ความคิดเห็นที่ 1 มีคนให้ข้อเสนอแนะที่ดีมา เพื่อจะให้อ่านกันได้ไหลลื่นไม่มีสะดุด เลยอยากขอความร่วมมือ เฉพาะกับกระทู้นี้(เท่านั้น) ซักเล็กน้อย รบกวนด้วยครับ 1. ทุกท่านสามารถปาด ทักทาย และแสดงความเห็นเพิ่มเติมได้ตลอดเวลา ผมขี้เหงาครับ อย่าปล่อยให้รีวิวเงียบ ๆ เลย แค่อย่าปาดด้วยรูปขนาดใหญ่ ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องก็พอ แต่ถ้าเป็นพวกโลโก้ขนาดเล็ก หรือไอคอนดุ๊กดิ๊ก เชิญได้ไม่มีปัญหา 2. ระหว่างผมกำลังรีวิว ทุกท่านทั้งสามารถเสริมข้อมูล แนะนำเพิ่ม แก้ไขข้อมูล หรือแทรกรูปประกอบที่เกี่ยวกับเรื่องที่ผมกำลังเล่าอยู่ได้ทั้งนั้น แต่ถ้าอยากโชว์รูปอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่อง หรือรูปส่วนตัว รบกวนเอาไว้ตอนที่ผมรีวิวจบตอนแล้วนะครับ 3. อ่านไปแล้วงง สงกะสัยอะไรประเด็นไหน สามารถแทรกคำถามได้ตลอดเวลา แต่ถ้าหากสงสัยเรื่องอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกัน หรือจะให้ผมวิจารณ์ทริปของท่านเอง รบกวนถามไปที่หลังบ้าน หรือ e-Mail numaromdee@gmail.com นะ ถ้าผมไม่ติดอู้ซ่ะก่อน จะเอามาตอบให้อีกทีตอนท้ายกระทู้ 4. ระหว่างรีวิวอย่าพึ่งชวนผมคุยนอกเรื่อง เนื่องจากผมอาจตามไปคุยเรื่องที่ถูกชวนไปซ่ะงั้น แบบว่ารักการออกทะเลครับ 5. เมื่อรีวิวจบแล้ว ท่านใดอยากเอาข้อมูลอื่น ทั้งที่เกี่ยวและไม่เกี่ยวมาเสริม หรือ จะร่วมแบ่งปันรูปเด็ดดวง กันให้เฮฮา อื้ออึง ทะลึ่ง ลามก ก็ขอเชิญได้ตามสะดวกเหมือนเป็นกระทู้ของท่านเองเลยเน่อ แต่ถ้ากระทู้ได้รับการอุดหนุนมากมายเหมือนครั้งที่แล้ว และเยอะเกิน 200 คห. ผมขอแตกประเด็นนะ ไม่งั้นกระทู้จะโหลดช้า เห็นใจคนใช้เน็ทความเร็วต่ำ ขอย้ำว่า.. ผมก็ไม่ได้รู้อะไรมากมาย ยังมีอีกหลายเรื่องที่ต้องการผู้เชี่ยวชาญมาช่วยชี้แนะและตบตี เขียนปล่อยของมาตอนนี้ ถือว่ามาแบ่งปันข้อมูลกันอีกซักรอบก็แล้วกัน ใครอยากช่วยอยากเสริมอะไร ยินดีอย่างยิ่งนะครับ ขอบขอบคุณในความร่วมมือมา ณ โอกาสนี้ จากคุณ : NumAromDee - [ 25 พ.ค. 52 09:44:48 ]

ความคิดเห็นที่ 2 คำแนะนำก่อนวางแผนการเดินทาง และการหาข้อมูล เมื่อคิดอยากหัดเที่ยวญี่ปุ่น ให้เริ่มต้นด้วยการถามตัวเองก่อนว่า.. ชอบเที่ยวแบบไหน? ความชอบเป็นกระดูกสันหลังของแผนการเที่ยวทั้งหมด เพราะเราไม่ได้ไปกับทัวร์ที่โปรแกรมกำหนดไว้ตายตัว รู้ชัดตั้งแต่ยังไม่เดินทางว่าจะเจออะไรบ้าง การไปเองก็เหมือนไปกินรวมมิตรที่มีเครื่องเยอะ ๆ นั่นแหละ ถ้าไม่บอกก่อนว่าอยากกินอะไร ให้ตักสุ่มมาให้ อาจกลายเป็นของหวานที่แสนผะอืดผะอมก็ได้นะ ยิ่งถ้าไปกันหลายคน การบริหารความชอบให้ดีก่อนเดินทาง จะช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดอาการหน้าหงิกหน้างอ ทะเลาะ งอน วีน ปรี๊ดแตก ชิตกระจายกับคนร่วมทางตอนไปถึงที่นู่นแล้วไม่ได้ดั่งใจได้นะครับ ถ้าคนนึงรักชอบการดูวัดโบราณ แต่อีกคนนึงลมหายใจเป็นคิตตี้ ถ้าไม่คุยกันให้ดีก่อนไป มีกร่อยแน่.. ถ้ายังไม่เคยไป ไม่มีใครในกลุ่มรู้เรื่องญี่ปุ่นเลย หรือยังไม่รู้ตัวว่าชอบแนวไหน.. แล้วจะรู้ได้ไงว่ามีอะไรที่ตรงใจเราบ้าง?? อ่านครับอ่าน ง่ายที่สุดก็เดินเข้าร้านหนังสือ ซื้อหนังสือท่องเที่ยวญี่ปุ่น มาอ่าน อ่าน อ่าน แล้วก็อ่าน อ่านแล้วเอาข้อมูลมาเปรียบเทียบกัน เลือกใช้ตามที่เราชอบ และอย่าใช้ไกด์บุคแค่เล่มเดียว เพราะบางเล่มข้อมูลไม่ครบ บางเล่มก็ไม่ทันสมัย และบางเล่มคนเขียนใส่ผลชูรสยี่ห้ออีโก้ลงไปเพียบ!! อ่านแล้วขนคิงลุก.. เพราะสิ่งที่เค้าชอบ เราอาจไม่ชอบ ส่วนสิ่งที่เค้าไม่ชอบ ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องไม่ชอบไปด้วย.. นี่ครับ! ง่ายกว่านั้นและไม่เสียตังค์ ก็ลองหาอ่านกระทู้รีวิวญี่ปุ่นในพันทิป TKT หรือ ตามบล็อคส่วนตัวทั้งหลาย ญี่ปุ่นเป็นประเทศสุดฮิต มีให้อ่านกันทุกวันจนตาลาย แต่อาจต้องอ่านเอาปริมาณกันซักหน่อย เพราะข้อมูลกระจัดกระจายไม่ได้รวมเป็นหมวดหมู่เหมือนอ่านหนังสือ บางกระทู้ก็ไม่ละเอียดอย่างที่เราอยากรู้ จะดีหน่อยก็ตรงที่หลายกระทู้จะเป็นเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย แบ่งปันประสบการณ์ หรือข้อควรระวังที่หนังสือนำเที่ยวไม่เคยเขียนไว้ ไม่มีอะไรในโลกนี้ ที่ได้มาง่าย ๆ ฟรี ๆ ร้อก.. อยากเที่ยวเอง ต้องเริ่มต้นด้วยความมันของการไล่หาข้อมูลกันจนตาบวม ได้นั่งเปรียบเทียบกันจนดมยา เหมือน ๆ กันทุกคนนั่นแหละ! ข้อมูลยิ่งแน่น เวลาไปจริงแล้วเกิดไม่เป็นตามแผน หรือไม่สนุกอย่างที่คิด จะได้ ปรับตัวปรับใจได้เร็ว ไม่ต้องนั่งเซ็ง ให้เป็ดมันเดือดร้อนไปด้วย ถ้าต้องการข้อมูลวิชาการเชื่อถือได้ แนะนำเว็ปการท่องเที่ยวญี่ปุ่น หรือเว็ปของเมืองนั้น ๆ ที่ญี่ปุ่นจะสุดยอดตรงที่ทุกจังหวัดและเมืองท่องเที่ยวสำคัญ ต่างมีเว็ปไซด์ของตัวเองทั้งนั้น เดี๋ยวนี้หลายจังหวัดที่คนไปเที่ยวกันเยอะ ๆ จะเริ่มมีหน้าเว็ปเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษให้อ่านแล้วด้วย แต่ถ้าไม่มี อ่านภาษาญี่ปุ่นไม่ได้ ลองเอาเข้า อากู๋นักแปล( http://translate.google.com/ ) ช่วยแปลให้ได้ แต่แนะนำอย่างยิ่งว่าให้แปลจากญี่ปุ่นเป็นอังกฤษ จะอ่านได้รู้เรื่องที่สุด แปลจากญี่ปุ่นเป็นไทยคุณจะเจอซับนรก จะขำกลิ้งมากกว่าได้สาระ เอา Link 3 เว็ปยอดฮิตข้อมูลแน่นและหลากหลาย ระดับ ฮก ลก ซิ่ว มาแป่ะไว้อีกที - Japan National Tourist Organization (JNTO) หรือ ททท. ญี่ปุ่น http://www.jnto.go.jp/eng/ - Japan Travel and Living Guide หรือ Japan-guide http://www.japan-guide.com/  เว็ปนี้ผมเข้าบ่อยสุด - Information Map of Japan หรือ infomapJAPAN http://www.infomapjapan.com/   ส่วนเว็ปแต่ละจังหวัดของญี่ปุ่นไว้หาข้อมูลแบบเจาะลึก ทุกจังหวัด รวม Link กันอยู่ในเว็ปนี้นะครับ http://web-japan.org/links/government/local/prefectures.html อยากได้เพิ่มอีก ลองพิมพ์คำว่า (ชื่อเมือง..) + Tourist Information ในอากู๋ดูก็ได้ จะได้ Link เว็ปสำนักงานการท่องเที่ยว ของเมืองนั้น ๆ หรือเว็ปที่เอกชนอื่นที่พูดถึงเมืองนั้นออกมาเพียบ แก้ไขเมื่อ 25 พ.ค. 52 09:50:40 จากคุณ : NumAromDee - [ 25 พ.ค. 52 09:48:56 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ถ้าไม่มีเวลาหาข้อมูลมากนัก และไม่ได้ชื่นชอบอะไรเป็นพิเศษ แนะนำให้ลองใช้แผนการท่องเที่ยวแบบสำเร็จรูป ของ ททท. ญี่ปุ่น ดูนะ เป็น เส้นทางยอดนิยมที่เรียกว่า Golden Route ที่ใช้ โตเกียว โอซากา เกียวโต หรือ เมืองหลัก ๆ อย่าง นาโงย่า โกเบ ฟุคุโอกะ ซัปโปโระ เป็นเมืองตั้งต้น แถมบอกวิธีการเดินทาง และรายละเอียดของสถานที่นั้น ๆ ไว้คร่าว ๆ ให้ด้วย ลอกการบ้านได้เลย ไม่ต้องลอง http://www.jnto.go.jp/eng/arrange/attractions/g_route/index.html   ขอบคุณคำแนะนำดีดีนี้ จากคุณ deepai มากครับ ลองเข้าไปอ่านดูซัก 1 ตัวอย่าง เป็นแผนเที่ยวในโตเกียวใน 1 วัน เริ่มจากตลาดปลาทสึคิจิแต่เช้า (1) กินซูชิอร่อย ๆ แล้วสายหน่อย นั่ง Toei Subway ไปเดินดู Edo Tokyo Museum (2) ที่คุณ Hiroko พึ่งรีวิวไปเมื่ออาทิตย์ก่อน พอซักเที่ยงก็ไปไหว้พระที่วัดอาซาคุสะ (3) บ่ายหน่อยก็ไปเดินอะคิฮาบาระ (4) ถ้ายังไม่หมดแรงซ่ะก่อน ก็ไปถ่ายรูปกับสะพานแว่นตาที่หน้าวังอิมพีเรียล (5) จากนั้นก็จบวันด้วยความโรแม้นที่แสน Hip ที่ย่านรอปปองหงิ (6) แค่นี้ก็กลับโรงแรมสลบเหมือดพอดี เป็นไอเดียที่ดีพอใช้ได้เลยนะนี่.. จากคุณ : NumAromDee - [ 25 พ.ค. 52 09:52:10 ]

ความคิดเห็นที่ 4 งานไม่มี งานไม่เข้า เลยมานั่งเฝ้าหน้าจอ......อิอิ........หวัดดีตอนเช้า เฮียหนุ่ม... จากคุณ : ถนนสายนี้เปรี้ยว - [ 25 พ.ค. 52 09:53:38 ]

ความคิดเห็นที่ 5 10 ข้อสะกิดใจ เมื่อต้องทำแผนไปญี่ปุ่นครั้งแรก 1. ไปเองอย่าเน้นปริมาณ เพราะเราไม่ได้ไปกะทัวร์ ที่มีรถบัสให้นั่งไปจ่อจนถึงประตูสถานที่เที่ยว สถานที่เที่ยวในญี่ปุ่นต้องเดินล้วน ๆ แล้วไม่ได้เดินแค่ 10-20 เมตร แต่เป็นหลักร้อยเมตรเรื่อยไปจนถึงกิโล(แม้ว) ถ้าอัดแผนไว้เยอะจัด จะทำให้รนและอาจต้องเปลี่ยนจากเที่ยวเป็นแข่งแรลลี่ซ่ะก่อน อาจได้ประสบการณ์สุดระทมหัวแม่เท้ากลับมาแทน 2. หาแผนที่เมืองที่เราอยากไปมาคลำทิศกันก่อน จะได้พอรู้ว่าจุดที่เราอยากเที่ยวมันอยู่ตรงไหน เดินทางยากมั้ย สำคัญสำหรับการวางแผนมาก อย่าเดาสุ่ม ยิ่งเมืองใหญ่ ๆ จะถึงขั้นสับสนชีวิตได้ แผนที่ใหญ่ ๆ แจ่ม ๆ นอกจากเปิดโหลดจากเว็ปท่องเที่ยวทั้งหลาย ที่สำนักงาน JNTO ประเทศไทยที่บอกไปเมื่อ คห. ตะกี้ ก็มีแจกให้อยู่หลายเมือง 3. ถ้าคุณไม่ใช่นักกีฬา หรือฟิตเต็ม 200 อย่าลืมคำนวณแผนเผื่อเรื่องความล้าไว้ด้วย ถ้าจัดแผนไว้มากจนต้องเดินทั้งวัน จะมันอารมณ์แค่ 2-3 วันแรกเท่านั้น หลังจากนั้นก็จะเจอช่วงทรมานสังขาร เจอที่สวยที่เจ๋งยังไง ก็ชักไม่สนุกแล้ว 4. มีเวลาน้อยกว่า 6 วัน ให้วางแผนเที่ยวแค่เขตเดียวดีที่สุด จะได้ไม่เสียเวลานั่งรถ เลือกเอาว่าจะเป็น โตเกียวและเมืองรอบ ๆ (คันโต) กับ โอซากาและเมืองรอบ ๆ (คันไซ) 5. JR Rail Pass จะคุ้มก็ต่อเมื่อใช้นั่งรถไฟระยะทางไกล ๆ ประมาณจากโตเกียว-โอซากา หรือ โตเกียว-เกียวโต ตั้งแต่ 2 เที่ยวขึ้นไป เที่ยววน ๆ อยู่แค่ไม่กี่เมืองใกล้ ๆ กัน ไม่ต้องซื้อ ไม่คุ้ม! รายละเอียดเรื่องนี้เดี๋ยวจะขยายให้อ่านกันอีกที 6. เรื่องกินไม่ต้องกังวล ถึงแม้ว่าญี่ปุ่นจะไม่มีตลาดโต้รุ่ง หรือรถเข็นชายสี่หมี่เกี๊ยวเหมือนบ้านเรา แต่เค้ามีคอมบินิ หรือ ร้านสะดวกซื้อสารพัดยี่ห้อไม่มีเจ้าไหนผูกขาด ที่เปิดอยู่ทุกซอกมุม แข่งกันแย่งลูกค้ากันตลอด 24 ชั่วโมง ด้วยของกินสารพัดที่ใหม่สดไม่มีค้างคืน เป็นสวรรค์ของคนรักการกินของดีด้วยราคาสบายกระเป๋า 7. ที่พักที่อยู่ใกล้สถานีรถไฟจะแพง อยู่ที่ประมาณ 5,000 เยนขึ้นไป เกือบทั้งนั้น อยากได้ของถูกก็ต้องเดินไกลหน่อย ตั้งแต่ระดับ 500 เมตรไปยัน 2 กิโล และทำใจไว้ได้เลยว่า โรงแรมราคาต่ำกว่า 5,000 เยน ต้องใช้ห้องน้ำรวมกันเป็นเรื่องปกติ 8. ห้องน้ำสาธารณะญี่ปุ่นหาง่ายและเยอะมาก แถมยังสะอาดด้วย ง่ายที่สุดก็ตามสถานีรถไฟ ทั้งใต้ดินบนดินไม่ว่าจะไปไกลถึงบ้านนอกแค่ไหน จะมีให้บริการทุกที่ ตามโรงแรม ห้างสรรพสินค้า ก็มีเป็นมาตรฐาน สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ พวกวัด ศาลเจ้า หรือ มิวเซี่ยม ก็มีห้องน้ำไว้ให้บริการอย่างเยอะ ถ้าชอบปวดหนักปวดเบาหรือกินของผิดสำแดงไม่ต้องกังวล 9. ห้างและร้านค้าญี่ปุ่นปิดกันเร็ว 2 ทุ่มก็ทยอยปิดกันหมดแล้ว ยิ่งต่างจังหวัด ซักทุ่มเมืองก็เงียบสงัด เว้นแต่พวกย่านกลางคืน หรือศูนย์กลางย่านธุรกิจการค้าใหญ่ ๆ อย่าง ชินจุกุ หรือ ชิบุยะ อาจปิดช้าหน่อย จะเหลือก็แค่พวกสถานที่อโคจรทั้งหลาย ถ้าไม่ได้อยากไปซุ่มโป่งทำโรแม้นอะไร หลัง 2 ทุ่มน่ากลับโรงแรมแช่น้ำนอนเอาแรงได้แล้ว 10. ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ถือว่าค่อนข้างปลอดภัย สำหรับนักท่องเที่ยวเกือบที่สุดในโลกแล้ว คุณสามารถเดินถนนตอนกลางคืนได้อย่างสบายใจไม่มีโจรมุมตึก (ระวังแค่อย่าอยู่ใกล้คนเมา จะโดนอ๊วกใส่) สามารถเดินกลางที่ชุมชนโดยไม่ต้องพะวงพวกล้วงกระเป๋า (ไม่ใช่ว่าไม่มี แต่มีน้อยถึงน้อยมาก) ไม่มีแก๊งขอทาน มีแต่พวกมนุษย์กล่อง Homeless ซึ่งถ้าเราไม่ยุ่งกับเค้า เค้าก็ไม่ยุ่งกับเรา อาจจะมีพวกบ้า ๆ ที่ชอบไล่ทำร้ายคนบ้างแต่นาน ๆ โผล่มาที อย่าจิตตกกับข่าวที่ได้ยินเลย พวกเมายาบ้าในเมืองไทยอันตรายและมีโอกาสเจอตัวได้มากกว่าอีก อ้อ แถมอีกข้อ.. ใคร ๆ ก็เก่งเรื่องญี่ปุ่นได้ ถ้าใจรักและพยายามครับ! จากคุณ : NumAromDee - [ 25 พ.ค. 52 09:55:01 ]

