ความคิดเห็นที่ 1 มื้อเช้าแสนอร่อยวันนี้ กินกันในห้องนี่เอง (วิถีชีวิตของคนขี้เกียจ) เมนูเด็ดคือแฮมเบอร์เกอร์ที่เหลือมาจากเมื่อวาน (เย็นชืด ~ ไม่เอาไปเวฟด้วยนะ) ราดซอสมะเขือเทศรสเลิศที่ซื้อมาเมื่อวาน คิดว่ามันคงจะพอถูไถไปได้ แต่กินไปคำนึงแล้วไม่ไหวค่ะ ... ขนมปังมันชืดมากๆ เลยเลาะขนมปังออกกินแต่ไก่ข้างใน (ก็รสชาติแย่อีกแหล่ะ) กินเสร็จเลยขอล้างปากด้วยสตรอเบอรี่ที่ยังเหลืออีก 2 - 3 ลูก ก็โอเคแหล่ะค่ะ กินอาหารเช้ากันตายแล้วก็ออกเดินทางค่ะ ... 555 วันนี้ออกเดินทางตอน 9:30 พอเปิดประตูที่พักออกมาแล้วก็ปะทะกับสายลมกรรโชกแรงที่ไม่เคยเจอมาก่อน เคยอ่านมาเค้าบอกว่าโตเกียวช่วงนี้ไม่ค่อยหนาว แต่ถ้าวันไหนมีฝนหรือมีลมจะหนาวมาก เมื่อวานเจอฝน วันนี้เจอลม ... อืมม์ ... ครบแล้วนี่เนอะ เดินเอาหน้าต้านลมออกไปตามซอย รู้สึกถึงสายลมแรงที่ปะทะหน้าตลอดเวลาจนหน้าเกือบชา ความรู้สึกของการเดินต้านลมมันเป็นยังงี้นี่เอง ... นึกได้ว่าในกระเป๋าย่ามเราพกหมวกมาด้วย (แต่ยังไม่เคยได้ใส่เลย) เลยเอาหมวกขึ้นมาสวมปิดหน้าปิดตา แล้วเดินไปขึ้นรถไฟ จากคุณ : hiroko - [ 31 พ.ค. 52 12:31:34 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ขึ้น subway สาย Hibiya มาลงที่สถานี hibiya ค่ะ วันนี้ไม่ค่อยได้ใช้เหรียญเพราะมีบัตรผ่านตลอด ... พอออกมาแล้วก็หลงทันทีเลยค่ะ เดินออกมาเจอ 4 แยกไม่รู้ว่าต้องไปทางไหน เลยลองข้ามถนนไปดูแล้วก็เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นมาซะได้ แยกที่เรากำลังเดินข้ามมันต้องเดินข้าม 2 ไฟแดงต่อกันค่ะ ต้องข้ามไฟแดงแรกมาแล้วเดินอีกนิด (คล้ายๆ เป็นเกาะกลางถนน แต่กว้างกว่าหน่อย) แล้วก็ข้ามไฟแดงที่ 2 ถึงจะเดินไปที่อื่นได้ ขณะที่เรากำลังเดินข้ามไฟแดงที่ 2 นั้นเอง ลมที่แรงมากๆมันพัดเอาหมวกเราหลุดปลิวไปข้างหลังค่ะ (เราเดินต้านลมอยู่) แต่พอดีตอนนั้นเราเกือบจะขึ้นฝั่งแล้ว และไฟแดงก็เปลี่ยนเป็นเขียวพอดี เราเลยรีบเดินไปข้างหน้าต่อ ไม่ได้ย้อนกลับมา พอหันกลับมาดูก็เห็นหมวกเราปลิวเรี่ยไปกับพื้นทีละหน่อย แล้วมันก็หยุดค่ะ พอไฟแดงอีกทีเราเลยข้ามย้อนกลับไปเก็บ แต่ตอนที่เราข้ามกลับมานี่เอง ลมแรงมันก็พัดมาอีก จนหมวกเราปลิวข้ามไปอยู่กลางถนนของแยกแรก ไปหยุดอยู่ตรงกลางเลย แล้วไฟก็กำลังเขียว รถกำลังวิ่ง ไม่รู้จะไปเก็บยังไง ... ระหว่างนั้นก็เลยทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ค่ะ มองทางอื่นไปซะ ไม่รู้ว่ามีใครเห็นรึเปล่าว่าเรากำลังวิ่งตามหมวกอยู่ แล้วพอไฟแดงอีกครั้ง เราก็ไม่เห็นหมวกของเราแล้วค่ะ ไม่รู้ว่ามันปลิวต่อไปอีก หรือว่าใครเก็บไป หรือโดนรถสอยไปแล้วก็ไม่รู้ เราเลยข้ามไฟแดงกลับไปที่จุดเริ่มต้นอีกที เผื่อว่ามันจะปลิวไปอยู่บนฝั่งแล้ว แต่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงา สรุปเราเลยเสียหมวกกำมะหยี่ไป 1 ใบค่ะ หมวกใบนี้เพิ่งซื้อก่อนมาญี่ปุ่น อายุการใช้งานทั้งหมด 30 นาทีค่ะ สั้นจังเนอะ  T  T ชั้นล่างของตึกที่เรายืนอยู่นี้คือสำนักงานการบินไทยค่ะ โอ่โถงดีทีเดียว จากคุณ : hiroko - [ 31 พ.ค. 52 12:45:02 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ตัดใจกับหมวกแล้ว เดินทางต่อดีกว่า จากจุดที่เรายืนอยู่ มองไปก็จะเห็นกำแพงอิฐสูงเป็นแผงซึ่งนั่นคงจะเป็นกำแพงของพระราชวัง Imperial เป้าหมายของเราแน่นอน แต่ก็ไม่แน่ใจว่าทางเข้าอยู่ทางไหน เพราะจากข้างนอกมันมองไม่เห็นตัวพระราชวังค่ะ และเราไม่ต้องการเดินหลงในนี้เพราะวันนี้เราปวดขามากๆ ขณะที่กำลังคิดอยู่ก็มองไปเห็นป้อมตำรวจค่ะ เลยข้ามถนนไปถามคุณตำรวจดีกว่า ... พอเดินเข้าไปหาเท่านั้นแหล่ะ คุณตำรวจที่ยืนอยู่นิ่งๆก็กระตือรือร้นทันที พอเรา "Sumimasen" ใส่เท่านั้นแหล่ะ คุณตำรวจก็รีบ "Hai" อย่างกระตือรือร้น น่ารักมาก (คุณตำรวจยังหนุ่มๆอยู่เลย) ประทับใจคุณตำรวจมากเลยค่ะ เราถามคุณตำรวจว่า Nijubashi อยู่ทางไหน คุณตำรวจแทนที่จะตอบกลับเดินเข้าไปในป้อมยาม เราเลยเดินตามเข้าไป แล้วคุณตำรวจก็งัดเอาแผนที่โตเกียว (เป็นป้ายไม้) อันบะเร่งออกมา (ซึ่งมันยิบย่อยมาก) แล้วคุณตำรวจก็ชี้จุดที่เรายืนอยู่ให้ดู แล้วก็ลากเส้นไปตามแผนที่ พร้อมกับทำหน้าตาคาดหวังว่าเราจะเข้าใจ แต่เรามันพวกหลงทิศกับดูแผนที่ไม่เป็นก็เลยพยักหน้าแบบเหวอๆ เล็กน้อย สุดท้าย คุณตำรวจเลยเดินออกมาชี้ทางข้างนอกให้อีกค่ะ สรุปคือให้เดินตรงไป แล้วข้ามถนนเดินผ่านกำแพงเข้าไปด้านในก็จะเจอสะพานที่ตามหาแหล่ะ จากคุณ : hiroko - [ 31 พ.ค. 52 12:55:23 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เดินผ่านกำแพงเข้าไปแล้วก็เจอกับเก้าอี้นั่งพักผ่อนเรียงราย มีคนมาใช้บริการประปราย จากนั้นก็เดินผ่านลานกรวดอันยาวไกลเลียบคูน้ำ มีคนมาวิ่งออกกำลังกายด้วย มีทัวร์จีนเดินกันมาเป็นขบวน ตอนนี้เริ่มมองเห็นสะพานแล้วค่ะ สะพานนิจูบาชิ หรือชื่อเล่นคือสะพานแว่นตา เนื่องจากเวลามองภาพสะท้อนในน้ำแล้วจะเห็นเป็นเหมือนแว่นตาพอดี ในคูน้ำก็มีหงส์น้อยลอยละล่องอยู่ค่ะ แดดจ้า (แต่ไม่ร้อน) ลมแรงพัดเอาต้นหลิวปลิวไสวสวยดี แก้ไขเมื่อ 31 พ.ค. 52 13:01:48 จากคุณ : hiroko - [ 31 พ.ค. 52 13:00:59 ]

