ความคิดเห็นที่ 1 รีบมาอ่านเลยจ้ะ>_< จากคุณ : หอมรำเพย - [ 29 มิ.ย. 52 11:51:45 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ตามมาอ่านค่ะ ^_^ จากคุณ : อารีรัตน์ - [ 29 มิ.ย. 52 11:53:48 ]

ความคิดเห็นที่ 3 5555   ขำฟร่ะ  เป็นอาจารย์ที่.... ที่ไหนเนี๊ยะ ทำไมกร่างจังเลย   แปลกแต่จริงๆ นะ  คนพวกนี้ ชอบกร่าง ทั้งๆ ที่ก็รู้อยู่ว่าตัวเองทำผิดอ่ะ จากคุณ : Gigolina - [ 29 มิ.ย. 52 11:56:19 ]

ความคิดเห็นที่ 4 แสบจริงๆ แต่ละคน   จากคุณ : napatson - [ 29 มิ.ย. 52 11:59:03 ]

ความคิดเห็นที่ 5 อ้อ ลืมบอกค่ะ ขำชื่อ ยี่ห้อ "ความลับของเมียเบ๊กแฮม"  ด้วย   จากคุณ : napatson - [ 29 มิ.ย. 52 12:00:01 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ตามมาอ่านจ้า...ว่าแต่ทางศุลกากรกำหนดว่ามูลค่าสินค้าที่ถือเข้าประเทศห้ามเกินเท่าไหร่ค่ะ จากคุณ : nangsamlor - [ 29 มิ.ย. 52 12:02:41 ]

ความคิดเห็นที่ 7 โอ้... เที่ยวนี้หนักเลยนะครับ  กระทู้นี้ไม่หัวเราะดีกว่า กระทู้อื่นๆมีเกี่ยวกับจิตสำนึกว่าไม่เกี่ยวกับการศึกษา  แต่นี่ระดับผู้ให้การศึกษา(บางคนเท่านั้น)....เอ่อ   จากคุณ : [Cha] - [ 29 มิ.ย. 52 12:02:55 ]

ความคิดเห็นที่ 8 อ่านคลายเครียดได้ดีจริงๆ จากคุณ : แมงปอบินเดี่ยว - [ 29 มิ.ย. 52 12:04:59 ]

ความคิดเห็นที่ 9 แว้ววว แต่ละคนฤทธิ์มากจริงๆ จากคุณ : poondiks - [ 29 มิ.ย. 52 12:05:59 ]

ความคิดเห็นที่ 10 แนะนำว่าเวลาจับนะคะ ให้มีกล้องวีดีโอถ่ายไว้ ให้เค้าเห็นเลยค่ะว่าถ่ายอยู่ รับรองไม่ค่อยมีใครกล้าวีนแน่ค่ะ จากคุณ : jeangirl - [ 29 มิ.ย. 52 12:07:22 ]

ความคิดเห็นที่ 11 กร้ากกกก   อย่าง ฮา แต่อยากรู้จังว่าสอนที่ใหน จากคุณ : กระปอมก่าคับ - [ 29 มิ.ย. 52 12:08:46 ]

ความคิดเห็นที่ 12 วีนกันประหลาดดีจังค่ะ  คุณผู้โดยสารแต่ละท่านเนี่ย  5555  ไม่ทราบว่าสอนที่ไหนคะอาจารย์  หนูจะได้ไม่ไปเรียน 555 จากคุณ : _toon_ - [ 29 มิ.ย. 52 12:15:28 ]

ความคิดเห็นที่ 13 สนุกเหมือนเดิมครับ แต่ก็ยังสงสัยเหมือนเดิม... ว่าของที่ไม่ให้ผ่านเนี่ย "ต้องยึดไว้และทำลายทิ้ง" จริงๆเหรอครับ?? ของดังๆ ดีๆ ทั้งนั้น... จะทำลายทิ้งลงต่อหน้าต่อตาเลยเหรอ จากคุณ : CharliePapa - [ 29 มิ.ย. 52 12:17:13 ]

ความคิดเห็นที่ 14 อืมม์ สงสัยเหมือนกันว่า ถ้าเราซื้อของจากต่างประเทศซึ่งปกติ เพื่อนฝูง ญาติพี่น้อง เพื่อนของเพื่อน เพื่อนของญาติ ฯลฯ  ฝากซื้อของ เราสามารถนำเข้ามาได้ มากน้อยแค่ไหน เช่นกระเป๋าแบนด์เนม เครื่องสำอางค์ อาหารเสริม วิตามิน  ถึงไม่ต้องสำแดง ช่วยไขข้อข้องใจหน่อยนะค่ะ แล้วถ้าเอามาเยอะกว่าที่กำหนด ของแต่ละประเภทเสียภาษีอัตรา เท่าไหร่ค่ะ แก้ไขเมื่อ 29 มิ.ย. 52 12:23:42 จากคุณ : kateisme (kateisme) - [ 29 มิ.ย. 52 12:23:22 ]

ความคิดเห็นที่ 15 บอกตรง ๆ นะครับ อย่าโกรธกัน อ่านกระทู้นี้แล้วรู้สึกเหมือน เอาดีเข้าตัว เอาชั่วเข้าคนอื่น อย่างไรก็ไม่รู้ อยากให้ตีแผ่หลาย ๆ ด้าน มากกว่านี้จัง เฮ้อ....... :D เข้าใจว่าอยากประชาสัมพันธ์หน่วยงาน แต่อ่านกระทู้นี้แล้วรู้สึก ว่าข้าราชการเป็น "นาย" ประชาชนไม่เปลี่ยนแปลงจริง ๆ จากคุณ : pwit - [ 29 มิ.ย. 52 12:23:57 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เออ..แปลกๆมีเยอะนะ ว่าแต่มีเกณฑ์  เรื่องมูลค่าของที่นำเข้าเหรอครับ แล้วเวลาที่เพื่อนๆฝากซื้อของให้เอากลับมา   จะโดนยึดบ้างป่าวครับเนี่ย.. จากคุณ : Ntyu - [ 29 มิ.ย. 52 12:26:25 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ลงชื่ออ่าน เห็นด้วยกับ คห 14 ค่ะ ของเลี่ยนแบบ เอาเข้าไม่ได้เลย หรือไม่ได้กี่ชิ้นขึ้นไปหรือค่ะ จากคุณ : Find_Story - [ 29 มิ.ย. 52 12:29:59 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ชอบวิธีการเล่า สนุกดีค่ะ   ส่วนเนื้อหา ก็รู้ ๆ อยู่ ต่างคนก็ต่างใจ จากคุณ : คุณอ่อง - [ 29 มิ.ย. 52 12:34:03 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ขำ อาจารย์ 55555 แล้วskinfood อ่ะ คือ พี่แกเป็นไกด์ แถมเข้าๆๆออกๆๆๆ จะฝากคนที่บ้านมากมาย จับผิดกันได้เห็นๆๆเลยเน่ะ แต่ถามหน่อยค่ะ ถ้าอย่างเราๆๆๆ ไปเกาหลี โดยเฉพาะสาวๆๆๆ ที่เกาหลี เครื่องสำอางค์ ครีมสารพัดยี่ห้อ มันน่าซื้อน่าลอง เกิดว่า ดันซื้อมาเยอะเกินไปจนเหมือนเอามาขายแต่ใช้เองเพราะตอนซื้อลืมตัว ราคาก็ไม่แพงเลยซื้อๆๆๆๆค่ะ  แล้วจะแจ้งยังไงว่า เจตนาเราต้องการใช้เองค่ะ ให้เสียภาษีจะได้หรือป่าวค่ะ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : kizz_j - [ 29 มิ.ย. 52 12:35:16 ]

ความคิดเห็นที่ 20 นั่นนะสิครับเพราะไปเที่ยวรอบหน้าแฟนผมก็คงได้กระเป๋าถือทั้งจริงและกอป มา2-3ใบแบบนี้จะต้องแสดงรึเปล่าละครับ และบางทีครอบครัวผม อาจซื้อพวกเสื้อที่เขากำลังลดราคามาใช้เอง(แบบคละๆกันไปรวมไม่น่าเกิน10ตัว) จะกำหนดจำนวนยังไงดีละครับ จากคุณ : alcatel547 (ALCATEL547) - [ 29 มิ.ย. 52 12:37:49 ]

ความคิดเห็นที่ 21 อ่านตอนนี้ขำมากมาย แต่ ณ เวลานั้น น้ำตาคงแทบร่วง เห็นใจคนทำงานค่ะ จากคุณ : คุณหนูวุ่นวาย - [ 29 มิ.ย. 52 12:59:37 ]

ความคิดเห็นที่ 22 อ่านแล้วครับ สนุกดี จากคุณ : หน้าขุนแผน หัวขุนช้าง - [ 29 มิ.ย. 52 13:08:51 ]

ความคิดเห็นที่ 23 เรียนคุณ  pwit ครับ ผมขออนุญาตชี้แจงนิดหน่อยนะครับ คือเรื่องที่ผมเล่ามานี้เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นจริงครับ และในการทำงานนั้นผมก็สำนึกตลอดเวลาว่าตัวผมไม่ได้เป็น "นาย" ของประชาชนแต่อย่างใด คิดอยู่ตลอดเวลาว่าเราเป็นผู้ให้บริการแก่ผู้โดยสารให้ได้ความสะดวกมากที่สุดเท่าที่กฎหมายจะอำนวยให้ได้ครับ ส่วนที่ว่าเป็นการเอาดีเข้าตัว ชั่วให้คนอื่นนั้น ผมกราบขออภัยหากว่าเรื่องที่เล่าสู่กันฟังนี้ทำให้รู้สึกไปเช่นนั้นได้ ซึ่งเรียนตรงๆว่าไม่ได้เจตนาให้เป็นเช่นนั้นเลยครับ ขออนุญาตปรับปรุงแก้ไขในกระทู้ต่อไปครับผม ยืนยันว่าวิธีการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่(ไม่ใช่เฉพาะตัวผม)ต้องเป็นไปด้วยความสุภาพทั้งกิริยาและวาจาครับ เพราะว่าหาไม่แล้วเจ้าหน้าที่นั่นแหละจะถูกร้องเรียนและสอบสวนหากว่าปฏิบัติโดยไม่สุภาพเรียบร้อย แต่ทว่าก็อีกนั่นแหละ ในกลุ่มคนจำนวนมากคนเราก็ต่างๆกันไป หากจะมีไม่ดีอยู่บ้างก็สุดกำลังที่ผมจะไปกำหนดกฎเกณฑ์ได้ ส่วนการประชาสัมพันธ์หน่วยงานนั้นผมไม่เคยคิดมาก่อนเลยครับ คิดอยู่แค่ว่าการมีกระทู้ของเจ้าหน้าที่ศุลฯอยู่ในห้องที่คนเข้ามาหาข้อมูลในการเดินทางนั้น จะเป็นการช่วยให้เพื่อนๆในที่นี้ปฏิบัติตนได้ถูกต้องตามกฎหมายและลดปัญหาเรื่องการนำของเข้าให้เพื่อนๆได้ส่วนหนึ่งเท่านั้นเองครับ แต่ว่าการจะเป็นลอกอินหนึ่งที่อยู่เฉยๆรอคำถามนั้น ผลก็คงจะไม่เกิด ผมก็เลยหาวิธีการเอาเรื่องมาเล่าสู่กันฟังและเผื่อว่าใครจะมีข้อสงสัยก็ถามไถ่ให้ข้อมูลกันได้ทั้งหน้ากระทู้และหลังกระทู้ครับ สุดท้ายผมขอขอพระคุณอีกครั้งที่ให้ข้อติชม และหวังว่าจะได้รับอีกในโอกาสต่อๆไปครับ จากคุณ : Eat that Liqu - [ 29 มิ.ย. 52 13:20:41 ]

