ความคิดเห็นที่ 1 โชคดีที่ปลอดภัยครับ กำลังจะไปช่วง ตุลาคม ไม่ทราบว่ามีรูปของ campervan แบบที่ว่ามั้ยครับ จากคุณ : CLK BRABUS - [ 18 พ.ค. 52 14:42:41 ]

ความคิดเห็นที่ 2 น่ากลัวจังค่ะ  โชคดีที่ทุกคนปลอดภัย จากคุณ : ลอดช่องแตงไทย - [ 18 พ.ค. 52 14:53:59 ]

ความคิดเห็นที่ 3 รูปภายในเหรอคะ? มีค่ะ  เพราะตอนแรกตั้งใจจะเขียนลงบล๊อคตัวเองอยู่แล้วเลยถ่ายไว้ แต่ถ้ารูปตอนตะแคงลงข้างทางไม่มีค่ะ เพราะตอนนั้น 4 คน นั่งเบียดกันอยู่ในรถเชอโรกี ของ Local ที่มาช่วยออกจาก Campervan  หน้าแต่ละคนเหลือ 2 นิ้วกัน  ไม่มีใครกล้าออกมาเผชิญกับลมที่แรงมากเลย  เลยไม่ได้เก็บภาพไว้ให้ดูกัน  เสียดายเหมือนกันค่ะ จากคุณ : NSIRIV - [ 18 พ.ค. 52 15:18:28 ]

ความคิดเห็นที่ 4 thankssssssssssssssssss จากคุณ : Champion - [ 18 พ.ค. 52 15:24:27 ]

ความคิดเห็นที่ 5 พอดีพึ่งถึงเมื่อเช้านี้เอง  เห็นว่าช่วงนี้คนไทยไปแยะ  เลยรีบมาเตือนก่อน ถ้าใจร้อนเข้าไปดูในเว็ป Maui ได้นะคะ  พวกเราใช้ 4 spirit กัน แต่ Campervan รุ่นอื่นก็โดนเหมือนกันค่ะ รถเก๋ง ยังลื่นไถลเลย  เพียงแต่การทรงตัวอาจจะดีกว่า ถ้าใครไปแล้วเจอลมแรง  น่าจะเปลี่ยนเป็นเลือกเส้นทาง สาย 1 แทน เส้นทางสาย 72 ช่วงเช้า ลมจะยังเบา  ช่วงบ่าย  ลมจะแรงขึ้น  คิดว่าเป็นเพราะอุณหภูมิที่แตกต่างมาก  ทำให้ ช่วงบ่าย ลมแรงมาก แก้ไขเมื่อ 18 พ.ค. 52 15:29:11 จากคุณ : NSIRIV - [ 18 พ.ค. 52 15:27:22 ]

ความคิดเห็นที่ 6 หลังจากที่ Local ช่วยเราแล้ว  เค้าขับพาเราตัดเข้าสายตัวเมือง  แล้วพาเราไปพักในเมือง  ตอนนั้นพึ่งจะบ่าย 3 โมงกว่า  และวันรุ่งขึ้น  เราจะบินกลับแล้ว  ห่างจากไครสเชิร์ต แค่ 1 ชม. เศษ  เราก็เลยให้เค้าหารถพาเรากลับไครสเชิร์ต เพราะจอง YHA ไว้แล้วด้วย   ปรากฏว่าไม่มีรถยอมไปค่ะ  คนที่รับเหมารถ Shutter เค้าบอกว่า พักที่นี่ก่อน  แล้วพรุ่งนี้จะไปส่งให้  คงเพราะตอนเช้า ลมจะเบากว่ามาก คืนนั้นนอนฟังเสียงลมทั้งคืน  น่ากลัวมากเลย พอตอนเช้า ก็สงบลงมาก  ไม่รู้ว่าบ่ายวันถัดไปจะเป็นอีกรึป่าว? จากคุณ : NSIRIV - [ 18 พ.ค. 52 15:32:17 ]

ความคิดเห็นที่ 7 แค่ขับตัดเข้าสายตัวเมือง  ลมเบาไปมาก   เราถาม Local ว่า  ลมหายไปไหนหมด เค้าบอกว่า สาย 72 เป็นเส้นทางดักลม  สังเกตุว่าตลอดทาง จะมีต้นไม้ปลูกกันลมตลอด Local ยังพูดว่า  จริงๆ สาย 72 น่าจะขึ้นป้ายเตือนสำหรับ Campervan ในวันที่ลมแรง  หรือ Close สำหรับ Campervan เลย ไม่ใช่แค่ขึ้นว่า Road Open หรือว่า Close เท่านั้น ถ้าใครจะใช้ Campervan ไปเส้นนั้น ก็แนะนำให้วิ่งช่วงเช้าดีกว่านะคะ ปลอดภัยไว้ก่อนค่ะ จากคุณ : NSIRIV - [ 18 พ.ค. 52 15:36:39 ]

ความคิดเห็นที่ 8 คิดเหมือนกันครับว่าถ้าไปเกาะใต้จะเช่า Campervan ขับเหมือนกัน ต้องขอบคุณที่นำมาเล่าให้ฟังครับ จากคุณ : Unimpressionism - [ 18 พ.ค. 52 15:36:44 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ยินดีค่ะ  กำลังคิดว่า จะบอกขั้นตอนรายละเอียดด้วยว่า ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ต้องทำไงบ้าง  ดีรึป่าว? ไม่ได้บอกเพื่อให้กลัวจนเกินไปนะคะ  แต่สภาพอากาศที่เจอแปรปรวนจริงๆ ขนาด เส้น Arthur pass  ยังเจอหิมะ  ตำรวจมาเตือนเลยว่า  ถ้าไปอีกหน่อยไม่ดีขึ้น  ให้ใส่โซ่ด้วย ดีที่ไปอีกหน่อยนึง  หิมะเริ่มเบาบาง วันนึง เจออากาศเกือบ 4 แบบ หิมะ  แดดเปรี้ยง  ลม  ฝน ครบเลยจริงๆ จากคุณ : NSIRIV - [ 18 พ.ค. 52 15:51:00 ]

ความคิดเห็นที่ 10 แล้ว จขกท และเพื่อนๆ ไม่เป็นอะไรมากใช่มั้ยครับ ??? จากคุณ : Title_boy - [ 18 พ.ค. 52 17:31:44 ]

ความคิดเห็นที่ 11 หน้าตาเป็นไงอ่ะครับ Campervan จากคุณ : David_kop - [ 18 พ.ค. 52 17:58:26 ]

