ความคิดเห็นที่ 1 เรื่องนี้มีลับลมคมใน จะไปสืบมาให้ครับว่าที่มาที่ไปเป็นอย่างไร จากคุณ : น้ำค้างป่า - [ 18 มิ.ย. 52 11:09:06 ]

ความคิดเห็นที่ 2 รูปที่เขาประกาศขายในหน้าเว็บ แก้ไขเมื่อ 18 มิ.ย. 52 11:11:16 จากคุณ : น้ำค้างป่า - [ 18 มิ.ย. 52 11:10:59 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ...อีกรูป จากคุณ : น้ำค้างป่า - [ 18 มิ.ย. 52 11:13:53 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ขอโทษทีครับรูปไม่ขึ้นเอาใหม่ จากคุณ : น้ำค้างป่า - [ 18 มิ.ย. 52 11:16:41 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ขายกันจะๆ แต่กรรมการมูลนิธิฯไม่รู้เรื่อง แก้ไขเมื่อ 18 มิ.ย. 52 11:19:58 แก้ไขเมื่อ 18 มิ.ย. 52 11:19:32 จากคุณ : น้ำค้างป่า - [ 18 มิ.ย. 52 11:17:23 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ยังเห็นรอยของป้ายมูลนิธิอยู่เลย จากคุณ : น้ำค้างป่า - [ 18 มิ.ย. 52 11:18:32 ]

ความคิดเห็นที่ 7 มาช่วยดัน อยากรู้เรื่องครับ จากคุณ : goodsong - [ 18 มิ.ย. 52 12:36:41 ]

ความคิดเห็นที่ 8 โหวตครับ จากคุณ : back room - [ 18 มิ.ย. 52 12:44:42 ]

ความคิดเห็นที่ 9 แล้วกรรมสิทธิ์ในอาคารนี้เป็นของใครอ่ะครับ  ถ้าเป็นชื่อของมูลนิธิ  แล้วแอบอ้างเอาไปขายเองแล้วเอาเงินเข้ากระเป๋า แบบนี้ข้อหายักยอกทรัพย์เลยนะครับ จากคุณ : David_kop - [ 18 มิ.ย. 52 13:16:29 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ร่วมโหวตค่ะ จากคุณ : jeangirl - [ 18 มิ.ย. 52 13:22:46 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ใช่ตึกที่อยู่เส้นพหลโยธิน ใกล้ วัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน รึเปล่าคะ ถ้าใช่ เราเห็นตึกแถวห้องนี้ปิดมาหลายปีแล้วค่ะ สมัยก่อนที่เปิดอยู่ก็ดูเงียบ ๆ  ยังงงๆ อยู่ว่าเป็นมูลนิธิคุ้มครองสัตว์ที่เรารู้จักจริงๆ ป่าวเนี่ย จากคุณ : cotton kitten - [ 18 มิ.ย. 52 13:45:33 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เอาที่อยู่ของมูลนิธิมาให้ดูคะ มูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าและพรรณพืชแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ 251/88-90 ถ.พหลโยธิน แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม. 10220 http://www.konjaidee.com/node/101 ไม่รู้ว่าใช่ที่เดียวกันหรือเปล่า แต่ดูพิกัดคร่าวๆ แล้ว เหมือนจะที่เดียวกันเลย -_-" จากคุณ : Daijobudai - [ 18 มิ.ย. 52 14:12:00 ]

ความคิดเห็นที่ 13 อยากรู้ความจริงครับ จากคุณ : แมงปอบินเดี่ยว - [ 18 มิ.ย. 52 14:16:18 ]

ความคิดเห็นที่ 14 มามุง เผื่อจะดัง จากคุณ : LAPD21 - [ 18 มิ.ย. 52 14:46:13 ]

ความคิดเห็นที่ 15 มันเป็นตึกเช่าหรือเปล่าคะ? จากคุณ : Ms. Kim - [ 18 มิ.ย. 52 14:55:42 ]

