ความคิดเห็นที่ 1 จาก คคห. 327 ตอนที่แล้ว เรื่องที่อ่านแล้ว ขนหัวตั้ง Credit ให้เจ้าของเรื่อง น้าแมวเหมียวพุงป่องด้วยครับ //////////////////////////////////////////////////////////////////////////////// ความคิดเห็นที่ 327     ขอเบรคซีนไว้นิดนุง ... ด้วยการเอาเพื่อนมาเผาทิ้ง เรื่องยาวหน่อย เหตุการณ์ก็ .. เป็นสิบปีแล้วมั้ง ผมยังอยู่ในวัยฉะกัน .. เพื่อนก็เหมือนกัน เพียงแต่ผมมีสมองเยอะ ... แต่เพื่อนมันมีเงินเยอะ(กว่าสมองผมมาก ... อิจฉาโว้ย!!!) เราไปพักกันที่โรงแรมกลางเมือง ... หรูหราโอ่อ่าสุดของจังหวัดหละน่า แต่ระดับ 3 ดาว เมืองเพชรบูรณ์ครับ ผมมีมันสมองมากกว่า ... จึงเป็นผู้ัขับรถ .. สมัยนั้นขับกันราวๆ 6-7 ชม. กว่าจะถึง เพราะุถนนแย่มาก ตอนเย็น เที่ยวกันในเมือง ตอนกลางคืน นั่งดริ้งก์อะดิ พอดึกๆ ... ผมมีมันสมอง มีสติ มีปัญญา และรู้ตัวว่า พรุ่งนี้ ก็ต้องขับรถอีก .. เลยขึ้นนอน (รถมัน อย่างดี ... ไม่ใช่รถเก่าๆของผม) เพื่อนมันไม่มีสมอง แต่ดันเสือกมีเงิน เลยพาน้องๆที่คอยรินเหล้าให้ ขึ้นไปด้วย เพื่อให้ช่วยรินน้ำให้กินก่อนนอน .. ตามประสาคนมีเงิน นอนห้องติดกัน[/b] (คิดอะไรอยู่! มันพาสาวขึ้นมา มีหรือจะนอนรวม ... มันขอเปิดอีกห้อง ตามประสาคนมีกะตังค์) ผมก็จนใจ .. และทำใจ(เสือกฉลาด แต่ไม่รวย) .. รู้ตัวล่วงหน้า ว่าคืนนี้ กรูต้องนอนฟังการบริหารร่างกาย เป็นจังหวะแหง๋ๆ ก็พยายามนอนให้หลับ และเอาหมอนข้างปิดหู กำลังเกือบหลับ ก็ได้ยินเสียงลอดมา เบาๆ พอให้ได้ยิน รวมทั้งเสียงเตียงเลื่อนไปเลื่อนมา แต่แผ่วเบา ... พอให้ฟุ้งซ่าน จนต้องลุกขึ้นนั่ง ไหว้พระสวดมนต์แทบทุกบท ให้ใจสงบ .. ไม่งั้นนอนไม่หลับ แมร่ม .. เล่นกีฬาตอนเที่ยงคืน ทำให้กรูต้องสวดมนต์เกือบครึ่งชั่วโมง .... ยัง ยัีง ยัง ... นั่นแค่โหมโรง .. ไม่เข้าไคลแมกซ์   พอราวๆตีสาม .. เอาอีกรอบ คราวนี้ เสียงดังกว่าเก่า รวมทั้งเสียงเตียง เสียงโยกเตียง ฯลฯ นอกจากเสียงดังกว่าเก่า ยังมีกรี๊ด หวีดร้องเป็นครั้งคราว จาเล่นกันปายถึงไหนฟร่ะ!!! พรุ่งนี้ กรูต้องขับรถนะเฟร้ย!!! แมร่ม เล่นกันแรง ขนาดอีสาวร้องไห้กระซิกๆ ขอความเมตตา ... เดี๊ยะ! พรุ่งนี้ให้มรึงขับซะเลย ... เฮ้อ .. แล้วตรูจะนอนหลับไหมวะเนี่ย คุณเคยลุกมาสวดมนต์ตอนตีสามมั่งไหมหละ   ------------------------ ไคลแมกซ์เรื่อง .. คือตอนเช้า ผมตื่นมา เกือบแปดโมง (กว่าจะได้นอน! เชี่ย!!! ตีห้า แมร่มก็ยังออกกำลังกาย แถมเล่นบทนายทาส จนอีสาวร้องไห้โหยหวนอีกรอบ ) ล้างหน้าล้างตา  แล้วว่าจะไปหาอะไรกินในเมือง เจอเพื่อนขับรถกลับมา ขอบตา ดำคล้ำเชียว (สมน้ำหน้ามัน) แรงดีจริงนะมรึง .. เมื่อคืนทั้งคืน ยังมีแรงขัุบรถกลับมาอีก ติดใจสาว จนต้องถึงกะขับรถไปส่งบ้านเชียวหรือว่ะ มรึงจะบ้าเหรอ .. กรูตามอีสาวไปนอนบ้านมัน เมื่อคืน ตอนกรูกำลังเข้าได้เข้าเข็ม เหลือบไปมองกระจก .. เห็นเงาชัดเจนของใครก็ไม่รู้ ยืนจ้องกรู ทั้งๆที่ในห้อง มีแค่กรู กะอีสาวที่กรูกำลังทับอยู่ กรูเปิดไฟสว่างจ้า .. ก็ไม่เห็นมีใคร นึกว่าตาฝาด อีสาวนึกว่ากรูบ้า .. ชอบเล่นอะไร ไฟสว่างๆ เลยลุกขึ้นมาปิดไฟ พอไฟดับ อีสาวแมร่ม ... ตัวสว่างโร่ จากแสงที่ส่องจาก "คนข้่างหลัง" พอมันเห็นกรูทำตาโตเท่าไข่ห่าน มันก็เหลียวหลังไปมอง .. กระจกที่อยู่ปลายเตียง ก็โชว์ "คนผมยาวๆ" ที่กำลังยืนมองมัน กะกรูอยู่ กรูก็เห็นเฟร้ย .. กระโดดคว้ากางเกงกะเสื้อยืด ใส่พรืดเดียว อีสาวมันยืนตัวแข็ง หน้าซีดเป็นไข่ต้ม กรูต้องลากมันออกปะตู พร้อมกระโปรงกะเสื้อยืด และพามันไปที่รถ บอกว่า กรูจะไปนอนบ้านมัน มันก็พากรูไปแต่โดยดี ... นอนกอดกันแน่นทั้งคืน กว่าจะหลับลงตอนไก่ขัน .. ถึงได้ขับรถมา่รับมรึง -------------------- คำถามเบรคซีนคือ เมื่อคืน (วันนั้น) .. เสียงอะไร  ของใคร  ที่ผมได้ยิน   ปล. ไม่ได้เที่ยวต่อ หมดอารมณ์ ... ตีรถกลับกรุงเทพ .... จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง   แก้ไขเมื่อ 08 ส.ค. 52 10:48:58 จากคุณ : XOOMER เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 52 10:48:05

ความคิดเห็นที่ 2   รีบตามมาอ่าน ... ชะอึ๋ยๆ ประสบการณ์ตรงไม่ใช่ข้างห้องแต่เป็นข้างเตียง เมื่อสองวันก่อน ขณะที่เรานอนหลับ (ก่อนนอนสวดมนต์ด้วยนะ) เราก็ตื่นกลางดึก น่าจะประมาณตีสาม (เพิ่งนอนไม่นาน) รู้สึกว่าขยับตัวไม่ได้ มันหนักๆ เหมือนมีอะไรมาทับ ก็กลอกตามองรอบๆ ห้อง มันก็แสงสลัวๆ มาจากข้างนอก แล้วก็พยายามลุกขึ้นให้ได้ เราก็เอ๊ะ ... เหมือนมีอะไรบังสายตา พยายามเพ่งมองใหม่ (ยังขยับตัวไม่ได้) คราวนี้เห็นละ ผมยาวๆ มาทั้งตัวแบบมองทะลุได้ (นึกถึงหนังแคสเปอร์) ผมยาวปลิวๆ แต่ในห้องไม่ได้เปิดพัดลม นอนห้องแอร์ เหอๆๆๆ มานั่งข้างเตียงอยู่เป็นนาน ... ลุกได้สวดชินบัญชรซ้า นอนไม่ได้มาสองคืนละ .... Y_Y จากคุณ : เจเลเป้ เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 52 10:54:35

ความคิดเห็นที่ 3 เข้ามาแปะหน้าไว้ก่อนค่ะลุงซูม พึ่งเจอที่เวียงจันทน์ อาทิตย์ที่แล้วเองค่ะ  เดี๋ยวเย็นๆ  เข้ามาเล่านะ  ^__^ จากคุณ : นั่งอมยิ้มริมระเบียง เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 52 10:55:38

ความคิดเห็นที่ 4 กระทู้นี้จะพา ปุ่ม F5 สึกกันได้อีกรอบ ฮ่า ฮ่า อย่าลืมโหวตนะจ๊ะ จะได้มีเรื่องกึ๊กกึ๋ยมาเล่าอีกเยอะๆ จากคุณ : XOOMER เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 52 10:57:38

ความคิดเห็นที่ 5 เรื่องแรกที่เจอระหว่างเที่ยวนะครับ ประมาณ 7 ปีที่แล้วที่ภูกระดึง ผมคิดว่าปกติคนส่วนมากจะเดินตามเส้นทางที่ต้องเข้าป่า ผ่านพวกน้ำตกแล้วก็กลับทางด้านที่เลียบไปตามหน้าผาอะไรแบบนี้ แต่เพื่อนผมมันชวนให้เดินในอีกแบบ แล้ววันที่ไปไม่แน่ใจว่าเป็นวันสำคัญทางศาสนาอะไรซักอย่างจำไม่ได้ ระหว่างทางที่จะกลับ ก็ไปเจอคล้ายๆ เจดีย์(อะไรประมาณนั้น)เล็กๆๆ แล้วก็มีแม่ชี 3 คน(เรียกถูกป่ะ) แล้วก็คนนุ่งขาวอีก 2-3 คน คล้ายๆ เดินเวียนเทียน รอบเจดีย์นั้นอยู่ เพื่อนผมคนนึงก็เลยชวนกันไปเดินร่วมกันกับเค้า เพื่อนๆคนอื่นก็เข้าไปเวียนเทียนกันหมด(ด้วยความที่ไปกันเยอะ 11 คน ก็เลยนึกสนุกกันมั้ง) ยกเว้นผมคนเดียวเพราะผมรู้สึกแปลกๆที่มีแม่ชีมาเดินเหมือนเวียนเทียนแถวๆนี้ พอเพื่อนมันเริ่มเข้าไปต่อแถวกันผมก็เห็นเลยว่าแม่ชี 3 คนนั้นหายไปแล้ว --" เหลือแต่คนนุ่งขาว เพื่อนผมมันไม่เห็นกันเพราะไปต่อแถวกันอยู่ แต่ก็ใจดีสู้เสือคิดว่าแม่ชีคงเดินออกไปด้านหลัง(ทั้งๆ ที่มีโซ่กั้นเนี่ยนะ เหอๆๆ) หลังจากยืนตัวสั่นๆ อยู่คนเดียว เพื่อนมันก็เข้ามาถามว่าเป็นไรวะ ผมก็บอกว่าพวกมรึงเห็น แม่ชี 3 คนมั้ยเค้าไปไหนแล้ว.. เพื่อนก็ทำหน้าเหวอกัน แล้วก็รีบจับไม้จับมือกันกึ่งเดิน กึ่งวิ่งกลับไปที่พักกัน... ...ทุกวันนี้ยังสงสัยอยู่แม่ชีหายไปไหน  แล้วคนนุ่งขาวห่มขาวเป็นคนรึป่าว อีกอย่างครับ บนภูกระดึงมีวัดมั้ยครับ ปล. คุณลาบฯ ห้องสยาม จะเข้ามามั้ยเนี่ย ..ฟิ้ว.... แก้ไขเมื่อ 08 ส.ค. 52 11:20:10 แก้ไขเมื่อ 08 ส.ค. 52 11:18:45 แก้ไขเมื่อ 08 ส.ค. 52 11:18:00 จากคุณ : สบายๆ สไตล์เอนจิเนียร์ (gazeclub) เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 52 11:15:31

ความคิดเห็นที่ 6 เรื่องเรทกระทู้ก่อนไม่มีปราสบการณ์ (อยากสัมผัสเหมือนกัน ^ ^ ) เรื่องนี้โอเชพี่น้อง เทศกาลทุ่งกระเจียวค่ะ รีสอร์ทริมเขาสวยมากกกก อากาศดี จำได้ปีนั้นมีบอลโลกด้วย ในห้องนอนกัน หญิง 3 ชาย(ไม่ตีม๋า) 1 กลางคืนก็เข้านอนก่อน 2 คน (เรากะเพื่อนหญิงอีกคน) ชาย 1 กะหญิง 1 ดูถ่ายทอดบอล พอกลับมาหญิงก็มานอนเรียงกัน (เป็น 3คน) ส่วนชายนอนปากประตูเลยค่ะ กันแมวมั้ง ^ ^ ตอนรุ่งสางก็รู้สึกเหมือนฝันว่ามีผู้หญิงกะเด็ก มานั่งรอที่ปลายที่นอน (ปลายเท้า) ในฝันก็รู้สึกแปลกๆ ว่าต้องไม่ใช่พวกเราแหงมๆ ก็ตั้งนะโมก่อนแล้วก็หลับต่อ(รู้สึกสลึมสลือนะ) พักนึงก็รู้สึกตื่นแต่ยังไม่ลืมตา ก็เหมือนมีคนเดินผ่านช่วงปลายเท้า เดินไปทางห้องน้ำ ก็นึกว่า เออ...คงมีคนลุกมาเข้าห้องน้ำ ก็นอนต่ออีกนิด คราวนี้พอเพื่อนข้างๆ ตื่นลุกขึ้น ประมาณว่าพลิกตัวให้รู้ว่า "กรูตื่นแล้วนะ" เราก็ลืมตาแล้วก็ปลุกมาถามกันว่า "ครายยยย เข้าห้องน้ำตะกี้" "เปล่าว่ะ"  ทุกคนเปล่าหมด รวมทั้งชาย(ไม้ตีม๋าด้วย) และเพื่อนที่กระดิกตัวให้รู้ว่าตื่นก็บอกว่า "ฉานนก็รู้สึกว่ามีคนเดินผ่านปลายเท้าไปอ่ะ" ก็เลยสรุปว่า " เออ....เจอของแถมอ่ะ" แต่ด้วยความวัยวุฒิเยอะกันทุกคน ม่ายมีใครกลัวเลย ก็กลับบ้านมาแล้วค่อยใส่บาตรส่งบุญไปให้ จากคุณ : จันทร์กลางหาว เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 52 11:19:34

ความคิดเห็นที่ 7 ตามมาเสียวได้อีกกระทู้ คิกๆๆๆ     แอบอ่านห้องนี้มานานมากมาย จากคุณ : น่ารัก เซ๊กซี่ ขี้เล่น แสนซน เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 52 11:21:27

ความคิดเห็นที่ 8   ถ้าไม่ใช่เรื่องที่อยู่ในทริปท่องเที่ยวได้ป่าวครับ ลุงซูม มันเป็นเรื่องเมื่อซัก 15 ปีที่แล้ว ขณะที่ผมยังเป็นนักเรียน ม.ปลาย ก็เป็นธรรมดาที่ต้องไปเรียนพิเศษ โดยคนสอนก็ไม่ใช่ใครอื่น ก็ครูในโรงเรียนนั่นแหละ เค้าซื้อบ้านใหม่ แล้วเปิดเป็นที่ติวแบบเล็ก ๆ บรรยากาศการเรียน ก็เป็นโต๊ะญี่ปุ่น 1 ตัว / เด็ก 2 คน เรียนกันประมาณ 7-8 คน ในห้อง (โต๊ะญี่ปุ่น ตั้งอยู่ 6-7 ตัว) ทำให้โต๊ะว่าง ระหว่างที่เรียน ๆ อยู่นั้น เพื่อนผมคนนึง ก็มีอาการเหมือนสำลักน้ำ แล้วก็พูดไม่รู้เรื่อง แล้ววิ่งออกไปกรี๊ดนอกห้อง พวกผมก็ตามกันไป "เฮ้ย เป็นอะไร" "กรูเห็นเด็ก ใส่ชุดดำ นั่งอยู่ที่โต๊ะหลังมรึง" (หมายถึงผม) "ตลกแล้วมรึง" "เฮ้ย กรูเห็นจริง ๆ มันกำลังก้มหน้าก้มตา จดโจทย์อยู่เลย" ไปเล่าให้ใครฟังก็ไม่เชื่อ หนึ่งสัปดาห์ผ่านไป นักเรียนโรงเรียนอื่น ที่มาเรียนที่นี่ ในกรุ๊ปอื่น ก็บอกว่า เจอเด็กชุดดำ นั่งเรียนด้วย คราวนี้ หันหน้าขึ้นมามองเลย เป็นแขก ๆ ใส่เสื้อดำ กางเกงดำ นั่งตั้งใจเรียนแบบไม่สนใจใคร ในที่สุด อาจารย์เจ้าของสถาบัน ก็เลยต้องนิมนต์พระมาปัดรังควาญ แต่ ก็ยังมีนักเรียนเจออีก อยู่เรื่อย ๆ โดยที่ไม่แสดงอาการหลอกใคร มานั่งเรียนด้วย พอสืบไปสืบมา ว่า อาคารที่ตั้งเนี่ยะ สร้างล้ำเข้าไปในเขต กุโบร์ (สุสานมุสลิม) ก็เลยต้องเอา โต๊ะอิหม่ามจากมัสยิดแถวนั้นมาทำพิธี แล้วก็ขอโทษขอโพยกันไป จากนั้นก็ไม่มีใครเจอเด็กชุดดำคนนั้นอีกเลยครับ จากคุณ : ไอน์สไตน์ส่ายหัว เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 52 11:22:03

ความคิดเห็นที่ 9 โหวตไว้ก่อน   .... มารอฟังเรื่องขนหัวลุกค่า เวลาเดินทางไม่เคยเจอ  และก็ไม่อยากเจอด้วย  ...สาธุ เวลาไปต่างที่ต่างทาง  จะไหว้ขออนุญาตเจ้าที่เจ้าทางทุกครั้งค่า เคยเจอสมัยเด็กๆ  เรียนหนังสือต่างแดน  แต่เริ่มเลือนๆแล้ว  ถ้านึกออกจะเอามาแจมค่า แก้ไขเมื่อ 08 ส.ค. 52 11:23:28 จากคุณ : หมูอ้วนจอมพลัง เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 52 11:22:56

ความคิดเห็นที่ 10 ไม่มีประสบการณ์มาแชร์ค่ะ เพราะคาดว่า...หลับสนิทมากกกกกก เค้าคงขี้เกียจปลุก หรืออาจจะพยายามปลุกมาหลอกหลอนแล้ว มันไม่ตื่นสักที.... คือแบบว่า แอบขำตัวเอง ปกติตั้งหน้า blue planet เป็นหน้าแรก... วันนี้เข้ามาเห็น (กระทู้เรท) เลยตกใจ เอ๊ะนี่เราไปตั้งใหม่เป็นห้องสวนลุมเมื่อไหร่เนี่ย.... รีบกลับไปเช็ค... อ่ออออ อยู่ใน blue planet แหละ อิอิอิ จากคุณ : aimina เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 52 11:23:37

ความคิดเห็นที่ 11 ปกติก่อนนอนจะสวนมนต์ไหว้พระทุกครั้ง เลยไม่เคยเจออะไรแบบนี้ หรือเจอแต่ไม่รู้มั๊งคะ แต่ทางที่ดีขออย่าให้เจอะ อย่าให้เจออะไรแบบนี้ดีกว่าค่ะ กลัวค่ะ !!! จากคุณ : GeD^_^GeD เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 52 11:38:30

ความคิดเห็นที่ 12 เรื่องที่สองประมาณ 6 ปีที่แล้วคร้าบ ที่แพเมืองกาญฯ ไปเที่ยวกับทางโรงเรียนของคุณแม่ หุหุ  ซึ่งตอนเย็นก็มากันที่แพ ซึ่งจะมีแพ 3 ส่วนก็คือ แพที่เปิดพวกเพลงเอาไว้แดนซ์กัน, แพนอน แล้วก็แพที่ใช้ทำครัว หลังจากแดนซ์แล้วก็สนุกกันเต็มที่ ผมก็เลยขอตัวมาเข้านอน ซึ่งแพมันจะเป็นลักษณะที่มีที่กั้นไม้ไม่สูงมากนักกั้นไว้ แต่จะมีบางช่วงที่เป็นช่องว่างๆ(ผมเรียกว่าประตูแล้วกัน) สำหรับเป็นทางออกไปทางเดินด้านนอกซึ่งคุณแม่ที่เคารพ ของผมก็เอากระเป๋าเดินทาง มากั้นช่องนั้นไว้พร้อมกับบังคับให้ผมนอนตรงนี้(เพราะเหตุใดมิทราบ) พอผมล้มตัวนอนลงไปตามันก็มองไปข้างบนแล้วก็ไปเห็น พวงมาลัยดอกไม้ ห้อยไว้ข้างบนประตู แต่ก็ไม่ได้คิดไรมากเพราะฤทธิ์จาก Spy ที่แอบคุณแม่กิน กิกิ หลังจากนั้นไม่รู้ผ่านไปนานเท่าไหร่ ก็รู้สึกเหมือนครึ่งหลับ ครึ่งตื่น ผมก็เห็น เงาดำๆ คู่หนึ่ง ค่อยๆๆโผล่ขึ้นมาจากพื้นแพ แล้วก็ตรงมาที่ผม แล้วก็พูดอะไรซักอย่าง(แต่ความรู้สึกเหมือนเราต้องเชื่อเค้า) ผมก็ลุกขึ้นแล้วก็เดินตามเค้าไป หลังจากนั้นก็เหมือนกับหลับต่อ ...แล้วผมก็ต้องสะดุ้งตื่น เพราะคุณอา(เพื่อนแม่)เค้ามาปลุก "เฮ้ย มานอนที่ของอาได้ไง"  ผมก็ตื่นขึ้นมา งงๆๆ คุณอาเค้าบอกว่าประมาณตี 3 กว่าๆ เค้าออกไปหาอะไรกินที่แพด้านหลัง ประมาณครึ่ง ชม เค้าก็เดินกลับมาเห็นผมมานอนแทนที่เค้าก็เลยปลุกผม (จากที่ๆ ผมนอนมาที่นอนของคุณอาประมาณคนนอนได้ สิบกว่าคน) ระหว่างที่ผมเดิน งงๆ กลับไปที่นอน น้องที่นอนข้างๆ ก็ตื่นขึ้นมาโวยวายว่าผีหลอกๆ พอได้ยินคำว่าผี ไอ้เรื่องที่เจอเงามืดๆ มันก็เหมือนกับเข้า มาในหัวเรา แล้วก็ทำให้เราจำเรื่องได้ แค่นั้นแหล่ะ ตัวสั่น ปากสั่น จนแม่จ้องเข้ามา ถามว่าเป็นอะไร เราก็พูดได้แค่ว่าผีๆ คุณแม่ก็เลยกอดแล้วก็ปลอบให้เราใจเย็นๆ จนกระทั่งหายตัวสั่นประมาณ ครึ่ง ชม แล้วตอนเช้ามืดจะต้องไปนั่งรถไฟกันต่อผมก็เลยเดินขึ้นรถทัวร์ที่จอดรออยู่ แล้วด้วยความสนิทสนมก็เลยเอาเรื่องที่เจอไปเล่าให้เด็กรถฟัง  เค้าก็บอกว่า .."เฮ้ยน้องไปนอนได้ไง ตรงนั้นเค้าแขวนพวงมาลัยไว้ เพราะมันเป็นทางเดินของเจ้าที่" (ไม่รู้ว่าจิงรึป่าว หรือมันหลอกเรา หึหึ) จากคุณ : สบายๆ สไตล์เอนจิเนียร์ (gazeclub) เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 52 11:45:20

ความคิดเห็นที่ 13 เกิดมาไม่มีจิตสัมผัสด้านนี้เหมือนกันครับ ไม่เคยเจอเลย รึว่าเรามันประเภทหลับแล้วหลับเลยก้ไม่รู้นะครับ ขนาดโดนตะขาบกัดที่พุง ยังไม่รู้สึกอะไรเลย ตื่นมาถึงได้รู้ว่า โดนตะขาบกัด เพราะมันคันๆ แล้วมีรอยเขี้ยวอยู่ บวมนิดๆ แต่ไม่ปวดครับ จากคุณ : ข้าวเสาไห้ เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 52 11:56:19

ความคิดเห็นที่ 14 ลุงซูม  ... สงสัย(หน้า)ป้าจะน่ากลัวกว่าค่ะ  ...  เรื่องชวนขนแขน  ขนหัว แสตนอัพเลยยังไม่เคยเจอค่ะ   ... แถมก่อนนอน  สวดชินะบัญชร(ถ้าไม่มาว ไม่ง่วงมาก)  บอกกล่าวให้ทั้งเบื้องบน เบื้องล่างให้ท่านรับรู้  ... เอ   ...  หรือเป็นเพราะป้าบอกเพิ่มเติมไปว่า  ถ้าจะมาให้เห็น  ก็ขอมาแบบสวยงาม   ธรรมดาปกติพอ    แล้วต้องบอก 3 ตัวท้ายบน  2 ตัวล่าง  ด้วย  ไม่งั้นมีเคือง   .... คงขอมากไป    ...  เค้าเลยไปห้องอื่นดีกว่า   .. จากคุณ : ป้าเกษ (inhouse) เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 52 12:03:02

