ความคิดเห็นที่ 1 โปรแกรมวันนี้ 1) ไปซื้อตั๋ว Ghibli Museum ที่เมื่อวานพลาดไป 2) ไป Ueno ชมซากุระ , พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์, Ueno Zoo, ถ้ามีเวลาเหลือไป Shitamachi Museum 3) ไป Tokyo University ถ่ายรูปหอนาฬิกาอันเลื่องชื่อ 4) ไป Tokyo Dome 5) ไป Ikebukuro ตึก Sunshine City, Namco Namja Town 6) กลับมา Ueno เดิน Ameyoko Street 7) กลับที่พัก ยาวเหยียดเชียว ... แต่เอาเข้าจริง ไปได้ 30% เองค่ะ แหะๆ จากคุณ : hiroko - [ 24 พ.ค. 52 16:04:35 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เพิ่งโผล่น้า ดองเค็ม ๆ คนรอก็รอไป แต่ก็ตามติดทูกตอน... เอิ๊กๆๆๆ จากคุณ : หนอย. . . ยายเมี้ยน (หนอย. . . ยายเมี้ยน) - [ 24 พ.ค. 52 16:08:27 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เป้าหมายแรกของวันนี้คือซื้อตั๋วเข้าชม Ghibli Museum ที่ร้าน Lawson ค่ะ หลังจากที่เมื่อวานพลาดไปเพราะหาไม่เจอ ก่อนออกจากที่พักก็เลยแวะอ่านบอร์ดที่เค้าแปะไว้ตรงประตูเคาน์เตอร์ก่อน ที่ข้างประตูเค้าจะมีแปะข้อมูลท่องเที่ยวต่างๆในโตเกียวไว้ด้วยค่ะ และก็มีพูดถึง Ghibli Museum ด้วย เราไปยืนเล็งแผนที่ร้าน Lawson และพยายามจะจับทิศอยู่ค่ะว่ามันอยู่ฝั่งไหนแน่ และคงจะยืนเล็งนานไปหน่อย Raoul ซัง (คุณ Manager) ก็เลยเดินมาถามว่ามีอะไรให้ช่วยมั้ย เราเลยบอกเค้าว่าช่วยเขียนชื่อ Lawson เป็นตัวคาตาคานะให้หน่อยได้มั้ย (กะเอาไปถามพวกคุณลุงข้างนอกค่ะ) แต่ Raoul ซังบอกว่าให้ดูได้จากในเว็บ (สงสัยเขียนไม่เป็นเหมือนกัน) แต่เค้าก็ดีมากเลยค่ะ วิ่งไปเอากระดาษมาวาดแผนที่ลากเส้นให้เราทำให้เราอ๋อเลยค่ะ ซอยร้าน Lawson มันอยู่ตรงกันข้ามกับซอยร้าน 7 นี่เอง เมื่อวานนี้เราไปทางตรงกันข้ามเลย มิน่าถึงหาไม่เจอ -  -" ถึงร้าน Lawson ปุ๊บก็เดินสำรวจของกินก่อนเลยค่ะ แล้วค่อยเดินมาหาคุณ Loopi (ตู้ซื้อตั๋วอัตโนมัติ) ซึ่งตั้งอยู่ข้างๆเคาน์เตอร์คิดเงิน ตอนแรกกะจะทำเปรี้ยวซื้อตั๋วเองโดยไม่พึ่งคุณพนักงานเพราะมีโพยมาด้วย แต่พอกดไปได้ 2 steps ก็ถึงทางตันค่ะ .... เพราะเค้าให้กรอกค่า L Code ซึ่งเป็นรหัสประจำเดือนที่เราซื้อตั๋ว แต่เราไม่ได้จด L Code ของเดือนเมษาฯ มา และก็กดไปไม่ถูกด้วยว่าจะเข้าไปดูได้ตรงไหน เลยต้องซมซานไปหาคุณพนักงานในที่สุดค่ะ จากคุณ : hiroko - [ 24 พ.ค. 52 16:16:18 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เจอหน้าน้องพนักงานแล้วก็ปล่อยภาษาญี่ปุ่นไป 1 ประโยค " Sumimasen, Giburi no chiketto ga hoshii desu" (ขอโทษนะคะ อยากได้ตั๋ว Ghibli จังค่ะ) ตั้งแต่พูดมา 2 วันยังไม่เจอใครที่ฟังเราไม่เข้าใจเลยค่ะ มีแค่คนอื่นพูดมาแล้วเราฟังไม่รู้เรื่อง (อันนี้ประจำ) คุณน้องพนักงานก็น่ารักมาก รีบกุลีกุจอมากดตู้ให้เร็วไวเพราะร้านกำลังไม่มีคน โดยเราต้องการตั๋ววันศุกร์รอบเที่ยง ซึ่งห่างจากวันนี้แค่ 2 วันเท่านั้น และมันก็เต็มค่ะ (คิดแล้วเชียว) เหลือแต่รอบ 16.00 น. ระหว่างที่เรายืนลังเลก็มีคนมาซื้อของ คุณน้องเลยต้องวิ่งไปขายของก่อน ปล่อยเรายืนจ้องตากับคุณ Loopi ตามลำพังค่ะ พอคุณน้องกลับมาเราก็ตัดสินใจเลือกรอบ 16:00 น. ก็ได้ ระหว่างที่คุณน้องกดๆๆ เราก็คิดในใจว่า "รถบัสขากลับมันหมดกี่โมงเนี่ย ?" (ไม่ได้หาข้อมูลเรื่องนี้มาค่ะ) แต่ก็เป็นโชคดีของเราค่ะ เพราะกว่าคุณน้องจะกดเสร็จ รอบ 16:00 น. มันก็เต็มซะแล้ว เพราะระบบมันออนไลน์ทั่วประเทศ ตอนนี้มึนแล้วค่ะ คิดในใจว่าจะย้ายไปวันไหนดีน้า เพราะว่าวันอื่นๆก็มีแพลนหมดแล้ว คิดหลายตลบค่ะ เพราะถ้าย้ายไปวันอื่นแพลนก็จะเลื่อน ยืนคิดอยู่ 2 นาทีไม่ลงตัว เกรงใจน้องเค้าด้วยเพราะมายืนรอนานแล้ว เลยตัดสินใจเอาเป็นวันจันทร์หน้ามันซะเลย (วันอังคาร Ghibli Museum ปิดค่ะ) ได้รอบเที่ยงซะด้วย คราวนี้สำเร็จค่ะ ดีใจกันทั้งคนซื้อคนขาย  ^  ^ พอไปจ่ายเงินก็จะได้ซองนี้มา แก้ไขเมื่อ 24 พ.ค. 52 16:33:32 จากคุณ : hiroko - [ 24 พ.ค. 52 16:31:41 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ข้างในประกอบด้วย ตั๋วเข้าชม Ghibli Museum พร้อมกับ Information อีก 1 แผ่น (ภาษาญี่ปุ่นล้วน) จากคุณ : hiroko - [ 24 พ.ค. 52 16:34:25 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เสร็จภารกิจแล้วก็ไปหาของกินมื้อเช้าค่ะ เดินไปเล็งไส้กรอกยักษ์ในตู้อุ่นบนเคาน์เตอร์ แล้วก็ได้มากินง่ายๆ ด้วยประโยค " Sumimasen, Kore wo kudasai, hitotsu." (ขอโทษค่ะ ขออันนี้อันนึง) ระหว่างพูดต้องชี้ด้วยนะคะ ประโยคนี้ใช้ไม่ถูกหรอกค่ะ แต่พอกล้อมแกล้ม ... ตรงนี้แถมนะคะ ข้ามไปได้ค่ะ ++++++++++++++++++++++++++ ภาษาญี่ปุ่นเค้าจะมีลักษณนามเหมือนภาษาไทยเลยค่ะ พวกลักษณะเป็นแท่งก็จะพูดแบบนึง เป็นแผ่นๆ แบนๆ ก็จะเรียกอีกแบบหนึ่ง เป็นเครื่องก็แบบหนึ่ง สัตว์ใหญ่ก็แบบนึง สัตว์เล็กก็แบบนึง ซึ่งตอนเรียนเราจำไม่เคยได้เลยค่ะ ท่องไปสอบอย่างเดียว แต่ถ้าเราจำลักษณนามไม่ได้ ก็สามารถใช้ตัวเลขสำหรับนับได้อีกชุดนึงค่ะ เป็นชุดเอาไว้นับกลางๆ ไม่ต้องระบุลักษณนาม ซึ่งก็คือ hitotsu = 1 อัน นี่เอง ... ไปญี่ปุ่นคราวนี้ทำให้เราเข้าใจเลยค่ะ ว่าภาษาเนี่ย เรียนมากแค่ไหนแต่ถ้าไม่ได้ใช้ โอกาสลืมเนี่ยเกือบ 100% แต่ถ้าได้ใช้ในชีวิตจริงล่ะก็ ติดแน่นไม่มีลืมเลยค่ะ ++++++++++++++++++++++++++ จากนั้นก็เดินไปขึ้นรถไฟ เดินไป กินไป เหมือนเดิม ..... จากคุณ : hiroko - [ 24 พ.ค. 52 16:44:36 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ค้างไว้ตรงนี้ก่อนนะคะ ไปออกกำลังกายก่อนค่ะ ค่ำๆ มาต่อนะคะ จากคุณ : hiroko - [ 24 พ.ค. 52 16:46:35 ]

