ความคิดเห็นที่ 1 ประกอบกับ  ... ได้อ่านกระทู้ของคุณ a dear หลบร้อนไปเดินเล่นที่ปีนัง ประเทศมาเลเซีย http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E7756216/E7756216.html ผมก็เกิดไอเดียเอาโปสการ์ดเก่ามาทำกระทู้ บอกเล่าเรื่องราวให้เพื่อนๆได้อ่านกัน จากคุณ : พรเลิศ - [ วันคุ้มครองโลก 16:41:34 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ก่อนอื่น... ผมขอพาเพื่อนๆชาวคลับ”เรารักโปสการ์ด” นั่งไทม์แมชีนย้อนเวลากลับไปในอดีตสักหน่อยนะครับ ย้อนไปในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่1 (..โห..ย้อนไปซะไกล..) ในสมัยนั้น...กว่าสองร้อยยี่สิบปีมาแล้ว เกาะปีนังหรือเกาะหมาก ยังเป็นดินแดนของไทย รวมถึงปะลิส กลันตัน ตรังกานู และไทรบุรี ที่เรียกเกาะหมากก็เพราะมีหมาก (Areca catechu) เป็นไม้พื้นเมืองอยู่มากมาย 11 สิงหาคม พ.ศ. 2329 ไทยเสียเกาะหมาก เนื้อที่ 375 ตารางกิโลเมตรไป เพราะพระยาไทรบุรี (Sultan of Kedah) หันไปคบอังกฤษยกเอาเกาะหมากไปให้อังกฤษเช่า โดยหวังว่าไทรบุรีจะได้รับการคุ้มครองจากกองทหารอังกฤษ เพราะช่วงนั้นไทยยังติดพันสงครามเก้าทัพกับพม่า และการจัดระเบียบการปกครองหัวเมืองไกลหูไกลตายังไม่เรียบร้อย จากคุณ : พรเลิศ - [ วันคุ้มครองโลก 16:43:36 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ด้วยเหตุที่หนทางไกลมาก การติดต่อสื่อสารกลับถึงพระนครก็กินเวลานานโข เมื่อรัชกาลที่๑ ส่งกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท พระอนุชายกทัพมาปราบไทรบุรี อังกฤษก็ไม่ได้ช่วยไทรบุรี เพราะอยากได้เกาะหมาก ไม่สนใจฝั่งไทรบุรี ที่สุดแล้วอังกฤษโดยกัปตัน ฟรานซิส ไลท์ (Captain Sir Francis Light) ก็ยึดเอาเกาะหมากไปเฉยเลย แล้วเรียกชื่อเกาะเสียใหม่ว่า “ Prince of  Wales’s Island “ (ค่าเช่าปีละหกพันเหรียญสเปนคงจ่ายมั้ง...ที่ผมค้นมา เจอว่าทุกวันนี้รัฐปีนังยังจ่ายให้สุลต่านแห่งรัฐเคดาห์ปีละ หมื่นแปดพันริงกิต ไม่ทราบเท็จจริงอย่างไร) อนุสาวรีย์ของกัปตัน ฟรานซิส ไลท์ บนเกาะปีนังครับ จากคุณ : พรเลิศ - [ วันคุ้มครองโลก 16:45:26 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ถึงตรงนี้ผมขอนอกเรื่องนิดนึง อยากโยงให้เห็นสถานการณ์ช่วงนั้น เป็นช่วงสงครามกับพม่าที่เกิดวีรสตรีเมืองถลางสองท่าน คือท้าวเทพกษัตรี และท้าวศรีสุนทร ปลายปี พ.ศ. 2328 และการได้ปืนใหญ่นางพญาตานีมาจากหัวเมืองปัตตานี พ.