ความคิดเห็นที่ 16 มาอัพข้อมูลให้สมาชิกฟังคราวๆนะครับ มูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าและพรรณพืชแห่งประเทศไทยในปัจจุบันได้ขอยุติบทบาทลงชั่วคราว เพราะสืบเนื่องมาจากปัญหาภายในองค์กร ที่มาจากความขัดแย้งกันเองภายในมานาน และปัญหาการไปเปิดกิจการขายอาหารป่า ที่ใช้ชื่อเพื่อนเดรัจฉานของประธานมูลนิธิฯ และปัญหาทุนดำเนินการที่หมดลง ทำให้มูลนิธิคุ้มครองจึงขอยุติบทบาทลงชั่วคราว ซึ่งทรัพย์สินต่างๆของมูลนิธิฯยังคงเป็นกรรมสิทธิ์ของมูลนิธิอยู่ การจัดการใดๆต้องมีมติความเห็นชอบจากคณะกรรมการบริหารของมูลนิธิเสียก่อน จึงจะดำเนินการได้ แต่กรณีขายสำนักงานมูลนิธมูลค่ากว่า 20 ล้านบาท โดยไม่มีมติของกรรมการมูลนิธิ โดยขายในราคา 13.2 ล้านบาท จึงน่าจับตาเป็นพิเศษ และเรื่องที่น่าจับตามองเป็นพิเศษอีกเรื่อง คือนอกจากจะประกาศขายด่วนสำนักงานแล้ว ยังปิดกิจการร้านอาหารป่าเพื่อนเดรัจฉานลงอีกด้วย คงต้องติดตามกันต่อไปว่าจะรีบเอาเงินไปทำอะไรกัน แต่ที่แน่ๆมูลนิธิคุ้มครองเขายังไม่ได้ยกเลิกนะครับ แค่หยุดชั่วคราว แก้ไขเมื่อ 18 มิ.ย. 52 15:11:32 จากคุณ : น้ำค้างป่า - [ 18 มิ.ย. 52 15:10:10 ]

ความคิดเห็นที่ 17 มันเป็นตึกเช่ารึเปล่า เหมือน คห 15 จากคุณ : รัก_ประจำทาง - [ 18 มิ.ย. 52 15:10:43 ]

ความคิดเห็นที่ 18 สืบให้รู้แน่ก่อนที่จะมาโพสต์กล่าวหาดีมั้ยครับ เชื่อว่าเป็นตึกที่มูลนิธิเช่า ไม่ได้เป็นกรรมสิทธิ์ของมูลนิธิรึเปล่า จากคุณ : CLK BRABUS - [ 18 มิ.ย. 52 15:11:34 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เป็นตึกที่ซื้อด้วยเงินของมูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าฯ ด้วยเงิน 20 กว่าล้านครับ ไม่ได้เช่าแต่อย่างใด จากคุณ : น้ำค้างป่า - [ 18 มิ.ย. 52 15:15:16 ]

ความคิดเห็นที่ 20 http://www.oknation.net/blog/print.php?id=78335 เป็นข่าวจากบล๊อกโอเคเนชั่น ตอนมูลนิธิคุ้มครองฯขอยุติบทบาทใหม่ๆ ถ้าขี้เกียจลิ้งค์ไปจะขอตัดข้อความสำคัญมาให้อ่านกันครับ ............. อย่างไรก็ตามเลขาธิการมูลนิธิเพื่อนช้างกล่าวต่อไปอีกว่า ล่าสุดมีกระแสออกมาเหมือนกันว่านายพิสิษฐ์จะยกเลิกและขายทิ้งอาคารที่ทำการของมูลนิธิ ซึ่งก่อนหน้านี้ตัวเธอเองเป็นคนช่วยหาเงินมาใช้หนี้ตึกนี้ที่ซื้อมากว่า 6 ล้านบาท โดยนางสาวโซไรดากล่าวว่ากระแสดังกล่าวไม่รู้จริงเท็จแค่ไหน แต่ถ้าจริงก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าเมื่อขายแล้วเงินที่ได้นายพิสิษฐ์จะเอาไปทำอะไร และจะไปเปิดที่ทำการใหม่ที่ใด             "แต่ข้อมูลล่าสุดที่ทราบก็คือมีการส่งหนังสือให้พนักงานและเจ้าหน้าที่เก็บคืนทรัพย์สินให้แก่มูลนิธิภายในวันที่ 25 ก.ค.นี้ และมูลนิธิจะปิดตัวเองเป็นการชั่วคราวในวันที่ 27 ก.ค." นางสาวโซไรดาทิ้งท้าย ................... แค่นี้คงเข้าใจนะครับว่าเช่าหรือซื้อ แก้ไขเมื่อ 18 มิ.ย. 52 15:19:55 จากคุณ : น้ำค้างป่า - [ 18 มิ.ย. 52 15:16:46 ]

