ความคิดเห็นที่ 1 วัดเมจิเป็นวัดที่เราชอบมากค่ะ เพราะมันตั้งอยู่ใกล้กับฮาราจูกุแค่ไม่กี่เก้า ถ้าลงจากสถานีฮาราจูกุแล้วเดินตรงไป เราจะเจอถนน(ชื่ออะไรจำไม่ได้) ที่เต็มไปด้วยสินค้าวัยรุ่นหลากหลาย แต่เพียงแค่เดินเลี้ยวขวาเท่านั้น เรารู้สึกเหมือนว่าได้ย้อนเวลากลับไปสมัยเก่าก่อน มันช่างแตกต่างอย่างลงตัวค่ะ และไม่น่าเชื่อที่หน้าวัดเมจินี่เอง ที่เป็นที่ชุมนุมของเหล่าผู้ชื่นชอบ Cosplay ไม่ทราบว่าเค้าโดนจ้างมารึป่าว แต่ว่าเห็นคนๆ เดิม ใส่เสื้อผ้าแบบเดิมทุกวันที่ผ่านตรงนั้นเลยค่ะ แถมตอนเข้ามาดูรีวิวเพื่อนๆ ก็เจอเธอคนนี้แหละ ยืนอยู่ที่เดิมเลย กลายเป็นสัญลักษณ์ของฮาราจูกุและวัดเมจิไปแล้ว รูปข้างล่างคือทางเข้าวัดค่ะ แก้ไขเมื่อ 20 พ.ค. 52 18:55:20 จากคุณ : น้ำแข็งทอด - [ 20 พ.ค. 52 18:32:24 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ข้างหน้าวัดจะมีโคมสีขาวแขวนประดับตกแต่งอย่างสวยงามค่ะ มันใหญ่โตอลังการงานสร้างมากตอนไปยืนอยู่ตรงนั้น แต่เค้าแขวนไว้ด้วยเหตุผลใด ไม่ทราบได้ค่ะ จากคุณ : น้ำแข็งทอด - [ 20 พ.ค. 52 18:34:33 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เดินเข้ามาถึงประตูหน้าสุดของวัด รู้สึกถึงความขลังของสถานที่ได้ มองเข้าไปยังไม่เห็นตัววัด เห็นแต่เส้นทางทอดยาวไปแบบไม่เห็นปลายทาง ใจนึงก็กลัวๆ ไม่รู้ว่าข้างในจะมีวัดหรือเปล่า หรือมีแค่ประตูทางเข้าให้เรามาถ่ายรูป แต่เอาวะ มาถึงนี่ทั้งที เห็นคนเดินเข้าไปก็หลายคน เลยตัดสินใจ เดินเข้าไปตามๆ เค้า จากคุณ : น้ำแข็งทอด - [ 20 พ.ค. 52 18:37:04 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เดินเข้าไปได้ 300 เมตร ใจก็เริ่มสงสัย เอ๊ะ มันควรจะถึงแล้วไม่ใช่เหรอ ทำไมยิ่งเดิน ยิ่งลึก ยิ่งไกล ถนนมันจะพาเราไปถึงไหนเนี่ย รอบตัวเราตอนนี้เป็นป่าหมดเลยค่ะ เหมือนหลุดเข้าไปอยู่อีกจังหวัดนึงเลย ด้วยความที่เป็นป่า มีแต่ต้นไม้ อากาศก็เลยยิ่งเย็น ยิ่งตอนเช้าอีก ฝนตกนิดๆ ด้วย ตอนเราเดิน มีควันออกปากเลยค่ะ แต่มองไปรอบๆ ก็มีคนเดินเข้ามาอีกประปราย แต่คนส่วนใหญ่ใส่ชุดทำงาน หรือไม่ก็เป็นคุณลุงคุณป้า ท่าทางจะมาเข้าวัดแต่เช้า หรือไม่ก็ใช้เส้นทางนี้ลัดไปที่อื่น ยังไงก็แล้วแต่ เราก็ยังตั้งหน้าตั้งตาเดินค่ะ แก้ไขเมื่อ 20 พ.ค. 52 18:41:24 จากคุณ : น้ำแข็งทอด - [ 20 พ.ค. 52 18:40:36 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ตอนเดินไปเจอประตูวัด ดีใจมากๆ ค่ะ รู้สึกว่าเราทำภารกิจนี้สำเร็จแล้ว แต่เส้นทางทั้งหมดกว่าจะมาถึงประตูวัดอันนี้ เราว่าน่าจะประมาณ 2 กิโลได้ค่ะ เดินประมาณ 15 - 20 นาทีเลยแหละ เดินไปถึงเจอคุณลุงคนนี้กวาดใบไม้อยู่ คุณลุงเค้าโค้งขอบคุณทุกคนที่เดินเข้าประตูวัดไปเลยค่ะ แก้ไขเมื่อ 20 พ.ค. 52 18:43:34 จากคุณ : น้ำแข็งทอด - [ 20 พ.ค. 52 18:43:07 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เดินผ่านประตูวัดเข้ามา เจอซุ้มดอกไม้ที่ไม่รู้วัตถุประสงค์ค่ะ น่าจะเพื่องานบุญหรือเปล่าไม่แน่ใจ ทุกอย่างยังเงียบเชียบ ผู้คนก็ไม่ค่อยมีค่ะ นักท่องเที่ยวนี่ไม่มีเลย จากคุณ : น้ำแข็งทอด - [ 20 พ.ค. 52 18:46:01 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เดินเข้าไปอีกหน่อย เจออีกประตูแล้วค่ะ ท่าทางจะเข้าเขตวัดแล้ว เราสังเกตดู วัดในญี่ปุ่นน่าจะมีสัญลักษณ์อะไรที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองซักอย่าง อย่างวัดนี้ คือเสารูปร่างอย่างนี้ เพราะทั้งวัดไม่ได้มีแค่เสาเดียว เสาอย่างนี้เห็นตั้งแต่ก่อนเดินเข้ามา 2 กิโล พอเจออีกเสาก็เป็นแบบเดียวกัน เจออีก ก็เป็นแบบเดิม นี่ไม่ใช่เสาสุดท้ายที่เจอด้วยค่ะ จากคุณ : น้ำแข็งทอด - [ 20 พ.ค. 52 18:48:47 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ด้านซ้ายเป็นซุ้มเอาไว้ชำระร่างกายก่อนเข้าวัด เราอ่านวิธีไม่ออก เลยได้แต่ถ่ายรูปมา จากคุณ : น้ำแข็งทอด - [ 20 พ.