Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com


    ยอดเขาเทวดา....ธรรมชาติเเละใจคน....ประสบการณ์ของชีวิต....

    เรื่องราวการเดินทางของเด็กชายสองคนหนึ่งมอเตอร์ไซค์จิ๋วเเละกระเป๋าใบโต

    จากเหล้าเพียงครึ่งกลม เรื่องราวต่างๆที่ไม่ได้ถูกออกเเบบไว้ก็ได้เริ่มต้นขึ้น  จุด

    หมายของการเดินทางเเห่ง



    นี้คือ ยอดเขาเทวดา หมู่บ้านกะเหรี่ยงตะเพินคี่ อุทยานเเห่งชาติ พุเตย อ ด่านช้าง

    จ สุพรรณบุรี.เดินทางไปกับรถสองล้อ(ที่ต่อจากนี้ผมจะเรียกว่าไอ้จิ๋วละกันนะ

    ครับ) ประสบการณ์ชีวิตเเละมิตรภาพที่เหนือความคาดหมาย เรื่องราวดีๆรอคอยเรา

    อยู่ตลอดการเดินทางในครั้งนี้ครับ  (ขอเล่าเป็นฉากๆเลยนะครับ)




    ฉากที่๑
    "ร้านชวนชื่น"


    ๔ทุ่มนิดๆ ณ ร้านชวนชื่นร้านเหล้าเล็กๆริมถนนศาลาธรรมสพ เเสงไฟถนนสีส้ม

    สาดเเสงส่องมาที่ขวดเหล้าที่เหลืออีกครึ่งขวด จากนั้นเหล้าก็ได้ถูกปิดฝาลง เพื่อน

    ผมหลังจากที่มัน

    รบเร้าผมให้ไปเที่ยวกับมันตั่งก่ะหัวค่ำเวลานี้มันทำสำเร็จเเล้ว ก่อนหน้านี้ผมกับมัน

    ได้ไปซื้อหนังสือท่องเที่ยวของ ททท.เล่มเล็กๆมาเล่มนึง ผมได้จิ้มเลือก อช. พุ

    เตย เป็นเป้าหมาย

    ในการเดินทาง ด้วยเหตุผลง่ายๆ คือ มันเป็นที่เเรกที่หนังสือเค้าเเนะนำ เเละก็ไม่


    ได้อยุ่ไกลจากกรุงเทพนัก น้อยคนนักนะครับ ที่จะรุ้ว่าสุพรรณบุรี จ.ที่อยุ่ใกล้ๆกทม.เนี่ยจะมีสถานที่

    ท่องเที่ยวที่เหมือนกับสวรรค์เช่นนี้ ส่วนตัวเเล้วผมไม่เคยไปสุพรรณเลยครับ ไม่รุ้

    จะไปทำไม เเต่ครั้งนี้ก็ไม่รุ้เหมือนกันว่าอะไรดลใจให้ผมต้องมาที่นี้ .  

    เก็บเหล้าขวดเก่าที่เหลือลงกระเป๋า ขับไอ้จิ๋วกลับมาบ้าน เเพ๊คของใส่กระเป๋า

    กระเป๋าเดินทางครั้งนี้ใหญ่โตมากเหมือนกับเราไปกันสามคนเลยเวลาต้องเเบกเป้
    เเล้วซ้อนท้ายไอ้จิ๋ว เเต่ใน

    เป้นี่มีสิ่งของจำเป็นเบื้องต้นทุกอย่างครับ เช่น เต้นท์ ถุงนอน เสื้อผ้านิดๆหน่อยๆ

    เเปรงสีฟัน สบู่ ไฟฉาย ประมาณเนี่ยครับที่จำเป็นสำหรับผม ประมาณห้าทุ่มกว่าๆ

    ล้อรถหมุนปื๊ด

    ดดดดดด มาจอดอยุ่ที่ปั๊ม เติมไปร้อยห้าสิบ ตบกระเเฟกันคนละกระป๋อง การเดิน

    ทางเเบบได้ใจเริ่มต้นขึ้นเเล้วจ้าาาาาาาาาาา...


