ความคิดเห็นที่ 1 ตอนเราไปเมื่อช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา เจอ 3 คำถาม 1. คุณจะมาทำอะไรที่อังกฤษ 2. คุณจะมาอยู่นานแค่ไหน 3. คุณรู้จักใครที่อังกฤษหรือเปล่า ตอบเสร็จ ตม. ก็ stamp passport ให้ เอาเป็นว่าไม่ต้องกังวล ตอบตามความจริง และทำท่าทางว่าเรามั่นใจ จากคุณ : เที่ยวให้สนุกนะ - [ 13 พ.ค. 52 10:46:02 A:58.9.98.71 X: TicketID:209970 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เราภาษาก็ไม่แข็งแรง เข้ามาเอาใจช่วย มีเทคนิคเล็กๆ มาบอก -เราต้องรู้ก่อนว่าจะไปไหนแล้วหาข้อมูลให้แน่นจากห้องนี้แหละ -หารูปภาพสถานที่ที่เราจะไปเตรียมไว้ก็ดีเพื่อตอบไม่ได้ใช้นิ้วชี้เลย..ใช้บ่อย -เตรียม dictionary อังกฤษ-ไทย ไปด้วยเก็บไว้ให้ดีเหมือน visa เลยนะรักเท่าชีวิต -สำคัญสุดคือหาข้อมูลก่อนการเดินทางให้แน่นๆ ครับแล้วปริ้นเก็บไปด้วยก็ได้ เรียนรู้ภาษาอังกฤษพอพูดได้แบบง่ายๆ ก็ดีครับเพื่อเรียกความมั่นใจ การเดินทางโดยเครื่องบินเป็นครั้งแรก เวลาเดินทางโดยเครื่องบิน จะต้องไป check in (ลงทะเบียนขึ้นเครื่อง) ที่เคาน์เตอร์ของสายการบินที่เราใช้บริการ เอากระเป๋าเดินทางไปชั่งน้ำหนัก ห้ามพกของเหลวตั้งแต่ 100 มิลลิลิตร ขึ้นเครื่อง หลังจาก check in จะมีใบ BOARDING PASS ( ใบผ่านทางขึ้นเครื่อง) ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้ 1) จะมีชื่อ-นามสกุลของผู้เดินทางค่ะ เช่น NAREE SUWAN 2) DESTINATION ( จุดหมายปลายางที่เราจะไปค่ะ) 3) FLIGHT (สายการบิน ) เช่น DD 7400 (เป็นสายการบินของนกแอร์) TG (เป็นของการบินไทย) 4) DATE ( วันที่เครื่องบินออก) 5) SEAT (เลขที่นั่ง) 6) GATE (ประตูเข้าที่ผู้โดยสารใช้ขึ้นเครื่อง) เช่น GATE 81 ให้ไปที่ประตูที่81 เพื่อเตรียมขึ้นเครื่องที่ประตูดังกล่าว 7) BOARDING TIME (ขึ้นเครื่องเวลา) 8) CLASS (ชั้น) เช่น CLASS B 9)BAGGAGE TAGS (จะระบุน้ำหนักของกระเป๋าเดินทาง) NOTE (หมายเหตุ) - PLEASE BE AT THE DAPARTURE GATE 20 MINUTES BEFORE DEPARTUR TIME. ก่อนเวลาจะออก โปรดมาถึงประตูก่อน 20 นาที - NON SMOKING FLIGHT (ห้ามสูบบุหรีบนเครื่อง) BOOKING NUMBER ( เลขที่จอง) เช่น 4340505 จากคุณ : *SUPRA* - [ 13 พ.ค. 52 11:54:57 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เทคนิคผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองในอเมริกา ต้องยอมรับว่าลงจากเครื่องบินเข้าอเมริกาทีไร เครียดที่สุดก็ตอนผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองนี่แหละครับ แนะนำได้นิดหน่อยไม่ได้เดินทางบ่อยครับ แต่งตัวดี ๆ ผมเองนี่โดนมาแล้วแต่งตัวสบาย ๆ คล้าย ๆ ชุดนอนตอนอยู่บนเครื่องพอลงมาไม่ได้เปลี่ยนชุด เครื่องพวกคนในเครื่องแบบเรียกตรวจแล้วเรียกอีก หลัง ๆ นี่จะพยายามใส่เสื้อเชิ้ตแขนสั้นเป็นอย่างน้อย ตอบคำถามสุภาพ แต่เป็นกันเอง เราจะโดนตรวจเอกสารเข้าเมืองกันตั้งแต่ก่อนจะขึ้นเครื่องอยู่แล้ว เจ้าหน้าที่ขาเข้านี่ก็แค่ถามคำถามนิดหน่อยให้แน่ใจว่าเราเป็นคนเดียวกับบนเอกสารเท่านั้น เขาก็จะถามคำถามทั่วไปประเภทว่า มาทำอะไรที่อเมริกา ทำไมออกไปหลายเดือน ไปทำอะไรที่ต่างประเทศ เป็นต้น เราก็ตอบไปให้มันเป็นธรรมดาที่สุด ไม่ต้องไปตอบอะไรยาก ๆ ที่ต้องอธิบายเยอะ ถ้ายกกระเป๋าไม่ไหว หาคนช่วย เดี๋ยวนี้คนสูงอายุเดินทางคนเดียวก็มาก ถ้าเอากระเป๋าออกจากรางเองไม่ไหว ก็เรียกคนลากกระเป๋าแถว ๆ นั้นให้ช่วย เสร็จแล้วก็ทิบให้อย่างน้อยใบละหนึ่งดอลลาร์ ถ้าสูงอายุและไม่ค่อยอยากจะเดิน ให้บอกสายการบินแต่แรกว่าต้องการรถเข็นเขาก็จะดูแลเครื่องกระเป๋าให้ด้วย สะดวกดีครับ อย่าใส่ว่าไม่ได้เอาอะไรเข้ามาเลย ตอนเข้าเมืองนี่จะต้องกรอกใบด้วยว่าขนอะไรมาบ้าง ให้ใส่ไปตามสมควร อย่างใส่ว่าไม่มีอะไรเลย มูลค่าศูนย์ดอลลาร์ อันนี้น่าสงสัยมากครับ จะถูกซักถามนาน ให้กรอกว่ามีเสื้อผ้า ของใช้ อาหารแห้ง อะไรตามที่มีพร้อมกับมูลค่าที่เหมาะสม ล๊อคกระเป๋าได้ แต่ต้องเป็นรุ่นที่ให้เฉพาะเจ้าหน้าที่เปิดได้ กระเป๋ากับล็อครุ่นใหม่ ๆ ที่เรียกว่า TSA-Approved จะเป็นล็อคที่มีรูพิเศษให้เจ้าหน้าที่ตรวจกระเป๋าเปิดได้ แต่ก็กันให้คนอื่น ๆ เปิดไม่ได้ ทำให้เราอุ่นใจขึ้นอีกนิดนึง ที่เหลือก็เป็นเรื่องทั่วไป ๆ เช่นให้กระจายของส่วนตัวไปทั้งสองกระเป๋าเพื่อกระเป๋าหายหรือหลงไปที่อื่น แล้วก็ตรวจสอบล่วงหน้าว่าหนักที่สุดที่สายการบินยอมให้เอากระเป๋านั้นเท่าไหร่ ถ้าจะต้องต่อเครื่องในประเทศ ก็ต้องเช็คกับกับสายการบินในประเทศด้วย ตอนปี 2008 ต้นปี นี่ระหว่างประเทศ 75 lbs ในประเทศ 50 lbs (~23.5 kg) สำหรับคนที่จะเดินทางมาอเมริกาเป็นครั้งแรก แล้วยังหวั่นใจอยู่ว่าชีวิตภายภาคหน้าจะเป็นอย่างไร ลองหาซื้อหนังสือคู่มือเอาตัวรอดในอเมริกา ของคุณแปซิฟิกมาอ่านดูก็จะพอเห็นภาพได้บ้างนะครับ สำหรับท่านที่ต้องการรายละเอียดเรื่องอื่น ๆ ขอเชิญอ่านเป็นภาษาอังกฤษที่ TSA ได้โดยตรงนะครับ ที่มา http://www.naimiang.com/incoming-to-america/ จากคุณ : *SUPRA* - [ 13 พ.ค. 52 11:57:24 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เพิ่งไปช่วงสงกรานต์เหมือนกันค่ะ  ถ้าไปเป็นกรุ๊ป  ให้เดินเข้าไปทั้งกรุ๊ปเลย  จะง่ายกว่า  ของเราเจอแต่คำถามประมาณนี้ 1. What are your purpose?  มาทำอะไรกัน  ก็ตอบไปเลย  I'm a tourist. 2. How many day (How long) are you stay in UK?  