ค. 52 18:50:02 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ด้านในซุ้มเป็นอย่างนี้ค่ะ จากคุณ : น้ำแข็งทอด - [ 20 พ.ค. 52 18:51:04 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เดินผ่านประตูเข้าไป เป็นตัววัดแล้ว เห็นพระขมีขมันกวาดพื้นอยู่รูปนึงค่ะ จากคุณ : น้ำแข็งทอด - [ 20 พ.ค. 52 18:52:06 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เดินทะลุเข้าไปอีก เป็นลานกว้างๆ เจอนักท่องเที่ยวสะพายกล้องเหมือนเราหนึ่งคนถ้วน จากคุณ : น้ำแข็งทอด - [ 20 พ.ค. 52 18:53:02 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เข้าไปยืนตรงกลางลานแล้วรู้สึกสงบอย่างประหลาดค่ะ อากาศเย็นๆ เสียงนกร้องตอนเช้าๆ มีความสุขมากๆ จากคุณ : น้ำแข็งทอด - [ 20 พ.ค. 52 19:01:31 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ลานนี้เอง มีกิจกรรมให้นั่กท่องเที่ยวอย่างเราๆ ได้ร่วมสนุกมากมายค่ะ อย่างเช่น การเขียนขอพรบนกระดานไม้ที่คุ้นเคย อันละ 500 เยน แต่เราไม่ได้เขียนค่ะ เพราะเค้ายังไม่เปิดขายเลย ...เศร้า จากคุณ : น้ำแข็งทอด - [ 20 พ.ค. 52 19:03:18 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เขียนแล้วก็เอามาแขวนไว้ที่นี่ เราสังสัยเหมือนกันว่าเค้าจะเก็บไปทิ้งบ้างรึป่าว เพราะนักท่องเที่ยวคงเยอะมากๆ มาเขียนแขวนกันทุกคน ที่ไม่น่าจะพอ จากคุณ : น้ำแข็งทอด - [ 20 พ.ค. 52 19:04:33 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ต่อไปมีกลอนสมัยโบราณขายด้วยค่ะ อันละ 100 เยน ไม่มีคนขาย แต่ให้หยอดเงินลงกล่องไม้ด้านล่างภาพ ซึ่งเราอยากจะซื้อมาลองดูซักอัน ควานหาเศษตังค์ในกระเป๋า เจอแต่เหรียญห้าร้อยเยน ชะโงกเข้าไปในกล่องไม้เผื่อว่าจะมีตังค์ทอนให้เรา ทันใดนั้นเองเหลือบไปเห็นมีคุณลุงมายืนจ้องเราใหญ่เลยค่ะ เค้าคงคิดว่าเราจะขโมยเงินในกล่องแน่ๆ เลยต้องทำทีถ่ายรูปกล่องอย่างสนใจเป็นพิเศษ ทำตัวเป็นนักท่องเที่ยวที่ดี แก้ไขเมื่อ 20 พ.ค. 52 19:08:44 จากคุณ : น้ำแข็งทอด - [ 20 พ.ค. 52 19:08:20 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ด้านในกล่องเป็นกระดาษม้วนๆ ให้หยิบค่ะ เป็นภาษาอังกฤษด้วยค่ะ จากคุณ : น้ำแข็งทอด - [ 20 พ.ค. 52 19:09:56 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ป้ายต่อไปของเราคือโอไดบะ ไปอย่างมึนๆ ด้วยข้อมูลอันน้อยนิดว่าต้องไปขึ้นรถไฟสายเอกชนชื่อ Yurikamome แต่ลงป้ายไหนก็ไม่รู้ เดาๆ สุ่มๆ มั่วๆ ไป แต่ก็ดีใจแล้วค่ะ ที่อย่างน้อยเราก็เจอสถานีรถไฟสาย Yurikamome ด้วยความที่รถไฟสาย Yurikamome เป็นของเอกชน เลยดูดีทันสมัยกว่ารถไฟของเจอาร์ เปรี้ยวกว่ามากด้วยเพราะไม่มีคนขับค่ะ เราไปยืนอยู่หัวขบวนเลย เห็นแต่คนนั่ง ไม่เห็นคนขับ ที่นั่งข้างในก็เป็นแบบนั่งหันไปข้างหน้า ไม่ใช่แบบนั่งหันหน้าเข้าหากันเหมือนของเจอาร์ แต่ค่าตั๋วก็แพงกว่าเยอะค่ะ เที่ยวนี้ไปกลับน่าจะประมาณ 1000 เยน ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกรถไฟจะลอดใต้ Rainbow Bridge ด้วยนะคะ วิวสวยมาก จากคุณ : น้ำแข็งทอด - [ 20 พ.ค. 52 19:15:03 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ข้อมูลน้อยอย่างจริงจัง เลยลงก่อนตั้งหลายสถานี ต้องเดินข้ามสะพานไปกว่าจะไปเจอชิงช้าสวรรค์เป้าหมายของเรา ตอนเดินหลงอยู่ เอาชิงช้าสวรรค์เป็นจุดมุ่งหมายค่ะ เห็นมันอยู่ไกลๆ เหมือนว่าต้องข้ามถนนไปอีกไกล เดินหาทางอยู่ตั้งนาน ถึงเจอว่ามันมีสะพานเชื่อมกับสถานีที่เราลงเมื่อกี๊ ไปถึงแถวๆ ชิงช้าสวรรค์ได้เลย นี่แหละค่ะ รสชาดของการเที่ยวญี่ปุ่น เดินกันขาขวิดค่ะ แก้ไขเมื่อ 20 พ.ค. 52 19:19:23 แก้ไขเมื่อ 20 พ.ค. 52 19:19:06 จากคุณ : น้ำแข็งทอด - [ 20 พ.ค. 52 19:18:38 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ในที่สุดก็ถึงซะที ไชโย!!!! จากคุณ : น้ำแข็งทอด - [ 20 พ.ค. 52 19:21:31 ]

