ความคิดเห็นที่ 1 เดี๋ยวกลับไปอ่านตอนต้น ๆ ก่อน จะได้ตามทัน จากคุณ : pakeclub - [ 29 พ.ค. 52 14:03:51 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ตีสาม เสียงที่ได้ยินตลอดทั้งคืนในมัณฑะเลย์ ไม่ใช่ความเงียบแต่เป็นเสียงปั่นไฟ คิดแล้วก็ยังน่าเห็นใจคนที่นั่นอยู่ตลอดเวลาเลย พอ ถึงตีสามเป้ก็ยังไม่อยากตื่นเพราะเหนื่อยมากจากการนอนหลับไม่สนิทเพราะนั่ง รถบัสเมื่อคืน ตอนกลางวันก็เที่ยวตลอดวันเลยขอขี้โกงแอบงีบต่อจนถึง ตีสามกว่าๆ และก็มีเสียงเคาะประ****ังมากๆ มีเสียงผู้ชายบอกว่ามีคนมารอรับไปวัดมหามุนี เท่านั้นแหละรีบเด้งตัวอาบน้ำ หยิบกล้อง วิ่งๆไปข้างล่างเลยค่ะ (ET จะมีผู้ชายคนนึงเป็นสตาฟ์ค่อนข้างตื๊อให้ใช้บริการของญาติเค้าที่มีมอเตอร์ ไซค์พอสมควร ถ้าท่านไหนรับราคาได้ก็โอเคค่ะ แต่เป้คิดว่าแพงไปหน่อยกับการเหมาดูพระราชวังมัณฑะเลย์และที่อื่นๆในเมือง เค้าคิดประมาณ 8000 Kyts ) เจอพ่อหนุ่มอายุ 16 คนเดิม กับสามล้อคู่ใจ ระหว่างนั่งรถสามล้อถีบไปวัดก็กลัวใครจะขับมาด้านหลังเสยเอาเพราะว่าถนนมืด มากอย่างที่บอก เกือบๆตีสี่ร้านกาแฟก็ออกมาตั้งร้านกันละ มัณฑะเลย์เป็นเมืองที่ค่อนข้างแย่ในระบบการจัดการเกี่ยวกับปัจจัยพื้นฐานของ ประชาชน ไม่ว่าจะเรื่องถนนหนทางในเมือง ขยะที่มีอยู่เกลื่อนกลาด ไฟฟ้า และแล้วก็ถึงวัดมหามุนีพาญา คนมีมาพอสมควรแล้วค่ะ ตอนนั้นก็ยังไม่ตื่นดีเลยเจอภาพนี้ค่ะ จากคุณ : paeagain - [ 29 พ.ค. 52 14:27:12 ]

ความคิดเห็นที่ 3 Mahamuni Paya ในวัดมีสองจุดที่น่าสนในค่ะ จุดแรกก็แน่นอน เลย มาชมพิธีล้างพระพักตร์พระมหามุนีเนื่องจากชาวพม่าเคารพนับถือมากๆ เชื่อว่าพระพุทธเจ้าประทานลมหายใจให้พระพุทธรูปองค์นี้ วัดหลังนี้เคยโดนไฟไหม้ทำให้ทองที่ปิดอยู่บนองค์พระไหลละลายมากองรวมกันเป็น ก้อนๆที่เห็นค่ะ รวมน้ำหนักแล้วได้ 700 กก. (เยอะนะเนี่ยยยย) ที่ เป้ชอบคือพิธีมีความศักดิ์สิทธิ์มากๆ รู้สึกประทับใจมากๆ ระหว่างนั่งพนมมือสวดมนต์อยู่ ด้านหน้าเป้เป็นเหมือนชาวบ้านที่มาสวดมนต์แต่คิดว่าคงจริงจังมากเพราะ อุปกรณ์พร้อมครบครัน ได้หยิบน้ำทานาคะหอมๆ คิดว่าเป็นน้ำอบมาพรมตรงมือให้เป้ด้วย ใจดีมากค่ะ (หรืออาจจะคิดว่าเราคือคนพม่าเพราะหน้าตาก็กะเหรี่ยงพอได้อยู่) พระ เจ้าอาวาสก็อดทนนะคะเพราะว่าตัวพิธีก็นาน มีแปรงฟันองค์พระด้วย ขั้นสุดท้ายคือ การนำผ้าขนหนูจากผู้ศรัทธาไปเช็ดที่องค์พระแล้วแจกจ่ายคืนชาวบ้านผู้นั้น นำไปบูชาค่ะ ผ้าคิดว่ามีเกือบร้อยผืนต่อวัน จุดที่สองที่น่าชมคือ Six Bronze Khmer Figures ทั้งหมดนี้นำมาจากสมัยอยุธยาค่ะ(LPใช้คำว่าloot แปลว่าปล้นมา) โดยกษัตริย์ Bayinnaung แต่อยุธยาก็ไปเอามาจากAnnkor Wat อีกที สวยดีค่ะ ในวัดมีห้องน้ำอย่างดีด้วยค่ะ (ไม่แน่ใจว่าสำหรับนักท่องเที่ยวอย่างเดียวหรือเปล่า) ค่าเข้า 1000 kyts จากคุณ : paeagain - [ 29 พ.ค. 52 14:27:37 ]

