เราพึ่งบินกลับจากฮีทโทรว์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาด้วยไฟท์ TG 917 ทริปนี้เราบินกัน 3 คนค่ะด้วยวีซ่าท่องเที่ยวแล้วก็น้องสาวอีก 2 คนกลับอิทิฮัดไฟท์ก็ออกใก้ลเคียงกันคือ ประมาณ 3 ทุ่มครึ่งด้วยวีซ่านักเรียนค่ะ
วันนั้นกว่าเราจามาถึงฮีทโทรว์ได้ทุลักทุเลพอสมควรเพราะกระหน่ำช๊อบปิ้งกันซะจนนาทีสุดท้ายแล้วค่อยเรียกแท๊กซี่จากบ้านมาแอร์พอตตอนที่เรากำลังรอทำ VAT REFUND ซึ่งคิวยาวมหาศาลก็เลยให้น้องที่บินอิทิฮัดไปทำเช็คอินก่อนเราก็เดินไปกลับน้องด้วย
กระเป๋าน้องทั้งหมด 6 ใบแบ่งเป็น 3 ใบใหญ่ๆ 2 เคบิ้นไซด์ +1 ใบกลางๆไซด์ประมาณ 22 นิ้ว เราก็รู้กันอยู่แล้วว่าน้ำหนักเกินแน่ๆก็เลยจับเจ้า 3 ใบใหญ่ไปชั่งก่อนได้ 63 กิโล เจ้าหน้าก็โอเคแล้วก็บอกว่าจริงๆได้ 60 นะคะแต่เกินแค่ 3 กิโลไม่มีปัญหาค่ะเราก็เลยไม่ได้ขอแถมเจ้า 1 ใบ 22 นิ้วเข้าไปแต่เรื่องมันไม่จบแค่นั้นค่ะ
เจ้าหน้าที่ขอดูเคบิ้นไซด์ 2 ใบเราชักรู้สึกแปลกๆน้องเราก็เอามาให้ดู แล้วเจ้าหน้าที่ก็บอกว่าชั่งน้ำหนักด้วย
น้องเราก็เอาเจ้าเคบิ้นไซด์+กระเป๋าแลปท๊อบชั่งได้ น้ำหนัก 12 กิโล ส่วนอีกใบได้ 10 กิโล คุณเธอบอกว่าเคบิ้นไซด์เราให้น้ำหนักได้ 8 กิโลส่วนที่เกินขอเก็บตังค์ เราก็เลยบอกว่างั้นเราไม่เอาไปหมดนี่ก็ได้เดี๋ยวจะฝากเพื่อนไว้ที่ลอนดอนนี่แหละ
แล้วก็ขอกระเป๋า 3 ใบใหญ่ที่ชั่งแล้วคืน เผื่ออาจต้องถ่ายของออกเจ้าหน้าที่ก็เลยโน้ตน้ำหนักไว้ว่าใบไหนหนักเท่าไหร่
เราก็เลยบอกน้องว่างั้นเดี๋ยวเราลองไปเช็คอินของเราก่อนดีกว่าเผื่อมีปัญหาจะได้ฝากของให้น้องที่อยู่ลอนดอนเอากลับให้เราก็เลยเอากระเป๋าเรามาเช็คอินบ้าง ของเราไปกัน 3 คนมีกระเป๋าใบใหญ่ 3 ใบ+ 2 เคบิ้นไซด์เราก็ลองเอากระเป๋าขึ้นชั่งตามปรกติ 3 ใบแล้วก็โยนเจ้าเคบิ้นไซด์ของน้อง 2 ใบที่เกินของน้องขึ้นไปด้วยแต่เอาแล๊ปทีอบออกเจ้าหน้าที่ชั่งแล้วก็ถามว่ามีอีกมั๊ยเราก็บอกว่าครบแล้วค่ะ ตอนนั้นลืมเจ้าใบ 22 นิ้วไปแล้วมัวแต่ดีใจที่น้ำหนักไม่เกิน ซึ่งตามความรู้สึกของเรา เราคิดว่ายังไงๆก็เกิน 70 กิโลแน่ๆ
แล้วก็ให้น้องไปเช็คอินเจ้า 3 ใบใหญ่กับอิทิฮัด รอบนี้เจ้าหน้าที่บอกว่าเกิน 3 กิโลก็ไม่ยอมให้เอาของออกน้องเราก็เลยเอาเป้สะพายใบเล็กมาใส่เสื้อผ้า ด้วยอาการยั๊วะสุดๆแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะภาษายังไม่เก่งพอ เลยยังด่าไม่เป็น
พอทำ VATเสร็จพวกเราก็แยกย้ายกันไป GATE เพราะตอนนั้นก็ 3 ทุ่มเข้าไปแล้วทุกคนลืมเจ้า 22 นิ้วกันไปหมดแล้ว
พอกลับมาถึงเมืองไทยต่างคนก็ต่างคิดว่าเจ้า 22 นิ้วอยู่กับอีกคนพอโทรหากันถึงได้รู้ว่าทุกคนลืมเจ้า 22 นิ้วซะแล้วเราก็นึกไม่ออกว่าเจ้า 22 นิ้วมันหายไปตอนไหนเลยโทรเข้าการบินไทย แล้วก็ได้คำตอบว่า
ขอชื่อผู้โดยสาร ไฟท์และหมายเลขที่ระบุในใบรับกระเป๋าค่ะ
เราก็บอกว่าหมายเลยไม่ได้อยู่กับตัวแต่จำไฟท์ได้ค่ะ
แล้วก็ถ้าจำไม่ผิดโหลดแค่ 5 ใบแล้วก็ได้ครบ 5 ใบแล้วด้วยค่ะแต่ไม่รู้มันหายไปไหน 1 ใบค่ะทำไงดี
เจ้าหน้าที่น้ำเสียงยิ้มแย้มแจ่มใสและดูกระตือรือร้นมากๆจนเรารู้สึกได้ค่ะ