ความคิดเห็นที่ 15 ไม่เคย จากคุณ : Dr.boyze เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 52 12:21:15

ความคิดเห็นที่ 16 จำไม่ได้แล้วว่า มีเรื่องอะไรน่าเล่าให้ใครฟังอีกไหม เพราะเล่าไปหมดแล้วละกระมัง แต่ตอนนี้ แค่ออกไปยืนที่ระเบียงบ้านซับเศรษฐีตอนเลยเที่ยงคืน ดูฟ้า ดูพระจันทร์ ดูดาว แล้วจู่จู่ก็หนาวยะเยือกขึ้นมา เหมือนสัมผัสอะไรบางอย่าง มองออกไปที่ถนน หวังจะได้เห็นใครเดินอยู่สักรายสองราย ก็ไม่เห็น ทั้งที่่สมองบอกว่า"มีอะไรอยู่ที่นั่น" ก็เลยไม่รู้จะหลอกอะไรตัวเอง จากคุณ : xebec เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 52 12:28:13

ความคิดเห็นที่ 17 เข้ามาฟังด้วยคนครับ อิอิ ชอบๆๆๆๆ!!! จากคุณ : Prince_Demon เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 52 12:35:16

ความคิดเห็นที่ 18 ก็ไม่เชิงขนหัวลุกนะ มีอยู่ว่าตอนนั้นไปบวชชีพราหมณ์ แล้วตอนที่บวชอยู่ ระหว่างไหว้พระ เค้าคุยกันว่าพระน่ะศักดิ์สิทธิ์นะ อยากได้อะไรให้ ลองขอนึกในใจเอา เราก็ไม่ค่อยเชื่อเรื่องแบบนี้หรอก แต่ก็นึกในใจเล่นๆว่า ขอให้ถูกหวย จากนั้นก็ลืมๆ ไม่ได้นึกอะไร แต่ออกตัวไว้ก่อนว่าปกติเราไม่ได้ซื้อหวยนะ ดวงที่จะได้ลาภลอยทำนองนี้ก็ไม่มี มีอยู่วันนึง ระหว่างนั่งสมาธิที่วัดเค้าให้นั่ง เราก้อเห็นเลขสองตัวในใจหรือในสมองเนี่ยแหละ รู้แต่มันดำๆ แล้วก็เห็นเป็นเลขลอยเด่นๆ เราก็เลยไปซื้อเลขท้ายสองตัว งวดถัดมาหลังจากเราสึก ปรากฎว่า ถูก ออกตามเลขที่นั่งสมาธิแล้วเห็นเป๊ะๆ เลยยย จากคุณ : seam33 เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 52 12:41:05

ความคิดเห็นที่ 19 ว่าจะเข้ามาอ่าน แต่คิดไปคิดมา ไม่กล้าง่ะ เที่ยวคนเดียว นอนคนเดียวซะด้วย ขืนอ่านไป สงสัยจะ...... เค้ากลัว.... >.< จากคุณ : ohhioh เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 52 12:50:36

ความคิดเห็นที่ 20   .........จริง ๆ ก็ไม่อยากเจอนักหรอกครับ ถ้าไม่จำเป็น เหอ เหอ..... ....เป็นโรงแรมฮอตฮิตมาก ๆ เลยสำหรับชาว bp ไม่สามารถบอกได้    แม้แต่ตัวย่อ อยู่หัวหินครับ เป็นโรงแรมเล็ก ๆ ค่อนข้างเก่าไปมาสะดวก ....รู้แล้วใช่ไหมครับ....    เดือนเมษาที่ผ่านมานี่เองครับ ไปกะครอบครัว พักห้องสูท มีเตียงนอนใหญ่สองเตียง ไปถึงถอดพระพร้อมสายสร้อย สวดมนต์ 1 จบ แล้วบอกว่า พาครอบครัวมาพักผ่อน ถ้าล่วงเกินอะไรก็ขออภัยด้วยนะครับ ผมกะแฟนจะ ทำแบบนี้ตลอดไม่ว่าจะไปนอนที่ไหน (รพ.ก็ทำครับ แขวนพวงมาลัยอีกตะหาก) แล้ววางพระไว้โต๊ะกลางระหว่างเตียง คืนแรกนอนเปิดไฟไม่มีอะไร ....คืนที่สองปิดไฟนอน แยกกันนอนกอดลูกคนละคน ผมอยู่ห้องรับแขก ดูทีวีอยู่ แฟนเดินหน้าตื่นมาถามว่าพ่อสวดมนต์หรือเปล่า เมื่อกี้กล่อมลูกหลับแล้วกำลังเคลิ้ม ๆ มีแรงกระแทก ปึ๊ง ปึ๊ง มาจากใต้เตียง ตกใจมาก 2ที  ตอนแรกนึกว่าลูก แต่ไม่น่าใช่ เพราะมองลูกก็นอนนิ่ง ๆ เหมือนเดิม นึกว่าไม่มีอะไรคิดไปเอง ก็หลับตาลง ก็มาอีก 1 ปึ๊ง ทีนี้เปิดไฟหัวเตียงจ้องไปที่ ปลายเตียงสักพัก ไม่มีอะไร ก็อู้มลูกไปนอนอีกเตียงแล้วเดินมาหาผมเนี่ยแหละ ผมก็เดินไปนั่งปลายเตียง ก็ไม่มีอะไร แต่แฟนผมยืนยันหนักแน่นเลยไม่มีใครนอนเตียงนั้นเลยจนเช้า ย้ายไปปูผ้านอนหน้าทีวีกัน ....เช้ามาแฟนผมไปถามฟร้อนเลย รู้ไหมครับน้องเค้าบอกว่าไง เอ๊ะ ห้องสูทไม่น่ามีนะคะ ถ้าเป็นห้อง 4......ตรงข้ามกัน  มีแน่ค่ะ โอ๊ะแสดงว่าพนักงานรู้ดี แล้วไม่บอกแขกหรือครับ แฟนผมขนลุกเลย เจ้าของ รร.ก็รู้นะครับน้องเค้าบอกก็เคยทำบุญแล้วทำไมยังมีอีก หรือคุณผีเค้าเดินมาจากห้องตรงข้าม เหอ เหอ เหอ หุ หุ ....ผมว่าเฮี้ยนแล้วครับแบบนี้ !!! ขนาดเรามีพระไปด้วยยังเจอเลย....   .... แก้ไขเมื่อ 08 ส.ค. 52 12:55:54 จากคุณ : kitjr เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 52 12:53:33

ความคิดเห็นที่ 21 เค้ากลัว เค้ากลัว ไล่ผ่านๆแล้วลงชื่อมาแวะแล้วนะคะลุงซูม ห้ามแช่งเน้ออออ ปล. ระวังคุณลาบมาแจมนะ อิอิ จากคุณ : วี้ดวิ้ว เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 52 13:11:59

ความคิดเห็นที่ 22   หัวหิน ... เป็นถิ่นสัญญา เหอๆๆ จากคุณ : เจเลเป้ เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 52 13:24:51

ความคิดเห็นที่ 23 เอาแค่เกือบแล้วกันนะครับ นานแล้วล่ะ ไปเที่ยวภูเก็ตกัน 7 คน (ชาย 5 หญิง 2) ทีนี้มีแปลนว่าวันรุ่งขึ้นจะไปเกาะพีพี โดยซื้อทัวร์ไป แต่ที่พักกับท่าเรืออยู่ไกลกันพอควร ก็เลยให้ทัวร์แนะนำที่พักใกล้ๆให้ เพราะเดี๋ยวตอนเช้าจะมีรถตู้มารับไปขึ้นเรือ ทางทัวร์ก็แนะนำโรงแรมถาวร (โรงแรมแห่งแรกในภูเก็ต) ตกเย็นก็ไป check in โดยไม่คิดอะไร ระหว่างรอห้อง ก็เดินดูบรรยากาศในตึกหน้า มีอุปกรณ์เครื่องแต่งกาย ตั้งแต่สมัยไหนไม่รู้ เก่ามาก ปรากฎว่าตึกหน้าป้องเต็ม ก็เลยได้พักตึกหลัง ระหว่างเดินไป ก็เห็นว่า ข้างๆลานจอดรถ เคยทำเป็นบ้านผีสงฃิงมาก่อน แต่เลิกใช้ไปแล้ว ก็ไม่คิดอะไรอีก ไปเคาน์เตอร์ตึกหลัง ก็เจอแม่บ้านแก่ๆคนเดียว พอเดินขึ้นห้อง ก็สังเกตว่า ห้องตรงข้ามคล้องสายยูกับแม่กุญแจเอาไว้จากด้านนอก ไม่คิดอะไรอีก พอได้เวลานอน ก็แยกเป็น 2 ห้อง ผู้ชาย 4 คนห้องนึง ส่วนผมกับแฟน แล้วก็ผู้หญิงอีก 1 นอนอีกห้อง คืนนั้นเป็นอะไรไม่รู้นอนไม่หลับทั้งคืน ตื่นมายืนที่ระเบียงบ้าง นอนลงบ้าง แต่ก็ไม่ได้หลับ ส่วนคนอื่นเหรอ หลับกันหมด เหลือผมคนเดียว คืนนั้นผ่านไปด้วยดี พอเช้า รถตู้ก็มารับ แล้วก็ถามพวกผมว่า เมื่อคืนพวกพี่นอนที่นี่กันเหรอ พวกผมก็ตอบ.....ใช่ แล้วคนขับรถก็พูดออกมาว่า "กล้านอนไปได้ยังไง" นั่นสิ ยังนึกกันเองว่า นอนไปได้ยังไง โรงแรมเก่าขนาดนี้ ส่วนประวัติโรงแรมนี้ ผมไม่รู้จริงๆ ใครเป็นคนพื้นที่ช่วยบอกหน่อยแล้วกัน จากคุณ : Bug Gerd เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 52 13:31:52

ความคิดเห็นที่ 24   เป็นเราจะตอบเค้าว่า ไม่ได้กล้า ... แต่ไม่รู้ จากคุณ : เจเลเป้ เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 52 13:37:56

ความคิดเห็นที่ 25 เรื่องนี้เกิดขึ้นนานแล้วประมาณปี35 หรือ 36 ช่วงเดียวกับโรงแรมถล่มที่โคราช จากการที่ไปเดินป่าดอยจิกจ้อง ที่อ.ปาย-ปางมะผ้าที่แม่ฮ่องสอน คือเราไปทั้งหมด 7-8 คน มีมูเซอนำทาง และตอนกลางคืนต้องไปนอนที่หมู่บ้านกะเหรี่ยง ซึ่งเหตุการณ์ที่จะเล่าเกิดขึ้นที่นี่ ตอนเย็นที่เราเข้าไปก็ไปเจอกับเจ้าของบ้านที่จะพัก เป็นผู้ชายมีอายุแล้ว ประมาณ 60 กว่าๆ พี่ที่เป็นหัวหน้ากรุ๊ป ก็เข้าไปคุย แล้วพวกเราก็ตามกันเข้าไป ก็รู้สึกแปลกๆในท่าทีคือพูดน้อยมาก และบ้านนี้ก็มีเมียและลูกๆของเจ้าของบ้านอยู่แต่อยู่แต่ในห้องไม่ยอมออกมา จากนั้นเราก็ช่วยกันทำกับข้าว และผลัดกันไปอาบน้ำ ซึ่งที่อาบน้ำก็จะเป็นก็อกน้ำที่ทำมาจากประปาภูเขา เราไปกับน้องผู้หญิงอีกคน ระหว่างอาบน้ำกันอยู่ เราก็เห็นดวงไฟขนาดใหญ่ลอย ห่างออกไป ประมาณ 10 เมตร ไฟจะสว่างและดับเป็นระยะ เราก็เลยสะกิดน้องที่ไปด้วยกันให้ดู ก็เห็นเหมือนกันเราเลยดับไฟฉายที่เราตั้งไว้และรอดู แสงไฟก็ลอยเข้ามาใกล้และลอยเข้าไปใต้ถุนบ้านที่เราพักอยู่และหายไปไม่เห็นอีก เราก็คุยกับน้องว่าสงสัยจะเป็นหิ่งห้อย แปลกดีที่มันบินรวมตัวกันเป็นกลุ่มใหญ่ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย เสร็จแล้วเราก็ไปกินข้าวแล้วก็เล่าให้เพื่อนๆในกลุ่มฟัง จากนั้นก็แยกย้ายกันไปนอนเพราะทุกคนเหนื่อยมาก บ้านกะเหรี่ยงที่เรานอนมันจะไม่มีประตูปิดบ้าน ก็นอนเรียงกันที่ช่วงกลางของบ้านใกล้กับทางขึ้นลง พอรุ่งเช้าเราก็เก็บของและเตรียมเดินทางต่อ เราก็ลงไปเก็บผ้าถุงที่ตากไว้ใต้ถุนบ้าน ก็เห็นถุงขยะที่เหลือจากการทำกับข้าวที่เรามัดไว้อย่างดีกระจุยกระจายเต็มไปหมด ก็เลยเดาว่าสงสัยหมามันจะมาคุ้ยหาเศษอาหาร สายๆก็ออกเดินทาง ช่วงที่เราเดินก็เลยมีโอกาสได้คุยกัน พี่ผู้หญิงที่อยู่สัตว์แพทย์ จุฬา ก็เล่าให้ฟังว่าเมื่อคืนนอนไม่ค่อยหลับ และพี่เขาก้ได้ยินเสียงคนเดินผ่านหน้าบ้านแก ก็เลยส่องไฟฉายไป แต่ก็ไม่เห็นอะไร จากนั้นแกก็นอนไม่หลับเพราะระแวงเข้าใจว่าจะเป็นคนแอบขึ้นมาทำร้าย ก็นอนมองออกไปที่หน้าบ้านตลอดเวลา และก็เห็นแสงไฟดวงใหญ่ ลอยผ่านหน้าบ้านไป ลักษณะเดียวกับที่เราเห็นเมื่อวานตอนเย็นซึ่งดับและก็สว่างเป็นระยะ แล้วก็หายไป  พอพี่เค้าเล่าจบทุกคนก็ให้ความเห็นมากมายและรู้สึกแปลกๆ กับเจ้าของบ้านและเมีย ซึ่งไม่ยอมออกมาทักทายแขกที่เข้าพักเลย ก็เลยเดาก้นว่าแกอาจเป็นกระสือ หรือเปล่าเริ่มฟุ้งซ่านกันไปใหญ่ แต่ที่พี่ที่ไปด้วยอีกคน ก็มองว่าอาจจะเป็นปรากฏการทางวิทยาศาสตร์ คือดวงไฟอาจจะเกิดจาก กาซมีเทน ซึ่งเกิดจากการหมักหมมของสิ่งปฏิกูล และมันจะเกิดเป็นเหมือนลูกไฟลอยออกมา แต่ก็น่าสงสัยว่าทำไมมันสว่างและดับเป็นระยะๆ เรื่องนี้ก็เป็นที่ถกเถียงกันพอสมควร ว่ามันคืออะไรกันแน่ เรื่องอาจจะไม่มีอะไรตื่นเต้น แต่เราก็จำเหตุการณ์วันนั้นได้ดี เลยอยากหาคำตอบว่าดวงไฟที่เห็นคืออะไร ใครที่มีประสบการณ์เจอดวงไฟลักษณะนี้ ก็มาแชร์ประสบการณ์ให้ฟังบ้างนะ จากคุณ : Errantry เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 52 13:41:25

ความคิดเห็นที่ 26 ปกติเราไปอังกฤษใช้เวลาในลอนดอนเป็นส่วนใหญ่ ครั้งนั้นบังเอิญไปเยี่ยมเพื่อนที่แมนเชสเตอร์ แต่บ้านเพื่อนกำลังตกแต่งใหม่ ทำให้พวกเราต้องไปหาที่พักที่อื่น เพื่อนขับพาไปเรื่อย ๆ เค้าอยากให้ลองพักแบบที่เป็นธรรมชาติ เพราะรู้ดีว่าพวกเราไม่ใช่สไตล์ชอบพักโรงแรมและชอบแบบส่วนตัวนิดนึง (จริง ๆ ไม่มีตังค์ 555+) ถามคนแถวนั้น เค้าแนะนำให้ไปแถบ ... เอ่อ ... ลืมชื่อไปแล้ว เพื่อนขับไปจนถึงแนวที่เป็นไร่เบอร์รี่ เจอโฮมสเตย์ที่มีคนแนะนำมา พูดคุยแล้วจ่ายกันคนละ 20-22 ปอนด์รวมอาหารเช้าที่ลงมารับประทานกับเค้าได้ อยากไปเดินเล่นเก็บเบอร์รี่ก็ไปได้ตามสบาย ตอนค่ำ เพื่อนมารับไปทานข้าวบ้านพี่สาวเค้า แล้วไปจบที่ผับเพื่อดูบอลและดื่มกัน วันนั้นเราเมาเพราะซัดกินเนสไป 3 ไพน์ท ทั้ง ๆ เป็นคนไม่ถูกกับเบียร์ดำ พวกเรา 5 คนต้องแบ่งกันนอน 2 ห้อง ความที่เมาทำให้ชะล่าใจคิดว่าไม่เป็นอะไรหรอก เราเลยไปสลบกับเพื่อนอีกคนนึงที่ห้องเล็ก แทนที่จะนอนห้องเดียวกับพี่สาวเหมือนเดิม เราเมาแต่ไม่ได้เมาพับ รู้สึกตัวว่าตัวเองล้มตัวลงนอนตามปกติ แล้วเริ่มฝันไป... ฝันว่ามีผู้ชายคนนึงจูงมือพาเดินขึ้นบันไดวนเป็นเหมือนหอคอยสูงไปเรื่อย ๆ เบื้องหน้าเป็นแสงสีเขียวสะท้อนมา ทำให้เราเห็นเพียงร่างของชายผู้นั้นเพียงลาง ๆ ระหว่างเดินมีภาพสลับซ้อนทับมา เห็นผู้ชายคนนึงกับจระเข้ ไม่มีเรื่องราวเพิ่มเติมมากกว่านั้น แล้วก็เป็นภาพแทนสายตาเราที่กำลังเดินขึ้นบันไดต่อไป เดินไปสักพักก็ถึงยอดหอคอย มองเห็นประตูที่ปิดอยู่ ชายคนนี้เปิดประตูออก เราได้กลิ่นหอมแปลก ๆ เขาเดินเข้าห้องไปก่อน แล้วยื่นมือมา เรากำลังจะเข้าไปในห้องนั้น แล้วเราก็ตื่น... *แก้คำผิดค่ะ* แก้ไขเมื่อ 08 ส.ค. 52 13:57:13 จากคุณ : Kikkawa เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 52 13:55:55

ความคิดเห็นที่ 27 เพื่อนที่นอนห้องเดียวกันนั่งร้องไห้ตัวสั่นอยู่ที่เตียงเรา แล้วพูดว่า "ตื่นสิ แก ตื่น ๆๆๆ !!!" พอเห็นเราตื่นก็ลากเราออกไปจากห้อง เราไม่รู้สึกตัวดีนักจนไปถึงประตูห้องพี่ในสภาพถูลู่ถูกังถึงได้รู้ว่า ตัวเองก็มีน้ำตาอาบหน้าอยู่เหมือนกัน พี่ไม่พูดอะไรนอกจาก "บอกกแล้วใช่มั้ยให้มานอนห้องนี้" พี่พูดอย่างหัวเสีย แล้วย้ำว่า "ทุกคนนอน!" เราพอจะเริ่มปะติดปะต่อได้ว่าน่าจะเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง (อีกแล้ว...) ตื่นเช้ามา เพื่อนที่นอนกับเราเป็นคนเล่าว่า พอล้มตัวนอนไป เพื่อนเริ่มได้ยินเสียงพูด ให้ไปหาเราเห็นเราเหมือนพึมพัม เลยคิดว่าเราเมาแล้วละเมอ แต่เสียงเริ่มาไม่หยุดและดังขึ้นเรื่อย ๆ จนพอจับน้ำเสียงได้ เพื่อนถึงได้รู้ว่า เป็นเสียงนั้นออกมาจากเรา แต่ไม่ใช่เสียงเรา เป็นเสียงผู้ชายที่ร้องคร่ำครวญฟังไม่ได้ศัพท์ ร้องดังขึ้น ๆ จนในสุดกระชากตัวเราให้กระตุกขึ้นมา ด้วยความกลัว กลัวว่าเราจะเป็นอะไร กลัวทั้งสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น (มันซวยจริง ๆ เพราะเป็นคนที่กลัวเรื่องแบบนี้ที่สุดในกลุ่ม แต่ดันมานอนกับเรา) เพื่อนพยายามทำทุกทางให้เราตื่น แต่เราไม่ตื่น ตบเราซ้ำ ๆ จนไม่ต้องบอกว่าเช้าวันต่อมาแก้มอักเสบแค่ไหน (น้ำตาที่อาบน้ำเรา อาจจะเป็นเพราะเพิ่งรู้สึกตัวว่าเจ็บ -*-) สิ้นเสียงครวญจากชายคนนั้น เราถึงได้ลืมตาขึ้น ... เพื่อนชายที่เตรียมตัวมารับสังเกตถึงความผิดปกติ ถามไถ่จนได้ความก็พากันไปนั่งทานอาหารเช้าในครัวพร้อมด้วยคุณป้าเจ้าของบ้าน คุณป้าถามหลับสบายดีมั้ย เพื่อนคนเดียวอาสาพูดว่า "สบายดีค่ะ" เพื่อนชายนั่งไปสักพักเก็บความสงสัยไว้ไม่ไหว "ที่บ้านนี้อยู่กันสามคนเหรอ" คุณป้าบอกว่า "อยู่กันสามคน..." "พี่ชายที่อยู่อีกบ้านเพิ่งเสียไป" เพื่อนถามต่อว่าเสียเพราะอะไร แต่เราไม่อยู่ฟัง ขอตัวออกไปเดินตากแดดข้างนอก คนที่อยู่ฟังก็ไม่ได้มีใครมาเล่าให้ฟัง เพราะรู้ว่าเราก็ไม่ได้อยากรู้เท่าไหร่ แม้ที่นี่จะให้ประสบการณ์แปลก ๆ แต่ก็เป็นที่ที่ทำให้พวกเรารู้สึกน้ำทับทิมที่อร่อยมากยี่ห้อ Pomegrané ที่อร่อยมากจริง ๆ แต่ไปเดินหาที่ไหน ๆ ก็ไม่เจอ ต้องดื่มยี่ห้ออื่นกันแทน -*- จบค่ะ. *แก้คำผิดค่ะ* แก้ไขเมื่อ 08 ส.ค. 52 13:59:10 จากคุณ : Kikkawa เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 52 13:56:21

ความคิดเห็นที่ 28   บวชมา 1 พรรษา ขอท้าทายว่า ผีไม่มีจริง ปัจจัย มาจาก ความมืด ความเงียบ ความคิด และจิตปรุงแต่ง มีคนแช่งเราสักวันจะเจอดี 555 ทำอะไร จิตอันบริสุทธิ์ และการดำรงชีวิตที่ไม่ประมาทของเรา ไม่ได้หรอก แนะนำ ให้กลัวคนและ สิ่งที่พิสูจน์ได้ ดีกว่ากลัว คำอุปโลกที่เรียกว่า ผี สรุป ไม่ว่าฟังใครเล่า ไม่เชื่อทุกกรณีที่เกี่ยวกับ ผี จากคุณ : แจกันมรกต เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 52 13:58:32

ความคิดเห็นที่ 29 มาเจิมกระทู้ก่อน เดี๋ยวค่ำค่อยมาเล่านะคะ ^^ จากคุณ : tOnGtA69 เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 52 14:08:51

