ความคิดเห็นที่ 1 ความเดิมตอนที่แล้ว .............. เพื่ออรรถรสในการรับชม ท่านสามารถตามรอยไปล่าแย้ได้ที่กระทู้นี้ครับ + เดินลุยป่า ตามล่าหา "แย้" ที่ขอนแก่น ... http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E7999202/E7999202.html จากคุณ : โอ๊ต-ครับ-ผม - [ 29 มิ.ย. 52 13:20:09 ]

ความคิดเห็นที่ 2 การเดินทางแม้จะไกลมากจากกรุงเทพฯ เกือบๆ 8 ชั่วโมง แต่เป็นการเดินทางออกค้นหาความหมายของคำว่า "พอดี"ที่แสนคุ้มค่า จากคุณ : โอ๊ต-ครับ-ผม - [ 29 มิ.ย. 52 13:21:54 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ตามไปขอนแก่นด้วยคน จากคุณ : ก้อยใจจิ๋ม - [ 29 มิ.ย. 52 13:22:32 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ขณะที่ในเมืองใหญ่ กำลังถกเถียงกันเรื่อง รถไฟฟ้า ทางด่วน ตัดต้นไม้ขยายถนน เพิ่มทางเท้า ฯลฯ แต่ที่นี่ มีแค่ถนนดินแดง ... แม้ไม่สะดวกสบาย  แต่ก็พอดีๆ  พอสัญจรได้ เดี๋ยวพาไปชม นาโคก กันครับ จากคุณ : โอ๊ต-ครับ-ผม - [ 29 มิ.ย. 52 13:23:51 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ตามไปขอนแก่นด้วยคน จากคุณ : ก้อยใจจิ๋ม >>> ขยับที่ให้แล้วครับ  ชิดในหน่อยคร้าบ ... =========================================== ชาวบ้านที่นี่ทำนาสองรูปแบบครับ แบบแรกที่พามาชมคือ "นาโคก"  ซึ่งการทำนาแบบนี้คือการทำนาในที่ดอนนั่นเอง (โคก = ดอน) ซึ่งส่วนมาก พึ่งพาน้ำฝนจากธรรมชาติ หรือ ขุดบ่อสูบน้ำบาดาลมาใช้ แถบอีสานอย่างที่รู้กัน ทำนาได้ปีละครั้งก็หรูแล้วครับ จากคุณ : โอ๊ต-ครับ-ผม - [ 29 มิ.ย. 52 13:26:21 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ไปดูหนังด้วยยยยย ^_^/ จากคุณ : harumi - [ 29 มิ.ย. 52 13:28:23 ]

ความคิดเห็นที่ 7 นาที่ผมไปเยี่ยม เป็นที่นาของน้องศักดาและครอบครัวครับ ที่ไม่ยอมละทิ้งแหล่งกำเนิดไปขายแรงงาน หรือว่าเข้าไปเรียนในเมืองใหญ่อย่างคนอื่นๆ น้องศักดาบอกว่า "เค้าเกิดเป็นลูกชาวนา ก็จะขอทำนาอย่างพ่อเขา" อีกทั้งมีแนวคิด ทำนาปลอดสารด้วนนะครับ ... ดูสิครับ พอใช้ธรรมชาติดูแลธรรมชาติ แม้ว่าผลผลิตจะไม่เยอะมาก แต่ก็ปลอดภัยสำหรับตัวครอบครัวและตัวผู้บริโภคอย่างเราๆครับ จากคุณ : โอ๊ต-ครับ-ผม - [ 29 มิ.ย. 52 13:28:58 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ไปดูหนังด้วยยยยย ^_^/ จากคุณ : harumi >>> ไปดูหนังกลางแปลงอย่าลืม เตรียมเสื่อไปด้วยนะครับ ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ นอกจากทำนาปลอดสารแล้ว ยังมีการปลูกพืชผักอื่นๆอีกด้วย อีกทั้งยังมีการทำไร่นาสวนผสม เลี้ยงปลา ขุดบ่อน้ำเพื่อทำการเกษตรอีกด้วย ทำให้สามารถเก็บเกี่ยวพืชผลต่างๆได้หลากหลายฤดูกาล อย่างที่เห็นเป็นทิวต้นไม้ด้านหลังคือต้นสะเดาครับ นอกจากกินใบสะเดาได้แล้ว (อร่อยด้วย) ยังนำมาใช้เป็นส่วนผสมของยาปราบแมลงศัตรูพืชได้อีกด้วย คุ้มค่าจริงๆ จากคุณ : โอ๊ต-ครับ-ผม - [ 29 มิ.ย. 52 13:32:56 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เม็ดข้าวปลอดสารที่แสนสวย เม็ดอวบ จากคุณ : โอ๊ต-ครับ-ผม - [ 29 มิ.ย. 52 13:34:09 ]

