ความคิดเห็นที่ 1   เจอมากับตัวเหมือนกันครับ หางแดง กรุงเทพ-นครศรีฯ เที่ยวปฐมฤกษ์ครั้งที่สอง ต้อง Go Around ที่สนามบินนครศรีฯ ถึงสองครั้ง แต่ลงได้ในครั้งที่สาม ซึ่งถ้ายังลงไม่ได้ ก็จะไปลงที่หาดใหญ่แทน (ตอน Go Around ครั้งที่สองเครื่องนกแอร์ซึ่งต้องไปลงที่หาดใหญ่ ได้บินกลับมานครศรีฯ แล้ว) ส่วนเรื่องการขอลงเมื่อจอดนอกปลายทาง อันนี้ไม่ทราบครับ จากคุณ : meam เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 52 20:06:14

ความคิดเห็นที่ 2   หูย มีงี้ด้วย .. มารอฟังด้วยคนค่ะ ^.^ จากคุณ : Kiss me if you can เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 52 20:06:16

ความคิดเห็นที่ 3   นั่นสินะ ไม่รู้ว่ากฏว่าไง แต่ความเห็นผมเขาไม่น่ามีสิทธิกักตัวไว้นะครับ ไม่ได้จะลงกลางอากาศซะหน่อย จากคุณ : บันลือ เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 52 20:30:56

ความคิดเห็นที่ 4   น่าจะมีกฏของเค้าอยู่นะครับ สิทธิ์ขาดบนเครื่องน่าจะอยู่ที่กัปตันอ่ะครับว่าจะให้ออกหรือไม่ให้ใครออกจากเครื่อง อีกอย่างสนามบินอุดรไม่ใช่ปลายทาง การที่แค่คุณกับผู้ร่วมเดินทางจะขอลงจากเครื่อง ก็ต้องเอาสัมภาระออกไปด้วย ทีนี้ก็ต้องมีการติดต่อกับสนามบินปลายทาง ผมว่ามันยุ่งยากและมันนอกเหนือจากระบบที่เค้าวางไว้น่ะครับ จากคุณ : David_kop เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 52 20:41:23

ความคิดเห็นที่ 5   ผมก็ไม่ได้ทราบเรื่องกฎของทางสายการบินหรอกนะครับ แต่พยายามคิดหาเหตุผลว่า ทำไมสายการบินเค้าถึงไม่ยอมนะครับ สมมติว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นแบบเดียวกับที่เจ้าของกระทู้เล่า คือ ถ้ามีผู้โดยสารจำนวน 1 ครอบครัว เกิดอาการกลัว และไม่ต้องการจะโดยสารต่อไปยังจุดหมายปลายทาง  จะขอลงก่อนได้หรือไม่ ผมคิดว่า  หากทางสายการบินยอม  ปัญหาที่จะตามมาอันดับแรกก็คือ สายการบินเค้าจะต้องไปเปิดช่องเก็บสัมภาระใต้ท้องเครื่องบิน เพื่อค้นหากระเป๋าสัมภาระของผู้โดยสารของครอบครัวนั้นครอบครัวเดียว ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะต้องใช้เวลาเท่าไร  โดยที่ผู้โดยสารคนอื่นๆ ซึ่งอาจจะมีธุระเร่งด่วน ต้องการไปให้ถึงปลายทางโดยเร็วเช่นกัน แต่กลับต้องมานั่งรออยู่บนเครื่อง เพื่อให้สายการบินค้นหากระเป๋าให้กับครอบครัวนั้นๆ ความเห็นส่วนตัวผมว่าก็คงไม่เหมาะสมซักเท่าไรมั้งครับ แก้ไขเมื่อ 16 ก.ค. 52 21:05:25 จากคุณ : Jeffrey เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 52 20:50:04

ความคิดเห็นที่ 6   แถมมีลงหนึ่ง  สองก็ลังเล สามขอลงตาม สี่ที่ลังเลอยู่ก็ตามไปด้วย แน่นอนสองก็อาจจะตามไปด้วย  ตามกันไปเป็นขบวน จากคุณ : [Cha] เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 52 21:15:13

