ความคิดเห็นที่ 1 แผนที่ครับ จากคุณ : คุณหมีอ้วน เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 52 01:06:35

ความคิดเห็นที่ 2 หลังจาก ATC ให้ Clearance เรียบร้อย ครั้งนี้ กัปตันเหยา เหม็ง มอบหมายให้ผมเป็นคน Taxi เครื่องฯไปยังรันเวย์ครับ การ Taxi ท่ามกลางอากาศร้อนจัด และลมแรง(มาก) เป็นความรู้สึกใหม่ ที่สร้างความประทับใจให้แก่ผมไม่น้อยเลยครับ วิชาการในโรงเรียนการบิน ที่ว่าด้วยการ Taxi ท่ามกลางลมแรง ได้ถูกนำมาใช้จริง หลังจากที่แทบจะไม่เคยนำมาใช้เลย ในเมืองไทยครับ จากคุณ : คุณหมีอ้วน เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 52 01:09:20

ความคิดเห็นที่ 3 อีกอย่างที่สร้างความประทับใจไม่น้อยเลยคือ ระหว่างที่รอจะเข้าไป Takeoff นั้น ได้เห็น โบอิ้ง 747-400 มาLanding ตรงหน้าเห็นๆด้วย เลยถ่ายรูปมาฝากกันด้วยครับ จากคุณ : คุณหมีอ้วน เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 52 01:10:09

ความคิดเห็นที่ 4 น่าเสียดาย ถ่ายตอน Touch Down ไม่ทัน จากคุณ : คุณหมีอ้วน เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 52 01:11:28

ความคิดเห็นที่ 5 เที่ยวนี้ กัปตันฯ เป็นคนทำการ Takeoff เองครับ เนื่องจากลมแรงถึง 45 Knots (แรงกว่าตอน Landing เมื่อตะกี้อีกครับ) จากคุณ : คุณหมีอ้วน เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 52 01:13:18

ความคิดเห็นที่ 6 ระหว่างการบินไต่ ไปวางระดับ กัปตันฯเล่าให้ฟังว่า เที่ยวบินที่เราจะบินกันต่อไปนี้ เป็นเที่ยวบินที่สุดยอดที่สุดของ การบิน Ferry Flight ทริปนี้เลยหล่ะครับ แต่ผมก็ยังไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ว่ามันหมายถึงอะไร จนกระทั่ง เครื่องบินของพวกเรา บินข้ามทะเลแดง เข้าฝั่งทางทิศตะวันตกของประเทศซาอุดิอาระเบีย ก็เริ่มถึงบางอ้อครับ ภารกิจของพวกเราต่อจากนี้ไป คือการบินข้าม “ทะเลทรายอาหรับ” ครับ จากคุณ : คุณหมีอ้วน เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 52 01:15:45

ความคิดเห็นที่ 7 หลังจากถูกทำโทษอยู่ 1 Flight ตอนนี้ระบบ Auto Pilot ของพวกเราใช้การได้ปกติดีแล้วครับ ^^ .....ขณะนี้เรากำลังบินอยู่กลางทะเลแดง(Red Sea) แก้ไขเมื่อ 17 ส.ค. 52 00:52:54 จากคุณ : คุณหมีอ้วน เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 52 01:18:41

ความคิดเห็นที่ 8 ถ่ายภาพเรือได้หนึ่งลำครับ จากคุณ : คุณหมีอ้วน เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 52 01:20:06

ความคิดเห็นที่ 9 เริ่มเข้าฝั่งซาอุฯแล้วครับ จากคุณ : คุณหมีอ้วน เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 52 01:21:37

ความคิดเห็นที่ 10 มองไกล ที่สุดตา ที่ขอบฟ้าไกล มีแต่สีน้ำตาลครับ จากคุณ : คุณหมีอ้วน เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 52 01:23:02

ความคิดเห็นที่ 11 ระหว่างทาง เราจะพบลมทะเลทรายคอยบั้มเครื่องบินของเรา เกือบตลอดเวลา กัปตันฯบอกกว่า การบินในเส้นทางนี้ ต้องใช้ความรอบคอบสูงครับ ถึงแม้พวกเราจะใช้ระบบ Auto Pilot ก็ตาม แต่ก็ต้องคอย monitor เครื่องวัด เครื่องยนต์ อย่างถี่ถ้วนด้วยครับ เพราะบางครั้งนอกจากลมทะเลทรายธรรมดาแล้ว พวกเรายังต้องเผชิญกับ Wind shears ด้วยครับ จากคุณ : คุณหมีอ้วน เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 52 01:24:26

