ความคิดเห็นที่ 1 ดาไซฟุ ที่เมื่อก่อนเคยรุ่งเรืองรอง แต่ ณ บัดเดี่ยวนี้ เป็นเพียงเมืองเล็ก ๆ ขึ้นกับจังหวัดฟุคุโอกะ ตั้งอยู่ค่อนมาทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 17 กิโลเมตร จากตัวเมืองฟุคุโอกะ โดยทางรถไฟ นั่งไปแค่ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง การเดินทางไปมาสะดวกมากมาย มีรถไฟเอกชนยี่ห้อนิชิเท็ทซึ (Nishitetsu) วิ่งเข้าจอดรับ-ส่งที่สถานีกลางเมืองเลยทีเดียว รถไฟ JR ไปไม่ถึงดาไซฟุนะ แค่เฉียด รายละเอียดของเมือง อ่านจากลุงวิตามนี้เลย  http://en.wikipedia.org/wiki/Dazaifu จากคุณ : NumAromDee - [ 28 เม.ย. 52 19:23:35 ]

ความคิดเห็นที่ 2 จองตั๋ว VIP 1 ใบ ตามไปดาไซฟุด้วยคนค่ะ จากคุณ : sweetsakura - [ 28 เม.ย. 52 19:25:52 ]

ความคิดเห็นที่ 3 วิธีการเดินทางก็ประมาณนี้.. เริ่มต้นจากสถานีฮาคะตะ นั่งรถไฟใต้ดินสายคุโก (Kuko) ไปลงที่สถานีเทนจิน (250 เยน) แล้วเดินลัดเลาะไป ต่อรถไฟนิชิเท็ทสึ สายโอมุตะ ที่สถานีนิชิเท็ทสึ-ฟุคุโอกะ นั่งไปลงสถานี นิชิเท็ทซึ-ฟุทสึไคจิ ลงรถ แล้วเดินตามป้ายและผู้คน เปลี่ยนไปนั่งรถไฟนิชิเท็ทสึ สายดาไซฟุ อีกไม่ไกล แค่ 2 สถานี ก็จะถึง สถานีนิชิเท็ทสึ-ดาไซฟุ หมายเหตุ: ชื่อสถานีต้องมีคำว่า Nishitetsu หรือ JR มาไว้ข้างหน้าให้งุนงง ก็เพราะต้องการให้ผู้โดยสารแยกออกว่า เป็นสถานีของรถไฟเจ้าไหน เพราะบางที่ สถานีรถไฟสองสามเจ้าตั้งอยู่ใกล้ ๆ กัน แล้วใช้ชื่อเดียวกัน ขืนไม่มียี่ห้อบอกไว้ คงสับสนชีวิตกันน่าดู จากคุณ : NumAromDee - [ 28 เม.ย. 52 19:26:05 ]

ความคิดเห็นที่ 4 องค์หญิงซากุระ ยังนั่งเฝ้า office อยู่อีกรึ.. ตามมาเลยครับ.. วันนี้จะไปกันเร็ว ไม่ต้องรอนาน เพราะผมพิมพ์ไว้ล่วงหน้าตั้งแต่เย็นวานแล้ว ========================= เอาแผนที่รถไฟใต้ดินในเมืองฟุคุโอกะมาแถมให้ กันงง รถไฟใต้ดินเมืองนี้มี 3 สาย สายหลักที่นักท่องเที่ยวต้องใช้บ่อย ก็ไม่พ้นสายคุโก(สีส้ม) ที่วิ่งจากสนามบิน ผ่านสถานีรถไฟฮาคะตะ ผ่ากลางเมืองที่ย่านเทนจิน เพราะพวกโรงแรมที่พักและสถานีที่ช็อปปิ้ง มักจะเกาะอยู่กับเส้นทางรถไฟสายนี้ทั้งหมด ส่วนอีก 2 สาย คือ ฮะโคะซะกิ กับ นานะคุมะ ถ้าไม่ได้ไปสิงบ้านเพื่อน หรือนอนบ้านญาติ เรา ๆ ท่าน ๆ คงไม่ค่อยได้ใช้บริการซักเท่าไหร่ เหมือนเป็นเส้นทางขนส่งผู้คน ออกไปย่านที่อยู่อาศัยตามชานเมืองซ่ะมากกว่า จากคุณ : NumAromDee - [ 28 เม.ย. 52 19:29:42 ]

ความคิดเห็นที่ 5 จุดที่อาจจะงง และชวนหลงสำหรับมือใหม่ ก็คือ การเดินเปลี่ยนรถไฟระหว่างสถานี Suway Tenjin กับ สถานีรถไฟ Nishitetsu-Fukuoka เพราะ 2 สถานีนี้ ไม่ได้ตั้งติดกัน แต่มีทางเชื่อมเข้าหากัน ทั้งลอยฟ้าและใต้ดิน หรือจะเดินมาบนพื้นถนนก็ได้ จากรูป ด้านบนที่วงรีเอาไว้ คือ สถานีรถใต้ดินเทนจิน ทอดยาวอยู่ใต้ถนน ส่วนที่วงสีเขียวไว้ด้านล่าง คือสถานีรถไฟนิชิเท็ทสึฟุคุโอกะ ลอยฟ้าอยู่ที่ชั้น 3 ของอาคาร ที่ถูกล้อมกรอบด้วยสารพัดห้าง แถมข้างใต้ถนนสายหลักทางด้านขวาของสถานีนิชิเท็ทสึฯ ยังเป็นช็อปปิ้งใต้ดินขนาดใหญ่อีกด้วย จะหลงก็เพราะโดนดูดให้ไปเดินช็อปฯ นี่แหละ จากคุณ : NumAromDee - [ 28 เม.ย. 52 19:32:30 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ง่ายที่สุดในการเดินเปลี่ยนรถไฟ คือ พอลงรถไฟใต้ดินที่สถานีเทนจิน ให้เดินออกที่ทางออกหมายเลข 6 จะมีป้ายบอกไว้ชัดเจน ว่าทางนี้ไปขึ้นรถไฟนิชิเท็ทสึ สายโอมุระ จากคุณ : NumAromDee - [ 28 เม.ย. 52 19:34:31 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เดินตามป้ายที่จะมีบอกเป็นระยะไปเรื่อย ๆ ถ้าไม่หลงเพลินกับถนนช็อปปิ้งใต้ดินย่านเทนจิต อันสุดแสนอลังการไปซ่ะก่อน รับรองหาสถานีนิชิเท็ทสึเจอแน่ แถวนั้นเค้าขุดใต้ถนนทั้งเส้น ทำเป็นแหล่งช็อปปิ้งใ้ต้ดิน ให้เดินช็อปกันยาวหลายร้อยเมตร โดยไม่ต้องกลัวฝนกลัวหิมะ ตะบะไม่แก่กล้า อย่าได้ลองเดินเลยนะ เด๋วกระเป๋าฉีก จะหาว่าไม่เตือน..   จากคุณ : NumAromDee - [ 28 เม.ย. 52 19:36:21 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ตัวสถานีนิชิเท็ทสึอยู่ลอยฟ้า ต้องเดินขึ้นไป จากคุณ : NumAromDee - [ 28 เม.ย. 52 19:37:49 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ญี่ปุ่นชอบสร้างห้างสรรพสินค้า ครอบสถานีรถไฟใหญ่ ๆ เอาไว้ ใครเคยไปสถา่นีชิบุยะ หรือ ชินจุกุ จะนึกภาพออก ถ้าแข็งใจเดินฝ่าไปได้โดยไม่แวะ ก็ต้องเดินขึ้นบันไดด้านซ้ายมือไปอีกนิด จากคุณ : NumAromDee - [ 28 เม.ย. 52 19:40:10 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ซื้อตั๋วจากเครื่องขายอัตโนมัติ ราคา 390 เยน ถ้าใช้เครื่องไม่เป็น ซื้อกับเจ้าหน้าที่ที่ช่องขายตั๋วก็ได้ ไม่ต้องพูดอะไรมาก บอกคำเดียวสั้น ๆ ว่า “ดาไซฟุ” แล้วก็ชูนิ้วเท่าจำนวนตั๋วที่จะซื้อ ตัวเลขราคาสีแดง เป็นราคาตั๋วสำหรับเด็กเล็ก อายุ 6-11 ขวบ ส่วนเด็กอายุต่ำกว่า 6 ขวบ ถ้านั่งตักพ่อแม่ ขึ้นฟรี เด็กอายุ 12 ขวบขึ้นไป ต้องซื้อตั๋วผู้ใหญ่นะครับ หมายเหตุ ญี่ปุ่นอ่านหนังสือจากขวาไปซ้าย ป้ายหลายอัน ก็จะเรียงลำดับจุดเริ่มต้นการอ่านจากขวาไปซ้ายเหมือนกัน หรือเวลาเข้าชมสถานีที่ ที่จัดเรียงเส้นทางเป็นวงกลม เค้าก็จะเดินวนทวนเข็มนาฬิกา จากขวาไปซ้าย เหมือนกับการอ่านหนังสือเช่นกัน ตรงข้ามกับบ้านเรานะ ตอนผมไปญี่ปุ่นใหม่ ๆ งงกับเรื่องขวาไปซ้ายทุ้กที.. จากคุณ : NumAromDee - [ 28 เม.ย. 52 19:45:41 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เสียบตั๋วเข้า Ticket Gate เหมือนกับรถไฟ BTS บ้านเรา ชานชลาจะเรียงแถวตอนลึกอยู่ัถัดจาก Gate ดูเวลารถออกที่ป้าย(มีภาษาอังกฤษบอก) เลือกนั่งป้ายที่บอกว่าเป็น สายโอมุตะ (Omuta Line) มีรถวิ่งทั้งวันเกือบจะ 10 นาทีขบวน ตั้งแต่เช้ามืดยันเที่ยงคืน ให้เลือกขบวนที่เขียนว่า Limited Express นะครับ เพราะจะแวะจอดระหว่างทางแค่ 1 สถานี แล้วก็ไปจอดอีกทีที่ สถานีนิชิเท็ทซึ-ฟุทซึไคจิ กันเลย โดยใช้เวลาแค่ 15 นาทีเท่านั้น ถ้าเผลอไปนั่งรถแบบ Express(Rapid) หรือ Local จะหวานเรื่อยเจื่อย แวะจอดกันทุกสถานี เสียเวลาเดินทางเพิ่มเป็น 2 เท่าโดยไม่จำเป็น หน้าตารถไฟที่จะนั่งไปเป็นแบบนี้ แต่บางขบวนอาจใช้รถไฟหน้าตาแปลก หรือใหม่กว่านี้ก็ได้ ดูป้ายที่ชานชลาเป็นหลักนะ อย่าไปจำสีหรือหน้าตาขบวนรถล่ะ จากคุณ : NumAromDee - [ 28 เม.ย. 52 19:48:46 ]