ความคิดเห็นที่ 7   จริงๆ ความรู้สึกวันนั้นคืออยากจะลงเต็มที่เลยครับ ไอ้เรื่องสัมภาระนี่เรื่องเล็กมากครับ ค่อยไปเอาที่นครพนมวันหลังก็ได้ หรือจริงๆไม่เอาสัมภาระเลยก็ได้ครับ จากคุณ : macpro777 เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 52 21:48:49

ความคิดเห็นที่ 8   ตามสิทธิพื้นฐานแล้ว คุณยืนยันจะลง คุณก็ลงได้ครับ.... แต่คุณจะมาเรียกร้องอะไรกับสายการบินอีกต่อไปไม่ได้ เพราะเป็นการตัดสินใจของคุณเอง การที่สายการบินไม่อยากให้ลง เพราะไม่อยากให้เกิดความวุ่นวาย จนควบคุมขวัญกำลังใจคนอื่นไม่ได้ และอีกอย่างคือ การบริการภาคพื้น ไม่ได้เตรียมไว้ครับ ยิ่งไปลงในสนามบินที่ไม่มีสายการบินนั้นลงเป็นประจำ ยิ่งเป็นเรื่องยากมากในการดูแลให้คุณ แต่ถ้าเป็นผม ผมไม่ลงครับ เพราะกัปตัน นักบิน และลูกเรือ ก็มีครอบครัวรอเขากลับบ้านเหมือนกัน เขาก็ไม่อยากเสี่ยงอันตราย เสี่ยงตายเหมือนกัน หากไปไม่ได้ ลงไม่ได้ เขาก็ไม่ยื้อหรือดื้อจะลงแน่นอนครับ แก้ไขเมื่อ 16 ก.ค. 52 22:01:25 จากคุณ : XOOMER เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 52 22:00:22

ความคิดเห็นที่ 9   ผมเข้าใจความรู้สึกของ จขกท นะ เป็นผมก็คงอยากกลับเลยเหมือนกัน กลัวอ่ะ จากคุณ : Tomasmith (Tomasmith) เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 52 22:44:49

ความคิดเห็นที่ 10   ผมก็เห็นด้วยกับคุณ XOOMER เช่นกันครับ ทั้ง กับตัน ลูกเรือเขาก็คงไม่อยากเสียงเช่นกัน แต่ก็อดคิดถึง เวลาเกิดเรื่องที่ ภูเก็ตของ 1-2GO ไม่ได้เป็นผมก็ เสียวเหมือนกันนะครับ จากคุณ : alcatel547 (ALCATEL547) เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 52 23:47:16

ความคิดเห็นที่ 11   เรียนตอบพี่ XOOMER ครับ ผมก็มองว่ามันน่าเป็นจะเป็นสิืทธิของเรา ผมก็เลยยืนยันจะลง (ผมขอร้อง ได้โปรดคุณแอร์โฮสเตสให้กระผมและครอบครัวลงด้วยนะครับ) ผมบอกว่าจะให้ผมเซ็นอะไรไว้ก็ได้เป็นลายลักษณ์อักษรก็ได้ เช่น ไม่สมัครใจอยู่ ฯลฯ (เพราะไม่ได้คิดจะมาร้องเรียนอะไรอยู่แล้วครับ จะลงตัวเปล่าๆเลยก็ได้) ทางกัปตันเองเมื่อ landing ไม่ได้ก็เปลี่ยนมาลงที่อุดรแทน ก็เพือความปลอดภัยของผู้โดยสาร ผมก็เข้าใจ เพียงแต่ความรู้สึกตอนนั้น มันก็ไม่อยากไปเผชิญกับเหตุการณ์อะไรอีกบ้างก็ไม่รู้ การที่บอกว่า กัปตัน นักบิน และลูกเรือ ก็มีครอบครัวรอเขากลับบ้านเหมือนกัน เขาก็ไม่อยากเสี่ยงอันตราย เสี่ยงตายเหมือนกัน หากไปไม่ได้ ลงไม่ได้ เขาก็ไม่ยื้อหรือดื้อจะลงแน่นอนครับ ผมก็เข้าใจครับ แต่อุบัติเหตุมันก็ไม่เข้าใครออกใครอยู่แล้ว ผมเพียงแค่คิดว่ามันเป็นสิทธิของเรา ทำไมเขาไม่ยอมให้ลง ขอบคุณครับ จากคุณ : macpro777 เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 52 05:15:37

