ความคิดเห็นที่ 1 ความเดิมตอนที่แล้ว ช่วงเช้าเราสองคนไปเที่ยว La Sagrada Familia ของท่าน Gaudi ควบ Hospital de la Santa Creu i Sant Pau กันไปอย่างสุขสมอารมณ์หมาย ฉะนั้นบ่ายแก่ๆของวันสุดท้ายในบาร์เซโลน่านี้ จขกท.กับเพื่อนมอเลยเบนเข็มไปเที่ยว Montjuic กัน เราค่อยๆคลานต้วมเตี้ยมจากร้าน Bohemic Bistro จนมาถึง Placa d'Espanya ที่เห็นอยู่นี่ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 08:42:40

ความคิดเห็นที่ 2 มีสนามสู้วัวกระทิงด้วย จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 08:42:58

ความคิดเห็นที่ 3 ถึงแล้ว ตีนเขา(เนิน) Montjuic แต่เป้าหมายของเราอยู่ลิบๆโน่นค่ะ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 08:43:51

ความคิดเห็นที่ 4 ซึ่งก็คือ Museu Nacional d'Art de Catalunya (MNAC) นั่นเอง เหมือนกับว่าตอนนั้นเขากำลังเตรียมจัดงาน Motor Show หรืออะไรซักอย่างอยู่ เลยมีพวกอุปกรณ์ก่อสร้าง เต็นท์สารพัด อีเหละเขะขะเต็มไปหมด -*- จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 08:44:43

ความคิดเห็นที่ 5 ปกติทางขึ้น MNAC จะมีบันไดเลื่อนไว้คอยให้บริการ แต่ตอนเราไปบันไดเลื่อนดันลาป่วยซะนี่ ฮ่วย -*- เราเลยได้ใช้พลังจากข้าวเที่ยงที่พึ่งหม่ำมา เดินไต่กระไดลิ้นแทบห้อยไปจนถึงมิวเซียมน้อยบนเนิน ขอพักสูดออกซิเจนเข้าปอดซักเฮือกเถอะจะเป็นพระคุณ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 08:45:23

ความคิดเห็นที่ 6 MNAC เขามีสโลแกนสุดเท่ว่า "One museum, a thousand years of art" เพราะมีงานศิลป์ตั้งกะ ค.ศ.ที่ 11 ยัน impressionist ให้ดูกันสำราญบานตะไทเลยค่ะ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 08:46:34

ความคิดเห็นที่ 7 ทีเด็ดของ MNAC อยู่ที่ Romanesque Art ซึ่งจัดว่าเป็นสุดยอดคอลเล็คชั่นเจ้าหนึ่งของโลกทีเดียว โดยเฉพาะภาพวาดฝาผนังของโบสถ์เก่าแก่ที่ซ่อนอยู่ตามเทือกเขาในแคว้นคาตาลัน แม้จะภาพเหล่านี้จะรอดภัยสงครามมาได้เป็นพันปี แต่สุดท้ายก็มาแพ้ภัยสังขารและความชื้น เพราะโบสถ์จะพังไม่พังแหล่ เลยมีการลอกภาพเขียนเหล่านั้นออกจากผนังมาไว้ยัง MNAC จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 08:49:35

ความคิดเห็นที่ 8 Romanesque Art เป็นงานในยุค ค.ศ.ที่ 11-13 เห็นชื่ออย่างงี้ หน้าตาไม่ได้ใกล้เคียงศิลปะโรมันโบราณ ที่เน้นความกลมกลืนสมจริงแบบรูปปั้นเทพบุตรกรีกทั้งหลายเลย เพราะคำว่า Romanesque มาจากการที่ โบสถ์ที่ผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ดในสมัยนั้น ได้แรงบันดาลใจมาจากสถาปัตยกรรมโรมันค่ะ แต่ส่วนภาพวาดนั้นกลับกระเดียดไปทางศิลปะไบเซนไทน์ซะมากกว่า รูปที่เห็นอยู่นี่ อายุก็แค่ 900 ปีเหนาะๆค่ะพี่น้อง (มาก่อนสมัยก่อตั้งกรุงสุโขทัยซะอีก >_<) จขกท.ติดใจปีกพี่เทวดาในภาพนี้ เท่ได้ใจมั่กๆ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 08:50:57

ความคิดเห็นที่ 9 ปกติ จขกท.ไม่ค่อยได้ดูจิตรกรรมรุ่นเก๋ากึกส์ขนาดนี้ เห็นแล้วทึ่งคนสมัยก่อนไม่น้อย อย่างภาพนี้แม้มันจะวาดอย่างง่ายๆ ระบายสีแบบขำๆ แต่มันก็ถ่ายทอดอารมณ์ เศร้าศร้อย หงุดหงิด จิตตก ของคนในรูปได้เป็นอย่างดี จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 08:52:38

ความคิดเห็นที่ 10 แต่ดาวเด่นอยู่นี่ฮ่ะ เปิดหนังสือ Romanesque Art เล่มไหนเล่มนั้น ต้องมีภาพนี้ (ถ้าไม่มี ให้ไปถีบเพื่อนมอได้เลยค่ะ อิอิ) จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 08:53:42

ความคิดเห็นที่ 11 มันคือจิตรกรรมฝาผนังจากโบสถ์ Sant Climent in Taull (ประมาณ ค.ศ.1123) ซึ่งนอกจากจะเป็นงานที่อยู่ในสภาพค่อนข้างสมบูรณ์แล้ว ยังสีสันสดใส รายละเอียดยิบย่อยเพียบ ขนาดเห็นในมิวเซียมยังชวนทึ่งขนาดนี้ ถ้าเห็นตอนมันอยู่ในโบสถ์จะขนลุกซู่ขนาดไหน จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 08:54:36

ความคิดเห็นที่ 12 ไม่ใช่แค่จิตรกรรมฝาผนังเท่านั้น พวกภาพวาดก็มีให้ดูนะเอ้อ จขกท.เคยเล่าไปแล้วว่าภาพวาดทางศาสนาของสเปนจะออกแนวดุเดือดเลือดกระฉูด สะใจขาซาดิสต์ยิ่งนัก ถ้าดูรูป The Life and Martyrdom of St Julita and St Quiricus (ประมาณ ค.ศ.1170) นี่ จะเห็นว่าความโหดนี้มีมาในสายเลือดเจงๆ เพราะเล่นโชว์สเต็ปการทรมานเซ็นต์แม่ลูกคู่นี้ได้ถึงพริกถึงขิงมาก ทั้งโดนเสียบ! โดนเลื่อย! โดนตอกตะปู! โดนต้ม! ครบสูตร จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 08:55:18

ความคิดเห็นที่ 13 แต่รูปนี้ก็กุ๊กกิ๊กคิขุกาโม่ ขัดกับรูปข้างบนอย่างสิ้นแรง จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 08:55:37