ความคิดเห็นที่ 12 นิวซีแลนด์ลมแรงค่ะ เคยเช่ารถขับที่นั่นเหมือนกัน รู้สึกว่าลมแรงจัง ดีที่ จขกท. ไม่เป้นอะไรนะคะ จากคุณ : Halimeda Lover - [ 18 พ.ค. 52 18:15:29 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ขอบคุณสำหรับคำตอบครับ คุณ NSIRIV แล้วจะแวะเข้าไปเยี่ยมชมรูปสวยๆในบล็อก..ขอพิกัดด้วยครับผม  ^^ จากคุณ : CLK BRABUS - [ 18 พ.ค. 52 18:48:35 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ยินดีที่ปลอดภัยนะครับ...แล้วเหตุการณ์หลังจากนั้นเป็นยังไงต่อครับ ใครมายกรถขึ้นหรือเอารถมาเปลี่ยนให้ครับ จากคุณ : Red Fox - [ 18 พ.ค. 52 19:26:29 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ดีใจที่คุณปลอดภัยมาเช่นกันค่ะ ตอนเราขับเส้นทาง Haast บางช่วง กับ Cordrona Valley ปะทะกับลมแรงมาก ๆ ยังแอบคิดอยู่ว่า จะหอบเอารถไปหรือเปล่า ไม่น่าเชื่อเลย   จากคุณ : Invisible Angel - [ 18 พ.ค. 52 19:59:04 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ขอบคุณที่มาเตือนค่ะ โชคดีนะคะที่ปลอดภัยกันทุกคน เคยคิดอยู่เหมือนกันว่าถ้าได้ไป NZ เช่า Campervan น่าจะสนุกดี พึ่งรู้ว่ามีเรื่องต้องระวังเหมือนกัน จากคุณ : yuki_shimi - [ 18 พ.ค. 52 20:56:56 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ขอบคุณที่เป็นห่วงค่ะ สมาชิกทุกคนปลอดภัยดีเพราะ safety belt กันหมด ปกติคนข้างหลังไม่ค่อยยอมใส่ belt  แต่เพราะลมแรงมาก และรถไถลไปมา  ก็เลยใส่ belt กันสงบเสงี่ยม  มีแค่คนเดียวที่นั่งหลังซ้าย  โดนอะไรตกกระแทกเบ้าตาเล็กน้อย  แต่ไม่ถึงกับเขียว  เลยแค่ประคบน้ำแข็งเอา เหตุการณ์ เริ่มจาก รถไถลไปมา  แล้วล้อด้านซ้ายยกลอยขึ้น  ตัวรถเริ่มเอียงประมาณ 20-25 องศา  ตอนนั้น ตัวเอง ยังภาวนา ให้รถกลับที่เดิม  แต่แล้วรถก็เอียงเพิ่มขึ้นเป็น 45 องศา ตอนนั้น บอกตัวเองในใจว่า  ไปแล้ว  รถล้มแน่ๆ  ก็เลยภาวนาว่า  ขอแค่ลงไปแค่นั้น  อย่าถึงกับกลิ้งเลย  ไม่งั้นอาจตายกันได้  ดีที่รถเราล้มโดยเอาด้านข้างคนขับลง  แล้วล้มไปหาต้นไม้ข้างทาง  ถ้าล้มอีกด้าน  ก็หมายถึงตกถนน และคงจะกลิ้งไปอีกหลายตลบ พอรถล้มลง  สมาชิกในรถก็เริ่มร้องโวยวาย  ตัวเอง หันไปมองเพื่อนข้างๆ  เห็นเค้ายังร้องได้ ก็ใจชื้น  ว่าไม่เป็นไร  แล้วเพื่อนข้างๆ ก็ร้องเรียกเพื่อนด้านหลัง  เท่านั้นแหละ  ตัวเอง รีบปลดล๊อค belt แล้วหันไปมองด้านหลัง ก็เห็นเพื่อนข้างหลัง ห้อยกันต่องแต่ง ตาม belt  ตัดสินใจช่วยเพื่อนข้างๆก่อน  แต่เพราะเพื่อนคงยังตกใจอยู่  เลยเหมือนกับขาไม่มีแรง  และเค้าไม่มีอาการเจ็บใดๆ  ตัวเอง ก็ไม่รู้จะทำไรก่อนดี  เลยปล่อยเค้าห้อยตัวอยู่ก่อน แล้ววิ่งไปหาเพื่อนข้างหลัง เพราะเพื่อนข้างหลัง  เริ่มร้องให้ช่วยเอาตัวลง  ก็เลยช่วยอุ้มตัวไว้ แล้วค่อยๆ ปลดล๊อค belt ทีละคน  เห็นทุกคนยืนได้  ก็วิ่งจะมาปลดล๊อค คนด้านหน้าอีกที   ในหัวกำลังคิดว่าจะทำไงดี  จะออกจากรถยังไงดี  จะโทรฯหาใครดี คำเตือนอีกอย่างนึงคือ  ตัวเองนำมือถือจากไทย ที่เปิด Roaming ไปด้วย  แต่บนเส้นทางหลายสายใน NZ  ไม่มีสัญญาณค่ะ แต่ดีที่มี Local เค้าขับสวนมา ในระยะห่าง  แต่เค้าเห็นเหตุการณ์ตลอดตั้งแต่รถยกล้อ จนโดนหอบพลิก  เค้าก็จอดรถโดดขึ้นมาเปิดประตูด้านข้างคนขับ แล้วตะโกนถามว่า เป็นไรกันมั้ย  เราบอกว่าไม่เป็นไร  เค้าก็ช่วยพวกเราทีละคนออกมา  แล้วให้เข้าไปนั่งในรถเค้า เพราะลมแรงมากกกกกกกกกกกกกกกกกก แล้วเค้าก็เข้าไปนั่งด้วย เป็นคู่สามี-ภรรยา  เค้าบอกว่า รอตำรวจมา จากคุณ : NSIRIV - [ 19 พ.ค. 52 09:39:38 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เราก็ถามเค้าว่า  เราต้องแจ้งบริษัทฯรถมั้ย  เพราะเราต้องคืนรถวันนี้ เค้าก็จัดการโทรฯให้เรา  แจ้งหมายเลขทะเบียน กับอุบัติเหตุ ตอนนั้น ตัวเอง พูดภาษาอังกฤษไม่รู้เรื่องแล้ว  ประมาณว่าผิดศัพท์ไปหมด รวมทั้งเกิดอาการโทษตัวเอง เพราะคิดว่าตัวเองขับรถไม่ดี  พูดแต่คำว่า Sorry Sorry  จน Local เค้าบอกว่าไม่ต้อง Sorry หรอก ไม่ใช่ความผิดของเรา  มันเป็นเพราะลม นั่งอยู่ในรถเชอโรกี อีกอึดใจนึง  ตำรวจก็มา 2 คน ก็โผล่มาถามว่ามีใครเป็นไรมั่ง  ตอนนั้น Local ออกจากรถไปตอบคำถามตำรวจให้ทุกอย่าง  แล้วตำรวจก็มาเปิดประตูเชอโรกี ถามพวกเราที่นั่งอัดกันอยู่ด้านหลัง ว่า O.K. มั้ย  เราก็ตอบโอ เค  แต่ประมาณว่า อย่าเรียกพวกชั้นออกจากรถเลย   ระหว่างนั้น มีรถเก๋งขับผ่านมา  ทุกคันหยุดตรงนั้น  แล้วเปิดหน้าต่างถามว่า O.K. มั้ย  บ้าง  บางคันก็ถามว่า ควรจะทำไงดี  ไปต่อได้มั้ย  มีไรให้ช่วยมั้ย มีคันนึง ผู้หญิงขับคนเดียว  คิดว่านักท่องเที่ยว  เธอเอามือแตะหน้าผาก และไหล่ 2 ข้าง  ประมาณว่า  พระเจ้าช่วยคุ้มครองด้วย  เพราะเธอต้องขับต่อไป  มันไม่มีทางเลือก แล้วก็มีรถมาอีกประมาณเจ้าหน้าที่กู้ภัย  มาถึง ก็โดดลงไปในรถเรา แล้วขนข้าวของเราออกมา แล้วก็ถามว่า ครบมั้ย  Local ที่ช่วยน่ารักมาก เอาข้าวของขนใส่รถให้หมด  พวกเรายังคงนั่งเบียดกันอยู่ในรถ ได้แต่คอยตอบคำถามเวลาที่เค้าเปิดประตูมาถาม  โดยประตูสามารถเปิดได้ข้างเดียว อีกด้านเปิดไม่ได้เลย เพราะลมแรงมาก จากคุณ : NSIRIV - [ 19 พ.ค. 52 09:47:25 ]