ความคิดเห็นที่ 8 กำลังสนุกเลย อย่างนี้ก็ค้างเลย..อะ :) กลับมาต่อเร็วๆนะครับ จากคุณ : เลนส์ขาว - [ 24 พ.ค. 52 17:09:59 ]

ความคิดเห็นที่ 9 มาแล้ว ให้รอซะนานเลย เอิ๊ก ๆ รออยู่นะครับ ^ ^ จากคุณ : databoy - [ 24 พ.ค. 52 17:38:31 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ออกกำลังนานดีจัง ร่างกายแข็งแรงครับ จากคุณ : kart - [ 24 พ.ค. 52 18:29:40 ]

ความคิดเห็นที่ 11 รอดูนะคะ จากคุณ : sweetsakura - [ 24 พ.ค. 52 19:45:43 ]

ความคิดเห็นที่ 12 มาแล้วค่ะ ไปวิ่งที่สวนสาธารณะมาค่ะ เหนื่อยมากๆๆ ++++++++++++++++++++++++++++++++ จาก minami-senju ขึ้น subway สาย hibiya เจ้าประจำไปลงที่ Ueno ลงมาแล้วมีป้ายบอกว่า Park Exit ให้เดินไปทางนี้ .... แต่พอเดินไปแล้วไม่มีป้ายต่อค่ะ เจอแต่ด่านขาออก เราก็เลยไม่รู้ว่าให้ออกไปทางนี้เลยรึเปล่า เพราะอ่านเจอมาว่าถ้าออกผิดทางต้องเดินอ้อมไกลค่ะ เมื่อไม่รู้ก็ต้องถามสิคะ เลยเดินไปถามคุณเจ้าหน้าที่ในห้องตรงด่านนั่นแหล่ะค่ะ " Sumimasen, ueno Kouen e ikitai'n desu ga, ..." (ขอโทษนะคะ  จะไปสวนอุเอโนะอ่ะค่ะ...) คุณเจ้าหน้าที่ตอบอย่างไวว่า " Nanaban" (หมายเลข 7) แต่เราก็ยังยืนเอ๋อต่อเพราะไม่รู้ว่าทางออกเบอร์ 7 อ่ะ มันไปทางไหน คุณเจ้าหน้าที่เลยชี้ให้สอดตั๋วออกไป พอผ่านด่านไปแล้ว ก็เจอป้ายทางออกไป Ueno Park จริงๆ ทางออกมายังสวนอุเอโนะเป็นทางลาดค่ะไม่ใช่บันได พอเดินขึ้นมาถึงก็เจอกับ 4 แยกอยู่ตรงหน้า มองไปฝั่งตรงข้ามเยื้องไปทางซ้ายมีบันไดปูน แล้วข้างบนก็มีต้นไม้ก็เดาว่านี่แหล่ะคงจะเป็นสวนอุเอโนะแน่เลย ก็เลยเดินข้ามถนนไปดู แล้วก็ใช่จริงๆ ด้วยค่ะ ตรงบันได มีแม่ลูกเล่นเป่ายิ้งฉุบขึ้นบันไดกันอยู่ น่ารักมากๆ เกมนี้สมัยเด็กๆ เราก็เล่นประจำ เสียดายไม่ได้ถ่ายรูปมานะคะ พอเดินเข้าไปในสวนก็เจอภาพแบบนี้ค่ะ จากคุณ : hiroko - [ 24 พ.ค. 52 20:07:44 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ยังเช้าอยู่และเป็นวันธรรมดาก็เลยไม่ค่อยมีคนเท่าไหร่ เดินเข้าไปทีแรกจะยังไม่เจอซากุระนะคะ จะเป็นต้นไม้เขียวๆ ธรรมดาก่อน พอเข้าไปอีกหน่อยก็จะเริ่มเจอซากุระ แต่เป็นซากุระแซมใบเขียวค่ะ ทำเอาเราใจเสียไปเลย นึกว่าซากุระโดนฝนจนแตกใบอ่อนหมดแล้ว มีคุณป้าแต่งชุดกิโมโนมาเดินด้วยนะคะ น่ารักมากค่ะ จากคุณ : hiroko - [ 24 พ.ค. 52 20:11:13 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ตลอดแนวทางเดินจะมีโคมสีส้มแขวนไปตลอด ตัวหนังสือบนโคมนี่คิดว่าน่าจะเป็นชื่อร้านค้าที่เป็น sponser นะคะ เพราะอย่างในรูปนี่เขียนว่า Dreamers น่ะค่ะ จากคุณ : hiroko - [ 24 พ.ค. 52 20:14:01 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ตามมาดูครับ จากคุณ : MAILAKPAGKEELAN - [ 24 พ.ค. 52 20:18:28 ]

ความคิดเห็นที่ 16 พอเดินเข้าไปหน่อยก็เจอซากุระที่ไม่มีใบเขียวแล้วค่ะ แต่ว่าก็ยังไม่เจอที่บานสวยๆค่ะ เพราะส่วนใหญ่ยังเป็นดอกตูมอยู่ เราก็ถ่ายรูปไปเรื่อยเปื่อย อากาศเย็นๆ ฟ้าครึ้มๆไร้แดด ทำให้ซากุระทั้งหมดที่ถ่ายออกมามีแต่สีจืดๆ (แต่เราชอบแฮะ) ต้นไหนมีช่อเตี้ยๆหน่อย ก็ยิงมาโครใส่ซะเลย เป็นคนชอบถ่ายภาพมาโครค่ะ (แต่กล้องป๊อกแป๊กนะคะ เลยได้มาแค่นี้) จากคุณ : hiroko - [ 24 พ.ค. 52 20:18:35 ]

ความคิดเห็นที่ 17 รูปนี้ซูมได้ใกล้หน่อย ชอบมากๆค่ะ จากคุณ : hiroko - [ 24 พ.ค. 52 20:20:04 ]

ความคิดเห็นที่ 18 อีกรูปค่ะ ทริปนี้เราเจอซากุระพันธุ์ยอดฮิตนี้พันธุ์เดียวเลยค่ะ ไม่เจอสีชมพู กับแบบกลีบซ้อนเลย แต่ไม่เป็นไรค่ะ เพราะเราชอบพันธุ์สีขาวกลีบเดี่ยวนี้ที่สุด จากคุณ : hiroko - [ 24 พ.ค. 52 20:22:27 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เดินมาจนถึงทางแยก ก็เจอกลุ่มคนหลากหลายเชื้อชาติมุงกันอยู่ มันคือซากุระที่บานสวยต้นแรกนั่นเองค่ะ มีทั้งฝรั่ง คนจีน มายืนโพสต์ท่าถ่ายรูปกันใหญ่ ใครที่สูงๆหน่อยก็โน้มกิ่งซากุระมาถ่ายรูปคู่ เรียกว่าตรงนั้นฮ็อตมาก ไม่ค่อยมีจังหวะว่างให้ได้ถ่ายรูปเลยค่ะ จากคุณ : hiroko - [ 24 พ.ค. 52 20:24:56 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เราเองก็กดไป 2 - 3 รูปค่ะ แต่สิ่งหนึ่งที่เราตั้งใจในทริปนี้ก็คือจะต้องมีรูปคู่ซากุระให้ได้ก็เลยยืนจดๆ จ้องๆ (หาเหยื่อ) อยู่ตรงนั้น ดูคนอื่นเค้าถ่ายรูปเฮฮากันไป พอดีหันไปเจอนักท่องเที่ยวกลุ่มนึงเรียกให้เด็กหนุ่มญี่ปุ่นคนหนึ่งถ่ายรูปหมู่ให้ พอกลุ่มนั้นถ่ายเสร็จเราก็เสียบทันทีเลยค่ะ " Sumimasen, Onegaishimasu. " (ขอโทษนะคะ รบกวนหน่อยค่ะ) ว่าพร้อมกับยื่นกล้องให้ แต่เพราะประหม่ารึยังไงไม่รู้ค่ะ ระหว่างที่ส่งกล้องกันเกือบทำกล้องตกพื้น แต่พอดีว่าสายกล้องมันคล้องแขนเราอยู่ เลยไม่กระแทกกับอะไรค่ะ เราเองไม่ตกใจหรอกค่ะ (พวกความรู้สึกช้า) แต่เด็กหนุ่มคนนั้นท่าทางตกใจน่าดู เพราะเค้าทำท่าตบอก 2 ที (ใจหายใจคว่ำ) สงสัยยังตกใจอยู่นะคะ รูปที่ได้ออกมาเลยเบลอค่ะ -  -" จากคุณ : hiroko - [ 24 พ.ค. 52 20:32:05 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เสร็จแล้วก็ขอบคุณเค้าไป ถึงจะเบลอแต่ก็เกรงใจไม่กล้าขอถ่ายซ้ำค่ะ ระหว่างนั้นเราก็ยืนจดๆ จ้องๆ หาเหยื่อต่อ แล้วก็มีคุณป้าคนจีนคนนึงมาขอให้ถ่ายรูปให้ค่ะ เราก็เลยถ่ายรูปให้เค้าไป (แต่รู้สึกว่ามันเบลอ) คุณป้าใจดีบอกว่าจะถ่ายให้เราด้วย ก็เลยรีบส่งกล้องให้เค้าทันที  ^  ^ ท่าประจำตัวค่ะ ทีแรกก็กะจะไม่ทำแล้ว แต่ขอซะหน่อยน่ะ จากคุณ : hiroko - [ 24 พ.ค. 52 20:36:33 ]