ความคิดเห็นที่ 30 ที่หลวงพระบาง ปีที่แล้วนี่เอง ไปกัน10คน ผมเป็นหัวหน้ากรุ๊ป พักที่โรงแรมข้างๆภูสีนี่แหละ โรงแรมใหม่ แต่ใหม่จากการปรับปรุง ต่อเติมบ้าน หรือห้องแถว ก็พักห้องเดี่ยวเป็นปกติ  ผมไม่เคยกลัวผีสางที่ไหน และไม่เคยสนใจด้วย ตระเวนเที่ยวมามากมาย ไม่เคยสวดมนต์ก่อนนอน เป็นคนหลับง่ายอยู่แล้ว พรรคพวกก็นอนห้องละ 2 คนบ้าง 3 คนบ้าง ก็ลงตัวพอดี แต่ ห้องพักของผมเป็นห้องเดียวที่มีอ่างอาบน้ำด้วย...ห้องน้ำกว้างใหญ่ผิดปกติ ก็สบายดีนี่หว่า เปิดน้ำอุ่นนอนแช่  เพลินๆ สักพักรู้สึกแว่ว ๆ ได้ยินเสียงเหมือนว่ามีคนเดินอยู่ในห้อง นอกห้องน้ำ ด้วยความที่ไม่กลัว ในเรื่องพวกนี้ ก็เลยปรามไปว่า เฮ่ย อย่ามายุ่งนะเว่ย...กรูไม่กลัวหรอก..เดี๋ยวสวย  แล้วจะว่ากรูไม่บอก... มานอนดูทีวีจนง่วง ปิดทีวีแล้วหลับไป ก็ไม่มีอะไรผิดปกติ พอหลับก็ฝันเห็นหมาสีดำตัวใหญ่มาเดินวนตัวเรา ทำท่าจะกัด ในฝันก็จ้องหน้ามันพร้อมกับไล่เตะ  แล้วมันก็กระโดดกัดเข้าที่สีข้าง ก็เลยได้ต่อสู้กัน ผมบีบคอหมาไว้แน่นระดมตีเข่า ทั้งชกทั้งถีบ จนมันหลุด หมาติดมือออกมา เลยสะดุ้งตื่น ดูนาฬิกา ตอนนั้น เที่ยงคืนกว่านิดๆเอง นั่นแหละถึงได้รู้จักว่า ที่เขาเรียกผีอำน่ะเป็นอย่างนี้เอง  มันกระดิกตัวไม่ได้ จนเราดึงคอหมาดำออกถึงรู้สึกโล่ง พลิกตัวได้ นี่เป็นครั้งแรกในชีวิต ตื่นมาแล้วลุกขึ้นนั่ง ขนหัวลุกซู่ๆ   แล้วขนทุกส่วนก็พลอยตั้งชันตามขนบนหัว มีความรู้สึกมีคนเดินอยู่ในห้อง หรือมีคนจ้องดูเราอยู่  เลยด่าไป... ไอ้เวลลล..แน่จริงมรึงแสดงตัวมาให้เห็นสิวะ อย่ามาทำเป็นอีแอบอย่างนี้กรูไม่ชอบว้อยยยย... จาก หกทุ่มกว่าจนตี 5  ไม่ได้นอนเลยครับ เป็นเสียงกุกๆ กักๆ ในห้อง  เดี๋ยวตรงโน้น เดี๋ยวตรงนี้ทั้งคืน เลยลุกมานั่งมองหาที่มาของเสียง พร้อมกับบ่น ด่ามันไป..มรึงจะเอายังไงกะกรูว่ามาสิวะ... จนเช้า โชเฟอร์มาเรียก   ก่อนออกจากห้องยังหันไปดุสิ่งลึกลับนั่นอีกว่า ฝากไว้ก่อนนะมรึง กรูจะมาอีกที... นี่จะไปอีกรอบ เดือนตุลานี้ แต่คราวนี้จะไปผูกมิตรดีกว่า  เผื่อจะได้เพื่อนผีลาวซักตน เหอ ๆ ๆ ๆ จากคุณ : ทองเบิ้ม เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 52 14:27:53

ความคิดเห็นที่ 31   ใจกล้าจริงเชียว คุณแจกันมรกต ที่ท้าทายว่าผีไม่มีจริง ไปหาหนังสือ "พระเจอผี" มาอ่านซะ พระอาจารย์ดังๆ หลายองค์เจอมาเย้ออออออ จากคุณ : เจเลเป้ เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 52 14:30:33

ความคิดเห็นที่ 32 รีบมาลงชื่อพร้อมโหวตทันทีเลย ขอไปนึกเรื่องกึ๊กกึ๊ยก่อนนะคะ จากคุณ : Amecchi เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 52 14:42:24

ความคิดเห็นที่ 33   ตอนนั้นเราไปเที่ยวที่เกาะลันตา คืนแรกเราก็นอนไม่หลับตามประสาแปลกที่ แต่เราก็เพื่อนก็คิดว่าคืนที่สองต้องหลับสนิทแน่นอนเพราะว่าตอนกลางวันพวกเราไปดำน้ำกันมาทั้งวัน กลายเป็นว่าคืนนั้นเราฝันว่า มีีคนพาไปเราเที่ยว เรานั่งไปในรถ ไปกันทั้งหมด 5 คนเรานั่งตรงกลางด้านหลัง มองออกไปนอกรถ ก็เห็นแต่คนเป็นร้อยๆ คนเลยเดินไปเดินมาไปทั่ว เราก็ไม่ได้พูดอะไร จนเราก้มไปมองที่เท้าคนที่พาไปเราไปเที่ยวในรถ เราไปทักพี่ว่า "พี่ๆ ทำไมเท้าพี่ขาวจัง"  เพราะว่าเราเห็นขาวจนเหมือนกระดาษเลย พี่เขาตอบกลับมาว่า "คนแถวนี้ก็ขาวแบบนี้แหละ" เราฟังแล้วก็หันออกไปมองข้างนอกรถ ทุกคนก็ขาวแบบนั้นจริงๆ  ด้วย เราก็เลยบอกว่า "จริงด้วยพี่ขาวเหมือนกันหมดเลย" คืนนั้นเราก็เป็นแบบหลับๆ ตื่นๆ ตลอดทั้งคืน แต่ว่าฝันต่อเป็นเรื่องเดียวกันนะ มีครั้งหนึ่งตื่นมาเจอหน้าเพื่อนที่นอนหันหน้ามาทางเรา เราก็งงว่าทำไมเพื่อนเรามันจ้องหน้าหน้ากลัวจัง ตาคล้ำเชียว แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร จนมารู้สึกตัวอีกครั้งตอนที่เพื่อนถามว่าพระอยู่ไหน เราก็เลยบอกว่าอยู่ในตู้เชฟ เพื่อนก็เดินไปหยิบ เราก็เลยบอกว่าเอาพระของเราให้ด้วยนะ ก็ใส่พระกันไป จนเช้ามาเพื่อนเราก็เล่าให้ฟังว่าเมื่อคืนฝันว่ากำลังจะเดินไปเข้าห้องน้ำ้ำ ปรากฎว่ามีคนมายืนอยู่ข้างหลังแบบติดตัวเลย แล้วเราก็เลยถามเพื่อนเราว่าเมื่อคืนจ้องหน้าเราทำไม เพื่อนบอกว่าเหมือนโดนผีอำ ก็เลยพยายามเรียกเรา (พยายามออกเสียงแต่เราไม่ได้ยิน) พอขยับตัวได้ก็เลยไปเอาพระมาใส่่กัน ลืมบอกไปว่าเช้ามาเพื่อนเราตาไม่คล้ำเลย เราว่าเรายังโชคดีนะที่เจอแต่ในฝัน จากคุณ : สปาเก็ตตี้ปลาเค็ม เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 52 15:03:21

ความคิดเห็นที่ 34 ขอแวะมาหย่อนด้วยคนค่ะ แต่ไม่เจอหรอกมันแค่น่ากลัวเฉยๆ ไปทัศนศึกษากันที่เวียงจันทน์ ก่อนไปก็นอนโรงแรมหนึ่งในหนองคาย ชื่อโรงแรมพยางค์เดียว อยู่ใกล้กับโลตัส ข้างๆมีคาราโอเกะ เรื่องของเรื่องคือตอนเข้าห้องพอเปิดประตูเข้าไป ก็บ่นกับตัวเองว่า ไมห้องนี้อึดอัดอย่างนี้วะ .. สักพักก็บ่นต่อว่าซวยแล้ว มีโรงพยาบาลอยู่ตรงข้าม ท่าทางบุญจะซวยแล้ว.. สรุปว่า คืนนั้นไม่ใช่เราคนเดียว คนอื่นๆ ก็รู้สึกเหมือนกัน เลยย้ายกันไปนอนกับเพื่อนคนอื่น .. เช้าวันต่อมา .. ภายในรถบัสทัศนศึกษาไม่มีใครสนใจเวียงจันทน์เลย พูดกันแต่ เมื่อคืน มีคนมาเคาะประตู เมื่อคืนมีเสียงก๊อกแก๊กภายในห้อง แล้วไอ้ที่แปลกก็ตรงที่เปิดประตูเข้าไปแล้วเหมือนมีใครทำอะไร ก๊อกๆแก๊กๆ แม้จะไม่เจอ แต่ทุกคนก็ลงความเห็นตรงกันว่า .. อาจารย์ทำพิษ เพราะอาจารย์นอนอีกชั้นหนึ่ง ส่วนพวกนักเรียนก็นอนบนชั้นที่เกิดเรื่อง ซึ่งมีแต่พวกเราไม่มีแขกอื่น ก็โดนคนละนิดละน้อย ถึงไม่เจอ แต่บรรยากาศอึดอัดจริงๆค่ะ จากคุณ : Opacity เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 52 15:55:56

ความคิดเห็นที่ 35 เคยได้ยินมาว่า บ้านไหนไม่มีใครอยู่ อย่าวางที่นอนทิ้งไว้... ออกเอี๊ยดก่อนว่า ผมค่อนข้างเจอก่ะอะไรแนวนี้บ่อยๆ แต่ยังไม่ถึงขั้นสนิท - -" เพื่อความสุนทรี นับแต่บัดนี้ขอเรียกว่า... "สุกี้น้ำ" " เ ชี ย ง ใ ห ม่ " เป็นจังหวัดที่สร้างเสริมประสบการณ์ชีวิตให้ผมไม่น้อยทีเดียว (ก้อรวมๆน้องต้มจืดกระทู้ที่แล้วเข้าไปด้วยแล้วกันโน๊ะ!!) ไปต่างจังหวัดครั้งแรกในชีวิตเอย มี(แฟน) "ครั้งแรก!!" ในชีวิตเอย อกหักครั้งแรกเอย แม้กระทั่งเจอ "สุกี้น้ำ" ครั้งแรกในชีวิต... - -" ผมเป็นลูกครึ่ง จีน-เชียงใหม่คับ (ดูคล้ายๆลูกแพนด้ายังงัยชอลกล - -") เกิดและอาศัยอยู่ก่ะครอบครัว (พ่อก่ะแม่) ที่กรุงเทพฯตลอด เมื่อก่อน ที่บ้านจะมีบ้านเก่าของแม่สมัยยังอยู่ที่เชียงใหม่ ซึ่งทิ้งไว้นานมากแล้ว นานๆไปเที่ยวก้อเข้าไปพักที ก่ะว่าจะเก็บเอาไว้นอนเล่นเวลาที่ขึ้นไปเที่ยวกัน (แต่ปัจจุบันได้ขายไปหลายปีแล้วคับ) สภาพบ้านเป็นบ้านปูนชั้นเดียว 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ อยู่สุดซอย หลังตลาด ใกล้วัด หลังบ้านเป็นทุ่งไรไม่รู้กว้างๆ ตัวบ้านสร้างแทนของเดิมที่ผุมากแล้ว ด้วยความที่แม่เป็นเด็กถิ่น เก๋าพอจะฝากบ้านให้หัวโจกแถวๆนั้นที่โตมาด้วยกันช่วยดูให้ได้ แต่ก้อแค่ดูรอบๆบ้าน (ไม่ได้ทิ้งกุญแจบ้านไว้ให้) เกริ่นซ๊ะยาว.. เรื่องของเรื่องคือ จำได้ว่า.. ตอนเด็กๆเวลาไปเชียงใหม่ทีไร ต้องไปนอนบ้านหลังนี้ทุกที ไปทีไรบ้านก้ออยู่ในสภาพเดิมเหมือนทุกครั้ง เพราะพ่อผมเจ้าระเบียบ จะจัดของเข้าที่ทุกครั้งก่อนจะกลับกรุงเทพฯ ไปถึงก้อแค่เก็บกวาดไรนิดๆหน่อยๆ เอาที่นอนลง ปูที่นอน เอาหมอนวางก้อนอนได้เลย (ช่วงแรกๆของชีวิต ยังไม่เคยมีใครแนะนำให้รู้จัก "สุกี้น้ำ" มาก่อน เลยนอนที่ไหนก้อได้ สบายใจ~) แต่มีอยู่ครั้งนึงที่ไปนอน... บ้านหลังนี้ได้เปิดโลกทัศน์ของผม และแนะนำให้ผมรู้จักกับ "สุกี้น้ำ" อย่างเป็นทางการ!! ครั้งนั้นจำได้ว่า ไปถึงเชียงใหม่ แม่ก้อพาไปเที่ยวห้วยตึงเฒ่าก่อน ต่อน้ำตกห้วยแก้ว แล้วหาไรกินที่ไนท์บาซาร์ก่อนค่อยเข้าบ้าน (เหนื่อยเกิ๊นนน~) ถึงบ้านไม่พูดไม่จา คลำหาห้อง แล้วโดดใส่เตียง มีหมอนอยู่ใบ เลยหาห่มผ้า ขดกลม คลุมโปง แล้วก้อหลับยาวววว... (ฝุ่นแอบเยอะไปนิดนึง -"-) มาตกใจตื่นเอาตอน ตี 5 เกือบๆ 6 โมงแร๊ะ (แต่ตอนนั้นไม่รู้หรอกกี่โมง มืดอ่ะ มารู้ทีหลังว่าจะเช้าแล้ว) เพราะได้ยินเสียงผู้หญิงมา "กรี๊ดดดดด" แบบยาวๆอยู่ข้างๆหู เริ่มจากข้างซ้ายก่อน แล้วก้อเหมือนว่าอ้อมผ่านหน้าเราไปคล้ายๆว่าคล่อมตัวเราไป แล้วไป "กรี๊ดดดดด" ใส่หูขวาต่อ แล้วก้อมาเหมือนว่าตะโกนใส่หน้าเราตรงๆเลยอีกทีนึง แต่ตรงหน้านี่ไม่มีเสียงนะ รู้สึกได้แต่ลมที่กระแทกหน้าเป็นวูบๆอ่ะ เหวอสิคับ.. อะไรอ่ะ.. เกิดมาไม่เคยเจอ เลยนอนหลับตาปี๋เลย ไม่กล้าขยับ เกรงใจเค้า กลัวเค้ารู้ว่าเราตื่นแล้ว ก้อทนอยู่อย่างงั้นซักพักอ่ะคับ "วัดใจ" ใครจะอึดกว่ากัน พอ "สุกี้น้ำ" เค้ารู้สึกว่าเราไม่ค่อยแคร์เค้าเท่าไหร่ แล้วเค้าก้อหายไปเอง.. เช้ามาเลยไปเล่าให้แม่ฟัง... แม่เลยว่า... "ว่าแล๊วววว~ คราวที่แล้วลืมเก็บที่นอน!! " ปล."ว่าแล๊วววว~" แล้วก้อไม่เข้ามาเตือนกันซักคำ.. เออนะ.. แม่ผม.. - -" แก้ไขเมื่อ 08 ส.ค. 52 16:42:58 จากคุณ : Mr_GenoCide เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 52 16:02:31

ความคิดเห็นที่ 36 โห้...ตะละเรื่อง..... ชวนให้ไม่กล้านอนคนเดียว ต้องนอนสองคน ..... พอนอนสองคน กลายเป็นชวนกันตำน้ำพริกเสียงดัง ข้างห้องนึกว่าเจอผีเข้าไปอีก วนเวียนกันเป็นวงจรแบบนี้ น่าน........... จากคุณ : XOOMER เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 52 16:37:41

ความคิดเห็นที่ 37 ไม่ได้เจอเอง แต่มีรุ่นพี่มาเล่าให้ฟังค่ะว่า ไปนอนค้างโรงแรมนึงที่ต่างจังหวัด ตกกลางคืนได้ยินเสียงคนเดินไปเดินมา สักพักหมอนที่พี่เค้านอนหนุนอยู่นั้น ก็รู้สึกยวบตัวค่ะ ประมาณว่ามีคนมานั่งทับปลายหมอนอย่างไงอย่างงั้น พี่ที่เล่าให้ฟังบอกว่า ไม่กล้าแม้กระทั่งขยับหันหน้าหนีเลยค่ะ ต้องนอนข่มตาให้หลับตลอดคืนเลย น่ากลัวมากๆ @^_^@ จากคุณ : CX gal เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 52 17:13:06

ความคิดเห็นที่ 38 มาแล้วค่ะ   ที่เวียงจันทน์พฤหัสที่แล้วนี่ไม่แน่ใจว่า สุกี้น้ำ รึเปล่านะคะ พอดีว่านอนคนเดียวอ่ะค่ะ  เพื่อนกับแฟนเค้าอยู่อีกห้องนึง ไอ้ครั้นจะไปเคาะห้องเพื่อนกลางดึก ก็กลัวจะไปรบกวนกิจกรรมตามกระทู้ 1 วันนั้นนอนดู เป็นต่อ อยู่เลยค่ะ กำลังฮาๆ  เนี่ยแหละ   สายตามันก็ดันไปเห็นเงาอะไรซักอย่างตรงเพดาน กำรีโมตทีวีนิ่งอยู่ 1 นาที  ก็หันไปสำรวจดูผ้าม่าน ที่แรกคิดว่า ไม่ได้ปิดผ้าม่านแล้วมีแสงรอดจากข้างนอกห้อง ปรากฎว่าม่านก็ปิดแล้วนี่หว่า  แล้วเมื่อกี้อารายว๊า... แข็งใจเงยหน้าขึ้นไปมองค่ะ  จ้องเลยอ่ะ ซักกี่นาทีนี่ไม่แน่ใจ  เห็นเงากลม ๆ ที่ผนังด้านบน(ติดเพดาน) วิ่งจากซ้ายไปขวา ตอนนั้นตะโกนในใจ  เฮ้ยยยยยยยยย จากนั้นมาอยู่ใต้โต๊ะวางทีวี วิ่งจากซ้ายไปขวา   แล้วก็วิ่งจากปลายเตียงมาหัวเตียง(ตรงที่เป็นเก้าอี้รับแขก) ตอนนั้นคิดอยู่อย่างเดียวค่ะ งานเข้าแล้ว ตรู  - -" ก็เลยทำใจแข็งอีกรอบ  แล้วพูดออกไปเลยค่ะว่า เราจะขอนอนที่นี่คืนนี้กับอีกคืนสุดท้ายก่อนกลับไทย(ทั้งหมด 2 คืน) ถ้าอยากได้ส่วนบุญ กลับไทยเราจะทำบุญให้ แต่อย่ามาแสดงถึงการมีตัวตนอยู่ได้ม้ายยย  >_< อย่าแม้แต่นิดเดียวเชียวนะ  แล้วก็ไม่ต้องมาขอบคุณด้วย ถ้าไม่ทำตามนี้นะ ที่ตกลงกันไว้อดนะเว้ยคะ หลังจากนั้นก็ไม่เห็นอะไรแล้วค่ะ   เปิดทีวีทิ้งไว้ทั้งคืน  แถมตื่นตั้งกะตี 4   ไม่เคยตื่นเช้าขนาดนี้เลย พับผ่าสิ !!   -"- จากคุณ : นั่งอมยิ้มริมระเบียง เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 52 17:51:47

ความคิดเห็นที่ 39 จะเรียกว่าเจอหรือเปล่าไม่รู้นะ เรื่องมันเกิดขึ้นเมื่อประมาณปี 46-47 ไปเที่ยวทางเหนือกะเพื่อน 2 คนวิ่งรถมาบนเส้นทางสาย ดอยเต่า-ฮอด โอยมันง่วงไม่ไหวแล้วเวลาประมาณ ตี1-ตี2 มาถึงตรงไหนแล้วไม่รู้ รู้แต่ว่าข้างทางมีรถปิ๊กอัพและรถบรรทุกจอดนอนอยู่ 3-4คัน จึงถือโอกาสจอดนอนกะเขาด้วยเพราะว่าเพื่อนที่มาด้วยก็ไม่ไหวเหมือนกัน มันเอนบาะนอนหลับไปเป็นชั่วโมงแล้ว จอดนอนหลับไปพักหนึ่งก็สะดุ้งตื่นขึ้นมาเมื่อได้ยินคนมาเคาะกระจกรถด้านซ้ายที่มีเพื่อนเราหลับอยู่เราก็งัวเงียดูผ่านกระจกออกไปเห็นเป็นลุงคนแก่ๆท่าทางเหมือนคนสติไม่ดีหรือไม่ก็พวกขี้เมา พอดีตอนนั้นเพื่อนเราก็ตื่นขึ้นมาแล้วบอกให้เรานอนต่อเหอะเดี๋ยวมันจัดการเอง มันบอกว่าเดี๋ยวให้ตังค์ ห้าบาท-สิบบาท ก็ไปแล้ว เราเลยหลับต่อ พอเช้ายังไม่สว่างดีเราก็ตื่นขึ้นมาพบว่ามีรถเราจอดคันเดียวบริเวณนั้นเป็นข้างถนนไม่เห็นมีวี่แวว รถที่จอดเมื่อคืนเลย และก็คงไม่มีใครจอดด้วย คือมันจอดไม่ได้ง่ะ เราจอดคร่อมเส้นขาวริมถนนอยู่ เราเลยเปลี่ยนให้เพื่อนขับต่อพอออกรถมาได้หน่อยเราก็ถามเพื่อนว่า เมื่อคืให้ตังค์ลุงคนนั้นไปเท่าไหร่ เพื่อนมันถามกลับมาว่าลุงไหน เราก็เล่าให้ฟังมันฟันธงเลยว่าเราฝันไป และมันก็เอนเบาะนอนหลับจนเช้าเลยโดยไม่ได้ลุกขึ้นมาดูอะไรเลย เราได้ยินดังนั้นเลยเปิดกระจกรถและโยนเงินเหรียญ 5บาท ลงไปข้างทางแล้วก็อธิฐานในใจว่าให้ลุงนะ จากคุณ : จักรกล เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 52 18:01:06

ความคิดเห็นที่ 40 กระทู้นี้ไม่กล้าอ่านหมด..(แต่ทำไมกระทู้ที่แล้วอ่านได้อ่านดี 55+) ..กลัวว่าเดี๋ยวจะเก็บเอาไปหลอนตอนกลางคืนค่ะ.. จากคุณ : ไม่เอาอ่ะหนูกลัว (teddydoll) เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 52 18:43:26

ความคิดเห็นที่ 41 มาลงชื่อไว้ก่อน เด๋วดึกๆ เข้ามาอ่าน อ่านตอนดึกได้อารมณ์มั่กๆ อ่ะ จากคุณ : ouise เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 52 18:53:38

ความคิดเห็นที่ 42 .... หลงเข้ามาอ่าน... จะนอนหลับมั๊ยเนี่ย...ไม่มีคู่กับเขาซะนิ.. จากคุณ : Sugarbean เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 52 19:01:19

ความคิดเห็นที่ 43 มาเล่าด้วยค่ะ ปกติ เป็นคนไม่มีเซนท์ด้านนี้เลยนะคะ เรื่องนี้เกิดไม่นานนี้ ไม่ใช่ที่ไปเที่ยว แต่เป็นที่หอเนี่ยแหละค่ะ หนูอยู่หอสองคนกับแฟนหนู อยู่มาได้สามเดือน ไม่มีอะไร พอเข้าเดือนที่ 4 ก็เริ่มรู้สึกว่า ตอนกลางคึน มีคนเดินไปเดินมาในห้องตลอด ทั้งคืน ความรู้สึกของหนูคือหนูตื่นแล้วนะคะ  แต่ไม่ลืมตา กลัวคุณสุกี้น้ำ จะรู้ ว่าเราตื่นแล้ว เกรงใจเค้า 555 พอมาตอนเช้า คุณแฟนก็บอกเหมือนกันเลยว่า รู้สึกว่าเมื่อคืนมีคนเดินไป เดินมา เดินอ้อมเตียงที่เรานอนกัน  ไอเราก็แบบว่า .... งานเข้าแล้วตรู เลยคิดกันว่า เป็นเจ้าที่หรือเปล่า มาอยู่ตั้งหลายเดือน ยังไม่ไหว้เจ้าที่กันเลย วันนั้น เราก็เลยไหว้เจ้าที่กัน  หลังจากไหว้เจ้าที่ เหตุการณ์ก็สงบไปได้สักพัก ผ่านไปอีกประมาณสองสามอาทิตย์ เอาอีกแล้ว ทำไมรู้สึกแบบเดิมอีกแล้ว จนไม่ค่อยจะกล้าอยู่หอคนเดียว  แล้วจู่ๆดันไปรู้เรื่องเข้าว่า ที่หอนี้ เคยมีคนเสียชีวิต อยู่ห้องฝั่งตรงข้ามกับที่หนูอยู่เลย 555+ งานเข้าซิครับ ก็ไปทำบุญให้พี่คนนั้นเค้าเรื่อยๆ อ่อ บอกก่อนว่า ห้องนั้นที่เกิดเรื่อง ก็มีคนอยู่นะคะ แต่ช่วงหลังๆ หนูไม่ค่อยเห็นเค้าอยู่หอเลย จนวันที่หนูไปทำบุญที่วัดไผ่โรงวัว แล้วอธิษฐานกรวดน้ำ เอ่ยถึงสุกี้น้ำที่ห้องที่เท่าไร หออะไร ก็ว่าไป พอคืนนั้นกลับมานอนที่หอ หนูฝันเลยค่ะว่า หนูสงสัยว่ามีคนอยู่ที่ห้องนั้นไหม หนูก็เลยไปมองที่ตาปลา มองเข้าไป เจอคนนั่งหันหลังอยู่ กำลังนั่งกินอะไรอยู่สักอย่าง หนูยังบอกแฟนหนูเลยว่า ก็มีคนอยู่นิ แต่เป็นในความฝันนะคะ พอเช้ามาเล่าให้แฟนฟัง แฟนยังบอกเลยว่า สงสัยเค้ามาบอกว่า เค้าได้รับแล้ว หนูก็คิดว่า เรื่องมันจะจบแล้ว แต่..... ยังค่ะ ยังไม่จบ หลังจากคืนนั้น หนูก็ยังรู้สึกอยู่ว่ามีคนอยู่ในห้อง ที่ไม่ใช่หนูกับแฟน มีคืนนึง หนูได้ยินเสียงเหมือนตะคอกๆ อะไรไม่รู้ด้วย แต่หนูไม่ลืมตาดู หนูกลัวเค้ารู้ว่าหนูตื่นแล้ว 555+ สุดท้าย คุยกับแฟนว่า อยู่หอต่อไม่ได้แล้วละ ไม่ไหวแล้ว แฟนก็ให้แม่ไปให้พระที่บ้านดู ท่านบอกว่า พวกหนูหันเท้าไปทางประตู  แล้วมีอยู่วันนึง แฟนหนูใช้เท้าเปิดประตู เพราะมือถือของเยอะมาก เลยใช้เท้าถีบประตูให้เปิดออก หลังจากวันนั้นมานั่นแหละค่ะ เจอตลอดเลย สุดท้ายต้องไปขอคมา เจ้าที่ประตูห้องที่หนูอยุ่ แต่ ณ ทุกวันนี้ หนูก็ไม่อยู่ห้องนั้นแล้วนะคะ อยู่ไม่ไหวแล้วค่ะ ไม่ไหวจะเคลียร์ เหอะๆ เดี๋ยวไปทำท่านเคืองอะไรอีก หนูจะยุ่งเอา สรุปเลยกลายเป็นว่า ที่หนูเจออยู่เรื่อยๆ ไม่ใช่คูณสุกี้น้ำทีเสียในห้องตรงข้าม แต่เป็นเจ้าที่ห้องหนูเอง แต่ที่เราทำบุญไปให้เค้า เค้าก็ได้รับนะคะ พอหนูรู้ว่าเค้าได้รับ หนูก็รู้สึกดีใจ อิ่มใจนะคะ ปล.1 ห้ามใช้เท้าเปิดประตูหรือปิดประตูนะคะ เพราะประตูทุกที่มีเจ้าที่อยู่ มิน่า คนโบราณถึงว่า ห้ามใช้เท้าทำอะไรๆก็แล้วแต่ ปล.2 เวลาทำบุญ ถ้าเราเอ่ยถึงสถานที่ หรือนึกถึงเค้า ถึงแม้ว่าเราจะไม่รู้จักเค้า สุดท้ายบุญที่ทำให้ก็ถึงเค้านะคะ แต่ถ้าเราไม่นึกถึง ทำไปเค้าก็ไม่ได้รับค่ะ เรื่องของหนูอาจไม่น่ากลัวมาก  แต่....หนูกลัวค่ะ แหะๆ ^ ^ แก้ไขเมื่อ 08 ส.ค. 52 19:41:39 จากคุณ : ยัยนู๋แก้มป่อง เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 52 19:38:14