    ฉากที่๒
    ขวาตายซ้ายสลบ


    เราเลือกใช้รถมอเตอร์ไซค์Kawasaki รุ่นKSRสีเเดงเพลิงในการเดินทาง รถคันนี้

    ผมได้ยืมเพื่อนอีกคนมาเเต่ไม่ได้กะจะเอาไปเที่ยวนะครับพอดีว่ารถผมมันพังเลย

    ยืมมาขับไป

    เรียนก่อน เเล้วไอ้ตัวผมก็ขับไม่เป็นหรอกครับมอเตอร์ไซค์ หัดขับอยุ่สองวันวันที่

    สามก็ออกเเรดเลย ข้อตกลงในการเดินทาง มีเพียงว่า ใครใคร่ขับ ขับ ใครใคร่

    เเบก เเบก  คือเราจะพลัด

    กันขับรถครับ ส่วนหน้าที่ของคนซ้อนท้าย คือต้องเเบกกระเป๋าขนาดสะใจไว้ที่หลัง

    ตลอดเวลาที่นั่งอยุ่บนรถ ซึ่งเป็นงานที่หนักมาก เมื่อยกว่าคนขับเยอะครับ

    เเล้วถ้าเมื่อไหร่เราเหนื่อย

    เราก็จะจอดพักเป็นหมีเเพนด้า(ช่วงๆ)  มาถึงตัวเมืองสุพรรณ เเวะเติมน้ำมันอีก

    หน่อย ผมซื้อยาสีฟันหลอดจิ๋ว เที่ยน โลชั่นกันยุง เเละทิชชู่เพิ่มเติม จากนั้นเรายิง

    ยาวมาจนถึง อ.ด่าน

    ช้าง นี้คือนความเป็นเมืองสุดท้ายที่เราจะเจอครับ ออกจาก๗ ๑๑สุดท้ายที่ด่าน

    ช้าง ขับผ่านหมู่บ้านชาวบ้าน ที่ปลูกสวน ปลูกไร่ เเต่ที่เด็ดสุดคือ ความน่ากลัวของ

    ดงตาลระหว่างทาง ที่มี

    เยอะมาก เเล้วภาพที่เห็นมันจะเป็นดงตาล มึดๆทะมึนๆอยู่ในความมืด เห็นเป็นเงาๆ

    สูงๆเเล้วอากาศเย็นๆ เหมาะกับการเป็นโลเคชั้นหนังผีมากครับ ผ่านหมู่บ้านมาซัก

    พัก เห็นป้าย

    อุทยาน เเล้วจากนั้นมันกลายเป็นป่าเลยครับ ป่าเเบบป่าจริงจังมาก ทางก็ป่าจริงจัง

    มาก คือขับรถเข้าป่าตอนกลางคืน ต้นไม้น้อยใหญ่รกทึบ หนทางลาดชันเเละเป็น

    หลุมเป็นบ่อตลอดทาง

    โหยย...หลอนมาก คิดเลยครับว่าถ้ามาคนเดียวนี้จะยังไงเนี่ย ขับไปเรื่อยๆบู๊ๆขึ้น

    ไป เวลาก็ผ่านไปนานเหลือเกิน อยู่เเต่ในป่าๆมืดๆขับไปเหมือนกับว่ามันไม่มีที่สิ้นสุด ขวามือเป็น

    หน้าผาตกไปเมี้ยงเเน่นอน(เมี่ยง ส่วนตัวเเปลว่าตายครับ) ซ้ายมือเป้นต้นไม้เเละ

    เป็นภูเขา เข้าข่ายคำว่า ขวาตายซ้ายสลบพอดีเป๊ะ

    ขับไปเรื่อยๆ.....เอ๊ะ! มันสว่างเเล้วนี่หว่า ผมพูดขึ้น เพื่อนที่รับหน้าที่ขับก็ ร้องอย่าง

