ความคิดเห็นที่ 1 เริ่มต้นจากสงขลาบ้านเกิด โดยรถบัสคันสีแดงของคอนโซเทียมบัสเอกซเพรส บริษัทของมาเลเซีย Konsortium Bas Ekspres จะออกจากหน้าโรงแรม Novotel หาดใหญ่ มีออฟฟิสขายตั๋วอยู่ที่ฝั่งตรงข้ามกับแมคโดนัล เยื้องโรงแรมเดียวกัน ค่าตั๋ว 400 บาท มีรถเวลา 9 โมง 10 โมง  ใช้เวลาวิ่งเก้าชั่วโมง แต่บวกเวลาในประเทศมาเลเซียที่เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งชั่วโมง รวมเป็นสิบชั่วโมง พอดิบพอดี ที่ออฟฟิสจำหน่ายตั๋ว ติดต่อได้ด้วยเบอร์โทร 074-351280 และ 351281 มีบริการให้แลกเงินด้วย (ในจำนวนน้อยก็รับ) หากไม่อยากแลกที่นี่ ก็มีอีกที่หนึ่งที่จะได้เรทดี เวลาแลกเงินเยอะๆ ก็คือที่ยงดีพานิช แต่เราเน้นสะดวกเข้าว่า ไปแค่หนึ่งวันหนึ่งคืน แลกไปแค่ 1500 บาทก็เหลือจะพอ ถ้าคุณไม่ใช่คนท้องที่ ให้นั่งรถ ไม่ว่าจากสนามบิน หรือจากที่ใด มาลงที่หน้าหอนาฬิกา แล้วเดินไปนิดหนึ่ง ผ่านถนนทางซ้ายไปสองซอย เลี้ยวซ้ายเข้าซอยที่สาม แล้วหักเลี้ยวขวาในซอยที่มองเห็นตึกสามสี่ชั้นสีฟ้ัาสด เดินตรงไปตามถนนสายนี้เรื่อยๆ จะผ่านสี่แยก แล้วก็ตรงต่อไปอีกประมาณไม่ี่เกินสิบนาที ก็จะเห็นตึกสูงๆ ของโรงแรมโนโวเทลอยู่ใกล้เข้ามา เลี้ยวซ้ายอีกที ก็จะเห็นแมคโดนัลด์ คราวนี้ไม่หลงแน่นอนค่ะ อย่านั่งรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างเลย อาจโดนรีดไถไม่ต่ำกว่ายี่สิบบาท จากคุณ : เที่ยวไปสองไพเบี้ย เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 52 02:08:09

ความคิดเห็นที่ 2 รถบัสจะวิ่งใช้เส้นทางผ่านทางสะเดา ไปทางชายแดนปาดังเบซาร์ ระยะทาง 55 กิโลเมตรจากหาดใหญ่ รถจะจอดที่จังโหลน ให้ผู้โดยสารลงไปเดินผ่านด่านตรวจขาออกของประเทศไทย และไปเข้าด่านมาเลเซียขาเข้า หากไม่ได้ไปเช็คอินที่บริษัทรถบัสตอนเช้าก็จะต้องไปเอากระดาษสีขาวมากรอกข้อมูลสำหรับขาออก เข้าไปเอาได้ในออฟฟิส แต่ห้ามเข้าไปนั่งเขียนในนั้นระวังเจ้าหน้าที่ตะเพิดออกมา กรอกเสร็จนำไปยื่นช่องไหนก็ได้ แล้วเดินกลับไปขึ้นรถ รถวิ่งไปอีกสักพักจะมาถึงฝั่งมาเลเซียบ้าง ฝั่งนี้เดินเข้าไปตรวจในอาคาร และมีการสแกนกระเป๋าสัมภาระด้วย ทุกคนก็ต้องลากกระเป๋าลงมา เราก็ตามเขาไป ใครทำอะไรให้เตริมากาซิ อย่างเดียว แล้วก็ยิ้มไปทั่วๆ แบบนางงาม ผ่านไปได้อย่างปลอดภัย จากคุณ : เที่ยวไปสองไพเบี้ย เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 52 02:12:53

