ช่วยทำให้เลยก็แล้วกันนะ ------------------------------------
คือผมเป็นสาวก pantip มานานแล้ว แต่จะดูเอาข้อมูลเป็นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะห้อง Blue เพราะผมก็ชื่นชอบการท่องเที่ยวเป็นชีวิตจิตใจเช่นกัน จนครั้งนี้ผมคิดว่าควรจะตั้งกระทู้ซะที
เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อวันที่ 4 กค. ที่ผ่านมาผมไปเที่ยววังน้ำเขียวกับเพื่อนๆ แน่นอนว่าก่อนไปก็เข้ามาหาข้อมูลในห้อง Blue ตามสูตร ก็เลยตัดสินใจไปพักที่ บ้านไร่โอโซน แล้วก็วางแผนท่องเที่ยวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ผาเก็บตะวัน สวนลุงไกร สวนดอกหน้าวัว เบญจมาศ ฟาร์มเห็ด ฯลฯ เป็นต้น
การเดินทางไปนั้น ผมเลือกเดินทางโดยใช้เส้นทางนครนายกขาไป และใช้ทางโคราช-สระบุรีขากลับ จะได้เปลี่ยนวิวข้างทาง เดินทางไปผ่านวิวข้างทางสวยงามมากมาย กินอาหารร้านอิ่มสุข (วิวสวยสุดๆจริงๆเลย) แต่พวกสวนต่างๆ ผมว่าธรรมดานะ แล้วก็ประทับใจที่ผาเก็บตะวันอยู่เหมือนกัน เพราะได้ปลูกป่า แล้วก็เล่นม้าไม้(เล่นยากจริงๆ) จากนั้นเข้าพักที่บ้านไร่โอโซน
ตอนแรก ก็รู้สึกว่ามันไกลจัง (เพราะจะอยู่ลึกกว่าเจ้าอื่นๆเลย) สภาพที่พักก็โอเค เน้นธรรมชาติ มีพื้นที่สวน แล้วก็บ่อน้ำสวยงาม (มีน้ำตกด้วย) แต่วันนั้นทางที่พักแจ้งว่าทางครัวไม่เปิด เพราะต้องให้พนักงานไปช่วยงานที่สวนเห็ดข้างๆ ที่มีงานวางศาลพระภูมิ เค้าก็แนะนำร้านว่าให้ไปกินตรงโน้นตรงนี้
ทางเราก็โอเค ออกไปกินกัน กลับมาตอนดึก เราก็เดินมาเปิดประตูมันก็มืดๆ เลยคลำเปิดไฟพอไฟติด เพื่อนผู้หญิงเราก็กรี๊ดกันใหญ่ เพราะว่ามีตุ๊กแกตัวใหญ่ อยู่ตรงประตูใกล้กับหน้าเราเลย (แต่เราเฉยๆไม่ได้กลัว) น้องที่ดูแลเค้าก็วิ่งมาทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วเค้าก็ใส่ถุงมือจะจับตุ๊กแกให้ แต่มันก็วิ่งปรู๊ดหายไปเลย (ผู้หญิงไปดูอยู่ไกลประมาณ 10 ม.)
เช้ามาไปกินโอวัลตินกับขนมปัง ทางพี่เค้าก็บอกว่ามีข้าวต้มให้ด้วย เราก็งงๆอยู่เพราะตอนจองเค้าบอกว่าอาหารเช้ามีแค่ขนมปังกับโอวัลติน ก็เลยขอบคุณเค้า จากนั้นก็เช็คเอาท์
ออกจากที่พักไปเที่ยวต่อ โดยเหตุมาเกิดขึ้นเมื่อผมมาเที่ยวที่ไร่แห่งหนึ่ง (ไม่เอ่ยนามละกัน) ผมขับรถแจ๊ส มีผู้ชาย 2 คน (รวมผม) ผู้หญิง 3 คน ผมขับเข้าไปในไร่ได้ซักพักนึง ประมาณ 800 ม. ก็รู้สึกกลัวๆ อยู่ เพราะตามทางเป็นดินแดงๆ เลย กลัวว่ารถจะติดหล่ม จากนั้นอยู่ๆ ฝนก็ตกลงมาหนักมาก ผมบอกเพื่อนๆ เลยว่า เรากลับกันเถอะนะ ทุกคนก็โอเค
เนื่องจากทางเป็นทางแคบและข้างทางเป็นคลอง ผมก็เลยถอยออก ทันใดนั้นสิ่งที่กลัวก็เกิดขึ้น! รถติดหล่มอ่ะ (ใจผมแป้ว!ทันที เพราะรู้ดีว่า แจ๊สน้อยของผมมีสมรรถภาพแค่ไหน..55) แต่ผมก็ทำใจเย็น บอกเพื่อนๆ ว่าไม่เป็นไร เดี๋ยวฝนหยุดก็คงดีขึ้น