ความคิดเห็นที่ 21 วุ้ย....แล้วกรรมสิทธิ์หลังโฉนดเป็นชื่อใครล่ะครับ? ถ้าเป็นของมูลนิธิก็ต้องเป็นชื่อมูลนิธิ ลิงที่ไหนจะไปประกาศขายได้...ในเมื่อขายแล้วโอนไม่ได้ เพราะถ้าเป็นชื่อมูลนิธิ...เวลาโอนก็ต้องใช้กรรมการมูลนิธิเป็นคนโอน จากคุณ : กล้าที่จะรัก - [ 18 มิ.ย. 52 15:19:40 ]

ความคิดเห็นที่ 22 อนิจจา... มนุษย์ จากคุณ : คีตโศก - [ 18 มิ.ย. 52 15:24:28 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ถ้ากรรมสิทธิ์เป็นของมูลนิธิฯ แล้วจะขายเนี่ย กรรมการมูลนิธิฯ ทราบกันหรือยัง ทำไมมันดูรีบร้อนผิดปกติอย่างนี้ล่ะ จากคุณ : tato_jang - [ 18 มิ.ย. 52 15:28:27 ]

ความคิดเห็นที่ 24 """""วุ้ย....แล้วกรรมสิทธิ์หลังโฉนดเป็นชื่อใครล่ะครับ? ถ้าเป็นของมูลนิธิก็ต้องเป็นชื่อมูลนิธิ ลิงที่ไหนจะไปประกาศขายได้...ในเมื่อขายแล้วโอนไม่ได้ เพราะถ้าเป็นชื่อมูลนิธิ...เวลาโอนก็ต้องใช้กรรมการมูลนิธิเป็นคนโอน จากคุณ : กล้าที่จะรัก """" .......................... การจะทำการใดๆในทรัพย์สินของมูลนิธิต้องมีมติของคณะกรรมการมูลนิธิเห็นชอบก่อน ซึ่งมีข้อที่น่าสงสัยอยู่ว่า แล้วลิงที่ไหนก็ไม่รู้สามารถเอาสำนักออกมาขายได้ทั้งๆที่ ในเมื่อกรรมการยังไม่เคยประชุมลงมติกันเลยว่าให้ขายสำนักงาน ลองโทรไปเช็คกับเบอร์โทรที่ติดต่อขาย ปลายสายบอกพร้อมโอนกรรมสิทธิ์ได้ทันที่ที่เอาเงินมาซื้อ ไม่รู้ว่ากรรมการมีมติออกมาตอนไหน ลิงประเทศนี้เก่งจริงๆ อันนี้คงต้องไปสืบก่อนนะครับ เดี๋ยวมาขยายอีกที แก้ไขเมื่อ 18 มิ.ย. 52 15:32:25 จากคุณ : น้ำค้างป่า - [ 18 มิ.ย. 52 15:30:16 ]

ความคิดเห็นที่ 25 มีลับลมคมในแหงๆ จากคุณ : น้องหยิก - [ 18 มิ.ย. 52 16:15:30 ]

ความคิดเห็นที่ 26 เท่าที่ทราบ มูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าและพรรณพืชฯ ได้ประกาศปิดตัวลงตั้งแต่ปี 2550 ค่ะ http://www.prachatai.com/journal/2007/07/13530 ส่วนสาเหตุลองเอาชื่อมูลนิธิฯไปหาดูในอากู๋ได้ค่ะ .... แก้ไขเมื่อ 18 มิ.ย. 52 16:36:47 แก้ไขเมื่อ 18 มิ.ย. 52 16:36:16 จากคุณ : นีออน - [ 18 มิ.ย. 52 16:34:47 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 18 มิ.ย. 52 17:05:19 ]

