ความคิดเห็นที่ 1 แนะนำค่ะ...  ถ้ามีเวลาวันเดียว   ควรมาแต่เช้า อย่างบ้านเรามาเที่ยงค่ะ    ......ต้องมีซ่อมอีกซักรอบถึงจะครบ ปีนี้แว่วมาว่า....  ธีมของงานจะเกี่ยวเนื่องมาจากปีดาราศาสตร์สากล (International year of Astronomy) เนื่องในโอกาสครบรอบ 400 ปี ที่กาลิเลโอ ได้เบิกฟ้าสำรวจอวกาศด้วยกล้องโทรทรรศน์กำลังขยาย 30 เท่า เปิดประตูสู่เอกภพอันกว้างใหญ่ ที่ปัจจุบันความรู้เราได้ไปไกลกว่าระบบสุริยะ ภายในมหกรรมวิทยาศาสตร์ปีนี้จึงจัดให้ “เอกภพวิทยา” เป็นหนึ่งในนิทรรศการหลักของงาน จากคุณ : แม่ซากานะ เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 01:07:21

ความคิดเห็นที่ 2 มีผู้ร่วมงานมากมายหลายหน่วยงานหลายสถาบัน   ทั้งหน่วยราชการ  สถาบันการศึกษา  และภาคเอกชน ก่อนเข้าไปดูแผนผังงานกันก่อนค่า จากคุณ : แม่ซากานะ เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 01:09:13

ความคิดเห็นที่ 3 อ้อๆๆ  ค่อนข้างไม่หนักใจเรื่องไข้หวัดใหญ่ เพราะมีการวัดไข้ก่อนเข้างานด้วยค่ะ แต่ๆๆ  คุณหมอหล่อใสได้มาอัพเดทไว้ในกระทู้นี้เรื่องไข้หวัดใหญ่ และความสามารถในการแพร่เชื้อของผู้ป่วยหลังไม่มีอาการใด ๆ แล้ว http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A8060907/A8060907.html จากคุณ : แม่ซากานะ เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 01:13:32

ความคิดเห็นที่ 4 ถ้าเข้าไปตรงทางเข้าหลักที่สมเด็จพระเทพรัตน ฯ ทรงเปิดงาน   จะเป็นส่วนนิทรรศการเทิดพระเกียรติฯ  Royal Pavilion ค่ะ แสดงพระอัจฉริยภาพ “พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย” และพระอัจฉริยภาพ “พระบิดาแห่งเทคโนโลยีของไทย” และ “พระบิดาแห่งนวัตกรรมไทย”   รวมทั้งผลงานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของพระบรมวงศานุวงศ์ หว้ากอ.....จำลอง แก้ไขเมื่อ 17 ส.ค. 52 06:39:08 จากคุณ : แม่ซากานะ เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 01:16:39

ความคิดเห็นที่ 5 พันทิปอืดดดด...มากกกก มาต่อพรุ่งนี้นะคะ จากคุณ : แม่ซากานะ เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 01:22:08

ความคิดเห็นที่ 6 มาปาดพี่ป้าอิ๋มไว้ก่อน ฝันดีค่า .. //kiss จากคุณ : ทิ .. (Ka - Ti) เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 01:27:30

ความคิดเห็นที่ 7 ลงชื่อไว้ก่อนเลยค่ะ ^_^ จากคุณ : DOGHALL เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 03:16:45

ความคิดเห็นที่ 8 มานั่งรอดูต่อนะพี่อิ๋ม จากคุณ : หมูอ้วนจอมพลัง เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 06:36:43

ความคิดเห็นที่ 9 หนูทิ...   นอนดึกน๊า     หนูบี...   เจ๊ฮอลล์มาขายอะไรจ๊า   หนูอุ๊...   หลานตื่นยังจ๊ะ   เด็ก ๆ ไปดูอะไรในโอ่งเอ่ยยย  ??? จากคุณ : แม่ซากานะ เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 06:43:11

ความคิดเห็นที่ 10 แต่ละโอ่งจะมีเรื่องราวของการจัดการแต่ละลุ่มแม่น้ำของประเทศไทยค่ะ น่ารักดีค่ะ   ....ชมกันเพลิน   ....ไปกันทุกโอ่ง จากคุณ : แม่ซากานะ เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 06:43:53

ความคิดเห็นที่ 11 สำหรับนักวิทย์รุ่นเยาว์  ...ลานกิจกรรมที่เพลินอยู่กันนานเชียวค่ะ จากคุณ : แม่ซากานะ เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 06:44:24

ความคิดเห็นที่ 12 ไปพบกับคุณลุงชาร์ลส์  ดาร์วิน  กับความหลากหลายทางชีวภาพได้ที่   Biodiversity Parvillion ก่อนเข้าชมก็มาจัดแถวกันก่อนค่ะ เริ่มแรกก็เข้าไปชมภาพยนตร์รู้จักกับคุณลุงก่อนค่ะ  ...น่ารักมาก ๆ เลย ปีที่แล้วก็มี...ทำได้ดีเช่นกันค่ะ   ชาร์ลส์ โรเบิร์ต ดาร์วิน เป็นชาวอังกฤษ บิดาของเขาเป็นนายแพทย์ซึ่งต้องากรให้ลูกชายดำเนินอาขีพทางด้านนี้เช่นกัน เขาจึงถูกส่งไปเรียนการแพทย์ที่เอดินเบอระ แต่เรียนได้ 2 ปีก็ลาออกเพราะใจไม่ชอบทางนี้   จากคุณ : แม่ซากานะ เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 06:50:02

