ความคิดเห็นที่ 1   florenceเป็นเมืองหลวงของราชอาณาจักรอิตาลี ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำอาร์โน มีประชากรประมาณ 400,000 คนและอีก 200,000 คนในบริเวณปริมณฑล ในยุคกลางเป็นศูนย์กลางทางการค้าและทางการเงิน และถือกันว่าเป็นที่เกิดของยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา ตระกูลที่มีอำนาจการปกครองเป็นเวลานานคือตระกูลเมดิชิ (Medici) นอกจากนั้นมีชื่อว่าเป็นศูนย์กลางทางศิลปะและสถาปัตยกรรม จากคุณ : Mali-U เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 52 19:04:06

ความคิดเห็นที่ 2   ถ้าจำไม่ผิด มันคือโบสถ์ หน้าสถานีรถไฟ Santa Maria Novella จากคุณ : Mali-U เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 52 19:06:57

ความคิดเห็นที่ 3   Arno River แม่น้ำสายหลัก จากคุณ : Mali-U เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 52 19:08:00

ความคิดเห็นที่ 4   Ponte Vecchio สะพานเวคคิโอ จากคุณ : Mali-U เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 52 19:11:28

ความคิดเห็นที่ 5   บนสะพานจะมีร้านขายทองรูปพรรณมากมาย แต่เราเห็นตรงกันว่าทองสุโขทัยงามกว่าเยอะเลย จากคุณ : Mali-U เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 52 19:13:21

ความคิดเห็นที่ 6   ใจกลางเมืองเก่าของฟีเรนเซได้รับเลือกโดยองค์การยูเนสโกให้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก เมื่อปี ค.ศ. 1982 (พ.ศ. 2525) ยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา หรือ ยุคเรอเนสซองซ์ เป็นช่วงเวลาที่เกิดการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมในทวีปยุโรป ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของวัฒนธรรมยุคใหม่ ยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาอยู่ระหว่างยุคกลาง (Middle Age) และยุคปัจจุบัน (Modern Age) การเริ่มต้นของยุคฟื้นฟูศิลปวัฒนธรรมเริ่มต้นในประเทศอิตาลี เนื่องจากเป็นประเทศที่เป็นเมืองท่าในการติดต่อค้าขายระหว่างโลกตะวันตกและโลกตะวันออกในคริสต์ศตวรรษที่ 14 และยุโรปเหนือในคริสต์ศตวรรษที่ 16 จากคุณ : Mali-U เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 52 19:15:30

ความคิดเห็นที่ 7   Palazzo Vechio สมัยก่อนเป็นวัง ปัจจุบันทำหน้าที่เป็น City Council ที่ว่าการเมือง จากคุณ : Mali-U เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 52 19:18:04

ความคิดเห็นที่ 8   ศิลปะเรอเนสซองซ์ (พ.ศ. 1940 - 2140) คำว่า "เรอเนสซองซ์" หมายถึง การเกิดใหม่ ซึ่งเป็นการระลึกถึงศิลปะกรีกและโรมันในอดีต ซึ่งเคยรุ่งเรืองให้กลับมาอีก ศิลปะเรเนสซองซ์ไม่ใช่การลอกเลียนแบบจากอดีต แต่เป็นยุคสมัยแห่งการเน้นความสำคัญของลักษณะเฉพาะบุคคล มีความสนใจลักษณะภายนอกของมนุษย์ และ ธรรมชาติ เป็นแบบที่มีเหตุผลทางศีลธรรม ก่อให้เกิดความกระตือรือร้นในการค้นหาความรู้ทาง วิทยาศาสตร์ และวิทยาการแขนงต่าง ๆ ซึ่งอาจเรียกได้ว่าเป็น "ยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา" โดยมีรากฐานมาจากประเทศอิตาลี และแผ่ขยายไปยังดินแดนต่าง ๆ ในยุโรป จากคุณ : Mali-U เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 52 19:19:14

