ความคิดเห็นที่ 1 ถึงย็อกย่า ที่สนามบินวุ่นวายเล็กน้อยเพราะมีการดีแคล์สุขภาพ และพ่นยาป้องกันไข้หวัด2009 แต่สถานที่คับแคบมาก ผู้โดยสารจึงดูค่อนข้างชุลมุน ระหว่างรอรถโรงแรมมารับก็มีเอเยนต์รถมาเสนอราคา จากสนามบินย็อกย่าไปโรงแรมมโนหราห์ 200 000รูเปีย แต่เราจองรถโรงแรมไว้250 000รูเปีย แพงกว่านิดหน่อย แต่น่าจะดีกว่าไปเสี่ยง ยังไงรถโรงแรมน่าจะไว้ใจได้กว่า พอเห็นรถ ทุกคนก็พอใจกับสภาพรถใหม่เอี่ยม และคนขับก็สุภาพดี จากสนามบินไปโรงแรมซึ่งอยู่ติดกับบุโรพุทโธ ใช้เวลาร่วมชั่วโมง กว่าจะถึงก็มืดแล้ว พอเช็คอินเสร็จก็ออกมาเดินนอกโรงแรมหาอะไรกิน ส่วนใหญ่ก็เป็นร้านก๋วยเตี๋ยวกับอาหารตามสั่ง พวกเราจึงลองทั้งก๋วยเตี๋ยวไก่ กะลูกชิ้นเนื้อ และย้ายไปลองข้าวผัดนาซีร้านใกล้ๆกันอีก อิ่มหนำสำราญสี่คนจ่ายไม่ถึงสองร้อยบาทก็กลับเข้าโรงแรมนอนหลับด้วยความสบายใจ เช้า(วันเข้าพรรษา)พวกเราตื่นราวตีห้าเพราะประตูบุโรพุทโธที่อยู่รั้วติดกันกะโรงแรม จะเปิดให้เข้าชมตอนหกโมงเช้า หรือใครที่อยากซื้อแพ็กเกจซันไรส์กับทางโรงแรมก็จ่ายตังค์เพิ่มนิดหน่อยและจะมีของว่างให้ แต่จะเริ่มราวตีสี่ครึ่ง สำหรับพวกเรามันเช้าไปขอบายดีกว่า ดูแค่เวลาปกติก็น่าจะพอ บุโรพุทโธ พุทธศานสถานอันยิ่งใหญ่ ยามต้องแสงอาทิตย์แรกดูขลัง และงดงามน่าประทับใจไม่น้อย แก้ไขเมื่อ 02 ส.ค. 52 13:29:43 จากคุณ : จขกท (ruangt) เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 52 13:13:35

ความคิดเห็นที่ 2 หลังจากดื่มด่ำกับบรรยากาศในบุโรพุทโธ(borobudur)พอสมควร ก็กลับลงมากินอาหารเช้าที่โรงแรม เป็นบุฟเฟ่ท์มีอาหารให้เลือกสองสามอย่าง แต่ที่น่าแปลกใจคือมีปลาดุกทอดเสริฟด้วย รู้สึกเหมือนกะยังอยู่เมืองไทยเลย อิ่มแล้วก็งีบกันสักพัก รอรถที่นัดไว้ตอนสิบเอ็ดโมง เพื่อเดินทางต่อไป เดียงพลาโต(dieng plateau)ที่ห่างออกไปราวสามชั่วโมง วิวระหว่างทางไปเดียงพลาโต ซึ่งเป็นที่ราบสูงและส่วนใหญ่ทำการเกษตรกัน แก้ไขเมื่อ 03 ส.ค. 52 12:27:15 จากคุณ : จขกท (ruangt) เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 52 13:22:59

ความคิดเห็นที่ 3 ถึงเดียงพลาโต อากาศกำลังเย็นสบาย เดินชมจันทิ และพิพิธภัณฑ์กัน จากคุณ : จขกท (ruangt) เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 52 13:26:47

ความคิดเห็นที่ 4 เสร็จแล้วไปชมบ่อโคลนเดือดที่อยู่ไม่ไกลกันนัก  เดินชมกันแป้บเดียวก็รีบถอย เพราะกลิ่นกำมะถันเหม็นเอาการ ไม่ดีต่อสุขภาพแน่ๆ จากคุณ : จขกท (ruangt) เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 52 13:32:41

ความคิดเห็นที่ 5 แล้วไปทะเลสาบ telega warna ที่อยู่ใกล้กัน สวยแต่มีกลิ่นเหม็นจางๆ จากคุณ : จขกท (ruangt) เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 52 13:34:22