    ตกใจ เออ....มันสว่างคาตาจริงๆ  เเค่ทางเข้าป่า ผมก็เรียนรู้สองอย่างเเล้วครับ คือขวาตายซ้ายสลบ

    กับสว่างคาตาว่ามันเป็นอย่างไร. เเละเเล้วก็เจอบ้านหลังเเรก เป็นบ้านป่าเเบบจริง

    จัง คืออยู่กลางป่าเลยเเล้วมีลานบ้าน มีบ้านอยุ่สามสี่หลังได้ มีคุณตาคนนึงยืนโปรยเปลือกข้าวให้ไก่อยุ่

    ที่หน้าลานบ้าน โหยยยย...คนจริงหว่ะ ผมคิด เลยจอดรถ ถามตาว่าอีกไกลไม๊

    ตาบอกนิดเดียวววววววววววจ้า  นิดเดียวจริงครับ ขึ้นเนินไปหน่อยเกือบห้านาทีได้

    ถึงเเล้วครับ


    ดีใจโพดดดด .ไปถึงจุดกางเต้นท์ของอุทยานเเต่เช้าตรู่ ใช้เวลาขับประมาณ๖-๗

    ชม.ได้   ผมรับหน้าที่ติดต่อกับทางเจ้าหน้าที่ ส่วนเพื่อนผมไปกางเต้นท์ซึ่งเป็นงานที่มันถนัดนักเเล

    ทุกอย่างเริ่มจะเข้าที่เข้าทางครับ เเต่ปัญหาต่อไปของผมเเละเพื่อนคือ เรานอนไม่

    หลับ ทั้งๆที่เราทั้งเหนื่อยทั่งง่วงเเละเพีลยมากๆ เเต่ข่มตายังไงก็นอนไม่หลับ ผม

    เลยชวนเพื่อนไปหาไร

    กินดีกว่า .


    ฉากที่๓
    ผัดกระเพราที่เผ็ดที่สุดในโลกา


    ครับ เพราะว่าเรานอนไม่หลับกันเนี่ยเเหละ จึงทำให้ผมค้นพบกับผัดกระเพราที่เผ็ด

    ที่สุดในโลก. ขับไอ้จิ๋วออกไปที่ทางเเยกก่อนเข้าที่กางเต้นท์ เเต่เราเลี้ยวไปอีก

    ทางครับ เลี้ยวขวาลง

    ไปซักพัก เห้ย...มันอะกันไรเนี่ย เราเจอถนนลาดยางอย่างดี ยาวๆไปเลย ไร่นา

    ร้านค้าเล็กๆชาวบ้านเเถวนี้มีครบ อ่าวเเล้วไอ้ม่ะคืนไอ้ทางที่เรามามันหมายความว่า

    ไงเนี่ย เรามันฉลาด

    ไม่มากนักใช้ไม๊ถึงได้ไปทางป่านั้น เพิ่งมารุ้ทีหลังว่ามันเข้าได้สองทาง ทางลาด

    ยางต้องขับอ้อมกว่าเท่าตัวนึง ส่วนทางป่าก็ทางเป็นป่านั้นเเหละครับเลือกเอา ฟิวมันคนละอารมย์กันเลย

    ครับ เเต่ถ้าผ่านจุดนั้นมาเเล้ว มาคิดอีกที มันก็ดีไม่ใช้เหรอที่ได้มีประสบการณ์นั้น  

    ขับไปตามทางจากที่เจ้าหน้าที่บอกคร่าวๆ พบเเล้วครับ ร้านเป็นร้านบ้านๆขายข้าวขายของชำเล็กๆ

