ความคิดเห็นที่ 1 ก่อนอื่น ผมขอกางแผนที่ให้ดูก่อนนะครับ เพราะขึ้นกระทู้ใหม่แล้ว จะได้ไม่ต้องไปค้นหาแผนที่จากกระทู้ก่อนๆ ครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 10 พ.ค. 52 14:10:52 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ครับ กองแลนนี้ อยู่ห่างจาก เมืองปาย 8 กิโลเมตรครับ  มีป้ายข้างทางโตๆ ให้เห็นกันชัดเจนเลยครับ  ผมถ่ายมา 2 ภาพ ตอนโพสนี้เลยเอาภาพมารวมกัน จะได้เห็นมุมกว้างๆ ไปเลยครับ ว่าเวลามาจาก เชียงใหม่ แล้วจะเห็นทางเข้า กองแลนเป็นอย่างไรกัน จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 10 พ.ค. 52 14:14:07 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ต้องประหลาดใจว่า นอกจากป้ายโตๆ ที่บอกว่า ที่นี่คือกองแลน แต่ไม่เห็นมีป้ายบอกว่า เข้าทางไหน เข้าไปไกลแค่ไหน มีแค่ ศาลาพักผู้โดยสารอันเดียวเท่านั้น? เป็นงงครับ แดดก็ร้อน เวลาก็ไม่มี บ่ายโมงครึ่งแล้ว จะกลับกรุงเทพฯวันนี้ด้วย เอาไงดีหว่า.... เดินเข้าไปสอบถามคนในรถที่จอดข้างศาลา เขาก็ไม่ทราบ เห็นว่ามีคนเดินเข้าไป 2 ทาง คือ ทางซ้ายมือของศาลา (ไม่ได้ถ่ายภาพมา) และทางขวามือตามในรูปข้างบน   ทางซ้ายมือเป็นทางชัน รกๆ ดูไม่ค่อยเป็นทางเดิน แดดก็ร้อน เลยตัดสินใจ ไปทางขวามือ ที่อยู่ใกล้ป้ายบอกทาง จินตนากาลเองว่า มีลูกศรอยู่ด้านขวามือของป้าย... ครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 10 พ.ค. 52 14:21:59 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ช่องทางนี้ มีต้นไม้พอประมาณ และมีร่องรอยถนนเล็กๆ เข้าไป  ใจก็คิดว่า ถ้าเดินเข้าไปให้พ้นจาก เนินดินข้างหน้า ก็น่าจะมองเห็นกองแลน แล้ว เลยตัดสินใจลงเดินทันที  โดยมีเจ้าลูกคนเก่ง เดินตามไปด้วยครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 10 พ.ค. 52 14:25:30 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เข้าไปแล้ว ก็ยังไม่เห็นภาพกองแลน แบบที่เคยเห็นจากในเน็ต หรือ ภาพประชาสัมพันธ์  มีแต่ ดินลูกรัง กับต้นไม้ แดดก็ร้อน เวลาก็ไม่มี   เอ๊ะ...เหลือบเห็นป้ายสีฟ้า ไกลๆ พอเดินเข้าไปใกล้ๆ ก็ไม่มีข้อความใดๆ คงจะหลุดไปเพราะน้ำฝน หรือลม แล้วกระมัง  ผมก็เลย มองหาช่องทางที่จะเดินต่อไปอีกครับ   โอย... ทำไม ทางอำเภอ เขาไม่ทำป้ายบอกทางเดินแบบ ภูกระดึงนะครับ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว....ร้อน..จัง จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 10 พ.ค. 52 14:32:23 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ลักษณะเส้นทางเป็นแบบนี้ เป็นร่องๆ สูงๆต่ำๆ ครับ ลูกผมนี้ยืนพักเหนื่อยเลย จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 10 พ.ค. 52 15:11:39 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เส้นทางคดโค้ง แต่ยังพอมีร่มไม้ อยู่บ้าง ไม่มีป้ายใดๆ บอกทางเลย ไม่รู้ว่า ผมหลงทาง หรือเปล่านี่   กล้อง และ GPS Pocket Map ก็แบตเตอรี่ใกล้หมดอีก เฮ้อ....ไปถึงแล้วจะได้บันทึกอะไรหรือเปล่าก็ไม่รู้  ต้องลุ้นกันจริงๆครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 10 พ.ค. 52 15:16:37 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ยิ่งเข้าไปก็ยิ่งเป็นป่ารก.... ในรูป บอกได้เลยว่า กำลังก้าวเข้าไปในป่า.... จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 10 พ.ค. 52 15:19:50 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ลูกผมหยุดหันมาถามว่า พอหรือยังฮะพ่อ....  ไม่ใช่สาเหตุอะไรหรอก ก็คือ เขามีเป้าหมายถัดไป คือ อยากไปน้ำพุร้อน  เลยกลัวว่าผมจะเข้าไปนาน แล้วเขาอดแวะน้ำพุร้อนครับ  แต่ผมก็ได้ต่อรองมาตลอดทาง ว่า อีกนิดๆๆๆๆ... ครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 10 พ.ค. 52 15:22:19 ]

ความคิดเห็นที่ 10 โอย...เดินกันจนเวียนหัว เลยถ่ายภาพออกมาเอียงๆ  โน่นไง.. ท่าจะเป็นกองแลน ดูเข้าเค้าแล้ว ว่าจะเป็นพื้นที่โล่งๆ มีดินลูกรังสีแดงๆ พร้อมเส้นทางเดิน แก้ไขเมื่อ 10 พ.ค. 52 15:30:57 จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 10 พ.ค. 52 15:27:13 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ออกมาตรงทางโล่งกว้างแล้ว  ทางเดินข้างหน้าเริ่มดูคล้ายๆ กับในรูปภาพแล้ว จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 10 พ.ค. 52 15:32:30 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เดินไปเรื่อยๆ ก็พอมองเห็นเป็นทางเล็กๆ แล้ว แต่ ยังไม่เล็กขนาด รูปที่เขาถ่ายกันมา จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 10 พ.ค. 52 15:34:59 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เดี๋ยวขอหารูป ที่เพื่อนๆ ในห้องนี้ไปเที่ยวและถ่ายมาก่อนครับ.... จากรูปข้างล่างเป็นของคุณ เมเม่ ครับ  กองแลนต้องเป็นแบบนี้ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 10 พ.ค. 52 15:38:29 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ดูๆ ก็คล้าย แต่ไม่ใช่  แล้วกองแลนที่เขาไปกัน อยู่ตรงไหนกันแน่นะ... จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 10 พ.ค. 52 15:41:05 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ด้านข้างทาง ก็เป็นเหวเล็กๆ มีต้นไม้แซมออกมาเป็นระยะๆ  แต่แดดจัดจริงๆ โชคดีที่ยังมีลมพัดให้เย็นสบายหน่อยครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 10 พ.ค. 52 15:44:32 ]