ความคิดเห็นที่ 12   ถูกต้องครับ มันเป็นสิทธิในชีวิตของคุณเอง และคุณเลือกได้ครับ สายการบินเองก็ต้องระวังนะครับ เรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก หาก ผดส ยืนยันสิทธินี้ ต่อให้มันลำบากในการจัดการขนาดไหน แต่คนเรารู้สึกไม่เหมือนกัน หาก ผดส เขากลัว ก็ต้องจัดการให้เขาครับ งั้นเกิดอะไรขึ้น เขาฟ้องสายการบิน ถึงตายครับ เจอทั้งทางแพ่ง และ ทางอาญา มีคุกมาเกี่ยวด้วยแล้วนะ บอกเพิ่มเติมว่า กัปตันเป็น PIC (Pilot In Command) คือผู้ที่ตัดสินใจ ใหญ่สุดในเที่ยวบินนั้น แต่ความใหญ่ก็มีกรอบเหมือนกันครับ มันอยู่ในกรอบการควบคุมความสงบเรียบร้อย และความปลอดภัยของทุกคน ในเที่ยวบินนั้นๆ แต่ไม่ได้ใหญ่กว่า การที่ใครก็ตาม เขาอยากจะเลือกตัดสินใจในชีวิตของเขาเอง กัปตัน สั่งให้ ผดส ป่วน ลงจากเครื่องได้ ด้วยกฏหมายว่าด้วยเรื่องการบินสากล แต่หาก ผดส ไม่สบายใจ ไม่อยากบินต่อ เพราะไม่สบายใจเรื่องความปลอดภัย ในเหตุผลใดก็แล้วแต่ ......กัปตันสั่งให้ ผดส ต้องบินไม่ได้ครับ.... ถ้า ผดส ไม่อยากจะบิน และใช้สิทธิพื้นฐานของตนตามที่มีอยู่ในรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของตนครับ ถ้ากัปตันคนไหนสั่งเช่นนี้ .... ทำเกินกว่าหน้าที่ และสิทธิของกัปตันครับ และก็ไม่มีสิทธิขนาดนั้น โดยทั่วไปแล้ว ไม่ใช่แค่ในเรื่องของการบิน กฏหมายอะไรก็แล้วแต่ ให้สิทธิอะไร หรือให้สิทธิใคร ในกรณีพิเศษใดๆก็แล้วแต่ จะมาใหญ่กว่า หรือลบล้าง สิทธิพื้นฐานที่ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญไม่ได้ครับ ให้หลักการทั่วไป ไว้เป็นความรู้กันนะครับ แต่ถ้าไม่ถึงขนาดไม่สบายใจแบบสุดๆแล้ว ก็อย่างที่ผมบอกล่ะครับ ทุกคนก็เป็นห่วงชีวิตของตนทั้งนั้น และไม่มีใครอยากเสี่ยงในเรื่องความปลอดภัยแน่นอนครับ แก้ไขเมื่อ 17 ก.ค. 52 08:01:46 แก้ไขเมื่อ 17 ก.ค. 52 07:59:41 แก้ไขเมื่อ 17 ก.ค. 52 07:58:01 แก้ไขเมื่อ 17 ก.ค. 52 07:55:14 จากคุณ : XOOMER เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 52 07:53:31