ความคิดเห็นที่ 10 พอไปถึงสวนพวกผมก็ถ่ายรูปไปเรื่อนในขณะที่เจ้าของสวนก๋ลงทุนปีนๆๆ ไปตัดมะพร้าวอ่อนมาให้ดื่ม ช่างชื่นใจจริงๆ แฮ่ๆๆๆ แต่ฟันมะพร้าวทะลายนี้ลงบ่อปลาไปเลย อิอิ แต่กินข้างในก็ เนื้ออ่อนหวาน น้ำมะพร้าวหอมอร่อยมาก  ดื่มไปหลายลูกเลยทีเดียว อิอิ จากคุณ : โอ๊ต-ครับ-ผม - [ 29 มิ.ย. 52 13:36:32 ]

ความคิดเห็นที่ 11 อย่างที่บอกไปว่าที่นี่มีการทำนาสองแบบ แบแรกคือ นาโคก คือนาที่อยู่บนที่ดอน อีกแบบคือนาลุ่มครับ ทำนาบริเวณริมฝั่งอ่างเก็บน้ำ เขื่อนอุบลรัตน์ หรือ ทำนาริมตลิ่งใกล้ลำห้วยต่างๆ บรรยากาศตอนเย็นที่นาลุ่ม ... สวยไหมครับ จากคุณ : โอ๊ต-ครับ-ผม - [ 29 มิ.ย. 52 13:38:33 ]

ความคิดเห็นที่ 12 นาลุ่มเนี่ยทำได้ตามสภาพของน้ำลดครับ คือถ้าน้ำในเขื่อนลด ชาวบ้านก็จะทำนาไล่ลงไปตามน้ำลดริ่มตลิ่งเขื่อนไปเรื่อยๆ แต่พอหน้าน้ำ หรือมีการกักน้ำ บริเวณนี้ก็จะท่วมครับ ตามปกติปลูกข้าวได้ ปีละ 2-3 หนทีเดียว แล้วแต่ อายุพันธุ์ข้าว และน้ำที่เก็บกักในเขื่อนครับ จากคุณ : โอ๊ต-ครับ-ผม - [ 29 มิ.ย. 52 13:40:14 ]

ความคิดเห็นที่ 13 วันที่ไป แม้จะเย็นมากแล้ว ก็มีตายายคู่หนึ่งกำลังดำนาอยู่ เลยคุยกับคุณตาไปเรื่อย ... คุณยายก็พักดำนาแล้วก็มาคอยตอบข้อสงสัยของเราด้วยเช่นกัน ใจดีทั้งท่านคนเลย แต่ที่ดีใจที่สุดคือ ยังเห็นคนดำนาด้วยสองมืออยู่ ... ดีกว่าใช้เครื่องเป็นไหนๆ จากคุณ : โอ๊ต-ครับ-ผม - [ 29 มิ.ย. 52 13:42:02 ]

ความคิดเห็นที่ 14 แม้ไม่ได้เป็นระเบีบยตรงเป๊ะเหมือนเครื่องดำนา แต่เป็นแปลงนาที่เต็มไปด้วยแรงเห่งความพยายามของชาวนาอย่างยิ่ง จากคุณ : โอ๊ต-ครับ-ผม - [ 29 มิ.ย. 52 13:43:05 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เขียวชื่นใจจริงๆ จากคุณ : โอ๊ต-ครับ-ผม - [ 29 มิ.ย. 52 13:43:39 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ด้วยความที่อยู่ริมเขื่อน แนวเขา เลยมีหินอยู่มาก ตรงไหนมีหินอยู่ ก็จะเกิดนาเว้าแหว่งแบบนี้ ดูเป็นศิลปะมากๆทีเดียวครับ ปล.ค่าเช่าที่นา ชาวบ้านจ่ายให้กฟภ. ปีละ 30 บาทครับผม จากคุณ : โอ๊ต-ครับ-ผม - [ 29 มิ.ย. 52 13:45:25 ]