ความคิดเห็นที่ 20 แต่ที่ถึงคือ Palette Town ที่เราไม่เคยรู้มาก่อนว่าคือที่ตั้งของชิงช้าสวรรค์ที่เราตั้งใจจะมา เคยอ่านข้อมูลคราวๆ แต่ไม่ทราบจริงๆ ว่าอยู่ที่เดียวกัน แต่อย่างน้อยชิงช้าสวรรค์ก็ใกล้เข้ามาทุกทีแล้ว จากคุณ : น้ำแข็งทอด - [ 20 พ.ค. 52 19:22:40 ]

ความคิดเห็นที่ 21 และใกล้ๆ กันนั้นก็คือ Venus Fort ค่ะ เราเคยได้ยินแต่ชื่อ แต่ไม่รู้ข้างในมีอะไร เดี๋ยวเสร็จจากชิงช้าสวรรค์แล้วจะมาเยี่ยมชมค่ะ จริงๆ คือตอนนั้นมันยังไม่เปิดค่ะ จากคุณ : น้ำแข็งทอด - [ 20 พ.ค. 52 19:27:13 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ขอเที่ยวด้วยคนคร่า จากคุณ : urina - [ 20 พ.ค. 52 19:39:58 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ด้วยความมึนค่ะ เดินไปถึงชิงช้าสวรรค์แบบหลงอีก 10 นาที ก็ปรากฎว่ามันยังไม่เปิด แต่เหลือบไปเห็นว่าร้านเกมส์เปิดแล้ว ร้านเกมส์อะไรไม่รู้ เล่นฆ่าเวลาไปก่อน เพราะชิงช้าสวรรค์กว่าจะเปิดอีกนานเลยค่ะ ตอนแรกคิดว่าไม่มีอะไร ที่ไหนได้ แค่ก้าวเท้าผ่านประตูเข้าไปเท่านั้นแหละ เกมส์ตู้อะไรต่อมิอะไรเต็มไปหมด ตื่นตาตื่นใจมากๆ ตอนแรกที่คิดจะเดินเข้ามาฆ่าเวลาเฉยๆ แต่ปรากฎว่าติดงอมแงมเล่นเกมส์ตู้จนลืมเวลาเลยค่ะ แก้ไขเมื่อ 20 พ.ค. 52 19:51:38 จากคุณ : น้ำแข็งทอด - [ 20 พ.ค. 52 19:51:13 ]