ความคิดเห็นที่ 12 15 นาที ที่ผ่านไปเหมือนหนึ่งเพลิน LEX Nishitetsu Omuta Line ก็วิ่งฉิวมาจอดที่สถานีฟุทซึไคจิ เดินข้ามไปชานชลาเบอร์ 4 (ดูป้ายด้วยนะจ๊ะ ชานชลาอาจเปลี่ยน แต่ใจ เอ๊ย! เวลารถออกไม่เคยเปลี่ยน) ไปนั่งรถ Local สายดาไซฟุ แค่ 8 นาที หรือ 2 สถานี รถไฟสายดาไซฟุ ก็คลานมาจอดที่สถานีนิชิเท็ทซึ-ดาไซฟุ สุดปลายทางพอดีไม่มีรางให้วิ่งต่อแล้ว ผู้คนแห่แหนมาไหว้พระไหว้เจ้า เนื่องในเทศกาลขึ้นปีใหม่กันแน่นสถานีไปหมด แทบไม่ต้องเดิน ไหลเอา จากคุณ : NumAromDee - [ 28 เม.ย. 52 19:50:28 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เจอ TIC ที่ไหน แนะนำให้แวะเข้าไปถามไถ่กันซ่ะก่อน แล้วจะได้แผนที่ เอกสาร กับคำแนะนำดี ๆ ให้การเที่ยวได้อรรถรสขึ้นเยอะ เกือบทุกที่จะมีเจ้าหน้าที่ที่พูดอังกฤษได้อย่างน้อย 1 คน ประจำอยู่เสมอ ถามได้ทุกเรื่องครับ แม้แต่คำถามว่า มีอะไรอร่อย เค้าก็แนะนำให้ได้ ส่วนมากจะหา TIC เจอได้ตรงใกล้ ๆ ทางออกของสถานีรถไฟแต่ละที่นั่นแหละครับ ถ้าหาป้ายภาษาอังกฤษไม่เจอ ก็ให้มองหาป้ายลงกลมสีขาว บนพื้นสีดำ มีเครื่องหมายคำถามสีแดง กับคำว่า Information เอาไว้ รับรองไม่ผิดที่ จากคุณ : NumAromDee - [ 28 เม.ย. 52 19:51:50 ]

ความคิดเห็นที่ 14 แว๊บ!!!!!!!! กลับมาแล้วค่ะ...แต่มามือเปล่าเพราะลาวามันร้อนถือไม่ไหว คราวหน้าละกันนะคุณหนุ่ม บาหลีร้อนมากกกกกกกกกกกกก กลับมาบ้านเรายังเย็นกว่าเลย ........ นี่เพิ่งอ่านตอนก่อนจบก็มาเจอตอนใหม่พอดี จะอยู่เป็นเพื่อนไปเรื่อยๆนะคะ จากคุณ : patim - [ 28 เม.ย. 52 19:53:04 A:203.153.173.243 X: TicketID:187612 ]

ความคิดเห็นที่ 15 คนเยอะมาก กว่าผมจะมาถึงก็ใกล้เที่ยงแล้ว มีการออกร้านงานวัดไปทั่วย่านการค้าของเมือง ถนนสายหลักถูกปิด เปลี่ยนเป็นถนนคนเดิน รถเมล์ไม่วิ่ง ไปไหนไกลไม่ได้ เจ้าหน้าที่ TIC เลยแนะนำให้เดินเที่ยวเป็นวงกลม เริ่มจาก ศาลเจ้าเทนมังกุ ต่อด้วย พิพิธภัณฑ์แห่งชาติ คิวชู แล้วจบด้วย วัดโคมโยเซนจิ จะใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 3-4 ชั่วโมง แสงอาทิตย์หมด กลับโรงแรมนอน ใครอยากรู้ว่าเมืองดาไซฟุมีอะไรน่าเที่ยวนอกจาก 3 ที่นี้บ้าง เข้าไปดูที่เว็ปของเมือง ตามนี้เลยครับ http://www2.city.dazaifu.fukuoka.jp/dazaifu/eng.html จากคุณ : NumAromDee - [ 28 เม.ย. 52 19:53:43 ]

ความคิดเห็นที่ 16 "ญี่ปุ่นอ่านหนังสือจากขวาไปซ้าย ป้ายหลายอัน ก็จะเรียงลำดับจุดเริ่มต้นการอ่านจากขวาไปซ้ายเหมือนกัน หรือเวลาเข้าชมสถานีที่ ที่จัดเรียงเส้นทางเป็นวงกลม เค้าก็จะเดินวนทวนเข็มนาฬิกา จากขวาไปซ้าย เหมือนกับการอ่านหนังสือเช่นกัน ตรงข้ามกับบ้านเรานะ" 555 ถึงว่า ทำไมตอนนั้นเราหลงได้ตั้ง 2-3 ครั้งในวันเดียวกันสิน่า จากคุณ : sweetsakura - [ 28 เม.ย. 52 19:54:00 ]

ความคิดเห็นที่ 17 สวัสดีครับป้าติ๋ม ได้ไปดูรำหนีลาวามั้ยครับ ขอบคุณครับที่มาเฝ้ากระทู้เป็นเพื่อนกัน =============================== เริ่มต้นจากหน้าสถานีรถไฟ เป็นสถานีเล็ก ๆ ชั้นเดียว ทำจั่วหลังคาโค้งเป็นลอน ทรงเดียวกับหลังคาศาลเจ้า ภูมิปัญญาของช่างญี่ปุ่นโบราณ จากคุณ : NumAromDee - [ 28 เม.ย. 52 19:56:45 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ปาดดดดดดดด...:D ...:D...คิดถึงคุณหนุ่มจัง ไม่ได้เจอตั้งหลายอาทิตย์...:D...จริงๆคิดถึงน้องมากิจังมากกว่า...เดี๋ยวคนจะคิดว่าผมอนุรักษ์ไม้ป่าเดียวกัน...:D...:D ...:D...มาติดตามคุณหนุ่มไปเที่ยวอีกแล้วครับ...:D...:D จากคุณ : Death - [ 28 เม.ย. 52 19:57:45 ]

ความคิดเห็นที่ 19 แต่ก็ยังกลับถึงเมืองไทยแบบสวัสดิภาพครบ 32 นี่ครับองค์หญิง ไปญี่ปุ่นแล้วไม่หลงไม่โก๊ะนี่ ถือว่าไปไม่ถึงญี่ปุ่นนะ ผมขนาดไปหลายรอบแล้ว ยังหลงทุกรอบเลย ยิ่งแถวสถานีรถไฟชินจุกุนี่ยิ่งตัวดี ชวนงงทุกครั้ง ============================ ตามธรรมเนียมการดูดเงินตามหน้าวัดหรือศาลเจ้าดัง ๆ ถนนที่ทอดยาวถึงประตูศาลเจ้า จะเรียงรายไปด้วยร้านขายขนมและของที่ระลึกสารพัดสารพัน คอยดูดเงินนักท่องเที่ยวให้ตัวเบาทั้งก่อนและหลังไหว้ศาล ชอบใจที่เมืองนี้ยังอนุรักษ์ให้ร้านค้าส่วนมาก คงความโบราณด้วยสถาปัตยกรรมแบบที่เรียกว่า ห้องแถวญี่ปุ่น หรือ เมจิยะ (Machiya) เป็นร้านที่สร้างขึ้นใหม่ทีหลังแทบทั้งนั้นนะครับ ของแท้ถ้าไม่ผุ ก็รื้อเข้าพิพิธภัณฑ์หมดแล้ว จากคุณ : NumAromDee - [ 28 เม.ย. 52 20:01:32 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เมื่อท่านเดทอุตส่าห์เข้ามาเยี่ยม ก็จัดกำนัลให้ 1 รูปโดยพลัลลลลลลล จากคุณ : NumAromDee - [ 28 เม.ย. 52 20:07:28 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ที่เห็นทางซ้ายมือสุดนี่คือ คิว ครับ! แห่กันมาออรอซื้ออะไรกันนี่?? จากคุณ : NumAromDee - [ 28 เม.ย. 52 20:08:13 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ญี่ปุ่นมุงพากันมารอซื้อขนมพื้นบ้านชื่อดังของดาไซฟุ ที่ชื่อ อุเมะงาเอะ โมจิ (Umegae Mochi) ครับ ผมไม่บ้าไปต่อคิวกับเค้าหรอกนะ เพราะเล็งความยาวของคิวแล้ว กว่าจะได้กินคงต้องยืนรอกันขาแข็ง ลมออกหูกันวึ่นวือ ไม่ต่ำกว่าครึ่งชั่วโมงแน่ อีกอย่าง.. เพราะร้านนี้ใช้เครื่องจักรทำครับ! มันไม่คลาสสิค++ จากคุณ : NumAromDee - [ 28 เม.ย. 52 20:09:33 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ต้องร้านที่ดูบ้านบ้านแสนกันเอง แบบนี้.. หน้าร้านเปิดขายโมจิย่างร้อน ๆ ส่วนด้านในเป็นร้านน้ำชา ให้นั่งซดชาเขียวแกล้มขนมกันชิลชิล จากคุณ : NumAromDee - [ 28 เม.ย. 52 20:10:39 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ...:D...แจก Give ให้น้องมากิโดยพลัลลลล เช่นกัน...:D ^ ^ หน้าใหญ่จริงๆ...Give เหลือไม่ถึง 10 แล้วยังซ่าอีก ...:D ....:D...มาถึงของกินแล้ว...เห็นแล้วหิวทุกที...:D...ฮือออออ...:D จากคุณ : Death - [ 28 เม.ย. 52 20:12:03 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ต้องแบบนี้.. ย่างโมจิกันด้วยมือ พลิกกะทะปิ้งกันหน้ามัน ช่างเปี่ยมไปด้วยความใส่ใจ มุ่งมั่น และมีสมาธิ อืมมมมมม แม่ค้าขายหมูปิ้งที่ประตูน้ำ ผมก็มองเป็นงานอาร์ต.. ครับ จากคุณ : NumAromDee - [ 28 เม.ย. 52 20:13:12 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ยังมีหลายขนานครับท่านเดท ถ้าเฝ้าให้จบช่วงของกิน รับรองท่านเดทได้ออกไปหาข้าวกินรอบ 2 แน่ ๆ เอ่อ! ถ้าท่านเดทยังไม่ได้กินข้าว หาข้าวกินซ่ะนะ เด๋วผมกำลังจะเริ่มมหกรรมการยั่วน้ำลายแล้ว.. ณ บัดเดี่ยวนี้ ================================== ได้มาแล้ว! ย่างกันใหม่ ๆ ร้อน ๆ ควันฉุย 1 อัน 105 เยน วิธีสั่งก็ง่าย ๆ ชี้ไปที่โมจิ แล้วชู 1 นิ้ว เป็นอันได้กิน ตรงหน้าขนม มีลายพิมพ์จากตัวกะทะปิ้ง เป็นรูป ดอกบ๊วย (Ume) ให้สมกับชื่อขนม อุเมะงาเอะ โมจิ ที่แปลว่า โมจิกิ่งต้นบ๊วย จ้า.. รอบศาลเจ้าเทนมังกุ ปลูกต้นบ๊วยไว้เยอะครับ ประมาณ 6,000 พันกว่าต้น ปลูกสะสมกันมาตั้งแต่เริ่มสร้างศาลเจ้า พอถึงต้นเดือนกุมภายาวไปถึงมีนาก่อนที่ซากุระจะบาน ดอกบ๊วยจะชิงบานและหอมไปก่อน เป็นสถานที่พักผ่อนชมดอกบ๊วย ที่ขึ้นชื่อแห่งหนึ่งของประเทศนี้เลยครับ จากคุณ : NumAromDee - [ 28 เม.ย. 52 20:16:14 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ค่อย ๆ กัดลงไปคำแรก ความร้อนระอุที่อยู่ข้างใน จะโพยพุ่งออกมาสร้างความอุ่นวาบเต็มใบหน้า ผิวแป้งด้านนอกกรอบหอม ตามด้วยความนุ่มของเนื้อโมจิ ช่างเข้าคู่กันได้ดีกับความหวานมันนุ่มนวล ของถั่วแดงกวนที่อัดแน่นอยู่ข้างใน ทำให้ขนมก้อนนี้ก็หายวับไปกับมือภายในไม่ถึงนาที อร่อยยยยยยยยยย!! อากาศหนาว ๆ แบบนี้ (8 องศา) ได้ของกินร้อน ๆ ฉุย ๆ มากระแทกปาก มันช่างซู้ดยอดไปเร้ยยยยยยย   จากคุณ : NumAromDee - [ 28 เม.ย. 52 20:18:05 ]