ความคิดเห็นที่ 17 พอพระอาทิตย์เริ่มคล้อยต่ำลงใกล้กลับเหลี่ยมเขา ผมและเพื่อนก็ออกเดินเท้าไปดูวิถีชีวิตประมงริมเขื่อนกันครับ จากคุณ : โอ๊ต-ครับ-ผม - [ 29 มิ.ย. 52 13:46:48 ]

ความคิดเห็นที่ 18 นอกจากอาชีพทำนาซึ่งเป็นอาชีพหลักแล้ว ที่นี่ยังมีอาชีพประมงเสริมอีกด้วยครับ การเข้ามาของเขื่อนอบุลรัตน์แม้ว่าจะทำให้พื้นที่ป่าหายไป วิถีทำนาแบบดั้งเดิมเปลี่ยนไป แต่ชาวบ้านก์ปรับตัวเองให้เข้ากับความเปลี่ยนแปลงด้วยเช่นกัน คือปรับเอาการเปี่ยนแปลงมาเป็นแต้มต่อให้กับชุมชน สร้างอาชีพ หาเลี้ยงครอบครัวด้วยการทำประมง อีกทั้งจับปลามาทำอาหารได้เช่นกัน จากคุณ : โอ๊ต-ครับ-ผม - [ 29 มิ.ย. 52 13:49:40 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เด็กๆกำลังสนุกกับการแข่งขว้างก้อนหินให้ตกลงน้ำให้ไกลที่สุด เล่นแค่นี้ก็สุขมากพอแล้วสำหรับเด็กแถวนี้ จากคุณ : โอ๊ต-ครับ-ผม - [ 29 มิ.ย. 52 13:50:52 ]

ความคิดเห็นที่ 20 วัวควายก้ได้ใช้ประโยชน์จากริมน้ำเช่นกัน จากคุณ : โอ๊ต-ครับ-ผม - [ 29 มิ.ย. 52 13:51:39 ]

ความคิดเห็นที่ 21 มาสำรวจท่าปลาเล็กๆที่ชาวบ้านมารวมตัวกันทำกิจกรรมกันบ้างดีกว่า นั่นยไงปลากราย ... ตัวขนาดพอดีๆ ไม่ใหญ่ไม่เล็กจนเกินไป จากคุณ : โอ๊ต-ครับ-ผม - [ 29 มิ.ย. 52 13:52:37 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ที่ท่าปลาแห่งนี้ เป็นท่าปลาเล็กๆที่ชาวบ้านจะเอาปลาขึ้นมาขายต่อ หรือนำมาเลาะเกล็ดปลาก่อนส่งขายต่อไป เวลาเค้าขึ้นปลา เค้าจะขึ้นเป็นจุดๆ โดยแต่ละจุดก็จะมีการผูกสัมปทานแบบชาวบ้านกันเองอยู่ อย่างเช่นกลุ่มนี้ก็ขนจากท่าเรือแห่งหนึ่งมาแปรรูปที่ตรงที่ผมอยู่นี่ ก่อนมีคนมารับไปขายอีกทอดต่อไป จากคุณ : โอ๊ต-ครับ-ผม - [ 29 มิ.ย. 52 13:55:11 ]

ความคิดเห็นที่ 23 คุณลุงเค้าเขินครับ ไม่ยอมให้ถ่ายรูปหน้าตรงๆนะครับ แต่เอียงหน้ายิ้มได้ อิอิ จากคุณ : โอ๊ต-ครับ-ผม - [ 29 มิ.ย. 52 13:56:10 ]

ความคิดเห็นที่ 24 หลังจากนั้นก็จะเอาปลาที่แยกชนิด ตามแต่ขนาดประเภทปลามาชั่งกิโลขายไป อย่างในรูปเป็นพวกปลาสร้อย ซึ่งนับเป็นปลาเล้กปลาน้อย ก็จะเหมาราคาคิดเป็นตระกร้าๆไปเลย ว่ากี่บาท จากคุณ : โอ๊ต-ครับ-ผม - [ 29 มิ.ย. 52 13:57:43 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ส่วนปลาใหญ่ ที่ราคาสูงก็จะแยกเป็นราคาต่อตัวต่อไปครับ ... หลังจากนั้น ชาวบ้านแถวนี้โดยเฉพาะกลุ่มแม่น้ำ ก็จะมารับจ้าง "ขอดเกล็ดปลา" กันครับ รู้หรือไม่ทำไมต้องขอดเกล็ดปลา เฉลย..... เพราะว่าการขอดเกล็ดปลาจะช่วยยืดอายุให้ปลาสด อยู่ได้โดยไม่เน่าอีก 2-3 วันเลยทีเดียว (อย่าลืมแช่น้ำแข็งนะ อิอิ) จากคุณ : โอ๊ต-ครับ-ผม - [ 29 มิ.ย. 52 14:00:18 ]

