ความคิดเห็นที่ 1 เคยเห็นใครๆบอกมาว่า ผ่านตม.ที่ญี่ปุ่นเนี่ย อย่าห้าวพูดญีปุ่นกะเค้า สงสัยจะจริง   ขอบคุณคะที่มาเล่าสู่กันฟัง จากคุณ : ~Just Relax~ - [ 22 พ.ค. 52 10:58:58 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ขอบคุณที่มาแบ่งปัน และมาเป็นกำลังใจคนแรกเลยค่ะ แต่ก็ยังโชคดีที่ผ่านไปด้วยดีนะคะเนี่ย จากคุณ : kristy_th - [ 22 พ.ค. 52 11:02:12 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ขอบคุณที่มาเล่าให้ฟัง แต่ น่าจะขอถ่ายรูปตม.สุดหล่อมาด้วยนะคะ ส่วนตัวเคยถูกกักที่ ตม. chicago เหมือนกันค่ะ เรียกไปถามนู่นนี่มากมาย จับเรา หันไปข้างๆ มีคนถูกนั่งล่ามโซ่ไว้กับเก้าอี้ด้วย แล้วห้องนั้นก็เย็นมากๆๆเลยค่ะ  กว่าจะปล่อยตัวออกมา เกือบไป connecting flight ไม่ทันแน่ะ ของเราถูกกับครึ่งชั่วโมงแน่ะ กลับไปอีกที เหลือกระเป๋าเราหมุนๆอยู่ใบเดียว คนอื่นเค้าไปกันถึงไหนแล้ว ประสปการณ์เดินทางคนเดียว 5555 จากคุณ : I Promise - [ 22 พ.ค. 52 11:03:12 ]

ความคิดเห็นที่ 4 งง?อ่ะค่ะ เพราะภาษาญี่ปุ่นแบบคนที่เรียนแบบเข้าคลาสมา กับภาษาญี่ปุ่นนอกห้องเรียนประเภทเรียนเป็นคำๆ  ...เราว่ามันต่างกันนะ แล้วไปดูคอนเสิร์ตเนี่ย..ออกจะดูคุณหนูๆจะตาย ไม่เข้าใจอีตาหล่อนั่นด้วยคน??? ว่าแต่...ไปดูคอนฯใครมาคะ จากคุณ : ลอร่า อิงกัลส์ ~* - [ 22 พ.ค. 52 11:12:53 ]

ความคิดเห็นที่ 5 รักจะเที่ยวต่างประเทศ คงต้องทำใจกับ ตม. จากคุณ : พะโล้น้อย - [ 22 พ.ค. 52 11:14:39 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ก็คิดว่าโดนกักเพราะพูดญี่ปุ่นชัดเกินไปนี่แหละค่ะ 55+ แหม ของมันฟังทุกวัน ใช้ทุกวัน มันก็ซึมเข้าหัวเป็นธรรมดา แต่นึกแล้วก็แค้น ถ้าไม่อยากให้พูด แล้วมาถามเป็นญี่ปุ่นทำไม เราก็นึกว่า ถ้าถามแล้วตอบไม่ได้จะแย่กว่าเก่าหรือเปล่า ก็เลยตัดสินใจเอาตรงนั้นเลยว่า เค้าถามไรมาจะตอบให้หมด เพราะถึงยังไงหลักฐานที่เราติดตัวมาทุกอย่างก็ตรวจสอบได้ อย่างน้อยก็ดูมีการศึกษา เป็นคนมีงานมีการทำเป็นหลักเป็นแหล่ง ไม่ได้เข้ามาประกอบอาชีพอย่างว่าแน่ๆ แต่พอเราเริ่มอารมณ์เสีย ลุงตม.แกก็ดูเกรงๆไปเหมือนกัน เราคิดว่าเค้าน่าจะรู้ตั้งแต่เห็นพาสปอร์ต+หลักฐานอื่นๆแล้วแหละว่าเรามาเที่ยวจริง แต่ก็ต้องถามพอเป็นพิธีก่อนจะปล่อย จากคุณ : QAF~Princess - [ 22 พ.ค. 52 11:17:48 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ตอบคุณ ลอร่า อิงกัลส์ ~* ไปดู KAT-TUN ค่ะ ภาษาที่เราใช้ ก็ภาษาเรียน+ภาษาพูดวัยรุ่นคละๆกันไปค่ะ.... เราเรียนมานานแล้ว แกรมม่าโยนทิ้งเกือบหมด แต่ก็พูดสื่อสารได้ปกติ ส่วนเรื่องแต่งตัว แน่นอนว่าโอโจซามะ กระโปรง เสื้อโค้ทเข้าชุด รองเท้าส้นเข็ม ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าอิตานั่นจะหมั่นไส้เรา 555+ จากคุณ : QAF~Princess - [ 22 พ.ค. 52 11:22:12 ]

ความคิดเห็นที่ 8 มีงี้ด้วย เหอๆ จากคุณ : Canon_tommy - [ 22 พ.ค. 52 11:31:09 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เอ๊ะ ..แล้วตัวเล็กจะพาไปดูคอนเสริต์เดือน กรกฏา ด้วยนี่ จะโดนเข้าห้องเย็นไหมเนี่ย? จากคุณ : คุณแม่ติดเน็ต - [ 22 พ.ค. 52 11:33:41 ]

ความคิดเห็นที่ 10 แย่แล้ว เกิดผมอยากไปดูคอนเสิร์ต Morning Musume มิต้องถูกกักตัวแบบจขกท.เหรอ แต่คงต้องหาวิธีซื้อบัตรคอนเสิร์ตซะก่อน เศร้าหนัก T T จากคุณ : Furusato - [ 22 พ.ค. 52 11:48:58 ]

ความคิดเห็นที่ 11 จำไว้ให้ขึ้นใจนะครับ ภาษาที่ใช้เจรจากับ ตม. มีอยู่ภาษาเดียวครับ คือ "ภาษาอังกฤษ" ไม่ว่าจะไปประเทศไหน เจอ ตม. ที่ภาษาอังกฤษวิบัติขนาดไหน ตัวเราห้ามพูดภาษาท้องถิ่นตอบไปนะครับ แม้ว่าจะพูดได้ก็ตาม ฟังอย่างเดียวครับ ถ้าถามมาเป็นภาษาท้องถิ่น ให้ทำไม่รู้ไม่ชี้ แล้วบอกกลับเป็นภาษาอังกฤษว่าไม่เข้าใจ ภาษาอังกฤษอย่างเดียวครับ นี่คือภาษาสากลสำหรับพูดกับทุกหน่วยงานที่อยู่ในสนามบินครับ  (ตม.ไทยไม่เกี่ยวนะครับ พูดอังกฤษใส่ อาจโดนด่ากลับมาได้ 555) การพูดภาษาท้องถิ่นได้ มันคือหลักฐานอย่างหนึ่งในการพิจารณาว่าเรามีแนวโน้มที่จะไปหาอะไรทำที่นู่นนะครับ -_-' จากคุณ : SkyBox - [ 22 พ.ค. 52 11:49:45 ]

ความคิดเห็นที่ 12 อ้อลืม ยกเว้น ตม. ประเทศลาว อีกแห่งพูดไทยได้สบายใจครับ ^_^ จากคุณ : SkyBox - [ 22 พ.ค. 52 11:53:35 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ตอนเราไป ตม. ก็พูดอะไรไม่รู้ภาษาญี่ปุ่นออกมา เราก็มองหน้าเค้าแบบเอ๋อๆ เค้าก็พูดซ้ำประโยคเดิมอีก เราก็อ่อออ... ฟังไม่รู้เรื่อง... เลยบอกว่า I'm Thai. English Pls...... เค้าถึงถามเป็นภาษาอังกฤษกลับมา ถามแค่ว่ามาเที่ยวหรอ กี่วัน สองสามประโยคแล้วก็ผ่านไป.... จากคุณ : GeD^_^GeD - [ 22 พ.ค. 52 12:03:34 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ไปเจอตม.หนุ่มๆก็อย่างนี้ล่ะครับ คือ...พวกนี้เขาจะตรงเป๊ะๆๆๆกับกฏหรือข้อระมัดระวังที่ให้มามากๆ ประมาณว่าประสบการณ์น้อย...ก็เลยยึดตัวอักษรเป็นหลัก ตม.ญี่ปุ่นเขาจะมีข้อระมัดระวังแจ้งให้รู้กันว่า... คนเข้าเมืองจากประเทศนู้นถ้าเป็นแบบนี้...ให้ระวัง... ผมเดาว่าคุณเป็นผู้หญิงมากันสองคนเขาเลยคิดไปว่าอาจจะมาทำงานพิเศษ เพราะเขาอาจจะมีข้อระมัดระวังเรื่องนี้แจ้งกันไว้....พอตม.หนุ่มประสบการณ์น้อยเจอคุณก็เลยเอาไว้ก่อน เคยเข้าประเทศแล้วครั้งนึงก็อาจจะไม่พอยืนยันได้(สำหรับตัวเขา) แต่ถ้าเป็นตม.แก่ประสบการณ์แล้วคุณอาจจะผ่านไปเลยก็ได้ เรือ่งการใช้ภาษาญี่ปุ่นคุยกับตม.นี่ก็ไม่แน่เหมือนกัน.... เพราะบางทีผมก็คุยด้วยภาษาญี่ปุ่น (ถ้านึกภาษาอังกฤษไม่ทัน) บางทีก็อังกฤษคำญี่ปุ่นคำ....วุ่นวายไปหมด... แต่บางทีตม.เขาก็โอเคนะครับ....ดูเป็นมิตรขึ้นเมื่อเราพูดกับเขาเป็นภาษาญี่ปุ่น สรุปก็คือ...ไม่มีอะไรแน่นอนครับ...แล้วแต่อารมณ์และประสบการณ์ของตม.คนนั้นๆ จากคุณ : กล้าที่จะรัก - [ 22 พ.ค. 52 12:22:01 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุณสำหรับประสบการณ์น่ะคะ คุณ SkyBox นอกจาก ตม.ลาวก็มีตม.เวียดนามที่ด่านลาวบาวค่ะ.... ไปที่นั่งเจ้าหน้าที่พูดไทยปร๋อ คุณจขกท. ถือเป็นประสบการณ์น่ะคะ ดูคอนเสิร์ตสนุกมั้ยคะ.... จากคุณ : เจ้าแก้วพิสดาร ณ เมืองปาย - [ 22 พ.ค. 52 12:34:52 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ตอบตามประสบการณ์ของคนที่เข้าออกญี่ปุ่นเป็นว่าเล่นคนนึงนะครับ..ขอตอบตาม fact ไม่ได้มีเจตนาดูถูดคุณทั้งสิ้นครับ... คือการเดินทางเข้าญี่ปุ่นของคุณ มันชวนให้ ตม. มีข้อสงสัยหลายประการ... 1. เดินทางกันผู้หญิง 2 คน 2. การแต่งการตามแฟชั่น อย่างสาวญี่ปุ่นเป๊ะ 3. สื่อสารภาษาญี่ปุ่นได้คล่อง โดยเฉพาะได้ภาษาวัยรุ่นอีกต่างหาก 4. โรงแรมชื่อไม่คุ้นเคย (ก็เค้าคุ้นแต่ชื่อภาษาอังกฤษ กะ ภาษาญี่ปุ่น เช่น Prince, Omni, Nikko) แต่นี่ดันชื่อภาษาไทยแฮะ.... 5. รู้จักนักร้องญี่ปุ่นอีกต่างหาก...ซึ่งเค้าก็คงแปลกใจว่า คนไทยชอบขนาดต้องตามมาดูคอนเสิร์ตถึงนี่เชียว? (หารู้ไม่ พี่ไทยทำได้ทุกอย่าง) นี่แหละครับ...เหตุผลที่ทำให้เค้าเชื่อว่า คุณอาจจะมาทำงานพิเศษ ก็เป็นได้ ฉะนั้นเพื่อสวัสดิภาพในการทำงานของเค้าเอง...เลยขอส่งตัวคุณเข้าตู้เย็น ให้ระดับ senior ตัดสินใจแทน.... ขนาดผม บินเข้าบินออกปีนึง 6-7 ครั้งยังโดนเข้าตู้เย็นทีนึงเลย...เพราะเค้าถามว่า มาทำไมบ่อยๆ...เลยบอกเค้าไปว่า เป็นพวกบ้ารถไฟ กะทำงานท่องเที่ยวต้องมา Inspect เส้นทาง...เค้าก็เปล่าเข้าไปล่ะครับ จากคุณ : donatt76 - [ 22 พ.ค. 52 12:47:24 ]