ความคิดเห็นที่ 44 ไม่เชิงว่าเจอค่ะ แต่อยู่ในเหตุการณ์ เป็นโรงแรมในหัวหินค่ะ ห้องนึงใหญ่เลย สองชั้น พักได้หลายคน (บอกแค่นี้ละกัน) ตอนที่มาครั้งแรกกับที่บ้าน เรานอนข้างล่างในห้องรับแขกกับน้องชาย เพราะห้องข้างบนเต็ม แล้วเราไม่อยากไปนอนเบียดกับน้องสาว ตอนกลางคืนสะดุ้งตื่นเพราะรู้สึกว่ามีคนอยู่แถวๆนั้น แล้วมองจ้องเรา แต่ก็ไม่กล้าลืมตานะ กลัวเจอของดี หลังจากนี้มีกลับไปพักอีก แต่ก็ไม่เคยเจออีกเลย จนกระทั่ง... ไปกับเพื่อนๆที่คณะค่ะ ไปกันเจ็ดคนได้มั้ง เฮฮามาก คืนแรกไม่มีอะไร แต่คืนที่สอง เพื่อนรักเมา เธอเป็นคนที่เมาแล้วเห็นตลอด คืนนี้ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น ด้วยความที่ไปหลายคน พอดึกแล้ว ก็กระจัดกระจายค่ะ บางคนเล่นไพ่ บางคนออกไปนั่งริมสระน้ำ รับลมทะเล พอเพื่อนรักเมาได้ที่ เธอก็ออกไปหาเพื่อนที่นั่งอยู่ริมสระ ซักพักมีโทรศัพท์เข้ามา เพื่อนอีกคนเสียงตื่นว่า "แกๆ ว. (ขอชื่อย่อละกัน คืนนั้นเจอกันหลายคน -*-) มันเดินลงทะเลไปแล้ว บอกจะว่ายน้ำไปอีกประเทศนึง" พวกเราก็วิ่งไปที่ทะเล ตอนกำลังจะถึงทางลงทะเล เราได้ยินเพื่อนอีกคน ชื่อย่อว่า พ. ละกัน ร้องขึ้นมาว่า "เฮ้ยยยย" แต่เราไม่สนใจแล้ว รีบลงไปหายัยคนที่กำลังจะว่ายน้ำก่อน พอลากกันขึ้นมาเสร็จ เรากับเพื่อนอีกสามสี่คนก็พา ว. ไปที่ห้อง ระหว่างที่เดินไป ว.เดินอยู่ข้างหน้ากับเพื่อนอีกคน ส่วนเรากับเพื่อนอีกสองคนเดินตาม (ไปช่วยพะยุงไม่ไหวค่ะคืนนั้น เราเป็นไข้สูงมาก) แล้วอยู่ดีๆ เพื่อนที่พะยุงข้างหน้าก็หันหน้ามาทำหน้าประมาณว่า ไม่ไหวแล้ว ชั้นกลัวมาก แล้วก็ยืนนิ่งทั้งคู่ พวกเราเลยถามว่ามีอะไรหรอ ว.แกก็เริ่มเลยค่ะ ชี้มือไปมา พูดเสียงโหวกเหวกว่า "แก ชั้นกลัว แกเห็นรึเปล่า ผู้ชายเสื้อแดงตรงต้นไม้ ทำไมเค้ามองชั้นอย่างนั้น บอกให้เค้าเลิกมองซะที" แล้วก็เริ่มร้องไห้เลยค่ะ เราก็แบบ อะไรของมันวะ หันไปดูก็ไม่เห็นมีอะไร เห็นแต่พี่ยามตั้งก๊งเหล้าอยู่ (มันอยู่ในที่ของอพาร์ทเมนต์ติดกัน) สุดท้ายก็ลากมันไปจนถึงห้องล่ะค่ะ มันก็พูดไม่หยุด จนเพื่อนๆเริ่มกลัว ต้องไปเรียกพวกที่ยังอยู่ริมสระกลับมาที่ห้องให้หมด พอเพื่อนอยู่ครบองค์ประชุม พ.ก็พูดขึ้นมาว่า ตอนที่พวกเราวิ่งไปหา ว. เค้าเห็นอะไรแปลกๆ แล้วจู่ๆเพื่อนอีกคนก็บอกว่า ต้องเห็นเหมือนกันแน่ๆ คุยกันแล้วสรุปคือ เค้าเห็นเพื่อนคนที่โทรมาเรียกอะค่ะ เห็นครั้งแรกยังอยู่ตรงสระน้ำ แต่พอหันไปมองอีกครั้ง เพื่อนคนนั้นลงไปอยู่ในทะเล พยายาทลาก ว. ขึ้นจากน้ำแล้ว ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ เพราะตรงสระน้ำมันสูงกว่าทะเล 2-3 เมตรได้ เพื่อนคงไม่กระโดดลงไปที่ชายหาด แล้วถึงจะกระโดดลงไป มันก็เป็นไปไม่ได้ที่ภายในพริบตาเดียว มันจะวิ่งไปถึงตัว ว. ที่อยู่ในทะเลน้ำลึกระดับเอวได้ อ่อ เพื่อน ว. เนี่ย แกเป็นคนมีเซ้นต์นะคะ ปกติก็เห็นบ้าง แต่เวลาเมาเนี่ย เห็นเกือบทุกครั้งเลยค่ะ เพื่อนๆจะกลัวมากเวลามันเมา เพราะไม่ค่อยจะมีใครอยากอยู่ในเหตุการณ์อย่างนี้กัน ผลจากทริปนั้นคือ เราไม่เคยกลับไปพักที่นั่นอีกเลย จากคุณ : ...hamster... เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 52 20:11:11

ความคิดเห็นที่ 45   เหอๆๆ แม้จะน่ากลัวแต่ก็ต้องขอบคุณเค้า ที่ไปช่วยเพื่อนคุณนะ เหอๆๆ จากคุณ : เจเลเป้ เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 52 20:33:44

ความคิดเห็นที่ 46 ไม่อยากเจอ ก่อนนอนจะสวดพระคาถาชินบัญชรทุกคืน แก้ไขเมื่อ 08 ส.ค. 52 21:30:33 จากคุณ : ย้ำคิดย้ำฝัน เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 52 21:29:47

ความคิดเห็นที่ 47 เพื่อนมานอนด้วยที่ห้องของหนูที่พักอยู่ทุกวันนี้เนี่ย เค้าบอกว่าเห็นเหมือนเป็นเงา เดินผ่านหน้ากระจก บางคนก็บอกว่า เห็นคนนั่งอยู่ปลายเตียงตอนเค้าเคลิ้มๆ จะหลับ  หนูก็ว่าเพื่อนง่วงมากละสิ  จินตนาการไปเองรึเปล่า หนูก็ไม่ได้เล่าให้เพื่อนฟังว่า ที่นี่มีแทบทุกรูปแบบของการเสียชีวิต กระโดดตึก อีกทั้งที่เป็นลม ไม่ก็เมา แล้วลื่นล้มในห้องน้ำ  ผู้หญิงที่มาพักกับลูกค้ากินยาฆ่าตัวตาย ที่รู้ แล้วอีกที่ไม่รู้มีมากน้อยแค่ไหนอีกไม่นับ ตัวลิลลี่ไม่เคยเจอนะคะ  แล้วก็ไม่อยากเจอ  ไม่ใช่ว่าไม่กลัวนะ  กลัวค่ะ แต่ด้วยความที่อยู่มาเกือบ 7 ปี  เลยรู้สึกเคยชินมากกว่า   ที่นี่เปิดมา 23 ปีแล้วค่ะทั้งตึกเล็กตึกใหญ่   เจ้าของทำบุญทุกๆ เดือนพฤศจิกายนของปี วันไหนลงไปห้องฟิตเนสแล้วลูกค้ายังไม่มี  เล่นอยู่คนเดียวก็เหวอๆ เหมือนกัน   แอบหลอนตัวเองซะงั้น   จากคุณ : สาวหน้าใส เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 52 21:33:47

ความคิดเห็นที่ 48 ตั้งแต่เด็กมีความเชื่อที่คิดเอาเองว่า ถ้าเรานอนปิดไฟให้หมด  ให้มืดๆ เข้าไว้ ผีก็จะไม่เห็นเรา เราก็จะไม่เห็นผีค่ะ   ใช้ได้ผลรึเปล่าไม่รู้ ก็ไม่เคยเจอสักครั้ง เพราะทุกวันนี้ก็ยังทำแบบนั้นอยู่ 555+   *ตอนไปบ้านซับเศรษฐีของคุณอาลอง คุณพ่อหมู xebec หนูเข้านอนคาดว่าน่าจะเป็นคนสุดท้ายเลยค่ะ  ปิดไฟหมดเลย ทั้งในบ้าน หน้าบ้าน ห้องน้ำข้างนอกข้างใน   มือตื๋อ  หลับสบ้ายสบาย   ไปครั้งล่าสุด  สักเกือบเที่ยงคืนได้  หนูไปยืนจ้องตากับหมาดำที่หลังบ้าน   สายตาสั้นไงคะ มองให้ชัดๆ ว่านี่หมาสีอะไร  เอ  เมื่อหัวคำมันหมาสีขาวนี่นา  แล้วเจ้าหมาดำนี่ ไปไงมาไงอ๊ะ  มันก็จ้องหนู น่ากลัวค่ะ  วิ่งหนีมาหน้าบ้านเลย จากคุณ : สาวหน้าใส เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 52 21:51:01

ความคิดเห็นที่ 49   โหมีหลายเรื่องเลย (แต่เราไม่เห็นหรอก เพื่อนที่นอนด้วยเห็นอ่ะ) เอาเรื่องที่ระยองก่อน เราไปนอนในรีสอร์ทขนาดเล็กชื่อ.....นอนกัน 3 คน เรานอนริมซ้าย เพื่อนหญิงนอนกลาง และแฟนเขานอนริมอีกข้าง เข้าประตูไปก็เตียงเลย ปลายเตียงก็โต๊ะวางทีวี เรียกว่าห้องเล็กกระทัดรัดมาก เริ่มเลยดีกว่า....ตอนกี่โมง ไม่รู้ รู้แต่ว่าได้ยินเสียงผู้หญิงกะผู้ชายทะเลาะกัน แล้วก็มีผู้ชายใส่ชุดหมี(เหมือนช่าง) ตัวใหญ่ๆ เดินออกมาจากห้องน้ำ แล้วก็เดินผ่านปลายเตียง แล้วก็เดินผ่านหน้าประตูไปเลย .....อึ๋ย.... ผ่านมาไม่ถึงปี เพื่อนที่ออฟฟิศไปอีก ที่เดิม คราวนี้ 3 ห้องรวด ห้องแรก...เวลาเกือบหกโมงเย็น ยังไม่มืดเลย เห็นเงาตะคุ่มๆที่ประตู (เป็นประตูกระจก) เป็นเงาเหมือนผู้ชาย ตัวใหญ่ๆหน่อย เดินไปเดินมา เพื่อนก็ลงจากเตียง เปิดประตูดู อ้าว...ไม่เห็นมีใครเลย ซึ่งถามว่าจากเตียงกับประตูเดินแค่ก้าวเดียวเท่านั้น และเป็นรีสอร์ทขนาดเล็กมาก ออกมาหน้าห้องก็เห็นทั้งรีสอร์ทแล้ว ทำไม๊ ทำไม เขาถึงเดินได้เร็วเหมือนหายตัวเลย ห้องที่สอง....เวลาใกล้หกโมงเย็นแล้ว (น่าจะโดนต่อจากห้องแรก) เห็นเงาผู้ชายตัวใหญ่ๆ ยืนหน้าประตู พอออกมาก็ไม่เห็นใคร (อีกแล้วครับท่าน) ห้องที่สาม....เวลาเกือบ 2 ทุ่มแล้ว เป็นห้องของพี่คนหนึ่ง เขาเอาพี่เลี้ยงเด็กไปด้วย ตอนเขาออกมาทานข้าวกะเพื่อนๆ ก็ให้พี่เลี้ยงรออยู่ในห้อง พอกลับเข้าห้องพี่เลี้ยงก็เล่าว่า....มีผู้ชายคนหนึ่ง ใส่ชุดหมี มาเคาะห้อง บอกว่าจะมาซ่อมแอร์ พี่เลี้ยงก็บอกว่า แอร์ไม่เสียนี่นา แล้วก็เลยบอกว่า เดี๋ยวจะไปตามเจ้าของห้องก่อนนะ ผู้ชายคนนั้นก็ไม่บอกไร เดินหายไปเลย โอย.....ตั้งแต่นั้นมา ไม่กล้ากลับไปที่รีสอร์ทนั้นอีกเลย....อึ๋ย!! จากคุณ : โนวาร่า เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 52 22:01:07 A:58.64.106.196 X: TicketID:224722

ความคิดเห็นที่ 50 คห.44 นี่... ใช่โรงแรมในซอย ทางไปเขาตะเกียบป่ะตะเอง?? จากคุณ : Mr_GenoCide เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 52 22:22:45

ความคิดเห็นที่ 51 เรื่องที่จะเล่า เกิดสมัยเด็กๆค่ะ ตอนนั้นที่บ้านซื้อคอนโดไว้ให้ใกล้โรงเรียน วันแรกที่ไปอยู่ กลางวันก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่พอตอนกลางคืน ด้วยความที่เรานอนตื่นง่าย ตื่นขึ้นมากลางดึก ได้ยินเสียงตึก .. ตึก .. ตึก ครั้งแรกก็คิดว่าหูแว่วไปเอง เลยสวดมนต์ไปรอบนึง เอ๊ะ เสียงเงียบไป โล่งใจ หูแว่วไปเองแน่ๆ พอเริ่มหลับตา จะนอนต่อ ในใจก็คิดว่าสวดมนต์แล้ว ผีไม่มาหรอก หูแว่วๆๆ แต่ !!! มาอีกแล้วค่า ตึก .. ตึก .. ตึก คราวนี้อยู่ไม่ได้แล้ววว โกยอ้าวเลยค่ะ วิ่งไปหาพ่อ เพราะพ่อเนี่ยพระเยอะ เหอๆ พ่อเลยบอกให้เราไปนอน เดี๋ยวพ่อไปดูเอง เราก็เดินกลับมา เอาผ้าห่มคลุมโปง แต่ก็แอบมองว่าพ่อทำอะไร พ่อเราค่ะ เดินไปทางต้นเสียง ตึก .. ตึก .. ตึก มือข้างนึงถือไฟฉาย มือีกข้างถือพระ พ่อชูพระนำหน้าเดินเหมือนในหนังเลยค่า 555 ใจนึงตอนนั้นก็กลัวผี อีกใจก็ฮาพ่อ ไหนบอกไม่กลัวผี แล้วเราก็หลับไป ตื่นขึ้นมาตอนเช้า แม่บอกว่าเสียงเมื่อคืน รู้แล้วว่าเสียงอะไร ลองทายกันดูสิคะ มันคือ เสียงตู้เย็นค่ะ 555 ด้วยความที่ที่บ้านไม่มีตู้เย็นเล็ก (ที่อันเล็กๆคล้ายๆตู้เซฟน่ะค่ะ) แล้วก็ไม่เคยนอนในห้องที่มีตู้เย็นมาก่อน พอดึกๆ ตู้เย็นมันตัดค่ะ เสียงมันดังตึก .. ตึก .. ตึก ที่กลางวันไม่ได้ยิน เพราะเราเปิดทีวี นั่งเล่น เสียงมันเลยดังกลบเสียงตู้เย็นไป พอกลางคืน มันเงียบ เสียงตู้เย็นเลยชัดขึ้นมา แถมเราเอาเรื่องพ่อชูพระไล่ผีไปล้อ พ่ออายเลย อิอิ บอกไม่คิดว่าเราเห็น คือ พ่อก็กลัวเหมือนกันว่าสงสัยผีนี่เฮี้ยน ขนาดเราสวดมนต์ไล่มันยังไม่ไป พ่อเลยนิมนต์มาทั้งหมดเลยค่ะ เบญจภาคี 555 แต่คืนนั้นพ่อบอกไม่ได้ยินเสียงนะคะ พ่อบอกว่าคิดว่าพระดี ผีเลยไม่มา 55 คิดได้นะพ่อเรา ตอนเช้าพ่อเล่าให้แม่ฟัง แม่สังเกตเอา เลยเพิ่งรู้ค่ะ ตั้งแต่นั้นมาไปไหน ถ้าต้องนอนห้องที่มีตู้เย็น บ้านเราเป็นต้องนึกถึงผีตู้เย็นทุกครั้งไปเลยค่ะ แก้ไขเมื่อ 08 ส.ค. 52 22:41:26 จากคุณ : - TezcatlipocA - เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 52 22:36:40

ความคิดเห็นที่ 52   ยอมรับว่ากระทู้นี้อ่านแบบข้ามๆ กลัวอะ เพราะเป็นคนคิดมาก และจินตนาการดีมากเกินไปด้วย อิอิ น่ากลัวๆ จากคุณ : ^GinepZa^ เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 52 23:07:29

ความคิดเห็นที่ 53   เพื่อนเรา เจ้าหล่อนไปเที่ยวที่ญี่ปุ่นคนเดียว และนอนโรงแรมเดียวกัน 3 คืน ซึ่งเป็นโรงแรมสภาพเก่าหน่อย เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อเธอไปถึงที่โรงแรม พอเข้าไปในห้อง ก็เปิดเพลง MP3 ฟัง กะว่า ขอนอนพักสักครู่ แล้วจะไปอาบน้ำแร่ที่มีอยู่ทั่วเมือง ตัวห้องเป็นห้องขนาดเล็ก หัวเตียงก็อยู่ติดผนังห้อง พอหัวถึงหมอน ก็รู้สึกว่าเตียงตัวเองสั่นเล็กๆ...โยกหน่อยๆ... ก็คิดว่าแผ่นดินไหว รึเปล่า ตายแล้ว ทำไงดี เพื่อนก็เลยลงจากเตียงมานั่งที่พื้น พื้นก็ไม่สั่น แอ่....รึว่าจะเป็น.....เอาว่ะ สวดมนต์หน่อย แล้วก็นอนต่อ ได้ผล มันหยุดแล้ว เย้!!! นอนดีกว่า ผ่านไปไม่ถึง 2 ชม. มันสั่นอีกแล้ว.....ฮือ ฮือ ไรว่ะ สวดมนต์แล้วนะเฟ้ย...จะเอาไง ก็ได้ ก็ได้ ไปอาบน้ำก็ได้ เพื่อนเลยออกไปอาบน้ำแร่ เดินเล่นรอบเมือง กลับมาก็ช่วงกลางคืน กำลังจะเข้านอน ตาย ตาย ตาย คราวนี้ เตียงสั่นกว่าเดิมอีก แม่เจ้าโว้ย...เฮี้ยน จริงๆๆ เพื่อนบอกว่าอยู่ไม่ได้แระ แต่จะเอาไงล่ะ ดึกแล้วด้วย จะเปลี่ยนโรงแรมก็นะ เลยเป็นอันว่า นอนก็นอน สวดมนต์ทุกบทที่จำได้ และแล้วคืนนั้น สั่นทั้งคืน มีพักยกบ้างก็ไม่นาน พอเช้ามา ออกมาหน้าห้องกำลังจะไปทานข้าว...ป๊าดดดดด ข้างห้องมีผู้หญิงกะผู้ชาย ตาคล้ำ เดินโซซัดโซเซ ออกมาอ่ะ ตกลงเพื่อนเราเจอ R หรือ X Triiler ล่ะ ทุกวันนี้ยังคิดกันอยู่เลย ว่าทำไม๊ ทำไม ไม่ชวนเราไปด้วย จะได้พิสูจน์!! ซะเลย ว่าเป็นอะไรกันแน่....เหอะ เหอะ จากคุณ : โนวาร่า เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 52 23:08:22 A:58.64.106.196 X: TicketID:224722

ความคิดเห็นที่ 54 บรื๋อ....แต่ละเรื่องน่ากลัวทั้งนั้น จะว่าไปเหมือนว่าจะเคยเจอเรื่องแบบนี้ครั้งนึง... ตอนไปเชียงใหม่เมื่อซัก 10 ปีที่แล้วตอนนั้นน่าจะอยู่ซีก ปี2 มั๊ง... แบบว่าไปนอนโรงแรมนึง (จำไม่ได้แล้วว่าโรงแรมอะไร) แต่อยู่ในเมืองใกล้ๆ Night Bazaar นอนกับพี่คนนึงซึ่ง คืนนั้นพี่คนนั้นบอกว่าให้นอนไปก่อนเค้าจะออกไปหาเพื่อนแล้วกลับดึกๆ... หลังจากหลับไปตอนราวๆ 4-5 ทุ่ม ซักเที่ยงคืนรู้สึกตัวขึ้นมา แล้วรู้สึกว่าตัวชา ขยับไม่ได้ประหนึ่งโดนผีอำ.. ซักพักขยับได้ก้อนอนต่อ แล้วก้อเป็นแบบนี้อีก 2-3 ครั้งจนราวๆ ตี 3 รู้สึกว่ามีคนอาบน้ำในห้องน้ำ แล้วเดินออกมา เห็นเงาคนเช็ดผม แล้วก้อมานั่งที่เก้าอี้ริมหน้าต่าง ตอนนั้นก้อคิดว่าน่าจะเป็นพี่ที่ไปด้วยกันกลับมาแล้ว... ก้อไม่ทันคิดไรแล้วก้อหลับไป เช้าอีกวัน... ถามพี่ที่นอนด้วยว่าเมื่อคืนกลับมาตอนไหน... เค้าบอกว่า... กลับมาตอนเช้า... แล้วเมื่อคืนชั้นเห็นเงาใครฟ่ะ... จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 52 23:19:59