ซักพักก็ได้เบอร์ที่สุวรรณภูมิมาค่ะเจ้าหน้าที่บอกว่าให้โทรไปที่เบอร์นี้
เราก็โทรไปพอคุยกับเจ้าหน้าที่เค้าเช็คแล้วบอกว่าไฟท์ที่เรากลับไม่มีกระเป๋าตกค้างให้เราลองติดต่อไปอีกเบอร์นึงแล้วก็ให้เบอร์เรามา
พอโทรเข้าไปพี่ที่รับสายก็ขอรายละเอียดต่างๆขณะที่รอสายพี่เค้าก็บอกว่าทางการบินไทยที่ฮีทโทรว์แจ้งมาว่าไม่มีกระเป๋าตกค้างครับ เราตกใจมากว่ารอสายแค่ 5 นาทีโดยประมาณพี่เค้าติดต่อไห้เราถึงฮีทโทรว์เลยหรือนี่
เราก็เลยปรึกษาพี่เค้าว่าเราควรทำยังไงดีแล้วก็เล่าให้เค้าฟังว่าเราบิน 2 สายการบินในวันนั้น ถ้าที่พี่ไม่มีแล้วหนูลืมโหลดล่ะ พี่เรวัตก็อธิบายต่ออีกว่าถ้าขนมากองหน้าเคาน์เตอร์เช็คอินแล้วลืมโหลดทางการบินไทยจาเก็บกระเป๋าไว้เองเพราะน่าจาเป็นของลูกค้าแน่ๆ และอีก คำตอบคือแนะนำว่าควรติดต่อทางอิทิฮัดด้วย แต่ในคำพูดทุกๆคำของพี่เค้ามีแต่คำแนะนำคำอธิบายในสิ่งที่ควรจะทำ ไม่มีคำไหนที่จะโยนเรื่องไปให้ทางอิทิฮัดเลย เราประทับใจในตัวพี่เรวัตในวันนั้นมากๆ
แล้วก็คำแนะนำที่มีประโยชน์มากๆจากพี่เรวัตคือพี่เรวัตแนะนำให้น้องชายเราที่ยังอยู่ลอนดอนไปติดต่อที่แผนกรัษาความปลอดภัยของสนามบินฮีทโทรว์ แล้ววันนั้นน้องชายเราก็ไปหิ้วเจ้า 22 นิ้วกลับมาได้จากฮีทโทรว์จริงๆตามคำแนะนำของพี่เรวัต
แต่เรื่องความประทับใจต่อความมีน้ำใจและพยายามปฎิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่การบินไทยยังไม่หมดแค่นี้
วันนี้พี่อำนาจทำงานอยู่แผนกเดียวกันกับพี่เรวัตประจำที่สุวรรณภูมิโทรเข้ามาหาเราเรื่องกระเป๋าอีกรอบว่าน้องชายทางลอนดอนลองเข้าไปติดต่อรึยังเรื่องเป็นอย่างไรบ้าง เพราะพี่เค้าแจ้งเรื่องของเราเข้าไปที่เคาน์เตอร์การบินไทยที่ฮีทโทรว์ให้เราแล้วถ้าจำเป็นต้องให้สายการบินติดต่อทางสนามบินให้เค้าจะแจ้งเรื่องเข้าไปให้อีกรอบ
เราเลยบอกพี่เค้าว่าเราตามกระเป๋าเจอแล้วค่ะแต่ไม่รู้จาเอากลับบ้านยังไงดีพี่เค้าก็ยังแนะนำให้อีกว่าให้เอาของแพคให้เรียบร้อย(พี่เค้าคงรู้ว่าใครลืมแบบนี้สภาพกระเป๋าแล๊ะแน่ๆ)แล้วเข้าไปที่เคาน์เตอร์การบินไทยที่ฮีทโทรว์แล้วแจ้งชื่อเรา ทางโน้นรับเรื่องไว้หมดแล้วเดี๋ยวจะส่งกระเป๋าคืนมาให้ที่สุวรรณภูมิ ไม่น่าจะมีค่าใช้จ่าย คือคำพูดที่พี่เค้าบอกกับเรา เรายังถามต่อกลับไปอีกว่าถ้าเวลาเราจะติดต่ออีกครั้งให้โทรหาพี่ใช่มั๊ย พี่เค้าตอบว่าเรื่องอยู่ในระบบแล้วเราสามารถคุยได้กับเจ้าหน้าที่ทุกๆคน
เราไม่รู้ว่าจะขอบคุณการทำงาน การบริการของพี่ๆทุกคนยังไง คงขอมาบอกถึงความดีของพี่ๆการบินไทยที่สุวรรณภูมิต่อให้เพื่อนๆที่อยู่ในห้องนี้ได้อ่านได้รับรู้ว่า สายการบินแห่งชาติของเรายังมีคนที่ตั้งใจทำงานตั้งใจบริการที่ดีเกินกว่าที่เราคาดหวังไว้ด้วยเยอะมากๆ
ขอขอบคุณพี่ๆการบินไทยทุกๆท่านที่ต้องมาวุ่ยวายไปกับเราในครั้งนี้จากใจค่ะ
แก้คำผิดค่ะ
แก้ไขเมื่อ 26 ส.ค. 52 12:25:53
แก้ไขเมื่อ 26 ส.ค. 52 12:17:49
แก้ไขเมื่อ 26 ส.ค. 52 12:02:44
แก้ไขเมื่อ 26 ส.ค. 52 11:34:53
แก้ไขเมื่อ 26 ส.ค. 52 10:15:13