ความคิดเห็นที่ 1 ไม่มีความรู้ด้านนี้เท่าไหร่นักนะคะ แต่ถ้าเอาแบบที่เราชอบ ก็คง อยากให้มีมุมปาร์ตี้ส่วนตัว แบบมีเตาปิ้ง ย่าง ไรงี้อะค่ะ บ้านแต่ละหลังก็แยกสัดส่วนชัดเจน ร่มรื่น ตอบ ๆ ไปเหมือนจะช่วยอะไรไม่ได้เลยอะ แฮ่ ๆๆ ^^" จากคุณ : ปังเย็นยูเนี่ยน - [ 15 พ.ค. 52 01:19:04 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ในฐานะนักออกแบบ จะบอกว่า มันมีหลายเรื่องที่เราต้องนำมาคิดเพื่อสร้างเรื่องราวในการออกแบบ ที่จะสื่อให้แขกได้ประสบการณ์ดีๆกลับไปนะคะ เป็นเรื่องราวเฉพาะตัว เฉพาะท้องถิ่น หรืออะไรก็แล้วแต่ ไม่ใช่แบบที่ทำกันตามกระแส เห็นเขาทำแล้วดีก็พากันทำตาม แบบนั้น มันจะไม่ได้อารมณ์ของแขกที่ไปโฮมเสตย์ ก่อนอื่นเราควรจะคิดก่อนว่า พื้นที่นั้นมีอะไรดี เอกลักษ์ของพื้นที่คืออะไร ลักษณะสถาปัตยกรรมท้องถิ่นเป็นอย่างไร ตรงนี้จะช่วยในการวางแนวความคิดได้มาก ขออนุญาตแนะนำให้หาข้อมูลในวิทยานิพนธ์ของนศ.สถาปัตยกรรมนะคะ มีคนทำเรื่องโฮมเสตย์กันเยอะค่ะ อยากให้ผลงานวิชาการเหล่านี้ได้ใช้ประโยชน์กันจริงๆซะที ไม่รู้ช่วยไร จขกท.ได้ป่าวเนอะ ^^ จากคุณ : ชัตโตะ - [ 15 พ.ค. 52 01:23:51 ]

ความคิดเห็นที่ 3 "#"  ขอบคุณค่ะ  ก็จริงนะคะ เราควรนำเสนอสิ่งดีๆๆให้เค้าประทับใจ เราอยู่จังหวัดสิงห์บุรีค่ะ ก็จะมีพวกของพื่นบ้าน แล้วก็วัดต่างๆๆ มันเพิ่งเป็นไอเดียตอนนี้อ่ะค่ะ ยังต้องหาข้อมูลอีกเยอะ พี่ๆเพื่อนๆคนไหนมีไอเดีย หรือ ข้อมูลดีๆๆ ช่วยกรุณาด้วยนะคะ ขอบคุณมากค่ะ จากคุณ : puayseang (puayzeang) - [ 15 พ.ค. 52 01:50:27 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ขอเสนออย่างนึงครับ ควรมีแพคเกจกิจกรรมดีๆในท้องที่ หรือในหมู่บ้านให้ลองทำ หรือลองเรียนรู้นะครับ เช่นๆๆๆ   เช้ามีพาไปตักบารทำบุญ บ่ายล่องลำน้ำ แอบดูพี่ๆหาปลาริมแม่น้ำน้อย แวะไปดูเตาเผาแม่น้ำน้อย บลาบลา หรือว่า บ่ายๆ มีนวดแผนไทย สอนทำขนมในชุมชน หรือ มีแบบว่า พาไปแวะกลุ่มแม่บ้าน ชวนทำของโอทอปกินกัน น่าสนุกดีนะครับ ดีกว่านอนเล่นๆอยู่บ้านอ่ะครับ จากคุณ : โอ๊ต-ครับ-ผม - [ 15 พ.ค. 52 02:08:07 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ขอเสนอบ้างคะ ในความคิดส่วนตัวนะคะ บ้านควรจะมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง แบ่งสัดส่วน ไม่ต้องสะดวกสบายมาก เพราะชื่อก็บอกอยู่แล้ว ว่า วิถีชาวบ้าน ไม่ใช่ชาวกรุง แต่เน้นสะอาดปลอดภัย กิจกรรมก็เอาตามคห.บนๆบอกนะคะ อย่าสร้ารงอะไรที่มันไม่ใช่ของพื้นบ้าน ไปดูว่าชาวบ้านประกอบอาชีพ หากิจกรรมให้ทำ ขอให้โชคดีนะคะ จากคุณ : แอบหลับ - [ 15 พ.ค. 52 07:46:33 ]