ความคิดเห็นที่ 55 มีเมื่อคืนเลยค่ะ เราเป็นคนที่เคยโดนหลอกผีมาเยอะ สมัยเด็กๆ เลยกลัวผีมากแต่ไม่เคยเจอโดยเฉพาะกับญาติๆที่เสียชีวิตไปแล้ว ที่นอนที่บ้าน ที่ยังสร้างไม่เสร็จ (บ้านก็ของตัวเองนะคะ แต่ไม่ได้อยู่มาเกือบสิบปีแล้ว) สีก็ยังไม่ได้ทา คือสร้างคาไว้ ไม่เสร็จ น้ำไฟไม่มี ที่ใช้อยู่คือดึงมาจากบ้านพ่อแม่ ที่อยู่ข้างๆ ส่วนที่ทำไมมันร้าง ก็เพราะเราไปเรียนต่อแล้วก็อยู่เมืองนอกเลยไมได้กลับมาบ้านอีก เพิ่งกลับมาเมืองไทย หลังจากหลายปี นอนไปก็หลายคืน ไม่เจออะไรเลย คุณยายก็เพิ่งเสียไป จัดงานศพผ่านไปอาทิตย์กว่าและ คุณแม่ยังสวดมนต์หาคุณยายอยู่เลย บอกว่าอยากขอหวย เอ่อ งวดที่แล้วก็ไม่ถูกน่ะเนี่ย แต่เมื่อคืน เราเข้านอนตอนตีสี่ค่ะ กว่าจะง่วงได้ก็ตีสี่กว่าๆแล้วมั้ง อยู่ดีๆ ในขณะที่ตาเรายังปิด แต่เริ่มชินกะแสงที่ส่องเข้ามาแล้ว (มีหน้าต่างสองด้านเลย ห้องนอนอยุ่ชั้นบนสุด) ตีสี่แสงเริ่มมาละ เราร้อนก็เลยกะจะพลิกตัวไปกดปุ่มพัดลมเพราะร้อน พลิกไปทางซ้ายก่อน (แต่พัดลมอยู่ทางขวา ไม่รู้ทำไมปกตินอนหงายเวลาพลิกตัวจะตะแคงซ้ายทุกที) เอาละซี รู้สึกว่าที่หัวนอน (ตรงโต๊ะคอม) มีเงาอะไรอยู่ (นั่งค้ำหัวเราอยุ่เลยนะ นั่งแบบชันเข่าข้างนึง) เราเอาผ้านวมหนาๆ ปูนอนบนพื้นนะ พอรู้สึกอย่างนั้น มีเงามืดพาดบังแสงอยู่ เราก็ปิดตาปี๋ต่อไป เงานั้นก็ลุกมาเดินอ้อมนะ ไม่ได้ก้าวข้ามตัวเรา แต่อ้อมไปทางปลายเท้าเราเพราะว่าเรารู้สึกเลยว่าแสงที่เข้ามาทางช่องหน้าต่างด้านนั้นโดนบัง แล้วเงานั้น (ตอนนี้เราเห็นละ ว่าเป็นผู้ชาย ยังเด็กๆอยู่เลยดูก้องแก้ง) อ้อมไปนั่งข้างพัดลมเรา ทีเราจะเปิด เราก็เอียงหน้าตามไปเรื่อยๆ ตายังปิดอยู่นะ กลัวไม๊ กลัวมากๆๆๆๆ โคตรกลัว คิดในใจว่า ตายแล้ว คนงานพม่าเข้ามาในห้องเราแน่เลย เมื่อคืนนอนแล้วลืมกดล็อกประตู บ้านข้างๆเรา เขาทำอพาร์ทเมนต์ สูงขึ้นมาถึงชั้นดาดฟ้าบ้านเราแล้ว คงมีคนเข้ามา ตอนนั้นคิดแค่ว่าเป็นคนงานนะ  ตีสี่มันเริ่มมีแสงแล้ว เอาละกรู ได้ถูกฆ่าทั้งที่ไม่โดนข่มขืนแน่แล้ว (ยังคิดไปได้) เท่านั้นแหละเราหันไปทางขวา เห็นเงานั้นนั่งชันเข่าเหมือนเดิม อยู่ข้างพัดลม (ไอ้เราก็มีพัดลมตั้งสองตัว เวอ่ร์มะ คือเอาไว้สลับกันใช้ อันไหนร้อนก็ปิด มาต่อๆ เราไม่ได้อยากกดพัดลมแล้ว แต่แบบมือขวามันจะไป เราไม่อยากยื่นไปเลย เรากลัวโดนจับ ไม่รู้ถ้าเงานั้นจับแล้วจะเป็นยังไง กลัวๆๆๆ รู้สึกมือแข็งๆ นะ จะหดกลับก็ไม่กล้า จะยืดไปเปิดพัดลมก็กลัว เรานอนปิดตาน้ำตาจะเล็ดแล้ว กลัวววว ตอนนั้นรู้สึกตัวแล้วว่าตัวเองไม่ได้หลับ เริ่มท่องนะโมทันที นะโมตัสสะ ทอ่งไปเรื่อยๆ สามจบแล้ว เงาก็ยังอยู่ (มาคิดได้ทีหลัง นี่ไม่ใช่คาถากันผีนะวุ้ยตรู) เงานั้นน่ะ เป็นเด็กผู้ชายแน่ๆ ไม่สูงเท่าไหร่ ผอม และที่เราเห็นได้ชัดจากแสงรางๆ ตีสี่กว่าๆนั้นคือหัวเกรียน (แอร๊ยยย ไม่ใช่เกรียนพันทิปนะ) แล้วเงานั้นพูดนะ พูดเลย มันพูดอยู่ในหัวเรานี่ ว่าฉันไม่กลัว ฉันไม่ใช่พวกเธอ เราก็ทะลึ่งพรวดขึ้นมานะ เหมือนนอนหลับฝันว่าตกหลุมแบบนั้นอ่ะ แต่ไม่ได้กระเด้งตัวขึ้นมา แล้วเชื่อไหมว่า นาฬิกาบอกเวลาตีห้าตรง เสียงโหยหวนจากมัสยิดที่ไม่ไกลดังมาพอดี เข้ากั๊นเข้ากัน ฮือๆๆๆ แล้วตกลงไม่ได้นอนเลยเรา ลุกขึ้นมาเปิดไฟ รอจนฟ้าสว่าง แล้วถึงนอน กว่าจะตื่นอีกที สิบโมงกว่า คืนนี้เรากะว่าจะนอนหัวค่ำหน่อย กลัววววว คงไม่รอให้ถึงตีสี่นะ แหะๆ จากคุณ : เที่ยวไปสองไพเบี้ย เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 52 23:25:31

ความคิดเห็นที่ 56 เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อ สมัย tsunami ที่ภาคใต้ หลายปีที่ผ่าน มา ตอนนั้นเรียน มหาลัย ที่ จ นครศรี ค่ะ พอดีเรียนพยาบาล เเล้ว อาจารย์ก้อมีโครงการไป ช่วยเหลือ ผู้ประสบเหตุ จากภัยธรรมชาติ เราก้อไป ที่กระบี่ พังงา ภูเก็ต ช่วยชาวบ้าน เจอทั้ง คนที่มีชีวิต และไม่มีชีวิต มากมาย พอค่ำสักสองสามทุ่ม เราก้อนั่งรถกลับนครศรี เพื่อไปฝึกงานต่อในวันรุ่งเช้า เราฝึกงานที่ รพ แห่งหนึ่งใน นครศรี อยู่หอ พักข้าง รพ ตอนนั้นประมาณตีสี่ เราก้อนอนอยู่ยังไม่หลับ เพราะกลับมาถึงที่หอพักก้อ เกือบเที่ยงคืน แล้วต้องเตรียมตัวเตรียมการเเสดง  เพือ present ในวันถัดไป เรานอน กะเพื่อนเรา สามคน เรานอนใกล้คนชื่อ ต้า ถัดไป ก้อ ก้อย กะกุ้ง เรานอน กำลังจะหลับ เเล้ว เรานอนหงาย เอามือวางไว้บนหน้าอก เวลาคนนอน ปลายเท้าเรา จะชี้ขึ้นใช่มะ เราก้อนอนๆ ไปรู้สึกว่า มีคน สองคน มาเหยียบปลายเท้าเรา กดลงๆ เราก้องง แล้วก้อคิดว่า ไอ้ก้อย กะกุ้ง มาเล่นอะไรเนี่ย เหยียบเท้าชั้นทำไม คนยิ่งจะรีบๆนอน เวลานอนมีน้อย พอหันหน้ากลับมา คนที่นอนใกล้ๆ ต้า ถัดไปก้อก้อย ต่อไปก้อ กุ้ง แล้วใคร เหยียบเท้าชั้นอยู่อ่ะ ค่อยๆ หันหน้ากลับมา ก้อเจอ ผู้ชายสองคน คนแรกร^ปร่างงท้วม ผิวดำแดง ใส่ชุดไทยราชประเเตน คนที่สอง ยืน อยู่เยื้องคนแรกด้วยท่าทีนอบน้อม แล้วเราก้อนึกว่า ผี เราก้อสวดชินบัญชร สวดกี่รอยๆ ก้อไม่ไป แล้ว จู่ๆ เราก้อได้ยินเสียง ดังก้อง ทั้งๆที่ ไม่มีใครพูด เราได้ยินเสียงผู้ชาย พูดแบบมีอำนาจ น่าเกรงขาม ว่า อย่านอน ท่านี้อีก ท่านี้ ท่านอน คนตาย   เราก้อได้เเต่ พร่ำว่า ขอโทษค่ะ หนูจะไม่นอน ท่านี้อีกแล้ว แล้วท่านก้อหายไป คาตาเลย ขนลุกตั้งแต่ปลายเท้า ยันศรีษะ ตอนเช้าเราก้อไปถาม เจ้าของบ้านเช่าว่า ศาลพระภูมิอยู่ไหน จะไปไหว้เจ้าที่ เจ้าของบ้านบอกไม่มี ทีนี่ไม่มีไรทั้งนั้น แต่เราไม่เชื่อ ที่เราคิดว่าเป็นเจ้าที่ เพราะ เราเคยเห็นผี เวลาเราเห็น เรา จะสวดชิญบัญชร แล้วเค้าจะไป แต่นี่สวดเเล้วไม่ไป แสดง ว่าไม่ใช่ธรรมดาแน่ๆ สามวันผ่านไป เราก้อมาเจอลูกสาวเจ้าของบ้านก้อได้ นั่งคุยกะเค้า ก้อคุยไปเรื่อยๆ จนเข้าเรื่อง เลยถามพี่เค้าว่า บ้านพี่มีเจ้าที่เหรอ พี่บอกมี เราเลยถามว่า ผู้ชาย ใส่ชุดไทยราชประเเตน ผิวดำแดง ท้วมๆ ใช่ไหม คะ พี่อ้าปากค้าง แล้วถามว่า น้องรู้ได้ไง เลยบอกพี่เค้าว่า เคยเห็น พี่เค้าบอก ว่าเค้าไม่เคยเห็นเเต่ที่รู้คือซินแสบอก ตั้งเเต่นั้นมา เราก้อไม่เคยนอนหงาย เอามือ พาดอก อีกเลย ขอบคุณท่านที่มาเตือนค่ะ แก้ไขเมื่อ 09 ส.ค. 52 17:04:46 จากคุณ : สบายดีไหม เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 52 23:54:38

ความคิดเห็นที่ 57 เรื่องนี้เป็นสมัยอยู่ม.ปลายค่ะ ครูพาไปเข้าค่ายที่อุตสาหกรรมมาบตาพุด ไปพักบ้านสำหรับรับรองแขกซึ่งมีอยู่หลายหลังติดทะเล บ้านที่เราพักเปิดประตูหลังออกไปจะเจอกับต้นไม้มีผ้าสีผูกไว้ พอทานข้าวเย็นเสร็จ เราก็พาเพื่อนไปดู  ชี้ๆแล้วถามว่า เค้าผูกทำไมวะ สงสัยมีผี เพื่อนก็ฮาๆกันไป      พอตกกลางคืน ในห้องมันนอนได้แค่ 3คน แต่มีเพื่อนมาแจมเลยเลื่อนเตียงมาติดๆกัน ทีนี้เรานอนติดกับห้องน้ำ      สักพักได้ยินเสียงคนกดชักโครกค่ะ เราเลยลืมตาเห็นแสงไฟลอดมาจากระแนงประตูห้องน้ำ เราเลยลุกขึ้นมานั่งดูว่าใครเข้าห้องน้ำแล้วก็หันไปมองเพื่อน ปรากฏว่า นอนอยู่กันครบค่ะ สักพัก เราได้ยินเสียงประตูห้องน้ำเปิด ดัง แอ๊ดด   ไฟในห้องน้ำก็ส่องมาข้างนอกเต็มๆ แต่เราไม่เห็นมีใครเดินออกมาเลยค่ะ ธรรมดาถ้ามีคนเข้าจริงๆต้องเดินผ่านเราอยู่แล้ว แต่ไม่มีใครเดินออกมาเลย แถมยังกดปิดไฟให้เราด้วยอีกต่างหาก    รุ่งเช้าไปเล่าให้เพื่อนๆฟัง ไม่มีใครมานอนห้องเราเลย ไปนอนห้องคนอื่นหมด ไม่มีใครกล้านอนแล้ว แก้ไขเมื่อ 09 ส.ค. 52 09:17:42 จากคุณ : เด็กมฟล. เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 52 23:55:08

ความคิดเห็นที่ 58 อีกเรื่องค่ะ เกิดขึ้นเดือน มิถุนายน นี้เองค่ะ เรากับครอบครัวไปเที่ยวที่อัมพวากันค่ะ ทีนี้ตอนกลางคืนไปนั่งเรือชมหิ่งห้อย แต่ไม่ได้ไปคลองสายใหญ่นะคะ เราล่องไปตามคลองสายเล็กๆทางเดียวกับที่พักค่ะ พอมาถึงบ้านหลังนึง ซึ่งมีต้นลำพูหน้าบ้านมีหิ่งห้อยเกาะอยู่ พี่คนเรือเลยจอดให้ชม  บ้านนี้ไม่มีคนอยู่นะคะ ปิดไฟมืดหมด แถวนั้นก็ไม่มีแสงไฟเลยแถมไม่มีผู้คนด้วย เรานั่งอยู่หัวเรือแถวแรกเลย สักพักได้ยินเสียงเด็กหญิง-ชาย คุยกันค่ะ เด็กหญิง... นี่ๆ พวกเค้ามาทำไรกันเหรอ (คงหมายถึงเรากับครอบครัว) เด็กชาย... อ๋อ เค้ามาดูหิ่งห้อยกันไง เด็กหญิง... อ๋อ แล้วก็หัวเราะ คิกๆ เราก็งง เพราะว่า แถวนั้นไม่น่าจะมีเด็กอยู่เลยเพราะบ้านก็มืด ไม่มีไฟด้วย แถมไม่มีท่าน้ำด้วย เราได้ยินเสียงชัดเจนเหมือนเด็กสองคนนี้อยู่ใกล้ๆเราเอง เพราะบรรยากาศมันเงียบด้วยแหละค่ะ พอถึงที่พัก เราไปถามครอบครัวเรา ปรากฏไม่มีใครได้ยินอะไรเลย  เราก็เถียงว่า เสียงนั่นอยู่ใกล้ๆเรือเองนะ แต่แม่เราบอกว่า สงสัยหูแว่ว แต่เราได้ยินจริงๆค่ะ แต่ก็ยังสงสัยถึงวันนี้ว่า หูแว่วไปเองหรือเปล่า แก้ไขเมื่อ 09 ส.ค. 52 00:23:32 แก้ไขเมื่อ 09 ส.ค. 52 00:23:09 จากคุณ : เด็กมฟล. เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 52 00:06:18

ความคิดเห็นที่ 59 อ่านได้ครึ่งทาง เริ่มหวิวๆ อ่ะ เปลี่ยนใจเก็บไว้อ่านพรุ่งนี้ดึกๆ ต่อดีกว่า อุ๊ย ยิ่งหวิว ยิ่งอ่านนะเนี่ย เร้าใจมั่กๆ ไปนอนก่อนดีฝ่า จากคุณ : ouise เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 52 00:07:32

ความคิดเห็นที่ 60 เราเป็นคนที่กลัวผีนะ เชื่อเรื่องพวกนี้เป็นตุเป็นตะ แต่เวลาที่ต้องอยู่คนเดียว หรือเวลาที่เจออะไรแปลกๆ ก็ไม่เคยคิดเลยว่าจะเป็นผี ครั้งนึง เคยต้องนอนคนเดียว เพราะที่บ้านไป ต่างจังหวัด กันหมด เพราะญาติเสีย มั่นใจและมั่นใจมากๆว่า เราล๊อกทุกอย่างหมดแล้ว ได้ยินเสียงคนเคาะประตูหน้าห้องนอนเราเลย 3 ครั้ง แต่ใจเราคิดว่า แมวแน่นอน ทั้งๆที่ บ้านเราไม่เลี้ยงสัตว์ใดๆทั้งนั้น ไม่มีแม้แต่หนูจะเล็ดลอดมาได้ แต่เราคิดแบบนั้น เราก็สบายใจตัวเอง ไม่หลอน ไม่ต้องพะว้าพะวง นอนหลับสบายคะ จากคุณ : Navyseal29 เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 52 00:50:28

ความคิดเห็นที่ 61 มีอีกเรื่องที่อยากจะเล่าคะ ครั้งนี้ไม่ได้เจอผีเหมือนกัน แต่เจออะไรที่แปลกกว่านั้นมากๆ ช่วงสมัยเรียน เราอยู่คอนโด แฟนก็จะมาหาประจำนี่แหละคะ แต่ขอบอกเลยว่า อยู่มาไม่เคยเจออะไรเลย วันนั้นจำได้ว่า นั่งดูทีวีกับแฟนอยู่ดีๆ มารู้อีกที แฟนเราเอาเท้าเหยียบต้นคอเราไว้ แล้วเราได้ยินเค้าถามว่า จะไปหรือไม่ไป จนเราบอกเค้าว่า นี่เราเองนะ ทำอะไรแบบนี้ เค้าเล่าให้เราฟังว่า อยู่ดีๆ เราก็ลุกขึ้นไปยืนรำ อยู่หน้ากระจกในห้องน้ำ แล้วรำสวยซะด้วย แล้วเราหันมามองหน้าเค้าตลอดเลย จนเค้ากลัว ทำอะไรไม่ถูก เค้าเลยเดินเข้าไปดึงเราออกมา เค้าบอกว่า เราไม่ยอมออกจากห้องน้ำ ทั้งลากทั้งดึง จนเค้าลากได้ แล้วเราเสียหลักล้ม เค้าจึงเอาเท้าเหยียบคอเราไว้ แล้วปากก็ไล่ให้ไปซักที จากวันนั้น จนถึงวันนี้ เค้าบอกว่า เค้ากลัวพวกนางรำอะไรพวกนี้มากๆ แม้แต่หนังก็ไม่อยากดู เพราะมันหลอนจริงๆ หลายคนอาจจะบอกว่าไม่เชื่อหรอก ของแบบนี้ต้องเจอด้วยตัวเองจริงๆคะ แล้วเราก็เจอด้วยตัวเอง แต่เจอแฟนตัวเองนี่ละคะ ใช้เท้าเหยียบต้นคอเลย จากคุณ : Navyseal29 เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 52 00:57:50

ความคิดเห็นที่ 62 เข้ามาลงชื่ออ่านค่ะ ตอนนี้ไม่มีแผนเดินสายไปนอนนอกบ้านที่ไหน (แถมมาแต่เช้าเพราะเมื่อคืนไม่กล้าอ่าน 555) จากคุณ : ลาเต้แก้วหญ่ายๆ เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 52 07:13:46

ความคิดเห็นที่ 63 กระทู้เรทแบบแรก  นึกเสียดาย  ทำไมตรูไม่เคยเจอเลยว้า  อยากเจอสักที แต่กระทู้เรทแบบนี้  ขอบาย  อย่าได้เจอเล้ยยย  สาธุ จากคุณ : tomcat tomcat เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 52 08:21:21

ความคิดเห็นที่ 64 เรื่องนี้เกิดขึ้นตอนเราอยู่เชียงรายค่ะ เรากำลังเดินทางลงไปกรุงเทพไปหาเพื่อน สักประมาณเที่ยงคืนได้ เราสะดุ้งตื่นขึ้นมาค่ะ เรานั่งแถวติดกระจกค่ะ เรามองออกไปข้างนอกรถแบบไม่ตั้งใจ แถวนั้นไม่มีไฟจากถนนเลย     มีแต่หญ้ารกๆอยู่ข้างทาง แถมไม่มีรถสวนมากซักคัน เราเห็นเด็กวัยรุ่นผู้ชายสามคน กำลังยืนมองเราอยู่ค่ะ ทั้งๆที่ตรงนั้นมืดมากๆแต่เราเห็นพวกเค้าได้ชัดเลยค่ะ ทุกคนใส่เสื้อยืด กางเกงขายาว กัน แถมมีมอร์ไซค์อยู่ข้างๆ เราแน่ใจว่าไม่ใช่คนค่ะ เพราะหน้าของพวกนี้ขาว ซีด มัวๆ ค่ะ แถวนั้นก็มืดมากๆ ตอนนั้นยังไม่มีข่าวแก็งค์ปาหินนะคะ       ตอนนั้นเราไม่กลัวเท่าไร แต่ไม่กล้ามองอีก กลัวพวกนั้นกระโดดมาเกาะรถค่ะ มันออกแนวหลอนมากกว่า พอวันกลับขึ้นเหนือ เราไม่กล้ามองนอกรถอีกเลยค่ะ กลัวเจออีก จากคุณ : เด็กมฟล. เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 52 09:36:54

ความคิดเห็นที่ 65 เอาเรื่องไหนก่อนดีละเนี๊ยะ... เอาเรื่องตอนสมัยประถมก่อนละกัน ปกติแล้วเป็นคนค่อนข้างจะมี sense ในเรื่องนี้นะคะ (ไม่น่ามีเรยตรู -"-) ตอนประถมอยู่โรงเรียนหญิงล้วนในจังหวัดเชียงใหม่ แถวๆแม่น้ำปิง (มีไม่กี่โรงเรียนหรอกเนอะ) ซึ่งตอนนั้นได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของวงโยธวาทิต แล้วตอนนั้นก็มีแข่งระดับประเทศ เราเลยจำเป็นที่จะต้องไปเก็บตัวที่โรงเรียน คือ กินนอนที่โรงเรียนเพราะต้องซ้อมหนักมากมายเลย คนแถวๆนั้นเึคยบอกว่าโรงเรียนเนี๊ยะเคยเป็นโรงพยาบาลคริสต์เก่าในสมัยสงคราม (ตายหล่ะหว่า แอบกลัวนะเนี๊ยะ) ห้องที่เรานอนกันจะเป็นห้องโถงชั้น 2 มีห้องน้ำในตัว แต่เรื่องเนี๊ยะรุ่นพี่เค้าเจอนะคะ เพราะไอ่ห้องนี่แหละเป็นเหตุ... เรื่องมีอยู่ว่า เราก็นอนกันมาหลายวันแล้วก็ไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นค่ะ แต่วันนั้น พี่เค้ากลับมาอาบน้ำช้า เลยต้องได้อาบในห้องที่เรานอนกันค่ะ (ปกติแล้วจะเดินไปอาบน้ำกันอีกตึกนึงซึ่งอยู่แถวๆสนามโรงเรียนค่ะ) ช่วงนั้นก็ค่ำๆแล้ว ประมาณ ทุ่มกว่าๆได้ พี่เค้าอาบน้ำไปซักพักก็รู้สึกว่าห้องข้างๆก็มีคนอาบอยู่เหมือนกันเพราะน้ำมันจะสาดๆเข้ามาไหลแถวๆกำแพง ก็ไม่ได้เอะใจอะไร แต่พอพี่เค้าออกมาจากห้องน้ำกลายเป็นว่า ห้องข้างๆแห้งสนิท ไม่มีใครใช้ห้องน้ำ !!! ไม่มีร่องรอยของการถูกใช้ในช่วงเวลาเดียวกันเลย... พี่เค้าก็วิ่งหน้าตื่นออกมาถามใครแกล้งเค้า...ทุกคนงงว่าเกิดอะไรขึ้น เค้าก็เล่าให้ฟัง กลายเป็นว่าคืนนั้นจากคนที่นอนริมๆห้องน้ำย้ายแถวมาตั้งแถวใหม่ซะงั้น หนีๆๆๆๆ เหอะๆ หลังจากนั้นใครจะเข้าห้องน้ำก็ไปเป็นคู่ๆ ไม่เอาแล้วคนเดียว แอร๊ยยยยยย จากคุณ : tOnGtA69 เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 52 09:52:49

ความคิดเห็นที่ 66 กำลังอ่านกระทู้นี้แหละเมื่อคืนนี้ สักตีสองตีสามได้ รู้สึกเหมือนมีคนเดินเบียดด้านหลังเพื่อไปเข้าห้องน้ำ ได้ยินเสียงเหมือนเสื้อผ้าเสียดสีผนังห้องด้านหลังนี่ล่ะ อึ้งสิคะ แต่พยายามไม่หันไปดู มันไม่มีใครอยู่แล้วล่ะ จะหันไปทำไม เกิดหันแล้วเห็นล่ะ โฮ้ย ไม่เอา ไม่เอา ก็เลยนั่งเฉยๆ ไม่พูดอะไร ไม่พยายามคิดเกี่ยวกับมัน(ออกจะยากอยู่สักหน่อย) ไม่สื่อสาร ไม่ไล่ ไม่ถาม เพราะไม่ต้องการยุ่งเกี่ยวด้วย นั่งหวาดๆอยู่ตั้งนาน ทำอะไรไม่ถูก รู้สึกเกร็งจนตะคริวจะกินท้องเอา หนังศีรษะชื้นไปด้วยเหงื่อ ประมาณตีสี่ก็เหนื่อยมาก เลยไปนอน จากคุณ : แม่ค้าลูกชิ้นนึ่ง เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 52 10:12:50