ความคิดเห็นที่ 13   . ก่อนอื่นต้องขออนุญาตผู้เกี่ยวข้อง ที่ดิชั้นถือวิสาสะเข้ามาดอบ โดยพลการ.. ด้วยความเคารพ และขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่ง ในความไม่สะดวกของท่านและครอบครัวมา ณ ที่นี้อีกครั้งค่ะ เหตุผลตามความเห็นที่ 4 , 5 , 6 และ 8 นั้น ก็คือเหตุผลตามความเป็นจริง ที่ทำให้ดิชั้นไม่สามารถ อำนวยความสะดวกแก่ท่าน ด้วยการให้ลงที่สถานีอุดรได้จริง ๆ ค่ะ เราไม่มีผู้ปฏิบัติการภาคพื้นที่จะสามารถติดต่อให้เข้ามาดำเนินการได้ทัน ท่านผู้โดยสารเองก็อาจจะได้เห็นว่า แม้แต่ระหว่างที่เครื่องทำการเติมน้ำมัน ผู้ลงไปประสานงานก็คือตัวนักบินผู้ช่วย ตั้งแต่เริ่มต้นจนจบ... เราพยายามอย่างที่สุดที่จะ Balance ทุกเรื่อง ต้องการกลับไปลงอย่างปลอดภัย และไม่ดีเลย์ไปมากกว่านี้นัก แต่ถ้ากลับไปแล้วที่นครพนมยังมีสภาพอากาศปิดอยู๋อีก กัปตันท่านก็แจ้งมาแล้วว่ากลับกรุงเทพแน่ ๆ ซึ่งลักษณะนี้ก็เคยเกิดขึ้นบ้างค่ะ ( ปีละ 1-2 ครั้ง ) ในระหว่างช่วงเวลาวุ่นวาย ทั้งทางกัปตัน และนักบินผู้ช่วย ท่านก็ปฏิบัติภารกิจของท่าน ลูกเรือก็พยายามที่จะทำหน้าที่ของเรา อย่างเต็มที่ที่สุด เสียใจจริง ๆ ค่ะ ที่สถานการณ์นั้น ยังทำให้ท่านไม่สบายใจมาจนถึงทุกวันนี้ จากคุณ : Srisavarin / PB Air crew เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 52 08:12:11 A:116.58.231.242 X: TicketID:224479

ความคิดเห็นที่ 14   --- ทุกท่านคะ ถ้าหากการแสดงความคิดเห็นของดิชั้นในความเห็นที่ 13 จะทำให้เกิดความไม่เข้าใจ หรือบานปลายไปสร้างความเสื่อมเสียแก่องค์กรโดยรวม ขอให้ถือว่าดิชั้นยอมรับความผิดนี้ไว้แต่เพียงผู้เดียวเถิดค่ะ ด้วยความเคารพทุกท่าน รักผู้โดยสาร PB air ทุกท่าน.... อย่างยิ่ง จากคุณ : Srisavarin / PB Air crew เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 52 08:16:56 A:116.58.231.242 X: TicketID:224479