ความคิดเห็นที่ 5 นักท่องเที่ยวทุกคนก็แย่งกันแชะคุณสะพานกันใหญ่ เพราะมันไม่มีอะไรให้ถ่ายนอกจากสะพาน -  -" เราเองก็เหมือนกัน ด้านหลังสะพานจะมองเห็นตัวพระราชวังอยู่ลิบๆ ค่ะ ไกลไปหน่อย ทีแรกนึกว่าจะเห็นใหญ่กว่านี้ซะอีก พระราชวังอิมพีเรียลนี้เป็นที่ประทับขององค์จักรพรรดิ์และพระราชวงค่ะ เดิมคือปราสาทเอโดะ ได้รับการบูรณะมาหลายครั้งเพราะได้รับความเสียหายจากสงครามโลก (โตเกียวโดนทิ้งระเบิดกว่า 100 ครั้ง จึงไม่เหลือปราสาทอะไรไว้ให้ดูเลย) จะเปิดให้เข้าชมด้านในได้แค่ปีละ 2 วันคือวันขึ้นปีใหม่ กับวันคล้ายวันพระราชสมภพขององค์จักรพรรดิ์เท่านั้น จากคุณ : hiroko - [ 31 พ.ค. 52 13:07:57 ]

ความคิดเห็นที่ 6 อีกมุมค่ะ จากคุณ : hiroko - [ 31 พ.ค. 52 13:10:17 ]

ความคิดเห็นที่ 7 แวะมาเยี่ยมครับ ..... แล้วได้ซื้อหมวกใบใหม่ไหมครับ จากคุณ : ติวเตอร์ตู่ (CEOTHAI42) - [ 31 พ.ค. 52 13:11:42 ]