ความคิดเห็นที่ 9   ในสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยา วัดยังคงเป็นผู้อุปถัมภ์ที่สำคัญของเหล่าศิลปินนอกจากนี้ยังมีพวกขุนนาง พ่อค้าผู้ร่ำรวย ซึ่งเป็นชนชั้นสูงก็ได้ว่าจ้าง และอุปถัมภ์เหล่าศิลปินต่าง ๆ ด้วย ตระกูลที่มีชื่อเสียงเหล่านั้น ได้แก่ ตระกูลวิสคอนตี และสฟอร์ซา ในนครมิลาน ตระกูลกอนซากาในเมืองมานตูอา และตระกูลเมดีชีในนครฟลอเรนซ์ การอุปถัมภ์ศิลปินนี้มีผลในการกระตุ้นให้ศิลปินใฝ่หาชื่อเสียง และความสำเร็จมาสู่ชีวิตมากขึ้น ผลงานของศิลปินที่มีทั้ง จิตรกรรม ประติมากรรม และสถาปัตยกรรม ทำให้ชื่อเสียงของศิลปินหลายคน เป็นที่รู้จักทั่วโลกตลอดกาล เช่น ลีโอนาร์โด ดา วินชี มิเกลันเจโล ราฟาเอล สถานภาพทางสังคมของศิลปินเป็นที่ยอมรับกันอย่างสูงในวงสังคม เกิดสำนักทางศิลปะเพื่อฝึกฝนช่างฝีมือ และเกิดมีศิลปินระดับอัฉริยะขึ้นมาอย่างมากมาย จากคุณ : Mali-U เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 52 19:20:44

ความคิดเห็นที่ 10   ตระกูลเมดิชิ (ภาษาอังกฤษ: Medici) เป็นตระกูลที่มีอำนาจและอิทธิพลทางการเมืองของฟลอเรนซ์ระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 13 ถึงคริสต์ศตวรรษที่ 17 สมาชิกจากตระกูลนี้ 3 คนได้เป็น พระสันตะปาปา (สมเด็จพระสันตะปาปาลีโอที่ 10, สมเด็จพระสันตะปาปาคลีเมนต์ที่ 7, และ สมเด็จพระสันตะปาปาลีโอที่ 11) และนักปกครองของฟลอเรนซ์เองโดยเฉพาะลอเรนโซ เดอ เมดิชิ ก็เป็นผู้อุปถัมภ์งานชิ้นสำคัญๆ ในสมัยเรอเนซองส์ ต่อมาตระกูลเมดิชิก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับราชวงศ์ของฝรั่งเศสและอังกฤษ จากคุณ : Mali-U เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 52 19:22:29

ความคิดเห็นที่ 11   พยายามหาข้อมูลมาให้อ่าน เพราะวันนั้นเราเดินกันไปเรื่อยๆโดยไม่มีจุดหมาย เพราะฉะนั้นรูปกับเนื้อเรื่องอาจไม่สอดคล้องบ้างนะคะ จากคุณ : Mali-U เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 52 19:24:46

ความคิดเห็นที่ 12   อาหารเย็นในวันนั้น Pizza ที่อร่อยควรเลือกจากร้านที่ให้ความร้อนด้วยไฟจากไม้นะคะ ไม่ใช้เตาอบไฟฟ้า แล้วคุณจะพบว่ามันหอมอร่อยกว่ากันเยอะ จากคุณ : Mali-U เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 52 19:27:16

ความคิดเห็นที่ 13   มื้อนั้น เราขี้เกียจเดินหาร้าน อาหารที่เห็นมาจากfrozen แล้วเอามาเข้า Microwave จากคุณ : Mali-U เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 52 19:28:58

ความคิดเห็นที่ 14   มาอิตาลี ควรลองทานไอติมเค้าบ้าง  ถือว่าขึ้นชื่อเรื่องรสชาด จากคุณ : Mali-U เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 52 19:30:28

ความคิดเห็นที่ 15   ถึง Duomo แล้ว ที่นี่ไม่ยิ่งใหญ่เท่าที่ Milan จากคุณ : Mali-U เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 52 19:32:43

ความคิดเห็นที่ 16   สิ่งที่คนรักศิลปะ ไม่ควรพลาดคือ Galleria Dell' Accademia เพราะมี "เดวิด" ของมีเกลันเจโล สลักขึ้นระหว่าง ค.ศ. 1501 ถึง 1504 เป็นงานชิ้นเอกของรูปสลักยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาหรือยุคเรอเนสซองซ์ มันเป็นหนึ่งในสองชิ้นงานที่ยอดเยี่ยมที่สุดของมีเกลันเจโลร่วมกับปีเอต้า รูปสลักกษัตริย์เดวิดแห่งอิสราเอลในวัยหนุ่มดังกล่าวเป็นรูปสลักหินที่เป็นที่จดจำได้มากที่สุดในประวัติศาสตร์ศิลปะ มันได้รับการนับถือว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งความสวยงามของพละกำลังและความหนุ่มสาวของมนุษย์ แต่เผอิญว่าเรา 2 คน จบ science มา และไม่ได้คลั่งไคล้ศิลปะมากไปกว่าธรรมชาติ ก็เลยไม่ได้ไปกัน จากคุณ : Mali-U เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 52 19:37:14

ความคิดเห็นที่ 17   ศิลปะสมัยใหม่กับศิลปะสมัยเก่า จากคุณ : Mali-U เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 52 19:38:26

ความคิดเห็นที่ 18   Arno River ยามค่ำคืน จากคุณ : Mali-U เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 52 19:40:28

ความคิดเห็นที่ 19   เช้าของอีกวัน อย่างที่บอกว่า ไม่ได้รักศิลปะ ก็เลยเที่ยวตลาดเช้าดีกว่า จากคุณ : Mali-U เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 52 19:42:25

ความคิดเห็นที่ 20   Mercato Centrate เป็นตลาดที่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟ เปิด 7.00-14.00 จากคุณ : Mali-U เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 52 19:44:18

ความคิดเห็นที่ 21   ชั้นล่างขายของสด เช่น เนื้อสัตว์ Ham ชั้นสอง เป็นพวกผลไม้ จากคุณ : Mali-U เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 52 19:45:41

ความคิดเห็นที่ 22   และดอกไม้ จากคุณ : Mali-U เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 52 19:46:05

ความคิดเห็นที่ 23   ตามหนังสือบอกว่า น้ำจากน้ำพุเหล่านี้สามารถดื่มได้ ถ้าเป็นที่สวิส ก็กล้ารองใส่ขวด แต่ที่นี้ สกปรกยังไงไม่รู้ จากคุณ : Mali-U เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 52 19:48:26

ความคิดเห็นที่ 24   วิวแม่น้ำยามเช้า ก่อนไป Pisa จากคุณ : Mali-U เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 52 19:49:38

ความคิดเห็นที่ 25   นั่งรถไฟจาก florence ไป Pisa ใช้เวลาประมาณ 1 ชม วิวแม่น้ำ Arno แต่ที่เมือง Pisa ค่ะ จากคุณ : Mali-U เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 52 19:51:41

ความคิดเห็นที่ 26   เอ้า ขอโทษ ภาพที่แล้วมองไม่เห็นน้ำ จากคุณ : Mali-U เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 52 19:52:38

ความคิดเห็นที่ 27   ปิซา (Pisa) อยู่บนฝั่งแม่น้ำอาร์โนเป็นเมืองหลวงของจังหวัดปิซาอยู่ในแคว้นตอสกานา ประเทศอิตาลี อยู่ทางตะวันตกของเมือง ฟลอเรนซ์ ประมาณ 100 กิโลเมตร และทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมือง เซียนนาปรมาณ 130 กิโลเมตร จากคุณ : Mali-U เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 52 19:53:39

ความคิดเห็นที่ 28   อ่านอย่างเพลิดเพลินค่ะ รูปสวยได้ความรู้อีกด้วย จากคุณ : Red-Rose-14Feb เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 52 19:57:09

