ความคิดเห็นที่ 1 ระยองบ้านผม สวนยาง  ก็ เยอะ   ตอนนี้ ต้อง หา ของติดบ้าน เพิ่ม3อย่าง 1. ยาฉีดยุง 2. ยาทากันยุง 3.หน้ากากอนามัย น่ากลัวนะเนี่ย   จากคุณ : otto - [ 20 พ.ค. 52 17:54:47 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ระบาดแค่ไหน :: ตอนนี้ผู้ป่วยยอดรวมทั้งหมดของประเทศ ประมาณ 20,000 คนแล้วค่ะ โอ้โห เยอะมากๆ เราฟังแล้ว เลยต้องตั้งใจฟังต่อเต็มที่เลยค่ะ จากคุณ : kimune - [ 20 พ.ค. 52 17:59:43 ]

ความคิดเห็นที่ 3 โรคนี้คืออะไร ใครจะเป็นบ้าง :: โรคชิคุนกุนยานั้นเป็นการติดเชื้อไวรัสชื่อ Chikungunya virus ที่มียุงลายสวนเป็นพาหะนำโรค   อาการคล้ายโรคไข้เลือดออก เดิมมีรกรากอยู่ในทวีปแอฟริกา ตอนหลังเคยมีระบาดไปถึงอินเดีย แล้วก็ไปอิตาลี (ไปได้งัยเนี่ย) แล้วก็มาเลเซีย จนล่าสุดนี้มาระบาดที่บ้านเราเนี่ยล่ะค่ะ :: พบมากในฤดูฝน เค้าบอกว่าเป็นเพราะจำนวนยุงเพิ่มขึ้นและมีการติดเชื้อในยุงลายมากขึ้น พบโรคนี้ได้ในทุกกลุ่มอายุ ส่วนใหญ่ในคนอายุมากกว่า 15 ปี ซึ่งต่างจากไข้เลือดออกที่ส่วนมากพบในผู้อายุน้อยกว่า 15 ปี *แก้ไขข้อความให้อ่านง่ายขึ้นค่ะ แก้ไขเมื่อ 20 พ.ค. 52 18:21:43 จากคุณ : kimune - [ 20 พ.ค. 52 18:10:56 ]

ความคิดเห็นที่ 4 อาการของโรคนี้เป็นยังงัย :: อาการคล้ายไข้เลือดออก คือมีไข้สูงเฉียบพลัน มีผื่นแดงขึ้นตามร่างกาย แต่จะต่างกับไข้เลือดออกตรงที่ อาการที่เด่นชัดคือปวดข้อ ส่วนใหญ่จะเป็นที่ข้อเล็กๆ เช่น ข้อมือ ข้อเท้า อาการปวดข้อจะพบได้หลายๆ ข้อเปลี่ยนตำแหน่งไปเรื่อยๆ อาการจะรุนแรงมาก จนบางครั้งขยับข้อไม่ได้  และบางรายอาการปวดข้อจะอยู่นานเป็นเดือน แต่อาการไข้และผื่นนั้นจะเป็นอยู่เพียงประมาณ 2-3 วันเท่านั้น :: ระยะฟักตัว - โดยทั่วไปจะเริ่มมีอาการประมาณ 1-12 วัน หลังได้รับเชื้อ   แต่ที่พบบ่อยประมาณ 2-3 วัน (ถ้ากลับจากใต้มา ครึ่งเดือนแล้วมีไข้ ก็ไม่น่าจะใช่โรคนี้แล้วค่ะ) *แก้ไขข้อความให้อ่านง่ายขึ้นค่ะ แก้ไขเมื่อ 20 พ.ค. 52 18:22:30 จากคุณ : kimune - [ 20 พ.ค. 52 18:18:24 ]

ความคิดเห็นที่ 5 สวัสดีค่ะ คุณ otto วันนี้คอมแฮงค์บ่อยค่ะ เป็นความลำบากในการโพสต์กระทู้มากเลย ค่อยๆตามอ่านแล้วจะรู้ว่าไม่น่ากลัวอย่างที่คิดนะคะ ^^ จากคุณ : kimune - [ 20 พ.ค. 52 18:19:27 ]