ความคิดเห็นที่ 3 พอผ่านทั้งสองด่านไปก็เริ่มเห็นความแตกต่่าง ระหว่างทางที่วิ่งเข้าสู่ทางเหนือของมาเลเซีย สองข้างทางเต็มไปด้วยรั้ว คือเขากั้นรั้วไว้ตลอด ไม่ให้หมูหมา วัวควายของชาวบ้านทะเร่อทะร่าวิ่งขึ้นมาบนถนน นอกจากนั้นก็ยังเต็มไปด้วยต้นสักตามแนวริมถนนหลวง ด้านหลังรั้วยาวที่กั้นไว้ ก็ืคือสวนยาง สวนปาล์มน้ำมัน และทุ่งหญ้าสวยๆ ย่านบ้านคนนั้นจะกระจุกกันอยู่ด้วยกัน หลังดงไม้ใหญ่ ดูแล้วไม่เหมือนเมืองไทยเอาซะเลย ที่ใครอยากจะสร้างตรงไหนก็สร้างเอา อย่าลืมปรับเวลาเมื่อเ้ข้าประเทศมาเลเซีย เพิ่มเวลาไปอีกหนึ่งชม. รถจะจอดให้กินข้าวเที่ยวตอนเที่ยงสิบห้า ถ้ายังไม่มีเงินริงกิต ก็มาแลกที่นี่ได้ มีศูนย์บริการ รถจะจอดแวะำเติมน้ำมันอีกทีตอนบ่ายสองโมงครึ่ง มีห้องน้ำให้แวะ และมีแคนทีนให้หาอาหารราคาถูกทานอีกรอบ ระหว่างทางก็จะจอดที่ห้องน้ำที่ปั๊มน้ำมันให้อีก ถ้าใครปวดหนักปวดเบา บอกคนขับได้ เขาจะหาที่แวะข้างหน้าให้ค่ะ บริการดี (เพราะบนรถไม่มีห้องน้ำ) สำหรับการใข้บริการจองรถออนไลน์ www.kbes.com.my มีคำที่เรียนมาสองคำคือ Awas แปลว่า Attention คือขอโทษนะคะ  เราแปลคำนี้เป๊ะๆเป็นไทยไม่ออก กะ Kenderaan ถ้าสะกดไม่ผิดนะคะเพราะว่าคำมันยาว เห็นแว้บๆ ที่ข้างถนน ตัวหลังนี้เป็นเหมือนที่พักสำหรับคนแวะจอดรถระหว่างทาง เข้าห้องน้ำ และบางแห่งมีร้านอาหารเล็กๆด้วย ร่มรืนดี จากคุณ : เที่ยวไปสองไพเบี้ย เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 52 02:19:15

ความคิดเห็นที่ 4 ระหว่างทางเ้ข้าเมือง จะผ่านทางออกที่ 118 ไป Genting Highland สำหรับคนที่ขับรถมาเองนั้น ถนนในมาเลเซียเก็บค่าผ่านทางเป็นระยะๆ เลย แต่เรานั่งรถบัสก็ไม่ได้เสียอะไรเพิ่ม นอกจากค่าอาหารที่กินเอง พอเริ่มเข้าสู่ตัวเมือง ก็จะขับขึ้นเนินแล้วลงอีกครั้ง เห็นหมู่บ้านสวยๆ เพียบ และตึกสูงสวยๆ ที่ไฟเริ่มเปิดแล้ว (มาถึงตอนทุ่มนึง มีรถติดอีกนิด) แป๊บเดียวเท่านั้น ยังไม่ทันรู้สึกว่ารถติดเลย ถนนหนทางเต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ และสีเขียวๆๆๆ ไปเสียทุกที่ที่พอจะมีต้นไม้เข้าไปอยู่ได้ รถบัสจะไปจอดที่สถาีนีที่ Puduraya ลี่ก็เดินออกมามองหาถนน Jalan pudu  (Jalan จาลันแปลว่าถนน ถ้า Jalan Jalanแปลว่าเดิน) ออกมาแล้วก็เลี้่ยวซ้ายเข้าสู่ถนน Jalan Tun Tan Cheng Lok ซึ่งก็จำไม่ได้ แต่รู้ว่าถนนชื่อยาวๆ เป็นถนนใหญ่ แล้วเลี้่ยวซ้ายลงจากถนนนี้ที่ Jalan Sultan ผ่านโรงแรมสูงๆ ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ชื่อ 5th Element สงสัยสร้างตอนหนังเรื่องนี้กำััลังดัง และ Selangor complex ทางซ้ายมือ เข้ามากลางถนน ก็เจอป้ายไฟที่พักสีแดงๆ ข้างล่างมีร้านอาหารตามสั่ง เก้าอี้ตั้งเต็มฟุตบาธไปหมด ใครไม่ชอบที่พักถูกๆ มีเงินแล้วก็อยากพักให้สบายหน่อย ไม่ลำบาก ก็ขอเตือนอย่ามาพักที่ Backpacker’s Traveller Inn เป็นอันขาดค่ะ เพราะว่ามันถูกมากเกินไป แค่ 11 ริงกิต ห้องดอร์มผู้หญิงล้วน มีระเบียง แต่เวลาเดิน ผ่านห้องผู้ชายล้วนเข้าไป เอากะเขาซีท่าน ห้องอาบน้ำเหมือนที่บ้านเราเด๊ะๆ มีชักโครก แต่ไม่มีน้ำอุ่น และโลเึคชั่นอยู่ในย่านไชน่าทาวน์ ที่หลายๆคนว่าไม่ปลอดภัยแต่เราลองไปเดินมาทั่วๆแล้ว ลี่ว่าย่าน Chow Kit ที่อยู่ทางตอนเหนือน่ากลัวกว่าเยอะอ่ะ มีคนดำๆอยู่กันด้วย จากคุณ : เที่ยวไปสองไพเบี้ย เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 52 02:23:41