ความคิดเห็นที่ 15   กรณี พีบีแอร์ ต้นทางกรุงเทพ ปลายทางนครพนม แต่เครื่องลงไม่ได้ ต้องไปลงอุดรแทน แล้วจึงบินไปลงนครพนมปลายทางอีกครั้ง กรณีของคุณ macpro ผมตอบได้เลยครับ ว่าไม่ได้ เป็นมาตรฐานของสายการบินทั่วๆ ไปครับ ^_^ สาเหตุ เพราะว่า สนามบินที่อุดร ทาง bp air ไม่ได้มี contract เกี่ยวกับการบริการภาคพื้นครับ หรือที่เรียกว่า ซื้อการบริการภาคพื้นไว้ เช่น ลำเลียงกระเป๋า รถบันได ฯลฯ แต่ bp สามารถลงใช้สนามบินได้เนื่องจากเป็นเหตุสุดวิสัย (แต่กรณีนี้ก็ต้องเจอค่าใช้จ่ายจากสนามบินอุดรที่จะส่งตามไปเก็บภายหลัง) ปัญหาหลักคือเรื่อง สัมภาระของคุณ macpro777 ครับ ประการแรก เมื่อสนามบินอุดร ไม่ใช่สนามบินที่ bp ทำการ operate เป็นปรกติ การเอากระเป๋าของคุณออกมาจากท้องเครื่องต้องซื้อบริการของสนามบินอุดร ซึ่ง bp แวะจอดรอสภาพอากาศช่วงสั้น จึงไม่จำเป็นต้องดำเนินการ เพราะการรือเอากระเป๋าออกมาเพียงใบเดียว หรือสามสี่ใบ ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะหามันเจอ บางทีอาจใช้เวลามากกว่าการจอดรอสภาพอากาศซะด้วยซ้ำไป -_-' ประการที่สอง . . . . .   "ไอ้เรื่องสัมภาระนี่เรื่องเล็กมากครับ ค่อยไปเอาที่นครพนมวันหลังก็ได้ หรือจริงๆไม่เอาสัมภาระเลยก็ได้ครับ" คุณรู้ว่าในกระเป๋าคุณมีอะไร แต่คนอื่นบนเครื่องไม่รู้ว่าในกระเป๋าคุณมีอะไรนะสิครับ -_-' หลังจากเกิดเหตุการณ์ที่ล๊อกเคอบี้ สายการบินทั่วโลก เปลี่ยน procedure ใหม่คือไม่ยอมให้เกิดเหตุการณ์กระเป๋าเดินทางเองโดยไม่มีเจ้าของกระเป๋าอยู่บนเครื่องนั้นนะครับ บางท่านขึ้นเครื่องบ่อยๆ อาจจะเคยต้องนั่งรอเครื่องบินออกประมาณครึ่งชั่วโมง สาเหตุเพราะผู้โดยสารมาขึ้นเครื่องไม่ครบ ทางสายการบินจำเป็นต้องรื้อกระเป๋าใต้ท้องเครื่องออกมา เพื่อหากระเป๋าไม่มีเจ้าของนี้เพียงใบเดียวนะครับ >_<' สรุปคงต้องตอบว่า เป็น procedure มาตรฐานของสายการบินครับ แต่ถ้าไม่มีกระเป๋าที่โหลดใต้ท้องเครื่องก็เป็นอีกกรณีครับ หรือถ้าเป็นการบินไทยซึ่งสนามบินที่เปลี่ยนที่ไปลงนั้น เป็นจุดบินมาตรฐานของการบินไทยอยู่แล้ว คือ มี staff หรือ การซื้อการบริการเป็นปรกติอยู่แล้ว อันนี้ผมว่าน่าจะสามารถทำได้ครับ จากคุณ : SkyBox เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 52 08:21:31

ความคิดเห็นที่ 16   เป็นเรื่องน่ายินดี ที่ PB มาชี้แจงให้เข้าใจนะครับ ในส่วน ผดส ก็ขอให้เห็นใจคนทำงานเขาด้วยก็แล้วกัน อย่าไปเอาเรื่องเอาราวกับเขาเลยนะ บางที่การทำงานในภาวะเช่นนั้น มันยากยิ่งอย่างที่น้องเค้าชี้แจงไว้จริงๆครับ.... แก้ไขเมื่อ 17 ก.ค. 52 08:23:07 จากคุณ : XOOMER เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 52 08:22:18

ความคิดเห็นที่ 17   ตอบชนกับ คุณ Srisavarin / PB Air crew พอดี ^_^ ก็น่าดีใจที่ทาง bp air สนใจเข้ามาตอบปัญหาที่เกิดขึ้นโดยตรง ^_^ จากคุณ : SkyBox เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 52 08:25:46

ความคิดเห็นที่ 18   ผมก็คิดว่าน่าจะเป็นเหตุผลเดียวกับที่ คุณ SkyBox โพส ไว้ครับ เรื่องกฏที่สายการบินจะไม่นำสัมภาระของผู้โดยสารไปโดยไม่มีผู้โดยสารขึ้นเครื่องไปด้วย คงจะมีคนรู้ไม่เยอะมากครับ แ่ต่ Air Crash Investigations เป็นสาระคดีทีชอบดู เรื่องราวของกฏการบินที่มีมากมาย ก็มาจากอุบัติติเหตุพวกนี้ล่ะครับ แต่ก็มีเรื่องสงสัยนิดนึง ว่า ถ้าเกิดเป็นความผิดพลาดของสายการบินแล้วต้องนำสัมภาระของผู้โดยสารไปทีหลัง อย่างนี้จะไม่ผิดกฏ ใช่หรือเปล่าครับ ถือว่าเป็น cargo ไปเลยหรือเปล่า จากคุณ : tpncs เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 52 10:12:22