ความคิดเห็นที่ 14 นอกจากภาพวาดแล้วยังมี sculpture โดยเฉพาะรูปแกะสลักไม้ทั้งหลายให้ดูกันขำๆอีกด้วย จขกท.ชอบรูปนี้เป็นพิเศษ เพราะดูเท่และสง่างามมากมาย ดูเผินๆยังกะพระเยซูกำลังเต้นบัลเลต์อยู่เลย (นรกจะกินกบาลอีกแล้วมั๊ยตรู >_<) จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 08:56:09

ความคิดเห็นที่ 15 Doric, Ionic, Corinthian กรุณาหลบ มาเจอเสาแบบ Romanesque ซะก่อน น่ารักซะไม่มี จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 08:56:32

ความคิดเห็นที่ 16 จบทัวร์ศิลปะ Romanesque เราก็เข้าสู่ยุคโกธิคกันด้วยจิตรกรรมฝาผนังที่ชื่อ The Conquest of Majorca (~ค.ศ. 1290) ที่เห็นอยู่นี่เจ้าค่ะ น่ารักโฮกกกกกกกกกกก >_< จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 08:57:03

ความคิดเห็นที่ 17 ช่วงศิลปะโกธิคกำลังรุ่งๆเนี่ย เป็นตอนที่บาร์เซโลน่าและแคว้นคาตาลันกำลังเข้าสู่ยุคทองพอดี ด้วยเหตุนี้กระมัง ในมิวเซียมเลยยัดทะนานไปด้วยภาพวาดสไตล์โกธิคเต็มไปหมด ดูกันให้ตาลายไปเลย จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 08:57:29

ความคิดเห็นที่ 18 ในขณะที่ภาพสไตล์ Romanesque จะแบนๆเหมือนตัวการ์ตูน ภาพเขียนโกธิคจะเหมือนคนจริงขึ้นมาหน่อยค่ะ พร้อมกับเน้นความถึกในรายละเอียด บวกความอลังการงานสร้าง ทองอร่ามงามงดแต๊ๆ (แต่โดยรวม รูปก็ยังออกมาแบนๆ ไม่ได้มีมิติสมจริงแบบภาพวาดยุคเรเนอซองส์) จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 08:59:21

ความคิดเห็นที่ 19 แต่ดูแค่รูปเฉยๆ ก็เล่นเอาตะลึงไปหลายขีดอยู่ ขนาดกรอบยังโกธิคจ๋ามาแต่ไกลเลย เผอิญลืมถ่ายป้ายมาด้วย เลยไม่ทราบว่าภาพชื่ออะไร ปีไหน ขออภัยด้วยเด้อ -_- จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 08:59:58

ความคิดเห็นที่ 20 อันนี้ จขกท.สงสัยมานานแล้ว ว่าพวกลายลงรักปิดทองบนเสื้อผ้ากับพื้นหลังนี่ เขาวาดเอาหรือใช้สกรีนคะเนี่ย ใครรู้ช่วยตอบหนูที จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 09:00:32

ความคิดเห็นที่ 21 ศิลปะสเปนยุคแรกๆได้รับอิทธิพลมาจากทั้งทางอิตาลีแล้วก็แฟลนเดอร์ อย่างภาพ The Episcopal Coronation of St Augustine โดย Jaume Huguet นี่ก็เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนมาก เพราะวาดรายละเอียดได้ถึกแบบภาพของศิลปินเฟลมมิช (ดูเสื้อคลุมของท่านเซ็นต์ซะก่อน ผ้าหรือทองแผ่นคะนั่น) แต่วาดใบหน้าออกมาได้สมจริงเหมือนกับงานของศิลปินอิตาเลียน ที่เน้นความเหมือนจริงทางกายวิภาค จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 09:02:22

ความคิดเห็นที่ 22 แต่ จขกท.กับเพื่อนมอ สะดุดตากับภาพนี้เจ้าค่ะ อันนี้เป็นรายละเอียดจากภาพชื่อ Funeral Procession (ขบวนงานศพ) ดูแหวก แปลกตา และล้ำสมัยมากๆ ไม่น่าเชื่อว่ารูปนี้วาดไว้ตั้งกะปี 1330 โน่น! จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 09:03:15

ความคิดเห็นที่ 23 ดูอาร์ตกันจนอ้วกแล้ว พักสายตากันสักนิดด้วย Oval Hall ข้างในมิวเซียมค่ะ โอ้แม่เจ้า จะเอาไว้จัดคอนเสิร์ตกันรึคะนี่ >_< จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 09:03:57

ความคิดเห็นที่ 24 ห้องโถงชั้นบนก็อลังไม่เบาเหมือนกัน จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 09:04:24

ความคิดเห็นที่ 25 ภาพวาดบนยอดโดมเจ้าค่ะ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 09:04:45

ความคิดเห็นที่ 26 เนื่องจากเราใช้เวลาดูคอลเล็คชั่น Romanesque กับ Gothic กันนานพอสมควร เลยต้องใช้ระบบวิ่งผ่านงานส่วนที่เหลือ -_- โดยเฉพาะเรเนอซองส์กับบาโร้กนี่ ทริปนี้ดูมาจนตาแฉะแล้ว ขอข้ามโลด กระโดดมาดูพวกอาร์ตนูโว กับ อิมเพรสชั่นนิสต์ของบาร์เซโลน่าดีกว่า อย่างเฟอร์นิเจอร์ชุดนี้ ยกมาจาก Casa Lleo Morera ที่อยู่บล็อคเดียวกับ Casa Batllo ของ Gaudi เป็นผลงานการออกแบบร่วมของสถาปนิกคนเก่ง Domenech i Montaner เจ้าเก่า กับนักตกแต่งภายในนาม Gaspar Homar น่ารักกิ๊บเก๋ดีไหมฮะ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 09:07:50

ความคิดเห็นที่ 27 ในขณะที่สถาปัตยกรรมในบาร์เซโลน่าดังกระฉ่อนไปทั่วยุโรป ศิลปินบาร์เซโลน่า ถ้าไม่นับปิกัสโซ่ มิโร่ ดาลี แล้ว กลับไม่ค่อยเป็นที่รู้จักแฮะ คงเพราะว่างานมันไม่เด่น ไม่แนว ไม่แสบทรวงแบบตึกของท่านเกาดี้กระมัง อันนี้เป็นรูปสลักชื่อ Eve โดย Enric Claraso ค่ะ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 09:09:07

ความคิดเห็นที่ 28 ส่วนนี่เป็นงานยอดฮิต เห็นแปะหราอยู่ทั่วเมือง Ramon Casas and Pere Romeu on a Tandem โดย Ramon Casas (ซึ่ง จขกท.ก็ไม่ทราบว่าคนไหนคือคุณ Ramon ใช่คนที่หันมาแยกเขี้ยวใส่คนดูหรือเปล่า เอิ๊ก) จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 09:09:52