ความคิดเห็นที่ 5 ถึงที่พักแล้วก็ออกมาหาอะไรกิน ร้านอาหารที่ดูหรู อย่าเข้าไปกินเด็ดขาดเพราะมื้อหนึ่งไม่ต่ำกว่าหกสิบบาท ถ้านั่งกินตามริมถนนจะได้ก๋วยเตี๋ยวชามละสามสิบห้าบาท 3.5 ริงกิต (นี่แพงแล้วนะ) ลี่ได้กินเจ้าหนึ่งราคาแค่ 2 ริงกิตเท่านั้น ก็ไม่เลวเลยทีเดียวแหละ  กลางคืนลี่ก็เดินเรื่อยเปื่อยชมแสงไฟในเมือง แล้วก็ตามหาสถานีรถไฟฟ้าที่ใกล้ๆที่พัก คือ Pasar Seni ออกจากที่พักแล้วเลี้ยวขวาไปตามถนนหลัก ตรงไปสุดทางก็เจอแล้ว ตรงระหว่างทาง ซ้ายมือมีซุปเปอร์มาร์เก็ต หาของทานได้ไม่แพง ตรงไป จนถึงหัวมุมถนน ก็มีร้านข้าวแกงอยู่ ไม่แพงมากนัก มื้อนึงประมาณเจ็ดสิบบาท รวมน้ำดึ่ม ก็ทนได้ ถ้าอยากได้ของกินแบบที่เป็นข้าวแกงตักเองอีกตังหาก แล้วก็กลับไปนอนหัวค่ำ เตรียมตัวตื่นแต่เช้าพรุ่งนี้ ปล. รูปบังคับ ไม่ถ่ายก็ไมได้ ถ่ายออกมาก็ไม่สวย แล้วถ่ายทำไมฮึ จากคุณ : เที่ยวไปสองไพเบี้ย เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 52 02:27:30

ความคิดเห็นที่ 6 วันแรกในการเที่ยว (ก็มีอยู่วันเดียว) ความที่รีบ ออกจากที่พักไปขึ้ันรถไฟฟ้า แล้วตรงดิ่งไป KLCC เพื่อขึ้นตึกเปโตรนาส เพราะถ้าไปช้าจะมีคนรออยู่ก่อนแล้วเต็ม จากที่พักเราถ้าให้เดินไป ไม่แคล้ว 40 นาที ไม่นับเวลาหลงทางอีก  แล้วช่วงที่ไปเนี่ยคือเป็นช่ีวงที่หวัดสองพันเก้ากำลังระบาดในเคแอลเสียด้วย เช้าตื่นมาก็พกผ้าปิดปาก ออกเดินทางทันที แม้ว่าึตึกจะเปิดให้ชมฟรีตั้งแต่ 8:30 แต่คนแห่กันไปรออยู่ที่หน้าประตูตั้งแต่เช้ามากๆ ถ้าใครไปเอาแปดโมงนี่ อาจจะเจอแถวยาวมากแล้วก็ไ้ด้ค่ะ ลี่ไปถึงเวลาแปดโมงตรง ได้คิวขึ้นชมเวลา 10:30 ถ้าตื่นไม่ไหว ใ้ช้เพื่อนไปรับตั๋วแทนก็ได้ค่ะ คนนึงรับตั๋วแทนเพื่อนได้ ลี่ลองถามดูแล้วเขาบอกว่า คนนึงเอาไปสี่ใบก็ได้ ลี่ลองแกล้งขอสิบใบดู ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ทำหน้าแบบบอกไม่ถูก รับตั๋วสีส้มเสร็จแล้วก็ออกไปเดินเล่นที่ไหนก็ได้ ค่อยกลับมาค่ะ วันนึงจะออกตั๋วแค่ 1500 ใบเท่านั้นค่ะ มาหลังสิบโมงก็หมดแล้ว สำหรับเวบไซต์เช็คเส้นทางการเดินรถไฟฟ้าทุกแบบในเคแอล http://www.kiat.net/malaysia/KL/transit.html สถานี Pasar Seni (central market) ค่ารถของลี่ 1.6 ริงกิต รถที่เปซาร์ เซนี่ จะเป็นรถลอยฟ้า แล้วจะไปมุดลงใ้ต้ดิน ลี่มาออกที่เคแอลซีซี แล้วก็ต้องใ้้ช้เวลาเดินกว่าจะถึงทางลงไปยังห้องรอรับตั๋ว   อีกสิบนาทีได้ ไม่ใช่ึขึ้นบันไดมาแล้วอยู่ตรงหน้าเลยซะที่ไหน ในรูป สกรีนตุ้ขายตั๋วค่ะ จะไปลงป้ายไหน จิ้มเอาเลย แล้วจะขึ้นราคามา ให้เราเอาธนบัตร หรือเหรียญหรือรวมกันก็ได้จ่ายง่าย จากคุณ : เที่ยวไปสองไพเบี้ย เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 52 02:34:46