ความคิดเห็นที่ 28 มาตามความคืบหน้าด้วยคนค่ะ จากคุณ : ไอ้หัวบุบ - [ 18 มิ.ย. 52 17:28:56 ]

ความคิดเห็นที่ 29 เข้ามาตามด้วยคนครับ ... จากคุณ : ทุเรียนกวน - [ 18 มิ.ย. 52 19:36:43 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ประธานนี่ใช่คุณพ่อของวีเจ พิตต้า ณ พัทลุง หรือเปล่าคะเหมือนจะคุ้นๆ ดูรายการอะไรซักอย่างมันนานมาแล้ว จากคุณ : JeaNie (CM-ThaiMassage) - [ 18 มิ.ย. 52 19:49:12 ]

ความคิดเห็นที่ 31 เข้ามาเบิ่ง . . . จากคุณ : ความเลวไม่มีขาย อยากได้ทำเอง (อหิงสักกะ) - [ 18 มิ.ย. 52 19:58:03 ]

ความคิดเห็นที่ 32 เข้ามาอ่านอยากรู้ๆ จากคุณ : [JO][JA] - [ 18 มิ.ย. 52 20:07:16 ]

ความคิดเห็นที่ 33 อืมมม..... ถ้าคุณน้ำค้างป่า ยืนยันแบบนั้น ก็มีความเป็นไปได้สูง ที่ตึกที่ทำการไม่น่าจะเป็นตึกเช่า หากตึกที่ว่าเป็นกรรมสิทธิ์ของมูลนิธิจริง และได้ประกาศขายโดยที่ กก.มูลนิธิไม่ได้รับรู้ ผมว่าน่าจะโง่ทั้งคนประกาศขาย และ คนซื้อต่อครับ ซื้อไปก็โอนไม่ได้ หมาที่ไหนมันจะมาซื้อ ประกาศขายไป คนประกาศก็ไม่ได้มีสิทธิ์จริงในกรรมสิทธิ์ เพราะมูลนิธิคือองค์กรสาธารณะที่มีการบริหารในรูปของ คณะกรรมการ บ้ารึเปล่าว๊ะ.....!!!!?????? และที่สำคัญก็คือ เงินทองที่ใช้ในการดำเนินการ จับจ่ายใช้สอย ซื้อที่ทำการนี้ เป็นเงินที่ได้รับจาการบริจาค จากการรณรงค์หาทุนในรูปแบบต่างๆ จากกุศลจิตของคนในสังคม ที่มีต่อสัตว์ จะขาย จะอะไรกับมัน คิดก่อนทำซะก่อนก็ดีครับ อย่างน้อยก็เห็นแก่วิญญานของ คุณหมอบุญส่ง เลขะกุล แกบ้าง ส่วนร้านอาหารป่าที่ว่านั้น อยู่ถัดซอยบ้านผมไป 2 ซอยครับ ปัจจุบันไม่ได้เปิดกิจการแต่อย่างใด คนทำงานเพื่อสัตว์ ควรจะเป็นคนที่มีจิตใจงดงามและเสียสละ กะอีแค่การบริหารภายในยังฟัดกันวุ่นวาย มิพักต้องไปพูดถึงการดูแลสัตว์หรอกครับ บริหารตัวเองให้รอดซะก่อนเถอะ...!!!! ผมรู้สึกแปลกๆตั้งแต่แรกแล้วว่า คนที่ทำงานเกี่ยวกับการคุ้มครองสัตว์ป่า ดันมาเปิดร้านอาหารป่า และมีสัตว์เป็นๆอยู่ในกรงโชว์อีกต่างหาก ดูๆไปแล้วมันไม่ต่างอะไรกับการเป็นผู้บริหารตลาดหุ้น แล้วใช้ข้อมูลภายในมาซื้อขายหุ้นอะไรแบบนั้นเลย.... สำหรับผมแล้ว...... การขายสินทรัพย์ที่ได้จากการบริจาค และการล้มเหลวในการทำงานเพื่อบริการสังคม อันมีสาเหตุมาจากการงัดกันเองภายในองค์กรของคนที่ไม่ลงรอยกัน ทั้ง 2 อย่างนี้คืออาชญากรรมดีๆนี่เอง.....!!!!!!!! จากคุณ : ตุ้ม แม็คคาร์ทนี่ย์ (Toom McCartney) - [ 18 มิ.ย. 52 20:38:41 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ไอ้ร้านนั้นมันปิดไปแล้วใช่มั้ยเจ๊ ? ขับรถผ่านบ่อยๆ ยังนึกสงสัย ช่างตั้งชื่อร้านได้เข้ากันดีแท้ๆ.. "สมาคมคุ้มครองสัตว์ป่า" กับ "ร้านเพื่อนเดรัจฉาน" อืมมมม.. จากคุณ : ++แขวน++ - [ 18 มิ.ย. 52 21:24:09 ]