ความคิดเห็นที่ 67 อีกเรื่องก็เกิดขึ้นที่ห้องเดิมแต่ไม่ใช่ห้องน้ำค่ะ... แต่เป็นห้องที่นอนเลย !! หลังจากซ้อมแปรขบวนตามปกติ เราก็จะกลับมาอาบน้ำอาบท่า จัดแจงข้าวของให้เรียบร้อย เตรียมพร้อมที่จะซ้อมเพลงที่ต้องใช้อีกครั้ง แต่คืนนั้นไม่มีการซ้อม มีแต่เอาวีดีโอมาให้ดูว่าการซ้อมเป็นยังไง แต่วันนั้นไม่รู้เป็นไง ง่วงนอนผิดปกติมากๆ พอดูได้สักพักก็ง่วงนอนเลยไปนอน อ้อ...ที่นอนเราคือหันเท้าไปทางประตู นอนเยื้องๆกะประตูนั่นแหละค่ะ พอนอนไปได้สักพักก็ฝัน... ฝันว่าใครไม่รู้พาไปเดินเล่น(สงสัยเป็นคุณสุกี้น้ำ)เดินไปเรื่อยๆก็คุยกัน จำไม่ได้แล้วหล่ะว่าคุยอะไรบ้างแต่จำได้คำสุดท้ายเลย Sth: "ไปด้วยกันนะๆๆๆๆๆ" เรา: "ไปไม่ได้ต้องซ้อมกับวง" ตอนนั้น Sth ก็พยายามลากเราไป แต่เ่ราก็ไม่ไป จนเราทนไม่ได้ตะโกนออกมา "โอ๊ย ก็บอกว่าไม่ไปเว่ย" แล้วก็สะดุ้งตื่น... พอตื่นมีแต่เพื่อนๆพี่ๆมานั่งงงๆ หลายคนบอก "พยายามปลุกแกแล้วนะเว่ย แต่แกทำท่าเหมือนจะลุกไปไหนไม่รู้ ทำมือแบบ o-o-(-_-) เนี๊ยะ แกจะไปไหนวะ เห็นหลับอยู่อ่ะ" จนครูมาบอกว่า "ถ้าเธอไป เธอก็ไปไม่ได้กลับมาเลยนะ" o_O เหอะๆ คุณสุกี้น้ำจะพาไปอยู่ด้วยซะแล้ววววววว จากคุณ : tOnGtA69 เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 52 10:15:06

ความคิดเห็นที่ 68 ตอนนั้นน่าจะอยู่ ป.5 ป.6 ประมาณปี 34 ที่โรงเรียนจัดเข้าค่ายลูกเสือในโรงเรียน ตอนกลางคืนมีการแบ่งเวรยามกัน ซึ่งจะแบ่งกันเข้าเวรกันทีละหมู่ หมู่ละ 1 ชั่วโมง หมู่ของผมได้ผลัดประมาณตี 2-3 ตอนเข้าเวรนี่เหตุการณ์ก็ปกติดี อารมณ์สนุกตาม ประสาเด็ก บรรยากาศก็ไม่น่ากลัวแค่มืดเเฉยๆ และมีเพื่อนๆ เกือบสิบ แต่กระจายกันอยู่ตามจุดต่างๆ จุดละ 2 คน ทั่วบริเวณโรงเรียน ที่ๆอยู่ก็คุ้นเคยเพราะเป็นภายในโรงเรียน แต่ตอนที่ออกเวร ก็มาเข้าแถวหน้ากระดาน บริเวณหน้าตึกโรงอาหาร ห่างจากตึกประมาณ 5 ม. ระหว่างตึกกับแถวผมมีครูยืนอยู่เพื่อให้พวกผมรายงานตัว ผมสังเกตเห็นแสงขาวๆ นวลๆ ประมาณแสงจันทร์วันที่ไม่เต็มดวง ลักษณะเป็นควันๆ มีรูปร่างคล้ายกับคน (เคยเห็นแสงแดดตอนเช้าที่ส่ิองมากระทบกับฝุ่น และเป็นรูปร่างไหม แบบนั้นแหละ แต่ไม่เป็นเส้นตรงๆ แบบนั้น) ลักษณะเหมือนเด็ก 2 คน ห้อยหัวลงมาจากวงกบประตูโรงอาหาร ตัวเล็กจะยืนเฉยๆ ส่วนตัวโตขวักมือเรียกผม ลักษณะการขวักจะแปลก คือไม่ได้ขวักแบบนางขวัก แต่ยื่นแขนออกมาสุดแขนแล้วขยับทั้งแขน แข็งๆ ยังกับไม่มีข้อพับ ตอนเด็กๆ ปกติผมจะเป็นคนกลัวผีมาก จะอาบน้ำตอนหัวค่ำยังต้องในคนเฝ้าหน้าห้อง แต่เห็นอะไรแบบนั้นกลับไม่กลัว เพราะเพื่อนอยู่แยะมั้ง และมีครูอยู่ใกล้กว่ามีอะไรครูคงโดนก่อน จึงพยายามหาว่าแสงนั้นมันมาจากไหน ใช่แสงนีออนหรือเปล่า ฯลฯ มองอยู่นานก็สรุปไม่ได้ แต่ในใจรู้ว่าอะไรแล้ว แต่ไม่กลัว กลับอยากรู้อยากเห็นอีก และคิดว่าเพื่อนๆ คงเห็นเหมือน เลยเฉยๆ จนแล้วจนรอด ครูก็เลิกแถวให้ไปนอน ตึกชั้นบนตึกโรงอาหารนั้นแหละ หัวหน้าหมู่ก็นำแถวเดินเข้าไปในตึก ก็เลยลองเดินไปดูใกล้ กะเอาหน้าไปชนมือมันเลย กำลังจะโดนมือมันอยู่แล้ว ปรากฎว่ามันหายไปก็หน้าก็ตาเลย จากนั้นก็กลับไปนอนเหมือนไปเกิดอะไรขึ้น (แปลกใจจริงๆ ทำไปได้ไง) จนออกค่ายกลับบ้านนั้นแหละ นึกขึ้นได้ขนลุกเลยทีนี้ วันจันทร์ไปถามเพื่อนๆ ปรากฎว่าไม่มีใครเห็นสักคน มีผมเห็นอยู่คนเดียว รองรับว่าที่เล่าน่ะจริงนะครับ ไม่ได้ฝันและเจอตอนสติดีๆ เต็มร้อย จากนั้นเป็นต้นมาก็ไม่กลัวผีอีกเลย และก็ไม่เคยเจออีกเลย (ฝันและอาการผีอำไม่นับ) ถือคติว่าคนดีผีคุ้ม ลองคิดดีไม่เบียดเบียนใคร คนอื่นไม่รู้ แต่ผมว่าสัตว์รู้ (จริงๆ นะ มันจะไม่มาทำอันตรายเราเลย) สิ่งที่มองไม่เห็นรู้ อยู่แล้วสบายใจ แก้ไขคำผิดครับ แก้ไขเมื่อ 09 ส.ค. 52 10:43:48 แก้ไขเมื่อ 09 ส.ค. 52 10:43:11 จากคุณ : ธัมโม เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 52 10:40:21

ความคิดเห็นที่ 69 ว๊ายเมื่อวานไม่ค่อยได้เข้าห้องบลู มาซะสายเลยเรา รีบลงชื่ออย่างเร็ว กลัวลุงโซมแช่งเหมือนทู้นั้น ไม่มีประสบการณ์เรื่องขนหัวลุก...เจอแต่ไฟไหม้ข้างโรงแรมที่สมุย เมื่อ4ปีก่อนตี 5 แล้วได้ยินเสียงเปาะแปะๆ แฟนก็บอก Baby what happen? เราก็อารายของเมิงฟระ คนกำลังหลับสบาย ก็บอกออกไปดูเองดิ แฟนก็ออกไปดูปรากฏว่าเป็นเสียงไฟไหม้ร้านสูทหรืออะไรสักอย่าง ข้างๆบังกะโลที่เราพัก แฟนวิ่งหน้าตาตื่นกลับเข้ามา เราก็งัวเงีย เค้าบอกเก็บกระเป๋าเร็วไฟไหม้ เราก็ตื่นทันทีเลย กัวดำกว่าเดิม ***แก้ไขพิมพ์ผิด*** แก้ไขเมื่อ 09 ส.ค. 52 10:55:18 จากคุณ : สาวสวนยาง เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 52 10:53:40

ความคิดเห็นที่ 70 มาลงชื่อ เพราะกลัวโดนแช่งให้เจอสุกี้น้ำค่ะ 55+ อ่านเมื่อคืนแล้วนอนไม่หลับเลยต้องเปิดไปนอนยังเช้าอ่ะ โทรคุยกับแฟน โดนดุว่า กลัวแล้วทำไมยังอ่านอีก ..แหม..ก็ใจมันรักนี่.. จากคุณ : โดนมาเยอะแต่ไม่เล่า (kiosk-batt) เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 52 11:21:17

ความคิดเห็นที่ 71 ภาพนี้ เมื่อปีที่แล้ว เข้าออนเซ็น(ตอนสามทุ่มคนเดียว) ของสนามกอล์ฟแห่งหนึ่ง ในจ.โทจิกิ ได้แถกมาใหม่ๆกำลังเห่อ เลยถ่ายรูปเก็บไว้ จากคุณ : OKANEMOCHI เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 52 11:32:58

ความคิดเห็นที่ 72 ตอนสมัยเรียนอยู่ท่าพระจันทร์เมื่อสามสิบปีก่อน ส่วนมากจะหาสถานที่ใหม่ๆในการเปลี่ยนบรรยากาศการดื่ม ครั้งหนึ่งรุ่นพี่เสนอร้านเหล้าแถวริมแม่น้ำเจ้าพระยาใกล้บ้าน ข้างศาลากลางสมุทรปราการ  สมัยก่อนยังเป็นทางดิน  มีต้นไม้ใหญ่ข้างทาง วันนั้นกรึ่มมาก่อนแล้ว เมื่อดื่มกันจนมืดก็เดินเลาะเรียบแม่น้ำมาเรื่อยๆ  เพื่อกลับไปนอนบ้านรุ่นพี่ ผมเดินนำหน้ามากับเพื่อนอีกคน กลุ่มใหญ่เดินตามหลังมา เราเดินสวนกับผู้ชายกับผู้หญิงคู่หนึ่ง   ก็ยังนึกแปลกใจว่าทำไมเขามาเดินกันมืดๆตรงนี้ เพราะท่าทางก็ไม่ใช่คนดื่มเหมือนพวกเรา พอเราหันกลับไปเพื่อรอเพื่อนๆปรากฏว่าชายหญิงที่เราเจอหายไปแล้ว ทั้งๆที่ สถานที่ตรงนั้นไม่มีทางไปทางอื่นได้ เพราะข้างทางเป็นต้นไม้ และเพื่อนๆกลุ่มหลังเราก็ไม่มีใครเห็นสองคนนั้นเดินสวนมาด้วย เราสองคนก็เหวอไปแล้วตอนนั้น แต่ไคลแม็กซ์มันไปอยู่ตรงที่  เมื่อเดินเข้าไปในเมืองเพื่อกลับบ้าน ผ่านบ้านหลังหนึ่งปรากฏว่ามีงานศพอยู่  และผู้ตายเป็นชายกับหญิงคู่หนึ่ง ผมไม่เคยได้กลับไปกินที่ร้านนั้นและไปนอนที่บ้านรุ่นพี่อีกเลย ปัจจุบันข้างๆศาลากลางเทพื้นซีเมนต์ไปหมดแล้ว ต้นไม้ใหญ่ก็ไม่เห็นครับ จากคุณ : buctuser เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 52 12:05:03

ความคิดเห็นที่ 73 ขอเล่าสองเรื่องนะคะ ^^ เรื่องแรก...ไม่ค่อยเกี่ยวกับการเดินทาง เอ๊ะ...หรือจะเกี่ยว เหตุเกิดใกล้ๆมหาวิทยาลัยสมัยเพิ่งเข้าปี 1 (ม.เราเป็นวังเก่า(อยู่แถบปริมณฑล) และขึ้นชื่อลือชาในเรื่องสุกี้น้ำมาก ) เรื่องมีอยู่ว่าคืนนั้น...ใกล้สอบ...เราไปติวหนังสือที่หอเพื่อน กลับมาตอนตีหนึ่งกว่าพร้อมเพื่อนสาวหนึ่งคน ด้วยฮอนด้า ซีวิคที่พ่อเพื่อนซื้อให้เป็นของขวัญเอนท์ติด เรานั่งข้างคนขับ เรากะเพื่อนก็เมาท์กันไปเรื่อยๆตามประสาสาวช่างพูดทั้งคู่ หลังม.เราจะมีทางรถไฟขวางอยู่ซึ่งสามารถข้ามกลับมาจากอีกฝั่งได้หลายทาง แต่วันนั้นเพื่อนเราดันเลือกเส้นที่ผ่านวัด เพราะใกล้ตลาด...มันบอกไม่เปลี่ยวดี ทีนี่พอข้ามทางรถไฟถนนมันจะบังคับเลี้ยวซ้าย ถ้าตรงไปจะเข้าวัดพอดิบพอดี เพราะฉะนั้นพอเลี้ยวซ้ายแล้วด้านขวามือจะเป็นวัด ด้านซ้ายมือตอนนั้นเป็นกำแพงค่อนข้างสูง (ตอนนี้ทุบทิ้งแล้ว) พอรถเราเลี้ยวซ้ายตรงหน้าวัดเราก็เห็นผู้ชายคนนึง...ลักษณะผอมผิวกร้านๆหน่อยเหมือนชาวบ้านที่ทำงานหนักทั่วไป นั่งชันเข่าอยู่บนกำแพง แล้วทันใดนั้น เค้าก็กระโดดลงมากลางถนนในขณะที่รถเราผ่านไปพอดี.... เรากะเพื่อนจากที่เม้าท์ๆกันอยู่เงียบทั้งคู่ เราก็คิดว่าเฮ้ย ตาฝาดๆๆๆๆๆ ไม่มีไรหรอกน่า สงสัยจะเหนื่อย ดึกแล้วด้วย ผ่านตรงนั้นมาได้ซักพัก...เพื่อนพูดขึ้นว่า เมื่อกี๊...แกเห็นอะไรไม๊... ลงท้ายคืนนั้น กลับไปนอนคลุมโปงกันที่หอสองคน (-_-") แก้ไขเมื่อ 09 ส.ค. 52 13:23:50 จากคุณ : เรื่อยๆ-เหนื่อยก็พัก เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 52 13:22:15

ความคิดเห็นที่ 74 เรื่องล่าสุด...อันนี้เกี่ยวกับการท่องเที่ยวโดยตรง... เราเพิ่งไปเขมรมา (หลายคนอาจเห็นทู้รีวิวแล้ว) เราห้อยพระตลอดเวลา สวดชินบัญชร และแผ่เมตตาทุกคืนก่อนนอน เหตุผลก็คือเราเป็นคนกลัวคุณสุกี้น้ำมากตั้งแต่เหตุการณ์ครั้งนั้นผ่านไป -_-' ยิ่งไปเที่ยว ไปนอนที่อื่นที่ไม่ใช่บ้านนี่ จะง่วงจะเหนื่อยยังไงก็ต้องสวดและฝากเนื้อฝากตัวกะเจ้าที่เจ้าทางเค้าก่อน ครั้งนี้ก็เหมือนกัน...(ที่นี่เค้ายิ่งขึ้นชื่ออยู่...) คืนแรกผ่านไป ไม่มีอะไรเกิดขึ้นนอนหลับสบายดี คืนที่สองเราก็กะว่าคงหลับเป็นตายแน่ เหนื่อยมาทั้งวันขนาดนี้ แต่เรากลับตื่นมาตอนตีสองครึ่งด้วยอาการ.... มีคน(หรืออื่นๆ)มาเป่าหูเราอย่างแรง!! คือรู้สึกถึงลมที่อัดกระแทกเข้าหูเลย ไม่ใช่ลมที่พัดผ่านใดๆทั้งนั้น เพราะนอนห้องแอร์ และเราติดนิสัยเอาผมปิดหูเวลาจะนอนเพราะกลัวแมลงเข้า ตื่นขึ้นมาตาสว่างเลย...แต่ไม่กล้าหันเหลียวหน้าเหลียวหลังใดๆทั้งนั้น พยายามปลอบใจตัวเองว่า ละเมอๆๆๆๆๆๆๆๆ ข่มตาหลับ ในใจก็แอบแผ่เมตตาไปด้วย ซักพักเริ่มสบายใจขึ้น ไม่มีไรม้างงงงงงง (แต่ก็ยังกลัวอยู่นะ) ทันใดนั้นเตียงยวบ T_T บร๊ะเจ้า เจ้าที่เจ้าทาง หนูกัวจะแย่แย้วง่า แต่ก็พยายามทำใจกล้าลืมตาขึ้นมาดู ปรากฏว่าว่างเปล่า..... เพื่อนที่นอนอยู่อีกเตียง หลับสนิทไม่รู้ไม่เห็นอะไรทั้งสิ้น ลองเรียกดูก็ไม่ตื่น เอาแล้ว...เหลือตูคนเดียว แต่ทำไมรู้สึกเหมือนมีอีกคนอยู่ด้วยฟระ ลุกขึ้นมาสวดชินบัญชรอีกรอบ แผ่เมตตาอีกที แล้วบอกกับเค้า (?) ว่าหนูมาดี หนูมาเที่ยว ถ้าหนูทำอะไรผิดไปโดยไม่ทราบ ขอให้อภัยหนูด้วยนะคะ หนูขอนอนเถอะค่ะ ต่างคนต่างอยู่นะคะ (ไม่รู้เค้าจะฟังรู้เรื่องไม๊ แต่ทำได้แค่นี้จิงๆ T_T) แล้วก็ข่มตานอนต่อ สุดท้ายก็หลับไป..... จนถึงตอนนี้เราก็ยังไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น พยายามปลอบใจตัวเองว่าไม่ใช่ๆๆๆๆๆ เพื่อนเรากับคนทั้งทัวร์เค้าไม่เห็นเจอไรนี่หว่า (หรือเค้าไม่เล่าเหมือนกัน?) ไม่รู้แหละคราวหน้า ไม่กล้านอนเตียงเดี่ยวแย้ว... ขอมีเพื่อนนอนข้างๆซักคน เผื่อเตียงยวบอีกจะได้โทษว่ามันดิ้น T_T จากคุณ : เรื่อยๆ-เหนื่อยก็พัก เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 52 13:43:03

ความคิดเห็นที่ 75 ความคิดเห็นที่ 48 "ไปครั้งล่าสุด  สักเกือบเที่ยงคืนได้  หนูไปยืนจ้องตากับหมาดำที่หลังบ้าน   สายตาสั้นไงคะ มองให้ชัดๆ ว่านี่หมาสีอะไร  เอ  เมื่อหัวคำมันหมาสีขาวนี่นา  แล้วเจ้าหมาดำนี่ ไปไงมาไงอ๊ะ  มันก็จ้องหนู น่ากลัวค่ะ  วิ่งหนีมาหน้าบ้านเลย จากคุณ : สาวหน้าใส"   หมาแถวบ้าน มีทั้งหมาขาว หมาแดง และหมาดำครับ หนูไปเจอเอาเจ้าตัวดำเข้าเองแหละ ไม่ได้เจออะไรหรอก เผอิญเจ้าตัวขาวเขาไปนอนทางอื่นแล้วละมั๊ง คราวต่อไป ลองดูให้ดีดีซี กลางวันแสกแสกนี่แหละ จะเห็นหมาทั้งสีแดง สีขาว และสีดำ วิ่งกันวุ่นอยู่แถวนั้นแหละ จากคุณ : xebec เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 52 16:22:01

ความคิดเห็นที่ 76 ลงชื่อไว้ มาอ่านต่อจะได้ไม่หลง พร้อมโหวตให้ด้วยค่ะ จากคุณ : ฤาความรักจะไม่หวนคืน เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 52 16:39:27

ความคิดเห็นที่ 77 ... เข้ามาดูลุงซูม จากคุณ : Mr. Fusion เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 52 17:17:29

ความคิดเห็นที่ 78 เวลาไปเที่ยว ส่วนใหญ่จะไปกับคุณแม่ค่ะ แล้วคนที่เจอเนี่ยก็มักจะเป็น คุณแม่เสมอ แต่ก็ยังไม่วายมีเราเกี่ยวด้วยแฮะ เรื่องแรก ตอนนอนโรงแรม(จำชื่อไม่ได้)ที่เวียดนาม คุณแม่สะลึมสะลือ เห็นเงาดำๆยืนอยู่ปลายเตียงเรา พอสวดมนต์ก็หายไป ส่วนเรา....สนิทไม่รู้เรื่องรู้ราว เรื่องที่สอง ตอนลงไปเที่ยวเขื่อนรัชชประภา มีเรา แม่ พี่ชายกับแฟน เนื่องจากวันนั้นพี่เราท้องเสีย เลยสลับให้แฟนพี่ขับ แต่ด้วยความที่แฟนพี่เราไม่ค่อยขับรถออกต่างจังหวัด เลยขับแบบไม่ค่อยปลอดภัยเท่าไหร่ แม่เลยให้พี่กลับไปขับเหมือนเดิม ที่เกี่ยวข้องกับเราก็คือ มีเหตุการณ์ต่อเนื่องตอนกลับมาถึงบ้านแล้ว แม่ฝันว่ามีคน(ตามมา?)ขอส่วนบุญ(จากสุราษฎ์ฯ) พร้อมกับบอกว่าจะเอาเราไปด้วย!! เพราะตอนที่แฟนพี่ขับรถ แม่นั่งแผ่เมตตาไปตลอดทางเลยค่ะ ขอบคุณแม่นะคะ ที่คอยเจอ....แทนลูก (ใกล้วันแม่แล้ว ขอซักหน่อย) จากคุณ : Klimae เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 52 17:22:45

ความคิดเห็นที่ 79 มีครั้งนึง เดินทางไปชัยภูมิ ก้อได้ไปเยี่ยมญาติ เเล้วก้อมีผู้ชายวัยกลางคน คนนึงมาที่บ้านญาติเรา มอง เราด้วยความสนใจแล้วถามอาเราว่า นี่ใครอยู่ไหน ทำงานอะไร ประมาณนี้ เราก้อไม่ได้สนใจ แล้วก้อมีคนมาบอก เราว่า คนนี้เค้าลือ ว่าเป็นผีปอบ เพราะ พ่อของคนนี้เป็นแต่เสียชีวิตไปแล้ว ของมันเลยมาตกที่ลูก คือ เราไม่ค่อยเชื่อเรื่องพวกนี้เท่าไหร่ แต่ก้อไม่เคยหลบหลู่ แต่ออกตัวก่อนว่า ถ้าเรื่องผีเราเชื่อ เพราะว่า เราเคยเจอ กับตัวเองมาบ่อยมาก เวลาไปดูดวงที หมอดูแต่ละคน ก้อทักแต่เรื่องมี six sent กะเห็นผีนี้เเหละ แต่ว่าหนูอยากดูเรื่องเนื้อคู่คร่า อิอิ อ๊ะ เข้าเรื่องๆ ชาวบ้านก้อมาเตือนเรา เพราะ เค้าเห็นว่าเรามาจากต่างถิ่น เราก้อ ไม่เชื่อ แต่ป้องกันไว้ก่อน สวดชินบัญชร สามคืน จนกระทั่ง กลับมาที่ กทม คืนนั้นเราไม่ได้สวดชินบัญชร ไม่รู้ด้วยเหตุบังเอิญ หรือ อะไร ก้อไม่ทราบ เรานอน  ไปแล้วฝัน เห็นตัวเองกำลังนอนอยู่บนเตียง มีชายคนนึงโน้มตัวลง มา  พยายามจะเอาจมูกมาแตะหน้าผากเรา  เราก้อเอาผ้าห่มขึ้นมาปิดหน้า ในตอนนั้นก้อภาวนา ชินบัญชรไปด้วย เพราะสัมผัสได้ว่า ไม่ได้มาดีแน่ๆ ในขณะที่ภาวนา ขณะที่หลับ จิตมีสติ สมาธิ เราก้อเลย รู้สึกตัว แล้วก้อลืมตาขึ้นมา ผ้าห่มก้อคลุมหน้าเราอยู่เหมือนในฝันเด๊ะเลย เราก้อเลยค่อยๆ เลื่อนผ้าห่มออก ปรากฏว่า หน้าผู้ชายคนที่เราฝันถึงอยู่ห่างจากหน้าเราไม่ถึงนิ้วอ่ะ เห็นแบบ จะจะ มาก แล้วโน้มตัวลงมาทำเหมือนที่เราเห็นในฝันเลย เราก้อตั้งสติ สวดชินบัญชร แล้วเค้าก้อค่อยๆ หายไป คิดเเล้ว ยังสยองมาจนถึงทุกวันนี้อ่ะ แก้ไขเมื่อ 09 ส.ค. 52 17:26:01 จากคุณ : สบายดีไหม เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 52 17:23:42

ความคิดเห็นที่ 80 เรื่องนี้ไม่ได้เกิดจากทริป แต่เกิดจากการ อยากลองของ ของเราเอง สมัยนั้น หัดเห็นผีใหม่ๆ  ก้อเลยอยากลอง เคยได้ยินที่คนโบราณเล่ากันว่าในคืนวันพระขึ้น 15 ค่ำ หลังเที่ยงคืน ถ้าเราไปก้มลอดหว่างขา แล้วมองไป จะเห็น ในสิ่งที่คนทั่วไปไม่เห็น คืนนั้นได้ฤกษ์เลย ตั้งนาฬิกาปลุกไว้  00.15 น จำได้เเม่นมาก แล้วก้อเข้านอน ปกติ ก้อหลับสบายดี จนกระทั่งเวลาผ่านไป พอสมควร ก้อรู้สึก ชาทั้งร่าง แขนขาขยับไมได้ แม้เเต่ปากจะขยับเปล่งเสียงยังไม่ได้เลย แล้วเราก้อเจอ ผุ้ชายสองคน ตัวดำๆ น่ากลัวๆ มาจ้องหน้าเรา อีกคนมากดที่หน้าอกเรา  เเล้วก้อบอกด้วยเสียงที่ไม่พอใจว่า มรึงไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น  กรูมาให้มรึงเห็นเเล้ว เหนื่อยมากอ่ะ นึกได้รีบสวดชินบัญชร หายไปแระ   แล้วก้อมีเเรง กลับมาเหมือนเดิม มองดูนาฬิกาปลุก เหอๆ  00.12 น ใกล้เวลาทำพิธีของเราเเล้วนั่นเอง จากนั้นมาก้อ ไม่เคยคิดทำเรื่องแบบนี้อีกเลย เราคงไปเบียดเบียนให้เค้าเดือดร้อนเค้าเลยไม่พอใจมั้ง จากคุณ : สบายดีไหม เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 52 17:45:51