ความคิดเห็นที่ 24 สวัสดีค่า คุณ urina ----------------------------------------------------- ของรางวัลในตู้แต่ละอย่างก็น่าเล่นเกมส์มาเป็นของเรามาก จากคุณ : น้ำแข็งทอด - [ 20 พ.ค. 52 19:52:49 ]

ความคิดเห็นที่ 25 500 เยน เล่นได้ 3 ครั้ง เราก็เล่นอย่างเมามัน ต้องได้ตุ๊กตาติดไม้ติดมือออกมาซักตัว จากคุณ : น้ำแข็งทอด - [ 20 พ.ค. 52 19:53:52 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ที่ไหนได้ เสียเงินไป 1500 เยน แบบไม่ได้อะไรซักอย่าง กระเป๋าแฟ่บเลยค่ะ หมดแรงเลย หาของกินซะเลยประชดชีวิต จากคุณ : น้ำแข็งทอด - [ 20 พ.ค. 52 19:55:11 ]

ความคิดเห็นที่ 27 เหลือบซ้ายแลขวาไปเจอร้านอาหารเข้าค่ะ เลือกร้านซ้ายสุดละกัน อ่านว่าอะไร คาเรๆ แกงกระหรี่ของชอบ เลยเดินเข้าไปสอดส่องหาของทานฆ่าเวลา แก้ไขเมื่อ 20 พ.ค. 52 19:57:33 จากคุณ : น้ำแข็งทอด - [ 20 พ.ค. 52 19:57:04 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ดีใจอย่างยิ่งที่ร้านนี้ซื้อด้วยการกดตั๋วไปยื่นให้เค้า จากคุณ : น้ำแข็งทอด - [ 20 พ.ค. 52 19:59:26 ]

ความคิดเห็นที่ 29 แต่เราดันไม่เก่งคาตาคานะ เลยอ่านออกแต่...คาเร แบบมีแกงกระหรี่ให้เลือกเยอะมากๆ เลยวัดดวงเลือกอันที่ถูกสุด 400 เยน จากคุณ : น้ำแข็งทอด - [ 20 พ.ค. 52 20:00:49 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ตามมาเที่ยวคร๊าบ จากคุณ : MAILAKPAGKEELAN - [ 20 พ.ค. 52 20:03:50 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ได้มาหน้าตาอย่างนี้ ส่วนโค้กไปกดเอาจากเครื่องค่ะ ถึงหน้าตาจะธรรมดาๆ แต่รสชาดทานแล้วน้ำตาไหลเพราะอร่อยมากๆๆ เข้มข้นมากๆ ในนั้นไม่มีอะไรเลยค่ะ แม้แต่ผักซักชิ้น แต่มันอร่อยอะ จากคุณ : น้ำแข็งทอด - [ 20 พ.ค. 52 20:05:22 ]