ความคิดเห็นที่ 8 แทน แทน แท้นนนนนน ... ได้เวลา ฟูโมะจัง ออกโรงแล้วค่ะ ^  ^ ฟูโมะจังยืดใหญ่เลย ได้ถ่ายรูปคู่สะพานอันเลื่องชื่อด้วย ... ตอนงัดน้องฟูโมะออกมาเล็งนี่ก็อายเค้าเหมือนกันนะคะ ต้องทำเป็นไม่สนใจใครค่ะ เพราะกว่าจะถ่ายได้โอเคก็กดอยู่หลายแชะเหมือนกัน (คิดว่าถ้ามีเพื่อนมาด้วยคงไม่อายอ่ะนะ) จากคุณ : hiroko - [ 31 พ.ค. 52 13:13:20 ]

ความคิดเห็นที่ 9 คุณติวเตอร์ตู่คะ ขอบคุณที่มาเยี่ยมค่ะ ดีใจๆ เราไม่ได้ซื้อหมวกใหม่ค่ะ จากนั้นก็ใช้ฮู้ดของเสื้อโค้ตแทน ซึ่งมันเจ๋งกว่าหมวกมากๆ ใส่แล้วอุ่นหัวดีแท้ ไม่ต้องกลัวหลุดด้วย วันนี้เราเลยใส่ฮู้ดเกือบทั้งวันเลยค่ะ เพราะลมแรงสุดๆ ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ ด้านซ้ายของสะพานค่ะ คืออะไรไม่รู้แต่เค้าไม่ให้เข้า มีคุณตำรวจยืนเฝ้าอยู่ด้วย ไม่ให้เข้าก็ไม่ง้อค่ะ ยืนถ่ายมันข้างหน้านี่แหล่ะ จากคุณ : hiroko - [ 31 พ.ค. 52 13:18:32 ]

ความคิดเห็นที่ 10 หันหน้าออกจากสะพานจะเจอกลุ่มตึกสูง ซึ่งเราคิดว่าคงจะเป็นย่าน Ginza แหงเลย จากคุณ : hiroko - [ 31 พ.ค. 52 13:19:53 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ด้านขวาของสะพานจะเป็นสวนเล็กๆ ค่ะ ขึงเชือกห้ามเข้าอีกแล้ว ... น้องฟูโมะเลยยืนถ่ายข้างหน้าอีกตามเคย จากคุณ : hiroko - [ 31 พ.ค. 52 13:21:08 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ต้นไม้สวยแปลกดีค่ะ แบบนี้เค้าเรียกบอนไซรึเปล่า หรือเป็นแค่ต้นสนธรรมดา จากคุณ : hiroko - [ 31 พ.ค. 52 13:22:35 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เห็ดคอนกรีตค่ะ เรียงเป็นแถวเป็นแนวอยู่ตรงลานกรวด ตั้งใจทำเป็นที่ให้นั่งเล่นรึเปล่าไม่รู้ เราเลยเข้าไปนั่งแว้บนึงเพราะเมื่อยขามากกกก จากคุณ : hiroko - [ 31 พ.ค. 52 13:23:48 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ฟูโมะ อีกภาพค่ะ จากคุณ : hiroko - [ 31 พ.ค. 52 13:24:46 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เห็นกลุ่มคนที่ดูสะพานเสร็จแล้วเค้าเดินไปทางขวากัน ก็คิดว่าอาจจะมีอะไรสักอย่าง แต่ด้วยความเมื่อยขาและไม่แน่ใจว่าจะมีอะไร เพราะมองไปแล้วก็เห็นแต่ถนน คิดว่าอาจจะเป็นทางออกอีกด้านรึเปล่า ? เลยไม่ตามไป (มารู้ทีหลังว่าเป็นทางไปสวนด้านทิศตะวันออก ที่ซากุระงามนักหนา) ใจอยากจะเข้าไปดูพระราชวังให้ใกล้กว่านี้ เหมือนเคยอ่านมาว่าสามารถเข้าไปเยี่ยมชมสวนด้านในได้โดยต้องลงทะเบียนและจะมีไกด์พาเข้าไป แต่ไม่รู้จะเดินไปทางไหน มองเห็นประตูนี้เข้าเลยลองเดินเข้าไปดูค่ะ จากคุณ : hiroko - [ 31 พ.ค. 52 13:30:22 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เห็นจุดสีดำๆตรงกำแพงด้านขวาของรูปข้างบนมั้ยคะ นั่นคือคุณลุงคนนึงค่ะมายืนเอาตัวอัดกับกำแพงใหญ่เลย คาดว่าเป็นการออกกำลังกายค่ะ อยากถ่ายใกล้ๆเหมือนกัน แต่กลัวคุณลุงว่าเอา พอเดินผ่านประตูมา ก็เจอคุณลุงอาร์ติสกำลังนั่งวาดภาพต้นซากุระอยู่เพียงลำพังค่ะ ลมก็พัดต้นไม้ปลิว ดูได้อารมณ์ดีแท้ อยากเดินไปดูรูปคุณลุงเหมือนกัน แต่มิกล้าเช่นเคย จากคุณ : hiroko - [ 31 พ.ค. 52 13:33:30 ]

ความคิดเห็นที่ 17 นึกว่าประตูนี้จะพาไปสูพระราชวังซะอีก ที่ไหนได้พาเราเดินออกมาข้างนอกซะงั้น เลยได้ถ่ายป้อมปราการด้านนอกเป็นที่ระลึกค่ะ จากคุณ : hiroko - [ 31 พ.ค. 52 13:35:39 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เกาะขอบดูด้วยคนนะคะ จากคุณ : กระต่ายลอยคอ - [ 31 พ.ค. 52 13:37:34 ]