ความคิดเห็นที่ 22 เสร็จแล้วก็เดินลึกเข้าไปเรื่อยๆ ซากุระส่วนใหญ่ยังบานไม่เต็มที่ เป็นดอกตูมสลับดอกบานซะมาก ต้นไหนที่บานเยอะๆก็จะถูกรุมถ่ายรูปค่ะ เอาซากุระตูมๆ มาฝากค่ะ จากคุณ : hiroko - [ 24 พ.ค. 52 20:39:00 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ด้านข้างมีการขึงเชือก ปูผ้าใบจับจองที่กันแล้ว แต่คนที่มานั่งอยู่จริงๆมีไม่มากเท่าไหร่ จากคุณ : hiroko - [ 24 พ.ค. 52 20:41:14 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เดินไปเจอร้านโซบะ กับทาโกะยากิค่ะ คิดในใจว่าขากลับออกมาจะมาอุดหนุนซะหน่อย แต่สุดท้ายอดกินค่ะ ตอนเดินกลับออกมาไม่เจอซะแล้ว  T  T จากคุณ : hiroko - [ 24 พ.ค. 52 20:42:38 ]

ความคิดเห็นที่ 25 เดินถ่ายรูปไปเรื่อยๆ ค่ะ แล้วก็ได้ยินเสียง "Excuse me" อยู่ 2 - 3 รอบ ชักเอะใจเลยหันไปดู เจอหนุ่มสาวหน้าตาดีคู่หนึ่งเรียกเราอยู่ค่ะ ขอให้เราช่วยถ่ายรูปให้ เราก็เลยถ่ายให้ (รูปสวยซะด้วย) กล้องเค้าดีมากเลยค่ะ โฟกัสตรงหน้าตลอดเลย ส่วนกล้องเรามันชอบไปโฟกัสตรงอื่นตลอด ไม่รู้ทำไม ?? ถ่ายเสร็จก็ "Me too" ตามระเบียบพร้อมกับส่งกล้องให้ ก็เลยได้รูปนี้มาค่ะ จากคุณ : hiroko - [ 24 พ.ค. 52 20:46:47 ]

ความคิดเห็นที่ 26 จากนั้นก็เดินไปเรื่อยๆ ค่ะ จากคุณ : hiroko - [ 24 พ.ค. 52 20:48:12 ]

ความคิดเห็นที่ 27 เก็บบรรยากาศมาฝากค่ะ จากคุณ : hiroko - [ 24 พ.ค. 52 20:49:22 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ระหว่างที่เราไปยืนเล็งซากุระต้นที่บานเยอะอยู่ ก็ได้ยินแว่วเสียงภาษาไทยที่คุ้นหูดังขึ้นใกล้ๆ ค่ะ หันไปก็เจอคุณป้า 2 คนกับผู้ชายหนุ่มๆ คนนึงยืนคุยกันอยู่ เราเลยเดินเข้าไปหาคุณป้าบอกว่าช่วยถ่ายรูปให้หน่อย คุณป้าบอกว่าเอาเลยๆ ให้คนนี้ถ่ายเลย แล้วก็ชี้ไปที่คุณพี่ผู้ชายค่ะ คุณพี่ชายเค้าสะพายกล้องโปรมาเลยค่ะ เค้าถามว่าจะให้ถ่ายกล้องไหน เราเลยตอบว่ากล้องเราสิคะ ถ้าใช้กล้องเค้าแล้วเราจะได้รูปรึเปล่า? คุยไปคุยมา ปรากฏว่าพี่เค้าเป็นหัวหน้าทัวร์ค่ะ พาลูกทัวร์มาชมซากุระ พี่เค้าดีมากๆ พาไปหาโลเกชั่น แล้วยังจัด position ให้อีกต่างหาก จากคุณ : hiroko - [ 24 พ.ค. 52 20:55:05 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ถ่ายไปได้ 2 รูป เกิดเสียดายกล้องโปรขึ้นมา เลยเปลี่ยนใจขอถ่ายกล้องพี่เค้าด้วย ถ่ายเสร็จก็ให้เมลล์ไป พี่เค้าก็ให้เมลล์กับเบอร์โทรมา และบอกว่ารูปจะได้ช้าหน่อยเพราะเค้าต้องไปประเทศอื่นอีก ผ่านไป 1 เดือนครึ่ง ยังไม่ได้รับรูป ... สงสัยพี่เค้าลืมไปแล้วววววว จากคุณ : hiroko - [ 24 พ.ค. 52 20:57:35 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ต้นนี้บานเยอะหน่อยค่ะ แต่ดอกตูมก็ยังเพียบ จากคุณ : hiroko - [ 24 พ.ค. 52 20:59:41 ]

ความคิดเห็นที่ 31 เดินมาจนสุดถนน ก็เจอเจ้าต้นนี้ตระหง่านอยู่ค่ะ ไม่มีใบก็สวยดี เลยถ่ายรูปเก็บเอาไว้ จากคุณ : hiroko - [ 24 พ.ค. 52 21:00:51 ]

ความคิดเห็นที่ 32 พ้นจากถนนมาก็เป็นลานกว้างค่ะ มีคนมุงกันอยู่เป็นวงกลมพร้อมกับเสียงประกาศเป็นภาษาญี่ปุ่น เลยเดินเข้าไปดูบ้างแล้วก็เจอหนุ่มคนนี้ค่ะ จากคุณ : hiroko - [ 24 พ.ค. 52 21:02:32 ]

ความคิดเห็นที่ 33 น้องชายเค้ามาโชว์กายกรรมค่ะ เรียกเสียงฮือฮาได้ดีทีเดียว พี่ป้าน้าอาปรบมือให้กำลังใจกันเพียบ (แต่เงินไม่ค่อยให้นะ) เราว่าคนจะมาโชว์แบบนี้แค่โชว์เก่งไม่ได้นะคะ ต้องคารมดีมีลูกล่อลูกชนด้วยค่ะ โชว์ถึงจะสนุกได้ใจคนดู ระหว่างที่ดูโชว์ไปก็บังเอิญไปสบตากับหนูน้อยคนนึง น่ารัก น่าหยิกมาก แก้มงี้ใสอมชมพูเชียว เลยพยายามทำเนียนส่องน้อง (แต่ส่องมากไม่ได้ เดี๋ยวโดนแม่เค้าว่า) แต่โชคไม่เข้าข้าง น้องไม่หันมาอีกเลยค่ะ  T  T เลยได้มาแค่เนี้ย ... จากคุณ : hiroko - [ 24 พ.ค. 52 21:06:06 ]

ความคิดเห็นที่ 34 กองเชียร์เด็กค่ะ Kawaiiiiii จากคุณ : hiroko - [ 24 พ.ค. 52 21:09:11 ]

ความคิดเห็นที่ 35 พอโชว์จบปุ๊บก็วงแตกค่ะ ผู้คนเดินแยกตัวกันไปคนละทิศคนละทาง เราเลยเดินมุ่งหน้าต่อไปอีกเพื่อไปยังจุดหมายต่อไปคือ พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์อุเอโนะ หรือชื่อเต็มๆว่า National Museum of Nature and Science วิวระหว่างทางค่ะ จากคุณ : hiroko - [ 24 พ.ค. 52 21:11:49 ]

ความคิดเห็นที่ 36 เดินมาจนสุดทางเดิน ก็จะเห็นตึกรูปทรงยุโรป (มั้ง) อยู่ด้านขวามือ และมีเจ้าตัวนี้อยู่ด้านหน้า เป็นอันว่ามาถึงแล้วค่ะ จากคุณ : hiroko - [ 24 พ.ค. 52 21:13:08 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ตัวตึกค่ะ จากคุณ : hiroko - [ 24 พ.ค. 52 21:14:06 ]