ความคิดเห็นที่ 6 บ่ายแก่ๆ ก็เดินทางกลับย็อกย่า วอคอินและเก็บของเข้าที่พัก แล้วออกมากินมื้อเย็นกัน วันนี้เราได้ลองทานอาหารร้านที่เป็นเต็นท์ นั่งเสื่อและมีโต๊ะเตี้ยๆเหมือนโต๊ะญี่ปุ่น ที่เรียงรายกันหลายสิบร้านในย่านมาริโอโบโร ซึ่งเป็นถนนสายหลักของย็อกย่า เมนูส่วนใหญ่จะเป็นของย่างและทอดซะส่วนใหญ่ไม่ว่าจะเป็น ไก่ นก ปลา กุ้ง ฯลฯ เสร็จแล้วเดินเล่นจนห้างปิด และร้านค้าเริ่มวายจึงกลับเข้าที่พัก ตอนเช้าออกมาหาอาหารเช้ากิน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นร้านก๋วยเตี๋ยว และข้าวราดแกง บรรยากาศย่านมาริโอฯซึ่งเมือคืนคึกคักไปด้วยผู้คน แต่เช้านี้ยังคงเงียบเหงามีเพียงรถรับจ้าง และรถม้าจอดรอผู้โดยสาร จากคุณ : จขกท (ruangt) เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 52 13:44:36

ความคิดเห็นที่ 7 แปดโมงเช้า หลังมื้อเช้ารถที่เช่าไว้ก็มาตามนัด เราเริ่มทริปที่วังสุลต่าน ที่เปิดให้ชมตอน 08.30 น.ค่าตั๋วคนละ12 500รูเปีย ถ้าจะถ่ายรูปจ่ายอีก 1 000รูเบีย/กล้อง ต้องการไกด์หรือไม่ก็ได้ ไม่ต้องเสียตังค์แต่จะให้เป็นทิปก็ไม่ว่ากัน เราได้ไกด์เป็นป้าวัยราวๆหกสิบ ซึ่งน่ารักมาก ทำให้เราได้ความรู้เกี่ยวกับวังและสุลต่านแห่งชวามากทีเดียว ซึ่งถ้าไม่มีไกด์เราก็อาจจะแค่เดินผ่านๆเท่านั้น จากนั้นเราก็เดินทางต่อไปยัง คาลิ อาดัม จุดชมวิวที่มองเห็นภูเขาไปเมราปีอย่างชัดเจน ซึ่งภูเขาไฟเมราปีนี้ เคยปะทุเมื่อปี2003 และสร้างความเสียหายแก่บริเวณใกล้เคียงมากทีเดียว จากคุณ : จขกท (ruangt) เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 52 13:54:37

ความคิดเห็นที่ 8 ย้อนกลับเข้าเมือง เข้าชมพรามบานัน (PRAMBANAN) ศาสนสถานของฮินดู ซึ่งสร้างตั้งแต่ศตวรรษที่7 เป็นมรดกโลกลำดับที่642 ที่มีทั้งความสวยงามและอลังการ  สำหรับชาวต่างชาติ ค่าตั๋ว 11 usd พร้อม welcome drink แก้ไขเมื่อ 03 ส.ค. 52 12:25:39 จากคุณ : จขกท (ruangt) เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 52 14:09:52

ความคิดเห็นที่ 9 ใช้เวลาราวครึ่งวัน เราก็รีบเดินทางไปสนามบินเพื่อเช็คอิน batavia air เที่ยวสี่โมงครึ่ง บินต่อไปยังสุราบายา ถึงสนามบินสุราบายาเกือบหกโมงเย็น ที่นี่ดูใหญ่โตและทันสมัยกว่าที่ย็อกย่า เที่ยวบินและผู้โดยสารมากกว่า เราจึงต้องใช้เวลารอกระเป๋าค่อนข้างนาน เมื่อออกมาก็มืดแล้ว คนรถของโรงแรมที่เรานัดไว้จึงพาเราออกเดินทางทันที หลังจากเดินทางกว่าสี่ชั่วโมง( รวมทั้งแวะกินข้าว) เราก็ถึงโรงแรมcemara indah ด้วยสภาพอิดโรย อากาศหนาวมาก มีคนมาเสนอให้เช่าเสื้อกันหนาวพร้อมขู่ว่า พรุ่งนี้เช้าจะหนาวกว่านี้อีก เช้าเราตื่นกันตีสาม ตามนัด รถจีปก็พร้อมแล้วเช่นกัน งั้นออกเดินทางเลย รถจีปวิ่งไปตามทางขลุขละร่วมชั่วโมง ก็ถึงจุดหมาย คือจุดชมพระอาทิตย์ขึ้น วึ่งนักท่องเที่ยวร่วมร้อยคนเริ่มทยอยมากัน และทุกคนก็ยึดทำเลที่จะถ่ายรูปพระอาทิตย์กันอย่างเหนียวแน่น เรียกว่าใครลุกก็เสียม้าละครับ สักตีห้า พระอาทิตย์ก็เริ่มฉายแสง ภาพภูเขาสามลูก คือ batok ,bromo และsumeru ก็ค่อยๆปรากฏชัดขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับทะเลหมอกเบื้องล่าง ที่ไหลเปลี่ยนรูปทรงไปเรื่อยๆ ทันทีที่แสงพอสำหรับถ่ายภาพ เสียงชัตเตอร์กล้องก็รัวกันกระหน่ำไม่ขาดเสียง จากคุณ : จขกท (ruangt) เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 52 14:36:47