ความคิดเห็นที่ 81 ล่าสุด สดๆ ร้อนๆ เลยละกันครับ ไปนอนพักที่ รร. แห่งหนึ่ง (ป้ายโรงแรมเหมือนชายสี่หมี่เกี๊ยว) ก็ทำใจไว้อยู่แล้วว่าเป็น รร. เก่า แต่พอเข้าไป ก็โอเคนะ กับสภาพห้อง แต่ที่อึ้งๆ ก็คือ อ่างอาบน้ำ และก๊อกน้ำครับ โบราณมากๆ เปิดลำบากมาก แฟนผมนี่ไม่สามารถเปิดหรือปิดได้เลย และที่สำคัญคือ เปิดแล้ว มันปิดไม่สนิทนี่สิครับ ตกกลางคืน ผมก็ได้ยินเสียงน้ำไหล ติ๋ง ๆ ๆ เรื่อยๆ ผมกับแฟนเลยพยายามลุกไปปิด..มันก็หยุดได้ ก็มานอนต่อ สักพัก ติ๋ง ติ๋ง ผมก็พยายามลุกไปปิดอีกรอบนะครับ และมานอน สักพัก มันไม่ใช่เสียง ติ๋ง ๆ แล้วครับ แต่มันเป็นเสียงลูกบิดก๊อกน้ำอ่ะ วืด วืด ผมก็แบบว่า นอนไม่หลับทั้งคืนเลย มาหลับอีกทีก็ตีห้าได้ เฮ้อ ไม่รู้ว่าผีหลอกหรือคิดมากไปเอง แต่บอกตรงๆ ว่ากลัวครับ แถมพอหลับได้สักพัก เหมือนเจอผีอำอีกตะหาก ในความคิดประมาณว่ามีใครไม่รู้มาเดินปลายเตียง บรื๋อๆๆ จากคุณ : freestyler เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 52 19:20:49

ความคิดเห็นที่ 82 ง่ะ.....หลงเข้ามากระทู้นี้ แต่ละความเห็น น่ากลัวๆๆๆๆๆๆๆๆ ทั้งนั้น ยิ่งกลัวผีอยู่ 555 ((แต่ก็อ่านนะ)) เราก็เคยเจอนะ ไม่เชิงหรอก คืออาบน้ำอยู่ในห้องน้ำ แล้วพอดีเพื่อนออกไปซื้อของพอดี อาบน้ำอยู่ได้ยินเสียงเคาะประตูอย่างดัง เราก็รีบนุ่งผ้าเช็ดตัวไปเปิด ไม่เจอใครเลย ฟิ้วววววววววววววว สยองมาก!!! ปล.โรงแรมแห่งหนึ่งในพัทยา แก้ไขเมื่อ 09 ส.ค. 52 19:41:20 จากคุณ : ^^MoneyDollarYuroSilverGold^^ เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 52 19:40:04

ความคิดเห็นที่ 83 มีมานำเสนอ 2 เรื่องครับแต่ ไม่ใชช่วงเวลา ท่องเที่ยว ก็คือ สมัยเรียนจบใหม่ ๆ ก็ได้งานเลยกับเพื่อนอีก เป็นสิบ(เรียกว่า บริษัทนี้ ไปเหมาโหลมาจากสาขาวิชาเลยแหละ) แล้วทีนี้  ก่อนสงกรานต์ เพื่อน ๆ ก็ต้องกลับไปเกณฑ์ทหารมั่ง ไม่ไปเกณฑ์ ก็ อาศัยกลับบ้านมั่ง ทิ้งผมเฝ้าบ้านพัก สวนเกษตร ที่อำเภอบ่อไร่ จังหวัดตราด คนเดียว บ้านพักนี้ อยู่ยอดเนิน และได้รับข้อมูลมาว่า เอาไม้ที่ฟ้าผ่าตาย มาเลื่อยทำไม่กระดาน  ไม้ฝา เป็นหลัก สรุปว่า บ้านทั้งหลัง เคยอยู่กัน 15 คน กลายเป็นเหลือผมนอน คนเดียว พอดึก ๆ นกมาตีกันบนหลังคา เริ้มใจไม่ดีแล้ว  รีบปิดห้องเข้านอน ยังไม่ทันหลับเลยครับ ได้ยินเสียงคนเดินขึ้นบันได้หน้าบ้านขึ้นมา (บันได 5 ขั้น มันก็ลั่น อ๊อด แอ๊ดเป็นปกติ) เดินไป เดินมาอยู่นอกชานหน้าบ้าน แต่ไม่เข้ามาซักที เดินอยู่เป็น10นาที จากกลัวกลายเป็นโกรธ ตัดสินใจ เปิดประตู้ผัวะออกไปเป็นไงเป็นกัน เพราะ วินาทีนั้น ไม่ได้นึกว่าเป็นอย่างอื่น  นอกจากคนร้าย หรือไม่ก็ นักเลงมาดักตีหัว (เนื่องจาก ช่วงนั้นกำลังหนุ่ม จีบสาวไว้ทั่วตำบลเลย อาจจะเป็นพี่เป็นน้องเค้า หมั่นไส้เอา) ปรากฎว่าทุกอย่าง เงียบสนิทครับ ไม่มีอะไรเลย ไม่เชื่อหูตัวเอง เป็นอยู่อย่างนั้น 2 - 3 ครั้ง คือ ปิดประตูนอน ก็ มีเสียงคนเดินขึ้นมา พอเปิดประตูออกไป กลับเงียบ มันมุดไปแอบอยู่ไต้ถุนหรือเปล่าฟะ ไม่กล้าลงเรือนไปดูครับ จากโกรธ กลับกลายเป็นกลัวอีกครั้ง ตัดสินใจ เอาแป้งเบเบี้มาย มาโรยหน้านอกชานจนขาวโพลนไปหมด ขนาดกลางคืนมืด ๆ อย่างนั้น (ไฟฟ้า ยังใช้เครื่องปั่นไฟอยู่เลยครับ พอที่สุ่ม ก็ ดับเครื่องไฟ) แล้วกลับเข้าไปนอน ลืมตาโพลงอยู่ พักเดียว ได้เรื่อง ขี้นมาไม่มาเปล่า เดินเหมือนกระทีบเลยครับ ตึงตัง ตึงตัง ประมาณ ควายสักฝูงได้แหละ เอาไง เอากัน เปิดประตูผัวะ เงียบ แป้งที่โรยไส้ ไม่มีรอยเท้าใครเหยียบสักรอย เท่านั้นแหละครับ 100 เมตรชาย จุดหมายข้างหน้า คือ อู่รถ ที่ แน่นอนว่า มีช่างนอนเวรอยู่ที่อู่ คนนึง พรวดเดียวถึง ไม่พูดพล่ามทำเพลง  มุดมุ้ง ช่างเวรเข้าไปเลย ช่างเวรตกใจตื่น แต่ก็ไม่ถามอะไรนะครับ ให้นอนแต่โดยดี เช้าขึ้นมาเลยคุยกันว่า  ไอ้บ้านหลังนั้นน่ะ นอนคนเดียวทีไร เจอแบบนั้น ทุกที แก้ไขเมื่อ 09 ส.ค. 52 19:57:33 จากคุณ : greeny pony เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 52 19:40:43

ความคิดเห็นที่ 84 อีกเรื่องนึง  สักสิบปีที่ผ่านมา สมัยนั้น ได้ภรรยาแล้ว ลูกสามคนแล้ว ภรรยาผมเป็นพยาบาลครับยังหนุ่ม ๆ สาว ๆ  ก็ต้องขึ้นเวรบ่าย เวรดึกเป็นธรรมดา ถ้าใครเคยไปโรงพยาบาลสุราษฎรฺธานี จะทราบว่า จะขับรถผ่านเข้าไปด้านในของโรงพยาบาลได้ จะต้องผ่านห้องนึงก่อน แน่นอน  มันคือห้องเบอร์ 13 หรือห้องดับจิต นั่นเอง แนะนำตัวก่อน งานผมคืองานที่ต้องออกไปตรวจสวนยางของโครงการสงเคราะห์สวนยางครับ จึงรู้จักเกษตรกรค่อนข้างมาก วันนั้น ภรรยา ลงเวรบ่าย กว่าจะส่งเวรเรียบร้อยก็ ตีหนึ่งพอดี ก็ต้องขับรถไปที่ตึก ซึ่งต้องเข้าไปด้านหลังตึก ก็ผ่านทางนั้นแหละครับ ผ่านเกือบทุกคืนอยู่แล้วไม่แปลก วันนั้นเที่ยงคีนกว่า ทำหน้าที่ปกติ แต่มันไม่ปกติตรงที่พอผ่านตรงห้องหมายเลข 13 มีคนมาโบกรถผมครับ เข้าไปใกล้ ๆ จึงรู้ว่า เป็นเกษตรกรชาวสวนยาง ที่รู้จักกัน ก็ ตรวจสวนกันอยู่ บ้านอยู่แถบ มะลวน (หัวสนามบินโน่น) เลยจอดถามว่า มีไหร้ พี่บ่าว พี่ชายท่านนั้นก็ บอกขอช่วยให้ไปซื้อดอกไม้ ธูปเทียน หน้าโรงบาลให้หน่อย พรรคพวก ขี่มอเตอร์ไซด์ มุดท้าย 10 ล้อ ตายคาที ทางบ้านยังไม่รู้เลย เจ้าหน้าที่ ไม่มีดอกไม้ มัดตราสังข์  รบกวนขอช่วยหน่อยนะ ผมก็บอก ได้พี่ เรื่องแบบนี้ ช่วยได้อยู่แล้ว เหลือเวลาอีกตั้ง ครึ่งชั่วโมง กว่าแฟนจะลงเวร ผมก็ ตีรถกลับออกมาจากนอกโรงพยาบาล ขาที่รถผ่านห้อง 13 อีกครั้ง ได้ยินแว่ว ๆ ว่า 2 ชุดนะ หัวหน้า ก็ เออ ๆ ออๆ  ไปตามเรื่อง ซื้อมา 2 ชุด ตามสั่ง เอามาจอดแวะให้ที่ ห้องเบอร์ 13 ไม่มีใครรอรับ เลยจอดรถ เดินเอาไปให้ข้างในห้อง (ก่อนที่จะสร้างตึกอุบัติเหตุ 6 ชั้น ห้องเบอร์ 13 อยู่ ข้างหอออร์โถ นั่นแหละครับ) สิ่งที่ผมเจอคือ คนเสียชีวิต 2 ศพ เจ้าหน้าที่กำลังจะมัดตราสังข์อยู่พอดี ผมเอาดอกไม้ไปยื่นให้ แล้วเหลียวไปมองศพนั่น พี่บ่าวคนที่คุยกับผมนี่นา เลยถามว่า อ้าว พี่บ่าวคนนี้ ตายแล่วเหอ เจ้าหน้าที่ มูลนิธิที่เอาศพมา บอกว่า ซี้เบ้ง ตั้งแต่ รถเครื่องมุดท้ายสิบล้อ อยู่พุนพินโน่นแล้วล่ะครับ แล้วคุณเป็นญาติเขาเหรอ พวกผมยังไม่ได้หาหลักฐานโทรหาญาติเลยนั้น  พี่รู้ได้ไส ผมเลยต้องบอกว่า ผมไม่ใชญาติหรอกครับ แต่ พี่คนที่นอนอยู่เนี่ย ไปขอให้ผมซื้อดอกไม้มาให้ ทันได้ใช้ พอดีเลย ผมจำได้ว่าพอผมกลับหลังหันออกมาจากห้อง ทั้งเจ้าหน้าที่ ทั้ง มูลนิธิ พากันพรวดออกจากห้อง โดยมิได้นัดหมายเลยล่ะท่านเอย แก้ไขเมื่อ 09 ส.ค. 52 20:04:40 แก้ไขเมื่อ 09 ส.ค. 52 20:00:42 จากคุณ : greeny pony เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 52 19:55:31

ความคิดเห็นที่ 85 คห.44 นี่... ใช่โรงแรม ช_ _ _ (ที่มีสระว่ายน้ำด้านหน้า ด้านข้างติดคอนโดสูงๆ) ป่ะคะ   (o_O") แก้ไขเมื่อ 09 ส.ค. 52 20:51:38 จากคุณ : atomic-girl เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 52 20:50:49

ความคิดเห็นที่ 86 เจอแบบเต็มๆ มี 2 ครั้งครับ ปรกติผมก็ค่อยข้างจะจิตแข็งนะ แต่ยอมรับว่าตอนนั้นเต็มๆ ครับท่าน เอาเหตุการ์ณแรกก่อนนะครับ สมัยเรียนมหาวิทยาลัย ปีนั้นผมสอบเสร็จที่หลัง คณะใหญ่เขาไปออกค่ายอาสากันแล้ว ที่อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด ส่วนผมกับเพื่อนๆอีก 5-6 คนจึงต้องขับรถตามไปเอง ไปถึงก็มืดแล้วครับ 4 ทุ่มกว่าๆ ผมกับเพื่อน 3 คน เอารถไปจอดใต้ต้นไม้ใหญ่ บริเวณหน้าอาคารเรียนที่จะสร้างใหม่ เพื่อจะนอนกันบนกระบะท้ายรถ ข้างๆเราอีกทีเป็นรถอีแต๊น ส่วนเพื่อนที่เหลือ เข้าไปนอนในโรงเรียนหลังเก่า เอนหลัง คุยกัน 3 คน ไปไม่เกิน 20 นาที ทุกคนก็เงียบหมด ผมขยับตัวเองไม่ได้ พูดไม่ออก ขยับปากไม่ได้ ขยับได้แต่ลูกตา ผมกรอกตาไปมองเพื่อน 2 ข้าง ก็เห็น นอนนิ่งอยู่ทั้งคู่ ด้วยความที่บ้านนอก เวลากลางคืน ใต้ร่มไม้ มันมืดจริงๆ จึงไม่รู้ว่า เพื่อน 2 คนหลับหรือเปล่า แต่เดาว่าหลับเพราะนอนนิ่งทั้งคู่ ผมกรอกตากลับมามอง ปลายเท้าตัวเอง ด้านกระบะท้ายที่เปิดไว้ มีเด็กผู้หญิง เสื้อคอกระเช้า ผ้าถุง ยืนเป็นเงามึดๆ อยู่ท้ายกระบะครับ ทุกอย่างรอบๆตัวนี่ มันเงียบไปหมด เย็นวูบ ขนลุก ผมกรอกตามองไปที่เพื่อนอีก ก็นิ่งกันทั้ง 2 คน ผมคิดว่า:-)กูโดนคนเดียวแล้ว หันกลับมามอง เธออีกที เริ่มมีเสียงเธอครับ "พี่ ช่วยหนูด้วย พี่ช่วยหนูด้วย..." ผมเลยตั้งจิตอธิฐาน สวดนะโม 3 จบในใจ แล้วแผ่ บทเมตตา สัพเพสัพตา... พอจบบท ผมกลับมาชำเลืองเพื่อน มันก็นอนกันนิ่งเหมือนเดิม ผมชำเลืองกลับมาที่เธอ คราวนี้ไม่เห็นเธอแล้วครับ ผมเริ่มได้ยินเสียงลมพัดไบไม้ เสียงจิ้งหรีด ผมเริ่มขยับตัวได้ ยันตัวลุกขึ้นนั่ง มองไปรอบๆตัว ทุกอย่างกลับมาปรกติ เพื่อนก็ยังคงนอนนิ่งอยู่ ไม่ปลุกดีกว่า เดี๋ยวมันหาว่าผมหลอกพวกมันให้กลัว เช้ามา ล้างหน้า แปรงฟัน นั่งล้อมวงกินข้าวกันปรกติ ผมเลยแซวเพื่อน 2 คนว่า แหม พวกมรึงนอนหลับสบายเลยนะเมื่อคืน เพื่อนผมก็เลยบอก มรึงรู้ได้งัย ว่าพวกกูหลับ พวกกูยังเห็นมรึงลุกขึ้นนั่งเลย ผมก็เลยบอก งั้นพวกมรึงเห็นเหมือนที่กรูเห็นมั๊ย คราวนี้ไอ้เพื่อนผม 2 คนนั่น ก็เล่ามาเหมือนกันเปี๊ยบ เหมือนผมเห็นด้วย แต่ที่ทั้ง 2 คนไม่บอกกันเมื่อคืน เพราะกลัวว่า จะทำให้กลัวกันหมด และก็กลัวจะไม่เชื่อ นึกว่าหลอกอำกันด้วย แต่พอผมพูดขึ้นคนแรก อีก 2 คนจึงรู้ว่าโดนกันเต็มๆ ของจริงด้วย สายๆเจอครู ถามว่าที่นี่มีเหตุอะไรมาก่อนมั๊ย ครูบอกไม่รู้เหมือนกัน เพิ่งย้ายมาไม่นาน ซักพักผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านเดินมา ครูก็เลยถามผู้ช่วย ผู้ช่วยเลยถามว่าผีเด็กผู้หญิงใช่มั๊ย บ้านมันอยู่ชายป่า หลังโรงเรียนนั่นงัย บ้านร้างเก่าๆนั่นละ พ่อ แม่ ไม่รู้ไปไหน ปล่อยมันอยู่คนเดียวมา 2-3 ปี ชาวบ้านก็ช่วยกันดูแล แต่ปีที่แล้ว มาผูกคอตายที่ต้นไม้ที่ผมจอดนอนกัน ชาวบ้านเจอกันบ่อย เวลาเดินผ่านตอนกลางคืน จนไม่ค่อยมีใครกล้าแล้ว แล้วรถอีแต๋นที่ วัดให้พวกคุณยืมมา ก็เป็นรถที่ ส.ส.บริจาคให้วัด เอาไว้ขนของ ตอนบริจากมันไม่มีกระบะท้าย พวกที่วัดก็เลยเอาผาโลงเก่าๆ มาต่อเป็นกระบะ เท่านั้นละครับ ขนนี้ลุกซู่เลย... จากคุณ : yahee เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 52 20:53:55

ความคิดเห็นที่ 87   คุณแจกันมรกต คุณแจกันมรกต คุณแจกันมรกต คุณแจกันมรกต คุณแจกันมรกต คุณแจกันมรกต คุณแจกันมรกต คุณแจกันมรกต พูดถูกต้อง ผีมันไม่มีจริงหรอก ผมก็ไม่เคยเชื่อเรื่องผีสางเลย ยิ่งคำว่าไม่เชื่ออย่าหลบหลู่ เป็นคำที่ทำให้คนโง่เขลามากขึ้น ผีคืออะไรคือคนที่ตายไปแล้วใช่ไมหรือเปล่าในความหมายของพวกคุณ ผมเห็นว่าคนเราก็มีร่างกายกับจิตใจเท่านั้น เวลาคุณตายไปแล้วเข้าก็เอาร่างกายคุณไปเผาหรือเอาไปลงหลุมเท่านั้น ในเมื่อมันไม่มีแล้วก็เหลือแต่วิญญาณ ลองวิญญาณไม่ร่าง วิญญานไม่มีตามองไม่เห็น วิญญานไม่มีหูไม่ได้ยิน วิญญาณไม่มีปากพูดไม่ได้ วิญญานไม่มีมือสัมผัสไม่ได้ วิญญาณไม่มีขาวิญญาณเดินไม่ได้ วิญญาณไม่มีจมูกไม่ได้กลิ่น ก็เพราะอะไรเพราะวิญญาณไม่มีร่างแล้วจะเอาอะไรมาปรากฎให้เห็น ถ้ายิ่งคนไทยเชื่อเรื่องพวกนี้มากขึ้นสำนักเปิดกรรมสแกนกรรมจะมากขึ้น ความกลัวเกิดจากจิตนการของทุกคน คุณได้วาดภาพในสมองคุณไวแล้วว่าผีสำหรับคุณจะมีน่าตาอย่างไรที่จะทำให้คุณกลัว เหมือนคุณดูหนังผีทุกฉากทำให้คุณกลัวได้ แต่ถ้าทำอย่างไรให้คุณดูหนังผีไม่กลัว คุณลองปิดเสียงซิ จิตนาการคุณจะลดลงไปครึ่งหนึ่งความกลัวอาจน้อยลงหรือไม่กลัวเลย ผมก็ยังเชื่อในความคิดคุณแจกันมรกตครับ ลืมแนะนำถ้าก่อนคุณตายอยากทำประโยชน์ก็เอาร่างไปบริจาคครับ บริจาคให้โรงพยาบาลครับ ให้นักศึกษาแพทย์ใช้ร่างเราให้เป็นประโยชน์จะดีกว่า อาจจะได้ว่าเป็นผีที่มีคุณค่าและคุณประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติได้ครับ สุดท้ายผมก็ยังไม่เห็นประโยชน์ของการเห็นผีทั้งโดยบังเอิญหรือตั้งใจครับเห็นคนตายแล้วทำไมต้องกลัว จากคุณ : คนไม่เคยเห็นผี เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 52 21:04:00 A:112.142.142.202 X: TicketID:213833