ความคิดเห็นที่ 7 ก่อนจะึ้ขึ้นชม ก็มีเวลาให้ไปเดินเล่นในปาร์คตรงนั้นแหละค่ะ สวยงามดี อยากลงไปเอาเท้าแหย่น้ำในสระเด็กแต่อายุเกินสิบสองขวบ แล้วก็ไม่ได้หลอกพาเด็กลูกใครมาเล่นน้ำ เขาเลยไม่ให้ลงไป ส่วนวันจันทร์สระปิด ตึกก็ปิด เที่ยวจนรอบก็ยังไม่ถึงเวลา เลยเข้าไปดูนิทรรศการที่ห้อง Exhibition ที่อยู่ข้างเคาน์เตอร์รับตั๋ว รอเขาเรียกเข้าไปชมวีดีทัศน์ ตอน 10:15 พอได้ึ้ขึ้นตึกสมใจก็รู้ว่าได้เวลาแค่ 10 นาทีเอง ยังไม่มันเลย ลงมาก็หาอะไรทาน ก่อนจะตีรถยาวกลับไปที่สถานีปาซาร์เซนี่เหมือนเดิม แล้วเดินข้ามสะพานข้ามแม่น้ำกลาง ไปแวะชมสถานีรถไฟเก่า เดินข้ามสะพานลอยข้ามชานชาลาไปออกยังด้านข้าง ฝั่งรับส่งพัสดุกับการรถไฟ มาออกด้านหน้าสถานีรถไฟ แล้วมุดทางลอดใต้ถนนอีกที กว่าจะถึงยังมัสยิดแห่งชาติ  หลังจากนั้นเป็นทางเดินขึ้นเขา ไปตามป้ายบอกทาง ร้อนมากๆ น้ำดึ่มนี่ขาดไม่ได้เลยเชียว เพราะไปหาซื้อไมไ่ด้ ขวดละ 4-5 ริงกิต แพงมาก แล้วเดินต่อเข้าไปผ่าน National planetarium เข้าไปชมวิวสกายไลน์ของเมืองได้ ในราคา 1 ริงกิต เหนื่อยมากๆ เพราะเดินล้วนๆ ไม่งั้นก็แทกซี่สถานเดียว ขึ้นเขาตลอดแนว รูปจากบน Skybridge หาที่สวยๆชมจากคนอื่นนะคะ  รูปนกสีเหลืองนี่ไม่รู้นกอะไรหน้าตาคล้ายนกเอี้ยงบวกนกขุนทอง เห็นร้องเพลงอยู่ในปาร์คที่ KLCC ค่ะ จากคุณ : เที่ยวไปสองไพเบี้ย เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 52 02:38:34

ความคิดเห็นที่ 8 ก่อนจะต่อไปจนถึงทางเข้าสวนสาธารณะใหญ่  ชื่อก็ตามนั้นเพราะมันมีทะเลสาบ ลี่ยอมควักเงินเข้าไปในสวนนก อยากไปดูนกบินไปมา ในราคา 48 ริงกิต เหมือนจะแพง ต้องขอโทษด้วย ไม่ได้เข้าห้างอะไรเลยสักห้าง (ไม่นับ Suria) ชื่อนี้รึปล่าวยังไม่ค่อยมั่นใจเลยคะ แหะๆ นี่เลยที่เราชอบ นกๆๆๆๆ เต็มเลย ร่วมทำบุญได้ค่ะ ไม่ได้ขายอาหารนก แต่ถ้าอยากให้นกมาเกาะเราเยอะๆ ก็ขออาหารได้ เจ้าหน้าที่จะบริการให้ แล้วเราก็ร่วมทำบุญตามจิตศรัทธา 2 ริงกิตขึ้นไป จากคุณ : เที่ยวไปสองไพเบี้ย เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 52 02:42:26

ความคิดเห็นที่ 9 สวนนกนี้ ชื่อหาไม่ยากค่ะ KL Birdpark ตามนี้เลย เขากล้าโม้ว่าเป็นสวนนกเปิด ที่ใหญ่ที่สุด ก็ใหญ่จริงๆ เดินข้างนอกขาลากแล้วมาเดินข้างในอีก มีนกแปลกๆด้วย ต้องเล็งให้ดีๆ อย่างตัวนี้ เหมือนเคยเห็นในฟอร์เวิดเมล์ หางเค้าแปลกดี จากคุณ : เที่ยวไปสองไพเบี้ย เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 52 02:45:05

ความคิดเห็นที่ 10 นี่ก็น่ารัก นกบางชนิดจะอยู่ในกรงเล็กอีกที หลายๆชนิดก็บินไปบินมากันอยู่ จากพื้นที่คาดคะเนได้ว่า ถ้าเดินจนทั่วก็ขาลาก เพราะโดนมาแล้ว แฮ่กๆๆ คุ้มค่า และชอบมากที่กลางเมืองหลวงมีของแบบนี้ด้วย เมืองไทยก็มีเนอะ แถวสวนหลวงร.9 ใช่ไม๊เอ่ย ไม่เสียเงินค่าดูอีกตังหาก จากคุณ : เที่ยวไปสองไพเบี้ย เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 52 02:48:09