ความคิดเห็นที่ 19   ขอแชร์ประสบการณ์บ้างคัรับ เคยทำflight bkk - cnx แต่พอไปถึงcnx แล้วแต่ลมแรง กัปตันไม่เสี่ยง เลย divert ไป cei เพื่อเติมน้ำมันเพิ่ม แล้วรอเวลา ให้ cnx ฟ้าเปิด พอไปถึง cei ผดส.แจ้งความจำนงค์ ขอลงที่ cei เลย ด้วยเหตุผล เช่น ถ้าลงเชียงราย จะเดินทางง่ายกว่า ไกล้บ้านกว่า ปัญหาหลักๆ เลยคือ ถ้าตัวไม่ได้อยู่บนเครืองไม่ได้หรือโดยสารไปกับเครื่อง ลำนั้น ห้ามนำสัมภาระติดไปกับเครื่องเด็ดขาด ขั้นตอนต่อมา คือ ค้นกระเป๋าของ ผดส ท่านนั้น และนำออกมาจากเครื่อง ถ้าเป็นเครื่องลำเล็กๆ ก็คงหาง่าย แต่ถ้าเครื่องลำใหญ่ๆ นี่คงกินเวลาพอสมควร อันนี้แล้วแต่ดุลยพินิจ ของกัปตัน นะครับ ถ้าการรื้อกระเป๋าให้คุณ มันใช้เวลานานกว่า การเติมน้ำมัน เท่ากับ เป็นการรบกวนเวลา ผดส ท่านอื่น ""อยู่ที่กัปตัน ผู้เดียวครับ"" จากคุณ : อ.คง เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 52 11:08:03 A:124.121.135.241 X: TicketID:170953

ความคิดเห็นที่ 20   ปีที่แล้ว . . . . . . BKK - USM บินไปกลับ สองรอบ คือ บินไป แล้วลงไม่ได้ ฝนตกแรงมาก ตีกลับมา กทม รออีกราวครึ่งชั่วโมง บินไปอีก . . . . . . กลับอีกครั้งจึงลงได้ ผู้โดยสารส่วนมากเป็นฝรั่งสีหน้าไม่ค่อยพอใจ แต่เข้าใจพี เพราะปกติจะเห็นเกาะพะงัน เกาะสมัย แต่นี่เห็นแค่ฝนเทา ๆ เรื่องนี้เข้าใจดีครับ . . . . . . คงไม่มีกัปตันคนไหนยอมให้ลงหรอกครับ ไม่ให้ลงแน่ ๆๆ จากคุณ : เด็กหลังเกาะ เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 52 11:23:36 A:58.8.119.38 X: TicketID:215498

ความคิดเห็นที่ 21   สรุปว่า ถ้าไม่มีสัมภาระนี่ ลงได้ใช่ใหมครับนี่ งง แต่จริงๆในวันนั้นไม่ได้พูดถึงเรื่องสัมภาระเลยครับ เขาไม่ให้ลงท่าเดียวครับ แล้วถ้าเกิดเหตุการณ์ทำนองนี้อีก ก็ต้องทำใจยอมรับสภาพ ใช่ไหมครับนี่ เฮอออ.... จากคุณ : macpro777 เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 52 11:36:54

