ความคิดเห็นที่ 1 จากกระทู้ที่แล้ว ที่บอกว่าเมือคืนเรามถึง Edinburgh ดึกมากแล้ว เราจึงไปคืนรถที่ Edinburgh Airport ไม่ทันค่ะ เช้านี้เราจึงส่งตัวแทนเพื่อผู้เสียสละ 2 คนไปคืนรถให้เราแต่เช้าค่ะ ขอปรบมือในความเสียสละของเพื่อนทั้งสองนะคะ ที่พักเรา Castle Rock ตั้งอยู่บนถนน Grass Market เป็นสุดปลายถนนของ Royal Mile เดินออกมาก็จะเห็นปราสาท Edinburgh Castle พอดีเลยค่ะ เป็นทำเลที่ดีมากค่ะ แก้ไขเมื่อ 05 พ.ค. 52 12:07:22 จากคุณ : puibbl - [ วันฉัตรมงคล 12:06:50 ]

ความคิดเห็นที่ 2 วันนี้เราคงเที่ยวกันบนถนน Royal Mile ถนนสายหลักของ Edinburgh นี้กันนะค่ะ จากคุณ : puibbl - [ วันฉัตรมงคล 12:08:29 ]

ความคิดเห็นที่ 3 THE HISTORY OF THE ROYAL MILE People have been living on Castlehill for the last 7000 years . The castle area has been a hillfort for over 2000 years. The name Edinburgh comes from the ancient Gaelic "Dun Eidyn" which means 'hill fort on the sloping ridge'. The Royal Mile runs down the East shoulder of this once active volcano and this is what gives the Royal mile its distinguishable geographical location. It was 325 million years ago during an ice age that the immense pressure of moving glaciers carved out its profile. The Royal Mile is actually more than a mile by 107 yards. It starts at the Castle entrance to the gates of Holyrood Palace. From the Castle esplanade which leads into the Royal Mile as you walk down the hill travelling East there are several streets which connect to make up the Royal Mile. Castlehill, Lawnmarket, High Street, Cannongate, and Abbey Strand which leads to Holyrood Palace. จากคุณ : puibbl - [ วันฉัตรมงคล 12:11:36 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ป้ายบอกชื่อถนน Royal Mile จากคุณ : puibbl - [ วันฉัตรมงคล 12:12:55 ]

ความคิดเห็นที่ 5 TOLBOOTH KIRK(โบสถ์) This gothic style building was built between 1842-1844 by Augustus Pugin (1812-1852) and James Gillespi0e Graham (1777-1858) to originally house the General Assembly of the Church of Scotland, the kirks presiding body. The Tolbooth Kirk's impressive octagonal spire at 74m (240ft) is the tallest in Edinburgh. โบสถ์นี้ไม่ด้ใช้งานมาตั้งแต่ปี 1984 แต่เปิดให้เป็นศูนย์กลางของการจัดแสดงงานต่างๆ(The Hub) อย่างในปี 1999 มี Endinburgh's Festrival Centre ปัจจุบันโบสถ์กลายเป็นร้านอาหารและคาเฟ่เปิดให้บริการ แก้ไขเมื่อ 05 พ.ค. 52 12:26:19 จากคุณ : puibbl - [ วันฉัตรมงคล 12:24:29 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เดินมาเรื่อยๆ เข้าสู่ Parliament Square ก็จะพบรูปปั้นของท่าน Duke of Buccleuch ซึ่งด้านหลังก็คือโบสถ์ St. Giles Cathedral รูปปั้นของท่าน Duke of Buccleuch มีประวัติความเป็นมาดังนี้ : This statue of Walter Francis Montagu Douglas Scott (1806-1884), the 5th Duke of Buccleuch and the 7th Duke of Queensbury K.G. was unveiled in Parliament Square on 7th February 1888. The regal bronze cast depicts a standing figure wearing Order of the Garter robes. The design for the main part of the statue was by J. Edgar Bohem. Various other artists were responsible for the panels which illustrate episodes in the Duke's life and family history. แก้ไขเมื่อ 05 พ.ค. 52 12:53:13 แก้ไขเมื่อ 05 พ.ค. 52 12:49:41 จากคุณ : puibbl - [ วันฉัตรมงคล 12:36:22 ]