ความคิดเห็นที่ 19 แล้วก็มีรถพยาบาลมาพร้อมกับเจ้าหน้าที่สาวอีก 2 คน เค้ามาตรวจพวกเราทีละคน โดย 2 คนไปตรวจในรถพยาบาล  โดยจับตามเส้นกระดูกสันหลัง  แล้วให้เราตะโกนคำว่า Out  ก็พบว่าพวกเราไม่ได้เป็นไรมาก   เราก็นั่งกันเงียบประมาณว่า คงจะขอติดอยู่กับรถเชอโรกีนี้  กลัวโดนทิ้งไว้ตรงนั้น   แล้วเจ้าหน้าที่พยาบาล ก็บอกว่า  กลับไปนั่งที่รถเชอโรกีได้แล้ว  เพราะเค้าต้องไปต่อ  ยังมีอีก 2 รายที่ต้องไปดู  เราก็กลับไปนั่งเบียดในเชอโรกี Local ก็ไปคุยกับตำรวจ  แล้วกลับมาที่เรา บอกว่า เค้าจะขับพาเราไปเมืองใกล้ๆ  แล้วค่อยหาทางให้เรากลับไครสเชิร์ตต่อไป จากคุณ : NSIRIV - [ 19 พ.ค. 52 09:51:57 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ขับฝ่าลมไปอีกนิด  Local เลี้ยวเข้าทางแยกเข้าเมืองเล็กๆ  ลมสงบไปเลย เค้าขับพาเราไปหา i-site  แต่ไม่มีเจ้าหน้าที่อยู่แล้ว  เค้าก็เลยโทรฯหาคนรู้จักที่  ให้บริการ ขับรถกับนักท่องเที่ยว  ว่าจะขับพาเรากลับไครสเชิร์ตได้มั้ย คนขับรถบอกว่าให้พักที่เมืองนั้นก่อน  แล้ววันรุ่งขึ้น จะขับรถพากลับไครสเชิร์ต  ส่วน campervan ของเรา  ตำรวจเอาเชือกผูกเป็นตัว X กับล้อทั้ง 4 คัน  แล้วบอก Local ให้บอกเราว่า  เค้าจะให้บริษัทฯรถมาเอาทีหลัง  เพราะเค้ากู้ให้ตอนนี้ไม่ได้ พวกเราเลยต้องพักในเมืองนั้น  และวันรุ่งขึ้นก็ใช้บริการรถให้มาส่งที่ไครสเชิร์ต  ดีที่มีเงิน NZ เหลืออยู่มากเลย  ค่าใช้จ่ายตอนนั้นก็ไม่มีปัญหา จากคุณ : NSIRIV - [ 19 พ.ค. 52 09:55:56 ]

