ความคิดเห็นที่ 1   สมเป็นเมืองท่องเที่ยวจริงๆ ต้องซื้อ map ด้วย 2.5 euro แน่ะ กัดฟันซื้ออีกแล้ว จากคุณ : Mali-U เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 52 18:44:51

ความคิดเห็นที่ 2   การเดินทางที่ประหยัดสำหรับที่นี่ คือการนั่งเรือเมล์ 24 ชม = 16 euro ขึ้นๆลงๆ กี่เที่ยวก็ได้ แต่อย่าลืม validate ตั๋วที่กล่องซึ่งจะมีทุกท่าก่อนขึ้นเรือ เพราะเจ้าหน้าที่ที่นี่ขยันตรวจตั๋ว จากคุณ : Mali-U เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 52 18:49:26

ความคิดเห็นที่ 3   เวนิส เป็นเมืองหลวงของแคว้นเวเนโต ได้รับฉายาว่า ราชินีแห่งทะเลอาเดรียตริก (Queen of the Adriatic), เมืองแห่งสายน้ำ (City of Water), เมืองแห่งสะพาน (City of Bridges), และ เมืองแห่งแสงสว่าง (The City of Light) เมืองเวนิสถูกสร้างขึ้นจากการเชื่อมเกาะเล็กๆ จำนวนมากเข้าด้วยกันในบริเวณทะเลสาบเวนิเทีย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทะเลอาเดรียตริก ในภาคเหนือของประเทศอิตาลี ทะเลสาบน้ำเค็มนี้ตั้งอยู่บริเวณชายฝั่งระหว่างปากแม่น้ำโปกับแม่น้ำพลาวิ จากคุณ : Mali-U เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 52 18:51:20

ความคิดเห็นที่ 4   Gondola หนึ่งในสัญลักษณ์ประจำเมืองเวนิส มีมานานกว่าพันปี ในสมัยก่อนใช้สำหรับขนส่งคนไปยังเกาะต่างๆ ในเวนิส แต่ปัจจุบันกลายเป็นเรือเพื่อการท่องเที่ยว เรือ Gondola มีความยาว 11 เมตร ทาด้วยสีดำทั้งสิ้น 7 ชั้น และต้องใช้ไม้มาประกอบกันทั้งสิ้น 280 กว่าชิ้น ชุดที่เห็นไม่แน่ใจว่าเป็น uniform ของคนแจวหรือเปล่า เห็นใส่เหมือนกัน จากคุณ : Mali-U เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 52 18:53:30

ความคิดเห็นที่ 5   เป็นเมืองที่เศรษฐกิจหลักขึ้นกับการท่องเที่ยว มีนักเที่ยวเข้ามาเที่ยวมากที่สุดติดอันดับหนึ่งของโลก (รองลงมาคือ ปารีส มอสโค และลอนดอน) และมีนักท่องเที่ยวเข้าออกมากตลอดทั้งปี ประมาณ 33 ล้านคนต่อปี จากคุณ : Mali-U เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 52 18:55:30

ความคิดเห็นที่ 6   เวนิสเป็นเมืองที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวตลอดปี เนื่องจากมีการจัดงานตามเทศกาล  คอนเสิร์ต โอเปร่า ละคร งานประกวดภาพยนตร์นานาชาติ งานเทศกาลสินค้า ตลาดนัด นิทรรศการงานศิลปะ การประชุมสัมมนา  การแข่งขันกีฬา และกิจกรรมดึงดูดนักท่องเที่ยวอื่นๆ เฉลี่ยตลอดทั้งปี งานเทศกาลเก่าแก่และที่มีชื่อได้แก่ งาน Carnevale di venezia จัดประมาณกุมภาพันธ์ทุกปี,  การแข่งเรือ (Vogalonga)จัด ประมาณเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน ของทุกปี  นอกจากนี้งานเทศกาลสำคัญอื่นๆ ได้แก่  La festa della Sensa,  Il Redentore, La Regata Storica,  La festa della Salute,  La stagione remiera , ฯลฯ จากคุณ : Mali-U เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 52 18:57:22