ความคิดเห็นที่ 4 pakeclub *****ยินดีค่ะ ไปเที่ยวด้วยกันค่ะ วัดค่ะ ไม่ชัดเลย จากคุณ : paeagain - [ 29 พ.ค. 52 14:28:26 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ออกจากวัดมาก็ตามหาร้านกาแฟอร่อยๆค่ะ ขอลองอาหารเช้าแบบพม่า กาแฟ ปาท่องโก๋กันบ้าง กาแฟ หวานมากค่ะ มากถึงมากที่สุด ใครที่ไม่ชอบทานกาแฟหวานคงไม่ถูกใจ ปาท่องโก๋ น้ำมัน ที่ทอดดำมาก คิดว่าดำกว่าที่ดำแล้วในเมืองไทยอีก รสชาดแป้งจะออกหวานๆ ไม่ออกเค็มๆเหมือนบ้านเรา ปาท่องโก๋ตัวใหญ่เหมือนทานในฮ่องกงค่ะ กาแฟสองแก้ว ปาท่องโก๋สองตัว (เลี้ยงพ่อหนุ่มคนถีบสามล้อค่ะ) 800 kyts ทาน เสร็จก็ให้หนุ่มสามล้อพาไปสถานีรถบัสเพื่อซื้อตั๋วไปบากัน ราคา 8000 Kyts รถออกมีสามเที่ยว สองเที่ยวเช้า จำเวลาไม่ได้ค่ะ ราว 8-9 โมงเช้าเที่ยวนึง ส่วนเที่ยวดึก 21.00 ค่ะ เป้ไปเที่ยวสามทุ่ม คราวนี้ขอนั่งหน้าสุด หลังคนขับข้างกระจก รับรองไม่มีใครกวนแน่นอน จากคุณ : paeagain - [ 29 พ.ค. 52 14:29:10 ]

ความคิดเห็นที่ 6 หลังจากกลับจากวัดก็กลับมาโรงแรมอาบน้ำอีกรอบให้หายง่วง เชคเอาท์ ตอนนั้นมีเงินจ๊าดเหลือเยอะมากเลยขอเจ้าของเกสต์เฮ้าส์จ่ายเป็นเงินจ๊าด แทนได้ไหม เค้าบอกว่าได้ขอเป็นเงิน 8500 kyts แทน 8 $ 08.30 น. เราก็มาถึงท่าเรือที่เดิม วันนี้สภาพอากาศก็ดีใช้ได้ แต่ยังไม่มีคนมา ถ้าไม่มีใครมาเราก็เปลี่ยนแผนไปเที่ยวเฉพาะในมัณฑะเลย์ทั้งวันแทน 08.45 น. ก็ยังไม่มีใครมา ลุงเจ้าของเรือมาชวนเราคุยเรื่องหวยค่ะ ถามว่าโต๊ด เต็งคืออะไร แกชอบเล่นหวย คงจะจริงค่ะ พม่าร้านขายหวยเยอะมากทุกหัวถนน 08.55 น. และแล้วเราก็ถอดใจว่าคงอดไปมิงกุน กำลังจะเดินกลับออกไปหาหนุ่มสามล้อถีบที่รอว่าถ้าเราไม่ได้ไปมิงกุนก็จะพาไป วังแทน ปรากฏว่าเราเจอ Anna & Joseph ค่ะ ดีใจมาก สุดท้ายก็มีคนมาแชร์ค่าเรือไป สรุปว่าจ่ายไปคนละ ประมาณ 4000 - 4200 kyts จำเนตๆไม่ได้ค่ะ แต่อยู่ในช่วงนี้ จากนั้นเป็นต้นมา เราเลยได้ทำความรู้จัก พูดคุย สนิทกับสองคนนี้ไปเลย ประทับใจค่ะ จากคุณ : paeagain - [ 29 พ.ค. 52 14:30:45 ]