ความคิดเห็นที่ 28 แค่โมจิชิ้นเดียว ไม่ทำให้กระเพาะวัว ๆ ของผมสะดุ้งแม้แต่น้อย เที่ยงพอดี กะลังหิวได้ที่ ได้เวลาออกหากินแว๊ววววววว กับแผงลอยงานวัด หน้าทางเข้าศาลเจ้าแล้วครับ มีเรียงรายให้เดินหากินร่วม ๆ 30 แผง ยังไม่ไหว้ไม่ดูอะไรละ กินก่อนดีกว่า ขืนหิวพุงกลวง ๆ ไปไหว้เจ้า เสียงท้องจะร้องสนั่น ใจจะไม่เป็นสุข คิกคิก.. จากคุณ : NumAromDee - [ 28 เม.ย. 52 20:20:36 ]

ความคิดเห็นที่ 29 เริ่มซะเดิร์ฟกันด้วย ปลาหมึกสด ตัวโต ย่างร้อน ๆ ราดด้วยซ๊อสหวาน สดมากกกกกก เนื้อแน่นนุ่มหนึบ ซ๊อสหวานกลมกล่อม เพลินนนนนนนนนน จากคุณ : NumAromDee - [ 28 เม.ย. 52 20:22:00 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ตามด้วย เนื้อหมักนุ่ม ๆ เสียบไม้ย่างไฟ พรมซีอิ๊วหวานให้ชุ่ม ๆ   มีให้เลือกทั้ง เนื้อหมู เนื้อวัว และเครื่องใน แน่นอน! ผมต้องเนื้อวัวชิ้นโต ๆ เคี้ยวกันให้ละลายตายอยู่ตรงหน้าแผง เท่าน้านนนนน.. แก้ไขเมื่อ 28 เม.ย. 52 20:23:56 จากคุณ : NumAromDee - [ 28 เม.ย. 52 20:23:18 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ....ไปหละคุณหนุ่ม.....ไปหาของกินที่ 7/11 หน้าบ้านดีกว่า...ไม่ไหวแล้ว...:D ..:D...จริงๆต้องไปรับคุณแฟนต่างหาก...แม่คุณโทรมาด่าแล้ว...ขืนช้ากว่านี้ได้ตายแน่...:D.....เดี๋ยวดึกๆจะแวะมาติดตามต่อครับ...:D จากคุณ : Death - [ 28 เม.ย. 52 20:24:14 ]

ความคิดเห็นที่ 32 อันนี้เรียกอะไรไม่รู้ รู้แต่ว่าอร่อย เป็นเหมือนแป้งย่าง คล้าย ๆ แป้งเพนเค็ก ทาซ๊อสโอโคโนมิยากิให้ทั่ว โปะหน้าด้วยไข่ดาวยางมะตูม 1 ใบ โรยหน้าเพิ่มสีสันด้วยสาหร่ายป่นนิด ซอสมะเขือเทศหน่อย กัดให้ไข่แดงแตก ทะลักเข้าไปในกระพุ้งแก้ม ความหอมมันเรียงแถวหน้ากระดานไหลลงคอวืบบบบบบ.. สึโค่ยยยยยยยย.. จากคุณ : NumAromDee - [ 28 เม.ย. 52 20:25:09 ]

ความคิดเห็นที่ 33 อ๊าาาาาาา คิดถึงดาไซฟุ ซื้อเครื่องรางกลับมาหรือเปล่าคะ เราหอบมาจนกระเป๋าฉีกเพราะเครื่องรางเนี่ยแหละ อิอิ จากคุณ : LittleCancer - [ 28 เม.ย. 52 20:26:28 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ครืดคราด ครืดคราด สงกะสัยต้องตามคุณ Death ไปหาอะไรกระแทกปากบ้างแล้วล่ะค่ะ ทนต่อไปมิไหวแล้วท่าน จากคุณ : sweetsakura - [ 28 เม.ย. 52 20:28:41 ]

ความคิดเห็นที่ 35 รีบไปเลยท่านเดท.. สิ่งที่หน้ากลัวที่สุดในโลกสำหรับท่านชายชนเผ่าเกลียมัว ก็คือ ความพิโรธของแฟนสาวนี่แหละครับ อิอิ =============================== กินกันต่อ ขาดไม่ได้ ของกินยอดฮิตประจำงานวัดญี่ปุ่น ทาโกะยากิ หรือ ขนมครกญี่ปุ่น เจ้านี้ใส่หนวดปลาหมึกยักษ์ชิ้นโต เขี้ยวกันจมเขี้ยวเหนียวดึ๋ง ราดมายองเนสเยอะ ๆ ใส่ปลาโอขูดฝอยหนัก ๆ อึมมมมมมมมมมมมมมมมมมม ไปหลายขนาด ชักอิ่มแล้วสิครับ กล่องนึงมี 6 ลูก ขึ้นลูกที่ 4 เลยเอามาเขี่ยกินแต่หนวดหมึกที่อยู่ข้างใน เอริ๊กกกกกกกก.. จากคุณ : NumAromDee - [ 28 เม.ย. 52 20:29:43 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ซื้อได้แค่ชิ้นเดียวครับ คุณ LittleCancer เอาเงินมาละลายเป็นค่ากินหมดแล้ว หนีไปหาอะไรกินอีกคนละ.. พรุ่งนี้มากิน เอ้ย! มาอ่านกันต่อนะ องค์หญิงซากุระ แต่เด๋ว++++ รอกินของหวานล้างปากก่อนนนนนนน =============================== ตบท้ายล้างปากแก้คาวด้วยอิจิโกะชุบวุ้นใส ๆ สีแดงยั่วใจ หวานอมเปรี้ยวววววววววว มื้อนี้วินาศกรรมกระเป๋าตังค์ไปทั้งสิ้น 2 พันหกร้อยกว่าเยน อิ่มจนแทบไม่อยากคิดกลับเป็นเงินไทย ประหยัดค่าโรงแรม เอามาละลายเป็นค่ากินแทน ของกินงานวัดส่วนมากจะขายอย่างละ 500 เยน ครับ เป็นราคามาตรฐานของแผงลอยงานวัดพวกนี้ จากคุณ : NumAromDee - [ 28 เม.ย. 52 20:34:07 ]

ความคิดเห็นที่ 37 พ่อคุณเอ๊ยยย..โมจิ๊ น่ากินมากมาย  ไหนจะเนื้อย่างอีก .. เอาผู้ชายมาแลกก็ไม่ยอม!!!!  ^___^ จากคุณ : Ta-hAo - [ 28 เม.ย. 52 20:34:51 ]

ความคิดเห็นที่ 38 อุ่ยยยยยยย โพสของกินเสร็จ ก็ชักหิวแฮะ พักหาอะไรร้อน ๆ กินแป๊ปนึง เด๋วมาต่อนะ ไม่นาน คุยกับน้องฉลูไปก่อนละกัน จากคุณ : NumAromDee - [ 28 เม.ย. 52 20:36:12 ]

ความคิดเห็นที่ 39 หิวเนื้อออออออ จากคุณ : salamanka - [ 28 เม.ย. 52 20:42:03 ]

ความคิดเห็นที่ 40 นึ่งซาลาเปาโกปี้ รอคุณหนุ่มมา ต่อ ^^ จากคุณ : Ta-hAo - [ 28 เม.ย. 52 20:58:14 ]

ความคิดเห็นที่ 41 สบายท้อง ก็กลับมาแล้ว.. สวัสดีน้องสาลี่.. ของกินหมดพอดี ไม่ยั่วละ รู้นะว่าเธองดกินมื้อเย็น  อิอิ สวัสดีครับคุณ Ta-hAo (อ่านว่าอะไรเนี่ยะ?) ของกินหมดแล้วครับ ไปไหว้พระกันต่อ ================================= อิ่มจนแทบจะกลิ้งเข้าศาลเจ้า เดินลูบพุงไหลตามฝูงชนกันไปเรื่อย จากคุณ : NumAromDee - [ 28 เม.ย. 52 21:04:20 ]

ความคิดเห็นที่ 42 คนเยอะมาก จนต้องมีการจ้าง รปภ. มาเคยโบกคน ให้เดินไปเรื่อย ๆ อย่าหยุดแวะเรี่ยราดกลางทาง เลยไม่ค่อยมีรูปสวย ๆ ในบริเวณศาลมาฝากกันเลย สะพานแดงข้ามบ่อขุดแห่งนี้ จริง ๆ แล้วเป็นจุดที่วิวดีน่าถ่ายรูปมากเลยนะ แต่ตอนนี้เห็นแต่หัวคน จากคุณ : NumAromDee - [ 28 เม.ย. 52 21:08:14 ]

ความคิดเห็นที่ 43 กระดิ๊บ ๆ ไปถึงหน้าตัวศาลเจ้าเทนมังกุ เห็นแล้วแทบลมจับ คนเยอะมากกกกก กำลังอิ่มอืด ไม่อยากเบียดคนให้ผะอืดผะอม เลยยืนไหว้จากระยะไกลอยู่ตรงนี้นี่แหละ ญี่ปุ่นหลายคนก็ทำเหมือนผม จากคุณ : NumAromDee - [ 28 เม.ย. 52 21:10:03 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ศาลเจ้าหลังนี้สร้างขึ้นตั้งแต่ปี พศ. 1446 (ก่อนกรุงสุโขทัยจะก่อตั้งเกือบ 400 ปี) เพื่อยกย่องและรำลึกนึกถึง ท่านซึกาวาระ โนะ มิจิซาเนะ (Sugawara no Michizane) ปราชญ์ราชบัณฑิต กวีเอก ปรมาจารย์และผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาและวรรณกรรมจีน และข้าราชสำนักชั้นสูง ผู้โด่งดังในสมัยเฮฮัน ท่านถูก ฟูจิวาระ โนะ โทคิฮิระ (Fujiwara no Tokihira) คู่แข่งทางการเมือง วางแผนใส่ร้าย จนถูกปลดจากตำแหน่ง แล้วเนรเทศให้ออกจากเกียวโตภายใน 24 ชั่วโมง เมื่อปี พ.ศ. 1444 ท่านต้องไปทำงานเป็นข้าราชการชั้นผู้น้อยที่เมืองดาไซฟุ และเสียชีวิตลงที่นี่ใน 2 ปีหลังจากนั้น เมื่อท่านมีอายุได้ 59 ปี ตอนที่นำศพของท่านบรรทุกใส่เกวียน ผ่านตรงบริเวณแถวนี้ วัวที่ลากเกวียนไม่ยอมเดินต่อ ทำยังไงก็ไม่ขยับ ก็เลยต้องทำพิธีฝังศพกันที่นี่ ต่อมาชาวเมืองจึงพร้อมใจกัน สร้างศาลเจ้าคลุมหลุมศพท่านมิจิซาเนะไว้ตรงนี้นี่เอง เล่ากันว่าหลังจากที่ท่านมิจิซาเนะเสียชีวิต เกิดพายุฝนฟ้าคะนองจนน้ำท่วมเมืองเกียวโตเป็นอาทิตย์ เกิดฟ้าผ่าลงหลังคาท้องพระโรง(shishinden) ในพระราชวังหลายครั้ง ตามมาด้วยความแห้งแล้ง และ โรคระบาดครั้งใหญ่ จนโอรสของพระจักรพรรดิไดโกะต้องสิ้นพระชนม ผู้คนพากันร่ำลือไปทั่วเมืองว่า เป็นเพราะความโกรธแค้นของวิญญาณท่านมิจิซาแนะ ที่ถูกกลั่นแกล้งโดยไม่มีความผิด ราชสำนักจึงต้องประกาศล้างความผิดของท่านมิจิซาเนะ และให้สร้างศาลเจ้าชื่อ คิตะโนะ เทนมังกุ (Kitano Tenmangu) ขึ้นที่เกียวโต เพื่ออุทิศให้ และทำการประกาศยกย่องท่านมิจิซาเนะ เป็น เทนจินซามะ (Tenjin-sama) หรือ เทพแห่งการศึกษา ตั้งแต่บัดนั้น ทั่วประเทศญี่ปุ่นตอนนี้ มีศาลเจ้าที่ใช้ชื่อว่าเทนมังกุ ที่สร้างไว้ยกย่องเทนจินซามะมากถึง 1,400 แห่ง ศาลเจ้าที่เมืองดาไซฟุนี้ ถือเป็นต้นตำหรับ เพราะเป็นหลุมฟังศพท่านเทนจินซามะ เลยเป็นที่โด่งดังในหมู่นักเรียนนักศึกษา ที่จะพากันแห่มาขอพรช่วงก่อนสอบ ให้เข้าโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยดัง ๆ ได้ หรือคนที่ทำงานแล้วก็จะมาขอพรให้คิดอะไรได้คล่อง ทำงานเก่ง เจ้านายรัก ก็ได้นะ ไปขอรูปเพื่อนมาได้ 1 รูป ให้ดูความสวยงามของศาลเจ้ากันแบบชัดชัด แก้ไขเมื่อ 28 เม.ย. 52 21:29:38 แก้ไขเมื่อ 28 เม.ย. 52 21:18:20 จากคุณ : NumAromDee - [ 28 เม.ย. 52 21:16:33 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ไปด้วย ๆ เที่ยวด้วยคน พักนี้ไม่ว่างเที่ยวเอง ตามตาหนุ่มไปเที่ยวง่ายกว่า จากคุณ : หมูน้อยสีชมพู - [ 28 เม.ย. 52 21:23:56 ]