ความคิดเห็นที่ 7   เทศกาลต่างๆ เป็นการสร้างสีสัน และความคึกคักให้กับเมืองเวนิส สมกับฉายา “ฟ้าใส ทะเลคราม” เป็นอย่างดี จากคุณ : Mali-U เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 52 18:58:10

ความคิดเห็นที่ 8   ในฤดูหนาว มักมีน้ำท่วมเกาะ  นักท่องเที่ยวจึงน้อยกว่าช่วงอื่นๆ จากคุณ : Mali-U เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 52 18:59:25

ความคิดเห็นที่ 9   เรานั่งเรือเมล์ไปเรื่อยๆ จากคุณ : Mali-U เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 52 19:00:27

ความคิดเห็นที่ 10   เริ่มออกมาไกลแล้ว จากคุณ : Mali-U เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 52 19:01:01

ความคิดเห็นที่ 11   จนมาหลุดเกาะ Lido จากคุณ : Mali-U เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 52 19:01:58

ความคิดเห็นที่ 12   Lido เป็นเกาะเล็กๆ ยาว 12 กม กว้างเพียง 1 กม วันที่ไปมีการแข่งขันจักรยานด้วย หนังสือบอกว่าอัตราค่าที่พักบนเกาะหลักสูง  นักท่องเที่ยวที่มีงบประมาณน้อย หรือที่มาอยู่หลายวันจึงมักไปพักที่เกาะลิโด หรือเมืองอื่นที่อยู่ใกล้เคียง จากคุณ : Mali-U เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 52 19:05:32

ความคิดเห็นที่ 13   จากเกาะ Lido ก็กระโดดเกาะเรือนั่งวนไปต่อ ระหว่างทางเจอเรือที่เห็นในรูป MSC Cruise ภาพไม่ค่อยเห็นชัดแต่ของจริงเห็นแล้วตะลึง เพราะมันใหญ่ม๊ากมาก จากคุณ : Mali-U เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 52 19:09:17

ความคิดเห็นที่ 14   กอนโดล่าลำนี้ วิ่งมาไกลเชียว จากคุณ : Mali-U เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 52 19:10:38

ความคิดเห็นที่ 15   จากนั้นหาทางไปเกาะ Murano จากคุณ : Mali-U เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 52 19:11:34

ความคิดเห็นที่ 16   Murano เป็นเกาะที่อยู่ใกล้เวนิสมาก บนเกาะมีร้านขายแก้วชมจนเพลิน จากคุณ : Mali-U เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 52 19:13:33

ความคิดเห็นที่ 17   ลูกปัดที่มีชื่อเสียงเป็นที่นิยม คือ ลูกปัดฝีมือช่างจากเกาะมูราโน ในเวนิส มีลูกปัดจากมูราโนผลิตออกมาถึง 100,000 ชนิด แก้วมูราโน่ ที่แกะสลัก เป็นลวดลายนูน ซึ่งใช้กรรมวิธีดั้งเดิม แก้วมูลาโน่มาจากเกาะบูราโน่ มีจุดเด่นคือ สีสันที่สดใสของแก้วมูราโน่ ที่ขึ้นชื่อของอิตาลี เป็นแก้วที่สวยงาม มีลักษณะหรูหราไฮโซ แก้วพวกนี้มีการนำไปทำพวกกระจก เครื่องประดับ ต่างหู สร้อย แล้วก็ของตกแต่ง สีแดงจะมีราคาแพงที่สุด เครื่องประดับที่ทำด้วยวัตถุดิบหลักเป็นแก้วหินมูราโน่ (murano) จะมีจุดเด่น ที่สีสันสดใส เงางาม และมีทุกเฉดสี พร้อมหลากรูปทรง จึงสามารถหยิบมาดีไซน์ให้เก๋ไก๋ถูกใจสาวๆ ขณะที่ราคาก็ไม่ได้สูงมากนัก จากคุณ : Mali-U เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 52 19:17:11