ความคิดเห็นที่ 22   ถ้าเคยบิน ในยุคที่ตั๋วเครื่องบิน เป็นตั๋วเครื่องบิน ที่มี flt.cupon หลายๆ ใบ ปกตั๋วด้านใน จะมีภาษาอังกฤษตัวเล็กๆ เต็มไปหมด ซึ่งก็ไม่มีใครสนใจอ่านหลอกครับ เพราะถ้าอ่านก็ไม่รู้เรื่องอยู่ดีนั่นละครับ (ตั๋วเก่าๆ ของผมเก็บอยู่ที่บ้าน แถมอยู่ในลังไหนมั่งก็ไม่รู้ ไม่งั้นจะเอารูปมาให้ดู) ไอ้เจ้า text ตัวเล็กๆ พวกนั้น คือ สิทธ์ของผู้โดยสารครับ รวมถึงสิทธ์และหน้าที่ รวมถึงความรับผิดชอบของสายการบินที่มีต่อ เจ้าของตั๋วที่ถือตั๋วระบุชื่อท่านอยู่ในตั๋วนะครับ text เหล่านั้นมันคัดย่อมาจาก Warsaw Convention ซึ่งบังคับเรื่องความรับผิดชอบระหว่างสายการบินและผู้โดยสารที่ถือตั๋วสายการบินนะครับ ในกรณี ที่ถือตั๋วระบุต้นทาง ที่สนามบิน A ไปปลายทางที่สนามบิน B นั่นคือความรับผิดชอบที่สายการบินที่มีต่อผู้โดยสารที่ถือตั๋วจะต้องทำตามนั้น ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ต้องทำให้ได้ ถ้าทำไม่ได้ ถูกผู้โดยสารฟ้องกระจายครับ ในกรณีที่สนามบิน B ลงไม่ได้ สายการบินต้องจัดพาหนะที่สะดวกใกล้เคียงกัน เพื่อไปส่งผูโดยสารให้ถึงสนามบิน B ให้ได้ ถ้าสนามบิน B ปิด ไม่ว่าเครื่องไหนก็บินไม่ได้ ก็จะต้องจัดส่งผู้โดยสารด้วยวิธีอื่นๆ ไม่ว่าจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเท่าใดก็ตามครับ เพราะตั๋วที่คุณถือนั้น บังคับสายการบินเอาไว้ ตามที่ระบุไว้ในส่วนหนึ่ง Warsaw Convention ครับ ในกรณีสุวรรณภูมิเมื่อปลายปี ก็เช่นกัน ใครตกค้างอยู่ไหน ก็เป็นหน้าที่ของสายการบิน ที่ต้องรับผิดชอบ เพื่อจัดส่งผู้โดยสารให้ได้ ถ้าไม่ได้ตามเวลา ต้องจัดหาอาหาร ที่พัก หรือจ่ายเงิน ค่าอาหาร ค่าที่พัก ให้กับผู้โดยสารครับ มันเป็น duty ที่สายการบินไม่สามารถละเลย หรือไม่ปฎิบัติตามได้ครับ ส่วนที่ผู้โดยสารลงในจุดที่ไม่ใช่จุดที่ระบุไว้ในตั๋วเครื่องบิน กรณีเช่นนี้ ก็ไม่ต่างกันครับ ผู้โดยสารต้องแสดงเจตนาอย่างชัดแจ้งด้วยลายลักษณ์อักษร ว่าจะไม่เรียกร้องค่าเสียหาใดๆ ที่เกิดขึ้นในทุกกรณี เพราะแค่คุณก้าวลงบันไดเครื่องบินแล้วหกล้มหัวแตก คุณก็สามารถเรียกร้องสายการบินได้ครับ เพราะยังถือว่าอยู่ในความรับผิดชอบของสายการบิน ในกรณีนี้เนื่องจาก pb ไม่มีสำนักงานที่สนามบินอุดร ลำพังกัปตัน หรือลูกเรื่อเองก็ไม่มีความสามารถในด้านนี้นะครับ (ถูกฝึกกันมาคนละแบบ) ดังนั้นทั้งกัปตันและลูกเรือ จึงไม่ยอมให้ผู้โดยสารลงที่อุดรนะครับ แต่ถ้าที่ pb มีสำนักงานที่สนามบินอุดร อันนั้นเรื่องการดำเนินการด้านเอกสารต่างๆ ก็สามารถทำได้ครับ รายละเอียดต่างๆ ลองค้นหาจากคำว่า Warsaw Convention Airline Regulation ครับ มีรายละเอียดแยะจน. . . . ไม่อ่านดีกว่าครับ >_<' แก้ไขเมื่อ 17 ก.ค. 52 15:03:07 จากคุณ : SkyBox เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 52 14:55:51

