 |
[[[[[[[[[[ ติด ตม. - - สิงคโปร์ - - ประสบการณ์ตรง ]]]]]]]]]]
ไปสิงคโปร์ถึง 2 ครั้ง แต่ไม่สามารถผ่านด่าน ตม. ได้
จะเล่าเหตุการณ์ให้ฟังนะคะ ตอนนั้นไปฝึกงาน (ไม่สามารถบอกได้ว่าที่ใด)
แนะนำตัวค่ะ แกะดำนะคะ อายุแค่ 20 ต้นๆ เท่านั้น นี่คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง
ตอนเดินไปถึงตม. ปกติคนจะเยอะมาก เราเลือกแถวที่มี ตม. ที่เป็นผู้หญิง เพราะเราเคยได้ยินมาว่า ตม. ที่เป็นผู้ชายน่าจะมีปัญหามากกว่า แต่เนื่องจากคนเยอะ เราจึงมองไม่เห็นพนักงาน ตม. จึงเข้าไปต่อแถวที่สั้นที่สุด พอมาถึงคิว อ่าวววว ผู้หญิงนี่นา (แต่คิดในใจไม่เป็นไรหรอก) ห้านาทีผ่านไปเรายังยืนอยู่ที่เดิมเนื่องจากคนเยอะ แต่ทุกคนก็ผ่านหมด เราจึงคิดว่ายังไงก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร เราเคยไปทั้งยุโรปและหลายประเทศในเอเชียมาแล้ว ผ่านตลอด แต่... เมื่อถึงคิวเรา ตม. ถามโน่นถามนี่ แล้วก็ส่งสัญลักษณ์มือให้พนักงานที่อยู่ประจำ Immigration office มาพาตัวเราออกไปจากแถว แล้วก็เอาโซ่มาปิดแถวนั้น และให้นักท่องเที่ยวคนอื่นไปต่อแถวอื่นแทน ตอนนั้นใจเราร่วงมาอยู่ที่ตาตุ่มเลย แต่คิดว่าคงไม่มีอะไรมั้ง ตม. คงอยากดูเอกสารอะไรบางอย่างจากเรา...
** ต้องบอกก่อนว่าอีกอย่างหนึ่งที่ทำให้เราลำบากมากคือ โทรศัพท์มือถือเราไม่มี roaming เรามีซิมที่เพื่อนเก่าให้มาเมื่อครั้งมาเที่ยวสิงคโปร์ แต่ไม่รู้ว่ามีเงินอยู่เท่าไหร่ และเราไม่คิดว่าจะเจอปัญหาแบบนี้ขึ้น เราจึงไม่ได้ realize ว่าควรจะซื้อบัตรเติมเงินก่อนที่จะผ่านมาถึง ตม. มาถึงตม. แล้วไม่สามารถย้อนกลับไปซื้อได้
พนักงานพาเรามานั่งอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมห้องหนึ่ง ตม. ขอดูเอกสาร และบอกว่าชื่อของเราไม่อยู่ในระบบ ยังไงก็ปล่อยเราเข้าประเทศไม่ได้ เราเริ่ม งงๆ เพราะที่ฝึกงานของเราบอกว่าเอกสารครบเดินทางมาได้เลยนี่นา ยังไงยืนยันคุณเข้าประเทศสิงคโปร์ไม่ได้ ! ทาง ตม โทรเข้าหาที่ฝึกงานของเราคุยกันเป็นภาษาจีนแต้จิ๋ว ซึ่งเราไม่เข้าใจ และเขาก็มาถามว่าเราเอาตังค์มาเท่าไหร่ เราบอกไป เจ็ดหมื่นบาท พนักงานเดินออกไป และกลับเข้ามาพร้อมกับบอกว่ายังไงก็ไม่ให้เข้าประเทศและได้จองตั๋วกลับเมืองไทยให้เราเรียบร้อยแล้ว เราถึงกับ งง และถามว่าใครจ่ายค่าตั๋ว พนักงานยืนยันโทรคุยกับบริษัทที่รับเราเข้าฝึกงานแล้ว เขาจะรับผิดชอบเองทั้งหมด แกะดำก็โอเคเข้าใจ เพราะปกติเดินทางคนเดียวอยู่แล้ว เค้าจะพาไปไหนเราก็ไป...