ความคิดเห็นที่ 12 ว่าแต่ Wind shears คืออะไรทราบมั้ยครับ??? Wind shears  ถ้าว่ากันแบบตรงๆไม่อ้อมค้อม Wind=ลม....+....shears=การตัด/เชือน(โปรดนึกภาพลมตัด  ลมเชือนไว้คอยเลยครับ) เอาหละ!! คราวนี้ถ้าว่าตามทฤษฎีก็คือ การเปลี่ยนแปลงขนาดความเร็ว และ/หรือ ทิศทางของลมในช่วงเวลาสั้นๆ ซึ่งเกิดได้ทั้งแนวนอนและแนวตั้งครับ นักบินอาจพบกับ wind shear ในลักษณะของกระแสลมที่พัดขึ้น หรือ พัดลง หรืออย่างโหดๆก็มีสิทธิ์พบเจอกระแสลมที่พัดมาในแนวนอน+แนวตั้ง ไปพร้อมๆกันเลยหนะครับ อืมมม... แค่พูดถึงก็....บรึ๋ยยยย.... ขนแขนแสตนด์อัพแล้วครับ คิดดูแล้วกันว่า ถ้าเราจะต้องบินเข้าไปอยู่ในนั้น จะอันตรายแค่ไหน เวลาโดนผลักไปข้างหน้านี่ไม่เท่าไหร่ครับ แต่ถ้าตอนเจอแบบตะลุมบอล ฉุดลง เด้งขึ้น ผลักถอยหลังนี่ ถ้าไม่บังคับเครื่องดีดี และแก้ให้ถูกจังหวะหละก็...ฮึ  ฮึ...อาจมีโอกาสร่วงลงไปสัมผัสพื้นที่ด้านล่างได้เลยหละครับ แก้ไขเมื่อ 17 ส.ค. 52 01:00:05 จากคุณ : คุณหมีอ้วน เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 52 01:25:03

ความคิดเห็นที่ 13 บางกรณีนักบินจะพบเจอกับคุณ Wind shear ในขณะที่เกิดพายุฟ้าคะนอง อันตรายจะเกิดขึ้นได้หากบินใต้ฐานเมฆที่ครึ้มฝน ซึ่งกำลังพัฒนาในขั้นเจริญพันธุ์ (Mature Stage Thunderstorm)ครับ จะทำให้เกิด wind shear ที่เรียกว่า Microburst หากเครื่องบินผ่านใต้เมฆแบบนี้ จะเกิดลมพัดกดลง เหมือนถูกราดด้วยน้ำลงมา อาจจะทำให้เครื่องบินตกกระแทกพื้นได้ พวกเราในยามนี้  ก็ไม่อาจนอนใจครับเพราะโอกาสที่จะเจอในทะเลทรายก็มีเท่ากับ(เกือบ) 100%   -__-“ จากคุณ : คุณหมีอ้วน เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 52 01:25:54