ความคิดเห็นที่ 24 อ่านกระทู้นี้รู้สึกแปลกๆด้วยคนค่ะ เราก็ไม่รู้ว่าศุลฯเค้ามีกฎเกณท์อะไรหรือว่าเลือกพิจารณาสุ่มดูของๆผู้โดยสารยังไง เพราะเราไปต่างประเทศทุกครั้งไม่เคยขอตรวจเลยสักครั้งยกเว้นเมื่อครั้งสุดท้ายเนี่ย ที่เรากลับมากับเพื่อนสองคนแถมกระเป๋าลากที่หิ้วมาก็เล็กขนาดเอาขึ้น cabin ได้ด้วยซ้ำแล้วเจ้าหน้าที่ก็กวักมือเรียกหยิบกระเป๋าเราไปตรวจเลยทั้งๆที่ไม่พูดขอหรืออะไรสักอย่าง คือถ้าเค้าพูดอะไรอย่างขอตรวจหน่อยนะค่ะก็ยังดี ดีกว่าทำหน้ามุ่ยแล้วเอาเข้าเครื่องแสกน(คิดในใจว่านี้เราขอมันแสกนให้หรือไงว่ะ)แถมกระเป๋าเราก็เล็กแล้วยังจะตรวจของเราอีก(กระเป๋าอันนั้นอัดของเข้าได้ไม่มากหรอก) แล้วพอเราผ่านได้หันกลับไปมองพวกกระเป๋าใหญ่ๆไม่เห็นจะเรียกเลย เลยไม่เข้าใจว่าเอาไรเป็นหลักเกณท์ละเนี่ย?? จากคุณ : keitara - [ 29 มิ.ย. 52 13:34:14 ]

ความคิดเห็นที่ 25 เป็นกำลังใจให้คุณ Eat that liqu ครับ อย่าท้อก่อนนะครับ คุณ pwit ก็มองโลกในแง่ดีบ้างครับ จากคุณ : ectlp - [ 29 มิ.ย. 52 14:01:49 ]

ความคิดเห็นที่ 26 เข้าใจในการทำหน้าที่ครับ  เรื่องแปลกๆทำนองนี้เกิดขึ้นได้เสมอ แต่คงปฏิเสธไม่ได้ว่าเจ้าหน้าที่บางคนก็เป็นเหลือบในวงการเช่นกัน ให้วางเหล้าวางบุหรี่ทิ้งใว้แลกกับการไม่เปิดตรวจก็มี(ไม่ได้เกิดกับตัวเอง) กล้องวงจรปิดแถวนั้นมันก็แปลก มักจะเสียอยู่เรื่อยเชียว... จากคุณ : Uncle Tee - [ 29 มิ.ย. 52 14:14:08 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ฮาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา ชอบบบบบบบบบบบบบบบบ ขอบคุณครับบบบบบบบบบบบ แล้วจะติดตามอ่านต่อไป จากคุณ : NumAromDee - [ 29 มิ.ย. 52 14:31:09 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ขอบคุณเจ้าของกระทู้ที่เล่าสู่กันฟังค่ะ คนเดินทางก็มีมากมายหลายประเภทค่ะ บางคนตั้งใจจะทำ แต่บางคนก็ไม่ตั้งใจ แต่ยังไงก็คิดว่าเจ้าหน้าที่เมืองไทยใจดีกว่า หลาย ๆ ประเทศที่ไปมานะค่ะ เอาใจช่วยค่ะ จากคุณ : ps_2a - [ 29 มิ.ย. 52 14:51:39 ]

ความคิดเห็นที่ 29 น่าส่งไปรายการ คดีเด็ด นะเนี่ย อยากทราบเหมือนกันครับว่า หลักเกณฑ์ว่าอะไรอะไรเข้าได้บ้าง ไม่ได้บ้าง จำนวนเท่าไหร่ พวกนี้หน่ะครับ ปรกติไม่ค่อยได้หิ้วอะไรเท่าไหร่ มีแต่เสื้อผ้าซะเยอะ แต่งวดนี้ ไปเพื่อช้อปปิ้ง จะได้ไม่ซื้อเกินหน่ะครับ จากคุณ : กลด - [ 29 มิ.ย. 52 15:08:03 ]

ความคิดเห็นที่ 30 2-3 วันก่อนได้ยินเพื่อน เอาเบียร์ corona ศุลฯ มาอวด บอกว่าซื้อมาลังละ 480 บาท ศุลฯ ขายราคานี้จริงๆเหรอครับ จากคุณ : Archarn Chan - [ 29 มิ.ย. 52 15:13:36 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ผมเกลียดพวกทำตัวกร่าง เบ่ง วางอำนาจ มากที่สุดในโลกเลย  น่าจะจับพวกนี้ไปใช้แรงงานทาสที่สุด จากคุณ : David_kop - [ 29 มิ.ย. 52 15:18:01 ]

ความคิดเห็นที่ 32 เรียนคุณ Archarn Chan ครับ คือว่าเป็นของที่เรียกกันว่า "ของตกค้าง" น่ะครับ คือมีความผิดเกิดขึ้น มีการดำเนินคดี ของก็ถูกยึดมาเก็บไว้เป็นระยะเวลาตามที่กฎหมายกำหนดและไม่มีเจ้าของมาติดต่อเลย เมื่อครบกำหนดเวลาแล้วก็จะมีการขายของตกค้างแล้วนำเงินส่งคลังครับ จากคุณ : Eat that Liqu - [ 29 มิ.ย. 52 15:18:17 ]

ความคิดเห็นที่ 33 เอ.. แล้วของที่ถูกยึดที่สนามบิน สามารถติดต่อชำระค่าปรับ และรับสินค้าคืนได้หรือเปล่าครับ ปล. ผมคงไม่ใช่อาจารย์ในเรื่อง ที่เล่านะครับ 555 จากคุณ : Archarn Chan - [ 29 มิ.ย. 52 15:26:50 ]

ความคิดเห็นที่ 34 "ความลับของเมียเบ๊กแฮม" ขำก๊าก!!! เลยค่ะ แทบพ่นกาแฟออกมาแน่ะ... แต่ยี่ห้อนี้...เค้าขึ้นชื่อเรื่องความหอมนะเออ.... จากคุณ : พะยูนอ้วน - [ 29 มิ.ย. 52 15:48:55 ]

ความคิดเห็นที่ 35 แล้วของพวกนั้นเค้าจะขายยังไงหรอค่ะ ในกรณีที่เหลือตกค้าง แล้วเอาออกขายเพื่อเอาเงินเข้าคลัง เผื่อจะได้ไปสอยมามั่ง ^-^ จากคุณ : poondiks - [ 29 มิ.ย. 52 18:09:00 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ติดตามอ่านเรื่อยๆ ค่ะ *ถ้าหนูซื้อเฮลโหลคิตตี้จากจีน ใส่เต็มกระเป๋าเดินทาง หนูจะโดนยึดของมั้ยคะ ไม่ได้เอาไปขายต่อแต่อย่างใด  หนูชอบทุกอย่างที่เป็นคิตตี้ค่ะ   ตอนนี้ที่เล็งๆ ไว้ก็หม้อหุงข้าว  เครื่องปิ้งหนมปัง ผ้าม่าน + พรมเช็ดเท้า(เอาไปเปลี่ยนอันเดิมที่เก่าแล้ว) :D แก้ไขเมื่อ 29 มิ.ย. 52 18:19:28 จากคุณ : สาวหน้าใส - [ 29 มิ.ย. 52 18:15:50 ]

ความคิดเห็นที่ 37 "ความลับของเมียเบ๊กแฮม" ขำแทบสัปปะรดพุ่งเช่นกัน... จากคุณ : Avalanche - [ 29 มิ.ย. 52 18:27:35 ]

ความคิดเห็นที่ 38 เอาเรื่องเดือดร้อนของคนอื่นมาเป็นเรื่องขำขัน สนุกมากใช่ใหมครับ ผมอ่านแล้ว ไม่ขำเลยซักนิด หาวิธีประชาสัมพันธ์แบบอื่นเถอะครับ ลองเล่าเรื่องอื่นๆ ที่ขำขำ โดยที่ไม่ต้องใช้ความเดือนร้อนของคนอื่นเป็นเครื่องมือเลยครับ จึงเรียนมาเพื่อพิจารณา ด้วยความเคารพอย่างสูงมากๆ แก้ไขเมื่อ 29 มิ.ย. 52 21:25:31 แก้ไขเมื่อ 29 มิ.ย. 52 20:39:35 แก้ไขเมื่อ 29 มิ.ย. 52 20:22:18 แก้ไขเมื่อ 29 มิ.ย. 52 18:41:36 แก้ไขเมื่อ 29 มิ.ย. 52 18:40:12 จากคุณ : peugeot - [ 29 มิ.ย. 52 18:36:45 ]

ความคิดเห็นที่ 39 สนุกค่ะ ตามอ่านหมดทุกกระทู้เลย เราว่าด่านศุลฯนี่สำคัญเลยนะคะ เป็นหน้าเป็นตาให้กับประเทศได้เลย เราเคยมีประสบการณ์เดินทางคนเดียว ไปต่างประเทศเป็นครั้งแรก มาที่นิวซีแลนด์นี่ เงอะๆงะๆ ไม่รู้อะไร ไปเจออิมฯที่นู่น ใจดีมาก พูดปลอบใจตลอดว่า ไม่มีอะไร แค่เช็คตามหน้าที่เฉยๆ ไม่ต้องกลัวนะ... (สงสัยหน้าตาเราน่าสงสารมากเลยตอนนั้น) แล้วก็ทักทาย ชวนคุยซะดิบดี น่ารักดีนะคะ เราประทับใจมากเลยอ่ะ ทำให้รู้สึกดีกับประเทศนี้ไปเลย เราว่าจขกท.น่าจะเป็นแบบเดียวกะจนท.ที่เราเจอแน่เลย ดูท่าทางใจดี อารมณ์ดี เป็นกำลังใจให้นะคะ... จากคุณ : นางมารร้ายผู้ใจดี - [ 29 มิ.ย. 52 19:03:22 ]