ความคิดเห็นที่ 38 แต่ทางเข้าไม่ได้อยู่ตรงนี้นะคะ ต้องเดินต่อไปอีกหน่อยแล้วจะมีบันไดลงไปชั้นล่าง ทางเข้าอยู่ตรงชั้นล่างค่ะ เจอแบบนี้มา 2 ที่แล้วค่ะ คือชอบมีบันไดหลอกให้นึกว่าเป็นทางเข้า แต่จริงๆ ไม่ใช่ ต้องไปเข้าข้างล่าง ... ไม่รู้ที่อื่นเป็นแบบนี้อีกไหม เพราะเราเข้าพิพิธภัณฑ์แค่ 2 ที่นี้เองค่ะ ตรงทางลงมีหัวรถไฟด้วย จากคุณ : hiroko - [ 24 พ.ค. 52 21:16:06 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ในนี้มีพ่อแม่พาลูกมาเที่ยวกันเพียบเลยค่ะ มีตู้ให้หยอดเหรียญซื้อบัตรด้วยนะคะ ราคาค่าเข้าชม 600 yen ค่ะ แต่เรามีบัตรลดเลยจ่ายแค่ 500 yen คราวนี้คุณเจ้าหน้าที่ดูจะคุ้นเคยกับบัตรลดแบบนี้นะคะ สงสัยมีคนเอามาใช้เยอะค่ะ พิพิธภัณฑ์นี้จะจัดแสดงเป็น 2 ส่วนค่ะ คือส่วนที่เป็น Permanent คือนิทรรศการที่จัดไว้ตลอด กับอีกส่วนหนึ่งเป็นนิทรรศการที่หมุนเวียนเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ค่ะ ตอนที่เราไปเป็นนิทรรศการเกี่ยวกับไดโนเสาร์ค่ะ บัตร 500 yen ของเราเข้าชมได้เฉพาะส่วนที่เป็น Permanent เท่านั้น แต่แค่นี้ก็เดินไม่ไหวแล้วค่ะ เพราะเยอะมากๆ ตั๋ว + โบรชัวร์ค่ะ หยิบได้จากข้างในพิพิธภัณฑ์ค่ะ จากคุณ : hiroko - [ 24 พ.ค. 52 21:22:20 ]

ความคิดเห็นที่ 40 เดินขึ้นไปห้องแรกก็เจอแพนด้าสต๊าฟค่ะ มีน้องหลิงหลิงที่เคยอยู่ที่สวนสัตว์อุเอโนะด้วยค่ะ จากคุณ : hiroko - [ 24 พ.ค. 52 21:27:12 ]

ความคิดเห็นที่ 41 น้องหลิงหลิงค่ะ จากคุณ : hiroko - [ 24 พ.ค. 52 21:28:00 ]

ความคิดเห็นที่ 42 โครงกระดูกแพนด้าค่ะ เคยเห็นกันมั้ยคะ จากคุณ : hiroko - [ 24 พ.ค. 52 21:28:56 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ห้องต่อมาเป็นนิทรรศการพืชริวกิวค่ะ ริวกิวคือชื่อชนเผ่าพื้นเมืองของเกาะโอกินาว่า พืชพวกนี้ก็คงเป็นพืชที่พบบนเกาะโอกินาว่านั่นเอง เราเดินผ่านๆ ค่ะ เพราะอ่านไม่ออก จากคุณ : hiroko - [ 24 พ.ค. 52 21:31:01 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ต่อมาเป็นห้องดาราศาสตร์ค่ะ กล้องดูดาวอันเบ้อเริ่ม จากคุณ : hiroko - [ 24 พ.ค. 52 21:32:26 ]

ความคิดเห็นที่ 45 สุริยุปราคาค่ะ จากคุณ : hiroko - [ 24 พ.ค. 52 21:33:12 ]

ความคิดเห็นที่ 46 เจอนาฬิกาอันนี้แปลกดี ป้ายบอกว่าเป็นนาฬิกาสำหรับคนตาบอด มีอักษรบลายอยู่บนตัวเลขด้วย แต่ไม่รู้ว่าดูยังไงค่ะ ดูไม่เป็น จากคุณ : hiroko - [ 24 พ.ค. 52 21:34:47 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ต่อมาเป็นห้องแมลงค่ะ มีด้วงตัวใหญ่ๆมาแสดงเพียบ แต่ที่เราชอบก็คือเค้าคำนึงถึงคนตาบอดด้วย ที่ป้ายก็เลยมีเวอร์ชั่นอักษรบลายด์ด้วยค่ะ แต่พี่เราเค้าบอกว่า ถึงจะอ่านตรงนั้นออกก็ไม่เห็นอยู่ดีว่ามันหน้าตายังไง อืมม์ ... ก็จริงของเค้าแฮะ จากคุณ : hiroko - [ 24 พ.ค. 52 21:36:46 ]

ความคิดเห็นที่ 48 เอาน่า ถึงจะไม่ได้เห็นหน้าตาแต่ก็มีเสียงให้ฟังนะคะ จากคุณ : hiroko - [ 24 พ.ค. 52 21:37:40 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ถัดมาเป็นสัตว์สต๊าฟอีกค่ะ เริ่มจากคุณกวางทั้งหลาย จากคุณ : hiroko - [ 24 พ.ค. 52 21:39:01 ]

ความคิดเห็นที่ 50 นกค่ะ เค้าจัดแสดงได้น่าชมมากเลยค่ะ สวยงาม ตระการตา จากคุณ : hiroko - [ 24 พ.ค. 52 21:39:58 ]

ความคิดเห็นที่ 51 คุณปูจิ๋วค่ะ น่ารักมากๆ จากคุณ : hiroko - [ 24 พ.ค. 52 21:41:00 ]

ความคิดเห็นที่ 52 กลัวไม่เชื่อว่าจิ๋ว เลยถ่ายคู่นิ้วก้อยไว้เปรียบเทียบ ที่อยู่บนแท่นตรงมุมขวาล่างนั่นก็ปูนะคะ จิ๊ว...จิ๋ว ค่ะ จากคุณ : hiroko - [ 24 พ.ค. 52 21:42:52 ]

ความคิดเห็นที่ 53 Close up ค่ะ สวยจังเนอะ จากคุณ : hiroko - [ 24 พ.ค. 52 21:43:54 ]

ความคิดเห็นที่ 54 เดินทะลุออกมานอกห้อง มองขึ้นไปเห็นเพดานพิพิธภัณฑ์ สวยจังเลยค่ะ นี่ขนาดเพดานพิพิธภัณฑ์นะเนี่ย .... จากคุณ : hiroko - [ 24 พ.ค. 52 21:45:25 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ห้องต่อไปค่ะ คราวนี้มาถึงเรื่องราวของมนุษย์บ้างแล้ว เดินเข้าไปเจออันนี้ก่อนเลย มันคืออะไร ทายถูกมั้ยคะ จากคุณ : hiroko - [ 24 พ.ค. 52 21:46:40 ]

ความคิดเห็นที่ 56 เฉลย ... แผนภูมิประชากรญี่ปุ่นในแต่ละช่วงเวลาค่ะ ทำซะสวยเชียว ชอบมาก อยากได้มาไว้ที่บ้านจังค่ะ  ^  ^ จากคุณ : hiroko - [ 24 พ.ค. 52 21:48:23 ]

ความคิดเห็นที่ 57 ห้องนี้เป็นนิทรรศการเรื่องมนุษย์ยุคหินค่ะ ก็มีเล่าความเป็นมาว่ามนุษย์สมัยโบราณเดินทางยังไง หากินยังไง (แน่นอน เราอ่านไม่ออก) เลยเดินดูผ่านๆ อีกตามเคย อาวุธของมนุษย์โบราณค่ะ จากคุณ : hiroko - [ 24 พ.ค. 52 21:50:28 ]

ความคิดเห็นที่ 58 ถัดไปอีกห้อง กลับมาที่ ต้นไม้ ดิน แมลง อีกแล้ว ห้องนี้ก็จัดแสดงได้ดีมากๆ ค่ะ อย่างอันนี้ ชอบตรงที่เค้าคิดวิธีจัดโชว์ใบสนกับลูกสนได้เข้าท่าดีค่ะ โดยมีแผ่นพลาสติกแบนกดใบสนไว้ แล้วตรงลูกสนก็เจาะเป็นช่องวงกลมให้ลูกสนโผล่ออกมาค่ะ ไม่รู้ที่อื่นก็ทำแบบนี้มั้ย แต่เราว่าคนคิดเค้าฉลาดดีค่ะ จากคุณ : hiroko - [ 24 พ.ค. 52 21:54:15 ]

ความคิดเห็นที่ 59 อันนี้ยิ่งชอบมาก เป็นการจัดแสดงเรื่องต้นไม้กับดินค่ะ โดยด้านบนเค้าจะแสดงว่าพื้นที่ไหนจะพบต้นไม้อะไร ส่วนด้านล่างก็มีดินแต่ละแบบให้ดูกันจะๆ เลย กิ๊บเก๋ เท่ห์มาก จากคุณ : hiroko - [ 24 พ.ค. 52 21:56:16 ]

ความคิดเห็นที่ 60 ผีเสื้อสต๊าฟค่ะ สวยจัง จากคุณ : hiroko - [ 24 พ.ค. 52 21:57:16 ]