ความคิดเห็นที่ 14 ความรู้เพิ่มเติม เรื่อง Wind Shear ครับ ปรากฏการณ์วินด์ เชียร์ (Wind shear) เกิดจากลักษณะของกระแสลมที่พัดอย่างแปรปรวน ณ ช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง โดยมีอยู่ 2 ลักษณะด้วยกัน ได้แก่          1. กระแสความเร็วลมแตกต่างกัน ระหว่างจุดหนึ่งมายังอีกจุดหนึ่ง ณ บริเวณดังกล่าวมีความเร็วลมต่างกัน อาทิ บริเวณด้านหัวรันเวย์ของสนามบินมีกระแสลมแรงที่ระดับ 50กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ด้านท้ายสนามบินอยู่ที่ 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีผลต่อการควบคุมการบิน หากเครื่องยนต์ของเครื่องบินไม่มีกำลังแรงพอ กระแสลมทำให้เครื่องบินเสียการทรงตัวได้          2. ทิศทางของลมที่มีความแตกต่างกัน อาจจะเป็นทิศทางในแนวดิ่ง กระแสลมพัดขึ้นและลงในความเร็วที่แตกต่างกัน หรือกระแสลมที่พัดในแนวราบ ที่มีความเร็วแตกต่างกัน จะมีผลต่อการควบคุมการบินเช่นกัน          ปรากฏการณ์วินด์ เชียร์ ยังเป็นปัจจัยสำคัญทำให้เกิดหลุมอากาศ หรือฟ้าร้องฟ้าผ่าอย่างรุนแรง          ปรากฏการณ์วินด์ เชียร์ (Wind shear) มีอันตรายต่อเครื่องบินอย่างไร ?         ปรากฏการณ์วินด์ เชียร์ (Wind shear) คือการเปลี่ยนแปลงความเร็วและ/หรือทิศทางของลมในระยะสั้นๆ(ฉับพลัน) สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งแนวนอนนและแนวตั้งหรือเกิด พร้อมๆกันทั้งสองแนวบางครั้งเกิดร่วมกับปรากฎการณ์อุณหภูมิผกผันในระดับต่ำ วินเชียร์เกิดขึ้นได้ทุกระดับความสูงโดยทำให้เกิด การเคลื่อนที่ของลมเป็นวงกลม (Eddies)  ทำให้เกิดความปั่นป่วนอย่างรุนแรงตามความรุนแรงของวินเชียร์ วินเชียร์ที่กระทบกระเทือน และเป็นอันตรายมากต่อการบินได้แก่วินเชียร์ที่เกิดขึ้นในระดับต่ำๆ ซึ่งสูงจากทางวิ่งของสนามบินไม่เกิน 500 เมตร เป็นวินเชียร์ที่เกิดขึ้นในระดับต่ำๆ ใกล้กับทางวิ่งของสนามบิน          วินเชียร์เกิดจากการเคลื่อนที่ของอากาศในบรรยากาศชั้นหนึ่งเคลื่อนผ่าน บรรยากาศชั้นหนึ่งที่อยู่ติดๆกันซึ่งมีตั้งแต่ขนาด เล็กๆที่เกิดจากลมกระโชกแรงๆจนถึงการไหลของมวลอากาศขนาดใหญ่ โดยเกิดจากปรากฎการณ์ทางธรรมชาติเหล่านี้อย่างใดอย่างหนึ่ง หรือมากกว่าเกิดร่วมกันเช่นพายุฟ้าคะนอง แนวปะทะอากาศ ลมทะเลฯลฯ ซึ่งวินเชียร์ที่เป็นอันตรายต่อการบินบ้านเราจะเกิดจากพายุุ ฟ้าคะนองเท่านั้น การตรวจวินเชียร์เป็นการเตือนภัยไม่ให้เครื่องบินเข้าไปในบริเวณที่เป็นวิ นเชียร์ซึ่งจะถูกโยนตัวขึ้น-ลง จนนักบินไม่สามารถ ควบคุมเครื่องได้ ถ้ารุนแรงมากชิ้นส่วนของเครื่องบินอาจฉีกขาด ทำให้เครื่องตกได้ ปรากฏการณ์วินด์ เชียร์ (Wind shear) [ดูภาพทั้งหมดในหมวด] หัวข้อ    * สภาพอากาศที่เอื้อให้เกิด wind shear    * ผลของ wind shear ต่อการบิน สภาพอากาศที่เอื้อให้เกิด wind shear          1. เมื่อร่องอากาศที่ต่างกัน มากกว่า 5 °C ( ร้อนและเย็น ) มาเจอกัน          2. บริเวณภูเขา เมื่อลมพัดผ่านยอดเขา ความเร็วของลมด้านปลายลม คือ ด้านที่ผ่านยอดเขามา จะมีความเร็วของลมที่ต่างกัน เนื่องจากกระแสลมมันปั่นป่วนม้วนตัว ( turbulence )          3. downbursts คือปรากฎการณ์ ที่เกิดขึ้นเนื่องจาก ลมที่เกิดจากฝนที่ตกเทลงมา ยังพื้น ทำให้เกิดกระแสร์ลม ที่มุ่งลงพื้นดินแล้ว หักออกพุ่งออกนอก ผลของ wind shear ต่อการบิน          ก่อนอื่นอยากให้เราเข้าใจกันก่อนว่า เครื่องบินจะลอยในอากาศได้นั้น มันต้องมีความเร็วขั้นต่ำสุด ซึ่งเขาเรียกว่า stall speed หากเครื่องบิน บินต่ำกว่าความเร็วนี้ จะทำให้มีแรงยก ( lift ) ไม่พอ เครื่องก็จะตกลงมา ดังนั้นจะเห็นว่า เวลาเครื่องบินลงนั้น เครื่องบิน จะต้องบินด้วยความเร็วอันหนึ่ง กล่าวคือ เครื่องบิน จะร่อนลงเอง (ไม่มีแรงดันไปข้างหน้า)ไม่ได้          ทีนี้มาถึงปราก ฎการณ์ ที่มี windshear ( ตามที่ผู้เชี่ยวชาญ กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เพิ่งเกิด ที่ภูเก็ต กับ เครื่อง One To Go นั้น) อันนี้ "น่าจะ" มีผลสืบเนื่องมาจากการเกิด microburst          เป็นที่รู้กัน ว่า microburst นี้ เป็นสาเหตุอันสำคัญที่ก่อให้เกิด เครื่องบินตกขณะที่นักบินพยายามจะเอาเครื่องบินลง เป็นที่รู้กันว่า microburst นี้ เป็นพลังลมที่มีพลังที่รุนแรงมาก เมื่อมันกระทบดินแล้ว มันจะกระจายออกไปทุกทิศ          ดังนั้นโดยปกติ ขณะที่นักบินพยายามจะเอาเครื่องบินลง นักบินจะชลอความเร็วให้เหมาะสม เมื่อมาเจอกับ microburst เข้านักบินจะรู้สึกว่า เครื่องบินมีความเร็วมากไป ( หน้าจอ อ่านความเร็ว) อันเกิดจาก ความเร็วลม - microburst ที่พัดเข้ามาปะทะเครื่องในส่วนที่เขาเรียกว่า headwind หากนักบินที่มีประสบการณ์เกี่ยวกับ windshear น้อย ก็จะปรับให้เครื่องลดความเร็วลง เครื่องก็จะบินต่อไป ผ่านกลุ่มลม microburst นี้ ทันทีที่เครื่องบินผ่านกลุ่มก้อนลมที่เร็วแรง ความเร็วลมที่เครื่องบินอยู่ขณะนั้น ก็จะลดลงทันที กล่าวคือ เครื่องมาอยู่ในบริเวณที่เรียกว่า tailwind ลมที่พัดผ่านปีกเครื่องบินลดลง ( ตัวที่ทำให้เครื่องลอยตัวได้ ) ผลก็คือ แรงยก ( lift ) ก็จะลดน้อยลง ผลที่ตามมาก็คือ เครื่องจะถูกลดความสูงอย่างทันที( คือ เครื่องตกลงมาเลย) ฉนั้นจะเห็นว่า หากเครื่องบินอยู่ไกล้พื้น โอกาสที่นักบินจะแก้โดยเร่งเครื่องขึ้นก็จะน้อย ผลก็คือ เครื่องกระแทกพื้น          วิธีการแก้หรือสำหรับนักบินที่มีประสบการณ์สูง เมื่อเจอ windshear เขาจะเร่งเครื่องแทนที่จะลดความเร็วลง เพราะเมื่อเครื่องบินผ่าน downburst ไปแล้ว เครื่องยังมีความเร็วพอที่จะยังลอยตัวในอากาศได้ ในตอนที่ออกมาอยู่ในส่วน tailwind ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก คุณ nicola http://board.obec.go.th/viewtopic.php?p=178863&sid=3b78c2840fa9bbd1d69095346e97c6a7 www.elecdesign.com/Files/29/8014/Figure_02.gif www.wing21.rtaf.mi.th www.matichon.co.th http://guru.sanook.com/pedia/topic/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B9%8C_%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A3%E0%B9%8C_(Wind_shear)/ จากคุณ : คุณหมีอ้วน เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 52 01:28:28