ความคิดเห็นที่ 40 คห.38 "คุณเอาเรื่องความเดือนร้อนของคนอื่นมาเป็นเรื่องขำขัน" ผมก็ไม่เห็นว่า ที่คุณศุลฯ ท่านนี้เอามาบอกเล่ากัน จะเป็นเรื่องเดือดร้อนของคนดีๆ คนอื่นตรงไหน  ถ้ามีคนจะเดือดร้อน ก็คงเป็นคนที่ล้กลอบขนของมาเกินอัตราที่ กม. กำหนด แล้วพอถูกตรวจ ก็อารมณ์ของขึ้น อวดศักดาเบ่งอำนาจข่มขู่ จนท. ผู้ที่ทำหน้าที่ตาม กม. เพื่อให้ปล่อยตัวเองและของกลางออกไปต่างหากล่ะครับ คนแบบนี้ มีไม่น้อยในสังคมนะครับ คิดดูว่าถ้าคุณ คห. 38 ต้องไปเจอคนประเภทนี้ จะรู้สึกอย่างไร ส่วนเรื่องจะเอาดีใส่ตัว เอาชั่วใส่คนอื่นนั้น ผมก็ไม่ทราบและไม่รู้จักคุณศุลฯ ท่านนี้เป็นการส่วนตัวว่าเป็นใครชื่ออะไรหรอกครับ รู้แต่ว่า เค้ายกตัวอย่างสิ่งที่ได้พบเจอมาบอกเล่าเป็นประสบการณ์ และให้ความรู้ความเข้าใจในข้อกม. และแนวทางปฏิบัติในการผ่านด่านศุลกากรที่สนามบิน ด้วยอารมณ์ขำๆ หรือบางทีก็เป็นอุทาหรณ์แก่ผู้ที่ใช้บริการสนามบินที่ต้องผ่านด่านศุลกากรเท่านั้นเองครับ จากคุณ : David_kop - [ 29 มิ.ย. 52 19:20:51 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ชอบครับ ขำ ๆ ดี  มีอะไรสนุก ๆ ก็มาเล่าสู่กันฟังอีกนะครับ จากคุณ : F_lifetruth - [ 29 มิ.ย. 52 20:20:47 ]

ความคิดเห็นที่ 42 มารับฟัง แก้ไขเมื่อ 29 มิ.ย. 52 20:31:22 จากคุณ : prajoa - [ 29 มิ.ย. 52 20:27:18 ]

ความคิดเห็นที่ 43 เป็นการเอาควาดีเข้าตัว เอาชั่วให้คนอื่นๆจริงๆแหละครับ คือดีแต่เอาเรื่องของคนอื่นมาแฉ สุดท้าย ศุลก็ถูกทุกอย่าง ชนะทุกอย่าง  ถ้าเป็นกลางจริง เขียนเรื่องแฉ ตัวพวกคุณเองดีกว่า ว่าพฤติกรรมแย่ของพวกคุณ มันฟอนเฟะแค่ไหน  ดีแต่ว่าชาวบ้าน จะบอกว่าพวกคุณนี่ดีเลิศ ไม่รับส่วย ผ้าขาวสะอาด เหรอ พ่อพระ ผมเขียนแฉชาวบ้าน เอาความทุกข์หรือเรื่องหน้าแตกมาหากินดีกว่า แล้วหันมาเขียนเรื่องตัวเอง เช่น เรื่องผีศุล  หรือ  รับส่วยยังไงให้ร่ำรวย เพราะ คนเลวมีอยู่ทุกที่ ไม่ใช่มีแต่ customer จากคุณ : กะเหรี่ยงหลงดอย - [ 29 มิ.ย. 52 20:57:47 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ^ ^ ^ คห.43 เป็นไรมากป่าวคะ ?? คิดมากไปป่าวคะ ?? หรือใช้ "ความลับของเมียแบ็คแฮม" อยู่ค่ะ ?? จากคุณ : หมียักษ์ อยากเที่ยว - [ 29 มิ.ย. 52 21:38:18 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ขำๆ ค่ะ  ยังไงก็เอาใจช่วยนะคะ   ทำงานราชการบางอย่างที่อ้างอิงกฎหมายก็งี้แหละค่ะ  มักจะถูกมองในหลายๆ ด้าน (ก็ต้องทำใจเนอะ)  ครอบครัวเราก็ข้าราชการค่ะ  และอยู่ในสายงานที่ต้องใช้กฎหมายเยอะมากๆ ด้วย  งานแต่ละอย่างก็ต้องอาศัยทุกๆ ฝ่ายอีกต่างหาก  พอล่าช้าก็โดน ประชาชน...  ใส่เอาบ้าง  เลยดีใจทุกครั้งที่พ่อกับแม่กลับบ้านมาเล่าให้ฟังว่ามีคนที่มาติดต่องานเค้าเข้าใจเราด้วยนะ  ว่าทำไมมันถึงทำนั่นนี่ช้า  หรือทำไมทำไม่ได้สักกะที  ไม่เหมือนหน่วยงานรัฐอื่นๆ  ที่เดี๋ยวนี้เค้าเริ่มปรับปรุงกันหมดแล้ว  (ก็พี่ท่านเล่นสั่งงาน  แต่ไม่จ่ายเงินนี่ค่ะ  พวกใหญ่ๆๆๆๆ  นี่จะเอาแต่หน้าเอาแต่ผลงานเอาแต่เงินท่าเดียวเลย  เฮ้อ) นอกเรื่องซะนาน  จะมาบอกว่าคุณ จขกท คิดคำแปลยี่ห้อได้สร้างสรรค์ดีจังค่ะ  ตลกมากมาย จากคุณ : Queen_Devil - [ 29 มิ.ย. 52 22:08:27 ]

ความคิดเห็นที่ 46 คนเรานี่ก็ร้อยพ่อพันแม่เนอะ เอาเป็นว่าให้กำลังใจ จขกท แล้วกันครับ สำหรับคนอ่านอะไรที่ไม่รู้ก็ได้รู้ อะไรที่ไม่ควรทำก็จะได้ไม่ทำ ส่วนคนที่คิดแง่ลบอย่างเดียวก็ปล่อยๆ เค้าไป ทุกที่ไม่ได้มีคนดีทั้งหมด หรือชั่วทั้งหมดนี่หน่า ขอหน่อยเหอะ เรื่องที่กล่าวหาว่าเข้ามาประชาสัมพันธ์หน่วยงานเนี่ย คิดได้ไงคับ เค้าประชาสัมพันธ์ว่าอะไรควรทำไม่ควรทำ ก็แค่นั้นเอง รายการทีวียังมี reallity ของคนทำงาน ราชการ เลย ผิดตรงไหนเนี่ย งง!!! ปล มาให้กำลังใจคนที่ตั้งใจทำงานครับ และขอบคุณที่ชี้แจงเรื่อง ของ ต้องห้ามทางหลังบ้านด้วยครับ ถ้าไม่มีท่าน ผมก็ไม่รู้จะถามใครเหมือนกันหน่ะคับ จากคุณ : กลด - [ 29 มิ.ย. 52 22:12:40 ]

ความคิดเห็นที่ 47 เออ คนเรานี่ บางคน ไม่ซี หลายคน ยังไม่รู้ตัวว่าเป็นคนอยู่อีกหนอ ถึงได้ไม่เคยรู้เลยว่า เวลาสุนัขมันขี้นี่ มันต้องยกหาง ยกทำไม ยกเพราะมันฉลาดน่ะซีเล่า ขืนไม่ยก ขี้ก็เปรอะหางมันเข้าให้ แล้วคนเราเป็นคนแท้แท้ จะต้องขี้เรี่ยขี้ราดให้เปื้อนเปรอะเลอะเทอะไปหมดหรือไง ไม่รู้จักป้องกันตัวเองบ้างหรืออย่างไร ใครเขาทำอะไรก็บอกให้เขาปล่อยๆออกมาเลย คิดหรือว่าเขาโง่กว่าสุนัข เขาดีกว่าตัวเองนะครับ เพราะตัวเองนะ ยิ่งกว่าสุนัขเสียอีก แล้วยังจะมาชักชวนให้เขาหางด้วนตามตัวเองไปอีกหรือนี่ ไปสงบสติอารมณ์ที่อื่นก่อนดีกว่าละมัง แล้วค่อยมาอ่าน ไม่ใช่มาแล้ว ก็รีบหาหนทางระบายความใคร่ทางเน็ตอย่างนี้ จากคุณ : ไม่ไหวครับ - [ 29 มิ.ย. 52 22:38:13 A:124.120.48.27 X: TicketID:004579 ]

ความคิดเห็นที่ 48 จะว่าไป... ก็อยากให้มีคนมาแฉอีกด้านนึงเหมือนกันนะเนี่ย คงสนุกไม่แพ้เรื่องที่ จขกท. เล่าเลย หุหุหุ จากคุณ : CharliePapa - [ 29 มิ.ย. 52 22:42:44 ]

ความคิดเห็นที่ 49 สงสัยค่ะ ว่าถ้าเราเดินทางแล้วนำของเข้ามาใช้เอง ยืนยันว่าใช้เองแต่คนเรานานๆจะไปที ค่าตั๋วเครื่องบินก็ไม่ได้ถูก ก็เลยซื้อมามากหน่อย ในกรณีนี้จะมีหลักเกณฑ์ในการสุ่มตรวจ หรือเสียค่าภาษีอย่างไรคะ ถามเหมือนคุณ kizz_j ความเห็นที่ 19 ค่ะ จากคุณ : Nutoun - [ 29 มิ.ย. 52 22:45:05 ]

ความคิดเห็นที่ 50 เป็นกำลังใจให้นะคะ ตามอ่านทุกตอนเลยค่ะ ... จากคุณ : แฟนคนอ้วน - [ 29 มิ.ย. 52 23:00:54 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ขอบคุณค่ะ และเห็นใจเจ้าหน้าที่มาก แนะนำให้ติดกล้องวีดีโอ จะได้ไว้ฟ้องกลับได้ค่ะ จากคุณ : จันผา - [ 29 มิ.ย. 52 23:02:17 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ขอบคุณครับ ไม่เห็นจะเป็นเรื่องเดือดร้อนของคนอื่นตรงไหน ในเมื่อทำผิดกฏหมายหรือข้อกำหนด แล้วคุณจขกท. ก็ไม่ได้เล่า โดยแสดงอาการดูถูกผู้ทำผิดกฏหมายแต่อย่างใด จากคุณ : วันที่อ่อนไหว... - [ 29 มิ.ย. 52 23:24:08 ]