ความคิดเห็นที่ 6 อรุณสวัสครับพี่เปรี้ยว.. ไชโย.. มีเพื่อนร่วมอู้ด้วยกันแล้ว   =============================== เข้าเรื่องภูมิศาสตร์ซักนิด.. เวลาไปอ่านไกด์บุค เว็ป หรือกระทู้ญี่ปุ่น บางตอน ถ้าพูดถึงศัพท์พวกนี้ จะได้ไม่มึน ญี่ปุ่น ประกอบด้วยเกาะใหญ่ 4 เกาะ คือ ฮอนชู ฮอคไกโด ชิโคะคุ และ คิวชู เกาะใหญ่ที่สุด อย่าง เกาะฮอนชู แบ่งย่อยได้อีก 5 ภูมิภาค คือ - โทโฮะคุ หรือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ คือ พื้นที่ทางเหนือของเกาะฮอนชู แถบจังหวัดฟุคุชิมะ ขึ้นไปจนถึงอาโอะโมริ - คันโต คือ บริเวณมหานครโตเกียว และจังหวัดที่อยู่รอบ ๆ อีกซัก 5-6 จังหวัด - จูบุ คือ ภาคกลาง ซึ่งมีพื้นที่รวมถึงเขตเทือกเขา Japan Alps ที่เรียกว่า โฮะคุริคุ ด้วย - คันไซ หรือ คินคิ คือ เขตภาคตะวันตกส่วนบน แถว จังหวัดโอซาก้า เกียวโต และจังหวัดใกล้เคียง - จูโงะคุ คือ เขตภาคตะวันตกส่วนล่าง มี 2 ด้าน ฝั่งตะวันออก เรียก ซันโย (Sanyo) หรือ ฝั่งหน้าเขา และ ฝั่งตะวันตก เรียก ซันอิง (San-in) หรือ ฝั่งหลังเขา ยังมีหมู่เกาะเล็ก ๆ กระจุกหนึ่งทางใต้ ที่รวมกันเป็น Okinawa อยู่ไกลมาก ไกลจนเกือบจะถึงไต้หวันอยู่แล้ว ไกลตกขอบแผนที่ จนแผนที่ญี่ปุ่นบางฉบับต้องเอามาตัดแปะอยู่ใกล้ ๆ กัน ไกลจนเหมือนไม่ใช่ประเทศญี่ปุ่น รัฐบาลเลยส่งเสริมให้ชาวต่างชาติไปเที่ยวกันเยอะ ๆ ถ้าใครขอ Visa แล้วมีแสดงหลักฐานว่าจะไปเที่ยวโอกินาว่า ก็ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมวีซ่านะจ๊ะ รายละเอียดตามนี้ http://www.th.emb-japan.go.jp/th/consular/okinawa.htm แก้ไขเมื่อ 26 พ.ค. 52 10:10:42 จากคุณ : NumAromDee - [ 25 พ.ค. 52 09:59:39 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ยังไม่ทันได้อ่านทั้งกระทู้นี้และกระทู้ที่แล้ว  แต่ขอ โหวตไว้ก่อนเลยครับ ช่วงนี้เข้ามาหาข้อมูลเที่ยวญี่ปุ่น มีแต่คนอ้างอิงกระทู้ของคุณ Num.  แทบทั้งนั้น  กำลังจะหากระทู้ที่แล้วมาอ่าน ก็มาเจอกระทู้นี้พอดี  ขอบคุณในนำใจมากมายที่มาแบ่งปันกันครับ จากคุณ : LVP@HEART - [ 25 พ.ค. 52 10:03:37 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ไปครั้งแรก ถ้ามีเวลาซัก 6-7 วัน น่าจะเริ่มเที่ยวแค่แถบคันโตก็พอ ใช้โตเกียวเป็นศูนย์กลาง จะได้ไม่ต้องย้ายโรงแรมบ่อย ๆ ที่เที่ยวที่แจ่ม ๆ ไปไม่ยาก สามารถไปกลับจากโตเกียวได้ภายในวันเดียว จัดได้ตามแนวที่ตัวเองชอบ มีทั้งเดินช็อปในเมือง เที่ยววัด ท่องวัฒนธรรม เล่นสวนสนุก ชมธรรมชาติ เลือกอ่านตามนี้เลย I-chi(1) ในมหานครโตเกียว ที่เที่ยวเพียบ! http://www.tourism.metro.tokyo.jp/english/ Ni(2) เมืองใกล้ ๆ ไปสะดวก คามาคุระ http://www.city.kamakura.kanagawa.jp/foreign01_english/index.html                  เย็น ๆ ค่อยกลับมาเดินเล่นที่โยโกฮาม่า http://www.welcome.city.yokohama.jp/eng/tourism/index.html San(3) ฮาโกเน่ ที่เที่ยวมาตรฐานทัวร์ญี่ปุ่น http://www.hakonenavi.jp/english/introduction/index.html Yon(4) ดูฟูจิซังริมทะเลสาบคาวางุจิก็เด็ด http://www.mtfuji-welcomecard.jp/english/areainfo/map/map04.html                    หรือจะไปดูฟูจิแกล้มซากุระ ที่ฟูจิโยชิดะ http://www.city.fujiyoshida.yamanashi.jp/div/english/html/index.html Go(5) ย้อนอดีตเมืองมรดกโลกที่นิคโก้ ไปช่วงใบไม้แดงยิ่งสวยสุดสุด http://www.nikko-jp.org/english/index.html Ro-ku(6) ไปกินของอร่อยเมืองเกี๊ยวซ๋า แวะเบนไดมิวเซี่ยมที่ อุทซึโนมิยะ  http://wikitravel.org/en/Utsunomiya Nana(7) ชมปราสาทอีกาดำ กลางกำแพง Japan Alps ที่มัตสึโมโต้ http://welcome.city.matsumoto.nagano.jp/ Ha-chi(8) แถวสนามบินนาริตะมีที่เที่ยวเยอะเลย http://www.city.narita.chiba.jp/english/ Kyuu(9) อยากแช่น้ำพุร้อน ก็น่าลองอนเซนชื่อดังอย่างอะตะมิ http://www.atamispa.com/atami_ex/english/ จะไปเช้าเย็นกลับ หรือนอนค้างซักคืนก็ยิ่งได้บรรยากาศ โดยเฉพาะที่อะตะมิ กับ คาวางุจิโกะ แก้ไขเมื่อ 25 พ.ค. 52 14:05:42 จากคุณ : NumAromDee - [ 25 พ.ค. 52 10:09:46 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ขอบคุณมากครับคุณ LVP@HEART แค่เข้ามาเยี่ยมชมทักทาย ผมก็ดีใจ หายเหนื่อยแล้วครับ ================================= ถ้าเลือกไปแถบคันไซ ก็สามารถเลือกใช้เมืองโอซาก้า หรือ เกียวโต เป็นศูนย์กลาง แล้วแต่ว่าจะชอบแนวเมืองใหญ่ หรือ เมืองเก่า มีที่เที่ยวดัง ๆ แบบเดินทางง่าย ๆ ไปกลับจากโอซากา หรือ เกียวโตได้ภายใน 1 วัน จัดกันตามชอบ มีหลากหลายแนวให้เลือกเหมือนคันโต ตามนี้ อิฉิ(1) โอซาก้า เมืองศูนย์กลางการค้าในภารตะวันกที่ใหญ่โตคึกคักไม่ต่างจากโตเกียว http://www.osaka-info.jp/en/ นิ่(2) ถ้าชอบดูวัดดูวัง และสวนสวย ๆ ก็ต้องเกียวโต http://www.pref.kyoto.jp/visitkyoto/en/ ซัง(3) นารา เมืองหลวงเก่าแก่ของญี่ปุ่น มีทั้งวัดสวย ๆ และน้องกวางน่ารัก http://www.pref.nara.jp/nara_e/ ย้ง(4) เมื่อคันโตมีโยโกฮาม่า คันไซก็มีโกเบ ที่ดังเรื่องเนื้อมัตซึซะกะ http://www.feel-kobe.jp/english/index.html                   จะไปแวะแช่น้ำแร่ที่อาริมะอนเซ็นก็ได้อยู่ใกล้ๆ กัน http://www.arima-onsen.com/eng/index.html โกะ(5) ก่อนไปโกเบ เช้าไปแวะดูปราสาทฮิเมจิ ซ่ะก่อน http://www.himeji-kanko.jp/en/index.html โระคุ(6) เลยเกียวโตไปหน่อย ที่จังหวัดชิกะก็มีของดีอยู่ 2 ที่ให้เที่ยว                      - ปราสาทฮิโกเน่ กับทะเลสาบบิวะ http://www.city.hikone.shiga.jp/english/                     - สุดยอดพิพิธภัณฑ์กลางหุบเขาที่สวยกลืนกับธรรมชาติ มิโฮะ มิวเซี่ยม http://miho.jp/english/index.htm นานะ (7) คันโตมีนิกโก้ คันไซก็มีโคยะซัง เมืองต้นตำหรับพุทธนิกายชินงอน(มนตรยาน) http://www.shukubo.jp/eng/ ฮะจิ(8) ใกล้ ๆ สนามบินคันไซ ก็มี Outlet ของดีถูกโค-รตให้ช็อป อยู่ที่เมืองรินกุ ถ้ากลับเที่ยวบินตอนค่ำ เอากระเป๋าไป check-in แล้วนั่งรถไฟ 10 นาทีถึง ถ้ารถบัสก็ประมาณ 20 นาที http://www.pref.osaka.jp/rinkai/english/index.html คิว(9) จังหวัดมิเอะ ถึงจะไกลนิดแต่มีดีให้ดู ทั้งศาลเจ้าหลวงอิเสะ http://www.isejingu.or.jp/english/index.htm                     หรือเลยไปตื่นใจกับไข่มุกมิกิโมโต้ ที่เมืองโทะบะ http://www.city.toba.mie.jp/page/eigo/hyousi/hyousi.htm คันไซที่เที่ยวเยอะมาก ผมว่าจะเยอะและหลากหลายกว่าคันโตซ่ะอีก โดยเฉพาะคนที่ชอบดูวัดวังปราสาทศาลเจ้า ถ้ามีเวลาน้อยกว่า 7 วัน จัดแผนอยู่แค่โอซาก้า กับเกียวโต ก็แทบไม่ต้องไปเมืองอื่นแล้ว จากคุณ : NumAromDee - [ 25 พ.ค. 52 10:16:31 ]

ความคิดเห็นที่ 10 พิเศษสำหรับคุณหนูคุณน้อง และพี่ ๆ ที่มีเด็กน้อยในหัวใจ รวม Link สวนสนุกและ Them Park เด็ด ๆ ดัง ๆ ของญี่ปุ่น สำหรับคนรักความบันเทิง - Disney Resort ที่มีทั้ง DisneyLand สุดคลาสสิค และ DisneySea สุดโรแม้น หรือจะเหมาทั้งคู่ก็แจ่ม http://www.tokyodisneyresort.co.jp/index_e.html - สวนสนุกฟุจิคิว ใกล้กับคาวางุจิโกะ เล่นรถไฟเหาะไปดูฟูจิไป (ถ้าไม่มีเมฆหมอก) ได้ http://www.fuji-q.com/index.html - ซานริโอ พูโรแลนด์ เมืองที่สาว ๆ ไปต้องละลายตายทุกคน http://www.puroland.co.jp/english/   - จิบลี่ มิวเซี่ยม สนามแห่งจิตนาการสำหรับคนรักการ์ตูนจิบลี่ เมืองมิทากะ http://digilander.libero.it/joe.chip/ghibli_e.htm - Tokyo Joypolis สวนสนุกในร่มที่โอไดบะ อยู่ติดกับห้าง Aqua City แหล่งรวมเครื่องเล่นไฮเทคของ Sega Game ออกแนวเกมส์อาเขตนิดนึง http://sega.jp/joypolis/tokyo/home_e.shtml - ฮัคเคจิมะ ซี พาราไดส์ เมืองโยโกฮาม่า เป็นทั้งพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ บวกสวนสนุกในที่เดียวกัน  http://www.seaparadise.co.jp/english/ - ชินโยโกฮาม่าราเมงมิวเซี่ยม รวมร้านราเมงชื่อดังของญี่ปุ่นมาไว้ในบรรยากาศญี่ปุ่นยุค 70 http://www.raumen.co.jp/english - เอโดะมุระ หรือ Edo Wonderland เมืองจำลองบรรยากาศสมัยเอโดะ อยู่แถวนิคโก้ http://wwwedowonderland.net - Universal Studios Japan หรือ USJ สวนสนุกของคนรักหนัง เมืองโอซาก้า มีเว็ปภาษาไทยด้วย http://www.usj.in.th - Osaka Aquarium Kaiyukan เป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่มีแทงค์ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เลี้ยงฉลามวาฬปลาใหญ่ที่สุดในโลกให้ดูกัน http://www.kaiyukan.com/thai/index.htm - Toei Movieland Kyoto Studio Park สตูดิโอถ่ายหนังซามูไรของโตเอะ http://www.eigamura30.com/index.shtml - Huis Ten Bosch สวนสนุก + Theme Park บรรยากาศเหมือนยกท่าเรือยุโรปมาไว้ที่นางาซากิ http://english.huistenbosch.co.jp/ - Bandai Musuem เว็ปเป็นภาษาญี่ปุ่น ผมเอาเข้าอากู๋ทรานเสลทให้แล้ว http://www.google.com/translate?u=http%3A%2F%2Fwww.bandai-museum.jp%2Findex2.html&langpair=ja|en&hl=th&ie=UTF8 ยังมีอีกเยอะ แต่ขอเอามาให้ดูแค่นี้ก่อนนะ จากคุณ : NumAromDee - [ 25 พ.ค. 52 10:19:51 ]

ความคิดเห็นที่ 11 แถมสะเก็ดเรื่องชื่อเมืองในญี่ปุ่นให้ซักหน่อย ญี่ปุ่นแบ่งเป็น 47 จังหวัด ซึ่งใน 47 จังหวัด แบ่งออกเป็น 4 วรรณะ คือ 1 To 1 Do 2 Fu และ 43 Ken เป็นการแบ่งตามประวัติศาสตร์การกำเนิดเกิดมาของแต่ละเมือง ถ้าเล่าต่อจะกลายเป็นห้องเรียนประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น 101 ไปซ่ะก่อน เอาเป็นว่า ณ บัดเดี่ยวนี้ มันต่างกันแค่ชื่อ ส่วนวิธีการบริหารและจัดการหมือนกันทั้งหมด 1 โต คือ โตเกียว (Tokyo-To) ที่ผมได้ยินญี่ปุ่นออกเสียงว่า โทะเคียว เค้าเขียนเป็นภาษาอังกฤษว่า Tokyo Metropolitan Government ไม่ได้เรียก Prefecture นะ 1 โด คือ ฮอกไกโด (Hokkaido) คำว่า Do แปลว่าจังหวัดอยู่แล้ว ให้เรียกฮอกไกโดเฉย ๆ แล้วเมืองนี้เขียนชื่อจังหวัดเป็นภาษาอังกฤษว่า Hokkaido Government ซ่ะด้วย ไม่ได้เรียก Prefecture อีกเหมือนกัน 2 ฟุ คือ โอซากา (Osaka-Fu) กับ เกียวโต (Kyoto-Fu) 2 จังหวัดนี้และที่เหลือ เรียกลงท้ายเป็น Prefecture ทั้งหมด อีก 43 จังหวัดที่เหลือ จะมีคำลงท้ายว่า เคน ทั้งหมด เช่น Hiroshima-ken, Fukuoka-ken แต่ละจังหวัดปกครองโดยผู้ว่าที่มาจากการเลือกตั้งทุก 4 ปี มีเมืองหลวงของจังหวัดเป็นศูนย์กลางการปกครอง ชื่อเมืองหลวงของจังหวัดส่วนใหญ่จะตั้งตามชื่อจังหวัด บางเมืองตั้งชื่อไม่เหมือนกันบ้าง อย่างที่มักจะเข้าใจผิดกันบ่อย ก็คือ Nagoya นาโงย่าไม่ใช่จังหวัด แต่เป็นเมืองหลวงของจังหวัดไอฉิ (Aichi) จริง ๆ แล้วทั้งหมดนี่จะเรียกว่าจังหวัด ก็ไม่ค่อยตรงเท่าไหร่ เพราะอย่างฮอกไกโดก็ใหญ่มากจนเหมือนเป็นมลฑลนึงเลย แต่ขอเรียกแบบนี้ให้เข้าใจกันง่าย ๆ ละกันนะ ไอ้เราก็ไม่ได้จบรัฐศาสตร์ซ่ะด้วย ศัพท์แสงพวกนี้ไม่ค่อยกระดิก จากคุณ : NumAromDee - [ 25 พ.ค. 52 10:24:30 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เย้.....ได้ปาดครั้งแรกในชีวิต...แฮ่มมมมมม กะลังรอเพื่อนลูกจัดทริปฮอคไกโดอยู่เลยคุณหนุ่ม เค้าว่า กำลังหาตั๋วเครื่องบินอยู่ เฮ้อ...เพิ่งจะคิด!!!!! จากคุณ : ป้าหอมนาน (Sak_Suriyan) - [ 25 พ.ค. 52 10:28:48 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เงินเยน ที่ไม่เย็นสมชื่อ สิ่งที่บาดใจที่สุดในการคิดเที่ยวญี่ปุ่น ก็คือเรื่องงบประมาณ งบก้อนเดียวกันใช้เที่ยวญี่ปุ่นแบบประหยัดได้แค่ 7 วัน จะสามารถเอาไปหารแบ่งเที่ยวประเทศเพื่อนบ้านของไทยได้ 3-4 ทริป ได้หรูสบาย งบประมาณค่าที่พัก อาหาร ค่าเดินทาง และค่าเที่ยว ถ้าให้อยู่แบบกลาง ๆ ไม่ลำบากหรือหรูมาก ก็ต้องเตรียมไว้ประมาณวันละ 10,000 เยน แบ่งเป็น ค่าที่พักประมาณ 3-5 พันเยน ค่าอาหาร 3-4 พันเยน ค่าพาหนะประมาณ 1 พันเยน ที่เหลือเป็นค่าเข้าชมวัด มิวเซี่ยม Park หรือสวนสนุกต่าง ๆ จะอยู่กี่วันไปไหนบ้างก็บวกเข้าไป งบที่ให้นี้ ไม่รวมค่าเครื่องบิน ค่า JR Rail Pass และ ค่าช็อปปิ้งนะ ไปกะกันเองเน่อ.. แต่ละคนมีความง่ายในการกินอยู่หลับนอนไม่เท่ากัน ผมแนะนำไม่ถูก การแลกเงินจากบาทเป็นเยน ถ้าแลกไม่มากซักแสนเยนหรือต่ำกว่า แล้วบ้านไม่ได้อยู่ใกล้ร้านแลกเงินชื่อดังทั้งหลาย ไปแลกตามธนาคารใกล้บ้านเถอะครับ ได้กำไรต่างกันไม่กี่ร้อยหรอกครับ ถ้าต้องถ่อจากบ้านไกล ๆ ไปแลกถึงร้านแถวประตูน้ำ ปทุมวัน สะพานควาย หรือ หลังตึกการบินไทย พอบวกค่าเดินทาง ค่ากิน ค่าช็อปแล้ว จะขาดทุนเอานะ และถ้าไม่จำเป็นหรือไม่ฉุกเฉิน อย่าไปแลกเงินที่เคาเตอร์สนามบินสุวรรณภูมิเลย เห็นเรทแล้วจะต๊กกะใจ ช่างเป็นเขตเศรษฐกิจ(แพง)พิเศษเหลือเกิน จากคุณ : NumAromDee - [ 25 พ.ค. 52 10:29:21 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ขอบคุณสำหรับรีวิวดีๆนะคะ กำลังจะไปในอีกไม่กี่อาทิตย์นี้แล้วค่ะ   ^  ^ จากคุณ : Berry Trifle - [ 25 พ.ค. 52 10:31:32 ]