ความคิดเห็นที่ 16 อูย...จะต้องเดินไปอีกไกลแค่ไหนนี่.... กองแลน แบบที่เขาไปกันมา...เฮ้อ... จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 10 พ.ค. 52 15:49:18 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ถ้าหากมองกันตามตัวอักษร กองแลน คือ Pai Canyon  ที่เป็นพื้นที่ดินสูงๆ ต่ำๆ เหมือน Gran Canyon หรือ ระนองแคนย่อน ที่ผมเคยไปมา ก็ โอเค..นะครับ แต่ ไม่ใช่จุดที่ นักท่องเที่ยวเขาไปกัน..... เอ....แต่ก็สวยไปคนละแบบนะครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 10 พ.ค. 52 15:52:51 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เอ้า....รูปนี้ดูน่าจะเหมือน ที่สุดนะ (ช่วยมองให้เหมือนด้วย.....) เดินต่อไปไม่ไหวล่ะ ลูกเร่งจะกลับท่าเดียวแล้ว...  ใครช่วยบอกทางที ว่าอยู่ตรงไหน.... จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 10 พ.ค. 52 15:54:51 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เอ๊ะ.... ตรงโน้น ดูมีทางเดินเล็กๆ ด้วย ลองเดินไปดู  ไม่ใช่ เป็นทางเดินที่เล็ก ลงไปข้างล่าง ไม่สามารถเดินได้ครับ   ถ้าพลาดตกลงไปก็ถลอกปอกเปิกหมดแน่ๆ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 10 พ.ค. 52 15:59:39 ]

ความคิดเห็นที่ 20 นี่ก็มีอีกทางหนึ่ง เสียวกว่าเมื่อกี้อีก  ไม่มีร่องรอยการเดินเท้าของมนุษย์  ถ้าหากเป็นตัว ตะกวด คงเดินได้ครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 10 พ.ค. 52 16:03:30 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ใกล้ๆ กันก็มีอีกทางเล็กๆ ที่ตัวตะกวดอาจเดินได้ แต่คนละไม่มีสิทธิ์ครับ  เป็นทางเล็กๆ ที่คดโค้งไปมา แต่ก็ยังไม่เหมือนกับ ในรูปของคุณ เมเม่ เลย จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 10 พ.ค. 52 16:32:56 ]

ความคิดเห็นที่ 22 กลับล่ะครับ เกือบบ่ายสองโมงแล้ว ยังไม่ได้สะพานประวัติศาสตร์เลย  เอาไว้คราวหน้า ปายภาคสอง ค่อยมาค้นหาทางเข้ากันใหม่ เฮ้อ.... ทำไม๊ทำไม ทาง อบต.ทุ่งยาว น่าจะจัดทำป้ายบอกเส้นทางเดินให้ชัดๆ นะครับ  ดูเป็นธรรมชาติดี  มาจนถึงทางเข้า แต่ดันไม่รู้ว่าไปทางไหน....... จากรูปข้างล่าง มองไปไกลๆ ที่สันเนินเขาเล็กๆ โน้น น่าจะเป็น ทางเดินของกองแลนนะครับ  ถ้ามีเวลามากกว่านี้จะมาสำรวจให้ครบ แล้วทำเป็นแผนที่เดินทางเลย.... ขอฝากไว้กับ ทาง อบต.ทุ่งยาว หรือ นายอำเภอปาย นะครับ โปรโมทให้เต็มๆ หน่อยนะครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 10 พ.ค. 52 16:39:17 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ผมกลับมากรุงเทพฯ ลองมาค้นๆ หาดูเส้นทางเข้าไปยัง กองแลน ก็ไม่มีใครบอก มีเพียงเลาๆ เค้าว่า ต้องเดินขึ้นไปข้างบน ซึ่งน่าจะเป็นอีกทางชันๆ ตามแผนที่ข้างล่าง นี้ ซึ่ง ผมนึกได้ว่า คนที่อยู่ในรถปิ๊คอัพที่จอด ในคห.2 นั้น เขาบอกว่า มีฝรั่งเดินขึ้นไปทางซ้ายมือของ ศาลาพัก แล้วลงมาด้านขวามือ คือทางที่ผมเข้าไป  จึงน่าจะเป็นทางวนโค้งออกมาได้ จริงหรือไม่ ถ้าใครเคยไปสำรวจมา ช่วยโพสมาบอกด้วยนะครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 10 พ.ค. 52 16:48:36 ]