ความคิดเห็นที่ 53 พฤติกรรมเหมารวมนี่ เป็นพฤติกรรมด้านมืดของคนไทยหลายๆ คนเลยนะครับ  เวลาเกิดความไม่พอใจบุคคลในหน่วยงานหรือสถาบันบางคน ก็เหมารวมเอาคนทั้งหมดของหน่วยงานหรือสถาบันนั้นๆ ว่าเป็นคนเลวน่ารังเกียจไปเสียทั้งหมด  ถ้าคุณคิดว่าคุณไม่ได้ความเป็นธรรมจากใครในหน่วยงานนั้นๆ คุณก็ไปร้องเรียนให้ถูกตัวคนสิครับ  อย่าไปเหมารวมคนอื่นๆ ที่คุณไม่ได้รู้จักและไม่ได้เกี่ยวข้องด้วย และคุณ จขกท. ก็ไม่ได้ยกตัวเองว่าดีเลิศประเสริฐศรีตรงไหน ก็แค่บอกเล่าประสบการณ์ที่เคยพบเห็น และไม่เคยปฏิเสธเลยว่าในหน่วยงานของเค้าไม่มีคนไม่ดีเลย แต่เนื่องจากเค้าเป็นคนในหน่วยงานนั้น ด้วยวินัยของข้าราชการ มันไม่สามารถนำมาบอกเล่าบอกกล่าว โดยไม่มีหลักฐานได้ เค้าก็ทำได้เพียงทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด แค่นั้นเองครับ จากคุณ : David_kop - [ 30 มิ.ย. 52 00:25:47 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ยังตามอ่านอยู่ค่ะ จากคุณ : ++แขวน++ - [ 30 มิ.ย. 52 01:16:13 ]

ความคิดเห็นที่ 55 เนื้อหาถึงความพิลึกพิลั่นและกิริยาของผู้คนที่คุณเจ้าของกระทู้ว่ามา เราเข้าใจค่ะ อาชีพไหนๆก้อเจอกับคนแปลกๆแบบนั้นได้ ในความเป็นจริงนั้นหากว่านั่นเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง การที่เจ้าของกระทู้เลือกวิธีปฏิบัติดังกล่าวย่อมเป็นสิ่งที่ถูกที่ควร อันนี้ยอมรับและคิดว่าทำดีแล้วนะคะ ทีนี้ มาว่ากันตามนี้มั่ง ... คือถ้าเด็กที่รอคอย โดนคนมาต่อว่าเรื่องอาชีพที่ทำ ว่าเป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้ ไม่ดีทำนองนั้น ฟอนเฟะประมาณนี้ ... แน่นอนค่ะ เด็กที่รอคอยจะต้องรู้สึกไม่ดี ถ้าข้อกล่าวหามันแรงมากๆ คงอยากจะสวนกลับไปให้แสบๆ เพราะลำพังตัวเราเอง ไม่ใช่แบบที่เค้าพูดว่ากัน  มันก้อลำบากหน่อยค่ะว่าจะมีใครคิดเห็นใจเรา ปกป้องเรา เข้าข้างและให้กำลังใจเราบ้าง  ซึ่งก้อเคยโดนมาแล้ว ในส่วนนี้รู้สึดเข้าใจคุณเจ้าของกระทู้นะ แต่อีกด้านหนึ่ง ก้อไม่สามารถทำใจเห็นชอบไปกับคุณเจ้าของกระทู้ได้ เนื่องด้วยพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่ศุลฯในอีกด้านหนึ่งซึ่งคุณไม่ได้เอามาเขียนเล่า อันนี้คุณเจ้าของกระทู้อาจต้องทำใจนิดนึงว่า เพราะที่นี่เป็นบอร์ดสาธารณะ จึงเปิดให้คนอื่นแสดงความเห็นของตัวเองได้ ถ้าคุณเลือกี่จะขียนเป็นหนังสือขาย มันจะไม่มีอะไรแบบนี้ให้เห็นจนกว่าคุณจะพยายามไขว่คว้าหาทางที่จะรู้ถึงเสียงตอบรับจากผู้อ่าน ...  คือ เด็กที่รอคอยว่า พวกเลวๆที่รับสินบนเขาแบบเป็นเรื่องเป็นราวเพราะรู้ว่า เขาจะเอาอะไรเข้ามา  แล้วสุดท้ายก้อหักหลังกันจะๆเพราะอยากได้ตำแหน่งและส่วนแบ่ง มันดันมีให้เห็นน่ะค่ะ ไม่ได้หมายความว่า คนที่ลักลอบเอาของเข้ามาทำดีแต่โดนคนอาชีพคุณสะกัดทางจึงไปไม่รอดและน่าสงสาร แต่หมายถึงว่า ... เลว เพราะทำสันดานแบบนั้นได้ยังไง ถ้าจะทำอะไรให้ถูกต้อง ทำไมไม่ทำแต่แรก  ... ทำไม ไม่ทำตั้งแต่แรก ... กินมาเรื่อยๆสองปี สามปี  บางวันได้เพิ่มจากใครที่ไม่ใช่เจ้าประจำ จนตอนหลังคงไม่พอยังไงไม่ทราบ ขอเพิ่มเงินค่ากิน เขาก้อให้ ก้อเพราะเจ้าหน้าที่ดันไปตกลงกับเขาเอง แล้วสุดท้ายเอาไปเร่ขาย แจ้งจับ ยึดของ  ส่วนค่านู่น ค่านี่ ค่านั่น ก้อไม่รู้เหมือนกันว่า แล้วมันจะตกอยู่ที่ใคร ที่คุณพูดเชื่อได้รึเปล่า  เพราะเมื่อเจ้าหน้าที่ดังกล่าวขอพาสปอร์ตเขาไปแล้วไปยืนมุงกันสามคนสี่คน  การที่พาสปอร์ตเล่มนั้นไม่ได้โดนซีร็อกส์ แต่เจ้าหน้าที่เดินกลับมาแล้วถามเขาว่า "แล้วเนี่ยจะให้เท่าไหร่?"  นี่มันก้อไม่ต้องคิดมากแล้วล่ะค่ะว่าเจ้าหน้าที่พรรค์นั้นต้องการอะไร เท่าที่ทราบ เคยได้ยินว่า ขอสองพันบาท แต่จะเคยตั้งราคาไว้มากกว่านี้อีกหรือไม่ ไม่ทราบเช่นกัน ส่วนรายละเอียดอื่นๆจะขอละไว้ ตัวคุณกับเรา ไม่มีปัญหานะ เราไม่เคยผูกใจเจ็บคุณ คุณไม่ได้มีความแค้นกับเรา บอร์ดสาธารณะ มีมุมสว่างที่พูดถึง ก้อมีมุมมืดที่จะเอ่ย คุณเลือกทำอาชีพนี้ก้อขอให้ทำอย่างดีที่สุดในแบบที่ดีตามที่เล่า เพราะนอกจากคุณแล้วเด็กที่รอคอยมีคนที่สนิทในระดับเพื่อน ที่น่าจะทำงานแบบเดียวกับคุณ ดังนั้นในใจนี้ก้อไม่ได้มีแค่เนื้อที่ไว้สำหรับโจมตีอาชีพนี้ แต่ในความรู้สึกส่วนตัว ... ระหว่างคุณตั้งกระทู้ กับ เขียนหนังสือขาย เสียงตอบรับคงต่างกัน และความรู้สึกของผู้คนที่อยากร่วมแสดงออกต่อคุณก้อคงจะต่างกันบ้างเป็นธรรมดา จากคุณ : เด็กที่รอคอย - [ 30 มิ.ย. 52 01:35:03 ]

ความคิดเห็นที่ 56 #15 กับ #43 สรุปว่าคนเหล่านั้นทำถูกแล้ว ใช่ป่าวครับ จากคุณ : city dog - [ 30 มิ.ย. 52 02:33:29 ]

ความคิดเห็นที่ 57 ทุกอาชีพก็มีทั้งคนดีคนเลวค่ะ แต่ก่อนจะประนามใครเคยลองกลับไปมองตัวเองก่อนบ้างไหมว่า การคอรัปชั่น เรียกสินบน จากข้าราชการรัฐ ไม่ว่าจะเป็นศุลกากร ตำรวจ หรืออีกหลายๆอาชีพต้นเหตุมันเกิดจากการพยามยามทำผิดกฏหมายก่อนใช่หรือไม่ ถ้าไม่ทำหรือไม่พยายามทำผิดกฏหมายจะมีช่องทางให้เขามาหากินแบบนี้หรือเปล่า เวลาจะว่าเขาให้ว่าคนทำผิดต่อด้วยว่าที่หลังอย่าทำอีก การอ้างว่าไม่รู้ว่าผิดมันไม่ใช่เหตุผลที่จะทำผิดได้ ประชาชนทีหน้าที่ต้องรู้กฏหมาย ไม่ใช่ต้องให้ใครมาบอก ไม่เคยเห็นใครมาพูดว่าฉันทำผิดที่ไม่ศึกษากฏหมาย เดินทางก็บ่อย แถมเป็นผู้นำเข้ามาเป็นสิบปี ได้ยินเสียงล่ำลือกันมาตลอดเรื่องคอรัปชั่น แต่ยืนยันได้ว่าตัวเองไม่เคยต้องเสียเงินแบบนี้ซักบาทเดียวแล้วก็ไม่เจ้าหน้าทีคนไหนมาเสนอหรือเรียกร้องเงินทองด้วย เพราะอะไรเหรอ เพราะไม่เคยทำอะไรผิดไง ไม่เคยทำผิดที่เปิดช่องทางให้ใครมาหาผลประโยชน์ได้ ในชีวิตที่ขับรถมา 20 กว่าปีก็ไม่เคยโดยเรียกเงินจากตำรวจ โดนใบสั่งครั้งเดียวที่เราทำผิดจริงๆ ก่อนจะมาประนามแต่ปลายเหตุแก้ต้นเหตุโดยไม่ทำผิดกฏหมายจะง่ายกว่าไหม ทุกคนแก้ที่ตัวเองง่ายกว่าตั้งเยอะ ว่าคนอื่นเขาเลวแต่ตัวเองก็ยังไม่ละอายที่จะทำผิด เลวกว่าไหม จากคุณ : Alone with out lonely - [ 30 มิ.ย. 52 10:53:38 ]