ความคิดเห็นที่ 7 สภาพบ้านเรือน บริเวณแม่น้ำ อยู่อย่างลำบากมากๆค่ะ บ้านก็เป็นแค่ฝาขัด เอาไม้ไผ่มาสานๆกัน ไม่แปลกเลยในช่วงพายุนากีสมาแล้วพม่าจะมีคนเสียชีวิตไปเยอะ เศร้าใจค่ะ เดินทางมาพม่าทำให้เราได้ข้อคิดดีดีกลับไปว่า เมื่อไหร่ที่เริ่มคิดท้อแท้ว่าชีวิตตัวเองลำบาก บินแค่ชั่วโมงเศษๆข้ามมา ที่นี่ยังมีคนลำบากกว่าเราเยอะมากๆค่ะ จากคุณ : paeagain - [ 29 พ.ค. 52 14:31:48 ]

ความคิดเห็นที่ 8 บ้านเรือน จากคุณ : paeagain - [ 29 พ.ค. 52 14:32:11 ]

ความคิดเห็นที่ 9 มิงกุนค่ะ ในรูปเป็นเราสามคนโจเซฟ แอนนา บริเวณนั้นเราเดินไปด้วยกันกับโจเซฟ และ แอนนาตลอดเลย โจเซฟเคยมาเที่ยวเมืองไทยหลายหนแล้ว สองคนประทับใจเมืองไทยมากๆๆๆค่ะ เค้า เป็นชาวอิตาลีเป็นExpat ทำงานที่อินโด กำลังจะกลับอิตาลีเดือนหน้า สองคนนี้บอกว่าถ้าเราไปยุโรปหรืออิตาลีให้เมลบอกเค้า เค้าจะพาเที่ยวค่ะ ดีใจมากๆ มาเที่ยวแล้วได้เพื่อนใหม่ค่ะ จากคุณ : paeagain - [ 29 พ.ค. 52 14:33:01 ]