ความคิดเห็นที่ 19 จากตรงนี้ มองข้ามฝั่งไปจะเจอสถานีรถไฟโตเกียวค่ะ เป็นสถานีที่มีสถาปัตยกรรมแบบโบราณ เป็นชุมทางรถไฟต่างๆมากมาย รวมทั้งชินคันเซ็น ตามแพลนคือไปถ่ายรูประยะใกล้ แต่พอเห็นแล้วก็ถอดใจค่ะ เดินอีกไกลเลย เอาเป็นว่าถ่ายมาเป็นที่ระลึกแค่นี้ก็แล้วกันนะ จากคุณ : hiroko - [ 31 พ.ค. 52 13:39:25 ]

ความคิดเห็นที่ 20 คุณ กระต่ายลอยคอ : ยินดีค่ะ ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ ไม่เจอทางเข้าพระราชวัง เลยเดินกลับมาข้างในอีก วนไปวนมาอยู่เนี่ยแหล่ะ ... เมื่อยขาสุดๆ แล้วค่ะ เลยขอนั่งพักซักหน่อย จากคุณ : hiroko - [ 31 พ.ค. 52 13:41:17 ]

ความคิดเห็นที่ 21 พักพอหายเหนื่อยแล้วก็เดินกลับไปที่สะพานอีกค่ะ (รอบที่สามแล้วนะ) เพราะยังไม่ได้รูปตัวเองคู่กับสะพานเลย ตอนนี้คนเยอะแล้วค่ะ ทัวร์จีนมากันเพียบ ด้านหน้าสะพานไม่มีที่ว่างเลย เราเดินไปเดินมา หาว่าจะให้ใครถ่ายให้ดีนะ แล้วพลันก็ได้ยินภาษาไทยอันคุ้นหูดังขึ้นอีกแล้ว มองไปก็เจอ 2 สาวกำลังผลัดกันถ่ายรูปอยู่ เลยเดินเข้าไปเสนอตัวถ่ายรูปคู่ให้ค่ะ เสร็จแล้วก็ตามระเบียบ "ถ่ายให้เรามั่ง" เลยได้รูปคู่สะพานมาในที่สุด จากคุณ : hiroko - [ 31 พ.ค. 52 13:51:18 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ก่อนจะกลับออกมาก็ยังไม่ตัดใจกับพระราชวังค่ะ ยืนคิดประโยคอยู่นานเลยว่าจะถามคุณตำรวจว่าไงดี สุดท้ายเลยถามว่า " Kokyo no naka ni haitte mo ii desu ka " (เข้าไปในพระราชวังได้รึเปล่าคะ) <= คาดว่าใช้ผิดแน่เลย  คุณตำรวจตอบมาด้วยภาษาอังกฤษว่า " Everyday Close" โอเคค่ะ ตัดใจล่ะ ไปที่อื่นต่อดีกว่า เป้าหมายต่อไปคือกินซ่าค่ะ ย่านหรูของโตเกียว (ส่วน Hie Jinja นั่นยกเลิกไปแล้ว เพราะเผื่อเอาไว้ถ้าเวลาเหลือเท่านั้น) มองไปทางตึกสูงๆแล้วก็ดูไม่ไกลเท่าไหร่ แถมยังเคยอ่านมาว่าเดินจากพระราชวังไปได้ เลยตัดสินใจเดินไปค่ะ (งกอีกล่ะ) เพื่อความแน่ใจเลยเดินกลับไปแวะถามคุณตำรวจที่ป้อมคนเดิมก่อนค่ะ คราวนี้เข้าไปถามว่า Ginza ไปทางไหน คุณตำรวจก็ชี้ไปที่ตึกสูงๆนั่นแหล่ะ ก่อนจากมาคุณตำรวจยังอุตส่าห์ถามอีกว่า ที่บอก Nijubashi ไปน่ะ เข้าใจไหม? คุณตำรวจน่ารักที่สุดเลยค่ะ เสียดายไม่ได้ขอถ่ายรูปคุณตำรวจไว้ เดินบนฟุตบาทกับข้ามถนนมาเรื่อยๆ ก็จะเจอตึกสูง อลังการแบบนี้ค่ะ จากคุณ : hiroko - [ 31 พ.ค. 52 14:00:16 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ที่ย่านนี้ เราจะเจอหนุ่มสาวแต่งตัวดูดีเต็มไปหมด ตอนเราไปกำลังเที่ยงด้วยมั้ง เลยเจอหนุ่มสาวออฟฟิศออกมาเดินกันเพียบ เดินไปก็จะเจอตึกกับหน้าร้านสวยๆ เพียบเลยค่ะ อยากถ่ายรูปมาเหมือนกัน แต่ก็เกรงใจเจ้าของเค้า แล้วก็ไม่ค่อยมีใครถ่ายรูปเป็นเพื่อนด้วย ยืนเล็งอยู่คนเดียวมันรู้สึกแปลกๆ ก็เลยเดินผ่านอย่างเดียว ตึกห้าง Waco ค่ะ สัญลักษณ์ของ Ginza จากคุณ : hiroko - [ 31 พ.ค. 52 14:04:25 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เป้าหมายของการมา Ginza ของเราคือร้านนี้ค่ะ Itoya เป็นร้านเครื่องเขียน 7 ชั้น พอเข้าไปถึงก็ละลานตากับแผนกการ์ดอวยพรที่มีเยอะมากๆ และสวยมากๆ โดยเฉพาะการ์ด Popup แต่ราคาก็ไม่ธรรมดาเหมือนกัน เราชอบมากๆที่เค้ามีกระดาษการ์ดว่างๆ เอาไว้ให้ประดิษฐ์โปสการ์ดเอง แล้วก็ชุด Stamp สารพัดเซ็ต เห็นแล้วอยากได้ไปหมด เสียเวลาอยู่ตรงโซนการ์ดนี่นานทีเดียว ส่วนชั้นบนๆก็แตกต่างกันไปค่ะ มีทั้งเครื่องเขียนทั่วๆไป ปากกา ดินสอ สมุด ออร์แกไนเซอร์ กระดาษญี่ปุ่น แฟ้ม ฯลฯ ร้านนี้ถึงจะมี 7 ชั้นแต่ว่าพื้นที่ไม่กว้างเท่าไหร่ เดินไม่นานก็ครบแล้วค่ะ และเราก็ไม่ได้อะไรออกมาจากร้านนี้เลย เพราะว่าอารมณ์ช็อปยังไม่มา (วันที่ 3 เข้าไปแล้วนะ) ตอนนี้เลยได้แต่นั่งนึกเสียดายค่ะว่าน่าจะซื้อๆมานะ ในไทยมันหาไม่ได้ซักหน่อย ... -  -" จากคุณ : hiroko - [ 31 พ.ค. 52 14:10:19 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ตอนนี้หิวข้าวมากแล้วค่ะ เลยเดินหาอะไรกิน เดินผ่านร้านสปาเก็ตตี้ก็ไม่ยอมเข้าไปกินอีกเพราะว่ามาญี่ปุ่นต้องกินอาหารญี่ปุ่น เจอร้านราเม็งน่ากินแต่มันต้องเดินลงบันไดแคบๆไปใต้ดินก็ไม่เอาอีก เดินเข้าไปในห้างก็หาอะไรกินไม่ได้ ลงไปชั้นใต้ดินของห้างก็มีของกินเพียบแต่เป็นซื้อกลับบ้าน ไม่มีที่ให้นั่งกิน หิวจนปวดท้องอีกแล้วสิ เดินทะลุไปมา วนไปวนมา ก็ยังหาที่กินไม่ได้ จนบ่ายสองเข้าไปแล้ว ... (เชื่อว่าคงไม่มีใครไปโตเกียวแล้วเดินหาของกินทรหดเท่านี้หรอกมั้ง) เลยว่าจะหิ้วท้องไปหากินแถว Roppongi ดีกว่า พอเดินลงสถานีไปแล้วก็คิดว่าสถานี Ginza มันใหญ่ขนาดนี้มันต้องมีร้านให้กินสิ ก็เลยเดินหาจนทั่ว (อาศัยว่ามีบัตรผ่าน เลยเดินทะลุ Gate กันมันส์เลย) จนมาเจอเอาโซนร้านอาหารเล็กๆ ชื่อว่า Palmy Ginza อยู่ตรงตึก Sony มีร้านให้เลือกกินประมาณ 5 - 6 ร้านค่ะ เราเลยเลือกกินราเมนร้านนี้ เมนูนี้เลย น่ากินจัง จากคุณ : hiroko - [ 31 พ.ค. 52 14:17:42 ]