ความคิดเห็นที่ 17 มาให้ Give เป็นกำลังใจ.. อีกใจนึง ก็เข้าใจเจ้าหน้าที่เค้านะ ญี่ปุ่นเค้าเป็นประเทศที่ค่อนข้างปิดตัว และรู้เฉพาะเรื่องของเค้าเอง และไม่ค่อยอยากสนใจเรื่องของชาติอื่นเท่าไหร่ ถ้าไม่เีกี่ยวกับเรื่องงานหรือความชอบส่วนตัว เค้าคงไม่เข้่าใจหรอกว่าทำไมสาวไทย 2 คน ถึงได้คลั่งใคล้อยากดูคอนเสิร์ตนักร้องญี่ปุ่นมากขนาดนี้ ในความคิดของเค้า มันคงเป็นเหตุผลที่ไม่ค่อยน่าเชื่อถือมากเท่าไหร่ แถมคุณกับเพื่อนยังพูดญี่ปุ่นได้คล่องซ่ะอีก สาวต่างชาติที่แอบไปทำอาชีพอย่างว่า ก็มักจะพูดญี่ปุ่นได้คล่องเหมือนกันนะครับ ซึ่งก็คงเป็นเหตุผลเดียวกับคุณพี่ ตม. อาวุโส ที่เค้าคงไม่เข้าใจเหมือนกัน ส่วนที่พักที่ข้าวสารเกสต์เฮาส์ เนื่องจากมันเป็นที่พักแนว Hostel ราคาถูก สามารถจองไว้เล่น ๆ ก็ได้ ค่าห้องแค่ไม่กี่พันเยนต่อคืน ถือเป็นเงินมูลค่าน้อยมากในความคิดคนญี่ปุ่น (แต่แพงแล้วสำหรับคนไทย) ซึ่งถ้าผมเป็น ตม. ผมก็จะตั้งข้อสงสัยว่า คุณและเพื่อนอาจจองไว้เป็นข้ออ้าง มีสาวไทยหลายคนไปทำชื่อเสียไว้เยอะครับ เค้าเลยต้องระวังไว้ก่อน คิดในแง่ดี คุณ QAF~Princess  กับเพื่อนคงเป็นสาวสวยเซ็กซี่ จนทำให้ ตม. เค้าเกิดจังงังจนต้องตั้งข้อสงสัย เลยนะนี่นะ อิอิ..   คุณ พึ่งเห็น คห. คุณ donatt76 บ้ารถไฟเหมือนกันรึนี่ ดีเลยครับ ถ้ามีโอกาสผมจะขอแลกเปลี่ยนความรู้ด้วย.. ผมก็บ้าเข้าขั้นเหมือนกัน แก้ไขเมื่อ 22 พ.ค. 52 13:04:15 จากคุณ : NumAromDee - [ 22 พ.ค. 52 13:01:53 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ก็จริงของคุณ Sky Box แหละค่ะ เราก็คิดว่าเหตุที่โดนเพ่งเล็งก็น่าจะเป็นเพราะการใช้ภาษา แต่ครั้งก่อนที่มา ก็โดนถามด้วยภาษาอังกฤษ แล้วตามด้วยภาษาญี่ปุ่น เราก็ตอบไปตามปกติ ก็ไม่มีปัญหา เข้าได้สบายใจ แต่ครั้งนี้ อย่างที่บอก.... เราคงโชคร้ายเองด้วยที่ไปเลือกเจ้าหมอนั่น คุณ กล้าที่จะรัก - ครั้งแรกที่เราไปญี่ปุ่น ก็ทักทายคุณลุงตม.เฮฮามากเลยค่ะ พอเขาคืนเล่มให้ ยังขอบคุณ อวยชัยให้พรเป็นภาษาญี่ปุ่นกันสนุกสนาน เป็นความประทับใจอย่างรุนแรง ก็คิดว่าเป็นบทลงโทษของการเห่อคนหน้าตาดีแล้วกัน คราวหน้าจะเลือกคุณลุง ไม่เลือกหนุ่มๆแล้ว *เคือง* เจ้าแก้วพิสดาร ณ เมืองปาย - สนุกมากกกกค่ะ ถ้าพลาดไปนี่เสียดายแย่ ยิ่งถ้ามาพลาดเพราะตม.นี่มันน่าเจ็บใจกว่าวีซ่าไม่ผ่านซะอีก 555+ donatt76 - ขอบคุณสำหรับคำแนะนำค่ะ แต่จริงๆแล้วเราก็ยังคิดว่าเราไม่อยู่ในข่ายน่าสงสัยนะเนี่ย (หัวเราะกลิ้ง) แต่มาตรฐานของเรากับเขาก็แตกต่างกันแหละเนอะ ที่แต่งตัวไปก็เพราะกะว่าเก็บกระเป๋าแล้วจะไปร่อนข้างนอกเลย จะได้ไม่เสียเวลาเปลี่ยนชุด ห้องที่ข้าวสารก็สุดจะเล็ก เปลี่ยนเสื้อที เบียดกันสุดใจ ครั้นจะโนเมคอัพก็กลัวว่าคนที่สนามบินจะตกใจกับหน้าโล้นๆของเรา 555+ คราวหน้าคงต้องกลมกลืนกับฝูงชนด้วยเสื้อยืด กางเกงยีน จากคุณ : QAF~Princess - [ 22 พ.ค. 52 13:18:18 ]

ความคิดเห็นที่ 19 โหยยย คุณหนุ่ม เรื่องเซ็กซี่ หามีไม่เลยค่ะ เสื้อผ้าก็กระโปรงวันพีซธรรมดา ไม่เว้าแหว่ง แหวกโชว์แต่อย่างใด (ไม่มีจะโชว์นั่นเอง) เป็นพวกGALโมเอะไทป์ หาได้ตามฮาราน่ะค่ะ ยังไงคราวหน้าก็จะระวังมากขึ้นนะคะ (มันไม่เข็ด มันจะไปอีกกกกก 555+) ขอบคุณสำหรับคำแนะนำค่ะ จากคุณ : QAF~Princess - [ 22 พ.ค. 52 13:22:54 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เหวออออ จริงเหรอคะ เป็นความรู้ใหม่นะเนี่ย อย่าเปรี้ยวพูดญี่ปุ่นกับ ตม. เรายังไม่เคยเข้าห้องเย็นค่ะ แล้วก็ พูดญี่ปุ่นได้แต่คำง่ายๆ สวัสดี ขอบคุณ นับเลข ไรพวกนี้ แต่สำเนียงต่างชาติแบบนี้เค้ารู้แหละ ว่าเรียนมาจากห้องเรียน เหอๆๆ แล้วแบบ พยายามทำตัวให้คนญี่ปุ่นประทับใจด้วยการพูดแบบไม่ชัดๆ >_<~ แต่จริงนะ ถ้าพูดอังกิดแบบสำเนียงสะตอนิดๆ ญี่ปุ่นจะเหวอและกลัว เพราะเค้าจะฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง ก็เลยไม่อยากยุ่งด้วย จากคุณ : bangkok dream - [ 22 พ.ค. 52 13:28:27 ]

ความคิดเห็นที่ 21 อ่านเรื่องผ่าน ตม.นี่ก็ได้เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยสนุก ๆ ปนเศร้า มันก็เป็นข้อมูลและทางหนีทีขาดที่เราจะใช้กันนะครับ อย่างจะเข้าเยอรมัน สวิต ออสเตรีย ถ้าไม่ใช่คนแรกก็อย่าไปต่อแถวพวกปินส์ อินโด เพราะท่านจะถูกเพ่งเล็งและซักไซร้ไล่ขับ จงหาทางทำตัวให้ท่านแปลกแยกมากที่สุด -v'ผมจะไปต่อพวกจากตะวันออกกลางครับ เพราะ ตม.จะซักพวกนี้มาก พอไทยแลนด์ก็ถามนิด ๆ หน่อย ๆ จากคุณ : manahan59 (manahan59) - [ 22 พ.ค. 52 13:36:56 ]

ความคิดเห็นที่ 22 เจ้าของกระทู้เก่งจังเลย ขนาดเราอยู่ญี่ปุ่นมาสองปีแล้ว ภาษายังไม่กระดิกเลย จากคุณ : CherryBlossom669 - [ 22 พ.ค. 52 13:43:01 ]

ความคิดเห็นที่ 23 อ่านแล้วเห็นใจครับแต่ก็เข้าใจทั้งสองฝ่ายนะ ถือว่าเป็นประสบการณ์ละกันครับ จากคุณ : dmesg - [ 22 พ.ค. 52 13:45:00 ]

ความคิดเห็นที่ 24 โห อ่านแล้วถ้าเจอกับตัว คงเสียวอ่ะครับ ฮ่าๆๆๆ ไปบ่อย ๆ มีสิทธิโดนเรียกด้วยเหรอครับ เพิ่งไปมาเดือนที่แล้ว อยากไปตอนอีกปลายปี  แบบนี้ถือว่าบ่อยมั้ยเนี่ย จากคุณ : zaxofone - [ 22 พ.ค. 52 14:07:58 ]

ความคิดเห็นที่ 25 สมัยเที่ยวเมืองนอกครั้งแรก ...ผมโดนที่ฮ่องกง ... สมัยนั้นเรื่องยาเสพติดดังมาก ผมไม่เคยไปตปท. จึงงกๆ เงิ่นๆ แถมซื้อตั๋วไปขาเดียว และให้เพื่อนซื้อตั๋วขากลับให้ .... ได้เรื่อง ..... โดนเข้าห้องเย็น .... ลงชื่อในสมุด โอโฮ .... มีแต่ไทยแลนด์ทั้งนั้น ... ช่วงที่เสียวที่สุด คือ จนท. เตรียมสวมถุงมือแล้ว ...... ในใจก็คิดว่าตรู.....พรหมจรรย์ที่เก็บไว้ จะมาเสียท่ากับนิ้ว ตม. ฮ่องกงซะแล้วววววววว เหมือนกับลองใจ .... อยู่ดีๆ ก้ปล่อยให้ผ่าน ........ บรรยากาศมะคุมาก ....... แวะมาคุยฮาๆ กับจขกท.ครับ จากคุณ : ติวเตอร์ตู่ (CEOTHAI42) - [ 22 พ.ค. 52 14:18:53 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ติวเตอร์ตู่ (CEOTHAI42) - เข้าใจความรู้สึกเลยค่ะ.... ห้องตม. นี่มันห้องดับจิตดีๆนี่เอง แค่รู้ว่าจะต้องเข้าก็ท้องไส้ปั่นป่วนแล้ว จากนี้ไปก็คงเลิกคุยกับตม.เป็นภาษาญี่ปุ่นแล้วล่ะค่ะ ลาขาด ถ้าจะคุยเก็บไว้คุยกับคุณลุงร้านข้าวยืนกินที่อาซาคุสะดีกว่า อาหารอร่อย ราคาประหยัด มีเมนูให้เลือกเยอะ เหมาะกับคนจนๆอย่างเรา แถมลุงยังเมาท์แตกอีกตะหาก แกบอกว่าไม่ค่อยมีลูกค้าสาวๆวัยรุ่นมาเข้าร้านเลย ส่วนมากจะไปร้านตกแต่งสวยๆ มีที่นั่งดีๆมากกว่า แกเลยชวนคุยใหญ่ จากคุณ : QAF~Princess - [ 22 พ.ค. 52 14:47:46 ]