ความคิดเห็นที่ 11 โอย ไม่ไหว Jet lag มากขอมาต่อพรุ่งนี้เช้านะค้า จากคุณ : เที่ยวไปสองไพเบี้ย เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 52 02:56:29

ความคิดเห็นที่ 12 ขอบคุณมากครับ ฝนตกฟ้าร้องน่ากลัว ปิดคอมนอนเหมือนกันดีกว่าครับ 555 พรุ่งนี้จะมาตามอ่านต่อนะครับ จากคุณ : o_taro_cmu เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 52 02:59:48

ความคิดเห็นที่ 13 เที่ยวน่าสนุกจังค่ะ เก็บรายละเอียดมาฝากคนอื่นได้เยอะดี มีประโยชน์มาก จากคุณ : ตรีนุช3903 เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 52 03:42:21

ความคิดเห็นที่ 14 แก้ไขเมื่อ 30 ส.ค. 52 04:29:45 จากคุณ : Meditube (tatatube) เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 52 04:26:07

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุณค่ะ ถ้ามีโอกาสจะลองไปบ้างนะ จากคุณ : คิมฮีจิน เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 52 08:35:35

ความคิดเห็นที่ 16 ไม่ค่อยมีรูปนะคะ ถ่ายมาบ้างแต่ไม่สวย ก็แนะนำไว้ สำหรับครอบครัวที่ชอบธรรมชาติ พาลูกหลานไปชมชีวิตสัตว์กลางเมืองหลวง เดินทางไปด้วยแทกซี่จะคุ้มค่าหากไปกันหลายๆคนค่ะ จะได้ไม่เดินเหนื่อยเกินไป ราคานี้ เป็นราคาคนต่างชาติค่ะ เพิ่งเคยเห็นเหมือนกันค่ะ คงมีแต่ประเทศไทยและมาเลเซียที่เราเห็น มีราคาคนท้องถิ่นและราคาคนต่างชาตินะคะ ที่ยุโรปทุกคนราคาเท่ากันหมดค่ะ ไม่แบ่งแยกสัญชาติ   นกกาเผือกในกรงนั้นน่ารักมากค่ะ เราอดใจไม่ไหวหยุดเล่นด้วย เพราะเขาถูกเลี้ยงมาด้วยคน จะเชื่องกะมือมาก ชอบให้เกาหัว ขนาดอยู่ในกรง ยังโผล่ออกมาขอให้เขาหัวให้ เอียงคอหลับตาพริ้ม น่ารักมาก ที่นี่ยังเป็นศูนย์อนุรักษ์นกชนิดต่างๆ เพื่อหวังเพิ่มจำนวนด้วยค่ะ จะแบ่งเป็นโซนของนกชนิดต่างๆ มีการทำน้ำตก และลำธารน้ำเทียม ให้นกได้ใช้ชีวิตอยู่ใกล้เคียงธรรมชาติ คือเราชอบของแบบนี้ด้วยเลยไปทุกประเทศเลยถ้ามีโอกาส คนที่เฉยๆ อาจจะรู้สึกว่าเสียเวลา ไปทำไม ไปแล้วไมได้ความรู้สึกว่าไปเคแอลเลยก็เป็นได้ จากคุณ : เที่ยวไปสองไพเบี้ย เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 52 13:47:38

ความคิดเห็นที่ 17 ออกมาจากสวนนก ก็เดินต่อ เข้าสู่สวนกล้วยไม้และชบาค่ะ สวนกล้วยไม้นั้นเข้าฟรี ข้างในดอกกล้วยไม้ไม่เยอะมาก แต่ร่มรืนดี เย็นสบาย น่านั่ง ที่มีกล้วยไม้เยอะคือร้านขาย ซึ่งอยู่ในบริเวณสวน มีให้ถ่ายรูปมากมายเลยทีเดียว ซื้อกลับบ้านก็ได้ด้วย กล้วยไม้ปกติไม่ค่อยหอม ถ้าชอบหอมๆ มีดอกเอื้องหลายพันธู์ สนนราคาประมาณ 8-12 ริงกิต ต่อต้น นอกจากนั้นก็มีต้นอ่อน และอุปกรณ์ในการขยายพันธุ์กล้วยไม้ขายกัน ครบวงจรเลย ในวันเสาร์อาทิตย์มีค่าเข้าสวนกล้วยไม้ด้วย 1 ริงกิต แต่ลี่หาสวนกวางไม่เจอ  ไม่รู้มันไปซ่อนอยู่ตรงไหน เพราะลี่อยากมาตามหากวาง ที่เขาเอามาจากรอตเตอร์ดัม เพราะว่าจำมันได้ เคยเอาหญ้าไปให้สมัยที่มันยังอยู่กัน (ก็เนอะ มาจากบ้านเรา เราคิดถึงก็มาหาสิ คริๆๆ) รูปจากสวนกล้วยไม้ (ใส่ผิดรูปขอลบก่อนค่ะ) แก้ไขเมื่อ 30 ส.ค. 52 14:04:19 จากคุณ : เที่ยวไปสองไพเบี้ย เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 52 14:01:41