ความคิดเห็นที่ 26 นี่เป็นราเมนชามแรกในโตเกียวของเราค่ะ อุตส่าห์ถ่ายรูปหน้าร้านไว้ให้คนขายดู แต่ที่เมนูก็มีรูปเหมือนกัน คุณป้าท่าทางใจดีมารับออเดอร์ เราเลยชี้รูปให้ดูแล้วบอกว่าเอาอันนี้ คุณป้าถามกลับมาเป็นภาษาต่างดาวฟังไม่ออก คุณป้าเลยได้แต่ความเงียบกลับไป (555) แต่คุณป้าไม่ละความพยายามค่ะ คราวนี้ถามใหม่ ช้าๆ ฟังรู้เรื่องแค่ Noodle, Biggu ฟังออกล่ะ ให้เลือกใหญ่กับเล็กแน่ๆเลย (ถึงไม่รู้ว่าอะไรใหญ่ ก็จะตอบว่าเล็กค่ะ เพราะเราเป็นคนกินน้อย) แต่ทำไมมี Biggu (Big) แล้วไม่มี sumoru (small) อ่ะ พอคุณป้าพูดอีกทีเลยจับได้ว่า เค้าใช้ Biggu คู่กับ Surimu (Slim) นี่เอง แบบนี้ต้องหมายถึงชิ้นหมูชัวร์ เลยตอบไปว่า Surimu desu. รอแป๊บเดียวก็ได้ราเมนชามนี้มากินค่ะ รสชาติอร่อยค่ะ แต่เรากินไม่หมดเพราะแอบเลี่ยน และชามมันใหญ่เกิน จากคุณ : hiroko - [ 31 พ.ค. 52 14:23:54 ]

ความคิดเห็นที่ 27 อิ่มแล้วนั่งพักขาต่ออีกหน่อย ก่อนจะออกมาขึ้นรถไฟไป Roppongi ค่ะ สถานีนี้ดีมาก พอขึ้นบันไดเลื่อนมาก็เจอ Roppongi Hills เป้าหมายทันทีเลย ทางขึ้นจากสถานีค่ะ อลังการงานสร้างจริงๆ จากคุณ : hiroko - [ 31 พ.ค. 52 14:28:09 ]