ความคิดเห็นที่ 58 สำหรับคนที่บอกว่าไม่รู้และไม่พอใจที่โดนเรียกตรวจกระเป๋า การนำสินค้าเข้ามาในราชอาณาจักรทุกเส้นทางจะต้องเสียภาษีนำเข้าตามพิกัดอัตราศุลกากรไม่ว่าจะนำเข้ามาด้วยวัตถุประสงค์ใดก็ตาม ว่ากันตามความถูกต้องแล้วผู้นำเข้ามาจะต้องเป็นคนสำแดงโดยไม่ต้องรอตรวจด้วยซ้ำ ในประเทศอื่น ใบ Custom จะให้ผู้โดยสารกรอกว่ามีของต้องสำแดงหรือเปล่า ในประเทศไทยมีช่องทางให้่ผ่านที่แยกชัดเจนว่าไม่มีของต้องสำแดงคือช่องเขียว มีของต้องสำแดงคือช่องแดง การที่คุณเดินผ่านทางช่องเขียวเป็นการสำแดงรายการของที่คุณนำมาว่าคุณไม่มีของต้องสำแดง แต่ไม่ได้หมายความว่าศุลกากรไม่มีสิทธิ์ตรวจสอบว่าคุณสำแดงถูกต้องหรือเปล่า ถ้าจะทำกันแบบสมบูรณ์แบบ ก็ต้องเอ็กซเรย์กระเป๋าทุกใบแต่เมื่อทำไม่ได้ก็ต้องสุ่มตรวจ การที่ถูกสุ่มตรวจมันไม่ใช่การถูกกระทำหรือถูกกลั่นแกล้ง เท่าที่ทำได้ เขามีกฏให้สำแดงรายการสิงของก่อนที่จะออกนอกประเทศด้วยซ้ำไปเพื่อยืนยันว่าไม่ใช่ของนำเข้ามาตอนขากลับ แต่ไม่เห็นมีใครทำ ประเทศอื่นเขาตรวจเข้มยิ่งกว่านี้ กระเป๋าโดนเอ็กซเรย์แทบจะทุกใบ สำแดงเท็จตรวจเจอค่าปรับแพงหูดับ ไม่เห็นมีใครบ่นกันเลย แล้วเวลาตรวจเจอการกระทำผิดมีใครสักกี่คนที่น่าชื่นตาบานยอมรับผิดและเสียค่าปรับตามกฏหมาย แล้วมีใครซักกี่คนที่พยามให้สินบนให้เจ้าหน้าที่เพื่อขอให้ลดหรือไม่ปรับการกระทำผิดของตัวเอง ความผิดคนอื่นใหญ่ปานขุนเขา ความผิดของเรานั้นเบาราวปุยนุ่น การนำของเข้ามาแล้วอ้างว่านำมาเป็นของฝาก ของขวัญนี่กฏหมายไม่ได้ยกเว้นนะว่าไม่เก็บภาษี เจ้าของกระทู้น่าจะเอากฏหมายเรื่องการเสียภาษีนำเข้ามาโพสบ้างจะได้ช่วยให้รู้มากขึ้นเกียวกับภาษีจะได้ไม่ต้องมีคนมาบอกว่าไม่รู้หรือเสียอารมณ์เวลาโดนตรวจแบบนี้ จากคุณ : Alone with out lonely - [ 30 มิ.ย. 52 11:07:16 ]

ความคิดเห็นที่ 59 คุณ จกขท. สู้สู้ นะคะ ให้กำลังใจ เพราะเราก็ทำงานราชการให้บริการกับ ปชช. ก็พบเจอผู้คนหลายรูปแบบ ทั้งที่เข้าใจงานราชการ และไม่เข้าใจงานราชการ ก็จะมีอาการหลากหลายแบบที่คุณ จกขท. เจอ  และก็เช่นกันหน่วยงานเราก็มีทั้งคนดี และคนไม่ดี ท่าน ๆ ที่เป็น ปชช. ที่มารับบริการทั้งหลายก็กรุณาช่วยกันอย่าทำผิด กม. หรือพยายามขอลัดขั้นตอนกับ จนท. จะได้ช่วยกันขจัดคนไม่ดีออกจากวงการ นะคะ จากคุณ : แสนซนคนขยัน (แสนซนคนขยัน) - [ 30 มิ.ย. 52 11:51:21 ]

ความคิดเห็นที่ 60 ไม่รู้ละ เราคนนึงที่ยอมให้ตรวจกระเป๋า เพราะเราไม่มีอะไรต้องปกปิด แต่ขอให้พี่ๆๆๆช่วยยกกระเป๋าให้เท่านั้นเองค่ะ เพราะเดินทางกับลูก 2คน สมบัติเหมือนคนย้ายบ้านเรา 5555 สงสารพี่ๆๆเหมือนกัน หนัก จากคุณ : kizz_j - [ 30 มิ.ย. 52 11:58:54 ]

ความคิดเห็นที่ 61 ขอต่ออีกนิด ไม่ต้องไปดูอื่นไกลแค่ข้อมูลในห้องนี้ก็ได้เวลามีกระทู้ถามเรื่องการสำแดงรายการเวลาเดินทางไปต่างประเทศ คำตอบส่วนใหญ่ก็คือ ให้ดีแคลร์ไปก่อนเพราะถ้าไม่ดีแคลร์แล้วตรวจเจอนอกจากริบของแล้วค่าปรับแพงมาก ถ้าดีแคลร์แล้วมันต้องห้ามหรือเสียภาษีก็แค่ริบไว้เท่านั้น แต่ความเห็นส่วนใหญ่สำหรับการผ่านตม ไทย ไม่ต้องสำแดง เดินเข้าช่องเขียวไว้ก่อน ถ้าหลุดไปก็หลุด ถ้าตรวจเจอก็ริบหรือไม่อย่างนั้นก็พูดคุยต่อรองกันได้ จ่ายนิดหน่อยก็ผ่านไปได้แล้ว เห็นความแตกต่างไหมคะ นอกจากประเทศไทยจะมีข้าราชการเลวๆบางส่วนแล้ว เรายังมีประชาชนเลวบางส่วนที่เห็นแก่ได้ที่ไม่สนใจว่าทำถูกหรือผิดแค่ขอให้ได้ประโยชน์ส่วนตน ประเทศชาติจะเสียอะไร ระบบมันจะเสียหายอย่างไรไม่สนใจ ในความคิดของประชาชนเลวๆจำพวกนี้ ข้าราชการที่คอรัปชั่น ฉ้อราษฎร์ บังหลวง เลวในสายตาเขาเวลาที่เขาเสียประโยชน์ แต่ข้าราชการพวกนี้แหละที่พวกเขาเอามาใช้เป็นช่องทางเพื่อหาผลประโยชน์ให้กับตัวเองโดยไม่สนใจผิดถูก จากคุณ : Alone with out lonely - [ 30 มิ.ย. 52 12:26:13 ]

ความคิดเห็นที่ 62 อ่านมาทั้งหมด มันก็น่าเข้าใจนะครับ แต่คุณพี่ๆก็ต้องยอมรับนะครับว่า มันมีคนทำธุรกิจขนของมาขายจากเมกา อังกิด หรือประเทศไหนก็ตา และขนของกลับไปด้วยเช่นกัน กระเป๋าทั้งหมดไม่มีอะไรเลย นอกจากเครื่องสำอางค์ เครื่องประทินผิว น้ำหอม สินค้าแบรนเนม หรือแม้แต่โทรศัพท์ เพียงแต่พวกเค้ามีเส้นจริงๆ รู้จักคนสนามบินอย่างดี หรือแม้แต่เจอพวกพี่ๆก็คุ้นหน้าคุ้นตากัน พวกพี่ๆถึงไม่ไปยุ่งไงครับ ปล่อยผ่านสบายๆ แหม .........หรือว่าไม่จริง........... ***เพิ่มเติม แก้ไขเมื่อ 30 มิ.ย. 52 14:48:12 จากคุณ : LAPD21 - [ 30 มิ.ย. 52 14:47:42 ]

ความคิดเห็นที่ 63 สุดท้ายก็ยังไม่ได้คำตอบ ว่ามีวิธีการหรือหลักการอย่างไรในการเรียกตรวจ หรือมีมาตรฐานอะไรเป็นตัววัด ว่าไม่ได้เอาเข้ามาขาย เพราะบางคนก็นานๆไปที ซื้อใช้เอง ซื้อฝากเพื่อน จากคุณ : boy next door - [ 30 มิ.ย. 52 15:13:51 ]