ความคิดเห็นที่ 61 สัตว์ป่าค่ะ จากคุณ : hiroko - [ 24 พ.ค. 52 21:58:18 ]

ความคิดเห็นที่ 62 แล้วก็มาถึงตู้สัตว์ทะเลค่ะ อลังการงานสร้างมากๆ ตู้นี้ของจริงเจิดจ้า สว่างไสว สวยเป็นที่สุดค่ะ อยากให้เมืองไทยมีพิพิธภัณฑ์สวยๆ แบบนี้บ้าง ดูเพลินไปเลยค่ะ จากคุณ : hiroko - [ 24 พ.ค. 52 21:59:58 ]

ความคิดเห็นที่ 63 ใครชอบกินทาโกะยากิ มาดูตัวเป็นๆซะก่อน เห็นแล้วกินไม่ค่อยลงเลยค่ะ -  -" จากคุณ : hiroko - [ 24 พ.ค. 52 22:01:26 ]

ความคิดเห็นที่ 64 อันนี้ก็เป็นอีกอันที่เราว่าเค้าคิดได้ดีค่ะ เป็นแผนภูมิเรื่องหินที่พบในญี่ปุ่น เค้าก็เอาหินจริงๆ แต่ละชนิดมาทำแผนภูมิซะเลย เห็นและสัมผัสกันจะๆ เลยค่ะ จากคุณ : hiroko - [ 24 พ.ค. 52 22:03:12 ]

ความคิดเห็นที่ 65 ต้นไม้อายุ 1,600 ปี ค่ะ เบ้อเริ่มเลย จากคุณ : hiroko - [ 24 พ.ค. 52 22:04:15 ]

ความคิดเห็นที่ 66 แวะเข้าห้องน้ำหน่อยค่ะ ห้องน้ำที่นี่ สวย สะอาด น่าเข้ามากๆ จากคุณ : hiroko - [ 24 พ.ค. 52 22:07:16 ]

ความคิดเห็นที่ 67 ดูครบทุกห้องแล้วก็ลงบันไดมาชั้นล่างค่ะ มาเจอห้องนี้เขียนว่า Theater 360 องศา เราก็ไม่รู้หรอกว่ามันคืออะไร แต่เห็นคนเค้าเดินเข้าไปกันก็เลยเดินเข้าไปบ้าง พอเดินเข้าไปก็เจอคนต่อคิวกันอยู่ ระหว่างเข้าคิวก็มีเจ้าหน้าที่มาเดินนับคนค่ะ รออยู่ประมาณ 15 นาทีก็ได้เดินเข้าไปชมค่ะ Theater 360 องศา มีลักษณะเป็นลูกบอลกลมๆใหญ่ๆค่ะ พอเดินผ่านประตูไปจะเจอห้องมีแสงสลัวๆ มีราวสะพานให้เกาะ 2 ข้าง พวกคนญี่ปุ่นที่เดินเข้าไปก่อนรีบไปจับจองราวสะพานกันใหญ่ เราก็เลยรีบคว้าไว้บ้างค่ะ ทีแรกนึกว่าสะพานจะเลื่อนไปเรื่อยๆให้เราชมหนังจาก 2 ข้างทางแต่จริงๆ ไม่ใช่เลย พอคนยืนเรียบร้อย เจ้าหน้าที่ก็ประกาศอะไรไม่รู้ ฟังไม่ออก แล้วไฟก็ปิดมืดลง พร้อมๆกับความตื่นตาที่กำลังเริ่มขึ้น มีเสียงน้ำ แล้วก็มีปลาแหวกว่ายไปมารอบๆ ตัวเราค่ะ ปลาตัวใหญ่ว่ายโฉบไปมา แล้วก็ตัดมาเป็นนกบิน  จากนกบินก็กลายเป็นสัตว์ป่า มีช้าง มีสิงโตกระโจนไปมา โดนเราต้องคอยหันไปหันมา เพราะโรงหนังนี้เป็นแบบ 360 องศาค่ะ ไม่รู้ว่าอะไรจะโผล่มาตรงไหน นอกจากจะตื่นตาตื่นใจกับภาพที่เห็นแล้ว ยังมีระบบสั่นด้วยนะคะ น่าจะเหมือนกับหนัง 4 มิติ (แต่เราไม่เคยดู) เวลานกโฉบเราก็จะรู้สึกเสียวท้องไปด้วยเลยค่ะ ราวสะพานจึงมีไว้ให้ยึดตอนนี้นี่เอง จบจากเรื่องสัตว์โลกแล้ว ก็ต่อด้วยเรื่องไดโนเสาร์ค่ะ โดยมันจะเหมือนเราไปแอบส่องไดโนเสาร์ค่ะ มีไดโนเสาร์หลายพันธุ์ให้เห็น บ้างก็กินอาหาร บ้างก็ต่อสู้กัน แล้วเรื่องราวก็จบลงด้วยอุกาบาตยักษ์พุ่งชนโลก แล้วไดโนเสาร์ก็สูญพันธุ์ในที่สุด หนังจบไปแล้วแบบที่เราไม่อยากให้จบค่ะ อยากขอดูต่ออีกสักรอบจัง ใครที่ไปพิพิธภัณฑ์นี้ห้ามพลาด Theater 360 องศา นะคะ Recomment มากๆค่ะ แค่เข้าไปชมอันนี้อันเดียวก็คุ้มเงิน 500 yen แล้วค่ะ กลับบ้านมาเปิดโบรชัวร์ดูถึงได้รู้ว่ายังมีหนังเรื่องอื่นให้ชมอีกค่ะ โดยเค้าจะจัดให้ชม 2 เรื่องต่อ 2 เดือน ดังนั้นถ้าไปในช่วงอื่นก็จะได้ชมภาพยนตร์เรื่องอื่นๆอีกค่ะ เรื่องที่เราได้ชมคือเรื่อง The Incandescence of Life (แปลว่าอะไรอ่ะ) กับ Deep Time into a Dinosaurian World ค่ะ จากคุณ : hiroko - [ 24 พ.ค. 52 22:22:38 ]

ความคิดเห็นที่ 68 ยังไม่จบนะคะ แต่ไปอาบน้ำก่อนค่ะ  :) จากคุณ : hiroko - [ 24 พ.ค. 52 22:25:58 ]

ความคิดเห็นที่ 69 รอชมค่ะ จากคุณ : โลกนี้ยังคงน่ารักเสมอ - [ 24 พ.ค. 52 22:37:04 ]

ความคิดเห็นที่ 70 ต่อค่ะ มีเวลาอีก 45 นาที ++++++++++++++++++++++++++++++++++ พอเดินออกมาจาก Theater 360 องศาก็เจอ Stamp ค่ะ ที่นี่มีกระดาษให้ด้วยเป็นกระดาษ A4 แล้วก็มีเขียนอะไรบางอย่างไว้ อ่านดูเหมือนจะเป็น Stamp Rally ค่ะ แต่ไม่รู้ว่าที่เหลือต้องไปตามเก็บที่ไหนบ้าง แล้วเก็บครบแล้วเอาไปแลกอะไรได้รึเปล่าก็ไม่รู้ค่ะ พยายามปั๊ม 2 ครั้ง ด้านซ้ายก็ยังไม่ติดสีสักทีค่ะ จากคุณ : hiroko - [ 24 พ.ค. 52 23:28:09 ]

ความคิดเห็นที่ 71 เดินขาลากออกมาจากตึกค่ะ ตอนนี้ปวดน่องมากๆ ทีแรกนึกว่าชมพิพิธภัณฑ์หมดแล้ว ที่ไหนได้ยังมีอีกตึกนึงค่ะ อยู่ข้างๆ กัน พอขึ้นบันไดเลื่อนไปก็เจอห้องทดลองวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กค่ะ มีอุปกรณ์ทดลองวิทยาศาสตร์ให้เล่นเพียบ เด็กๆ สนุกกันใหญ่เลยค่ะ อุปกรณ์ก็ใช้ได้บ้าง เสียบ้าง ปิดซ่อมแซมบ้าง อันนี้เป็นการทดลองเรื่องการผสมแสงสีค่ะ จะมีเครื่องฉายแสงอยู่ 3 ตัว ตัวละ 1 สี พอหมุนที่กล้องแสงสีก็จะเลื่อนตำแหน่งค่ะ อยากลองเอาสีอะไรผสมกับอะไรก็ลองได้เลยค่ะ แต่ตอนที่เราไปสีแดงมันเสียอยู่ค่ะ จากคุณ : hiroko - [ 24 พ.ค. 52 23:33:29 ]

ความคิดเห็นที่ 72 กระจกนูน + กระจกเว้า ค่ะ จากคุณ : hiroko - [ 24 พ.ค. 52 23:35:06 ]

ความคิดเห็นที่ 73 บังคับแตงโมให้ลอดห่วงค่ะ อันนี้เค้าใช้แรงอะไรเราก็ไม่รู้เหมือนกัน จากคุณ : hiroko - [ 24 พ.ค. 52 23:36:06 ]