ความคิดเห็นที่ 6 อันตรายไหม :: อัตราตายน้อยมาก (เป็นโชคดีในโชคร้ายนะเนี่ย) คือถือว่าเป็นโรคที่มีความรุนแรงน้อย ส่วนใหญ่ภายใน 3-4 วัน อาการจะดีขึ้น การเสียชีวิตเกิดขึ้นประมาณ 1 คนต่อผู้ป่วย 1000 คน โดยผู้ที่เสียชีวิตนั้น มักมีอายุมาก มีโรคประจำตัวอื่นร่วม และมีอาการของโรครุนแรง เช่น มีภาวะสมองอักเสบร่วมด้วย (วัยทำงาน แข็งแรงๆ เนี่ย ถ้าเป็นก็ประมาณว่า หยุดงาน 2-3 วัน ปวดข้อหน่อย เท่านั้นเองค่ะ) จากคุณ : kimune - [ 20 พ.ค. 52 18:20:02 ]

ความคิดเห็นที่ 7 วิธีการติดต่อ :: ติดต่อกันทางยุงค่ะ อาจารย์บอกว่าติดต่อได้ทั้งยุงลายบ้าน และยุงลายสวน แต่ที่เด่นมากๆเลยคือยุงลายสวน ซึ่งอยู่ตามสวนยางหรือสุมทุมพุ่มไม้ค่ะ เมื่อยุงลายและดูดเลือดผู้ป่วยที่อยู่ในระยะไข้สูง ซึ่งเป็นระยะที่มีไวรัส อยู่ในกระแสเลือดมาก แล้วไปกัดคนอื่นก็จะปล่อยเชื้อไปยังคนที่ถูกกัด ทำให้คนนั้นเกิดอาการของโรคได้ เพราะติดต่อทางยุงลายสวนนี่เอง เลยน่าจะเกี่ยวข้องกับการระบาดในภาคใต้ค่ะ เพราะเป็นแหล่งสวนยางเลยทีเดียว คิดว่าน่าจะเป็นอย่างนั้น *แก้ไขข้อความให้อ่านง่ายขึ้นค่ะ แก้ไขเมื่อ 20 พ.ค. 52 18:23:16 จากคุณ : kimune - [ 20 พ.ค. 52 18:20:47 ]

ความคิดเห็นที่ 8 วิธีการรักษา :: ไม่มียารักษาเฉพาะค่ะ ยาฆ่าไวรัสตัวนี้ก็ไม่มี เป็นการรักษาแบบประคับประคอง  และรักษาตามอาการ   เช่น ให้ยาลดอาการไข้ ปวดข้อ และการพักผ่อน   (ควรหลีกเลี่ยงการกินแอสไพริน หรือยาแก้ปวดชนิดไม่ใช่สเตียรอยด์ค่ะ เพราะอาการคล้ายคลึงกับไข้เลือดออก เผื่อเคราะห์ร้าย ไม่ใช่ชิกุนฯ แต่เป็นไข้เลือดออกขึ้นมา ยาพวกนี้จะทำให้เลือดออกง่ายขึ้นค่ะ) จากคุณ : kimune - [ 20 พ.ค. 52 18:23:59 ]

ความคิดเห็นที่ 9 แล้วเกี่ยวข้องกับพวกเราชาวบลูฯ ยังงัย :: เราเอามาเตือนเพื่อนๆที่จะไปเที่ยวในจังหวัดภาคใต้ไว้ก่อนค่ะ ตอนนี้ถือว่าทุกจังหวัดในภาคใต้เนี่ย อาจได้รับผลกระทบจากการระบาดได้ค่ะ (ก็สวนยางกันทั้งน้านนนน) แต่คิดว่าเตือนไว้ให้ระมัดระวังตัวเฉยๆค่ะ คงไม่ถึงกับห้ามเที่ยวภาคใต้ เพราะสถานที่ที่เราไปเที่ยวกันส่วนใหญ่ ก็ไม่ได้ไปเที่ยวตามสวนยางกันนี่เนาะ แต่อยากเตือนให้ระวังยุงกัดค่ะ น่าจะเตรียมพวกยาทากันยุงไปด้วย   หลีกเลี่ยงการเข้าไปเดินตามป่า สุมทุมพุ่มไม้ อะไรประมาณนี้อ่ะค่ะ (แล้วก็อยากมา reassure เพิ่มความมั่นใจให้ภาคใต้บ้านตัวเองด้วยล่ะ ว่ามันไม่ได้น่ากลัวจนไม่น่าเที่ยวน้า  ให้ระวังยุงกัดหน่อยเท่านั้นเอง แต่ถ้าเป็นแล้วก็ไม่ได้อันตรายถึงชีวิตค่ะ แต่ก็คงปวดข้อพอดูทีเดียวล่ะ อาจจะต้องหยุดงาน) จากคุณ : kimune - [ 20 พ.ค. 52 18:25:01 ]