ความคิดเห็นที่ 28 มาถึง Roppongi Hills ต้องถ่ายแมงมุมยักษ์สูง 10 เมตร สัญลักษณ์ของที่นี่ค่ะ ตรงกลางเป็นโคมไฟ มีฝรั่งคนนึงยืนถ่ายอยู่ก่อนแล้ว ตรงนี้ลมแรงมาก ตัวจะปลิวให้ได้ เลยต้องไปยืนแอบมุมตึกก่อน จัดการกล้องให้เรียบร้อยแล้วค่อยออกไปปฏิบัติการจับแมงมุมค่ะ รูปนี้ถ่ายจากมุมตึกค่ะ ลมแรงมากๆ ออกไปไม่ไหว จากคุณ : hiroko - [ 31 พ.ค. 52 14:29:36 ]

ความคิดเห็นที่ 29 รูปข้างบนเห็นเงาตึกเยอะไปหน่อย เลยต้องเอาหน้าสู้ลมเข้าไปถ่ายใกล้ๆ ค่ะ จากคุณ : hiroko - [ 31 พ.ค. 52 14:31:01 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ฟูโมะถ่ายบ้างนะ จากคุณ : hiroko - [ 31 พ.ค. 52 14:31:54 ]

ความคิดเห็นที่ 31 รูปนี้เข้าไปถ่ายใต้ตัวแมงมุมค่ะ จะโดนจับกินมั้ยเนี่ย~ จากคุณ : hiroko - [ 31 พ.ค. 52 14:32:57 ]

ความคิดเห็นที่ 32 จากนั้น ก็เดินเล่นข้างในตึกค่ะ ข้างในก็จะเป็นเหมือนห้าง มีร้านค้ามากมาย มีคนเดินประปราย ค่อนข้างจะเงียบๆ หน่อย เดินไปเดินมาก็ทะลุออกมาข้างนอกค่ะ ด้านหลังตึกนี้มองเห็นโตเกียวทาวเวอร์ซะด้วย ขอส่องโตเกียวทาวเวอร์ระยะไกลก่อนที่จะได้ขึ้นไปในตอนเย็นค่ะ ลมข้างบนนี้ยิ่งแรงกว่าข้างล่างอีก แรงจนหนาว มือเย็นเฉียบเลย กดแชะไปหลายรูปก็ไม่ได้ดั่งใจเพราะถ่ายกี่ที โตเกียวทาวเว่อร์ก็ไม่ตรงซะทีเพราะว่าลมมันทำมือเราสั่นค่ะ กว่าจะได้รูปนี้มาก็ถ่ายไปเป็น 10 แชะเลยค่ะ จากคุณ : hiroko - [ 31 พ.ค. 52 14:37:41 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ฟูโมะขอแจม (แสงไม่ได้เรื่องเล้ยยย) จากคุณ : hiroko - [ 31 พ.ค. 52 14:39:21 ]

ความคิดเห็นที่ 34 เดินเลยไปอีกเรื่อยๆ มองลงมาก็จะเจอตึก TV Asahi ค่ะ มีจอ TV โฆษณาละครเรื่องใหม่ฉายอยู่ด้วย จากคุณ : hiroko - [ 31 พ.ค. 52 14:41:02 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ลานพักผ่อนค่ะ เอาไว้นั่งชิลล์จิบกาแฟ จากคุณ : hiroko - [ 31 พ.ค. 52 14:42:14 ]

ความคิดเห็นที่ 36 เลยหาทางเดินลงมาจนได้ เห็นมีร้านอะไรสักอย่างอยู่ตรงชั้นล่างก็นึกว่าเป็นร้านขายของที่ระลึกของ TV Asahi ปรากฏว่าไม่ใช่ค่ะ กลายเป็นร้านขายขนมพื้นเมืองของโอกินาว่า มีเสียงดนตรีแบบโอกินาว่าบรรเลงอยู่ตลอดเวลา (ฟังดูเศร้าๆ หน่อย) ขนมที่ขายเป็นพวกผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติค่ะ พวกมัน ฟักทอง ซึ่งก็ไมได้แตกต่างจากที่บ้านเราสักเท่าไหร่ แถมราคาก็ไม่ใช่ถูกๆ เลยไม่ได้ติดมือออกมา เสร็จแล้วก็เดินมานั่งพักที่ฟุตบาทหน่อย เมื่อยขามาก มองไปเจอช็อปของ Louis Vuitton ค่ะ สวยหรูเชียว จากคุณ : hiroko - [ 31 พ.ค. 52 14:46:26 ]

ความคิดเห็นที่ 37 มองกลับไปทางฝั่ง Roppongi Hills ก็ได้เห็นว่าสถาปัตยกรรมงดงามดีแท้ จากคุณ : hiroko - [ 31 พ.ค. 52 14:47:39 ]

ความคิดเห็นที่ 38 อีกมุมค่ะ จากคุณ : hiroko - [ 31 พ.ค. 52 14:48:10 ]

ความคิดเห็นที่ 39 จากนั้นก็ไปเดินหาร้านขายของที่ระลึกของ TV Asahi ค่ะ ก็อยู่แถวๆ นั้นแหล่ะ เดินเลยไปอีกหน่อย TV Asahi นี่เป็นบ้านเกิดของ Doraemon นะคะ เห็นตู้นี้ก็รู้เลยว่ามาถึงแล้วค่ะ จากคุณ : hiroko - [ 31 พ.ค. 52 14:49:37 ]