ความคิดเห็นที่ 29 Ramon Casas แกไปฝึกวิชาวาดเขียนที่ฝรั่งเศสค่ะ งานของแกเลยออกแนว Impressionist จ๋าเลย อย่างภาพ Interior เนี่ย ดูเผินๆอิฉันแอบนึกว่าเป็นรูปของ Degas นะเนี่ย จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 09:10:59

ความคิดเห็นที่ 30 แต่แบบสเป๊น สเปนก็มีเหมือนกันนะฮะ อย่างรูป Granadina ของ Hermen Anglada Camarasa นี่ไง จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 09:11:21

ความคิดเห็นที่ 31 ศิลปินคนต่อมา จขกท.ไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน แต่เห็นแล้วโดนอย่างแรงเพราะสีสันช่างกุ๊กกิ๊กน่ารักเหลือใจ ภาพนี้ชื่อ Poble Escalonat โดย Joaquim Mir ค่ะ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 09:12:32

ความคิดเห็นที่ 32 หรือภาพ La Joia นี่ก็ด้วย สีหวานเชียว มาทราบประวัติของพี่ Mir ทีหลังว่าแกเคยโดนจับเข้าโรงบาลบ้าด้วย -_- ไม่อยากจะเชื่อว่าคนมองโลกด้วยสีสันสดใสแบบนี้จะเป็นโรคประสาทได้ หมอมั่วป่าวเนี่ย จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 09:13:09

ความคิดเห็นที่ 33 ความแนวของพี่ Mir ยังไม่จบค่ะ ดู Stained-glass Window ของพี่ท่านซะก่อน นี่ขนาดอิฉันเซ่อ ถ่ายด้านหลังกระจกมานะฮะเนี่ย -*- ยังสวยขนาดนี้ ด้านหน้าจะงามแค่ไหน ก้มดูนาฬิกา ไอ้หยา 6 โมงเย็นแล้วเหรอ ต้องเผ่นแล้ว เราเลยออกตะกายมุ่งหน้าสู่เป้าหมายถัดไป โชคช่วยว่าเจอรถเมล์ผ่านมาพอดี เลยประหยัดแรงไปได้โข แล้วรถเมล์ก็พาเรามาส่งยัง... จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 09:18:16

ความคิดเห็นที่ 34 สถานี Cable Car (Teleferic de Montjuic) เจ้าข้าเอ๊ยยยยย จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 09:18:59

ความคิดเห็นที่ 35 เห็น La Sagrada Familia อยู่ลิบๆ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 09:19:23

ความคิดเห็นที่ 36 เห็นทะเลล่วย จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 09:19:44

ความคิดเห็นที่ 37 ปลายทางสถานี cable car ก็จะเป็น Castell de Montjuic ค่ะ เนื่องจากตอนซื้อตั๋ว เจ้าหน้าที่บอกว่า ท่านมีเวลาอีก 15 นาทีก่อน cable car จะปิดทำการ -*- พวกเราเลยรีบวิ่งหน้าตั้งไปถ่ายรูป เล่นเอาเพื่อนมอของอิฉันบ่น "เวลาน้อยยิ่งกว่าชะโงกทัวร์อีกแก" เราเลยไม่ได้แวะ Castell de Montjuic เลย ตามฟอร์ม -_- จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 09:20:44

ความคิดเห็นที่ 38 ดูวิวทะเล (ควบการท่าบาร์เซโลน่า) ไปพลางๆก่อนละกัน จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 09:21:09

ความคิดเห็นที่ 39 สวัสดีครับคุณ ha-meow เข้ามาเที่ยวด้วยมิได้มาปาดนะครับ จากคุณ : Civict2003 เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 09:22:03

ความคิดเห็นที่ 40 ชมวิวยังไม่ทันสะใจเลย ก็ต้องกลับแล้ว (จริงๆเดินลงเขาเอาก็ได้ค่ะ แต่แบบว่าขี้เกียจ -_-) จริงๆบน Montjuic มีที่ให้เที่ยวอีกบานตะเกียง ทั้ง Olympic stadium, สวนพฤกษชาติ, มิวเซียมของลุงมิโร่, Mies van der Rohe Pavillion (ต้นตำรับ barcelona chair อันโด่งดัง) แล้วก็เมืองจำลองสเปน Poble Espanyol ฮือออออ งวดหน้าจะมากลิ้งๆบนเขาตั้งแต่เช้าจรดเย็นเลย จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 09:22:22

ความคิดเห็นที่ 41 #ได้เลยค่าคุณ Civict2003 สุดปลายทางสถานี cable car เราก็นั่งเจ้ารถไฟนี่ลงเขา ซึ่งมันก็พาเราไปส่งถึงสถานีเมโทร Paral.lel เลย จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 09:23:24

ความคิดเห็นที่ 42 จากนั้นเราก็นั่งเมโทรต่ออีก 1 ป้ายจนมาโผล่ที่สถานี Poble Sec เพื่อมาแก้มือที่ชวดรับประทานร้านทาปาส Inopia ไปเมื่อตอนกลางวัน (แค้นฝังหุ่นจริงๆ) จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 09:24:08

ความคิดเห็นที่ 43 ควรจะเปลี่ยนชื่อร้านเป็นมือบอนคาเฟ่ดีไหมเนี่ย จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 09:24:27

ความคิดเห็นที่ 44 Inopia เป็นทาปาสบาร์แบบดั้งเดิมแต่บริหารงานโดย Albert Adria น้องชายของ Ferran Adria แห่งร้าน El Bulli เจ้าพ่อ molecular gastronomy คนดัง เลยมีคนเห็นคุณพี่ Ferran มาโผล่ที่ร้านนี้บ่อยๆ ไม่แน่ใจว่าหนุ่มเสื้อลายในรูป ใช่พี่ Ferran หรือเปล่า แต่หน้าตาคล้ายเชียว จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 09:25:26

ความคิดเห็นที่ 45 เราสั่ง Cava (sparkling wine ของสเปน) มาดื่มฉลองมื้อสุดท้ายในบาร์เซโลน่าของเราสองคน ฮือออออออออออ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 09:25:50

ความคิดเห็นที่ 46 เปิดศักราชกันด้วยมหกรรม Olive ดอง ออกมาเค็มๆไม่หวานเหมือนที่เคยกินร้านอื่นในสเปน แต่ก็แทะได้เพลินๆดี จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 09:26:22

ความคิดเห็นที่ 47 เนื่องจากเราสองคนเป็นสมาชิกลัทธิเอาอย่าง เห็นคนในร้านสั่งเจ้า Russian Salad นี่จัง เราก็เลยตามน้ำไปด้วย 1 จาน ออกมาเป็นสลัดมันฝรั่งรสชาติธรรมดาสามัญ ฮ่วย -_- จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 09:28:02