ความคิดเห็นที่ 29   หนังสือส่วนใหญ่ที่อ่าน มักจะแนะนำแต่หอเอน จริงๆแล้ว Pisa เป็นที่น่ารัก(ความเห็นส่วนตัว) ไม่พลุกพล่าน อาคารบ้านเรือนไม่อลังการเท่า Milan และ Florence แต่มีความสวยงามในแบบฉบับของเค้าเอง ถนนหนทางก็ไม่ซับซ้อนชวนให้ปวดหัว จากสถานีรถไฟ สามารถเดินไปหอเอนได้ แถมยังเพลิดเพลินกับวิวสองข้างทางด้วย จากคุณ : Mali-U เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 52 19:59:40

ความคิดเห็นที่ 30   ระหว่างทาง จากคุณ : Mali-U เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 52 20:01:13

ความคิดเห็นที่ 31   ผู้คนที่นี่ friendly กว่า Milan และ Florence ดูเค้ายิ้มแย้ม ไม่เร่งรีบ และไม่เคร่งเครียด จากคุณ : Mali-U เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 52 20:03:49

ความคิดเห็นที่ 32   ถึงแล้ว highlight ของเมืองนี้ จากคุณ : Mali-U เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 52 20:04:38

ความคิดเห็นที่ 33   กัมโป เดย์ มีราโกลี (Campo dei Miracoli) หรือ ที่ได้รับลงทะเบียนเป็นมรดกโลกในชื่อ จัตุรัสดูโอโมแห่งปิซา คือบริเวณที่ล้อมรอบด้วยกำแพง ใจกลางเมืองปิซา แคว้นทัสเคนี ประเทศอิตาลี ประกอบไปด้วยสิ่งก่อสร้างหลัก 4 อย่าง ได้แก่ มหาวิหารปิซา (Duomo) หอเอน (Torre) หอศีลจุ่ม(Baptistery) และ สุสาน (Camposanto) ส่วนคำว่า "กัมโป เดย์ มีราโกลี" นั้นแปลว่า "จัตุรัสอัศจรรย์" จากคุณ : Mali-U เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 52 20:05:21

ความคิดเห็นที่ 34   พยายามหามุมที่คนน้อยหน่อย ที่นี่นักท่องเที่ยวจะมารวมตัวกันโดยไม่ได้นัดหมาย ทำให้การถ่ายรูปท่ายอดฮิต (เอามือผลักหอไว้) ต้องรอคิว จากคุณ : Mali-U เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 52 20:08:20

ความคิดเห็นที่ 35   เจอคนไทยที่นี้ด้วย ระหว่างรอคิว จากคุณ : Mali-U เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 52 20:09:17

ความคิดเห็นที่ 36   หอเอนแห่งเมืองปิซา เป็นหอคอยหินอ่อนที่พิศดาร สูง 54 เมตร ( 181 ฟุต) มี 8 ชั้น แต่ละชั้นมีเสาหินอ่อนที่สลักลวดลายวิจิตรรองรับ ได้ลงมือสร้างเมื่อ พ.ศ. 1717 (ค.ศ. 1174) ไปเสร็จในปี พ.ศ. 1893 (ค.ศ. 1350) ใช้เวานานถึง 176 ปี ซึ่งเป็นสิ่งก่อสร้างที่ใช้เวลาสร้างนานที่สุดในโลก ความน่ามหัศจรรย์อีกอย่าง คือ เมื่อเริ่มสร้างได้ 4-5 ชั้น หอนี้เริ่มเอียง แต่ไม่ถึงกับพังทลายลงมา เพราะแรงที่จุดศูนย์ถ่วง เมื่อลากดิ่งลงมาไม่ออกนอกฐานจึงไม่ล้มยังทรงตัวอยู่ได้ เมื่อสร้างเสร็จ ยอดของหอเอียงออกจากแนวดิ่งของฐานถึง 4 เมตร( 14 ฟุต) และหอเอนนี้ช่วยให้กาลิเลโอ นักวิทยาศาสตร์ ชาวอิตาเลียน ผู้มีชื่อเสียงของโลก ได้ทดลองเรื่องอัตราเร็วของเทห์วัตถุที่ตกลงมาจากที่สูง จากคุณ : Mali-U เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 52 20:10:08