ความคิดเห็นที่ 40 เดินเข้าประตูไปก็เจอตู้กาชาปองดักอยู่เป็นแถบเลยค่ะ จากคุณ : hiroko - [ 31 พ.ค. 52 14:50:33 ]

ความคิดเห็นที่ 41 มีตู้รีดเหรียญที่ระลึกด้วย ราคาก็ 100 yen ต่อ 1 เหรียญค่ะ แต่เราไม่เห็นใครมารีดเลยนะ จากคุณ : hiroko - [ 31 พ.ค. 52 14:51:30 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ตู้เกมส์อะไรไม่รู้ จากคุณ : hiroko - [ 31 พ.ค. 52 14:52:19 ]

ความคิดเห็นที่ 43 พี่ม่อนตัวโตๆค่ะ อันนี้แหล่ะฮ็อตที่สุดในนี้เลย ใครมาก็ต้องมาถ่ายรูปกับพี่ม่อนเป็นที่ระลึกกันทั้งนั้น ส่วนเรายังไม่ได้ถ่ายค่ะ รอก่อน เดินเที่ยวให้หมดก่อน ด้านขวาของพี่ม่อนนั่นคือร้านขายของที่ระลึกค่ะ ก็มีทั้งพวงกุญแจ ของเล่น ของกิน เป็นลายของการ์ตูนหรือละครของ TV Asahi บางเรื่องก็รู้จัก บางเรื่องก็ไม่รู้จัก มีไม่เยอะเท่าไหร่นะคะ และมันก็ไม่ได้สวยน่าซื้อสักเท่าไหร่ เลยดูแต่ตาค่ะ ไม่เสียเงิน แก้ไขเมื่อ 31 พ.ค. 52 14:55:51 จากคุณ : hiroko - [ 31 พ.ค. 52 14:55:26 ]

ความคิดเห็นที่ 44 เดินมาข้างๆ พี่ม่อน มีประกวดรูปถ่ายซากุระค่ะ รูปสวยๆ ทั้งนั้นเลย จากคุณ : hiroko - [ 31 พ.ค. 52 14:57:06 ]

ความคิดเห็นที่ 45 เดินเลยมาอีก เป็นที่โปรโมตละครซามูไรค่ะ เรื่องอะไรก็ไม่รู้ ชอบป้ายผ้าพวกนี้จัง ดูเท่ห์มากมาย จากคุณ : hiroko - [ 31 พ.ค. 52 14:58:28 ]

ความคิดเห็นที่ 46 มีดาบซามูไรให้ยลด้วย จากคุณ : hiroko - [ 31 พ.ค. 52 14:59:08 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ดูเสร็จแล้วก็เดินกลับมาค่ะ ผ่านตู้คีบตุ๊กตาที่สะดุดตามากๆ เพราะมีพี่ม่อนสีขาว version white chirstmas นอนกองเต็มตู้ น่ารักเป็นที่สุด จากคุณ : hiroko - [ 31 พ.ค. 52 15:00:36 ]

ความคิดเห็นที่ 48 โคลสกันชัดๆ จากคุณ : hiroko - [ 31 พ.ค. 52 15:01:30 ]

ความคิดเห็นที่ 49 โดเรมีก็มีนะ แต่น้อย จากคุณ : hiroko - [ 31 พ.ค. 52 15:02:10 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ได้เวลาถ่ายรูปคู่กับพี่ม่อนแล้วค่ะ เดินเข้าไปขอให้สาวสวยที่มาคนเดียวถ่ายให้ กดไป 2 แชะ ได้รูปนี้มา ปลื้มๆ จากคุณ : hiroko - [ 31 พ.ค. 52 15:04:20 ]

ความคิดเห็นที่ 51 เสร็จแล้วก็เดินกลับออกมาขึ้นตึก Roppongi Hills อีก เพื่อจะเดินกลับไปลงรถไฟใต้ดิน มองลงไปเห็นสวนญี่ปุ่นชื่อสวน Mori ค่ะ สวยมากเลย จากคุณ : hiroko - [ 31 พ.ค. 52 15:06:26 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ส่วน Tokyo Midtown กับ 21_21 Design Sight ต้องยกเลิกโครงการไปค่ะ เพราะว่าต้องเดินข้ามไปอีกฝั่งเลย ดูแผนที่แล้วขอบายดีกว่า เย็นแล้วด้วย เลยมุ่งหน้าไปเป้าหมายสุดท้ายของวันนี้ Tokyo Tower ค่ะ จบท้ายกระทู้นี้ด้วยป้ายโฆษณาละครเรื่องใหม่ของ Horikita Maki ที่อยู่ในสถานีรถไฟใต้ดินค่ะ ชื่อเรื่อง Atashinchi no Danshi มากิจังเล่นเป็นสาว Homeless ที่จับพลัดจับผลูไปเป็นแม่เลี้ยงของเด็กโข่ง 6 คนค่ะ เป็นละครเว่อร์ๆเหมือนการ์ตูนค่ะ ส่วน Tokyo Tower ขอต่อกระทู้หน้านะคะ เพราะรูปเยอะมาก ว่าแล้วก็ขอตัวไปดู Atashinchi no Danshi ต่อล่ะนะคะ เจอกันกระทู้หน้าค่ะ จากคุณ : hiroko - [ 31 พ.ค. 52 15:11:33 ]