ความคิดเห็นที่ 10 ทะเลหมอก เข้าปกคลุมหมู่บ้าน เป็นภาพที่งามไม่แพ้กัน จากคุณ : จขกท (ruangt) เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 52 15:06:13

ความคิดเห็นที่ 11 หลังจากลงจากจุดชมพระอาทิตย์ที่อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลกว่า2700 เมตร เราก็จะไปชมปากปล่องโบรโมกัน อากาศเริ่มอุ่นขึ้น รถจีปวิ่งไปถึงจุดที่เป็นทรายไม่สามารถวิ่งต่อได้ก็ปล่อยให้นักท่องเที่ยวลงเดินออกกำลังขากัน หรือใครขี้เกียจเดินก็อาจจะเช่าม้า นั่งทั้งไป-กลับหรือจะนั่งเพียงขาไปหรือกลับก็ได้ ส่วนเราเลือกนั่งขาไป กะว่าประหยัดแรงไว้ก่อนดีกว่า ค่าเช่าม้าขาไป ราคาเริ่มจาก100 000รูเปีย แต่ถ้าเราไม่ตกลงและเดินไปเรื่อยๆ ราคาก็จะลดลงเรื่อยๆ สุดท้าย เราจ่ายเฉพาะขาไป65 000รูเปีย ซึ่งส่วนตัวคิดว่าติดสินใจถูก เพราะขืนเดินตลอดเส้นทางมีหวังเข่าอ่อนปีนขึ้นบันไดไม่ไหวแหงๆ วัดฮินดู ระหว่างทาง ก่อนถึงตีนบันได จากคุณ : จขกท (ruangt) เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 52 15:15:09

ความคิดเห็นที่ 12 บันไดขึ้นชมปากปล่องโบรโม ด่านวัดความอึดของนักเดินทาง จากคุณ : จขกท (ruangt) เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 52 15:17:06

ความคิดเห็นที่ 13 ปากปล่องโบรโม ที่ยังคงคุกรุ่น จากคุณ : จขกท (ruangt) เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 52 15:18:38

ความคิดเห็นที่ 14 กลับเข้าโรงแรม งีบสักพักเพื่อเดินทางต่อไปยัง คาวาอีเจียน kawah ijen วิวระหว่างทาง ขาลงจากที่พัก จากคุณ : จขกท (ruangt) เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 52 15:20:49

ความคิดเห็นที่ 15 พักกินข้าวระหว่างทาง เห็นมีทางลงใกล้ๆร้านอาหาร เดินไปดูเห็นเขากำลังแข่งเรือกัน เป็นเรือใบ มีทุ่นสองข้างเหมือนขาแมงมุม ซึ่งเรือแบบนี้จะเห็นทั่วไปในชวาและบาหลี จากคุณ : จขกท (ruangt) เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 52 15:23:46