ความคิดเห็นที่ 74 หมุนๆๆๆ ให้หลอดไฟติดค่ะ น้องคนนี้เค้าหมุนมันส์มาก พวกคุณแม่ก็เชียร์กันใหญ่ บรรยากาศน่ารักมากเลยค่ะ จากคุณ : hiroko - [ 24 พ.ค. 52 23:37:13 ]

ความคิดเห็นที่ 75 ในห้องนั้นยังมีอะไรให้เล่นอีกเยอะเลย แต่ไม่มีอันไหนว่างค่ะ (โดนเด็กจองหมด -  -" ) ห้องถัดไป อลังการงานสร้างอีกแล้วกับบรรดากองทัพสัตว์สต๊าฟค่ะ จากคุณ : hiroko - [ 24 พ.ค. 52 23:39:10 ]

ความคิดเห็นที่ 76 ตัวนี้ตัวอะไร ไม่เคยเห็น เขี้ยวน่ารักเชียวค่ะ จากคุณ : hiroko - [ 24 พ.ค. 52 23:39:57 ]

ความคิดเห็นที่ 77 โครงกระดูกแมมมอธค่ะ จากคุณ : hiroko - [ 24 พ.ค. 52 23:40:43 ]

ความคิดเห็นที่ 78 นอกจากนี้ก็ยังมีอีกหลายห้องค่ะ แต่ก็จะเริ่มซ้ำๆ กัน และไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นแล้ว เราเลยเดินผ่านๆ แล้วออกดีกว่า เพราะขาชักจะไม่ไหวแล้วค่ะ ตอนเดินออกมามีร้านอาหารค่ะ แต่เห็นคุณพ่อแม่ลูกนั่งกินข้าวปั้นที่เตรียมมาเองกันที่ระเบียงเพียบ ส่วนเราก็เดินหิ้วท้องออกไปหาทาโกะยากิที่เล็งไว้ ระหว่างที่เดินออกมา เจอการแสดงอีกแล้ว คราวนี้เป็นเจ้าชายเคนดามะค่ะ เค้ามาโชว์เคนดามะผสมกังฟู มีการเรียกเด็กมาร่วมแสดงด้วย น่ารักดี ในรูปจะเห็นว่าเค้าถือเคนดามะ 2 อัน อันนึงใหญ่เบ้ง อีกอันเล็กจิ๋ว อยากได้ทั้งคู่เลย มีขายที่ไหนบ้างคะเนี่ย .... แก้ไขเมื่อ 24 พ.ค. 52 23:46:07 จากคุณ : hiroko - [ 24 พ.ค. 52 23:44:58 ]

ความคิดเห็นที่ 79 หยิบกล้องขึ้นมาถ่ายรูปแล้วก็เห็นว่ามันเตือนแบตเหลือขีดสุดท้ายแล้ว ... แย่แล้วค่ะ เราชะล่าใจเองเพราะเมื่อคืนกลับที่พักแล้วเห็นว่าแบตยังไม่ลดสักขีดเลยไม่ได้ชาร์ต และเมื่อเช้าก็ไม่ได้พกแบตสำรองมาด้วยทั้งๆที่แบตมันก็ก้อนเล็กนิดเดียว เพราะกล้องแบตหมดนี่เอง ทำให้เราต้องเปลี่ยนแผนที่เหลือวันนี้ทั้งหมดค่ะ นั่งดูเจ้าชายเคนดามะได้ไม่จบเพราะหิวมาก และใช้เวลาที่นี่มากเกินไปแล้ว เลยลุกออกมาก่อนค่ะ แต่พอมาถึงก็พบว่าทาโกะยากิและโซบะเก็บร้านไปแล้ว เลยต้องเดินท้องกิ่วออกมา แต่แล้วสายตาก็เหลือบไปเห็นแผงขายอาหารเป็นแถบอยู่ด้านล่างของทางออกอีกด้านหนึ่งพอดี เหมือนจะเป็นบริเวณหน้าศาลเจ้าค่ะ เลยเดินไปแบบไม่ต้องคิดเลย มีร้านอาหารเหมือนเวลามีงานวัดญี่ปุ่นเลยค่ะ มีโซบะ ทาโกะยากิ โอโคโนมิยากิ ข้าวโพดย่าง มันเผา มันฝรั่งทอด ฯลฯ อยากกินไปซะทุกอย่าง เราเลือกกินทาโกะยากิค่ะ 7 ลูก 500 yen ซื้อแล้วก็เดินหาที่นั่งกิน เดินไปจนสุดร้านขายของจะมีศาลาริมน้ำค่ะ เลยไปนั่งกินทาโกะพร้อมกับดูเป็ดห่านไป มีนกน้ำตัวใหญ่ๆ บินมายืนใกล้ๆ ด้วย สวยดีค่ะ ทาโกะยากิต้นตำรับ กินแล้วผิดหวังค่ะ จืดชืดมาก ... กินดาโกะที่ Esplanade อร่อยกว่าตั้งเยอะ  -  -" จากคุณ : hiroko - [ 24 พ.ค. 52 23:55:19 ]

ความคิดเห็นที่ 80 กินอิ่มแล้วก็ออกเดินทางต่อค่ะ โดยเราเปลี่ยนแผนไม่ไป ม.โตเกียว กับ โตเกียวโดมแล้ว เพราะตั้งใจว่าจะต้องไปถ่ายรูป 2 ที่นี้ให้ได้ และเราคงไม่ไป 2 หนแน่ เลยเปลียนใจไปเก็บ Asakusa ที่พลาดไปเมื่อวานนี้แทน เพราะ Asakusa อยู่ใกล้ อาจจะมารอบสองวันท้ายๆ ได้อีกค่ะ ระหว่างทางเดินกลับไปที่สถานีรถไฟ เจอต้นซากุระสวยอีกและนี่ก็เป็นรูปสุดท้ายก่อนที่กล้องจะดับไปเพราะไม่มีแบตค่ะ จากคุณ : hiroko - [ 25 พ.ค. 52 00:00:48 ]

ความคิดเห็นที่ 81 จาก Ueno ไป Asakusa เดินทางโดย Subway สาย Ginza เพียง 3 สถานีก็ถึงแล้วค่ะ โดยเราเพิ่งนึกได้ว่าควรจะใช้ Tokyo Metro 2 Days Pass ดีกว่า พลาดไปนิดที่เพิ่งคิดได้ เพราะถ้าคิดได้ตั้งแต่เช้าก็ไม่ต้องเสียค่ารถไฟมา Ueno 160 yen แล้วค่ะ จากคุณ : hiroko - [ 25 พ.ค. 52 00:07:28 ]

ความคิดเห็นที่ 82 มาถึง Asakusa ตอนบ่าย 3 โมงค่ะ แสดงว่าเราใช้เวลาที่ Ueno ตั้ง 5 ชั่วโมงแน่ะ  O _ o เราหาประตู Kaminarimon ไม่เจอค่ะ เพราะเราออกมาแล้วเลี้ยวซ้าย เห็นสะพานพร้อมกับตึกเบียร์ Asahi อันลือชื่อก็คิดว่าใช่แน่ เลยเดินข้ามถนนไป แล้วเดินเลียบแม่น้ำ Sumida ไปเรื่อยๆ จนเดินผ่านที่ขึ้นเรือไปแล้วก็ยังไม่มีวี่แววจะเห็นโคมแดงเลยชักเอะใจว่าจะหลงเลยเดินย้อนกลับมาที่เดิม คราวนี้ไปทางขวาบ้าง แล้วก็เจอป้ายแผนที่บอกสถานที่ท่องเที่ยวในย่านนี้ค่ะ ปรากฏว่าเราไปผิดทางค่ะ จริงๆ ออกจากสถานีแล้วเลี้ยวขวานิดเดียวก็เจอแล้ว โคมแดง   -  -" ถึงกล้องจะแบตหมด แต่ยังมีกล้องมือถือค่ะ พอกล้อมแกล้มไปได้ จากคุณ : hiroko - [ 25 พ.ค. 52 00:12:57 ]