ความคิดเห็นที่ 21 พอวันรุ่งขึ้น  ถึงไครสเชิร์ต  เราก็ตรงดิ่งไปที่บริษัทฯรถเลย เพราะเราต้องไปกรอกเอกสาร Claim  จริงๆแล้วตอนรับรถบริษัทฯก็ให้แบบฟอร์มกรอกไว้แล้ว  แต่เราไม่ได้นึกถึงเลย  มันเลยติดอยู่ในรถ แล้วตอนก่อนที่จะแยกจากกับ Local  ด้วยความที่เรารู้สึกขอบคุณ มากๆ  ก็เลยให้เค้าเขียนชื่อกับที่อยู่ไว้ให้  เพราะตั้งใจจะส่งของขอบคุณไปให้ เค้าก็ดีมากเลย  เห็นว่าเรากังวล กลัวมีปัญหากับบริษัทฯรถ เพราะเราจะกลับไทยแล้วในวันที่ถึงไครสเชิร์ต  เค้าก็เลย จดชื่อตำรวจให้เราด้วย  บอกว่า ถ้ามีปัญหาตำรวจจะช่วยยืนยันให้ได้ว่า เป็นเพราะลม ไม่ใช่เพราะเราประมาท จากคุณ : NSIRIV - [ 19 พ.ค. 52 09:59:18 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ซึ่งปรากฏว่า ทั้ง 2 ข้อมูลนี้ช่วยเราได้มากเลย ตอนไปถึงบริษัทฯ รถ เค้าให้กรอกเอกสาร  ในเอกสารมีถามถึงพยาน  ซึ่งเราก็ใส่ชื่อ Local กับที่อยู่ลงไป เอกสารถามว่า ได้แจ้งตำรวจแล้วมั้ย  เราก็มีชื่อตำรวจให้กรอก ทำให้การกรอกเอกสารเสร็จในเวลารวดเร็ว ไม่ต้องโดนซักถามอะไรมาก  ทำให้กลับมาขึ้นเครื่องกลับบ้านได้ แค่รอว่าจะมีเมลล์ตามมาทีหลังรึป่าวเท่านั้น ตอนนี้ก็หวังว่าจะไม่มี  เพราะเลือกประกันแบบดีสุดไว้  และไม่มีคู่กรณี  ไม่น่าจะมีปัญหา จากคุณ : NSIRIV - [ 19 พ.ค. 52 10:01:40 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ช่วงที่ไปกรอกเอกสาร Claim  เราก็ถามเจ้าหน้าที่ว่า  คิดว่าจะมีปัญหามั้ย เค้าก็บอกว่าต้องดูค่าเสียหายก่อน  ซึ่งเค้าก็ถามว่า กระจกหน้า กระจกข้าง แตกมั้ย เราก็บอกว่าไม่แตก  (คิดในใจ  ถ้าแตก  หน้าฉันคงเละ)  แต่กระจกมองข้างไม่แน่ใจ เพราะเข้าไปในต้นไม้ เค้าถามว่าลื่นไถลไปกี่เมตร  เราก็ตอบว่า ล้อซ้ายยกไป แค่ 3-5 เมตร ก็ล้มลงข้างคนขับเลย เค้าบอกว่า  น้อยน้ะ  เมื่อเช้าที่แจ้งมา มีอีกคัน คนขับต้องขับ 2 ล้อ คือล้อซ้าย ยกตลอดไปเกือบ 200 m กว่าจะล้มลง โห  ยิ่งกว่าในหนังอีก ผ่านเหตุการณ์นี้มาได้  โล่งอกค่ะ แต่คงไม่เข็ดกับ NZ แต่คิดว่าคราวหน้าจะขอเป็นรถเก๋งบ้างดีกว่า จริงๆ ตลอดทริป 7 วันกับรถบ้าน  พอใจมากๆเลย  ไม่ต้องขนกระเป๋าขึ้นลง ของทุกอย่างอยู่กับเราตลอด  ห้องน้ำ  ก็พร้อม  เราไม่ต้องเสียเวลากับอาหารกลางวัน  ทำไว้ตอนเช้า กลางวันขับไปถึงไหน ก็หาที่จอดแวะสัก 15-20 นาที ก็เสร็จภารกิจอาหารกลางวัน  ตอนยังไม่เจอเหตุการณ์นี้  ยังบอกตัวเองว่า  ไว้มารถบ้านอีกดีกว่า   แต่พอเจอเหตุการณ์นี้  คราวหน้าขอเป็นรถเก๋ง  หนักหน่อย  ทรงตัวดีๆ วางแผนให้ไม่แน่นมาก  ถ้าเจออากาศแย่ๆ  จอดพัก ตั้งใจไว้แบบนี้เลยค่ะ แก้ไขเมื่อ 19 พ.ค. 52 10:08:47 จากคุณ : NSIRIV - [ 19 พ.ค. 52 10:07:52 ]