ความคิดเห็นที่ 15 นอกจาก Wind shears แล้ว มีสิ่งที่น่าประหลาดใจ สำหรับผมอย่างหนึ่ง จะเล่าให้ฟังครับ สัญญาณโทรศัพท์มือถือกลางทะเลทรายแห่งนี้ จัดว่ายอดเยี่ยมเลยทีเดียวนะครับ ขนาดวันนี้เราบินที่ความสูง ระดับ 9,000 ฟุต ยังสามารถรับสัญญาณ 3G ของเครือข่ายโทรศัพท์ ของซาอุฯได้ด้วย ทั้งยังมี sms เชิญชวนให้ใช้บริการเครือข่ายนั้นๆ พร้อมเสนอโปรโมชั่นเป็นเงินรางวัลกว่า 500,000.-SR อีกด้วยครับ จากคุณ : คุณหมีอ้วน เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 52 01:29:32

ความคิดเห็นที่ 16 คุยกันมาตั้งนาน ตอนนี้เราบินมาถึง ใจกลางประเทศซาอุดิอาระเบียแล้วครับ ผมมองลงไปยังเบื้องล่าง พื้นทะเลทรายเวิ้งว้าง ไกลสุดลูกหูลูกตา บัดนี้ได้ปรากฏพื้นที่วงกลม สีเขียว เกิดขึ้นเต็มไปหมดเลยครับ ด้วยความสงสัยผมจึงอดถาม กัปตันเหยา เหม็ง ผู้เดินทางผ่านเส้นทางนี้มามากกว่า 10 ครั้ง ว่าสิ่งที่เห็นนั้น คืออะไร? ซึ่งกัปตันฯท่านก็ไม่ทำให้ผิดหวังเลยครับ จากคุณ : คุณหมีอ้วน เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 52 01:30:35

ความคิดเห็นที่ 17 ท่านเล่าว่า วงกลมที่ว่านี้ เค้าเรียกว่า “Center pivot irrigation” ครับ พูดง่ายๆก็คือ การปลูกพืชบนทะเลทราย โดยใช้อุปกรณ์เป็นท่อยาวชนิดหนึ่ง ปักลงไปบนพื้น แล้วก็หมุนพรวนดิน พร้อมใช้ท่อดังกล่าวเป็นตัวรดน้ำและให้ปุ๋ย เพื่อปลูกพืชเป็นวงกลม เป็นรัศมีขนาดยาวเท่าปลายท่อนั่นเองครับ ด้วยเหตุที่บริเวณนั้น เป็นทะเลทรายที่แห้งแล้งโดยรอบ การใช้วิธีนี้จึงเป็นวิธีที่ดี ที่จะทำให้สามารถปลูกพืชบนทะเลทรายได้นั่นเองครับ จากคุณ : คุณหมีอ้วน เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 52 01:31:23

ความคิดเห็นที่ 18 พวกเราบินเหนือพื้นที่ “Center pivot irrigation” อยู่นาน จนกระทั่งพวกเราได้บินเข้าเขตการควบคุมของ หอบังคับการบินบาห์เรน ก็มีเรื่องดังที่คาดฝัน (ย้ำ!! ดังที่คาดฝัน!!) เกิดขึ้นอีกครั้งครับ!!! จากที่เมื่อครู่ โดนตุ๊บตั๊บ ละม้ายคล้ายโดนนวดไปทั่วลำเบาๆ   ครั้งนี้พวกเราเจอกับ Wind shears  ลูกใหญ่  เนื้อๆ เน้นๆ!! ขอรับ.... เล่นเสยเอาใต้หัวเครื่อง ป๊าบบบบบบบบบ!!    ยังไม่ทันได้ตั้งตัวก็อัดเข้าที่หลังอีกเต็มแรง ทำเอาเครื่องบินเราสูญเสียความสูงไปกว่า 1000 ฟุต ความเร็วของเครื่องลดลงเหลือไม่ถึง 100 knots   ในวินาทีนั้นผมชำเลืองไปที่กัปตันเห็นท่านยังคงหน้านิ่งๆ(ยิ้มมุมปาก) เห็นมือขวาของท่านเคลื่อนไปผลักคันเร่งฯ ด้วยความเร็วแต่นุ่มนวล(งานนี้สุดครับ..สุดคันเร่ง!!) มือซ้ายท่านจับคันบังคับประคองเครื่องให้กดหัวลงเพื่อจัดท่าทางรักษาความเร็ว อย่างชิลด์ๆ...(อืมมม...เครื่องร่วงลงมา 1,000 ฟุตครับ เป็นคุณจะชิลด์มั้ย?)     เสร็จกิจอย่างชิลด์ๆผมสูดลมหายใจเบาๆ    “เอาหละ..เครื่องบินระ”  ป๊าบบบบบบบบบ!!!!????? (ยังไม่ทันจบประโยคครับ  โดนเน้นๆเข้าเต็มๆอีกที)  คราวนี้เสยล่างกลางลำ ยกเครื่องเด้งลอยขึ้น  ได้ความสูงมาอีก  1,000 ฟุตขึ้นมาอยู่ที่ความสูงเดิม (เอ่ออออ... Wind shears  หยอกแรง  ให้ร่วงลงมา 1,000 แล้วก็ส่งกลับขึ้นไปอีก 1,000)  ผมหันไปเช็คอาการท่านกัปตันอีกที  ท่านพยักหน้าพร้อมยิ้มกว้างกว่าเดิม...”อืมมมมมมมมมมมม” จากคุณ : คุณหมีอ้วน เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 52 01:32:03