ความคิดเห็นที่ 10 แล้วเราสามคนก็รีบวิ่งเท้าเปล่าขึ้นมิงกุนอย่างรวดเร็ว ร้อนเท้ามากค่ะ ขึ้นไปนี่แทบลมจับ เนื่องจากวิ่งขึ้นไปเดินแช่แล้วร้อนเท้าค่ะ ระหว่างทางอาจจะมีคนแถวนั้นเอาใบไม้มาให้เหยียบระหว่างขั้นบันได แล้วอธิบายประวัติศาสตร์ของสถานที่เหมือนเป็นไกด์อ่ะคะ (อันนี้เค้าหวังทิปนะคะ) แต่โจเซฟเล่าให้ฟังว่า เค้าเจอผู้หญิงที่มาเล่าเรื่องประวัติศาสตร์ของสะพานอูเบ็งอย่างดี เฟรนด์ลี่มาก ตอนเค้าให้ทิป ผู้หญิงคนนี้ไม่รับค่ะ เค้าเต็มใจต้อนรับนักท่องเที่ยว เป้ไปหกล้มระหว่างปีนๆขึ้นนิดหน่อยด้วยข้างบน เข่าเขียวไปตลอดทั้งทริปที่เหลือเลย วิวจากด้านบนค่ะ จากคุณ : paeagain - [ 29 พ.ค. 52 14:33:36 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ระฆังมิงกุนเทียบกับเด็กๆ จากคุณ : paeagain - [ 29 พ.ค. 52 14:34:32 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ระหว่างที่ปีนเจดีย์มิงกุน ปรากฏว่าโจเซฟกะแอนนา เจอเพื่อนชาวอิตาลีค่ะ ซึ่งเค้าก็เพิ่งมาเจอกันที่พม่า แล้วก็เจอกันตามที่ท่องเที่ยวต่างๆ เหมือนที่เป้เจอเค้าทั้งคู่ตลอดที่มัณฑะเลย์ เราเลยรอสมทบกันไปชม เจดีย์และ Hsinbyume Paya เป็นสถูปที่สร้างระลึกถึง Hsinbyume Princess ค่ะ เป็นการจำลองเกี่ยวกับความเชื่อด้านเขาพระสุเมรุจะมีมหาสมุทรล้อมรอบ จากคุณ : paeagain - [ 29 พ.ค. 52 14:34:50 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ก่อนกลับไปขึ้นเรือตอนบ่ายโมงเพื่อกลับมัณฑะเลย์ มีเรื่อง น่าประทับใจเกิดขึ้นคือ เพื่อนใหม่ที่แอนนากับโจเซฟเพิ่งแนะนำให้รู้จัก ทั้งคู่ขอแวะบ้านพักคนชรา แถวๆนั้นค่ะ เพื่อนำยาจำนวนมากไปมอบให้ เพราะว่าบ้านพักคนชราแห่งนี้ไม่ได้รับการอุปถัมถ์จากรัฐนะคะ แต่ว่าได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติและNGO ซึ้งใจมากๆเลย ทำให้เราคิดว่าต่อไปเราไปเที่ยวที่ไหนก็จะหาข้อมูลสถานที่ๆในประเทศนั้นๆที่ ต้องการความช่วยเหลือแบบนี้ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียน สถานพยาบาล มาเที่ยวด้วยได้ ทำบุญด้วย ชื่นใจค่ะ จากซ้ายไปขวานะคะ โจเซฟ เพื่อนผู้หญิงอิตาลี แอนนา ไกด์ชาวพม่า เพื่อนผู้ชายอิตาลี คนที่ขีดเส้นใต้คือคู่สามีภรรยากัน ที่นำยาไปมอบ จากคุณ : paeagain - [ 29 พ.ค. 52 14:35:25 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ระหว่างทางกลับเรือ โปรดสังเกตุสีโคนไอติม จี๊ดมากค่ะ Tips 1. จริงๆจากท่าเรือเดินมาเที่ยวในมิงกุน จะมีเกวียนเทียมวัว รับจ้างพาเที่ยวอยู่นะคะ เรทตั้งแต่ 1000 -1500 kyts แต่เดินเองก็ได้ค่ะ สถานที่เที่ยวมันใกล้ๆกันหมด 2.ค่าเข้าชมมิงกุนรวมอยู่ใน Fee ของสะกายแล้วค่ะ 3 $ 3.เรือที่พาเข้าชมมิงกุน ไม่ได้อยู่ที่เดียวตรงริมแม่น้ำแบบที่LP (lonely planet)อ้างอิงไว้นะคะ เพราะระหว่างล่องเรือไปก็เห็นเรือลำอื่นๆไปเหมือนกัน และมั่นใจว่าไมใช่เรือของคุณลุงบริษัทเรือที่เป้นั่งมา ลองถามที่เกสต์เฮ้าส์ดูค่ะว่ามีที่อื่นอีกไหม คิดว่าเค้าคงหาเรือของชาวบ้านคนอื่นๆให้ได้ถ้า แต่อาจจะต้องเหมาลำไปหรือแชร์ๆกัน ค่าเหมาลำเรืออยู่ที่ 16500 kyts ไปกลับ 4.ท่านใดที่พอมีเวลาเตรียมหายาสำหรับคนชราที่บ้านพักใกล้ๆมิงกุนไปให้เค้าได้ ก็อย่าลังเลค่ะ เค้าขาดแคลนมาก อยู่ได้ด้วยนักท่องเที่ยวและต่างชาติอย่างพวกเราค่ะ แก้ไขเมื่อ 30 พ.ค. 52 00:16:20 จากคุณ : paeagain - [ 29 พ.ค. 52 14:35:54 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ลืมโพสรูปวัดแรกที่พอลงจากเรือจะมีเด็กๆลากไปชมวัดนี้ก่อนค่ะ จากคุณ : paeagain - [ 29 พ.ค. 52 14:36:57 ]