ความคิดเห็นที่ 26 กลุ่มแม่บ้านที่ไหนๆในประเทศนี่ก็เฮฮานะครับ คุยเรื่องนู้นไป เรื่องนี้ไป เสียงโฉงเฉง แต่เป็นเสียงที่เต็มไปด้วยความสุข มืออาชีพมากนะครับ   มืองี้ใช้มีดเลาะๆเกล็ดปลา ปากก็ถามพูดคุยกับเราได้ แถมเงยหน้ามาคุยด้วย ช่างไม่กลัวมีดบาดมือเลยทีเดียว  ฮ่าๆๆๆ แถมชี้ให้ถ่ายรูปคนนี้ๆ ตรงนี้ตรงนั้น  สนุกกันใหญ่ จนแทบลืมเวลาไปเลย อิอิ จากคุณ : โอ๊ต-ครับ-ผม - [ 29 มิ.ย. 52 14:02:34 ]

ความคิดเห็นที่ 27 กองปลาเต็มเลย แต่เชื่อไหมครับ แป๊บเดียวก็เสร็จแล้ว จากคุณ : โอ๊ต-ครับ-ผม - [ 29 มิ.ย. 52 14:03:18 ]

ความคิดเห็นที่ 28 แอบดูปลาที่ตกค้างกันอีกนิดหน่อยนะครับ จากคุณ : โอ๊ต-ครับ-ผม - [ 29 มิ.ย. 52 14:03:59 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ปลาอะไร ใครรู้ชื่อบ้าง .... จากคุณ : โอ๊ต-ครับ-ผม - [ 29 มิ.ย. 52 14:04:31 ]

ความคิดเห็นที่ 30 หลังจากร่ำลาชาวบ้านริมเขื่อนแล้ว ก็ออกเดินสำรวจหมู่บ้านซักนิดก่อนแดดหมด มาดูกันว่าชาวบ้านเค้าทำมาหากินอะไรกันบ้าง เริ่มจาก เมื่อได้ข้าวเปลือกแล้ว   ก็สามารถนำมาสีเอง เพื่อให้ได้ข้าวใหม่ๆกินใช้ในครอบครัวได้ ข้าวใหม่เนี่ยหอม  และ อร่อยมากๆๆนะครับ ใครเคยกินข้าวใหม่บ้าง จากคุณ : โอ๊ต-ครับ-ผม - [ 29 มิ.ย. 52 14:07:58 ]

ความคิดเห็นที่ 31 หิวขนมไปหาไรกินดีกว่า อิอิ เดินไปในร้านโชว์ห่วยแบบชาวบ้านๆ ใครเคยซื้ของกับร้านแบบนี้บ้าง  ว่าแต่ซื้ออะไรกันบ้างเอ่ย? จากคุณ : โอ๊ต-ครับ-ผม - [ 29 มิ.ย. 52 14:09:34 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ขนมเกือทั้งหมด หากินในเมืองหลวงแทบไม่ได้ แปลกใจที่ได้เห็นขนมแปลกๆ หรือเคยกินตอนเด็กแต่ตอนนี้ไม่มีละ อยากกลับไปเป็นตอนเด็กจัง  สนุกที่สุดก็ตอนมายืนดู ยืนเกาะตู้ขนมนี่แหล่ะครับ จากคุณ : โอ๊ต-ครับ-ผม - [ 29 มิ.ย. 52 14:11:40 ]

ความคิดเห็นที่ 33 มะขามคลุก? จากคุณ : โอ๊ต-ครับ-ผม - [ 29 มิ.ย. 52 14:12:16 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ปั้มน้ำมันแบบชาวบ้าน อิอิอิ เติมน้ำมันอะไรดีคร้าบบบบบบ จากคุณ : โอ๊ต-ครับ-ผม - [ 29 มิ.ย. 52 14:13:33 ]