ความคิดเห็นที่ 10 แล้วคนที่บ้านอยู่ในพื้นที่ที่มีการระบาดแล้วล่ะ ทำยังได้บ้าง :: ขณะนี้ยังไม่มีวัคซีนป้องกัน การดำเนินการที่ดีที่สุด  คือ การป้องกันการแพร่ระบาด โดยการกำจัดลูกน้ำยุงลายทั้งในบ้านและรอบๆบ้าน โดยการสำรวจและดูแลไม่ให้มีน้ำขังค่ะ จากคุณ : kimune - [ 20 พ.ค. 52 18:26:53 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เอา คำแนะนำการกำจัดลูกน้ำยุงลายในภาชนะต่างๆ มาฝากด้วยค่ะ จานรองตู้กับข้าว ให้ใส่เกลือ หรือใส่ผงซักฟอก หรือใส่น้ำส้มสายชู 2 ช้อนชา ภาชนะใส่น้ำในห้องน้ำ 1. ตุ่มหรือถังเก็บน้ำใช้อาบ หลีกเลี่ยงการใช้ภาชนะสีดำหรือมืดทึบและปิดฝาภาชนะ (ถ้าทำได้)หรือใส่ปลาหางนกยูง 2-10 ตัว ขึ้นกับขนาดของภาชนะ หากปลาตาย ก็ให้ใส่ปลาเพิ่ม หรือใส่ทรายอะเบท 8 ช้อนชาต่อน้ำ 1 ตุ่ม (200 ลิตร) 2. ถังซีเมนต์ตักน้ำราดส้วม เลิกใช้โดยปล่อยน้ำออกและเอาถังพลาสติกสีขาวรองน้ำแทน หรือ ทำตามแบบที่แนะนำสำหรับตุ่มน้ำ ภาชนะใส่น้ำดื่มหรืออาบน้ำ 1. กะละมัง ใช้เสร็จต้องเทน้ำทิ้งแล้วคว่ำเสีย 2. จานรองกระถางต้นไม้ เลิกใช้ (ถ้าทำได้)  หรือใส่ทรายธรรมดาให้มีความลึก  ¾ ของจาน 3. แจกัน (โดยเฉพาะพลูด่าง) เลิกใช้ (ถ้าทำได้)  หรือเติมทรายอะเบท 4. กระถางบัว เติมปลาหางนกยูง 2-10 ตัว ขึ้นกับขนาดของภาชนะ *แก้ไขข้อความ ให้อ่านง่ายขึ้นค่ะ แก้ไขเมื่อ 20 พ.ค. 52 18:32:35 จากคุณ : kimune - [ 20 พ.ค. 52 18:31:50 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ได้ความรู้มากเลยครับ กระทู้นี้ เสียดาย Gift แจกหมดแล้ว เอานี้ไปแทนล่ะกัน อิอิ จากคุณ : สุกรสยาม - [ 20 พ.ค. 52 18:40:09 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ขอบคุณครับ จากคุณ : myimagine - [ 20 พ.ค. 52 19:08:16 A:124.121.223.27 X: TicketID:216919 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ขอบคุณค่ะ เราทราบรายละอียดเรื่องนี้มาตั้งแต่โรคนี้ระบาดใหม่ๆ เพราะแฟน ทำงานอยู่ในพื้นที่ระบาด มีการพยายามรณรงค์ให้ความรู้ และเผยแพร่ข่าวสารมาตั้งนานแล้ว แต่ไม่ค่อยได้รับความสนใจ จนมาถึงวันนี้ ดีใจค่ะ ที่ได้รับการสนใจ จากผู้เกี่ยวข้อง จากคุณ : prettyguide - [ 20 พ.ค. 52 19:22:32 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุณจขกท. ค่ะ จากคุณ : sweetsakura - [ 20 พ.ค. 52 19:33:45 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ขอบคุณครับ จากคุณ : ยุง บิน ชุม - [ 20 พ.ค. 52 20:37:43 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ขอบคุณมากค่ะ ได้ยินผ่านหูยังนึกว่าโรคอะไร..ชื่อแปลกจัง มารู้รายละเอียดเอาที่ทู้นี้เอง จากคุณ : แม่ซากานะ - [ 20 พ.ค. 52 20:46:22 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ขอบคุณคร๊าบ ได้ความรู้เพิ่มเติม จากคุณ : be_wing - [ 20 พ.ค. 52 21:53:48 ]