ความคิดเห็นที่ 7 อนุญาตให้นำสุนัขเข้ามาบนถนนเส้นนี้ได้ จากคุณ : puibbl - [ วันฉัตรมงคล 12:38:15 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เรายังคงอยู่ในบริเวณ Parliament Square ใกล้ๆกันจะพบ STATUE OF KING CHARLES II ซึงมีประวัติความเป็นมาดังนี้ค่ะ Erected in 1685 by James Smith, this statue of King Charles II dressed as a Roman Emperor on horseback is the oldest lead cast statue in Britian. At the time there was plans to erect a statue of Oliver Cromwell here, but these were quickly abandoned after the Restoration. แก้ไขเมื่อ 05 พ.ค. 52 12:51:52 จากคุณ : puibbl - [ วันฉัตรมงคล 12:43:57 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ลืมเล่าถึงประวัติของ St. Giles' Cathedral ที่อยู่ด้านหลังของ รูปปั้นท่าน Duke of Buccleuch St Giles' Cathedral is the historic City Church of Edinburgh. With its famed crown spire it stands on the Royal Mile between Edinburgh Castle and the Palace of Holyroodhouse. Also known as the High Kirk of Edinburgh, it is the Mother Church of Presbyterianism and contains the Chapel of the Order of the Thistle (Scotland's chivalric company of knights headed by the Queen). จากคุณ : puibbl - [ วันฉัตรมงคล 12:57:06 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ภายใน St. Giles' Cathedral ค่ะ จากคุณ : puibbl - [ วันฉัตรมงคล 13:00:58 ]

ความคิดเห็นที่ 11 กระจกสีที่ตกแต่งอย่างสวยงามค่ะ เพิ่งจะได้รับการบูรณะเมื่อค.ศ.ที่ 19 เองค่ะ ตามประวัติเป็นดังนี้ค่ะ  By 1800, St Giles' was in a poor state of repair. In 1829, architect William Burn supervised a restoration of the building which demolished some chapels and encased much of the exterior in a skin of smooth ashlar. During the years 1872-83, William Chambers, publisher and Lord Provost of Edinburgh, planned and financed a further major restoration. The building was cleaned and old galleries and partition walls were removed, creating a single interior space. New stained glass was put into the windows. แก้ไขเมื่อ 05 พ.ค. 52 14:31:19 จากคุณ : puibbl - [ วันฉัตรมงคล 13:02:16 ]

ความคิดเห็นที่ 12 อีกรูปค่ะ จากคุณ : puibbl - [ วันฉัตรมงคล 13:03:10 ]

ความคิดเห็นที่ 13 แล้วก็อีกรูปค่ะ จากคุณ : puibbl - [ วันฉัตรมงคล 14:32:05 ]

ความคิดเห็นที่ 14 รูปอยู่นี่ค่ะ จากคุณ : puibbl - [ วันฉัตรมงคล 14:32:28 ]

ความคิดเห็นที่ 15 รูปแกะสลักหินอ่อนภายในโบสถ์ค่ะ จากคุณ : puibbl - [ วันฉัตรมงคล 14:33:36 ]

ความคิดเห็นที่ 16 บริเวณนี้คงใช้ประกอบพิธีทางศาสนาค่ะ จากคุณ : puibbl - [ วันฉัตรมงคล 14:34:13 ]

ความคิดเห็นที่ 17 รูปปั้นบริเวณซุ้มประตูหน้าโบสถ์ค่ะ จากคุณ : puibbl - [ วันฉัตรมงคล 14:35:24 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ติดตามต่อนะค่ะ แก้ไขเมื่อ 05 พ.ค. 52 14:54:04 แก้ไขเมื่อ 05 พ.ค. 52 14:53:23 จากคุณ : puibbl - [ วันฉัตรมงคล 14:36:22 ]

ความคิดเห็นที่ 19 กำลังจะมีโชว์เป่าปี่สก๊อตค่ะ จากคุณ : puibbl - [ วันฉัตรมงคล 14:37:09 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ขอมองซ้ายขวาก่อนข้ามถนค่ะ Royal mile ให้รถวิ่งบนถนนได้ค่ะ จากคุณ : puibbl - [ วันฉัตรมงคล 14:37:56 ]

ความคิดเห็นที่ 21 พวกแขกออกมาร้องรำทำเพลงไม่รู้ว่าทำไมค่ะ เดินผ่านเลยเก็บรูปไว้ซะหน่อย จากคุณ : puibbl - [ วันฉัตรมงคล 14:39:06 ]

ความคิดเห็นที่ 22 จอดรถกันหน้า Parliament House ค่ะ จากคุณ : puibbl - [ วันฉัตรมงคล 14:39:49 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ธงชาติ Scotland ปลิวสวยงามหน้า EDINBURGH CITY CHAMBERS The designs for this building, authored by John Adams, were accepted in 1753. The new building would stand on the site of the Provost of Edinburgh’s mansion (the place where Mary Queen of Scots would spend her last night). It had initially been planned to make the City Chambers house several council halls, a library and covered accomodation for a Merchants’ exchange. It was only in 1893 that the local authority took sole possession of the site. The shopping arcade which was added later was replaced by a narrower design iin 1901 and wings were added tastefully to the building in 1934. Prominent in the courtyard is the statue of Alexander the Great, training his horse Bucephalus. แก้ไขเมื่อ 05 พ.ค. 52 14:45:01 จากคุณ : puibbl - [ วันฉัตรมงคล 14:40:45 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ผู้คนมากมายค่ะ จากคุณ : puibbl - [ วันฉัตรมงคล 14:55:18 ]