ความคิดเห็นที่ 27 *เผื่อจะมีใครอยากแวะไป* ร้านอยู่ตรงข้ามกับห้าง Matsuya สาขาอาซาคุสะ เลยค่ะ หน้าร้านจะมีอาหารจำลองวางโชว์ด้วย ราคาถูก อิ่มอร่อย อุด้งโคโรเกะ อร่อยมากกกก 300เยนเอง อย่างอื่นก็ราคาไม่เกินนี้ มีอาหารให้เลือกเยอะ พวก คาเระ ข้าวหน้าเนื้อ ราเมง คัตสึด้ง มีทุกอย่าง น้ำฟรี พวกของทอดก็มีนะคะ กุ้ง หมู โคโรเกะ ผักต่างๆ ขอบคุณคุณลุงที่แถมกุ้งเทมปุระให้หนูด้วยคร่า~~~ จากคุณ : QAF~Princess - [ 22 พ.ค. 52 14:52:21 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ประสบการณ์ของ จขกท เป็นสิ่งที่พิสูจน์ได้เป็นอย่างดีว่า หากเรามีเจตนาบริสุทธิ์จริงๆ ในการไปท่องเที่ยว และมีการเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี และสื่อสารภาษาอังกฤษหรือภาษาอื่นๆ ได้บ้าง จะถูกกักตัวอย่างไร ก็สามารถเอาตัวรอดได้ในที่สุด แต่ว่า สาวไทยที่มีอาชีพอย่างว่า เค้าพูดญี่ปุ่นกันคล่องปรื๋อจริงๆ นะครับ อย่างงี๊ต้องจำไว้ว้า จะพูดกับ ตม. พูดอังกฤษอย่างเดียวพอ จากคุณ : mie-mien - [ 22 พ.ค. 52 15:24:07 ]

ความคิดเห็นที่ 29 เคยไปกับคุณสามีชาวญี่ปุ่นแต่งงานกันมาแล้ว 9 ปี (แต่ไม่ได้จดทะเบียน) ก็โดนสัมภาษณ์ละเอียดมากเป็นภาษาญี่ปุ่น เหมือนกันค่ะ ว่ามาทำอะไร พักที่ไหน  ต้องไปเรียกคุณสามีมายืนยันเค้าถึงปล่อยไป เพราะจำที่อยู่กับเลขที่บ้านที่ญี่ปุ่นไม่ได้ พอดีช่อง ตม. คนละช่องกันเพราะถือพาสปอร์ตคนละประเทศ  ลุ้นเหมือนกันค่ะ ว่าจะไม่ได้เข้า   ที่ตม. ไทยก่อนเดินทางไปญี่ปุ่นยังโดนถามเลยค่ะ ว่าผู้หญิงโสดเดินทางไปญี่ปุ่นคนเดียวได้ยังไง  คิดเหมือนกันว่าสถานฑูตเค้าให้วีซ่าแล้ว ตม จะห้ามอะไรกันเนี่ย... เกิดเป็นหญิงไทยก็มักจะโดนเพ่งเล็งเรื่อง ตม จริงๆ ค่ะ เหมือนเค้าหมายหัวไว้เลยว่าเราจะไป ทำอะไรมิดีมิร้าย ล่าสุดไปเที่ยวนิวซีแลนด์ ต้องแวะเติมน้ำมันที่ซิดนีย์ ก็โดน ตม ที่นั่นเรียกมาค้น เอาป้ายภาษาไทยให้เราอ่านด้วย แสดงว่าคนไทยเป็นขาประจำ พอจะเข้านิวซีแลนด์ก็โดนอีก แต่คุณสามีที่ถือพาสปอร์ตประเทศอื่นไม่เคยโดนเลย แต่ขากลับจากนิวซีแลนด์รอดมาได้เพราะเค้ากำลังยุ่งกับการตรวจน้องผู้หญิงไทย 2 คนที่กลับมาจากไปเรียนที่โน่น  ทีพวกฝรั่งประเทศอื่นไม่เห็นโดนเลย จากคุณ : foyfon - [ 22 พ.ค. 52 15:29:52 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ^_^ เพราะไอ้ "ร้องเท้าส้นเข็ม" (อย่างเดียวเลย)นี่แหละม้างงงงงงง เหอเหอ อ่านกระทู้นี้แล้วเพลินจังครับ เป็นคนอธิบายได้สนุกมาก...น่าติดตาม ได้ความรู้ด้วย 555555 เอาประสบการณ์มาแชร์เหมือนกัน... ไอ้ผมว่า ตม.หนุ่ม หล่อ หน้าตาดี นี่ถ้าจะมีอยู่ไม่กี่คน (เพราะก่อนหน้าไม่เคยเห็น) และน่าจะเป็นคนเดียวกันแน่เลยครับ ตอนนั้นผมได้ไปต่อแถวนั้นครับ พอถึง ตม. ก็เป็นครั้งแรกที่รู้สึกว่า "เห้ย! ตม.ญี่ปุ่นนี่หน้าตาดีขนาดนี้เลยเหรอ" (บินเมื่อก่อนไม่เคยเจอ) ดูเค้าเตอร์อื่นๆ ก็ไม่เห็นมีหน้าตาพอไปวัดไปวาแบบนี้เลย เพิ่งไปเมื่อต้นปีนี้เองครับ...เป็นการเข้าญี่ปุ่นครั้งที่ 4 ผล... ตม. ยิ้มแย้ม คุยดีมาก คุยกันสนุก (เป็นภาษาอังกฤษง่ายๆ แต่ภาษาผมก็ค่อนข้างดี เค้าก็เลยดูไม่สงสัยอะไรมั้ง) แล้วก็ปั๊มให้ "ผ่าน" เป็นครั้งแรกเลยครับที่ผมรู้สึกประทับใจกับ ตม. แล้วก็ ญี่ปุ่น มาก ไม่เคยเห็น ตม. คนไหนมีไมตรีขนาดนี้ แล้วก็ยิ้มแย้ม ทักทาย (แต่ที่อ่านกระทู้ข้างบนก็เห็น ตม.ญี่ปุ่น คนมีอายุหน่อยทำแบบนี้เหมือนกัน) ผมก็เลยลงความเห็นว่า ตม. ญี่ปุ่นปฏิบัติงานได้น่ารักและนิสัยดี (หากคุณบินมาอย่างบริสุทธิ์ใจ) เป็น ตม. ที่เป็นด่านแรกของประเทศที่ผมชื่นชมและประทับใจสุดๆ ...ไม่รู้เป็นคนเดียวกันหรือเปล่า เหอเหอ... >>>ถึงคุณ zaxofone ตอนแรกผมก็คิดเหมือนคุณ แต่ล่าสุดไปขอวีซ่า ซึ่งเมื่อก่อนเตรียมตัวไปเยอะมากไม่ขอดูอะไรเลย ก็คิดว่าเราไปมาตั้ง 4 ครั้งแล้วไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ก็เลยไม่ได้เตรียมผลงาน (พอดีผมทำงาน freelance อ่ะครับ) ไปให้ดูในคราวนี้ เจ้าหน้าที่สถานฑูตบอก..."ควรจะเตรียมผลงานคุณมาให้ดูด้วยนะคะ"...แป่ว (ในใจ : ทีเตรียมมาทุกครั้งไม่ขอดู ทีครั้งนี้ไม่เตรียมมาแล้วขอดู T_T) ในใจตอนนั้นก็กลัววีซ่าไม่ผ่านมากๆ เลย แต่แอบนึกย้อนไปเจ้าหน้าที่พูดว่า "คราวหน้าก็เตรียมมาด้วยแล้วกันนะคะ" พอได้รับใบนัดรับวีซ่าก็...โล่งใจไปเปราะหนึ่งครับ อ้อ...ครั้งที่สามกับสี่ผมบินไปค่อนข้างจะติดกัน เจ้าหน้าที่ก็ถามว่า "ทำไมคุณบินไปบินมาบ่อยๆ คะ บินไปทำอะไร" ผมก็เลยบอกว่า "บินไปเก็บข้อมูลมาทำงานน่ะครับ (แล้วก็ชี้แจงรายละเอียดไป)" ซึ่งไม่ได้โกหก และมีจดหมายรับรองด้วย สุดท้ายก็ได้ผ่านครับ ;) อ้อ...ลืม ลืม ลืม ลืม ตอนนี้ญี่ปุ่นเค้าตรวจตรากันในเมืองค่อนข้างเข๊มเข้ม ไม่รู้สาเหตุแน่ชัด ถึงคุณจะผ่าน ตม. ไปแล้ว คุณก็อาจมีสิทธิ์โดนตำรวจเรียกตรวจได้อีก เมื่อก่อนไม่เคยโดนเลยครับ แต่ไปคราวนี้ดั้นโดนถึง 2 ครั้ง 2 ครา ติดๆ ที่เดียวกันอีกต่างหาก ผมโดนเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกตรวจและขอดู passport ครับ แล้วก็ถามต่างๆ นานา ทำอย่างกับว่าผมเป็นผู้ร้ายงั้นแหละ (แต่สุภาพนะครับ) เจ้าหน้าที่สองคนเดินดิ่งเข้ามารุมเลย เหตุการณ์นี้เจอตอนเดินทางไปที่สถานีโตเกียว เจอครั้งแรกเพราะไปยืนดูแผนที่หา charactor street อย่างงกๆเงิ่นๆ ความจริงรู้เส้นทางในสถานีโตเกียวพอสมควรครับ แต่ไม่ไปถาม information center (ทั้งที่อยู่ใกล้ๆ ไม่ถึง 50 เมตร) อยากลองหาดูเอง น่าจะเป็นเหตุผลนี้ตำรวจก็เลยเข้ามาสุ่มเช็ค ...สุดท้ายถามทางตำรวจซะเลย เอาให้มันรู้ไป(ในใจกะแกล้งเล็กน้อย เหอเหอเหอ) ตำรวจก็บอกทางกำกวมเพราะเขาพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ เดินไปหาอยู่สักพักก็ไม่เจอ...สุดท้ายก็เลยต้องเดินวนกลับมาถาม information center ที่เดิม ถึงได้ความ (ยืนถามให้ตำรวจสองคนนั้นเห็นไกลๆ ด้วยนะครับ อิอิ ประมาณว่า คุณน่ะบอกเส้นทางไม่รู้เรื่อง) อีกวันไปกับเพื่อน...ไปที่สถานีโตเกียวเหมือนเดิมครับ เหมือนโดนตราบาป อะไรที่เคยโดนมาแล้วคนเรามักจะฝังใจกลัวลึกๆ แล้วก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ ครับ โดนเรียกอีกแล้ว T_T ตำรวจ(สองคนเท่าเดิม แต่เป็นคนใหม่)เรียกเราสองคนตรวจ ขอดู passport ถามต่างๆ นานา ผมก็ทำใจดีสู้เสืออย่างบริสุทธิ์ ถามเสร็จเราก็เลยชวนคุยและถามเขาต่อว่าทำไมเขาถึงสงสัยเรา ขอตรวจเรา เขาก็อธิบายอย่างดีเลยครับ ประมาณว่าช่วงนี้คนหลบหนีเข้าเมืองผิดกฏหมายเยอะ ความจริงวันนั้นผมหิ้วถุงช้อปปิ้งไปด้วย ก็เลยน่าจะพ้นภัยได้ง่าย แต่เพื่อนนี่สิมันพกคัทเตอร์ ซึ่งกะจะเอาไปเหลาดินสอจริงๆ (เพื่อนชอบวาดรูป) พกกล้องถ่ายรูปสองสามตัว กับฟิล์มอีกเยอะ ก็กะจะเอาไปถ่ายรูป แต่กรณีนี้ก็ทำให้ดูน่าสงสัยได้เหมือนกัน ขนาดผมยังหวั่นๆ แทนเลย แต่โชคดีที่มันมีสมุดที่วาดรูปจริงๆ มีฟิล์มโพลาลอยด์ที่ถ่ายออกมาแนวอาร์ตหน่อยๆ คุยอธิบายเหตุผลประกอบภาษามืออยู่สักพัก...(ส่วนผมก็ทำเป็นชวนคุยกับเจ้าหน้าที่อีกคนถึงเรื่องการตรวจคนเข้าเมือง) สุดท้าย...เค้าก็ขอโทษ และปล่อยมาด้วยดีเลยครับ ช่วงนั้นก็เลยเข็ดกับสถานนีโตเกียวไปเลย เหอเหอเหอ ตอนแรกก็โกรธโชคชะตาของตัวเองอยู่เหมือนกัน ว่าทำไมตรูถึงต้องโดนเรียกตรวจด้วย หน้าตาเหมือนโจรหรือไง . . . คิดไปอีกที เหมือนแฮะ 55555 เพราะ เมษา ตากแดดตัวดำหน่อย หนวดเคราก็โกนไม่เกลี้ยง เพราะติดนิสัยที่เมืองไทย ก็สมควรล่ะ เหอเหอเหอ มารู้สึกดีและเข้าใจเขาอีกทีก็ตอนที่เราเดินอยู่ในชิบูย่า แล้วเห็นตำรวจเรียกคนเอเชีย (คาดว่าจะเป็นคนจีน) ตรวจและกระทำการสักถามเยี่ยงเราเหมือนกัน แต่เห็นใจเพราะดูน่าอายกว่า เพราะชิบูย่าคนเยอะอย่างกับหนอน ก็ได้แต่เห็นใจครับ...เพราะเคยโดนมาก่อนเหมือนกัน แต่ก็เข้าใจว่า ตำรวจก็ทำหน้าที่...ไม่ใช่เราที่โชคร้ายหรอก (ปลอบใจตัวเอง เหอเหอเหอ) ยาวไปมั้ยเนี้ยะ..... อ่านขำๆ เพลินๆ บ้าง (เครียดซะมากกว่า) เขียนมาให้อ่านดูเพื่อเป็นอุทาหรณ์เพิ่มเติมครับ 1.วีซ่าญี่ปุ่นที่ว่าขอยากนั้น ไม่ใช่ความยากด่านแรก 2.ถึงไปมาหลายครั้งก็ใช่จะไม่มีมลทิล และสามารถได้วีซ่าง่ายๆ หรือผ่าน ตม. ได้ง่ายๆ 3.ความบริสุทธิ์ใจและหลักฐานอ้างอิงความถูกต้องได้สำคัญที่สุดสำหรับในทุกกรณี 4.ถึงแม้คุณจะเข้าญี่ปุ่นไปได้แล้ว ก็ใช่ว่าคุณจะฉลุยได้อย่างที่คิด...อาจเจอความซวยได้ทุกเวลา เหอเหอ 5.กลับมาแล้ว จะไปใหม่ คุณก็มีน้ำหนักพอๆ กับคนที่จะไปครั้งแรก ถ้าหลักฐานหรือเหตุผลคุณฟังไม่ขึ้น ;) ถึงคุณ donatt76 เห็นความคิดเห็นคุณมาระยะหนึ่ง แต่จำชื่อได้ ;) เพิ่งจะรู้ว่าชอบ...เข้าขึ้นคลั่ง นั่งรถไฟเที่ยวญี่ปุ่น เหมือนกัน วันหลังคงต้องขอคุยบ้างเหมือนกันซะแล้วล่ะ อิอิอิ ว่าแต่ชวนคุณ NumAromDee มาตั้ง คลับคลั่งท่องเที่ยวรถไฟญี่ปุ่นกันดีมั้ย 55555555555 ;) แก้ไขเมื่อ 22 พ.ค. 52 17:15:57 จากคุณ : fastfolk - [ 22 พ.ค. 52 15:32:06 ]