ศ. 2329 ไงครับ อย่าเพิ่งงงนะครับ ส่วนที่เกี่ยวกับอังกฤษผมจะลำดับให้ฟัง ตอนนั้นอังกฤษขยายอิทธิพลมาป้วนเปี้ยนแถวนี้ ไล่บีบยึดเมืองต่างๆไปเป็นเมืองขึ้นยังกะชี้นิ้วเอาได้ ปี 2338 ยึดมะละกา ปี 2339 ยึดเกาะลังกา ปี 2367 ได้สิงคโปร์และภาคใต้ของพม่า ปี 2391 ได้อินเดียทั้งหมด แล้วก็ไล่ยึดรัฐต่างๆของมลายูไปเรื่อย ปี 2428 ได้ปกครองพม่าทั้งหมด ในยุคแห่งการล่าดินแดนของชาติตะวันตก ไม่ว่าจะเป็นอังกฤษ ฝรั่งเศส ดัชท์ สเปน ดินแดนอันอุดมสมบูรณ์ แถบนี้ ค่อยๆทยอยตกเป็นอาณานิคมอยู่ในปกครองของชาติตะวันตกเกือบหมด ปืนใหญ่ที่ป้อม Fort  Cornwallis  ตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะปีนัง ภาพจากเวปครับ จากคุณ : พรเลิศ - [ วันคุ้มครองโลก 16:46:37 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ไทยเราเสียเกาะหมากไปตั้งแต่ครั้งนั้น ต่อมาดินแดนมาลายาตกอยู่เป็นอาณานิคมของอังกฤษ แสตมป์ของเกาะปีนัง ออกในปีพ.ศ. 2492 ตอนนั้นพระเจ้าจอร์จที่หก (King George VI) ทรงครองราชย์เป็นกษัตริย์อังกฤษครับ จากคุณ : พรเลิศ - [ วันคุ้มครองโลก 16:48:28 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ล่วงมาถึงปีพ.ศ. 2500 อังกฤษให้เอกราชแก่มาลายา เป็นสหพันธรัฐมาลายา (ภายหลังมาเปลี่ยนชื่อประเทศเป็นมาเลเซีย โดยเขี่ยรัฐสิงคโปร์ออกไปตั้งประเทศใหม่) แสตมป์สหพันธรัฐมาลายา ออกเมื่อ พฤษภาคม พ.ศ. 2500 จากคุณ : พรเลิศ - [ วันคุ้มครองโลก 16:50:26 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เล่าโม้มายืดยาว...ยังไม่เห็นเข้าเรื่องโปสการ์ดเลย เกาะปีนังเป็นดินแดนในเขตร้อนชื้น ชาวอังกฤษที่มาปกครองไม่ชอบอากาศแบบนี้ (เหมือนที่ไปปกครองอินเดีย ก็ชอบที่จะขึ้นไปอยู่สูงๆแถบเชิงเขาหิมาลัย ที่อากาศเย็นสบายไม่ร้อนตับแลบ) จึงมีความคิดและโครงการที่จะขึ้นไปพักบนยอดเขา Penang Hill ที่สูง 730 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล การก่อสร้างทางรถไฟชักรอก (ภาษาอังกฤษเรียกว่า Funicular Railway ) จึงได้เริ่มในปีพ.ศ. 2449  เสร็จสิ้นในปี 2466 รวมระยะเวลา 17 ปี ใช้พลังงานไฟฟ้าหมุนเพลารอก เปิดให้บริการเมื่อ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2466 มีป้ายที่นั่นบอกว่าเป็นสถานีบนภูเขาแห่งแรกของดินแดนอาณานิคมอังกฤษเลยแหละ สร้างก่อนสถานีบนเขาที่มีชื่อหลายแห่งในอินเดียด้วยครับ ตอนสร้างเสร็จใหม่ๆตัวรถหน้าตาเป็นอย่างนี้ เป็นภาพโปสการ์ดจากเวปครับ จากคุณ : พรเลิศ - [ วันคุ้มครองโลก 16:51:44 ]