ความคิดเห็นที่ 18   แก้วสวยงามและแสนแพง ของที่นี่จะเป็นลักษณะหรูหราไฮโซแล้วก็มีชื่อเสียงมากๆ ราคาตั้งแต่เป็นร้อย พัน จนเป็นหมื่นเป็นแสนยูโรเลยจนไม่ต้องคิดเป็นเงินบาทให้ตกใจ ตั้งใจจะซื้อที่เห็นในรูป แต่เพื่อนห้ามไว้นะ 555 จากคุณ : Mali-U เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 52 19:20:31

ความคิดเห็นที่ 19   ก่อนออกจาก Murono ขอสวยๆซักรูป ที่นี่ อากาศกลับเย็นกว่า florence และ Pisa ยิ่งตกเย็น หนาวเลยล่ะ ตอนแรกคาดกันว่าน่าจะร้อนเหมือนทะเลเมืองไทย จากคุณ : Mali-U เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 52 19:23:30

ความคิดเห็นที่ 20   สะพาน Ponte di Rialto ที่มีชื่อเสียงที่สุดใน Venice สะพานแห่งนี้สร้างด้วยหินอ่อนทั้งหมด (เค้าว่ามา) ถ้ามาแล้วลองเดินขึ้นไปด้านบนดูจะสามารถเห็นบรรยากาศตลอด Canale Grande ที่ไหลผ่านตัวเมือง จากคุณ : Mali-U เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 52 19:24:47

ความคิดเห็นที่ 21   ถ่ายจากบนสะพาน ผู้คนล้านแปด แห่กันมา กว่าจะแกวกฝูงชนหามุมได้ ลมแทบจับ ดีที่อากาศไม่ร้อน จากคุณ : Mali-U เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 52 19:26:55

ความคิดเห็นที่ 22   บนสะพานเป็นแหล่งช้อปปิ้งใหญ่ของเวนิส ร้านค้ามากมายที่เรียงรายตลอดแนวถนนคนเดินสายนี้มีสินค้าราคาแพง  รวมทั้งแบรน์เนมชื่อดังที่ผลิตในอิตาลี   เครื่องประดับ  เครื่องแก้วมูราโน  และหน้ากากสาระพัดแบบ       สมัยก่อนนั้นชาวเวนิสเขาสวมหน้ากากกันจนเรียกได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเลยทีเดียว ยิ่งในช่วงศตวรรษที่ 18 ถือเป็นยุคที่รุ่งเรืองมากของการสวมหน้ากาก ผู้คนในสาธารณรัฐเวนิสสวมหน้ากากออกจากบ้านถึงปีละ 8 เดือนด้วยซ้ำ ไม่ต้องสงสัยว่าเมืองจะเต็มไปด้วยเสน่ห์ลึกล้ำเพียงใด เมื่อผู้คนไม่ว่ายากดีมีจนซ่อนหน้าตาสถานะของตนไว้ภายใต้หน้ากาก และใช้ชีวิตสุดเหวี่ยงแบบไม่ต้องแคร์ใคร               แต่หลังจากการยึดครองของกองทัพของนโปเลียนในปี 1797 เมื่อเวนิสกลายเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรลอมบาร์ดี-เวเนเทีย ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป               การยึดครองนำมาซึ่งการสั่งห้ามการจัดงานเฉลิมฉลองงานรื่นเริงเป็นเวลาหลายปี ผู้คนไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้หน้ากากเปเปอร์มาเช่เพื่อปกปิดหน้าตา และงานเต้นรำสวมหน้ากากก็ถูกห้าม จนกระทั่งทศวรรษที่ 1970 ประเพณีดั้งเดิมดังกล่าวถูกฟื้นขึ้นมาใหม่ เมื่อกลุ่มของอดีตนักศึกษาอคาเดมี ออฟ ไฟน์ อาร์ต ได้เปิดร้านขายหน้ากากสมัยใหม่แห่งแรกของกรุงเวนิสขึ้นในปี 1978 จากคุณ : Mali-U เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 52 19:30:09