ความคิดเห็นที่ 31 >>>คุณความคิดเห็นที่ 27 (เพิ่งอ่านเจออีกรอบว่าเป็นเจ้าของกระทู้ อิอิอิ ;) ) เห็นรูปแล้วเจ๊บเจ็บใจ เชื่อมั้ยครับ...วันนั้นยืนจ้องหน้าร้านอยู่นานสองนาน (กะว่าจะประหยัดตังค์ หาร้านที่น่าจะคุ้มค่าที่สุด) เดินวนแล้ววนอีก ข้ามถนนเซอร์เวย์ไปมาสองสามรอบ ในใจก็หมายมั่นปั้นมือร้านนั้นไว้แหละ แต่นิสัย(ไม่ดี)ส่วนตัวชอบเซอร์เวย์เพื่อหาตัวเปรียบเทียบ สุดท้ายวันนั้นเดินอยู่ราว 1 ชั่วโมง ตัดสินใจว่า...ช่างมันเหอะ กลับไปกินข้าวแกงกะหรี่แถวบ้านดีกว่า ประหยัดตังค์ดี ทั้งที่มันไม่ได้ประหยัดกว่ากันส้ากเท่าไรเล้ยยยยยยย ร้านนี้ก็เลยยังฝังอยู่ในใจอยู่เลยครับ ยิ่งเห็นภาพที่มา post นี่ ยิ่งเจ็บใจเป็นที่สุด (เจ็บใจตัวเองนะครับ) ขอบคุณคุณ ความคิดเห็นที่ 27 มากเลยครับ ที่เอารูปมา post ให้ผมฉุกคิด ฮึ่ม...คราวหน้าต้องไปจัดการให้ได้เลย คอยดูดิ แก้ไขเมื่อ 22 พ.ค. 52 15:39:27 จากคุณ : fastfolk - [ 22 พ.ค. 52 15:38:18 ]

ความคิดเห็นที่ 32 คุณfastfolk สงสัยจะคนเดียวกันแหละค่ะ เพราะเราไปมาเมื่อปีที่แล้วก็ไม่เคยเห็นคนนี้เหมือนกัน แต่คราวนี้สะดุดตามาก แบบว่าเดินออกมาจากเกทแล้วชะงักไปเลย 555+ หน้าขาวๆ ตี๋ๆ จมกโด่ง ปากแดง ผิวเนียนใสกิ๊ง เห็นแล้วอิ๊งอ๊างมากค่ะ แบบว่าอย่ามาเป็นตม.เลย ไปเป็นดาราเหอะ แต่หารู้ไม่.... หายนะชัดๆ T-T คุณfastfolkโดนตรวจกลางเมืองด้วยเหรอเนี่ย อันนี้เราไม่เคยได้ยินว่ามีใครโดนมาก่อนเลยค่ะ ความรู้ใหม่ แต่ผ่านมาได้ก็ดีแล้วเนอะ ของเราไม่โดนตรวจ แต่โดนเด็กญี่ปุ่นมาถามทางตอนออกจากโตเกียวโดม คุยกันเสร็จสรรพแล้วเค้าเพิ่งรู้ว่าเราเป็นไกจิน 555+ จากคุณ : QAF~Princess - [ 22 พ.ค. 52 15:59:41 ]

ความคิดเห็นที่ 33 พอออกมา อยากจะเดินกลับไปคารวะน้องตม.หล่อแต่หน้าด้วยคำสรรเสริญภาษาคันไซอย่างมาก ^ ^ เว้าคันไซเบ็งได้มั้ง เก่งเกิ้นนน จากคุณ : ว่านน้ำ - [ 22 พ.ค. 52 16:06:22 ]

ความคิดเห็นที่ 34 คุณจขกท.เป็นแฟน KAT-TUN เหมือนกันเลย เเต่เรายังไม่มีโอกาสไปญี่ปุ่นเลยเเอบอิจฉา กะว่าปีหน้าจะเก็บเงินไป คุณQAF~Princess   คุณfastfolk คุณdonatt76 ค่ะ ได้เข้าญี่ปุ่นเป็นว่าเล่นนี่ เป็นยังไงอยากเป็นมั่ง อิๆๆ จากคุณ : yaoicuty - [ 22 พ.ค. 52 16:10:43 ]

ความคิดเห็นที่ 35 คุณว่านน้ำ - แบบว่าตอนนั้นจะกลับไป โอมาเอะอาโฮ่ก๊ะ นันเดะยาเนง!!! จริงๆนะ yaoicuty - เราไม่ได้เข้าญี่ปุ่นเป็นว่าเล่นหรอกค่ะ ประสบการณ์ยังน้อยนัก T-T ไปครั้งนี้ครั้งที่2เอง ก็เพิ่งจะได้ไปตอนที่มีงานมีการทำแล้วนั่นแล จากคุณ : QAF~Princess - [ 22 พ.ค. 52 16:17:38 ]

ความคิดเห็นที่ 36 เดาว่า จขกท หน้าตาและการแต่งตัวดูกลมกลืนกับคนญี่ปุ่นเกินไปค่ะ เลยถูกสงสัย ... ^ ^ เราว่าตอนที่เราไปเมื่อปลายเดือน มีนา ต้องเจอ ต.ม. คนเดียวกันแน่เลยค่ะ เพราะเราก็ชะงักเหมือนกันว่า ทำไม ต.ม. ญี่ปุ่นถึงหน้าตาดีใสกิ๊งขนาดนี้ แต่เค้ายืนอยู่ตรงช่องพิเศษนะคะ จำไม่ได้ว่าพิเศษยังไง แต่เป็นช่องที่ passport อย่างเราจะไม่ได้เข้าช่องนั้นอ่ะค่ะ แต่ที่เราได้ไปเจอ ต.ม. คนนั้น ก็เพราะว่าตอนที่ไปถึงมีคุณลุงคนนึงเค้าคอยจัดคิวให้ไปยืนรอค่ะ แล้วเค้าเรียกเราไปต่อช่องนั้นพอดีก็เลยได้เจอคุณ ต.ม. หนุ่มหล่อหน้าใสค่ะ แต่เค้าไม่ถามอะไรเราสักคำเลยนะคะ ให้ถ่ายรูปแล้วก็ปั๊มนิ้วอย่างเดียวค่ะ จากคุณ : hiroko - [ 22 พ.ค. 52 16:27:19 ]

ความคิดเห็นที่ 37 เอ๊ะ หรือ ตม. ญี่ปุ่นจะพัฒนาแล้ว.... บังเอิญรอบนี้ที่ไปมาก็เจอ ตม. หนุ่มน้อยน่ารักเหมือนกันเลย ดีนะไม่ตรวจพาสเรานาน สงสัยกลัวโดนกิน จากคุณ : bangkok dream - [ 22 พ.ค. 52 16:35:00 ]