ความคิดเห็นที่ 8 อย่างที่เกริ่นไว้ครับ ผมมีโอกาสไปปีนังครั้งแรกราวปี 2505 สมัยนั้นยังเป็นสหพันธรัฐมาลายาที่ได้เอกราชมาใหม่ๆ การข้ามไปเกาะปีนังยังไม่มีสะพานข้ามทะเลอย่างปัจจุบัน ต้องลงเรือเฟอรี่ข้ามฟากอย่างนี้ครับ จากคุณ : พรเลิศ - [ วันคุ้มครองโลก 16:53:04 ]

ความคิดเห็นที่ 9 มาดูโปสการ์ดเก่าของพ่อบ้าง ผมดูหน้ากล่องแล้วเพิ่งเห็นว่า พิมพ์ในประเทศอังกฤษ ส่งมาขายผ่านทางบริษัทในสิงคโปร์ ใบที่ 1 ทางขึ้น โปสการ์ดเก่าชุดนี้ ผมคาดว่าน่าจะถ่ายและพิมพ์ช่วงปี 2490 กว่าๆ เพราะก่อนหน้านั้นเป็นช่วงสงครามโลกเค้ามัวแต่รบกัน ทิ้งระเบิดตูมๆ ใครจะมีกะจิตกะใจมานั่งพิมพ์นั่งทำโปสการ์ด...จริงไหมครับ? จากคุณ : พรเลิศ - [ วันคุ้มครองโลก 16:56:10 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เปรียบกับทางขึ้นยุคปัจจุบัน หลายอย่างยังเหมือนเดิม เปลี่ยนตัวรถไปเป็นรุ่นใหม่เมื่อปี 2522 ครับ จากคุณ : พรเลิศ - [ วันคุ้มครองโลก 16:57:31 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ใบที่ 2 รถสองคันใช้เคเบิลเส้นเดียวกัน ขนาด 32 มม.โยงถึงกัน ใช้รางร่วมกัน จึงต้องมีทางเบี่ยงหลบกันครับ ไม่เหมือนกับที่ดอยสุเทพใช้เคเบิลเส้นเดียวกัน แต่รางใครรางมัน จากคุณ : พรเลิศ - [ วันคุ้มครองโลก 16:59:33 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เอาภาพมาให้ดูชัดๆ ตอนทางโค้ง รอกรับเคเบิลก็ต้องเอียงไปด้วย (ภาพจากเวปครับ) จากคุณ : พรเลิศ - [ วันคุ้มครองโลก 17:00:43 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ใบที่ 3 ถึงสถานีกลางทาง ที่ระดับความสูง 319 เมตร ต้องเปลี่ยนรถไปขึ้นอีกทอดหนึ่ง ระยะทางช่วงแรกนี้ 907 เมตร ความชัน 50% จากคุณ : พรเลิศ - [ วันคุ้มครองโลก 17:01:35 ]

ความคิดเห็นที่ 14 นำภาพจากกูเกิ้ลเอิร์ธมาให้เพื่อนๆดู การขึ้นไปข้างบนต้องใช้รถสองทอดครับ จากคุณ : พรเลิศ - [ วันคุ้มครองโลก 17:02:36 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ใบที่ 4 ช่วงที่สองนี้มีระยะทาง 1313 เมตรความชัน 51% จากคุณ : พรเลิศ - [ วันคุ้มครองโลก 17:03:28 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ใบที่ 5 รถสวนกันในช่วงที่สอง ตอนเด็กผมตื่นเต้นมาก ชะโงกดูแทบจะหลุดไปนอกรถ จากคุณ : พรเลิศ - [ วันคุ้มครองโลก 17:06:33 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ใบที่ 6 สภาพภูมิประเทศแถบนั้นก็ไม่ได้ราบเรียบ เจอที่ลุ่มก็ต้องทำสะพานที่เรียกว่า Viaduct ด้วย จากคุณ : พรเลิศ - [ วันคุ้มครองโลก 17:07:24 ]

ความคิดเห็นที่ 18 มารอติดตามอ่านเรื่องราวน่ารู้ของคุณพรเลิศครับ จากคุณ : nayroysoydao - [ วันคุ้มครองโลก 17:08:04 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ใบที่ 7 บางช่วงก็ต้องถากภูเขาออก ผมจำได้ว่า ริมผาสองข้างทางมีพรรณไม้แปลกๆ พวก Nepenthes (หม้อข้าวหม้อแกงลิง) ขึ้นเต็มไปหมด จากคุณ : พรเลิศ - [ วันคุ้มครองโลก 17:08:13 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ใบที่ 8 เส้นทางนี้สร้างมาเมื่อร้อยปีก่อน... เครื่องไม้เครื่องมือก็ไม่เหมือนสมัยนี้นะครับ เชื่อเลยครับว่า คนขี้ร้อนช่างมีความพยายามซะจริง จากคุณ : พรเลิศ - [ วันคุ้มครองโลก 17:09:53 ]