ความคิดเห็นที่ 19 พ้นจากสถานการณ์สุดหฤโหดมาได้คราวนี้เป็นการยืนยันให้ผมเข้าใจยิ่งๆขึ้นถึงคำว่า  “ชั่วโมงบินสูง”  และ “สติมา  ปัญญาเกิด”  ครับท่านผู้อ่าน  มีสติในทุกขณะ  ไม่ว่าอะไรเข้ามากระทบ...เราก็จะไม่สะเทือน แก้ไขเมื่อ 16 ส.ค. 52 01:37:33 จากคุณ : คุณหมีอ้วน เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 52 01:34:10

ความคิดเห็นที่ 20 ใกล้ถึงบาห์เรนแล้วครับ จากคุณ : คุณหมีอ้วน เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 52 01:40:44

ความคิดเห็นที่ 21 พระอาทิตย์ตกแล้ว จากคุณ : คุณหมีอ้วน เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 52 01:41:32

ความคิดเห็นที่ 22 ถึงแม้การจราจรทางอากาศของบาห์เรนจะคับคั่งมาก มีเที่ยวบิน ทั้งการทหาร และการพาณิชย์หลายเที่ยวบินเข้ามาใช้บริการที่นี่ ทั้งขาเข้าและขาออกมากมาย ไม่แพ้สุวรรณภูมิบ้านเรา แต่ด้วยการบริการอันดีเยี่ยมของหอบังคับการบินของบาห์เรน ก็ทำให้พวกเรามาถึงบาห์เรนโดยสวัสดิภาพครับ เที่ยวนี้ลงสนามแบบ Night Landing ครับ จากคุณ : คุณหมีอ้วน เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 52 01:44:48

ความคิดเห็นที่ 23 มารู้จักประเทศบาห์เรนกันสักหน่อยนะครับ บาห์เรน (Bahrain) หรือชื่อทางการ ราชอาณาจักรบาห์เรน (Kingdom of Bahrain) เป็นประเทศเกาะที่ไม่มีอาณาเขตติดต่อกับประเทศอื่นในอ่าวเปอร์เซียเลยครับ (เอเชียตะวันตกเฉียงใต้/ตะวันออกกลาง ทวีปเอเชีย) บาห์เรน นับเป็นประเทศแรกในอ่าวอาหรับที่ขุดพบน้ำมันดิบ ในปี 2475 และมีการสร้างโรงกลั่นน้ำมันขึ้นครับ อย่างไรก็ดี ปริมาณน้ำมันดิบที่ขุดพบในบาห์เรนนับว่ามีจำนวนไม่มากนักเมื่อเทียบกับคูเวต และซาอุดีอาระเบีย แต่ก็นับว่าบาห์เรนนั้นเป็นประเทศมุสลิมที่เสรีครับ จึงมีชาวต่างชาติมาอาศัยเพื่อทำธุรกิจการค้ามากมาย โดยสินค้าส่งออกที่สำคัญคือ น้ำมันดิบ เครื่องจักร และเคมีภัณฑ์ ครับ จากคุณ : คุณหมีอ้วน เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 52 01:48:31

ความคิดเห็นที่ 24 สำหรับสภาพทางภูมิศาสตร์นั้น ล้อมรอบด้วยทะเลครับ มีสะพานข้ามเชื่อมถึงซาอุดิอาระเบียด้วย ชื่อสะพานคิงฟาฮัด ภาพนี้ไม่ได้ถ่ายเองนะครับ ก๊อบเค้ามา จากคุณ : คุณหมีอ้วน เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 52 01:52:59

ความคิดเห็นที่ 25 บาห์เรนนั้นมีทะเลที่สวยมาก สภาพอากาศส่วนใหญ่ จะร้อนแห้ง ร้อนชื้น แล้วแต่วันครับ ประเทศนี้เค้าถมที่ทะเลออกกว้างขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อสร้างตึกอีกด้วยครับ คือเค้าเอาทรายจากทะเลทรายมาถมที่ทะเลครับ ในภาพ คือ The pearl of Arab Gulf ครับ ภาพนี้ ก็ก๊อบเค้ามาอีกเช่นกันครับ จากคุณ : คุณหมีอ้วน เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 52 01:58:27