ความคิดเห็นที่ 48 แต่ Inopia ก็มาแก้มือที่สลัดทูน่าจานนี้ได้ค่ะ เพื่อนมอกินแล้วกรี๊ดสลบ เพราะทั้งทูน่าและมะเขือเทศสดมากๆ แถมหอมน้ำมันมะกอกอีก อาหย่อยยยยย จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 09:30:11

ความคิดเห็นที่ 49 จานต่อมาเป็นไข่แซลมอนโปะบน Artichoke ทอด แถมข้างในยังยัดไข่นกกระทาดิบมาด้วย 1 ฟอง จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 09:30:31

ความคิดเห็นที่ 50 ส่วนรายการนี้ ตอนไปร้าน Cal Pep ดันพลาด ไม่รู้ว่าเขามีทะเลทอดรุ่นโปะไข่ยางมะตูมด้วย จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 09:30:53

ความคิดเห็นที่ 51 เราเลยมาล้างแค้นที่ Inopia แทน ออกมาอร่อยเลยล่ะค่ะ (ลูบพุง 1 ที) จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 09:31:23

ความคิดเห็นที่ 52 ปิดท้ายรายการด้วยไส้กรอกเสียบไม้ หอมเครื่องเทศ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 09:32:37

ความคิดเห็นที่ 53 ท่าทางร้านจะฮ็อตไม่เบา โชคดีที่เรามาตอนร้านเพิ่งเปิดพอดี ไม่งั้นได้ยืนรอหน้าร้านแน่ มีกั้นเชือกด้วยอ่ะ เว่อร์เจงๆ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 09:33:12

ความคิดเห็นที่ 54 หม่ำของคาวเสร็จ เราก็ไปต่อกันที่ร้านสุดดัง Espai Sucre ซึ่งชื่อร้านแปลเป็นภาษาปะกิตได้ว่า Sugar Space ฉะนั้นไม่ต้องเดาเลยว่าขายอะไร จขกท.เห็นคนพูดถึงร้านนี้มากมาย ว่าเป็นสวรรค์ของนักกินหนม แถมตอนนั่งสายการบินเดลต้ามาลงสเปน ในนิตยสารที่เดลต้าแจก ก็ยังมาตอกย้ำอีกว่า Espai Sucre เป็นร้าน dessserts ระดับต้นๆของยุโรป!! แบบนี้ไม่ลองไม่ได้แร๊วววววววว เราตะเกียกตะกายไปถึงตอนร้านเปิดพอดี แล้วเราก็รี่เข้าไปนั่งทันทีด้วยความตื่นเต้น แต่ความดี๊ด๊าของเราก็ป่อยลง เมื่อพบว่าเขาขาย desserts เป็นคอร์ส คอร์สละ 40 ยูโร!! (ไม่รวมค่า VAT + plate setting อีก 3 ยูโร) หลอกกันเล่นหรือเปล่าาาา >_< แก้ไขเมื่อ 17 ส.ค. 52 09:35:03 จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 09:34:35

ความคิดเห็นที่ 55 แต่เอาวะ ไหนๆก็มาแล้ว ลองสั่งคอร์สนึงมาแบ่งกันละกันเนอะ "ไม่ได้ครับ มาสองคนต้องสั่ง 2 คอร์ส" ลุงบริกรที่หน้าตาเหมือนแบกโลกทั้งใบไว้ บอกเราอย่างเย็นชา "แต่เรากินข้าวมาจนอิ่มแล้วนะลุง กินคนละคอร์สไม่ไหวหรอกค่ะ" เพื่อนมอพยายามอ้อน "...เหรอ...ก็ได้" แหน่ะ มีการเล่นตัวอีก! -*- ระหว่างนั่งรอของหวานนั่นเอง เราก็ได้เห็นความกระแดะเกินพิกัดของร้าน เพราะเขาล็อคประตูไว้ตลอด ใครจะเข้ามากินต้องรอให้ลุงบ๋อยไปเปิดประตู ขนาดวันนั้นมีปาร์ตี้ปิดห้อง เด็กวัยรุ่นเพียบ พอเจ้าเด็กพวกนั้นออกไปยืนสูบบุหรี่หน้าร้าน ตอนกลับเข้ามายังต้องเคาะประตูให้ลุงแกมาเปิดเลยค่ะ! ไหน ดูซิทำตัวไฮโซขนาดนี้ ขนมจะวิลิศมาหราแค่ไหน ออกมาได้อึ้งกันตั้งแต่จานแรก  ฟองฟอดมาอีกแระ  'Marialuisa' cold soup with green apple & spicy yogert ice cream! กินแล้วก็สดชื่นล้างปากดีนะฮะ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 09:37:32

ความคิดเห็นที่ 56 แวะมาดูรูปภาพและรูปถ่ายสวยๆ ครับ    ขอติดสอยไปเที่ยวต่อเลยละกัน จากคุณ : H2O+ เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 09:37:47

ความคิดเห็นที่ 57 ปล.เนื่องจากดองทู้มาได้ 3 เดือนแล้ว จขกท.เลยชักจำรายละเอียดไม่ค่อยได้ งานนี้ต้องขอลอกการบ้านเพื่อนมอ นักชิมระดับเซียนมาอีกแล้ว หุหุ ต่อกันด้วย Baba of red wine (Baba ก็คล้ายๆ sponge เค้กอ่ะค่ะ) ควบซอร์เบต์ ราดซอสแซฟฟรอน พร้อมด้วยวุ้นลูกแพร จำได้ว่าเค้กรสชาติไว๊น์ไวน์ ยิ่งซอร์เบต์ยิ่งไม่ต้องพูดถึง เอ้า กรึ๋๊บ กระดึ๊บ กรึ๊บๆ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 09:38:43

ความคิดเห็นที่ 58 #ขอบคุณที่ใช้บริการ ha-meow การท่องถึกค่ะคุณ H2O+ จานถัดมา ที่เห็นเป็นก้อนเบ้งๆนี่คือเค้กสับปะรดฮ่ะ ส่วนเล็กๆที่แปะอยู่ข้างใต้เป็น bread pudding สุดอร่อย แต่ที่เด็ดดวงแสบทรวงมากคือเจ้าไอติมขาวๆ เพราะมันคือไอติมเบคอน! ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่ารสชาติช่างหวานเค็มมัน ได้รสเบคอนเต็มๆ อาหย่อยยยยยยยยยย จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 09:40:10

ความคิดเห็นที่ 59 ไอติมเบคอนว่าแปลกแล้ว มาเจอเค้ก extra virgin olive oil เข้าหน่อยเป็นไง ออกมาหอมอร่อยเกินคาดค่ะ แถม White peach sorbet ที่มาด้วยเนี่ย อร่อยอย่างแรง จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 09:40:58