ความคิดเห็นที่ 25 สถานที่ต่างบนถนน Royal Mile มีความสำคัญและอยู่ติดๆกันเลยค่ะ อาคารทุกหลังมีประวัติความเป็นมาอันยาวนาน และทางรัฐบาลก็อนุรักษ์ไว้แบบนี้ค่ะ ให้เป็นเขตเมืองเก่าของ Edinburgh ค่ะ จากคุณ : puibbl - [ วันฉัตรมงคล 15:02:46 ]

ความคิดเห็นที่ 26 เห็นตึกเล็กๆ ที่มีเสายื่นข้างบน หน้า St. Giles' Cathedral ไหมค่ะ นั่นคือ The Mercat Cross ค่ะ The Mercat Cross was the central meeting place where Royal proclamations and other official announcements were read. It served as a landmark for the merchants and citizens within the official hub of the city market. There is still part of the original 14th century cross built into the shaft of the existing 1885 Mercat Cross which stands to this day. จากคุณ : puibbl - [ วันฉัตรมงคล 15:06:37 ]

ความคิดเห็นที่ 27 เห็นไหมค่ะ อาคารทุกแห่งบนถนนนี้มีความสำคัญหมดเลยค่ะ และปัจจุบันก็จะมีไว้เพื่อการท่องเที่ยว คือเป็นสถานที่ที่อนุรักษ์ไว้ทางประวัติศาสตร์และมีการปรับปรุงเป็นโรงแรมหรือร้านค้า, ภัตตาคาร, คาเฟ่ เพื่อความสะดวกของนักท่องเที่ยวจริงๆค่ะ จากคุณ : puibbl - [ วันฉัตรมงคล 15:10:21 ]

ความคิดเห็นที่ 28 Brave Heart ค่ะ เหมือนพี่ Mel Gibson ไหมค่ะ จากคุณ : puibbl - [ วันฉัตรมงคล 15:11:40 ]

ความคิดเห็นที่ 29 แล้วเราก็ซื้อตั๋วเพื่อเข้าชม Edinburgh Castle กันในตอนบ่ายค่ะ เพราะเมื่อเช้ามาคนเยอะจริงๆเลย จากคุณ : puibbl - [ วันฉัตรมงคล 15:16:18 ]

ความคิดเห็นที่ 30 บริเวณลานด้านหน้าทางเข้าปราสาทเรียกว่า CASTLE ESPLANADE จากคุณ : puibbl - [ วันฉัตรมงคล 19:56:52 ]

ความคิดเห็นที่ 31 เมื่อมองจากด้าหน้าปราสาทลงไปจะเป็นหมู่ตึกสีขาว หลังคาสีแดง เรียกว่า Ramsay Garden ค่ะ ถูกสร้างขึ้นในปี 1893 ในแบบ Baronial style โดยสถาปนิก Sir Patrick Geddes มันถูกสร้างขึ้น เพื่อเป็นหอพักนักศึกษาในสมัยนั้นค่ะ แก้ไขเมื่อ 05 พ.ค. 52 20:23:57 จากคุณ : puibbl - [ วันฉัตรมงคล 20:05:33 ]

ความคิดเห็นที่ 32 วิวมุมสูงจากปราสาทค่ะ จากคุณ : puibbl - [ วันฉัตรมงคล 20:06:52 ]

ความคิดเห็นที่ 33 เดินเข้ามาจะเจอปีนใหญ่ ที่นี่เรียกว่า Mons Meg ค่ะ แก้ไขเมื่อ 06 พ.ค. 52 19:03:09 จากคุณ : puibbl - [ วันฉัตรมงคล 20:12:19 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ทางเดินก่อนที่จะเข้าสู่บริเวณ CROWN SQUARE จากคุณ : puibbl - [ วันฉัตรมงคล 20:13:40 ]

ความคิดเห็นที่ 35 วิวมุมสูง มองลอดจากช่องยิงปืนใหญ่ จากคุณ : puibbl - [ วันฉัตรมงคล 20:14:42 ]

ความคิดเห็นที่ 36 มุมนี้มองเห็น TOLBOOTH KIRK ด้วยค่ะ จากคุณ : puibbl - [ วันฉัตรมงคล 20:15:34 ]

ความคิดเห็นที่ 37 เข้าสู่บริเวณ CROWN SQUARE จากคุณ : puibbl - [ วันฉัตรมงคล 20:16:22 ]