ความคิดเห็นที่ 26 ขณะนี้บาห์เรนมีโครงการสร้างสะพานมิตรภาพกาตาร์-บาห์เรนที่กำลังอยู่ในระหว่างการวางแผนงานกันอยู่ครับ โดยสะพานนี้จะเชื่อมต่อบาห์เรนเข้ากับกาตาร์ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศใต้ และจะเป็นสะพานขึงที่ยาวที่สุดในโลกเชียวนะครับ ภาพนี้ก็ก๊อบมาอีกเช่นเคยครับ จากคุณ : คุณหมีอ้วน เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 52 02:00:57

ความคิดเห็นที่ 27 คุยเรื่องบาห์เรนมานาน กลับไปที่เครื่องบินของเราดีกว่าครับ หอบังคับการบิน สั่งให้ Taxi ไปจอด อีกฝั่งหนึ่งของสนามบินเลยครับ คนละฟากกับ อาคารผู้โดยสารเลยครับ จากคุณ : คุณหมีอ้วน เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 52 02:04:05

ความคิดเห็นที่ 28 อีกภาพครับ จากคุณ : คุณหมีอ้วน เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 52 02:04:58

ความคิดเห็นที่ 29 เนื่องจากสนามบินค่อนข้างใหญ่ พวกเราจึงรอรถมารับจากอาคารผู้โดยสารนานมากๆครับ แก้ไขเมื่อ 16 ส.ค. 52 02:09:44 จากคุณ : คุณหมีอ้วน เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 52 02:07:43

ความคิดเห็นที่ 30 เคยได้ยินมาว่าบาเรน คนหนึ่งคน มีอัตราในการครอบครองอาวุธ เท่ากับสามกระบอก อิอิ ดูบอลแล้วเค้าพากย์มาแบบนั้น ดูมาเฟียไงไม่ทราบ จากคุณ : nonsaket เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 52 02:07:55

ความคิดเห็นที่ 31 ภายใน อาคารผู้โดยสาร เค้าห้ามถ่ายภาพครับ เลยอดเอาภาพมาให้ดูเลยครับ บาห์เรน ถือว่าเป็นประเทศที่แปลกมากครับ เพราะไม่มีสะพานลอย ไม่มีม้าลายข้ามถนน เพราะคนประเทศนี้เค้ารวยครับ ทุกคนมีรถกันหมด น้ำมันก็ถูกด้วย ลิตรละไม่กี่บาทเองครับ แต่ค่าแท็กซี่แพงมากมายครับ จากสนามบินมาโรงแรมที่พัก คิดเป็นเงินไทยร่วมพันบาทแน่ะครับ แก้ไขเมื่อ 16 ส.ค. 52 02:20:38 จากคุณ : คุณหมีอ้วน เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 52 02:17:49

ความคิดเห็นที่ 32 ยังไม่จบนะครับ แต่ง่วงแล้ว ขอตัวไปนอนก่อน แล้วจะมาโพสต่อครับ ราตรีสวัสดิ์ จากคุณ : คุณหมีอ้วน เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 52 02:18:53

ความคิดเห็นที่ 33 Thank you for ur review,  I'm so envious of u จากคุณ : mintykitty เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 52 02:21:50

ความคิดเห็นที่ 34 ตามมาตั้งแต่กระทู้1 สนุกจังเลยครับ กระทู้ที่แล้วที่เห็นปิระมิดจากด้านบนผมขนลุกซู่เลย งามจริงๆ อยากไปบาห์เรนมั่งจัง ^^ จากคุณ : Filmmie เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 52 02:24:16

ความคิดเห็นที่ 35   รอดูอยู่นะค้าบบ จากคุณ : avppmppy เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 52 04:34:29

ความคิดเห็นที่ 36 เป็นการเดินทางที่น่าตื่นเต้นมาก จากคุณ : แม่ค้าลูกชิ้นนึ่ง เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 52 05:23:34

ความคิดเห็นที่ 37 ได้ความรู้เพิ่มอีกแล้ว เป็นกระทู้มีประโยชน์สำหรับคนรักการบิน จะอีกกี่กระทู้ผมก็จะตามครับ จากคุณ : หน้าขุนแผน หัวขุนช้าง เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 52 06:06:59

ความคิดเห็นที่ 38 เป็นกระทู้มีประโยชน์สำหรับคนรักการบิน จากคุณ : A-TOO เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 52 06:19:36

ความคิดเห็นที่ 39 รอติดตามตอนต่อไปนะครับ ได้ความรู้ดีจัง อาชีพเดียวกันเลยครับ จากคุณ : nonair เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 52 07:41:40

ความคิดเห็นที่ 40 รอชมต่อค่ะ จากคุณ : nattys เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 52 08:40:51

ความคิดเห็นที่ 41 ตอนแรกกะว่าจะโพสต่อ แต่พอดีมีงานด่วน แล้วจะกลับมาเล่าให้ฟังต่อนะครับ แก้ไขเมื่อ 16 ส.ค. 52 09:23:39 จากคุณ : คุณหมีอ้วน เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 52 09:14:26

ความคิดเห็นที่ 42 ตามติดๆๆๆ.... สนุก ตื่นเต้น แถมยังได้ความรู้อีกด้วย.... จากคุณ : jakoola เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 52 09:24:50

ความคิดเห็นที่ 43 ขอบคุณสำหรับรีวิวดีๆ นะคะ ทำให้คนนอกวงการทราบข้อมูลด้วย รีวิวแบบนี้ ดีจริงๆค่ะ จากคุณ : ฮุยเฉง เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 52 10:04:17