ความคิดเห็นที่ 24 หวาดเจี๋ยวจริง ๆ แต่เราไม่ได้แวะที่นี่อ่ะจ้า   เสียดายชะมัด จากคุณ : แม่ซากานะ - [ 10 พ.ค. 52 16:52:27 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ผมออกจาก กองแลนมาประมาณ 10 นาที ก็ถึง สะพานประวัติศาสตร์ ท่าปาย แล้ว  มีร้านขายของริมทางด้วย   จากรูป ผมได้จอดรถให้เลยสะพานมา แล้วถ่ายย้อนเข้าไป เป็นมุมมองของคนที่มาจากเชียงใหม่ จะต้องเห็นแบบนี้นะครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 10 พ.ค. 52 16:55:03 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ซาหวัดดี คุณแม่ซากานะ...ฮิฮิ เรียกเต็มยศเลย  กองแลนนี่ อาจเป็นที่ๆ คนไม่ได้แวะสักเท่าใดนัก เพราะต้องใช้เวลาเดิน และความเหนื่อยยากเข้าไป  แต่ที่น่าตำหนิ ก็คือไม่มีป้ายใดๆ บอกว่าเข้าไปทางไหน ระยะทางเท่าใด คงต้องรอการพัฒนาต่ออีกนะครับ   (แหม..ที สะพานประวัติศาสตร์ ปรับปรุงอยากมากเลย ห่างกันไม่กี่กิโล ไม่ยอมทำอะไร...น่าน้อยใจ แทน กองแลน นะนะ...) ตอนนี้ก็รู้สึกกระหายเต็มที่แล้ว เพราะไปเดินมากลางแดดร้อนๆ  แถมตอนขากลับ เกือบจะถึงรถ ลูกชายดันลื่น เข่าถลอกเลย  เสียฟอร์มหมด ทั้งๆ ที่เดินเข้าไปตั้งไกลไม่เป็นไร ดันมาลื่นตอนจบ.... มีร้านขายไอติมอยู่ ข้างหน้าซุ้มสะพาน  ต้องอุดหนุนหน่อย กองทัพต้องเดินด้วยท้องครับ  แต่ผมขอบาย เพราะจะไปถ่ายภาพ เสียเวลามาทานไอติม แถมมือจะเหนียวอีก จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 10 พ.ค. 52 17:03:27 ]

ความคิดเห็นที่ 27 นี่แหละครับ สะพานประวัติศาสตร์ ที่ตอนนี้มีการสร้างซุ้มประชาสัมพันธ์ข้อมูลทางประวัติศาสตร์เพิ่มขึ้นมาไม่นานนัก  ทำให้เพื่อนๆ หลายคนในห้องนี้ รู้สึกไม่ชอบ ที่สร้างบังตัวสะพาน น่าจะสร้างหลบๆ ด้านข้างมากกว่า จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 10 พ.ค. 52 17:07:59 ]

ความคิดเห็นที่ 28 เอาใกล้ๆ เต็มๆ สักรูปเป็นไง จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 10 พ.ค. 52 17:10:08 ]

ความคิดเห็นที่ 29 รูปนี้ แสดงว่า ข้าพเจ้าได้มาถึงแล้ว ณ.สะพานแห่งนี้ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 10 พ.ค. 52 17:11:33 ]

ความคิดเห็นที่ 30 เอารูปหน้าตรง แบบ Perspective(เส้นสายตา) เลย ตอนนี้ ผมยังคิดว่า สะพานนี้ เป็นสะพานรถไฟ แต่พอเข้าไปอ่านประวัติข้างใน ไม่ใช่สะพานรถไฟ  แต่เป็นสะพานรถข้าม นะครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 10 พ.ค. 52 17:14:56 ]

ความคิดเห็นที่ 31 เข้าไปอ่าน ประวัติมาแล้ว ก็ขอถ่ายภาพมาให้อ่านกันในห้องนี้เลย ผมเชื่อว่า มีหลายคนที่ไปมา แต่ไม่ได้อ่าน หรืออ่านแล้วก็จำรายละเอียดไม่ได้ พอสรุปได้ว่า สมัยก่อนยังไม่มีเส้นทางระหว่างแม่ฮ่องสอนกับเชียงใหม่แบบนี้ (อาจใช้เส้นทางผ่าน อ.แม่สะเรียงเท่านั้น) สมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ทหารญี่ปุ่นเข้ามาตั้งฐานทัพในไทย ต้องการบุกพม่า จึงจ้างคนพื้นที่ ให้สร้างทาง จากเชียงใหม่ไปแม่ฮ่องสอน และ จากแม่ฮ่องสอนมาเชียงใหม่ ซึ่งทั้งสองด้าน มาบรรจบกันที่ แม่น้ำปาย  จึงมีการสร้างสะพานครั้งแรกที่นี่ เป็นสะพานไม้ล้วนๆ จนสงครามโลกครั้งที่สองสิ้นสุด ญี่ปุ่นถอยทัพก็เผาสะพานทิ้ง ทำให้ชาวบ้านต้องสร้างสะพานขึ้นมาใหม่เอง เป็นสะพานไม้ล้วนๆ อีก ต่อมาเมื่อปี พ.ศ.1516 เกิดน้ำท่วมใหญ่ที่ปายทำให้สะพานไม้พัง ชาวบ้านจึงได้ขอสะพาน "นวรัฐ" จังหวัดเชียงใหม่ ที่ทำด้วยโครงเหล็ก (ซึ่งได้รื้อถอนไปเมื่อมีการใช้สะพานคอนกรีตทดแทนแล้ว)  จากนั้นอีก 3 ปี  สะพานโครงเหล็ก ดังที่เห็นจึงได้ประกอบขึ้นมาแล้วเสร็จ จนปัจจุบันได้มีการสร้างสะพานคอนกรีตขึ้นมา ทำให้สะพานโครงเหล็กนี้ ถูกเลิกใช้ แต่ไม่ได้รื้อทิ้งไปไหน  เก็บไว้จนมีการส่งเสริมการท่องเที่ยว ทำให้บูรณะขึ้นมาใหม่ ครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 10 พ.ค. 52 17:46:11 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ผมเองก็เพิ่งมาอ่านประวัติสะพานท่าปายตอนที่โพสนี้เอง เพราะตอนนั้นไม่มีเวลาอ่าน รีบๆ จะถ่ายภาพ จะได้กลับบ้าน ให้ถึงกรุงเทพฯตอนเช้าอีกวัน เลยเพิ่งทราบว่า สะพานเก่าประวัติศาสตร์จริงๆ ไม่ใช่อันนี้ แต่เป็นสะพานไม้ ที่โดนน้ำพัดทำลายไปแล้ว  บังเอิญผมไม่ได้ถ่ายภาพอื่นๆ มาอีก เพราะไม่ได้สนใจเรื่องอื่นๆ  ก็เลยต้องค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมจากในเน็ตนี้ (rotfaithai.com) ก็พบว่า มีคนถ่ายภาพเมืองปายในอดีต บนบอร์ดที่นี่แหละ ซึ่งจากรูปข้างล่าง น่าจะเป็นสะพานไม้เดิมที่สร้างตั้งแต่ปี พ.ศ.2484 ส่วนคำว่า ท่าปาย นั้นน่าจะมาจากที่ว่า ตอนที่สะพานถูกน้ำพัดในปี พ.ศ. 2516 จนถึงปี พ.ศ.2519 นั้น ไม่มีสะพานใช้ ชาวบ้านต้องใช้เรือข้ามฟาก เลยทำให้เกิด ท่าเรือปาย หรือเรียกสั้นๆว่า ท่าปาย ครับ ส่วน สะพานเหล็กที่เห็นนั้น แม้จะมาติดตั้งที่นี่ ในปี พ.ศ.2516 ก็ตาม แต่ตามประวัติแล้ว ก็ถูกสร้างตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2464 โน้น ก่อนสงครามโลกครั้งที่สองไป 20 ปีครับ (ซึ่งก็คือหลังจากสิ้นสงครามโลกครั้งที่หนึ่งไปเพียง 3 ปี) จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 10 พ.ค. 52 18:08:31 ]