ความคิดเห็นที่ 35 หลังจากนั้นก็ต้องเร่งฝีเท้ากันหน่อยครับ แสงสุดดท้ายของวันจะหมดจริงๆแล้ว เดินไป ก็ไปเจอชาวบ้านกำลังทอผ้าอยู่ โอ้โห ... เป็นอะไรที่น่าดูมากเลยแว้บเข้าไปพูดคุยด้วยครับ กำลังขึ้นลายอยู่เลย จากคุณ : โอ๊ต-ครับ-ผม - [ 29 มิ.ย. 52 14:15:50 ]

ความคิดเห็นที่ 36 เหนแบบนี้ คิดถึงบ้านเลยอ่ะ จากคุณ : เส้นเล็กเนื้อเปื่อยไม่ใส่ผัก - [ 29 มิ.ย. 52 14:16:37 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ขออนุญาตแว่บเข้ามาปาดนะคะ เป็นกระทู้ที่ดีค่ะ อ่านไปยิ้มไป ชอบๆ จากคุณ : ดอยสูง - [ 29 มิ.ย. 52 14:17:39 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ถามคุณป้าเค้าก้ได้ความมาว่า ตอนนี้ก็ยังทอใหช้เองอยู่บ้าง ทอขายบ้าง แล้วแต่ลายที่ใครสั่ง อย่างลายนี้ลายการบินไทย (อิอิอิ  เหมือนไหมหล่ะครับ) ผืนนึง 4 หลา (เกือบสี่เมตร)    ก็ราวๆ 400 บาท ถูกมากกกกกกกกกกกก ขายในกทม เกือบพัน เฮ่อ จากคุณ : โอ๊ต-ครับ-ผม - [ 29 มิ.ย. 52 14:18:37 ]

ความคิดเห็นที่ 39 เห็นแบบนี้ คิดถึงบ้านเลยอ่ะ จากคุณ : เส้นเล็กเนื้อเปื่อยไม่ใส่ผัก >>> คืนนี้อย่าลืมโทรหาคนที่บ้าน แก้คิดถึงนะครับ ^-^ ขออนุญาตแว่บเข้ามาปาดนะคะ เป็นกระทู้ที่ดีค่ะ อ่านไปยิ้มไป ชอบๆ จากคุณ : ดอยสูง >>> ขอบคุณมากๆครับ ปลื้มจังเลย ========================================== สาวน้อยคนนี้ แม้ไม่ขี้เขิน  หน้าสู้กล้อง แต่ชวนคุยยังไงก็ไม่ยอมคุยด้วย อิอิอิ สงสัยเขินแบบเงียบๆๆๆไว้ก่อน ฮ่าๆ จากคุณ : โอ๊ต-ครับ-ผม - [ 29 มิ.ย. 52 14:22:30 ]

ความคิดเห็นที่ 40 กว่าจะได้เส้นไหมซักเส้นเนี่ย ต้องสาวไหมทีละเส้นๆ ยากเหมือนกันนะครับ ... จากคุณ : โอ๊ต-ครับ-ผม - [ 29 มิ.ย. 52 14:24:20 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ภาพเริ่มแตก แถมเบลอแล้ว แสงหมดแล้วครับ ขอปิดท้ายทอผ้าด้วยภาพนี้ครับผม ... เดี๋ยวไปต่อภาคกลางคืนกันครับ จากคุณ : โอ๊ต-ครับ-ผม - [ 29 มิ.ย. 52 14:25:15 ]

ความคิดเห็นที่ 42 วันที่ไปสำรวจชุมชนบ้านพระบาทเนี่ย พอดีมีงานบุญของบ้านหนึ่งครับ เลยมีโอกาสได้รับเชิญจากชาวบ้านให้ปทานอาหารค่ำด้วยกัน "พาแลง" ของวันนี้มี แกงฟักทองเนื้อ ลาบหมู ลาบมะเขือ แกงจืด ป่นปลา  ข้าวเหนียวร้อนๆ อร่อยมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก แก้ไขเมื่อ 29 มิ.ย. 52 14:28:57 จากคุณ : โอ๊ต-ครับ-ผม - [ 29 มิ.ย. 52 14:28:18 ]