ความคิดเห็นที่ 64 ขออนุญาตเจ้าของกระทู้นำข้อมูลมาลงไว้นะคะ กฎหมายและระเบียบพิธีการศุลกากรที่ผู้เดินทางเข้า-ออกประเทศไทยทางท่าอากาศยานระหว่างประเทศควรทราบ มีดังต่อไปนี้ สำหรับผู้โดยสารขาเข้า กรมศุลกากรได้จัดบริการการดำเนินการพิธีการศุลกากรให้แก่ผู้โดยสารขาเข้า ตามมาตรฐานสากล โดยจัดช่องผ่านพิธีการศุลกากรไว้ 2 ช่องทาง ได้แก่    ช่องเขียว "ไม่มีของสำแดง"สำหรับผู้ไม่มีของต้องเสียภาษีอากร ของต้องห้าม ของต้องกำกัด    ช่องแดง "มีของต้องสำแดง"สำหรับผู้ที่มีของต้องเสียภาษีอากร ของต้องห้าม ของต้องกำกัด หรือไม่แน่ใจว่าของที่นำเข้ามานั้น ต้องเสียภาษีอากรหรือไม่ ช่องเขียว (Nothing to Declare) เฉพาะ ผู้โดยสารที่นำของดังต่อไปนี้ติดตัวเข้ามา      ของใช้ส่วนตัวที่มีปริมาณสมควรสำหรับใช้ส่วนตนและมีมูลค่ารวมทั้งหมดไม่เกิน 10,000 บาท (ซึ่งมิใช่ ของต้องห้าม ต้องกำกัด หรือเสบียง)      บุหรี่ไม่เกิน 200 ม้วน หรือ ยาสูบ ไม่เกิน 250 กรัม หรือน้ำหนักรวมทั้งหมดทุกประเภท ไม่เกิน 250 กรัม      เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ปริมาตร ไม่เกิน 1 ลิตร หากนำมาเกินกว่าปริมาณที่กำหนด โปรดหย่อนใส่กล่องที่กรมศุลกากรจัดไว้ เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงการถูกดำเนินคดี คำเตือน: กรมศุลกากรเน้นการอำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสาร โดยมิทำการตรวจสัมภาระผู้โดยสารทั้งหมดแต่ทำการสุ่มตรวจด้วยเครื่อง X-Ray ตามหลักมาตรฐานสากล ช่องแดง (Goods to declare) 1.ของที่มีภาระต้องชำระอากร      ของที่ผู้โดยสารนำเข้ามามีปริมาณเกินกว่าที่จะใช้สำหรับส่วนตน และ/หรือมีมูลค่ารวมทั้งหมดเกิน 10, 000 บาท      สิ่งของที่นำมาเพื่อใช้ในวัตถุประสงค์เพื่อการพาณิชย์ หรือ ทางการค้า หรือมีลักษณะทางการค้า 2.ของต้องห้าม      หมายถึง ของที่ห้ามไม่ให้นำเข้ามา หรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักร เช่น      สารเสพติด      วัตถุหรือสื่อลามก      ของลอกเลียนแบบละเมิดลิขสิทธิ์ทางปัญญา      ธนบัตรหรือเหรียญกษาปณ์ปลอม      สัตว์ป่าสงวน      การฝ่าฝืนกฎหมายเกี่ยวกับยาเสพติด เช่น มีไว้ในครอบครองหรือมีไว้เพื่อเสพ หรือเป็นผู้ผลิต ผู้ซื้อ ผู้ขาย ผู้ขนส่ง อาจมีโทษถึงประหารชีวิต 3.ของต้องกำกัด           หมายถึง ของบางชนิด ที่กฎหมายควบคุมการนำเข้ามา และการส่งออกไปนอกราชอาณาจักร การนำเข้าและการส่งออกของต้องกำกัด ต้องได้รับอนุญาตเป็นหนังสือ จากส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะต้องนำมาแสดงในเวลาปฏิบัติพิธีการศุลกากรด้วย ตัวอย่างเช่น    ประเภท                                                องค์กรที่มีหน้าที่ควบคุม * พระพุทธรูป ศิลปวัตถุ โบราณวัตถุ                    กรมศิลปากร *อาวุธปืน กระสุน วัตถุระเบิด                             กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย *พืช และส่วนต่างๆของพืช                                กรมวิชาการเกษตร *สัตว์มีชีวิต และซากสัตว์                                 กรมปศุสัตว์ หรือ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช *อาหาร ยา                                                  สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา *ชิ้นส่วนยานพาหนะ                                       กระทรวงอุตสาหกรรม *บุหรี่ ยาสูบ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์                    กรมสรรพสามิต *เครื่องมือวิทยุสื่อสาร อุปกรณ์โทรคมนาคม        สำนักการอนุญาตกิจการเฉพาะกิจ สำนักงานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช)   หากของที่ผู้โดยสารนำติดตัวมามีมูลค่ารวมทั้งหมดเกิน 80,000 บาท ผู้โดยสารต้องทำเอกสารปฏิบัติพิธีการศุลกากรที่ ส่วนบริการภาษีอากร ข้อลงโทษ หาก หลีกเลี่ยง การ สำแดง โดนปรับ 4 เท่าของมูลค่าของ บวกค่าภาษีและอากร หรือ จำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ และของที่หลีกเลี่ยงการชำระอากรต้องถูกริบเป็นของแผ่นดิน ตามกฎหมายศุลกากร ที่มา http://www.customs.go.th/Traveller/TravellerInfo.jsp แก้ไขเมื่อ 30 มิ.ย. 52 15:49:36 แก้ไขเมื่อ 30 มิ.ย. 52 15:47:18 จากคุณ : Alone with out lonely - [ 30 มิ.ย. 52 15:46:21 ]

ความคิดเห็นที่ 65 จริงๆก็ตรวจไปตามหน้าที่ จริงๆคนทำผิดมันก็รู้ว่าผิด ไม่ได้พูดยาก ก็ทำกันตามกฏ ก็สิ้นเรื่อง แต่คนบางพวกก็มีกฏไว้แหกจริงๆ เจ้าหน้าที่ไม่ได้เลวร้ายทุกคน ผู้โดยสารก็ไม่ได้เลวร้ายไปหมด เจอกัน ครึ่งทาง ผิดถูกว่ากันไป นะฮ้าาาา จากคุณ : เปิดใจหน่อย (Shodai) - [ 30 มิ.ย. 52 16:07:48 ]

ความคิดเห็นที่ 66 คุณ Eat that Liqu ใส่ form ชุดขาว หรือชุดน้ำเงินคะ อยากรู้คะ จากคุณ : ichabod - [ 30 มิ.ย. 52 16:22:00 ]

ความคิดเห็นที่ 67 มาให้กำลังใจ จขกท ครับ จากคุณ : หน้าขุนแผน หัวขุนช้าง - [ 30 มิ.ย. 52 16:30:15 ]

ความคิดเห็นที่ 68 ขอบคุณมากๆค่ะ ตอนนี้อ่านแล้วฮาก๊ากเลยค่ะ เจอ ผลิตภัณฑ์ "ความลับของเมียเบ๊กแฮม" เข้าไป จากคุณ : [D]iffind[O] - [ 30 มิ.ย. 52 19:15:03 ]

ความคิดเห็นที่ 69 ชอบ จขกท ครับ จากคุณ : tumklang - [ 30 มิ.ย. 52 19:36:21 ]

ความคิดเห็นที่ 70 ส่วนใหญ่ผู้โดยสารขาช๊อปที่ซื้อมาใช้เองจริง ๆ หรือมีฝากเพื่อน ญาติพี่น้อง บ้าง และออกช่องเขียว ซื้อของเข้ามาเกิน 10,000 บาท ทั้งนั้น ผมก็คนนึงหล่ะครับที่ซื้อของเยอะ ของตัวเองบ้าง ให้แฟน ให้น้อง ๆ แต่ละครั้งที่เดินทาง ส่วนใหญ่เป็นเสื้อผ้า รองเท้า ของกิน ก่อนเดินผ่านช่องเขียว ใจตุ๊ม ๆ ต่อม ๆ ทุกที ท่องคาถาสารพัดไม่ให้โดนเปิดตรวจ แต่ก็เคยโดนเปิด 2-3 ครั้งครับ ก็ไม่มีปัญหาอะไร อีกทีก็เคยโดนเมื่อหลายปีที่แล้ว กลับจาก USA ไฟลท์ลงดึกกว่าจะออกมาก็เกือบตี 1 กระเป๋าใหญ่ 2 ใบ ผ่านช่องเขียวออกมาแล้วเดินมาจวนจะถึงทางออกที่มีคนมารอรับ แต่มาโดน จนท.ศุลกากรนอกเครื่องแบบ 2 ท่าน (โชว์บัตร จนท.) ตามมาขอให้นำกระเป๋าไปเปิดในห้อง..บอกว่ากระเป๋าใหญ่และหนัก ตอนนั้นเซ็งสุด ๆ  เหนื่อย เพลีย ง่วง เลยบอกเค้าดี ๆ ว่า ถ้าจะเอากระเป๋าไปตรวจก็เชิญเอาไปเลย ข้างในมีเสื้อผ้าเก่า เพระไป 3 อาทิตย์ มีพวกเสื้อหนาวด้วย และของที่ซื้อมาใหม่เป็นพวกเสื้อผ้าและวิตามิน แต่ตัวผมจะกลับบ้านไปนอนแล้ว ให้เบอร์โทรไว้ แล้วพรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่  จนท. 2 ท่านนั้นเลยยอมให้ครับ ที่เล่ามานี่ อยากให้เพื่อน ๆ หากเจอจนท.ขอเปิดกระเป๋า แล้วเราซื้อของมูลค่าเกินกว่าที่กฏหมายกำหนด แต่ย้ำว่าไม่ได้เอามาขายนะครับ  ก็ควรพูดจาดี ๆ สุภาพเข้าไว้  อย่าไปแสดงอวดเบ่งหรือก้าวร้าว ยังไงก็คนไทยด้วยกัน ส่วนใหญ่ก็ปล่อยผ่านครับ นอกจากดวงไม่ดีเจอ จนท.ไถเงิน (สมัยนี้คงน้อยแล้วครับ) หรือเจอจอมเฮี๊ยบ..จับเสียภาษีลูกเดียว ก็ทำใจครับ.. แล้ว จขกท.ถ้าเจอผู้โดยสารคนไทยจอมช๊อป แต่ดูแล้วไม่ได้เอามาขาย จะทำยังไงครับ..ปล่อยผ่านหรือจับเสียลูกเดียว.. เคยคุยกับจนท.ศุลกากร ว่า การสุ่มตรวจผู้โดยสารมีวิธีการสุ่มอย่างไร เขาบอกว่า ดูจากลักษณะของผู้โดยสาร เช่น อายุประมาณ 30-45 ปี, การแต่งกายแบบกลาง ๆ ไม่ใช่ไฮโซหรือโลโซ (แต่พวกไฮโซไม่ค่อยโดนมีคนมารับถึง Belt เป็นส่วนใหญ่), ท่าทางรีบร้อน (แหม..ใคร ๆ ก็อยากกลับบ้านแล้วทั้งนั้น) และดูจากกระเป๋าด้วย ถ้าเป็นกระเป๋าเดินทางเป็นผ้าแบบมีซิปส่วนใหญ่จะโดน เขาบอกว่าพวกเอาของมาขายชอบใช้แบบนี้เพราะใส่ของได้มากกว่า, ดูจากไฟลท์ต้นทางว่ามาจากไหน ส่วนใหญ่ถ้าเป็นฮ่องกง, สิงคโปร์, จีน, เกาหลี จะโดนมากกว่าเพื่อน จริงรีเปล่าครับ..หรือมีวิธีการสุ่มตรวจผู้โดยสารอย่างไร...ขอแอบล้วงความลับหน่อยนะครับ.. จากคุณ : taisan (taisan) - [ 30 มิ.ย. 52 23:02:13 ]

ความคิดเห็นที่ 71 มีคำถามคุณ Eat that Liqu นิดนึงนะคะ พวกของที่ยึดไป เอาไปทำอะไรหรอคะ แบบมีเพื่อนเคยเอา iPhone เข้ามา8-9 เครื่อง โดนยึดหมดเลย เพื่อนก็เข้าใจนะ แต่ไม่คิดว่าจะแจ็คพอดโดนกับตัวเอง พอยึดไปแล้วเอาของ(กลาง)แล้วไปเก็บที่ไหน เอาไปทำอย่างไร หรอคะ แล้วเราจะพอตรวจสอบได้ไหมคะว่าเอาไปทำอย่างนั้นจริงๆหรือเปล่า แอบสงสัยอะค่ะ ไม่ได้มีอะไรเคลือบแคลงใจนะคะ ขอบคุณล่วงหน้านค่ะ จากคุณ : NETMAGNET - [ 1 ก.ค. 52 10:19:15 ]

ความคิดเห็นที่ 72 * ของใช้ส่วนตัวที่มีปริมาณสมควรสำหรับใช้ส่วนตนและมี มูลค่ารวมทั้งหมดไม่เกิน 10,000 บาท (ซึ่งมิใช่ ของต้องห้าม ต้องกำกัด หรือเสบียง) แค่ La mer กระปุกเดียวก็เกินแล้ว กฎมันควร update ได้แล้วนะไม่มีทางที่คนไปเที่ยวแล้วหิ้วของกลับมาต่ำกว่า 10,000 หรอก จากคุณ : keitara - [ 1 ก.ค. 52 13:10:11 ]