ความคิดเห็นที่ 21 บริเวณเดียวกันในยุคปัจจุบัน (ภาพจากเวปครับ) จากคุณ : พรเลิศ - [ วันคุ้มครองโลก 17:10:56 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ใบที่ 9 เจอหน้าผาเป็นหินถากไม่ไหว...ขุดอุโมงค์ซะเลยละกัน จากคุณ : พรเลิศ - [ วันคุ้มครองโลก 17:14:49 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ใบที่ 10 ใกล้จะถึงแล้ว...สถานีปลายทาง จากคุณ : พรเลิศ - [ วันคุ้มครองโลก 17:15:52 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ใบที่ 11 มองย้อนหลังกลับมาดูทิวทัศน์ตัวเมืองครับ จากคุณ : พรเลิศ - [ วันคุ้มครองโลก 17:16:52 ]

ความคิดเห็นที่ 25 เปรียบกับภาพปัจจุบัน จากคุณ : พรเลิศ - [ วันคุ้มครองโลก 17:17:26 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ปัจจุบันอีกรูป สังเกตว่าสภาพรถเปลี่ยนไปแล้ว ดูทันสมัยขึ้น (ภาพจากเวปครับ) จากคุณ : พรเลิศ - [ วันคุ้มครองโลก 17:18:11 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ใบที่ 12 บนสถานีปลายทางครับ ใครไม่รู้เคยบอกผม ที่ความสูงขึ้นไป 100 เมตร อุณหภูมิจะลดลง 1 องศา ที่นี่น่าจะเย็นกว่าข้างล่าง 7-8 องศากระมังครับ จากคุณ : พรเลิศ - [ วันคุ้มครองโลก 17:22:01 ]

ความคิดเห็นที่ 28 แม่ผมเกือบได้ไปเรียนที่ปีนังแล้วเชียวครับ แต่พอดีคุณยายให้กลับมาช่วยทำนาเสียก่อน อิอิ จากคุณ : 16เมษา - [ วันคุ้มครองโลก 17:26:06 ]

ความคิดเห็นที่ 29 หนังสือที่เขียนโดย Ric Francis และ Collin Ganley ถึงเรื่องราวการขนส่งในปีนังช่วงพ.ศ. 2423 ถึง พ.ศ. 2506 จากคุณ : พรเลิศ - [ วันคุ้มครองโลก 17:26:22 ]

ความคิดเห็นที่ 30 โปสการ์ดยุคต่อมาพิมพ์สีแล้ว จากคุณ : พรเลิศ - [ วันคุ้มครองโลก 17:27:07 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ด้านหลัง...เพิ่งเห็นว่าพิมพ์มาจากอเมริกาโน่นครับ จากคุณ : พรเลิศ - [ วันคุ้มครองโลก 17:28:13 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ผลพวงจากการดั้นด้นไปหาที่นอนเย็นๆบนยอดเขา เมื่อกว่าร้อยปีก่อน ได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ขึ้นหน้าขึ้นตาของปีนังไปแล้วในปัจจุบัน จริงอยู่ เทคโนโลยีการเดินทางได้รุดหน้าไปมาก แต่หากได้มองย้อนไปถึงประวัติศาสตร์และเรื่องราวในอดีต ย่อมทำให้แหล่งท่องเที่ยวนั้นมีเสน่ห์และมนต์ขลัง ที่ประทับใจแก่แขกผู้มาเยือน ปีนังยังมีสถานที่น่าสนใจอีกหลายแห่ง เช่นวัดเต่า วัดงู ป้อม Fort Cornwallis และสวนพฤกษศาสตร์ Penang Botanical Gardens ที่มีประวัติยาวนาน http://www.dnp.go.th/botany/International_gardens/Penang.html จากคุณ : พรเลิศ - [ วันคุ้มครองโลก 17:29:47 ]