ความคิดเห็นที่ 60 ส่วนจานนี้แค่ชื่อ Empyreumatic 2 ก็เล่นเอาเกาหัวแกรกแล้ว มันจะมามุขไหนอีกวะเนี่ย เริ่มจากด้านซ้ายนะขอรับ ที่เห็นเป็นเกล็ดๆนั่นก็คือ english breakfast granita แม่นแล้วค่ะ มันคือ granita (คล้ายๆน้ำแข็งไส แต่เม็ดใหญ่ๆหน่อย) รสชาค่ะ เลยออกมาขมนิดๆ แปลกดี แต่ก็ช่วยแก้เลี่ยนของหวานๆที่เหลือในจานได้เป็นอย่างดี ส่วนตรงกลางเป็น coffee pastry + creme และที่แหมะอยู่ด้านล่างก็คือ english toffee และที่เห็นเป็นเกล็ดๆนั่นก็ลูกพลัมค่ะ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 09:42:33

ความคิดเห็นที่ 61 ปิดท้ายรายการด้วย Petit 4+5 เยอะแยะมากมาย กินกันให้เพ้อไปเลย ไม่ทราบเชฟจะโชว์พาวกันไปถึงไหน เพราะยังอุตส่าห์ทำเซอร์ไพรส์ด้วย chocolate paprika แล้วก็ spicy mashmellow ที่เผ็ดหน่อยๆ สิริรวม เราใช้เวลาหม่ำขนมมื้อนี้ไป 2 ชั่วโมงเต็ม! >_< จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 09:43:22

ความคิดเห็นที่ 62 อันนี้น้ำอะไรก็ไม่ทราบ เขาแถมให้มาล้างปาก -_- แค่กินเฉยๆเราก็เหนื่อยแทนเชฟแล้ว เลยรู้สึกว่าจริงๆ 40 ยูโรต่อคอร์สมันก็ไม่แพงน่าเกลียดนัก เพราะแต่ละจานต้องอาศัยความพยายาม บวกกับความช่างสรรหาสารพัดรสชาติมาโปะรวมในจานเดียวกัน แต่มันเน้นแปลกไปหน่อย เผอิญลิ้นอิฉันก็ไม่เทพขนาดนั้นซะด้วย กินหนเดียวเอาประสบการณ์ก็คงพอแล้ว -_- จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 09:45:39

ความคิดเห็นที่ 63 จบแล้วค่ะ การผจญภัยในบาร์เซโลน่าของเรา ต้องยอมรับเลยว่าในทริปนี้ บาร์เซโลน่าได้ใจพวกเราไปเต็มๆ เมืองก็มีเสน่ห์ สถาปัตยกรรมก็แนว อาหารก็อร่อย หวังว่าจะมีโอกาสได้กลับมาทักทายทำความรู้จักกับเมืองเมืองนี้อีก งวดหน้าจะอยู่มันซักอาทิตย์นึงเลย >_< จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 09:46:55

ความคิดเห็นที่ 64 เหลืออีกแค่ 2 ตอนก็จะจบมหากาพย์สเปนทริปของเราแล้วค่ะ ตอนหน้าเราจะพาเพื่อนๆไปเที่ยวแคว้น Basque พร้อมแหวกฟ้า คว้าดาวมิเชลิน กินมาราธอนในร้านอภิมหาแนว ที่เมืองซาน เซบาสเตียน นะขอรับ โปรดติดตามเด้อ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 09:48:51

ความคิดเห็นที่ 65 ติดตามตอนก่อนหน้านี้ได้ที่นี่ค่ะ ตอนที่ 1 MADRID - HOLA ESPANA!! http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E7860394/E7860394.html ตอนที่ 2 MADRID - EPIC FAIL http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E7878940/E7878940.html ตอนที่ 3 TOLEDO - LET'S GET LOST http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E7899572/E7899572.html ตอนที่ 4 GRANADA - อัศจรรย์ ALHAMBRA http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E7915224/E7915224.html ตอนที่ 5 GRANADA - อาหรับราตรี http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E7932685/E7932685.html ตอนที่ 6 SEVILLE - The Passion of Seville http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E7957111/E7957111.html ตอนที่ 7 SEVILLE - Andaluchill http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E7982482/E7982482.html ตอนที่ 8 VALENCIA - The Curious Case of Calatrava http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E8036855/E8036855.html ตอนที่ 9 BARCELONA - Verri Gotic http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E8098850/E8098850.html ตอนที่ 10 BARCELONA - Very Gaudi http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E8141902/E8141902.html ตอนที่ 11 BARCELONA - La Sagrada Familia http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E8184182/E8184182.html จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 09:54:15

ความคิดเห็นที่ 66 เล่าเรื่องได้สนุกเหมือนนเดิม ติดตามชมทุกภาคค่ะ เราก็เพิ่งกลับมาจากเสปน อยากบอกว่าคิดถึง Paella อยากกลับไปทานอีกจังค่ะ เวลาสั่งจะทานคนเดียวก็ไม่ได้แสนจะลำบาก ต้องสั่งเป็นถาดแล้วก็คิดราคาสองคน คุณแฟนเลยต้องโดนบังคับทานไปด้วยตลอดเลย 55 วันที่ไป MNAC วันนั้นจำได้ว่าเป็นวันที่เดินจนขาลากเลยอ่ะคะ เนื่องจากมีเวลาที่บาเซโลน่าแค่ 3 วัน เลยทำให้เป็นทริปที่เหนื่อยพอสมควรเพราะเดินเยอะมั่กมากกอ่ะคะ ขอตามไปอีกสองตอนสุดท้ายมหากาพย์ด้วยคนนะคะ ^ ^ จากคุณ : noonagist เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 10:00:04

ความคิดเห็นที่ 67 ขอขอบคุณ คุณ ha-meow ที่มายั่วน้ำลายช่วงเช้าได้ดีจริง ๆ ครับ เป็นทริปที่ดีทริปหนึ่งจริง ๆ ครับ จากคุณ : Civict2003 เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 10:00:18

ความคิดเห็นที่ 68 พึ่งเคยเห็น stained glass แบบอิมเพรสชั่นนิสต์ งามและเก๋มากๆค่ะ (รึเปล่าหว่า หรือเพราะมันเป็นด้านหลังมันเลยดูเป็นแบบนั้น ) ส่วนร้านของหวาน อะไรจะเว่อร์+แหวก+แปลกได้ขนาดนี้ สุดยอดจริงๆค่ะ ไอติมเบคอนกะเค้กน้ำมันมะกอกนี่ ถ้าไม่ติสท์คงคิดไม่ได้แน่นอน^^ จากคุณ : yuki_shimi เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 11:30:09