ความคิดเห็นที่ 35 เข้ามามุง...ด้วยคนค่ะ.. จากคุณ : uhoo_dolphin - [ 19 มิ.ย. 52 00:12:35 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ภาพจากบล็อคสารคดี จากคุณ : คีตโศก - [ 19 มิ.ย. 52 09:52:19 ]

ความคิดเห็นที่ 37 อัพเดทข้อมูลให้อีกนิดในขณะที่รอสายสืบที่กำลังไปเก็บข้อมูลอยู่ มูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าและพรรณพืชแห่งประเทศไทยฯ ตั้งอยู่เลขที่ 251/88-90 ถ.พหลโยธิน เขตบางเขน กทม. 12200(อย่างที่คุณDaijobuda บอกไว้ตอนต้น) อาคารสำนักงานใช้เงินที่เป็นกองทุนของมูลนิธิฯซื้อมาโดยแบ่งเป็น 4 คูหา ด้านที่ติดกับถนนพหลโยธิน ซื้อมาในราคา 5.5 ล้านบาท( คุณโซไรดา ซานวาลาเลขาธิการมูลนิธิเพื่อนช้างเป็นคนหาทุนมาให้)จำนวน 1 คูหา ส่วนอีก 3 คูหาซึ่งอยู่ด้าหลังของคูหาแรก ซื้อในราคาคูหาละ 5 ล้านบาท รวมทั้งหมดเป็นเงิน 20.5 ล้านบาท โดยอาคารสำนักงานดังกล่าวได้รับพระราชทานนามจากสมเด็จพระบรมราชินีนาถว่า"สิริวนาลัย" อันนี้คงตัดข้อสงสัยของหลายท่านลงไปได้นะครับ ว่ามูลนิธิคุ้มครองไม่ได้เช่าตึกดังกล่าว แต่ได้ซื้อด้วยเงินจากกองทุนของมูลนิธิฯ ข้อสงสัยของคุณJeaNie (CM-ThaiMassage)ในความคิดเห็นที่ 30 นั้นเป็นอย่างที่เข้าใจครับ ส่วนในความคิดเห็นที่ 26 จากคุณนีออน มูลนิธิคุ้มครองฯไม่ได้ปิดตัวลงแต่อย่างใดครับ หากแต่ยุติบทบาทเพียงชั่วข่าวเท่านั้นครับ และคณะกรรมการได้มีการคุยกันรอบนอกแล้ว ว่ากำลังสรรพหาประธานคนใหม่อยู่ ซึ่งประธานคนเก่าที่อยู่ในฐานะถูกฟ้องร้องให้พ้นจากตำแหน่ง จากกรณีเปิดกิจการร้านขายอาหารป่าที่ใช้ชื่อเพื่อนเดรัจฉาน ซึ่งมีลักษณะของผลประโยชน์ในการค้าขาย แลกเปลี่ยนสัตว์ป่า ทำให้ขัดกับหลักการของมูลนิธคุ้มครองฯที่ทำงานด้านอนุรักษ์ ซึ่งคดีกำลังอยู่ในการดำเนินการในชั้นศาลของศาลแพ่ง มีการชิงยุติบทบาทของมูลนิธิฯก่อนโดยอ้างว่า มูลนิธิไม่มีเงินทุนในการดำเนินกิจกรรม ส่วนในกรณีมีการขายทรัพย์สินของมูลนิธิ โดยที่คณะกรรมการมูลนิธิไม่ได้มีมติออกมานั้น คงต้องสืบหาข้อมูลให้แน่ชัดอีกครั้งว่าเอาออกมาขายได้อย่างไร แต่มีคนมากระซิบบอกว่า ตอนนี้เขายินดีลดราคาตึกให้เหลือ 8 ล้านกว่าแล้วครับ แก้ไขเมื่อ 19 มิ.ย. 52 10:14:11 แก้ไขเมื่อ 19 มิ.ย. 52 10:02:45 จากคุณ : น้ำค้างป่า - [ 19 มิ.ย. 52 09:59:28 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ส่วนในกรณีการเข้ามาเป็นประธานมูลนิธิฯนั้น มีข่าววงในบอกว่า เพราะธุระกิจการค้าขายสัตว์ป่าระหว่างประเทศนั้น หากจะให้หนทางราบลื่นต้องมีการการันตีจากงานที่ทำอยู่ ต้องเป็นงานด้านอนุรักษ์สัตว์ป่ามาอย่างยาวนาน และได้รับการเชื่อถือภายในประเทศ จึงจะทำธุระกิจค้าขายสัตว์ป่าได้ ใบเบิกทางให้บริษัทของตัวเองเป็นศูนย์กลางการค้าสัตว์ป่าที่ใหญ่ที่สุด นั่นก็คือ การได้เข้ามาเป็นประธานมูลนิธิฯ จึงไม่แปลกใจนักที่แม้จะมีเสียงเรียกร้องจากเจ้าหน้าที่ในมูลนิธิเอง ร่วมทั้งองค์กรด้านการอนุรักษ์ต่างๆ ออกมาเรียกร้องให้ประธานมูลนิธิฯพ้นออกจากตำแหน่ง แต่ท่านก็หวงแหนตำแหน่งเป็นอย่างมาก จนเป็นคดีความกันในชั้นศาล และการออกมาชูป้ายประท้วงขององค์กรต่างๆ เสียดายชื่อเสียงของมูลนิธิฯที่สั่งสมมาอย่างยาวนาน เสียอุดมการณ์ของคุณหมอบุญส่ง เลขะกุล ที่ถูกแปรเปลี่ยนไปจากเจตนารมณ์ดั้งเดิม เสียดายศรัทธาของประชาชนที่มีให้ จากคุณ : น้ำค้างป่า - [ 19 มิ.ย. 52 10:13:45 ]