ความคิดเห็นที่ 15 สวัสดีครับป้าหอม จะไปเมื่อไหร่ครับป้า? จะไปดูทุ่งลาเวนเดอร์ละซี่.. หมีเพนด้าดุ๊กดิ๊ก น่ารักมั่ก ๆ ขอเซฟฟฟฟฟฟฟ ====================================== แบงค์ญี่ปุ่นมีอยู่ 4 ขนาด แต่ขนาดที่จะได้เจอบ่อยที่สุดคือแบงค์ 10,000 เยน กับ 1,000 เยน แบงค์ 5,000 นาน ๆ เจอที ส่วนแบงค์ 2,000 ยังไม่เคยเห็นเลย เหมือนออกมาเป็นที่ระลึกยังไงก็ไม่รู้ ที่หนักกระเป๋า และสร้างความกรุ๊งกริ๊งให้กระเป๋ากางเกงที่สุด ก็คือ เหรียญ ซื้อของที่ไรได้เหรียญทอนมาเป็นกำ เพราะราคาสินค้าที่ญี่ปุ่นไม่ได้ลงท้ายด้วยเลข 0, 5 หรือ 9 ให้คิดง่ายทอนง่าย(แต่โค-รตกำไร)เหมือนบ้านเรา แต่จะตั้งราคาเป็นเศษสตางค์ทุกหลัก ทำให้ใช้เหรียญทุกขนาดกันอย่างจริงจังไม่มีรังเกียจ แต่เหรียญ 5 เยน ที่มีรูตรงกลาง จะเจอยากซักหน่อย เพราะคนญี่ปุ่นนิยมใช้เหรียญชนิดนี้ทำบุญที่วัดหรือศาลเจ้า คุ้น ๆ ว่าคำเรียกเหรียญ 5 เยน ไปพ้องกับคำที่เป็นมงคลอะไรซักอย่าง ไม่ชัวร์นะครับ ใครรู้ช่วยเสริมด้วยละกัน คำนวณการใช้เหรียญให้ดีนะครับ เพราะถ้าเหลือเยอะ เอากลับมาแลกคืนเป็นเงินบาทไม่ได้นะ เค้ารับแลกแต่แบงค์ ส่วนมากถ้าเหลือเหรียญเยอะ ๆ ผมก็เข้าคอมบินิซื้อขนมกินเอา และเวลาควักเหรียญเล็กเหรียญน้อยออกมานับจ่าย ก็ไม่ต้องลนลานกลัวแม่ค้าจะค้อนนะ การควักเหรียญย่อยออกมานับจ่ายเงินกันช้า ๆ ถือเป็นเรื่องปกติของที่ญี่ปุ่นอยู่แล้ว อีกเรื่องนึง ที่เคยถามกันมาเยอะ ว่าแบงค์ 10,000 เยน หาที่ใช้ได้ยากมั้ย ลืมภาพแม่ค้าหน้างอเวลาเอาแบงค์ 1,000 ไปซื้อของในบ้านเราไปก่อนเลย จะบอกว่าพ่อค้าแม่ค้าญี่ปุ่นไม่มีนิสัยทำหน้างอเวลาเจอแบงค์ใหญ่ ๆ เค้าถือว่าลูกค้าคือพระเจ้า เอาเงินมาให้ห้ามปฏิเสธ และเค้ามีหน้าที่ที่จะต้องเตรียมเงินทอนเอาไว้ให้เพียงพอ ไม่ใช่ความผิดของลูกค้า แต่ถ้ายังรู้สึกเกรงใจ หรือตะขิดตะขวงใจอยู่ ที่ที่ง่ายที่สุดในการแตกแบงค์ 10,000 เยน คือ ร้านสะดวกซื้อ หรือ จะเอาไปซื้อตั๋วรถไฟก็ได้ ตู้ขายตั๋วอัตโนมัติรุ่นใหม่ ๆ รับแบงค์ได้ทุกขนาดอยู่แล้ว จากคุณ : NumAromDee - [ 25 พ.ค. 52 10:34:54 ]

ความคิดเห็นที่ 16 สวัสดีครับ คุณ Berry Trifle ขอบคุณมากครับที่เข้ามาทักทาย จะไปเที่ยวเมืองไหนบ้างครับเนี่ยะ? =================================== ใครไปฮ่องกงจะคุ้นกับเจ้าบัตรปลาหมึก Octopus Card ที่เป็น Prepaid Smart Card ฝังชิป เติมเงินเพิ่มได้ ใช้ขึ้นรถเมล์ รถไฟ เรือ ซื้อของ ได้สารพัด ที่ญี่ปุ่นก็มี Radio-frequency identification (RFID) แบบนี้หลายยี่ห้อ ที่ได้รับความนิยม ใช้ได้กว้างไกลหลายพื้นที่ก็คือ Suica (ซุยก้า) Card ไม่อยากกำเหรียญไว้เยอะ ๆ หรือต้องการความสะดวกในการขึ้นรถไฟ ไปถึงแตะ(บัตร)แล้วแจวได้เลย จะลองซื้อติดไว้ซักใบก็ดีนะ ราคาเริ่มต้น ที่ 2,000 เยน เป็นค่ามัดจำบัตร 500 เยน ที่เหลืออีก 1,500 เยน จะเป็นมูลค่าเงินในบัตร (เงินมัดจำ 500 เยนจะไม่โชว์มูลค่าในบัตร) บัตรมีอายุ 10 ปี เติมเงินสูงสุดน่าจะได้ไม่เกิน 20,000 เยน/ครั้ง ถึงเติมได้มากกว่านี้ก็อย่าทำเลย ถ้าบัตรหายจะจิตตกเที่ยวไม่สนุกซ่ะก่อน ค่าประกันฯ 500 เยน จะได้คืนก็ต่อเมื่อคืนบัตร โดยจะถูกหักเงินเป็นค่าใช้บัตร 210 เยนจากมูลค่าที่เหลือในบัตร ยกเว้นว่าเราใช้จนเงินในบัตรเหลือต่ำกว่า 210 เยน จะไม่โดนหัก แถมยังได้เงินค่ามัดจำคืนมาเต็ม ๆ 500 เยน (มีอย่างงี้ด้วย) การใช้บัตรนี้จะไม่มีส่วนลดใดๆ สำหรับค่ารถนะครับ เพื่อความสะดวกเท่านั้น แต่เคยได้ยินมาว่า ถ้าเอาไปใปใช้จ่ายค่ารถบัส จะมีแต้มสะสมไว้แลกรางวัล หรือถ้าเอาไปใช้ซื้อของบางร้าน จะได้ส่วนลดในสินค้าบางรายการที่จัดโปรโมชั่น ซึ่งก็มีเป็นช่วง ๆ ไป รายละเอียดของบัตรซุยก้า http://www.jreast.co.jp/e/suica-nex/suica.html ส่วนสายรถไฟที่สามาารถใช้ Suica ได้ ตามนี้เลย http://www.jreast.co.jp/e/routemaps/pdf/RouteMap_majorrailsub.pdf จากคุณ : NumAromDee - [ 25 พ.ค. 52 10:39:04 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เบอร์ฉุกเฉิน ที่น่าจะจดไว้ The Japan Help-Line ให้ข้อมูลความช่วยเหลือเรื่องต่าง ๆ โทร 01-2046-1997 ตำรวจญี่ปุ่น 110 รถฉุกเฉิน และ ดับเพลิง ใช้เบอร์เดียวกัน  119 Medical Information Service ศูนย์ให้คำปรึกษาปัญหาสุขภาพในญี่ปุ่น โทร 03-5285-8181 ที่ญี่ปุ่นเราซื้อยากินเองเหมือนเมืองไทยไม่ได้ ต้องให้หมอเขียนใบสั่งยาให้ และค่ารักษาพยายามที่นู่นแพงขนลุกมาก ใครสุขภาพไม่ดีป่วยบ่อย เตรียมยาส่วนตัวไปให้ดี หรือไม่ก็ทำประกันสุขภาพติดไปด้วยก็ได้ครับ สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ นครโตเกียว (Royal Thai Embassy, Tokyo) http://www.thaiembassy.jp/rte0/ ที่อยู่ 3-14-6 Kamiosaki Shinagawa-ku Tokyo 141-0021 อยู่แถว Shinagawa แต่ไปให้สะดวก ต้องไปรถไฟ Yamanote ลงที่สถานี JR Meguro ตามแผนที่ด้านล่าง โทร 03 -3441-1386  โทรสาร 03-3441-2597 (เปิดเครื่องรับ FAX ตลอด 24 ชม.) ถ้ามีเหตุฉุกเฉิน ส่งแฟกส์ดีที่สุด เพราะช่วงเช้า-เที่ยง คนโทรมาก สายไม่ค่อยว่าง หรือถ้าโทรหลังบ่ายสองถึงห้าโมงเย็น จะมีจนท. คอยรับสายเยอะกว่าช่วงเช้า สถานกงสุลใหญ่ ณ นครโอซากา (Royal Thai Consulate-general, Osaka)  http://www.thaiconsulate.jp/th/home/index.html ที่อยู่ Bangkok Bank Building 1-9-16 Kyutaro-machi, Chuo-ku, Osaka, 541-0056 โทร 06-6262-9226-7  โทรสาร 06-6262-9228 ขอบคุณข้อมูลเบอร์สถานฑูตไทยและคำแนะนำของคุณ OKANEMOCHI ด้วยครับ ผมขอเอามารวบรวมไว้ตรงนี้ด้วยนะ จากคุณ : NumAromDee - [ 25 พ.ค. 52 10:43:04 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ปัจจัยสำคัญอีกตัว ที่จะกำหนดทิศทางของแผนเที่ยว ก็คือ สนามบินที่เราจะเข้า-ออกญี่ปุ่น ซึ่งแต่ละสายการบิน ก็มีเที่ยวบินไปลงสนามบินต่าง ๆ แตกต่างกันซ่ะด้วย เอาสายการบินหลัก ๆ ฮิต ๆ ที่มีบินไปญี่ปุ่น - การบินไทย(TG) เจเปนแอร์ฯ(JAL) หรือ ออลนิปปอนฯ(ANA) แพงสุด แต่บินตรงไม่แวะไหน เวลาบินก็ดี ไปดึก กลับค่ำ แถมยังมีทางเลือกให้บินไปลงสนามบินนึง บินกลับอีกสนามบินได้ด้วย - ถ้าไปสายการบินฝรั่ง เช่น นอร์ธเวสต์(NW) หรือ ยูไนเต็ด(UA) ราคาถูก เวลาบินดีเฉพาะขากลับ และไปกลับนาริตะได้ที่เดียว - สิงคโปร์แอร์ (SQ) ราคาจะถูกเมื่อซื้อตั๋วเป็นแพ็ค 2 ที่ขึ้นไป เมื่อก่อนมีบินตรงไปลงคันไซด้วย แต่เดี๋ยวนี้ได้ยินว่าเหลือบินตรงแค่นาริตะที่เดียว ถ้าอยากบินกลับจากสนามบินอื่น ต้องเสียเวลานั่งอ้อมไปเปลี่ยนเครื่องที่สิงคโปร์ซ่ะก่อน - คาเธ่ย์ฯ (CX) หรือ ไชน่าแอร์ฯ (CI) มีบินลงได้หลายสนามบินเหมือนกัน ราคาถูกตลอดทั้งปี แต่ต้องไปเสียเวลาเปลี่ยนเครื่องที่ฮ่องกง หรือไต้หวัน เวลาบินไม่ดีเลย บินแต่เช้าทั้งไปและกลับ ถ้าจะวางแผนแบบเที่ยวข้ามภูมิภาคต้องพิจารณาเรื่องนี้ด้วยนะครับ เพราะจะทำให้สามารถกำหนดเส้นทางเที่ยวได้รวดเดียว โดยไม่ต้องเสียเวลานั่งรถไฟหรือเครื่องบินในประเทศ ย้อนกลับไปขึ้นเครื่องที่สนามบินเดิม ถ้างบเยอะ บินด้วย TG หรือ JAL ก็สบายหน่อย จะไปจะกลับสนามบินหลัก ที่ไหนก็ได้ จากคุณ : NumAromDee - [ 25 พ.ค. 52 10:49:21 ]

ความคิดเห็นที่ 19 แนะนำสนามบินหลักของญี่ปุ่น ญี่ปุ่นมีสนามบินที่สามารถรับเครื่องนานาชาติได้ เยอะมาก ถึงม็อบปิด แผ่นดินไหว ทสึนามิถล่มยังไง ก็ยังมีทางเลือกเพียบ จะแนะนำเฉพาะสนามบินหลักที่มีเที่ยวบินจากเมืองไทยบินตรงไปนะ แถมสนามบินในประเทศสำคัญ 2 สนามบินที่เราอาจมีโอกาสใช้ คือ ฮาเนดะ ที่โตเกียว กับ ชินจิโตเสะ ที่ซัปโปะโระ ให้ด้วย จากคุณ : NumAromDee - [ 25 พ.ค. 52 10:50:52 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ว่าจะไปเกียวโตกับฮิโรชิมา สี่วันค่ะ แต่ไม่แน่ใจว่าไปแล้ว กลับมาดูงานต่อที่ไซตามะจะถูก banned รึเปล่า เลยยังลังเลค่ะว่าควรไปดีมั้ย หรือขึ้นเหนือไปเที่ยวที่อื่นดี ^ ^" แต่โดยส่วนตัวชอบดูอะไรเก่าๆมากกว่า เลยว่าจะลุยต่อไป อย่างมากกลับมาก็ไม่ต้องทำงานสักสี่ห้าวัน(มั้ง..) ไม่ทราบว่าถ้าแลกเงินจากธนาคารไป เทียบกับแลกที่สนามบินนาริตะ ที่ไหนเรตดีกว่ากันค่ะ คิดว่าคงจะแลกสักสองแสนเยนค่ะ จากคุณ : Berry Trifle - [ 25 พ.ค. 52 10:51:11 ]

ความคิดเห็นที่ 21 คุณ Berry Trifle ตอนนี้ไข้หวัด H1N1 กำลังระบาดที่โอซาก้า ต้องแวะพักที่โอซาก้ารึเปล่าครับ อาจมีโอกาสโดนกักตัวนะนี่ ชอบดูอะไรเก่า ๆ ก็ต้องเกียวโตซิครับ สุดยอดสุดสุดของที่สุดแล้ว เพื่อนรุ่นน้องผม ไปฝังตัวที่นั่นเป็นเดือนแล้ว มันบอกว่าัยังเที่ยวไม่ครบเลย แลกเงินจากเมืองไทยไปเรทดีที่สุดครับ 2 แสนเยนนี่ไปแลกตามร้านแลกเงินก็ได้ครับ คงได้กำไรหลายร้อย แต่ถ้าไม่คิดมาก ก็ธนาคารใกล้บ้านนั่นแหละ ถ้าไม่อยากกำเงินไปมาก ๆ ซื้อเป็นเช็คเดินทางไปก็ได้นี่ครับ ========================================= สนามบินแรกที่จะแนะนำ Narita International Airport (NRT) ชื่อเดิมที่อาจเคยได้ยิน คือ New Tokyo International Airport ตั้งอยู่ในจังหวัดจิบะ(Chiba) นะ ไม่ได้อยู่ในโตเกียว คล้ายสนามบินสุวรรณภูมิบ้านเรานั่นแหละที่ไม่ได้ตั้งอยู่ในกรุงเทพ สายการบินทุกสายที่บินจากเมืองไทยไปญี่ปุ่น มีไปกลับที่นาริตะทั้งนั้น (ยกเว้นบางกอกแอร์ฯ) ตอนสร้างสนามบินนาริตะ รัฐบาลต้องทะเลาะกับชาวนาที่อยู่รอบสนามบิน เรื่องเวนคืนที่ดินกันใหญ่โต แรงถึงขั้นตอนก่อสร้าง มีการปาระเบิด และบุกขั้นยึดหอบังคับการบิน ที่เคยวางแผนไว้ว่าจะสร้างเสร็จตั้งแต่ พ.ศ. 2514 กว่าจะเปิดใช้งานได้ก็ปาเข้าไปปี พ.ศ 2521 ถึงทุกวันนี้ก็ใช้ว่าจะสงบ 100% รอบสนามบินเลยต้องสร้างรั้วสูง กับหอสังเกตการณ์ พร้อม รปภ. เต็มอัตรา และเพื่อลดข้อพิพาท สนามบินนี้เลยเปิดแค่ 6 โมงเช้าถึง 5 ทุ่ม กลางคืนปิด ทุกวันนี้ทุกคนที่เข้าสนามบินจะถูกตรวจ Passport หรือบัตรประจำตัว ไม่มีไม่ให้เข้า ใครจะไปรับเพื่อนญาติที่สนามบิน พก Passport ไปด้วยนะ มีถามกันมาอีกว่า ค้างคืนสนามบินได้มั้ย? ได้ครับ แต่ รปภ. เค้าจะต้อนคุณให้ไปอยู่รวมกันที่บริเวณนึง แล้วจัดคนเฝ้าหยั่งกะนักโทษ เพราะเค้ากลัวเราเป็นฝ่ายต่อต้านจะไปวินาศกรรมสนามบินเค้า ไม่จำเป็นจริง ๆ อย่านอนค้างที่นาริตะเลยครับ ใครที่ต้องกลับ SQ เที่ยว 9 โมงเช้า นั่ง Skyliner เที่ยวแรก 6 โมงครึ่ง ถึงสนามบินประมาณ 7 โมงครึ่ง ทันถมถืด พี่ฟ้าเคยรีวิวเรื่องนี้ไว้ในกระทู้ภาค 1 แล้ว เว็ปทางการ http://www.narita-airport.jp/en/ จากคุณ : NumAromDee - [ 25 พ.ค. 52 10:57:17 ]