ความคิดเห็นที่ 46 รูปวาดในจิตนาการ ของท่านมิจิซาเนะ ท่านมีความชอบส่วนตัวในดอกบ๊วยเป็นอย่างมาก จนแต่งบทกวี แปลออกมาเป็นภาษาอังกฤษได้ว่า How beautiful the red plum blossom, I wish to color my cheek with it ผู้คนที่นับถือท่าน ต่างพากันปลูกต้นบ๊วยรอบบริเวณศาลเจ้าเต็มไปหมด จากคุณ : NumAromDee - [ 28 เม.ย. 52 21:25:19 ]

ความคิดเห็นที่ 47 สวัสดีป้าอ้อ.. ญี่ปุ่นหายหนาวรึยังครับ ======================= ถ้ามาเที่ยวที่นี่ช่วงเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม จะเจอดอกบ๊วยที่หน้าตาคล้ายซากุระบานสะพรั่ง ทั้งสวยและหอมไปทั่วบริเวณ ผมไปตอนปีใหม่ เจอแต่กิ่งบ๊วยเต่ง ๆ ตุ่ม ๆ เอารูปจากเว็ปเมืองดาไซฟุมาให้ดูแทนนะ จากคุณ : NumAromDee - [ 28 เม.ย. 52 21:27:23 ]

ความคิดเห็นที่ 48 อุ่นขึ้นมาบ้างแล้ว  แต่คืนนี้อากาศเย็น ๆ แฮะ  ไม่รู้อากาศเป็นไงเปลี่ยนไป เปลี่ยนมา เหมือนใจคนเลยเนอะ ว่าแล้วก็ตามไปเที่ยวต่อปายยยยย  ..... จากคุณ : หมูน้อยสีชมพู - [ 28 เม.ย. 52 21:33:14 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ศาลเจ้าต้องคู่กับเซี่ยมซี มีเซี่ยมซีก็ต้องมีราวไว้ผูกคำทำนายที่ไม่มีโชค ผูกแก้เคล็ดขัดยอกกันชมพูพราวเต็มราวไปหมด เซี่ยมซีที่นี่ทำสีหวานแหว๋ว ให้เข้ากับสีดอกบ๊วย รูปปั้นวัวตัวน้อยสีดำที่เห็นอยู่ในรูป เป็นสัตว์เทพประจำศาล แทนวัวที่บรรทุกศพของท่านมิจิซาเนะ ที่มาหยุดแถวนี้ไม่ยอมไปต่อ จนต้องทำพิธีฝังศพตรงนี้ และ อีกอย่าง ได้ยินมาว่า ท่านมิจิซาเนะเกิดปีฉลู ก็เลยมีการทำรูปปั้นวัวทำด้วยโลหะเอาไว้ แล้วก็มีความเชื่อกันว่า ถ้าได้ลูบแล้วอธิษฐานขอพรไปด้วย จะโชคดีเฮงเฮง สอบได้ รูปปั้นนี้เลยเป็นมันวับ แทบไม่ต้องขัด ถ้าเป็นเมืองไทย ป่านนี้คงถูกถูขอหวยจนสึกหมดแล้วมั้ง   จากคุณ : NumAromDee - [ 28 เม.ย. 52 21:34:19 ]

ความคิดเห็นที่ 50 วันนี้ป้าอ้อมาแนวปรัชญา.. แฮะ ========================== ไปหาเรื่องเสียเงินอีกรอบ ดูเครื่องรางดีกว่า มีให้เลือกเพียบ แต่ไม่มี Subtitle บอกซักอย่าง เลยไม่รู้ฤทธานุภาพแต่ละชนิดเป็นไงบ้าง หยิบมั่วไป เด๋วได้เครื่องรางช่วยให้คลอดง่ายมาอีก   จากคุณ : NumAromDee - [ 28 เม.ย. 52 21:36:32 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ของมงคลที่เห็นคนญี่ปุ่นหลายคน ชอบซื้อจากศาลเจ้าในเทศกาลปีใหม่ คือ อันนี้ครับ.. ฮามะยะ (Hamaya) หรือ ลูกศรปราบมาร (Demon-breaking arrow) เป็นลูกศร ที่ไม่ได้เหลาหัวให้แหลม ด้านหางร้อยเชือกแขวนกระดาษยันต์ หรือป้ายเครื่องราง ที่ผ่านการปลุกเสกจากนักบวชชินโตแล้ว ญี่ปุ่นสมัยโบราณก่อนที่ปืนจะถูกค้นพบ เค้ายกย่องให้ ธนู (yumi) คือ อาวุธสุดยอดขั้นเทพ เพราะสามารถโจมตีได้จากระยะไกล ไม่เสี่ยง ไม่เปลืองแรง และ ไปมาว่องไวดุจสายลม ซามูไรที่เชี่ยวเรื่องการใช้ธนู ก็จะได้รับการยกย่องให้ดูดีมีสกุลมากว่าซามูไรที่ใช้ดาบหรือหอก โดยเฉพาะซามูไรที่ใช้หอก และดันไปหักกลางสนามรบจะถือว่าซวยที่สุด ( เพราะอาจโดนคู่ต่อสู้ร้องด่าว่า อ้ายหอกหัก ได้ง่าย ) ตำนานการปราบผีร้าย หรือปีศาจของญี่ปุ่น พระเอกของเรื่องต่างใช้ธนูเป็นอาวุธหลักทั้งนั้น ในสมัยเอะโดะ พ่อของเด็กผู้ชายที่พึ่งเกิดใหม่ จะเอาธนูและลูกศรแขวนไว้ในบ้าน เพื่อเป็นอวยพรเด็ก และขับไล่สิ่งชั่วร้าย (จริง ๆ แล้วอาจแขวนไว้ไล่ยิงตัวทานุกิ ที่มาแอบขโมยของกินผักในสวนก็ได้มั้ง..) ตอนหลังสงสัยไม้ทำธนูหายาก เลยปรับลดเหลือแค่ลูกธนูอย่างเดียว ปัจจุบัน พอถึงเทศกาลปีใหม่ คนญี่ปุ่นจะนิยมไปศาลเจ้า เพื่อซื้อฮามะยะ ไปเหน็บไว้ที่ฝาบ้าน เพื่อไล่เคราะห์กันทั้งปี แล้วพอถึงสิ้นปี ก็จะเอาดอกเก่าไปเผาไฟทิ้ง แล้วไปหาซื้อดอกใหม่มาเหน็บแทน วนเวียนกันทุกปี อยากได้เหมือนกัน แต่แพงอิ๋บ.. เอาเงินไปซื้อกินหมดละ จากคุณ : NumAromDee - [ 28 เม.ย. 52 21:40:33 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ไปได้รูปปั้นวัวน้อย สัตว์เทพประจำศาลเจ้า มา 1 ตัว ราคา 800 เยน ตอนนี้วางอยู่หน้ารถ แก้เคล็ดขัดยอกรับปีวัว(เกือบ)บ้า 2552 นี้ จากคุณ : NumAromDee - [ 28 เม.ย. 52 21:42:42 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ไปต่อที่หมายที่ 3 ของวันนี้เถอะครับ ขี้เกียจเบียดคนแล้ว Kyushu National Museum เดินมาทางตะวันออกของศาลเจ้า จะเจอเนินเขาขนาดย่อม พร้อมทางเดินขึ้น ครอบด้วยหลังคาทรงญี่ปุ่น ตามรูป.. จากคุณ : NumAromDee - [ 28 เม.ย. 52 21:43:42 ]

ความคิดเห็นที่ 54 โอ้โห ผู้คนล้นหลาม (พุงเราก็หลาม เอ้ย ไม่เกี่ยว...) ไม่รู้ยังไงค่ะ กลับมา หิวแต่เนื้อทุกวันเลย ตอนอยู่โน่น ช่วงกลางๆทริป กินข้าววันละมื้อ 2 มื้อเอง นน. ลดฮวบเลย พอวันกลับ เลยทำสถิติ กินแหลกที่สนามบินนาโงย่า + บนเครื่อง ทำนน.กลับมาวันสุดท้ายนั่นเอง 55 จากคุณ : salamanka - [ 28 เม.ย. 52 21:44:13 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ไขข้อไม่แข็งแรง ไม่ต้องกังวล ข้างในเค้ามีบันไดเลื่อน ถ้าเป็นคนพิการนั่งรถเข็นมา ยังมีบริการรถกระเช้าพาขึ้นไปฟรีด้วย (ในรูปทางซ้ายมือ) จากคุณ : NumAromDee - [ 28 เม.ย. 52 21:44:28 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ติดโรคหวัดวัว กลับจากญี่ปุ่นซ่ะล่ะัมั้ง น้องสาลี่..   ================================= ขึ้นจากบันไดเลื่อน ก็เจออุโมงค์สลับสี ราวกับกำลังนั่งไทม์แมชชีนของโดราเอมอน ย้อนยุคกลับไปสู่สมัยอดีต ไฟในอุโมงค์สลับสีตลอดเวลานะครับ รูปนี้เป็นสีฟ้า  แต่มีทั้ง เขียว แดง เหลือง ฯลฯ ค่อย ๆ เปลี่ยนสลับกันเรื่อย สวย และบิ้วอารมณ์ เร่งเร้าบรรยากาศให้คึกคักมาก เด็ก ๆ ที่พ่อแม่พาไปด้วย ชอบใจกิ๊วก๊าวกันใหญ่ แค่ตรงนี้ ก็ตื่นเต้นอยากดูมิวเซี่ยมเต็มแก่แล้วครับ จากคุณ : NumAromDee - [ 28 เม.ย. 52 21:47:10 ]

ความคิดเห็นที่ 57 ไฟสีเขียว.. สีเหลือง กะแดง ผมไม่ลงนะ ช่วงนี้ผมไม่ยุ่งกะการเมือง จากคุณ : NumAromDee - [ 28 เม.ย. 52 21:49:03 ]