ความคิดเห็นที่ 43 เอาภาพใกล้มายั่วน้ำลายกันหน่อย เริ่มจาก ลาบหมูรสแซบ   อยากกินอีกๆๆๆๆ จากคุณ : โอ๊ต-ครับ-ผม - [ 29 มิ.ย. 52 14:30:18 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ป่นปลา  แซบอีกหลีเซ่นกัน ไม่ได้กินรสอีสานๆแบบนี้นานมาก  ไม่ความ ไม่มีก้างอีกต่างหาก   แปลว่าแม่ครัวใส่ใจในการทำอาหารแลงมากๆ อาหารแต่ละอย่างเจ้าภาพก้ขยันเติมๆๆๆๆๆ ตลอดเวลา พวกผมก็ช่างกิน ฮ่าๆๆๆ  แว้บเดียวหมด เผลอหน่อยเติม อย่าคิดว่าชาวบ้านไม่ชอบนะครั ยิ่งกินเยอะ เจ้าภาพปลื้ม แม่ครัวยิ่งหน้าบาน ฮ่าๆๆๆๆๆ ประทับใจ ในน้ำใจชาวอีสานจริงๆครับ จากคุณ : โอ๊ต-ครับ-ผม - [ 29 มิ.ย. 52 14:32:47 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ปิดท้ายก่อนเข้าที่พักด้วยบรรยากาศความรื่นเริงแบบชาวบ้าน งานบุญมี งานรื่นเริงตามมาด้วยเสมอ เริ่มด้วยม้าหมุนที่เด็กยึดไว้ไม่ยอมหนีหายเลย อิอิ จากคุณ : โอ๊ต-ครับ-ผม - [ 29 มิ.ย. 52 14:35:24 ]

ความคิดเห็นที่ 46 คืนนี้ผมเลือกปิดท้ายแบบชาวบ้านด้วยการขอยืมเสื่อจากบ้านเจ้าภาพ แล้วมานั่งตากน้ำค้างชมหนังกางแปลงกัน วันร้เสนอเรื่องเจม บอนด์  ภาคล่าสุด   ชาวบ้านเต็มไปหมดเลยครับ แถมฉายยันสว่างเลย แต่ผมไม่สามารถครับ เรื่องเดียวก็จอดแล้ว พักผ่อนดีกว่า ... นี่แหล่ะครับ ความสุขแบบชาวบ้าน ... แล้วคุณหล่ะ มีความสุขที่เรียบง่ย และ พอดีๆ อย่างไร  เล่าสู่กันฟังหน่อยนะครับ ขอบคุณที่ติดตามรับชม ... สุขแบบพอดีๆกันเถอะเรา   ขอบคุณครับ จากคุณ : โอ๊ต-ครับ-ผม - [ 29 มิ.ย. 52 14:38:33 ]

ความคิดเห็นที่ 47 อืม คิดถึงวิถีชีวิตเดิมๆ ที่จากมา แต่ไม่เคยลืมเลือน ลาบหมู น่ากิันจังเลย วิ่งไปหาข้าวเหนียวซักปั้นมาจิ้มดีกว่า จากคุณ : mashimaro-25 - [ 29 มิ.ย. 52 14:51:51 ]

ความคิดเห็นที่ 48 แอร๊ยยย ไปกินข้าวแลงกัน เห็นแล้วหิว อาทิตย์หน้าจะไปขอนแก่นเหมือนกัน จากคุณ : plaka - [ 29 มิ.ย. 52 14:52:12 ]

ความคิดเห็นที่ 49 หนังกลางแปลง นึกถึงตอนสมัยเด็กๆ มีหนังกลางแปลงทีไรต้องไปปูเสื่อรอตั้งแต่หัวค่ำเลย จากคุณ : ชื่อไม่มีปัญหา - [ 29 มิ.ย. 52 15:00:15 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ว๊าวว.... ไปไงมาไง...อยากไปบ้าง... จากคุณ : คุณชายธนกวี - [ 29 มิ.ย. 52 15:03:43 ]

ความคิดเห็นที่ 51 วิถีชาวบ้านอีสานจะเป็นแบบนี้แหละค่ะ ป.ล.น้องหมูปลื้มก็อยู่บ้านนอกคร๊าบ  นครพนม จากคุณ : moopleum - [ 29 มิ.ย. 52 15:58:39 ]