ความคิดเห็นที่ 33 นึกย้อนกลับมาดูบ้านเรา หลายต่อหลายแห่ง หลายสถานที่มีที่มาและเรื่องราวที่น่ารู้น่าติดตาม ทั้งด้านประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ประเพณี ตลอดถึงทรัพยากรธรรมชาติ หากเราไม่รักษา ไม่ดูแล ปล่อยให้ทรุดโทรมผุพังไปตามกาลเวลา ไม่จด ไม่จำไม่บอกเล่ากล่าวถ้อยให้คนรุ่นหลังได้รับรู้แล้ว เรายังจะหวังให้ลูกหลาน ดูแลรักษามรดกนี้ไว้กระนั้นหรือ...? ขอขอบคุณผู้ถ่ายภาพที่ผมมิได้เอ่ยนาม ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามกระทู้ครับ จากคุณ : พรเลิศ - [ วันคุ้มครองโลก 17:31:36 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ขอบคุณครับ ... พี่พรเลิศ ที่แบ่งปัน ผมเคยไปแต่ตลาดปีนังที่คลองเตยครับ ส่วนครั้งแรกที่พี่ไปปีนัง เมื่อปี 2505 ผมเกิดไม่ทันครับ จากคุณ : gotland - [ วันคุ้มครองโลก 17:33:49 ]

ความคิดเห็นที่ 35 สวัสดีครับชงชง สวัสดีครับ ทิดปุ๊ ก้มหน้าก้มตาโพสต์ไม่ทันดูเลย สมัยก่อนนิยมส่งลูกหลานไปเรียนที่ปีนังครับ กลับมาทำการค้า ทำธุรกิจกัน ผมไม่ได้ไปเรียนหรอก นาก็ไม่มีให้ทำ 5555 สวัสดีครับปู่ แหมตลาดปีนังผมก็ไปบ่อยเหมือนกัน แก้ไขเมื่อ 22 เม.ย. 52 17:54:16 แก้ไขเมื่อ 22 เม.ย. 52 17:36:50 จากคุณ : พรเลิศ - [ วันคุ้มครองโลก 17:35:09 ]

ความคิดเห็นที่ 36 คนเขาอย่างกิ๊บส์อ่ะ ห่างไกลจากปีนังมากๆ เป็นสถานที่ ที่ไม่คุ้นเอาเลยซะจริงๆ จากคุณ : กิ๊บส์ - [ วันคุ้มครองโลก 17:44:24 ]

ความคิดเห็นที่ 37 เข้ามานานแระ แต่ไม่กล้าปาด ขอบคุณเรื่องราวดีๆ ภาพหายากที่นำมาเผยแพร่ค่ะ ชื่อคุณ พรเลิศ ไม่เคยทำให้ผิดหวังเลย จริงๆ จากคุณ : prettyguide - [ วันคุ้มครองโลก 18:04:46 ]

ความคิดเห็นที่ 38 อันที่จริงก็ไปบ่อยนะคะ ปีนัง แต่ตลาดปีนังที่หาดใหญ่เหมือนกัน จากคุณ : a dear - [ วันคุ้มครองโลก 19:08:06 ]

ความคิดเห็นที่ 39 สวัสดีค่ะ .. แว่ะมา ชม รับ รู้เรื่องราวดีๆ ผ่านโปสการ์ด คุณปู่ค่ะ   ขอบคุณค่ะ จากคุณ : honeybfit - [ วันคุ้มครองโลก 19:09:06 ]

ความคิดเห็นที่ 40 พูดถึงปีนัง จะนึกถึงละครสมัยก่อน ที่หญิงต้องไปเรียนคอนแวนต์ที่ปีนัง ดูอยากไปเรียนมั่งจัง แต่เกิดไม่ทันยุคนั้น เลยได้เรียนคอนแวนต์ที่เมืองไทยแทน เอิ๊ก เอิ๊ก จากคุณ : asp_ash - [ วันคุ้มครองโลก 19:31:48 ]

ความคิดเห็นที่ 41 รายละเอียดเพียบ แจ่มมากๆค่ะ อยากไปปีนังหมือนกัน แต่ต้องเก็บตังค์ก่อน ตอนนี้เพิ่งเก็บได้แค่สองเดือนนังเองค่ะ จากคุณ : ไปตามดวง - [ วันคุ้มครองโลก 20:40:09 ]