ความคิดเห็นที่ 16 หลังจากการเดินทางร่วมหกชั่วโมง เราก็มาถึงที่พักที่จองไว้ โดยตลอดทางคนขับรถก็พยายามเกลี้ยกล่อมให้เราย้ายที่พักไปพักอีกที่คือคาร์ติมอร์ ซึ่งเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจกับcemara indah แต่หลังจากดูทั้งสองแห่งแล้ว เราก็ตกลงพักที่arabica homestay ซึ่งเราจองไว้แต่แรก ส่วนคนขับซึ่งตอนหลังยอมเปิดปากบอกว่าที่เชียร์คาร์ติมอเพราะจะได้ห้องพักฟรี แต่ในที่สุดคนขับรถของเราก็รับนักท่องเที่ยวที่ไม่ได้จองที่พักมาล่วงหน้า และห้องเต็ม ไปพักที่คาร์ติมอร์เรื่องจึงจบแบบแฮปปี้เอ็นดิ้ง แต่วีรกรรมคนรถเรายังไม่หมดแค่นี้ เมื่อต้องแยกพักคนละที่ เราจึงนัดหมายคนรถให้มารับตอนตีสามเพื่อจะขึ้นไปปากปล่อง คาวาอีเจียน แต่เจ้าคนรถตัวแสบกลับตื่นสาย มารับตอนตีห้า ทำเอาทีมเราหัวเสีย เพราะผิดแผนที่ตั้งใจไว้ว่าจะไปดูเปลวไปสีน้ำเงินตามที่ได้ข้อมูลมา จากโรงแรมมาถึงคาวาอีเจียนราวตีห้าครึ่ง ฝนตกปรอยๆ เราจึงรีบเดินจ้ำขึ้นเขากัน หวังว่าเผื่อโชคดี ฟ้าไม่แจ้งมาก อาจจะมีโอกาสได้เห็นเปลวไฟสีน้ำเงินที่ตั้งใจไว้ เดินไป หยุดหอบไป เป็นระยะๆ ราวๆ3 กิโลเมตร เราก็ขึ้นถึงยอดเขา ราวหกโมงครึ่ง ฝนยังปรอยอยู่ต้องหาที่หลบฝน ตามหลืบหิน ซึ่งอันตรายเหมือนกัน เพราะดินค่อนข้างลื่น และร่วน พักใหญ่ๆฝนหยุด ฟ้าเริ่มเปิด เราก็มองเห็นทะเลสาบสีเขียวในปล่องภูเขา และภูมิประเทศสวยแปลกตา สวยคุ้มค่าเหนื่อยครับ จากคุณ : จขกท (ruangt) เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 52 15:57:42

ความคิดเห็นที่ 17 คนงานเหมืองกำมะถัน ยังคงขมักเขม้นขุด และหาบกำมะถันขึ้นจากปากปล่องลงมาตีนภู ไม่ว่าฝนจะตก แดดจะออกก็ตาม อึดจริงๆ แก้ไขเมื่อ 04 ส.ค. 52 10:57:54 จากคุณ : จขกท (ruangt) เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 52 16:03:10

ความคิดเห็นที่ 18 ความโหดของเส้นทางการหาบ บวกกับน้ำหนักหาบหลายสิบกิโล ชีวิตต้องสู้ จากคุณ : จขกท (ruangt) เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 52 16:04:34

ความคิดเห็นที่ 19 กลับลงมาที่พักเพื่อเดินทางต่อไปท่าเรือเคตาปัง ในบันยูวางี จากคุณ : จขกท (ruangt) เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 52 16:19:09

ความคิดเห็นที่ 20 เสียดาย อ่ะ ไม่ได้ไปด้วยกัน แต่รวมๆ แล้ว นายก็ไปเที่ยวสถานที่ที่น่าสนใจและสวยๆที่สุด ของอินโดครบ โดยเฉพาะโบรโม่ แถมประหยัดกระเป๋าอีก หุหุ แต่เราจ่ายค่าขี่ม้าคนละ 40000 เท่านั้น ต่อรองอย่างเดียว ก็เลยได้ไปขาขึ้น (ครึ่งทางกว่าๆ)  + ขากลับ (ตอนแรก เปิดราคา 100000) แพงดีจริงๆ แต่เสียดายนายไม่เห็น เปลวไฟ สีเงิน อีกอย่าง ลองแวะเข้าไปดู ที่ Multiply ของเรานะ เราไม่ได้ถ่ายเองหรอก น้องต้อ เป็นคนถ่ายไว้ต้องขอบคุณน้องไว้ ณ ที่นี้ ไว้ทริปหน้าจัดมาอีกนะ แล้วก็ช่วยตัดสินใจเร็วๆ หน่อย ว่าจะไปช่วงไหน จากคุณ : หน่อย (cool_sanook) เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 52 20:31:44