ความคิดเห็นที่ 22 การเดินทางจากสนามบินนาริตะเข้าเมือง สนามบินนาริตะอยู่ห่างจากโตเกียวประมาณซัก 60 กิโลเมตร ก็ประมาณกรุงเทพ-ชลบุรี ได้มั้ง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1-2 ชั่วโมง การเดินทางทำได้หลายวิธีมากทั้งรถไฟ และ รถบัส ผมขอแนะนำเฉพาะรถไฟนะครับ เพราะสะดวก ง่าย และควบคุมเวลาได้ดีที่สุดแล้ว มี 2 เจ้าหลัก ๆ คือ JR (East) กับ เคเซ (Keisei) แต่แบ่งขบวนรถเป็น 4 ประเภท จากคุณ : NumAromDee - [ 25 พ.ค. 52 11:00:42 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ประเภทแรก แพงสุด แต่เร็ว สะดวก และมีสถานีปลายทางให้เลือกเยอะที่สุด คือนั่งรถด่วนพิเศษของ JR ที่ชื่อว่า Narita Express (NEX) ราคาเริ่มต้น กับการนั่งไปลงสถานีโตเกียวอยู่ที่ 2,940 เยน (54 นาที) แต่สามารถนั่งไปลงสถานีอื่น อย่าง Shinagawa, Shibuya, Shinjuku หรือ Ikebukuro ก็ 3,110 เยน (ประมาณชั่วโมงครึ่ง) ถ้ามี JR Rail Pass ก็นั่งฟรี แต่ต้องสำรองที่นั่งก่อนนะ เพราะมีแต่ตู้แบบ Reserved Seat ถ้าที่นั่งเต็มและอยากไปเที่ยวนั้น ก็ต้องตีตั๋วยืน (คงมันส์พิลึก) มีโปรโมชั่นพิเศษขายตั๋ว NEX ขาเข้าเมือง(ขาเดียว)ไปลงสถานีไหนก็ได้ พร้อมบัตร Suica ในราคาพิเศษ 3,500 เยน รายละเอียดโปรโมชั่นอ่านตามนี้นะ http://www.jreast.co.jp/e/suica-nex/index.html เป็นรถรุ่น 253 Series EMU แก้ไขเมื่อ 25 พ.ค. 52 11:10:42 จากคุณ : NumAromDee - [ 25 พ.ค. 52 11:03:33 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ประเทภที่ 2 ถ้ายังอยากนั่ง JR แต่ราคาเบาลงมานิด เป็นรถด่วน JR Sobu Line ขบวนพิเศษที่ชื่อ Rapid Airport Narita (ขบวน Sobu Line แบบปกติจะวิ่งถึงแค่ตัวเมืองนาริตะ) ใช้เวลาเดินทางนานเกือบ 2 เท่าของ NEX ที่ 80 นาที ถึงโตเกียว ในราคา 1,280 เยน แต่มีข้อดีคือ สามารถนั่งต่อไปลงชินะงาว่า หรือ โยโกฮาม่าได้เลย โดยไม่ต้องเปลี่ยนขบวนรถ เป็นรถไฟแบบชั้น 3 มาก่อนได้นั่งก่อน แต่มีตู้นั่งชั้น 2 (เปรียบเทียบตามมาตรฐาน รฟท. นะครับ) หรือ Green Car ให้เลือกจองที่นั่งได้ แต่ต้องเพิ่มเงินอีกหลายอยู่ (ไม่คุ้มหรอก) E217 series จากคุณ : NumAromDee - [ 25 พ.ค. 52 11:06:31 ]

ความคิดเห็นที่ 25 มาให้กำลังใจคุณหนุ่มคนขยันค่ะ ข้อมูลมีประโยชน์มากๆ เลยค่ะ จากคุณ : ColaGirl - [ 25 พ.ค. 52 11:08:05 ]

ความคิดเห็นที่ 26 Vote ใจดีจังค่ะ ขอบคุณมากที่แบ่งปัน ไม่เคยกล้าไปเที่ยวเอง ประเทศที่ไม่ใช้ภาษาอังกฤษ ถ้ามีข้อมูลแน่น ๆ ยังงี้ อาจมีลุ้นลองไปเองค่ะ จากคุณ : ทิวากาล - [ 25 พ.ค. 52 11:08:28 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ประเภทที่ 3 เปลี่ยนไปนั่งรถด่วนพิเศษของรถไฟ Keisei ที่ชื่อ Keisei Skyliner ใช้เวลาเดินทางถึงโตเกียวเร็วที่สุด คือ 51 นาที โดยมีราคาเบากว่า NEX เกือบ 1 ใน 3 คือ 1,920 เยน แต่มีปลายทางในโตเกียวอยู่ที่สถานี Nippori หรือ Ueno เท่านั้น เป็นรถไฟแบบต้องจองที่นั่งก่อนขึ้นเหมือน NEX มีโปรโมชั่นพิเศษขายควบกับ Day Pass ของ Tokyo Metro ด้วย อ่านรายละเอียดตามนี้่นะ http://www.tokyometro.jp/e/open_ticket/index.html Keisei AE 1000 Seires EMU จากคุณ : NumAromDee - [ 25 พ.ค. 52 11:09:45 ]

ความคิดเห็นที่ 28 สวัสดีครับคุณ ColaGirl.. ถ้ามีคำแนะนำอะไรเพิ่มเติม เชิญได้เลยนะครับ สวัสดีครับคุณทิวากาล.. (เห็นชื่อ log-in แล้วนึกถึงดอกราตรีหอม ๆ) อยากบอกว่า ภาษาอังกฤษผมก็ไม่ดี แค่พอเอาตัวรอด ภาษาญี่ปุ่นก็ไม่ได้เรื่อง (อ่านเขียนไม่ได้ ฟังออกนิดหน่อย พูดได้ไม่กี่คำ) แต่เที่ยวญี่ปุ่นมาตลอด เพราะประทับใจ นี่แหละครับ ใครได้ลองไปแล้ว จะต้องไปอีกแน่นอน! ไม่เชื่ออย่าลบหลู่   ====================================== ประเภทที่ 4 ถูกที่สุดในการนั่งรถไฟเข้าโตเกียว คือ นั่งรถด่วนของเคเซ ที่ชื่อ Keisei Line Limited Express ใช้เวลาเดินทางถึง Ueno ใน 71 นาที ด้วยราคา 1,000 เยนถ้วน แต่เป็นรถแบบชั้น 3 ที่นั่งหันหน้าชนกันแบบ BTS ถึงก่อนได้นั่ง ไปทีหลังต้องรอขบวนต่อไป ไม่งั้นยืน ตารางเวลารถไฟเคเซ ดูตามนี้นะครับ http://www.keisei.co.jp/keisei/tetudou/keisei_us/html/o_express.html มีรถวิ่งกันถี่ยิบทั้งวันตั้งแต่ 6 โมงเช้าไปจนเกือบ 5 ทุ่ม จากคุณ : NumAromDee - [ 25 พ.ค. 52 11:15:32 ]

ความคิดเห็นที่ 29 สนามบินที่อยู่คู่กับนาริตะ ก็คือ ฮาเนดะ หรือชื่อทางการก็คือ Tokyo International Airport (HND) เปิดใช้งานมาตั้งแต่ พ.ศ. 2474 เมื่อก่อนคือสนามบินหลักของญี่ปุ่น เลยได้ชื่อเป็น International Airport เหมือนกัน แต่เนื่องจากตั้งอยู่ใกล้เมืองเกินไปเหมือนดอนเมือง (ตอนนั้น)ขยายไม่ได้ ติดทะเล ต้องไปสร้างสนามบินนาริตะเพิ่ม ตอนนี้ให้บริการเฉพาะเที่ยวบินในประเทศ เที่ยวบินเช่าเหมารับจากเกาหลีใต้ จีน หรือ ฮ่องกง และ เที่ยวบินที่บินตรงกับสนามบินเซี่ยงไฮ้ แต่จากความต้องการที่พุ่งกระฉูดของผู้คน และเทคโนโลยีการก่อสร้างสมัยใหม่ ที่ทำให้สามารถถมทะเลสร้างรันเวย์ที่ 4 (ตามรูปที่ระบายสีแดง) ตามกำหนดจะสร้างเสร็จประมาณปีหน้า ทำให้ในอนาคตสนามบินฮาเนดะ จะกลับมาเป็นสนามบินนานาชาติสมชื่ออีกครั้ง เห็นว่าจะมีเที่ยวบินจากไทยไปลงฮาเนดะด้วยนะ ไม่รู้ว่าเป็น TG รึเปล่า? ตอนนี้สนามบินฮาเนดะเปิดตลอด 24 ชั่วโมงแล้ว (มาตั้้งแต่ปี 2550) ชดเชยกับสนามบินนาริตะ ที่เปิดตลอด 24 ไม่ได้ จากคุณ : NumAromDee - [ 25 พ.ค. 52 11:20:18 ]

ความคิดเห็นที่ 30 การเดินทางจากสนามบินฮาเนดะเข้าเมือง มีให้เลือก 2 แบบคือ แบบแรก นั่งรถไฟรางเดี่ยว Tokyo Monorail เข้าเมือง ในราคา 470 เยน โดยใช้เวลาประมาณ 20 นาที มีสถานีปลายทางอยู่ที่ ฮามะมัทสึโจ(Hamamatsucho) ที่อยู่ติดกับสถานี JR Hamanatsucho ลงจากโมโนเรล ก็เดินไปต่อรถ JR Yamanote Line ได้เลย เว็ปทางการ http://www.tokyo-monorail.co.jp/english/ แก้ไขเมื่อ 25 พ.ค. 52 11:23:51 จากคุณ : NumAromDee - [ 25 พ.ค. 52 11:22:10 ]

ความคิดเห็นที่ 31 มาแจกกิ๊ฟก่อนค่ะ ช่วงนี้เข้ามาบ้างไม่เข้ามาบ้าง (เร่ร่อนอยู่ตจว) เลยพลาดกระทู้ดีๆ หลายกระทู้เลย ตามไปเก็บตอน 1 ก่อนค่ะ จากคุณ : sueko - [ 25 พ.ค. 52 11:27:14 ]

ความคิดเห็นที่ 32 แบบที่สอง คือ รถไฟ Kaihin Kyuko (Keihin Electric Express Railway) หรือเรียกย่อ ๆ ว่า Keikyu (เคคิว) สามารถนั่งเข้าโตเกียวไปลงที่ชินะงาว่าในราคา 400 เยน (19 นาที) หรือจะนั่งไปลงโยโกฮาม่าก็แค่ 470 เยน (27 นาที) เว็ปทางการ http://www.keikyu.co.jp/worldwide/index.shtml จากคุณ : NumAromDee - [ 25 พ.ค. 52 11:30:29 ]

ความคิดเห็นที่ 33 เข้ามาเชียร์ และให้กำลังใจคุณหนุ่ม ค่ะ ข้อมูลมีประโยชน์มากๆ เชื่อได้ว่าจะมีอีกหลายคน ที่อ่านแล้ว จะกล้าลุยด้วยตัวเองดูสักครั้ง กัมบัตเตะ  สู้ สู้ นะคะ จากคุณ : sweettea - [ 25 พ.ค. 52 11:33:58 ]

ความคิดเห็นที่ 34 โหวต + เซฟ เจอกระทู้ญี่ปุ่นของคุณหนุ่มทีไร ไม่เซฟไม่ได้แล้ว ปล. ไม่ได้อู้งาน แค่แว๊บมาอ่าน เป็นระยะ ๆ นะคะ จากคุณ : Matira Point (Travellor) - [ 25 พ.ค. 52 11:43:22 ]

ความคิดเห็นที่ 35 สวัสดีครับคุณสึเอโกะ ถึงว่า ไม่เห็นเข้ามาทักทายกันเลย ที่แท้ไปเก็บตัวอยู่ ตจว. ที่เอง ขอบคุณครับที่ยังไม่ลืมกัน ===================================== บางช่วงเวลา มีรถไฟเคคิวบางขบวนเป็นรถด่วนพิเศษที่จะวิ่งร่วมราง (Thru Service) กับ Toei Subway Asakusa Line และ รถไฟ Keisei วิ่งยาวจากฮาเนดะ ไปบนรางของ Asakusa Line สุดปลายทางที่สถานี Oshiage แล้ววิ่งต่อไปบนรางของรถไฟ Keisei ยาวไปถึงสถานี Aoto หมายความว่าเราสามารถนั่งรถไฟจากฮาเนดะ ไปสนามบินนาริตะได้เลย โดยแวะเปลี่ยนขบวนรถไฟแค่ครั้งเดียวที่สถานี Aoto (เปลี่ยนไปนั่ง Keisei Line Limited Express) ค่ารถไฟจ่ายครั้งเดียวแค่ 1,560 เยน ที่ต้นทางเท่านั้น แต่ต้องนั่งกันรากงอกเกือบ 2 ชั่วโมงนะกว่าจะถึงนาริตะ อ่านแล้วงงนึกภาพไม่ออก จากนาริตะจะไปฮาเนดะ เลือกนั่ง Direct Limousine Bus วิ่งลอดอุโมค์ใต้ทะเล Tokyo Bay Aqua-Line เถอะครับ ต่อเดียวถึง แถมเส้นทางอลังการเทคโนโลยี สวยงามขั้นสุดยอดด้วย จากคุณ : NumAromDee - [ 25 พ.ค. 52 11:45:43 ]

ความคิดเห็นที่ 36 แอบมาปาดดดดด เท่าที่ไปด้วยตัวเอง การไปญี่ปุ่นไม่ได้ยากอย่างที่คิด จริงๆคะ อยากจะช่วยแบ่งปันประสบการณ์เหมือนกันคะ สนุกสุดแสนเที่ยวแดนอาทิตย์อุทัย แต่ปีหน้าขอปันใจไปยุโรปหน่อยเถอะ  ก็ซัปโปโร่เค้าต้องไปกุมภานี่น๊า  ลาบ่ได้หรอก จากคุณ : ~Just Relax~ - [ 25 พ.ค. 52 11:46:04 ]

ความคิดเห็นที่ 37 แวะเข้ามาเขียด...เจ้ย!!! ปาด ก่อนค่ะ แล้วค่อยยึดทู้นี้เข้าคอมตัวเองทีหลัง...อิอิ.. ขอบคุณสำหรับน้ำใจดีๆที่มีให้พี่น้องผองเพื่อนในนี้เสมอค่ะ จากคุณ : พะยูนอ้วน - [ 25 พ.ค. 52 11:47:12 ]

ความคิดเห็นที่ 38 แอบนายมาปาดดดดดด จากคุณ : sweetsakura - [ 25 พ.ค. 52 11:47:36 ]

ความคิดเห็นที่ 39 จะมาตามจดข้อมูลต่อพรุ่งนี้นะคะ  ^ ^ o-ya-su-mi-na-sa-i จากคุณ : Berry Trifle - [ 25 พ.ค. 52 11:53:19 ]

ความคิดเห็นที่ 40 มากันเยอะเลย ขออนุญาตทักทายแบบเหมาเข่งนะ สวัสดีคร้าบ.. คุณ sweettea / คุณ Matira Point / น้องป้อ Just Relax / คุณพะยูนอ้วน และ ท่านหญิงซากุระ ขอบคุณนะครับที่มาติดตาม ทักทาย และให้ Give ขออภัยที่ทักกันยาวไม่ได้ ตอนนี้ข้อมูลเยอะมาก ผมรีวิวไป ยังเสียวทำตกทำหล่นอยู่เลยครับ ================================ ใครจะเที่ยวแถบคันไซ ก็น่าจะได้นั่งเครื่องขึ้นหรือลงที่ Kansai International Airport (KIX) เป็นสนามบินที่สร้างตั้งแต่ปี พ.ศ. 2530 บนเกาะเทียมที่เกิดจากการถมทะเลในอ่าวโอซาก้า ไม่ให้เกิดปัญหาเรื่องเวนคืนที่ จนต้องทะเลาะกับชุมชนรอบสนามบินเหมือนที่นาริตะ มีประท้วงจากชาวประมงย่านนั้นอยู่นิดหน่อยเหมือนกัน แต่คราวนี้รัฐบาลมีบทเรียน เลยชดเชยด้วยค่าเวนคืนก้อนโต เรื่องจบได้สวยงามกว่านาริตะ และเพราะอยู่ไกลชุมชนบนเกาะถมทะเล ห่างจากฝั่งตั้ง 3 กิโล เลยสามารถเปิดให้บริการได้ 24 ชั่วโมง ไม่ต้องห่วงมลพิษทางเสียง เหมือนกับสนามบินนานาชาติประเทศประเทศอื่น ด้วยการสร้างที่ต้องปราณีตสุดสุด และต้องใช้เทคโนโลยีวิศวกรรมขั้นสุดยอดในสมัยนั้น เพื่อกันเกาะจม แผ่นดินไหว ไต้ฝุ่นพัดกันสุดสุด ทำให้กว่าจะเปิดเป็นทางการก็ปาเข้าไปปี พ.ศ. 2537 (แต่ก็ยังเร็วกว่าการสร้างสนามบิน 3 ทศวรรษ แถวประเทศสารขันธ์นี้อยู่ดี) สนามบินนี้ บางคนอาจสับสนกับ Osaka International Airport (ITM) หรือที่เรียกว่า สนามบิน Itami อันนั้นเป็นสนามบินเก่าอยู่ในเมือง เคยเป็นสนามบินนานาชาติก่อนมี KIX ตอนนี้ใช้เฉพาะเที่ยวบินในประเทศกับชาเตอร์ไฟลต์ เหมือนที่ฮาเนดะนั่นแหละ คือทั้งฮาเนดะ และ อิทะมิ นี่เป็นสนามบินนานาชาติเก่า ถือเป็น First Class Airport ของประเทศ สามารถใช้เป็นสนามบินสำรอง ถ้าสนามบินหลักอย่างนาริตะหรือคันไซต้องปิดบริการฉุกเฉินได้สบาย เว็ปทางการ  http://www.kansai-airport.or.jp/en/index.asp แก้ไขเมื่อ 25 พ.ค. 52 12:45:12 จากคุณ : NumAromDee - [ 25 พ.ค. 52 12:00:05 ]

ความคิดเห็นที่ 41 คนเขียนหนังสือเที่ยวญี่ปุ่นจะได้ก็อปข้อมูลกระทู้คุณหนุ่มฯไปพิมพ์ขายอีกแร้ววว (แซวไปงั้นแหละ  ยังไม่เคยเห็นหรอกว่ามีรึเปล่า...เพราะไม่เคยหยิบมาดูสักที    ในบีพี ทีเคทีก็มีจนไม่รู้จะซื้อทำไม) จากคุณ : ลอร่า อิงกัลส์ ~* - [ 25 พ.ค. 52 12:00:13 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ^_^ มานั่งรอตอนออกทะเล ^_^' จากคุณ : SkyBox - [ 25 พ.ค. 52 12:05:17 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ไม่ต้องห่วงครับ คุณ Berry Trifle กระทู้นี้คงรีวิวติดต่อกัน ซัก 2-3 วัน มาใหม่พรุ่งนี้ก็ทันครับ ข้อมูลเยอะมาก อยากปล่อยให้หมด แต่ผมยังสับสนงุนงงอยู่บางเรื่องอยู่เลย สงสัยต้องศึกษาไปรีวิวไป สวัสดีหนูน้อยลอร่า.. ผมไม่ห่วงเรื่องก๊อปหรอกครับ เพราะข้อมูลพวกนี้ ผมก็รวบรวม และวิเคราะห์จากข้อมูลของชาวบ้านเค้ามาอีกทีเหมือนกัน เอาไปใช้ได้ครับ ขออย่างเดียว อย่าลอกแบบก๊อปปี้ทุกตัวอักษรและรูปประกอบก็พอแล้ว ให้มีไอเดียของตัวเองมั่ง ไม่ใช่ตะบันลอกกันแป๊ะ ๆ อย่างงั้นก็น่าเกลียดไป =================================== สนามบินคันไซอยู่ไม่ใกล้จากตัวเมืองโอซาก้าเท่ากับนารินะ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30-50 นาที ก็ถึงตัวเมืองโอซาก้า มีทางเหลือกหลากหลายพาหนะทั้งรถไฟ และ รถบัส และ เรือเฟอรี่ที่พาไปขึ้นฝั่งที่โกเบ(29 นาที 1,000 เยน) ตอนแรกสมัยฟองสบู่ญี่ปุ่นยังไม่แตก มีแผนจะสร้างทางรถไฟใต้ทะเลไปขึ้นฝั่งที่โกเบด้วย แต่ต้นทุนมโหฬารงานสร้างมากซ่ะจนดูยังก็ไม่มีทางคุ้มทุน เลยเลื่อนการพิจารณาโครงการไปแบบไม่มีกำหนด (ไม่ได้ยกเลิก แต่ไม่รู้จะมีปัญญาสร้างได้เมื่อไหร่) เหมือนเดิมขอแนะนำเฉพาะรถไฟ เพราะผมชอบ มี 2 เจ้าหลัก ๆ คือ JR (West) กับ นันไค (Nankai) แบ่งขบวนรถเป็น 4 ประเภท เหมือนนาริตะเด๊ะ บอกแล้วว่าคันโตมีอะไร คันไซก็จะมีอย่างนั้น จากคุณ : NumAromDee - [ 25 พ.ค. 52 12:09:16 ]