ความคิดเห็นที่ 24 สำหรับรถ campervan  พอเรากรอกเอกสารที่บริษัทรถ แจ้งพิกัด  เค้าก็โทรฯแจ้ง ให้คนไปกู้รถค่ะ  เค้าบอกเราว่า เดี๋ยวจะกู้รถมาดูสภาพ  เราก็ถามเค้าว่า เราต้องรอมั้ย  เพราะเราจะไปขึ้นเครื่องกลับ  เค้าก็บอกว่า ไม่ต้อง  แล้วยังไง จะติดต่อไปอีกที ก็เป็นอันจบกระบวนการค่ะ หวังว่าคำเตือนนี้จะไม่ทำให้เพื่อนๆ  ยกเลิกการเที่ยว NZ นะคะ  เพราะน่าเสียดาย ประเทศเค้าสวยจริงๆ  เพียงแต่วางแผน และเดินทางด้วยความระมัดระวังค่ะ จากคุณ : NSIRIV - [ 19 พ.ค. 52 10:12:14 ]

ความคิดเห็นที่ 25 คุณ CLK BRABUS  ค่ะ เขียนบล๊อคไม่เก่งหรอกค่ะ  ส่วนใหญ่มีแต่รูปเอาขึ้นไว้ให้เพื่อนๆดู สำหรับทริป NZ คงต้องขอเวลาอีกสักพัก เข้าไปดูรูปทริปอื่นๆ ในบล๊อคเล่นก็ได้นะคะ http://blog.trekkingthai.com/kiks/ แต่อย่าคาดหวังมาก จากคุณ : NSIRIV - [ 19 พ.ค. 52 10:15:28 ]

ความคิดเห็นที่ 26 เราเช่า campervan 6 birth ขอเตือน  คันมันใหญ่มาก  กะระยะยาก  เวลามีรถบรรทุกวิ่งสวนต้องจับพวงมาลัยดีๆ ลมปะทะแรงมาก  เราพึ่งกลับมาได้ 1อาทิตย์    มีเรื่องราวดีๆ  และแย่สุดๆ  พร้อมรูปสวย(ฝีมือคุณสามี)  คงได้แบ่งปันข้อมูลเร็วๆนี้ จากคุณ : นกฮูกสีฟ้า (นกฮูกสีฟ้า) - [ 19 พ.ค. 52 14:25:30 ]

ความคิดเห็นที่ 27 เพิ่มเติมข้อมูลอีกหน่อยค่ะ  เจ้ารถบ้านเนี่ยถึงแม้เราจะเลือกประกันสูงสุดแต่มันไม่รวมความเสียหายที่หลังคา และใต้ท้องรถนะคะ  ลองกลับไปดูสัญญาดีๆนะ  เราโดนค่าโง่ไปแล้ว  1,000 $  (21,750 ฿ )   ค่า fee 75$   และ 2%  ของ 1,075 $  (ตอนเซ็นบัตรเครดิตเกือบเป็นลม ) จากคุณ : นกฮูกสีฟ้า - [ 19 พ.ค. 52 14:41:05 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ไปช่วงเดียวกับคุณ NSIRIV และคุณนกฮูกสีฟ้า เพิ่งกลับมาเหมือนกัน แต่เช่าเป็นรถเก๋ง รู้สึกได้เลยว่าลมแรงมาก ออกไปถ่ายรูปไม่ได้ ขับรถก็สั่น ๆ และขับต้านลมปะทะกับลมตลอด ไม่ใช่เฉพาะสาย 72 นะคะ เส้นเข้า Wanaka เส้น Lindis Pass เส้น Mt.Cook เส้น Lake Tekapo ซึ่งก็จะมีป้ายสัญลักษณ์ลมแรงไว้ด้วย เป็นสัญลักษณ์ที่เหมือนกับสวิงจับแมลงค่ะ เราก็ไม่มีประสบการณ์แบบนี้ ขับรถได้ช้าลง ขับด้วยความกังวล แม้แต่ตอนนี้ยังจำความรู้สึกของแรงลมและเสียงลมนั้นได้ค่ะ จากคุณ : Ma Ma Pim - [ 20 พ.ค. 52 03:37:02 ]