ความคิดเห็นที่ 21 เมื่อวานเน็ทเดี้ยง วันนี้มาต่อกันเลยครับ ออกจาก arabica homestay เดินทางต่ออีกราวสองชั่วโมงก็ถึงท่าเรือเคตาปัง แต่แทนที่คนขับรถตัวแสบจะส่งเราที่ช่องขายตั๋ว กลับพาเราไปส่งให้เอเยนต์ และเชียร์ให้เราใช้บริการเอเยนต์นี้ ทางเอเยนต์ เสนอราคาค่ารถพร้อมเรือเฟอร์รี่ส่งที่โลวินา คนละ 90 usd ซึ่งแพงหูดับเลย สุดท้ายหลังการต่อรองพักใหญ่ สรุปราคากันที่ คนละ90 000รูเปีย (9usd) ซึ่งหลังจากข้ามฟากโดยเรือมาขึ้นรถ เราจึงตะหนักว่าเราโดนฟันอยู่ดี เพราะหลังจากนั่งเรือเฟอร์รี่ข้ามฟากมาแล้ว คนของทางเอเยนต์ก็พาเรามาขึ้นรถตู้เล็กเก่าๆซึ่งวิ่งประจำทาง และต้องรอผู้โดยสารเต็มรถอีกร่วมชั่วโมงจึงออกเดินทาง และที่น่าเจ็บใจคือเราเห็นชาวบ้านจ่ายค่ารถกันแค่คนละ 25 000รูเปียเท่านั้น นึกไม่ถึงว่าคนขับรถของโรงแรมที่เราเหมายาวมาจากโบรโม น่าจะไว้ใจได้กลับทำเราเสียแสบ ถ้าเราวิ่งไปชนเอเยนต์ที่เราไม่รู้จักเลยแล้วโดนหลอก อาจจะไม่เจ็บใจเท่านี้ ท่าเรือกิลิมานุก ฝั่งบาหลี ถ่ายบนเรือเฟอร์รี่ (นั่งเรือราวๆ 45 นาที) แก้ไขเมื่อ 19 ส.ค. 52 11:08:34 จากคุณ : จขกท (ruangt) เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 52 11:40:14

ความคิดเห็นที่ 22 หลังจากนั่งรอบนรถร่วมชั่วโมงและเดินทางอีกราวสองชั่วโมงถึงโลวินา(lovina) ก็เริ่มมืดแล้ว เราเข้าพักhomestay บนถนน anturan และตกลงซื้อแพคเกจดูปลาโลมา และดำน้ำตื้นคนละ10usd รุ่งเช้า06.00น. คนเรือก็มารับตามนัด อากาศเย็นสบาย แสงอาทิตย์เริ่มจับขอบฟ้า เป็นแสงหลากสี งามแปลกตา นั่งไปสักพักก็เริ่มเห็นเรือขาแมงมุมลำอื่นๆทยอยตามกันออกมา และเราเพิ่งนึกได้ว่า เรือลำอื่นผู้โดยสารสวมเสื้อชูชีพ แต่ทำไมของเราไม่มีให้หว่า ? แก้ไขเมื่อ 19 ส.ค. 52 11:12:37 จากคุณ : จขกท (ruangt) เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 52 11:48:41

ความคิดเห็นที่ 23 ตามปกติเราอาจคุ้นเคยกับการดูโลมาในสวนสัตว์หรืออควาเรียม แต่ครั้งนี้เป็นโลมาที่อยู่ตามธรรมชาติ เราไม่อาจคาดเดาได้ว่าโลมาจะโผล่ หรือว่ายไปในทิศทางไหน จึงต้องสอดส่ายสายตาลุ้นกัน สนุกไปอีกแบบ แก้ไขเมื่อ 03 ส.ค. 52 12:24:10 จากคุณ : จขกท (ruangt) เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 52 12:23:29

ความคิดเห็นที่ 24 พอแดดเริ่มแรง โลมาก็ขึ้นน้อยลง เรือจึงเริ่มทยอยเข้าฝั่ง คนขับเรือก็หาที่เหมาะๆสำหรับดำน้ำตื้นให้เรา ความลึกน้ำราวสองเมตร น้ำใสแจ๋วจนมองเป็นประการังในน้ำได้ จุดที่เราดำน้ำมีปลาดาว และปลาให้ดูหลายชนิดพอสมควร แม้ปะการังจะไม่สวยมาก แต่ก็เพลิดเพลินคุ้มค่า แก้ไขเมื่อ 03 ส.ค. 52 12:45:24 จากคุณ : จขกท (ruangt) เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 52 12:44:39

