ความคิดเห็นที่ 1 ลองหาในสมาร์ทเสิร์ทน่าจะมีเยอะนะครับ เผื่อจะได้ความรู้เพิ่มเติมในหลายๆเรื่อง ที่สำคัญจำทำให้เราจำแม่นขึ้น อย่างไรก็ดีผมลองหาจากบล๊อกแก้งค์มาให้เป็นข้อมูลอีกทางหนึ่งนะครับ http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=sassykate&date=29-10-2008&group=6&gblog=3 โดยคุณ SassyKate จากคุณ : Nhong (amorous) - [ 16 มิ.ย. 52 11:48:08 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เข้ามาสืบดูข้อมูลคับ มี plan จะไปเหมือนกัน แต่อีกนานครับ ว่าจะไปช่วงก่อนหรือไม่ก้อหลังโอลิมปิคโน้นเลยครับ อยากซึมซับบรรยากาศโอลิมปิก แต่ไม่ชอบตอนคนเยอะมากๆๆๆๆ หน่ะคับ ช่วงนี้ใครไปก่อน ก้อเอามารีวิวให้ชมด้วยนะคับ จากคุณ : นายตัวที (DDteetoxic) - [ 16 มิ.ย. 52 12:04:39 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ขอตอบจากประสบการณ์ส่วนตัวนะคะ การเตรียมเอกสารแสดงหลักฐานต่าง ๆ ให้พร้อมเป็นเรื่องที่สำัคัญมากค่ะ ส่วนเรื่องภาษา อืม... บางเคาน์เตอร์เป็นเจ้าหน้าที่คนไทย บางเคาน์เตอร์ก็มีเจ้าหน้าที่ไทยช่วยเหลือ บางเคาน์เตอร์ก็ไม่มี ยังไงควรฝึกพูดไว้บ้างค่ะ เป็นประโยคที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางครั้งนี้ เช่น จะไปทำอะไร เที่ยวที่ไหนบ้าง ไปพักที่ไหน ไปกับใคร เป็นสิ่งที่ซักซ้อมก่อนได้ค่ะ ^o^ เราไม่เคยเจอถามเยอะ ๆ ค่ะ แต่เพื่อนที่ไปด้วย แล้วไปขอคนละวันกัน เจอประจำ เอกสารสำคัญที่ห้ามพลาดเด็ดขาดนะคะ ในกรณีเป็นนิสิต/นักศึกษา 1. จดหมายรับรองจากสถาบัน / ทรานสคริปต์ เป็นภาษาอังกฤษ: ระบุในจดหมายรับรองว่าไประหว่างวันที่เท่าไหร่ถึงเมื่อไหร่ 2. ทะเบียนบ้านตัวจริงและสำเนา หน้าเลขที่บ้าน หน้าเจ้าบ้าน และหน้าที่เป็นชื่อตนค่ะ 3. สำนาบัตรประชาชน 4. บัญชีเงินฝาก/สเตทเมนต์ 6 เดือนย้อนหลังของตนเอง (จริง ๆ เราใช้ 3 เดือนค่ะ แต่คิดว่า 6 เดือนจะเซฟกว่านะคะ) 5. สถานที่ที่จะไปพักในอังกฤษค่ะ: อันนี้แบ่งเป็นสองกรณีคือ หาที่พักเอง ก็นำใบจองที่พักแนบไปด้วยค่ะ แต่ถ้าไปพักบ้านเพื่อน ญาติเพื่อน แนบหลักฐานว่ามีความรู้จักหรือสนิทสนมกันได้อย่างไร อาทิ แนบรูปที่เราถ่ายกับเจ้าของบ้านนั้น ๆ ไปด้วยค่ะ ตรงนี้เจ้าหน้าที่อาจมีการโทรไปเช็คกับเจ้าของบ้านที่โน่นว่ารู้จักกันยังไง แล้วมาถามเราอีกทีก็มีค่ะ ตั้งแต่ไปอังกฤษมา เจอถามครั้งเดียวว่า "บ้านที่ไปพักมีกี่ห้องนอน" ยืนนับงง ๆ แถมตอบผิด แต่ก็นึกออกทันเลยตอบใหม่ "3 เอ๊ย 4 ค่ะ" เจ้าหน้าที่ก็ยิ้ม ๆ ค่ะ เราก็บอกเราลืมนับห้องป๊าข้างบน เพราะเราไม่เคยไปนอนห้องนั้น 6. ใบรับรองการทำงานของผู้ปกครอง และสเตทเมนต์ย้อนหลังสัก 3-6 เดือนของท่านด้วยค่ะ อันนี้บอกตรง ๆ เราไม่เคยยื่นเลย เพราะตอนเป็นนิสิตนั่น การขอวีซ่ายังไม่ได้เข้มงวดมาก และคิดว่าหลักฐานอื่น ๆ เราค่อนข้างไว้ใจได้ค่ะ แต่เดี๋ยวนี้คิดว่ายื่นไปเพื่อเซฟไว้ดีกว่า คือมองว่าหลักฐานเยอะดีกว่าน้อย ให้เค้ามาเรียกสัมภาษณ์ทีี่หลังค่ะ ถ้าท่านใดเพิ่มเติมได้ เชิญเลยนะคะ ....... ในกรณีเป็นพนักงานบริษัท/เจ้าของกิจการ (พูดง่าย ๆ ว่าทำงานแล้วค่ะ) เหมือนด้านบนข้อ 2-5 ค่ะ ส่วนข้อ 1. เปลี่ยนเป็นใบรับรองการทำงานจากบริษัทเป็นภาษาอังกฤษ ช่วงเวลาการไปเที่ยวครั้งนี้ บอกไปเลยว่าไปจะตั้งแต่วันนี้ถึงวันนี้นะ และจะกลับมาเริ่มทำงานในวันที่...... ก็ว่าไปค่ะ ถ้าเป็นพนักงานที่บริษัทนี้มานาน ให้ระบุไปในจดหมายด้วยค่ะว่า เราเป็นพนักงานที่นี่ตั้งแต่เมื่อไหร่ เพราะการทำงานที่หนึ่ง ๆ มานานจะเป็นเครดิตเพิ่มเติมให้เราได้อีกทางค่ะ อาจจะไม่ถึงกับกระชากใจเจ้าหน้าที่เปรี้ยง แต่ช่วยได้บ้างค่ะ และถ้าเราเพิ่งจบและเพิ่งเริ่มงาม แนบใบจบพร้อมทรานสคริปต์ภาษาอังกฤษไปด้วยค่ะ สำหรับเจ้าของกิจการ ให้เพิ่มเติมเอกสารที่เกี่ยวกับการเป็นเจ้าของกิจการนั้น ๆ อาทิ ใบประกอบกิจการ บัญชีของกิจการ ไปด้วยค่ะ ....... ตอนนี้นึกออกเท่านี้เลยจริง ๆ แบบว่าจะไปประชุม 5555555+ หวังว่าพอมีประโยชน์บ้างนะคะ ....... ทีนี้ในเอกสารก็กรอกข้อมูลขอวีซ่า เราไม่แน่ใจยังใช้แบบเดิมมั้ย ถ้าเป็นแบบเดิม หน้าหลัง ๆ จะมีพื้นที่ให้เราเขียนรายละเอียดเพิ่มเติมอื่น ๆ ที่ต้องการให้เจ้าหน้าที่รู้เพิ่มเติมค่ะ ครั้งแรกที่ไป โอ้โห เขียนแบบว่า "นี่เป็นทริปสานฝัน" คือไม่ถึงกับเพ้อเจ้อ แต่บอกเค้าว่ามันสำคัญยังไง ออกจะน้ำเน่าและเน้นความซาบซึ้ง แต่ตอนนั้นเด็ก เจ้าหน้าที่คงไม่ถือสา 5555555+ ครั้งต่อ ๆ มาก็ใช้พื้นที่นั้นให้เป็นประโยชน์จริง ๆ โดยการอธิบายให้เห็นภาพคร่าว ๆ ว่าทริปของเราจะไปไหนบ้าง แพลนของเราเป็นแบบไหน บางทีอาจจะไม่จำเป็นสำหรับบางท่าน แต่เราชอบเขียนค่ะ เราก็เขียนไปเรื่อย ไม่ได้อธิบายหมด แค่พอให้เค้าทราบค่ะ เราไม่เคยโดนเรียกสัมภาษณ์ค่ะ แต่เพื่อนเราโดนทุกรอบ อันนี้ก็บอกไม่ถูกเหมือนกันว่าทำไมนะคะ เพราะเวลากรอกเอกสารก็ทำด้วย เราเคยลองวิเคราะห์กันดู อาจเป็นที่บุคลิกด้วยส่วนนึง เพื่อนเราที่โดนจะค่อยยิ้ม แล้วดูหยิ่ง ๆ หน่อย ส่วนเราเป็นคนยิ้ม ๆ น่ะค่ะ ไม่ดูต่อต้านมาก แต่ก็มีกวน ๆ เจ้าหน้าที่บ้าง กวนแล้วก็ยิ้มให้ เค้าก็ไม่รู้ นึกว่าเราซื่อ ๆ 555555+ แต่อันนี้เฉพาะกรณีพวกเราจริง ๆ นะคะ .... เพิ่มอีกนิดค่ะ ถ้าเราเป็นผู้หญิงโสด แต่เพื่อนที่รู้จักที่โน่นที่จะแสดงหลักฐานเป็นผู้ชายโสดอีก อันนี้ระวังนิดนึงค่ะ ทางสถานทูตอาจจะพิจารณาถี่ถ้วนเป็นพิเศษค่ะ ยังไงก็ขอให้โชคดีนะคะ แล้วก็ขอให้เพื่อน ๆ มาช่วยกันเพิ่มเติมได้เลยค่า เพราะว่าตกหล่นแน่ ๆ XD ปล. ถ้าผ่านด่านนี้แล้ว บินไปถึงฮีทโธรว์ ตรงด่านปั๊มอาจมีถามอีก 2-3 คำถามเป็นปกติค่ะ พื้น ๆ เช่น มาทำอะไร ประมาณนี้ค่ะ อาจเป็นเพราะตอนนั้นเราไปกันเป็นเด็ก ๆ เค้าก็เลยถามเป็นพิธี ตรงนี้ไม่ได้มีอะไรค่ะ ไม่ต้องกังวลเด้อ .... ปล. อีกอันว่า เคยมีเพื่อนถามว่าต้องใช้ใบจองตั๋วเครื่องบินมั้ย ไม่ต้องนะคะ เจ้าหน้าที่ไม่รับส่วนนี้เพื่อพิจารณาในหลักฐานสำคัญค่ะ จากคุณ : Kikkawa - [ 16 มิ.ย. 52 12:36:42 ]

ความคิดเห็นที่ 4 Smart Search + Google มีเยอะแยะมากมายเลยจ้า แถมพ่วงด้วย Bloggang ของคุณ ouise http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=ouise&date=04-03-2009&group=8&gblog=6 ผ่านฉลุยชัวร์ๆ หากเอกสารคุณแน่นหนา จากคุณ : MaysitO - [ 16 มิ.ย. 52 13:39:09 ]

ความคิดเห็นที่ 5 นึกว่าไม่มีใครแนะนำบล็อกผมซะแล้ว ยินดีที่ข้อมูลในบล็อกเป็นประโยชน์นะครับ ผมเขียนวิธีการยื่นขอวีซ่า UK แบบคนไม่รู้อะไรเลย จนในที่สุดได้วีซ่ามาครอบครองครับ ลองไปอ่านดูละกันครับ ผมว่าผมเขียนละเอียดมากเลยนะ ละเอียดกว่าวีซ่าแคนาดาที่เขียนก่อนหน้านี้ซะอีก จากคุณ : ouise - [ 16 มิ.ย. 52 18:53:12 ]

ความคิดเห็นที่ 6 แล้วถ้าอยากขอวีซ่า ท่องเที่ยวไปอังกฤษ แต่เราออกจากงานมาได้ 4 เดือนแล้วค่ะ ตอนแรกตั้งใจว่าจะเรียนต่อโทเลยลาออก มาสอบแต่ เตรียวตัวไม่พร้อมเลยสอบไม่ติด แล้วตั้งใจว่าปีหน้าจะ สอบใหม่ ช่วงนี้เลย อยากไปเที่ยว ที่อังกฤษ มีแฟนอยู่ที่อังกฤษ และเค้าให้พ่อแม่เค้าเป็นสปอนเวอร์( ที่พัก) ให้เรา แบบนี้เราควรจะบอกสถานฑูด ยังไงดี เพราะกลัวเค้าไม่ให้ผ่าน ขอบคุณค่ะ จากคุณ : piggy - [ 27 มิ.ย. 52 23:10:29 A:118.172.50.58 X: TicketID:221953 ]