ความคิดเห็นที่ 44 พักกินข้าวก่อนนะครับ เด๋วมาต่อ.. และมาทักทายกันใหม่ ยังมีอีกเยอะ จากคุณ : NumAromDee - [ 25 พ.ค. 52 12:10:15 ]

ความคิดเห็นที่ 45 รอมานานเลยทีเดียว สำหรับกระทู้นี้ ขอบคุณมากๆค่ะ จากคุณ : fox-uk - [ 25 พ.ค. 52 12:11:22 ]

ความคิดเห็นที่ 46 เฮียหน่ม แล้วถ้าเดินทางไปทางน้ำหล่ะ มีเรือป่ะ เห็นพี่ข้างๆเค้าบอกว่าไปสนามบินทางเรือได้ เค้าบอกว่าเรือเนี่ยพอวิ่งแล้วมันจะยกตัวขึ้นเหลือเพียงสามขาเท่านั้นอ่ะ... พี่เค้าบอกมันส์ดี......อยากรู้อ่ะครับ... จากคุณ : ถนนสายนี้เปรี้ยว - [ 25 พ.ค. 52 12:11:46 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ^ จากคันไซมีเรือเฟอรี่ไปโกเบครับ จากคุณ : ลาบราดอร์สีดำ - [ 25 พ.ค. 52 12:22:38 ]

ความคิดเห็นที่ 48 แอบไปโซ้ยเตี๋ยวเป็ดมาแล้ว กลับมาตอบคุณหนุ่ม ( ตลอดกาล) ว่า จะไปฮอกไกโดตอนปลายกค.ค่ะ ก็รอเพื่อนลูกทำรายละเอียดมาเสนอ อยู่เนี่ย แต่ป้าแอบถามทัวร์ที่มีตัวย่อภาษาอังกฤษไว้แล้วหละ ก็คงไปแน่ๆซักเจ้านึงอ่ะ จากคุณ : ป้าหอมนาน (Sak_Suriyan) - [ 25 พ.ค. 52 12:30:42 ]

ความคิดเห็นที่ 49 มาแบบไม่ต้องอู้เพราะยังไม่เปิดเทอมค่า ทู้เพิ่มเบสิคให้แน่นอย่างนี้ต้องไม่ลืมเก็บเข้าคลังเป็นอันขาด ถึงเวลาจะได้มีงัดออกมาใช้ จากคุณ : yuki_shimi - [ 25 พ.ค. 52 12:35:10 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ซุ่ม.. จากคุณ : ว่านน้ำ - [ 25 พ.ค. 52 12:49:06 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ขอบคุณมากเลยค่า มีประโยชน์กับเราแบบสุด ๆ เลย เพราะยังไงไม่ปีนี้ก็ปีหน้าต้องไปชัวร์ อิอิ จากคุณ : Keya5 - [ 25 พ.ค. 52 12:53:06 ]

ความคิดเห็นที่ 52 สวัสดีครับพี่ฟ้า ก็ออกทะเลมาแล้วนะ ก็อยู่บนเกาะสนามบินคันไซไงล่ะครับท่านพี่ ยินดีที่ข้อมูลนี้ีมีประโยชน์สำหรับคุณ fox-uk นะครับ พี่เปรี้ยวหมายถึงเรือจากสนามบินคันไซไปขึ้นฝั่งที่โกเบใช่มั้ยครับ? พี่หมาดำมาช่วยเฟิร์มให้แล้ว.. ขอบคุณครับ เด๋วถ้าผมหารูปเรือพี่เปรี้ยวว่าเจอ จะเอามาลงให้ดู ป้าหอมได้เที่ยวญี่ปุ่นอีกแล้ว ดีจัง เอารูปสวย ๆ มาฝากเยอะ ๆ นะครับ ฮอคไกโดช่วงหน้าร้อนนี้สวรรค์มาก ยินดีเลยครับน้องยูกิ แล้วเมื่อไหร่จะไปญี่ปุ่นอีกละครับ มีแผนรึยัง? ======================================== วิธีแรก ด้วยรถด่วนพิเศษของ JR ชื่อ Limited Express Haruka เข้าเมืองไปจอดสถานีแรกที่ Tennoji (30 นาที 2,270 เยน) และสามารถนั่งต่อไปลงชินโอซาก้า (49 นาที 2,980 เยน) หรือ ต่อไปลงจนถึงเกียวโตได้ (72 นาที 3,490 เยน) มีวิ่งตั้งแต่ 6 โมงเช้าไปจนถึง 4 ทุ่ม ถ้ามี JR Rail Pass หรือ ซื้อ Kansai Area Pass แบบ 1 วัน 2,000 เยน ก็นั่ง Haruka เข้าเมืองได้ในราคาเดียว (แต่ Pass ชนิดนี้ ใช้นั่งได้แค่ตู้แบบ Non-reserved Seat ถึงก่อนนั่งก่อนนะ) ถ้าไม่มี หรือยังไม่ได้เริ่มใช้งาน JR Rail Pass แนะนำให้ซื้อ Kansai Area Pass แบบ 1 วันสำหรับนั่งเข้าเมืองไปเลย คุ้มมาก แถมยังเอาไปนั่งรถไฟเที่ยวในคันไซได้อีกทั้งวันด้วย แต่ซื้อได้แค่คนละ 1 ใบต่อ 1 Trip เท่านั้นนะ รายละเอียดของ JR West Pass ตามนี้ http://www.westjr.co.jp/english/travel/jrp/index.html 281 Series EMU จากคุณ : NumAromDee - [ 25 พ.ค. 52 12:53:14 ]

ความคิดเห็นที่ 53 เข้ามารอข้อมูลดีๆจากคุณหนุ่มครับ ^^ จากคุณ : Coffee Blended - [ 25 พ.ค. 52 12:54:26 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ดีเจ้า คุณหนุ่ม นานๆจะได้เซ ไฮ กันนะคะ ช่วงนี้ติด  hi5 นิดหน่อยค่ะ หนุ่มๆฟากยุโรปปากหวานเลยเกาะขอบจอบ่อยหน่อยค่ะ เพื่อนในห้องบลูแอดไว้แค่ 2 คนเอง ถ้าใครว่างแวะมาคุยได้นะคะ fang_1995@live.com Nice Monday ........enjoy your work ! จากคุณ : ker yi (ker yi) - [ 25 พ.ค. 52 13:00:48 ]

ความคิดเห็นที่ 55 สวัสดีครับเจ๊ว่าน เปล่าซุ่มเลยเจ๊ บอกมาโต้ง ๆ เป็นอาทิตย์แล้วว่าจะทำทู้ปล่อยของ ก็แบบว่าได้กระทู้ปล่อยของของเจ๊เป็นแบบอย่างในความละเอียดยิบ ๆ นั่นแหละ ยินดีครับคุณ Keya5 ขอบคุณครับ คุณกาแฟ ตามกันทุกตอนแบบนี้ซึ้งมั่ก ๆ =================================== รถไฟ JR แบบธรรมดาไม่ต้องจองที่นั่งก็มี ชื่อขบวน Kansai Airport Rapid Service ไป เทนโนจิ 48 นาที 1,030 เยน โอซาก้า 65 นาที 1,160 เยน  (วิ่งตามเส้นทาง Osaka Loop Line ไปสุดทางที่สถานี Kyobashi) มีรถวิ่งตั้งแต่ 6 โมงเช้าจนถึง 5 ทุ่มครึ่ง ปล. มาแก้ไขข้อมูลสุดทางของรถไฟสาย Kanku Rapid นี้ จากคำแนะนำของท่านพี่หมาดำครับ ขอบคุณนะคร้าบบบ แก้ไขเมื่อ 25 พ.ค. 52 14:22:48 จากคุณ : NumAromDee - [ 25 พ.ค. 52 13:00:58 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ความคิดเห็นที่ 13 เรื่องเงินเยน จากประสบการณ์ของเรานะ เราไปแลกเงินหลายที่มากค่ะ ตั้งแต่ย่านประตูน้ำ และธนาคารกสิกรไทยที่เซนทรัลเวิลด์ สุดท้ายมาแลกที่ธนาคารกรุงเทพที่สุวรรณภูมิ เรทมันเท่ากันเลยค่ะ เลยไม่แน่ใจว่าเรทที่สุวรรณภูมิมันจะสูงกว่าข้างนอกจริงหรือไม่อ่ะค่ะ ตอนแลกก็อยู่ในช่วงเดียวกันนะคะ จากคุณ : oanotai - [ 25 พ.ค. 52 13:02:41 ]

ความคิดเห็นที่ 57 แอบมาทักทายย  เด่วจะไล่ๆๆอ่าน 3 ชม จะอ่านจบหรือป่าวไม่รู้ อิอิ จากคุณ : TahAo - [ 25 พ.ค. 52 13:04:09 ]

ความคิดเห็นที่ 58 สวัสดีครับคุณเค่ออี้.. ผมไม่มี Account ของไหห้าครับ เคยมีแต่ลบทิ้งไปแล้ว แบบว่าไม่มีเวลา Up เลยลบซ่ะ อายเวลาคนอื่นมาเปิดดู และที่สำคัญ.. กลัวติด ขอบคุณครับที่มาทักทาย วันนี้ผมอู้ครับ ไม่ได้ทำงาน กำลังเอ็นจอยกับงานอดิเรก ที่ทำจริงจังกว่างานประจำอยู่ อิอิ.. =================================== อีกเจ้าเป็นรถไฟเอกชนของนันไค มีขบวนที่เป็นรถด่วนพิเศษ ชื่อ Limited Express Rapi:t Beta (ผมไม่ได้พิมพ์ผิดนะ เค้าเขียนว่า Rapi:t แล้วตามด้วยอักษรกรีก ที่อ่านว่า เบต้า แต่ผมหา Font คำนี้ไม่เจอ) ปลายทางมีที่เดียวคือสถานี Numba ในราคา 1,390 เยน ใช้เวลาเดินทาง 38 นาที ถูก เร็ว ดี ใช้ได้.. ต้องจองที่นั่งก่อนขึ้นนะ แต่ถ้าจะต่อรถไฟ JR ก็ต้องลงที่สถานี Shin-imamiya มีรถออกตั้งแต่ 8 โมงเช้า จนถึง 4 ทุ่มครึ่ง หน้าตาประหลาดเหมือนชุดเกราะอัศวิน แต่ดูอีกทีก็เหมือนท่อน้ำวิ่งได้แฮะ   Nankai 5000 Series EMU จากคุณ : NumAromDee - [ 25 พ.ค. 52 13:06:26 ]

ความคิดเห็นที่ 59 เรื่องแลกเงินเยน......จากที่อิชั้นไปครั้งก่อนนะคะ ให้ลูกแลกมาจากแบงค์ ลูกแลกให้ไม่จุใจค่ะ เลยไปแลกอีกที่สุวรรณภูมิ ก็ได้เรทเดียวกันค่ะ 37.44 เอิ๊กกกก อิตอน35 ให้ลูกแลกไว้ ลูกบอกใกล้ๆไปค่อยแลก แล้วเป็นไงล่ะ...... จากคุณ : ป้าหอมนาน (Sak_Suriyan) - [ 25 พ.ค. 52 13:09:53 ]

ความคิดเห็นที่ 60 มานั่งดูต่อแล้วเด้อ จากคุณ : sweetsakura - [ 25 พ.ค. 52 13:12:11 ]

ความคิดเห็นที่ 61 คุณ oanotai ลองไปแลกที่เคาเตอร์ที่อยู่ด้านในอาคารผู้โดยสาร ตรง Duty Free ที่ผ่าน ตม. เข้าไปแล้วดูซิครับ ผมเคยพลาดไปแลกครั้งนึง อึ้งซ้า.. ผมไม่ได้เช็คเรทมานานแล้วละ เพราะจะไปที่ไร ก็แลกมันที่ธนาคารหน้าปากซอยนั่นแหละ สะดวกดี เมื่อก่อนเคยถ่อไปแลกถึงประตูน้ำ พอคำนวณหักค่าน้ำมัน ค่ากิน ค่าช็อปแล้ว ขาดทุนบานเลยครับ.. แต่เห็นเพื่อนบอกว่าเด๋วนี้เรทแยกเงินเย็นของพวกร้านแลกเงิน ก็ไม่ค่อยแตกต่างจากธนาคารเท่าไหร่แล้วนะ สวัสดีคุณ TahAo ตอนนี้ผมยังรีวิวอีกหลายวันครับ เก็บไว้ค่อย ๆ อ่านก็ได้ 3 ชั่วโมงนี่รวมภาค 1 ด้วยรึเปล่าครับ =================================== ถูกที่สุดในการนั่งรถไฟเข้าเมือง ก็ต้อง Nankai Airport Rapid Express 890 เยน (43 นาที) มีรถออกตั้งแต่ตั้งแต่ ตี 5 สี่สิบห้า จนถึง 5 ทุ่มครึ่ง เป็นรถไฟฟ้าหน้าตาธรรมดาแบบเดียวกับ Keisei Limited Express Nankai 1050 Series EMU (รู้สึกว่าขบวนที่ใช้ที่คันไซ จะเป็นรุ่นก่อนหน้านี้หน่อยนึง แต่ผมหารูปแบบชัด ๆ ไม่เจอ มีแต่รูปเห็นแต่หัวรถไฟ) จากคุณ : NumAromDee - [ 25 พ.ค. 52 13:13:27 ]

ความคิดเห็นที่ 62 เด๋วนี้เรทแลกเงินข้างในสุวรรณภูมิเท่ากับข้างนอกแล้วเหรอป้าหอม.. โอ้วประเสริฐมั่ก ๆ จะได้เอา Black List ออกซ่ะที กินข้าวกะอะไรมา ท่านหญิงซากุระ.. วันนี้ที่โรงงานมีอาหารพิเศษ ไก่ทอดกรอบราดซอส กินกะซุปไข่น้ำ อร่อย (แล้วจะลดความอ้วนยังไงละนี่) =========================== เมื่อสนามบินคันไซที่สร้างบนเกาะประสบความสำเร็จ ทางภาคกลาง(จูบุ) ก็อยากได้สนามบินนานาชาติไว้เป็น Hub การบินของตัวเองบ้าง เลยวางแผนสร้าง Chubu Centrair International Airport (NGO) หรือที่เรียกย่อ ๆ ว่า Centrair (ญี่ปุ่นอ่านว่า เซ็นโทะรีเอะ) มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2543 บนเกาะที่เกิดจากการถมทะเลในอ่าวอิเสะ แบบเดียวกันบ้าง คราวนี้มีบทเรียนจากการสร้างสนามบินคันไซมาเยอะ ญี่ปุ่นเค้าเจ็บแล้วปรับปรุง ไม่ได้เจ็บเอามาทุกข์เหมือนบางชาติ ครั้งนี้เลยสามารถวางระบบการบริหารการก่อสร้าง ได้ประสิทธิภาพมากกว่า เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากกว่า และประหยัดงบได้มากกว่าที่คาดเอาไว้ถึง 1 แสนล้านเยน จากที่ตอนแรกคาดว่าจะใช้งบก่อสร้างมากถึงเกือบ 8 แสนล้านเยน (เป็นบ้านเราคงไม่เหลือ แถมไม่พอ จนต้องลดเสป็คห้องน้ำอีก   ) สังเกตรูปทรงสนามบินในรูป ที่สร้างเป็นรูปตัว D ในรูป เค้าออกแบบให้กระแสน้ำสามารถไหลผ่านเกาะได้เป็นปกติ ให้สัตว์น้ำสร้างครอบครัวเจริญเติบโตรอบเกาะได้ตามธรรมชาติ พึ่งเปิดใช้งานรับการจัดงาน Aichi Expo 2005 เมื่อวันที่ 17 กุมภา พ.ศ. 2548 นี่เอง ใช้เป็นทั้งสนามบินนานาชาติ และเที่ยวบินในประเทศ มีรันเวย์เดียว เปิดบริการ 24 ชั่วโมง เว็ปทางการ http://www.centrair.jp/en/ แก้ไขเมื่อ 25 พ.ค. 52 16:20:54 จากคุณ : NumAromDee - [ 25 พ.ค. 52 13:21:09 ]

ความคิดเห็นที่ 63 ขอเซฟนะคะ ขอบคุณมากค่ะสำหรับข้อมูลต่างๆ (>3<) จากคุณ : เรื่อยๆ-เหนื่อยก็พัก - [ 25 พ.ค. 52 13:23:13 ]

ความคิดเห็นที่ 64 สนามบินห่างจากตัวเมืองนาโงย่าประมาณ 40 กิโลเมตร การเดินทางเข้าเมืองมีทั้งรถไฟ รถบัส และเรือเฟอรี่ เหมือนที่คันไซ สะดวกที่สุดในการเข้าเมืองนาโงย่า ก็คือการนั่งรถไฟ คราวนี้มีแค่เจ้าเดียวให้เลือก เป็นรถไฟของบริษัท Nagoya Railroad (เมื่อก่อนเป็นรัฐวิสาหกิจ ชื่อ การรถไฟนาโงย่า) ชื่อรถไฟ Meitetsu (เมเท็ทสึ) ในราคา 850 เยน ใช้เวลาประมาณ 28 นาที จากคุณ : NumAromDee - [ 25 พ.ค. 52 13:24:50 ]

ความคิดเห็นที่ 65 เปล่า.. เจ๊มาซุ่มอยู่กระทู้นี้ อิ๊ๆๆ จากคุณ : ว่านน้ำ - [ 25 พ.ค. 52 13:26:20 ]