ความคิดเห็นที่ 23   ตอบคุณ tpncs ^_^ กรณีกระเป๋าวิ่งไปคนละทางกับเจ้าของ ในกรณีนี้สายการบินถือว่า ไม่ใช่เจตนาของเจ้าของกระเป๋าที่จะเจตนาทิ้งกระเป๋าให้เดินทางเอง แต่เป็นเพราะเหตุสุดวิสัยต่างๆ ทำให้กระเป๋า กับเจ้าของกระเจิงกันไปคนละทาง หรือวิ่งตามมาไม่ทัน แบบนี้ไม่เป็นไรครับ ทางสายการบินเค้าจะส่งกระเป๋าตามมาให้ในอีกเที่ยวบินหนึ่งครับ บอกแล้วครับว่าดูที่เจตนาของเจ้าของกระเป๋าเป็นหลัก ผมเองก็เคยเจอ กระเป๋าวิ่งตามไม่ทัน เพราะผมเปลี่ยนเที่ยวบินไปเที่ยวบินก่อนหน้าซึ่งอีกสิบนาทีเครื่องจะออก กระเป๋าก็เลยวิ่งตามไม่ทันเจ้าของ ผมก็ต้องมารอกระเป๋าซึ่งจะถูกส่งตามาในอีกเที่ยวบินหนึ่งครับ ตอนนั้นบินจากภูเก็ตเข้ากรุงเทพ มี flt.เข้ากรุงเทพทุกชั่วโมง ผมก็ต้องมานั่งรอกระเป๋าอีกชั่วโมงที่ดอนเมือง 555 จากคุณ : SkyBox เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 52 15:11:50

ความคิดเห็นที่ 24   อ่านตอนแรกๆ ก็สงสัยเรื่องกระเป๋ากระเจิงอยู่พอดี ขอบคุณคุณ skybox ครับที่อธิบายละเอียด จากคุณ : what a wonderful world เขียนเมื่อ : 18 ก.ค. 52 16:11:23

ความคิดเห็นที่ 25   เข้าทางเลยอีกหน่อยขอ Traffic right ที่ไหนไม่ได้ก็แจ้งไปอีกที่แล้วทำเป็นลงไม่ได้จึงไปลงที่อยากลงซะแต่แรก....   ผมว่าอย่างนี้ครับจั๋วหัวมาประชดไปงั้น  มีปัญหาหลายอย่างที่จะตามมาเช่นเรื่อง Security กล่าวคือถ้าใครหวังมิดีมิร้ายในกระเป๋ามีไรก็ไม่รู้แล้วลงแต่ตัวของเก็บไว้ได้อ่ะมันจะเป็นยังไงต่อไปถ้าเป็นระเบิด  ดีนะภาคอีสานถ้าเป็น 3 จว.ชายแดนใต้ล่ะเป็นเรื่อง  ก็ถือเป็นพื้นที่เสี่ยง  แต่จะไม่ใช่พื้นที่เสี่ยงก็ใช่ว่าจะไม่เกิด  ดังนั้นการจะลงได้ต้องมีเหตุที่สมควรเช่นเครื่องพังบินต่อไม่ได้จริงๆถึงบินต่อก็อาจไม่ถึงที่แต่ถึงที่....  ติดสภาพอากาศที่แม้ว่าจะรู้ล่วงหน้าแต่ก็เป็นแค่การพยากรณ์เอาแน่เอานอนไม่ได้  จะไปจอดแถมป้ายทำไมลงได้เค้าคงลงแล้วลงผิดที่ผิดทางเสียเงินนะคร้าบไม่ได้ลงฟรีๆไหนจะเติมน้ำมันเพิ่มอีก แม้ว่ารัฐจะบอกว่าสนับสนุนการท่องเที่ยวก็ตามทีเถอะ 555 ครับผู้ปฏิบัติหน้าที่เขามีเรื่องต้องรับผิดชอบเหมือนกัน เขาไม่ไปเสี่ยงหรอก ไม่คุ้มและเขาก็ไม่ได้อยู่ใช้เงินที่ได้ด้วยถ้ามีอะไรเกิดขึ้นจริงๆ   สุดท้ายถ้าไปไม่ถึงปลายทางได้สุดๆแค่ไหนสายการบินก็ต้องรับผิดชอบต่อให้ผู้โดยสารไปให้ถึงปลายทางอย่างที่คนตอบมาแล้วด้านบนน่ะแหละถูกแล้ว จากคุณ : คนเคยทำ (dornier328) เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 52 12:20:37