ความคิดเห็นที่ 83 ผ่านประตูไปแล้วก็เจอกับด่านกระชากเงินออกจากกระเป๋าสตางค์ที่ถนน Nakamise ค่ะ เห็นที่ห้อยมือถือแมวเหมียวราคา 250 yen เท่านั้น มาขายที่ไทยตั้ง 200 กว่าบาท กำไรเพียบเลยแฮะ ของที่ระลึกเยอะแยะแต่เราดูเฉยๆ ยังไม่เสียเงินค่ะ ของกินอันลือชื่อก็ไม่ได้ชิมเลยสักอย่างเพราะตอนนี้เรากำลังจุกทาโกะยากิอยู่  -  -"  แต่ก็กิน Soft Cream ไป 1 โคนค่ะ เพราะตั้งใจว่ามาญี่ปุ่นต้องกิน Soft Cream ให้ได้ มาหน้าซากุระก็ต้องกินรสซากุระค่ะ ราคา 300 yen รสชาติก็ ... หวานๆ ค่ะ เลี่ยนๆ หน่อย (สรุปคือไม่ประทับใจอีกล่ะ) ระหว่างที่เดินดูของอยู่ ฝนก็เริ่มพรำค่ะ แล้วก็ตกแรงขึ้น เรายิ้มเลยค่ะ ดีใจว่าพกร่มมาได้ใช้แล้ว ^ ^"  555 ไม่เสียแรงแบกมาทั้งวันนะเนี่ย ก่อนเข้าไปถึงตัววัด จะเจอกระถางธูปขวางอยู่ เราก็เข้าไปเอามือกวักควันธูปเข้าหาตัวเพราะเค้าว่าจะเจอสิ่งดีๆ (ปกติ เราเป็นคนแพ้ควันธูปค่ะ) เจอหนุ่มไทยคนนึงมากวักควันธูปเหมือนกัน กวักนานเชียว ได้ยินเค้าตะโกนบอกเพื่อนว่า "ตรงนี้มันอุ่นดี"  -  -" ขึ้นไปบนตัววัดแล้วก็มองไม่เห็นอะไรทั้งนั้นค่ะ ไม่เห็นว่าเจ้าแม่กวนอิมอยู่ตรงไหน แต่ก็โยนเหรียญ 5 เยนลงกล่องไป (นี่ก็เป็น 1 ในสิ่งที่ต้องทำเมื่อมาญี่ปุ่นค่ะ) แล้วอธิษฐานซะเยอะเชียว อีกอย่างที่อยากทำก็คืออยากเสี่ยงเซียมซีเพื่อที่ว่าจะได้เอาใบเซียมซีที่ไม่ดีไปผูกค่ะ เห็นมานานแล้วอยากทำบ้าง เลยไปหยอด 100 yen เพื่อเสี่ยงเซียมซี เซียมซีที่นี่ไม่ต้องเขย่าค่ะ แค่จับกระบอกคว่ำลงให้ไม้มันไหลออกมาจากรูเป็นพอ (เราว่าไม้อันกลางๆ มันคงไม่ค่อยมีสิทธิ์ออกมานะคะ) เราได้เบอร์ 99 ค่ะ (เยอะสุดเลย) ใบเซียมซีที่นี่มีภาษาอังกฤษให้ที่ด้านหลัง พออ่านความหมายแล้วก็ผิดหวังมากเลยค่ะ เพราะมันเขียนว่า "The best fortune" ดีไปซะทุกเรื่องเลยค่ะ สรุปเลยอดเอาเซียมซีไปผูกเลยค่ะ เสียดายมากๆ จากคุณ : hiroko - [ 25 พ.ค. 52 00:28:29 ]

ความคิดเห็นที่ 84 ไปนอนก่อนนะคะ พรุ่งนี้มาต่อค่ะ จากคุณ : hiroko - [ 25 พ.ค. 52 00:31:00 ]

ความคิดเห็นที่ 85 ตามมาเที่ยวค่ะ......เล่าเรื่องสนุกดีค่ะ สวนอุเอโนะมีวันไหนบ้างที่คนจะน้อยเนี่ย.... ไปถนน Kaminarimon  ไม่เจอเสียงพูดภาษาไทยถือว่าแปลกประหลาดสุดๆ555 คุณ hiroko ที่พักมีช่องทีวีปกติน่ะคะ เพราะเรายังได้ดู maou เลย แต่ละครจะมา 4 ทุ่ม จากคุณ : เจ้าแก้วพิสดาร ณ เมืองปาย - [ 25 พ.ค. 52 04:55:45 ]

ความคิดเห็นที่ 86 มาตามต่อค่า รีวิวละเอียดดีมากๆเลย จากคุณ : yuki_shimi - [ 25 พ.ค. 52 11:33:34 ]

ความคิดเห็นที่ 87 รูปสวยมากเลยค่ะ  ทาโกะยากิก้อน่ากิน   อยากไปแบ็คแพคปุ่นบ้างจัง.. จากคุณ : KenTakU - [ 25 พ.ค. 52 21:47:25 ]

ความคิดเห็นที่ 88 เสี่ยงเซียมซีเสร็จแล้วก็เดินไปเดินมาค่ะ เห็นศาลเจ้า Asakusa อยู่ด้านข้างเลยเดินออกไปดู ศาลเจ้า Asakusa เล็กมาก และเงียบมาก ไม่มีคนเลย เราเห็นซากุระต้นนึงสวยดี และต้นเตี้ยมาก เลยเดินไปใช้มือถือถ่ายรูปตัวเองกับดอกซากุระ ถ่ายได้ 2 รูป ก็มีโอบ้าจังขี่จักรยานผ่านมา โอบ้าจังคงเวทนาสาวน้อยจากแดนไกลไม่มีเพื่อนจนต้องยืนถ่ายรูปตัวเอง เลยอาสาจะถ่ายให้ เราก็ไม่ปล่อยให้โอบ้าจังเก้อค่ะ รีบเดินเข้าไปยื่นกล้องให้เลย สงสัยโอบ้าจังจะไม่เคยถ่ายกล้องมือถือนะคะ เพราะเห็นเค้าหันหน้าจอมาทางเรา และหันเลนส์กล้องเข้าหาตัวเองค่ะ  ^  ^" เราเลยต้องเข้าไปหันให้ถูกทิศ คราวนี้โอบ้าจังถ่ายสำเร็จค่ะ แต่รูปเป็นแบบนี้ แก้ไขเมื่อ 25 พ.ค. 52 22:00:44 จากคุณ : hiroko - [ 25 พ.ค. 52 21:59:29 ]

ความคิดเห็นที่ 89 เอิ่ม.... มองแทบไม่เห็นซากุระเลยนะคะนั่น -  -" เลยขอให้โอบ้าจังถ่ายให้ใหม่ค่ะ จะบอกให้ถ่ายสูงๆหน่อยก็ไม่รู้ต้องพูดว่าอะไร เลยทำแขนเฉียงๆขึ้นฟ้าแทน โอบ้าจังก็เข้าใจค่ะ ถ่ายแก้มือออกมาดีกว่าเดิม จากคุณ : hiroko - [ 25 พ.ค. 52 22:02:45 ]

ความคิดเห็นที่ 90 ลืมรูปค่ะ มือไวไปนิด จากคุณ : hiroko - [ 25 พ.ค. 52 22:03:31 ]

ความคิดเห็นที่ 91 อาริงาโตะโอบ้าจังเสร็จก็เดินกลับออกมาค่ะ ตอนนี้ฝนหยุดตกแล้ว แวะร้านขายของที่ระลึกอีกครั้ง คราวนี้ได้ของติดไม้ติดมือมาแล้วค่ะ เป็นโปสการ์ดสำหรับส่งกลับไทยให้ตัวเองกับพี่ชาย เลือกแบบถูกสุดเลย ใบละ 90 yen เท่านั้นเอง จากคุณ : hiroko - [ 25 พ.ค. 52 22:05:49 ]

ความคิดเห็นที่ 92 แล้วก็ได้อันนี้มาค่ะ เป็นสติ๊กเกอร์กระดาษที่สวยมากๆ สวยจนไม่กล้าใช้เลยค่ะ จากคุณ : hiroko - [ 25 พ.ค. 52 22:08:22 ]

ความคิดเห็นที่ 93 ช้อปเสร็จก็กลับไปที่ Ueno ค่ะ เจอร้านขายยาในสถานีเลยแวะเข้าไปหาแผ่นแปะขาแก้ปวดเมื่อยแบบที่เคยซื้อจากร้าน Daiso แต่หาไม่เจอ เจอแต่แบบเป็นกล่อง 1 กล่องมี 24 ชิ้น ราคาเกือบ 800 yen (ใช้ครั้งละ 6 ชิ้นค่ะ แปะใต้ฝ่าเท้า แปะข้อเท้า และน่อง) พอแปะแล้วก็จะเย็นๆ แต่ตื่นมาไม่ค่อยหายปวดเท่าไหร่นะค่ะ แต่ก็ดีกว่าไม่ได้แปะค่ะ จากคุณ : hiroko - [ 25 พ.ค. 52 22:12:35 ]