ความคิดเห็นที่ 33 บอร์ดใกล้ๆ กันอีกอัน เป็นประวัติของเมืองปายครับ  หลักๆ ก็คือ ที่มาของชื่อปาย ครับ ที่มีที่มา 3 แหล่ง ครับ คือ 1.มาจากคำว่าป้าย เป็นภาษาไทยใหญ่ แปลว่า หนีหรืออพยพ ของชาวไทยใหญ่ จากรัฐฉานของพม่า มา 200 กว่าปีแล้ว 2.มากจากชื่อผู้นำไทยใหญ่  ที่ชื่อว่า ขุนสางปาย 3.มาจากคำว่าพลาย เพราะในสมัยกรุงศรีอยุธยา เมืองปายนี้ มีช้างเยอะ ที่ เมืองเชียงใหม่จะต้องนำส่งไปให้แก่ กรุงศรีอยุธยา จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 10 พ.ค. 52 18:24:31 ]

ความคิดเห็นที่ 34 อ้อ..นี่ ก็เป็นรูปของสะพานท่าปาย ในสภาพที่ก่อนจะเลิกใช้งาน หลังจากสะพานคอนกรีตข้างๆ ได้สร้างเสร็จ (เมื่อใด? ไม่ทราบ ผมพยายามค้นหาแต่ยังไม่เจอครับ) จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 10 พ.ค. 52 18:38:28 ]

ความคิดเห็นที่ 35 อูย..หนักเนื้อหาประวัติศาสตร์ไปหน่อยนะครับ มาเดินเล่นถ่ายรูปต่อไปกันดีกว่า เห็นรูปน้องคนนี้แล้วรู้สึกสบายใจขึ้นมาหน่อยไหม...เคร่งเครียดจากวิชาประวัติศาสตร์สงครามมา จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 10 พ.ค. 52 18:44:31 ]

ความคิดเห็นที่ 36 เอ...ทำไมรูปนี้ ตัวผมดูผอมลงจังเลย  หรือว่าต้องเก๊กท่าแบบนี้ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 10 พ.ค. 52 18:46:53 ]

ความคิดเห็นที่ 37 เดินต่อไปอีก โครงเหล็กของสะพานได้เปลี่ยนไปเป็นแบบเตี้ยๆ  ซึ่งอาจไม่ชินตาของเพื่อนๆ ในห้องนี้ ที่นิยมถ่ายภาพโครงเหล็กสูงๆ ในช่วงแรกๆ กันมาก เลยทำให้ดูเหมือนกับ สะพานรถไฟข้าม อ้อ...ตรงจุดนี้ ถ้าหันหลังกลับไป ภาพที่เห็นก็คือ รูปเปิดกระทู้นั่นเองครับ เป็นรอยต่อระหว่าง โครงเหล็กสูง กับ โครงเหล็กต่ำ เกือบตรงกลางสะพานพอดี จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 10 พ.ค. 52 18:53:00 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ผมเดินไปจนสุดสะพาน แล้วหันกลับไปเก็บภาพสะพานเต็มๆ ที่มีป้ายเก่า ซึ่ง จะเห็นโครงสร้างสะพานทุกขนาดครบ ครับ (ต่างจาก ถ้าถ่ายภาพจากอีกด้าน จะเห็นเฉพาะโครงเหล็กสูงเท่านั้นครับ) จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 10 พ.ค. 52 19:04:16 ]

ความคิดเห็นที่ 39 แหม...เดินมาเล็ง ช่องว่างระหว่างสะพานเหล็ก กับ สะพานคอนกรีต ซะหน่อย เพื่อจะได้เห็นมุมแปลกๆ บ้าง จากภาพจะเห็นว่า สะพานช่วงแรก ตามลูกศรชี้จะดูแข็งแรงกว่าช่วงอื่นๆ  ในอดีต น่าจะขยับ ยก หรือเลื่อน เพื่อเปิดทางให้เรือผ่านได้ (อันนี้ผมคิดเอาเองนะครับ) ใครพอทราบประวัติ ก็มาเล่าสู่กันฟังได้ครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 10 พ.ค. 52 19:09:10 ]

ความคิดเห็นที่ 40 อุ๊บ!....ขอโทษ โพสผิดครับ แก้ไขเมื่อ 10 พ.ค. 52 19:20:30 จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 10 พ.ค. 52 19:19:22 ]