ความคิดเห็นที่ 42 สวัสดีค่ะ ตามมาย้อนดูประวัติศาสตร์ ผ่านโปสการ์ดคุณปู่ ด้วยคนค่ะ ขอบคุณเรื่องราวดีดี ที่นำมาแบ่งปันนะคะ จากคุณ : เอื้องน้ำต้น - [ วันคุ้มครองโลก 21:33:23 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ขอบคุณสำหรับสาระดีๆครับ จากคุณ : คนไทยใจดี (คนไทยใจดีจริงๆ) - [ วันคุ้มครองโลก 21:35:49 ]

ความคิดเห็นที่ 44 แจ่ม จากคุณ : `SEPULTURA_`FROM_`HELL - [ วันคุ้มครองโลก 21:44:07 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ตามมาขอนั่งฟังประวัติศาสตร์ผ่านโปสการ์ดด้วยคนค่ะคุณปู่  ขอบคุณนะคะ จากคุณ : That's the way I am - [ วันคุ้มครองโลก 21:44:22 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ชอบโปสการ์ดประวัติศาสตร์เหมือนกันค่ะ อยากหามาสะสมอยู่ มีใครพอรู้บ้างว่าซื้อได้ที่ไหนมั่งอ่ะ ^ - ^ จากคุณ : Paddle - [ วันคุ้มครองโลก 21:56:27 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ขอบคุรที่นำมาให้ดูครับ ได้เที่ยวตั้งแต่เด็กๆเลยครับ จากคุณ : เจ้าชายกระต่าย - [ วันคุ้มครองโลก 22:38:27 ]

ความคิดเห็นที่ 48 มาชมค่ะ ชอบสมัยอดีตจัง สวยดี *-* จากคุณ : Takaw - [ วันคุ้มครองโลก 23:23:14 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ขอบคุณมากครับ  เคยไปปีนังเมื่อนานมาแล้วเหมือนกัน (แต่ไม่ถึง 2505 เพราะยังไม่เกิด) ชอบมากมาย  ไปแล้วอยากไปอยู่ที่โน่น ไม่อยากกลับเมืองไทย  เมืองอะไรจะน่ารักขนาดนั้น แต่เดี๋ยวนี้ไม่แน่ใจว่ายังคงสภาพแบบนั้นอยู่หรือเปล่า เพิ่งได้รับการประกาศเป็นมรดกโลกของยูเนสโก้เมื่อปีที่แล้วด้วยนะครับ จากคุณ : Cherokee1 - [ 23 เม.ย. 52 00:09:17 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ปีนังนี เป็นเมืองต่างประเทศที่เด็กหาดใหญ่อย่างเลเตไปเป็นเมืองแรกเลยค่ะ จำได้ว่าไปครั้งแรกเมื่ออายุ12เอง ซื้อแก้วหลอมชุดครอบครัวกระต่ายมา1ชุด ตุ๊กตากระเบื้องเคลือบSmurfs อีก1ชุด ทุกวันนี้...ยังเก็บครอบครัวกระต่ายนั้นไว้อยู่เลยค่ะ เสียดายตุ๊กตาSmurfs ตกแตกไปหมดแล้ว.. จากคุณ : สเลเต - [ 23 เม.ย. 52 02:12:43 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ปีนังเป็นที่แรกที่ก้าวออกนอกประเทศเหมือนคุณเลเตเลยคะ จำได้ว่าเคยทำเป็นโปสการ์ดด้วย อิอิ จากคุณ : น้องพีวี - [ 23 เม.ย. 52 05:02:18 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ขอบคุณค่ะคุณพรเลิศ  ที่ทำให้คิดถึง ปีนังฮิลล์ เคยไปนานมากแล้ว จำได้พบพวงหยก ที่นั่นด้วยค่ะ จากคุณ : ดอกสารภี (ดอกสารภี) - [ 23 เม.ย. 52 06:28:39 ]

ความคิดเห็นที่ 53 มาเก็บข้อมูล จากคุณ : ไข่มุกน้อย - [ 23 เม.ย. 52 09:06:48 ]