ความคิดเห็นที่ 66 ขอบคุณคุณ เรื่อยๆ-เหนื่อยก็พัก เช่นกันครับ ที่เข้ามาติดตามและทักทาย ===================================== ขบวนรถนั่งเข้าเมืองมีหลายแบบ ตามระดับความเร็วและจำนวนสถานีที่จอด แบบที่เร็วสุดหรูสุด คือ MuSky (จริง ๆ ตัวหน้าเขียนด้วยอักษรกรีกที่อ่านว่า มิว แต่ได้ยินญี่ปุ่นอ่านออกเสียงขบวนนี้ว่า เมียว สึไค ) ตามรูป มิวสกลาย คือขบวนสีฟ้า (2200 System) ทางขวามือ ซึ่งถ้านั่งขบวนนี้ ต้องจ่ายเพิ่มจากราคาตั๋วปกติ อีก 350 เยน รวมเป็น 1,200 เยนในการเข้าเมือง ส่วนขบวนสีแดงทางซ้าย (2000 System) เป็น Limited Express แบบปกติ จะมีทั้งตู้แบบมิว กับตู้ธรรมดา ถ้าไม่ได้เลือกนั่งตู้มิว ก็ไม่ต้องจ่ายเพิ่ม รายละเอียดตามนี้นะครับ http://www.meitetsu.co.jp/english/surcharge/index.html จากคุณ : NumAromDee - [ 25 พ.ค. 52 13:30:32 ]

ความคิดเห็นที่ 67 ตาม(จองล้างจองผลาญ)มาอ่านทุกกระทู้ 555 เดี๋ยวค่ำๆตามมาอ่านละเอียดๆอีกรอบนะคะ เผื่อแทรกข้อมูลด้วย (ไม่รู้จะมีให้แทรกบ้างรึป่าว คุณหนุ่มบอกละเอียดเกือบหมดแล้ว 55) จากคุณ : ชิงหมูเกิด - [ 25 พ.ค. 52 13:31:12 ]

ความคิดเห็นที่ 68 คุณหนุ่ม Airport Rapid Service ในคห.55 ต้น/ปลายทาง ที่ Kyobashi เน้อ จากคุณ : ลาบราดอร์สีดำ - [ 25 พ.ค. 52 13:31:40 ]

ความคิดเห็นที่ 69 *** ใส่ข้อความผิดค่ะ *** แก้ไขเมื่อ 25 พ.ค. 52 13:32:19 จากคุณ : Matira Point (Travellor) - [ 25 พ.ค. 52 13:31:49 ]

ความคิดเห็นที่ 70 สวัสดีครับคุณปู.. แค่มาดูก็ดีใจแล้วครับ ขอบคุณครับพี่ลาบราดอร์เด๋วผมจะแก้ไขข้อมูล ขบวนนี้ผมยังไม่เคยนั่งเหมือนกัน แต่ในคู่มือของ TIC คันไซ มันบอกว่าปลายทางอยู่ที่โอซาก้า ก็เลยว่าตามนั้น ว่าแต่ขบวนนี้มันวนซ้ายหรือขวาของคันโจเซนละครับท่านพี่ ทราบมั้ย? ถ้าวนซ้าย แสดงว่าปลายทางอยู่ที่อูเมดะแม่นแล้วละ ถ้าวนขวาก็น่าจะอยู่ที่เคียวบาชินั่นแหละ เออ.. คุณ Matira Point ครับ สงสัยว่าคุณจะตอบคำถามผิดกระทู้แล้วครับ ======================================= บางทีขบวนวิ่งเข้าเมืองนาโงย่า อาจเจอรถหน้าตาแบบนี้ เป็น Meitetsu Limited Express รุ่นเก่าที่ชื่อว่า Panorama Super หน้าตากว้างกว่าปกติ ดูวิวเต็มตา จากคุณ : NumAromDee - [ 25 พ.ค. 52 13:39:26 ]

ความคิดเห็นที่ 71 วนซ้ายอ่ะคุณหนุ่ม จากเทนโนจิ ไป ทางชินอิมมามิยะ นิชคุโจ ไปโอซาก้า แล้วเลยมาสุดทางที่ เคียวบาชิ  (แบบนี้เรียกวนซ้ายหรือวนขวาฟละ ชักงงๆ) ขบวนนี้เมื่อก่อนตอนที่ไปทุนไจก้า ผมขึ้นบ่อยตอนกลับบ้านเพราะจะขึ้นจากเคียวบาชิ ไปลงโอซาก้า แล้วต่อรถไปทางเกียวโต รถมันว่างดีเพราะขึ้นที่ต้นทาง แก้ไขเมื่อ 25 พ.ค. 52 13:50:09 จากคุณ : ลาบราดอร์สีดำ - [ 25 พ.ค. 52 13:49:11 ]

ความคิดเห็นที่ 72 มาเพิ่มให้ครับ การเดินทางเข้าเมืองจาก KIX ในแถบคันไซ มีตัวเลือกที่ราคาไม่แพงอื่นๆอีกครับ นอกจากรถไฟ 1. Airport limousine bus ราคาถูกกว่าแถบคันโตมากๆ เหมาะสำหรับท่านที่พักในบางเส้นทางที่ต้องต่อรถไฟหลายต่อ และไม่อยากแบบกระเป๋าใบใหญ่ๆเปลี่ยนรถไปมา ในหลายเส้นทางใช้เวลาน้อยและสะดวกกว่ารถไฟครับ ส่วนใหญ่แล้วรถจะถึงที่หมายค่อนข้างตามตารางเวลาและควบคุมได้ คนญี่ปุ่นนิยมเดินทางไป Airport ด้วยวิธีนี้มากสูสีกับรถไฟ http://kate.co.jp/pc/index_e.html 2. MK Taxi อย่าโดนขู่ด้วยชื่อ taxi จริงๆแล้วเค้าเป็นบริษัทรถ taxi ที่มีบริการรถตู้รับส่งสนามบิน สำหรับผู้ที่จะเดินทางไป Kyoto หรือ Kobe นี่เป็นทางเลือกที่สะดวกสบาย รถส่งตรงถึงที่พัก มีคนยกกระเป๋าขึ้นรถให้ ราคาก็ไม่ได้แพงอะไร ถ้ามีผู้สูงอายุอยู่ในทริป เป็นวิธีการเดินทางที่ผมแนะนำอย่างยิ่ง ต้องจองล่วงหน้าก่อนทุกครั้งนะครับ ไม่รับผู้โดยสารหน้าเคาน์เตอร์ http://www.mk-group.co.jp/english/shuttle/index.html ปล.  ในคห 8 ของคุณหนุ่ม แก้ 3 เป็น san จะดีกว่าครับ เพราะโรมันจิจะใช้ตัวนี้ออกเสียง ซัง ที่แปลว่า 3 จากคุณ : s7014249 - [ 25 พ.ค. 52 13:52:29 ]

ความคิดเห็นที่ 73 รวมสองกระทู้นั้นแหละค่ะ เด่วจะตามไปอ่านกระทู้ที่ 1 ต่อ ส่วนทู้นี้.. ทดไว้ในใจเด่วมาต่อค่ำๆ ^^ พอดีมีแพลนว่าจะไป ฉลองเรียนจบ (ถ้ามันจบนะคะ - - ) กำลังเป่ายิ้งฉุบ ระหว่างออสกับญี่ปุ่น ค่าตั๋วที่ได้มาพอกัน ที่พักก็พักฟรีๆเหมือนกัน ...เลือกไม่ถูกเลย 5 5 5 5+  แต่ใจอยากไปญี่ปุ่น ติดใจรีวิวของกินทั้งหลาย.. เอาใจช่วยงานอดิเรกคุณหนุ่มคร่า... ซึ้งใจ ได้อ่านกระทู้ดีดี ^______^ จากคุณ : TahAo - [ 25 พ.ค. 52 13:53:13 ]

ความคิดเห็นที่ 74 ขอบคุณมั่ก ๆ เลยครับคุณ s7014249 ที่มาเสริมข้อมูลให้ ผมแก้ข้อมูลใน คห. 8 แล้วครับ ขอบคุณมากที่ทักท้วง รีบพิมพ์ เลยไ่ม่ได้ตรวจคำผิด ติดตามผลงานการตอบคำถามในกระทู้เกี่ยวกับญี่ปุ่นของคุณ s7014249 มาหลายทู้ละ  ตอนนี้ทำงานอยู่ที่ญี่ปุ่นรึเปล่าครับ? ไม่เป็นไรมิได้ครับคุณเต๋า ก็มาแบ่งปันกันตามสมควรนั่นแหละ ขอบคุณมากครับพี่หมาดำที่มาช่วยไขให้กระจ่าง ผมก็ชักสับสนซ่ะแล้วซิว่าตกลงมันเรียกว่าวนซ้าย หรือ วนขวา เอาเป็นว่าผมหาข้อมูลมาเฟิร์มแล้วละว่ามันวนตามเข็มนาฬิกา ปลายทางอยู่ที่เคียวบาชิจริง ๆ เด๋วจะไปแก้ไขข้อมูลให้นะครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : NumAromDee - [ 25 พ.ค. 52 14:13:24 ]

ความคิดเห็นที่ 75 เอาไปรวมเล่มได้เลยนะเนี่ย :-D ขอบคุณที่มาแบ่งปันข้อมูลดีๆนะคะ กำลังปวดหัวกับการจัด route เลย.. ขอให้นายไม่อยู่หลายๆวันนะคะ จากคุณ : พาร์มา แฮม - [ 25 พ.ค. 52 14:21:11 ]

ความคิดเห็นที่ 76 กรี๊ดดดดดดดดดดดด ขอบคุณมากๆเลยนะคะ หากระทู้ ใจดีๆ แบบนี้มานานมาก คือความใฝ่ฝันที่สุดในชีวิต ที่จะได้ไปเที่ยวญี่ปุ่น ด้วยตัวเองงงงงงงง >< เที่ยวๆๆๆ ช้อปปิ้ง กิน เหล่หนุ่ม (อันหลังนี่ คือ ความฝันที่ยิ่งใหญ่ที่สุด) โหวดดดด ให้กิ๊ฟ ด้วย 555+ ขอบคุณจริงๆนะคะ ขอบคุณมากๆ ^^ ป ลิง อยากให้ ทำเป็นหนังสือมากๆเลยค่ะ แบบว่า จะไปรีบแจ้นไปซื้อเลย อิอิ แก้ไขเมื่อ 25 พ.ค. 52 14:26:43 จากคุณ : ยอยศทศกัณฐ์ (palmpada) - [ 25 พ.ค. 52 14:25:35 ]

ความคิดเห็นที่ 77 สวัสดีครับคุณพาร์มา แฮม ยินดีที่ข้อมูลผมอาจมีประโยชน์กับคุณพาร์มาครับ อวยแบบนี้ผมชอบนะเนี่ยะ แต่นายผมแกคงไม่ปล่อยโอกาสทองแบบนี้ให้บ่อย ๆ หรอกครับ ปกติก็ใช้งานกันแทบวายปวงอยู่แล้ว อิอิ.. ======================================== ใครวางแผนเที่ยวเกาะคิวชู มีโอกาสนั่งเครื่องไปลงที่ Fukuoka Airport (FUK) ที่เมื่อก่อนจะเรียกชื่อว่าสนามบิน Itazuke เป็นสนามบินเก่าที่ตั้งอยู่กลางเมืองฟุคุโอกะ เลยเปิดให้บริการแค่ 7 โมง ถึง 4 ทุ่ม เพราะไม่ต้องการให้เสียงเครื่องบินขึ้นลง รบกวนการนอนของชาวบ้านรอบสนามบิน ถึงแม้ว่าจะเป็น Second Class Airport แต่มีทั้งเครื่องในประเทศ และต่างประเทศ (TG ก็มีบินตรง) ขึ้นลงกันจนเต็มเวลา พื้นที่ก็ขยายไม่ได้ เลยต้องสร้างอาคารผู้โดยสารในประเทศ และ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศแยกกันอยู่คนละฟากรันเวย์ เวลาจะนั่งเครื่องระหว่างประเทศ ต้องนั่ง Shuttle Bus ข้ามหัวสนามบินมาจากฝั่ง Domestic Terminal อีกที คุ้น ๆ ว่าทางเมืองฟุคุโอกะมีแผนจะสร้างสนามบินใหม่บนเกาะประดิษฐ์กลางทะเล เหมือนกับคันไซ หรือ Centrair เหมือนกัน แต่พับไปแล้ว เพราะลงทุนสูงเหลือเกิน เว็ปทางการ http://www.fuk-ab.co.jp/english/frame_index.html แก้ไขเมื่อ 25 พ.ค. 52 14:45:20 จากคุณ : NumAromDee - [ 25 พ.ค. 52 14:29:10 ]

ความคิดเห็นที่ 78 กริ๊กกริ้ววว แวะมาแซวพี่หนุ่มค่ะ เป็นผู้เููชี่ยวชาญไปซะแระ @^v^@ จากคุณ : สาวน้อยสุดน่ารัก - [ 25 พ.ค. 52 14:33:03 ]

ความคิดเห็นที่ 79 สวัสดีครับคุณยอยศทศกัณฐ์ (เรียนศิลปากรรึเปล่าเนี่ยะ..) ขอบคุณสำหรับคำชม และขอให้ได้ไปญี่ปุ่นแหล่หนุ่มสมใจไวไวนะครับ เรื่องหนังสือ กำลังปลุกปั้นอยู่ครับ แต่เป็นเรื่องเที่ยวคิวชู ไม่รู้จะเสร็จเมื่อไหร่เนี่ยะ ดองไว้จนเค็ม บก. เบื่อตามทวง ตัดหางปล่อยวัดไปแล้ว เรื่องแนวความรู้เบสิคอย่างนี้ ผมขอเขียนให้อ่านฟรีกันดีกว่าครับ ยังไม่แน่นขนาดเขียนหนังสือขายได้ ยังต้องการการชี้แนะอีกเยอะครับ วันใดวันหนึ่งถ้าคุณยอยศฯ ไปแผงหนังสือ แล้วเจอพ็อกเก็ตบุคบ่นบ้าบอ ที่คนเขียนชื่อ NumAromDee ก็ช่วยอุดหนุ่นกันหน่อยน้า.. =============================== เนื่องจากสนามบินฟุคุโอกะอยู่ในตัวเมืองอยู่แล้ว การเข้าสู่ใจกลางเมืองเลยสุดแสนจะง่าย แค่นั่งรถไฟใต้ดินสาย Kuko จากสถานีที่ใต้อาคารผู้โดยสารในประเทศ แค่ไม่กี่นาที ก็จะถึงสถานีฮาคะตะ หรือ เทนจิน ที่เป็นย่านใจกลางเมืองแล้ว ค่ารถไฟประมาณ 200 เยน จากคุณ : NumAromDee - [ 25 พ.ค. 52 14:38:57 ]

ความคิดเห็นที่ 80 เจาะลึกสนามบิน  เก็บเข้าคลังไว้เป็นความรู้ดีกว่า จากคุณ : ก่วยก๊วยตาลสด - [ 25 พ.ค. 52 14:40:10 ]

ความคิดเห็นที่ 81 สวัสดีสาวน้อยฯ แค่แบ่งปันกันเล่น ๆ หนุก ๆ ครับ ไม่ถึงขนาดน้านร้อกกกกก ==================================== หน้าตารถไฟใต้ดินสายคุโก ของ Fukuoka Subway คุ้น ว่าจะเป็นรุ่น F2000 Series จากคุณ : NumAromDee - [ 25 พ.ค. 52 14:41:50 ]

ความคิดเห็นที่ 82 เข้ามา BP หาข้อมูลเกี่ยวกับญี่ปุ่นทีไร ต้องได้ข้อมูลจากคุณหนุ่มมาด้วยทุกครั้ง ขอบคุณนะคะที่ทำกระทู้นี้ขึ้นมา ช่วยเชียร์ค่ะ สู้ สู้ อย่าเพิ่งมือหักก่อนนะคะ กำลังจะไปฮิโรชิมา ของ PG เที่ยว 4 วันค่ะ รวบรวมข้อมูลอยู่ คงจะไปช่วงตุลา ไม่รู้ว่าใบไม้จะแดงหรือยัง แต่ยังไงก็ไปได้ช่วงนี้ช่วงเดียว รอบนี้จะไปเที่ยวต่างประเทศคนเดียวเป็นครั้งแรก ไม่อยากไปนานค่ะ กลัวน้ำลายบูด เพราะปกติเป็นคนช่างคุยมาก แก้ไขเมื่อ 25 พ.ค. 52 14:52:16 จากคุณ : ด.ญ.แต้มสี - [ 25 พ.ค. 52 14:44:33 ]

ความคิดเห็นที่ 83 แวะมาเยี่ยมครับ ...... เยี่ยมเหมือนเดิม ..... ว่างๆ เดี่ยวนัดกินข้าวกันต่อ งานใกล้เสร็จแล้วครับ จากคุณ : ติวเตอร์ตู่ (CEOTHAI42) - [ 25 พ.ค. 52 14:52:29 ]

ความคิดเห็นที่ 84 ไม่ขนาดนั้นหรอกคุณก๊วย.. ก็เล่าตามที่พอรู้นั่นแหละ ขอบคุณ ด.ญ.แต้มสี (ชื่อ Log-in น่ารักมาก) เช่นกันครับที่เข้ามาติดตามกัน ช่วงตุลาแถวจูโงคุ ใบไม้ยังไม่แดงครับ แถว ๆ นั้นกว่าจะแดงได้ที่ก็คงจะปลายพฤศจิกา หรือต้นธันวา นู่นเลยมั้งครับ ขนาดแถวนิคโก้ปลายตุลายังเหลือง ๆ เขียว ๆ อยู่เลยครับ แต่ญี่ปุ่นน่าเที่ยวทุกฤดูอยู่แล้ว.. ===================================== เห็น ด.ญ.แต้มสี พูดถึง บางกอกแอร์ฯ (PG) ที่บินไปลงฮิโรชิมา ก็เล่าสนามบินนี้ต่อเลย เรื่องมันตรงกันพอดี Hiroshima Airport (HIJ) เป็นสนามบินที่ใหญ่ที่สุดในเขตจูโงคุ รับทั้งเครื่องบินในประเทศและระหว่างประเทศ แต่ส่วนมากเป็นสายการบินในภูมิภาคเอเชียตะวันออกอย่าง ไทย จีน ไต้หวัน ฮ่องกง เกาหลีใต้ นี่แหละ เว็ปทางการ http://www.hij.airport.jp/english/index.html จากคุณ : NumAromDee - [ 25 พ.ค. 52 14:55:37 ]

ความคิดเห็นที่ 85 สวัสดีครับพี่ตู่ ได้เลยครับท่านพี่ เตรียมทำข้อมูลไว้ล่วงหน้า เลยเอามาลงบอร์ดชิมลางซ่ะก่อน ==================================== การเดินทางเข้าเมืองต้องใช้รถบัสสถานเดียว ไม่มีรถไฟ ใช้เวลาประมาณ 50 นาที ค่ารถ 1,300 เยน รายละเอียดตามนี้ http://www.hij.airport.jp/english/access/now/index.php จากคุณ : NumAromDee - [ 25 พ.ค. 52 14:59:02 ]

ความคิดเห็นที่ 86 ยังไม่จบ ท่าจะยาว รู้แต่ว่า อ่านแล้วคิดถึงที่ไปเที่ยวมาจังเลย  หลงรักญี่ปุ่นจัง ฮิโรชิม่าคะ จากคุณ : ~Just Relax~ - [ 25 พ.ค. 52 15:00:10 ]

ความคิดเห็นที่ 87 เดี๋ยวนี้บางกอกแอร์มีลงแค่ฮิโรชิม่าแล้วใช่ไหมครับ จากคุณ : ลาบราดอร์สีดำ - [ 25 พ.ค. 52 15:04:10 ]