ความคิดเห็นที่ 73 เห็นด้วยกับ จขกท นะครับ แต่อยากจะแชร์ประสบการณ์ตรงครั้งนึงเมื่ประมาณปีสองปีก่อนให้ฟัง ผมเป็นคนที่มีปัญหาในการเคลียร์หูมากคือพอเครื่องขึ้นและลง จะหูอื้อแล้วนานมากกว่าจะหาย พอลงจากเครื่องก้เดินมาเรื่อยๆ ครับ เข้าช่องเขียว เพราะไม่ได้มีอะไรผิดปกติ คือต้องไปทำงานที่เวียดนามไปกลับทุกอาทิตย์ครับ กระเป๋าก้ใบกลาง กับ กระเป๋าโน๊ตบุ๊ก และถุงที่ซือของใน Duty Free นิดหน่อย ก้เจอเจ้าหน้าที่กลุ่มใหญ่ยืนอยู่ (อันนี้แอบตลกนิดนึง ใส่จตุครามองค์ใหญ่มากนอกเสื้อทุกคน เหมือนเป็นเครื่องแบบ) พอจะเดินผ่าน ก้มีท่านนึงยกมือขวางแล้วก้ชี้้ไปทีเครื่องตรวจ ผมก้เข้าใจก้หยุดแล้วก้เดินไปที่เครื่องตรวจ คราวนี้เจ้าหน้ามี่สูงวัยหน่อยคนนึงพูดอะไรก้ไม่รู้ (ซึ่งผมไม่ได้ยินจริงๆ เพราะหูอื้ออยู่) ก้ทำท่าบอกเค้าว่าไม่ได้ยิน เค้าก้เลยพูดดังขึ้นคราวนี้ผมได้ยินและ เค้าบอกให้ยกกระเป๋าขึ้นตรวจ ผมก้กำลังจะยก ดันมีเจ้าหน้าที่อีกคนเดินเข้ามาแล้วพูดว่า "ตบแ..งเลยมั้ยพี่" ผมนี่ได้ยินเต็มๆ ผมไม่รู้ว่าดังแค่ไหนแต่ผมหูอื้ออยู่ยังได้ยิน คราวนี้ผมหยุดเลย ใจจริงอยากจะเอาเรื่องแต่คิดไปคิดมา ก้แค่นั้น ยังไงเจ้าหน้ามี่ขณะปฏิบัติหน้าที่ ก้ได้เปรียบ พยานเราก้ไม่มีเดินผ่านกันไปหมดแล้ว แถมเราเดินทางบ่อยเด๋วก้โดนหาเรื่องคืนอยู่ดี ก้เลยช่างมัน กวนเท่าที่กวนได้แล้วกัน ผมก้บอกไปว่า "คุณเป็นเจ้าหน้าที่พูดงี้ได้ไง" "อยากตรวจก้ยกเอง ผมไม่ได้มีหน้าที่ยก" เค้าก้ทำหน้าไม่พอใจพูดย้ำ เถียงไปมา ผมก้ยืนยันว่าไม่ยก สรุปก้มีเจ้าหน้าที่อีกคนมายกกระเป๋าผมขึ้น ตรวจกันใหญ่เลยครับ มามุงกันเพียบสรุปก้ไม่เจอไร ตอนตรวจเสร็จเค้าก้คงกะจะให้ผมเก็บของเอง ผมก้ยืนยันอีกว่าผมไม่ได้มีอะไรผิด "คุณตรวจ คุณค้น คุณรื้อ เพราะฉะนั้น คุณต้องเก็บให้เหมือนเดิม" เถียงกันอีกรอบ สุดท้ายเค้าก้ยอมเก็บให้ ที่เล่าให้ฟังคือต้องการจะให้รู้ถึงความรู้สึกของคนที่รู้สึกไม่ดีกับ ศุลกากร ว่าเพราะอะไร ผมเชื่อว่าอยู่ดีๆ ไม่มีใครไม่ชอบใครตั้งแต่แรกหรอกครับ เค้าต้องโดนอะไบางอย่างเข้าไปถึงได้รู้สึกอย่างนั้น ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าเจ้าหน้าที่ทุกท่านไม่ดีนะครับ แต่อย่างว่าครับ ปลาเน่าตัวเดียว......... จากคุณ : Win (ewinlua) - [ 1 ก.ค. 52 21:37:34 ]

ความคิดเห็นที่ 74 ไม่เห็นจะต้องงงอะไรเลย ถ้าไม่แน่ใจอะไรก็ถามเจ้าหน้าที่ที่ช่องแดงก็สิ้นเรื่อง เค้าไม่ว่าอะไรหรอก ของน่ะจะเอามาเท่าไรก็เสียภาษีตามนั้น กฏหมายก็ไม่ได้ระบุไว้ชัดแจ้งหรอกว่าให้เอาเสื้อเข้าได้กี่ตัว แล้วเรื่องตรวจกระเป๋านี่อีกเรื่อง เค้าสุ่มตรวจ ศุลเค้ามีประสบการณ์ ไอ้ที่ถามว่าทำไมใบเล็กตรวจ ใบใหญ่ไม่ตรวจ ก็เข้าใจกันมั้ย ว่าสุ่มตรวจอ่ะ บางทีใบนั้นอาจจะมีเพชรหรือ ยาเสพติดซ่อนอยู่ ใครจะไปรู้ เรื่องยกกระเป๋านี่ก็อีกเรื่อง ผู้โดยสารต้องยกเอง เปิดเอง เก็บเอง ไม่ใช่เจ้าหน้าที่หรอก เห็นใจเค้าบ้าง ยกเว้นกรณีพิการ ก็อีกเรื่องนึง ไปไหนก็ไปกันได้ ยกกระเป๋าแค่นี้เองทำบ่นกัน เจ้าหน้าที่มีน้อย มัวมายกกระเป๋า เก็บของให้ วันนึงจะได้ตรวจกี่ใบละครับ คิดดูละกันเวลาคุณทำงานเจอคนเยอะๆ อย่างงานโรงแรมหรือแอร์ไลน์ ก็เหมือนกับศุลอ่ะ ถ้าคุณเกิดอาการไม่พอใจเค้า ซึ่งคุณเจอคนมาไม่กี่คน อาจจะเจอ ตม. มาก่อน แล้วค่อยเจอศุล อย่างน้อยก็ 2 แต่พวกศุลอ่ะ เจอผู้โดยสารมาตั้งเท่าไร เหมือนคุณ จขกท อ่ะ น่าเห็นใจเค้านะ แต่ยังเก็บอารมณ์ได้ ถ้าผมเป็นศุลแล้วเจอยังงั้นมาวีนใส่ แหมๆ ไม่อยากคิดเลย ถ้าคิดว่าศุลไม่ดี ก็อย่าไปมีเลยดีกว่ามั้ย จะดีมั้ยครับ เอาอะไรเข้ามาก็ได้ ดีมั้ย ให้คนร้ายเอาอาวุธชีวภาพเข้ามา ตายหมู่เลยดีมั้ย อันนี้ตอบเเบบประชดครับ ถ้าทุกคนทำตามกฎหมาย อะไรๆ ก็คงไม่เกิด เเต่เพราะไม่ทำ กฏหมายจึงเกิด 555   จริงๆ น่าเห็นใจเจ้าหน้าที่นะครับ สู้ๆ ต่อไป จากคุณ : outshine_99 (Outshine_99) - [ 2 ก.ค. 52 00:36:39 ]

ความคิดเห็นที่ 75 ผมไม่ได้อะไรมากหรอกครับ แค่อยากให้มีการพัฒนาการให้บริการมั่งก้แค่นั้น ถ้าคุณดูการให้บริการของหลายๆ หน่วยงาน เค้ามีการพัฒนากันมาอย่างต่อเนื่อง ยกตัวเอย่างนะครับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง บัตรประชาชน ของ กทม เรื่องการต่อทะเบียนรถ ของ กรมขนส่ง ทำไมเค้าถึงพัฒนาครับ เพราะเค้าเห็นว่าเค้าควรจะบริการ ประชาชน ซึ่งเป็นผู้เสียภาษี ให้ดีทีี่สุดเท่าที่จะทำได้ ในกรณีของ ศุลกากร ถ้าเทียบกันดู เคยมีการพัฒนา บ้างมั้ยครับ เคยดู การแต่งตัว การวางท่า และ การพูดการจา บ้างมั้ยครับ ถ้าเปรียบเทียบ ลองดู ตำรวจ ครับ เวลา เค้ามาขอดูใบขับขี่เค้าพูดจา ยังไงครับ แสดงความเคารพ ก่อนด้วยซ้ำ "ขออนุญาตตรวจใบขับขี่ด้วยครับ" เคยพูดจากับคนอื่นเค้าแบบนี้มั้ยครับ ไม่มีเลย บางทีพูดยังไม่พูดเลย ยกมือขวาง ชี้นิ้วเอา ไอ้ที่มาบอกว่าคิดแล้วกันว่าเค้าเจอคนเยอะแค่ไหน ให้ผมพูดตามตรงนะครับ เจ้าหน้าที่องค์กรอื่นเค้าก้เจอ ไปธนาคาร ไปเซเว่น ขึ้นทางด่วน พนักงานพวกนี้ เค้าไม่เจอเยอะเหมือนกันเหรอครับ ทำไมเค้ายิ้มแย้ม พูดจาดีได้ครับ เพราะ 1.มันคือหน้าที่เค้าครับ งานแต่ละตำแหน่งมี ลักษณะเนื้องานระบุชัดเจนครับ ถ้าไม่อยากทำหรือไม่พอใจทำก้ขอเปลี่ยนตำแหน่ง หรือเปลี่ยนงานครับ รู้อยู่แล้วว่าาต้องเจอคนวันละเยอะแค่ไหน เพราะฉะนั้นเลือกแล้วอย่ามาอ้าง 2. องค์กร เค้าเห็นคุณค่าความสำคัญของคุณภาพการให้บริการแก่ ประชาชน หรือ ลูกค้า 3. อันนี้ผมว่าสำคัญที่สุด คือ Service mind ครับ คือจะทำงานพวกนี้ผมว่าต้องมี Service mind ที่ดีถ้าไม่มีก้ควรจะเลือกทำงานที่ไม่ต้องพบปะผู้คนน่าจะดีกว่าครับ หรือถ้าทุกอย่างคุณมี และดีหมดแล้วอันนี้อาจจะต้องย้อนกลับไปดูว่า งานมันเยอะเกินไปรึเปล่าว เมื่อเทียบกับจำนวนเจ้าหน้าที่ ต่อจำนวนผู้โดยสาร ทำให้บริการได้ไม่ดี ถ้าไม่พอก้ต้องเพิ่มครับ แต่อย่ามาใช้เป็นข้ออ้างในการให้บริการแย่ๆ ส่วนตัวผมในเรื่องนี้ผมว่ามันก้เจ๊าๆ กันไปอ่ะครับ เวลาผู้โดยสารเยอะมันก้เยอะครับ แต่เวลาไม่มีมันก้ไม่มีไม่ใช่เหรอครับ บางครั้งผมออกมาคนแรกๆ ก้ยังเห็นนั่งคุยเฮอากันอยู่เลย แก้ไขเมื่อ 02 ก.ค. 52 11:31:46 จากคุณ : Win (ewinlua) - [ 2 ก.ค. 52 11:28:34 ]