ความคิดเห็นที่ 6 สำหรับดิฉันคิดว่าการพักโฮมสเตย์คือการได้เรียนรู้วิถีชีวิตการเป็นอยู่ของเผ่า หมู่บ้าน สถานที่นั้นๆ ว่าเค้ากินอยุ่กันยังไง เราอยุ่แบบบ้านๆ หรืออาศัยในบ้านของเจ้าของเลย หรือถ้าทำเป็นสัดส่วน ควรเน้นในรุปแบบบ้านๆ เหมือนอย่างโฮมสเตย์ชาวเขาในภาคเหนือ เราได้อาบน้ำกลางแ้จ้ง หุงหาอาหารกินเองเหมือนชาวเขาดู คือมันสนุกและได้บรรยากาศการใช้ชีวิตที่แตกต่างไปจากเมืองกรุง เน้นวิถีชีวิตการเป็นอยู่ในรูปเดิมของสถานที่นั้นๆ ค่ะ จากคุณ : South East Bangkok - [ 15 พ.ค. 52 07:56:55 ]

ความคิดเห็นที่ 7 พาไปตกปลาช่อน ปลาชะโดครับ แถวนั้นมีเพียบ จากคุณ : Special Force - [ 15 พ.ค. 52 08:23:42 ]

ความคิดเห็นที่ 9 คิดว่าต้องเข้าใจก่อนว่าโฮมสเตย์ คืออะไร ที่พักแบบโฮมสเตย์ คืออะไร ที่พักแบบโฮมสเตย์ มีการจัดการกี่แบบ คิดว่าพวกนี้ต่างหากจะทำให้รู้ว่า เราควรจะทำอะไร แบบไหน เท่าไหร่ อย่างไรบ้าง หามันให้เจอก่อนครับ แล้วจะรู้ว่าอะไรที่เหมาะสมกับสภาพของเรา เหมาะกับสภาพแวดล้อมชุมชนที่เราอยู่ เหมาะสมกับสถานะภาพทางการเงินของตัวเราเอง จากคุณ : taraytai - [ 15 พ.ค. 52 09:12:42 ]

ความคิดเห็นที่ 10 สิงห์บุรี? ว้าว มีวัดเยอะ ปลาอร่อย ขนมเปี๊ยะ แม่น้ำเจ้าพระยา และอิฐ ใช่มิๆ อยู่แถวแม่น้ำไหมคะ ถ้าวิวสวยดีก็เปิดหน้าบ้านให้ชมวิวให้เต็มที่ แต่ถ้าไม่มีวิวอะไรพิเศษ ก็ทำระเบียงให้รับลมสบายๆ อิฐของจังหวัดน่าจะทำให้มีเอกลักษณ์ได้ จากคุณ : ซาซา (ซาลาสซา) - [ 15 พ.ค. 52 09:13:20 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ขออนุญาตแนะนำนะคะว่า ที่ไหนที่เริ่มทำโฮมสเตย์อีกหน่อยมันมักจะกลายเป็นธุรกิจ ซึ่งทำให้เสน่ห์ความเป็นโฮมสเตย์หายไปในที่สุด ฉะนั้น ควรรีบรวมตัวกันพูดคุยเรื่องนี้ อยากให้ฟังความเห็นของนักท่องเที่ยวอย่างที่คุณกำลังทำอยู่นี่แหละค่ะ สิ่งที่สำคัญในโฮมสเตย์คือความหมายของคำว่า โฮม ที่ไม่ใช่ เฮาส์ เมื่อนักท่องเที่ยวไปพักต้องให้ความรู้สึกว่าเหมือนมาเที่ยวบ้านเจ้าของถิ่นที่มีน้ำใจ หากต้องใคร่ครวญเรื่องค่าใช้จ่าย ความคุ้มหรือไม่คุ้มแล้ว ...