ความคิดเห็นที่ 18 ลี่ไม่ได้เข้าสวนชบาค่ะ แต่ถามคนที่ไปเดินเพิ่งออกมา เขาก็บอกว่าดี  สวยงามดี มีชบาแปลกๆ หลายพันธุ์ด้วย จากคุณ : เที่ยวไปสองไพเบี้ย เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 52 14:05:56

ความคิดเห็นที่ 19 พอเดินไกลต่อมาอีกก็จะเจอ สวนผีเสื้อซึ่งก็มีผีเสื้อเยอะดี ที่ดีคือเขามีนิทรรศการแมลงให้ดู (ยังเป็นๆ) ด้วย เสียเงินอีก 19 ริงกิต ค่าเข้าชมสิบแปดและค่าถ่ายรูปอีกหนึ่งริงกิต (คนชอบสัตว์และธรรมชาติหมดตัวกันอีกแล้ว) เดินจนสุดทางมาออกที่ใกล้ๆ Post office กว่าจะถึึงลี่ก็ขาลากเลยทีเดียว ขนาดนี่เป็น Shortcut แล้วคือขอแนะให้เดินไปตามทางสะพานลอยเชื่อมตัวตึก ซึ่งจะต่อกันไปเรื่อยๆ อ้อมตึกเล็กน้อย มาออกที่หน้าไปรษณีย์ แล้วเดินลงทางรถวิ่งมาต่อกับสะพานลอยข้ามแม่้ำน้ำ กลับมาที่สถานี Pasar Seni ไม่งั้นต้องไปทางเดิม ลำบากมากกว่า เพราะข้ามถนนหลายต่อ รถก็เยอะและที่สำคัญ ช่วงหน้าร้อนที่เคแอล ฝนตกตอนบ่ายๆ แถมตกหนักมากด้วย ผีเสื้อ (ที่พอจะถ่ายออกมาแล้วดูได้) เพราะฝนจะตกก็เลยมืดมากเลย เรือนผีเสื้อนี้ก็จัดได้สวยงามดี มีดอกไม้ และจุดให้อาหารผีเสื้อ นอกจากนั้นก็ยังมีตุ๊กแกให้ดูด้วย เผื่อใครอยากขู่ให้ลูกกลัว อิอิ ไม่ได้เห็นตุ๊กแกมาหลายปีแล้ว ลี่ ก็ยังกลัวเหมือนเดิมเลย จากคุณ : เที่ยวไปสองไพเบี้ย เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 52 14:32:03

ความคิดเห็นที่ 20 ตามชมรีวิวอยู่นะคะ จากคุณ : napatson เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 52 14:58:52

ความคิดเห็นที่ 21 นอกจากผีเสื้อเป็นๆ บินไปบินมาแล้ว ก็ยังมีสตัฟแปลกๆ มากมาย ของแมลงหลากชนิดไว้ให้ดูกัน (ที่จริงแล้วลี่ไม่ค่อยสนับสนุนตรงจุดนี้ เพราะกลัวว่า เขาต้องไปฆ่ามันเพื่อให้ได้มาสะสม รึเปล่า) แต่ก็ชอบดู เพราะว่ามันสวยดี เพียงแต่ไม่ซื้อของที่ระลึกมาเลย พวกที่เอาแมลง หรือผีเสื้อสตัฟใส่เรซินใสๆ หรือว่าอัดกล่อง สงสารมันมากก ถึงแม้จะมีวงจรชีวิตสั้นๆ และเป็นสัตว์ตัวเล็กๆ แต่ก็เกิดครั้งเดียว ตายครั้งเดียวเหมือนกัน เฮ่อ เศร้าพอกะไปเที่ยวสุสานเลย จากคุณ : เที่ยวไปสองไพเบี้ย เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 52 15:04:14

ความคิดเห็นที่ 22 วันต่อมาไปเก็บส่วนที่เหลือ เดินจากที่พักเลี้ยวเข้าไปในดงร้านอาหารจีน หาอาหารเช้ากิน พออิ่ม แล้วไปออกที่หน้าตึกสีฟ้า ซึ่งเป็น Central Market เดินทะลุเข้าไปผ่านดูของขาย ก่อนจะเลี้ยวซ้ายเมื่อออกมา เดินข้ามสะพานข้ามแม่น้ำกลางไป ก็จะเจอ พิพิธภัณท์ประวัติศาสตร์แห่งชาติ (ที่เข้าฟรี) มองหาว่าเสาธงที่สูงที่สุดอยู่ไหน เพิ่งจะเห็น เพราะมันสูงนี่เอง แหงนคอขึ้นไปไม่ไหว ฮ่าๆๆ ฝั่งตรงข้ามสนามหญ้าเขียวๆของMerdaka Square คือที่ทำงานสุลต่านอับดุลซามัด แล้วก็มัสยิดยาเม็ก ที่ตั้งของสถานี Masjid Jamek เอาเงินมาเลย์มาให้ดูกันค่ะ รูปสวยๆจากข้างบน เดี๋ยวลี่แปะลิงค์ของเพื่อนท่านอื่นที่ถ่ายสวยๆมาให้ ลี่ไปแต่ละวันเจอฝนและฟ้ามืดซะส่วนใหญ่ แปะไปก็ม่ายจ๋วย เงินมาเลย์คิดให้ง่ายคูณสิบบาทไทยเลยค่ะ เขาก็มีเหรียญเทียบเท่าๆกับของเราคือเหรียญ 10 sen บาทนึง เหรียญ 20 sen 50 sen, แล้วก็ 1 ringgit  สิบบาท ไปเรื่อยๆ จนถึง 100 ringgit แต่ลี่มีไม่ครบหรอกนะคะ เพราะว่าแลกเงินไปแค่พันห้าร้อยบาทเท่านั้นเอง จากคุณ : เที่ยวไปสองไพเบี้ย เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 52 15:10:00