ความคิดเห็นที่ 13 ชาร์ลส์เป็นคนที่ชอบสะสมสิ่งของที่เขาสนใจ เช่น แมลง (ที่ตายแล้ว) เปลือกหอย ไข่นก เหรียญต่างๆ และหินแปลกๆ เขาเล่าในภายหลังว่าการสะสมของเขาเป็นการ เตรียมให้เขาทำงานเป็นนักธรรมชาติวิทยา หลังจากที่ลาออกจากการเรียนแพทย์ บิดาจึงส่งชาร์ลส์ไปยังมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์เรียนทางศาสนาเพื่อจะบวชเป็นพระ ที่มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์นี้เองที่เขาได้รับการแนะนำจากอาจารย์สอนพฤกษศาสตร์ คนหนึ่ง ให้เขาไปเรียนวิชาธรณีวิทยาเพิ่มเติม จึ่งเท่ากับเป็นการเพิ่มความรู้ในวิชา ธรรมชาติวิทยาที่เขาสนใจให้กว้างขาวางยิ่งขึ้น (ในหนัง...  ตอนเรียนแพทย์กับศาสนา...  วาดได้น่ารักมากค่ะ) และแล้วโชคก็ผ่านมาในชีวิตเขากองทัพเรือได้เตรียมการออกสำรวจรอบโลกโดย ทางเรือชื่อ บีเกิล เพื่อเก็บข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ ด้วยการรับรองของศาสตราจารย์ เฮนสโลว์ ดาร์วินได้รับเชิญให้เป็นนักสำรวจธรรมชาติวิทยา   การสำรวจใช้เวลานานถึง 5 ปีทำให้ ดาร์วินได้มีโอกาสเปรียบเทียบสัตว์และพืชจากส่วนต่างๆ ของโลก เขาได้เห็นสัตว์ที่มีถุงหน้าท้อง เช่น จิงโจ้ ในประเทศออสเตรเลีย และในนิวซีแลนด์ ซึ่งจะไม่ พบในประเทศอื่น   จากคุณ : แม่ซากานะ เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 06:53:54

ความคิดเห็นที่ 14 ม่ะไหวอ่ะพี่...พามาเดินเล่นตอนตีหนึ่งเหรอ....เหงาหล่ะซิ...อิอิ.... จากคุณ : ถนนสายนี้เปรี้ยว เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 07:32:12

ความคิดเห็นที่ 15 นี่รีวิวยันเช้าเลยเหรอครับ ?   จากคุณ : Draught Beer เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 07:32:32

ความคิดเห็นที่ 16   ไปมาแล้วค่ะ ได้ลูกข่างมา 2 อันตอนแรกจะซื้อ 1 อัน พอเค้าแสดงให้ดูว่ามันต่อกันได้เลยขอ 2 ... 555+ ถูกใจทั้งเด็กและผู้ใหญ่ จากคุณ : หนูกิต เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 07:37:30

ความคิดเห็นที่ 17 ตามพี่อิ๋มกับน้องมีนไปเที่ยวงานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีด้วยคนค่ะ จากคุณ : หมอกหนาว เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 07:46:22

ความคิดเห็นที่ 18   ตามพี่หมอกมาเที่ยวกับพี่อิ๋มด้วยคนค่ะ จากคุณ : ที่บ้านมีแมวตั้ง 7 ตัว เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 08:06:46

ความคิดเห็นที่ 19 ตกลงคุณแม่อืด หรือ พันทิพย์อืด ก็มิอาจบอกได้ เลยต้องลากยาวถึงเช้า เพราะตกกลางดึกคุงแม่คงยุ่ง แต่ก็ดีแล้ว เพราะผมจะได้ติดตามต่อได้ตอนเช้า อิอิ จากคุณ : 3KKK เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 08:21:06

ความคิดเห็นที่ 20 .. เมื่อคืนนั่งทำงานไปด้วยค่า เลยนอนดึกไปหน่อย ช่วงนี้งานเข้า .. มาตามต่อตอนเช้า   งานนี้น่าไปเดินจริง ๆ ค่ะ .. จากคุณ : ทิ .. (Ka - Ti) เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 09:41:53

ความคิดเห็นที่ 21 อยากให้มาจัดที่เชียงใหม่บ้างจังเลย จากคุณ : ก้าวไปตามใจฝัน เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 10:01:49

ความคิดเห็นที่ 22 พี่อิ๋ม ไหนว่าต้องนอนแต่หัวค่ำ เผื่อได้ช่วยกู้โลก อิอิ ชอบๆๆ โอ่งจังเลย จากคุณ : เต่าตัวลาย เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 10:02:49

ความคิดเห็นที่ 23 ว่าจะหาโอกาสไปชมงานอยู่เหมือนกัน ชอบไปเล่นและทดลองอะไรสนุกๆ ทำอย่างกับเป็นเด็กๆ  เลยเนอะ อิอิ จากคุณ : สะเทื้อน เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 10:11:39

ความคิดเห็นที่ 24 ไปเดินเล่นด้วยค่า พี่อิ๋ม จากคุณ : มา รัก กัน เถอะ เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 12:03:31

ความคิดเห็นที่ 25   ขอบคุณค่ะที่ทำรีวิวิมีประโยชน์อย่างนี้ ชอบ ๆ มากค่ะ ว่าจะพาหลานไปหลังเลิกเรียน ไปถึงซัก 4 โมงเย็นช้าไปไม๊คะ พอดีเสาร-อาทิตย์ไม่ว่างเลย เอ้อ แล้วมีสารละลายทรัพย์ขายเยอะหรือเปล่า พักนี้คุณอามิค่อยจามีสะตางค์เล้ยยค่ะ แว่ว ๆ ว่าลูกข่าง อะไรหรือคะ จากคุณ : เข็มเศรษฐี (เข็มเศรษฐี) เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 12:04:57

ความคิดเห็นที่ 26 .. จากคุณ : pisity เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 12:24:35

ความคิดเห็นที่ 27 .. เห็นบรรยากาศแล้ว อยากให้มีนิทรรศการถาวร หมุนเวียนไปเรื่อยๆเลยครับ เด็กๆจะได้ประโยชน์มากมายจริงๆ .. จากคุณ : POGGHI เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 13:46:28

ความคิดเห็นที่ 28 พี่อิ๋ม เค้าไปกินน้ำยาปูมาแหล่ะ อร๊อย อร่อย อิ่มมากมายเลย หุหุ จากคุณ : หลานยายจุล เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 14:13:16