ความคิดเห็นที่ 37   เราใช้เวลาไม่นานก็ต้องลาจาก Pisa เพราะแผนวันนี้ต้องไป Siena ด้วย ถ้ามีโอกาสกลับมา Italy จะมาพักที่นี่แหละ คิดว่าน่าอยู่กว่า Milan และ Florence จากคุณ : Mali-U เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 52 20:13:14

ความคิดเห็นที่ 38   อ้อ ก่อนขึ้นรถไฟ เราหาร้าน Pizza ร้านที่เราหาเจออบ Pizza ด้วยเตาถ่านแบบโบราณ คาดว่าน่าจะเป็นร้านเก่าแก่ทีเดียว Pizza Hut กับ The Pizza ที่เมืองไทยชิดซ้ายไปเลย แก้ไขเมื่อ 11 ก.ค. 52 20:17:35 จากคุณ : Mali-U เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 52 20:17:07

ความคิดเห็นที่ 39   ชอบฟลอเรนซ์มากค่ะ เคยไปเดินเที่ยว เมืองน่ารักดี จากคุณ : ออสก้าอินเดีย เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 52 20:19:36

ความคิดเห็นที่ 40   จาก Pisa มา Siena ใช้ประมาณเกือบ 2 ชม เซียนา (Siena) อยู่ในแคว้นตอสกานา ประเทศอิตาลี และเป็นเมืองหลวงของจังหวัดเซียนา ในยุคกลางเซียนาเป็นเมืองคู่แข่งของฟลอเรนซ์ที่มีชื่อเสียงทางศิลปะและสถาปัตยกรรม ใจกลางเมืองเก่าของเซียนาได้รับเลือกโดยองค์การยูเนสโกให้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก เมื่อปี ค.ศ. 1995 จากคุณ : Mali-U เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 52 20:20:23

ความคิดเห็นที่ 41   ประวัติศาสตร์ศูนย์กลางเมือง Siena เป็นตัวอย่างของเมืองในยุคกลาง Tuscany. Dominated จากคุณ : Mali-U เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 52 20:22:05

ความคิดเห็นที่ 42   ระหว่างทางจะเห็นรูปปั้นหมาป่ากับเด็กแฝด ตามตำนานกล่าวว่าผู้สร้างเมือง Siena คือบุตรชายของเรมุส (น้องชายของโรมิวรุส ผู้สร้างกรุงโรม) ดังนั้น จึงสามารถเห็นรูปปั้นหมาป่าให้นมเด็กแฝดได้ทั่วไปในเมือง จากคุณ : Mali-U เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 52 20:23:41

ความคิดเห็นที่ 43   จตุรัส Piazza del Campo เป็นจตุรัสรูปพัด ที่ดูแตกต่างจากจตุรัสอื่นๆ ที่ผ่านมา ชาวเมืองเค้ามองว่าจตุรัสนี้มีรูปทรงเหมือนเสื้อคลุมของพระแม่มาเรีย ผู้เป็นนักบุญประจำเมือง จากคุณ : Mali-U เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 52 20:24:27

ความคิดเห็นที่ 44   อีกรูป จากคุณ : Mali-U เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 52 20:25:04

ความคิดเห็นที่ 45   ด้านบนของจตุรัส จะมีร้านอาหารและฝรั่งมากมายมารับแดดกัน วันนี้อากาศร้อนกว่าทุกวัน จากคุณ : Mali-U เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 52 20:26:56

ความคิดเห็นที่ 46   ประตูขนาดยักษ์ตามอาคารบ้านเรือน ที่พบเห็นได้ทั่วไปใน Italy จากคุณ : Mali-U เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 52 20:28:54

ความคิดเห็นที่ 47   ศิลปินยุคใหม่ จากคุณ : Mali-U เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 52 20:29:46