ความคิดเห็นที่ 23   กอนโดล่าแถวสะพาน Ponte di Rialto จากคุณ : Mali-U เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 52 19:31:33

ความคิดเห็นที่ 24   รายละเอียดชัดๆ คือไม่อยากเสียเงินนั่ง แอบเก็บภาพจะเพลินกว่า จากคุณ : Mali-U เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 52 19:32:54

ความคิดเห็นที่ 25   ไม่แน่ใจว่า กอนโดล่า หรือที่เห็นในรูป อันไหนแพงกว่ากัน จากคุณ : Mali-U เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 52 19:34:35

ความคิดเห็นที่ 26   ซอกซอย และความยากในการบังคบเรือ จากคุณ : Mali-U เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 52 19:35:57

ความคิดเห็นที่ 27   ร้านอาหารจีนสำหรับมื้อเย็นของเรา ร้านนี้แนะนำค่ะ อร่อยจนซื้อใส่ห่อไปกินพรุ่งนี้เช้าด้วย จากคุณ : Mali-U เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 52 19:37:21

ความคิดเห็นที่ 28   สิ่งที่ไม่ควรพลาดคือ Piazza San Macro จตุรัสที่สวยที่สุดในโลก จากคุณ : Mali-U เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 52 19:39:45

ความคิดเห็นที่ 29   เสียดายที่มัวแต่กินกันจนมืด กว่าจะมาถึงจตุรัสนี้ จากคุณ : Mali-U เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 52 19:40:53

ความคิดเห็นที่ 30   รูปเมือกี้ผิดค่ะ มันมืดจนงง กล้องที่ใช้ก็ถ่ายกลางคีนไม่สวยเลย ต้องไปดูของจริงกันเองนะคะ รอบๆ จตุรัส เต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหารมากมาย แพงๆ ทั้งนั้น จากคุณ : Mali-U เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 52 19:43:16

ความคิดเห็นที่ 31   ลาแล้วเวนิสที่แสนสวย คืนนี้เราไปนอนกันบนรถไฟค่ะ ประหยัดเวลาและค่าโรงแรม เพราะต้องใช้เวลาเดินทางประมาณ 7 ชม เพื่อไป Munich รถไฟตู้นอน ใน 1 ห้อง แบ่งเป็น 2 ข้าง ข้างละ 3 ชั้น นอนยาวได้แต่อย่านั่ง ขนาดตัวเล็กๆเอเซียอย่างเราเวลานั่งหัวยังเกยเพดานเลย ฝรั่งจะอึดอัดขนาดไหน โชคดีที่ห้องที่เรานอนไม่เต็ม มีฉันกับเพื่อน และสาวอารมณ์ดีชาวเชค ราคาไม่ธรรมดานะคะ 105 euro/person ไปนอนโรงแรม 5 ดาว ในเมืองไทยได้สบายๆ ลากันอีกครั้ง Italy ความเห็นส่วนตัวกับเพื่อน การท่องเที่ยว (Hotel, Transportation)ควรปรับปรุง ให้ทัดเทียมสวิสและเยอรมันนะ อย่าชะล่าใจว่ามีสถาปัตยกรรมสวยๆอยู่ในมือ จากคุณ : Mali-U เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 52 19:56:27

ความคิดเห็นที่ 32   มาตามไปเที่ยวด้วยค่า แอบถามได้ไหมคะ ถ้าจะแบ๊คแพ็คไปเอง ภาษาอังกฤษ งูๆ ปลาๆ จะพอไปได้ไหมคะ จากคุณ : interferon เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 52 11:32:50

ความคิดเห็นที่ 33   ตึกในเวนิช นี่สวยดีนะครับ เป็นเอกลักษณ์ จากคุณ : arrthai เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 52 11:40:30

ความคิดเห็นที่ 34   3 ประเทศในฝัน 12 วันแบบไม่ง้อทัวร์ (Germany, Switzerland, Italy) ตอนสุดท้าย จากคุณ : Mali-U เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 52 15:21:48