ความคิดเห็นที่ 58 โผล่จากอุโมงค์สีรุ้ง ก็เจอกับอาคารกระจกหลังใหญ่ยักษ์อลังการ เหมือนวาฬสีน้ำเงินว่ายอยู่ตรงหน้า ตรงนี้เป็นหุบเขา มีฉากเป็นกำแพงภูเขาเขียว ๆ รายล้อมอยู่รอบด้าน เป็นชัยภูมิที่ เปอร์สเปคทีฟสุดสุด.. แถวผู้คนที่เห็นในรูป ไม่ใช่คิวเข้ามิวเซี่ยมนะครับ เป็นคิวขอรับของอวยพรปีใหม่อะไรซักอย่าง ข้างนอกมันหนาวและลมแรง เลยไม่ได้ไปดูว่าเค้าแจกอะไร ตอนนั้นปากคอแทบเขียว อยากรีบเข้าไปซุกไออุ่นในอาคารเต็มฟัดแล้ว จากคุณ : NumAromDee - [ 28 เม.ย. 52 21:51:15 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ขอบคุณครับ สำหรับภาพจากญุ่ีปุ่น  ถ่ายภาพเก่งจัง ภาพสวย คม ชัด ดีครับ ฝากภาพจากบราซิลครับ http://www.oknation.net/blog/wallaya/2009/04/28/entry-1 จากคุณ : Chocolate_X - [ 28 เม.ย. 52 21:51:32 ]

ความคิดเห็นที่ 60 ติดตามครับ จากคุณ : Draught Beer - [ 28 เม.ย. 52 21:51:43 ]

ความคิดเห็นที่ 61 Kyushu National Museum พิพิธภัณฑสถาน สำหรับเก็บสมบัติของชาติ แห่งที่ 4 ของประเทศนี้ เปิดให้บริการมาตั้งแต่เดือนตุลาคม พ.ศ. 2548 เป็นน้องนุชสุดท้องในบรรดาพิพิธภัณฑ์แห่งชาติทั้งหมด อีก 3 แห่งอยู่ที่ โตเกียว เกียวโต และ นาระ เปิดเวลา 9.30 – 17.00 น. ปิดทุกวันจันทร์ และ ช่วงวันหยุดสิ้นปีถึงปีใหม่ ส่วนจัดแสดงในชั้นที่ 1 เข้าชมฟรี / ชั้น 2 เป็นสำนักงานของพิพิธภัณฑ์ ค่าเข้าชมจะเก็บเฉพาะ Special Exhibition Gallery ในชั้นที่ 3 (ราคาแล้วแต่งานที่เลือกมาจัดแสดง) และ ส่วนที่เป็น Main Exhibition Hall ที่ชั้น 4 ในราคา 420 เยน สำหรับผู้ใหญ่ 130 เยน สำหรับเด็กมัธยมปลาย ส่วนเด็กตั้งแต่มัธยมต้นลงไปและคนชราอายุ 70 ปีขึ้นไป เข้าชมฟรี เว็ปไซท์  http://www.kyuhaku.com/ จากคุณ : NumAromDee - [ 28 เม.ย. 52 21:52:28 ]

ความคิดเห็นที่ 62 Ta-hao   -   ตา-เหา อ่านเร็วๆ ...ย้ำ ว่าต้องเร็วๆ จะได้คำว่า "เต๋า"  ค่ะ  ^^ จากคุณ : Ta-hAo - [ 28 เม.ย. 52 21:56:12 ]

ความคิดเห็นที่ 63 สวัสดีครับคุณ Chocolate_X เด๋วผมรีวิวเสร็จ จะตามไปดูภาพบราซิลสวย ๆ บ้าง สวัสดีท่านเบียร์ เห็นรูปคลาสสิคของท่านแล้วผมชอบจริง ๆ เข้าบรรยากาศมาก ================================ ที่มีพิพิธภัณฑ์ระดับชาติมาตั้งถึงตรงนี้ เพราะคิวชูเป็นแผ่นดินแรกที่ ชนเผ่ายามาโมโตะ ซึ่งถือว่าเป็นบรรพบุรุษของคนญี่ปุ่น อพยพจากแผ่นดินใหญ่มาเริ่มตั้งถิ่นฐานปลูกบ้านสร้างเมืองบนเกาะนี้เป็นที่แรก และยังเป็นจุดหลักในการเปิดรับวัฒนธรรม เทคโนโลยีจากต่างชาติ ทั้งจีน เกาหลี เอเชีย และ ชาติตะวันตก มาเขย่าและคนจนกลายเป็นวัฒนธรรมของญี่ปุ่นเอง ทั่วเกาะนี้เลยมีการค้นพบของโบราณ ที่อุดมด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานเต็มไปหมด ถือได้ว่าคิวชูเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง และการพัฒนาประเทศญี่ปุ่นได้เลยนะ มีอยู่ช่วงหนึ่งญี่ปุ่นปิดประเทศ ห้ามติดต่อกับต่างชาติ ก็มีเมืองท่าที่นางาซากิบนเกาะคิวชูนี่แหละ ที่ัยังเปิดให้ต่างชาติเขัามาค้าขาย บรรยากาศข้างในโปร่งโล่งสบาย ตกแต่งแนว Modern Japanese ดูชั้นลอยทางซ้ายมือสิครับ จำลองอารมณ์เหมือนเป็นประตูเลื่อน กับฉากในห้องญี่ปุ่นเลย จากคุณ : NumAromDee - [ 28 เม.ย. 52 21:57:32 ]

ความคิดเห็นที่ 64 ขอบคุณคุณเต๋ามั่ก ๆ ที่มาช่วยเฉลย.. =============================== ช่วงนั้นทางเมืองฟุคุโอกะ กำลังโปรโมทเทศกาลอะไรซักอย่าง (ผมอ่านป้ายญี่ปุ่นไม่ออก) มีการเอาหุ่นโคมกระดาษขนาดยักษ์ มาตั้งโชว์ไว้กลางโถงชั้น 1 สวยมาก ที่สนามบินก็มีวาง ไม่แน่ใจว่าเป็นเทศกาลเดียวกับ Daizenji Tamataregu Shrine Oniyo (http://www.infomapjapan.com/event.phtml?pid=200812 ) ที่จัดในวันที่ 7 มกรา รึเปล่าน้า..?? แต่ดูแล้ว เหมือนหุ่นโคมไฟในงานเทศกาลทานาบาตะ  ที่จังหวัดโออิตะ ตอนเดือนสิงหา ซ่ะมากกว่า จากคุณ : NumAromDee - [ 28 เม.ย. 52 21:59:13 ]

ความคิดเห็นที่ 65 T_T เค้าก็งดข้าวเย็นอยู่เหมือนกันนะ รูปคุณหนุ่มมีของกินเยอะยังงี้.... ขอไปเอาน้ำลูบท้องก่อนหละ จากคุณ : bangkok dream - [ 28 เม.ย. 52 21:59:16 ]

ความคิดเห็นที่ 66 แต่ผมว่าอันเนี้ย     คลาสสิค + ธรรมชาติ สุด ๆ จากคุณ : Draught Beer - [ 28 เม.ย. 52 22:00:37 ]

ความคิดเห็นที่ 67 สวัสดีเจ้ดรีม.. กลับจากญี่ปุ่น แล้วทำน้ำหนักเกินพิกัดหรือครับ ถึงว่าฝาละมีของเจ้เลยต้องคอยห้ามไม่ให้วิ่งเข้าร้านขนมอยู่เรื่อย อิอิ.. ===================================== ใครพาลูกตัวเล็ก ๆ มา แนะนำส่วนนี้อย่างยิ่งยวด เลยครับ ห้องจัดแสดงศิลปวัฒนธรรมเอเชียที่ชื่อ Ajippa Square เปิดให้ชมฟรี ๆ ตรงโถงชั้น 1 ขออย่างเดียว ถอดรองเท้าก่อนเข้าชม หมายเหตุ Ajippa ย่อมาจากคำว่า Ajia no Harapapa เค้าบอกว่า แปลว่า Asian Fields จากคุณ : NumAromDee - [ 28 เม.ย. 52 22:03:30 ]

ความคิดเห็นที่ 68 มันก็รูปเดียวกันม่ะใช่รึท่านเบียร์.. เล่นมุขมึนเมาอีกละ ========================= ข้างใน อะจิปปะ แสควร์ จะปูพรมนุ่ม ๆ บรรยากาศสบาย ๆ ผ่อนคลาย ไฟสลัว แบ่งเป็นมุมย่อย ๆ แยกตามแต่ละประเทศในเอเชีย มีซัก 10 กว่าประเทศเห็นจะได้ แต่ละมุมจะเอาข้าวของเครื่องใช้ ของเล่น เสื้อผ้า เครื่องประดับ เครื่องดนตรี ที่เป็นศิลปะพื้นบ้านของประเทศนั้น ๆ มาวางให้ จับจูบลูบคลำเล่นเคล้าคลอเคลียคลึง กันเต็มที่ ขออย่างเดียว อย่าทำให้เสียหาย ไม่ได้เป็นตู้โชว์ให้ชะเง้อเกาะตู้ไว้ยืนดูอย่างเดียว ทุกมุมจะมีเด็กน้อยไปนั่งเล่นกันอย่างเริงร่า จับ เคาะ ดีด สัมผัสกันเต็มที่ แต่ไม่มีใครที่จะมือหนักจนทำพัง หรือ เอาสีเอาปากกาไปเขียนเล่นให้หมดสวย ทุกคนเล่นอย่างที่มันควรจะถูกเล่น และจับเท่าที่มันควรจะถูกจับ ช่างรู้จักขอบเขตและหน้าที่ของตัวเองตั้งแต่เล็กแต่น้อยกันจังเลยนะ เด็กญี่ปุ่นนี่ เป็นพิพิธภัณฑ์เล่นได้ สำหรับเยาวชน อย่างแท้จริง ผู้ใหญ่โข่งปูนนี้อย่างผม ยังอดเข้าไปเล่นด้วยไม่ได้เลยครับ มุมญี่ปุ่น แก้ไขเมื่อ 28 เม.ย. 52 22:07:40 จากคุณ : NumAromDee - [ 28 เม.ย. 52 22:06:40 ]

ความคิดเห็นที่ 69 มุมนี้ของอินโดนีเซีย จากคุณ : NumAromDee - [ 28 เม.ย. 52 22:08:49 ]

ความคิดเห็นที่ 70 ของประเทศไทยก็มีนะ หยิบมาจับมาดูได้ตามสบาย จากคุณ : NumAromDee - [ 28 เม.ย. 52 22:09:36 ]

ความคิดเห็นที่ 71 ห้องจัดแสดงโบราณวัตถุที่เป็นสมบัติของชาติ อยู่ชั้น 4 ต้องซื้อตั๋วเข้าชมซ่ะก่อน ตู้อัตโนมัติเช่นเคย จากคุณ : NumAromDee - [ 28 เม.ย. 52 22:10:22 ]

ความคิดเห็นที่ 72 เปิดมาเจอของกิน...ท้องร้องโครกกกกกกกกก กลับบ้านไปกินข้าวก่อนนะค๊า...เด๋วเข้ามาดูใหม่ ปล. ทำไมสวีเดนไม่มีของน่ากินแบบนี้มั่งเนี่ย อิจฉามากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก จากคุณ : แพนด้า ณ เชียงใหม่ - [ 28 เม.ย. 52 22:10:33 ]

ความคิดเห็นที่ 73 ตั๋วผู้ใหญ่ 420 เยน ไม่แพงเลย ท่าเทียบกับค่าเงินญี่ปุ่น เมืองที่บะหมี่น้ำธรรมดา ชามละ 200 กว่าบาท จากคุณ : NumAromDee - [ 28 เม.ย. 52 22:12:05 ]