ความคิดเห็นที่ 29 ถนนสายนี้เปรี้ยว   :   พอดีตรวจการบ้านเพลินอ่ะจ้า   Draught Beer :   บ่ายแระ...  เดี๋ยวเดินต่อน๊า   หนูกิต   :   เจอสารละลายทรัพย์ของจริง   หมอกหนาว    :    ตามต่อเลยจ้ะ   แต่ไม่รู้จะจบมั๊ยอ่ะน๊า   ที่บ้านมีแมวตั้ง 7 ตัว   :   สาว ๆ เดินตามกันมาเลยค่า   3KKK   :   อ่ะน๊าน้าเค  ก็มีทั้งทำการบ้านตรวจการบ้าน   หนูทิ   :   ใช่ๆๆ ปกติเราจะต้องไม่นอนดึกนะคะ   เดี๋ยวไม่สวย   ก้าวไปตามใจฝัน   :  เช่นกันค่ะ  เห็นมีไปตามภูมิภาค  แต่เหมือนจะไม่เต็มเท่าที่งาน กทม. แก้ไขเมื่อ 17 ส.ค. 52 14:21:57 จากคุณ : แม่ซากานะ เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 14:15:55

ความคิดเห็นที่ 30 เต่าตัวลาย   :   รุ่นนี้หมดแรงกู้โลกแย๊ววว   สะเทื้อน   :   สนุกแน่จ้ะลุงเทื้อน   ทุกคนมีส่วนของความเป็นเด็กในหัวใจทุกคนแหล๊ะ   มา รัก กัน เถอะ   :   มาเลยจ้า  ....อย่าเดินอย่างเดียวน๊า  ลงมือเล่นด้วย   เข็มเศรษฐี   :   ไปได้เท่าที่สามารถก็ยังดีค่ะ   เพราะสี่โมงเย็นจะน้อยไปนิดถ้าจะให้ทั่ว ของพี่ไปถึงเที่ยง....  กลับเกือบจะหกโมงเย็น    ยังจะมีซ่อมค่า   pisity   :   เดี๋ยวไปกันต่อนะคะ   POGGHI  ;   ค่ะ   ตอนนี้ก็มีหลายที่นอกจาก อพวช. และกระทรวงศึกษา ฯ ที่พยายามสร้างศูนย์การเรียนรู้แบบนี้ขึ้นมา และจัดให้มีนิทรรศการหมุนเวียนกันไป   หลานยายจุล   :   ชั้นก็อิ่มย่ะ   ไปตามรอยคุณลุงดาร์วินกันต่อค่ะ   เมื่อการสำรวจมาถึงหมู่เกาะกาลาพากอสในอเมริกาใต้ ดาร์วินก็ได้พบสัตว์ชนิดต่างๆ และพบว่าแต่ละเกาะมีสัตว์เฉพาะชนิดซึ่งไม่พบในเกาะอื่น สิ่งที่พบ เห็นทำให้ดาร์วินต้องคิดอย่างหนัก สำหรับเขาเหมือนกับว่าสัตว์เหล่านั้นมี่การเปลี่ยนแปลงลักษณะพิเศษที่ช่วยให้มันมีชีวิตอยู่ได้ในสภาพแวดล้อมแบบนั้นๆ ส่วนตัวใดที่ ไม่มีลักษณะเช่นนั้นก็จะตายไป ส่วนที่อยู่ก็ได้ถ่ายทอดลักษณะนั้นๆไปยังลูกหลาน   การเปลี่ยนแปลงเป็นไปอย่างช้าๆ ตลอดเวลาหลายพันปี ชนิดที่อ่อนแอและมีส่วนที่ด้อย กว่าก็จะตายไป ชนิดที่ดีกว่าก็จะสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ในสภาพแวดล้อมเฉพาะนั้นๆ โดยมีการเปลี่ยนแปลงและเพิ่มจำนวน นี่คือสิ่งที่เราเรียกว่า  “วิวัฒนาการ”   ซึ่งมีการพัฒนาต่อเนื่องมาจนทุกวันนี้ ที่โลกเรามีความรู้ด้านพันธุวิศวกรรมจนถึงขั้นที่คนเราสามารถสร้างสรรค์ผลงานต่าง ๆ ได้อย่างมากมาย (ปล. จากเวบอะไรซักเวบเนี่ยค่ะ  ลืมเซฟที่อยู่ไว้...หาไม่เจอด้วย   ขอขอบคุณตรงนี้นะคะ) จากคุณ : แม่ซากานะ เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 14:31:00

ความคิดเห็นที่ 31 พอหนังจบ....  ฝาผนังเต็นท์ก็ถูกเปิดออกมาเจอนิทรรศการเกี่ยวกับความหลากหลายทางชีวภาพ ทั้งเรื่องพันธุศาสตร์   มีดีเอ็นเอให้เล่นด้วย เอเลี่ยนสปีชีส์ แบบเข้าใจง่าย ๆ และตัวเอกทั้งสามค่ะ    หุ่นแมลงยักษ์จากญี่ปุ่น เดินไปเดินมา...   อ้าววว  นั่นครอบครัวแก๊งค์ภูเก็ตของเรานี่นา เลยกดโทรศัพท์ไปฟีดแบ็คหน่อย....  ชิ้นงานดีหมดเลยจ้ะ  ยกเว้นอยู่บอร์ดเดี๊ยะ เจ้าหล่อนเลยส่งเสียงมาว่า...  ถ้าพี่ยังอยู่  คงต้องได้ตบตีแย่งกันเป็นนางแบบแน่ ๆ   จากคุณ : แม่ซากานะ เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 14:32:07

ความคิดเห็นที่ 32 มีมุมให้สเกตท์ภาพด้วยนะคะ น่าจะมีคนสอนซักนิดจะแจ่มมากเลยล่ะค่ะ แต่ขนาดนี้ก็ผู้คนสนใจกันล้นหลาม...แทบจะไม่มีที่นั่ง ทางผู้จัดเตรียมกระดาน   กระดาษ   ดินสอ  สี  ..เอาไว้ให้ค่ะ จากนั้นก็ไปเลือกมุมกันเองเลย จากคุณ : แม่ซากานะ เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 14:33:11