ความคิดเห็นที่ 25 ราวๆเก้าโมง กลับเข้าฝั่ง ทานมื้อเช้าแล้วรอรถที่เช่าไว้มารับ เมื่อรถมาเราก็วางแผนกับคนขับ โดยให้รายชื่อสถานที่ท่องเที่ยวที่สนใจตามที่หาข้อมูลมา แต่ให้คนรถจัดเส้นทางลำดับก่อนหลังให้ ค่าเช่ารถสองวัน วันละ 40 usd 10 ชั่วโมงต่อวัน รวมค่าน้ำมัน และค่าจอดรถเบ็ดเสร็จ คนรถพาแวะที่น้ำตกกิต กิต(git git) เป็นจุดแรก ระหว่างทางลงไปน้ำตกจะมีร้านขายของที่ระลึก กับพวกเครื่องเทศต่างๆ เช่น กระวาน กานพลู ฯลฯ จากคุณ : จขกท (ruangt) เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 52 13:10:21

ความคิดเห็นที่ 26 แล้วต่อไปที่วัดกลางน้ำ ulan danu วัดทีสวยงาม และมีชื่อเสียงจนได้รับการพิมพ์ภาพในธนบัตร และที่เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวอินโดฯและต่างชาติเกือบทุกคนต้องมาเยี่ยมชม จากคุณ : จขกท (ruangt) เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 52 13:14:21

ความคิดเห็นที่ 27 ชาวบาหลีมาทำบุญที่วัด จากคุณ : จขกท (ruangt) เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 52 13:33:04

ความคิดเห็นที่ 28 บ่ายไปทานสะเต๊ะแพะกับสะเต๊ะกระต่าย แล้วไปชมวัดสวนสวย ทามันอายุน(taman ayun) ซึ่งที่วัดนี้จะเจอนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นจำนวนมาก แต่ไม่ค่อยเห็นชาวยุโรป จากคุณ : จขกท (ruangt) เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 52 13:37:07

ความคิดเห็นที่ 29 เย็นเข้าพักที่โฮมสเตย์ในอูบุด พนักงานมาเสนอขายตั๋วโชว์เคชัก แดนซ์ แต่เราปฏิเสธ ขอเดินเล่นในอูบุดก่อน เดินเล่นไปเรื่อยๆเห็นมีโรงละครอยู่สองแห่ง แห่งแรกโรงเล็กกว่าเป็นเคชัก แดนซ์ ส่วนโรงใหญ่ที่ถนนป่าลิงเป้นการแสดงเรื่องรามเกียรติ โชว์เริ่ม19.00น ทั้งสองแห่ง ค่าตั๋วประมาณ70 000-80 000รูเปีย แต่เสียงส่วนใหญ่ในกลุ่มไม่อยากดูขอเดินเล่น หาอะไรอร่อยๆกินกันดีกว่า ตกลงตามนั้น งั้นไปร้าน dirty duck กัน พอดีผ่านร้านขายของตกแต่งบ้าน เห็นสวยดีกดไปหนึ่งแชะ เพิ่งสังเกตุว่ามีป้ายห้ามถ่าย แต่ไม่ทันแล้ว ขอโทษคร้าบ จากคุณ : จขกท (ruangt) เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 52 14:03:51

ความคิดเห็นที่ 30 เช้าวันที่สอง หลังจากเดินเที่ยวตลาดอูบุด ก็ออกเดินทางต่อ จุดแรกของวันนี้คือถ้ำช้าง goa gajah ค่าตั๋วคนละ6 000รูเปีย ในถ้ำจะมีศิวลึงค์ ตัวแทนพระนารายณ์ พระพรหม พระอิศวร ที่นี่เราเจอกรุปคนไทยด้วย จากคุณ : จขกท (ruangt) เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 52 14:09:57

ความคิดเห็นที่ 31 แล้วไปต่อที่วัดน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ tirta empul ซึ่งมีคนลงไปอาบหลายคนเหมือนกัน วัดนี้บังคับเข้าออกคนละทาง ตรงทางออกจะมีร้านค้านับร้อยร้าน บางร้านพูดไทยได้และรับเงินบาทด้วย ใครคิดจะช้อป ที่นี่น่าจะโอเค เพราะมีเพื่อนในกลุ่มซื้อไม้แกะสลักเป็นรูปการูด้า ที่ถ้ำช้างต่อราคาจากคู่ละ 800บาทเหลือแค่ 200 บาทก็ว่าถูกแล้ว แต่มาถึงที่นี่ แม่ค้ามารุมตัดราคากันเองสุดท้ายเหลือคู่ละ 50 บาท ถูกเหลือเชื่อ !! เลยต้องซื้ออีกสามคู่มาเฉลี่ยราคาคู่ที่ซื้อก่อนหน้า ฮา! จากคุณ : จขกท (ruangt) เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 52 14:20:58