ความคิดเห็นที่ 38 คุณhiroko - ของเราทีแรกก็มีลุงมาจัดคิวให้ค่ะ แต่พอเดินเข้าไปแล้ว เค้าให้เราเลือก2ช่องว่าจะเอาช่องไหน มีคนหนุ่มกับคนแก่.... ด้วยสัญชาตญาณ เราก็เลยเลือกผู้ชายหน้าตาดีหนุ่มแน่นแบบไม่ต้องคิด โดนซะ! จริงๆแล้วเราก็แค่อยากมองเฉยๆนะ ไม่ต้องถามมากก็ได้ ไม่อยากคุยด้วยเลย คุณbangkok dream  - ทีแรกก็กะจับกินแหละค่ะ แต่เหมือนฮีจะรู้ทัน เลยเอาเราไปแช่แข็งซะก่อน 555+ เพื่อนปลอบใจว่า เอาน่า เค้าอาจจะอยากคุยกับแกนานๆ (ณ โมเมนท์นั้น ไม่ขำเลย) แก้ไขคำผิดค่ะ แก้ไขเมื่อ 22 พ.ค. 52 16:46:05 จากคุณ : QAF~Princess - [ 22 พ.ค. 52 16:45:21 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ถึงบอกว่าเก่งเกินไปไงคะ 555 ตม. เค้าคงจึ๊กว่าแบบ เฮ้ย คล่องไปป่าว เว้าภาษาถิ่นได้ด้วย . ไม่เคยโดนตม. เรียก เคยโดนแต่ศุลเรียกเปิดกระเป๋า พอดีเค้าถาม ญป. มา แล้วด้วยความเคยปากก็ตอบภาษาญป. กลับ.. เสร็จกัน ( -_-' ) ทีนี้เลยยาวเลย ดูกระเป๋าได้ไหม ว่ามาทำอะไร เที่ยวเหรอ ไปเที่ยวไหนมั่ง มากี่วัน ( แต่คุยเหมือนชวนคุยนะ เช้าๆ คงง่วง+เหงา ) แอบทำหน้าหงิกนิดหน่อย ตอนบอกให้เปิดกระเป๋า ( ขี้เกียจยกง่ะ ) แต่สุดท้ายก็ผ่านไปได้ ไม่มีปัญหา.. เจ๊ศุลฯ เค้าคงอยากซ้อมมือแต่เช้า 555 คราวหลังเลยกัดลิ้นตัวเองไว้ ไม่ให้ใช้ภาษาญป. ตอนผ่านด่าน แก้ไขเมื่อ 22 พ.ค. 52 16:48:00 จากคุณ : ว่านน้ำ - [ 22 พ.ค. 52 16:45:52 ]

ความคิดเห็นที่ 40 โห แบบนี้ถือว่าเป็นโชคดีของเราเลยนะคะ ที่ทั้ง ต.ม. ทั้งศุลฯ ไม่มีใครพูดอะไรกับเราเลยค่ะ ผายมือให้เดินผ่านอย่างเดียว ทัั้งขาไป ขากลับ แต่ว่าตอนทีเราไป ก็ไม่เห็นมีใครโดนตรวจ โดนกักเลยนะคะ ทุกคนเดินลากกระเป๋าผ่านโลดเหมือนกันหมดเลยค่ะ จากคุณ : hiroko - [ 22 พ.ค. 52 16:54:44 ]

ความคิดเห็นที่ 41 >>>คุณ hiroko (ความคิดเห็นที่ 36) อ่านความเห็นคุณก็นึกขึ้นมาได้เหมือนกันครับ รู้สึกเค้าจะนั่งอยู่ช่องที่เขียนว่า japanese passport น่ะครับ เพราะตอนนั้นจำได้ว่าผมไปต่อแถวยาวๆ นั่นแหละ แต่ตอนนั้นไม่มีคนญี่ปุ่นเข้าช่อง japanese passport แล้ว เจ้าหน้าที่ก็เลยจับผม(จัดแถวให้ผม)ไปเข้าช่องสำหรับ japanese passport  แทน ซึ่งก็เจอ ตม.หนุ่ม หน้าตาดี คนที่ว่าอ่ะครับ อันนี้รู้สึกเลือกไม่ได้...แต่เจ้าหน้าที่จะเลือกให้เองน่ะครับ ถ้ากรณีที่แถวย๊าวยาว เพิ่มเติม... ไม่รู้ว่าน่าจะเป็นเพราะบินไปถึงไฟลท์เช้าหรือเปล่า เจ้าหน้าที่ก็กำลังสดชื่น เลยไม่โดนอะไร ;) จากคุณ : fastfolk - [ 22 พ.ค. 52 17:25:15 ]

ความคิดเห็นที่ 42 อ๊ายยย เจ๊ว่าน เคยโดนตรวจเป๋าเหมือนกัน ตอนไปครั้งแรก ไปคนเดียวบินการบินไทยด้วย (ไม่ใช่ไร คนส่วนหนึ่งที่พูดอังกฤษไม่ได้จะนิยมการบินไทย และมักโดนเรียกตรวจบ่อยกว่าสายการบินอื่นๆ) โดนเรียกตรวจเป๋าค่า ดีนะไม่ได้เอาไรซกมกใส่ไปในนั้น แต่ว่า พี่ศุลก็หน้างั้นๆ เลยเฉยๆ ถ้าเกิดเป็นน้องหนุ่มหน้าใส คงอายแย่เลย อ๊ายยยยย ค้นๆๆ ดูด้วย เห็นของเค้าหมดเลย เสื้อกางเกง ฯลฯ จากคุณ : bangkok dream - [ 22 พ.ค. 52 17:27:20 ]

ความคิดเห็นที่ 43 >>> คุณ yaoicuty ผมก็ไม่ได้บินบ่อยมากหรอกครับ เหอเหอเหอ แต่ว่าเวลาที่คุณหลงรักอะไร คุณก็จะพยายามหาทางไปหามันเอง ผมหลงรักญี่ปุ่นอ่ะครับ ;) สำหรับญี่ปุ่นผมว่าผมมีโชค + โชคดีทุกครั้งที่ได้ไปเลย ส่วนตัวแล้ว ผมว่าประเทศนี้มันมีพรมลิขิตครับ หลายคนที่ไปแล้วไปอีก ได้ไปแล้วไปอีก ก็จะได้ไปบ่อยๆ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน ผมก็เข้าข่ายนั้น บางมีเหตุผลมันก็มาแบบไม่รู้ตัว ค่าตั๋วแพงสุดที่เคยจ่ายไปก็ครั้งล่าสุดนี่แหละครับ 15,000 บาท เป็น promotion การบินไทยที่ออกเมื่อต้นปี อันนี้ถูกเพื่อนขอร้องแกมบังคับให้ไปด้วย ถ้าตั๋วแพงกว่านี้ก็ไม่ไปหรอกครับ เหอเหอเหอ ก็ต้องเลือกไปเพราะ promotion เพราะไม่ได้มีเงินถุงเงินถังอะไร จะว่าไปก็จ่ายไม่แพงมากหรอกครับ เรื่องค่าที่พัก... ถ้าเรารู้จักเพื่อนที่โน่น ยิ่งสบาย (หมายถึงเพื่อนคนไทย) ถ้าสนิทก็แอบไปสิงได้ ประหยัดไปได้เยอะ แต่ Hostel ราคาถูกๆ ก็มีเยอะครับ ดีๆ ด้วย ซึ่งมาตรฐานและคุณภาพ hostel ที่โน่นถือว่าดีเยี่ยมมากๆ แต่เชื่อมั้ยครับ...ยิ่งเที่ยวนานยิ่งพักถูก อย่างผมไปเที่ยว 2 อาทิตย์ คำนวนคร่าวๆ ราคาจอง hostel ที่ถูกที่สุด แพงกว่าเงินที่ผมไปหาห้อง(เพื่อนหาให้)ที่คนญี่ปุ่นเปิดให้เช่าระยะสั้น ซึ่งราคาเหมา 1 เดือน นั้น ถูกกว่าเช่า hostel 2 อาทิตย์ซะอีก อ้อ...ลืมบอกไป อัตรานี้คิดสำหรับการไปเที่ยว 2 คน ครับ hostel จะคิด 2 หัว แต่ห้องเช่าที่เราคุยกับเค้าได้ จะคิดรวมๆ ครับ แบบเหมาจ่าย คราวนี้เรื่องอาหารการกิน... จริงๆ แล้วก็เหมือนเมืองไทย คุณเลือกกินได้ อาหารถูก อาหารแพง อาหารถูกบ้านเค้าก็มีเยอะนะครับ โดยเฉพาะในคอนวิเนี่ยนสโตร์ ซึ่งคุณภาพก็ดีด้วย อันนี้จะทำให้ชีวิตคุณประหยัดได้ รวมๆ นะครับ ถ้ารู้จักวางแผนและอะไรนิดหน่อย ค่าใช้จ่ายในการเที่ยวญี่ปุ่นนั้นไม่แพงเลย เหตุนี้ก็เลยทำให้เราวางแผนที่จะไปญี่ปุ่นล่วงหน้าได้ไม่ยากนัก และเมื่อมีความอยากเป็นแรงกระตุ้น คุณก็จะพาตัวคุณไปเองครับ ;) เอามาบอกกล่าวเผื่อคุณจะพาตัวเองไปญี่ปุ่นบ้างนะครับ ขอให้ไปไวๆ นะครับ จะได้หลงรักญี่ปุ่นเหมือนผมบ้าง ;) แก้ไขเมื่อ 22 พ.ค. 52 18:26:39 จากคุณ : fastfolk - [ 22 พ.ค. 52 17:39:39 ]