ความคิดเห็นที่ 16 บ่ายสองก็ถึงมัณฑะเลย์ สามล้อถีบคนเดิมมารอรับไปพระราชวังมัณฑะเลย์ ก่อนไปเราให้เค้าพาไปซื้อตั๋วเครื่องบินจากบากันกลับย่างกุ้ง ทน นั่งรถบัส 14 ชม.ไม่ไหวแล้วค่ะ เราใช้บริการของ New Seven Star Tours เบอร์โทร 60990 โทรไปถามทางก่อนไปซื้อก็ได้ค่ะ ที่อยู่ที่ให้ไว้ใน LP ไม่ตรงกับสถานที่จริงๆ ที่NSST ขายตั๋วราคาถูกกว่าที่เอเจนต์ตรงอินเลขายให้เราค่ะ ถูกกว่าพันกว่าบาทเลยทีเดียว จำราคาที่แน่นอนไม่ได้ค่ะ พนักงานพูดคุยรู้เรื่อง แนะนำค่ะ (ได้ตั๋ว 17.15 Airmandalay) แดดในมัณฑะเลย์แรงมาก อากาศก็ร้อนค่ะ แต่น้อยกว่าบ้านเรา หมวกยังสำคัญอยู่มากๆค่ะ ตอนเข้าชมพระราชวังมัณฑะเลย์เก็บticket 10 $ ที่ใช้จากอังวะ ให้ดีดีนะคะ ต้องตรวจอีกรอบ จากคุณ : paeagain - [ 29 พ.ค. 52 14:37:13 ]

ความคิดเห็นที่ 17 พระราชวังมัณฑะเลย์ จากคุณ : paeagain - [ 29 พ.ค. 52 14:37:34 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ภาพค่ะ จากคุณ : paeagain - [ 29 พ.ค. 52 14:38:12 ]

ความคิดเห็นที่ 19 **** จากคุณ : paeagain - [ 29 พ.ค. 52 14:53:27 ]

ความคิดเห็นที่ 20 หลังจากพระราชวัง เราก็ไปมัณฑะเลย์ฮิลล์ มีน้ำหนึ่งขวด และเดินขึ้นไป เหนื่อยมากๆค่ะ นั่งพักระหว่างทางรอบหนึ่ง จากคุณ : paeagain - [ 29 พ.ค. 52 14:53:54 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เงาเป้กับรถสามล้อ ตัวดำเลยค่ะ แต่อย่าไปกลัวค่ะ จากคุณ : paeagain - [ 29 พ.ค. 52 14:54:22 ]

ความคิดเห็นที่ 22 เก็บตก พระราชวังมัณฑะเลย์ค่ะ จากคุณ : paeagain - [ 29 พ.ค. 52 14:54:55 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ตามมาทันแล้ว เก่งจังครับ ไปเที่ยวคนเดียว ได้ความรู้เยอะดีครับ จากคุณ : pakeclub - [ 29 พ.ค. 52 14:55:05 ]

ความคิดเห็นที่ 24 วิวบนนั้นก็ดีค่ะ หายเหนื่อยเหมือนกัน ถือว่าออกกำลังกาย และแล้วก็ได้เวลาบ๊ายบายมัณฑะเลย์ ไปสู่บากัน ทุ่งเจดีย์ในฝัน ในภาพเป็นเวลาเย็น ตอนกลับไปเอากระเป๋าที่ ET Hotelค่ะ จากคุณ : paeagain - [ 29 พ.ค. 52 14:55:51 ]

ความคิดเห็นที่ 25 pakeclub ****ขอบคุณค่ะ ตามไปสู่เส้นทางรถบัสหฤโหด มัณฑะเลย์ - บากันกันต่อเลยค่ะ เป็นคืนที่สนุก โหด สุดๆค่ะ จากคุณ : paeagain - [ 29 พ.ค. 52 14:56:57 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ...ว้าว ใจถึงดี มาก ๆ  กล้าไปเที่ยวพม่า คนเดียว ... ...ผมอยากไปมาก  แต่ไม่กล้าไปคนเดียว .......... ...จขกท. ช่วยบอกหน่อยว่า จะมีวิธีไปยังไง ... จากคุณ : ซีมาสเตอร์ - [ 29 พ.ค. 52 15:13:17 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ซีมาสเตอร์ *แอร์เอเชียค่ะ แล้วต่อรถบัสระหว่างเมืองช่วงกลางคืน สามคืน สุดท้ายกลับย่างกุ้งด้วยเครื่องบินค่ะ ลองติดตามอ่านดูค่ะ เก็บเป็นข้อมูลได้ค่ะ จากคุณ : paeagain - [ 29 พ.ค. 52 16:03:46 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ตามมาอ่านค่ะ รอดูทะเลเจดีย์นะคะ จากคุณ : มอแมว - [ 29 พ.ค. 52 16:15:58 ]