ความคิดเห็นที่ 33 ใกล้ ๆ กัน  ....เป็นโซนของศูนย์วิจัยจุฬาภรณ์ค่ะ ซึ่งตอนนี้ขยายขอบเขตงานไปสู่ทั้งโรงพยาบาลด้านโรคมะเร็ง และเปิดสอนในระดับบัณฑิตศึกษาด้วย   จุดนี้เป็นการอธิบายเรื่องการแยกสารค่ะ เพื่อนำไปใช้ในการวิจัยต่าง ๆ   โดยเฉพาะการรักษาโรค เราปลื้มจังค่ะ....   พี่เล่าได้สนุกน่าติดตามและเข้าใจง่าย   จากคุณ : แม่ซากานะ เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 14:34:14

ความคิดเห็นที่ 34 ตรงนี้แหละค่ะที่เราติดกันไว้ก่อน   ....ที่จริงคิวก็ไม่ได้ยาวเท่าไหร่น๊า แต่ทุกส่วนมันน่าเดินไปชมทั้งนั้นเลยอ่ะค่ะ เป็นอุโมงค์อะไรซักอย่าง...   ที่เรายังไม่รู้ ดาราศาสตร์เป็นทริปที่ต้องไปซ่อมค่า   ตัวเองไม่มีข้อมูลอะไรเลย....ไปขอยืมมาจากเวบไทยบล็อกนิวส์มาฝากนะคะ ขอบคุณไว้ตรงนี้ด้วยค่ะ   V v ก่อนจะได้ชมผลงานของกาลิเลโอ มีสรุปผลงานของนักดาราศาสตร์รุ่นก่อนๆ   และผลงานที่กาลิเลโอได้ต่อยอด อาทิ ฮิพพาร์คัส (Hipparchus) นักดาราศาสตร์กรีกที่พบว่าแกนโลกเปลี่ยนแปลงอย่างช้าๆ อีกทั้งยังจัดระเบียบความสว่างของดาวฤกษ์ออกเป็น 6 ระดับ โดยระดับแมกนิจูด 1 หมายถึงสว่างที่สุด ส่วนแมกนิจูด 6 หมายถึงสลัวจนมองด้วยตาเปล่าไม่เห็น และยังมี นิโคลัส โคเปอร์นิคัส (Nicolaus Copernicus) ที่บอกว่าโลกโคจรรอบๆ ดวงอาทิตย์เหมือนดาวเคราะห์อื่นๆ เป็นต้น ส่วนนิทรรศการที่เกี่ยวกับกาลิเลโอได้นำเสนอแบบจำลองผลงานสำคัญ 3 ชิ้น คือ อุปกรณ์วัดมุมกล้องโทรทรรศน์ (Military Sector) นาฬิกาลูกตุ้ม (Pendulum Clock) ซึ่งเป็นผลงานที่เกิดจากสังเกตคาบการแกว่งของลูกตุ้ม และพื้นเอียงซึ่งเป็นอุปกรณ์สำหรับทดลองให้เห็นว่าที่ความเอียงระดับเดียวกัน ลูกตุ้มมวลต่างกันจะตกกลิ้งถึงพื้นพร้อมกัน และสำหรับพื้นเอียงที่ระดับต่างกัน มวลเท่ากันจะกลิ้งถึงพื้นไม่พร้อมกัน พร้อมกันนี้มีท่อ 4 จุดที่ต่อตรงสู่จอภาพแสดงการค้นพบที่สำคัญของกาลิเลโอผ่านกล้องโทรทรรศน์ ได้แก่ การพบวงแหวนดาวเสาร์    การพบดาวบริวารของดาวพฤหัส การพบสภาพพื้นผิวที่ขระขระและหุบเขาบนดวงจันทร์  จุดดับบนดวงอาทิตย์และทางช้างเผือก จากคุณ : แม่ซากานะ เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 14:35:13

ความคิดเห็นที่ 35 อิ๊ม อิ่ม อิ่มมมมมมมมมมมมมม พี่อิ๋ม อยู่ไหนอ่ะ คิดถึง เดินมาหาหน่อยจิ จากคุณ : หลานยายจุล เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 14:35:19

ความคิดเห็นที่ 36 อยู่ที่เดิ๊มมมม   ..เล่นไป ๆ   เดี๋ยวจะไปแระ   อีกทั้งการสังเกตท้องฟ้าของเขาด้วยกล้องโทรทรรศน์ที่ประดิษฐ์ขึ้นเองนั้น ยังยืนแนวคิดของโคเปอร์นิคัสว่า “ดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลางจักรวาล ไม่ใช่โลก” (ปัจจุบันเราทราบว่าดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลางระบบสุริยะ แต่ไม่ใช่ศูนย์กลางจักรวาล) สำหรับกล้องโทรทรรศน์ของกาลิเลโอนั้น เป็นกล้องโทรทรรศน์หักเหแสงที่ใช้หลักการประดิษฐ์ของช่างทำแว่นตาชาวดัตช์ ชื่อ ฮันส์ ลิพเพอเซ ที่พบว่า..... เมื่อวางเลนส์นูนไว้หน้าเลนส์เว้า แล้วเลื่อนหาตำแหน่งที่เหมาะสม เราจะเห็นภาพวัตถุที่เราส่องนั้นโตขึ้นและขยับมาใกล้เรามากขึ้น ออกจากอุโมงค์นิทรรศการผลงานของกาลิเลโอแล้ว ตบท้ายด้วยข้อมูลเล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับนักวิทยาศาสตร์ในศตวรรษที่ 20 อย่าง อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ที่ทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไปของเขานำไปคำนวณการส่ายของวงโคจรดาวพุธ ซึ่งได้ผลใกล้เคียงกับการสังเกต และยังนำไปสู่การอธิบายเรื่องความโค้งของอวกาศ หรือผลงานของเอ็ดวิน พาร์เวลล์ ฮับเบิล ผู้ร่วมสร้างกล้องโทรทรรศน์ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 100 นิ้ว สำหรับหอดูดาวเมาท์วิลสัน ในแคลิฟอร์เนีย สหรัฐฯ และได้พิสูจน์ว่า กาแลกซีหรือดาราจักรทางช้างเผือกของเรานั้น เป็นเพียงหนึ่งในหลายๆ ดาราจักรของเอกภพ จากคุณ : แม่ซากานะ เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 14:36:50