หลังจากวินาทีนั้น เราเหมือนนักโทษทำความผิดเลย Guard 4 คน หน้าสอง หลังสอง guard พาเราไปที่ห้องพักของฝ่ายตรวจคนเข้าเมือง พนักงานด้านในมีแต่พวกแขก (ผู้ชายประมาณ 30 คนกำลังนั่งทานข้าวอยู่) และก็ผู้หญิงที่สูบบุหรี่เยอะมาก มาจากหลากหลายประเทศด้วยเหตุผลเดียวกันคือ เข้าประเทศไม่ได้ เมื่อ guard พาเรามาส่งแล้ว ให้กุญแจสองดอก เพื่อจะให้เราเก็บกระเป๋าทั้งหมด ทั้งหมดจริงๆ แม้แต่ mp3 ยังไม่ได้รับอนุญาตให้พกติดตัว ระหว่างนั่งรอการสอบสวน โทรศัพท์มือถือให้ปิดเครื่องและเก็บไว้ในล็อคเกอร์ มีกุญแจสองดอก 1 ดอกเก็บไว้กับเจ้าหน้าที่ และอีกหนึ่งดอกเก็บเอาไว้กับตัวเอง จุดนี้เป็นจุดที่เรากังวลมาก เพราะเราได้ทำการจองโรงแรมที่พักเอาไว้แล้ว ถ้าเราเข้าประเทศไม่ได้ต้องโทรแจ้ง และถ้า ตม. ซื้อตั๋วให้เรากลับแล้ว เราต้องโทรบอกที่บ้านให้มารับที่สนามบิน เราอ้อนวอนขอใช้โทรศัพท์แค่ 1 นาที แต่การร้องขอได้รับการปฏิเสธและโดนว่ากลับมาด้วย ว่าให้นั่งรอก่อน อย่าเรื่องมาก คนอื่นยังรอได้เลย
เวลาตอนนั้น 10 โมงเช้า ทาง ตม จองตั๋วกลับให้ตอน 4 โมงเย็น ทำอะไรไม่ได้นอกจากนั่งรออย่างเดียว ภายในนั้นมีห้องนอน มีหมอน เตียง และมีโซฟาไว้สองส่วน ซึ่งแยกสัดส่วนของผู้ชายและผู้หญิงอย่างชัดเจน ภายในพื้นที่แคบๆ นั้น มีห้องน้ำในตัวใกล้ๆ กับโซฟาที่นั่งพัก
เมื่อนั่งไปได้ประมาณ 1 ชั่วโมง ตม เรียกไปเอาข้าวกล่อง พร้อมแอปเปิ้ล 1 ลูก จะพูดง่ายๆ ก็คือได้กินข้างกลางวันพร้อมพนักงานนั่นเอง ซึ่งก็ยังถือเป็นความโชคดีในความโชคร้ายของแกะดำคะ อาหารที่ได้มาคือ ปลาเปรี้ยวหวานราดข้าว น้ำผลไม้เล็กๆ 1 กระป๋อง และแอปเปิ้ล 1 ลูก ซึ่งรสชาดโดยรวมจืดกว่าอาหารเมืองไทยเยอะ เมื่อใกล้เวลา 4 โมงเย็น พนักงานมาเรียกให้เอากระเป๋าและสัมภาระจากล็อคเกอร์และให้เดินตามออกไปด้านนอก ตลอดกระบวนการเดินทางกลับ เราเหนื่อยมาก แต่ไม่ท้อและเสียกำลัง แต่ยอมรับว่าเสียสูญบ้างนิดหน่อย เพราะรู้สึกเหมือนเราทำผิด ทำไมเข้าประเทศไม่ได้
เรากลับมาถึงเมืองไทย พี่ชายมารับกลับบ้าน ทานข้าว ทางบริษัทแจ้งว่าติดตามข่าวทางเมล์ว่าจะให้เรามาเริ่มฝึกงานได้อีกทีเมื่อไหร่
จากคุณ :
แกะดำนัมเบอร์วัน 
- [
21 พ.ค. 52 17:22:39
]
|
|
|
|
|
|