ถ้าต้องมานึกถึงอะไรแบบนี้จนมากเกินไปเมื่อไหร่ มันก็จะไม่ใช่โฮมสเตย์แล้ว มันคือธุรกิจ การทำโฮมสเตย์คือการพึ่งพากันระหว่างเจ้าของบ้านและนักเดินทาง เคยพาเพื่อนฝรั่ง(ผู้หญิง) ไปนอนเล่นที่โฮมสเตย์แห่งหนึ่งที่อัมพวา เราสองคนนอนอยู่ในบ้านไม้เก่าหลังใหญ่ริมน้ำ ระเบียงกว้างมาก ในบ้านหลังนี้มีคุณลุงแก่ๆอยู่คนเดียว แต่มีบ้านพี่น้องอยู่ในรั้วเดียวกัน ทำโฮมสเตย์ร่วมกัน เราสองคนไม่ได้นอนในห้องนอน กางมุ้งนอนหน้าครัว กลางวันก็นอนขี้เกียจกันอยู่ที่ระเบียงริมน้ำที่กว้างมาก ซื้ออาหารจากเรือที่ผ่านมา (ถูกมาก) ใส่บาตรพระที่พายเรือมาตอนเช้า เสียเงินหัวละ 150 ต่อคืนพร้อมกาแฟ ชา ทั้งวัน คืนสุดท้ายย้ายไปนอนที่ตลาดอัมพวา หาที่พักแทบตาย มีที่นึงหัวละ 300 บาท พร้อมกาแฟเช้าเหมือนกัน ห้องกะจิ๋วหลิวในบ้าน ที่ดูไม่พร้อมรับแขก เพื่อนเราไม่ยอม เพราะอย่าลืมว่า เวลาไปพักบ้านริมทะเลตามเกาะนี่ หลังละ 600 บาท ได้ความเป็นส่วนตัวกว่า ติดหาดด้วย และส่วนใหญ่จะไม่ถึง 600 ด้วยซ้ำสำหรับสองคน ที่สำคัญ ที่บ้านหลังนี้ หน้าตาดูไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่เมื่อเราตัดสินใจไม่เอา (ของเค้าไม่ติดคลองด้วย อยู่ในตรอก) จนในที่สุดก็เดินมาถึง บ้านเลียบนทีของคุณป้าคนหนึ่ง ห้องเล็กเต็ม ส่วนห้องใหญ่สำหรับแขกที่มาเป็นสิบคน คุณป้าก็เลยให้คนไปจัดการปัดกวาดห้องที่ยังร้างอยู่ ไม่มีที่นอน ห้องน้ำยังไม่ได้ทำต้องมาเข้าที่ห้องอื่นแทน แต่ติดคลอง มีความเป็นส่วนตัวมาก ห้องเบ่อเร่อ เราสองคนพอใจมาก คนละ 200 บาทเอง มีกาแฟ ชา ให้ในห้องด้วย ที่สำคัญเจ้าของน่ารักมาก นักเดินทางหลายคนไม่ได้อยากทำกิจกรรมอะไรมากมาย แค่อยากมาใช้ชีวิตร่วมกับสังคมตรงนั้น อยู่เงียบๆ สงบ ร่มรื่น ตกเย็นอาจทานข้าวด้วยกัน พูดคุยกัน ใช้ชีวิตแบบไม่ต้องสร้างมันขึ้นมา กับสิ่งที่คุณมีอยู่ นั่นมันก็แตกต่างจากวิถีชีวิตชาวเมืองมากพอแล้วค่ะ ที่ของคุณ ควรสร้างบ้านขึ้นมาหลังเดียวก็พอ ให้เป็นบ้านของคุณ ให้อยู่ร่วมกันภายใน ไม่ต้องมีห้องเยอะมาก ทีโถงโล่งๆให้นอนด้วยก็ดี ลองนึกดูว่าสถาปัตยกรรมเก่าแก่ของสังคมคุณเป็นยังไง ดำรงตรงนั้นไว้ แล้วบ้านของคุณจะเป็นโฮมสเตย์ในฝันของนักเดินทางค่ะ จากคุณ : khorbfaa - [ 15 พ.ค. 52 09:18:42 ]

ความคิดเห็นที่ 12 คิดจะทำโฮมสเตย์เหมือนกัน บ้านเรามีพื้นที่บ้านเป็นสวนผลไม้ ก็เลยอยากเอาความคิดมาแชร์กัน ที่คิดๆไว้คือ เราจะไม่สร้างบ้านเพิ่มนะ แต่ให้พักในบ้านของเราโดยแบ่งเป็นสัดส่วน เพราะคิดว่าการมาพักโฮมสเตย์ มันเป็นกลุ่มคนเฉพาะที่ไม่เน้นความหรูหรา อยู่แบบเรียนง่าย และต้องการศึกษาความเป็นอยู่ของผู้คนในสังคมนั้นๆ จัดทริปเล็กๆคือให้ทานผลไม้ในสวนเราได้ตลอด เดินพาชมสวนและวิธีการดูแลรักษา เก็บเกี่ยวผลผลิต มีบริการอาหารเย็น อาหารเช้า รวมอยู่ในทริปเล็กๆของเรา และใกล้ๆบ้านจะมีจุดชมฝูงปลาโลมา ก็จะพาไปเที่ยว ดูป่าชายเลน ถ้านักท่องเที่ยวต้องการไปเที่ยวทะเลหรือที่อื่นๆ ถ้าสามารถพาไปได้ก็จะบริการให้เต็มที่ หรือแนะนำที่เที่ยวที่อื่นๆในจังหวัด พื้นที่ของเราเป็นชาวบ้านธรรมดา ไม่รู้เรื่องธุรกิจมากนัก ไม่รู้จักที่พัก ร้านอาหารที่เราจะได้เปอร์เซนต์การแนะนำ แต่เราต้องการสร้างบรรยากาศใหม่ๆ และ ทางเลือกให้นักท่องเที่ยวที่ชอบแนวนี้ ความคิดอย่างหนึ่งที่เราคิดคือ เราควรจะดำรงวิถีชีวิตของเราไว้ นั่นคือสิ่งที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวแบบโฮมสเตย์ และอย่าลืมยิ้มแย้มแจ่มใส แค่เราบริการดี ให้ความรู้สึกดีๆกับนักท่องเที่ยว เราว่าน่าจะเป็นสิ่งที่จะทำให้นักท่องเที่ยวนำไปพูดกันปากต่อปากโดยที่เราไม่ต้องมีการทำการตลาดใดๆ หวังว่าจะเป็นความคิดเห็นที่พอจะเอาไปใช้ได้ไม่มากก็น้อยนะจ๊ะ จากคุณ : langjuko - [ 15 พ.ค. 52 09:49:03 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ขอเสนอในฐานะคนเข้าพัก อย่างน้อยๆ อยากให้มีพวกความจำเป็นพื้นฐานครบครัน ที่หลับที่นอนพร้อม(ไม่ต้องดีเลิศ แต่นอนได้ไร้กังวล) ห้องน้ำห้องท่าสะดวกปลอดภัย สำหรับเราแค่นี้อยู่ได้แล้ว จากคุณ : Amecchi - [ 15 พ.ค. 52 10:44:26 ]

ความคิดเห็นที่ 14 นี่ถ้าแจกกิ๊ฟได้เยอะๆ ก็จะให้กับ คห.ที่ 11 ท่วมท้นเลย เหอเหอเหอ ตรงใจมากเลยครับ คนไทย เวลากระแสหรือเห่ออะไรเข้าที เรื่องนั้นๆ ก็กลาย กลาย กลายไปเรื่อยๆ จนกลายเป็นอีกเรื่อง โดยเฉพาะเป็นเรื่องของธุรกิจ อย่า case ที่ผมจำฝังใจก็คือ case ของคำว่า garage sale หรือการเปิดท้ายขายของ (เจ้าของเอามาขายเองแบบมือสอง) เดี๋ยวนี้มันกลายๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ไปเยอะแล้ว คำนี้ดูไม่มีเสน่ห์นัก เพราะปัจจุบันมันเกร่อ แล้วก็เกร่อมาก เปิดท้ายขายของ คือ การนำรถมาจอดแล้วก็ขาย (จะใหม่จะเก่า ก็เรียกเปิดท้ายขายของ) เปิดท้ายขายของ คือ ให้จองพื้นที่เป็นร้านกันโต้งๆ นี่แหละ แล้วก็ขาย (แบบนี้จะเรียกว่าเปิดท้ายขายของกันทำไมฟะ) ไม่เถียงครับว่าเปิดท้ายฯ จริงๆ ก็ยังมีอยู่ แต่เสน่ห์เดิมๆ หายไปหมดเลย อย่าง โฮมเสตย์ นี่ก็เหมือนกัน จริงๆ แล้ว โฮมเสตย์ ก็คือ การมาพักกับวีถีชีวิตจริงๆ ของคนในชุมชนนั้นๆ คุณไม่ต้องเปลี่ยนแปลงอะไรของตัวคุณครับ คนที่ไปพักเค้าจะเปลี่ยนแปลงตัวเขาเองเพื่อปรับให้อยู่กับสังคมและชุมชนคุณ คนที่ต้องการไปพักแบบโฮมเสตย์ ก็คือคนที่อยากเลือกและตัดสินใจอยากไปใช้ชีวิตกับชุมชนของคุณ ไม่ใช่...