ความคิดเห็นที่ 37 ขณะเดียวกันยังมีโรงภาพยนต์สามมิติ 2 โรงที่ฉายภาพยนต์เกี่ยวกับเรื่องอวกาศและเอกภพ โดยแบ่งเป็นโรงภาพยนตร์สำหรับภาพยนตร์ไทยที่จำลองเป็นการนั่งยานอวกาศมุ่งสู่นอกโลก และโรงภาพยนต์สามมิติซึ่งฉายภาพยนตร์ดาราศาสตร์และอวกาศจากออสเตรเลีย 7 เรื่อง อาทิ เรื่องดวงอาทิตย์ของเรา ที่นำไปเปรียบเทียบกับดาวฤกษ์อื่นๆ ในเอกภพ ทำให้เห็นว่าดวงจันทร์ที่ใหญ่ยักษ์เมื่อเทียบกับโลกนั้น เป็นดาวฤกษ์ที่เล็กจิ๋วกว่าดาวฤกษ์อื่นๆ อีกมาก ตลอดจนจุดจบของดวงอาทิตย์ที่จะเกิดในอีก 5 พันล้านปีข้างหน้า เป็นต้น ทางด้านสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ สดร.ก็ได้ร่วมฉลอง 400 ปีการส่องกล้องสำรวจอวกาศของกาลิเลโอ ด้วยปฏิทินเวลาแสดงพัฒนาการของกล้องโทรทรรศน์ตลอด 400 ปี นับแต่กาลิเลโอได้ประดิษฐ์ขึ้นเป็นครั้งแรก   ตลอดจนการค้นพบทางดาราศาสตร์สำคัญๆ ซึ่งนอกจากการค้นพบดาวเคราะห์ในระบบสุริยะของเราแล้ว ยังมีการค้นพบเทหวัตถุบนท้องฟ้าอื่นๆ เช่น ดาวแปรแสง เนบิวลา ดาวเคราะห์แคระ การศึกษาอวกาศห้วงลึก และกาแลกซีต่างๆ เป็นต้น จากคุณ : แม่ซากานะ เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 14:37:50

ความคิดเห็นที่ 38 แหะๆ  ตรงนี้เด็ก ๆ เค้าเล่นไรกันน๊า  ....ไปเล่นกะเค้าเหมือนกันค่า แต่ลืมไปเก็บข้อมูลมา   มัวแต่วิ่งตามเธอไปซุ้มสเกตท์ภาพ แล้วจะมาเพิ่มนะคะ  (ถ้าได้ไป) เอามือตบเบา ๆ ที่ก้นถังสีน้ำเงินนั่นน่ะค่ะ   แล้วควันก็พุ่งจู๊ดขึ้นไป สักอึดใจ...ก็มีวง ๆ ดังที่เห็น อิ๊อิ๊  อายจัง   ...เอามาฝากแต่รูปก่อนล่ะกันค่ะ   จากคุณ : แม่ซากานะ เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 14:38:45

ความคิดเห็นที่ 39 แล้วไปล่องเรือแมะ จากคุณ : หลานยายจุล เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 14:38:59

ความคิดเห็นที่ 40 หาบ้านกันใหญ่ค่ะ..... บนภาพจากดาวเทียม THEOS บริเวณกรุงเทพมหานคร ขนาด 5 เมตร x 5 เมตร เป็นชิ้นงานนิทรรศการของสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) ซึ่งยังมีนิทรรศการอื่น ๆ อีก  เป็นต้นว่า   ผลิตภัณฑ์จากข้อมูลดาวเทียม, แบบจำลองดาวเทียม THEOS ขนาดเท่าของจริง, ภาพจากดาวเทียม THEOS บริเวณต่างๆ ที่เป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลก ประมาณ 40 ภาพ   มีหลีเป๊ะของเหนูด้วยค่า   จากคุณ : แม่ซากานะ เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 14:39:49

ความคิดเห็นที่ 41 ว่าที่นักบินเชิญทางนี้เลยค่ะ   แต่ละคนช่างกล้าหาญชาญชัยจริง ๆ   มีทั้งพี่ ๆ ไปจนถึงน้องเล็กรุ่นจิ๋ว....ที่ต่อคิวกันอย่างยาวววว   พอขึ้นนั่ง....พี่ ๆ ก็จะเข้ามาจัดแจงล็อคอย่างแน่นหนา พี่ที่ดูแลก็ดีมาก ๆ ค่ะ    คอยสังเกตคนเล่นด้วยว่า...  ไหวมั๊ย อย่างเจ้าตัวเล็กนั่นก็หมุนแค่สามรอบค่ะ แอบคิดว่า...ถ้าเป็นตัวเอง....เจอกลับหัวไปรอบเดียวคงเดินไม่ตรงเป็นแน่แท้   จากคุณ : แม่ซากานะ เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 14:41:25

ความคิดเห็นที่ 42 บูธนี้ก็ยังไม่ได้แวะค่ะ   ไปก๊อบมาจาก ryt9 มาเล่านะคะ บูธของ    IBM กิจกรรมภายในบูธไอบีเอ็ม จะแบ่งเป็น 3 โซนด้วยกัน โซนแรก คือ “PowerUp” เกมออนไลน์สามมิติรูปแบบใหม่ที่สนุกสนานและแฝงไว้ด้วยความรู้ โดยในเกมจะมีบทเรียนที่จะสอนให้เด็กๆ ได้เรียนรู้เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์ผ่านทางเกมรูปแบบอินเทอร์แอคทีฟ ผู้เล่นจะสามารถเข้าไปร่วมแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมของดาวเคราะห์จำลองแห่งหนึ่ง ด้วยการสร้างระบบพลังงานสะอาด (Clean Energy) ได้แก่พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม และพลังงานน้ำ ซึ่งผู้เล่นจะต้องแก้ปัญหา รวมถึงศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะปัญหาสิ่งแวดล้อม และตัวละครในเกมสามารถโต้ตอบกับผู้เล่นในการให้ความรู้เกี่ยวกับวิศวกรรมและวิทยาศาสตร์ ซึ่งจะปลูกฝังให้ผู้เล่นมีความรู้เกี่ยวกับการอนุรักษ์พลังงานและฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม สามารถเรียนรู้และสร้างโลกเสมือนจริงได้อย่างสนุกสนานผ่านเทคโนโลยีสามมิติ         รอบเวลากิจกรรมของโซน power up ค่ะ     ไม่ใช่ power girl นะคะ จากคุณ : แม่ซากานะ เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 14:43:01