ความคิดเห็นที่ 23 เที่ยวเสร็จหมด เก็บเกลี้ยงแล้วก็ลงไปในสถานีรถไฟฟ้าเลย เพื่อนั่งรถต่อไปที่สถาีนีรถไฟ Sentral เพื่อรอรถ Sky bus ไปสนามบิน ค่ารถจากจุดนี้ไป 1.3 ริงกิต เวบไซต์สนามบินนานาชาติของมาเลเซีย www.klia.com.my อยู่ทางใต้ของเมืองหลวง มีสองเทอร์มินัลซึ่งอยู่ห่างกันมากมาย ใช้เวลา 1 ชั่วโมงในการเดินทาง  นอกจากรถสกายบัส (เทอร์มินัล LCCT) www.skybus.com.my ราคา 9 ริงกิต  ที่ลี่บุ๊คไว้ตั้งแต่ตอนที่จองตั๋วเครื่องบินแล้ว ก็ัยังมี Aerobus รถสีเหลืองแดง ราคา 8 ริงกิต (ตัดราคากันน่าดู)  ไปขึ้นรถได้ที่สถานีเซ็นทรัล ออกมาแล้วลงบันไดเลื่อนลงไปอีกหนึ่งชั้น ลงไปปั๊บเจอรถจอดให้เลือกเลย  สำหรับสกายบัสรถออกุทุกนาทีที่ 00 และ 30 เป๊ะๆ เลย ถ้าไม่อยากแบกกระเป๋าหลายใบเที่ยวทั่วเมือง ก็เอาไปใส่ล็อกเกอร์ไว้ด้วยมีหลายราคาตามขนาดตั้งแต่ ราคา 1 ริงกิต  1.5 ริงกิต 5, 10, 20  ต้องไปแลกเหรียญ 50 sen มาก่อนจะได้ทำการหยอดได้ค่ะ หยอดเสร็จจะได้กุญแจมา ถ้างง มีพนักงานยืนคอยให้ความช่วยเหลือแล้วค่ะ ขากลับก็มาไขออก อย่าลืมก็แ้ล้วกันล่ะคะ และก็สิ่งที่ไม่นึกว่าจะเจอ กราฟิติ ไม่คิดว่าประเทศเข้มงวดอย่างมาเลเซียจะปล่อยให้มีคนมาพ่นสีเล่นได้ แต่ถ้าพ่นออกมาแบบนี้ ขอจ้างมาพ่นฝากำแพงแถวบ้านหน่อยเถิด ฝีมือดีมากค่ะ จากคุณ : เที่ยวไปสองไพเบี้ย เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 52 15:12:53

ความคิดเห็นที่ 24   ถึงจะดูเหมือนไม่ถึง แต่ได้รูปตึกแฝดกถึงแล้วค่ะ จากคุณ : มอคคาโอรีโอ เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 52 15:25:05