ความคิดเห็นที่ 54 มาย้อนอดีตด้วยคนค่ะ เคยไปเที่ยวปีนังกะพ่อแม่สมัยเด็ก 10ขวบได้ จำได้แม่นตอนเอารถขึ้นเรือข้ามฟาก สนุกตื่นเต้นดี แล้วก็อีกทีตอนขึ้นเคเบิลคาร์ แล้วแวะจุดนึง มีตู้ขายน้ำแบบกดแล้วมีชาร้อนเป็นแก้วๆ น้ำส้มอุ่นๆ จำได้แม่นเลย บ้านเรายังไม่มีตู้กดน้ำซักอย่าง เป็นการไปต่างประเทศครั้งแรก เปิดหูเปิดตามากๆ ขอบคุณคุณพรเลิศค่ะ อ่านกระทู้นี้ทำให้คิดได้ว่าเคยไป จากคุณ : ก้าวไปตามใจฝัน - [ 23 เม.ย. 52 10:09:29 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ขอบคุณพี่พรเลิศมากครับ สำหรับสิ่งดีๆเช่นเคย จากคุณ : CVTบ้านโป่ง - [ 23 เม.ย. 52 10:32:28 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ตามมาเที่ยวค่ะ แต่พออ่านถึงที่มาของเกาะนี้แล้วหมดสนุกไปเยอะเลย... กลัวปัจจุบันจะซ้ำรอยค่ะ...555 ดูรวมๆแล้วยังคล้ายสมัยก่อนแต่อาคารทันสมัยขึ้น ถ้าสร้างทางแล้วใช้ได้นานๆแบบนี้ถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า... แต่น่าหวาดเสียวจริงๆๆสูงมากๆ จากคุณ : tiNgrOyArrAi - [ 23 เม.ย. 52 10:53:52 ]

ความคิดเห็นที่ 57 ตามมาเที่ยวชมด้วยครับ :-) นึกถึงยอดเขาพระนครคีรี (เพชรบุีรี) ผมเสียวแทนจริงๆ กับเคเบิล กลัวจะขาดครับเพราะร้อนมาก :-) จากคุณ : ชิดขวา_>>> - [ 23 เม.ย. 52 11:34:22 ]

ความคิดเห็นที่ 58 ขอบคุณข้อมูลดีๆ ภาพสวยๆ ค่ะ เคยช่วยแม่ขายเทปอยู่ในตลาดปีนังคลองเตยตอนเด็กๆ ส่วนปีนัง มะละกา แค่เึคยแว๊บๆ เฉี่ยวไปอยู่หน.... ตอนนั้นก็จำได้ว่าเรียกว่ามาเลเซียแล้ว เอ่อม...แต่ไม่น่าจะนานเท่าปี 2505 ค่ะ...(เกิดไม่ทันจริงๆ) อิอิ จากคุณ : GoYai - [ 23 เม.ย. 52 13:13:43 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ประวัติศาสตร์ =  ความทรงจำ ใครหลายคน..ผลัดกันปลุกความทรงจำ ให้แจ่มชัดขึ้น..เมื่อได้พูดถึงวันวาน พูดถึงปีนัง..คิดถึงคุณป้าเช่นกัน ท่านเป็นพี่สาวของพ่อ พ่อเกิดที่นั่น แต่..มาโตเมืองไทย...เสียชีวิตเมืองไทย ส่วนท่าน..เกิดที่นั่น โตที่นั่น และยังมีชีวิตอยู่ที่ปีนัง จากคุณ : ป้าพาฝัน - [ 23 เม.ย. 52 15:47:55 ]

ความคิดเห็นที่ 60 มานั่งไทม์แมชีนย้อนเวลากลับไปในอดีตด้วยคนค่ะ คุณพรเลิศ ภาพหาดูได้ยาก.. เป็นประวัติศาสตร์เลยนะคะ ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดี ๆ ค่ะ   จากคุณ : _iOFFer_ - [ 23 เม.ย. 52 20:11:50 ]