ความคิดเห็นที่ 43 โซนต่อมาคือ “TryScience” พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีรอบโลกในรูปแบบออนไลน์แห่งแรกของโลก ที่จะทำให้วิทยาศาสตร์กลายเป็นเรื่องสนุกสำหรับเด็กๆ โดยไอบีเอ็มได้ร่วมมือกับสถาบันวิทยาศาสตร์ และพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์มากกว่า 500 แห่งทั่วโลก ในการสร้างฐานข้อมูลและองค์ความรู้จากนิทรรศการต่างๆ จากทั่วโลกไว้ในเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ในรูปแบบของเกมมัลติมีเดียที่เด็กๆ สามารถทำการทดลองทางวิทยาศาสตร์ผ่านคอมพิวเตอร์ได้ทันที และยังมีคู่มือการทดลองวิทยาศาสตร์แขนงต่างๆ สำหรับนักเรียนและครูอาจารย์ เพื่อนำมาทำการทดลองจริงให้ห้องเรียนได้ จากคุณ : แม่ซากานะ เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 14:44:11

ความคิดเห็นที่ 44 และโซนสุดท้ายคือ “Virtual Forbidden City” โลกเสมือนจริงขนาดใหญ่แห่งแรกของโลกภายใต้ความร่วมมือระหว่างไอบีเอ็ม และพิพิธภัณฑ์พระราชวังแห่งกรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน โดย Virtual Forbidden City เป็นโลกเสมือนจริงที่ผู้ชมจากทั่วโลกสามารถเข้าชมพิพิธภัณฑ์พระราชวังหรือที่รู้จักกันดีในชื่อของ “พระราชวังต้องห้าม” (The Forbidden City) ในรูปแบบสามมิติ เพื่อให้ผู้คนทั่วโลกได้สัมผัสประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของชาวจีนอย่างใกล้ชิด โดยปราศจากข้อจำกัดทางด้านเวลาและสถานที่ ขอบคุณเวบ  ryt9 ด้วยค่ะ   ที่ห้อยกล้องบีพี   เอ๊ยยย!!!  เครื่องหมายการค้าของเค้าค่า จากคุณ : แม่ซากานะ เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 14:45:05

ความคิดเห็นที่ 45 ไปมหกรรมวิทยาศาสตร์ ฯ แต่ละครั้ง....   รู้สึกดีทุกครั้งเกี่ยวกับบุคลากร แทบไม่เห็นใครที่หน้าตาไร้อารมณ์เลยค่ะ ต้องปรบมือให้จริง ๆ จากคุณ : แม่ซากานะ เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 14:46:04

ความคิดเห็นที่ 46 ดูสีหน้าและแววตาก็รู้สึกถึงความเต็มใจที่จะถ่ายทอดความรู้ แม้ก็รู้ดีว่า...  อีกไม่กี่นาทีถัดมา   เด็ก ๆ อาจลืมเกลี้ยง!!!   แต่ทุกคนก็จะรู้ดีว่า....   ขอเพียงให้ผู้เข้าชมงานรู้สึกสนุกรู้สึกดีต่อการหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์ แล้วในอนาคต....   ดอกผลก็จะทยอยเบ่งบานเติบโต     จากคุณ : แม่ซากานะ เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 14:46:50

ความคิดเห็นที่ 47 มาทำแล็บกับกรมวิทยาศาสตร์บริการกันค่ะ “เจลผู้พิทักษ์ 2009”  เป็นเจลอนามัยปลอดเชื้อ มีคุณสมบัติทำความสะอาดยับยั้งแบคทีเรียและถนอมผิวในหนึ่งเดียว  (DSS Antiseptic and Hand Moisturizing) เป็นแล็บหนึ่งใน Science lab DSS ของกรมวิทยาศาสตร์บริการ   และมีอีกหลายแล็บให้ทดลองเรียนรู้ด้วยตัวเองค่ะ ทดลองทำเจลทำความสะอาด.....    ทำได้ง่ายจัง เดี๋ยววันจันทร์จะไปซื้ออุปกรณ์มาทำใช้เองแล้วค่ะ เมื่อกี๊ไปได้กลิ่นลาเวนเดอร์มาจากฟู๊ดแลนด์    กรี๊ดๆๆ  กลิ่นเดียวกับที่อัสสราเลย จากคุณ : แม่ซากานะ เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 14:47:41