ความคิดเห็นที่ 39 มาติดตามด้วยค่ะ เคยติดตามข่าวมูลนิธิฯช่วงที่มีปัญหาอยู่บ้าง ยังนึกเสียดาย  และยังแอบหวังว่าปัญหาต่างๆจะดีขึ้น แอบเอาประวัติคุณหมอบุญส่ง มาให้อ่านกันค่ะ  เอามาจากหนังสือสารคดี พฤศจิกายน 2552 นะคะ http://www.sarakadee.com/web/modules.php?name=Sections&op=viewarticle&artid=809 แล้วจะมาติดตามต่อค่ะ จากคุณ : iamchula - [ 19 มิ.ย. 52 13:24:52 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ...แค่ทำร้านอาหารป่า ก็น่าคิดแล้วจริงๆ... จากคุณ : เจ็บเพื่อเข้าใจ - [ 19 มิ.ย. 52 14:40:12 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ได้อ่าน ได้ตามข่าวมาเรื่อยๆ เริ่มรู้สึกว่า ประธานมูลนิธิฯ คนนี้ไม่โปร่งใสนะ ยังไงกัน ตัวเองเป็นประธานมูลนิธิฯ ด้านการอนุรักษ์ แต่ดันมาเปิดร้านอาหารสัตว์ป่า ค้าสัตว์ป่าซะเอง แถมขายทรัพย์สินของมูลนิธิฯ โดยที่กรรมการคนอื่นๆ ไม่รับรู้ด้วยนี่ เรื่องนี้ไม่ค่อยสวยแล้วล่ะมั้ง แก้ไขเมื่อ 19 มิ.ย. 52 15:04:21 จากคุณ : tato_jang - [ 19 มิ.ย. 52 15:03:43 ]