ความคิดเห็นที่ 74 หอบแฮ่กๆวิ่งตามมา เกือบจะอดปาดซะแล้ว ตัวตึกของมิวเซียมเก๋มากๆ ชอบจังเลยค่ะ เหมือนปลาวาฬจริงๆด้วย^^ จากคุณ : yuki_shimi - [ 28 เม.ย. 52 22:13:29 ]

ความคิดเห็นที่ 75 สวัสดีคุณแพนด้า.. หมดชุดของกินแล้วครับ เด๋วกลับมาอ่านต่ออย่างสบายกระเพาะได้เลย รัีบทำงานให้จบแล้วกลับเมืองไทยเร็ว ๆ ซิครับ เด๋วผมเลี้ยงส้มตำปลาร้ารับขวัญ อิอิ.. ============================ ขึ้นบันไดเลื่อน ข้ามชั้น 2 ที่เป็น Office ของมิวเซี่ยม และข้ามชั้น 3 ที่เป็น Special Exhibition Gallery ไป ห้องแสดงงานศิลปพิเศษที่ชั้น 3 นี้ ต้องจ่ายเพิ่มอีกตั้ง 1,200 เยน นู่นแน่ะถึงจะเข้าได้ จะมีของมีค่าควรเมือง มาจัดแสดงให้ดูเป็นช่วง ๆ ตอนที่ผมไป จัดแสดงอะไรก็ไม่รู้ แพง และผมไม่ค่อยจะอินกับของโบราณเท่าไหร่ เลยไม่ได้เข้าดู จากคุณ : NumAromDee - [ 28 เม.ย. 52 22:16:05 ]

ความคิดเห็นที่ 76 สวัสดีครับน้องยูกิ วาฬ เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ม่ะใช่ปลานะจ๊ะ.. ผมก็เคยเรียกผิดมาตลอด พึ่งมาแยกออกก็ตอนดู Discovery ชาเนล นี่แหละ จากคุณ : NumAromDee - [ 28 เม.ย. 52 22:25:28 ]

ความคิดเห็นที่ 77 มุมของเล่นเจ๋งสุดๆ อะ ไม่อยากคิดว่าถ้าอยู่บ้านเราสงสัยเด็กเล่นกันเละ นน. ขึ้นมานิดหน่อยอะ ไม่ได้ต้องลดไว้สำหรับทริปหน้า อิอิ เฮียหนุ่มยังไม่ได้เห็นของกินเจ๊ แล้วจะหายสงสัย... จากคุณ : bangkok dream - [ 28 เม.ย. 52 22:25:49 ]

ความคิดเห็นที่ 78 ก็รีบตั้งกระทู้เอามายั่วน้ำลายโดยไวซิครับอาเจ็ อยากชิม เอ๊ย! อยากเห็น ============================= ห้องแสดงงานหลักที่ชั้น 4 ที่ยอมจ่ายตังค์ไปดู ถือว่าคุ้มครับ จัดแสดงงานได้สวยงามทั้งการจัดวาง แสงสี และตู้ที่ใช้จัดวาง เหมือนไปเดินชมแกลลอลี่หรู ๆ ของเหล่าไฮโซ มากกว่าเดินอยู่ในมิวเซี่ยม แบ่งโถงแสดงขนาดใหญ่ออกเป็น 5 ส่วน กับอีก 12 ห้องย่อย โดยใช้ชื่อ Them ของการจัดแสดงว่า Ocean Ways, Asian Paths จัดแสดงวัตถุโบราณที่ขุดค้นพบในเกาะคิวชูตั้งแต่สมัยโจมง หรือ ยุคหินใหม่ ที่ชนเผ่ายามาโมโตะ อพยพลงเรือมาตั้งถิ่นฐานที่คิวชู มาจนถึงสมัยซามูไรพกดาบครองเมือง ในยุคเอโดะ มีอยู่ห้องหนึ่งทำเป็นอนิเมชั่น ให้ย้อนอดีตไปดูสมัยที่ชาวมงโกล ยกกำลังพลกว่า 3 แสน ลงเรือข้ามจากเกาหลีบุกคิวชู ชาวเผ่ายามาโมโต้ต้องสร้างกำแพงดิน กั้นชายฝั่งทะเลยาวหลายกิโลเมตร แล้วเตรียมตั้งรับ เหมือนดูหนังเรื่อง Troy ( http://en.wikipedia.org/wiki/Troy_(film) ) เลย โชคดีที่ได้ลมพายุ คามิคาเซ่ พัดถล่มกองเรือของมองโกลจมทะเลไปเกือบหมด ญี่ปุ่นเลยไม่ถูกมงโกลยึดครอง คนญี่ปุ่น เห็นการจัดแสดงที่ขลังและอลังการเยี่ยงนี้ คงรู้สึกภาคภูมิใจกับประวัติศาสตร์ชาติตัวเองเป็นที่สุด เพราะขนาดผมเป็นคนไทย ยังอดชื่นชมไม่ได้เลย ชั้น 4 เค้าไม่ให้ถ่ายรูป เลยไปเอารูปจากเว็ปของมิวเซี่ยมมาให้ดูแทน เบรอหน่อยนะ จากคุณ : NumAromDee - [ 28 เม.ย. 52 22:29:26 ]

ความคิดเห็นที่ 79 แบบว่ามันติดปากอ่ะค่า แหะๆ^^" คิดเหมือนกันกับคุณ bangkok dream ว่าถ้าเป็นเมืองไทยกระจุยแน่ๆค่ะ ขนาด Museum Siam ตอนเปิดใหม่ๆไปมีนู่นนี่ให้เล่นเต็มไปหมด สนุกเหมือนพิิพิธภัณฑ์เมืองนอกเลย เพื่อนที่ไปด้วยกันไปอีกทีสองเืดือนให้หลัง บอกประมาณครึ่งนึงโดนคนเล่นพังซะแล้ว จากคุณ : yuki_shimi - [ 28 เม.ย. 52 22:30:17 ]

ความคิดเห็นที่ 80 เพลินในมิวเซี่ยมอยู่ 2 ชั่วโมง ก็ได้เวลาจากจร ไม่ได้น่าเบื่อ แต่วันนั้นผมพึ่งลงเครื่องบินมาตอนเช้า แล้วมาที่นี่เลย อยู่ในมิวเซี่ยมมันมืด ๆ อุ่น ๆ หนังตาพาลจะปิดเอา หาเรื่อออกไปเดินหนาวกลางแจ้งดีกว่า ตาจะได้สว่าง ขากลับตามแผน เดินตัดออกมาด้านหน้ามิวเซี่ยม วนไปดูวัดโคมะโยเซนจิ เป็นเป้าหมายสุดท้าย แค่ทางระบายน้ำข้างถนนเข้ามิวเซี่ยมด้านหน้า ก็ยังอุตส่าห์ทำเป็นงานศิลป์.. จากคุณ : NumAromDee - [ 28 เม.ย. 52 22:32:17 ]

ความคิดเห็นที่ 81 เห็นด้วยเรื่องมิวเซี่ยมสยามเลยนะน้องยูกิ ตอนแรกเค้าให้ดูฟรี แต่ตอนนี้เก็บเงินแล้วนี่ ก็เพราะอย่างนี้นี่แหละ บ้านเรา.. คิดแล้วก็ถอนใจ ================================== ไปเที่ยวต่อดีกว่า เดินตามทางมาเรื่อย ก็เจอบ้านเก่า ที่เปิดเป็นเหมือนลานเปิดท้ายขายของเล็ก ๆ ขายของเก่าออกยุค 80-90 หอมกลิ่นเรโทรคลุ้งไปหมด น่ารักน่าแวะมั่ก ๆ แต่ราคาพอคิดเป็นเงินไทยไม่ได้เปิดท้ายสมชื่อ มันจะเป็นราคาถล่มโกดังซ่ะมากกว่า เมียง ๆ ดม ๆ แล้วเดินผ่านไป จากคุณ : NumAromDee - [ 28 เม.ย. 52 22:36:29 ]

ความคิดเห็นที่ 82 ที่หมายที่แท้จริงของผม อยู่ที่นี่ครับ เป็นวัดเซนเล็ก ๆ ขนาดมินิเหมือนตัวเมือง แอบซ่อนอยู่ด้านในสุดของซอย วัด Komyozenji ครับ จากคุณ : NumAromDee - [ 28 เม.ย. 52 22:37:41 ]

ความคิดเห็นที่ 83 เป็นวัดโบราณ สร้างตั้งแต่สมัยคามาคุระ ประมาณ พ.ศ. 1818 หรือ 700 กว่าปีมาแล้ว พอ ๆ กับอายุกรุงสุโขทัยเลย ดูข้างนอกเหมือนจะไม่มีอะไรน่าสนใจ จากคุณ : NumAromDee - [ 28 เม.ย. 52 22:39:18 ]

ความคิดเห็นที่ 84 แต่ข้างในมีสวนหินแบบเซนครับ เป็นสวนหินแนวเดียวกับวัดเรีวอังจิ (Ryoan - ji) ที่เกียวโต แต่วัดโคมะโยเซนจิ สร้างมาก่อนวัดเรียวอันจิซ่ะอีก วันนี้สร้างเมื่อ พ.ศ. 1818 ส่วนวันเรียวอันจิ สร้างเมื่อ พ.ศ. 1993 สร้างก่อนกันตั้ง 175 ปี แต่คงเพราะวัดเรียวอันจิอยู่ในเมืองหลวง ก็เลยดังกว่า และที่สำคัญ ที่นี่ เข้าฟรี ครับ จากคุณ : NumAromDee - [ 28 เม.ย. 52 22:45:15 ]

ความคิดเห็นที่ 85 มองจากด้านบนหอระฆัง ก็สวยไปอีกแบบ จากคุณ : NumAromDee - [ 28 เม.ย. 52 22:46:33 ]

ความคิดเห็นที่ 86 ยิ่งมาช่วงปลายเดือนพฤศจิกา ถึง ต้นธันวา ก็จะได้เห็นภาพสวย ๆ แบบนี้ (รูปนี้ยืมเค้ามา แต่ซักวัน ผมต้องกลับไปดูของจริงให้ได้!!) จากคุณ : NumAromDee - [ 28 เม.ย. 52 22:48:00 ]

ความคิดเห็นที่ 87 หินในสวนมีความหมายนะครับ ใครอยากอ่านนัยยะของหินแต่ละก้อน เขัาไปอ่านที่นี่ได้เลย http://en.wikipedia.org/wiki/Japanese_rock_garden ดึกแล้ว ผมชักง่วง เด๋ววันหลังจะมาถอดความให้ ไม่ได้มีแค่สวนหินแค่ด้านหน้านะครับ ด้านในวัด ตรงข้างเรือนน้ำชายิ่งสุดยอด แบบนี้.. จากคุณ : NumAromDee - [ 28 เม.ย. 52 22:52:07 ]