ความคิดเห็นที่ 32 สวัสดีค่า คุณ MAILAKPAGKEELAN ------------------------------------------- อิ่มหนำแล้วก็ถึงเวลาไปนั่งชิงช้าสวรรค์ที่รอคอยค่ะ ค่าตั๋ว 900 เยน ต่อคน ทุลักทุเลเล็กน้อยตอนซื้อตั๋ว เพราะไม่มีใครพูดอังกฤษกะเราได้ซักคนค่ะ พอขึ้นไปแล้ว เจอคุณลุงชี้ไปให้เราไปยืนหน้าภาพขนาดใหญ่ที่เป็นรูปของชิงช้าสวรรค์เนี่ยแหละค่ะ พอเรายืนได้ที่ คุณลุงยกกล้องขึ้นมาถ่าย 2 แชะ ด้วยสัญชาตญาณ ยกสองนิ้วสู้ตายไว้ก่อน โดยไม่รู้ว่าเค้าถ่ายไปทำอะไร เดี๋ยวเค้าจะปริ๊นให้เราฟรีรึเปล่า หรือว่ายังไง หลุดออกมาจากตรงนั้น เจอคุณลุงอีกสองคนดูและชิงช้าสวรรค์อยู่ คุณลุงสองคนนี้อัธยาศัยดีมากๆ ตอนแรกเค้าจะให้เราเลือกก่อนค่ะว่าเราจะนั่งแบบไหน มีสองแบบให้เลือก แบบตู้ที่นั่งใสทั้งหมด หรือแบบตู้ที่นั่งสีๆ ที่จะเห็นวิวแค่ตรงหน้าต่างรอบๆ ที่นั่ง เราเลือกแบบใสทั้งหมดค่ะ เอาให้คุ้ม หลังจากนั้นก็ต้องรอตู้แบบใสทั้งหมดให้หมุนมาถึงทางที่เราจะขึ้น คุณลุงเลยเหมือนจะชวนเราคุยค่ะ ด้วยภาษาญี่ปุ่นงูๆ ปลาๆ ของเรา เลยออกตัวชิงเริ่มบทสนทนาก่อนว่าเรามาจากเมืองไทย คุณลุงจะได้เห็นว่าเราพอฟังเค้าออก เค้าก็ยิ้มใหญ่เลยค่ะ หันไปบอกคุณลุงอีกคนว่า สองคนนี้มาจากเมืองไทยนะ ดีใจที่เค้ารู้จักประเทศเราด้วย จากคุณ : น้ำแข็งทอด - [ 20 พ.ค. 52 20:12:49 ]

ความคิดเห็นที่ 33 บนตู้ที่นั่ง จะมีลำโพงติดอยู่บนเพดานค่ะ คิดว่าน่าจะคอยบอกให้หันไปทางไหน จะเจออะไร แต่มันเป็นภาษาญี่ปุ่น เลยฟังไม่ออกเลย แต่วิวข้างบนสวยมากค่ะ จากคุณ : น้ำแข็งทอด - [ 20 พ.ค. 52 20:15:40 ]

ความคิดเห็นที่ 34 เห็นชัดไปถึงไหนถึงไหน เห็นสถานีโทรทัศน์อะไรซักอย่างด้วยค่ะ วิวสวยจริงๆ ขอแนะนำให้เลือกแบบใสทั้งหมดนะคะ จากคุณ : น้ำแข็งทอด - [ 20 พ.ค. 52 20:16:57 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ลงจากชิงช้าสวรรค์แล้ว ก็เจอรูปเราและเพื่อนที่ถ่ายไปเมื่อกี๊ใส่กรอบอย่างดีวางตั้งเอาไว้ อย่างนี้ไม่ซื้อได้ยังไงคะ เลยโดนกันไปคนละ 1000 เยน จากคุณ : น้ำแข็งทอด - [ 20 พ.ค. 52 20:19:04 ]