ความคิดเห็นที่ 52 อยากกินแกงฟักทองเนื้อ ปล.ตอนเด็กๆ จะขนเสื้อ ผ้าห่ม และหมอนไปนอนหนังกางแปลงยันเช้า จากคุณ : ดอยสูง - [ 29 มิ.ย. 52 16:12:46 ]

ความคิดเห็นที่ 53 โหหห มีหนังกลางแปลงด้วย คิดถึงสมัยเด็กๆมากเลยครับ จากคุณ : Coffee Blended - [ 29 มิ.ย. 52 16:36:46 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ตอนผมเป็นเด็กอยู่บ้านนอก อาหารประจำวันก็คือที่หาได้ตามป่าแบบนี้แหละครับ ข้าวเหนียว ผักลวก จิ้มน้ำพริก ปลาแด่กบองอะไรก็ว่าไป กับข้าวที่พิเศษกว่านี้จะมีเฉพาะเวลามีเทศกาลงานบุญ กับเวลาที่มีเจ้าหน้าที่ของรัฐ อย่างปลัดอำเภอ พัฒนาชุมชน เจ้าหน้าที่ที่ดิน (พ่อแม่ตายายของพวกผมเรียกคนเหล่านี้ว่า "เพิ่น")เข้ามาในหมู่บ้าน ไก่ที่เลี้ยงไว้กินไข่ตลอดปี จะถูกนำมาเชือดเพื่อนำมาเลี้ยงดูปูเสื่อ "เพิ่น" เหล่านี้ ขณะที่อาหารที่ดีที่สุดที่พวกผมได้กินแม้กระทั่งตอนเจ็บป่วยก็คือ ตำบักหุ่งสาย :-) จากคุณ : z2k - [ 29 มิ.ย. 52 16:50:36 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ขอบคุณสำหรับรีวิวนี้นะคะ ไม่ค่อยเห็นในบีพีบ่อยนัก ช่วยเก็บเข้าคลังกระทู้เก่าไว้ให้ค่ะ   จากคุณ : สาวหน้าใส - [ 29 มิ.ย. 52 17:18:42 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ดูแล้วนึกถึงบ้านที่ต่างจังหวัดจัง.... ขอ[คุณ คุณโอ๊ตนะคะที่นำภาพสวยๆ กับความรู้เพิ่มเติมมาแบ่งปันกัน ดูแล้วรู้สึกว่าไม่ต้องมีมากมาย ก็มีความสุขได้  ถ้าเรารู้จักคำว่า พอ ^__^ จากคุณ : สาวดอกไม้ สายลมและความรัก - [ 29 มิ.ย. 52 17:55:37 ]

ความคิดเห็นที่ 58 รอกินปลาบาหลี อิอิ จากคุณ : taoru - [ 29 มิ.ย. 52 19:35:56 ]

ความคิดเห็นที่ 59 . . เป็นวิถีชีวิตที่เรียบง่าย ดูแล้วสดชื่น สบายใจจังเลยค่ะ ปล.ชอบทุ่งนา^^ . . จากคุณ : น า รี ส ร า ญ - [ 29 มิ.ย. 52 20:06:08 ]

ความคิดเห็นที่ 60 เก็บเข้าคลังไว้เผื่อลูกหลานได้มาชม เคยคิดว่าอยากทำโฮมสเตย์แบบนี้ที่บ้านจะมีคนมาเที่ยวอะเปล่า ....คนบ้านเดียวกัน .... มาเที่ยวอิสานเด้อ จากคุณ : Sugarbean - [ 29 มิ.ย. 52 23:43:24 ]

ความคิดเห็นที่ 61 พาแลงน่าทานจริงๆเลยครับ ขอบคุณสำหรับรีวิวนะครับ จากคุณ : tataweb - [ 30 มิ.ย. 52 00:17:13 ]

ความคิดเห็นที่ 62 ชอบบกระทู้นี้จัง จากคุณ : คนขอนแก่น (enduresexy) - [ 30 มิ.ย. 52 21:48:03 ]

ความคิดเห็นที่ 63 วิถีชีวิตแบบนี้,,, ดูแล้วสบายใจดีครับ ไม่รีบเร่งและพอเพียง ^___^ จากคุณ : Sky Vodka - [ 1 ก.ค. 52 14:08:13 ]