ความคิดเห็นที่ 41 หันไปมองถนนอีกฝั่งหนึ่ง จะเห็นร้านกาแฟ ชื่อ สะพานปาย (Sapan Pai) อยู่  แต่มีคนเล่นสาดน้ำอยู่ เลยไม่กล้าแวะเข้าไป ขณะที่ผมกำลังโพสภาพอยู่นี้ ได้เหลือบเห็นบุรุษไปรษณีย์ยืนอยู่ตรงด้านขวาสุดของภาพ รู้สึกต๊กกะใจ คนหรือรูปปั้นหวา  น่าจะเป็นรูปปั้นนะครับ ยืนตรงเลย  น่าแปลกที่ผมไม่ทันเห็นขณะที่อยู่ตรงนั้น   นี่แหละครับ การถ่ายภาพดีกว่าสายตาคนเรา เพราะเก็บรายละเอียดได้ดีกว่า  เวลาเรามองอะไร จะเน้นเฉพาะจุดที่เราสนใจเท่านั้น เหมือนมีกรอบของภาพ (Crop) ตัดสิ่งที่เราไม่ได้สนใจออกไป ตลอดเวลาครับ ไม่รู้ว่าเป็นของร้าน สะพานปาย หรือเปล่าครับ คงเป็นจุดสนใจ ที่สร้างขึ้นมาให้จำง่าย และดึงดูดลูกค้าให้เข้าร้านนะครับ (แบบเดียวกับ ร้าน Coffee In Love) จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 10 พ.ค. 52 19:21:12 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ผมเดินกลับมาแล้ว เจอลูกเอาไอติมมาฝากพ่อ ช่างรู้ใจจริง อากาศร้อนๆ อย่างนี้ แต่ผมยังติดธุระถ่ายภาพยังไม่เสร็จ จึงรับมาชิมเล็กน้อยแล้วรีบไปถ่ายภาพต่อครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 10 พ.ค. 52 19:26:53 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ลำน้ำปายตอนนี้ ถือว่าแห้งตื้นเขินมาก ขนาดคนลงไปเดินเล่นได้เลย รูปข้างล่างนี้ ถ่ายระหว่างสะพานทั้งสองอัน แต่เป็นปลายสะพานด้านโครงเหล็กสูง จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 10 พ.ค. 52 19:30:21 ]

ความคิดเห็นที่ 44 แต่อีกด้านหนึ่งของสะพาน กลับพอมีน้ำให้ลอยแพเล่นได้ เด็กๆ มาเล่นกันเยอะ เดี๋ยวผมจะลงไปเดินดูใกล้ๆ ครับ แหม...ยิ่งร้อนๆ ถ้าได้ลงเล่นน้ำจะไม่ลืมพระคุณเลย (ร้อนมาจาก กองแลนด้วย) จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 10 พ.ค. 52 19:33:46 ]

ความคิดเห็นที่ 45 นี่ไงครับ ร้านให้เช่าแพ คิดไม่แพง (แต่ไม่ได้ถ่ายภาพราคามาให้ และยังจำไม่ได้อีก)  เฉพาะช่วงฤดูแล้งนี้เท่านั้น จะเห็นว่า เมืองปายนี้ ก็มีอะไรให้น่าเที่ยวเล่น แม้จะเป็นฤดูร้อน ถ้ามีเวลามากกว่านี้ ผมก็ไปเที่ยวได้อีกเยอะ ครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 10 พ.ค. 52 19:40:33 ]

ความคิดเห็นที่ 46 สวัสดีครับคุณพี่มิราชช น้องใหม่ขอตามไปเที่ยวปาย (อีกครั้ง) ด้วยคนครับ ผมมีโอกาสติดตามผลงาน review ของพี่มานาน แต่พึ่งลงทะเบียนขอบัตรผ่าน เลยพึ่งมีโอกาสมาโพสต์ตอบครับ ขอชม review ละเอียดมากเลยครับ อ่านแล้วเห็นภาพเลย จากคุณ : นายช่าง(หนีเที่ยว) - [ 10 พ.ค. 52 19:44:54 A:192.168.1.27 X:124.157.238.100 TicketID:215517 ]

ความคิดเห็นที่ 47 พื้นที่ล่องแพ มีอยู่น้อยนิด คงแค่ฝึกๆ ค้ำถ่อแพเล่นๆ เท่านั้น เพราะจะมีฝายกั้นน้ำ(ชั่วคราว) เป็นระยะๆ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 10 พ.ค. 52 19:45:06 ]

ความคิดเห็นที่ 48 สวัสดีครับ น้องนายช่าง(หนีเที่ยว) ก็อยากให้คนที่ไม่ได้มีโอกาสไปเที่ยว ได้สัมผัสภาพ และมุมมองของสถานที่เที่ยวต่างๆ ให้มากที่สุดนะครับ  แม้กระทั่งตัวพี่เอง ในอนาคตอาจหลงลืม จะได้กลับมาดูรีวิวของตัวเอง ก่อนไปเที่ยวซ้ำอีก จะได้ไปแก้ไขซ่อมทริปที่นี่ ได้ครับ ตอนนี้ ลูกๆ ผมนึกสนุก ลงมาใต้สะพานทางลัดนี้เลย เสียวลื่น จังเลยครับ (ดูด้วยตา น่าจะชันมาก แต่พอเดินลงมา กลับเดินได้สบายๆ) จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 10 พ.ค. 52 19:50:48 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ซุ้มประตูหน้าสะพานมันไม่เวิร์คจิน ๆ นะเนี่ย ป  อย่ล. 1     ลูกชายโตจะเป็นหนุ่มแย๊วววว เหมือนพ่อชะมัดเรยยยย ปล. 2   เวลาเราดูว่าตัวเองผอม !!!    อย่าเพิ่งรีบเชื่อ  ...ต้องหาคนรับรองก่อนเน้อ แก้ไขเมื่อ 10 พ.ค. 52 19:54:21 จากคุณ : แม่ซากานะ - [ 10 พ.ค. 52 19:53:10 ]

ความคิดเห็นที่ 50 นี่เป็นภาพ คนเล่นน้ำใต้สะพานประวัติศาสตร์ ท่าปาย ครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 10 พ.ค. 52 19:53:39 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ฮาๆ ก๊าก ขำ พี่อิ๋ม (แม่ซากานะ) นะครับ  เอ...ปกติการดูจากภาพถ่ายนี้ น่าเชื่อถือได้นะครับ ไม่เหมือนกับดูจากกระจกเงา จะหลอกตัวเองมาก แต่ถึงอย่างไรก็ดี หลอกเครื่องชั่งไม่ได้หรอกครับ เพราะมันฟ้องตั้ง 78 กิโล โน้น! จากรูปข้างบน ผมลองซูมเข้าไปดูใกล้ๆ เพื่อดึงอารมณ์แบบบรรยากาศของคนเล่นน้ำครับ  ไม่ได้เล่นก็ขอดูก็ได้ครับ น่าสนุก และเย็นสบายดี   น้ำก็คงไม่ลึก มีทำนบคล้ายขอบสระว่ายน้ำเลย  เจ้าตูบก็นึกสนุกลงไปเล่นกับเขาด้วย แต่ใจคงไม่กล้า เลยได้แต่ยืนด้อมๆ มองๆ แบบนั้น จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 10 พ.ค. 52 20:00:15 ]