ความคิดเห็นที่ 69 ตามมาเที่ยวค๊าคุณฮาเมียว ทริปในฝันเลย T^T จากคุณ : แพรเพลง เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 12:05:43

ความคิดเห็นที่ 70 เที่ยวสนุก อาหารยั่วน้ำลายตามสไตล์ ha-meow ไม่ผิดแนวอีกแล้ว MNAC ถ้าจะเสพให้ดื่มด่ำจริงๆ ก็ต้องค่อนวันล่ะค่ะเราว่า ตอนที่เราไปตอนนั้น เคเบิลขึ้นไปปราสาทมอนจูอิก ปิดค่ะ ถ่อขึ้นไปถึงสถานีแล้วเห็นป้ายปิดซ่อมบำรุง ธ่อ..จะบอกล่วงหน้าหน่อยก็มะด้าย Mies van der Rohe Pavillion ก็มีฟังชั่นส่วนบุคคล เค้าไม่ให้เข้าไป อดดูเก้าอี้เช่นกันค่ะ ได้แต่เกาะดูห่างๆ ถ่ายรูปภายนอกเอาไว้ เหม..อ้อล้อให้กลับไปเอาคืนนี่หว่าบาร์เซโลนา หุ หุ..2 ชม.เฉพาะที่ร้านของหวาน ตอนแรกที่บอก 40 ยูโร เราก็โอ้โห.. แต่พอเห็นแต่ละอย่างที่ลุงไฮโซ แกลำเลียงออกมาปรนเปรอปากนักกิน อร่อยแล้วสวยด้วย คุ้มค่าๆๆ รอพุงกางที่ซาน ซาบาสเตียนอย่างใจจดใจจ่อค่ะ จากคุณ : la liga fan เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 12:32:10

ความคิดเห็นที่ 71 โอ้ ดูเพลินเลย  เราชอบแนวอิมเพรสชั่นนิสต์ค่ะ สวยงาม ดูง่าย อิอิ เห็นมะกอกดอง แล้วเปรี้ยวปากจัง แล้วไอติมเบคอนนี่น่าลองชะมัด  คิดได้ไงเนี่ย 40 ยูโรต่อคอร์สก็คุ้มดีนะคะ  หลายอย่าง แปลกๆดีด้วย จากคุณ : Red-Rose-14Feb เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 12:58:35

ความคิดเห็นที่ 72 สุดยอด สวยๆ ทั้งนั้นเลยครับ จากคุณ : หารองเท้าไม่เจอ เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 13:31:43

ความคิดเห็นที่ 73 อือม์ ขนาดอิชั้นรักงานแนว ป. 1 แบนแต๋ ยังตาไม่ถึง กับศิลปินสเปนอยู่ดี  ตูเป็นไรกะสเปนวะเนี่ย  T^T # 20 ที่อิชั้นเห็นทำเป็นตีสเกลค่ะ (บนขวานะ) ส่วนตราฟิออ เป็นตีสเกลจุดๆ กะระยะไว้ก่อน บ้างก็มีพิมพ์กรอบ วาง แล้วป้ายขอบไว้ก่อน จึงละเลงในทีหลัง อิตราฟิออนี่มันสากลจริงๆแฮะ ปล. มันเป็นลายลงรักจริงๆอ่ะ   *O*   #51 ไม่น่าเชื่อว่าจะฟาดของดองซะเกือบหมดจาน อิอิ และแล้ว ปลาหลดน้อยนับร้อยชีวิตก็ไปแหวกว่ายในพุงทั้งสอง คุณเพื่อนมอหม่ำไปกี่ฝูงคะเนี่ย ได้ตามเป้าหรือยัง #57 ถ้าหอมไวน์มากๆ ตอนอบเสร็จใหม่ๆ น่าจะทาไวน์แบบเราทารัมลงบนฟรุตเค้ก ยิ่งเนื้อเค้กมันเบา จะยิ่งดูดๆๆ เข้าไป ขนมสดๆ เสิร์ฟวันต่อวันแน่ๆ ไม่งั้นกลิ่นจะไม่อยู่ และแฉะ #60 มันซับซ้อนไรนักฟระเนี่ย  กินรวมกัน (ตักยากโคตร) แล้วเป็นไงคะ มันน่ามีลูกศรช็อคโกแลตซอสชี้เนอะ ว่ากินอะไรก่อน จะแนวสุดยอดดดดดด~   #61 จานแนววววว~ อิชั้นจะหยิบทีคงต้องเอาอีกมือประคองไว้ก่อน เดี๋ยวล้มโครมลงมา จะเสียชื่อประเทศชาติได้   ชอบขนมแบบสิ่งละอัน พันละน้อยนี่แล... งั่มๆๆ รอกินต่อทู้หน้าค่า       อาหารระดัลมิเชลินสตาร์ ห้ามมาเป็นสลัดมันฝรั่งนะ อิอิ จากคุณ : ป้าหนอน เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 15:08:34

ความคิดเห็นที่ 74 งานศิลป์ ดูไม่เป็น  รู้แต่ อาหารน่ากิน มากกก จากคุณ : วิทยาการ เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 19:02:26

ความคิดเห็นที่ 75 O_O ไอติมเบคอน เหรอ จริงดิ๊!!!!!! (เอามารวมกันได้เยี่ยงไรเล่านี่ T^T) MNAC จ๋วยฮะ ตัวอาคารเนี่ยแหล่ะ โถงสีขาว ตัดกับภาพวาดสีสุดเจิดกันดีมากๆ ภาพเลยเด่นขึ้นมาอีก หุหุ (ภาพนี่กะใส่เหมือนคัปเปลล่าซิสติน่าป่าวว่ะนั่น กร๊ากกกกก) #19 ตะลึงอิตรงกรอบนี่แล หุหุ แต่มันทองได้อลังดีจริงเลย #22 ฮ่าาา 1330 เหรอนั่น เออ ไม่บอกไม่รู้อ่ะ ไม่เหมือนเลยแฮะ แง้ววววว~ หนูหิวอีกแย้ววววว~ น่าทานทุกจานเลยอ่ะฮ่าาา~ >___< ของคาวน่าทานทุกจานเลยนะฮะ ขนาดเจ้าสลัดมันฝรั่งที่ว่าธรรมดายังดูน่ากินเลยอ่ะ ส่วนคอร์สของหวานเนี่ย สุดยอดดดดดดดดด~ ทั้งอลังทั้งน่ากิน... (แต่กินกันยาวนานขนาด 2 ชั่วโมงเนี่ยน้าาา~ >_<) นั่นจิ ถ้าคนละคอร์สจะกินกันหมดมั้ยอ่ะ #61 จานหรือนั่น!!! จัดซะไม่กล้ากินเลยตรู เอิ๊กกก วุ้ยยย~ คาใจไอติมเบคอนจริงๆเลยแฮะ >_< จากคุณ : yokoyuki เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 22:07:39