ความคิดเห็นที่ 29 รบกวนถามวคุณนกฮูกสีฟ้าว่า ทำไมถึงต้องจ่ายเงินให้บริษัทรถเช่ามากขนาดนั้น มีเหตุการณ์อะไรหรือคะ ช่วย share ประสบการณ์ให้เพื่อน ๆ ทราบด้วยค่ะ เพราะประสบการณ์ของดิฉัน ครั้งแรกขับจนรถน้ำมันหมด จึงโทร.หาบริษัท AA Insurance เอาน้ำมันมาให้ เสียค่าบริการ 95NZ$ และค่าน้ำมันต่างหาก 20NZ$ โดยหักจากบัตรเครดิตเลยค่ะ โดยเราบอกหมายเลขบัตรเครดิตเขาไป กลับมาก็เห็นใบแจ้งหนี้บัตรเครดิตมีรายการนี้อยู่ด้วย และครั้งที่สองจอดรถทิ้งไว้ 2 วัน 1 คืน แล้วซื้อ Day Tour ไปเที่ยว พอจะใช้รถอีกครั้งด้วยความที่อากาศเย็นและหิมะตกรถสตาร์ทไม่ติด โทร.หา AA Insurance อีกก็บอกว่าจะมาบริการให้แต่มีค่าบริการอีก 95$ เหมือนเดิม ดิฉันเลยลองโทร.หาบริษัทรถเช่าที่ Queenstown ปรากฎว่าเขามาเปลี่ยนแบตเตอรี่ให้ใหม่ภายใน 15 นาที ไม่เสียค่าใช้จ่าย เราก็เลยเล่ากรณีน้ำมันหมดครั้งแรกให้ฟัง เจ้าหน้าที่บอกว่าอาจจะเป็นจากระบบไฟที่ Low Battery ทำให้การแสดงผลผิดพลาดได้ เขาจะ report ไว้ในระบบ online พอวันเอารถไปคืนบริษัทรถเช่าจ่ายเงินสดคืน 95NZ$ เลยค่ะ ก็รู้สึกพอใจนะคะ จากคุณ : Ma Ma Pim - [ 20 พ.ค. 52 03:53:02 ]

ความคิดเห็นที่ 30 เช่าแคมเปอร์แวน 6 berth เหมือนคุณนกฮูกสีฟ้า แต่สงสัยว่าทำไมประกันไม่คุ้มครองทั้งหมดคะ ดิฉันซื้อประกันแบบคุ้มครอง 100% เรียกว่า smart pack ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมทั้งสิ้น Gas หุงต้มไม่ต้องเติมคืนให้เต็มถัง ไม่เสียค่า diesel tax recovery ซึ่งปกติเสีย NZD 0.0485 ต่อ 1 Km หลังคา ใต้ท้องรถ กระจก ที่ปัดน้ำฝน ฯลฯ หากเสียหาย ประกันคุ้มครองหมด ยกเว้นกรณีที่เราขับไปในเส้นทางที่เขาระบุในสัญญาซึ่งเขาจะบอกเราก่อน แล้วมันเป็นเส้นทางทุรกันดารซึ่งไม่ควรจะไปอยู่แล้วน่ะค่ะ ตอนที่เอารถมาคืนพอเขาเห็นว่าเราซื้อประกันแบบเต็ม เขาก็ไม่ตรวจสภาพรถเลย ดูแค่ว่าเราเคลียร์ของเสียต่างๆออกหมดหรือยัง และเติมน้ำมันคืนเต็มถังหรือยังเท่านั้น เสร็จแล้วก็บอกว่าโอเค ไม่มีค่าใช้จ่ายอะไรเพิ่มเติม พร้อมคืนใบอิมพรินท์ของสลิพบัตรเครดิตให้เรียบร้อยค่ะ เราเช่าของบริษัท Backpacker ที่ Christchurch โชคดีที่ได้รถค่อนข้างใหม่ด้วย ไม่มีปัญหาอะไร เครื่องยนต์ก็แรงดีทีเดียว แรกๆก็รู้สึกขับยากหน่อยเพราะคันใหญ่ แต่พอขับๆไปก็ชินค่ะ จากคุณ : parachute - [ 20 พ.ค. 52 04:13:31 ]