ความคิดเห็นที่ 52 แหงนขึ้นไปดูโครงสร้างใต้สะพานกัน ดูไม่ค่อยมีคานเหล็กถ่ายน้ำหนักจาก เสาสะพาน เพราะน้ำหนักจะไปถ่ายรับกันที่โครงสร้างด้านบนเหนือสะพานครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 10 พ.ค. 52 20:04:23 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ได้เวลากลับกันแล้ว เด็กๆ วิ่งขึ้นทางลัดอีกตามเคย เอาตรงช่องระหว่างสะพานเลย  ไม่น่าไต่ขึ้นไปได้เลยนะนี่ (ถ้าหากดูจากรูปคห.43) จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 10 พ.ค. 52 20:07:15 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ขึ้นมาแล้ว ขอเล็งดูตรงโครงสร้างสะพานชัดๆ อีกที เอาแบบเสียวๆเลย ว่าไม่น่ารับน้ำหนักได้ ดูแขวนๆ อย่างไรชอบกล  แสดงว่า สะพานแบบนี้ อาจเป็นต้นแบบสะพานแขวนในปัจจุบัน เพียงแต่เปลี่ยนจากโครงเหล็กมาเป็น ลวดสลิงยักษ์ ในปัจจุบัน ครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 10 พ.ค. 52 20:16:47 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ก่อนจะกลับจาก สะพานท่าปายแห่งนี้ ขอวิเคราะห์นิดนึงว่า โครงสร้างสะพานมี 4 แบบ คือ โครงเหล็กสูง 2 ชุด โครงตรงต่ำ 2 ชุด โครงเล็กโค้งต่ำ 1 ชุด และ โครงเหล็กตรงขนาดเล็ก 1 ชุด(ตรงปลายสะพานอีกด้าน) มีผลต่อเสาสะพาน ที่จะต้องวางรับน้ำหนักสะพานได้ต่างกัน  คือโครงเหล็กสูง นั้นจะทำให้ระยะห่างสะพานได้กว้างมาก เรือใหญ่ผ่านได้  น่าจะอยู่ตรงกลางลำน้ำ เพราะปกติร่องน้ำลึกน่าจะอยู่กลางๆ แม่น้ำมากกว่า  แต่อาจเป็นเพราะ แม่น้ำปายเป็นแบบนี้ก็ได้  คือร่องน้ำลึกมาอยู่ชิดด้านใดด้านหนึ่ง เลยทำให้ การจัดวางโครงเหล็กเป็นอย่างในรูปข้างบน (รูปข้างล่าง สำหรับแม่น้ำทั่วๆ ไปที่ร่องน้ำลึกอยู่ตรงกลางแม่น้ำ) จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 10 พ.ค. 52 20:35:42 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ออกจาก สะพานประวัติศาสตร์ท่าปายมาได้ประมาณ ครึ่งกิโลมเตร ก็ถึงทางแยกเลี้ยวซ้ายไป น้ำพุร้อนท่าปาย ครับ  แต่ในรูปข้างล่างผมถ่ายขากลับออกมา เพื่อให้เพื่อนๆ ที่มาจากเชียงใหม่ ได้สังเกตุเห็นมุมมองปากทางเข้าแบบนี้ครับ ถนนช่วงนั้นจะโค้งๆ หน่อย ซึ่งถ้าหากถนนตรงๆ แล้วน่าจะมองเห็นสะพานประวัติศาสตร์ด้วยครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 10 พ.ค. 52 21:10:21 ]

ความคิดเห็นที่ 57 เข้าไปประมาณกิโลเมตรกว่าๆ ก็จะถึงทางแยกด้านขวามือ เข้าไปอีก 600 เมตรครับ จากรูปข้างล่าง คงไม่งงนะครับ ที่ถนนด้านใน นั้น ถ้าตรงไป ไม่เลี้ยวเข้า น้ำพุร้อน จะย้อนกลับไปยัง เมืองปาย ในอีกเส้นทางหนึ่ง ที่ผ่าน พระธาตุแม่เย็นครับ ถนนเส้นนี้จะไปสุดที่สะพานข้ามแม่น้ำปาย ใกล้กับถนนคนเดิน นั่นแหละ (แบบว่า โลกมันกลมน่ะ...) จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 10 พ.ค. 52 21:18:27 ]

ความคิดเห็นที่ 58 อุ๊ยหยา! เจอด่านเข้าให้แล้ว  มาน้ำพุร้อนทำมายถึงมีด่านอุทยานล่ะ....อ้อ.. อยู่ในความดูแลของอุทยานแห่งชาติ ห้วยน้ำดัง ครับ ต้องเสียๆ ครับ ค่าธรรมเนียมในการผ่านทางหน่อย พวกเรากะจะมาวนรถดูเล่นๆ เพราะเวลาก็ไม่มี เด็กๆ แค่อยากเห็นอะไรแปลกๆ เท่านั้น ไม่ได้กะมาเล่น เลยไม่เข้า เอาไว้คราวหน้า มาหน้าหนาว จะน่าเข้ากว่ากัน  (ยิ่งร้อนๆ อยู่ ไปเจอน้ำพุร้อนมีหวัง....ตับระเบิดแน่..ฮา) จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 10 พ.ค. 52 21:22:29 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ก่อนเลี้ยวรถออกมา เห็นป้ายบอกราคาค่าธรรมเนียมเข้าไปข้างใน ราคาไม่แพง แต่ระบุว่า ในช่วง 16 กพ. - 15 พค. นี้เท่านั้น  คือเฉพาะฤดูร้อน สงสัยหน้าหนาวจะแพงกว่านี้แน่นอนครับ นึกขำ คำในวงกลมสีม่วงครับ ผมเพิ่งเห็นตอนโพสกระทู้นี่เช่นกัน ไม่น่าเป็นคำนี้นะครับ น่าจะเป็น UNDER ครับ  (ปล่อยไก่ตัวเบ้อเริ่ม แหม...ที คำว่า Free กับ Fee ยังทราบความแตกต่างเลย ยากกว่ากันตั้งเยอะ) จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 10 พ.ค. 52 21:28:04 ]