ความคิดเห็นที่ 19 อ้อ ได้ยินมาสักพักละ เพิ่งรู้คราวนี้เองว่ามันคือไข้ชนิดนึงที่มียุงเป็นพาหะนั่นเอง ขอบคุณสำหรับข้อมูลมากๆ ครับ จากคุณ : David_kop - [ 20 พ.ค. 52 23:28:40 ]

ความคิดเห็นที่ 20 โรคซูชิคุณย่านี่ได้ยินมาสักพักแล้วแต่เพิ่งทราบรายละเอียด ขอบคุณมากครับ จากคุณ : ST.Exsodus - [ 21 พ.ค. 52 09:47:29 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ขอบคุณมากๆครับ จากคุณ : ครอบครัวตัวขาว (แปะเก้า) - [ 21 พ.ค. 52 09:51:54 ]

ความคิดเห็นที่ 22 โรคนี้ เรากลัวมาก่อนหวัดนกอีกอ่า... พี่ที่ออฟฟิสเป็นด้วย.... พี่ที่นั่งละแวกนั้นไม่รู้จะทำตัวไง ถึงกะพกแอลกอฮอลล์แบบพ่น พ่นตัว พ่นมือ ทำความสะอาดตลอดเวลา น่ากลัวมั๊ก ๆ จากคุณ : เด็กหญิงมีมี่ - [ 21 พ.ค. 52 10:11:51 ]

ความคิดเห็นที่ 23 พี่สาว ย่าและน้องสาวเราก็เป็นนะค่ะ แต่หมอรักษาตามอาการนะค่ะ ตอนนี้ก็อาการดีขึ้นหมดละ จากคุณ : ส้มตำปูรสจัด - [ 21 พ.ค. 52 11:17:59 ]

ความคิดเห็นที่ 24 มันเกิดจากยุงลายที่อาศัยอยู่ตาม ในสวน ในป่า ไม่ได้อยู่ในบ้าน คำแนะนำตรงนั้น (#11)  คือการกำจัดยุงลายบ้าน ที่เป็นพาหะ ของไข้เลือดออกครับ ในเขตเมืองการระบาดจึงน้อยกว่า เขตชนบท ที่มีสวน มีต้นไม้ สามจังหวัดภาคใต้ที่มีการระบาดอย่างหนัก ก็เพราะว่า เจ้าหน้าที่ ไม่สามารถ เข้าไปควบคุมได้ เนื่องจากเป็นพื้นที่สีแดง เสี่ยงอันตรายกับการโดนทำร้าย จึงต้องปล่อย ให้เกิดการระบาด ข้อมูลจาก สนง.ควบคุมโรค จ.นครศรีฯ จากคุณ : หน่อง1300 - [ 21 พ.ค. 52 14:52:02 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ใช่ค่ะ ตาม#24 อันที่เราเอามาลงให้เป็นการป้องกันยุงลายบ้านค่ะ คือโรคนี้ติดต่อได้ทั้งยุงลายบ้าน A. aegypti และยุงลายสวน A.Arbopictus ค่ะ แต่เนื่องจากยุงลายสวน เราจัดการเองไม่ได้ ต้องรอภาคราชการมาพ่นยาให้ (ยกเว้นอาจจะลองทำแบบที่อาจารย์แนะนำว่าต้นยางต้นไหนที่ไม่มีน้ำยาง ให้คว่ำจอกรองน้ำยางลงค่ะ) เลยมาจัดการยุงลายบ้านด้วยแล้วกัน ช่วยนิดช่วยหน่อยก็ยังดีค่ะ แต่เพิ่งรู้จากคุณ หน่อง1300 นะคะ ว่าที่ควบคุมไม่ได้ใน 3 จังหวัด เพราะเกี่ยวข้องกับเหตุผลว่าเจ้าหน้าที่อาจโดนทำร้ายด้วย อืมม ... อะไรๆในโลกนี้มันเกี่ยวข้องกันไปหมดเลยเนาะ จากคุณ : kimune - [ 21 พ.ค. 52 17:19:59 ]