ความคิดเห็นที่ 48 ไบโอเทคนำเสนอการวิจัยเพื่อวัคซีนป้องกันเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 ประเภทวัคซีนเชื้อตายค่ะ เริ่มต้นจากทำความรู้จักกับเจ้าเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ซึ่งมันคือเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิด เอ เอช1เอ็น1 (Influenza A H1N1) สายพันธุ์ใหม่ เจ้าเชื้อไวรัสสายพันธุ์นี้มีบรรพบุรุษหลายสายพันธุ์ แม้ว่ายาต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่ที่มีอยู่ในปัจจุบันยังใช้ได้ดีกับเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่นี้อยู่ก็ตาม แต่เชื้อก็มีโอกาสกลายพันธุ์จนดื้อยาได้     (ตามที่คุณหมอหล่อใสไร้รักแปะไว้เลยค่ะ   http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A8060907/A8060907.html    ) นักวิทยาศาสตร์จึงทำงานกันอย่างหนักเพื่อพัฒนาวัคซีนที่สามารถสยบเชื้อไวรัสชนิดนี้ให้ได้   ซึ่งหลักการของวัคซีนก็คือ ไปกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้ร่างกายมีโอกาสทำความรู้จักกับเชื้อโรคที่ไม่เคยเจอมาก่อนในปริมาณน้อยๆ เพื่อจะได้เรียนรู้ว่าจะรับมืออย่างไรหากได้เจอเชื้อโรคนี้อีก    //หนูหิ่น //หนูหิ่น เทคโนโลยีการผลิตวัคซีนแบบดั้งเดิม ซึ่งเป็นรูปแบบที่ยังใช้กันอยู่ในปัจจุบัน คือการใช้ไข่ไก่ฟัก   โดยฉีดเชื้อไวรัสที่ต้องการใช้ผลิตวัคซีน และเชื้อไวรัสสายพันธุ์ที่จำเป็นสำหรับการร่วมผลิตวัคซีน เข้าไปในไข่ไก่ฟักฟองเดียวกัน เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนสารพันธุกรรมระหว่างกัน     จากนั้นคัดเลือกไวรัสตัวที่เหมาะสมไปผลิตเป็นวัคซีนต่อไป   ส่วนเทคนิคการผลิตวัคซีนแบบใหม่ที่เริ่มนำมาใช้กันบ้างแล้วนั้นเรียกว่า รีเวิร์ส เจเนติกส์ (Revers Genetics)   ซึ่งข้อดีของวิธีใหม่นี้คือสามารถสร้างไวรัสที่เหมาะสำหรับเป็นวัคซีนได้รวดเร็วกว่าโดยไม่ต้องใช้ไข่ไก่ฟัก คิคิ...  พี่ประจำบูธน่ารักเกาหลีด้วยแหละ   จากคุณ : แม่ซากานะ เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 14:48:26

ความคิดเห็นที่ 49 ไบโอเทคอีกงานค่า...   น่ารักอีกแย๊ววว   เป็นส่วนของการให้ความรู้เรื่อง  “ราแมลง” ขอสรุปคำอธิบายที่ฟังมาร่วมกับจากเวบไบโอเทคนะคะ   V V “ราแมลง” เป็นตัวอย่างหนึ่งของราที่อาศัยแมลงเป็นเจ้าบ้าน เจริญเติบโตในตัวแมลงที่มีชีวิต และทำให้เกิดโรคกับแมลง จนในที่สุดแมลงตาย ราจึงต้องหาแมลงเจ้าบ้านใหม่ โดยการสร้างอวัยวะสืบพันธุ์ที่มีสปอร์ งอกออกมาจากซากแมลงที่เราจะเห็นเป็นขาว ๆ เป็นกิ่งก้านยื่นยาวออกมา ประเทศไทยเป็นประเทศหนึ่งที่มีความหลากหลายของราแมลงสูงมาก มีการค้นพบราแมลงกว่า 400 สปีชีส์ โดยเป็นราแมลงชนิดใหม่ ที่ยังไม่เคยมีการค้นพบที่ใดในโลกมาก่อน ประมาณ 150 สปีชีส์ ราเหล่านี้พบในตัวแมลงที่ตายแล้วเกาะติดบนใบไม้ กิ่งไม้ มีเส้นใยราคลุมอยู่บนตัวแมลง หรือมีช่อสปอร์งอกออกมา ราบางชนิดถูกพบในแมลงที่ตายฝังตัวอยู่ใต้ดิน เห็นแต่ช่อสปอร์ราแทงขึ้นมาเหนือดิน บางชนิดมีสีสันสวยงาม ลักษณะเป็นช่อเล็กๆ คล้ายดอกไม้ ว่านจักจั่น   .....ก็เป็นตัวอย่างหนึ่งของราแมลงค่ะ   ตัวอย่างเชื้อราแมลงเหล่านี้ ได้ถูกเก็บรวบรวมไว้ที่ธนาคารจุลินทรีย์ของไทย ซึ่งในปัจจุบัน ประเทศไทยเป็นแหล่งเก็บรวบรวมราแมลงที่มีความหลากหลายมากที่สุดในโลก   ราแมลงหลายชนิดมีความมหัศจรรย์ ให้เรานำมาใช้ประโยชน์ได้อย่างกว้างขวาง ทั้งใช้ควบคุมแมลงศัตรูพืชโดยชีววิธี   เช่น  สารปราบไส้เดือนฝอย ทั้งใช้ประโยชน์ด้านสุขภาพของมนุษย์  เช่น ถั่งเฉ่า ในปัจจุบัน นักวิจัยศึกษาค้นคว้าการนำราแมลงมาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์เพิ่มขึ้น เช่น   พบว่าราแมลงหลายชนิดผลิตสารที่น่าสนใจ สามารถยับยั้งเชื้อก่อโรคในหลอดทดลอง เช่น วัณโรค มาลาเรีย เป็นต้น   พบว่าราแมลงบางชนิดสร้างสารโพลิเมอร์ชีวภาพที่มีประโยชน์ต่อมนุษย์ เช่น โพลิเมอร์ที่มีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญของเซลล์มะเร็ง กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน และลดน้ำตาลในเลือด หากต้องการศึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับราแมลงเพิ่มเติม สามารถเข้าชมได้ที่เว็บไซต์ไบโอเทคค่า จากคุณ : แม่ซากานะ เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 14:49:58

ความคิดเห็นที่ 50 พิพิธภัณฑ์เด็กแห่งกรุงเทพมหานคร   ....เป็นบูธที่ได้รับความสนใจจากนักวิทย์รุ่นจิ๋วมิใช่น้อยค่ะ คราวนี้มาในแนวคิด...  โลกเรากำลังป่วย ดูซิคะ...   คุณหมีขั้วโลกแทบจะไม่เหลือที่ให้ยืนแล้ว   เพราะน้ำแข็งที่ละลายไปอย่างรวดเร็วนั่นเอง จากคุณ : แม่ซากานะ เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 14:51:14