ความคิดเห็นที่ 44 ตามอ่านมาติด ๆ เลยค่ะ ตื่นเต้นไปกับการขับเครื่องบินด้วย จากคุณ : scuba734 เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 52 10:30:18

ความคิดเห็นที่ 45   ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะ กลับมาต่ออีกนะคะ จากคุณ : tu me manque เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 52 10:30:21

ความคิดเห็นที่ 46   เข้ามารอชมครับ เครื่องตัวเล็กๆบิน 9000 ft .. ถ้าไม่คิดถึงสภาพอากาศแล้วล่ะก็ วิวข้างล่างจะสวยมากเลยนะครับ :) จากคุณ : Citation X เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 52 10:47:23

ความคิดเห็นที่ 47 โหววว...อ่านแล้วตื่นเต้นแทนเลย แต่ที่ทึ่งก็เป็นการปลูกพืชบนทะเลทราย แบบว่าเค้าต่อสู้กับธรรมชาติมากๆ . . แบบว่าทึ่งมาก ผิดกับพี่ไทยเราเลย อุดมสมบูรณ์ แต่กลับทำลายซะนี่ จากคุณ : uhoo_dolphin เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 52 11:13:00

ความคิดเห็นที่ 48 เยี่ยมมากครับกับการเดินทางทริปพิเศษนี้ จากคุณ : Red Fox เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 52 11:14:47

ความคิดเห็นที่ 49 ตามประชิด รีวิวจากที่สูง รอฉากต่อไปค่ะ จากคุณ : รตีจันทร์ เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 52 11:18:36

ความคิดเห็นที่ 50 เป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจจังเลยค่ะ จากคุณ : Pinky Blood เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 52 11:23:45

ความคิดเห็นที่ 51 ยกนิ้วให้ครับ สุดยอดครับ จากคุณ : เสี่ยเหนก เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 52 12:52:26

ความคิดเห็นที่ 52 ขอบคุณสำหรับเรื่องราวที่ภาพ ที่มีมุมมองต่างไปจากเดิมๆๆครับ คุณ หมีอ้วน ว่าแต่ คห 15 เค้าห้ามเปิดมือถือ ในเครื่องนะครับ แล้ว กัปตันไม่ว่าไรเหรอครับ ^_^ จากคุณ : dodoman เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 52 13:32:44

ความคิดเห็นที่ 53 ขอบคุณครับ จากคุณ : ben_benz เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 52 13:38:07

ความคิดเห็นที่ 54 น่าสนุก ๆ จังเลย แค่เครื่องใหญ่ ๆ ยังมิค่อยอยากจะขึ้น ความพยายามสร้างบ้านแปลงเมืองของเค้าสูงจริง ๆ นะคะ   ทำออกมาอย่างงามเลยด้วย รอชมตอนต่อไปนะคะ จากคุณ : แม่ซากานะ เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 52 13:58:47

ความคิดเห็นที่ 55 ขอบคุณมากที่สุดเลยค่ะ ...ได้ความรู้ด้วย สนุกด้วย อ่านเพลินไปเลย จากคุณ : fox-uk เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 52 14:35:05

ความคิดเห็นที่ 56 ขอบคุณมากครับ จะรอชมตอนต่อไปนะครับ จากคุณ : BAND OF BROTHERS เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 52 14:49:03

ความคิดเห็นที่ 57 กระทู้สุดยอดมาก ๆๆ ค่ะ รอชมตอนต่อไปนะคะ จากคุณ : soomchon เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 52 20:43:07

ความคิดเห็นที่ 58 ขอบคุณที่ให้ความรู้และมาเล่าเรื่องให้ฟังคะ อีกความรู้สึกที่น่าประทับใจมากๆ และชาตินี้เราคงไม่มีโอกาสนั้น... เครื่องบินใหม่มากเลยคะ.. จากคุณ : marzo เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 52 21:01:50

ความคิดเห็นที่ 59 ผมกลับมาแล้วครับ ขอบคุณมากๆที่ทุกท่านติดตามนะครับ ...ไปต่อกันเลย โรงแรมที่พักที่บาห์เรน ชื่อ Golden Tulip ครับ ตั้งอยู่ตรงข้าม Sheraton Bahrain ครับ ขอโทษครับถ่ายรูปไม่เก่ง มันเบลอไปนิด จากคุณ : คุณหมีอ้วน เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 52 21:19:53

ความคิดเห็นที่ 60 ด้านตรงข้ามโรงแรมครับ จากคุณ : คุณหมีอ้วน เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 52 21:24:28

ความคิดเห็นที่ 61 อีกภาพครับ จากคุณ : คุณหมีอ้วน เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 52 21:25:37