ความคิดเห็นที่ 44 เล่ามั่ง เมื่อปีที่แล้วไปเที่ยวอิตาลีค่ะ จะเรียกว่าโดกกักตัวได้ไหมไม่รู้นะคะ หนนั้นไปครั้งแรกค่ะ  แล้วเรื่องของเรื่องคือพาสปอร์ตมันชำรุดที่หน้าวีซ่าที่ขอมา เพราะเด็กเล่นพาสและฉีกพาสเล่นหน้าวีซ่าก็ขาดวิ่นไป ซวยไหมล่ะ ต้องโร่ไปสถานทูตวันรุ่งขึ้น แต่ความโชคดียังมีอยู่บ้าง ไปอ้อนวอนทำวีซ่าใหม่ที่ สถานทูตนี้ จนท ใจดีมากกกกกกกกกกกก สุดท้ายก็ได้วีซ่ามา แต่จะบอกว่า จนท เค้าให้ไปทำเล่มใหม่ แต่เราอ้อนวอนเพราะตั๋วมีแล้ว อะไรๆพร้อมบินแล้ว (คือบินคืนนั้น) โชคช่วยผ่านไปได้ด้วยดี  แต่ยังไม่สุดสิ้นชะตาความซวย โดน จนท สายการบินที่เดินทางถึง กับเรียกหัวหน้ากราวน์ตรงนั้นมาดูวีซ่าเรา ทั้งๆ ที่เราก็ทำวีซ่าใหม่  แต่เรื่องของเรื่องคือว่า พาสปอร์ตฉีกขาดเท่ากับชำรุด  แต่เราก็ยังฝืนเดินทาง แต่ว่าที่ขาดนั้นเอาเทปแปะแล้ว และวันดูสมูทดีไม่ดูน่าเกลียดว่าขาด  สรุปก็ผ่านหัวหน้าสายการบินได้ด้วยดี ก็ขึ้นเครื่องไม่มีอะไร ไปถึงฮอลแลนด์ก่อนอันดับแรก ก็เข้า ต ม ที่นี่ เค้าก็เปิดเจอวีซ่าหน้าขาดเรา เราบอกว่าพลิกไปอีกหน้า อันนั้นไม่ได้ไช้  คือขาดก็เท่ากับว่าแคนเซินไปในตัวอยุ่แล้ว  เค้าก้อถามว่ามาทำไม เราบอกว่ามาวาเคชั่น จำไม่ได้ถามไรอีก แต่ที่แน่ๆ ตม มันหล่อมั่กๆๆ แอบเคลิ้ม  ตม ชวนคุยมากมาย ถามเรื่องบอล ถามเรื่องสับเพเหระ  เราบอกว่า เอ่อ จะตกเครื่องแล้วกรุณารีบๆ  ก็ไม่มีอะไรผ่านไปเรื่องวีซ่าหน้าขาดนั้นก็ไม่มีปัญหา  จนเข้ามาอิตาลี เสือกโง่เองมั้ง หาทางต่อเครื่องไง ไปไม่ถูกก็เลยเดินหลงไปทาง ต ม เข้าด่าน อีก บ้าไปแล้ว   จนมันเปิดเจอหน้าวีซ่าขาดของเรา มันเอาที่ส่องพระมาส่องดูพาสเรา แบบว่าเพ่งอยู่ประมาณ ห้านาทีได้ เราก็บอก เฮ้ยไม่ไช่หน้านั้นเฟ้ย อีกหน้านึง มันคงฟังอังกฤษไม่รุ้เรื่องหรือส่องอย่างเมามันไม่รู้ สักพักหาทางออกไม่ได้เรียกเราเข้าไปออฟฟิตซะงั้น เอาเล่มเราไปให้หัวหน้าดู เข้าไปคุยอะไรไม่รุ้ประมาณ สิบนาทีได้ เรารออยู่หน้าห้อง คือมันนานมากแล้วและจะต้องต่อเครื่องอีกไง จะตกเครื่องอีกตู  เลยโผล่หน้าไปกะจะถามว่า ตกลงคุยได้ยังว่ายังไง หัวหน้าในห้องนั้นก็บ้งเ้บ้ง หน้าแบบซีเรียสอะไรสักอย่างประมาณว่าก็เค้ามีวีซ่ามาอีกหน้านึงอะไรประมาณเนี่ยแหละ แล้วก็โยนพาสให้คนนั้นคืนมา  แต่ ตม หญิงมาหาเราพร้อมกับพาสของเราคืน และถามเราว่าเราจะ ไปขึ้นเครื่องไปไหน เราก็ให้เค้าดูว่าเราจะไปเกท นี้ เค้าก็ออกมาส่งเราและชี้มือบอกทางเราไป ส่วนตอนออกมาก็เจออีตา ตม คนนั้นด้วย เราก็มองด้วยสีหน้ากวนๆ ใส่ มันก็มองแล้วยิ้มๆพูดอะไรไม่รุ้เราจำไม่ได้ สรุปว่าไปหนแรกก็เจอดีเพราะพาสปอร์ตเราเองแหละ กลับมาทำเล่มใหม่เลยค่ะ  ไม่ใช้แล้วอีกอย่างก็หมดอายุด้วย ประสบการณ์ไม่ค่อยน่ากัว แต่ก็เป็นเหตุการณ์นึงเอามาเล่าให้ฟังค่ะ แก้ไขเมื่อ 22 พ.ค. 52 18:25:59 จากคุณ : South East Bangkok - [ 22 พ.ค. 52 18:21:03 ]

ความคิดเห็นที่ 45 คุณ fastfolk คะ ใช่เลยค่ะ Japanese Passport นั่นเอง ตอนนั้นไม่มีคนญี่ปุ่นมาเข้าแถวค่ะ คุณลุงเลยให้เราไปเจอะคุณ ต.ม. หนุ่มคนนั้น เราบินถึงเช้าเหมือนกันเลย สถานการณ์เดียวกันเลยนะคะ นึกอีกที หรือว่า ต.ม. หนุ่มคนนั้นจะ Eng ไม่แตกฉานคะ เลยไม่ถามอะไรมาก ขนาดตอนสแกนนิ้ว เราวางนิ้วไว้เฉยๆ ไม่กด เค้ายังใช้ภาษาใบ้บอกเราเลยค่ะ สรุปคือไม่ได้ยินเสียงคุณ ต.ม. หนุ่มเลยว่าเป็นยังไง แต่นึกอีกทีไม่ได้ยินก็ดีแล้วล่ะค่ะ จากคุณ : hiroko - [ 22 พ.ค. 52 19:40:42 ]

ความคิดเห็นที่ 46 น้องสาว เเอนด์ ผองเพื่อนของเธอ รวมทั้งคุณเเม่ของเพื่อน 1 ท่าน โดนที่ ฮ่องกงเมื่อหลายปีก่อนค่ะ (ตอนนั้นเธอยังเรียนมหาวิทยาลัยค่ะ) สาวๆทั้งเเกงค์ รวมทั้งคุณเเม่ของเพื่อน นั้น เเต่งตัวได้เปรี๊ยวซี้ด เข็ดฟันมาก  เล่นเอาอิฉันตาค้าง ตอนไปส่งน้องสาวขึ้นเครื่อง วุ้ย นี่มันหลุดมาจาก โว้ค เเมกกาซีนชัดๆ ใส่บูท สวมหมวก สารพัด ทั้งคณะเลยไปเเหง่กที่สนามบินฮ่องกง โทษฐาน อ่า... เอาง่ายๆเลย เขาสงสัยว่าสาวๆจะมาหาลำไพ่พิเศษ    ส่วนคุณเเม่ของเพื่อนน้องสาว โดนสงสัยว่าเป็นเเม่เล้า !!!!! โห....ไรเนี่ย ???? น้องสาวบอกว่า เคลียร์กันเป็นชั่วโมงกว่าจะหลุด แก้ไขเมื่อ 22 พ.ค. 52 20:05:31 จากคุณ : aomnan - [ 22 พ.ค. 52 20:04:28 ]

ความคิดเห็นที่ 47 หายไปครึ่งวัน ไม่นึกว่ากระทู้จะยาว ^_^ มาต่อกันอีกหน่อยดีกว่า ผมสรุปกรณีของคุณ QAF~Princess ได้ง่ายๆ ครับ ถ้าผมเป็น ตม ผมก็สงสัยครับ นอกจากคุณโต้ตอบภาษาญี่ปุ่นได้ การเดินทางกันเพื่อนหญิงอีกคน ก็เป็นปัจจัยอีกตัวหนึ่ง ลักษณะการแต่งตัวก็เป็นอีกปัจจัย ทั้งนี้เพราะว่า ในอดีต (ปัจจุบันด้วย) สาวไทยจำนวนหนึ่งทำประวัติเอาไว้แยะครับ การเดินทางเป็นคู่ (ผู้หญิงทั้งคู่) ลักษณะการแต่งตัว และการที่พูดภาษาญี่ปุ่นได้ ล้วนครบองค์ประกอบมาตรฐานของ ตม ของเค้านะครับ แถมด้วยเรื่องที่พัก  Kaosan Tokyo Original asakusa ผมรับรองได้ว่าไม่มีคนญี่ปุ่นแท้ๆ คนไหนรู้จักหรอกครับ ว่ามันคืออะไร ??? เพราะคำว่า kaosan ก็คือ คำว่าข้าวสารในภาษาไทย (ผมเคยถามเจ้าของว่าคำนี้หมายถึงอะไร) ซึ่งไม่ใช่คำในภาษาญี่ปุ่น ดังนั้นคนญี่ปุ่นย่อมไม่รู้จัก ว่ามันคืออะไร -_-' แถมอีกเรื่องคือเรื่องคอนเสิร์ต คนญี่ปุ่นร้อยละ 95 มั้ง ถ้าอายุเกิน 30 แล้วจะไม่รู้เรื่องพวกนี้นะครับ ดังนั้นการมาญี่ปุ่นด้วยเหตุผลคือตามมาดูคอนเสิร์ต มันค่อนข้างอ่อนมากทีเดียว ในความคิดเห็นของคนทำงาน ตม. ในกรณีนี้ถ้าไม่ได้ ป้า ตม. ที่รู้จักวงดนตรีนี้ ก็น่ากลัวว่าคงจะลากกันได้อีกยาวครับกว่าจะจบได้ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะจบยังไง -_- สำหรับเรื่องการผ่าน ตม. จะว่ายากก็ยาก จะว่าง่ายก็ง่าย ครับ เอาจากประสบการณ์ส่วนตัวผมเองการเดินทางผ่านเข้าๆ ออกๆ สนามบินนานาชาติมานานนนนนนนนนนนนนนปีนะครับ มีอยู่ไม่กี่สิ่งที่ต้องทำ เมื่อเจอ ตม. นะครับ มีหลายอย่างดูเหมือนไม่สำคัญ แต่จริงๆ แล้วมันสำคัญครับ อย่างแรก ทำหน้าตาให้มันดีๆ หน่อย ต่อให้ไม่ได้นอนมาทั้งคือ ก็เข้าห้องน้ำ หวีผม แต่งหน้าซะหน่อย เอาให้มันดูดีมีสลุกที่สุด แต่อย่าเว่อมากนักนะครับ อย่างที่สอง ดูเหมือนจะไม่เกี่ยว แต่เป็นประโยชน์เป็นอย่างมาก เรื่อง การแต่งกายครับ ก็เรื่องเสื้อผ้าที่เราใส่นี่ละครับ แต่งตัวดูแล้วแย่มาก หรือสรปรก หรือแต่งตัวแฟชั่นจ๋า มันมีค่าเท่ากันครับ คือ ไม่ดีในสายตาของ ตม ก็คือถูกเพ่งเล็งละครับ เสื้อผ้าที่เหมาะสมในการผ่าน ตม คือ เสื้อผ้าธรรมดาๆ นี่ละครับ ที่ใส่แล้วดูดี ดูน่าเชื่อถือ ไม่ตามแฟชั่นจนเกินไปและไม่ล้าสมัยจนเกินไป ไม่จำเป็นต้องใช้ของ brandname ราคาแพง ไม่จำเป็นต้องใส่สูทผูกไท้ แต่สรุปแล้วต้องดูดี อันนี้อธิบายลำบากว่าเป็นยังไง แต่ถ้าคุณเป็นนักเดินทางระหว่างประเทศ คนเดินทางพวกนี้จะมี format ของเสื้อผ้าที่ใส่เดินทางครับ มองแว๊บเดียวก็รู้ แยกได้ออกว่า อันนี้มาทัวร์ อันนี้มาทำธุรกิจ อันนี้ใช่ปลอดภัยไม่มีปัญหา อันนี้ไม่ใช่ไม่ปลอดภัย ต้องกักไว้ก่อน ฯลฯ ผมเอง เวลาเดินทางไปต่างประเทศ (ไปเที่ยว) จะมีชุดใส่เดินทางมาตรฐานครับ ชุดนี้ใช้เฉพาะวันแรกคือขึ้นเครื่องจนลงเครื่องพอถึงที่พักชุดนี้ก็แขวน แขวนยาวจนวันกลับนั่นละครับ ถึงใช้ชุดนี้อีกครั้งหนึ่ง ชุดก็ง่ายๆ สบายๆ ไม่มียี่ห้อ แต่โทนสีดูและสุภาพและเหมาะสมครับ อย่างที่สาม ตอนเข้าเจอ ตม. ความมั่นใจครับ อันนี้สำคัญที่สุด ถ้ามั่นใจ ก็จะไม่มีพิรุธ เจอหน้า ตม.ยื่น passport ให้ ทักทายซะหน่อย hello นะครับ จะ good morning หรือ good ตอนไหนก็เอาให้ถูกเวลาหน่อย สำคัญที่สุดคือ ทักทายต้องมองหน้า ตม ครับ eye contact จ้องตาไปเลยครับ พอเราจ้องตา ตม จะเหลือบมองนิดหนึ่ง แล้วก็ก้มหน้าก้มตาตรวจ passport ครับ เพราะคนมีพิรุธ มีอะไรปิดบัง จะไม่กล้าจ้องตาครับ อันนี้เรื่องธรรมชาติมนุษย์ครับ ตม จะดูข้อพิรุธจากอาการเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้นะครับ เอาเป็นว่าจ้อง ตม ตลอดเวลาที่ยืนอยู่นะดีที่สุดครับ ประเภทเงยหน้ามาก็เจอตาเรานะดีที่สุดครับ  ตรงนั้นอย่าลุกหลิก อย่าหันซ้ายขวาเหมือนมองคนอื่น การเดินทางโดยแสดงให้รู้ว่าเดินทางคนเดียว เป็นวิธีที่ดีที่สุดครับ และปลอดภัยที่สุดด้วย ถ้ากรณีถูกถามว่ามากับใคร ก็ชี้ไปให้ดู แต่ไม่ต้องทำท่าเป็นห่วงมากมายนัก กรณีต้องมีการเจรจา ก็บอกไปแล้ว ภาษาอังกฤษครับ ฟังไม่ออก ฟังไม่ทัน ฟังไม่รู้เรื่อง ไม่ต้องตกใจ เดี๋ยวเค้าก็พยายามพูดช้า หรือพูดชัด หรือไม่ก็เปลี่ยนคำศัพท์ไปใช้คำอื่นๆ ที่มีความหมายเหมือนกัน ถามมาแล้วรู้เรื่อง ต้องตอบอย่างฉะฉาน เสียงดังฟังชัดครับ พูดด้วยความั่นใจหน่อย ส่วน ตม. จะฟังออกไม่ออกเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ถ้าฟังไม่ออกเด๊ยวเค้าก็บอกเองนั่นละ เราก็พูดช้าลงหน่อย หรือให้ชัดกว่าเดิมหน่อย เดี๋ยวก็รู้เรื่องกันเองละครับ ไอ้ตอบแบบอู้อี้ ตอบแบบไม่เต็มเสียง หรือตอบวนไปวนมา  มันบอกถึงการปกปิดอะไรบางอย่างนะครับ ยิ่งจะโดนซักหนักมากขึ้นครับ เอกสารต่างๆ ที่เตรียมมาเอามาถือไว้ในมือไว้ก่อนเลยครับ ถ้าเรียกหาก็ค้นหรือคุ้ยเอกสารมันบนเคาเตอร์นั่นละครับ อันนี้แสดงถึงว่าไม่มีอะไรแอบซ่อนไว้ กองมันไว้ทั้งหมดบนเคาเตอร์นั่นละครับ ตอนนี้นึกออกเท่านี้ครับ สงสัยอะไรก็ลองถามมา มันมีสารพัดวิธีครับ และทาง ตม ก็มีสารพัดวิธีในการสังเกตุดูคนเดินทางเหมือนกันครับ ^_^   ปล. สาวไทยจะถูกเพ่งเล็งเรื่องอาชีพพิเศษ ส่วน ชายไทยมักถูกเพ่งเล็งเรื่องขนยาเสพติดครับ ก็จะไปว่าเค้าได้ยังไงละครับ ก็เมื่อพี่ไทยทั้งหลายทำกันมานานจนขึ้นชื่อลือชานิครับ โทษใครไม่ได้ซะด้วย -_-' จากคุณ : SkyBox - [ 22 พ.ค. 52 21:40:36 ]