ความคิดเห็นที่ 51 ก็เลยมานำเสนอวิธีลดโลกร้อนแบบเข้าใจกันง่าย ๆ     มีกิจกรรมเพ้นท์ถุงผ้าด้วยค่ะ    คชจ.  20 บาท นั่งทำกันเต็มโต๊ะเล๊ย จากคุณ : แม่ซากานะ เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 14:52:17

ความคิดเห็นที่ 52 อีกโซนที่ฮอตฮิตติดลมบนไปตั้งกะคราวที่แล้วค่ะ   ....เขตตะหาน  เข้ามาเร๊ววว   และที่เข้าแถวยาวววววว   ก็เช่นเคยค่ะ โต๊ะบาดแผลสมมติเพื่อการศึกษาทางการแพทย์    .....เหมือนสุด ๆ   พอ ๆ กับเข้าแถวยิงปืนแสงเลเซอร์ โห...  บางคนยิงแม่นมากกกก    เราว่าสมาคมยิงปืนน่าจะมาเล็งช้างเผือกแถวนี้นะคะ น่าจะเจอะเจอนักแม่นปืนพรสวรรค์ก็ด๊ายยย จากคุณ : แม่ซากานะ เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 14:53:14

ความคิดเห็นที่ 53 เหลืออีกไม่กี่วันแล้ว...   ก็ขอเชิญชวนไปชมไปเล่นไปลองกันนะคะ     ส่วนบ้านเราคงกลับไปซ่อมกันอาทิตย์นี้ล่ะค่ะ โดยเฉพาะส่วนของโซนดาราศาสตร์  กับบูธ IBM. เดินสวนกับเซเลบคนดัง....  ต้องขอถ่ายรูปด้วยหน่อยค่ะ   คุณปู่ดาร์วิน  กับคุณทวดกาลิเลโอ จากคุณ : แม่ซากานะ เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 14:54:19

ความคิดเห็นที่ 54 กะว่าจะจบภายใน  15  นาที    ....   ปาเข้าไปซักเลย  12  ชม.   เดี๋ยวมาเก็บตกอีกนิดหน่อยค่า ขอบคุณที่แวะเข้ามาชมและทักทายกันนะคะ   จากคุณ : แม่ซากานะ เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 14:57:06

ความคิดเห็นที่ 55 ตามไปชมงานค่ะ จากคุณ : ชมจันทร์ เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 16:27:54

ความคิดเห็นที่ 56   แว๊บมาดูตอนพักเที่ยงทีหนึ่งล่ะค่ะ ตอนนี้เลิกงานแล้วดูได้เต็มที่ซะหน่อยก่อนกลับบ้าน โอ้โห พอดูต่อ ๆ มาแล้วรู้เลยค่ะว่าทำไมต้องมีซ่อมมีช้อนด้วย สงสัยถ้าไปต้องแย่งหลานเล่นทุกบู๊ทแน่นอนเลย ก็ตอนเราเด็ก ๆ มันไม่มีนี่นา ทำไงดีล่ะ เวลาก็น้อย ถ้าจะไปวันอาทิตย์ก็จะไม่ได้พักผ่อนเลย ข้อสำคัญ คนเยอะแน่ วันสุดท้ายนี่ เฮ้อ โดยเฉพาะ คห.41 น่าสน !........................................ .......แอบเห็นคุณหลานมีเสื้อกันหนาวด้วย อากาศเย็นมากหรือค๊ะ.... แก้ไขเมื่อ 17 ส.ค. 52 17:13:13 จากคุณ : เข็มเศรษฐี เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 17:11:26

ความคิดเห็นที่ 57 เข้ามาอีกรอบค่ะพี่อิ๋ม... จากคุณ : หมอกหนาว เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 19:44:01

ความคิดเห็นที่ 58 ขอบคุณสำหรับรีวิวนะครับ จากคุณ : tataweb เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 23:29:28

ความคิดเห็นที่ 59 ตามมาชมรีวิวฉบับเต็มอีกรอบค่ะ ขอบคุณค่ะ งานอย่างนี้ หนูชอบเดินดูมากเลย ตั้งแต่มีลูกเล็กๆ นี่อดเลย ต้องรอเจ้าคนโต โตพอรู้เรื่องกว่านี้หน่อย ค่อยหนีบไปด้วยค่ะ จากคุณ : Francsmama เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 11:37:47

ความคิดเห็นที่ 60 ไปมาเหมือนกันค่ะ เมื่อวันจันทร์ที่แล้ว เด็กๆ มาทัศนศึกษาจากโรงเรียนต่างๆ เยอะมากๆๆๆ จากคุณ : แมงปอหลงลม เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 16:27:34

ความคิดเห็นที่ 61 เข้ามาดูน้องมีนครับ จากคุณ : เพื่อนน้องมีน (ชอบจัง ทะเล) เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 21:20:49

ความคิดเห็นที่ 62 ไปเดินเล่นด้วยนะคะคุณอิ๋ม มีประโยชน์ดีจังค่ะ เดี๋ยวไปบอกคนมีลูกมีหลานดีกว่า                                               จากคุณ : น่ า น ฟ้ า (Nanfah) เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 52 10:28:10

ความคิดเห็นที่ 63 เพิ่งมาเห็นเอง หลังจากได้พยายามค้นหามาตั้งแต่ที่พี่อิ๋มบอก เมื่อวันที่ 14 โน้น แล้วหาทุกวันก็ไม่เจอ  ที่แท้ ผม Search ย้อนกลับไปไม่ถึงเอง ข้อมูลแน่น เนื้อหาเปรี๊ยะ สมดังคุณครู เลยนะครับ ผมเพิ่งไปปิดงานในวันสุดท้ายมา  แหม..แทบไม่น่าเชื่อ สถานที่จัดงานเดียวกัน กว่า 80% นั้น ผมไม่ได้เห็น (ยกเว้น Biodiversity Parvillion) ตอนนี้กำลังเริ่มโพสอยู่ ครับ ลองตามไปชมได้ครับ ในมุมมองที่แตกต่าง http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E8240384/E8240384.html ขอบคุณพี่อิ๋ม ที่แนะนำ ครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 12:39:50