ความคิดเห็นที่ 26 คุณ สุกรสยาม :: ขอบคุณสำหรับรูปน่ารักๆนะคะ ^^ คุณ myimagine :: ขอบคุณที่ให้ความสนใจเช่นกันค่ะ คุณ prettyguide :: เราได้ยินชื่อโณคนี้มาหลายเดือนแล้วเหมือนกัน แต่ไม่ได้ให้ความสนใจจริงจังค่ะ จนกระทั่งได้ฟังเมื่อวาน ถึงได้มาตั้งกระทู้ เพราะคิดว่ามันใกล้ตัวเรากว่าที่คิดจริงๆค่ะ แล้วก็ทำตามที่อาจารย์คนที่บรรยายบอกด้วยค่ะ ว่าอยากให้ช่วยกันเผยแพร่ความรู้ค่ะ คุณ sweetsakura คุณ ยุง บิน ชุม คุณ be_wing คุณ David_kop คุณ ST.Exsodus และคุณ ครอบครัวตัวขาว (แปะเก้า) :: ขอบคุณด้วยเหมือนกันค่ะ  ที่เข้ามาอ่าน หวังว่าจะเป็นประโยชน์นะคะ ^^ จากคุณ : kimune - [ 21 พ.ค. 52 17:26:19 ]

ความคิดเห็นที่ 27 คุณ แม่ซากานะ :: ชื่อแปลกจริงๆค่ะ โรคนี้ แอบเสริมความรู้ให้นิดหน่อย ฟังชื่อว่า chikungunya แล้ว ชอบมีคนคิดว่าเป็นภาษาญี่ปุ่น บางคนเรียกไข้ญี่ปุ่นไปโน่นเลย แต่จริงๆแล้ว ชื่อโรคนี้เป็นภาษาแอฟริกา (ที่แรกที่ค้นพบโณคนี้) นะคะ แต่เราฟังแล้ว ยังงั้ย ยังงัย มันก็ดู Japan มากๆเลยเนาะ จากคุณ : kimune - [ 21 พ.ค. 52 17:28:21 ]

ความคิดเห็นที่ 28 คุณ เด็กหญิงมีมี่ :: เราไม่แน่ใจว่า แอลกอฮอล์เนี่ยจะช่วยอะไรมั้ยนะคะ ^^ แนะนำพี่ที่ทำงานคนนั้นให้ทาโลชั่นกันยุงดีกว่า ตรงจุดกว่ามากๆค่ะ ^^ คุณ ส้มตำปูรสจัด  :: อย่างนี้แสดงว่า คุณ ส้มตำปูรสจัด ต้องเป็นคนใต้แน่เลยเนาะ การรักษาตามอาการเป็นการรักษาหลักของโรคนี้อยู่แล้วค่ะ เพราะไม่มียาเฉพาะ ดีใจด้วยนะคะ ที่หายแล้ว ไม่ได้เป็นอะไรร้ายแรง จากคุณ : kimune - [ 21 พ.ค. 52 17:31:54 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ขออีกซักเล็กน้อย พอคิดว่า อะไรๆในโลกนี้มันเกี่ยวข้องกันไปหมดเลย (ตาม #24,25) ก็เลยนึกขึ้นมาได้ค่ะ เมื่อวานอาจารย์บอกว่า สงสัยมั้ยว่ามันไปอิตาลีได้งัย จากแอฟริกา ไปอินเดีย มาเล ไทย คงไม่แปลก ไหงไปมีที่เมืองหนาวแบบอิตาลีด้วย ไม่อยากเชื่อเลยว่า เค้าสันนิษฐานกันว่า เป็นเพราะโลกร้อนค่ะ !!! คือยุงเนี่ย อาจจะมีอยู่แล้ว แล้วได้รับเชื้อจากคนที่กลับจากอินเดียไป และกลายเป็นพาหะ แถมพอโรคร้อนขึ้น พวกยุงพวกนี้ ก็อยู่กันสบายขึ้น หากินได้นานขึ้น เพราะชอบอากาศที่อุ่นขึ้น เลยมีระยะเวลาที่จะมากัดเรา เอาเชื้อมาแพร่ให้เราได้มากขึ้นค่ะ โอ้โห ... ฟังแล้ว เด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาวจริงๆค่ะ จากคุณ : kimune - [ 21 พ.ค. 52 17:37:32 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะ ช่วงนี้ฝนตก ยุงชุม จากคุณ : โกลเค้นยักษ์ - [ 23 พ.ค. 52 17:51:45 ]

ความคิดเห็นที่ 31 http://www.smooth-light.com/ จากคุณ : พิชัยยุทธ - [ 31 พ.ค. 52 20:21:09 ]