ความคิดเห็นที่ 76 คอร์สของหวานจ๊าบมาก ดูแปลกแหวกแนวจริงๆ พิถีพิถันกันสุดริดดดดด น่าลิ้มลองเป็นที่สุดเลยค่ะ แต่ราคา 40 ยูโร ก็แพงเอาการ ... แต่ลองซักครั้งจะเป็นไรไป อิๆๆ บาร์เซโลน่านี่เป็นเมืองใหญ่จริงๆเลยนะคะ ถ้ามีโอกาสมา ต้องอยู่ให้นานๆจนหนำใจเลย แล้วก็ต้องมาลองกินอาหารตามคุณha-meowด้วย แต่ไม่รู้ว่าลิ้นจะถึงรึป่าว T____T คิดไปคิดมา ถ้าเรามีความรู้ทางศิลปะแบบคุณha-meowก็จะดีมากๆเลย จะได้เข้าใจconceptของภาพของศิลปิน รู้backgroundนิดๆหน่อยๆพอเป็นพิธี การไปมิวเซียมก็จะน่าอภิรมณ์มากกว่าเดิม อิๆๆๆ และถ้าเรามีลิ้นรับรสเหมือนเพื่อนคุณha-meow การลงทุนไปกับค่าอาหาร ก็ดูเหมือนจะคุ้มค่านะคะ :P สุดท้ายก็ขอ...เฮ้อ...หนึ่งที เห็นคุณha-meow รีวิวมหากาพย์สเปนแล้ว เริ่มจะทนไม่ได้ อยากไปสุดๆ แต่ช่วงนี้คงต้องงดละเลิกการเที่ยวไปพักใหญ่ ต้องนั่งตบแปะกระเป๋าแฟบ ตั้งหน้าตั้งตาทำงานหาเงินเที่ยวใหม่ ขอบคุณนะคะที่พาเที่ยว สนุกเหมือนเคยเลยค่ะ จากคุณ : แพนเค้กอุ่นๆ เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 22:40:02

ความคิดเห็นที่ 77 อิอิ ขอบคุณเพื่อนๆที่แวะมาเยี่ยมชมความเห็นแก่กินของ จขกท.นะขอรับ ไอติมเบคอนเนี่ย เอาไปเอามาท่าจะโหลว่าที่คิดแฮะ เพราะมีหลายเจ้าที่ทำขายมาแล้ว แต่ต้นตำรับต้องที่ร้าน The Fat Duck ที่อังกฤษนี่เลย จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 52 06:51:17

ความคิดเห็นที่ 78 แถมยังแมนขนาดทำเสิร์ฟกันสดๆด้วยไนโตรเจนเหลวถึงโต๊ะเลยด้วย! >_< ของเขาแรงเจงๆ แก้ไขเมื่อ 19 ส.ค. 52 06:53:20 จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 52 06:52:38