ความคิดเห็นที่ 36 เสร็จจากตรงนี้ ไปเที่ยว Venus Fort กันต่อเลยค่ะ จากคุณ : น้ำแข็งทอด - [ 20 พ.ค. 52 20:21:12 ]

ความคิดเห็นที่ 37 เป็นห้างสรรพสินค้าที่มีเอกลักษณ์พิเศษคือมีท้องฟ้าจำลองอยู่ด้านบนค่ะ เวลาเดินเลยไม่เหมือนเดินเล่นในห้างเท่าไหร่ แต่มันก็คือเท่านั้นแหละค่ะ นอกนั้นก็คือห้างสรรพสินค้าทั่วไป มีเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า ร้านเกมส์ แต่เราเดินแค่ชั้น 1 ชั้นเดียว แล้วก็ออกค่ะ จากคุณ : น้ำแข็งทอด - [ 20 พ.ค. 52 20:23:46 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ป้ายต่อไปคือวัดเซนโซจิที่อาซากุซะ แต่เดี๋ยวมาต่อพรุ่งนี้ค่ะ จากคุณ : น้ำแข็งทอด - [ 20 พ.ค. 52 20:26:30 ]

ความคิดเห็นที่ 39 สวัสดีค่ะ ตามไปเที่ยวด้วยคน วัดเมจิยังไม่เคยเข้าไปเลยค่ะ ได้แต่เดินผ่าน ถ้าเงียบสงบอย่างนี้คราวหน้าคงไม่พลาด ไปญี่ปุ่นนอกจากเสียค่าของกินเยอะแล้ว พวกบรรดาเกมตู้ก็กวาดเงินในกระเป๋าไปเหมือนกัน ด้วยของที่ยั่วใจในตู้เลยเล่นกันอย่างเมามัน สรุปไม่ได้อะไรติดมือ แถมเสียเงินไปอย่างไม่ควรเสีย555 ตอนไปโอไดบะ รู้สึกเหมือนกันว่าค่ารถไฟแพงจัง เลยลงมันสถานีแรกๆ แถวสถานีที่เห็นเทพียืนอยู่นั่นแหละค่ะ แล้วอาศัยเดินชมวิวไปเรื่อยถึง Palette Town แต่เราไปตอนสายๆ อะไรๆมันเลยยังไม่เปิด โอไดบะเค้าว่าต้องไปตอนเย็นๆค่ำๆ จากคุณ : เจ้าแก้วพิสดาร ณ เมืองปาย - [ 21 พ.ค. 52 03:59:07 ]

ความคิดเห็นที่ 40 คห. 8 , 9 เหมือนเพื่อนเพิ่งไปมา เอาไว้ล้างหน้า บ้วนปากก่อนเข้าวัดมั๊งคะ อยากไปญี่ปุ่นมั่งจัง ว่าจะถามอยู่พอดี ว่าถ้าไป 7 วัน กะเงิน 50,000 จะเพียงพอรึป่าว ไม่เน้นห้องพักแพงค่ะ เน้นเงินไปกิน เที่ยว กะช้อป บ้างพอเป็นพิธี แต่ตอนนี้ญี่ปุ่นเจอไข้หวัดหมูระบาด เลยเดี๋ยวเก็บตังและไปปีหน้าดีกว่า (วางแผนล่วงหน้าเป็นปี 555) จากคุณ : โบโบจัง (chaneekang) - [ 21 พ.ค. 52 13:06:46 ]

ความคิดเห็นที่ 41 เข้ามาตามไปเที่ยวต่อคร้าบบ จากคุณ : zaxofone - [ 21 พ.ค. 52 16:09:56 ]

ความคิดเห็นที่ 42 เซียมซีแบบยื่นมือไปล้วงๆ เราไม่เห็นเลยค่ะ เลยได้เสี่ยงแต่แบบคว่ำให้ไม้ไหลลงมา ที่วัด Sensoji เท่านั้น โอไดบะก็ไม่ได้ไปค่ะ เหนื่อยซะก่อนเลยตัดทิ้งซะอย่างนั้น จากคุณ : hiroko - [ 21 พ.ค. 52 18:04:49 ]

ความคิดเห็นที่ 43 มาตามไปเที่ยวต่อค่ะ มึนๆก็หนุกไปอีกแบบเนอะ (ทำประจำเลยรู้ ) จากคุณ : yuki_shimi - [ 22 พ.ค. 52 22:57:15 ]