ความคิดเห็นที่ 76 ขอตอบ คห.71 แทน จขกท.นะครับ ไอโฟนที่จับได้ เห็นเค้าใช้คำว่า "ปันส่วน" หลังจากที่ดำเนินคดีไปซักพัก ก็จะปันส่วนกันในหมู่ศุลกากร คือเค้าจะประเมินราคาก่อนว่าไอโฟนราคาเท่าไร จากนั้นกลุ่มไหนที่เป็นฝ่ายจับกุมผู้โดยสารได้ก็จะมีสิทธิ์ซื้อก่อน แน่นอนราคาย่อมถูกกว่าท้องตลาดครับ จากนั้นกลุ่มอื่นๆ ก็เฉลี่ยๆ กัน อาจจะต้องมีการจับฉลากตอนซื้อ เพราะของมีไม่เยอะ เงินที่ได้ก็เข้าหลวงอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ถูกไม่ถูกอย่างไร จขกท.แย้งได้นะครับ และผมจะติดตามผลงานเรื่อยๆ ครับ อ่านเเล้วสนุกดี แต่เวลางานคงไม่สนุกเหมือนที่เขียนมา 555 ขอเสริมคุณ Win นะครับ รู้สึกว่าเรื่องของคุณกะศุลนี่จะเป็นการเข้าใจผิดกันตั้งแต่เเรก ศุลคงนึกว่าคุณเป็นคนต่างชาติมั้ง ที่พูดภาษาอะไรก็ยังไม่ยอมเข้าใจซะที เลยแอบนินทานิดหน่อย ตามประสาคนไทย เหมือนผมแหละทำงานที่โรงแรม แขกพูดจาไม่เข้าใจ ก็นินทาต่อหน้าเป็นภาษาไทยเลย แขกเค้าฟังไม่ออกเลยไม่เกรงกลัว แต่เคสของคุณนี่ดันฟังออก ก็เลยเป็นเรื่องขึ้นมา จริงๆ งานบริการก็ควรมี  service mind อย่างที่คุณบอก เพียงแต่ว่ามันก็มีอยู่อย่างจำกัดเหมือนกัน ที่ศุลเค้ายอมคุณขนาดนั้น ยกกระเป๋า เปิดกระเป๋า เก็บกระเป๋าให้อีก ถือว่าสุดยอดเเล้วครับ ปกติศุลเค้าไม่ได้มีหน้าที่นั้นจริงๆ เท่าที่รู้มา อีกอย่างไปเถียงเค้าอย่างนั้น เค้าไม่ยึดพาสปอร์ตแล้วดำเนินคดีหมิ่นประมาทเจ้าหน้าที่ขณะปฎิบัติงานถือว่าสุดยอดเเล้วครับ service mind นี่เรื่องสำคัญ มันมีอยู่อย่างจำกัดครับ ผมทำงานโรงแรมก็เถียงกับแขกออกบ่อยไป เพราะเค้าคุยด้วยอารมณ์ที่คิดว่าตัวเองถูกต้อง ตัวเองต้องการสิ่งที่ดีที่สุด ผมเองก็มนุษย์คนนึง แม้ลูกค้าจะถูกต้องเสมอ แต่ขอโทษทุกอย่างมันมีอยู่อย่างจำกัดครับ อธิบายก็คือ ก็ทำงานปกติ service mind ปกติ แต่คนที่มาใช้บริการ มันไม่ปกตินี่สิ แล้วก้ไม่เปลี่ยนงานหรอกครับ เพราะตัวเองยังปกติ and I am service minded but you. lol จากคุณ : Outshine_99 (Outshine_99) - [ 3 ก.ค. 52 13:20:09 ]

ความคิดเห็นที่ 77 ขอแชร์ประสบการณ์ที่ไม่ดีบ้างนะคะ เพราะเจอไป 2 รอบค่ะ รอบแรก ตอนนั้นยังใช้สนามบินดอนเมืองค่ะ เราไปอบรมที่ญี่ปุ่น 5 เดือน ได้เอกสารมาเยอะมาก เลยต้องใส่กล่องกระดาษ แล้วมีกระเป๋าใบโตอีก ข้าวของเยอะมาก แต่ไม่มีอะไรจะต้องสำแดง เพราะมีแต่หนังสือ เอกสาร แต่ด้วยความที่เราใส่เสื้อยืด กางเกงยีนส์ ผู้หญิงตัวใหญ่ที่นั่งอยู่ตรงทางออก ชี้หน้าเราแล้วตะคอกว่า "ต้องสำแดงมั๊ย" เรากำลังเดินเพลินๆ คือไม่คิดว่าเธอจะพูดจากับเราแบบนั้น เราก็อึกอัก เธอตะคอก (ขอใช้คำว่าตะคอกค่ะ เพราะน้ำเสียงเธอคือตะคอกจริงๆ) ว่า "โน้น ไปสำแดงเลย"  เราไม่มีปัญหาที่จะสำแดงของค่ะ เพราะเราไม่มีอะไรผิดกฎหมายอยู่แล้ว แต่ทำไมเธอถึงมารยาทแย่มากเลย พอเราเข็นรถเข้าช่องสำแดง เราก็บ่นกับเจ้าหน้าที่ผู้ชายที่มาตรวจว่า เรารู้สึกแย่มากเลย เพราะเราก็เป็นข้าราชการเหมือนกัน เป็นผู้รับใช้ประชาชน ไปต่างประเทศหลายเดือน กลับมาบ้าน กลับเมืองไทย อย่างคิดถึงบ้านเลย แล้วเจอคนไทยทำกับเราแบบนี้ แล้วคนที่ทำก็คือเจ้าหน้าที่ของรัฐ  แต่เจ้าหน้าที่คนตรวจกระเป๋าเราเค้าพูดจาดี สุภาพ และน่ารักค่ะ ขออนุญาตก่อนเปิดกระเป๋า และช่วยยกและช่วยเก็บของด้วยค่ะ เขาก็ขอโทษแทนเพื่อนเขานะคะ เราก็เลยเย็นลงค่ะ รอบสองเจออีกแล้ว เหตุการณ์นี้ไม่นานค่ะ เพิ่งปลายเดือน พ.ค.นี้เอง เราไปเรียนต่อที่นิวซีแลนด์ (หลายปีมาก) แล้วถึงเวลากลับมาบ้านรอบสุดท้าย ของก็เยอะอีกแล้วค่ะ แต่งตัวเหมือนเดิมค่ะ เสื้อยืด กางเกงยีนส์ คราวนี้เป็นสนามบินสุวรรณภูมิ เจอเจ้าหน้าที่ผู้ชายชี้ใส่กระเป๋าเราแล้วพูดว่า "ไปสำแดง" แล้วก็ชี้กระเป๋าเรา (สีน้ำตาล) แล้วบอกว่า "ใบสีเทานั่น" เราก็งงๆ ว่าใบไหนหว่า เขาก็ทำท่าหงุดหงิดใส่เรา ระหว่างกำลังยกกระเป๋าขึ้นให้ตรวจ เราเหลือบไปเห็นเจ้าหน้าที่คนที่สั่งเราเหมือนเป็นเจ้านายเหนือหัวเรานี่หล่ะ กำลังโค้งอย่างงามให้ฝรั่งผู้ชาย ที่เดินตามหลังเราเข้ามา เราเกิดอาการเซ็งสุดขีดเลยค่ะ     พอเจอเหตุการณ์ที่สอง เราอยากจะเขียนแชร์ประสบการณ์ของเรามาก ในที่สุดเราก็ได้โอกาสค่ะ เราทราบว่าคนไทยที่ทำผิดกฎหมายมันก็มีเยอะค่ะ แล้วเจ้าหน้าที่ก็เหนื่อยกับคนที่มีกริยาถ่อยๆ จากเรื่องของคุณ จขกท เราเห็นใจนะคะ และเข้าใจด้วยว่าพวกคุณต้องรู้สึกแย่ๆ กับคนเหล่านั้น  แต่เราก็ทนไม่ได้นะคะ ที่เจ้าหน้าที่แสดงกริยาถ่อยๆ กับเราแบบนี้นะคะ ทุกครั้งที่ไปไกลๆ นานๆ แล้วกลับบ้านจะรู้สึกคิดถึงบ้านเกิดเมืองนอนของตัวเองมาก แต่พอมาเจอเจ้าหน้าทำหน้าหงิก และพูดตะคอก กระชากเสียงใส่เราแบบนี้ แล้วเสียความรู้สึกอย่างแรงค่ะ เราคิดว่าเจ้าหน้าพูดจาดีๆ ไว้ก่อน มันก็ไม่เสียหายตรงไหนนี่ค่ะ ถ้ายังไง ลองไปดูงานในประเทศที่เขามีระบบการบริการที่ดีๆ แล้วเอามาปรับปรุงการบริการของเราน่าจะดีนะคะ แก้ไขเมื่อ 03 ก.ค. 52 14:20:40 จากคุณ : four seasons in one day - [ 3 ก.ค. 52 14:05:15 ]

ความคิดเห็นที่ 78 ตอบ คห 71 ให้ เมื่อปิดคดีเสร็จ ก็เอามาขายกันเอง ในวงศุลกากร ครับ ราคา 3g 16g ไม่ถึงหมื่น ครับ ใครปิดคดีได้มีสิทธิ์ก่อน เงินเข้าคลังปกติ เพียงแต่ ไม่ได้นำมาขายประมูล เหมือนพวกยึดรถยนต์ประกอบเท่านั้นเอง ถ้า จขกท ปฏิเสธว่าไม่จริง  ผมเถียงหัวชนฝาเลย   ทั้งเรื่องเอามาขายกันเองและราคา ตัวผมเคยนำเข้าเองตั้งแต่ตัวแรก สีเทา ช่วง 4 กับ 8g ล็อตแรก ฟรี ล๊อต สอง เสียภาษีที่ไปรษณีย์ ล็อตสาม โดนตีกลับไปเมกา พอคนส่งของโกงก็ไม่ได้สั่งแล้ว ซึ่งหลังๆศุลกากรจะยึดไว้ นับว่าโชคดีที่ออกมาก่อน แก้ไขเมื่อ 05 ก.ค. 52 05:32:38 จากคุณ : BOokz_psu - [ 5 ก.ค. 52 05:31:48 ]