    น้อย มีป้าเเก่ๆขาย จอดรถเดินไป หมาเห่ากันเกรียว เเต่ค่อนข้างชินเเล้วครับ โดน

    หมาไล่กวดไล่กัดไล่เห่ามาตลอดทาง บอกป้าว่ามากินข้าวครับ ป้าบอกจะกินไร

    หล่ะ ผัดกระเพราเเล้วก

    ันนะ ....ให้ตายเหอะ เกิดมาไปกินร้านอาหารตามสั่ง ไม่เคยเลยที่เเม่ค้าจะเลือก

    เมนูให้ เเม้จะเป้นเมนูเบๆอย่างงี้ก็เหอะ ก็ต้องเอาสิครับ ทำกระเพราให้คนหิวๆกิน

    ไม่อร่อยก็ไม่รุ้จะว่าไง

    เเล้ว ระหว่างรอก็ดูพฤติกกรมครอบครัวหมาของบ้านหลังนี้ครับ ร้านป้ามีหมาสี่ตัว

    หนึ่งตัวขุดหลุมนอนอยู่ใต้ต้นมะขามข้างบ้าน มันขุดพื้นให้เป็นหลุมเเล้วลงไปนอน

    จริงๆครับ ตลกดี

    เเต่ตัวนี้เห่าตลอด อยากจะเดินไปเตะปากมาก ตัวที่สอง เป็นหมาขนยาวๆสี

    น้ำตาลๆเซอร์มอมๆ มองเเล้วน่ารักดีครับ ตัวนี้จะใหญ่กว่าเพื่อน มันเดินมาเเย่งข้าว

    ลูกหมาสีดำอีกสองตัวจิ๋ว

    ที่กำลังทานbreakfastกันอยู่ในกะละมังที่ใหญ่กว่าตัวมันหน่อย ลูกหมาวงเเตก

    ครับ ได้เเต่ยืนมองตาปริบๆ เเต่ ด้วยความหิวของหมาจิ๋วตัวหนึ่ง มันรอจนหมารุ่นพี่

    อิ่มเเล้วจากไป

    มันลงไปอยุ่ในกะละมังเเล้วพลิกให้กะละมังเหมือนจะกลิ้งได้ เศษอาหารที่เหลือก็

    จะตกลงมาให้มันกินพอดี เเต่ก็เหลือเเต่เศษๆเเหละครับ หมาใหญ่กินหมาเล็ก

    ปิ๋งป๋อง กระเพราหมูสับไข่ดาวมาเเล้วจ้า เห็นเเค่สีก็อุทานเเบบหยาบคายอยู่ในใจ

    เเต่มันน่ากินมากครับโหดเเต่น่ารัก ผมกินอย่างเอร็ดอร่อย โฮก..เผ็ดโพดดดดเเต่อ

    ร่อยเเสดดดดด ยิ่ง

    กินยิ่งเผ็ด ยิ่งเผ็ดยิ่งอร่อย  เเต่สำหรับเพื่อนผมเเล้วมันไม่ใช้ครับ มันกินไปซักพัก

    ก็เดินไปขอน้ำตาลทรายมาโรย เเม่ค้างงเลยครับ ผมก็ตลกมัน สุดท้ายเเล้วกระ

    เพราพริกใส่หมูครึ่งจาน

    ของมันที่เหลือก็ตกเป็นของผม เด็กชายผู้โหยหิว ทีนี้กลับมานอนต่อครับ คราวนี้

    หลับถึงเที่ยงกว่าๆก็ต้องตื่น ร้อนจัดนอนไม่ได้ เหงื่อออกไปทั่วร่างกาย.(ต่อจาก

    ฉากนี้มีรูปให้ชมกันเเล้วนะครับ เนื่องจากก่อนหน้านี้ผมไม่สะดวกที่จะถ่ายรูปเท่าไหร่นัก)





    ปัจฉิมลิขิตไก่ย่าง
    -ผมเสื้อขาวเน้อ เพื่อน ไอ้จิ๋ว เเละพี่เฉาก๋วยเเห่งกลุ่มขอนลอย


    http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E8062263/E8062263.html
    ตอน๒คลอดเเล้วจะจ้า

    แก้ไขเมื่อ 09 ก.ค. 52 16:24:51

    แก้ไขเมื่อ 08 ก.ค. 52 04:49:03

     
     

    จากคุณ : concord - [ วันเข้าพรรษา 04:39:45 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com