แต่เวลาผ่านไป ฝนยิ่งตกหนักขึ้นเรื่อยๆ (หน้าซีดกันหมดเลยตอนนั้น) ผมก็เลยแสดงแมนว่า เดี๋ยวให้เพื่อนผู้ชายอีกคนมาขับ (ผู้หญิงขับรถไม่เป็นเลย) แล้วผมจะลงไปเข็นเอง พอลงไป โอ้! เครียดหนักเลย เพราะดินมันนิ่มมาก ผมเหยียบไปขายังจมไปเลย..แต่ก็ทำเท่ บอกเพื่อนว่าพอไหว จากนั้นผมก็เริ่มเข็นแล้วให้เพื่อนถอยรถ ปรากฏว่าไม่ขยับ แถมรถมันไถลไปไกล้คลองเรื่อยๆ อืมมมมม ทุกคนเครียดหมด
ผมก็เลยอาสาว่า จะไปตามคนมาช่วย (ไม่มีใครผ่านมาเลยจากเวลาที่เราติด) เพราะเห็นบ้านคนระหว่างทางเข้ามา ก็เลยเดินมาได้ซัก 200 ม.ในช่วงที่ฝนตกหนัก และพื้นเป็นดินแดงนุ่มๆ (เละเทะไปทั้งตัวจากที่เข็นรถ) ไปถึงบ้านก็ตะโกนเรียก มีผู้ชายออกมา1คน ผมก็บอกเค้าเลย พี่ครับ! รถผมติดอยู่กลางทางนี้ พี่พอจะเรียกใครหรือเจ้าของสวนมาช่วยได้มั๊ยครับ
เค้าเงียบไป.... ผมก็ พี่ครับ รถผมติด.....เค้าก็พูดมาว่า ผงม่ายรู้ เค้าห้ายผงเฝ้า โอ้! พม่านี่เอง แล้วเค้าก็เดินกลับเข้าบ้าน เราไม่รู้จะทำงัย ก็ว่าจะเดินออกไปจนถึงถนนใหญ่(อีก 500 ม. บนทางเหนียวเหนอะ) เพื่อนเราที่มาด้วยก็บอกว่า ลองโทรไปที่ ที่พักซิ อืมม...อย่างน้อยเค้าก็น่าจะมีน้ำใจ เราก็โทรไปทันที(ยังดีที่มีคลื่น)
เค้ารับสายปุ๊ป เราก็บอกเค้า "พี่ครับ ผมคือคนที่เช็ดเอ้าท์ออกมาจากที่พักพี่ แล้วตอนนี้ติดหล่มอยู่" เค้าถามกลับมาทันที "ที่ไหน" เราก็บอกไป "ไร่..." เค้าก็บอกมาว่า "เดี๋ยวพี่ไป" แล้วก็วางหูไป
จากนั้นเรารออยู่ประมาณ 20 นาที พี่เค้าก็พร้อมกับรถกระบะ เค้าก็บอกให้เราขึ้นมานั่ง (เราอยู่กลางทางจากที่เดินมาบ้านพม่า) เราก็เกรงใจเพราะจะทำให้เบาะรถเค้าเลอะ ก็เลยจะขึ้นท้ายกะบะ เค้าก็โวยวายใหญ่ บอกว่าไม่ได้! เราก็ขึ้นไปกับเพื่อน (2คน) พอไปถึงรถเรา เค้าก็ลงไปเกี่ยวเชือกเองแบบว่าเต็มที่มาก แล้วก็พยายามลากแจ๊สน้อยเรา ซึ่งก็ใช้เวลานานอยู่ เนื่องจากรถเค้าเองบางครั้งก็ยังติดเหมือนกัน เราก็พยายามเข็นกัน จนออกมาได้
เค้าก็บอกว่า เดี๋ยวพาไปบ้านเพื่อนล้างรถอาบน้ำกันก่อน เราก็บอกว่า แค่นี้ก็ขอบคุณแล้วไม่เป็นไร เค้าก็ไม่ยอม พาไปบ้านเพื่อนเค้า แล้วก็ให้พวกเราไปอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้ากัน (มอมดินกันสุดๆ) ออกมาเค้ายังมาฉีดน้ำล้างแจ๊สน้อยให้เราอีก
โอ้!พอเถอะพี่ผมเกรงใจสุดๆ แล้ว
เราก็เลยจะล้างรถให้เค้าบ้าง พี่เค้าไม่ยอมให้ล้างอีก แน่นอนพอเราจะให้เงินเค้า พี่เค้าก็ยิ่งโวยวายใหญ่ บอกว่าไม่เป็นไร เป็นหน้าที่เค้าที่ต้องดูแลคนที่มาพัก (น้ำตาพวกเราแทบไหลเลยได้ยินประโยคนี้) ก็เลยขอบคุณพี่เค้า แล้วก็บอกว่าคราวไหนๆ ถ้ามาวังน้ำเขียว ผมต้องมาพักบ้านไร่โอโซนแน่นอน จากนั้นก็เดินทางกลับกันอย่างเหนื่อยล้า แต่ก็ชุ่มชื่นใจในน้ำใจของพี่เค้าครับผม
ขอโทษทีที่เขียนยาวไปหน่อย พึ่งครั้งแรกน่ะครับ ก็เลยยังเกร็งๆ แต่ยังไงก็ขอฝากตัวด้วยนะครับ เพราะคิดว่าจะพยายามมาโพสตอบแทน Review ที่เราเอาแต่ดูมานานแล้ว... แต่คงต้องฝึกการโพสรูปก่อนอ่ะ เพราะยังทำอะไรไม่เป็นเลย...
ขอบคุณครับที่อ่านมาซะยาวเลย
จากคุณ : บะหมี่เกี๊ยวน่องไก่ . . .
จากคุณ |
:
ปากตรงกับใจ
|
เขียนเมื่อ |
:
16 ก.ค. 52 22:12:18
|
|
|
|