ความคิดเห็นที่ 60 ขับรถออกมาจากทางแยกเข้าน้ำพุร้อนท่าแปได้ประมาณสิบกว่ากิโลก็ผ่านเขตแดนระหว่าง จ.แม่ฮ่องสอน กับ จ.เชียงใหม่ ซึ่งตรงนั้นจะมี ด่านตรวจสัตว์ ซึ่งผมลืมดูว่า มีทางแยกเข้าไปยังขุนแม่ยะด้วย.... (มัวตื่นเต้นกับเจ้าหน้าที่ ทหารอยู่) เลยไปอีกประมาณกิโลเมตร ก็ถึงทางแยกเข้า อุทยานฯ ห้วยน้ำดังครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 10 พ.ค. 52 21:48:03 ]

ความคิดเห็นที่ 61 ขุนแม่ยะ นี้ มีชื่อเสียงทางด้านความงามของ ต้นพญาเสือโคร่ง คือ ต้นซากุระไทย นั่นเอง จะบานช่วงปีใหม่ ต้องคอยตรวจสอบจาก ในเว็บ หรือโทรเช็คจากเจ้าหน้าที่ดู ไม่งั้น จะอดดูความงาม มหัศจรรย์ไทยแลน แดนภาคเหนือครับ จากรูปข้างล่าง ผมขอเอาภาพจากในเว็บ tripandtrek.com ที่เคยเซฟเก็บไว้มาให้ดูกันต่างหน้าไปก่อน  เอาไว้โอกาสหน้า จะหาเวลาไปชมให้ได้ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 10 พ.ค. 52 22:01:27 ]

ความคิดเห็นที่ 62 ตรงนี้ก็เป็นทางเข้า อุทยานฯ ห้วยน้ำดัง ครับ  ตอนเรียนปี 4 ผมเคยขับมอเตอร์ไซด์มาที่นี่ คนเดียว จากเชียงใหม่ มาถึงที่นี่ 6 โมงเย็น แล้วตีรถกลับเลย  ไม่เห็นด่านอุทยานฯ เลย   การมีด่าน ทำให้ ไม่สามารถแวะเข้าไปชมเล่นๆ สูดลมเข้าปอดสัก 5 - 10 นาทีได้ ไหนจะต้องกำหนดเวลาเข้าออก และต้องเสียค่าธรรมเนียมอีก ก็อดเหมือนเดิมครับ เอาไว้โอกาสหน้า ก็อยากจะชมทะเลหมอกยามเช้ากับเขาเหมือนกัน  ตอนอยู่เชียงใหม่ ยังคิดว่า ไปห้วยน้ำดัง ทำไมมีทะเลหมอก น่าจะมีน้ำไหลแรงๆ เหมือนน้ำตกมากกว่า... จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 10 พ.ค. 52 22:05:24 ]

ความคิดเห็นที่ 63 ภาพนี้ ถ้ามาจาก ปาย ก็จะเห็นทางเข้า อุทยานฯ ห้วยน้ำดังแบบนี้ครับ  ถ้าอุทยานฯเขาใช้กฏเกณฑ์เดียวกันทั้งประเทศ (เหมือน อุทยานฯ เขื่อนศรีนครินทร์) คือ จ่ายค่าธรรมเนียมเข้า ที่นี่ แล้วก็สามารถไปเที่ยว น้ำพุร้อนได้ฟรีภายในวันเดียวกัน ก็ดีครับ ไปกันหลายคน จ่ายหลายที่ซ้ำซ้อนก็หลายร้อยบาทเอาการเหมือนกันนะ... จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 10 พ.ค. 52 22:11:36 ]

ความคิดเห็นที่ 64 ขับรถไปอีกนานเหมือนกัน เพราะมีแต่เขากับเขา ที่สูงชัน คดเคี้ยว หนักกว่า ช่วง แม่สะเรียงอีก  ท้องก็เริ่มหิวกันแล้ว  ใกล้ห้าโมงเย็นแล้ว ก็เลยแวะร้าน สุพิณ โดยบังเอิญ (แบบว่า มีร้านอะไรก็แวะ หน้ามืดแล้วครับ) จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 10 พ.ค. 52 22:15:06 ]

ความคิดเห็นที่ 65 ร้านนี้วิวดี เพราะปลูกเป็นเรือนอยู่ริมถนนที่สูงชัน เลยมีเสาด้านหนึ่งสูงๆ มองเห็นภาพมุมสูง ครับ อาหารก็อร่อยใช้ได้ ครับ (ดอกไม้ก็สวย) จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 10 พ.ค. 52 22:17:48 ]

ความคิดเห็นที่ 66 ที่สวยอีกอย่างก็คือ เฟอร์นิเจอร์โต๊ะอาหาร ที่ทำด้วยขอนไม้  น่าจะเหมาะสำหรับนั่งทานกาแฟ มากกว่า จานข้าวนะครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 10 พ.ค. 52 22:21:31 ]

ความคิดเห็นที่ 67 ก็ตรงหน้าห้วยน้ำดังลงไปเนี่ยเป็นน้ำแม่แตงอ่ะค่ะ เห็นว่า....หน้าน้ำไหลเชี่ยวเสียงดัง   จนเค้าเรียกว่า  "ห้วยน้ำดัง" จริงมั๊ยจริง...  ต้องลองมาล่องแก่งดู ติดอันดับแก่งสุดตื่นเต้นเลยแหละ     แล้วมาเล่าด้วยเน้อออออ ไม่กล้าไปเอง   เดี๋ยวหัวใจวาย จากคุณ : แม่ซากานะ - [ 10 พ.ค. 52 22:23:38 ]

ความคิดเห็นที่ 68 อิ่มข้าวแล้ว ก็ขับรถต่อไปอีก ก็ได้เห็นสิ่งประหลาดริมถนนแต่ไกล ผมก็เลยจอดรถถ่ายภาพมาดู อยู่หน้า โรงเรียนบ้านปางฮ่าง เป็นตอไม้ขนาดใหญ่ น่าจะเป็นต้นไทร ยังกับซุ้มต้นไม้เลย ตอนนั้นเวลา 6 โมงเย็นแล้ว ผมยังไม่ถึง แม่มาลัย ตรงปากทาง ถนนที่จะวิ่งไปเชียงใหม่  เฮ้อ...เส้นทางช่างยาวไกลจริงๆ แถมมีเขามากมายด้วย... จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 10 พ.ค. 52 22:31:02 ]