อยู่กันกี่วันล่ะ   อันนี้คือ  ขาเข้าครั้งแรกค่ะ พอดีเดินทางออกไปเที่ยว Paris ด้วย  พอขากลับเราเข้าแถว  ตม. คนละแถวกับเพื่อนๆ  เพราะแถวมันยาว  เจอป้าแก่ๆ  ถามซะละเอียดยิบเลย  ประมาณว่า  มากันกี่คน    แล้วเพื่อนเธอไปไหนล่ะ  เราก็บอกว่าเข้าไปแล้ว  ปรากฏว่าป้าแกก็ถามต่อ  แล้วจะกลับเมืองไทยวันไหน  เราก็บอกไป  ป้าแกก็ขอดูตั๋วเครื่องบินขากลับ  แต่เราไม่ได้เอาไปด้วย  เพราะเก็บไว้ที่บ้านเพื่อนที่ UK ไง  แกก็ซักอีกพักนึงก็ปล่อยเราไป ขอเอาใจช่วยคุณ  Philipbkk  นะคะ  ใจเย็นๆ ค่อยๆฟัง  ไม่ต้องตื่นเต้น  ภาษาเราก็ไม่ดี  ยังรอดมาแล้วค่ะ แก้ไขเมื่อ 13 พ.ค. 52 14:04:43 จากคุณ : redvirus - [ 13 พ.ค. 52 14:03:48 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เพิ่งผ่านด่านประเทศนี้มาเมื่อ2เดือนก่อนค่ะ เป็นการทรานสิทเพื่อต่อไปยังประเทศอื่น นึกว่าจะไม่ต้องผ่านตม. แต่ก็มีเหตุให้ต้องเข้าไปจนได้ แถมเราไม่มีวีซ่า UK ด้วย (เพราะไปเปลี่ยนเครื่องเฉยๆในเว็บไซต์ของสถานทูตบอกว่าคนไทยไม่ต้องวีซ่า ตอนไปทรานสิทที่ลอนดอนค่ะ) ภาษาอังกฤษเราก็ไม่ได้ดีมากเหมือนกัน ก่อนไปก็กลัวๆเหมือนคุณเลย สิ่งที่เตรียมก็คือ -เอกสารที่ยืนยันว่าเราไม่ต้องใช้วีซ่า print ไปจากหน้าเว็บนั่นแหล่ะ - ตั๋วเครื่องบินที่จะไปต่อ/ตั๋วเครื่องบินขากลับ - ใบจองที่พักของประเทศที่จะไปต่อ - แผนการเดินทางต่างๆของเรา ปรากฏว่า เขาทำท่าจะไม่ให้ผ่าน แต่พอดูเอกสารแล้ว ก็ถามเรามาว่าทำงานอะไร? (ตอนแรกฟังไม่ค่อยเข้าใจ แบบว่าสำเนียงพี่เขาอังกฤษมากๆ) พอตั้งสติได้ เลยบอกไปว่า เป็นคนเขียนหนังสือค่ะ พี่แกเปลี่ยนสีหน้าเป็นยิ้มแย้ม แล้วปั๊มวีซ่าทรานสิทให้ผ่านไปต่อเครื่องได้ ส่วนของคุณ ถ้ามีวีซ่าUK ประทับเรียบร้อย ก็ถือว่าไม่น่ากังวลในระดับหนึ่งนะคะ เหมือนที่เพื่อนๆข้างบนแนะนำแหล่ะค่ะ -ตั้งสติให้ดีๆ -แต่งตัวดีๆ - เตรียมเอกสารพวกใบจองที่พัก ที่อยู่ แผนที่ หรือแผนการเดินทางที่คุณทำไว้(ถ้าเขาขอดู) - พยายามฟังที่เขาพูด จับศัพท์ที่ฟังถนัดๆ ถ้าไม่แน่ใจก็ย้อนคำถามกลับไป ตอบทุกอย่างตามความเป็นจริง - สุดท้าย นึกอยู่เสมอว่า ถ้าเราไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมาย เขาก็ไม่ทำอะไรเราหรอกค่ะ ปล.ตม.บางคนอาจแก๊กหน้าดุ แต่ที่จริงก็ใจดีนะคะ คุณก็แค่ยิ้มแย้ม สุภาพ มีสติ ขอให้โชคดีนะคะ จากคุณ : โดดเด่นในร้านหมูกะทะ - [ 13 พ.ค. 52 14:18:45 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เราเจอสามคำถามค่ะ 1. What is your purpose?  มาทำอะไรที่นี่จ๊ะ ตอบแบบเพื่อนข้างบน tourist ค่า 2. How many day (How long) are you stay in UK?  อยู่กี่วัน เราอยู่ 2 วันค่า 3. where are you going to stay? จะพักที่ไหน เราตอบไปว่าเราพักบ้านเพื่อนค่ะ แก้ไขเมื่อ 13 พ.ค. 52 23:25:22 จากคุณ : bunny2teddy - [ 13 พ.ค. 52 19:10:14 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ของเราถามว่าจะมากี่วัน มาทำอะไร พอเราบอกว่ามาเที่ยวก็ถามว่าไปที่ไหนบ้าง แค่นี้แหละค่ะ จากคุณ : yuki_shimi - [ 13 พ.ค. 52 21:50:49 ]