ความคิดเห็นที่ 48 นึกได้อีกเรื่อง คือ เรื่องการต่อแถวเข้า ตม. ดูกันหน่อยนะครับ ว่าตรงข้างหน้าเราที่เราไปยื่นต่อท้ายเค้านะ ไอ้คนข้างหน้า หรือ กรุ๊ปข้างหน้าเรานะเป็นยังไง ??? โดยส่วนตัวแล้ว ผมพยายามหลีกเลี่ยงการไปยืนต่อจากกรุ๊ปที่มากันหลายคน ให้สังเกตุดูว่า ข้างหน้าเป็นคนที่เดินทางคนเดียว (เป็นฝรั่งก็ดี) ลักษณะท่าทาง การแต่งตัว เป็นนักธุรกิจ เพราะพวกนี้จะเดินทางบ่อย และจะไม่พูดคุยกับใครทั้งนั้น พวกนี้ชั่วโมงบินสูงครับ รู้ว่าต้องทำอะไรตอนไหนถึงจะดีกับตัวเองที่สุด ที่ต้องหลีเลี่ยงคือ กลุ่มคนอินเดีย กลุ่มคนจากอาฟริกา เพราะพวกนี้จะมีปัญหากับ ตม ค่อนข้างสูง จริงๆ มันปัญหาตั้งแต่เคาเตอร์ chk-in แล้วละ พวกนี้ซอกแซกหาเรื่องทำตุกติกได้ทุกช๊อท อันนี้ไม่ได้ว่าเหมาทั้งหมดนะครับ ที่ดีๆ ก็มีแยะ แต่ผมเจอแบบนี้บ่อยเท่านั้นเอง และที่ต้องหลีให้ไกลที่สุดคือ คนไทย ครับ เพราะเราไม่ทราบวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของแต่ละคน โชคดีเจอคนดีก็แล้วไป ยามซวยขึ้นมาพี่ไทยนี่ละครับตัวดี ผมนะถ้าเห็นหน้าไทยๆ ถือ passport ไทย หรือได้ยินภาษาไทย อยู่ข้างหน้าผมละก็ แล้วถ้ายิ่งเป็นแถวเดียวกันด้วยละก็ ผมเดินกลับไปเข้าห้องน้ำใหม่อีกรอบครับ เดี๋ยวค่อยมาเข้าคิวใหม่อีกรอบ ผมไม่ได้ถูกถูกคนไทยนะครับ แต่เพื่อความปลอดภัยของตัวผมเองครับ ถึงตรงนั้น ณ จุดนั้นแล้ว ผมต้องเอาตัวรอดก่อนครับ จากคุณ : SkyBox - [ 22 พ.ค. 52 22:02:28 ]

ความคิดเห็นที่ 49 จริงๆ แล้วถ้าคุณเดินทางระหว่างประเทศบ่อย และช่างสังเกตุ คุณเองก็ดูรู้ครับ ว่าคนไหนจะมีปัญหากับ ตม. ไม่เรื่องอะไรก็เรื่องหนึ่งละครับ ก็อย่าไปอยู่ใกล้ๆ หรือไปต่อคิวคนนั้นก็แล้วกันครับ ^_^ จากคุณ : SkyBox - [ 22 พ.ค. 52 22:06:07 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ลืมจั๋วหัวว่า ที่เขียนมาซะยาวยืดนั้นนะเป็น ขั้นตอนมาตรฐานสากล ใช้ได้กับ ตม ในทุกประเทศนะครับ ไม่ใช่เฉพาะที่ญี่ปุ่น *_* จากคุณ : SkyBox - [ 22 พ.ค. 52 22:08:55 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ถ้าผมเป็น ตม นั่น ผมจะชื่นชม จขกท มากกว่าครับ ที่สามารถใช้ภาษาเค้าได้ โดยไม่มาศึกษาที่ญี่ปุ่นมาก่อน :)  ที่ญี่ปุ่นถ้าได้ภาษาเค้า เที่ยวสบายขึ้นอีกมากเลยครับ จากคุณ : norman_b - [ 22 พ.ค. 52 23:16:43 ]

ความคิดเห็นที่ 52 อ่าน คห.คุณ SkyBox มีประโยชน์จังครับ ขอบคุณมากๆ เลย ก่อนหน้าผมก็ไม่ค่อยรู้อิโหน่อิเหน่เตรียมตัวอะไรมากเลยอ่ะครับ คือเตรียมข้อมูล แต่ก็เอาความบริสุทธิ์ใจนี่แหละครับเข้าสู้ ก็ผ่าน ตม.มาได้ทุกครั้ง กลับมาอ่านกระทู้ก็เลยมาลองคิดย้อนสังเกตุตัวเอง เออจริงแฮะ... 1.ผมจ้องตา ตม. ครับ อันนี้รู้สึกว่าเราควรจะ concentrate ที่เค้า (โดยธรรมชาติ) เพราะมันถือเป็นการให้เกียรติไปในตัว...แล้วก็ทักทาย...แล้วก็ยิ้ม 2.มั่นใจในตัวเอง...ถามอะไร ตอบได้ ไม่อึกอัก เพราะตอบจากความเป็นจริงและรู้จริง 3.แต่งตัวที่เป็นตัวเราเอง แต่สุภาพ ไม่ซ่อมซ่อ และไม่เว่อร์...ถึงจะชอบกางเกงยีนส์ขาดๆ แต่ก็เตือนสติตัวเองให้หลีกเลี่ยงทุกครั้ง เพราะขนาดเรายังคิดว่าไม่สุภาพ ตม. ก็คงเล่นเราแน่ๆ เหอเหอเหอ ก็เลยสังเกตุว่า "เออ...ทุกครั้งที่ไป ตปท. เราก็จะหยิบกางเกงตัวเดิมตัวนี้แหละมาใส่ทุกครั้งเลยว่ะ มันดูแฟชั่นหน่อย (evisu) ซึ่งก็บ่งบอกไสตล์ได้ แต่ก็สุภาพ ไม่ขาด ปลอดภัยดี" 4.รองเท้าผมมักจะชอบใส่รองเท้าผ้าใบหรือหุ้มข้อ แต่ก็ไม่เก่าโทรม ก็เลยดูเข้ากับชุดที่ดูไม่สุภาพเกินไป 5.ผมเป็นคนขี้หนาว...ก็เลยมักจะใส่เสื้อกันหนาวทับเวลาลงเครื่องบ่อยๆ อันนี้น่าจะเป็นความลำลองที่ดูสุภาพไปในตัวมั้งครับ 6.ลงเครื่องบินมักปวดฉี่และต้องวิ่งเข้าห้องน้ำก่อนเลย(ประจำ) เข้าเสร็จก็จัดการล้างหน้าจัดผมนิดหน่อย ไม่ได้เตรียมตัวหาตม.หรอกอ่ะครับ แต่มันเป็นพฤติกรรมปกติที่เคยชิน พอมาอ่านความเห็น...เออ เราก็ทำนี่หว่า 5555 7.ปกติไปคนเดียว แต่ครั้งล่าสุดไปกับเพื่อน ต่อแถวมาด้วยกัน แต่ถูกจับแยกโดยเจ้าหน้าที่ แต่ก็ไม่ได้ลุกลี้ลุกลนหรือกลัวอะไร (ในใจก็แอบห่วงเพื่อน เพราะมันมาเป็นครั้งแรก) ปรากฏเพื่อนผ่านไปก่อนเราซะอีก ไม่มีปัญหาอะไรเลย ตม.ถามว่ามากับใคร ก็บอกว่ามากับเพื่อน (ไม่ได้ชี้ไปหาเพื่อนด้วย สนทนาอยู่กับ ตม. 2 คน) มาทำอะไรกัน ก็บอกว่ามาเที่ยว จบเลย ผ่านครับ 55555 เอาประสบการณ์มาฝากกันบ้าง... ; ) จากคุณ : fastfolk - [ 22 พ.ค. 52 23:44:53 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ขอบคุณคุณ QAF~Princess นะคะที่มาแชร์ประสบการณ์ และคุณ SkyBox ด้วยค่ะคำแนะนำดีๆ มีแผนว่าอีกสองปีจะไปดูคอนที่ญี่ปุ่นเหมือนกัน แต่ถ้าเราเจองี้คงสติแตกพูดจาไม่รู้เรื่องแหงมๆ แอบเครียด^^" คุณ QAF~Princess เก่งจังเลยค่ะ ป.ล. (อดีต)แฟนคัตตุนค่า อิอิ แก้ไขเมื่อ 23 พ.ค. 52 00:10:08 จากคุณ : yuki_shimi - [ 23 พ.ค. 52 00:08:22 ]