ความคิดเห็นที่ 94 โปรแกรมต่อไปคือเดินตลาด Ameyoko ค่ะ พอออกจากสถานีมาก็เดินเลี้ยวขวาไป เอ๊ะ ทำไมไม่เจอสักที สงสัยจะหลงอีกแล้ว   -  -" เลยไปถามคุณพี่สาวที่ยืนอยู่หน้าห้างค่ะ คุณพี่สาวตอบอะไรไม่รู้ยาวๆ ฟังออกแค่ "hidari magatte..." (เลี้ยวซ้าย) ก็เลยเดินกลับมาแล้วก็เจอ ที่แท้มันอยู่ติดกับสถานีเลย แล้วเมื่อเช้านี้เราก็เห็นแล้วด้วย (แต่ดันไม่รู้ว่านี่แหล่ะคืออาเมโยโกะซะงั้น ) ในตลาดก็มีขายสารพัดทั้งของสด ของแห้ง เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า ข้าวของเครื่องใช้ เราก็ดูแค่ผ่านๆค่ะ เจอร้าน Matsumoto Kiyoshi ด้วยเลยแวะเข้าไปดูแต่ก็ไม่ได้อะไรออกมา (เจอหนุ่มสาวชาวไทยด้วยค่ะ) จะหาอะไรกินสักหน่อยก็ไม่เจอร้านที่เข้าท่า บางร้านก็คนเยอะ บางร้านก็ไม่อยากกิน ท้องก็หิว ขาก็ปวด ขากลับแวะซื้อสตรอเบอรี่ (อีก 1 ภารกิจของทริปนี้) มากิน 1 pack เป็นแบบขนาดธรรมดาค่ะ ไม่ใช่สตรอเบอรี่ยักษ์ สตรอเบอรี่หวานดีค่ะ ชื่นใจ กินแล้วไม่เข็ดฟัน จากคุณ : hiroko - [ 25 พ.ค. 52 22:21:09 ]

ความคิดเห็นที่ 95 กลับออกมาสุดซอย เลยเดินต่อเผื่อหาอะไรกิน แต่พอดีไปเจอร้านของเล่น Yamashiroya ซะก่อน เลยขึ้นไปทำอีก 1 ภารกิจ นั่นคือการหาซื้อตุ๊กตาแมว น่ารักๆ สำหรับเป็นไกด์ทัวร์ในทริปนี้ค่ะ แต่เดินดูจนทั่วแล้วไม่เจอแมวที่ถูกใจ มีแต่ตุ๊กตากบตัวแบนๆ กับตุ๊กตานกฮูกสีทองที่เข้าตา และราคาโอเค ยืนชั่งใจอยู่นานว่าจะเอาตัวไหนดี แต่พอนึกถึงการพกพา และการออกท่าทางแล้ว ก็ได้น้อง ฟูโมะ ตัวนี้มาค่ะ ชื่อ : ฟูโมะ ฟูโมะ ชนิด : กบ ราคา : 609 yen หลังจากทำความรู้จักกันแล้ว เราก็ตัวติดกัน ไปไหนไปด้วย ทุกวันจนจบทริปเลยค่ะ จากคุณ : hiroko - [ 25 พ.ค. 52 22:27:13 ]

ความคิดเห็นที่ 96 ตอนนี้หิวมากเลยค่ะ เลยเดินเข้าไปหาอะไรกินในสถานีอุเอโนะอันกว้างใหญ่ แต่ก็หาอะไรกินไม่ได้เพราะบางร้านก็คนเยอะต้องรอคิว บางร้านน่าสนใจแต่มองเข้าไปเจอแต่ลุงซารารี่แมนทั้งร้าน บางร้านก็แพงไป บางร้านไม่ใช่อาหารญี่ปุ่น (เลือกมากอ่ะ) เจอร้านโคคาด้วยค่ะ แต่ขายผัดกระเพราจานละ 300 บาทเลยกินไม่ลง สุดท้ายเลยหิ้วท้องกลับมาที่ Minami-Senju คราวนี้ลองออกด้านประตูทิศเหนือบ้างค่ะเผื่อมีอะไรกิน พอออกมาปุ๊บก็เจอ Mcdonald ทันที เลยตัดสินใจฝากท้องคืนนี้ไว้กับคุณแมคฯ ค่ะ (แล้วมันอาหารญี่ปุ่นตรงไหน) ทีแรกอยากกินไก่ แต่เข้าไปแล้วไม่เจอ (มีแต่ที่ไทยล่ะมั้ง ที่แมคขายไก่ด้วย) เลยสั่งชุดแฮมเบอเกอร์ + เฟรนช์ฟราย + โค้ก มากิน ที่นี่ไม่มีซอสให้กดเหมือนที่เมืองไทยค่ะ เลยกินเฟรนซ์ฟรายไปแบบไม่อร่อยเท่าที่ควร (กลับมาแล้วถึงรู้ว่ามีให้ขอได้ ใครไปอย่าลืมขอกันนะคะ) แมคที่นี่คนกินต้องทิ้งขยะเองค่ะ ไม่มีพนักงานมาเก็บถาดให้ เรานั่งเหล่ถังขยะแล้วก็เห็นว่ามันไม่มีช่องทิ้งเศษอาหาร !!! มองดูคนอื่นที่เอาถาดมาเท ทุกคนก็กินหมดกันหมด !!! เราเลยต้องนั่งกินเฟรนช์ฟรายจนหมดค่ะ (ทรมานจริง) ส่วนแฮมเบอร์เกอร์เก็บกลับที่พักไว้เป็นอาหารเช้าพรุ่งนี้ พอทิ้งขยะแล้วก็นั่งเขียนบันทึกเกี่ยวกับถังขยะค่ะ (เพื่อ ??) ถังขยะในแมคฯ มี 2 ช่อง ช่องแรกให้ทิ้งพวกกระดาษ เช่น แก้ว กับกล่องมันฝรั่ง อีกช่องไว้ทิ้งพวกพลาสติก เช่น ฝาแก้ว หลอด ฯลฯ ส่วนด้านบนมีกะละมังให้เทน้ำแข็งค่ะ ไม่มีที่ทิ้งเศษอาหาร แต่เราคิดว่ายังไงๆมันต้องมีคนที่กินไม่หมดบ้างล่ะเลยนั่งสังเกตต่อไป แล้วก็ได้เห็นว่าคนอื่นๆเค้ากวาดทุกอย่างลงช่องกระดาษกันหมด (ซึ่งน่าจะรวมถึงอาหารที่กินไม่หมดด้วย) แล้วแยกแค่ฝาแก้วมาใส่ช่องพลาสติกค่ะ เราเลยเสียเวลาในร้านนี้นานมาก เพราะมัวแต่สังเกตถังขยะค่ะ !!! ข้างๆแมคโดนัลด์มีซุปเปอร์มาร์เก็ตค่ะ (คนญี่ปุ่นเรียกซุปป่า) เลยเข้าไปเดินหาซื้อซอสมะเขือเทศขนาดพกพา เอาไว้กินกับแฮมเบอร์เกอร์วันพรุ่งนี้ แล้วก็เผื่อซื้อไส้กรอกมากินในมื้ออื่นๆ ด้วยค่ะ แต่มันไม่มีแบบขวดเล็ก เลยได้แบบซองมาแทน ผลิตภัณฑ์ : ซอสมะเขือเทศชนิดซอง ขนาดบรรจุ : 10 ซอง ยี่ห้อ : KAGOME ราคา : 140 yen หลังจากกินกับแฮมเบอร์เกอร์ไป 1 ซองแล้วก็ไม่มีโอกาสได้กินอีกเลยค่ะ แก้ไขเมื่อ 25 พ.ค. 52 22:53:16 จากคุณ : hiroko - [ 25 พ.ค. 52 22:51:16 ]

ความคิดเห็นที่ 97 กลับถึงที่พัก ปวดขาระบมมาก พออาบน้ำแล้วก็รีบแปะแผ่นแก้ปวดเลยค่ะ ทั้งเหนื่อย ทั้งง่วง เลยนอนหลับไปโดยที่ยังไม่ได้ปรับแพลนของวันพรุ่งนี้เลยค่ะ ค่าใช้จ่ายวันนี้ ค่าเข้าชมสถานที่ (+ จ่ายล่วงหน้า)         1,500 yen ค่าเดินทาง                                         160 yen ค่ากิน                                             1,978 yen ของเล่น ของที่ระลึก ของใช้                1,797 yen จิปาถะ                                              345 yen รวม                                                5,780 yen เงินไทย x 0.37 ค่ะ ++++++++++++++++++++++++++++++++++++ จบวันที่ 2 แล้วค่ะ พรุ่งนี้ไปสถานที่ยอดฮิต วังอิมพีเรียล -> Ginza -> roppongi Hills -> Tokyo Tower ค่ะ กับบรรยากาศสายลมกรรโชกที่โตเกียวค่ะ Oyasuminasai !! จากคุณ : hiroko - [ 25 พ.ค. 52 23:03:55 ]

ความคิดเห็นที่ 98 ตามไปเที่ยวต่อค้าบบบบบบบบบบบ จากคุณ : bcc155 - [ 26 พ.ค. 52 11:03:35 ]

ความคิดเห็นที่ 99 ตามไปด้วยคนค่ะ รีวิวอ่านสนุกจังเลย ^^ จากคุณ : DaRia - [ 26 พ.ค. 52 18:39:35 ]

ความคิดเห็นที่ 100 นีกว่าจะไม่ได้อ่านภาคต่อซะแล้วววววววววววว จากคุณ : PUFF' FiSH - [ 26 พ.ค. 52 22:41:10 ]

ความคิดเห็นที่ 101 เดินทางต่อวันที่ 3 กันค่ะ จากคุณ : hiroko - [ 31 พ.ค. 52 12:18:38 ]