ความคิดเห็นที่ 25 ขอบคุณข้อมูลจากเพื่อนๆ ทุกท่านนะคะ ตั้งแต่ที่เราสะสมไว้ที่ http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E8205862/E8205862.html   และบล็อกของเพื่อนๆหลายๆคนค่า จำได้ไม่หมดเพราะใช้วิธีเสิร์ชหาใน www.bloggang.com นะคะ หาง่ายๆด้วยคำว่า KL, Kuala Lumpur และ กัวลาลัมเปอร์ แค่เนี้ยคะ ได้มาตรึม   อย่าน้อยใจนะคะ เราอ่านของทุกคนค่ะ แต่อาจจะไมได้ไป ก็เพราะสไตล์การเที่ยว และงบประมาณคนเราไม่เท่ากัน แต่ข้อมูลจากทุกคนทำให้เรามีทริปที่มีความสุข อิ่มตา อิ่มใจและได้ความรู้สึกดีๆ จากเคแอลกลับมาค่ะ ไว้มีโอกาสหน้ามีเพื่อนสาวไปด้วย จะไปช็อปและกินให้สะใจกว่านี้ค่ะ จากนั้น แอร์เอเชียก็พาเราบินจากเคแอล มาร่อนลงสู่สนามบิน London Stansted ค่ะ แนะนำให้จองตั๋วรถบัสนะคะ ถ้ามาไม่เลทกว่าตีหนึ่ง เพราะยังมีรถวิ่งอยู่ค่ะ หลังจากนั้น Tube จะหยุดวิ่งไปแล้ว ถ้าใครต้องลงที่ไหน ให้เช็คเส้นทางกับบริษัทรถให้ดีก่อน มีหลายบริษัทค่ะ Orbis Air link อันนี้เหมาะสำหรับคนที่จะมาลงทางตะวันตก เหมือนเราค่ะ รถจะมาจอดแถว Ealing Broadway, Hammersmith, Acton หรือ National Express ซึ่งก็มีรถในหลายเส้นทาง Terravision อันนี้ก็ราคาถูก รุ้ไฟลท์แล้วจองล่วงหน้านานๆ ตั๋วรถบัสจะถูกมากค่ะ หรือถ้าโชคดี แจ็คพ็อต อาจะได้ตั๋วถูกของ Easy Bus ซึ่งเป็นรถสีส้ม บริการโดยสายการบิน Easy Jet ซึ่งให้บริการทั้งลูกค้าสายการบินและลูกค้านอกด้วยค่ะ ราคาเริ่มต้นที่ 2 ปอนด์เท่านั้นเอง แล้วแต่เที่ยวรถค่ะ สรุปทริปนี้ ถ้าเราไมได้ไปเดินเล่นบนสกายบริดจ์ เนี่ย คงยังไม่รู้สึกตัวแน่ๆ ว่าไปเคแอลมา เพราะอาหารการกินก็เหมือนเมืองไทยเลยทีเดียว เราชอบซื้อก๋วยเตี๋ยวผัดซีอิ๊วค่ะ เรียกว่า ก๋วยเตี๋ยว (เหมือนกับภาษาไทย) ปังสิต คือ เกี๊ยวทอด จูจุ๊อูดัง คือทอดมันกุ้งแบบมาเลย์ อันสีเหลืองๆ ใส่ผักขยำๆ กะกุ้งและแป้ง ลงไปทอด กินกับน้ำจิ้มแบบน้ำจิ้มไก่ ส่วนผัดซีอิ๊วเส้นหมี่หุ้น ก็เรียกหมี่หุ้น ถ้าเป็นก๋วยเตี๋ยวน้ำลูกชิ้น เรียกว่าบะโซ่ รวมๆแล้วก็อร่อยค่ะ คงเพราะเราทำงานร้านอาหารอินโดนะคะ ของพวกนี้เรากินเป็นประจำอยู่แล้ว ขอแนะนำคำเรียกสำหรับเนื้อสัตว์ต่างๆ ค่ะ บาบี คือหมู   อะยัม คือไก่ อูดัง คือกุ้ง กัมบิง คือแกะ ดากิง คือเนื้อ (วัว) เอ็มปาล ก็เนื้อเหมือนกันค่ะ ลาล่า คือหอยลาย อิกัน คือปลา (ทั่วไป) ลืมถามปลาหมึกมาค่ะ กินแต่ชูมิชูมิ แต่ลืมถามว่าปลาหมึกอย่างเดียวเรียกชูมิ รึปล่าว แหะๆ ต้องขอโทษที่รูปน้อย เพราะไม่ได้ตั้งใจถ่ายรูปเลยค่า อยากให้เพื่อนๆที่จะไปเคแอลหาข้อมูลเยอะๆนะคะ เพราะว่าในพันทิปมีเยอะมากเลยค่ะ จนอ่านเกือบไม่หมด แล้วโอกาสหน้าเจอกันใหม่ค่ะ ว่างๆ ออกไปเดินเที่ยวแถวนี้จะพยายามรีวิวใหม่แก้ตัวนะคะ จากคุณ : เที่ยวไปสองไพเบี้ย เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 52 15:27:24

ความคิดเห็นที่ 26 ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่า จากคุณ : Klimae เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 52 18:14:24

ความคิดเห็นที่ 27 ถ้าจำไม่ผิด ปลาหมึก = โซตง (Sotong) ค่ะ ส่วนมากข้อมูลที่ไม่เคยเห็นก็พวกวิธีการสั่งอาหารแหละค่ะ เพิ่งเห็นจขกท เขียนไว้ รู้สึกว่าจขกท ใส่ใจรายละเอียดดีอะค่ะ จากคุณ : caramelfrappe เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 52 02:09:36

ความคิดเห็นที่ 28 ขอบคุณคุณคาระเมลค่า พอดีเจ้าของกระทู้ทำงานเป็นกุ๊กค่า ก็เลยใส่ใจการกิน ยิ่งกว่าสิ่งอื่นใด แหะๆๆ เรื่องนับนี้ไม่ยากเพราะใช้นิ้วเอา เลยไม่ได้แนะนำ จริงๆ คนมาเลย์ก็พูดอังกฤษได้อ่ะคะ แต่ลองเรียนภาษาเขา ก็สนุกดีนะ คุณคาราเมลอยู่แถวนั้นเเหรอคะ จากคุณ : เที่ยวไปสองไพเบี้ย เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 52 22:50:15