ความคิดเห็นที่ 61 โห.. เก๋มากๆเลยคะ.. ชอบจัง จากคุณ : mochamocko (MochaMocko) - [ 23 เม.ย. 52 22:09:20 ]

ความคิดเห็นที่ 62 ขอบคุณสำหรับสาระและความรู้ที่นำมาเล่าสู่กันฟังนะคะ จากคุณ : นู๋หิ่นอินตรัง - [ 24 เม.ย. 52 00:21:15 ]

ความคิดเห็นที่ 63 คุณ asp_ash # 40 "พูดถึงปีนัง จะนึกถึงละครสมัยก่อน ที่หญิงต้องไปเรียนคอนแวนต์ที่ปีนัง ดูอยากไปเรียนมั่งจัง" ไม่ต้องละครหรอกครับ ขอจริงก็มีอยู่ คุณอาภัสรา (หงสกุล) อดีตนางสาวไทย และ อดีตนางงามจักรวาล เธอก็เป็นนักเรียนเก่าปีนังเหมือนกัน จากคุณ : อ่วม อรทัย - [ 24 เม.ย. 52 00:27:12 A:118.173.148.195 X: TicketID:079538 ]

ความคิดเห็นที่ 64 มายามดึกค่ะ เรื่องล่าอาณานิคมจะขอข้าม...ไม่มีคอมเมนท์ค่ะ (เรื่องนี้เคยถกกับเพื่อนข้ามปี!!!) เรื่องราวในอดีตหลายๆเรื่อง บางทีถูกลืมเลือนทั้งๆที่จะเป็นแหล่งข้อมูลความรู้อย่างวิเศษ กับผู้คนไม่เฉพาะคนในบ้านเมืองนั้น เท่านั้นนะคะ แต่เป็นของคนทั้งโลก   โลกแห่งการสื่อสารสมัยใ หม่ทำให้ หลายต่อหลายคนได้รู้จักกับโลกใบนี้มากขึ้น ผ่าน..ผู้คนที่ยังไม่ยอมปล่อยให้อดีตมันเป็นแค่เรื่องที่ผ่านไปแล้ว แต่นำกลับมาเป็นแหล่งความรู้สำหรับผู้อื่น..แบบอาจารย์ค่ะ ขอบคุณเรื่องราวดีๆที่นำมาแบ่งปันค่ะ... จากคุณ : anavrin - [ 24 เม.ย. 52 01:20:44 ]

ความคิดเห็นที่ 65 มาย้อนรอยไปกับโปสการ์ดค่ะ จากคุณ : pakwadee - [ 24 เม.ย. 52 11:13:45 ]

ความคิดเห็นที่ 66 มาชมโปสการ์ดด้วยคน เป็นสิ่งที่ควรค่าต่อการจดจำจริงๆค่ะ จากคุณ : ใกล้ชิด - [ 24 เม.ย. 52 14:16:52 ]

ความคิดเห็นที่ 67 ************* แก้ไขเมื่อ 25 เม.ย. 52 17:51:24 จากคุณ : ชาวเหนือ - [ 25 เม.ย. 52 17:50:56 ]

ความคิดเห็นที่ 68 ยังไม่เคยไปเกาะปีนังเลย ขอบคุณที่รวมภาพและเรื่องเล่ามาให้ถึงบ้านเลย เคเบิ้ลคาร์ที่เขาวังเพชรบุรีก็ใช้ระบบนี้เหมือนกันค่ะ แต่ระยะทางสั้นกว่าเยอะ จากคุณ : ชมไพร (chomphrai) - [ 26 เม.ย. 52 19:20:35 ]

ความคิดเห็นที่ 69 มาตั้งใจอ่านค่ะ   เฉยเลยเนอะกัปตัน ฟรานซิส   (ฮึ่ม  ถ้าได้ไปปีนัง เจอจะแลบลิ้นใส่ซะที  คิดในใจ) (แต่ก็ยืนเต๊ะท่าเท่ห์ไม่เบานะนั่น  อิอิ) ขอบคุณสำหรับเรื่องราวในอดีตที่มาเล่าให้ฟังนะคะ จากคุณ : เจ้าเอ๋ย - [ 28 เม.ย. 52 13:21:31 ]