ความคิดเห็นที่ 54 อืม.... ตามที่คุณSkyboxบอกก็คงจริงแหละค่ะ แต่เราก็ไม่ได้แต่งตัวเวอร์นะ (ในความคิดเรา 555+) เทียบกับพวกที่เดินตามชิบุยะแล้ว ออกจะธรรมดามากด้วยซ้ำ หน้าตาก็เพิ่งมาแต่งบนเครื่องตอนจะลงนี่แหละ คอนแทค อายไลเนอร์ไม่มีเลย ก็คิดว่าอยากให้ดูดีหน่อย ไม่อยากโทรม แต่มันก็คงเวอร์กว่านักท่องเที่ยวชาติเดียวกันคนอื่นๆนั่นแล (จริงๆแล้วเราเข้าใจว่าผู้หญิงที่จะโดนเพ่งเล็งน่าจะเป็นพวกแต่งตัวโป๊อะไรแบบนี้.... เราไม่ได้โป๊เลย ไม่มีอะไรล่อแหลม ก็ไม่คิดว่าจะเป็นจุดสังเกตด้วย) ก็คุยกับเพื่อนแล้วว่าปีหน้า เราใส่เสื้อยืดกางเกงยืนกันเถอะ แล้วก็งดใช้ภาษาญี่ปุ่นชั่วคราว เรื่องคอน เราว่าจริงๆตม.ญี่ปุ่นน่าจะชินแล้วนะ คนไทยบินไปดูคอนในค่ายจอนนี่กันเยอะมาก ปีละหลายสิบหนแล้วแต่กรุ๊ป ช่วงที่ไปพร้อมๆเราก็น่าจะเป็นร้อยเลยมั้ง ชาติอื่นก็เยอะ ตอนเดินในนาริตะเรายังพบญาติมิตรที่มีจุดหมายเดียวกัน แวะทักทายกันมากมาย ตอนที่ตม.หนุ่มถามเค้าก็อืมๆ คัตตุนเหรอ ก็คิดว่ารู้จักแหละ โฆษณาโหมโปรโมททั้งทีวี ทั้งบิลบอร์ดทั่วเมืองขนาดนั้น ส่วนเรื่องการตอบคำถามนี่เรามั่นใจนะว่าตอบแบบฉะฉานมาก ไม่มีหลุกหลิกแน่นอน เอกสารพร้อมทุกสิ่ง ภาษาอังกฤษไม่ใช่ปัญหาของเราเลย แต่ที่คราวนี้เงิบไปก็เพราะน้องตม.คนนั้นยิงภาษาญี่ปุ่นมา เราก็ปากไวตอบไปเพราะคิดว่าบริสุทธิ์ใจ อธิบายที่มาที่ไปได้ ไม่น่าจะมีปัญหา แต่ถ้าพูดไม่รู้เรื่อง แจกแจงไม่ได้น่าจะเครียดกว่า T-T ยังไงก็ขอบคุณมากนะคะ เทคนิคที่บอกมาจะจำให้ขึ้นใจเลย จากคุณ : QAF~Princess - [ 23 พ.ค. 52 00:24:06 ]

ความคิดเห็นที่ 55 หุหุ สงสัยต้องทำการบ้านมั่งแล้ว .... น้องสาวผมไปญี่ปุ่น 3 รอบแระ ตอนนี้ไปเรียนที่ญีปุ่นได้ 2 เดือนกว่าแล้ว ... กำลังหนุกหนานกับที่นั่น ตอนที่เธอเดินทาง บางทีก็ผู้หญิงตัวคนเดียว บางทีก็แพคคู่กับเพื่อน แต่เค้าเห็นเป็น Student Visa เลยผ่านฉลุยมั้งครับ ทีนี้เอาเรื่องของผมบ้าง ครั้งแรกแกะกล่อง แพลนว่าจะไปรับน้องสาวตอนขากลับ ช่วงเดือนมีนาคมปีหน้า แม่ผมก็เคยเจอดีที่ ตม. ญี่ปุ่นมาแล้ว แบบว่าแม่ผมก็พูด Eng ไม่ค่อยได้ และ ตม. ก็รัว Eng สำเนียงญี่ปุ่นมา เป็นงง เลยต้องให้น้องเข้าไปช่วยออกมา หุ หุ .... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 23 พ.ค. 52 00:42:50 ]

ความคิดเห็นที่ 56 อ่านมาเรื่อยๆเริ่มคล้อยตามหลายๆคำแนะนำ ด่านที่ญี่ปุ่นเข้ามาหลายหนก็ตอบญป.แบบเรียนมา(แต่เกรดไม่ค่อยดี)ตลอด และเห็นด้วยไปอีกแล้วว่า  คนมีอายุจะเฟรนด์ลี่มากกว่าจริงๆด้วยแฮะ... อ่านคห.คุณฟ้าแล้วพยักหน้าหงึกๆ...  ให้คะแนนตัวเอง ตรงประเด็นที่ว่าประวัติหญิงไทยเราดีพอๆกับที่ญี่ปุ่น เข้าด่านที่เยอรมันนีมาได้  ก็ตื่นเต้นมากเหมือนกันค่ะ จำได้ว่า Good Morning ไปแบบเป็นมี๊ดด...เป็นมิตร   ทำหน้านักท่องเที่ยวสุดฤทธิ์ ต้องการรู้อะไรอิชั้นพร้อมอธิบาย  อารมณ์แบบพรีเซนท์งานให้อาจารย์ฟัง ... ในเรื่องทำนองนี้ ... คุณผู้ชายเสี่ยงน้อยกว่าพวกเราเห็นๆ แต่เราคงได้เปรียบคุณQAF~Princess อยู่นิดๆ เพราะเราคงจะสาวน้อยกว่า เปรี้ยวน้อยกว่า   ส่วนสวยน้อยกว่าหรือไม่ ... ไม่ทราาาาบบบบ ^^ ่ จากคุณ : ลอร่า อิงกัลส์ ~* - [ 23 พ.ค. 52 08:59:15 ]

ความคิดเห็นที่ 57 จขกท.เล่าเรื่องได้ชวนติดตาม+สนุกดีครับ(ถึงแม้ว่าเหตุการณ์มันจะไม่สนุกเลย) อ่านเพลินเชียว... จากคุณ : วันที่อ่อนไหว... - [ 23 พ.ค. 52 18:02:42 ]

ความคิดเห็นที่ 58 ^-^ จากคุณ : booklovers - [ 23 พ.ค. 52 19:35:10 ]

ความคิดเห็นที่ 59 แต่งหน้าแต่งตัวเปรี้ยวๆไปก็พาลจะหาว่าไปขายนากันหมดนะครับ อีกหน่อยคงต้องหุ้มตั้งแต่ส้นถึงต้นคอ รึไม่ก็นุ่งผ้าแถบห่มสไบไปกันซะเลย จากคุณ : Ethanol - [ 24 พ.ค. 52 20:47:28 ]

ความคิดเห็นที่ 60 เท่าที่เคยเห็นนะครับ พวกนี้ไม่ได้แต่งตัวเซ็กซี่วาวหวิวนะครับ แต่มันมี format ในแบบของเค้า *_* คุณ ลอร่า อิงกัลส์ ครับ ผู้ชายจะถูกเพ่งเล็งหลังจากพ้นด่าน ตม มาแล้วครับ ด่านศุลกากร นี่ผู้ชายจะโดนมากกว่าผู้หญิงครับ เพราะอย่างที่บวกไว้แล้ว ผู้ชายไทยจะโดนเพ่งเล็งเรื่องขนยาเสพติดครับ ยิ่งเข้าๆ ออกๆ บ่อยๆ ด้วยแล้ว โดนเพ่งเล็งเป็นพิเศษครับ -_-' สรุปแล้ว คนไทย ก็โดนกันคนละด่านละครับ คู่แรก ผู้หญิง vs ตม. คู่ที่สอง ผู้ชาย vs ศุลกากร  555 จากคุณ : SkyBox - [ 25 พ.ค. 52 08:09:03 ]

ความคิดเห็นที่ 61 อืมมม จริงของเฮียฟ้านะ สาวๆ พวกนั้นเค้าจะมีฟอร์แมทของเค้าจริงๆด้วย ที่สังเกตุได้เช่น ใส่รองเท้าส้นสูงแหลม หรือใส่บูทส้นสูง ใส่กางเกงที่รัดรูป ดูเซ็กซี่ เสื้อถึงจะไม่โป๊แต่แบบเน้นรูปร่างอะ อย่างเช่นคอเต่าถึงจะไม่โป๊เลย แต่เล่นใส่ซะคับ ใส่เสื้อแจ๊คเก็ตตัวเล็กๆ เข้ารูป เป็นต้น ลองนึกภาพดู แล้วจะร้องอ๋อ เราเหมือนเฮียฟ้าอะ คือเวลาเดินทางมีชุดประจำอยู่แล้วไม่กี่แบบ ออกแนวสุภาพ แต่ไม่เหมือนนักธุรกิจเกินไป ทำให้ไม่เคยมีปัญหาเลย แถมเคยได้อัพเกรดไปนั่งบิสฟรีตอนเดินทางคนเดียวอีกแน่ะ จากคุณ : bangkok dream - [ 25 พ.ค. 52 10:47:25 ]

ความคิดเห็นที่ 62 ครั้งล่าสุดที่ไป น้องในทริปที่แต่งตัวเหมือนสาวเกาหลี+สาวญี่ปุ่น ก็ถูกเรียกให้ไปช่องของชาวญี่ปุ่น ดีนะที่น้องคนนั้นไม่ไป ไม่งั้นก็ไม่แน่ - -" จากคุณ : ภาษาดาว - [ 27 พ.ค. 52 09:26:07 ]

ความคิดเห็นที่ 63 ไปดูKAT-TUN เหมือนกันเลยค่ะ ว่าแต่ จขกท ดูไปกี่รอบคะเนี่ย จากคุณ : Pat (Srithamma) - [ 30 พ.ค. 52 12:31:09 ]

ความคิดเห็นที่ 64 เข้ามาอ่านทู้นี้แล้วก็ใช่เลยค่ะ เราไปดูคอนเดียวกันเลย สนุกเนอะะะะะะะะะ อยากไปคอนทัวร์อีกรอบแต่เงินแห้งไม่ทัน ฝนตกทุกวันเลย 555 จากคุณ : [D]iffind[O] - [ 31 พ.ค. 52 01:10:40 ]

ความคิดเห็นที่ 65 ไปดูคอนคัตตุนสุดที่เลิฟมาเหมือนกันเจ้าค่ะ ผ่านฉลุยตม.ไม่ถามอะไรเลยค่ะทั้งๆที่เป็นการเดินทางต่างประเทศครั้งแรกแล้วก็คนเดียวด้วย แต่มาโดนถามตรงตรวจกระเป๋าว่า "Hitoride?" (มาคนเดียวเหรอ) แต่ดีว่าปากหนักพยักหน้าตอบอังกฤษไปว่ามาคนเดียว เค้าก็ถามว่ามาทำอะไร ก็ตอบว่ามาเที่ยวโตเกียวกับไปดูคอนคัตตุนที่โตเกียวโดม(พราวลี่ทูพรีเซนต์สุดๆ) เค้าก็พยักหน้าเข้าใจพร้อมกับให้ผ่านไป ฮรี่ๆๆ จากคุณ : Murasaki_kyokai - [ 2 มิ.ย. 52 20:51:45 ]