ความคิดเห็นที่ 38 CROWN SQUARE ค่ะ Crown Square served as the main courtyard for the castle. It dates from the 15th Century and was built on the south-facing slopes of castle rock. The square is built on an artificial platform above a series of great stone vaults. It was originally known as Palace Yard but was renamed after the discovery of the Scottish Crown Jewels in 1818. จากคุณ : puibbl - [ วันฉัตรมงคล 20:17:45 ]

ความคิดเห็นที่ 39 สวยทุกรูปเลยค่ะ  โบสถ์ก็ดูขลัง จากคุณ : Red-Rose-14Feb - [ วันฉัตรมงคล 20:50:42 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ติดตามคะ จากคุณ : pakay - [ 6 พ.ค. 52 13:10:13 ]

ความคิดเห็นที่ 41 มาต่อกันเลยนะค่ะ ที่ปราสาทจะมีการยิงปืนใหญ่กันทุกวัน ยกเว้นวันอาทิตย์ ที่เวลาบ่ายโมงตรงค่ะ The One o’ Clock Gun was first fired from the Castle on 7 June 1861, and has continued ever since, six days a week, except during the two World Wars. Gather at 1pm to see the master gunner fire the gun – every day except Sundays, Good Friday and Christmas Day. จากคุณ : puibbl - [ 6 พ.ค. 52 18:49:29 ]

ความคิดเห็นที่ 42 แล้วเราก็เข้ามาชม Great Hall กันค่ะ The Great Hall สร้างเสร็จสมบูรณ์ในปี 1511 เป็นสถานที่ที่ผู้นำของชาติใช้ในงานราชพิธิหรือประชุมกันค่ะ จากคุณ : puibbl - [ 6 พ.ค. 52 19:06:34 ]

ความคิดเห็นที่ 43 Great Hall อีกรูปค่ะ จากคุณ : puibbl - [ 6 พ.ค. 52 19:07:10 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ต่อไปเราก็จะไปห้องที่จัดแสดง Honours of Scotland ซึ่งที่นี่จะเป็นที่เก็บคฑาและมงกุฎ ของราชวงศ์ Scotland ข้างในของจริงห้ามถ่ายรูปค่ะ และในบริเวณเดียวกันยังเป็นที่เก็บ The Stone of Destiny ซึ่งเป็นก้อนหินที่พระมหากษัตริย์ใช้ประทับในพิธีราชาภิเษก ทางเข้าก็เป็นอย่างในรูปค่ะ สีแดงดีค่ะ จากคุณ : puibbl - [ 6 พ.ค. 52 19:11:50 ]

ความคิดเห็นที่ 45 จะมีหุ่นขี้ผึ้งแสดงพิธีราชาภิเษกด้วยค่ะ จากคุณ : puibbl - [ 6 พ.ค. 52 19:14:55 ]

ความคิดเห็นที่ 46 หุ่นขี้ผึ้งแสดงการทำดาบค่ะ จากคุณ : puibbl - [ 6 พ.ค. 52 19:16:12 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ทางเข้าห้องโชว์มงกุฎค่ะ จากคุณ : puibbl - [ 6 พ.ค. 52 19:16:53 ]

ความคิดเห็นที่ 48 เราต้องต่อคิวเข้าไปในห้องเก็บที่ค่อนข้างลึกลับค่ะ จากคุณ : puibbl - [ 6 พ.ค. 52 19:17:35 ]

ความคิดเห็นที่ 49 เดินมาถึง The Scottish National War Memorial ถูกสร้างขึ้นในปี 1927 เพื่อเป็นการสรรเสริญให้แก่ความเสียสละของผู้คนที่ถูกฆ่าในสงครามโลกครั้งที่ 1 ค่ะ จากคุณ : puibbl - [ 6 พ.ค. 52 19:18:47 ]

ความคิดเห็นที่ 50 เดินออกมาเพื่อที่จะไป St.Margaret's Chapel ซึ่งเป็นอาคารที่เก่าแก่ที่สุดของปราสาทที่รอดพ้นจากไฟไหม้ แต่เราไปทัน เพราะค้ากำลังจะปิดปราสาทแล้วค่ะ จากคุณ : puibbl - [ 6 พ.ค. 52 19:21:48 ]

ความคิดเห็นที่ 51 คงต้องจบกระทู้นี้ไว้แค่นี้ พรุ่งนี้เราจะไปเที่ยวส่วนอื่นของตัวเมือง Edinburgh กันค่ะ ขอบคุณที่ติดตามนะค่ะ จากคุณ : puibbl - [ 6 พ.ค. 52 19:25:30 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ตะลอนเที่ยว England-Scotland 4-18 เมษายน 2552 จากคุณ : puibbl - [ 6 พ.ค. 52 19:28:13 ]