ความคิดเห็นที่ 69 โอ้โฮ...เก่งจริงๆ พี่อิ๋มเรานี่ รู้ถึงประวัติ ที่มาของ ห้วยน้ำดังด้วย แสดงว่าเคยไปมาแล้วซี....ฮิฮิ...   ผมลองเปิดดู GPS Pocket PC ดู.... มีจริงๆ ด้วยครับ แม่น้ำแม่แตงไหลผ่าน พื้นที่ อุทยานฯ ห้วยน้ำดัง น่าสนุก แต่ผมไม่ชอบตกน้ำครับ (ทั้งๆ ที่ชอบว่ายน้ำ) มันทำให้ตัวเปียก กล้องเปียกด้วย แฮ่ะๆ..... ขับๆ รถไป แวะปั๊มเข้าสุขา มาเจ๊อะ ตัวอะไรยืนอยู่เขียวๆ  เลยคว้ากล้องมาถ่าย อ้อ... ต้นไม้ดัดรูปนกนี่เอง  ยืนตะคุ่มๆ ในความมืด....หึหึ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 10 พ.ค. 52 22:42:52 ]

ความคิดเห็นที่ 70 มาถึงรูปสุดท้ายของทริปนี้จนได้....เฮ้อ...  เป็นปั้มน้ำมันที่ไหนจำไม่ได้  ผมต้องจอดนอนเป็นระยะๆ  ตื่นขึ้นมาเห็นสีสรรของ ส่วนบริการน้ำมันสวยดี เลยยกกล้องมาถ่ายสักแชะ...  ดูคล้ายกับยานอวากาศเหมือนกัน ตอนนั้นเป็นเวลา ตีสี่ครึ่ง ทริปนี้ผมมาถึง บ้านเกือบเที่ยงวัน เพราะพ่อแม่ให้นอนเรื่อยๆ กลัวหลับไหน  มาสว่างเอาที่ ชัยนาทเอง... รวมระยะทาง 1,981 กิโลเมตร เติมน้ำมันไป 170 ลิตร คิดเป็นเงิน 4,000 บาท (พอดีโดยบังเอิญ) ค่าที่พัก 3 คืนประมาณ 3,000 บาท ค่าอาหารสมาชิกช่วยกันจ่าย  กับเวลาทั้งหมด 3 วัน 4 คืนเต็มๆ สวัสดี ขอบคุณที่ติดตามชมจนจบทั้ง 5 ตอนครับ อ้อ..ขอทำลิ้งค์ไว้ทั้ง 4 ตอนให้เลือกเข้าไปชมด้วยครับ ตอนหนึ่ง : สวนสนบ่อแก้ว, ที่พักแม่ฮ่องสอน เดอะไดรีสอร์ท, วัดพระนอน, พระธาตุดอยกองมู http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E7771752/E7771752.html ตอนสอง : หอการค้าแม่ฮ่องสอน, ศูนย์ศิลปาชีพ, พระตำหนักปางตอง, ปางอุ๋ง http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E7780853/E7780853.html ตอนสาม :  ที่พักปาย ปายรีเวอร์เคิร์ฟ, ถนนคนเดินปาย, วัดกลาง, สะพานไม้ข้ามไปฝั่งที่พักแบบกระท่อม Indianna Cottage-ปายในฝัน-Pai Country Hut-, วัดป่าขาม http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E7795605/E7795605.html ตอนสี่ : ที่พักยอดฮิต RimPay Cottage- Pai River Corner-, สะพานไม้สามทาง, ที่พักกระท่อม Baan Pai Riverside- Family Huts- River View Bungalow, สนามบินปาย, ร้านกาแฟ Coffee In Love http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E7825149/E7825149.html จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 10 พ.ค. 52 23:09:48 ]

ความคิดเห็นที่ 71 แอบมาตอบข้อสงสัย จขกท ค่ะ เรื่องกองแลน  จขกท คงขึ้นผิดด้านค่ะ  ดูง่าย ๆ เวลาจอดรถแถวหน้าศาลาด้านหน้า  ให้ยืนหันหน้าเข้าหาศาลาจะเจอทางเดินชัน ๆ อยู่ด้านซ้ายมือ ให้ขึ้นด้านนั้นค่ะ แต่คุณ จขกท ขึ้นทางด้านขวามือค่ะ  แถมเดินตรงเข้าด้านใน  แทนที่จะเลี้ยวซ้าย  ตรงป้ายสีฟ้าที่เลือน ๆ นั้นแหละค่ะ แต่ไว้โอกาสหน้าค่อยแวะมาเยือนใหม่ก็ได้นะค่ะ ปาย  ยังยินดีต้อนรับอีกครั้ง ขอบคุณที่มาเยือนค่ะ จากคุณ : ปายตะวา - [ 16 พ.ค. 52 01:13:07 ]

ความคิดเห็นที่ 72 ขอบคุณ คุณปายตะวา ครับ ที่ช่วยมาเฉลย  แสดงว่าเข้าทางขวามือก็ยังมีทางไปรวมกันได้อีก ปัญหาคือป้ายสีฟ้า ไม่น่าเลือน จนไม่สามารถทราบได้ว่าไปทางไหน  เอาไว้โอกาสหน้าค่อยมาใหม่ แต่คงสัก 2 - 3 ปี นะครับ เพราะยังมีอีกหลายที่ ที่ยังไม่เคยไปเที่ยวครับ แล้วจะมาโพสใหม่อีกครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 16 พ.ค. 52 15:29:28 ]

ความคิดเห็นที่ 73 ตามติดมาทั้ง 5 ตอน ขอบอกว่าสุดยอดมากเลย กำลังจะไปปลายเดือนนี้แล้ว : ) ขอบคุณนะ จากคุณ : จะไปเช่นกัน - [ 10 ต.ค. 52 00:10:15 A:58.9.150.55 X: TicketID:234671 ]