ความคิดเห็นที่ 88 บันทึกปวศ.ญี่ปุ่นนี่ย้อนไปให้ได้ศึกษากันได้ไกลสะใจดีเจงๆเลยนะคะ ญี่ปุ่นใกล้ตัวคนหนึ่งเขาคอมเมนต์ปัญหาการเมืองที่เรากำลัง ปวดเศียรเวียนกบาลกันเต็มทีเนี่ย   ว่า ... "น่าเสียดาย ..แต่ก็นั่นล่ะนะ  การเมืองของประเทศเธอยัง wakai มากๆ.. " ( wakai = YOUNG) อืมม.. มมม...   ... จริงของมานนนน ว่าแล้วก็จะมาชวนคุณหนุ่มฯดูซีรีส์ใหม่ TPBS ดีกว่า พ. พฤ.  สองทุ่มนิดๆ   ...นายก(มือใหม่)หัวใจประชาชน ...CHANGE ... ขวัญใจสาวน้อยสาวมากคิมุทะขุมาเองเลยค่ะ หล่อไม่มากไม่น้อยกว่าพี่มาร์คของเราเท่าไร อร๊ายยยยย ..... กี๊ด ๆๆๆๆ ... กี๊ดดดด ...กรี๊ดดดดดดดด   kvjh[fihbn'b jeriq9u54=13   ปล.เปลี่ยนล็อคอินมาใหม่แต่ยังเป็นแควนกระทู้คุณหนุ่มฯเหมียนเดิม จากคุณ : ลอร่า อิงกัลส์ ~* - [ 28 เม.ย. 52 22:52:11 ]

ความคิดเห็นที่ 89 สวัสดี คุณลอร่า อิงกัลส์ (ไวด์เดอร์) ชอบอ่าน บ้านเล็กในป่าใหญ่ เหรอครับ? แล้วเปลี่ยนมาจากชื่อ Log-in ไหนรึนี่ บอกมาทางหลังบ้านก็ได้ครับ CHANGE ก็อยากดูเหมียนกัล แต่ผมเป็นคนไม่ชอบดูซีรีย์ และละครทุกเรื่องครับ กลัวติด และจะเสียสมาธิในการเขียนหนังสือ (เป็นความบ้าส่วนบุคคลครับ ห้ามเลียนแบบ) ชอบดูหนังที่จบเป็นเรื่อง ๆ ไปมากกว่า ============================= หินในสวนมีความหมายแฝงเร้นนะครับ เพราะหลักธรรมทางเซน เค้าให้บรรลุด้วย ปัญหาแบบฉับพลัน ในสวนจะมีหินก้อนใหญ่ นับได้ 15 ก้อน ที่แทนด้วยตัวอักษรจีน เป็นคำที่หมายถึง แสงสว่าง หินสีขาว หมายถึง น้ำทะเล ส่วนเกาะเก่งที่มีตะไคร่ขึ้น หมายถึง แผ่นดิน แก้ไขเมื่อ 28 เม.ย. 52 23:10:07 จากคุณ : NumAromDee - [ 28 เม.ย. 52 23:01:41 ]

ความคิดเห็นที่ 90 ยิ่งถ้ามาช่วงใบไม้แดง สวนหินนี่ก็จะหลากสี สวยแบบนี้.. จากคุณ : NumAromDee - [ 28 เม.ย. 52 23:03:46 ]

ความคิดเห็นที่ 91 หรือถ้ามาช่วงใบไม้ผลิ ก็จะเขียวสวยสด ร่มเย็นไปอีกแบบ จากคุณ : NumAromDee - [ 28 เม.ย. 52 23:04:51 ]

ความคิดเห็นที่ 92 เงียบสงบด้วยครับ นักท่องเที่ยวไม่ค่อยรู้จัก ผู้คนไม่พลุกพล่าน ทั้งวัดมีนักท่องเที่ยวแค่ 4-5 คน  ทั้ง ๆ ที่ศาลเจ้าเทนมังกุใกล้ ๆ กัน แค่ถนนเส้นเดียว มีคนแออัดกันเป็นพัน ก็เลยจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามานั่งสนทนาธรรมกับก้อนหิน และอิ่มอารมณ์กับธรรมชาติอยู่เรื่อย ๆ เห็นน้องเค้านั่ง ผมก็อยากโชว์แมน ขอนั่งฟังเสียงลมหายใจของตัวเองบ้าง พื้น.. มัน.. เย็น.. เจี๊ยบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ โพดโพดโพด เลย.. เหน็บรับประทาน!! นั่งเข้าไปได้งายยยย นะ แม่คู้ณณณณณณณณณณณณณณณณณณณ จากคุณ : NumAromDee - [ 28 เม.ย. 52 23:08:58 ]

ความคิดเห็นที่ 93 โอ้ยโยว้.. 5 ทุ่มแล้ว ขอตัวอาบน้ำนอนแล้วครับ พรุ่งนี้ต้องเข้าประชุมที่ กทม. มีอะไรฝากคำถามไว้ได้ที่ทู้นี้ หลังบ้าน หรืออีเมล์ได้นะครับ แล้วพรุ่งนี้สาย ๆ หรือ ค่ำ ๆ ผมจะมาไล่ตอบ และปิดกระทู้ให้จบสมบูรณ์อีกที สัปดาห์นี้มีตอนเดียว ไม่มีภาคต่อหรอกครับ ไม่ค้างคา เด๋วอาทิตย์หน้าค่อยกลับมาคิดอีกที ว่าจะพาไปเที่ยวไหนต่อดี คืนนี้ฝันดีราตรีสวัสดิ์ บุญรักษาทุกท่านทั่วกันนะครับ บายยยยยย จากคุณ : NumAromDee - [ 28 เม.ย. 52 23:13:55 ]

ความคิดเห็นที่ 94 ดาไซฟุ นี่ สมัยเฮอัน ถือว่า บ้านนอกสุดกู่  ไม่ต้องสมัยเฮอัยหรอกค่ะ  คิดดูว่า ขนาดสมึยนี้กว่าจะเดินทางจากเกียวโตไปถึงก็ใช้เวลานานนนน นับถือคนสร้างลวดลายบนสวนหินมาก  ต้องมีคนมาช่วยเล็งบอกทิศทางหรือเปล่าไม่รู้นะคะ อ้าว คุณหนุ่ม  หนีไปนอนหรือไปดูตี10คะ แก้ไขเมื่อ 28 เม.ย. 52 23:45:20 จากคุณ : ก่วยก๊วยตาลสด - [ 28 เม.ย. 52 23:44:03 ]

ความคิดเห็นที่ 95 ช่วงนี้ไม่ได้ค่อยได้ตีตั๋วแถวหน้าเลย แต่ก็มาชมเรื่อยๆนะคร้าบคุณหนุ่ม จากคุณ : Coffee Blended - [ 28 เม.ย. 52 23:51:49 ]

ความคิดเห็นที่ 96 ชอบสวนหิน ชอบๆๆ  ^^ จากคุณ : Ta-hAo - [ 29 เม.ย. 52 00:28:57 ]

ความคิดเห็นที่ 97 นอกจากสถานที่สวย ๆ และน่าสนใจในกระทู้นี้แล้ว ที่สะดุดตาเป็นที่สุดก็เห็นจะเป็นของกินนี่แหละค่ะ โฮ .......... น่ากินทั้งนั้นเลยอ่ะ อยากเหมาหมดเลย ๆ จากคุณ : Picike - [ 29 เม.ย. 52 01:45:13 ]

ความคิดเห็นที่ 98 มาลงชื่อไว้ก่อนน๊า จะรีบออกไปยิม แล้วจะกลับมาใหม่จ๊า จากคุณ : ม่านสีม่วง - [ 29 เม.ย. 52 06:54:32 ]

ความคิดเห็นที่ 99 ไม่ได้ไปกะเค้า  เพราะเวลาไม่พอ   คิดในแง่ดี ดีนะที่ไม่ไปศาลเจ้าอีก ไม่งั้นแม่จะหาว่าพาไปจองวัดอีกแน่เลย อิอิ ตอนแรกกะว่าจะไปแต่รอพี่หนุ่มไม่เอามาให้ดูสักที จากคุณ : ~Just Relax~ - [ 29 เม.ย. 52 07:54:11 ]

ความคิดเห็นที่ 100 ตามมาเที่ยวด้วยคนค่ะ บอกแล้วให้จัดทัวร์....ตัวเป็นๆ.... จะรีบโอนเงินให้เลย....จิงๆน๊าตะเอง..... จากคุณ : ป้าหอมนาน (Sak_Suriyan) - [ 29 เม.ย. 52 09:07:32 ]

ความคิดเห็นที่ 101 .. คราวนี้เที่ยวหลากหลายดีจังเลยครับ ผมชอบวัด และสวนแบบเซน มากๆเลย จริงๆถ้าวัดไทย จัดพื้นที่ จัดสวยสวยๆแบบนั้นบ้าง  คงเรียกคนเข้าวัดได้อีกเยอะ .. จากคุณ : POGGHI - [ 29 เม.ย. 52 09:23:11 ]

ความคิดเห็นที่ 102 เอารูปมาแจมด้วยครับ  วัด Komyozenji ในวันที่ใบไม้ร่วงเกือบหมดต้น จากคุณ : Minimally Chic - [ 29 เม.ย. 52 09:28:12 ]

ความคิดเห็นที่ 103 สวนหินด้านใน  เคยอ่านเจอในหนังสือ lonely planet Japan   ที่นี่ติดอันดับต้น ๆ ( จำไม่แม่นว่า 1 ใน 3 หรือเปล่า ) ของวิวสวนหินญี่ปุ่นที่ควรแวะไปดูเลยนะครับ จากคุณ : Minimally Chic - [ 29 เม.ย. 52 09:32:26 ]

ความคิดเห็นที่ 104 อ่านแล้วเกิดกิเลส.. ทั้งอยากไป..และอยากกินนนนนน.. จากคุณ : คืนหนึ่ง - [ 29 เม.ย. 52 09:59:26 ]

ความคิดเห็นที่ 105 โอ้โห สวนหินสวยจริงๆ สวยมาก (แถมฟรีด้วย) ไม่ลืมที่จะเซฟกระทู้นี้ไว้ และเก็บไว้ในใจ ว่าถ้าไปเที่ยวแถวนั้น จะต้องไปให้ได้เลยวัดนี้ จากคุณ : bangkok dream - [ 29 เม.ย. 52 10:34:45 ]

ความคิดเห็นที่ 106 คุณหนุ่ม แฟนพันธ์แท้ ญี่ปุ่นของจริงค่ะ เที่ยวแบบคุณหนุ่ม ได้ซึมซับบรรากาศแบบสุดๆค่ะ เปิดโลกสดใสของจริง จากคุณ : ker yi (ker yi) - [ 29 เม.ย. 52 11:04:23 ]

ความคิดเห็นที่ 107 เมื่อไหร่จะได้ไปตามรอยคุณหนุ่มฯมั่งน้อ สวยไปหมดเลยค่ะ จากคุณ : Red-Rose-14Feb - [ 29 เม.ย. 52 15:50:12 ]

ความคิดเห็นที่ 108 ขอบคุณครับทุกท่าน ที่มาติดตามชม ขออภัย วันนี้ทั้งทำงานอยู่ใน กทม. อู้เล่นบอร์ดนานมากไม่ได้ เด๋วน้อง ๆ มันนินทาเอา เด๋วเย็น ๆ จะมาทักทาย ตอบกระทู้ และลงรูปที่ยังเหลืออยู่อีกนิดหน่อยนะครับ โค้งขอบคุณสุดตัวครับ   จากคุณ : NumAromDee - [ 29 เม.ย. 52 16:40:37 ]

ความคิดเห็นที่ 109 โค้งได้แต่อย่านานนะคะคุณ จขกท. กระดูกกระเดี้ยวยิ่งแย่ๆ อยู่ เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือนค่ะ จากคุณ : sweetsakura - [ 29 เม.ย. 52 17:08:37 ]

ความคิดเห็นที่ 110 เหมือนเป็นศูนย์รวมของทุกกระทู้ในพันทิปเลยน่ะคับ กระทู้นี้ มีทั้ง ท่องเที่ยว การกิน ศิลปวัฒนธรรม ดารา แผงด้วยวิทยาศาสตร์นิดหน่อย เป็นการเที่ยวที่ดีมากๆคับ จากคุณ : เมะจิโอะ - [ 29 เม.ย. 52 21:52:38 ]