ความคิดเห็นที่ 88 ตามอ่านเงียบๆมาสองคืน พอได้อ่านเรื่องของพี่ gp. ถึงกะสยองกันเลยดีเดียว ตัวเองเป็นคนไม่มีเซ้นท์ ไม่เคยเจอเรื่องลี้ลับ แต่คนรอบๆตัว นี่เจอกันบ่อย แม่แต่ในห้องนอนของตัวเอง ที่นอนอยู่ทุกคืน (เวลาไม่ได้ออกเที่ยว) น้องชายเคยมานอน ตอนสมัยที่อิชั้นเรียนหนังสือ อยู่ที่บางกอก น้องชายก็ยังเคยเจอ แต่อิชั้นไม่ยักกะเคยเจออะไร แฮะ   ตอนปีหนึ่ง อยู่หอพัก(เป็นหอหญิง ค่อนข้างเก่ามากๆ) นอนห้องละสองคน เวลารูมเมทกลับบ้าน ทิ้งให้เรานอนคนเดียวก็นอนหลับสบายดี    แต่กลับกัน เวลาอิชั้นไม่อยู่ รูมเมทต้องย้ายไปนอนเบียดกับเพื่อนห้องอื่น บอกไม่กล้าอยู่คนเดียว คุณผู้ชาย ของอิชั้น ก็เป็นคนที่เซ้นท์แรงมาก เวลามีอะไรผิดปกตินี่จะรู้ก่อนเลย มาเข้าเรื่องเลยดีกว่า เรื่องนี้เคยเล่าให้เพื่อน บางคนในห้องนี้ฟังแล้ว แต่เมื่อลุงซูมมาเปิดกระทู้ ก็ขอเล่าเป็นรายลักษณ์อักษร ซักอีกทีแล้วกัน เมื่อประมาณ 4-5 ปีก่อน อิชั้นเคยเปิดร้าน ทำธุรกิจอยู่แถวๆประชานิเวศน์ (อย่าถามรายละเอียดว่าที่ไหน ตรงไหน จ้างให้ก็ไม่บอก)  โดยอยู่เฝ้าร้านกับน้องชาย ด้วยความที่ว่า บ้านพัก ค่อนข้างไกลจากร้าน และน้องชายก็เที่ยวเก่งเหลือหลายตามประสาชายโสด(ตอนนั้นน้องชายยังไม่ได้แต่งงาน)  เช้าๆตื่นสาย มาเปิดร้านบ่าย เป็นประจำ ด้วยความเบื่อหน่ายรำคาญ  ก็เลยบอกว่า.. มาเช่าอพาร์ทเม้นท์ อยู่ใกล้ๆร้านดีกว่า แกจะไปไหนก็ไป ชั้นจะได้เปิดร้านเช้าๆได้   ได้ทำเลเหมาะ อพาร์ทเม้นท์ ฝั่งตรงข้ามกับร้าน มีห้องว่างอยู่ 1 ห้องพอดิบ พอดี เป็นห้องเกือบจะริม ใกล้บันไดหนีไฟ  แต่ดูลักษณะในห้อง เหมือนไม่มีคนอยู่มานานมากๆ ตอนไปดูห้อง ก็ไปกับน้องชาย  น้องมันก็ไม่ได้ว่าอะไร แค่ถามว่าอยู่คนเดียวได้รึเปล่า  ???    อิชั้นก็ว่าได้ ไม่มีอะไรน่ากลัว ดูปลอดภัยดี (ไม่เคยคิดเรื่องสุกี้น้ำ คิดแต่เรื่องคนค่ะ) อยู่มาได้ซักอาทิตย์นึง  คุณผู้ชายมาหา ครั้งแรกที่เปิดประตูเข้ามา  คุณเธอถามทันที "ทำไมเลือกที่นี่ ?" "ไม่มีที่อื่น หรือ ห้องอื่นเหรอ ?" เอ๊...ยังไง เราก็ว่าที่นี่สะดวกดีออก ทำไมคุณแฟนไม่ชอบล่ะ อันนี้อิชั้นคิดในใจ ไม่ได้ถามออกไปหรอก ก็ปกติ ไม่มีอะไร ออกไปกินข้าว แล้วกลับเข้ามาตอนเกือบค่ำ พอกลับเข้ามาในห้อง คุณแฟนบอก "ย้ายของในห้องกันเหอะ เลื่อนเตียงไปไว้ตรงโน้น แล้วเอาโต๊ะไปไว้ตรงนี้" คือแต่เดิม เนี่ย พอเปิดประตูเข้ามา  ขวามือจะเป็นห้องน้ำ ถัดจากห้องน้ำ ก็เป็นเตียงนอน (หัวเตียงชนกับห้องน้ำ) ซ้ายมือ มีโต๊ะลักษณะแบบโต๊ะกินข้าว 1 ตัว เก้าอี้ 2 สองตัว แล้วก็ประตูออกไประเบียงด้านหลัง   ขวามือ ถัดจากปลายเตียง เป็นโต๊ะเครื่องแป้ง ถัดไปเป็นตู้เสื้อผ้า เราก็ย้าย เอาเตียงไปวางต่อจากโต๊ะกินข้าว หันปลายเท้าไปทางด้าน เตียงเดิม  เวลานอน ปลายเท้าเราก็จะเป็นที่โล่ง โต๊ะทางด้านขวา ของเตียง ก็มีเก้าอี้วางอยู่ หันหน้ามาทางเตียง คืนนั้นก็นอนหลับสบาย ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เช้า... คุณผู้ชาย เข้าห้องน้ำ อาบน้ำ อยู่ๆ ก็มีเสียงทุบประตูดังลั่น  ร้องเรียกให้เราช่วยเปิดประตูห้องน้ำให้ที ห้องน้ำ เป็นลูกบิดค่ะ ต้องเปิดจากด้านใน แต่คนในห้องน้ำกลับเปิดไม่ออก ลูกบิดมันแข็งเหมือนล็อคข้างนอกซะงั้น พยายามอยู่นาน ไม่สำเร็จ คุณผู้ชายเป็นคนกลัวที่แคบด้วย ทำเอาเกือบแย่ เพราะหายใจไม่ออก อิชั้นก็เลยลงไปตามแม่บ้าน ให้มาช่วยเปิดให้ที แม่บ้านเรียกช่างให้ ไม่นานช่างก็ขึ้นมาพร้อมอุปกรณ์การงัด ซึ่งเหมือนรู้งาน ว่า ห้องนี้ เป็นประจำ สรุป ต้องรื้อลูกบิดออกใหม่ อิชั้นบอกไม่ต้องใส่ลูกบิดแล้ว เอากลอนมาติดแทนแล้วกัน  นึกแล้วเสียววาบ ถ้าเราอยู่คนเดียว แล้วเกิดติดอยู่ในนั้น ใครจะมาช่วยเนี่ย  (--') เรื่องนี้ผ่านไป ... อิชั้นยังคงใช้ชีวิตปกติ อยู่ที่นี่เพียงลำพัง ไม่กี่วันต่อมา แม่,พี่สาว และหลานๆ มาเยี่ยม และค้างคืนด้วยที่ห้องนี้  อิชั้นนอนบนเตียงกับแม่ พี่สาว และหลานชาย หลานสาว กับพี่เลี้ยงปูผ้านอนตรงที่ว่างปลายเตียง ตอนนั้นหลานชายน่าจะซัก 3 ขวบ หลานสาวขวบกว่าๆ นอนอยู่ กำลังจะเคลิ้มหลับ อยู่ๆ คุณแม่ (ซึ่งหลับก่อนอิชั้นไปตั้งแต่หัวค่ำ) ก็ขยับตัวแบบผิดปกติ แล้วพรวดพราดลุกขึ้น  ก่อนเดินไปชะโงกดูหลานๆ ซึ่งหลับสนิทไปนานแล้ว เช่นกัน อิชั้นถาม  "มีอะไรแม่?" แม่ตอบ "เปล่า จะลุกไปเข้าห้องน้ำ" พอเช้า ก่อนแม่และพี่สาวจะกลับบ้าน แม่ถามอิชั้นหลายรอบ มากๆ ว่า อยู่คนเดียวได้เหรอ  กลับบ้านกับแม่มั้ย ถามย้ำ ซ้ำไป ซ้ำมาอยู่หลายรอบ อิชั้นก็ยืนยันว่าอยู่ได้ แม่จะถามทำไมหลายรอบเนี่ย ?!? ต่อมาไม่นาน ร้านสาขาต่างจังหวัด งานยุ่ง แม่เรียกตัวให้กลับมาช่วยที่ร้านต่างจังหวัด  ให้น้องชายอยู่ดูแล ร้านที่กรุงเทพเอง  น้องชายก็เลยพาเด็กลูกน้อง(ผู้ชาย) มาช่วย และให้ลูกน้องพักที่ห้องของอิชั้น    นานๆ อิชั้นเข้ามาที่ห้องที ก็ถามแม่บ้านว่า เด็กที่มาอยู่เป็นไงบ้าง เสียงดังรึเปล่า อยู่ห้องสร้างความรำคาญให้มั้ย แม่บ้านที่อพาร์ทเม้นท์บอกว่า  ไม่เลย แต่น้องคนนี้มีเพื่อนมาค้างด้วย ไม่ได้นอนคนเดียว ถ้าวันไหนไม่มีเพื่อนก็จะไปนอนที่อื่น แล้วกลับมาตอนเช้า แต่พักหลังๆนี่ ถึงเพื่อนมาก็ไม่ค้าง พากันออกไปข้างนอกทุกคืน วัยรุ่นอ่ะนะ  คงจะเที่ยวกันทุกคืน แต่ไม่เป็นไร งานไม่เสียเป็นใช้ได้  ตอนนั้นคิดแบบนี้จริงๆ ต่อมา.. มีทีท่าว่าอิชั้นคงไม่ได้กลับไปดูแลร้านที่กรุงเทพแน่ๆแล้ว ก็เลยบอกแม่ว่า งั้นเราคืนห้องที่เช่าไว้ดีกว่านะ เพราะไม่มีคนไปอยู่ ก็สรุปว่า คืนห้องไป  ในขณะที่คุยกัน วันนั้นเป็นช่วงปีใหม่ ที่บ้านก็รวมตัวกันรับประทานอาหาร อยู่กับครบหน้า รวมทั้งลูกน้องผู้ชาย ที่ไปอยู่ห้องพัก เฝ้าร้านแทนอิชั้นด้วย นึกยังไงไม่รู้ แต่คิดว่าน้องมันคงอึดอัดมานาน มันก็ถามโพล่งออกมาว่า "พี่ครับ  ห้องที่พี่อยู่น่ะ พี่ไม่กลัวปี๋(สุกี้น้ำ)เหรอครับ?" ทุกคนตะลึง มองหน้ากันเลิกลั่ก ประมาณว่า มรึงจะถามทำไมว๊า... เดี๋ยวพี่เค้าก็คิดมากร๊อกกกกกกกกก น้องมันคงรู้ และอ่านใจทุกคนออก ก็เลยบอกว่า "ก็ผมเห็น พี่เค้าจะคืนห้องแล้ว ก็เลยกล้าถาม ผมอึดอัดอยู่ตั้งหลายเดือน อยากถามพี่ตั้งนานแล้วเนี่ย" อิชั้นก็เลยถามไปว่า... "มรึงเจอปี๋(สุกี้น้ำ) ที่ห้องพี่เหรอ" เท่านั้นแหละ น้องมันเล่าไปขนลุกซู่ไป มันบอกทีแรก มันนึกว่ามันเมา แต่พอเจอที ที่สองมันไม่ได้กินเหล้า และที่สำคัญ เพื่อนมัน (ซึ่งวันนั้นก็มาด้วย) ก้อยู่ แต่เพื่อนมันไม่เห็น มันเล่าว่า.. กำลังนอนหลับอยู่ รู้สึกเหมือนมีคนมานั่งจ้อง พอลืมตา เห็นเด็กผู้หญิง อายุไม่น่าจะเกิน 5 ขวบ ถักผมเปียสองข้าง ชะโงกมามองมัน มันตกใจมาก แต่น้องเค้าก็หายไป ครั้งที่สอง นอนหลับ อยู่ โดยมีเพื่อนนอนอยู่ข้างๆ รู้สึกเหมือนเดิม คือเหมือนมีคนมอง  คราวนี้มันว่า เอาอีกแล้ว... มาอีกแล้ว พอลืมตา น้องคนเดิม นั่งแกว่งเท้าอยู่บนเก้าอี้ มองมาทางมันอีกแล้ว คราวนี้ ไม่ไปไหน นั่งมองมันอยู่อย่างนั้น  มันพยายามเรียกเพื่อน เพื่อนก็ไม่ตื่น  นั่งอยู่นาน จนไม่ไม่เป็นอันนอน พอน้องมันเล่าจบ แม่ก็เลย เล่าต่อบ้าง.... แม่ถามอิชั้นว่า "จำวันที่แม่ไปค้างด้วยได้มั้ย?" คืนนั้น แม่ก็เห็นเหมือนกัน ในขณะที่กำลังหลับอยู่ ได้ยินเสียงเรียก "คุณยาย !!!"  พอลืมตา เห็นเด็กผู้หญิงมาเด็กมาชะโงกหน้ามองแม่ ทีแรกคิดว่าเป็นหลาน แต่หลานสาวอายุแค่ขวบกว่า หลานชายก็ไม่ใช่ เพราะเห็นชัดว่าเด็กที่เรียก โตกว่านั้น และเป็นเด็กผู้หญิง แม่ก็เลยลุกไปดูหลาน ว่านอนอยู่หรือเปล่า เพื่อความแน่ใจ พอฟังจบ อิชั้นก็นึกย้อนไปถึงวันที่คุณผู้ชาย โดนขังในห้องน้ำ รวมถึงที่เค้าชวนเคลื่อนย้ายของในห้อง  แต่พอถามเค้า  เค้าบอกไม่เจออะไร  แต่ความรู้สึกมันบอกได้ ว่าห้องนี้ไม่ธรรมดา ลองมานึกดู เป็นคนไม่มีเซ้นท์ ก็ดีไปอย่างเนีอะ ไม่ต้องอกสั่นขวัญแขวน เจออะไรที่ไม่อยากเจอ ต่างคนต่างอยู่น่ะดีแล้ว อย่ามาให้เห็นเลยเน้อ.... อ้อ... ขอถามหน่อย  ใครพอจะรู้บ้างว่า แถวๆร้านอาหารริมเขื่อนลำตะคอง ที่มีร้านริมน้ำเยอะๆน่ะ มีประวัติอะไรมั้ย  เคยไปนั่งกินข้าว กินกุ้งเผากันสองคนกับคุณผู้ชาย อยู่ๆ คุณผู้ชายก็ ตักอาหารใส่จานเล้กๆ พร้อมน้ำ 1 แก้ว แล้วเอาไปว่างไว้ใต้ต้นไม้ ก่อนจะนั่งนิ่งๆ ทำปากขมุบขมิบอะไรไม่รู้ แล้วก็บอกว่า สงสัย"เค้า"จะหิว เลยมาให้เห้น     โอ้ว...พระเจ้า กลางวันแสกๆเลยนะ   นึกแล้วขนลุก   บรื๊ออออออออออออออ   จากคุณ : prettyguide เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 52 21:40:41

ความคิดเห็นที่ 89 เราชอบเรื่องของคุณ greeny pony  ใน คห.84 ค่ะ น่ากลัว..ตอนจบเอาฮาซะงั้น อิอิ ของเราเหมือนเคยเล่าแล้น เลยไม่เล่าซ้ำ เอาเรื่องใหม่ ถึงไม่เจอเอง แต่เราก็เสียวสันหลังเลย... เรื่องมีอยู่ว่า เราเคยไปนอนเล่นในที่พักแห่งหนึ่งในเมืองเชียงใหม่คนเดียว โดยสภาพแล้ว ควรจะกลัวค่ะ บรรยากาศให้มากเลย แต่ด้วยความที่เราแอบหลงรักห้องพักสไตล์นี้ตั้งแต่แรกพบ ความกลัวเลยหายไป คืนที่เราพัก เราเป็นลูกค้าคนเดียวของที่พักแห่งนั้น แอบวังเวงนิดหน่อย แต่เนื่องจากเดินทางคนเดียว ไม่ควรคิดถึงเรื่องลี้ลับ เราหลับสบาย นอนหัวค่ำ หลับยาว ตื่นอีกทีก็เช้า....ไม่มีอะไรในกอไผ่ แต่หลังจากที่เราจบทริปนั้นกลับบ้านไป ได้คุยกับพี่ที่รู้จักที่เค้าอยู่เชียงใหม่ เค้าบอกว่า ที่พักที่เรานอนคืนนั้นอ่ะ มีผีนะ แล้วจะชายแก่ออกมาเดินด้วย...เป็นคำบอกเล่าจากเพื่อนของพี่คนนี้อีกที ซึ่งพี่กับเพื่อนคนนั้นนั่งคุยกันเรื่องผี แล้วก็เอ่ยชื่อที่พักนั้นขึ้นมาว่าเราก็เพิ่งมานอนคนเดียว พี่เค้าเลยถามว่าเราเจออะไรแปลกๆบ้างมั๊ย? แต่เราไม่พบอะไรเลย......... หลังจากนั้น เราเริ่มกลัวอ่ะ ไม่กล้าไปพักแล้วเนี่ย ถ้าไม่มีเพื่อนนอนด้วยอ่ะนะ หุหุ จากคุณ : อยากเป็นไกด์ ใครช่วยที เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 52 21:40:49

ความคิดเห็นที่ 90 ไม่กล้าอ่าน ขอมาอ่านใหม่ตอนกลางวันละกัน จากคุณ : Ganit เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 52 21:47:54

ความคิดเห็นที่ 91 โห้......อ่านมาถึงเรื่องเจ้านุศ ในเพลานี้... ไปนอนก่อนล่ะ เดี๋ยวพาลได้ตาค้างไม่กล้านอนทั้งคืน เช้าไปทำงานไม่ไหว งานจะเข้าได้อีก.... จากคุณ : XOOMER เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 52 21:47:56

ความคิดเห็นที่ 92   ต้นปีที่แล้วไปพักแพที่เขื่อนเชี่ยวหลาน(เขาสก) ตื่นมาน่าจะตีห้าเพราะปวดฉี่ แต่ไม่ไปเข้าเพราะมันมืดมากและห้องน้ำอยู่ในแพหลัก เลยนอนต่อ แล้วฝันว่าเอา handycam ที่วางไว้ข้างตัวมาถ่ายไนท์ช็อทเล่น ถ่ายหลานที่นอนอยู่ข้าง ๆ พอเงยกล้องไปที่ประตู ก็เจอว่ามีคนซัก 6-7 คนเห็นว่าเราถ่ายเขาได้ ก็กรูเข้ามาหาทันที ผมตกใจตื่นแต่ขยับตัวไม่ได้ คงเหมือนโดนผีอำ เลยท่องนะโมแต่ก็ยังไม่หลุด จนคิดว่าจะทำบุญไปให้ ซํกครู่ก็ขยับตัวได้ เล่นเอาหายปวดฉี่เลย พยายามจะคิดว่าแค่ฝัน แต่มาถึงบ้าน ก็ทำบุญตักบาตร แผ่เมตตาไปให้ เพราะเหมือนรับปากพวกเขาไว้แล้ว จากคุณ : blue (bluebayou) เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 52 22:33:46

ความคิดเห็นที่ 93 ปกติเป็นคนไม่ค่อยมีเซนซ์ซักเท่าไหร่อะค่ะ แต่มีคืนนึง ไปเข้าค่ายภาษาอังกฤษ และต้องไปพักค้างคืนที่ทะเลน้อย ใครที่เคยไป คงจะเห็นนะคะว่ามันเป็นบ้านพักหลังเดี่ยวๆ อยู่ในน้ำ มีสะพานยาวๆ เชื่อมต่อจากหลังนึงไปหลังนึง บ้านหลังที่ไปพักเป็นหลังที่ใหญ่ที่สุด และอยู่เกือบสุดท้ายเลยค่ะ หลังอาบน้ำกันเสร็จแล้ว เราก็จัดสรรที่นอนกัน ฝรั่งนอนห้องนึง พวกเรานอนห้องนึง แต่ละห้องจะมีเตียงสองชั้นวางเรียง 2 ฟากห้อง หลายเตียง เจ้ากรรม อากาศคืนนั้นดันร้อนมาก ก็เลยชักชวนกับเพื่อนๆ ถอดกระจกบานเกล็ดออก เพื่อให้ลมพัดเข้ามาในห้องได้สะดวกขึ้น นอนไปนอนมา ดันตื่นขึ้นมากลางดึก รู้สึกแปลกๆ เลยมองไปที่ปลายเท้า อุแม่เจ้า! มีผู้หญิงใส่ชุดขาวยาวกรอมเท้ายืนมองเราอยู่ ด้วยความที่สายตาสั้น เลยมองโลกในแง่ดีไว้ ว่าคงเป็นเพื่อนซักคนดันตื่นมาฉี่กลางดึก (ทั้งที่เค้ายืนอยู่เฉยๆ นั่นหละ แล้วก็คงไม่มีใครเข้าค่ายแล้วใส่ชุดขาวกรอมเท้านอนหรอกน่า) เราก็ทำเหมือนว่าไม่เห็น หลับต่อจนถึงเช้าไปเลย ... รุ่งเช้า ตื่นขึ้นมา พยายามมองโลกในแง่ดีต่อไป ไปถามทุกๆ คนว่า เมื่อคืนมีใครตื่นมาฉี่กลางดึกในชุดขาวรึป่าว เพื่อนหันมาถามว่า "อ้าว...แกก็เห็นเหมือนกันเหรอ" ฟิ้ววววววว.... ไม่รู้เค้าตั้งใจจะมาว่าเรื่องถอดบานเกล็ดเค้ารึเปล่าเนอะ จากคุณ : nifedipine เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 52 23:20:42

ความคิดเห็นที่ 94 ปกติจะไม่อ่านเรื่องแนวนี้เลยค่ะ หนังก็ไม่ดู บอกแฟนเลยว่าไม่ต้องชวนมาดูหนังแนวนี้นะ จะดูก็ไปดูกะคนอื่น เค้าก็คงรู้ค่ะไม่เคยชวนดูเลย คงกลัวไม่คุ้มมั๊ง ไอ้นี่ปิดตาตลอด 555 ที่เคยเจอ แต่เหมือนไม่ค่อยจะเจอด้วยตัวเองเท่าไหร่ แต่อยู่ในเหตุการณ์ด้วยค่ะ ปกติที่บ้านจะต้องไปเที่ยวทะเลทุกปี จะปีละกี่ครั้งก็ว่าไป แม่บอกว่าทำงานมาเหนื่อยๆ ขอพักผ่อนบ้างเต๊อะ พ่อก็เป็นพ่อที่แสนดี พาเที่ยวตลอดค่ะ ก็จะไปพักที่นี่ตลอด(ตอนนั้นนะคะ) ก็เป็นโรงแรม 5 ดาว ย่านพัทยาใต้ค่ะ ที่ไหนไม่ขอบอกชื่อแล้วกัน ตอนแรกๆ จะนอนห้องที่เหมือนลงไปใต้ดิน ก็ไม่มีอะไร นอนอย่างมีความสุขดี แต่พอดีเค้าเปิดตึกใหม่ ครั้งนั้น พี่ๆ น้องๆ ที่เป็นลูกพี่ลูกน้องไปด้วย ตอนเย็นลงไปทานอาหาร บ้านเราจะไม่ค่อยเหมือนบ้านอื่นเท่าไหร่ คือพ่อขอไม่ขับออกไปข้างนอกค่ะ จะขออยู่แต่ในโรงแรมตลอด ที่บ้านจะเรียกว่าเปลี่ยนที่นอน ก็ไม่เป็นไร ก็ลองมาทานห้องอาหารข้างล่าง จำได้ว่าอิ่มมากค่ะ พี่ๆ ก็เลยชวนลงมาเดินเล่นทะเลเป็นการย่อยอาหาร ก็เดินลงบันไดมาลึกมาก เดินมา 4คนค่ะ ก็พี่สาวเรากะน้อง อยู่ข้างหน้า เรากะพี่อีกคน เดินข้างหลัง ลงมาจะเจอทางเลี้ยวหักศอกแล้วอ่ะ พี่เค้าก็ เฮ้ย! ก็ชะงักเลยค่ะ พี่สองคนเค้าได้ยินเสียงคนร้องไห้อ่ะ แต่เรากะน้องไม่ได้ยิน แต่ตอนนั้นก็ไม่สนแล้วค่ะ โกยอย่างเดียวเลย วิ่งจากข้างล่างขึ้นมาข้างบน คืนนั้นนอนไม่เป็นสุขเลยค่ะ เพราะห้องมันใหญ่มาก ห้องที่นอนครั้งนั้นเป็นตรงมุม จะเรียกห้อง suite ก็ได้อ่ะ มี สามห้อง สองห้องนอน หนึ่งห้องนั่งเล่น แล้วแต่ละห้องก็ใหญ่มาก ห้องน้ำก็ไม่มีที่ล็อค กระจกทั้งห้องเลย จะหลอนแค่ไหน ยังเด็กด้วย น่าจะประมาณ 12 ขวบได้ ตอนเช้าพี่ๆ เค้าก็เดินไปดูกันค่ะว่ามีอะไร แต่เราไม่ได้เดินไปดูด้วย เพราะเดินไปเอาของที่รถ(ยังอุตส่าห์จำได้อีกนะเนี่ย) แล้วพี่ก็เดินมาบอกว่า ตรงนั้นที่เป็นทางหักศอกอ่ะ ยังสร้างไม่เสร็จ แล้วก็มีแต่ต้นไม้ซึ่งไม่น่าจะมีใครไปนั่งอยู่ตรงนั้นได้ เอาละสิ แล้วเสียงใครร้องไห้ละเนี่ย ก็ยังเป็นปริศนาสำหรับบ้านเราอยู่ค่ะ แต่ก็ไม่มีใครไปพิสูจน์อีกแล้ว และบ้านเราก็ไม่ไปที่โรงแรมนี้อีกเลยอ่ะ ขอเปลี่ยนไปที่อื่นดีกว่า โดยปกติเราไม่เคยเจอนะคะ หรืออาจจะแบบหลายๆ ท่านด้วย เพราะเป็นคนที่หลับไปแล้วจะไม่รู้เรื่องอีกเลย รู้อีกทีก็เช้าโน่นแหละค่ะ อย่างบ้านที่ ตจว. ก็มีคนเสียตั้งเยอะ เราก็ไม่เคยเจอเลย ก็นึกๆ เหมือนกัน ถ้ามาหนูขอ ตรงๆ เลยนะคะ ไม่ตรงไม่ต้องมา เดี๋ยวมีเคือง เลยไม่มีใครมาหาเราเลยมั๊ง 555 จากคุณ : nongmi (nongmi) เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 52 23:50:40

ความคิดเห็นที่ 95 ติดตามมาจนถึงความเห็นที่ 94 แล้ว ชักเริ่มดึก เริ่มหวาดๆ แล้วอ่ะ ไปนอนก่อนดีก่า แต่ละคน ประสบการณ์เร้าใจทั้งนั้นเลย ผมไม่มีเซนส์อ่ะ แล้วก็ปลอบตัวเองว่าไม่ต้องเสียใจที่ไม่มีเซนส์ แค่ฟังเพื่อนๆ เล่า ก็หวาดจะแย่แล้ว ถ้าเจอเองคงระทึกกว่านี้ ว่าแล้วก็รีบไปนอนก่อนดีก่า ฝันดีกันนะครับ จากคุณ : ouise เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 52 23:59:56

ความคิดเห็นที่ 96   อ่านแล้วเสียวสันหลังวาบ.... เคยเจอเมื่อ 2 3 ปีก่อน ตอนนั้นกลับจากเชียงใหม่ เลยแวะพักนอนที่โรงแรมแห่งหนึ่งของ จ.ตาก ซึ่งเปิดใหม่ วันนั้นคนพักเยอะมาก คนเดินผ่านหน้าห้องวุ่นวายไปหมด ก่อนเข้านอนก็สวดมนต์ตามปกติ ซึ่งหน้าห้องยังมีคนเดินไปมา เสียงปิดประตูดังบ้าง เราไม่ได้ใส่ใจก็เลยนอนหลับไป ทีนี้เหมือนครึ่งหลับครึ่งตื่น หูได้ยินเสียงคน คนวิ่ง หน้าห้อง เริ่มหงุดหงิดนิดๆ ที่นี้มีเสียงลูกบิดประตู แกร๊กๆ ด้วยความที่เรารำคาญเลยตะโกนออกไปว่า "แม่บอกเค้าไปดิเข้าห้องผิด"(ยังครึ่งหลับครึ่งตื่น) ทันใดนั้นเหมือนอะไรวิ่งเข้าชน ตัวขยับไม่ได้ หายใจไม่ออก สวดมนต์ก็ไม่หาย เลยตั้งจิตใหม่ นึกถึงเสด็จพ่อ ร.๕ แล้วร้องเพลงประจำโรงเรียนสวนกุหลาบ ร้องได้สักพัก ก็รู้สึกดีขึ้น หายใจได้ ตื่นมารีบบอกแม่ทันที >_< จากคุณ : c-view เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 00:16:14 A:110.49.152.83 X: TicketID:226861