ความคิดเห็นที่ 48   Siena เป็นเมืองเก่าที่ตั้งอยู่บนเขา เพราะฉะนั้นการเดินเที่ยวจะเหนื่อยเป็นพิเศษ โดยเฉพาะสิ่งที่ไม่เคยพลาดในการเที่ยวใน Italy คือ หลงทางประจำ จากคุณ : Mali-U เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 52 20:33:19

ความคิดเห็นที่ 49   มีโบราณสถานให้เห็นตลอดสาย แต่ด้วยความเหนื่อยของการเดิน ก็เลยงง ว่าที่ไหนกันเนี่ย จากคุณ : Mali-U เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 52 20:35:21

ความคิดเห็นที่ 50   Panfonte ขนมขึ้นชื่อของเมือง ถ่ายจากร้าน Nannini ที่มีชื่อ เป็นร้านใหญ่และเก่าแก่ จากคุณ : Mali-U เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 52 20:37:58

ความคิดเห็นที่ 51   เราลองซื้อมาชิม คล้าย fruit cake แต่หวานม๊าก ชิ้นที่เห็นราคา 300 กว่าบาท กินไม่หมด ก็ไม่ทิ้ง ห่อเอาไว้กินต่อ แก้ไขเมื่อ 11 ก.ค. 52 20:40:56 จากคุณ : Mali-U เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 52 20:40:25

ความคิดเห็นที่ 52   อิ่มกันแล้ว ก็พยายามเข้าถึงศิลปะของที่นี่บ้าง จากคุณ : Mali-U เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 52 20:42:44

ความคิดเห็นที่ 53   เราลาจาก Siena ตอนเย็นๆ เพราะคืนนี้เรายังนอนที่ Florence อีกคืน และมั่นใจว่าไม่หลงหาทางไปโรงแรมไม่ถูกอีก เพราะนอนโรงแรมเดิมค่ะ เราลงความเห็นกันว่า Siena เป็นเมืองเล็กๆที่มีเสน่ห์มากกว่า florence ซะอีก พรุ่งนี้ เราจะเดินทางไป Venice กันค่ะ จากคุณ : Mali-U เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 52 20:49:35

ความคิดเห็นที่ 54   โอโห ขอบคุณมากเลยครับผม ติดตามมาตลอดเลยครับ ผมกำลังจะแบคแพคไปฝรั่งเศส สวิส อิตาลี ตอนเมษาปีหน้าครับ ตอนนี้กำลังหาข้อมูลอยู่เลยครับ ขอฝากตัวด้วยนะครับ ลงชื่อรอชมต่อครับผม ^^ จากคุณ : กระบี่หัก (charan_ck) เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 52 22:14:29

ความคิดเห็นที่ 55   จริงเป็นประเทศแรกในยุโรปที่หมายตาเอาไว้เลยครับ แต่มีคนทัดทานมากว่า ไม่ควรจะเดินทางไปคนเดียว เพราะประสบการณ์ในการเดินทางยังไม่แกร่งพอ อาจสูญเสียทรัพย์สินระหว่างการเดินทางได้ เลยเปลี่ยนทำเลไป AUSTRIA / HUNGARY / CZECH แทน (ประเทศหลังก็ใช่ย่อย แต่ ITALY น่ากลัวกว่า) จากคุณ : takky_sc เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 52 00:26:23

ความคิดเห็นที่ 56   เข้ามาทู้นี้แล้ว.... Demand เกิด แต่  Supply  เกลี้ยง Y_Y จากคุณ : theeradol เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 52 07:07:01

ความคิดเห็นที่ 57   รอติดตามชมนะคะ จากคุณ : miracle_rainyteddy เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 52 10:25:39

ความคิดเห็นที่ 58 3 ประเทศในฝัน 12 วันแบบไม่ง้อทัวร์ (Germany, Switzerland, Italy) ตอน 8 จากคุณ : Mali-U - [ 12 ก.ค. 52 18:43:20 ]