ความคิดเห็นที่ 111 ตามมาเที่ยวดาไซฟุ ค่ะ เราไม่ได้ไป เวลาไม่พอ ชอบสวนหินจังค่ะ  ตอนใบไม้เปลี่ยนสีสวยดีจังเลย แต่ชอบน้อยกว่าวัดเงินที่เกียวโตค่ะ จากคุณ : Renka - [ 29 เม.ย. 52 22:25:55 ]

ความคิดเห็นที่ 112 เข้ามาขอบคุณสำหรับภาพสวย รีวิวเจ๋งๆค่ะ ไม่ได้เล่นเน็ต3วันแน่ะ งานท่วมหัว วันนี้ได้ฤกษ์มาแล้วต้องชมให้เต็มอิ่ม สวยงามประทับใจค่ะ จากคุณ : [D]iffind[O] - [ 29 เม.ย. 52 22:38:48 ]

ความคิดเห็นที่ 113 ตามมาเที่ยวครับ จากคุณ : โต้คลื่น - [ 30 เม.ย. 52 07:29:18 ]

ความคิดเห็นที่ 114 สวัสดีครับทุกคน ขออภัยเมื่อวานเย็นเอาโน๊ตบุคเข้าศูนย์ฯ เพราะพัดลมระบายความร้อนมันส่งเสียงดัง เหมือนกำลังพิมพ์งานบนเครื่องสีข้าว กว่าจะซ่อมเสร็จก็เกือบทุ่ม กว่าจะกลับถึงบ้าน เก็บของ อาบน้ำ ม่อยกระรอกพอดี ทำงานต่างจังหวัดรถไม่ติด นาน ๆ เข้ากรุงเทพ มาเจอรถติด ยึก ๆ ยัก ๆ กึ๊ก ๆ กั๊ก ๆ เล่นเอาปวดเข่าเลย ทักทายรายคนกันก่อนนะ ====================== - สวัสดีคุณก๊วยฯ แนววัด ศิลปะโบราณ นี่ต้องเข้าทางคุณก๊วยเลยนะนี่ เ้ค้าเล่ากันว่า ที่ท่ามมิจิซาเนะ เสียชีวิต ก็เพราะสุขภาพทรุดโทรม จากความยากลำบากในการเดินทางเร่งรีบ ตอนที่ถูกเนรเทศไปอยู่ดาไซฟุ นี่แหละครับ ส่วนเรื่องส่วนหิน เค้ามีเครื่องมือโบราณ ที่ใช้กวาดและวาดก้อนหินให้เป็นลายครับ เป็นภูมิปัญญาคนโบราณ แต่ต้องทำอย่างใจเย็น และอดทนมาก เค้าถือว่าเป็นการฝึกสมาธิแบบเซนอย่างนึง ผมหนีไปนอนจริง ๆ เลยครับ ไม่ได้นอนดูตีสิบ.. - ถึงงานเยอะ งานยุ่ง แต่คุณ Coffee Blended ก็ยังอุตส่าห์เข้ามาติดตามกันทุกตอน ขอบคุณและซึ้งใจมากมายเลยครับ ถ้าคุณกาแฟ รีวิวกระทู้ตัวเองวันไหน ส่งหลังบ้านมาบอกกันบ้างนะครับ ผมจะได้เข้าไปเยี่ยม คือผมไม่ค่อยมีเวลาดูไล่ดูกระทู้หมวดอื่นเท่าไหร่ครับ เปิดห้องบลูมา ก็พุ่งเข้ามาที่ห้องต่างประเทศอย่างเดียว แล้วก็ไปเขียนหนังสือต่อ - ผมกำลังศึกษาเรื่องวิธีการ เข้าถึง สวนหินญี่ปุ่นอยู่เลยครับ คุณเต๋า ถ้าได้เรื่องได้ราว ไม่ก่งก๊ง งึก ๆ งัก ๆ ไปซ่ะก่อน จะเอามาเหลาให้ฟัง - เป็นงานวัดแบบเต็มรูปแบบครั้งแรก ที่ผมเคยมาเดินกิน เลยนะครับ คุณ Picike ก่อนหน้านี้ก็เลยเจอ แต่ไม่ได้กินกระหน่ำขนาดนี้ ของเค้าอร่อยทุกอย่างเลยครับ ที่สำคัญคือวัสดุที่ทำสดใหม่มาก ไม่มีค้างข้ามคืน กินแล้วสบายใจ ไม่ต้องกลัวเจอยากันบูด เหมือนบ้านเรา - เร่งฟิตร่างกายน่าดูนะครับคุณม่าน เตรียมพร้อมมาเดินมาราธอนที่ญี่ปุ่นเหรอครับ อิอิ - ต้องขออภัยคุณน้อง ~Just Relax~ ด้วย ผมมัวเือื่อยเฉื่อยพร่ำเพ้ออยู่ที่ยุฟุอิง นานไปหน่อยตั้ง 6 ตอน เลยไม่ได้เล่าเรื่องดาไซฟุเลย เอาไว้คราวหน้า เก็บตังค์ไปอีกรอบสิครับ ไปญี่ปุ่น รอบเดียวไม่เคยพอร้อกกกกก (แต่แพงจิ๊บเป๋ง เร้ยยยยย) - โถ.. ป้าหอม แค่ผมไปเองคนเดียว ยังหลงแล้วหลงอีก จะไปนำใครเค้าได้ล่ะครับ นี่ผมยังไม่ได้เล่านะนี่ ว่าขากลับจากวัดโคมโยเซนจิ ผมเิดินหลงทางไปไกลเลย กว่าจะหาทางกลับสถานีได้ แผนที่ของ TIC มันไม่รวมซอยเล็กซอยน้อย เลยมั่วซ้า.. - ขอบคุณสำหรับภาพน่ารัก ๆ จากคุณป๊อกกี้นะครับ มาทีไร ถูกใจผมทุ้กที! ขออภัยนะ give หมด อดให้เลย เห็นด้วยครับ วัดญี่ปุ่นหลายแห่งตามเมืองใหญ่เดี๋ยวนี้ ก็มักจะปล่อยให้พุทธพาณิชย์ เข้าไปรุกล้ำความสงบของวัดไปหมดเหมือนกับวัดไทยเลยครับ  แต่ยังดี ที่วัดเข้ายังแบ่งบริเวณ เป็นพื้นที่ขายของ กับพื้นที่สงบ ไม่ปนกันมั่วไปหมดเหมือนหลาย ๆ ที่ในบ้านเรา ถ้าบ้านเราทำสวนหินแบบนี้ คงต้องล้อมลูกกรงแน่ครับ ไม่งั้น คงมีคนเข้าไปวิ่งเล่น หรือเก็บหินไปบูชาจนหายหมดสวนแน่! - ขอบคุณ คุณ Minimally Chic มากมายเลยครับ ที่เอารูปสวย ๆ ของวัดโคมโยเซนจิมาแบ่งปันกัน ไปมาเมื่อไหร่ครับนี่ แม่นแล้วครับ สวนหินของวัดนี้ติดในลำดับต้น ๆ ของญี่ปุ่น ตามข้อมูลที่ผมมี วัดญี่ปุ่นที่มีสวนหินเซนอย่างเป็นทางการ และเต็มรูปแบบ มีอยู่แต่ 6 ที่เอง วันหลังว่าง ๆ จะลองหาข้อมูลมาให้อ่านกัน - สวัสดีครับคุณคืนหนึ่ง ขออวยให้มีโอกาสได้ไปในอนาคตอันใกล้นะครับ - อย่าเก็บไว้นานนะเจ้ดรีม เด๋วแรงจะหมด อดไปซ่ะก่อน.. อิอิ - ชมกันซ่ะเขินเลยนะครับคุณเค่ออี้ ไม่ขนาดนั้นหรอกม้างงงง ผมก็แค่เรื่อยเปื่อย ตามคำแนะนำของ TIC เค้าเท่านั้นแหละ แล้วไปเจออะไรดี ๆ ก็อยากเอามาแบ่งปันกัน - สวัสดีคุณกุหลาบแดง.. ถ้าตั้งใจแล้วว่าจะไป ซักวันหนึ่งต้องได้ไปแน่ครับ ผมขออวยด้วยอีกคน - โค้งตัวไม่ต้องใช้เข่าครับ องค์หญิงซากุระ หลังผมยังดีและฟิตปั๋งอยู่+++ - มาชมกันจนเขินอีกคนละ คุณเมะจิโอะ ผมแค่ชอบเที่ยวแบบจับฉ่ายครับ คือ ไม่ได้ชอบวัด ไม่ได้ชอบของเก่าอะไรมากมาย แต่ชอบดูภูมิปัญหาคนโบราณ กับความงามของผู้คนและภาพที่อยู่รอบตัว ก็เลยออกมาเป็นแกงโฮ่ะ อย่างที่เห็น - วัดโบราณ และภาพบรรยากาศ เกียวโตซึ่งเคยเป็นเมืองหลวงเก่า กินขาดกว่ากันหลายขุมอยู่แล้วครับ คุณเรนกะ ผมก็ัยังไม่มีโอกาสไปเกียวโตซักกะที ไม่รู้ดวงไม่สมพงศ์รึไงนี่? อยากไปมากกกกก - ขอบคุณคุณ [D]iffind[O] มากมายที่ตามแหวกกองงานมาเยี่ยมชม แค่นี้ก็เป็นกำลังใจให้อยากเขียนให้อ่านกันนานนานแล้วครับ - ขอบคุณครับคุณโต้คลื่น ที่มาติดตาม และลงชื่อทักทาย แถมท้ายด้วยบรรยากาศบ้านเรือนน่ารัก ๆ ของเมืองนี้ จากคุณ : NumAromDee - [ 30 เม.ย. 52 10:45:53 ]

ความคิดเห็นที่ 115 ฮือ....อยากไปเที่ยวอ่ะ..... ลูกมี 3 คน ไม่มีใครว่างพาไปเล้ย.... หยุดวันแรงงาน...ลูกชายคนเล็กบอก..คิดไว้นะจะไปไหน... พอบอก....ไปปราสาทพนมรุ้งกันมะ...แล้วต่อไป3พันโบก ลูกบอก....ร้อน....เดี๋ยวมีพายุ... แล้วจะถามยั่วต่อมทำไมฟระ....ฮึ่มมมมมมมมม จากคุณ : ป้าหอมนาน (Sak_Suriyan) - [ 30 เม.ย. 52 13:50:36 ]

ความคิดเห็นที่ 116 นานๆมาที แต่คิดถึง จขกท.เหมือนเดิมนะคะ   เพราะไม่ว่าจะพาเที่ยวส่วนไหนก็ยังสนุกและถูกใจเหมือนเดิมค่ะ จากคุณ : pinkyrose - [ 30 เม.ย. 52 22:43:48 ]

ความคิดเห็นที่ 117 ขอให้ได้ไป เกียวโต ในอนาคตอันใกล้นะคะ แหะ ๆ อยากดูคุณหนุ่มรีวิวน่ะ เกียวโตนี่เมืองโปรดเลยค่ะ มีการพาคุณแม่ไปเที่ยวซ้ำด้วย สองแม่ลูก แต่มีเวลาน้อยค่ะ สองวันหนึ่งคืน ไปแต่ที่เด่นๆ คุณแม่เหมือนเราเลย คือชอบวัดเงินGinkakuji มากกว่าวัดทอง kinkakuji อ้อ ไม่รู้วัดเงินซ่อมเสร็จหรือยังนะคะ  ไม่ได้ตามข่าวมาพักใหญ่ จากคุณ : Renka - [ 2 พ.ค. 52 00:23:31 ]