ความคิดเห็นที่ 32 หลังจากช้อปกันเพลิน เราก็ไปที่คินตามณี ที่มีทะเลสาบบาตูร์และภูเขาบาตูร์เป็นฉากหลัง ทัวร์ส่วนใหญ่จะพาลูกทัวร์มาทานข้าวที่นี่ เพราะวิวสวย แต่เราเพิ่งผ่านคาวาอีเจียนมา ที่นี่เลยดูค่อนข้างธรรมดาสำหรับเรา ลงถ่ายรูปกันสักพัก แล้วไปทานข้าวหมูหันใกล้ๆอูบุด อ้อ ตอนจอดรถมีแม่ค้าเอาสละกับแพสชั่นฟรุตมาให้ชิม เลยชิมกันคนละลูก แต่พอไม่ซื้อแม่ค้าก็โวยวายไม่ยอมให้ขึ้นรถ ต้องจ่ายค่าชิมไปถึงจบเรื่อง คนขับรถเลยเตือนว่าคราวหลังถ้าไม่คิดจะซื้อ อย่าถาม อย่าหยิบ เป็นดีที่สุด แก้ไขเมื่อ 03 ส.ค. 52 14:33:25 จากคุณ : จขกท (ruangt) เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 52 14:31:53

ความคิดเห็นที่ 33 ทานข้าวเสร็จ เห็นมีโรงงานแกะสลักไม้อยู่ใกล้ๆกัน เลยเข้าไปชมกัน จากคุณ : จขกท (ruangt) เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 52 14:36:58

ความคิดเห็นที่ 34 อิ่มแล้วเดี๋ยวไปทานาล็อตกัน เดิมทีว่าจะแวะไปดูสักพัก แล้วกลับไปทานมื้อเย็นที่จิมบารัน แต่พอไปถึงก็เดินถ่ายรูปกันเพลิน จนพระอาทิตย์ตก จากคุณ : จขกท (ruangt) เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 52 14:40:00

ความคิดเห็นที่ 35 กลับจากทานาล็อต (tanah lot) ก็ไปทานซีฟูดกันที่จิมบารัน แล้วเข้าเช็คอินที่พักที่คูตา เช้าเดินเล่นย่านคูตา และดูเขาเล่นเซิร์ฟบอร์ดกัน จากคุณ : จขกท (ruangt) เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 52 14:43:50

ความคิดเห็นที่ 36 ตอนเดินกลับกะว่าจะหาซื้อของฝากกลับบ้าน พอมาดูเงินที่เพิ่งแลก แย่แล้วเขาจ่ายมาผิดนี่หน่า แลก 60 usd( 1 usd :9700 rp.) มันน่าจะได้ 582 000 rp. แต่นับได้แค่ 508 200 rp. เลยต้องรีบกลับไปที่ร้านแลกเงิน ยังดีที่เขายอมคืนให้เพราะเรามีสลิปยืนยัน ดูนาฬิกา อ้าว เฮ้ย เกือบ11โมงแล้ว เครื่องออกเที่ยงตรง ต้องรีบวิ่งกันหูตั้งโยนของใส่กระเป๋าแล้วเรียกแท็กซี่บึ่งมาสนามบิน โชคดีใช้เวลาแค่ 15นาที ถ้าพักไกลกว่านี้สงสัยตกเครื่องแน่ๆ แต่ความวุ่นวายยังไม่จบ พอถึงสนามบิน ก่อนเข้าประตูเอ็กซเรย์ เพื่อนคนหนึ่งทำพริ้นท์เอาท์ตั๋วหาย เลยต้องรีบไปติดต่อสำนักงานแอร์เอเชียเพื่อพิมพ์ตั๋วใหม่ ถึงจะมีโค้ดการจองเจ้าหน้าที่ประตูก็ไม่ยอมถ้าไม่มีตั๋วมาแสดง เลยต้องลุ้นกันหน่อย พอผ่านเอ็กซเรย์แรกเสร็จ ขึ้นไปชั้นบนก่อนขึ้นเครื่อง ต้องเอ็กซเรย์อีกครั้ง อ้าว อีกคนลืมโทรศัพท์ที่ด่านแรก ต้องรีบวิ่งลงมาเอา โชคดีที่เจ้าหน้าที่เก็บไว้ให้ สุดท้ายวิ่งเข้าเครื่องเป็นกลุ่มสุดท้าย ฉิวเฉียดก่อนประตูปิด จบทริปหลากรสชาติ 7คืน 8วัน ด้วยอาการเหนื่อยหอบ ขอขอบคุณ ท่านหญิงแพรวพรรณราย และคุณหนุ่มเมืองกรุง ที่จุดประกายให้ได้รู้จักและไปชมดินแดนที่สวยงาม ในประเทศที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยคิดจะไป ขอบคุณ  คุณAkR  คุณsnowymamy  คุณ@Fanciful@ คุณnathmph ที่เอื้อเฟื้อข้อมูลเรื่องที่พักและการเดินทาง ที่ทำให้การเดินทางราบรื่น สะดวกสบาย แก้ไขเมื่อ 03 ส.ค. 52 15:44:21 จากคุณ : จขกท (ruangt) เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 52 15:34:04