ความคิดเห็นที่ 62 ก่อนจะลงจากรถ ผมถามโชเฟอร์เพื่อให้แน่ใจว่าเวลาท้องถิ่นขณะนี้กี่โมงแล้ว ก็ได้รับคำตอบ ว่า 5 pass 8 sir สำหรับบางท่านอาจจะไม่งง แต่ด้วยความเบาปัญญา ไม่ค่อยตั้งใจเรียนภาษาอังกฤษเมื่อตอนประถม ทำให้ผมไปไม่เป็นเลยครับ กับคำตอบของโชเฟอร์ แต่ด้วยความรอบรู้ของเพื่อนผม ได้กระซิบบอกผมกันหน้าแตกว่า 5 pass 8 sir นั้นหมายถึง สองทุ่มห้านาที นั่นเองครับ ซึ่งเพื่อนของผมมาบอกกับผมภายหลังว่า ครูสอนมาตั้งแต่ประถมแหละพี่ ผ่านมาตั้งหลายสิบปีแล้ว เพิ่งได้ใช้ก็วันนี้เองเหมือนกัน เนื่องจากชาวบาห์เรนนั้นพูดภาษาอังกฤษ สำเนียงอังกฤษ ส่วนคนไทย โดยเฉพาะผมจะชินสำเนียง และสำนวนทางอเมริกันมากกว่า เลยไม่คุ้นกับการบอกเวลาแบบนี้นั่นเองครับ แต่อยากจะบอกว่า คราวนี้ผมจะจำไว้ใช้จนวันตายเลยล่ะ แก้ไขเมื่อ 16 ส.ค. 52 21:38:32 จากคุณ : คุณหมีอ้วน เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 52 21:27:32

ความคิดเห็นที่ 63 บรรยากาศภายในโรงแรมครับ พวกเรากำลังเช็คอินท์ครับ จากคุณ : คุณหมีอ้วน เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 52 21:31:52

ความคิดเห็นที่ 64 ประตูหมุนครับ จากคุณ : คุณหมีอ้วน เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 52 21:33:08

ความคิดเห็นที่ 65 ห้องนอนครับ เตียงรกๆน่ะขของผมเองครับ จากคุณ : คุณหมีอ้วน เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 52 21:34:17

ความคิดเห็นที่ 66 วันนี้ถือว่าเป็นเที่ยวบินที่เหนื่อยที่สุดครับ แต่อยากจะกระซิบนิดนึงครับว่า รางวัลแห่งชีวิตในวันนี้ คือการได้รับประทานอิตาเลี่ยน สไตล์บาห์เรนแสนอร่อย ทำให้หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งเลยครับ จากคุณ : คุณหมีอ้วน เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 52 21:37:22

ความคิดเห็นที่ 67 เมนูครับ ราคาอาหารก้อพอสมควรเลย จากคุณ : คุณหมีอ้วน เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 52 21:40:15

ความคิดเห็นที่ 68 อาหารครับ เริ่มต้นด้วยซุปซีฟู้ด จากคุณ : คุณหมีอ้วน เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 52 21:43:22

ความคิดเห็นที่ 69 ตามด้วย เมนคอร์ส จากคุณ : คุณหมีอ้วน เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 52 21:44:25

ความคิดเห็นที่ 70 จบแล้วครับ สำหรับการเดินทางผ่านทะเลทรายอาหรับ สู่บาห์เรน ครับ เจอกันใหม่ตอนหน้าครับ จากคุณ : คุณหมีอ้วน เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 52 21:45:43

ความคิดเห็นที่ 71 สรุปการเดินทางวันที่สอง ขาแรก Heraklion Crete, Greece to Hurghada, Egypt (ระยะทาง 1,448 กิโลเมตร, เวลาในการเดินทาง 5:45 นาที, ความสิ้นเปลือง 200 ลิตร JetA1) ขาที่สอง Hurghada Egypt to Bahrain (ระยะทาง 1,705 กิโลเมตร, เวลาในการเดินทาง 6:30 ชั่วโมง, ความสิ้นเปลือง 198 ลิตร Jet A1) จากคุณ : คุณหมีอ้วน เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 52 21:48:29

ความคิดเห็นที่ 72 ตอนหน้าไปเที่ยวการาจีกันครับ จากคุณ : คุณหมีอ้วน เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 52 22:00:49

ความคิดเห็นที่ 73   บิน นอน กิน Happy มากมายโน๊ะ จากคุณ : Jianpuzai (Wereza) เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 02:17:54

ความคิดเห็นที่ 74 สนุกจริง ๆ ค่ะ จริง ๆ เห็นกระทู้ ตอนที่ 5 ก่อน ว่าจะไม่ย้อนกลับมาอ่านอันแรก ๆ แต่พอได้อ่านแล้วสนุกจังค่ะ จากคุณ : nagoyalover เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 12:45:34

ความคิดเห็นที่ 75 โอวววว WindShear นี่ร้ายไม่ใช่เล่นนะครับ น่าตกใจเหมือนกัน หากไม่ตั้งสติดีๆ อาจพลาดพลั้งมันได้ สนุกดีครับ มีสาระ รูปสวย ขอบคุณนะครับ จากคุณ : dellucky เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 16:41:19

ความคิดเห็นที่ 76   So Exciting, thanks จากคุณ : Luxswan เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 18:58:02

ความคิดเห็นที่ 77   7-8โล/ลิตร กินน้ำมันน้อยกว่า benz-S500 หรือ Land cruiser Lexus อีกแน่ะ จากคุณ : x เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 19:05:32 A:210.246.64.247 X: TicketID:052378

ความคิดเห็นที่ 78 ตามมาทุกกระทู้ครับ จากคุณ : เส้นสีฟ้า (เส้นสีฟ้า) เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 00:16:57

ความคิดเห็นที่ 79 ตอนนี้ ชักจะเริ่มหลงรัก กัปตัน เหยา เหม็ง ซะแระ จากคุณ : x^ (ENG.007) เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 52 09:04:23