ความคิดเห็นที่ 53 มีตุ๊กตาแบบเดียวกับ จขกท.เลย   ของจขกท.ชื่อ ฟูโมะจัง แต่ของเรา แฟนตั้งชื่อ ว่า กบเหลือง ณ.เยาวราช (เพราะสีเหลือง+ซื้อจากเยาวราช 555) แก้ไขเมื่อ 31 พ.ค. 52 15:34:49 จากคุณ : theeradol - [ 31 พ.ค. 52 15:34:16 ]

ความคิดเห็นที่ 54 แอบเมื่อยขาตามไปด้วยเลย อิอิ Atashinchi no Danshi หนุกมั้ยคะ โหลดมาแล้วแต่ยังไม่ได้ดูเลย รอให้จบก่อนค่อยดูรวดเดียว จากคุณ : yuki_shimi - [ 31 พ.ค. 52 15:54:13 ]

ความคิดเห็นที่ 55 คุณ theeradol : อยากเห็นกบเหลือง ณ เยาวราช จังค่ะ มีรูปมาโชว์มั้ยคะ คุณ yuki_shimi : ก็ดูได้เรื่อยๆค่ะ เนื้อหามันหลุดโลกเหมือนการ์ตูนน่ะค่ะ น้องมากิเล่นไม่ธรรมชาติเท่าไหร่ แต่ไม่เป็นไร เพราะเราเน้นดูโอซามุค่ะ ^ ^" จากคุณ : hiroko - [ 31 พ.ค. 52 16:39:52 ]

ความคิดเห็นที่ 56 เดินเก่งจังเลย...จากพระราชวังไปกินซ่า อ่านแล้วเมื่อยแทน จากคุณ : เจ้าแก้วพิสดาร ณ เมืองปาย - [ 1 มิ.ย. 52 03:34:08 ]

ความคิดเห็นที่ 57 เห็นด้วยกะคห.ข้างบนค่ะ เดินทนจริง จริ๊ง จากคุณ : sweetsakura - [ 1 มิ.ย. 52 12:04:55 ]

ความคิดเห็นที่ 58 ตามดูยังเหนื่อยเลย เจ้าของกระทู้ขยันเล่า ขยันลง มาปรบมือให้จ๊า จากคุณ : MAILAKPAGKEELAN - [ 1 มิ.ย. 52 14:26:44 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ชิชะ หายตัวไปเที่ยวนี่เอง =3='' จากคุณ : โฮลี่ไนท์ - [ 1 มิ.ย. 52 18:12:40 ]

ความคิดเห็นที่ 60 เดินตามแล้วหิวแทนเลย.. เป็นผม สงสัยได้แวะคอมบินิ ซื้อโอนิงิริ กับ ยูกิอิจิโกะ กินจนพุงกลมไปแล้ว แต่เขียนได้เห็นภาพตามอารมณ์ดี จะติดตามต่อไปครับ..   จากคุณ : NumAromDee - [ 1 มิ.ย. 52 19:28:16 ]

ความคิดเห็นที่ 61 ขอบคุณที่พาเที่ยวนะครับ จากคุณ : tataweb - [ 1 มิ.ย. 52 23:02:26 ]

ความคิดเห็นที่ 62 ตึกแดงๆขอบเหลือง  เราจำได้ว่าเป็น สำนักงานตำรวจแห่งชาติญี่ปุ่น  ไม่ใช่เหรอ  เดินผ่านยังแอบเหร่พี่ตำรวจเลย    ส่วนสถานีโตเกียวอยู่ไกลกว่านี้มาก  อยู่หลังตึกพวกแบรนด์เนมทั้งหลาย  เพราะพระราชวัง  เชี่ยวนะ  สถานีรถไฟคงไม่มาอยู่ใกล้ๆให้วุ่นวาย(มาก)  เหตุผลด้านความปลอดภัยด้วย หัวถนนGinza  มี สนง.การบินไทยด้วยเห็นป่ะ  แอบภูมิใจเล็กๆ แก้ไขเมื่อ 04 มิ.ย. 52 21:55:31 แก้ไขเมื่อ 04 มิ.ย. 52 21:54:34 จากคุณ : tomsabz (tomsabz) - [ 4 มิ.ย. 52 21:52:51 ]

ความคิดเห็นที่ 63 ตึกแดงนั่นคงจะไม่ใช่สถานีรถไฟโตเกียวจริงๆแหล่ะค่ะ เพราะอ่านมาว่าจากสถานีฯ จะมาพระราชวังต้องเดินไกลเป็น 10 นาที คงไม่ได้มองไปเห็นเลยแบบนี้ สรุปว่าเราเข้าใจผิดไปเองค่ะ แหะๆ จากคุณ : hiroko - [ 6 มิ.ย. 52 22:19:03 ]

ความคิดเห็นที่ 64 ไปเที่ยว Tokyo Tower กันต่อค่ะ จากคุณ : hiroko - [ 6 มิ.ย. 52 22:34:10 ]

ความคิดเห็นที่ 65 อยากทราบว่าที่คุณ hiroko ได้บัตรลด สำหรับเข้าในสถานที่ต่าง ๆ ที่ต้องเสียค่าใช้จ่าย มีหน้าตาเป็นอย่างไรคะ และไปเอาบัตรนั้นได้ที่ไหน คะ เพราะเผื่อมีโอกาสไปเที่ยวจะได้นำมาใช้บ้างค่ะ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : mizzy - [ 22 มิ.ย. 52 12:21:09 A:172.16.17.47 X:203.170.231.232 TicketID:206810 ]