียตนเองได้เรื่องแล้ว เลยบอกเจ้าหน้าที่หน้าจอไปว่า
    My wife speaks English, and I speak English

    ดิฉัน : Whats the matter? We bought these from Duty Free Shop in Thailand and I have receipt.
    เจ้าหน้าที่หาจอ: Its the Rule, you can't carry more than one hundred ML
    ดิฉัน : I know the rule but I bought them from Duty Free Shop if I couldn't carry then why they sold to us.
    ตี๋คนเดิม : คราวนี้ออกเสียงประมาณกังฟูของขึ้น You have to GIVE UP your stuffs or go back to contact the airline พร้อมโบกมือไม้ไล่ประมาณ ชิ่ว ชิ่ว ชิ่ว

    บ๊ะ อ่ายตี๋..กิริยาเอ็งแบบเน้ไม่ได้หนา..ชิ่ว ชิ่ว นี่บ้านข้าไว้ใช้ไล่ตะเพิด

    สามีกระซิบบอกให้ GIVE UP ไปหาซื้อเอาใหม่ข้างหน้า

    ดิฉันเลือดหมวยไทยใจกล้าหาญ..บวกกับขี้เหนียวเสียดายของ (สองขวดนั่นห้าพันหกร้อยบาทไทยจะให้กิฟอ๊กกิฟอัพง่ายๆนี่ไม่ได้แหนแหน)บวกกับอ่ายตี๋มาตะเพิดมือไล่ชิ่วชิ่วนี่..เอาละวา..สักตั้ง..แค่มากก็ถูกส่งตัวกลับเมืองไทย..อยากกลับอยู่แร้นฮ่าฮ่าฮ่า

    แต่ก็พยายามอธิบายกลับอย่างใจเย็นข้างนอก เดือดข้างในเหมือนน้ำเต้าหู้เดือดนิ่งบนเตา..ซ้ำประโยคเดิมว่า ชั้นซื้อของนี่มาจากดิวตี้ฟรีที่เมืองไทยแล้วจะให้ชั้นยอมทิ้งของราคาเกือบสองร้อยเหรียญนี่คงจะไม่ใช่ ชั้นควรจะทำอย่างไร

    ตี๋คนเดิม (ตอนนี้ตี๋คนแรกที่พูดอังกฤษไม่รู้เรื่อง อันนี้สามียืนยันว่าชั้นฟังเค้าพูดไม่รู้เรื่องเลย เดินถอยไปยืนดูเหตุการณ์ไกลๆ) บอกซ้ำประโยคเดิมว่า ให้ทิ้งของนี้ไว้ที่นี่หรือไม่ก็ต้องเดินย้อนกลับไปติดต่อเจ้าหน้าที่สายการบิน

    ดิฉันถามว่าติดต่อได้ที่ไหน..เขาบอกต้องไปอีก terminalหนึ่ง..สามีได้ยินก็บอกอีกว่าให้ทิ้งไปเลย เดี๋ยวซื้อให้ใหม่สองขวด..บ๊ะ สองขวดก็ไม่เอา..จะต้องตามเรื่องให้ถึงที่สุดก่อน มันไม่ใช่ความผิดของเราเลยสักนิด..

    หันไปทางคุณตี๋ต่อ..แล้วอีก terminalหนึ่งนี่ ไปยังไง แล้วต้องติดต่อใคร ตี๋ทางด้วยเสียงตะคอกๆ  เสร็จ ลงท้ายด้วยไปถามหาเคาน์เตอร์ China Airline อ้าวเฮ่ย ไอมา EVA แล้วทำไมต้องไปติดต่อ China ห๊า...เสียงเราคงดัง และมีนักท่องเที่ยวตามหลังมายืนเป็น Internationalมุง หลายเลยเชียว

    ครานี้ ไอ่คุณตี๋เสียงเบาลงเกือบกระซิบว่า Sorry I thought you flew with China Airline then you have to contact EVA Airline behind this wall MAM
    ดิฉันเลยกระซิบกลับ Next time you should wear six glasses in stead of one glasses because my carry on bag has EVA Air sticker on it and stop yell at people like this,its not nice you know. This time I ll let you go otherwise I ll report you if it happened again I ensure you.

    ตี๋ผงกกึกกึ๊ก Sorry MAM.

    เลยเดินย้อนกลับไปกระจิ๊กเดียว เคาน์เตอร์ EVA อยู่หลังเครื่องเอ็กซเรย์นั่นหละค่ะ..เจ้าหน้าออกใบcarryของเหลวที่เกินหนึ่งร้อย ML ให้และเอาของใส่กล่องพร้อมคาดกาวและบอกให้ไปรอรับที่สนามบินปลายทาง
    .......................................................................................

    เมื่อถึงสนามบินปลายทางก็ได้รับของเรียบร้อยไม่แตกสลาย..
    .......................................................................................

    เรื่องนี้..ทาง Duty Free Shopที่สุวรรณภูมิควรมีความรู้ให้มากกว่านี้ ในการนำเสนอขายสินค้าที่เป็นประเภทของเหลวที่เกิน 100 ML..

    ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่า เจ้าหน้าที่ของ Duty Free Shop ไม่ทราบจริงๆหรือเปล่าว่าผู้โดยสารจะมีปัญหาในจุดต่อไปที่จะต้องไปเปลี่ยนเครื่อง..

    กฏว่าด้วยเรื่องของเหลวไม่เกิน 100ML นี้มีอยู่ทุกสนามบิน..ถ้าเช่นนั้น ไม่ว่าสนามบินใดใดก็จะต้องเจอปัญหาเดียวกัน หากเราซื้อของจากสนามบินหนึ่งและต้องไปผ่านเครื่องเอ็กซเรย์อีกประเทศหนึ่งที่เราเปลี่ยนเครื่องกระนั้นกระมัง..

    ...............................................................................


    อยากฝากไว้เป็นการแบ่งปันกัน..ใครเคยเจอแบบนี้บ้าง


    ...........................................................

    ถ้าเป็นตี๋ๆๆๆในคลิปนี้..ตะเพิดยังไง เจ๊ก็คงโกรธไม่ลง....ฮ่าฮ่าฮ่า

    จากคุณ : Panissar - [ วันคุ้มครองโลก 03:54:59 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com