คนที่อยากไปเช่าบ้านที่คุณสร้างขึ้นเป็นหลังๆ ที่ไม่ต่างอะไรกับรีสอร์ทหรือโรงแรม ทำอย่างนั้นไม่ได้เรียกว่า โฮมเสตย์ หรอกครับ แต่อย่างว่า...กระแสมาก็เลยแห่และเห่อจนทำให้เสน่ห์ที่แท้จริงของคำว่าโฮมเสตย์เริ่มหายไป หายไป แล้วก็หายไป ครับ คนไทยกำลังทำให้คำว่า โฮมเสตย์ บิดเบือนไป เริ่มใกล้เคียงกับ รีสอร์ท หรือ โรงแรม เสน่ห์ดีๆ กำลังจะถูกกลืนหายไป ขอฝากกับผู้ที่อยากทำ และอยากเที่ยวแบบโฮมเสตย์ สำหรับการพักแบบโฮมเสตย์แล้ว เจ้าของบ้านจะมองคนที่เข้ามาพักว่าเป็น "แขก" ที่เขาจะต้อนรับขับสู้อย่างมีไมตรี แต่ถ้าคุณมองคนที่มาพักว่าเป็น "นักท่องเที่ยว" ที่มาเช่าบ้าน หรือเช่าห้องของคุณอยู่เฉยๆ (โดยคุณเป็นแค่เพียงคนเดินมาเก็บสตางค์) นั่นไม่ใช่ โฮมเสตย์ แล้วล่ะครับ ถ้าคิดแบบนั้นผมว่าคุณเปิด รีสอร์ท หรือ โรงแรม ยังจะถูกชื่นชมซะยิ่งกว่า จากคุณ : fastfolk - [ 15 พ.ค. 52 18:34:52 ]

ความคิดเห็นที่ 15 พูดอีกถูกอีกค่ะ ที่บ้านใกล้โรงเรียน ตลาด และใกล้กิจกรรมที่สามารถโชว์ความเป็นพื้นบ้านได้อยู่เยอะพอสมควร อืมม  แต่ยังต้องเก็บข้อมูลอีกเยอะอ่ะค่ะ ขอบคุณทุกๆๆคำแนะนำนะคะ จากคุณ : puayseang (puayzeang) - [ 16 พ.ค. 52 00:36:46 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ไปโฮมสเตย์มาหลายที่ แต่ตอนนี้ไม่ค่อยชอบที่อัมพวา เพราะมันเน้นธุรกิจเกินไป ดูไม่ค่อยจะอบอุ่นและเป็นกันเองเท่าไหร่ อย่างที่หลายท่านบอกไว้ คนที่คิดจะไปพักโฮมสเตย์ ไม่มีใครหวังจะได้รับความสะดวกสบายหรือได้รับการปรนนิบัติเหมือนโรงแรม 5 ดาวอยู่แล้ว แต่ที่ต้องการคือ การได้พักผ่อนในสถานที่ๆทำให้รู้สึกเป็นกันเองและการได้รับการเอาใจใส่เหมือนลูกหลานคนหนึ่ง ขอแค่นั้น ส่วนโฮมสเตย์ที่ไปแล้วประทับใจที่สุดคือที่เกาะพิทักษ์ ที่ชอบเพราะพี่พรคนดูแล เอาใจใส่เรามากๆ มากจนเรารู้สึกว่าพี่เค้าทำมากกว่าเงินที่เราจะจ่ายให้ไปอีก (ปกติเป็นคนงกนะเนี่ย ยังคิดแบบนั้นเลย) ปล. เป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ อาจไม่ตรงกับที่ จขกท.ถามสักเท่าไหร่ แค่อยากจะแนะว่าถ้าทำจริงแล้ว พยายามเอาใจใส่ลูกค้า และสร้างความเป็นกันเองเค้าไว้ ถ้าเค้าประทับใจ จะพูดปากต่อปากกันเรื่อยๆเองครับ จากคุณ : joker99 - [ 16 พ.ค. 52 01:37:40 ]