ความคิดเห็นที่ 79 #คุณ noonagist: ขอบคุณนะค๊าที่ติดตามผลงานการโม้ของอิฉัน อร๊ากกกก คิดถึงปาเอญ่ามากๆ อยากกินๆๆๆๆๆ >_< อิฉันว่าแฟนคุณ noonagist ก็คงไม่ว่าหรอกค่ะ อาจทำฟอร์มบ่นไปงั้นแหล่ะ จริงๆก็แอบอยากกินด้วยเหมือนกัน กร๊ากกกกก #คุณ Civict2003: ขอบคุณค่า ไว้รอติดตามชมตอนหน้านะคะ อาหารตัวแม่กำลังจะออกโรงแล้ว >_< #คุณ yuki_shimi: ด้านหน้ากระจกก็สวยงามมากค่ะคุณ yuki_shimi เท่จริงๆพับเผื่อย กินไอติมเบคอนไปแล้ว เมืองไทยน่าจะลองทำไอติมข้าวเหนียวหมูปิ้งมาแข่งมั่ง หรือซอร์เบท์ลาบไก่ก็ได้นะฮะ กร๊ากกกก #คุณแพรเพลง: ขอบคุณที่ตามมาจากห้องศุภค่ะคุณแพรเพลง สู้ๆค่ะ เก็บตังค์ให้ได้ไวๆ แล้วจะได้ไปหาน้องเป้ที่สเปนไงฮะ อิอิ #คุณ la liga fan: อ้าว ตกลง Mies van der Rohe Pavillion นี่เขาไม่ให้เข้าเหรอ ไรว๊าาาา -_- สงสัยบาร์เซโลน่าอยากจะให้คุณ la liga fan กลับไปเที่ยวอีกรอบจริงๆด้วยล่ะค่ะ ถึงได้ทำตัวแทงกั๊กแบบนี้ หุหุ ส่วนขนมร้าน Espai Sucre เสียดายที่เราไม่ได้ทำการบ้านไปก่อนว่ามันจะเสิร์ฟเป็นคอร์ส กว่าจะไปถึงก็อิ่มข้าวเย็นแล้ว เลยซาบซึ้งกับขนมได้ไม่เต็มที่ แบบนี้ต้องส่งคุณ la liga ไปแก้มือแล้วค่ะ อิอิ #คุณ Red-Rose-14Feb: ตอนไปมิวเซียม ก็ไม่ได้รู้เรื่องเลยว่ามีงาน Impressionist สวยๆให้ดูเยอะแยะมากมาย เลยไม่ได้เผื่อเวลาไว้ มัวแต่ไปดู Romanesque กับ Gothic ซะหมด (แต่ 2 อันนั้นก็เจ๋งสมคำร่ำลืออ่ะนะ) ส่วนเรื่องร้านหนม อิฉันก็ว่า 40 ยูโร ++ ก็แพงแบบไม่ไร้สาระจนเกินไปเหมือนกันค่ะ เพราะแต่ละจาน วัตถุดิบเยอะมากกกกก สารพัดสารเพที่จะใส่กันเข้ามา ค่าแรงพ่อครัวก็คงจะหลายตังค์อยู่ #คุณหารองเท้าไม่เจอ: ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะค๊า #ป้าหนอน : เอ่อ...หนูก็ว่า Romanesque ที่ไหนๆมันก็แบบแต๊ดแต๋แบบนี้นะป้าขา -_- #20 โห ถึงตีสเกลก็ยังถึกอยู่ดีอ่ะ ทำไปได้จริงๆคนสมัยก่อน >_< ส่วนตราสโมสรฟิออที่เห็นนั่นมันเป็นดอกลิลลี่ แทนพระแม่มารีค่ะ (เข้ากับน้องโมโตดีไหมฮะ กร๊ากกกกกก) #51 กว่าจะจบทริป เราสองคนกินปลาไปหลายร้อยชีวิตได้ (เวอร์) แต่อย่างน้อยน้องปลาก็ไม่ได้ตายฟรีแน่นอน เพราะโดนเราสองคนแดรกเรียบ! ส่วนเรื่องขนมนี่ อิฉันสักแต่ว่ากินอย่างเดียวจริงๆฮ่ะ ต้องไปถามเจ้าแม่อย่างน้องปอสองซะแร๊ว หุหุ อิอิ ของ Espai Sucre มี petit 4+5 วันหลังป้าหนอนทำเสิร์ฟเป็น petit 4*5เลยสิฮะ จะได้กินกันให้เปรมไปเลย ขอเอาหัวเพื่อนมอเป็นประกันเรยฮ่ะว่า อาหารตอนหน้ารับรองเวอร์ได้ใจ ไม่ให้เสืยชื่อดาวมิเชลิน >_< #คุณวิทยาการ: อิอิ งั้นต้องห้ามพลาดทัวร์(ร้านอาหารใน)ซานเซบาสเตียนเด็ดๆเลยนะคะ โปรดติดตามเน้อ #คุณ yokoyuki: อิฉันเฉลยปริศนาไอติมเบคอนให้แล้วนะฮะท่านเลขาฯ จะลองกลับไปทำเล่นที่บ้านไหมฮะ อิฉันก็ไม่แน่ใจว่าภาพบนโดม MNAC เขาตั้งใจจะให้ออกมาเป็นแนวไหน เพราะจะ El Greco ก็ไม่ใช่ จะ Marc Chagall ก็ไม่เชิง เอิ๊ก ติดใจรูป #22 เหมือนกันเลยค่ะ ดูมันออกกระเดียดไปอาร์ตนูโวหน่อยๆด้วยซ้ำ ล้ำยุค(ไปประมาณ 600 ปีได้)จริงๆเลย คุณศิลปินเนี่ย อาหารร้าน Inopia ก็อร่อยใช้ได้ค่ะ แต่งวดหน้าจะไปกินร้านบ้านๆดูมั่ง เพราะรู้สึกว่างวดนี้ไม่ได้กิน Catalan home cooking เลยง่ะ ที่ใช้เวลา 2 ชั่วโมงหม่ำของหวานเนี่ย เพราะในครัวทำช้ามากค่ะ กินแล้วขาดช่วงสุดๆ ไม่แน่ใจว่าปกติก็ช้าแบบนี้ เพราะแต่ละจานต้องใช้เวลาประดิษฐ์ประดอยนาน หรือเพราะเราซวยดันไปวันที่มีลูกเศรษฐีมาปิดห้องปาร์ตี้ จนครัวทำไม่ทันกันแน่ -_- #คุณแพนเค้กอุ่นๆ: อย่างที่บอกอ่ะค่ะคุณแพนเค้ก ว่าไม่ได้รู้สึกเสียดาย 40/2 ยูโรที่จ่ายไปเท่าไหร่ เพราะกว่าจะคลอดมาได้แต่ละจาน เขาต้องใช้ความวิริยะอุตสาหะกันอย่างรุนแรงมาก ถือว่าจ่ายค่าฝีมือเชฟค่ะ แต่เราไม่ชอบที่ร้าน (หรือลุงบริกร) ทำตัวกระแดะน่าถีบเกินไปหน่อย เท่านั้นเอง -_- โอ้ย ความรู้ศิลปะก็อิฉันก็สเนคๆฟิชๆอ่ะค่ะคุณแพนเค้ก อาศัยว่าอ่านเยอะ เลยจำขี้ปากชาวบ้านมาโม้เหมือนรู้จริง กร๊ากกกก ถ้าอยากลองอ่านแบบเล่มเดียวครอบจักรวาล ขอแนะนำ The Story of Art โดย E.H. Gombrich ค่ะ อ่านง่ายมากๆ เพราะคนเขียนเขาตั้งใจเขียนให้เด็กมัธยมอ่าน แล้วก็จะไล่ประวัติมาตั้งแต่ยุคอียิปต์ยัน modern art เลย สู้ๆค่าคุณแพนเค้ก อิฉันอยากดูทู้คุณแพนเค้กตะลุยสเปนเหมือนกัน ว่าคุณแพนเค้กจะถ่ายทอดความงามและความแนว ของบรรดาตึกของท่าน Gaudi หรือ Domench i Montaner ได้งามงดหยดย้อยแค่ไหนนะค๊าาาาาา ^_^ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 52 07:36:09

ความคิดเห็นที่ 80 กระทู้ของคุณ ha-meow คือคัมภีร์ของการพาเที่ยวสเปนอย่างแท้จริง ไม่ใช่แค่เอารูปมาแปะ แต่สอดแทรกความรู้ลงไปอย่างพอดี ๆ ไม่ยัดเยียดเกิน ขอบคุณมาก ๆ สำหรับรีวิวยอดเยี่ยมเช่นนี้ หวังว่าผมคงได้ตามรอยสเปนโดยมีกระทู้นี้นำทางในเร็ววันครับ จากคุณ : Cherokee1 เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 52 02:26:13

ความคิดเห็นที่ 81 ^ ^ ขอบคุณมากค่ะ ที่ทนความเพ้อเจ้อของอิฉันได้ คุณคือโคบาล!! หวังว่าถ้าคุณ Cherokee1 ได้ไปสเปนจริงๆแล้ว คงไม่กลับมาบ่นอิฉันทีหลังนะคะ ว่าทำไมเที่ยวแบบนังชอ/เพื่อนมอมันถึงได้เหนื่อยรากเลือดแบบนี้ฟะ! >_< จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 21 ส.ค. 52 11:16:28

ความคิดเห็นที่ 82 ู^ ^ หูย ระดับไหนแระ  มีแต่พาคนอื่นเดินจนรากเลือดไปหลายทริปแล้ว 555 จากคุณ : Cherokee1 เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 01:05:25

ความคิดเห็นที่ 83 อะโห.. ถ้าเค้าได้ทำ คงไม่ได้กินอ่ะฮะ ที่ติดใจเพราะ มันดูแล้วไม่น่าเอามารวมกันได้หง่ะ ดันทำออกมาได้ซะงั้น (ไอติมข้าวเหนียวหมูปิ้ง ซอร์เบท์ลาบไก่ << คิดไปได้อ่ะทั่น กร๊ากกกก แต่ที่จริงตอนนี้พวกขนมรสลาบมันก็มีแล้วนี่หว่า กรึ๋ยย~) เอ่อ อาจทำไม่นาน แต่นานอิตรงแต่งหล่ะม้างงง รอตามไปกินต่อเน้อ ปล. ว่าจะหา The Story of Art มาอ่านนานแล้วอ่ะ ยังหาไม่เจอสักที -_- สงสัยต้องไปห้องสมุด งึมๆ จากคุณ : yokoyuki เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 07:39:06

ความคิดเห็นที่ 84 d จากคุณ : okb เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 11:26:56