ความคิดเห็นที่ 31 เราเช่ารถของ APOLLO และเลือกประกันสูงสุดที่บริษัทมันเสนอมา   พอไปรับรถมันบอกว่าประกันไม่รวม ROOF , BOTTOM และอะไรก็ตามที่เกิดจากตัวเอง    แสบมั้ยคะ     เงินที่เสียไปมากขนาดนั้น  เกิดจาก  วันที่2 เราขับเข้า  CHC  แล้วจะจอดรถข้างถนน  ด้วยการที่ไม่ชินกับขนาดรถ  เราจึงไม่ทันระวังว่าตึกที่จอดมันทำกันสาดยื่นมาในถนน  ขอบบนของหลังคาด้านหน้าซ้ายจึงครูด  มีแผลสีถลอกเป็นเส้นยาวไม่เกิน  10  ซม.   เราไม่ได้ถ่ายรูปเอาไว้  เพราะไม่คิดว่ามันจะคิดแพงขนาดนี้      ยังมีเรื่องแย่ๆ เกี่ยวกับรถคันนี้อีกเยอะ   ไว้ถ้ามีเวลาเราจะค่อยๆ ลงเรื่องราวและภาพฉบับเต็มให้เป็นบทเรียนนะคะ จากคุณ : นกฮูกสีฟ้า (นกฮูกสีฟ้า) - [ 20 พ.ค. 52 22:34:17 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ความซวยของเรายังไม่จบแค่นี้   ยางรถเรามันแบนค่ะ  เรากับครอบครัวก็เลยต้องจอดรถทางเลี้ยวขวาก่อนขึ้น   gondola   เราขับรถบ้านที่ยาวมากทำให้ถ้าจอดแล้วท้ายรถจะเลยออกไปขวางถนนก็เลยตัดสินใจจอด bus  lane   (เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดแล้ว  )    แล้วพาลูกๆ เดินไปหาโทรศัพท์เพื่อโทรไป roadside  assistance    เค้าบอกว่าเราต้องรับผิดชอบเอง  ต้องจ่าย   100 $  แล้วจะส่งคนมาเปลี่ยนยางอะไหล่ให้  หรือไม่ก็ต้องเปลี่ยนยางเอง    เราก็ต้องยอมจ่ายสิ     เมื่อกลับมารอที่รถก็พบว่าโดนใบสั่งว่าจอดรถผิดที่และยังเขียนในใบสั่งด้วยว่ารถยางแบน   ก็เพราะยางแบนต่างหากถึงต้องมาจอดตรงนี้ จากคุณ : นกฮูกสีฟ้า - [ 21 พ.ค. 52 09:45:27 ]

ความคิดเห็นที่ 33 คิดว่าราคาค่าบริการเรียกเปลี่ยนยางมาตรฐานประมาณ 95-100$ มั้งคะ เพราะรถบ้านของที่เช่าไปก็เจอตะปูเข้าอย่างจัง ยางแบนเหมือนกัน คือถ้าสามารถเปลี่ยนยางเองได้ จะไม่เสียอะไรเลย แต่รถบ้านเปลี่ยนยากยิ่งกว่ารถเก๋งอีก ก็เลยต้องยอมเสียค่าบริการเปลี่ยนยาง เสียไป 95$ เหมือนกัน คุณ นกฮูกสีฟ้า ได้ขับไปเช็คยางรึป่าวคะ ว่ามันแบนเพราะอะไร ชักจะ:-)ๆน้ะ ถ้ารถเช่ามันยางแบนกันง่ายๆแบบนี้ มีใครยางแบนอีกมั่งมั้ยเนี่ยะ 555 ถ้าคนยางแบนกันแยะ สงสัยจะโดนวางยาซะแล้วมั้ง 555 ส่วนตัวดิฉันรับได้กับบริการเรียกเปลี่ยนยางที่ต้องจ่ายนะคะ เพราะพอเปลี่ยนยางเสร็จ เราขับเข้าศูนย์ยาง เพื่อให้เข้าจัดการกับยางที่แบน ให้อยู่พร้อมสำหรับการเป็นยางอะไหล่ต่อไป ทำให้เรารู้ว่ามันโดนตะปู ซึ่งค่าใช้จ่ายในการจัดการกับยางนั้น เราไม่เสียสักแดง เพราะเค้าจะเรียกเก็บกับบริษัทฯรถเช่า ขนาดเราถามย้ำด้วยซ้ำ เพราะไม่อยากให้มาเรียกเก็บภายหลัง แต่เค้ายืนยันว่าไม่ต้องจ่าย เค้าจะเก็บกับบริษัทฯรถเช่าเอง แต่ถ้าโดนวางยาเรื่องตะปูล่ะก้อ  ไม่ชอบแน่ๆค่ะ จากคุณ : NSIRIV - [ 21 พ.ค. 52 13:29:58 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาแชร์ประสบการณ์อีกด้านของการท่องเที่ยวค่ะ จะได้เตรียมตัวรับสถานะการณ์ถ้าเจอกับตัวเอง พอดีมีแพลนจะไปช่วง ตค นี้ละคะ จากคุณ : WinFirst - [ 21 พ.ค. 52 21:07:09 ]