ความคิดเห็นที่ 42 เคยได้ยินกิติศัพท์มาบ้างตั้งแต่เป็นผอ.สวนสัตว์ดุสิตแล้ว แต่ตอนนั้นเขาแรง คนก็มองว่าคนนี้เค้าดีเอาจริงเอาจัง วันนึงความจริงก็ปรากฏ จากคุณ : just another day - [ 19 มิ.ย. 52 19:03:58 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ในเมื่อร้านอาหาร "เพื่อนเดรัจฉาน" ปิดตัวลงไปแล้ว ไม่ทราบว่าบรรดาสัตว์ป่ามีชะตากรรมอย่างไร จากคุณ : edicius - [ 20 มิ.ย. 52 15:05:28 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ฟังหูไว้หู แต่ถ้าเป็นจริงก็สารเxx มากครับ จากคุณ : ริมน้ำคาน - [ 21 มิ.ย. 52 17:00:27 ]

ความคิดเห็นที่ 45 เข้ามาอ่านตั้งกะวันแรกๆ ที่กระทู้ออนบอร์ดแล้วครับ พอดีนึกขึ้นได้ ถ้าจำไม่ผิด รู้สึกว่ามีอยู่รายการนึง เคยสัมภาษณ์นักแสดงสาวพร้อมเยี่ยมบ้านด้วย ปรากฏว่า ที่บ้านนั้นประธานมูลนิธิฯ คนที่เป็นพ่อของนักแสดงสาว ก็มีบรรดาสัตว์อยู่นานาชนิดทีเดียว แต่ผมไม่ได้ดูทั้งรายการ เลยไม่แน่ใจว่ามีอะไรบ้าง ซึ่งพอทราบข่าวนี้ ก็ยิ่งงงเข้าไปใหญ่ ว่าเค้าทำกันได้ยังไง มินาล่ะ ถึงได้มีการประท้วงขับไล่ตัวประธานฯ อยู่เสมอๆ จากคุณ : สงสารอาสาสมัคร (itohsan) - [ 21 มิ.ย. 52 22:01:57 ]

ความคิดเห็นที่ 46 วันก่อนดูทีวี เห็นพิตต้าออกมาประกาศขายสำนักงานตรงบางเขน จะใช่อันเดียวกันมั้ยเนี่ย.... จากคุณ : เกลียดคนขี้โกง - [ 22 มิ.ย. 52 08:55:42 A:119.160.218.198 X: TicketID:221148 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ข่าวว่าจะขึ้นศาล ถ้าขายไป คงต้องชดใช้กันหัวโตแน่ เพราะเป็นทรัพย์สินของส่วนรวม ต้องช่วยกันตรวจสอบ ว่าเอาไปใช้อะไรกันแน่ จากคุณ : ยมป่า (ยมป่า) - [ 25 มิ.ย. 52 17:09:20 ]

ความคิดเห็นที่ 48 อ่านแล้ว พาลย้อนนึกถึงไปเมื่อปี 43 ... ตอนนั้นติดสอยห้อยตามเพื่อน ๆ ที่เรียนวิชา ecotourism ไปเขาแผงม้า ได้พบกับพี่ ๆ เจ้าหน้าที่มูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าฯ กลุ่มคนเล็ก ๆ ที่ทำงานด้วยหัวใจใหญ่ ๆ วันนั้น เราสนุก เราได้ความรู้ เราซาบซึ้ง เราประทับใจ เราได้รับแรงบันดาลใจ จากเรื่อง "พรรณไม้หลังไฟป่า" ของพี่หงอคง :) เฮ่อ...วันนี้เพิ่งรู้ว่าคนใหญ่คนโต ที่เป็นเพื่อนเดรัจฉาน เค้าเป็นยังงี้นี่เอง... จากคุณ : shallowbong - [ 5 ก.ค. 52 15:19:27 ]