ความคิดเห็นที่ 37 มาชมทริปหลากรสค่ะ   เที่ยวได้ทั่วเลยนะคะ อยากไปโบรโม่เหมือนกัน  แต่ก้อยังไปไม่ถึงซะที ขอบคุณสำหรับภาพถ่ายที่นำมาฝากกันนะคะ ^^ จากคุณ : snowymamy เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 52 22:35:22

ความคิดเห็นที่ 38 โชคดีจังครับ ได้เที่ยวบาหลีถึง 2 วัน กลุ่มผมได้เที่ยวแค่วันเดียวเองครับ ต้องหาทางไปเก็บตกใหม่ ที่คาวาอิเจ้น เพื่อนร่วมทางผมบอกให้ tip ไปก่อนเลยแล้วบอกว่าให้มารอรับเราตอน ตี1 ครึ่งเพื่อขึ้นไปดุเปลวไฟสีน้ำเงิน เงินถึงก็มาตรงเวลาครับ ส่วนตอนจะข้ามไปบาหลี เขาไม่ฟันพวกผมขนาดนั้น แค่บอกว่าให้จ่ายค่ารถจากท่าเรือไปอูบุดแค่คนละ 85000 IDR และมาบอกตอนท้ายว่าเป็น special price รวมค่าเรือเฟอร์รี่ด้วยแล้ว (สงสัยเพราะ tip อีกล่ะมั้งครับ) แต่พวกผมมารู้ทีหลังจากคนขับรถว่าค่ารถแค่คนละ 75000 IDR เอง ก็เป็นประสบการณ์อีกแบบครับ จากคุณ : AkR เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 52 11:52:19

ความคิดเห็นที่ 39 ว้าวววว สวยมากๆ เลย อยากไปมั้งจัง จากคุณ : PurpleWizard เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 52 15:42:08

ความคิดเห็นที่ 40 เที่ยวได้คุ้มจริงๆค่ะ พี่จะไปบาหลี ปลายเดือนมกรา 53 คงเที่ยวแค่บาหลีกับชายทะเลใกล้ๆ เห็นเค้าว่าเป็นหน้าฝน ...T T มีอะไรแนะนำได้นะคะ จากคุณ : cultureclub เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 52 22:31:10

ความคิดเห็นที่ 41 ชอบม๊ากกกกกกกกกกกก เตรียมตัวตามรอย จากคุณ : ดวงดาว หัวใจ ดอกไม้ ชายทะเล เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 52 20:58:27

ความคิดเห็นที่ 42 พึ่งได้เข้ามาอ่านกระทู้นะครับ ยินดีด้วยที่ทริปนี้มีความสุขอย่างที่ต้องการ แต่แอบอิจฉาเล็กๆ บาหลีผมยังเที่ยวไม่ได้ขนาดนี่้เลย ฮื่อออ แต่แอบทับถม ผมเหมารถจากท่าเรือเข้าUbud แค่350 000 เอง อิอิ หาร6 แล้วคนละไม่กี่ตังเอง จากคุณ : @Fanciful@ เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 52 01:59:29

ความคิดเห็นที่ 43 ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาเยี่ยม สรุปว่าทุกครั้งที่มีการต่อรอง โดยเฉพาะค่ารถ ต้องทำตัวเขี้ยวๆเข้าไว้ครับ เดี๋ยวจะเสียท่าเหมือนผม ฮือๆ จากคุณ : จขกท (ruangt) เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 52 16:44:43

ความคิดเห็นที่ 44 เล่าเรื่องได้ครบจังเลยครับ อิจฉาด้วยที่เจอปลาโลมา ผมนะ ส่องแล้วส่องอีก ส่องยังไงก็ไม่เจอซะที ปล. อย่างน้อยเราก็นอนที่เดียวกันครับพี่ ฮ่า ๆ ยินดีที่ได้อ่ากระทู้คร้าบบบบ เห็นแล้วก็อยากไปอีกจัง จากคุณ : kanalog เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 16:51:40