ความคิดเห็นที่ 88 ขอบคุณสำหรับรูปรถรางสวย ๆ นะครับน้องป้อ ผมได้ไปนั่งรถรางโบราณ ที่คุมาโมโต้ กับ นางาซากิ มาแล้วชอบมาก ได้ฟิลเมืองเก่าแนวยุโรปดีชมัด เค้าช่างอนุรักษ์กันเหลือเกิน ขนาดว่าโดนปรมาณูบอมบ์ไปจนราบนะเนี่ยะ ยังอุตส่าห์เอากลับมาคืนสภาพได้ ====================================== สนามบินสุดท้ายที่อยากแนะนำคือสนามบินที่ซัปโปะโระ สำหรับท่านที่มี Tip เที่ยวฮอกไกโด แต่ไม่อยากเสียเวลานั่งรถไฟ New Chitose Airport (CTS) หรือคนญี่ปุ่นเค้าเรียก ชินจิโทะเสะ ที่ว่าเป็น New เพราะตั้งอยู่ติดกับสนามบินจิโทะเสะเดิม ที่ตอนนี้ยกให้กองกำลังทางอากาศญี่ปุ่น (JASDF) ใช้เป็นฐานบินไปแล้ว (เมื่อก่อนใช้ร่วมกัน) เพราะความหนาแน่ของเที่ยวบินที่มากขึ้น จนสับหลีกกับเครื่องบินของทหารไม่ไหว เปิดใช้งานเมื่อ พ.ศ. 2534 ตอนนี้เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง เที่ยวบินที่ไปลงมีทั้งในประเทศ และระหว่างประเทศ แต่ก็เป็นเฉพาะเที่ยวบินจากประเทศในเอเชียตะวันออก คล้าย ๆ กับที่สนามบินฮิโรชิม่า ยังไม่มีเที่ยวบินจากไทยบินตรงนะ เว็ปทางการ http://www.new-chitose-airport.jp/en/ จากคุณ : NumAromDee - [ 25 พ.ค. 52 15:06:28 ]

ความคิดเห็นที่ 89 คงงั้นมั้งท่านพี่หมาดำ เพราะเห็นในเว็ปของบางกอกแอร์มีแค่ฮิโรชิม่า เหมือนว่ามีแผนจะไปลง ฟุกุโอกะ กับ Centrair นาโงย่า ด้วย แต่ใน web บอกว่าเป็น Future Route  http://www.bangkokair.com/travel_tools/route-map.php?lang=en ก็ไม่รู้ว่ามันจะเป็น present route เมื่อไหร่ =================================== การเข้าเมืองมีทั้งรถไฟ และบัส สำหรับผมก็ต้องแนะนำรถไฟ เป็นของ JR (Hokkaido) ชื่อขบวน Rapid Airport Express ไปถึงซัปโปะโระในเวลาประมาณ 36 นาที 1,040 เยน มีรถวิ่งกันตั้งแต่หกโมงเช้า ไปยัน 4-5 ทุ่ม ดูดี ๆ นะ อย่าเผลอไปนั่งขบวนที่เป็น Local เพราะจะจอดทุกป้าย เดี๋ยวต้องเกร่วอยู่บนรถไฟเป็นชั่วโมง ใช้รถไฟฟ้ารุ่น 721 Series EMU จากคุณ : NumAromDee - [ 25 พ.ค. 52 15:13:56 ]

ความคิดเห็นที่ 90 ข้อมูลแน่นตามเคยครับ ....^^ ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่บ้าข้อมูลมาก...เพราะฉะนั้น ก็คงไม่แปลก ที่ผู้ชื่นชอบการท่องเที่ยวญี่ปุ่นจะบ้าข้อมูลเช่นกัน ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ จากคุณ : CLK BRABUS - [ 25 พ.ค. 52 15:14:14 ]

ความคิดเห็นที่ 91 ขอบคุณค่ะสำหรับข้อมูลดี ๆ อยากไปบ้างจัง เก็บตังค์ก่อนดีกว่าแล้วเจอกันนะ จากคุณ : @งั้นแหละ@ - [ 25 พ.ค. 52 15:14:57 ]

ความคิดเห็นที่ 92 ลงจากเครื่องบินแล้วก็ต้องเจอด่านแรก Immigration หรือ ตรวจคนเข้าเมือง หรือ ตม. เหล่านี้นี่เอง ผ่าน ตม. ญี่ปุ่นไม่ยากเลยครับถ้าเรา.. ทำตัวปกติเหมือนนักเดินทางเค้าทำกัน ปกติยังไง? ประมวลความเห็นมาจากประสบการณ์ของตัวเอง และของเพื่อน ๆ ในกระทู้ของคุณ QAF~Princess 1. แต่งตัวตามปกติ ไม่ถึงขั้นต้องใส่สูท สวมเชิ้ต ไม่ต้องหล่อลากหรือสวยเริ่ดเหมือนเดินออกจากหนังสือแฟชั่น ถ้าเป็นสาว ๆ อย่าแต่งหน้าเข้มเหมือนไปเดินแบบ ดีที่สุดถ้าไม่ได้กะจะไปทำงานต่อ ก็เสื้อยืดกางเกงยีนส์นั่นแหละ อย่าแต่งตัวโดดเด่นมากไม่งั้นมีแววถูกเข้าห้องเย็น ก่อนเข้าตรวจ Passport แวะเข้าห้องน้ำ หวีผมจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อยก่อนก็ดีนะ ทำหน้าเหมือนโจรเข้าไปอาจเจอข้อหาหน้าเหมือนผู้ก่อการร้าย 2. กรอกข้อมูลในแบบฟอร์มเข้าเมืองให้เรียบร้อยทั้งขาเข้าและขาออก (จะได้ดูเจน ๆ) ถ้ารู้ตัวว่าลายมือไก่เขี่ยอย่างรุนแรง ให้เขียนเป็นตัวพิมพ์ใหญ่ อย่าใช้ตัวเขียน ไม่งั้นถ้าพี่ ตม. อ่านไม่ออก จะโดนซักยาว วิธีกรอกแบบฟอร์มเล่าไปแล้วในภาค 1 3. ถึงพูดญี่ปุ่นได้คล่อง แต่ถ้า Passport คุณไม่ได้บอกว่าเป็น Japanese ก็ไม่จำเป็นต้องไปพูดญี่ปุ่นกับ ตม. อาจจะทัก โอ่ฮะโย หรือคอนนิจิวะ กันได้เล็กน้อย ถ้าตม. ดูเป็นมิตร และทักเราก่อน (ผมเคยเจอ) พูดภาษาอังกฤษดีที่สุด โดยเฉพาะคุณผู้หญิง เพราะถ้าไปพูดญี่ปุ่นกับเค้าคล่อง ๆ และคุณหน้าตาดี เค้าอาจเข้าใจผิดว่าคุณจะแอบทำอาชีพพิเศษ เพราะเหล่าสาวอาชีพอย่างว่า พูดญี่ปุ่นได้คล่อง ตม. เลยถูกสอนให้เพ่งเล็งตรงนี้ 4. ยืนรอด้วยความสงบเสงี่ยม ทำหน้าตาปกติ นิ่ง ๆ เหมือนคนเดินทางที่เจน ๆ แล้ว อย่าไปทะเล้นทะลึ่งกับเจ้าหน้าที่ 5. ถึงคิวปั๊ป ส่ง Passport กับเอกสารให้ ตม. แล้วเค้าก็จะให้สแกนลายนิ้วมือทั้งสองข้าง กับถ่ายรูปที่เครื่อง J-VIS ไม่ต้องห่วง เครื่องมีเมนูภาษาไทย พร้อมรูปประกอบ ตม. เค้าจะปรับภาษาในเครื่องตามสัญชาติใน Passport ของผู้เดินทาง 6. ถ้าฟังอังกฤษสำเนียง ตม. ไม่เข้าใจ อย่าทำท่าตกใจ หรือ ลนลาน เพราะถึงแม้คุณจะเก่งภาษาอังกฤษแค่ไหน แต่ถ้าไม่เคยฟังคนญี่ปุ่นพูดอังกฤษเลย เจอครั้งแรกรับรองฟังยังไงก็งง เพราะภาษาญี่ปุ่นอาภัพสระ ทำให้พูดเสียงควบลำบาก ให้ Excuse me, again please กันไป เดี๋ยวเค้าจะพยายามพูดช้า ๆ ถามเราใหม่เอง ถ้ายังไม่เข้าใจ ยื่นปากกากับสมุดให้เค้าเขียนให้อ่านเลย (เคยเห็นคุณป้าคนนึงทำ) 7. โดยปกติแล้ว ถ้าเรากรอกแบบฟอร์มครบถ้วน และบุคลิกลักษณะเราไม่เป็นที่น่าสงสัย แล้วเราไม่ไปแหย่ไปถามอะไร ตม. ก่อน ตม. ก็จะไม่ถามอะไรเราเลย เพราะเค้ามีการจับเวลาทำงานเพื่อทำเป้า KPI ถ้าไม่จำเป็นเค้าไม่อยากคุยกับเราหรอก ใครมีประสบการณ์เด็ด ๆ ในการผ่าน ตม. เอามาแชร์กันได้นะ เพราะผมผ่านตลอดไม่เคยเจอปัญหา จากคุณ : NumAromDee - [ 25 พ.ค. 52 15:20:11 ]

ความคิดเห็นที่ 93 โพสซ้ำข้อความ ขอลบออกนะ แก้ไขเมื่อ 25 พ.ค. 52 16:50:28 จากคุณ : NumAromDee - [ 25 พ.ค. 52 15:20:42 ]

ความคิดเห็นที่ 94 อยากนั่งรถไฟญี่ปุ่นอีกจัง สนุกกว่านั่งสปริ้นเตอร์ กทม. - เชียงใหม่ ตั้งเยอะแน่ะ จากคุณ : sweetsakura - [ 25 พ.ค. 52 15:22:57 ]

ความคิดเห็นที่ 95 ^ ^ ^ 94 ตัวเอง  อย่าลืมมาดูรูปเค้านะ พรุ่งนี้ว่าจะลงภาค 3 ฮิโรชิม่าคะ  คุณแฟนคลับ อิอิ จากคุณ : ~Just Relax~ - [ 25 พ.ค. 52 15:25:23 ]

ความคิดเห็นที่ 96 หน้าตาเครื่อง J-VIS แบบชัด ๆ เครื่องนี้เริ่มใช้เมื่อ 20 พฤศจิกา ปี 2550 นี่เอง ถ้าเคยทำประวัติไม่ดีเอาไว้ในญี่ปุ่น เข้าเครื่องปั๊ป ประวัติโผล่ จับได้เลย.. จากคุณ : NumAromDee - [ 25 พ.ค. 52 15:26:38 ]

ความคิดเห็นที่ 97 เอ๊ย พี่หนุ่มจะออกพ็อคเก็จบุ๊คหรอคะ ออกเมื่อไรบอกด้วยนะคะ จะช่วยอุดหนุน เผื่อในอนาคตมีโอกาสได้ไปญี่ปุ่นบ้าง ไปตามรอยหาของหร่อยๆแบบพี่หนุ่มบ้างอะ @^v^@ จากคุณ : สาวน้อยสุดน่ารัก - [ 25 พ.ค. 52 15:39:58 ]

ความคิดเห็นที่ 98 ขอบคุณสำหรับคำชมครับ คุณ CLK BRABUS ติดนิสัยมาจากตอนทำงานครับ แบบว่าทำงานกับคนญี่ปุ่นมาเป็น 10 ปี เลยกลายร่างเป็นญี่ปุ่นไปแล้วครึ่งตัว แต่ผมว่าผมบ้ารถไฟมากกว่าครับ อย่างอื่นแค่อยากรู้เฉย ๆ ถ้าให้ศึกษาลึก ๆ ก็ไม่เอาเหมือนกัน มีเวลาเก็บตังค์อีกเยอะเลยครับคุณ @งั้นแหละ@ ช่วงนี้เค้ากำลังหวัดระบาด ไปก็ไม่สนุกหรอกครับ นั่งสปริ้นเตอร์ แถมตัวเรือดด้วยนะ.. ท่านหญิงซากุระ แน่นอนน้องป้อ เด๋วจะปูเสื่อรอเลย ================================== ได้ข่าวว่าตอนนี้สนามบินนาริตะมีเครื่องตรวจ Passport อัตโนมัติ สำหรับชาวญี่ปุ่น และคนต่างชาติที่เข้าออกญี่ปุ่นบ่อย ๆ แล้ว (ต้องลงทะเบียนก่อนใช้งาน) แต่ผมยังไม่เคยเห็นนะ ใครเคยเห็นแล้วเล่าให้ฟังหน่อยซิครับ เอารูปเครื่องตรวจ Passport อัตโนมัติของสนามบินเกาหลี กับแผนผังการวางเครื่องตรวจที่นาริตะมาให้ดูแทน ประเทศนี้อะไรก็อัตโนมัติกันไปซ่ะหมดแฮะ จากคุณ : NumAromDee - [ 25 พ.ค. 52 15:40:30 ]

ความคิดเห็นที่ 99 ปาดดดดดด เก็บไว้ก่อน เดี๋ยวดึกๆ ค่อยกลับมาอ่าน อิอิ ความจริงปลายเดือนหน้า ที่ office ต้องส่งคนไปญี่ปุ่น ไอ้เราก็ present ตัวเองสุดฤทธิ์แล้ว ดันอด โทษฐานก่อนหน้านี้ หนีเที่ยวกระจาย ^_^" อดไปเที่ยวฟรี เอ้ยยย ทำงาน เลยตรู ก้มหน้าเก็บตังส์ไปเที่ยวเองต่อไป ซิก ซิก จากคุณ : ohhioh - [ 25 พ.ค. 52 15:51:44 ]

ความคิดเห็นที่ 100 ก็ว่าไว้ก่อนหน่ะครับคุณน้องสาวน้อยฯ กำลังขีด ๆ เขียน ๆ แต่ด้วยความขี้เกียจ เลยไปได้แค่ประมาณ 20% อยู่เลย เขียนหนังสือมันอยากกว่าทำกระทู้เยอะครับ เพราะลงรูปมากไม่ได้ ต้องใช้คำบรรยายให้เห็นภาพล้วน ๆ เสร็จเมื่อไหร่บอกนอนแน่ มะต้องห่อง..   ====================================== ส่วนเรื่องการผ่านศุลกากร สำหรับผมไม่ค่อยมีปัญหาอะไรครับ เพราะผมไม่(มีตังค์)ซื้ออะไรเยอะแยะอยู่แล้ว กระเป๋าผมมีแต่เสื้อผ้ากับเอกสาร เวลาผ่านด่านเค้าถามว่ามีอะไร ผมก็บอกว่า Just clothing แล้วก็ทำหน้าเฉย ๆ เฉื่อย ๆ (แต่ในใจตูมตาม) บางคนก็ขอเปิดกระเป๋าค้น ๆ ดูนิดหน่อยพอเป็นพิธี เทคติคคือ พอเค้าขอเปิดกระเป๋า ผมก็จะรีบกุลีกุจอให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เค้าเห็นถ้าทางก็รู้ว่าไม่มีพิรุธ บางคนไม่ทันจะเปิดกระเป๋าก็ไล่ให้ผ่านไปซ่ะแล้ว ผมว่าศุลกากรญี่ปุ่นค่อนข้างอะลุ่มอะหล่วยนะครับ อย่าเอาอาหารสด หรือพวกต้นไม้เข้าไปก็พอ ไม่งั้นมีสิทธิถูกจับโยนทิ้ง ถ้าเป็นของกิน หรือกะปิน้ำปลาก็ควรห่อใส่เพ็คใส่ห่อให้เรียบร้อย อย่าให้กลิ่นเล็ดลอด ถ้ามีฉลากบอกว่าเป็นอะไร ก็ให้ติดไปด้วย จะได้ไม่ต้องมานั่งตอบคำถามว่ามันคืออะไร เพราะคนที่ไม่คุ้น เค้าอาจจะเห็นห่อใส่หมูหยองของเรา เป็นห่อกัญชาได้นะ แก้ไขเมื่อ 25 พ.ค. 52 16:05:48 จากคุณ : NumAromDee - [ 25 พ.ค. 52 15:51:51 ]

ความคิดเห็นที่ 101 หัวอกเดียวกันเลยครับคุณ ohhioh แต่ของผมโดนงดเพราะพิษแฮมเบอร์เกอร์บูด ซึ่งก็คงจะไม่ได้ไปอีกนานนนนนนน ถ้าเศรษฐกิจยังไม่ฟื้น เก็บตังค์ไปเองก็ได้ฟุ้ย! เอ๊ย.. เอ๊ย.. นายกลับมาแล้วครับ ทำงานละครับทำงาน ต้องเอาหน้าซ่ะหน่อย เด๋วค่ำ ๆ ผมมาต่อนะครับ ยังเหลืออีกหลายเรื่อง ทุ้นี้่จะโพสเติมไปเรื่อย ๆ ซัก 2-3 วัน แต่ถ้าใครมีข้อมูลเสริม หรือคำถามเพิ่มเติม ทิ้ง คห. ไว้ได้เลยครับ ค่ำ ๆ เจอกันใหม่ครับ.. จากคุณ : NumAromDee - [ 25 พ.ค. 52 15:57:41 ]

ความคิดเห็นที่ 102 วนตามเข็มนาฬิกา ก็ทักษิณาวัตรอ่ะดิ จากคุณ : ว่านน้ำ - [ 25 พ.ค. 52 15:57:43 ]

ความคิดเห็นที่ 103 มีบางวัน นึกถึงคำพูดพี่หนุ่มอยู่เลย ที่บอกว่า เตรียมข้อมูลมาซะหลายเดือน แต่คิดอุตริ ลบซะเกลี้ยง เล่นเอาซึมไปหลายวัน ( 555) เลยคิดว่า การหาข้อมูลไว้ก่อนไปเที่ยว มันก็สำคัญเหมือนกันนะ แต่ท่าทางพี่หนุ่มเชี่ยวอะ ขนาดลบแผนการเที่ยวไปหมด ก็ยังสนุกได้ขนาดนั้น อิอิ @^v^@ แก้ไขเมื่อ 25 พ.ค. 52 16:05:15 จากคุณ : สาวน้อยสุดน่ารัก - [ 25 พ.ค. 52 16:03:00 ]

ความคิดเห็นที่ 104 ให้กิฟ โหวตกระทู้ เก็บเข้าคลัง และทำบุ๊คมาร์ค เรียบร้อยแล้วค่ะ ขอบคุณนะคะ จากคุณ : สาวไกด์ใจซื่อ - [ 25 พ.ค. 52 16:07:46 ]

ความคิดเห็นที่ 105 ขอบคุณครับ ให้กิ๊ฟท์ไม่ได้ ให้กิ๊กแทนได้ไหมครับ จากคุณ : [Cha] - [ 25 พ.ค. 52 16:09:41 ]

ความคิดเห็นที่ 106 ตอนผ่าน ตม. ผมพูดสวัสดีครับ เค้าก็ สวัสดีครับกลับมา พอเสร็จแล้ว ตม.คืน Passport กลับมา ผมก็พูดว่า ขอบคุณครับ เค้าก็ ขอบคุณครับ กลับมาอีก น่ารักเจง ๆ ตม.ญี่ปุ่นเนี่ย จากคุณ : zaxofone - [ 25 พ.ค. 52 16:10:25 ]