ความคิดเห็นที่ 29 +++++ไปเที่ยวพม่ากับเป้กันเถอะ++++++เส้นทางหฤโหด มัณฑะเลย์ - บะกัน --------ทุ่งเจดีย์ในฝัน http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E7916990/E7916990.html#7 ขึ้นรถม้ามาเลยค่ะพี่แมว จากคุณ : paeagain - [ 29 พ.ค. 52 16:54:37 ]

ความคิดเห็นที่ 30 สุดยอด จากคุณ : ต้นโพธิ์ต้นไทร - [ 29 พ.ค. 52 18:53:48 ]

ความคิดเห็นที่ 31 กำลังตามไปชม.. จากคุณ : สินธร - [ 29 พ.ค. 52 20:22:32 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ตามด้วย เก่งจริงๆ จากคุณ : tangthai_ss - [ 29 พ.ค. 52 21:11:05 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ชอบกระทู้นี้มากค่ะ เรื่อง Six Bronze Khmer Figures นั้นเป็นเรื่องของพม่าลากไปไทยลากมาจริงๆ เริ่มจากสมเด็จเจ้าสามพระยา กษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยา เสด็จไปตีเมืองพระนคร (นครวัด เขมร) แล้วนำสมบัติมีค่าจากเขมรกลับอยุธยาด้วย มีรูปปั้นบรอนซ์นั้นรวมอยู่ด้วย เมื่อพระเจ้าบุเรงนองตีเอากรุงศรีอยุธยาได้ จึงนำเอาสมบัติจากอยุธยากลับไปหงสาวดีด้วย และแน่นอน มีรูปปั้นบรอนซ์รวมอยู่ด้วย เมื่อพวกยะไข่(อารกัน)ตีหงสาวดีแตกพ่าย ก็เอารูปปั้นบรอนซ์นั้น กลับไปยะไข่ด้วย เมื่อพระเจ้าอลองพญา มหาราชของพม่า ตียะไข่ได้ในกำมือ จึงนำเอาพระมหามุนีมาประดิษฐานไว้ที่อังวะ แน่นอนรูปปั้นบรอนซ์ก็ตามมาด้วย เมื่อมีการย้ายเมืองหลวงจากอังวะ มาที่อัมราปุระ และในที่สุดมัณฑะเลย์ รูปปั้นนั้นก็ติดตามพระมหามุนีมาที่มัณฑะเลย์เช่นกัน เป็นเรื่องของสมบัติผลัดกันชมค่ะ จากคุณ : flymom - [ 29 พ.ค. 52 22:24:05 ]

ความคิดเห็นที่ 34 จากการสังเกตุloginที่ติดตามกระทู้ท่องเที่ยวพม่า จะเหนียวแน่นตามกันตั้งแต่กระทู้แรก แสดงว่าคนที่รักและสนใจอยากไปประเทศนี้มีเยอะเหมือนกันนะคะ ขอบคุณพี่ๆ ต้นโพธิ์ต้นไทร / สินธร /tangthai_ss /flymom ขอบคุณที่พี่flymomมาเพิ่มเติมเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่น่าสนใจมากๆค่ะ ทำให้กระทู้ดูมีสาระกว่าเดิมเยอะโขเลยทีเดียว เพิ่มรอยหยักให้นักเดินทางได้ดีมากๆค่ะ จากคุณ : paeagain - [ 30 พ.ค. 52 00:19:44 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ...ตามมาเที่ยวต่อด้วยคนนะคะสวยจัง^-^ จากคุณ : ปลายฟ้าที่ภูตะวัน - [ 30 พ.ค. 52 00:27:25 ]