ความคิดเห็นที่ 107 ผมเคยเห็นเครื่องตรวจ passport อัตโนมัติ  ตอนขาออกจากญี่ปุ่น  แต่ไม่ได้ถ่ายรูปมาครับ มันจะเป็นตู้ๆคล้ายๆกับตู้โทรศัพท์ (แต่ใหญ่กว่าเล็กน้อย) วางอยู่ตรงแถวๆที่รอคิวตรวจ passport (ตามผังในรูปที่คุณหนุ่มเอามาให้ดู) เวลาใช้งานก็ต้องเข้าไปในตู้ แล้วจะมีเครื่อง scan ในนั้นครับ.....เห็นคนญี่ปุนใช้อยู่บ้าง  ค่อนข้างเร็วและสะดวกดี สิ่งหนึ่งที่น่าชื่นชมสำหรับญี่ปุ่นก็คือ.....บริการสาธารณะของเขาจะเน้นที่การอำนวยความสะดวกต่อประชาชนของเขาเป็นหลักก่อนชาวต่างชาติเสมอๆครับ  ซึ่งสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ไม่ค่อยได้เห็นในเมืองไทยสักเท่าไร แก้ไขเมื่อ 25 พ.ค. 52 16:47:58 จากคุณ : CLK BRABUS - [ 25 พ.ค. 52 16:43:28 ]

ความคิดเห็นที่ 108 คร่อกกกกกกก นอนรอทู้ออกทะเล ทฤษฏีมากๆ อ่านแล้วง่วง เป็นเด็กนักเรียนที่ไม่ดีเลยเนอะ คุณครูสอนเสร็จแล้วปลุกด้วย จะได้เอาการบ้านเพื่อนไปลอก เย้ จากคุณ : bangkok dream - [ 25 พ.ค. 52 16:56:30 ]

ความคิดเห็นที่ 109 ยังไม่เจอเครื่องตรวจพาสปอร์ตของตม.แฮะ แต่เช็คอินของ JAL ที่นาริตะใช้เครื่องอัตโนมัติแล้ว เอาพาสปอร์ตไปสแกนปุ๊บ มันขึ้นเที่ยวบินที่เราจองมาให้เลย จะเลือกที่นั่งเองก็ได้ พอเลือกเสร็จก็ปริ้นบอร์ดดิ้งพาสออกมาให้เรียบร้อย ถ้ามีกระเป๋าโหลดก็ค่อยเอาไปโหลดที่เคาเตอร์โหลดกระเป๋า จากคุณ : ลาบราดอร์สีดำ - [ 25 พ.ค. 52 17:13:44 ]

ความคิดเห็นที่ 110 ขอบคุณนะครับ ^^ จากคุณ : ganblade - [ 25 พ.ค. 52 17:44:21 ]

ความคิดเห็นที่ 111 โหวตและเก็บเข้าคลังก่อนจ้า จากคุณ : MaNgKoOd - [ 25 พ.ค. 52 17:48:06 ]

ความคิดเห็นที่ 112 สักวันฝัน ผม ต้องเป็นจริง ข้าวหน้าปลาไหล จ๋า เอิ๊ก ๆ ขอบคุณ คุณหนุ่ม ครับ จากคุณ : databoy - [ 25 พ.ค. 52 17:54:09 ]

ความคิดเห็นที่ 113 ขอบคุณค่ะ คุณหนุ่มฯ ขอเก็บเงินอีกซักปี จากคุณ : โหระพา - [ 25 พ.ค. 52 18:05:28 ]

ความคิดเห็นที่ 114 งึมงัม งึมงัม จขกท. ยังหนีนายมาไม่ได้ งึมงัม งึมงัม จากคุณ : sweetsakura - [ 25 พ.ค. 52 18:07:08 ]

ความคิดเห็นที่ 115 คอม บัง วะ สวัสดียามเย็นค่ะคุณหนุ่มฯ แพลนกลางปีของเราเรียบร้อยแล้วค่ะ ตั๋วเครื่องบินซื้อไว้แล้ว ที่พักจองแล้ว ทีนี้เหลือแค่เดินไปขอวีซ่ากับให้ H1N1 เริ่มสร่างซาจากเกาะญี่ปุ่น ช่วงนี้ไปไหนมีแต่คนทักไม่เลื่อนเหรอ ไม่กลัวเหรอ...ปลอบใจตัวเองเหลืออีกเดือนกว่าๆ คงจะซาได้ทัน ตามมาเก็บข้อมูลที่ยังขาดเหลือกับมองหน้าเจ้าขบวนรถไฟหน้าตาประหลาด จากคุณ : เจ้าแก้วพิสดาร ณ เมืองปาย - [ 25 พ.ค. 52 18:10:35 ]

ความคิดเห็นที่ 116 คห 96 ใช่มือคุณหนุ่มป่าวคะ 555 จากคุณ : ชิงหมูเกิด - [ 25 พ.ค. 52 18:15:04 ]

ความคิดเห็นที่ 117 แวะมาปาดด้วยคน เห็นกระทู้คุณหนุ่ม มาจ๊ะกับกระทู้ ตม.เกาหลี แล้วมีคนชวนให้มาเที่ยวญี่ปุ่นกันดีกว่า น่าจะเป็นข้อมูล จริงแล้ว เพิ่งไปคันไซ เมื่อ มี.ค. และวางแผนจะไปคันโต มิ.ย. แต่โดน ผบ.ทบ.แบนน่ะ เซ็งเลย จากคุณ : หมอดาริน - [ 25 พ.ค. 52 18:20:37 ]

ความคิดเห็นที่ 118 กลับมาแล้ว.. สวัสดีครับทุกท่าน วันนี้คงต่อได้นิดเดียวนะ ขาดเหลือประเด็นไหน เด๋วพรุ่งนี้เย็น ๆ มาลุยใหม่ เพราะเมื่อเช้าตื่นแต่ยังไม่สว่าง ขับรถจากนนทบุรีมาทำงานที่ระยองฮิ ง่วงมากกกก โดยปกติผมจะไม่รีวิววันจันทร์อยู่แล้วครับ แต่วันนี้อาศัยช่วงนายไม่อยู่ หมูร่าเริง พานายกลับมาแกหัดพูดคำเมืองใหญ่เลยครับ อู้บ่จ้าง.. อู้บ่จ้าง.. เลยต้องแจ้นกลับไป(หาอะไร)ทำงานแป๊ปนึง ทักทายกันก่อน เจ๊ว่าน พอรู้มั้ยครับ ว่าการเคลื่อนที่วนตามเข็มนาฬิกา มันเรียกวนซ้ายหรือว่าวนขวา? ตอนแรกผมก็มั่นใจว่าเป็น วนขวา แต่พอฟังท่านพี่หมาดำคุย ก็เลยงงตามกันไปซ่ะได้ ไม่ได้เชี่ยวหรอกครับน้องสาวน้อยฯ แค่ห่ามไม่รู้จักเวร่ำเวลาเท่านั้นเอง คือ ทริปจูบุเนี่ยะ อารมณ์มันเหมือนพระเจ้าตากทุบหม้อข้าว เพราะดันทะลึ่งลบ Excel File ที่วางแผนไปแล้ว ก็เลยต้องเลยตามเลย ไปแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าเอา แต่ไปแล้วก็รู้ว่า ถ้าเราพอรู้พื้นฐานพวกที่ผมเอามาเล่าทั้ง 2 ภาคนี้หมดแล้ว มันสามารถเอาไปประยุกต์ใช้แก้ผ้าเอาหน้าลอดได้ทั้งนั้น พอมาถึงทริปคิวชูเลยติดใจ คราวนี้ตั้งใจไม่วางแผนจริง ๆ ปล่อยไปตามดวง และข้อมูลที่ TIC ประจำสถานีรถไฟแนะนำล้วน ๆ เค้าชวนให้ไปไหนก็ไป แต่ก็ไม่ผิดหวัง หรืออาจจะเป็นว่า ผมไปด้วยความรู้สึกที่ไม่ตั้งความหวัง มันก็เลยไม่เครียด ขนาดไปเจอบ่ออนเซ็นล้านปี เขรอะสนิท ผมยังกล้าลงแช่เลย (ถามนิดเดียว เริ่มออกทะเลซ่ะแล้ว) ขอบคุณสำหรับกำลังของคุณสาวไกด์ใจซื่อเช่นกันครับ กิ๊ฟรับแล้วชื่นใจ แต่กิ๊กรับแล้วหมดพลัง แถมสิ้นเปลืองทรัพยากร ขอรับเป็นน้ำใจที่มาเยี่ยมเยียนกระทู้กันก็พอแล้วครับคุณ [Cha] คุณ zaxofone ยังเจอทักทายตอบดี ๆ ผมหน่ะซิ มีอยู่ครั้งนึง ดันเห็นแก่ความน่ารักของ ศุลกากรสาวขาวหมวยที่ด่านคันไซนางนึง ต่อคิวเข้าไปด้วยความทะเล้นสุดขีด ผลคือโดนค้นกระเป๋ากระจาย เพราะเค้าคงหมั่นไส้ ตั้งแต่นั้นมาเลิกซ่าส์กับศุลกากรเลยครับ ขอบคุณคุณ CLK BRABUS มากครับ ที่มาแชร์ประสบการณ์ ถ้ามีโอกาสจะลองเก็บภาพมาให้ดูกัน แต่ไม่รู้เค้าจะให้ถ่ายรูปรึเปล่านะ เรื่องการให้ของดีที่สุดแก่คนประเทศตัวเอง เค้าไม่ได้เป็นเฉพาะบริการสาธารณะหรอกครับ แม้แต่สินค้าและบริการทั่วไป พ่อค้าแม่ค้าผู้ให้บริการ เค้าก็จะเน้นทำของดีที่สุดให้คนในประเทศของตัวเองใช้ก่อนครับ ของกินเทพ ๆ ของใช้เนี๊ยบ ๆ นี่ ต้องไปซื้อถึงญี่ปุ่นเท่านั้น ถึงจะได้ของชั้น 1 2 กระทู้ที่แล้วออกทะเลกับเจ้และผองเพื่อนซ่ะจนตัวดำ ขอกลับเข้าฝั่งมั่งเถอะเจ้ดรีม เด๋วคนอ่านที่ชอบสาระเค้าจะหนีหมด สัปดาห์นี้เจ้ดรีมก็เก็บตัวทำสวยไปก่อนละกัน เครื่อง check-in อัตโนมัติเห็นมีใช้มาตั้งนานแล้วนี่ครับท่านพี่หมาดำ ยินดีและขอบคุณที่มาลงชื่อทักทายกันครับ คุณ ganblade ขอบคุณครับคุณมังคุด.. ถ้าคุณ databoy ชอบกินข้าวหนาปลาไหล แนะนำให้หาโอกาสไปนาโงย่า หรือ โอซาก้า ไปกิน ฮิทซึมาบุชิ ให้ได้นะคร้าบ.. ให้ link ไว้ตามรอย http://www.houraiken.com/cgi-bin/houraiken/sitemaker.cgi?mode=page&page=page5&category=1 ยินดีครับคุณโหระพา ปีหน้ากำลังดีเลย หวัดใหญ่หายระบาดพอดี กว่าท่านหญิงซากุระจะกลับมาอ่านอีกรอบ ผมก็หนีกลับบ้านไปแล้วม้าง.. ขอให้หวัด H1N1 ซาไวไว ทันกำหนดเที่ยวนะครับ เจ้าแก้วฯ ไม่ช่ายมือผมหรอกคุณปู.. มือผมอวบกว่านั้นเยอะ แบนเรื่องไข้หวัดใหญ่เหรอครับ คุณหมอดาริน.. แจก Give คืนให้ทุกท่านบ้าง.. จากคุณ : NumAromDee - [ 25 พ.ค. 52 18:58:51 ]

ความคิดเห็นที่ 119 เข้าเรื่อง.. ที่โม้กันมามากมาย เพราะอยากจะบอกว่า.. ผมชื่นชมและหลงใหลกับระบบการคมนาคมของญี่ปุ่นมากครับ เป็นประเทศที่เหมาะแก่การท่องเที่ยวด้วยตัวเองเป็นที่สุด แม้จะไม่รู้ภาษาญี่ปุ่นเลยก็เหอะ เพราะระบบการซื้อตั๋ว หรือจ่ายเงินค่ารถ จะง่ายต่อการทำความเข้าใจ และซื้อกับเครื่องอัตโนมัติแทบทั้งนั้น ถ้าศึกษาข้อมูลไปก่อน หรือมีความชื่นชอบอยู่แล้ว แทบไม่จำเป็นต้องคุยกับนายสถานีหรือคนขับรถคนไหนทั้งนั้นเลยครับ แหล่งเที่ยวทุกแห่งมีการเชื่อมต่อเส้นทางทั้งทางรถยนต์ รถไฟ เรือ เครื่องบิน ที่เด็ดที่สุดคือ มักจะมีหลายทางให้เลือกเสียด้วย อย่างน้อยที่สุดก็มีทั้งรถไฟ และ รถบัสให้เลือก บางทีมีหลายเจ้าแข่งกัน โดยเฉพาะเมืองท่องเที่ยวสำคัญ ๆ อย่างโตเกียว โอซาก้า หรือ เกียวโต แม้แต่ตามบ้านนอกในป่าเขา ก็ยังมีรถบัสวิ่งไปถึงจุดท่องเที่ยวสำคัญครบถ้วน ทุกระบบผ่านการคิดค้นโดยผู้บริหารระบบขนส่งนั้น ๆ เป็นอย่างดี ว่าจะต้องเกื้อหนุน ต่อเนื่อง และขนส่งผู้คนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตรงไหนไม่มีรถไฟ ก็เอารถบัสมาเชื่อม ตรงไหนใช้เวลาเดินทางนาน ๆ ก็มีชินคันเซน หรือ เครื่องบินในประเทศให้เลือก ระบบการขนส่งผู้คนจากย่านนึง ไปอีกย่านนึงของเค้านี่ มีประสิทธิภาพสูง และมากเพียงพอ จนผู้คนไม่จำเป็นต้องซื้อรถส่วนตัวกันมากมาย แต่ที่ไม่สะดวกเท่าเมืองไทย คือ ระบบการขนส่งผู้คนในซอกซอยครับ เพราะถ้าเป็นที่เมืองไทย เราจะมีวินมอไซด์ หรือ วินกระป่อ ตุ๊ก ๆ สองแถว ให้บริการกันแทบทุกซอย ส่วนที่ญี่ปุ่น คือ ใช้จักรยาน หรือไม่ก็เดิน เท่านั้น! การเดินระยะประมาณ 500 เมตร ถึง 1 กิโลของคนญี่ปุ่น เลยถือเป็นเรื่องปกติ ที่เค้าทำกันทุกวัน วันละ 2-3 รอบ เวลาในเอกสาร หรือ เว็ปท่องเที่ยวของญี่ปุ่นบอกว่า ระยะเดิน 10 นาที นั่นเป็น 10 นาทีของคนญี่ปุ่น ซึ่งเค้าเดินเร็วมาก 10 นาทีของเค้านี่เดินได้เป็นกิโลสองกิโลเลยนะครับ ถ้าเค้าบอก 10 นาที สำหรับคนไทยที่เดินช้า ๆ คูณเข้าไปเลยครับ 2 เท่า จะไปญี่ปุ่น ฟิตร่างกายให้ดีก่อนนะครับ จากคุณ : NumAromDee - [ 25 พ.ค. 52 19:10:05 ]

ความคิดเห็นที่ 120 มีข้อควรระวังสำหรับการเดินตามทางเท้าในญี่ปุ่นอย่างนึ่ง ที่อยากแถมให้ ก็คือ จักรยานซิ่ง จักรยานบ้านเค้าส่วนมากขี่กันบนทางเท้านั่นแหละ ไม่ได้มีเลนจักรยานโดยเฉพาะเหมือนที่เราเห็นในสารคดีหรอก อันนั้นก็อาจเจอได้บ้างตามเขตเมืองใหม่ ที่เค้าออกแบบไว้ตั้งแต่สร้างเมือง หรือย่านชุมชนนอกเมืองที่เค้าใช้จักรยานเยอะ ๆ แต่ถ้าเป็นในเมืองตามปกติ เค้าก็ขี่กันแบบในรูปทั้งนั้น โดยเฉพาะตอนเช้า ๆ ที่คนกำลังรีบไปทำงาน หรือตอนค่ำ ๆ หลัง 3-4 ทุ่ม ที่จะมีหนุ่มออฟฟิศขี้เมา ปั่นจักรยานเลื้อยมาตามทางเท้า เค้ามีกฎหมายเมาไม่ขับเหมือนกับบ้านเรา แต่มันไม่ได้เอาถูกเอามาับังคับกับคนขี่จักรยานเลยครับ ผมเกือบโดนจักรยานคนไปสาย เฉี่ยว 2 ครั้ง ที่โตเกียว กับ นาโงย่า กับเคยเกือบโดนจักรยานขี่เมาเฉี่ยวแบบหวิว ๆ อีก 1 ครั้ง ที่ฟุคุโอกะ วิธีง่ายที่สุดที่จะหลีกเลี่ยงจากการแขนขาเดี้ยง คือ เวลาเดินบนทางเท้า ให้เดินไปตรง ๆ อย่าเดินเป็นปูเฉไปเฉมา ไม่งั้นคนขี่จะตัดสินใจไม่ถูก พาลจะประสานงาเอาง่าย ๆ จากคุณ : NumAromDee - [ 25 พ.ค. 52 19:23:32 ]

ความคิดเห็นที่ 121 ไหน ๆ ก็คุยเรื่องการเดินทางแล้ว คุยเรื่องรถไฟกันต่ออีกนิดดีกว่า.. เพราะรถไฟหรือเส้นเลือดใหญ่ในการเดินทางของคนประเทศนี้ รู้ไว้ เที่ยวเองได้แน่นอนครับ และบางทีคุณอาจจะกลายเป็น เท็ทจัง หรือ เท็ทสึโกะ (เขา/เธอผู้หลงรักเหล็ก) เหมือนผมไปอีกคนก็ได้.. มีข้อมูลน่าสนใจมาอุ่นเครื่องกันก่อน ว่าทำไมระบบรถไฟญี่ปุ่นถึงได้น่าหลงใหลกันนัก ประเทศนี้ถึงขนาดไม่ใหญ่โตมาก เล็กกว่าประเทศไทย ผู้คนก็อยู่กันแออัดตามที่ราบชายฝั่งทะเล แต่มีรางรถไฟเลื่อยพันกันไปทั่วทุกซอกของประเทศถึงกว่า 27,000 กิโลเมตร ปริมาณผู้โดยสารทั้งใกล้ไกล นับได้กว่าสองหมื่นล้านคนต่อปี หมายความว่า ใน 1 วัน ประชากรเกือบครึ่งนึงของประเทศนี้ โดยสารรถไฟ! ขนาดเยอรมัน ประเทศที่มีรางรถไฟทั่วประเทศกว่า 40,000 กิโลเมตร ยังมีผู้โดยสารแค่ประมาณ 2 พันล้านคนต่อปีเองครับ มาเรียนเรื่องระบบรถไฟญี่ปุ่นขั้นต้นกันเถอะ.. จากคุณ : NumAromDee - [ 25 พ.ค. 52 19:30:01 ]